Cmadong Chula

เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น => ห้องสนทนาประสาพี่น้อง => ข้อความที่เริ่มโดย: Samrotri2517 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 08:14:42



หัวข้อ: ลาออกเถอะ 'นที ศุกลรัตน์'
เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 08:14:42

                        ถามหาจริยธรรมกทช. 'นที'
                   ขอขอบคุณเวบไทยรีเซนต์ดอทคอม
                 วันเสาร์ ที่ 02/10/2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
              http://thairecent.com/IT/2010/726014/ (http://thairecent.com/IT/2010/726014/)

                (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9n1bi-a2ecb3.jpg)

            พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกทช. ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สังคมไทยถูกปั่นกระแส 3G โดยการชี้นำของกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่งอาศัยสื่อบางค่ายที่ได้รับผลประโยชน์จากงบโฆษณา การจัดกิจกรรม การถ่ายทอดสด บิดเบือนข้อมูลสร้างความคาดหวังกับ 3G ให้คนในสังคมแบบผิดๆ ประเภท 3G เป็นยิ่งกว่ายาวิเศษ หากมี 3G จะทำให้ GDP ไทยโตหลายแสนล้าน หากไทยไม่มี 3G จะล้าหลังลาว เขมร พม่า

           ประมาณว่า 3G เหมาะสมกับคนทุกเพศทุกวัย ทุกหย่อมหญ้า ไม่เว้นพ่อค้าแม่ค้าที่ขายก๋วยเตี๋ยว หรือ ขายกล้วยแขกหน้าปากซอย ก็ต้องใช้ 3G ทั้งๆ ที่ 3G ถือเป็นบริการเสริมประเภทข้อมูลความเร็วสูง เหมาะกับการใช้งานของคนบางกลุ่มเท่านั้น ไม่ใช่บริการที่เป็นลักษณะแมส ตอบสนองกลุ่มคนทุกชนชั้นในสังคม เหมือนบริการ 2G ที่แพร่หลายครอบคลุมทั่วประเทศในขณะนี้

           ความสับสน การบิดเบือน และการชี้นำ 3G ที่ผิดพลาด จะไม่เกิดขึ้น หากคนที่จัดการหรือรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงอย่าง พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกทช.จะมี 'คุณธรรม วินัย ยุติธรรม' ที่สูงกว่านี้ เพราะเนื้อแท้ของปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การไม่รู้อำนาจหน้าที่ของตนเองว่าทำอะไรได้บ้าง หรือไม่สมควรทำอะไรบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องความแม่นยำในข้อกฏหมายที่ชัดเจน

          คำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ควรจะเป็นการสิ้นสุดของกระบวนการปั่นกระแส และควรสำนึกได้แล้วว่ากทช.ที่ดีควรทำอะไร

          การเดินหน้าประมูล 3G ที่ผ่านมาเมื่อพิจารณาให้ถี่ถ้วนจะเห็นว่าเป็นเกมลักไก่ จัดประมูลความถี่ 2.1GHz แต่อ้างกับสาธารณะว่าเป็นการประมูล3G เพราะเนื้อแท้รู้อยู่แล้วว่ากทช.ไม่สามารถจัดประมูลความถี่หรือจัดสรรคลื่นความถี่ได้ โดยคำสั่งศาลปกครองสูงสุดยังชี้ชัดว่า 'ไม่มีคณะกรรมการร่วมจัดทำแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่และตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ ตลอดจนจัดสรรคลื่นความถี่ระหว่างคลื่นความถี่ที่ใช้ในกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และกิจการวิทยุโทรคมนาคมจึงไม่เกิดขึ้น หรือหมายถึงการไม่มีกรรมการร่วมระหว่างกทช.กับกสช. ประกาศฯจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย'

          หมายความว่ากทช.ทั้งคณะไม่รู้เลยหรือว่า ตัวเองไม่มีอำนาจจัดสรรหรือจัดประมูลคลื่นความถี่ได้ ซึ่งหากไม่รู้อำนาจหน้าที่ตัวเอง ก็สมควรลาออกไปทั้งคณะ แต่หากยังทนอยู่กันต่อไป ก็ไม่ได้แปลว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยจะเกิดสุญญากาศเหมือนที่พยายามสร้างภาพกันตอนอุทธรณ์คำสั่งศาล เพราะกทช.มีอำนาจหน้าที่สารพัดที่ไม่เกี่ยวกับการจัดสรรความถี่ใหม่

