22 พฤศจิกายน 2567, 12:55:47
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมต้องไปกวดวิชาเสียเงิน ใช้หัวใจนักปราชญ์+หาหนังสือทดสอบแต่ละวิชา มาอ่านเองก็ได้  (อ่าน 17255 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 08 มกราคม 2554, 10:06:37 »


                                โดยเวบเดลินิวส์ วันเสาร์ ที่ 08 มกราคม 2554
                       http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=114262

                                

        โรงเรียนกวดวิชา ขู่เคลื่อนไหวกดดันหากรัฐเก็บภาษีไม่เป็นธรรม ลั่นฟ้องศาลปกครองให้ชี้ขาด โอดครวญ ชี้ เป็นธุรกิจทางการศึกษา มีกลุ่มธุรกิจคล้ายกันอีกต้องทำให้เหมือนกัน แนะ ต้องมองในภาพรวมทั้งระบบ “รร.เคมี อ.อุ๊” แจง เจอจ้องร่ำรวย ทั้ง ๆ ที่มีธุรกิจอื่นควบ ทุกอย่างจ่ายภาษีถูกต้อง ย้ำ รายได้ต่อปีของกลุ่มกวดวิชาไม่ถึง 4 พันล้านบาท แค่ 1.5-2 พันล้านเท่านั้น ส่วนนักเรียน-ผู้ปกครอง รับชะตาหากเก็บภาษี คอร์สเรียนคงแพงขึ้น

        แต่จำเป็นต้องเรียนเพื่ออนาคตที่ดี “สช.” เชื่อ มีเก็บภาษีทำค่าคอร์ส สูงขึ้น กระทบเด็ก-ผู้ปกครองทันที ด้าน “ป.ป.ช.” พร้อมแจงต่อครม.หากสงสัยข้อเสนอ “ประดิษฐ์” สั่งสรรพากรดูกฎหมายจะเก็บภาษีสถาบันกวดวิชาได้หรือไม่

                             บรึ๋ยยย บรึ๋ยยย บรึ๋ยยย

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

                  โรงเรียนกวดวิชา ไม่เคยได้เงินจากผม เลย ผมตั้งใจเรียนในห้องเรียน ใช้

                 หัวใจนักปราชญ์ สุ จิ ปุ ลิ ฟัง คิด ถาม และ บันทึกย่อไว้เตรียมสอบ ร่วมกับ

          หาหนังสือทดสอบแต่ละวิชามาอ่านเอง ไม่เข้าใจก็ค้นคว้าอ่านเพิ่มเติมเอง ถามอาจารย์

 ก็สามารถเข้า ร.ร.เตรียมอุดมฯ พญาไท และ เข้าคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ที่คะแนนสูงในประเทศได้

                                       win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #1 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 09:59:40 »

