Cmadong Chula

เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น => ห้องสุขภาพและความงาม => ข้อความที่เริ่มโดย: Samrotri2517 ที่ 21 ธันวาคม 2553, 11:17:43



หัวข้อ: บุคคลแห่งปีกับ ไทยรัฐออนไลน์ ด้านการศึึกษา วัฒนธรรม และ สาธารณสุข
เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 21 ธันวาคม 2553, 11:17:43

                       โดยเวบสารคามไลฟ์ดอทคอม วันอังคาร 21 ธ.ค.2553
                            http://sarakhamlive.com/home/?p=22342 (http://sarakhamlive.com/home/?p=22342)

         บุคคลแห่งปีกับไทยรัฐออนไลน์ด้านการศึึกษา วัฒนธรรม และสาธารณสุข สำหรับปีแรกนี้ไม่ได้เป็นบุคคลโด่งดังอะไร แต่เป็นกลุ่มคนหลายๆ คนของของ “แพทย์ชนบท” ที่ต่างทุ่มเททำงานด้วยใจอยู่ในพื้นที่ที่ขาดแคลนความศิวิไลซ์ ซึ่งต่างจากเมืองหลวงอย่างกรุงเทพโดยสิ้นเชิง…

         ด้วยความเสียสละ ทุ่มเทและตั้งใจของพวกเขาเหล่านั้น ที่จะให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ไม่เพียงแต่มีความรู้ความสามารถเท่านั้นที่พึงจะมี แต่แพทย์ผู้อดทนยังจะต้องมีจริยธรรม มนุษยสัมพันธ์ และความเป็นผู้นำ รวมถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในการดำรงชีวิตอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่บุคคลกลุ่มจะได้รับเกียรติให้เป็นบุคคลแห่งปี เพราะหากไม่ให้บุคคลเหล่านี้ ไทยรัฐออนไลน์ก็มองไม่เห็นว่าจะมีใครเหมาะสมเลย

        เมื่อแพทย์ผู้สำเร็จการศึกษามาใหม่ๆ เหตุผลอะไรที่เลือกไปประกอบอาชีพในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ หลายคนก็เลือกโรงพยาบาลเอกชน เพียงเพราะรายได้ที่กำลังจะเข้ามา

        ขณะแพทย์อีกจำนวนไม่น้อยก็เลือกที่จะไปทำประโยชน์เพื่อสังคมไกลปืนเที่ยง ลองไปฟังความเห็นของแพทย์ดีเด่นในชนบทคนล่าสุดดูว่าแท้จริงเขาทำไปเพื่ออะไร???

                                  (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldrfp3-98c453.jpg)  

               นพ.กิติภูมิ จุฑาสมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ

         หมอแฟนพันธุ์แท้ เดอะบีตเทิลส์ ผู้ได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่นในชนบท ประจำปี 2552 กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า

        ตนทำงานต่อเนื่องในพื้นที่ทุรกันดารของภาคอีสานมาแล้ว 23 ปี ที่ผ่านมาได้ทุ่มเทในการบริการที่ดีกับประชาชน ที่ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ เพราะ

        พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศกัมพูชาโดยก่อนหน้าเคยมีผู้อพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ แต่ตนก็ให้การรักษาแบบไม่แบ่งแยก และก่อนที่จะมีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โรงพยาบาลมีทั้งคนจนและคนรวยเข้ามารับการรักษา ซึ่งก็ไม่ได้รักษาแตกต่างกันอย่างไร โดยเราจะรักษาโดยคำนึงถึงโรคที่ผู้่ป่วยเป็น หากผู่ป่วยเป็นโรคเหมือนกัน ก็รักษาเช่นเดียวกัน

                                     emo43 emo43 emo43