          นอกจากนี้ศาลยังเห็นว่า 'การปล่อยให้ประมูล 3G หากต่อมาศาลมีคำวินิจฉัยว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมายย่อมก่อให้เกิดความเสียหายที่มากกว่าและยากกว่าในการเยียวยาแก้ไขภายหลังโดยอาจเกิดกรณีฟ้องร้องเกี่ยวกับผลการประมูลทำให้เกิดปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนตามมา'

         รวมทั้ง 'การที่ขณะนี้ยังไม่มีการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 3G ไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ หรือแก่การบริการสาธารณะแต่อย่างใด นอกจากนี้ แม้การดำเนินกิจการตามอำนาจหากจะเป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่การดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์สาธารณะก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความชอบด้วยกฎหมายด้วย '

        การเร่งรีบจัดประมูลความถี่ 2.1 GHz ของกทช.ให้ได้ มีเหตุผล 2-3 ประการที่ไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง เช่น

มีกรรมการกทช.หมดอายุ 3 คนในสิ้นเดือนก.ย.ทำให้สภาพกทช.กลายเป็นคณะกรรมการที่พิกลพิการ

มีกรรมการบางส่วนรักษาการทำให้ความสง่างาม หรือจริยธรรมบกพร่องลงไป หรือ

ร่างพ.ร.บ.กสทช.กำลังงวดเข้ามาซึ่งทั้ง 2 สภาได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมแล้ว หรือ

การตกปากรับงานในตอนแสดงวิสัยทัศน์ทั้งแบบเปิดเผยและไม่เปิดเผยกับวุฒิสมาชิกบางส่วน
เพื่อขอแรงสับสนุน กทช.เพื่อแลกกับการผลักดัน 3G โดยเร็ว

ประเด็นคือต้องรีบทำทุกอย่างเพื่อประมูล 3G ให้ได้ในเดือนก.ย. เพราะมีเส้นตายขีดไว้ล่วงหน้า

          สิ่งที่ไม่ชอบธรรมยิ่งสำหรับประชาคนไทยคือความพยายามปั่นกระแสว่าประเทศไทย ไม่มี 3G ต้องล้าหลังอายเพื่อนบ้าน ลาว เขมร ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าสื่อในเครือเนชั่น ตอบสนองกทช. เต็มที่ พอไม่ได้ประมูล 3G ก็ออกอาการจะเป็นจะตายเสียให้ได้ โดยเชียร์กันยกค่ายชนิดที่ว่า กทช.แถลง 3Gที่ไหนอย่างไรต้องยกรถโอบีไปถ่ายทอดสดถึงหัวบันไดทุกนัด แถมการแถลงข่าวจัดงาน 3.9 G HUMAN D.N.A และงานประมูลที่เตรียมการที่ เอวาซอน หัวหินก็เรียกใช้ผู้ประกาศข่าวสาวจากเนชั่นทีวี 'จอมขวัญ หลาวเพ็ชร' เลยทีเดียว

          ไม่แค่นั้น พอ กทช.ไม่สามารถจัดประมูลความถี่ 2.1 GHz ได้จากการฟ้องร้องของ กสท กระบวนการเอาคืนก็เกิดขึ้น โดยสื่อค่ายนี้เปิดโปงกระบวนการซื้อฮัทช์ของ กสท โดยหวังจะล้มโครงการนี้ให้ได้ ทั้งๆที่ผ่านการพิจารณาจาก ครม.และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว

