22 พฤศจิกายน 2567, 17:36:51
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงปู่ดู่ สอนเรื่องการจบของทำบุญ-อธิษฐานรับพร เพื่อให้ได้รับบุญ(สบายใจ)  (อ่าน 21410 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 09 ธันวาคม 2552, 20:00:39 »




หลวงปู่สอนเรื่องการจบของทำบุญ-อธิษฐานรับพร

พวกเราในเวปวัดถ้ำล้วนแล้วแต่ทำบุญกันบ่อยมาก บางคนสงสัยว่าควรจะอธิษฐานอย่างไรในการทำบุญ เลยนำข้อมูลที่หลวงปู่ดู่ท่านเคยสอนลูกศิษย์มาเป็นแนวทางให้กับทุกคนลองนำไป ใช้ดูค่ะ

ก่อนที่ท่านมีศรัทธาทั้งหลาย จะถวายของแก่พระภิกษุสงฆ์ มักจะมีการอฐิษฐานหรือที่เรียกว่า จบของ บางคนจบนาน บางคนจบช้า หลวงพ่อท่านให้ข้อคิดว่า

"ก่อนที่เราจะถวาย ให้จบมาเสียก่อนจากบ้าน เนื่องจากพอมาถึงวัด มักจะจบไม่ได้เรื่อง คนมากมายเดินไปเดินมา จะหาสมาธิมาจากไหน เราจะทำอะไรก็ตามอธิษฐานไว้เลย เวลาถวายจะได้ไม่ช้า เสียเวลาคนอื่นเขาอีกด้วย บางคนก็ขอไม่รู้จบให้ตัวเองไม่พอให้ลูกให้หลาน จิตเลยส่ายหาบุญไม่ได้"

การที่หลวงพ่อให้จบก่อนนั้น มีความประสงค์ให้ตั้งเจตนาให้ดี บุญที่ได้รับจะมีผลมาก ญาติโยมจึงกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า

"ควรอธิษฐานอย่างไร"

หลวงพ่อตอบว่า

"อธิษฐานให้พ้นทุกข์ หรือขอให้พบแต่ความดีตลอดไปจนพ้นทุกข์ ถ้าเป็นภาษาบาลี ก็ว่า สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสวะขะ ยาวะหัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ คนเราจะพ้นทุกข์ได้ ต้องพบกับความดี มีความสุขใช่ไหม ไม่ต้องอธิษฐานยืดยาวหรอก"

เมื่อทำบุญแล้ว มักจะมีการรับพรจากพระ มีการกรวดน้ำ บางทีไม่ได้เตรียมไว้ต้องวิ่งหากันวุ่นวาย หลวงพ่อบอกว่า

"ใช้น้ำใจ น้ำจิต ของเรากรวดก็ได้ เขาเรียกกรวดแห้ง ไม่ต้องกรวดเปียก เรื่องการกรวดเปียก เขาเริ่มมาจากสมัยพระเจ้าพิมพิสาร เมื่อถวายของพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านกรวดน้ำให้เปรต ญาติพี่น้องที่มาร้องขอบุญจากท่าน ตอนแรกท่านไม่รู้เลยทูลถามพระพุทธเจ้า ที่เขาเรียกว่า ทุสะนะโส คือ หัวใจเปรตนั่นแหละ"

หลวงพ่อท่านตอบเพื่อให้คลายกังวล สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลากรวดน้ำเช่น คนที่รีบใส่บาตรก่อนจะไปทำงาน เป็นต้น

ส่วนการอธิษฐานรับพรนั้น ท่านแนะนำว่า ตั้งจิตว่า

"ข้าพเจ้าขอรับพรที่ได้นี้ขอให้ติดตามข้าพเจ้าตลอดไปในชาตินี้ชาติหน้า"

แล้วก็อธิษฐานเรียกพระเข้าตัว เวลาเขามีพิธีอะไร อย่างเช่น เวลาเขาปลุกเสกพระ เราก็สามารถรับพรจากพระองค์ไหน ๆ ก็ได้ทั้งนั้น

 gek gek gek

นำมาจาก เวบบอร์ดคำสอนหลวงปู่ดู่ เพื่อให้พวกเราทำบุญแล้วไม่รู้จะทำอะไร

จะได้ทำตามที่ท่านสอนเพื่อได้รับความสบายใจ หรือ บุญ ด้วย


นำมาจาก

http://www.watthummuangna.com/home/community/index.php/topic,12.0.html#lastPost

 sleep sleep sleep



      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2552, 11:17:08 »




ธรรมะโอวาท ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา

".....เวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว ให้รีบพากันปฏิบัติ"

"สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คือ กรรม"

"คนดีน่ะ เขาไม่ตีใคร"

"ของดีอยู่ที่ตัวเราหมั่นทำ(ปฏิบัติ)เข้าไว้"

"ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต"

"อย่าลืมตัวตาย"

"ให้หมั่นพิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"

"ที่แกปฏิบัติอยู่ให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่เพื่อข้า แต่เพื่อตัวแกเอง"

"ตราบใดก็ตามที่แกยังไม่เห็นความดีในตัว ก็ไม่นับว่าแกรู้จักข้า

แต่ถ้าเมื่อใดที่เริ่มเห็นความดีในตัวเองแล้ว

เมื่อนั้น ข้าว่าแกรู้จักข้าดีขึ้นแล้ว"

"บุญนั้นหมั่นทำไว้ปฏิบัติไว้ คนไหนที่เขาว่าทำได้ดีได้เห็นอะไรก็ตาม

โมทนาไปเลยไม่มีเสียมีแต่ได้ อย่าไปขัดเขา"

