หน้าแรกเว็บบอร์ด
แนะนำตัว
เพิ่ม/แก้.ข้อมูลส่วนตัว
ห้องโถงรวมรุ่น
Webสมาคมฯ
ปฏิทินนัดหมาย
สมัครสมาชิก
22 พฤศจิกายน 2567, 15:59:18
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน
[สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A
A
A
A
ระเบียบปฎิบัติ
Entire Forum
This board
This topic
Members
Entire Site
Languages
Cmadong Chula
|
เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย
|
รุ่น 2541
| หัวข้อ:
เทคโนโลยี....ดีจริงหรือ?
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: เทคโนโลยี....ดีจริงหรือ? (อ่าน 3667 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
dnopista
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 329
เทคโนโลยี....ดีจริงหรือ?
«
เมื่อ:
16 มิถุนายน 2551, 01:22:43 »
เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันก้าวล้ำไปมากแล้วนะครับสำหรับโลกใบนี้ ทุกวันนี้เราสามารถทำอะไรได้หลายอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ทำได้แม้กระทั่งการสร้างสิ่งมีชีวิตแบบก๊อปปี้หรือที่เราเรียกว่า “โคลนนิ่ง” ขึ้นมาใหม่ อาจเป็นไปได้ว่า วันหนึ่งโลกของเราอาจกลายเป็นโลกแบบหนังเรื่อง “the Island” สำหรับคนที่ไม่เคยดูนะครับ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เปิดตัวด้วยชีวิตของคนกลุ่มนึงที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เราไม่คุ้นเคย ซึ่งเรามารู้ภายหลังว่ามันคือโลกจำลองที่ถูกสร้างขึ้นไว้เพื่อให้เหล่ามนุษย์ที่ถูกโคลนนิ่งขึ้นมาได้อาศัยเพื่อรอวันที่จะถูกนำไปชำแหละเอาชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งไปทดแทนให้กับเจ้าของร่างกายต้นแบบ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือคนเหล่านี้ถูกโคลนขึ้นมาเพื่อฆ่าเอาอวัยวะนั่นแหละครับ มีชีวิตเกิดมาเพื่อรอวันตายเท่านั้น ฟังดูน่าเศร้าเนอะ ว่ามั้ยครับ
แต่อย่ากังวลไปเลยครับ เรื่องที่จะเอามาเล่าวันนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนังเรื่องนี้หรือการโคลนนิ่งใดๆครับ ผมเพียงไปพบเจอข้อสังเกตุที่น่าคิดบางประการเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ของมนุษย์เรา ว่าในท้ายที่สุดแล้วมันจะก่อให้เกิดประโยชน์กับวิวัฒนาการของเราจริงหรือ เรื่องมันมีอยู่ว่า.....
เย็นวันนี้น้องอ้อ(สุดที่รักของผม)เพิ่งกลับจากฝึกงานอ่ะนะครับ อ่อ ลืมบอกไปว่าน้องอ้อเรียนสัตวแพทยศาสตร์อยู่ที่จุฬาฯครับ แล้ววันนี้มีเรื่องมาเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับเคสที่เจอสองวันติดกัน นั่นก็คือเคสที่น้องหมาคลอดลูกไม่ได้ครับ เจ้าของเลยต้องเอามาที่โรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอผ่าออก อืมมม ดูจะเป็นเรื่องที่แสนธรรมดาไปแล้วใช่มั้ยครับสำหรับการดูแลสุนัข ที่ปัจจุบันเจ้าของบางคนรักเหมือนกับลูกของตัวเองเลย ดังนั้นการดูแลอะไรหลายๆอย่างจึงคล้ายคนเข้าไปทุกทีแม้กระทั่งการคลอดลูก (ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีการบล็อคหลังแล้วให้เจ้าของเข้าไปดูตอนผ่าด้วยหรือเปล่า.....เหอๆ )