         การปั่นหัวว่าไทยล้าหลังกว่าเพื่อนบ้านนั้นถือเป็นเรื่องหลอกเด็ก เพราะประเทศเหล่านั้นไม่มีการลงทุนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 2G ได้ดีและครอบคลุมทุกหย่อมหญ้าเหมือนประเทศไทย แต่เมื่อประเทศเหล่านั้นต้องลงทุนจึงขยับไปหาเทคโนโลยีที่สูงกว่าอย่าง 3Gเหมือนอย่างในประเทศเกาหลี ในขณะที่เทคโนโลยี GSM ครองโลก เกาหลีเลือกที่จะไป CDMA จนสร้างชื่อไปทั่วโลก หรือญี่ปุ่นที่เลือกจะใช้เทคโนโลยีเฉพาะและความถี่เฉพาะของตัวเอง

          หากรอยหยักในสมองมีมากสักนิด อาการตีโพยตีพายว่าไม่ได้ประมูล 3G แล้วบิดเบือนว่าประเทศไทยไม่มี 3G ใช้ ก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะไทยยังมี ทีโอที และ กสท ที่มีโครงข่ายพร้อมให้บริการ 3G ในขณะนี้โดย ครม.อนุมัติให้ทีโอที ขยายโครงข่าย 3G อีก 1.9 หมื่นล้านบาท ส่วน กสท อยู่ระหว่างซื้อฮัทช์และลงทุน CDMA เพิ่มเพื่อรวมเป็นโครงข่ายเดียวให้บริการ 3G ทั่วประเทศเช่นกัน

          หากประเทศไทยเป็นนิติรัฐจริง ไม่จำเป็นต้องประมูล 3G ให้ใบอนุญาตใหม่กับผู้เล่น 3 รายหน้าเดิมอย่างเอไอเอส ดีแทค ทรูมูฟ ถ้ากทช.ไม่มีอำนาจ แต่ควรรอ กสทช.ชุดใหม่ที่สามารถจัดการปัญหานี้ได้ ประเด็นคือไม่ใช่เรื่องระยเวลา แต่ประเทศนี้จะยึดถือกฏหมายหรือไม่ เพราะ 2 ปีข้างหน้าถ้า กสทช.เกิดจริง ประเทศไทยอาจก้างไปสู่ 4G โดยข้าม 3G ไปเลยก็ได้

          การดันทุรังประมูล 3G ของ กทช.ถือว่าทำให้เกิดความเสียหายแล้ว สมควรที่จะมีการดำเนินการตามกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นการฟ้องอาญา ม.157 หรือการยื่นถอดถอน เพราะใช้เงินไปกว่า 80 ล้านบาท แบ่งเป็น 10 ล้านบาทไปโรดโชว์ต่างชาติมาประมูล 3G ในเอเชีย ตะวันออกกลาง และ ยุโรป แต่ก็ไร้เงาฝรั่งแม้แต่คนเดียวเข้าร่วม แต่ กทช.ก็ยังคงเอาสีข้างเข้าถูกบิดเบือนว่าฝรั่งไม่มาเพราะมีคนปล่อยข่าวให้การประมูลดูมีความเสี่ยง ทั้งที่เป็นน้ำมือของกทช.เองนั่นแหละที่ออกร่างประกาศครอบงำกิจกรรมของคนต่างด้าวมาขวางไว้เอง

          กทช.ยังใช้เงินกว่า 20 ล้านบาทเพื่อจัดงาน 3.9 G HUMAN D.N.A. โดยเหตุผลผักชีโรยหน้าว่าต้องการให้ความรู้แก่ประชาชน นักเรียนนักศึกษาได้รู้ว่า 3.9Gมีดีขนาดไหน ซึ่งงานนี้ผู้ให้บริการที่ส่งบริษัทลูกเข้าร่วมประมูล ทั้ง เอไอเอส ดีแทค ทรูมูฟ และผู้ผลิตอุปกรณ์ตบเท้าเข้าร่วมงานเพราะต้องการทำตัวเป็นเด็กดีแลกกับเค้กก้อนโตที่รออยู่เบื้องหน้า สงสารก็แต่ทีโอทีที่ต้องติดร่างแหจำใจเข้าร่วมงานทั้งที่เนื้อไม่ได้กินแต่ต้องเอากระดูกมาแขวนคอ

      (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9n2g0-45e8ce.jpg)

