....มีนักจิตวิทยาเคยวิเคราะห์ให้ฟังว่า ยิ่งคู่ที่อยู่ใกล้กันมาก ก็ยิ่งกระทบกระทั่งกันบ่อย แต่คู่ที่ฉลาดจะรู้ยังไงล่ะว่า ควรจะทะเลาะหรือขัดแย้งกันอย่างไร ถึงจะพอดิบพอดี
และไม่จุดชนวนให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจกันจนมองหน้าไม่ติด หรือทำให้เลิกกันไปเลย ก็คงไม่เก๋ใช่ม๊ะ..
งั้นขอคุยในหัวข้อ แม้เราจะทะเลาะกัน ก็เพื่อให้ยังรักกันต่อไปซะเลย..
เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อโลกเข้าสู่ยุคโลกร้อน (เอ...แล้วมันเกี่ยวกันไหมเนี่ย) แต่เชื่อไหมว่า ใจของคนเรานั้นกลับร้อนระอุซะยิ่งกว่า
เช่นนั้น เมื่อมีเหตุการณ์อะไรสักอย่างมาสะกิดให้คู่รักรู้สึกขัดหูขัดตา พร้อมทั้งขัดใจกันขึ้นมาแล้วละก็ โอกาสที่ทั้งคู่จะมีปากเสียงกัน หรือแสดงความคิดเห็นที่ตรงกันข้ามก็มีความเป็นไปได้สูง จึงอาจมีการปะทะคารมหรือโต้เถียงกันบ้าง ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้
ผู้ชายบางคนถึงกับแซวว่า ถ้าเกิดมีเรื่องไม่สบอารมณ์สาวๆขึ้นมาละก็ ฝ่ายหญิงมักจะชอบต่อล้อต่อเถียงแฟน ซะจน...เดี๋ยวแฟนหนุ่มก็จะหงอและก็เงียบไปเอง พร้อมกับนี่ถ้าไม่ได้เป็นแฟนกันละก็ คงไม่มีหนุ่มคนไหนปล่อยให้ผู้หญิงเถียงคำด่าคำหรอก
อ่ะ...ในเมื่อรักก็ต้องยอมกันบ้างอย่างนี้แหละ แหม...หญิงเองก็ยอมให้ผู้ชายหลายอย่างนะ เช่น ยอมให้พาไปเลี้ยงข้าว...เอ้ย ยอมซักเสื้อผ้าและทำงานบ้านให้...นี่ไม่ได้เรียกว่ารักหรอกเรอะ
เช่นนั้นเมื่อมีเหตุให้คู่รักต้องทะเลาะกันขึ้นมา ก็ขอแนะนำว่า...
1. เพราะ ถ้าคุณโกรธหรือโมโหแฟนขึ้นมา ชนิดอารมณ์โกรธมันพุ่งจี๊ดขึ้นมาเลยก็มีทางเลือกให้คุณทำได้ 2 อย่าง ได้แก่ เมื่อโกรธเพราะเขาทำให้เราไม่พอใจ ก็ต่อว่าไปเลย แม้กระนั้นการต่อว่าเขาในเรื่องที่เขาทำให้คุณไม่พอใจนั้น ควรพิจารณาดูก่อนนะเฟ้ย ว่า เป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่โต เพราะบางที ถ้าเป็นแค่เรื่องจิ๊บๆ คงไม่ถึงขั้นต้องพูดกันแรงๆ ก็ได้
หรือ ใช้วิธีข่มใจด้วยการนับ 1–100 พอหาย โกรธแล้วก็หายกันก็แล้วกันไป อย่าลืมว่า อยู่ด้วยกันก็ควรจะให้อภัยกันบ้าง ให้อภัยคนที่เรารักนี่แหละคือสิ่งยอดเยี่ยมที่สุด
พูดก็พูดเถอะคนเรานี่ก็แปลกนะ เรามักให้อภัยคนอื่นๆอยู่เสมอ แต่กับคนรักกลับไม่ค่อยอยากให้อภัย ทั้งๆที่เขาเป็นคนที่เราควรถนอมน้ำใจไว้มากที่สุด แต่มักจะลืมตรงจุดนี้กัน
แม้กระนั้น คุณควรบอกถึงสิ่งที่เขาทำให้คุณโกรธด้วย แต่ควรคุยกันด้วยดีนะ ไม่ใช่พูดแบบใส่อารมณ์ซะเต็มประดา อารมณ์ดราม่าน่ะมีกันได้ แต่อย่างัดมาใช้พร่ำเพรื่อถ้ายังอยากอยู่ด้วยกัน
2. ปกติแล้วถึงแม้ทะเลาะกัน แต่ไม่จำเป็นต้องด่ากันนี่นา คู่ที่มักกู่ไม่กลับหลังโกรธและแสดงความไม่พอใจใส่กัน ก็เป็นเพราะชอบเผลอใช้คำด่าทอกันอย่างหยาบคายนั่นเอง โอ้โหบรรดาสารพัดสัตว์มากันหมด
บางทีเขาด่าเรา และเราด่าเขาเพราะอาการลืมตัวก็บ่อย ฉันนั้นถ้าเลี่ยงการใช้คำที่รุนแรงได้ ก็ควรละเว้นคำไม่ สุภาพเหล่านี้ซะ แล้วชีวิตคู่จะศิวิไลซ์ขึ้น
3. เพียงโฟกัสในสิ่งที่คุณโกรธหรือไม่ชอบสิ่งไหนก็ให้พูดแต่ในสิ่งนั้น พร้อมกับอย่าขยายความด้วยการไปขุด เรื่องเก่าที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ทำให้คุณไม่พอใจในตอนนี้ขึ้นมาชวนทะเลาะแบบผสมปนเปไป
อู้ย..อย่างนี้จะยิ่งทำให้เรื่องราวมันยืดยาวออกไปไกลกว่าเดิม...ไม่ดีแน่ เคลียร์เรื่องของวันนี้ให้จบก่อนก็พอ เช่น ถ้าเขาหนีเที่ยวแล้วไม่บอก ปล่อยให้คุณเป็นห่วง ก็พูดแต่สิ่งนี้
ไม่ใช่ลามไปพูดถึงสมัยโน้นเลยที่เขาอ้างว่า ถูกเพื่อนมาลาก ไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วไม่กลับบ้าน 3 วัน 3 คืน โอ้ยโหยว ...แล้วเมื่อไหร่จะเคลียร์กันเสร็จ? เรื่องสั้นๆจะกลายเป็นมหากาพย์ ดอกทบต้น ต้นทบดอก ฟังแล้วเหนื่อยแทน
4. เพราะเช่นนั้นเมื่อเคลียร์ปัญหากันแล้ว ก็ถึงเวลาที่ควรจะบอกเลิฟเป็นการทิ้งท้าย แม้ช่วงนั้น ปากไม่อยากพูดคำนี้เลย แต่หยวนๆน่า เนื่องจากถึงไงเราก็ยังอยากจะรักและทะเลาะกันแบบนี้ไปอีกนานไม่ใช่หรือ?
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จากไทยรัฐ