    หมอคะ เรื่องโรงเรียนกวดวิชานี้เป็นประเด็นที่พี่คุยกับลูกเหมือนกัน คือตัวพี่เองเป็นเด็กต่างจังหวัดและไม่เคยกวดวิชาที่ไหนซื้อหนังสือข้อสอบเก่ามาอ่านเอง ก็แนะนำลูกว่าเสียเวลาเดินทางมากในการไปกวดวิชา ควรหาหนังสือมาอ่านเอง แต่ลูกเขาบอกว่า อ่านข้อสอบเก่าแล้วหากไม่ไปกวดครูที่โรงเรียนสอนไม่ลึกพอและหนังสือเรียนก็ไม่ลึกพอเช่นกัน บางวิชาเช่นคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์อ่านเองไม่เข้าใจว่าไป มาอย่างไร  เพราะจำเอาไม่ได้ หากapply สูตรไม่ได้ จะทำไม่ได้ พี่ก็เลยให้เขาไปเรียน เพราะเขาบอกว่าเขากลัวว่าเขาไม่รู้แล้วเขาจะเสียโอกาส พี่ก็ถามนะว่าเรียนมาแล้ว รู้มากกว่าที่เรียนในห้องหรือไม่ เขาก็บอกว่ารู้กว่ามาก เขาบอกว่าชีวะฯ ถ้าไม่ได้อาจารย์สมาน เรียนที่โรงเรียนคงไม่รู้อะไรเลย พี่เลยไปซื้อหนังสือชีวะฯอาจารย์สมานมาให้หมด ๖ เล่มแล้วต่อไปไม่ต้องไปกวดวิชาชีวะฯ ไปเฉพาะ เคมี คณิต ฟิสิกส์
     นี่เล่ามาเฉพาะครอบครัวพี่นะ พี่ว่าพ่อแม่คนอื่นที่ลูกอยากเรียน(เนื่องจากอาจจะรู้สึกเหมือนลูกพี่ก็ได้ว่ากลัวว่าคนอื่นจะรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้) พ่อแม่ก็คงไม่อยากตัดโอกาสลูก ก็ให้ไปเรียน
     อีกทั้งการสอบตรง สอบกลางปี นักเรียนยังไม่ได้เรียน ม.๖เทอม ๒ เลย จึงรอที่โรงเรียนสอนก็ไม่ได้ นักเรียนก็ต้องขวนขวายเรียน  ม.๖เทอม ๒ ข้างนอกเอง เพราะ เด็ก จะสอบ ตรงประมาณ  ส.ค. - ต.ค. ยังเรียนวิชาของ ม. ๖ ไม่จบเลย
     อย่างเช่นวันนี้ลูกพี่ไปสอบ cu science  เพื่อเก็บคะแนนไว้ เพื่อสอบตรงตอนกลางปี หากไม่ไปเรียนล่วงหน้าก็ไม่ได้ ตกลงทั้งๆที่พี่ไม่เห็นด้วยเรื่องการกวดวิชาเลย ก็จนด้วยเหตุผลของลูกก็ต้องให้ลูกไปเรียนกวดวิชา
    พี่ว่าหากไม่ได้เด็กต้องไปกวดวิชา ระบะการศึกษาต้องแก้ทั้งระบบ ระบบการสอบเป็นเหตุหลักที่ทำให้เด็กต้องไปกวดวิชา
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #2 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 10:13:01 »


                         

          การศึกษาต้องแก้ทั้งระบบ ระบบการสอบ เป็นเหตุหลักที่ทำให้เด็กต้องไปกวดวิชา

                                ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

          เห็นด้วยกับพีี่่เอมอร นอกจากแก้ระบบสอบ ต้องแก้ระบบสอนให้เด็กได้รับสิ่งที่ ร.ร.ไม่มี

สอน จนเด็กต้องไปเรียน กวดวิชาเพิ่ม โดยอาจ หาข้อมูลเพิ่มจาก น.ร.ที่ไปกวดวิชามาว่าสอน

อะไรบ้าง เพื่อมาปรับปรุงการสอนให้มีด้วยเพื่่อจะได้ไม่ต้องไปกวดวิชา


                               gek gek gek
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 10:35:26 »

เมื่อไรผู้ใหญ่จะช่วยเด็กเสียที่ก็ไม่รู้  ลูกเพื่อนพี่เรียนที่เตรียม  เดิมม.๓ เรียนที่สามเสน ไปเรียน เกรด ๑๐ ที่อเมริกาได้คณิตศาสตร๋ ๔  บอกแม่มาว่า เป็นเรื่องที่เรียนตอนอยู่ ม. ๒ ที่สามเสนซึ่งตัวเอง ได้ ๒ กว่า ๆ กลายเป็นเก่งมากของที่นั่น บอกว่าอยู่ที่นั่น  ได้ ๔ ตลอดอยู่เมืองไทยกว่าจะได้จะตายแล้วเลยขอแม่เรียนต่อที่นั่นต่อเลย เป็นอันว่าเด็กเตรียมหายไปอีก ๑ คน แย่งกันสอบเข้าแทบตาย
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #4 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 12:00:01 »

