25 พฤศจิกายน 2567, 06:36:01
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: โรงเรียนกวดวิชา : ส่งเสริมหรือทำลายระบบการศึกษาไทย (รศ.ประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ)  (อ่าน 6244 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 20 มกราคม 2554, 07:31:22 »


โรงเรียนกวดวิชา : ส่งเสริมหรือทำลายระบบการศึกษาไทย
(รศ.ประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ)

http://www.naewna.com/news.asp?ID=245505

จากมติคณะรัฐมนตรี กรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เสนอเกี่ยวกับ
การเก็บภาษีและความปลอดภัยโรงเรียนกวดวิชานั้น

ในฐานะที่ผู้เขียนมีส่วนเกี่ยวข้องในวงการศึกษามาเป็นเวลากว่า 50 ปี มีความสนใจใน



เรื่องธุรกิจโรงเรียนกวดวิชา มาตลอด โดยเฉพาะมีการฟ้องร้องกันเรื่อง
ผลประโยชน์อันมหาศาลระหว่างผู้เกี่ยวข้องจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ดี การที่คณะรัฐมนตรีหยิบยกเรื่องโรงเรียนกวดวิชาโดยมองเรื่องความปลอดภัย
ของสถานที่ก็ดี การเก็บภาษีเข้ารัฐบาลก็ดี เป็นสิ่งที่ควรทำมานานแล้ว

ในเรื่องความปลอดภัยของสถานที่นั้น เนื่องจากมีคนจำนวนมากเข้าไปใช้สถานที่ในเวลาเดียวกัน
เช่นเดียวกับโรงภาพยนต์ จำเป็นต้องมีมาตรการเกี่ยวกับทางเข้าออกในกรณีฉุกเฉิน

ส่วนเรื่องการเก็บภาษีนั้น เนื่องจากธุรกิจนี้อาศัยช่องว่างเรื่องการศึกษา ซึ่งความจริงแล้ว
โรงเรียนกวดวิชามีส่วนส่งเสริมการศึกษาบ้าง แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปแล้ว

อาจกล่าวว่าเป็นการทำลายระบบการศึกษามากกว่า ที่กล่าวเช่นนี้เพราะบรรดานักเรียนนักศึกษา
ที่เรียนกวดวิชา ก็เพื่อที่จะเตรียมตัวเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาระดับสูง
ประโยชน์ที่แท้จริงคือ มีความรู้ที่จะสอบเข้ามากกว่าที่จะได้รับความรู้ที่แท้จริง


โรงเรียนกวดวิชาที่มีชื่อมักจะอาศัยครู อาจารย์ ที่มีชื่อเสียงเป็นผู้สอน(ติว)หรือ
มีการเก็งข้อสอบเข้าสถาบันต่างๆ รวมทั้งมี

การนำข้อสอบเก่าๆมาเฉลย ให้ผู้เข้าเรียนทดลองทำหรือทราบแนวทางในการออกข้อสอบ

การออกข้อสอบในแต่ละปีโดยเฉพาะผู้ออกข้อสอบจะมีแนวทางคล้ายๆกันทุกปี

การเก็งข้อสอบนี้ มิได้สร้างองค์ความรู้ให้แก่นักเรียน นอกจากสามารถสอบเข้าสถาบันการศึกษาที่ตนต้องการได้
เช่น มีการโฆษณาจำนวนนักเรียนที่ผ่านโรงเรียนกวดวิชาสามารถเข้า
มหาวิทยาลัยที่เป็นที่นิยมได้ จำนวนเท่านั้น เท่านี้

และปัจจุบันนี้เนื่องจากความนิยมของบางโรงเรียนมีมาก ทำให้ต้องจัดวิธีการสอนโดย
ใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น ชั้นเรียนที่ไม่มีผู้สอน แต่สอนผ่านวิดีโอ
ซึ่งทำให้ผู้สอนที่ได้รับความนิยมสอนที่เดียวได้หลายห้องเรียน

ระบบการเรียนการสอนแบบกวดวิชานี้สร้างความไม่เป็นธรรมแก่สังคม เพราะแม้รัฐบาล
จะพยายามให้มีนโยบายเรียนฟรี แต่ค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการให้บุตรหลานเตรียมเข้าเรียน
สถาบันชั้นสูง เป็นอุปสรรคที่ทำให้นโยบายสร้างความเป็นธรรมในเรื่องการศึกษาล้มเหลว

เพราะผู้ปกครองที่ยากจนหรือมีรายได้น้อย ไม่สามารถให้บุตรหลานเรียนกวดวิชาได้
นอกจากนั้นมีข่าวว่าครูบางคนที่ไปสอนโรงเรียนกวดวิชา

เวลาสอนในชั้นเรียนปกติ  sorry จะแนะนำให้นักเรียนไปเรียนกวดวิชาในสถานที่ที่ตนไปสอนพิเศษ

สรุปรวมความว่า การที่มีโรงเรียนกวดวิชานั้นเป็นผลเสียต่อระบบการศึกษาไทยมากกว่าเป็นคุณ
ผู้ที่ได้ประโยชน์ได้แก่เจ้าของสถานศึกษาและครูอาจารย์ที่ไปรับจ้างสอนเท่านั้น


ฉะนั้นถ้ารัฐบาลมีความสนใจในเรื่องนี้ ควรจะควบคุมและลดบทบาทของธุรกิจนี้ แทนการ
แสวงหารายได้จากภาษี แต่ถ้ายังคงให้มีโรงเรียนกวดวิชาอยู่ ก็ต้องเก็บภาษีทั้งจากโรงเรียนและ
รายได้จากผู้สอน อย่าให้มีช่องว่างที่หลีกเลี่ยงภาษีได้




รศ.ประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ

วันที่ 20/1/2011

gek gek gek
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 20 มกราคม 2554, 09:13:27 »

โดยส่วนตัวผมว่ามองได้หลายแง่ครับ
ถ้าการเรียนการสอนของไทยยังเป็นอย่างนี้ กวดวิชาก็ำจำเป็นสำหรับหลายๆคน
เพราะเราเรียนเพื่อสอบไม่ได้เรียนเพื่อนำไปใช้จริงๆ

ความเหลื่อมล้ำมีมาก ยากจะแก้ไขครับ

วันก่อน ฟังเค้าบรรยายการศึกษาไทย ประเทศไทยติดอันดับโลกคือ

อันดับที่ x ของโลกที่มีนักเรียนต่อห้องมากสุด
อันดับที่ x ของโลกที่จำนวนเวลาเรียนเยอะสุด
อันดับที่ x ของโลก ที่อาจารย์สอนแก่ที่สุด
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #2 เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2554, 09:53:52 »

น้องสนไปได้ข้อมูลมาจากไหนคะ ๒  ข้อหลังน่ะค่ะ
ขอแรกจริงเลย ห้องละ ๕๐ กว่าคนทุกโรงเรียน
หลังห้องแทบจะไม่เห้นครูแล้ว
ไม่ต่างจากการเรียนจากครูตู้เลย

ถึงวันนี้แม้ว่าไม่เห็นด้วยกับระบบกวดวิชา
แต่ถ้าเด็กอยากเข้าหมาวิทยาลัย ดีๆ ได้
สอบตรงได้
ก็จำเป็นค่ะ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><