Cmadong Chula

เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย => รุ่น 2522 => ข้อความที่เริ่มโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 สิงหาคม 2553, 10:32:31



หัวข้อ: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 สิงหาคม 2553, 10:32:31
เมื่อวานเห็นคุณแหลมแกเสนอว่าน่าจะเปิดกระทู้เรื่องจีนๆขึ้นมาบ้าง ในฐานะเราก็ศิษย์เก่าจีน คุณแหลมก็ศิษย์เขยจีน เลยรับภาระไปขุดๆที่เขาเอามาแปะไว้ที่อื่น มาโปะที่นี่ตามระเบียบ จะพยายามจัดหาแบบจีนๆมาให้เป็นแบบไทยๆให้มากที่สุด

เริ่มต้นด้วยวันนี้ละกัน เพราะวันนี้คือเทศกาลสารทจีน เชื่อว่าหลายคนคงได้ฟังเสียงประทัดแบบประเภทไม่ต้องแคะหูไปหลายวันแน่

สารทจีน : เทศกาลสำคัญที่กำลังลบเลือน

สารท จีน เป็นเทศกาลสำคัญทั้งของลัทธิขงจื๊อ พุทธศาสนา ศาสนาเต๋า และชาวบ้าน ในอดีตเป็นเทศกาลใหญ่มาก แต่ปัจจุบันลดความสำคัญลง นอกจากในวัดพุทธและวัดเต๋าแล้ว แพร่หลายอยู่ในหมู่ชาวบ้านจีนภาคใต้ ตั้งแต่มณฑลหูเป่ย อานฮุย เจ้อเจียง ลงมาจนถึงกวางตุ้ง กวางสี ยูนนาน ในหมู่ชาวจีนแคะ กวางตุ้ง ฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว และไหหลำ ยังคงเป็นเทศกาลใหญ่ เป็น ๑ ใน ๘ เทศกาลสำคัญประจำปีของจีนแต้จิ๋ว ในไทยสารทจีนเป็นเทศกาลจีนสำคัญอันดับ ๒ รองจากตรุษจีนเท่านั้น
 
เทศกาล นี้มีชื่อเป็นทางการว่า "จงหยวนเจี๋ย" (中元节) แต้จิ๋วว่า "ตงหง่วงโจ็ย" แต่ชื่อทั่วไปนิยมเรียกว่า " " แต้จิ๋วอ่านว่า "ชิกว็วยะปั่ว" แปลว่า "(เทศกาล) กลางเดือน ๗" นอกจากนี้ยังมีชื่อที่นิยมเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "กุ่ยเจี๋ย ( กุ๋ยโจ็ย)" แปลว่า "เทศกาลผี" ชื่อทั้งสามนี้ถ้าคุยกับคนจีนภาคใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน ทุกคนจะรู้จักดี แต่คนปักกิ่งจะไม่รู้จักเลย เพราะเทศกาลนี้ปัจจุบันชาวบ้านจีนภาคเหนือไม่ได้ทำแล้ว คงเหลือแต่ในวัดพุทธและเต๋าเท่านั้น
 
คำ "จงหยวน " ที่เป็นชื่อเทศกาลนี้เป็นคนละคำกับ "จงหยวน " ซึ่งหมายถึง "ดินแดนลุ่มแม่น้ำฮวงโหตอนกลางและตอนล่างอันเป็นศูนย์กลางอารยธรรมจีน" จงหยวนที่เป็นชื่อเทศกาลได้มาจากชื่อเทพประจำเทศกาลนี้ของศาสนาเต๋า
 
ศาสนา เต๋ามีเทพสำคัญประจำฟ้า ดิน และแม่น้ำ อยู่ ๓ องค์เป็นพี่น้องกัน เรียกรวมกันว่า "ซานกวน ( ซำกัว)" แปลว่า "สามขุนนาง" แต่หมายถึงขุนนางผู้ใหญ่ระดับมหาเสนาหรือเสนาบดีของสวรรค์ จึงขอแปลเอาความว่า "ตรีมหาเสนา" องค์โตประจำท้องฟ้า จึงเรียกว่า "เทียนกวน ( เทียนกัว-นภเสนา)" มีหน้าที่ประทานโชค เป็นเทพแห่ง "ฮก (โชควาสนา)" องค์รองประจำแผ่นดิน (แต่ไม่ใช่พระธรณีหรือเจ้าที่) จึงเรียกว่า "ตี้กวน ( ตี่กัว-ธรณิศเสนา)" มีหน้าที่ประทานอภัยโทษ องค์เล็กประจำท้องน้ำ จึงเรียกว่า "สุ่ยกวน ( จุ๋ยกัว-สินธุเสนา)" มีหน้าที่ขจัดทุกข์ภัย วันเทวสมภพของอธิบดีเทพทั้ง ๓ องค์นี้คือกลางเดือนอ้าย กลางเดือน ๗ และกลางเดือน ๑๐ ตามลำดับ วันกลางเดือนพระจันทร์เต็มดวง ภาษาจีนเรียกว่า "หยวนเย่ (圆月)" แปลว่า "คืนเพ็ญ" สมัยโบราณอักษร圆 กับ 元ใช้แทนกันได้ อักษร 元 ยังมีความหมายว่า "หัวหน้า อธิบดี" อีกด้วย ฉะนั้นจึงเรียกวันกลางเดือนอ้ายอันเป็นวันเทวสมภพของเทพซ่างกวน (นภเสนา) ว่า "ซ่างหยวน เสี่ยงง้วง" แปลว่า "เพ็ญแรก" เพราะเป็นคืนเพ็ญคืนแรกของปี วันกลางเดือน ๗ อันเป็นวันเทวสมภพของเทพตี้กวน (ธรณิศเสนา) เรียกว่า "จงหยวน ( ตงง้วง)" แปลว่า "เพ็ญกลาง" เพราะเป็นวันเพ็ญแรกของกลางปี (ครึ่งปีหลัง) วันกลางเดือน ๑๐ อันเป็นวันเทวสมภพของเทพสุ่ยกวน (สินธุเสนา) เรียกว่า "เซี่ยหยวน ( เหี่ยง้วง)" แปลว่า "เพ็ญล่าง" หรือ "เพ็ญปลาย" เพราะเป็นวันเพ็ญแรกของฤดูหนาว (เดือน ๑๐-๑๒) อันเป็นฤดูท้ายของปี และใช้ชื่อคืนเพ็ญทั้งสามเป็นชื่อเรียกเทพ ๓ องค์นี้อีกชื่อหนึ่งด้วยว่าเทพซ่างหยวน เทพจงหยวน เทพเซี่ยหยวน เรียกรวมกันว่า "ซานหยวนต้าตี้ ( ซำง้วงไต้ตี้)" แปลว่า "ตรีเพ็ญอธิบดี" หรือ "ซานกวนต้าตี้ ( ซำกัวไต้ตี้)" แปลว่า "ตรีมหาเสนาธิบดี"


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 สิงหาคม 2553, 10:36:08
วันเทศกาลสารทจีนคือวันเทวสมภพของเทพจงหยวน จึงเรียกว่า "จงหยวนเจี๋ย (ตงหง่วงโจ็ย)" แปลว่า เทศกาลเทพจงหยวน ตรงกับวันกลางเดือน ๗ จึงเรียกว่า "ชีเย่ว์ปั้น ( ชิกว็วยะปั่ว) หมายถึงเทศกาลกลางเดือน ๗ แต่เทศกาลนี้มีกิจกรรมเกี่ยวเนื่องตั้งแต่ต้นจนถึงสิ้นเดือน ๗ คือวัน ๑ ค่ำ เป็นวัน "เปิดยมโลก" ให้ผีทั้งหลายออกมารับการเซ่นสังเวย วัน ๑๕ ค่ำ เป็นวันไหว้ใหญ่ทั้งผีบรรพชนและผีไม่มีญาติ วันสิ้นเดือน ๗ (๓๐ ค่ำ หรือแรม ๑๕ ค่ำ) เป็นวัน "ปิดประตูยมโลก" ผีทั้งที่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิดต้องกลับเข้ายมโลก วันต้นเดือน สิ้นเดือน มีพิธีไหว้ด้วย และมีพิธีทิ้งกระจาดอุทิศส่วนกุศลให้เปตชนครั้งใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของเดือน  ๗ อีกต่างหาก กิจกรรมทั้งหมดล้วนแต่เกี่ยวกับผี คนจีนจึงถือว่าเดือน ๗ เป็น "เดือนผี" และเทศกาลกลางเดือน ๗ คือ "เทศกาลผี" แต่ที่คนไทยเรียกสารทจีนเพราะวันนี้ใกล้กับวันสารทไทย อีกทั้งอยู่ในช่วงต้นฤดูสารทหรือชิวเทียน ( Autumn) ของจีนอีกด้วย
 
เทศกาล จงหยวนมีที่มาจากประเพณีจีนโบราณ คือวันอุลลัมพนบูชาของพุทธศาสนาและความเชื่อของศาสนาเต๋ารวมกันอย่างกลมกลืน  วัฒนธรรมประเพณีจีนโบราณเป็นที่มาของลัทธิขงจื๊อและคตินิยมพื้นฐานของคนจีน ตลอดมา ลัทธิขงจื๊อจึงเป็นศาสนาสำคัญที่สุดของจีนไปโดยปริยาย แต่ก็เข้ากันได้กับศาสนาพุทธและศาสนาเต๋าซึ่งเข้ามาแพร่หลายและเกิดขึ้นใน ภายหลัง จนในวิถีชีวิตคนจีนมีอิทธิพลของ ๓ ศาสนานี้อยู่คละเคล้ากันไป
 
ตาม ประเพณีจีนโบราณมีพิธีเซ่นไหว้ฟ้าดินและบรรพบุรุษทั้ง ๔ ฤดู คือ ฤดูวสันต์ (ใบไม้ผลิ) คิมหันต์ (ร้อน) สารท (ใบไม้ร่วง) และเหมันต์ (หนาว) ในคัมภีร์หลี่จี้ ( คัมภีร์วัฒนธรรมประเพณี) ซึ่งบันทึกประเพณีสมัยราชวงศ์โจว (ก่อน พ.ศ. ๕๐๓-พ.ศ. ๓๒๒) บรรพ "เทศกาลประจำเดือน" กล่าวว่า "เดือน ๗ ข้าวสุกเก็บเกี่ยวได้ โอรสสวรรค์ชิมข้าวใหม่ โดยนำไปบูชาที่ปราสาทเทพบิดรก่อน" อีกตอนหนึ่งกล่าวว่า "เดือน ๗ วันลี่ชิว (เริ่มฤดูสารท) โอรสสวรรค์นำสามนตราช สามมหาเสนาบดี มนตรีทั้งเก้า มุขอำมาตย์ราชเสนา ไปทำพิธีรับฤดูสารทที่ชานเมืองด้านตะวันตก...เซ่นสรวงเทพประจำฤดูสารทอัน เป็นเทพแห่งมรณะ" ลี่ชิวเป็นชื่อปักษ์หนึ่งใน ๒๔ อุตุปักษ์ตามระบบปฏิทินจีนเก่า