ด้วยตัวผมเองนั้นมีประสบการณ์ในการเลี้ยงน้องหมามาตั้งแต่เด็กครับ เพราะคุณพ่อและคุณแม่ชอบหมา ผมเองจึงได้มีประสบการณ์ร่วมในเหตุการณ์ที่น้องหมาที่แสนน่ารักจะคลอดลูกบ่อยครั้ง เลี้ยงหมามาหลายสิบตัว เห็นหมาคลอดมาหลายสิบครั้ง คลอดออกมามีตายไปบ้างแต่ก็รอดซะส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่เคยจะไปทำอะไรมัน ไม่เคยสนใจที่จะจับมันไปทำอัลตร้าซาวน์อย่างที่คนทุกวันนี้ทำกัน ได้แต่ปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติของมันเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด เพียงแต่คิดว่าทางออกตามธรรมชาติน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
บ่อยครั้งนะครับที่มนุษย์เรามักเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางในการตัดสินว่าอะไรดี อะไรไม่ดีอยู่เสมอๆ ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งอื่นที่เราคิดว่ามันแย่สำหรับเรา มันอาจจะดีที่สุดสำหรับบางชีวิตก็เป็นได้ ซึ่งนั่นมันก็เป็นเพราะว่าเราเกิดมาแตกต่างกันนั่นเอง มีใครเคยรู้บ้างมั้ยครับว่าน้องหมามันชอบมั้ยที่ถูกจับแต่งตัวประหลาด อาจดูน่ารักในสายตามนุษย์แต่ความรู้สึกจริงๆของมันแล้วมันชอบหรือเปล่า ถ้าเทียบกับได้อยู่แบบปล่อยขนโล่งๆ มันจะชอบอันไหนมากกว่ากัน หรือแม้แต่เรื่องนี้ เรื่องที่เพิ่งเล่าไปเกี่ยวกับการผ่าตัดทำคลอดให้หมา จะต่างกันนิดหน่อยก็ตรงที่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับความเป็นความตายมากกว่าความสวยงามก็เท่านั้น
ผมเชื่อในพลังแห่งธรรมชาติมาตลอดนะครับ ที่ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะร้ายแรงซักแค่ไหน มันก็จะมีทางออกของมันเสมอ ซึ่งวงจรชีวิตของสัตว์ต่างๆบนโลกนี้ล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้ระบบของธรรมชาติทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่น มันจะมีสัตว์ชนิดหนึ่งที่หน้าตาคล้ายหนู(ผมจำไม่ได้แล้วว่ามันคือตัวอะไร) ที่ในทุกๆปีมันจะผลิตประชากรออกมามากมาย แล้วเมื่อถึงวันหนึ่งในรอบปีมันก็จะโดนน้ำซัดลงไปตายเกลื่อน ลอยเท้งเต้งอยู่ในทะเล จากปริมาณที่เห็นแทบจะเรียกได้ว่ามันคือการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ซะด้วยซ้ำ แต่ที่แปลกก็คือในทุกรอบปีภายหลังโศกนาฏกรรมครั้งนี้ มันก็จะมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์รุ่นใหม่ผลิตประชากรรุ่นใหม่ออกมาเสมอ ชีวิตของมันจะเริ่มต้นใหม่เสมอ นี่มันอาจจะเป็นการรักษาสมดุลย์ทางธรรมชาติที่ช่วยไม่ให้สิ่งมีชีวิตอื่นต้องได้รับความเสียหายจากการเจริญพันธุ์ของเจ้าสัตว์พันธุ์นี้หรือเปล่า หรืออีกกรณีที่เห็นได้ชัด เช่น หมีแพนด้าที่แม้ว่ามันจะมีโอกาสตกลูกได้น้อยมาก มันก็ไม่เคยจะสูญพันธุ์ ยังคงผลิตลูกหลานรุ่นใหม่ออกมาอย่างสม่ำเสมอมาตลอดหลายร้อยปี ซึ่งทุกๆชีวิตบนโลกใบนี้ก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เกิดมาเพื่อทำหน้าที่อะไรบางอย่างที่สัมพันธ์สอดคล้องและให้ประโยชน์กับสิ่งอื่นจนถึงขีดสุดที่มันจะไม่ไปทำลายระบบอื่นได้ จากนั้นก็จะถูกโละทิ้งเพื่อเริ่มรอบชีวิตใหม่ วนเวียนเช่นนี้ไปเป็นวัฎจักรของโลก ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ทำให้โลกเราคงอยู่มายาวนานจนถึงปัจจุบัน
