Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2553, 22:59:37 » |
|
พอล ปลาหมึกยักษ์ทายถูกอีกแล้ว เยอรมัน ชนะ อังกฤษ ไป 4 ประตูต่อ 1
XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX
ขอขอบคุณเวบ cannot.info วันจันทร์ 28 มิถุนายน 2553 ที่สนับสนุนเนื้อข่าว
http://cannot.info/feed/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B8%20%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B04-1%20%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A78%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%20%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%89-%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7
อินทรี โคตรดุ ถลุง สิงโตเละ 4-1 ลิ่ว 8ทีม รอชน จังโก้-ฟ้าขาว
เยอรมนี โชว์ฟอร์มสุดยอด ไล่ถล่ม อังกฤษ 4-1 "โธมัส มุลเลอร์" เหมาสองประตู พาทีมแชมป์โลก 3 สมัย ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกเวิลด์คัพ 2010
เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา...รอบ 16 ทีมสุดท้าย เยอรมัน 4-1 อังกฤษ
สนาม : ฟรีสเตท สเตเดี้ยม เวลาแข่ง 21.00 น.
ผู้ตัดสิน : ฮอร์เก ลาร์ริออนดา (อุรุกวัย)
ความเคลื่อนไหวล่าสุด ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ วันที่ 27 มิ.ย.2553 เป็นเกมรอบ16ทีมสุดท้ายระหว่างทัพ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี แชมป์โลก 3 สมัย ของ "โยอาคิม เลิฟ" กับ ขุนพล "สิงโตคำราม" อังกฤษ แชมป์โลก 1 สมัย ของ "ฟาบิโอ คาเปลโล" กุนซือชาวอิตาเลียน ณ สังเวียนแข้ง ฟรีสเตท สเตเดี้ยม
เกมนี้ เยอรมนี ได้ "มิโรสลาฟ โคลเซ" หัวหอกจอมเก๋า กลับมาล่าประตูอีกครั้ง โดยมี "โธมุส มุลเลอร์" เป็นหน้าต่ำค่อยสนับสนุน โดยจะประสานงานกับ "ลูคัส โพดอลสกี" และ "เมซุต โอซิล" ฮีโร่ ในนัดล่าสุด ขณะที่ "บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์" ฟิตพร้อมนำทัพในแดนกลาง ส่วนแนวรับ "แพร์ แมร์เตซัคเกอร์" ยืนเซนเตอร์กับ "อาร์เน ฟรีดริช"
สาวเมืองเบียร์เพ้นท์หน้าเป็นธงชาติตัวเอง
กองเชียร์อังกฤษนางนี้ สงสัยจะร้อนจัด
ขณะที่ อังกฤษ ส่ง "จอห์น เทอร์รี" ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ "แม็ทธิว อัพสัน" แดนกลาง "กาเรธ แบร์รี" ประสานงานร่วมกับ "แฟรงค์ แลมพาร์ด" ส่วน "สตีเวน เจอร์ราร์ด" ทำเกมริมเส้น คู่กับ "เจมส์ มิลเนอร์" คู่หน้า เป็นหัวหอกร่างเตี้ย "เวย์น รูนีย์" กับ "เจอร์เมน เดโฟ" เช่นเดิม
เปิดฉากครึ่งแรก เยอรมนี ครองเกมได้เหนือกว่า และไม่แปลกใจที่พวกเขาเบิกสกอร์ขึ้นนำ 1-0 ไปก่อน จากบอลแค่สองจังหวะ จาก มานูเอล นอยเออร์ นายทวารเยอรมนี เปิดยาวมาถึง มิโลสลาฟ โคลเซ ฉีกหนี แม็ทธิว อัพสัน จิ้มบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย น.20
จังหวะเสียประตูแรกของอังกฤษ
และแล้ว อังกฤษก็โดนอีกจนได้ น.32 จากลูกทำชิ่งของ เยอรมนี หลุดมาถึง ลูคัส โพดอลสกี ที่ไม่มี แนวรับอังกฤษ ประกบเลย ซัดเข้าเสาไกลไปอย่างง่ายดาย เยอรมนี นำ 2-0
พอเสียประตูไม่ทันไร อังกฤษ ตีตื้นมาเป็น1-2จากลูกโหม่งของแม็ทธิว อัพสันแก้ตัวได้สำเร็จ น.37
อีก 1 นาทีถัดมา อังกฤษ พลาดโอกาสตีเสมอสุดๆ หลังจาก ลูกยิงของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งภาพช้า โชว์ว่าข้ามเส้นประตูไปเต็มๆใบแล้ว
แต่ ผู้ตัดสินกับไลน์แมนกลับตาถั่วมองไม่เห็น ไม่เปาให้เป็นประตู จากนั้น ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ เยอรมนี นำอังกฤษสุดมัน 2-1.