มาตามอ่าน  ที่หมอสำเริงและพี่เอมอร เขียน เกียวกับเรื่องระบบการศึกษาและการกวดวิชา

ผมเองไม่รู้เรื่อง ระบบการศึกษาและการสอบเข้ามหาลัย สักเท่าใดนัก

แต่เห็นเด็กไทยเรียนกัน หนักมาก ตั้งแต่ประถม ยันไปจนจบมหาลัย เหนื่อย
ขณะที่ต่างประเทศ(ประเทศตะวันตก)จะเรียนกันสบายๆ ตั้งแต่ประถมถึงhigh school ปิ๊งๆ
(มหาลัยไม่ทราบ ว่าเรียนกันอย่างไร ยังเรียนสบายๆ กันอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้)
เมื่อเรียนจบมาแล้วทำงาน ก็ไม่เห็นว่าทำงานด้อยพวกเรา ซึ่งเรียนหนักทั้งปีทั้งชาติ เค้าไม่ยอม

มันต้องมีอะไรผิดพลาดใน ระบบการเรียนการสอนและการสอบเข้ามหาลัย ของเราหรือเปล่า
นักการศึกษาและพ่อแม่ ต้องช่วยกันช่วยชี้แนะ และปรับไปสู่ในแนวทางที่ถูกต้องและได้ผลดี รักนะ

ผู้รู้และอยู่ในแวด วงนี้ ช่วยชี้ทางสว่างให้ที่เถอะครับ ถือว่าเป็นกุศลต่อประเทศไทยและเด็กไทยมากครับ


      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #5 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 17:36:23 »

น้องสมชาย พี่ว่าต้องให้นักการศึกษาเข้ามาดู
เพราะพี่เองก็คิดและเล่าจากประสบการณ์ในการเป็นแม่ที่ลูกกำลังเรียนเท่านั้น
พี่ไม่รู้นักการศึกษาคิดอย่างไร รู้แต่ว่าเด็กแย่ ขาดช่วงเวลาของการเป็นเด็กหมดเลย  ยกตัวอย่างลูกพี่เล่นเปียโน แต่ก็เล่นตามเวลาที่ว่าง ไม่ได้เรียนแล้ว ตอนนี้ว่างๆก็แกะnote เล่นเอง เมื่อคืนทำการบ้านเรื่องเรียนเสร็จ เกือบ ๔  ทุ่ม  เขามาถามว่าแม่หนูเครียดจังจะเล่นเปียโนจะดึกไปไหม รบกวนข้างบ้านหรือเปล่า
พี่ก็บอกว่าให้ใช้ที่เหยียบลดเสียงเอาก็แล้วกัน เขาเลยตัดสินใจไม่เล่น
พี่เห็นเลยว่าเขาเศร้า พี่เลยนึกว่า การเรียน ทำให้เขาไม่มีแม้แต่จะทำสิ่งที่ตัวเองชอบ เล็กน้อย สัก  ๕ -๑๐  นาที ในแต่ละวันก็ยังไม่มีเวลา เขาบ่นว่าแม่เวลาเล่น เวลาวัยรุ่นหนูหายไปเลย
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 19:00:53 »

ผมก็ไม่เคยเรียนกวดวิชาเหมือนกันครับ บ้านนอก ยากจน ไม่มีตังค์เรียน แฮะๆๆ
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #7 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 19:29:26 »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=r_12-tp4XXY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=r_12-tp4XXY</a>
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #8 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 19:32:47 »

 
อ้างถึง   
อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 09 มกราคม 2554, 19:00:53
ผมก็ไม่เคยเรียนกวดวิชาเหมือนกันครับ บ้านนอก ยากจน ไม่มีตังค์เรียน แฮะๆๆ

เห็นใจลูก พี่เอมอรจังเลย  ระบบสอบเข้าของเราเป็นเช่น นี้จริงๆ  ทำให้เด็กไม่ค่อยมีโอกาสได้พักเลย เหนื่อย

น้องสน ไม่เคยกวดวิชาแล้วสอบได้ ก็ดีแล้ว หาความรู้เพิ่มเติมเอาเอง(แต่แบบน้องสน อาจมีแค่10-20%เท่านั้น) ปิ๊งๆ

แต่ส่วนใหญ่เด็ก 80-90% ต้องเรียนพิเศษและกวดวิชา เพื่อใช้สอบแข่งขัน ให้ได้คะแนนสูงๆ
อย่างคณิตศาสตร์ ข้อสอบแข่งขันจะเป็นประเภท แก้โจทย์สมการ 2-3ชั้น
ไม่ใช่ชั้นเดียวแบบตอนเรียนในห้อง เด็กไม่เคยผ่ายโจทย์แบบนี้มาก่อนจะทำไม่ได้
หรือทำได้ช้ามาก ทำไม่ทันเวลาทีกำหนด หมดเวลาก่อน