แต่สิ่งหนึ่งที่ตั้งแต่เกิดมาก็มักจะทำตัวอยู่เหนือกฏเกณฑ์ของธรรมชาติเสมอ มักจะเข้าไปทำลายระบบนิเวศน์ของสิ่งอื่นเสมอ อีกทั้งยังคอยหาเหตุผลมาสนับสนุนให้ตนดูดีอยู่เสมอนั่นคงไม่ใช่ใคร ก็คือมนุษย์อย่างเราๆท่านๆนี่เองที่พยายามจะทำทุกอย่างให้มันดีขึ้นโดยที่ไม่ได้สนใจระบบเดิม ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นอย่างมากมาย สัตว์หลายชนิดต้องสูญพันธุ์ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งหมดที่กล่าวมามันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะมนุษย์เราออกล่าอย่างไร้เหตุผลอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังรวมถึง “ความรัก”ที่ก่อให้เกิดเทคโนโลยีทางการแพทย์บางอย่างที่เหมือนจะดีในส่วนย่อย แต่เอาเข้าจริงในภาพรวมมันกลับเป็นการทำลายระบบการคัดสรรที่ดีเยี่ยมตามธรรมชาติไปเสียแล้ว อย่าเพิ่งสงสัยนะครับว่ามันจะวนเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องช่วยน้องหมาคลอดลูกยังไง อดทนอ่านอีกนิดเถอะครับ ผมอยากเล่าให้ฟังเกี่ยวกับระบบการคัดสรรตามธรรมชาติอย่างคร่าว ซึ่งมันน่าจะช่วยให้เพื่อนๆที่กำลังอ่านอยู่สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า เทคโนโลยีเหล่านั้นมันมีผลเสียอย่างไร
เริ่มจากที่ได้เล่าไปแล้วว่าธรรมชาติมันจะทำการรักษาสมดุลย์ด้วยตัวมันเอง อะไรที่มันมากจนเกิดผลเสียก็ต้องทำลายทิ้งซะบ้าง อะไรที่มันน้อยจนเกิดผลเสียก็ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงซะบ้าง งงกันใช่มั้ยครับว่าไอ้อย่างหลังมันคืออะไร ที่จริงมันก็คือระบบคัดสรรของธรรมชาตินั่นเองครับ ที่จะคัดเอาเฉพาะสายพันธุ์ที่แข็งแกร่งเพียงพอต่อการอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้มันสามารถดำรงอยู่ได้และเอื้อประโยชน์ต่อสิ่งอื่นต่อไปนั่นเองครับ ยกตัวอย่างเช่น มีงูชนิดหนึ่งที่มีไม่มีพิษอะไร เกิดมาก็ถูกนกจับกินอยู่ร่ำไป ไม่นานนักก็คงจะถึงการสูญพันธุ์เนื่องจากปริมาณมันลดลงและสายพันธุ์ก็ไม่แข็งแกร่งพอจะอยู่บนโลกใบนี้ได้ ธรรมชาติจึงได้เล่นตลกทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สีผิวของมัน ซึ่งดันไปคล้ายกับงูมีพิษชนิดหนึ่ง ทำให้นกซึ่งมองจากที่สูงแยกแยะไม่ออก ไม่กล้ากิน มันจึงรอด พอรอดแล้วก็ขยายพันธุ์ได้จนในที่สุดมันก็อยู่ยงมาจนถึงทุกวันนี้ อันที่จริงแล้วจะเรียกสิ่งนี้ว่าความบังเอิญก็คงไม่ผิดนักครับ เพราะกว่าที่จะมันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สีผิวจนไปคล้ายกับสีของงูมีพิษได้ มันต้องใช้เวลาหลายร้อยปี แต่ก็อีกนั่นแหละครับ ผมก็ยังเชื่อว่านี่คือกระบวนการที่สมบูรณ์ที่สุดอยู่ดีเพราะว่าสิ่งที่เหลืออยู่ในปัจจุบันคือสิ่งที่ถูกคัดสรรมาแล้วว่าอยู่ได้ และกระบวนการนี้ก็ยังไม่เคยที่จะหยุดทำงานเลยซักวันเดียว ไม่เชื่อก็ลองสังเกตุกันดูสิครับ ว่าจู่ๆก็จะมีโรคประหลาดอะไรเกิดขึ้นมาใหม่อีก แล้วก็คร่าชีวิตคนและสัตว์ไปอีก สิ่งที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด กลายเป็นเมล็ดพันธุ์ใหม่ของชีวิตในโลกหน้า