                              การสื่อสารแห่งประเทศไทย : กสท

         แต่งานนี้ต้องตบมือให้ การสื่อสารแห่งประเทศไทย : กสท ที่หาญกล้าถอนตัวออกจากงาน และสั่งรื้อบูธคืนก่อนวันร่วมงานโดยเหตุผลเห็นว่างานดังกล่าวไม่เกิดประโยชน์ต่อ กสท และเป็นการใช้งบประมาณโดยเปล่าประโยชน์

         กทช.ใช้เงินอีกกว่า 50ล้านบาทสำหรับการดำเนินการประมูลที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะจัดในวันที่ 20-28 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับชาติ เหมือนที่เห็นในภาพยนตร์แอ๊กชั่นชั้นดี ด้วยการจัดสรรงบประมาณ 30 ล้านบาทให้บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเยนซี่ ในฐานะผู้จัดงาน ผู้ทำออร์แกไนซ์ สำหรับค่าใช้จ่ายปิดเอวาซอน 8 วัน ประเภทห้องพักแบบพูล วิลล่า คืนละเกือบ 3 หมื่นบาทพร้อมอาหาร ส่วนอีก 20 ล้านบาท เพื่อการดำเนินการอื่นเช่นการติดตั้งสายไฟระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับการประมูล

         สิ่งที่น่าเจ็บใจสำหรับเงินภาษีอากร ที่ถูกใช้แบบสุรุยสุร่ายไม่เกิดประโยชน์คือความไม่รู้ร้อนรู้หนาวของ 'นที' ที่ไม่ยอมรับความผิดที่เกิดขึ้น แต่กลับมองว่าไม่สามารถเรียกร้องได้ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะตั้งแต่กระบวนการประมูล 3G เริ่มต้น มีคนฟ้อง กทช. 3 รายแต่ศาลไม่รับฟ้อง แต่พอ กสท ฟ้อง ศาลกลับให้ระงับการประมูล

                     emo47 emo47 emo47

         นาทีนี้ถือว่าท่าทีของ 'นที' ไม่ใช่เรื่องคาดไม่ถึง เพราะเสียเวลาที่จะถามหาจริยธรรมในตำแหน่ง กทช. เพราะก่อนหน้านี้ พนักงานทีโอที ได้ร้องเรียนไปปปช.เกี่ยวกับ 'นที' ใน 3 เรื่องเกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรมในสมัยที่เคยรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที และเป็นกรรมการบอร์ดทีโอที

1.คือไร้จริยธรรม โดยอาศัยช่องว่างกฎหมาย เปลี่ยนเรื่องเบี้ยประชุมกรรมการบอร์ดทีโอที จากรับเป็นเดือน ให้กลายเป็นเงินรางวัลสำหรับการประชุมบอร์ดและจ่ายทุกครั้งที่ประชุม รวมแล้ว 'นที' รับไป 1.4 ล้านบาท

2.ไม่มีสิทธิรักษาการตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที เพราะขัดกับพรบ. คุณสมบัติพนักงานรัฐวิสาหกิจ ปี 2518 และ

3.ตอนรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที แต่งตั้งผู้จัดการฝ่ายกฎหมายโทรคมนาคม ทั้งๆที่ขาดคุณสมบัติ โดยภายหลังผู้จัดการคนนี้ปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้ทีโอทีเกิดความเสียหาย

                           ลาออกเถอะ 'นที ศุกลรัตน์'

                                emo28:win: emo28:win: emo28:win:


หัวข้อ: Re: ลาออกเถอะ 'นที ศุกลรัตน์'
เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 05 ตุลาคม 2553, 08:08:35

                        กลุ่มจับตานโยบายรัฐบาลไล่บี้กทช.ลาออกเซ่น3จีล่ม
                    ขอขอบคุณเวบอุดรโซน วันจันทร์ 4 ต.ค.2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว

http://news.udonzone.com/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5.html (http://news.udonzone.com/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5.html)

        กลุ่มจับตานโยบายรัฐบาลเรียกร้อง กทช. ผู้รับผิดชอบประมูล 3จี ลาออก พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย 80 ล้านบาท ชี้ควรทำหน้าที่สำคัญ คือ เร่งดันนัมเบอร์พอร์ตฯ ควบยูเอสโอให้คลอด…