จึงทำให้ต้องกวดวิชากัน เพื่อให้ได้ฝึกโจทย์ทำนองนี้  ถือว่าข้อสอบที่สอบเข้า มหาลัย  โหดมากสำหรับเด็ก


ที่สำคัญที่ผมเขียน ประเด็นปัญหาไว้คือ
เด็กเราเรียนแทบตาย  เด็กตะวันตกเรียนสบายๆ  เมื่อจบ มหาลัย มาทำงานความสามารถไม่ต่างกันเท่าไหร่
(ตอนเรียน เด็กไทย มักจะเก่งกว่า ได้คะแนนดีกว่า *ข้อมูลได้มาจากเพื่อนๆที่เรียนกับเด็กฝรั่ง)
ทำงานไปสักพัก เด็กตะวันตกบางคนเก่งกว่าเด็กไทย ซะอีก
แสดงให้เห็นว่าเรียนหนัก กับเรียนเบาๆ  เมื่อไปทำงานแล้ว คุณภาพ ไม่แตกต่าง

นีคือ โจทย์ ข้อใหญ่ ที่กระทรวงศึกษา ต้องนำไปพิจารณาแก้ไขด่วน ด่วนๆๆๆๆ ด้วย เค้าไม่ยอม

      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #9 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 20:06:42 »

พี่นึกถึงสมัยก่อนที่เด็กอนุบาลโรงเรียนสาธิต อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ที่ใหม่ๆพ่อแม่กลุ้มใจเพราะเด็กที่โรงเรียนอื่นอ่านหนังสือแตกแล้ว แต่พอชั้นประถมก็ไล่ทันกัน เพราะเด็กเตรียมความพร้อมมาแล้ว
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 20:17:42 »

ห้องเรียนเราบางทีเครียดนะครับ
ทฤษฎีเยอะมากๆเลยครับ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #11 เมื่อ: 13 มกราคม 2554, 18:19:41 »

วันนี้ ได้ดูข่าวตอนเย็น สรยุทธ์ ได้เชิญสมพงษ์ จิตระดับ มาสัมภาษณ์ เรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
 สมพงษ์ พูดถึงว่าการเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนี้ มหาวิทยาลัยออกนอกระบะจึงคิดถึงนักเรียนที่จะมาเข้าเป็นลูกค้า  และทำให้เป็นการเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในการสอบตรงมากๆ เด็กต่างจังหวัด เด็กที่พ่อแมยากจน จะขาดโอกาสมากขึ้นทุกที
 เห็นด้วยอย่างมาก
เมื่อไรจะแก้ไข ได้สักที อย่างนี้ เด็กจะแย่ลงๆๆ และเห็นแก่ตัวมากขึ้นๆๆ
เพราะเด็กรวยและพ่อแม่มีตังจะวิ่งสอบตรงหลายๆที่เพื่อให้ตัวเองได้ที่ที่ดีท่สุด แต่กั๊กที่ ตัดโอกาสคนอื่น
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #12 เมื่อ: 13 มกราคม 2554, 21:08:36 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 13 มกราคม 2554, 18:19:41
วันนี้ ได้ดูข่าวตอนเย็น สรยุทธ์ ได้เชิญสมพงษ์ จิตระดับ มาสัมภาษณ์ เรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
 สมพงษ์ พูดถึงว่าการเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนี้ มหาวิทยาลัยออกนอกระบบจึงคิดถึงนักเรียนที่จะมาเข้าเป็นลูกค้า  และทำให้เป็นการเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในการสอบตรงมากๆ เด็กต่างจังหวัด เด็กที่พ่อแมยากจน จะขาดโอกาสมากขึ้นทุกที
 เห็นด้วยอย่างมาก
เมื่อไรจะแก้ไข ได้สักที อย่างนี้ เด็กจะแย่ลงๆๆ และเห็นแก่ตัวมากขึ้นๆๆ
เพราะเด็กรวยและพ่อแม่มีตังจะวิ่งสอบตรงหลายๆที่เพื่อให้ตัวเองได้ที่ที่ดีท่สุด แต่กั๊กที่ ตัดโอกาสคนอื่น