ทีนี้มาเข้าเรื่องของเรากันเลยดีกว่าครับ อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วตั้งแต่ต้นนะครับว่า น้องอ้อ(สุดที่รักของผม)เพิ่งจะได้ไปช่วยทำคลอดน้องหมาซึ่งไม่สามารถออกลูกเองได้ตามธรรมชาติ ที่ทำไปนั้นก็เพราะความรักกลัวน้องหมาจะตาย กลัวลูกน้องหมาจะตาย ซึ่ง “ความรัก”ถือเป็นเรื่องดีครับ แต่เรามาลองคิดดูกันสักนิดดีมั้ยครับว่า ไอ้สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นเนี่ย มันไปทำลายระบบคัดสรรตามธรรมชาติหรือเปล่า จะเป็นไปได้มั้ยว่าไอ้การที่น้องหมามันไม่สามารถคลอดได้เองนั้น มันเป็นความบกพร่องที่สมควรจะได้รับการถูกคัดทิ้ง เพื่อรักษาสายพันธุ์ที่สมบูรณ์และไร้ปัญหาที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่เริ่มโหดร้ายลงทุกที จะเป็นไปได้มั้ยว่าสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่นั้นกำลังไปทำให้สายเลือดที่จะออกมาจากน้องหมาตัวนี้ไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างปกติ เพราะทุกครั้งที่จะออกลูกก็ต้องอาศัยการผ่าตัด แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดว่ามันไม่ได้อยู่ในมือหมอหรือมนุษย์คนใดที่จะผ่าให้มันได้ และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสายพันธุ์นี้แพร่กระจายออกไปแต่ไม่มีหมอคอยผ่าอีกต่อไป มันจะเป็นยังไงในช่วงวินาทีนั้น .....
....ถ้ามันเป็นอย่างที่ผมคิด นี่มันคงไม่ต่างอะไรกับการสังหารหมู่ ไม่ต่างอะไรกับการเอายาพิษให้มันกินแล้วก็รอเวลาที่มันจะตายด้วยพิษยา....
เรื่องราวมันจะเป็นแบบนี้หรือไม่ แน่นอนว่าผมไม่มีทางรู้ เพราะผมเป็นแค่สถาปนิกธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่ชอบคิดไปเรื่อยเปื่อย หวังเพียงอยากเห็นทุกชีวิตที่เคยอยู่ด้วยกันได้มีความสุขตามอัฒภาพและอยู่ภายใต้ระบบคัดสรรและการรักษาสมดุลย์ของธรรมชาติก็เท่านั้น เพื่อที่โลกเราจะได้คงอยู่อย่างใสสะอาดตลอดไปครับ
ปล.ทั้งหมดที่กล่าวมามิได้มีเจตนาที่จะไปกระทบกระแทกผู้ใดนะครับ เป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่งของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น ด้วยหวังว่า จากการกระทำที่เกิดจากความรักนั้น เมื่อแก้ไขเรื่องเร่งด่วนไปแล้ว อย่าลืมไปแก้ไขกันที่ต้นตอของปัญหาด้วยนะครับ เพื่อที่วันข้างหน้าเราจะได้ไม่ต้องกลับมาแก้เรื่องเดิมกันอย่างไม่รู้จักจบสิ้นอีกต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกความพยายามนะครับ น้องอ้อสู้ๆคร้าบบบบบบบ อิอิ
บันทึกการเข้า
dnopista
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 329
เทคโนโลยี....ดีจริงหรือ?