               (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9slho-956afd.jpg)

        วันที่ 4 ต.ค. นายประชา คุณธรรมดี อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวภายในงานแถลงข่าวในโครงการ Policy Watch (กลุ่มจับตานโยบายรัฐบาล) ปีที่ 2 ในหัวข้อ “เราควรเรียนรู้อะไรจากเรื่อง 3 จี” ว่า

        คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ นั้นควรมีส่วนรับผิดชอบ โดยการลาออก และรับผิดชอบในเรื่องจำนวนเงิน 80 ล้านบาท ที่ได้ใช้หมดไปกับการเตรียมการประมูล 3 จี ซึ่งอาจเป็นการรับผิดชอบทางแพ่ง ชดใช้ค่าเสียหาย จากที่ผ่านมา กทช.มีเพียงการออกมากล่าวขอโทษประชาชนเท่านั้น

         อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มธ. กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่ากระบวนการพิจารณาของศาลปกครองอาจจะยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากต้องรอคำตัดสินก่อนก็ตาม การลาออกของ กทช.เป็นการแสดงออกถึงธรรมาภิบาลที่มีอยู่ และหากสุดท้ายแล้วศาลปกครองมีคำสั่งออกมาว่า กทช.มีอำนาจในการดำเนินการจัดการประมูล 3จี จริง ก็อาจจะใช้วิธีการเยียวยาให้แก่ กทช.ที่ได้ลาออกไปเพื่อรับผิดชอบกับเรื่องดังกล่าว

        “ถ้า กทช.ยุติบทบาทไปเลยค่อนข้างอันตราย โดยระยะเวลาที่เหลืออยู่ควรกำกับดูแลให้เต็มที่ ต้องยอมรับว่าอีกไม่นาน กทช.ก็ต้องหมดวาระไปอีก 3 คน ดังนั้นการรับผิดชอบแบบรายบุคคล โดยการลาออกก็น่าสนใจ รวมถึงการรับผิดชอบตัวเงินที่ต้องสูญเสียไป ซึ่งถ้าผมอยู่ในหน่วยงานที่ดำเนินเรื่องนโยบาย ถ้านำต้นทุนประเทศมาใช้ก็จะต้องลาออก” นายประชากล่าว

        อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของ กทช.ที่สามารถทำได้ ขณะนี้ คือการผลักดันบริการคงสิทธิเลขหมาย หรือ นัมเบอร์พอร์ตทิบิลิตี้ และการให้บริการพื้นฐานอย่างทั่วถึง หรือ ยูเอสโอ (USO) ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยเร็วที่สุด โดยถือเป็นการบ้านชิ้นสำคัญที่ทำให้ กทช.จบลงด้วยความสง่างาม ขณะเดียวกัน กทช. ควรที่จะเผยแพร่ข้อเท็จจริงกรณี การจ้างที่ปรึกษาต่างประเทศ การดำเนินการจัดประมูล 3 จี ให้สาธารณชนได้ทราบด้วยเช่นกัน

         สำหรับ การผลักดันให้ประเทศไทยมีบริการ 3จี เกิดขึ้น นั้นมองว่าการส่งเสริมการลงทุนในโครงการ 3จี บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) น่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า การให้เอกชนพัฒนาโครงข่ายบนคลื่นความถี่เดิมเพื่อให้บริการ 3 จี เพราะต้องยอมรับว่าจากอายุสัมปทานที่เหลือของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือแต่ละรายที่เหลืออยู่น้อย ทำให้เอกชนขาดแรงจูงใจ ดังนั้น ควรทำคู่ขนานกับส่งเสริมให้การขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ บรอดแบนด์ และอินเทอร์เน็ตไร้สาย หรือ ไวไฟ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

         อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มธ. กล่าวด้วยว่า ข้อเสนอของกลุ่มจับตานโยบายรัฐบาล นั้น รัฐบาลควรพิจารณาใน 3 เรื่อง คือ