"หมั่นทำเข้าไว้...ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต

...ของดีอยู่ที่ตัวเรา ของไม่ดีก็อยู่ที่ตัวเรา"

"ปฏิบัติแล้ว โลภ โกรธ หลง แกลดน้อยลงหรือเปล่าล่ะ ถ้าลดลงข้าว่าแกใช้ได้"

"นั่งไปเถอะ สว่างก็ได้บุญ มืดก็ได้บุญ"

"โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม"

"ธรรมนั้น อยู่ฟากตาย"

"ผู้ปฏิบัติต้องหมั่นตามดูจิต รักษาจิต"

"ตัวตายน่ะ ตัวสำเร็จ"

"นิพพาน อยู่ฟากตาย"

"ถ้าไม่เอา(ปฏิบัติ) เป็นเถ้าเสียดีกว่า"

"เรื่องของคนอื่น เราไปแก้เขาไม่ได้ ที่แก้ได้คือตัวเรา แก้ข้างนอกเป็นเรื่องโลก

แต่แก้ที่ตัวเรานี่เป็นเรื่องธรรม"

"เชื่อไหมหละ ถ้าเราเชื่อจริง ทำจริง มันก็เป็นของจริง ของจริงมีอยู่

แต่เรามันไม่เชื่อจริง จึงไม่เห็นของจริง"

"ติดวัตถุมงคล ยังดีกว่าที่จะให้ไปติดวัตถุอัปมงคล"

"เอาของจริงดีกว่า พุทธังฯ ธัมมังฯ สังฆังฯ สรณัง คัจฉามิ นี่แหละของแท้"

"ของจริง ต้องหมั่นทำ"

"ถ้าแกเกลียดกิเลสเหมือนหมาเน่า หรือของบูดเน่าก็ดี ให้เกลียดให้ได้อย่างนั้น"

"ข้าไม่มีอะไรให้แก

(ธรรม)ที่สอนไปนั้นแหละ ให้รักษาเท่าชีวิต"

"แกคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก

แกไม่คิดถึงข้า ข้าก็ยังคิดถึงแก"

"หมั่นทำเข้าไว้ พระท่านคอยจะช่วยเราอยู่แล้ว แล้วเรา

ได้ช่วยเหลือตัวเองก่อนหรือยัง"

"ปฏิบัติธรรมตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เป็นหนุ่ม เป็นสาวนี่แหละดี

เพราะเมื่อแก่เฒ่าไปแล้ว

จะนั่งก็โอย จะลุกก็โอย หากจะรอไว้ให้แก่เสียก่อน

แล้วจึงค่อยปฏิบัติ ก็เหมือน

คนที่คิดจะหัดว่ายน้ำเอาตอนที่แพใกล้จะแตก

มันจะไม่ทันการณ์"


"ถ้ามันไม่ดีหรือไม่ได้พบความจริงก็ให้มันตาย

ถ้ามันไม่ตายก็ให้มันดี หรือได้พบกับความจริง"

"แกจะรู้เหรอว่า แกจะตายเมื่อไหร่ ไม่แน่ว่าแกเดินออกไป

จากกุฏิข้าแล้ว อาจถูกงูกัดตายเสียกลางทางก่อนไปจับปลา จับกุ้ง ก็ได้

เพราะฉะนั้น

เมื่อตอนนี้แกยังไม่ได้ทำบาปกรรมอะไร ยังไง ๆ ก็ให้มีศีลไว้ก่อน

ถึงจะมีศีลขาดก็ยังดีกว่าไม่มีศีล"

"ครูอาจารย์ดี ๆ แม้จะมีอยู่มาก แต่สำคัญที่ตัวแกต้องปฏิบัติให้จริง

สอนตัวเองให้มากนั่นแหละจึงจะดี"


"คนเราทุกวันนี้ โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม เรามัวพากันยุ่งอยู่

กับโลกจนเหมือนลิงติดตัง เรื่องของโลก เรื่องเละ ๆ เรื่องไม่มีที่สิ้นสุด

เราไปแก้ไขเขาไม่ได้จะต้องแก้ไขที่ตัวเราเอง

ตนของตนเตือนด้วยตนเอง"

"ขยันก็ให้ทำ ขี้เกียจก็ให้ทำ ถ้าวันไหนยังกินข้าวอยู่ก็ต้องทำ

วันไหนเลิกกินข้าวแล้ว นั่นแหละ จึงค่อยเลิกทำ"

"ภาวนาได้เห็นแสงสว่างเท่าปลายหัวไม้ขีด ชั่วประเดี๋ยวเดียว

เท่าช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ยังมีอานิสงส์มากกว่า

ตักบาตรจนขันลงหินทะลุ"

"หมั่นทำเข้าไว้ หมั่นทำเข้าไว้ ต่อไปจะได้เป็นที่พึ่งภายหน้า"

นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ

นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ

นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ


.....................................



Aun_Nonthaburi

"เมตตาบารมีท่านมิอาจประมาณได้..มหาศรัทธาในใจของผมตลอดไป"

"หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ"

"หลวงตาม้า พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร"

นำมาจากเวบบอร์ด วัดถ้ำเมืองนะ

http://www.watthummuangna.com/home/community/index.php/topic,7.0.html

 รักนะ รักนะ รักนะ

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #2 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2555, 19:08:16 »

ขอบคุณ สำหรับเนื้อหา ดีๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><