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 สิงหาคม 2553, 10:38:42
ปฏิทินจีนเก่ามี ๒ แบบ คือ ปฏิทินจันทรคติมีเดือนละ ๒๙-๓๐ วัน ๑ ปี ๑๒ เดือน ๓๕๔ วัน ปฏิทินสุริยคติปีหนึ่งมี ๔ ฤดู ฤดูละ ๓ เดือน เดือนละ ๒ ปักษ์ ตามลักษณะอากาศจึงเรียกว่าอุตุปักษ์ ปีหนึ่งมี ๒๔ ปักษ์ ๓๖๕ วัน เดือนตามปฏิทินจันทรคติอาจคลาดเคลื่อนกับฤดูได้ ภายหลังจึงใช้ระบบอธิกมาส (เพิ่มเดือน) และอธิกวาร (เพิ่มวัน) ที่คนจีนเรียกว่า "ญุ่น " กำกับ ระบบอธิกมาสของไทยเพิ่มเฉพาะเดือน ๘ แต่ของจีนมีหลักต่างออกไป ไม่ได้เพิ่มเฉพาะเดือน ๘ เช่น ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ นี้ ปฏิทินจีนมีเดือน ๗ สองหน เรียกว่า "ญุ่นชี ( หยุ่งฉิก-เพิ่มเดือน ๗) การใช้ระบบอธิกมาส อธิกวารทำให้ฤดูกับเดือนตรงกันทุกปี คือ เดือน ๑-๓ ฤดูใบไม้ผลิ เดือน ๔-๖ ฤดูร้อน เดือน ๗-๙ ฤดูสารท เดือน ๑๐-๑๒ ฤดูหนาว วันลี่ชิวคือวันเริ่มฤดูใบไม้ร่วง จะตรงกับวันที่ ๗ หรือ ๘ สิงหาคม แต่จะตรงกับวันกี่ค่ำเดือน ๗ นั้น แล้วแต่ช่วงคลาดเคลื่อนของจันทรคติ (การนับค่ำ-เดือน) กับสุริยคติ (การนับฤดูและ ๒๔ อุตุปักษ์) ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ นี้ วันลี่ชิวตรงกับวันที่ ๘ สิงหาคม ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ซึ่งเป็นวันเทศกาลจงหยวน หรือวันสารทจีนพอดี
 
ตามความเชื่อจีนโบราณ เดือน ๗ เป็นทั้งเดือนดีและเดือนร้าย เพราะข้าวเริ่มเก็บเกี่ยวได้ นำผลแรกได้ (ข้าวใหม่) ไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษก่อน แต่เทพประจำเดือน ๗ เป็นเทพแห่งความตายจึงต้องเซ่นสรวงต่างหากออกไป ทั้งยังมีความเชื่ออีกว่ามีผีร้ายร่อนเร่เรียกว่า "ลี่ ( )" ไม่มีญาติเซ่นไหว้ พอถึงฤดูสารทซึ่งผู้คนนำผลแรกได้เซ่นไหว้บรรพบุรุษ ผีพวกนี้จะคอยมาแย่งกินของไหว้หรือไม่ก็ทำร้ายผู้คนด้วยความหิวโหย ฉะนั้นพอถึงฤดูสารทจึงต้องเซ่นไหว้ทั้งบรรพชนและผีไม่มีญาติแยกกัน ประเพณีนี้ปฏิบัติกันในหมู่ชนทุกชั้นทั้งกษัตริย์ ขุนนาง ไพร่บ้านพลเมือง ความเชื่อว่าเดือน ๗ เป็นเดือนผีคงมีมาตั้งแต่โบราณ ต่อมาในยุคหลัง "ลี่" เป็นชื่อพญาผีผู้เป็นหัวหน้าของผีร้ายทั้งปวง การเซ่นไหว้เดือน ๗ ในยุคโบราณคงทำในวันลี่ชิวหรือไม่ก็วันกลางเดือน
 
ต่อมาอิทธิพลพุทธ ศาสนาทำให้การเซ่นไหว้เดือน ๗ มีพัฒนาการไปจากเดิม พุทธศาสนาเข้าสู่จีนรัชกาลพระเจ้าฮั่นหมิงตี้ (พ.ศ. ๖๐๑-๖๑๘) ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (พ.ศ. ๕๕๑-๗๖๐) แพร่หลายในยุคสามก๊ก (พ.ศ. ๗๖๓-๘๐๘) และราชวงศ์จิ้น (พ.ศ. ๘๐๘-๙๖๓) รุ่งเรืองในยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ (พ.ศ. ๙๖๓-๑๑๓๒) สมัยราชวงศ์จิ้นมีผู้แปล "อุลลัมพนสูตร (อ่านว่า อุน-ลัม-พะ-นะ-สูด) ของนิกายโยคาจาร เรื่องในพระสูตรนี้มีอิทธิพลต่อเทศกาลไหว้บรรพบุรุษในเดือน ๗ ของจีนมาก


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 สิงหาคม 2553, 10:41:08
ความตอนหนึ่งในคัมภีร์อุลลัมพนสูตรกล่าวว่า พระโมคคัลลานะเห็นมารดาเกิดเป็นปรทัตตูปชีวีเปรตอดอยากหิวโหย จึงใช้ฤทธิ์นำบาตรข้าวไปส่งให้ เปรตมารดาใช้มือซ้ายประคองบาตร มือขวาเปิบข้าวแต่ยังไม่ทันจะเข้าปากก็กลายเป็นถ่านไปสิ้น พระเถรเจ้าจึงนำความมากราบทูลพระพุทธเจ้า มีพุทธฎีกาตรัสว่า "โยมมารดาของเธอมีบาปหนัก เกินกำลังฤทธิ์และบุญกุศลของเธอเพียงผู้เดียวจะช่วยได้ ต้องใช้บุญฤทธิ์ของสงฆ์จากทั่วทุกสารทิศประมวลกันเป็นมหากุศลจึงจะโปรดมารดา เธอให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงในอบายได้ ตถาคตจะบอกวิธีให้ ในวัน ๑๕ ค่ำกลางเดือน ๗ อันเป็นวันมหาปวารณาออกพรรษา เพื่อโปรดบิดามารดาทั้ง ๗ ชาติในอดีตและบิดามารดาในชาติปัจจุบันให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวง เธอจงจัดภัตตาหารหลากรส ผลไม้นานาชนิด น้ำปานะ ธูปเทียนแลเครื่องไทยทานใส่พานภาชนะเป็นสังฆทานถวายแด่พระสงฆ์จากทุกสารทิศ ด้วยบุญฤทธิ์ที่พระสงฆ์ได้รักษาพรตพรหมจรรย์มาครบถ้วน ๑ พรรษาแลอานิสงฆ์แห่งสังฆทานนี้ บิดามารดาในชาติก่อน ๗ ชาติและบิดามารดาในชาตินี้ตลอดจนวงศาคณาญาติจะพ้นจากอบายภูมิทั้งสาม (นรก เปรต เดรัจฉาน) โดยพลัน หากบิดามารดาในชาตินี้ยังมีชีวิตอยู่ก็จะเกษมสำราญอยู่ถึง ๑๐๐ ปี หากบิดามารดาในชาติก่อนทั้ง ๗ ชาติขึ้นสวรรค์ก็จะเกิดทันทีเป็นโอปปาติกะกำเนิดในสรวงสวรรค์อันเรืองโรจน์"  พระโมคคัลลาน์เถระจึงจัดการทำพุทธบรรหาร มารดาก็พ้นจากอบายภูมิ พระเถรเจ้าจึงทูลว่า "ต่อไปภายหน้าหากลูกหลานผู้มีกตเวทิตาจิตปรารถนาช่วยบิดามารดาให้พ้นจากอบาย แลทุกข์ภัยก็ควรจัดสังฆทานอุลลัมพนบูชาเช่นนี้หรือพระเจ้าข้า" พระศาสดาตรัสตอบว่า "สาธุ"
 
ขอชี้แจงไว้ตรงนี้ว่าช่วงจำพรรษาของพระ สงฆ์ประเทศจีนกับประเทศไทยไม่ตรงกันเ พราะฤดูกาลต่างกัน ภิกษุจีนจำพรรษาช่วงฤดูร้อนซึ่งฝนตกชุก ข้าวกำลังเจริญเติบโต จึงเข้าพรรษากลางเดือน ๔ ต้นฤดูร้อน ออกพรรษากลางเดือน ๗ ต้นฤดูใบไม้ร่วง การจำพรรษาบำเพ็ญสมณกิจอย่างเต็มที่ครบ ๓ เดือน ทั้งได้ทำมหาปวารณาในวันออกพรรษาอย่างสมบูรณ์ ตามคตินิยมของมหายานถือว่าท่านได้บำเพ็ญบุญกุศลไว้เต็มเปี่ยมยิ่งกว่าช่วง อื่นใด หากได้ทำบุญกับท่านในวันมหาปวารณาหรือวันออกพรรษาจะมีอานิสงส์แรงกล้ากว่า วันอื่น อนึ่งพุทธศาสนาถือว่าการทำสังฆทานถวายแด่สงฆ์ส่วนรวมมีอานิสงส์มากกว่าปฏิปุ คลิกทานถวายเจาะจงแด่ภิกษุรูปเดียวหรือหลายรูป แต่ไม่เป็นสังฆทาน ฉะนั้นการทำสังฆทานใหญ่ถวายแด่สงฆ์ในวันออกพรรษาซึ่งท่านทำมหาปวารณาเสร็จมา ใหม่ๆ จึงได้อานิสงส์สูงส่งถึงสามารถโปรดบิดามารดาในอดีตได้ถึง ๗ ชาติ รวมทั้งบิดามารดาในชาติปัจจุบันและวงศาคณาญาติให้พ้นจากอบายและได้ผลานิสงส์ อันดีงามอีกอเนกประการ แต่เน้นที่การช่วยบิดามารดาให้พ้นจากอบายภูมิเป็นสำคัญ
 