ถึง พี่เอมอร และ พวกเราทุกคน ทราบ ครับ

              มีข่าวดี ประเทศเรามีโครงการรับเด็กเรียนเก่ง วิทยาศาสตร์ และ คณิตศาสตร์
ซึ่งได้คะแนนเฉลี่ย เกิน 3.5 ขึ้นไป มีสิทธิ์สมัครสอบเข้า ร.ร.จุฬาภรณ์ ที่มี 12 แ่ห่งกระจายอยู่ในประเทศ

                     
 
                                           จะรับสมัครวันที่ 24-29 ม.ค.นี้
                                  สอบข้อสอบปรนัยรอบแรก วันที่ 5 ก.พ. และ
                                รอบที่ 2 สอบด้วยข้อสอบอัตนัย วันที่ 19 ก.พ.นี้ 

            เฟ้นหัวกะทิชนบทเข้าจุฬาภรณราชวิทยาลัย ร.ร.วิทยาศาสตร์ภูมิภาค-รัฐออกค่าใช้จ่ายให้ ที่

                          http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,8992.0.html  

                                                   รักนะ รักนะ รักนะ           
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 13 มกราคม 2554, 22:39:23 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 13 มกราคม 2554, 18:19:41
วันนี้ ได้ดูข่าวตอนเย็น สรยุทธ์ ได้เชิญสมพงษ์ จิตระดับ มาสัมภาษณ์ เรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
 สมพงษ์ พูดถึงว่าการเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนี้ มหาวิทยาลัยออกนอกระบะจึงคิดถึงนักเรียนที่จะมาเข้าเป็นลูกค้า  และทำให้เป็นการเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในการสอบตรงมากๆ เด็กต่างจังหวัด เด็กที่พ่อแมยากจน จะขาดโอกาสมากขึ้นทุกที
 เห็นด้วยอย่างมาก
เมื่อไรจะแก้ไข ได้สักที อย่างนี้ เด็กจะแย่ลงๆๆ และเห็นแก่ตัวมากขึ้นๆๆ
เพราะเด็กรวยและพ่อแม่มีตังจะวิ่งสอบตรงหลายๆที่เพื่อให้ตัวเองได้ที่ที่ดีท่สุด แต่กั๊กที่ ตัดโอกาสคนอื่น


เห็นด้วยครับ ที่หมู่บ้านผมซึ่งอยู่บ้านนอก เห็นน้องๆสมัครหลายที่ ครั้งละหลายร้อยก็สงสารผุ้ปกครองครับ เฮ่อ
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #14 เมื่อ: 14 มกราคม 2554, 09:07:37 »

 
อ้างถึง   
อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 13 มกราคม 2554, 22:39:23
อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 13 มกราคม 2554, 18:19:41
วันนี้ ได้ดูข่าวตอนเย็น สรยุทธ์ ได้เชิญสมพงษ์ จิตระดับ มาสัมภาษณ์ เรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
 สมพงษ์ พูดถึงว่าการเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนี้ มหาวิทยาลัยออกนอกระบะจึงคิดถึงนักเรียนที่จะมาเข้าเป็นลูกค้า  และทำให้เป็นการเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในการสอบตรงมากๆ เด็กต่างจังหวัด เด็กที่พ่อแมยากจน จะขาดโอกาสมากขึ้นทุกที
 เห็นด้วยอย่างมาก
เมื่อไรจะแก้ไข ได้สักที อย่างนี้ เด็กจะแย่ลงๆๆ และเห็นแก่ตัวมากขึ้นๆๆ
เพราะเด็กรวยและพ่อแม่มีตังจะวิ่งสอบตรงหลายๆที่เพื่อให้ตัวเองได้ที่ที่ดีท่สุด แต่กั๊กที่ ตัดโอกาสคนอื่น


เห็นด้วยครับ ที่หมู่บ้านผมซึ่งอยู่บ้านนอก เห็นน้องๆสมัครหลายที่ ครั้งละหลายร้อยก็สงสารผุ้ปกครองครับ เฮ่อ


