หัวข้อ: สถานพยาบาลคุณภาพ รพสต.มีแพทย์รับผิดชอบ จะมีทั่วประเทศภายใน 30 ก.ย.54 เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 01 ธันวาคม 2553, 19:59:36 “จุรินทร์” ตั้งเป้ายก “อนามัย” เป็น รพ.สต.ทั่วประเทศภายใน 30 ก.ย.54 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ธันวาคม 2553 http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000169609 (http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000169609) (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcr2fq-0130a6.jpg) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สธ. “จุรินทร์” เผย ยกระดับสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแล้ว 3,200 แห่ง ที่เหลือจะเสร็จภายใน 30 กันยายน 2554 เตรียมสร้างโรงพยาบาลชุมชน 54 แห่งในอำเภอเกิดใหม่ ตั้งเป้าใน 2554 สร้างอย่างน้อยร้อยละ 50 วันนี้ (1 ธ.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดอาคารผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลซับใหญ่ อำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบาย 2 เรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เรื่องที่ 1 จะดำเนินการยกระดับสถานีอนามัยทั่วประเทศ ประมาณ 10,000 แห่ง เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในปี 2553 ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 2,000 แห่ง ในปีงบประมาณ 2554 จะดำเนินการอีก 8,000 แห่ง โดยภายใน 2 เดือนแรกปีงบประมาณ 2554 คือตุลาคมถึงพฤศจิกายน 2553 ได้ยกระดับเพิ่มแล้วอีก 1,200 แห่ง คาดว่า สิ้นเดือนกันยายน 2554 จะครบทุกแห่ง รวมขณะนี้ยกระดับแล้ว 3,200 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ประชาชนในตำบล หมู่บ้านและชุมชน ได้รับบริการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะงานส่งเสริมสุขภาพ ควบคุมป้องกันโรค การคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงการรักษาพยาบาลสำหรับโรคพื้นฐานเบื้องต้น ถือว่าเป็นนโยบายที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เรื่องที่ 2 ขณะนี้ ประเทศไทยมีอำเภอเกิดใหม่และยังไม่มีโรงพยาบาลประจำอำเภออยู่จำนวน 54 แห่งทั่วประเทศ กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายชัดเจนที่จะเร่งดำเนินการสร้างโรงพยาบาลชุมชนประจำอำเภอเพิ่มเติมอีก 54 แห่ง โดยเร็วที่สุด มั่นใจว่า ในปี 2554 จะดำเนินการได้อย่างน้อยร้อยละ 50 ของอำเภอเกิดใหม่ทั้งหมด โดยใช้งบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขที่มีอยู่ โดยจะให้การสนับสนุนเป็นกรณีพิเศษต่อไป ทั้งหมดนี้จะมีส่วนช่วยให้ประชาชนมีโรงพยาบาลเป็นของตนเองในอำเภอ ได้รับบริการที่ครบถ้วนสมบูรณ์ขึ้น ที่สำคัญไม่ต้องเดินทางไปไกลนอกพื้นที่อำเภอเหมือนในปัจจุบัน สำหรับเรื่องบุคลากรในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไม่มีปัญหา ได้มีการประชุมติดตามทุกวันจันทร์ที่กระทรวงสาธารณสุข อย่างน้อยที่สุดต้องมีข้าราชการอย่างน้อย 4 ตำแหน่ง ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล พยาบาลเวชปฏิบัติ หรือ พยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการสาธารณสุข และ สหวิชาชีพ เช่น ทันตาภิบาล เภสัชชุมชน แพทย์แผนไทย ซึ่งในปี 2553 มีแพทย์แผนไทยประจำ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแล้ว 150 คน ไม่นับลูกจ้าง emo6::)) emo6::)) emo6::)) ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) ตัวชี้วัดสุขภาพดีถ้วนหน้าตัวที่ 3 การมีสถานพยาบาลใกล้บ้้านเข้าถึงสะดวก จะมี รพสต.ทุกตำบล ใน 30 ก.ย.2554 และ ตัวชี้วัดสุขภาพดีถ้วนหน้าตัวที่ 4 ทุกสถานพยาบาลที่ให้บริการมีป้ายรับรองคุณภาพจากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพ (Hospital Accreditation : HA) กระทรวงสาธารณสุข จะให้ทุก ร.พ.พัฒนา จนได้ใบรับรองคุณภาพ จาก สถาบันฯ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้มั่นใจในบริการ คาดว่า คงสำเร็จภายในปี 2555 ดังนั้น ตัวชี้วัด 3 และ 4 จะสำเร็จตามอีก 2 ตัวชี้วัดที่ได้ทำสำเร็จ ไว้รอแล้ว ได้แก่ ตัวชี้วัด ที่ 1 ประชาชนได้รับสิ่งจำเป็นพื้นฐานต่อการดำรงชีวิต (จปฐ.)