ฉะนั้นการ ทำมหาสังฆทานในวันออกพรรษาจึงเรียกว่าอุลลัมพนบูชาหรืออุลลัมพนสังฆทาน "อุลลัมพนะ" เป็นคำสันสกฤตซึ่งปราชญ์ทางพุทธศาสนาของจีนแปลว่า "ช่วยผู้ที่ถูกแขวนห้อยหัวกลับขึ้นมา" โดยอธิบายว่าโทษทัณฑ์ในอบายภูมิทำให้ผู้รับเสวยทุกขเวทนาแสนสาหัสดุจถูกแขวน ห้อยหัวลงมา คำว่า "แขวนห้อยหัว" ซึ่งแปลจากคำว่า "อุลลัมพนะ" นี้ ภาษาจีนว่า "เต้าเสวียน (倒悬)" มีความหมายเชิงอุปมาว่า ทุกข์หรือภัยอันใหญ่ยิ่ง "มหันต (ทุกข์)" "มหันต (ภัย)" ความหมายนี้มีที่มาจากอุลลัมพนสูตร เป็นอิทธิพลภาษาสันสกฤตของพุทธศาสนาต่อภาษาจีนประการหนึ่ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 สิงหาคม 2553, 10:43:07
ศาสนาเต๋าได้เอาคุณธรรมเรื่อง "孝 (กตัญญูต่อพ่อแม่และบรรพชน)" และ "仁 (เมตตากรุณา)" ของลัทธิขงจื๊อเป็นหลัก เอาเรื่องจัดพิธีทางศาสนาเพื่อให้พ่อแม่และบรรพชนพ้นจากบาปและทุกข์ภัยทั้ง ปวงของพุทธศาสนามาประกอบสร้างวันเทศกาลจงหยวนให้ตรงกับวันอุลลัมพนบูชา แต่ให้ความสะดวกกว่าตรงที่ไหว้เทพจงกวนหรือจงหยวนเพียงองค์เดียวก็ทำให้ วิญญาณบรรพชนและผีทั้งปวงพ้นบาปและทุกข์ภัยได้ทั้งหมด เพราะท่านเป็นเทพสูงสุดในการ "อภัยโทษ" อนึ่งตามหลักลัทธิขงจื๊อการเซ่นไหว้บรรพชนในวันเทศกาลต่างๆ ถือเป็นกิจสำคัญของลูกหลานจะงดเว้นมิได้ ประกอบกับสถานะของภิกษุ ภิกษุณีในจีนไม่ได้เป็นที่เคารพมากนัก ศูนย์กลางชุมชนไม่ได้อยู่ที่วัดแต่อยู่ที่ศาลประจำตระกูล ตั้งแต่ราชวงศ์ถังเป็นต้นมา ศาสนาเต๋ารุ่งเรืองแข่งเคียงกับพุทธศาสนา แต่ลัทธิขงจื๊อเป็นแกนกลางของสังคมจีนตลอดมา นานเข้าการอุทิศส่วนกุศลให้บรรพชนและผีอื่นผ่านพระโดยจัดพิธีใหญ่โตอย่างอุ ลลัมพนบูชาก็เสื่อมลง แต่ยังมีอิทธิพลแฝงอยู่ไม่น้อยในกิจกรรมอันเนื่องด้วยสารทจีนเสมอมา
 
ตั้งแต่ ราชวงศ์ถังเป็นต้นมาชื่อ "จงหยวนเจี๋ย (เทศกาลบูชาเทพจงหยวน)" เป็นชื่อทางการของเทศกาลกลางเดือน ๗ หรือสารทจีนตลอดมาจนปัจจุบัน ชาวบ้านจีนนั้นรับกิจกรรมทั้งของพุทธ เต๋า และขงจื๊อมาคัดสรร ผสมผสานจนกลมกลืนกันไป แต่มีจุดมุ่งหมายสำคัญร่วมกันอยู่ที่เซ่นไหว้บรรพชน และอุทิศส่วนกุศลให้ผีไม่มีญาติ ส่วนในวัดพุทธและเต๋าต่างฝ่ายยังรักษากิจกรรมของตนอยู่ไม่ปนกัน
 
ตั้งแต่ ราชวงศ์ซ่ง สังคมเมืองขยายตัว มีตลาดใหญ่ในเมืองต่างๆ เป็นศูนย์กลางการค้า กิจกรรมสังคม และความบันเทิง วันเทศกาลต่างๆ มีเรื่องบันเทิงเข้ามาเกี่ยวข้อง ได้ทั้งบุญกุศลและความสนุกสนาน เทศกาลจงหยวนมีกิจกรรมประกอบเพิ่มขึ้นที่สำคัญคือการลอยโคม มีการละเล่นต่างๆ มหรสพสมโภช สมัยราชวงศ์ซ่งเหนืองิ้วมีรูปแบบชัดเจนขึ้นแม้ยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม แต่หลังจากผ่าน "เทศกาลเจ็ดเจ็ด" คือ ๗ ค่ำ เดือน ๗ (วันแห่งความรักของหนุ่มสาวจีน) แล้วจะมีงิ้วเล่นเรื่อง "พระโมคคัลลาน์โปรดมารดาในนรก" ฉลองเทศกาลจงหยวนไปจนถึงวันกลางเดือน งิ้วเรื่องนี้แต่งตามเค้าเรื่องในอุลลัมพนสูตร เป็นงิ้วที่ "มีเนื้อเรื่องสมบูรณ์เรื่องแรก" ในประวัติการละครจีน เนื้อเรื่องมีรายละเอียดเพิ่มเติมจากพระสูตรว่า พระโมคคัลลาน์เดิมชื่อฟู่หลอปู่ (โป่วหล่อปก) บิดาชื่อฟู่เซี่ยง (โป่วเสี่ยง) มารดาชื่อหลิวชิงถี (เหล่าแชที้) ฟู่เซี่ยงและฟู่หลอปู่มีศรัทธาในศาสนา เคารพนักบวช โดยเฉพาะอย่างยิ่งภิกษุ ภิกษุณี แต่นางหลิวชิงถีเป็นคนบาปหยาบช้า เกลียดชังนักบวชมาก เมื่อบิดาล่วงลับ ฟู่หลอปู่ต้องค้าขายแทน ครั้งหนึ่งก่อนออกไปค้าขายต่างเมืองได้ขอร้องมารดาให้มีศรัทธาเคารพภิกษุ ภิกษุณี นางรับปากแต่กลับร้ายต่อนักบวชทั้งหลายเหมือนเดิม พอบุตรชายกลับมาถามว่าได้ทำตามที่รับปากไว้หรือเปล่า นางสาบานว่าถ้าไม่ได้ทำขอให้ตกอเวจีนรก พญายมจึงส่งยมทูตมาเอาตัวนางลงนรกทันที ฟู่หลอปู่ออกบวชมีนามว่าโมคคัลลาน์ สำเร็จอรหันต์เป็นเลิศในทางมีฤทธิ์ รู้ว่ามารดาอยู่ในนรกจึงตามลงไป พอได้พบกันก็ส่งอาหารให้ นางรับไปยังไม่ทันได้กินก็ถูกเหล่าเปรตแย่งไปสิ้น แล้ววิญญาณก็ถูกส่งไปเกิดเป็นหมาในบ้านขุนนางแซ่เจิ้ง (แต้) พระเถรเจ้าจึงตามไปซื้อเอามาเลี้ยงดูจนตาย ก็กลับไปเกิดในนรกอีก ต่อมาท่านจัด "อุลลัมพนสังฆทาน" ตามที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำ มารดาจึงพ้นจากนรกและได้รับสถาปนาจากเง็กเซียงฮ่องเต้เทวบดีให้เป็น "เชวี่ยนซ่านฟูเหญิน (คึ่งเสียงฮูหยิน)-ชักชวนให้คนทำกุศล" ในเนื้อเรื่องมีรายละเอียดสนุกสนานชวนติดตาม แง่งามทางศิลปะและข้อคิดสอนใจอีกมาก เป็นอันว่าถึงสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ (พ.ศ. ๑๕๐๓-๑๖๖๙) เทศกาลจงหงวนเป็นงานนักขัตฤกษ์สนุกสนานงานหนึ่ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 สิงหาคม 2553, 10:45:20
พอถึงราชวงศ์ซ่งใต้ (พ.ศ. ๑๖๖๙-๑๘๒๒) จีนกลัวศึกมองโกลจึงจัดงานนี้ในวัน ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปัจจุบันในมณฑลกวางสียังคงไหว้สารทจีนในวัน ๑๔ ค่ำอยู่
 
ถึง สมัยราชวงศ์หมิง (พ.ศ. ๑๙๑๑-๒๑๘๗) และต้นราชวงศ์ชิง (พ.ศ. ๒๑๘๗-๒๔๕๔) เทศกาลจงหยวนยิ่งคึกคักสนุกสนาน มีมหรสพและการละเล่นนานาชนิดเฉลิมฉลอง เช่น เพลงพื้นเมือง เชิดสิงโต งิ้ว ประกวดโคม ลอยโคม แห่เจ้า แห่ขบวนผี กายกรรม ฯลฯ ถึงปลายราชวงศ์ชิงเทศกาลนี้ก็ยังคึกคักแพร่หลายทั่วประเทศ เช่นที่ปักกิ่ง วัด ๘๔๐ กว่าแห่งจัดงานอุลลัมพนบูชาใหญ่เล็กต่างกันไปตามกำลัง ถึงยุคนี้การไหว้บรรพบุรุษเป็นกิจกรรมสำคัญที่สุดเช่นเดียวกับวันเช็งเม้ง (ชิงหมิง) มีทั้งไหว้ที่บ้านหรือศาลประจำตระกูลและออกไปไหว้ที่สุสาน (ฮวงซุ้ย) แต่จุดมุ่งหมายต่างกัน ไหว้เช็งเม้งเป็นการแสดงความกตัญญูรำลึกถึงบรรพชน ไหว้สารทจีนเพื่อให้ท่านพ้นอบายภูมิและสรรพทุกข์ภัย ทั้งยังมีใจเกื้อกูลไหว้ผีไม่มีญาติอีกด้วย การไหว้ผีไม่มีญาติมีทั้งไหว้ที่บ้าน และจัดงานทิ้งกระจาดอุทิศส่วนกุศลให้
 
ตั้งแต่ จีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๔ เป็นต้นมา ภัยสงครามและความเปลี่ยนแปลงทางสังคมทำให้เทศกาลนี้เสื่อมลงอย่างรวดเร็วใน จีนภาคเหนือ คงเหลืออยู่แต่ทางภาคใต้ แต่ในยุครุ่งเรืองเทศกาลนี้ได้แพร่ไปยังชนชาติส่วนน้อยในจีนหลายเผ่า เช่น จ้วง หลี เซอ แม้ว ต่างชาติที่รับอารยธรรมจีนคือญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ยังคงมีเทศกาลนี้อยู่ โดยเฉพาะในญี่ปุ่นเป็นเทศกาลใหญ่เทศกาลหนึ่ง
 
เทศกาล สารทจีนที่เต็มรูปแบบ มีกิจกรรมสำคัญและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องหลายประการ คือ ไหว้เทพจงหยวน ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้ผีไม่มีญาติ ลอยโคม ไหว้เทพารักษ์ประจำเมือง (เจ้าพ่อหลักเมือง) ทิ้งกระจาด ในอดีตบางแห่งมีการไหว้เทพแห่งนาด้วย ในวัดพุทธจัดงานอุลลัมพนสังฆทาน วัดเต๋าไหว้เทพจงหยวนและจัดพิธีกรรมทางศาสนาของตน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 สิงหาคม 2553, 10:47:44
ไหว้เทพจงหยวน
 