อังกฤษ?ตีไข่แตกจาก แม็ทธิว อัพสัน กลับมาเตะกันครึ่งหลัง อังกฤษ เริ่มเร่งเกมตั้งแต่ช่วงต้น และมาได้ฟรีคิกระยะ 35 หลา แลมพาร์ด หวดเต็มตีนไปชนคานกระดอนออกอย่างน่าเสียดาย น.52
ขณะที่ เยอรมนี ได้เสียวบ้าง จากลูกยิงของ โธมัส มุลเลอร์ และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ แต่บอลถากเสาไปนิดเดียว
หลังจากเปิดแลกกันสนุก เยอรมนี นำห่างไปเป็น 3-1 จากเกมโต้กลับเร็วจากหน้าปากประตูตัวเอง บอลหลุดมาถึง โธมัส มุลเลอร์ ซัดเต็มข้อ บอลเข้าเสาแคบผ่านตัว เจมส์ เข้าไปตาข่ายแทบขาด น.67
ถัดมาอีกแค่ 3 นาที สกอร์ก็ไหลไปเป็น 4-1 จากเกมสวนกลับเช่นเดิม คราวนี้เป็น มุลเลอร์ คนเดิม แม้สกอร์จะห่างถึง 3 ลูก อังกฤษ ก็ยังพอมีโอกาสลุ้นประตู
น.80 สตีเวน เจอร์ราร์ด ยิงไปติดเซฟปลายมือของ นอยเออร์ จากนั้น ช่วง 10 นาทีสุดท้าย อังกฤษ ดูเหมือนจะถอดใจ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าหมดเวลาในที่สุด และ
เป็น เยอรมนี โชว์ฟอร์มหรู ไล่อัดอังกฤษ 4-1 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีม ไปรอพบผู้ชนะระหว่างเม็กซิโก หรือ อาร์เจนตินา ต่อไป.
รายชื่อนักเตะ 11 ตัวจริงที่ลงสนาม
เยอรมัน : มานูเอล นอยเออร์ - อาร์เน ฟรีดริช, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, เฌอโรม บัวเต็ง, ซามี เคห์ดิรา, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มิโลสลาฟ โคลเซ, โธมัส มุลเลอร์, ลูคัส โพดอลสกี, เมซุต โอซิล
ตัวสำรอง : โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, โทนี ครูส, มาร์โก มาริน, เซอร์ดาร์ ทาคซี, มาร์โก มาริน, สเตฟาน เคียบลิง, คาเคา, มาร์เซลล์ แยนเซน, ทิม วีเซ, เดนนิส อาโอโก, มาริโอ โกเมซ, พิโอเตอร์ โทรชอฟสกี, ฮานส์-ยอร์ก บัตต์
อังกฤษ : เดวิด เจมส์ - แม็ทธิว อัพสัน, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, เกล็น จอห์นสัน, กาเรธ แบร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เจมส์ มิลเนอร์, เจอร์เมน เดโฟ, เวย์น รูนีย์
ตัวสำรอง : อารอน เลนนอน, โจ ฮาร์ท, สตีเฟน วอร์นอค, ไมเคิล ดอว์สัน, เลดลีย์ คิง, โจ โคล, ไมเคิล คาร์ริก, เอมิล เฮสกี, เจมี คาร์ราเกอร์, ปีเตอร์ เคราซ์, โรเบิร์ต กรีน, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปป์ส
|