«
ตอบ #1 เมื่อ:
16 มิถุนายน 2551, 01:25:32 »
เอ่อ....(-_-)'
พอดีมันใหญ่มากอ่ะครับ จะลดตัวหนังสือไงดีอ่ะ เพื่อนดีคร้าบบช่วยด้วยยยย
แล้วมาให้ความเห็นกันหน่อยน๊า อิอิ
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
Cmadong Chula
|
เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย
|
รุ่น 2541
| หัวข้อ:
เทคโนโลยี....ดีจริงหรือ?
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
"กิจกรรมสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
-----------------------------
=> ข่าวประชาสัมพันธ์ของสมาคม
=> ข่าวประกาศทั่วไป
=> งานคืนสู่เหย้า ๒๕๕๗
=> โครงการรินน้ำใจเพื่อหอพักนิสิตจุฬาฯ
=> กิจกรรมเพื่อสังคม
=> กิจกรรมวิชาการ
=> กิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์
=> กิจกรรมชาวหอ
=> กิจกรรมแกนนำและกิจกรรมรุ่น
=> ข้อบังคับสมาคม และกฎ ระเบียบ
=> การประชุมของสมาคม
-----------------------------
เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น
-----------------------------
=> เรื่องนี้มีพี่บอก
=> โบราณคดี Cmadong
=> ปฏิทินนัดหมายชาวหอ
=> ห้องซีมะโด่งสัมพันธ์
=> ซีมะโด่งเพื่อสังคม
=> ห้องสนทนาประสาพี่น้อง
=> ห้องชาวค่ายหอ
=> ห้องชมรมแสงเสียง
=> ห้องธรรมะ...สาธุ....
=> ห้องวิชาการ ช่วยกันสร้างสรรค์สังคม
=> ห้องแสงทองของชีวิต
=> ห้องสุขภาพและความงาม
=> ห้องท่องเที่ยวไร้พรมแดน
=> ห้องซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน
-----------------------------
เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย
-----------------------------
=> รุ่น 2507
=> รุ่น 2510
=> รุ่น 2511
=> รุ่น 2513
=> รุ่น 2514 รุ่นนี้มหาอำนาจ
=> รุ่น 2515
=> รุ่น 2516
=> รุ่น 2517
=> รุ่น 2518
=> รุ่น 2519
=> รุ่น 2520
=> รุ่น 2521
=> รุ่น 2522
=> รุ่น 2523
=> รุ่น 2524
=> รุ่น 2525
=> รุ่น 2526
=> รุ่น 2527
=> รุ่น 2528
=> รุ่น 2529
=> รุ่น 2530
=> รุ่น 2531
=> รุ่น 2532
=> รุ่น 2533
=> รุ่น 2534
=> รุ่น 2535 ซี้ปึ๊ก
=> รุ่น 2536
=> รุ่น 2537
=> รุ่น 2538
=> รุ่น 2539
=> รุ่น 2540
=> รุ่น 2541
=> รุ่น 2542
=> รุ่น 2543
=> รุ่น 2544
=> รุ่น 2545
=> รุ่น 2546
=> รุ่น 2547
=> รุ่น 2548
=> รุ่น 2549
=> รวมรุ่น 90-96 รหัส 2550-2556
-----------------------------
ข่าวประกาศ
-----------------------------
===> Countdown งานคืนสู่เหย้า 94 ปีซีมะโด่ง : เสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555
===> "รวมภาพงาน" ผูกพัน วันเก่า ๙๔ ปี ซีมะโด่ง
ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์ " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน" <))))><
กำลังโหลด...