เทพจงหยวนเป็นเทพประจำเทศกาลสารทจีน ชื่อเต็มว่า "จงหยวนต้าตี้-อธิบดีแห่งคืนเพ็ญกลาง" หรือ "ตี้กวนต้าตี้-ธรณิศมหาเสนาธิบดี" เรียกสั้นๆ ว่า "ตี้กวน-ธรณิศเสนา" มีหน้าที่ควบคุมดูแลเทพแห่งมหาบรรพตทั้งห้า (ของจีน) ภูเขาและแม่น้ำ เจ้าที่ประจำเมืองทุกเมือง เทพในเมืองที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ตรวจดูโชคเคราะห์ของสรรพสัตว์ ตรวจบัญชีความดีความชั่วของมนุษย์ และหน้าที่สำคัญคือให้อภัยโทษแก่ผู้รู้ผิดกระทำพลีบูชาท่าน วัน ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ท่านจะลงมาตรวจบัญชีชั่วดีของมนุษย์แล้วประทานอภัยให้ นอกจากนี้ท่านยังต้องมาเป็นประธานดูแลการไหว้ผีไม่มีญาติ ซึ่งคนเป็นผู้ไหว้ โดยท่านจะไปเจรจากับ "ลี่" ราชาของผีพวกนี้ ให้ช่วยคุมดูแลบริวารไม่ให้ทำร้ายมนุษย์ ฉะนั้นผู้คนจึงกินเจ ทำพิธีเซ่นสรวงบูชาท่าน เซ่นไหว้บรรพชน เพื่อให้ท่านอภัยโทษให้ทั้งแก่ตนเองและวิญญาณบรรพชน ปัจจุบันในไต้หวันนิยมไหว้ท่านตั้งแต่ยามแรกของวัน ๑๕ ค่ำ จีนแบ่งวันคืนออกเป็น ๑๒ ยาม ยามละ ๒ ชั่วโมง ยามแรกคือช่วง ๕ ทุ่มถึงตี ๑ (๒๓.๐๐-๐๑.๐๐ น.) ยามแรกของวัน ๑๕ ค่ำ ก็คือช่วง ๒๓.๐๐-๐๑.๐๐ น. ของคืนวัน ๑๔ ค่ำ เพราะจีนเริ่มวันใหม่ตอน ๕ ทุ่ม ถ้าไม่ไหว้ตอน ๕ ทุ่ม ก็มาไหว้ตอนเที่ยงวันของวัน ๑๕ ค่ำ หลังจากไหว้บรรพบุรุษไปแล้ว ในจีนแต่ละถิ่นเวลาไหว้ต่างกัน บางถิ่นก็ไม่ได้ไหว้แล้ว ส่วนในไทยไม่ปรากฏมีพิธีไหว้เทพจงหยวนโดยเฉพาะ ประเพณีนิยมการไหว้ในวันเทศกาลจีนของไทยจะไหว้เจ้าและเทวดาทั้งหมดตอนเช้า อนึ่งคนจีนในไทยนับถือ "ตี่จู๋เอี๊ย ( )" คือ "เจ้าที่" มาก มีศาลเล็กๆ ตั้งอยู่ในบ้านแทบทุกบ้าน ตี่จู๋เอี๊ยอยู่ใต้บังคับบัญชาของตี้กวน (ธรณิศเสนา) หรือเทพจงหยวน จึงถือได้ว่าเป็นตัวแทนของท่านประจำอยู่ทุกบ้าน การไหว้ตี่จู๋เอี๊ยจึงพออนุโลมแทนการไหว้เทพจงหยวนได้
 
 
 
ไหว้บรรพชน
 
การ เซ่นไหว้บูชาบรรพชนเป็นประเพณีเก่าแก่ที่สุดของจีน เพราะจีนถือระบบวงศ์ตระกูลเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เป็นศูนย์กลางของสังคมและวัฒนธรรมจีน การไหว้บรรพชนเป็นกิจสำคัญที่สุดของลูกหลาน เจ้าอาจไม่ต้องไหว้ก็ได้ แต่ปู่ย่าตายายไม่ไหว้ไม่ได้
 
การไหว้บรรพชนในวันสารทจีน เดิมมีทั้งไหว้ที่บ้านหรือศาลประจำตระกูล (ฉือถาง ) ในหมู่บ้าน และไปไหว้ที่สุสานเหมือนวันเช็งเม้ง แต่ปัจจุบันเหลือแต่การไหว้ที่บ้าน ตามความเชื่อของชาวจีนเชื่อว่า วันสารทจีนวิญญาณบรรพชนที่ยังไม่ได้ไปเกิดจะกลับมาเยี่ยมบ้าน แต่ก่อนที่เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน มีประเพณีเชิญวิญญาณบรรพชนมาบ้านตั้งแต่เย็นวัน ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ แล้วไหว้ตอนค่ำตั้งแต่วัน ๑๒-๑๔ ค่ำ วัน ๑๕ ค่ำไหว้ใหญ่ ตอนค่ำทำพิธีส่งวิญญาณกลับ ปกติการไหว้บรรพชนนิยมไหว้ช่วงก่อนเที่ยง ตั้งแต่ ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป โดยไปไหว้ที่ศาลประจำตระกูลในหมู่บ้าน ซึ่งมีป้ายสถิตวิญญาณของบรรพชนรวมอยู่ หรือจะไหว้ในบ้านของตนเองก็ได้
 
 
 
ไหว้ผีไม่มีญาติ
 
การ ไหว้ผีไม่มีญาติเป็นกิจกรรมสำคัญของวันสารทจีนมาแต่โบราณ ผีพวกนี้โบราณเรียกว่า "ลี่ ( )" ถือเป็นผีชั่วร้าย อิทธิพลพุทธศาสนาทำให้ทัศนะของผีพวกนี้เปลี่ยนไปเป็นผีที่น่าสงสาร จนปัจจุบันเรียกผีพวกนี้ว่า "ฮอเฮียตี๋ ( )" แปลว่า "พี่น้องที่ดี" การไหว้ผีพวกนี้ไม่ไหว้ในบ้าน นิยมไหว้ริมถนนหนทาง ชายน้ำ สมัยโบราณจัดสถานที่ไหว้นอกเมือง เรียกว่า "ลี่ถาน ( )" ในอดีตการไหว้ผีไม่มีญาติเป็นกิจกรรมสำคัญที่ขาดไม่ได้ นอกจากไหว้ในวันสารทจีน ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ แล้วยังไหว้ในวัน ๑ ค่ำ และวัน ๓๐ ค่ำ ซึ่งเป็นวันเปิดประตูยมโลกและปิดประตูยมโลกอีกด้วย แต่ปัจจุบันในจีนการไหว้ "ฮอเฮียตี๋" ในวันสารทจีนเหลือน้อยมาก ในถิ่นกวางตุ้ง แคะ ฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว แทบไม่มีเลย เพราะยกไปไหว้รวมกันเป็นกิจกรรมของชุมชน โดยเรี่ยไรเงิน ข้าวของไปจัดพิธี "ซีโกว ( )" ไหว้ผีไม่มีญาติที่วัดในช่วงหลังวันสารทจีน ส่วนในไต้หวันยังมีผู้ไหว้อยู่ นิยมไหว้ช่วงเย็นตั้งแต่ ๑๖.๐๐ น. เป็นต้นไป ในไทยแต่ก่อนไหว้กันแทบทุกบ้าน ปัจจุบันยังพอมีเหลืออยู่บ้างไม่มากนัก


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 สิงหาคม 2553, 10:49:57
ลอยโคม
 
กิจกรรมนี้ถ้าคนไทยเห็นคงเรียกว่าลอยกระทง แต่ตามหลักของจีนต้องเรียกว่าโคม เพราะต้องมีเทียนหรือประทีปอื่นเป็นส่วนสำคัญที่สุด รูปทรงโคมอาจเป็นรูปดอกบัว โคมไฟ บ้านหลังเล็กๆ หรือลักษณะอื่น ข้างในมีเทียนหรือประทีปอื่นจุดสว่างไสว
 
ที่มาของการลอยโคมตำราบาง เล่มว่า พุทธศาสนานำมาจากอินเดียสมัยราชวงศ์ถัง แต่บางเล่มก็ว่าน่าจะเกิดจากศาสนาเต๋า เพราะเต๋ามีประเพณีชักโคมบูชาดาวและเทพเทียนกวน (นภเสนา) ในวันเทศกาลหยวนเซียวกลางเดือนอ้ายมาก่อน กลางเดือน ๗ เป็นเทศกาลบูชาเทพตี้กวน (ธรณิศเสนา) จึงจุดโคมบูชาท่านบ้าง แต่ลอยลงน้ำแทนเพื่อส่องทางให้ผีขึ้นมาสู่โลกมนุษย์ รับเครื่องเซ่นสังเวยและ "การอภัยโทษ" จากเทพตี้กวน ทั้งพุทธ เต๋า เชื่อว่าน้ำเป็นทางเชื่อมหรือแดนต่อยมโลกกับมนุษยโลก ในคัมภีร์พุทธกล่าวว่ามีแม่น้ำชื่อ "ไน่เหอ ( )" กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับยมโลก ในพิธีอุลลัมพนสังฆทานจึงมีการลอยโคมเพื่อส่องทางให้ผีข้ามแม่น้ำไน่เห อด้วย
 
การลอยโคมในวันสารทจีนคงมีมาตั้งสมัยราชวงศ์ถัง ถึงสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ มีบันทึกว่า "ราชสำนักส่งขันทีไปลอยโคมนับหมื่นดวง" ในวันนี้ สมัยราชวงศ์หยวนการลอยโคมแพร่หลายไปทั่วประเทศจีน มีบันทึกของคนร่วมสมัยกล่าวถึงประเพณีนี้ในเมืองหลวงว่า "เดือน ๗ วัน ๑๕ ค่ำ วัดต่างๆ จัดงานอุลลัมพนสังฆทาน ตอนค่ำลอยโคมลงแม่น้ำ เรียกว่า ลอยคงคาประทีป" เถียนยู่เฉิงบันทึกประเพณีนี้ในเมืองหางโจวสมัยนั้นไว้ว่า "วัน ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ เรียกว่าเทศกาลจงหยวน เล่าสืบกันมาว่าเป็นวันที่เทพตี้กวนประทานอภัยโทษ ผู้คนจะถือศีลกินเจ สวดมนต์อุทิศให้บรรพชนและผีทั้งหลายให้พ้นโทษภัย---พระสงฆ์จัดงานอุลลัมพนสั งฆทาน ลอยโคมในทะเลสาบซีหูและที่เจดีย์ แม่น้ำ เรียกว่า "ส่องยมโลก"" ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง การลอยโคมเป็นทั้งการบุญและงานรื่นเริงสนุกสนาน หนังสือ "จิงโตวเฟิงซู่จื้อ (บันทึกประเพณีเมืองหลวง)" กล่าวว่า "วัน ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ เป็นวันเทศกาลจงหยวน เล่าสืบกันมาว่าเป็นวันที่เทพตี้กวนประทานอภัยโทษ ผู้คนไปเซ่นไหว้บรรพชนที่สุสานเหมือนวันเช็งเม้ง พระสงฆ์สวดมนต์ทำพลีกรรม เผาเรือกระดาษเรียกว่า "ส่งธรรมนาวา" เชื่อว่าจะช่วยรับผีไม่มีญาติออกจากยมโลก ในตลาดขายโคมนานาชนิด ที่ทำเป็นรูปดอกบัวเรียกว่าปทุมมาลย์ประทีป ที่ทำเป็นรูปใบบัวเรียกปทุมบรรณประทีป ตกค่ำเด็กๆ รวมกันเป็นกลุ่มๆ ต่างถือโคมดอกบัว โคมใบบัวเดินไปตามถนนตรอกซอกซอยร้องว่า "โคมดอกบัว โคมดอกบัว จุดวันนี้ พรุ่งนี้โยน" บ้างก็เอาผลไม้มาปักธูปเทียนทั่วทั้งลูก เรียกว่าโคมธูปเทียนและใช้ไม้ยาวปักธูปเทียนเป็นรูปต้นไม้ โคมพวกนี้ทำให้ที่มืดมีแสงระยิบระยับราวหิ่งห้อยนับหมื่น เหมือนแสงผีทั่วพันลี้ น่าชมยิ่งนัก" การจุดโคมพราวพร่างระยิบระยับไปทั่วนี้ยังเป็นการเซ่นสรวงบรรพชน ขอให้พืชพรรณธัญญาหารสมบูรณ์อีกด้วย บางแห่งเอาธูปเทียนปักที่ดิน ยิ่งปักมากยิ่งดี เรียกว่า "ดำนา" เป็นเครื่องหมายว่าข้าวกล้างอกงามดี และเป็นการบูชาพระกษิติครรภโพธิสัตว์ ผู้มีมหาปณิธานโปรดสัตว์ให้พ้นบาปหมดไปจากนรก ขอให้ท่านช่วยโปรดวิญญาณบรรพชนและเปตชนทั้งหลายให้พ้นนรก และอำนวยสุขสวัสดีแก่คนที่ยังมีชีวิตอยู่
 