ยิ่งปรับระบบทั้งการสอบเข้ามหาลัยและมหาลัยนอกระบบ
ท่าทางจะเข้ากับเพลง ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา อายจัง
ปรับไป ปรับมา จะเหมือนลิงแก้แห หรือเปล่าก็ไม่รู้ เหนื่อย


พี่ป๋องอยู่วงการนี้นานมากท่านหนี่ง ถ้าเข้ามาอ่านกระทู้นี้ ช่วยให้ความคิดเห็นหน่อยครับ
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #15 เมื่อ: 29 มกราคม 2554, 16:23:00 »


ปัญหาการเรียนกวดวิชา (บทบรรณาธิการ)
โดยเวบแนวหน้า วันเสาร์ที่ 29 ม.ค.2554
http://www.naewna.com/news.asp?ID=246826



ปัญหาการศึกษาที่มีความสำคัญมากของชาติในขณะนี้ประการหนึ่งก็คือ
ปัญหาการเรียนกวดวิชาของเยาวชนในชั้นมัธยมศึกษาทั้งตอนต้นและตอนปลาย
การเรียนกวดวิชาของเยาวชนเหล่านี้มาจากความต้องการที่จะได้คะแนนดีและสูง
เพื่อนำไปสู่การผ่านเข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง

การที่เยาวชนของเราต้องเรียนกวดวิชานั้นมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่สำคัญก็คือ
การได้สิทธิผ่านเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ หมายถึง
การมีอนาคตที่ดีตามไปด้วยหลังจากได้สำเร็จการศึกษารับปริญญาแล้ว

บัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้มีผู้วิจัยออกมาแล้วพบว่า
เขาจะมีโอกาสที่จะหางานทำในบริษัทที่เป็นวิสาหกิจชั้นนำได้ง่ายกว่าจบจาก
มหาวิทยาลัยที่ไม่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีอัตราเงินเดือนค่าจ้างสูงกว่าอีกด้วย

โรงเรียนกวดวิชาหรือโรงเรียนติวความรู้ในประเทศของเรานั้นเกิดขึ้นมานาน
มากว่า 60 ปีแล้ว ยุคต้นๆก็คือ

การเรียนกวดวิชาเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะเพื่อไปเข้าโรงเรียนนายร้อยทหารตำรวจและ
โรงเรียนแพทย์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ
ต่อมาภายหลังได้มีความนิยมเพิ่มขึ้นจึงมีการเปิดโรงเรียนกวดวิชาตามจังหวัดใหญ่ๆทุกจังหวัด

ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

การแก้ไขปัญหาการกวดวิชานั้นควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการเพราะ
เมื่อวิเคราะห์เหตุผลของการกวดวิชาแล้ว จะได้พบคำตอบที่สะท้อนให้เห็นถึงจุดอ่อน
ของระบบการศึกษาของไทยที่ยังเน้นการแข่งขันเพื่อแสวงหาโอกาสที่ดีกว่า

รวมถึงปัญหาการเรียนการสอนในโรงเรียนต่างๆในปัจจุบัน ที่ยังไม่ได้มาตรฐาน
ตลอดจนการเหลื่อมล้ำมาตรฐานของแต่ละโรงเรียน นักเรียนของเราเป็นจำนวนมากมีความคาดหวังว่าการกวดวิชาจะช่วยให้ได้เทคนิคในการทำข้อสอบมากขึ้นช่วยให้เข้าใจในวิชาที่เรียนและจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าศึกษาต่อได้

  win win win

วิธีแก้ไขอยู่ที่พื้นฐานหลักคือ

การส่งเสริมให้ครูได้พัฒนาการสอนอย่างแท้จริงและมีคุณภาพสูงพร้อมทั้งมี
ความสนุกและน่าสนใจ

ขณะเดียวกันรัฐก็จะต้องทำให้ความไม่เท่าเทียมกันทางการศึกษานั้นลดน้อยลงโดยต้อง
กระจายคุณภาพและโอกาสทางการศึกษาให้กว้างขวางใกล้เคียงกันทั้งประเทศ

