หัวข้อ: ครม.เห็นชอบร่าง พรบ.คุ้มครองอนามัยการเจริญพันธุ์ พ.ศ. ... เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 14 ธันวาคม 2553, 18:24:34 ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์วันอังคาร ที่ 14 ธันวาคม 2553 ที่สนับสนุนเนื้อหาข่าว http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=8&contentID=109894 (http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=8&contentID=109894) (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldf0fs-4e85fc.jpg) วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองอนามัยการเจริญพันธุ์ พ.ศ. ... เพื่อรับรองสิทธิทางเพศช่วงวัยเจริญพันธุ์ สิทธิการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การรับบริการ โดย กระทรวงสาธารณสุข ต้องจัดให้มีการปรึกษาหรือบริการด้านอนามัยเจริญพันธุ์อย่างเหมาะสม มีคุณภาพ และ ต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้มาขอรับคำปรึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จัดให้มีการสอนเพศศึกษาอย่างถูกต้อง ให้เข้าใจถึงภาวะความรับผิดชอบทางเพศ และเหมาะสมกับวุฒิภาวะวัยของผู้เรียน หากเกิดการตั้งครรภ์ระหว่างเรียนต้องเปิดโอกาสให้ศึกษาต่อหรือเลือกลาพัก แล้วกลับมาศึกษาต่อได้ แต่ไม่ได้แปลว่า กฎหมายฉบับนี้จะสนับสนุนให้เกิดการตั้งท้องในวัยเรียน แต่ถ้าเกิดการผิดพลาดก็จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายฉบับนี้ โดยขั้นตอนต่อไปจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาก่อนส่งกลับมาที่ ครม.และส่งไปให้สภาฯพิจารณาต่อไป มาตรา 9 ของร่างพ.ร.บ.คุ้มครองอนามัยการเจริญพันธุ์ ยังกำหนดให้ ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานของรัฐ หรือ นายจ้างภาคเอกชน ที่มีหญิงตั้งครรภ์ปฏิบัติงาน ต้องไม่กระทำการใดอันเป็นการขัดขวางการลาคลอดตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งต้องส่งเสริมให้หญิงซึ่งเป็นมารดาได้เลี้ยงดูบุตรด้วยน้ำนมมารดาอย่างต่อเนื่อง และ มาตรา 10 ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานของรัฐหรือนายจ้างเอกชน มีหน้าที่ต้องป้องกันไม่ให้มีการกระทำใดๆอันเป็นการล่วงเกิน คุกคาม หรือ ก่อความเดือดร้อนทางเพศต่อผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลูกจ้าง และหากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวยังกำหนดให้ มีคณะกรรมการคุ้มครองอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ (กอช.) โดยมี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รมว.สาธารณสุข เป็นรองประธาน อธิบดีกรมอนามัย เป็นเลขานุการ ให้ รมว.สาธารณสุข มีอำนาจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เข้าไปส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิและพัฒนาด้านอนามัยเจริญพันธุ์ เข้าไปในหน่วยงานของรัฐ สถานบริการสาธารณสุข สถานศึกษา หรือสถานที่ทำงาน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่หากผู้ใดขัดขางการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควรต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และผู้ให้การปรึกษา และบริการด้านอนามัยเจริญพันธุ์ผู้ใดเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของผู้รับบริการก่อให้เกิดความอับอายเสื่อมเสี่ย ต้องระวางโทษไม่เกิน 60,000 บาท ทั้งนี้ตามพ.ร.บ.ดังกล่าว ยังกำหนดให้ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีบทบาทที่ต้องมีมาตรการรองรับ เช่น การหาบ้านพักฉุกเฉินระหว่างการตั้งครรภ์ รับเลี้ยงดูบุตรที่คลอดออกมา หากกรณีพ่อแม่ไม่สามารถรับผิดชอบได้ ให้จัดหาพ่อแม่บุตรธรรม และ ขั้นตอนต่อจากที่ ครม.ให้ความเห็นชอบ ต้องส่งเรื่องให้กฤษฎีกาพิจารณาแล้วส่งกลับมาให้ครม. อีกครั้งก่อนส่งเรื่องไปยังสภาผู้แทนราษฎรต่อไป. emo4:)) emo4:)) emo4:)) |