การลอยโคมในอดีตมีทำ ตั้งแต่วัน ๑๓-๑๕ ค่ำ ในไต้หวันนิยมลอยวัน ๑๔ ค่ำ เพื่อส่องทางให้ผีขึ้นมารับการเซ่นไหว้ในวัน ๑๕ ค่ำ ในจีนบางแห่งลอย ๑๕ ค่ำ มีคำอธิบายว่าเมื่อผีได้รับการเซ่นไหว้และส่วนกุศลพ้นจากบาป แต่หาทางไปผุดไปเกิดไม่เจอ แสงโคมจากพิธีลอยโคมทำให้ผีเห็นภพภูมิที่จะไปเกิดได้ ความเชื่อนี้เกิดทีหลัง กล่าวโดยสรุปการลอยโคมเป็นการส่องทางให้ผี และคนก็ได้รับความสนุกสนานไปด้วย
 
หลังจากสิ้นราชวงศ์ชิงการลอยโคม เสื่อมตามเทศกาลสารทจีนไปด้วย ในจีนยังมีทำอยู่บ้างในบางถิ่น เช่น ที่อำเภอหนันจาง จังหวัดเซียงผาน มณฑลหูเป่ย ยังมีการลอยโคมในเทศกาลสารทจีน กลางวันมีการเล่น "แปรอักษรโคม" ก่อน โดยแบ่งเป็น ๒ ทีม ทุกคนถือโคม ทีม ก จะเอาโคมไปวางเรียงเป็นรูปตัวอักษรก่อน เช่น (อี-หนึ่ง) ทีม ข ต้องใช้อักษรนี้เป็นฐาน ต่อเติมหรือเปลี่ยนแปลงให้เป็นอักษรอื่น เช่น (เออว์-สอง) (ซาน-สาม) (เฟิง-อุดมสมบูรณ์) สลับกันไปมาเช่นนี้จนกว่าจะ "จน" แปรเป็นอักษรต่อไปไม่ได้ ทีมที่ "จน" เป็นผู้แพ้ ในไต้หวันแต่ก่อนทุกวัดมีพิธีลอยโคม แต่ปัจจุบันเหลือที่วัดหลงซานเพียงแห่งเดียว ส่วนในเมืองไทยไม่มีพิธีลอยโคมในเทศกาลสารทจีนเลย การลอยโคมไปทำในเทศกาลกินเจเดือน ๙


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 24 สิงหาคม 2553, 14:51:22
ทันใจ ถูกใจดีแท้.........เพื่อนจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 24 สิงหาคม 2553, 15:14:56
คงจะได้อ่านอย่างเดียวมั้งเพื่อนจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 31 สิงหาคม 2553, 00:24:01
เงียบไปเลย..........เพื่อนจุ๊ง

เอาสามก๊กมาชำแหละหน่อย.....ดีไหม?

จะเป็นตัวละคร หรือสมรภูมิรบ ที่เด่นๆก็ได้.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 14 กันยายน 2553, 15:32:52

เอียวสิว  

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8qbtx-0114f2.jpg)

สามก๊ก ก็มีอยู่บ้าง เคยเขียนลงมุมจีนมานานแล้ว เป็นเรื่องของเอียวสิว ซึ่งยาขอบเอามาเขียนโดยแปลมาจากภาษาปะกิตโดยบอกว่าเป็นเอียวสิวผู้ตายเพราะขาไก่หรือไงนี่แหละ แต่จริงๆต้องบอกว่าเป็นซี่โครงไ่ก่ เรื่องนี้เป็นเกร็ดที่ค่อนข้างจะมีความเป็นจีนอยู่พอสมควร จะพยายามขัดเกลาให้อ่านรู้เรื่องแบบไทยๆให้มากที่สุด ท่านผู้อ่านอาจจะต้องมีวิจารณญาณและจินตนาการอยู่พอสมควร

杨修 หรือชื่อในภาษาไทยว่าเอียวสิว เป็นที่ปรึกษาของโจโฉ ชอบอวดฉลาด(小聪明)และทำตัวรู้ทันโจโฉเสมอ โจโฉเป็นคนมีเล่ห์หลี่ยมและระมัดระวังตัวเสมอ จึงเกลียดคนที่รู้ความในใจตัวมากที่สุด เดิมโจโฉก็ไม่ได้ชอบเอียวสิว แต่เห็นแก่หน้าของพ่อเอียวสิวซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลและตระกูลใหญ่ประกอบกับโจโฉตอนนั้นยังมีอำนาจไม่มากนักยังต้องพึ่งพาพ่อของเอียวสิวอยู่เลยจำต้องรับเอียวสิวเป็นที่ปรึกษา เอียวสิวชอบทายใจโจโฉและบอกคนรอบข้างถึงความคิดของโจโฉ อย่างเช่นวันหนึ่งโจโฉไปดูบานประตูที่ให้ช่างซ่อมแซม แล้วก็เขียนที่วงกบประตูว่า活(แปลว่ามีชีวิต) นายช่างดูไม่เข้าใจ เอียวสิวมาถึงจึงอธิบายว่าคำว่า活เขียนในวงกบประตู(ภาษาจีนเขียนว่า门)ก็คือตัวหนังสือ阔(แปลว่ากว้างขึ้น) นายช่างก็แก้ไขบานประตูให้กว้างขึ้น หรือมีคนให้ของหวานให้โจโฉกิน  โจโฉกินไปได้หน่อยนึงก็ติดธุระ เลยเขียนกันลืมไว้ว่า 一合酥(แปลว่าขนมหวาน1กล่อง)  เอียวสิวกับโจสิด 曹植 และพวกมาเจอ เอียวสิวเห็นลายมือโจโฉจึงหยิบของหวานมากิน และบอกทุกคนว่ากินได้ไม่เป็นไร โจโฉจัดการธุระเสร็จ จะกลับมากิน ปรากฏว่าของหวานหมดไปแล้ว จึงถามขึ้น ทุกคนก็บอกว่าเป็นความคิดของเอียวสิว  โจโฉเลยถามเอียวสิว เอียวสิวทำไม่รู้ร้อนตอบว่าทั้งหมดทำตามคำสั่งของโจโฉ  โจโฉแปลกใจว่ากูสั่งมันเมื่อไรฟะ   เอียวสิวเลยบอกว่าท่านอุปราชดูให้ดี  นี่คือลายมือคำสั่งท่าน 一人一口酥(เป็นการแยกคำว่า合เป็น人一口จาก一合酥กลายเป็น一人一口酥แปลว่าต่างคนต่างกินกันคนละคำ) ขืนไม่ทานก็ฝืนคำสั่งท่านซิ(โจโฉคงลืมนึกไปว่าสั่งไปว่าคนละคำเท่านั้น จากจำนวนที่เหลืออยู่ พวกนี้น่าจะกินมากกว่าคนละคำ จึงหมด) โจโฉก็เก็บความไม่พอใจไว้ แกล้งชมเอียวสิวว่าแสนรู้  เท่านี้ยังพอทำเนา  ที่ทำให้โจโฉทนไม่ได้ก็คือตอนที่โจโฉเลือกเฟ้นทายาทระหว่างโจผีกับโจสิด  เอียวสิวอยู่ฝ่ายโจสิด แอบทายใจโจโฉว่าจะออกข้อสอบยังไง และเตรียมคำตอบไว้เสร็จให้โจสิดท่อง บังเอิญเกิดความผิดพลาด เวลาโจโฉสอบถามโจสิด ยังไงไม่ทราบ โจสิดตอบคำตอบก่อนที่โจโฉจะถาม โจโฉสืบเสาะได้ความว่าเอียวสิวเป็นคนเตรียมคำตอบไว้ โจโฉจึงรู้สึกถึงอันตรายที่จะมาถึงตัว เพราะไม่ว่าโจโฉคิดยังไง เอียวสิวรู้ทันหมด แต่ก็ไม่มีข้ออ้างสังหารเอียวสิว จนกระทั่งนำทัพไปสู้รบกับเล่าปี่  โจโฉกินน้ำแกงถือซี่โครงไก่ค้างอยู่ แฮหัวตุ้นมาขอรหัสขานยาม โจโฉเห็นซี่โครงไก่ เลยให้คำว่า鸡肋(แปลว่าซี่โครงไก่) แฮหัวตุ้นแปลกใจแต่ไม่กล้าถาม  เอียวสิวเลยบอกว่าโจโฉเตรียมถอนทัพ  เพราะซี่โครงไก่อร่อย กินหมดแล้วจะทิ้งไปก็เสียดายรสชาติอยู่ เปรียบเสมือนสถานการณ์ตอนนี้เสียเปรียบ แต่จะทิ้งไปก็เสียแรงที่สู้รบมาตั้งนานแล้วไม่ได้ผล แฮหัวตุ้นจึงสั่งให้คนเตรียมถอยทัพ โจโฉรู้เลยหมดความอดทน อีกอย่างมีข้ออ้างในการสังหารเอียวสิวแล้ว เลยสังหารเอียวสิว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 14 กันยายน 2553, 15:48:37

สรุปว่า...... เอียวสิว เป็นคนเก่งแต่โชคร้าย ได้นายไม่ดี อย่างนั้นเหรอ ท่านจุ๊ง?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 14 กันยายน 2553, 15:53:03
มาแสดงตนไว้ก่อนครับพี่จุ๊ง...