ปัจจุบันโรงเรียนกวดวิชาได้ขยายออกไปในทุกระดับการศึกษามีโรงเรียนกวดวิชา
ในระดับอนุบาลเพื่อให้ลูกหลานได้เข้าโรงเรียนประถมศึกษาที่ดีๆ

สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนปัญหาการศึกษาของไทยอย่างชัดเจน แต่ผู้รับผิดชอบยัง
แก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ ซึ่งถือเป็นการบ้านที่รัฐบาลต้องหาทางแก้ไขเพื่ออนาคตที่ดี
ของเยาวชนซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของชาติในรุ่นต่อไปนั่นเอง


วันที่ 29/1/2011

รักนะ รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #16 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2554, 15:58:35 »

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
รีบๆแก้กันเถิด เด็กและพ่อแม่จะแย่แล้ว
      บันทึกการเข้า
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490

เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2554, 16:52:02 »

เรื่องระบบการสอบนี่ผมไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้วครับ ที่ให้สอบแบบมาราธอน
สมัยก่อน ผมสอบ Entrance มา ก็สมัครคณะก่อน แล้วมาสอบวัดใจกัน ได้ไม่ได้ ก็ยอมรับในโชคชะตา

เด็กเครียด ก็เครียดแค่ครั้งเดียว และการสอบก็ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบจากการไม่รู้ เพราะสอบตอนที่มุกคนเรียนจบ ม.6 เทอม 2 แล้ว (เรียกได้ว่า ได้เรียนทุกคน)

ผมเข้ามาด้วยระบบนี้

ตอนนั้น เห็นมีข่าว ว่าเด็กเครียด ฆ่าตัวตาย จากการที่ไม่ได้คณะดังหวัง เลยปรึกษากัน จะทำยังไงไม่ให้เด็กเครียด เลยจัดทำเป็นสอบ 2 ครั้ง ครั้งแรกก็ ประมาณ ตุลา ครั้งที่ 2 ก็ เหมือนกันกับระบบเดิม คือ เดือน เมษายน เด็กจะได้ทดลองสนาม

ปัจจุบัน เป็นไงมาไงไม่รู้ ไม่รู้ใช้สมองส่วนไหนคิด เล่นสอบกันตั้งแต่ไก่โห่ ม.6 เทอม 1 ก็สอบแล้ว ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำกันมากระหว่างคนจนกับคนมีเงิน เพราะคนมีเงิน สามารถที่จะหาโรงเรียนกวดวิชาได้ คนจนๆ (อย่างผม หากเกิดสมัยนี้) คงต้องยอมรับสภาพว่า สู้ไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนในห้อง และไม่ได้กวดวิชามา ผมคิดว่า ผมก็คงไม่ได้มาเีรียนจุฬาฯอย่าง 1000%

ยิ่งไปกันใหญ่ มีการรวม ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เข้าด้วยกันเป็น วิทยาศาสตร์ ยิ่งลงเหว เพราะบางคณะบางสาขาวิชา ไม่ได้ต้องการแบบนั้นแต่กลับเอามารวม เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ ไม่ได้ต้องการคนเก่งชีวะมาเรียนเลย ผลคือ มีข่าวออกมาว่า นิสิตนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ ตกวิชา ฟิสิกส์ เกือบครึ่งห้อง เพราะไม่ถนัดวิชานี้ แต่สามารถเข้าได้ด้วย วิชาอื่น ทั้งๆที่ ฟิสิกส์คือวิชาหลัก เป็นต้น

อ่านหลักฐานได้ที่นี่
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1246828

สะท้อนการศึกษาไทยที่ล้มเหลว

หลายคนบอกว่า นักเรียนบ้าน เราเรียนเยอะเกินไป ผมพอทราบเหตุผลครับ ที่เรียนเยอะ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทางไหน เด็กไทยค้นหาตัวเองได้ช้ากว่าประเทศตัวอย่างหรือเปล่า บางคนจะรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนก็ ม.6 ระบบเก่าๆเลยให้เรียนให้หมด จะได้ไม่มีหลายทางเลือก (เผื่อคิดผิดจะได้ปรับเปลี่ยนได้ทันใช่ไหม) เลยทำให้เรียนให้มากเข้าไว้่ เด็กแบกตำราไปเรียนยังกะแบกครก