1.การแปรสัญญาสัมปทานระบบ 2 จีเป็นใบอนุญาต และ

2.มีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับผู้ประกอบการรายใหม่ โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นผู้ประกอบการไทย ควรกำหนดการให้บริการยูเอสโอในรูปแบบที่หลากหลาย และ

3.ร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ…. หรือ พ.ร.บ. กสทช. ควรกำหนดจำนวนคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ไม่ให้มากจนเกินไปและต้องเน้นผู้ที่มีความชำนาญด้านเทคโนโลยี ผู้ที่สามารถกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินนโยบายที่ดีได้

         emo26:D emo26:D emo26:D


หัวข้อ: Re: ลาออกเถอะ 'นที ศุกลรัตน์'
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 05 ตุลาคม 2553, 13:10:20
อ่านแล้ว..
รู้สึกว่าตีกะกระทู้ 3Gอุตลุตคะพี่หมอสำเริง
ไม่รู้จะเชื่อใครดี..
 


หัวข้อ: Re: ลาออกเถอะ 'นที ศุกลรัตน์'
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 05 ตุลาคม 2553, 13:22:45
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 05 ตุลาคม 2553, 13:10:20
อ่านแล้ว..
รู้สึกว่าตีกะกระทู้ 3Gอุตลุตคะพี่หมอสำเริง
ไม่รู้จะเชื่อใครดี..
 

เชื่อหมอสำเริง แน่นอนที่สุด หนุงหนิง
ไอ้ด๊อกเฮงซวยนี้ มันแย่จริง เขารู้กันทั้งวงการ


หัวข้อ: Re: ลาออกเถอะ 'นที ศุกลรัตน์'
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 05 ตุลาคม 2553, 13:38:28
ทำ 2Gให้ถูกลงดีกว่าพี่ตะวัน
ก่อนจะไป 3G.
ที่โน่นเค้ายังไม่แพร่หลายที
รับได้ไม่ทุกที่ แถมแพงค่ะ..
คนไม่เล่นด้วย!
ข้อดีคืออะไรที่เป็นนวตกรรมใหม่ออกมา
จะทำให้ของเก่าที่ใช้อยู่...ถูกลงเรื่อยๆ
หนิงว่าดีต่อผู้บริโภคคะ


หัวข้อ: Re: ลาออกเถอะ 'นที ศุกลรัตน์'
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 05 ตุลาคม 2553, 16:06:50
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 05 ตุลาคม 2553, 13:38:28
ทำ 2Gให้ถูกลงดีกว่าพี่ตะวัน
ก่อนจะไป 3G.
ที่โน่นเค้ายังไม่แพร่หลายที
รับได้ไม่ทุกที่ แถมแพงค่ะ..
คนไม่เล่นด้วย!
ข้อดีคืออะไรที่เป็นนวตกรรมใหม่ออกมา
จะทำให้ของเก่าที่ใช้อยู่...ถูกลงเรื่อยๆ
หนิงว่าดีต่อผู้บริโภคคะ


ที่จีน ก็เหมือนกันครับพี่
3G มี แต่คนยังใช้แค่ GPRS  ในการใช้งาน internet อยู่ครับ  เพราะราคายังแพง



หัวข้อ: Re: ลาออกเถอะ 'นที ศุกลรัตน์'
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 17:03:03
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 05 ตุลาคม 2553, 16:06:50
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 05 ตุลาคม 2553, 13:38:28
ทำ 2Gให้ถูกลงดีกว่าพี่ตะวัน
ก่อนจะไป 3G.
ที่โน่นเค้ายังไม่แพร่หลายที
รับได้ไม่ทุกที่ แถมแพงค่ะ..
คนไม่เล่นด้วย!
ข้อดีคืออะไรที่เป็นนวตกรรมใหม่ออกมา
จะทำให้ของเก่าที่ใช้อยู่...ถูกลงเรื่อยๆ
หนิงว่าดีต่อผู้บริโภคคะ


ที่จีน ก็เหมือนกันครับพี่
3G มี แต่คนยังใช้แค่ GPRS  ในการใช้งาน internet อยู่ครับ  เพราะราคายังแพง


แม่นแล้ว ข้อยเห็นด้วยอย่างแรง