แต่ยังไม่ได้อ่านนิ
   emo29:P:


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 14 กันยายน 2553, 16:34:26
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 14 กันยายน 2553, 15:48:37

สรุปว่า...... เอียวสิว เป็นคนเก่งแต่โชคร้าย ได้นายไม่ดี อย่างนั้นเหรอ ท่านจุ๊ง?

ไม่ใช่เอียวสิวได้นายไม่ดี เพียงแต่นักการเมืองเกลียดที่สุดก็คนรู้ใจนี่แหละ พูดถึงสามก๊กแล้ว ก็ต้องพูดถึงโจโฉ สมัยเด็กอ่านสามก๊กฉบับเจ้าพระยาคลัง(หน)จะชอบก๊กเล่าปี่ เพราะนิยายแต่งให้เป็นก๊กพระเอก แต่พอโตขึ้นมา ความคิดมีมากขึ้น ผ่านประสบการณ์มากขึ้น กลับชอบโจโฉ เพราะโจโฉมีบุคลิกหลายลักษณะที่สลับซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ตอนโจโฉเมาเคยพูดขึ้นว่าตอนนี้รับราชการได้ถึงตำแหน่งสูงสุดของสามัญชนแล้ว ความหวังตอนนี้หวังว่าหลังจากตาย ป้ายที่หลุมศพให้จารึกว่าเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์ ในจีนถ้าไม่มีโฉซักคน ไม่รู้ว่าจะมีใครซักกี่คนยกตัวขึ้นเป็นเจ้า ยกตัวขึ้นเป็นกษัตริย์ และให้สังเกตุว่าในสามก๊กยุคบุกเบิก โจโฉ เล่าปี่ ซุนกวน มีโจโฉคนเดียวที่ขึ้นมาอย่างถูกทำนองครองธรรม เริ่มตั้งแต่เป็นหัวหน้าทหารรักษาพระนคร ไต่เต้ามาเรื่อยๆ ในขณะที่คนอื่นไม่ว่าจะเป็นเล่าปี่ ซุนกวน อ้วนเสี้ยว อ้วนสุด แต่งตั้งตัวเองขึ้นมาทั้งนั้น และโจโฉจนตายยังไม่ได้ตั้งตัวขึ้นเป็นกษัตริย์ ในขณะที่เล่าปี่ ซุนกวน ตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์ให้สมอยากเมื่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ถูกปลด ขนาดคึกฤทธิ์ยังยกย่องโจโฉให้เป็นนายกตลอดกาลเลย โจโฉให้อภัยคนได้ตลอดเวลาแม้จะเคยทรยศต่อตัวเอง ตอนโจโฉปราบอ้วนเสี้ยวซึ่งมีกำลังทหารมากกว่าตัวเองได้ มีคนเอาจดหมายที่ลูกน้องโจโฉติดต่อเข้าเป็นพวกกับอ้วนเสี้ยวมาให้โจโฉดู โจโฉกลับสั่งให้เผาทิ้ง มีคนถามว่าทำไม โจโฉถอนใจบอกว่าสภาพการณ์ในขณะนั้น แม้แต่ตัวโฉเองยังไม่รู้ว่าจะรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้หรือไม่เลย อย่าว่าแต่บรรดาขุนทหารทั้งหลาย ฉะนั้นการติดต่อเพื่อแปรพักตร์เป็นธรรมดาของสัตว์โลก กัมมุนาวัตตะตี โลโก กุ๊ก กุ๊ก


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 14 กันยายน 2553, 17:10:36
ปีที่แล้วมีข่าวว่า.......ค้นพบหลุมศพโจโฉ.

จริงเท็จแค่ไหน?.........ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 14 กันยายน 2553, 17:31:25
ตามข่าวได้รับการยืนยันจากนักวิชาการว่าเป็นหลุมศพโจโฉจริง อาจจะมีการชำรุดบ้างเพราะมีนักขุดสุสานไปเยี่ยมมาก่อนแล้ว จริงๆในจีนมีพวกนิยมขุดสุสานเยอะเหมือนกัน แต่หลุมนี้ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการแล้วว่าเป็นหลุมศพของโจโฉจริง แถมมีแผ่นป้ายหินที่มีลักษณะแบบเครื่องหยกของเจ้าครองนครโบราณใช้ในพิธีอันสำคัญ ที่มีคำแกะสลักว่า
  “  หวู่หวางแห่งรํฐเว่ยผู้ใช้ง้าวใหญ่ยักษ์อย่างห้าวหาญ ” 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 14 กันยายน 2553, 17:36:05
ขอบคุณ......จุ๊ง

จะออกจากที่ทำงานแล้ว.........เจอกันใหม่ตอนดึกๆ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 กันยายน 2553, 17:55:12
พี่จุ๊ง,
เมื่อวันก่อนมีงานทำบุญแด่ผีไร้ญาติ
เช็งเม้ง??

หนิงถ่ายฟิล์มมาด้วยคะ
ยังไม่ทำเลย.
แปะที่นี่ได้ป่ะ?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 14 กันยายน 2553, 18:06:12
อุ๊ยยย !!  ตามมาอ่านเรื่องผี เข้ากับอวตาร์พี่จุ๊งงง เลยนิ

เลยเผลออ่านเรื่องราวของสารทจีน ความเป็นมาของลัทธิ ซะเพลินเลยค่ะ


ได้ฟาามม รู้

ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 14 กันยายน 2553, 18:09:22
ได้จ้ะน้องหนิง มีอะไรมะรุมมะตุ้มหรือจะใช้ภาษาอินตระเดียว่าลงแขกได้เลย ไม่ว่ากันอยู่แล้ว
นานๆโพสต์ที นานๆขุดเรื่องสามก๊กมาดูที ชักติดใจ เลยมาโพสต์ต่อเรื่องศึกสายเลือดระหว่างโจผีกับโจสิด ลูกๆของโจโฉซึ่งทำให้เกิดโศลกเจ็ดก้าวอันลื่อลั่นในพงศาวดารจีน หลายท่านที่เคยดูหนังสามก๊ก น่าจะเคยเห็นบทนี้

ขอออกตัวไว้ก่อนว่าเป็นบทความที่เคยโพสต์ที่อื่นนานแล้ว อาจไม่มีปรับปรุงเสริมแต่งอะไรนัก แต่จะมีลบความเป็นจีนออกเท่าที่จำเป็น

ฟังนักเล่านิทานเล่าเรื่อง评书เรื่องสามก๊กถึงตอนโจผี(曹丕)บังคับให้โจสิด(曹植)ผู้น้องร่ายโศลกภายในเจ็ดก้าว อดหลั่งน้ำตาไม่ได้ ด้วยความซาบซึ้ง เลยอยากจะมาเล่าสู่กันฟัง โจผีกับโจสิดเป็นลูกของโจโฉที่เกิดจากนางเปี้ยนสี(卞氏) เหมือนกัน โจสิดเป็นลูกชายคนโปรดของโจโฉ มีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ มาตั้งแต่เด็กๆ แต่เป็นคนนิยมดื่มสุรา ปกติจะร่ำดื่มกับเพื่อนๆคอสุราและร่ายกาพย์กลอนด้วยกันเป็นประจำ เป็นคู่แข่งที่จะแย่งชิงอำนาจกับโจผี  และสามารถแสดงความสามารถเหนือกว่าโจผีอยู่บ่อยครั้งในการทดสอบความสามารถต่อหน้าโจโฉ แต่ด้วยเล่ห์เหลี่ยม และการช่วยเหลือจากที่ปรึกษากาเซี่ยง(贾许) ตำแหน่งทายาทเลยตกเป็นของโจผี ตอนโจโฉตาย โจสิดไม่ได้มาร่วมพิธีศพ ยังความโกรธแค้นกับโจผีอย่างมาก และการที่พ่อตายไม่ไปงานศพถือเป็นความผิดประเพณีอย่างยิ่งและถือเป็นการผิดกฏหมาย ประหารชีวิตได้เลย เลยใช้เคาทู(许褚)ไปจับตัวมา เคาทูก้ไปจับโจสิดมาได้อย่างง่ายดาย เพราะโจสิดยังเมาอยู่ นางเปี้ยนสีมีลูกกับโจโฉ4คน ก่อนหน้านี้โจหิม(曹熊) ลูกอีกคนของนางเปี้ยนสีก็ผูกคอตายหนีความผิดไปแล้ว นางเปี้ยนสีรักโจสิดมาก ได้ยินว่าโจผีไปจับโจสิดมากลัวว่าโจผีจะฆ่าน้อง เลยมาห้ามปราม บอกว่าน้องเจ้ายังเล็กก็มีความคึกคะนอง จะลงโทษก็ขอให้ไว้ชีวิตด้วย มิฉะนั้นแม่จะตายตาไม่หลับ โจผีเป็นลูกกตัญญูก็รีบแก้ตัวว่าลูกเองก็รู้ว่าน้องเป็นคนมีความสามารถและรักในพรสวรรค์ของน้อง ไหนเลยจะทำร้ายได้  นางเปี้ยนสีก็วางใจ ฮัวหิม(华歆)มาถามว่านายท่านจะไว้ชีวิตโจสิดจริงหรือ โจผีถอนใจแล้วตอบว่าคำสั่งแม่ยากจะฝ่าฝืน ฮัวหิม เลยเสนออุบายว่าในเมื่อโจสิดขึ้นชื่อในเรื่องกาพย์กลอน เดี๋ยวตอนเรียกพบ ก็ให้โจสิดร่ายโศลกในหัวข้อที่ยาก ถ้าร่ายไม่ได้ก็ให้ฆ่าเสีย คนก็จะนินทาไม่ได้ ถ้าร่ายโศลกได้ ก็ลดตำแหน่งส่งไปที่กันดาร ขจัดเภทภัยภายหลัง โจผีเห็นด้วย เลยเรียกโจสิดมาพบ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่ากูกับมึงถึงแม้จะเป็นพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน แต่ก็มีอีกฐานะหนึ่งคือระหว่างข้ากับเจ้า มึงมีความผิดมากที่ท่านพ่อเสียไม่มาร่วมพิธีศพ เดิมจะฆ่าทิ้ง แต่ท่านแม่ขอไว้ มึงถือตัวนักถือตัวหนาว่าเป็นผู้มีวิชาความรู้ มักอวดความรู้และแต่งกลอนประจบต่อหน้าท่านพ่อ กูสงสัยอยู่ตลอดว่ามีคนแต่งแทนมึง ตอนนี้กูจะจำกัดให้มึงแต่งกลอนภายในเจ็ดก้าว ถ้าแต่งได้กูจะไว้ชีวิตมึง ถ้าแต่งไม่ได้ใจความ มึงตายแน่ๆ มึงจะแต่งได้ไหม  โจสิดตอบว่าเชิญท่านพี่ออกหัวข้อ โจผีมองไปมองมา เห็นบนฝาผนังแขวนไว้ด้วยภาพสีหมึกภาพหนึ่ง เป็นรูปวัว2ตัวต่อสู้กันอยู่ข้างกำแพงดิน วัวตัวหนึ่งตกลงไปในบ่อตาย โจผีเลยชี้ไปที่ภาพแล้วบอกว่าใช้ภาพนี้เป็นหัวข้อละกัน  ให้อธิบายภาพนี้ แต่ห้ามใช้คำว่าวัว2วัวต่อสู้กัน และตัวหนึ่งตกบ่อตาย  โจผีให้เคาทูถือดาบและนับก้าวถ้าโจสิดเดินครบเจ็ดก้าวแล้วยังแต่งกลอนไม่ออก ให้ตัดหัวทันที โจสิดเดินไปเจ็ดก้าวแล้วร่ายโศลกออกมาดังนี้