สำหรับโรงเรียนกวดวิชา ผมว่ายังไงมันก็ต้องมีอยู่วันยังค่ำครับ ตราบใดที่สังคมไทย ยังอยากให้ลูกหลานตัวเองได้ดีกว่าคนอื่น ตราบใดที่ยังมองว่า มหาลัย มีความไม่เสมอภาคกัน มีมหาลัย A ดีกว่า มหาลัย B ลูกฉัน (ตัวฉัน)ต้องเข้่ามามหาลัย A ให้ได้

แต่ผมกลับมองที่ความเหลื่อมล้ำมากกว่าครับ ผมคิดว่า ทำอย่างไร ให้คนที่ไม่ได้เรียนโรงเรียนกวดวิชาสามารถสอบเข้่ามาได้ ด้วยตัวเอง (เช่น อ่านหนังสือเองจากที่ครูที่โรงเรียนป้อนทฤษฎีให้แล้ว) ไม่ใช่จากครูโรงเรียนกวดวิชา ที่ป้อนให้

ส่วนตัวผม ยังอยากให้การสอบเป็นแบบสอบ ตุลา และ เมษา นะครับ โดยทั้งสองรอบ สอบให้ครบทุกวิชา  วิชาไหนที่รวมได้ก็รวม รวมไม่ได้ก็ไม่ต้องรวม อาจจะสับสนหน่อย แต่ขอให้ได้นิสิตนักศึกษาที่ตรงตามเจตนารมณ์ก็พอ
      บันทึกการเข้า

RCU80 จงเจริญ
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #18 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2554, 17:09:20 »


พี่เองก็เหมือนกัน หากต้องสอบสมัยนี้ ตายแน่ไม่ติดหรอก เพราะไม่เคยกวดวิชา เรียนเองซื้อหนังสือมาอ่านเอง 
และจะงมโข่งไม่รู้ว่าที่ไหนเปิดรับสมัครบ้าง รอบแรก รอบสองของแต่ละที่ มี ที่สัมภาษณ์อย่างเดียว มีทั้งเขตพื้นที่ หลากหลายมาก ตามไปสอบไม่ทันเขาแน่นอน  ประเภทตกข่าว
พี่อยากให้สอบ เมษา หนเดียวพอ แบบเก่าแต่อาจจะให้เลือกได้หลายที่มากขึ้น
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #19 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2554, 14:07:05 »

ผมอ่านเจอ บทความของ อ.วิทยากร เชียงกูล  เรื่องทดสอบความสามารถของเด็กไทย
นำมาให้อ่าน และถ้าใครมีบทบาทหน้าที่ด้านการศึกษาของชาติ ช่วยนำไปพิจารณาที

http://bit.ly/f37YH4



      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #20 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2554, 22:18:07 »

แบบใหม่ไม่รู้จักเหมือนกันคะ
งงไปหมด.
รู้จักแต่แบบเก่า แบบคัดจอหงวน
คัดช้างเผือก..
ไม่เก่งจริงก็ไม่ผ่าน...
      บันทึกการเข้า


yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2554, 20:44:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ สมชาย17 เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2554, 14:07:05
ผมอ่านเจอ บทความของ อ.วิทยากร เชียงกูล  เรื่องทดสอบความสามารถของเด็กไทย
นำมาให้อ่าน และถ้าใครมีบทบาทหน้าที่ด้านการศึกษาของชาติ ช่วยนำไปพิจารณาที

http://bit.ly/f37YH4



น่าจะเป็นงานแฟร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในปี2552  นักศึกษา 2 คนรับจ้างเป็นคนชงอาหารที่ต้องใช้น้ำร้อน
ผมตั้งคำถามเล่นๆว่า น้ำเดือดกี่องศา

แปลกใจมากเลยครับ เขาตอบไม่ได้ทั้ง2คน...
ออกจากงานวันนั้นด้วยความหว้าเหว่กับการศึกษาเลยครับ....
      บันทึกการเข้า
gthonda2538
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: 28 เมษายน 2554, 11:26:50 »

อ่านแล้วมันไม่เข้าใจทำไงอ่ะ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><