ถ้วนหน้า ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องรับไปทำสำเร็จแล้ว ตัวชี้วัดที่ 2 ประชาชนร่วมมือในการทำให้สุขภาพของตนเองดีขึ้น เช่น อาสาสมัคร เป็น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)ที่ครบทุกหมู่บ้านแล้ว เป็นแกนนำเรื่องสุขภาพจาก รพสต.หรือ รพสอ.ไปสู่การปฏิบัติตามของประชาชน (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldg03j-d83bc6.jpg) ศูนย์แพทย์ชุมชน ปัจจุบันเป็น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาหินซ้อนแล้ว ผมเป็นแพทย์ประจำพื้นที่นั้นดูแลรักษาสุขภาพใกล้บ้าน รพสต.ข้างต้น emo43 สุขภาพดีถ้วนหน้าในปี ค.ศ.2000 หรือ พ.ศ.2543 ที่เราทำยังไม่สำเร็จ จะสำเร็จได้ในปี 2555 (2 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):))แน่นอน หัวข้อ: สธ.จัด14 หลักสูตร อัพศักยภาพจนท.ประจำรพ.สต.ทั่วประเทศ เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 19 ธันวาคม 2553, 15:53:13 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 ธันวาคม 2553 http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000178047 (http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000178047) (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldo2tk-797d6a.jpg) นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. สธ.เร่งพัฒนาบุคลากรสาธารณสุข พร้อมจัดอบรมเจ้าหน้าที่ประจำรพ.สต. 14 หลักสูตร เพิ่มศักยภาพดูแลประชาชนในพื้นที่ได้เต็มที่ครบถ้วน เร่งทำเกณฑ์จัดกรอบอัตรากำลังดูแลประชาชน พยาบาล 1 คนต่อประชากร 5,000 คน ส่วนแพทย์ 1 คนดูแลประชากร 10,000 คน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2554 นี้ สธ. มีแผนยกระดับสถานีอนามัย 7,750 แห่งทั่วประเทศ เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ทุกแห่ง หลังจากที่ในปีงบฯ 2553 ได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้ว 2,000 แห่งให้บริการประชาชนแล้ว ครอบคลุม 5 ภารกิจหลัก ได้แก่ 1.การรักษาพยาบาล 2.การส่งเสริมสุขภาพ 3.การป้องกันโรค 4.การฟื้นฟูสุขภาพผู้เจ็บป่วยและ 5.การคุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภคทั้งเรื่องอาหาร ยา เครื่องสำอาง ตามนโยบายรัฐบาลและ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สธ. โดยตั้งเป้าให้ทุกจังหวัดพัฒนาให้แล้วเสร็จทุกแห่ง ภายในเดือนมี.ค. 2554 นี้โดยได้กำชับผู้ตรวจราชการทุกเขตขอให้ติดตามเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ในด้านการพัฒนาบุคลากรรองรับภารกิจบริการดังกล่าว ในปีนี้ได้เพิ่ม หลักสูตรอบรมใหม่อีก 4 หลักสูตร ได้แก่ 1.การดูแลผู้ป่วยที่อยู่ระยะสุดท้ายชีวิต 2.การควบคุมโรค 3.การจัดบริการแพทย์ฉุกเฉินในชุมชน และ 4.การรักษาโรคในชุมชน จากเดิมในปี 2553 ได้จัดทำหลักสูตรพัฒนาแล้ว 11 หลักสูตร ประกอบด้วย หลักสูตรพื้นฐาน 6 หลักสูตร ได้แก่ 1.หลักสูตรการดูแลครอบครัว 2.ดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง 3.ทันตสุขภาพชุมชน 4.การส่งเสริมสุขภาพแนวใหม่เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ 5.การคุ้มครองผู้บริโภค 6.การบริหารจัดการองค์กร หลักสูตรเฉพาะ 5 หลักสูตร ได้แก่ 1.การฟื้นฟูผู้เจ็บป่วยในชุมชน 2.การดูแลผู้สูงอายุแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น 3.การจัดบริการแพทย์แผนไทย 4.การให้บริการคำปรึกษา 5.การดูแลสุขภาพอนามัยวัยเจริญพันธุ์ นพ.ไพจิตร์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ สธ. ยังได้จัดทำเกณฑ์การพัฒนา รพ.สต. ให้มีมาตรฐานบริการประชาชนที่สูงขึ้น โดยกำหนดกรอบอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนให้ใกล้ชิดมากขึ้น ดังนี้ กำหนดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 1 คนดูแลประชากรเฉลี่ย 1,250 คน พยาบาลวิชาชีพดูแลประชากร 1 ต่อ 5,000 คน แพทย์ดูแลประชากร 1 ต่อ 10,000 คน โดยในปี 2554 นี้ สธ. จะพัฒนา รพ.สต. ให้ผ่าน เกณฑ์โรงพยาบาล 3 ดี คือ 1.มีบรรยากาศดี 2.บริการดี และ 3.ระบบบริหารจัดการดี ให้ได้ร้อยละ 50 เพื่อให้ประชาชนพึงพอใจยิ่งขึ้น emo28:win: emo28:win: emo28:win: |