เนื้อ2กลุ่มเดินสวนทางกัน  ศีรษะมันมีกระดูกโค้ง
เจอะกันแถวเนินเขา เป็นการประจันหน้าอย่างฉุกละหุก
ทั้งคู่ต่างไม่มีกลัวกัน  เนื้อกลุ่มหนึ่งนอนแผ่หราในหลุมดิน
ใช่ว่าเรียวแรงจะสู้ไม่ได้ เพียงแต่ไม่ได้ใช้มันจนสุด

โจผีได้ยินก็นึกสรรเสริญในใจ แต่ในใจก็ยังอยากจะขจัดคู่แข่งตัวฉกาจ เลยแกล้วบอกว่า เออ ก็พอฟังได้อยู่ แต่กูว่ามึงเดินไปเจ็ดก้าวแล้วแต่งกลอนมันช้าไป มึงต้องแต่งกลอนทันทีที่กูออกหัวข้อเสร็จ ถ้าทำได้กูจะไว้ชีวิตมึง เดิมทีมึงกับกูเป็นพี่น้องกัน และก็ต่อสู้ห้ำหั่นกันมาตลอด ก็เอาการต่อสู้ระหว่างเรา2 พี่น้องเป็นหัวข้อละกัน แต่ห้ามใช้คำว่าพี่น้อง เอาละเริ่มได้แล้ว โจสิดคิดก็แทบไม่คิดร่ายโศลกอมตะที่ชาวจีนทุกบ้านรู้กันอย่างแพร่หลายว่าเป็นวิธีการต้มถั่วที่ถูกหลักอนามัยไม่มีเมลานีนว่า

การต้มถั่ว ต้องเริ่มต้นด้วยการเผาลำต้นถั่วเป็นเชื้อเพลิงนะ
จากนั้นก็นำเม้ดถั่วที่ผ่านการร่อนตะแกรงและหมักแล้วมาตั้งหม้อเพื่อทำให้เป็นน้ำถั่วเคี่ยว
ต้นถั่วก้เผาใหม้อยู่ใต้เตาประหยัดดี ถั่วในหม้อก็ร่ำไห้น้ำตาไหล
ต่างเกิดมาจากรากเหง้าเดียวกัน ไยจึงเคี่ยวกันถึงขนาดนี้ จะประหยัดไปถึงไหน

โจผีฟังจบ ต่อมน้ำตาก็แตกทันที น้ำตาไหลพรากๆ นางเปี้ยนสีแอบฟังอยู่ข้างหลังก็รีบเดินออกมา ต่อว่าโจผีว่าทำไมต้องบีบคั้นน้องถึงขนาดนี้  โจผีแก้ตัวว่า กฏหมายไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้  จากนั้นก็ลดตำแหน่งโจสิดเป็น安乡侯(ขุนปลอบโยนราษฎร์) โจสิดก็อำลาจากไปและหายหน้าไปจากหน้าประวัติศาสตร์





หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 กันยายน 2553, 18:30:28
เดี๋ยวไปร้านเวียตก่อนคะ
แล้วจะกลับมาดูฟิล์มเชิดสิงโต
แปะแน่ แปะแน่...
พี่จุ๊งล่วงหน้าไปก่อนคะ
เดี๋ยวมา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 14 กันยายน 2553, 18:35:36
พี่จุ๊งง  หนูอ่านอยู่ค่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 14 กันยายน 2553, 21:14:28
หวัดดี.......น้องหนิง..น้องหมี.

ดีจังที่มาเจอกันที่ห้องนี้อีก.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 14 กันยายน 2553, 21:19:27

สุภาษิตที่ว่า..... "เถาถั่วต้มถั่ว"

มีที่มาจากเรื่องราวของโจผีและโจสิดนี้เอง........ขอบคุณ เพื่อนจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 14 กันยายน 2553, 21:50:46
โจโฉเลี้ยงลูกเก่ง ลูกๆแต่ละคนเอาถ่านทั้งนั้น ตัวโจโฉเองกับโจสิดมีผลงานทางด้านโคลงกลอนตกทอดมาถึงยุคสมัยนี้มากมาย ที่ให้มาเป็นแค่น้ำจิ้มเอง ในขณะที่ก๊กอื่นมีผลงานให้รุ่นหลังเชยชมน้อยมาก โจโฉมีลูกชายคนเล็กชื่อโจชงอีกคนหนึ่งที่ถูกยกย่องให้เป็นเด็กอัจฉริยะ  ครั้งหนึ่งทางซุนกวนส่งช้างมาให้เป็นบรรณาการ พวกขุนนางต่างก็สงสัยว่าช้างนี่หนักเท่าไร ก็ไม่มีใครคิดหาวิธีชั่งน้ำหนักช้างได้ โจชงตอนนั้นอายุ10ขวบกลับใช้วิธีเดียวกับอาร์เคมิดิส ใช้วิธีให้ช้างลงไปอยู่ในเรือเปล่า จากนั้นขีดระดับน้ำที่ด้านข้างของเรือ จากนั้นเอาช้างออก ใส่ก้อนหินเข้าไปแทนจนได้ระดับน้ำเท่าเดิม แค่นี้ก็ชั่งน้ำหนักช้างได้แล้ว คนสมัยนั้นฮือฮากันมาก ตอนนี้ก็ยังมีเกร็ดรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้บันทึกและเป็นบทเรียนให้เด็กจีนเรียนกัน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 14 กันยายน 2553, 22:00:48

ตัวหนังสืออ่านง่ายขึ้นเยอะเลย.......จุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 14 กันยายน 2553, 22:13:04
พี่จุ๊งง คะ

หน้ายาว ประมาณหลังสุดนี่ หนู (เองจ้า) ว่า กำลังอ่านสบายตาค่ะ  emo29:P:



อ่านต่อ อ่านต่อ ค่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 14 กันยายน 2553, 22:16:38
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 14 กันยายน 2553, 21:14:28
หวัดดี.......น้องหนิง..น้องหมี.

ดีจังที่มาเจอกันที่ห้องนี้อีก.


สวัสดีค่ะพี่แหลม

ลูกค้าพี่หนุงหนิง ตามมาเจอะ อวตาร์ เข้ากับเนื้อเรื่อง

ชอบอ่านค่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 กันยายน 2553, 22:49:10
เขาทำงานกันเป็นทีมคะพี่แหลม..
นะน้องหมี.
พี่จุ๊งเล่าอีก!
ชอบคะ..
สนุก.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 14 กันยายน 2553, 22:51:08
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 14 กันยายน 2553, 22:49:10
เขาทำงานกันเป็นทีมคะพี่แหลม..
นะน้องหมี.
พี่จุ๊งเล่าอีก!
ชอบคะ..
สนุก.


ซู๊ดดดดดด ยอดดดด ไม่มีใครเกินพี่หนุงหนิงค่ะ
งานนี้ น้องหมีขอคารวะ สิบจอก  emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 กันยายน 2553, 23:00:46
เดี๋ยว!
อย่าเพิ่งดื่ม
รอให้เขาจุดประทัดก่อนคะ
ดังมาก ขอบอก.

งานเปิดตลาดสดใหม่ภูเก็ตค่ะ


http://img256.imageshack.us/flvplayer.swf?f=Pp1020144


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 14 กันยายน 2553, 23:08:31

ท่าจะหมดค่าประทัดไปหลายหมื่นเลยนะนั่น.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 กันยายน 2553, 23:24:51
หนิงได้มีโอกาสร่วมในพิธีอย่างใกล้ชิด
เป็นความโชคดีคะ

เทพที่เค้านับถือสถิตย์ในป้ายเหรอคะ?
งานนี้ไม่เฉพาะเปิดตลาดสดใหม่คะ
รวมเอาพิธีทำบุญแก่วิญญาณไร้ญาติ-ร่อนเร่
ที่ปล่อยออกมาจากประตูนรก ในวันนั้น
เต่าที่เป็นขนมก็เป็นสัญญลักษณ์ค่ะ

พี่จุ๊งทราบเรื่องเล่าต่อเลยคะ
เกี่ยวกะพระถังซำจั๋ง..อะไรนี่แหละ

http://img46.imageshack.us/flvplayer.swf?f=Mp1020145


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 14 กันยายน 2553, 23:30:02
โพสต์เรื่องดีๆน่าประทับใจของโจโฉอีกเรื่องก่อนนอนดีกว่า

เหตุการณ์ที่ผมประทับใจในตัวโจโฉ คือเรื่องราวของโจโฉกับชัวบุ่นกี กวีหญิงคนแรกของจีน ทำให้ผมรู้ว่าโจโฉเป็นคนมีน้ำใจ  เลยชอบโจโฉ  ชัวบุ่นกีเป็นบุตรสาวของชัวหยง ขุนนางผู้ใหญ่สมัยปลายราชวงศ์ฮั่น มีหน้าที่เขียนประวัติศาสตร์ ชัวบุ่นกีมีความสามารถทางดนตรีมาแต่เด็กๆ  จนได้รับการยกย่องแม้แต่ในคัมภีร์สามอักษรที่ถือเป็นแบบเรียนเริ่มต้นของจีนมาหลายร้อยปีก็มีบันทึกเกี่ยวกับชัวบุ่นกีไว้ บังเอิญตอนตั๋งโต๊ะถูกอองอุ้นกับลิโป้ฆ่าตาย ประกาศห้ามไม่ให้ใครมาไว้อาลัยตั๋งโต๊ะ  ชัวหยงนึกถึงความดีของตั๋งโต๊ะที่มีต่อตนเอง เลยไปยืนหลั่งน้ำตาไว้อาลัยตั๋งโต๊ะ เลยถูกอองอุ้นฆ่า   ชัวบุ่นกีถูกเนรเทศไปชายแดน แต่งงานกับชนเผ่าซงหนู ได้รับความระกำลำบากมาก โจโฉเป็นเพื่อนกับชัวหยง เลยใช้เงินไถ่ตัวชัวบุ่นกีมารับราชการด้วย  ชัวบุ่นกีเลยได้ทำหน้าที่เขียนประวัติศาสตร์ต่อจากพ่อที่เขียนทิ้งไว้

เรื่องพระถังซำจั๋งนี่ ฟังรายการเล่าเรื่องบันทึกนิราศชมภูทวีปของสมณะเสวียนจั้งที่เป็นต้นแบบของพระถังซำจั๋ง แล้วมีเกร็ดเยอะพอสมควร และบันทึกของสมณะเสวียนจั้งกลายเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ให้ชาวอินเดียได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ของประเทศตนเมื่อสมัยพันกว่าปีมาแล้ว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 15 กันยายน 2553, 10:10:01
ชอบครับพี่จุ๊ง 

            เอาอีกๆ

ช่วงเดือนนี้ ที่จีนมีขายขนมไหว้พระจันทร์ขายเยอะมา ร้านข้างถนน ทำเสร็จแล้วขายใหม่ๆ    แต่ไม่อร่อยเท่าไทย   เพราะที่นี่้มีทั้งผสมเนื้อสัตว์ด้วย



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 15 กันยายน 2553, 13:00:51
ขอเรื่องขนมไหว้ด้วยคะ
แล้วขนมใส้ถั่ว ใส้ทุเรียนกวน
ที่แพงๆ กินแล้วอ้วน...ไหว้ด้วยรึปล่าวคะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 15 กันยายน 2553, 13:29:41
หลายคนที่เคยอ่านสามก๊ก คงสงสัยว่าทำไมชื่อคนในสามก๊กถึงมีทั้งชื่อจริงและชื่อรอง ความจริงชื่อจริงและชื่อรองของคนจีนจะใช้คำต่างกัน อย่างคำว่าชื่อในภาษาไทยก็มาจากคำจีนที่แปลว่าชื่อรองนี่เอง ชื่อของคนจีนจะแบ่งเป็นหลายแบบ อย่างโจโฉนี่ ชื่อเด็กจะชื่ออาหมั่น ชื่อที่ตั้งให้อย่างเป็นทางการก็คือชื่อโฉเมื่อบวกกับแซ่โจก็เรียกว่าโจโฉ ชื่อรองหรือชื่อที่ตั้งสำหรับใช้ตอนบรรลุนิตภาวะแล้วชื่อเม่งเต็ก(ตามฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน)) วิธีเรียกก็จะต่างกัน ชื่ออาหมั่นหรือชื่อเด็กนี่จะเป็นผู้ใหญ่ในครอบครัวหรือเพื่อนสมัยเด็กใช้เรียกกัน ถ้าไม่ใช่พวกดังกล่าวจะถือว่าดูถูกกัน ส่วนชื่อจริงจะเรียกเมื่อไม่ต้องการจะให้เกียรติกัน อย่างผู้ใหญ่เรียกหรือผู้บังคับบัญชาเรียกเพื่อแสดงว่าจะใช้ฐานะอย่างเป็นทางการในการสั่งงานหรืออาจจะเป็นฝ่ายตรงข้ามที่จะใช้เรียกต่อหน้าอย่างไม่ให้เกียรติ(เรียกลับหลังไม่ใช่เรื่องดูถูกกันแต่ประการใด) ชื่อจริงนี้จะถือว่าห้ามใช้เรียกสำหรับเด็กที่จะเรียกชื่อผู้ใหญ่ ยกเว้นจะจำเป็นจริงๆที่จะแจ้งให้ผู้อื่นทราบชื่อของผู้ใหญ่ ส่วนชื่อรองจะเป็นการเรียกต่อหน้าเพื่อให้เกียรติแก่ผู้ถูกเอ่ยชื่อ ปกติชื่อรองจะไม่ใช้เมื่อยังไม่มีวุฒิภาวะพอ(ปกติจะอายุ20ปีขึ้นหรือแต่งงานมีครอบครัวหรือเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว)



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 15 กันยายน 2553, 13:32:55
ขอบคุณคะพี่สิ่งกวง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 15 กันยายน 2553, 13:44:29
คราวนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าชื่อ(หมายถึงชื่อจริง)ตัวละครในสามก๊กทำไมถึงบวกแซ่แล้วมี2พยางค์ ซึ่งหมายถึงมีชื่อโดดๆ อย่างเช่นเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย โจโฉ อ้วนสุด อ้วนเสี้ยว เคาทู ไม่เห็นมีชื่อ2พยางค์เลย อย่างชัวบุ่นกีที่ยกตัวอย่างมาจริงๆก็เป็นชื่อรองและค่อนข้างคุ้นหูกับคนจีนมากกว่า ชื่อจริงของชัวบุ่นกีชื่อชัวเอี่ยม อ้อจำได้แล้ว ในฉบับเจ้าพระยาพระคลังก็มีเขียนถึงชื่อชัวเอี่ยมอยู่

ทั้งนี้เพราะสมัยปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันตกหรือไซฮั่น อองมังยึดอำนาจตั้งตนเป็นฮ่องเต้ ตั้งราชวงศ์ใหม่ชื่อราชวงศ์ซิน ครองอำนาจอยู่ได้18ปี จากนั้นเล่าสิวถึงยึดอำนาจคืนจากนั้นก็ย้ายนครหลวงจากเมืองเตียงอั๋นซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกมาเป็นเมืองลกเอี๋ยงทางด้านตะวันออก ทางประวัติศาสตร์จึงเรียกราชวงศ์ฮั่นตั้งแต่ยุคนี้ว่าฮั่นตะวันออกหรือตังฮั่น หลานปู่ของอองมังชื่ออองเจ็งใช้ชื่อพยางค์เดียวเหมือนกัน ใจร้อนอยากได้อำนาจ ได้สะสมกำลังจะทำการ โดนจับได้กลัวความผิดเลยฆ่าตัวตาย อองมังประกาศว่าเดิมอองเจ็งใช้ชื่อคู่ชื่ิออองโอยเจ็ง ให้ยกเลิกชื่อเดี่ยวเสีย ให้ใช้ชื่อคู่ตามเดิม จากนั้นคนจีนก็เลยใช้ชื่อเดี่ยวเพื่อยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ปฏิบัติตัวตามกฎหมาย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 15 กันยายน 2553, 23:15:10
ต่อคะพี่จุ๊ง
อย่าขาดตอน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 16 กันยายน 2553, 16:07:54
เกร็ดสามก๊กตอนนี้นึกอะไรไม่ออก เลยเอาเรื่องสมัยเลียดก๊กดีกว่า ในประวัติศาสตร์มีบันทึกเรื่องของมือสังหารต่างๆ มีสำเนาของจวนจู หนึ่งในสี่ยอดมือสังหารในสมัยเลียดก๊ก เชิญรับชมได้

จวนจู เดิมเป็นคนฆ่าสัตว์ ร่างกายแข็งแรงมาก มีความกตัญญูต่อมารดาเป็นอย่างมาก(สังเกตดู คนมีชื่อในประวัติศาสตร์ ล้วนเป็นลูกกตัญญูชวนป๋วยปี่แป่กอ) มีครั้งหนึ่ง จวนจูเกิดต่อสู้กับชายร่างใหญ่ กำลังชุลมุนอยู่ ได้ยินเสียงมารดาเรียก ก็หยุดมือทันที อู่จื่อซีผ่านมาพบพอดี เห็นแล้วมีความเคารพนับถืออย่างยิ่ง เลยสาบานเป็นพี่น้องกับจวนจู อู่จื่อซีรู้ว่าคุณชายจีกวงใคร่จะฆ่าอู่อ๋องเหลียว ดังนั้นก็แนะนำจวนจูให้กับคุณชายจีกวง บิดาของคุณชายจีกวงคืออู๋อ่องจูฟ่าน จูฟ่านมีน้องชาย 3 คน คนโตหวีจี้ คนรอง อี๋ น้องคนที่สามจี้จา จูฟ่านรู้ว่าน้องคนที่3 ดี ดังนั้นตั้งใจไม่ตั้งทายาท ยกตำแหน่งเจ้าตามลำดับพี่น้อง ตั้งใจท้ายสุดตำแหน่งจะตกมาสู่น้องคนที่สามจี้จา  เมื่อจูฟ่านตาย ตำแหน่งก็ตกทอดไปสู่หวีจี้ หวีจี้ตาย อี๋สืบทอด เมื่ออี๋ตาย ตำแหน่งควรตกทอดให้จี้จา แต่จี้จ้าไม่ยอมรับ แอบหนีไป เหลียวลูกของอี๋ก็เลยแต่งตั้งตัวเองเป็นอู๋อ๋อง เมืออ๋องเหลียวหันหลังให้กับหลักการตำแหน่งพี่น้องสืบทอด น้องสุดท้องหมด หลานศักย์พี่สุดรับตำแหน่งต่อ ทำให้คนที่ควรจะได้ตำแหน่งอย่างคุณชายจีกวงไม่ยอมรับ เลยแอบวางแผนช่วงชิง คุณชายจีกวงให้ความสำคัญกับจวนจูมาก และให้ความเคารพแม่จวนจู จวนจูซาบซึ้งในน้ำใจ ตั้งใจจะใช้ชีวิตตอบแทนพระคุณ แต่ก็ยังมีแม่ผู้ชราอยู่ กับการลอบสังหารก็ยังลังเลใจ เมื่อแม่ของจวนจูทราบเรื่อง เพื่อสานปณิธานของลูกชายเลยผูกคอตาย หลังจากจวนจูทำพิธีศพมารดา ก็มุ่งมั่นวางแผนลอบสังหารอ๋องเหลียวกับคุณชายจีกวง อีกทั้งเสนออุบายด้วยว่าอ๋องเหลียวชอบกินปลาย่าง น่าจะสามารถแอบซ่อนกระบี่ไว้ในท้องปลา รอโอกาสสังหาร เมื่อวางแผนเสร็จเรียบร้อย จวนจูก็ไปฝึกวิธีการย่างปลา ใช้เวลาเพียง3 เดือนก็ฝึกจนมีฝีมือชั้นเยี่ยม เมื่อได้จังหวะเหมาะ คุณชายจีกวงก็เข้าไปพบอ๋องเหลียว ทุลว่า “มีพ่อครัวมาจากทะเลสาบไท่หู มีความชำนาญในการย่างปลา รสชาติหอมหวนกลมกล่อม ขอเชิญท่านอ๋องไปที่กระท่อมผู้น้อยลองลิ้มชิมรส” อ่องเหลียวตอบรับด้วยความยินดี รับปากว่าจะไปในวันรุ่งขึ้น คุณชายจีกวงรีบเตรียมทหารใส่เกราะไว้ในห้องลับ และสั่งให้อู่จื่อซีนำนักรบเดนตายร่วมร้อยคนคอยปฏิบัติงานร่วมอยู่ภายนอก อ๋องเหลียวแม้รับปาก แต่ก็กลัวว่าคุณชายจีกวงจะออกอุบายทำร้าย ดังนั้นเวลาไปงานเลี้ยงก็เตรียมองครักษ์ไว้เพียบ จากวังท่านอ๋องถึงบ้านของจีกวงก้เต็มไปด้วยองครักษ์พร้อมพรักด้วยอาวุธคู่กาย อ๋องเหลียวเองก็ใส่เกราะถึง3ชั้น คนสนิทก็ไม่ยอมให้ห่างกาย สุราผ่านไปหลายจอกแล้ว จีกวงมารยาเป็นเจ็บขา ต้องใช้ผ้ารัดขา แอบเข้าไปในห้องลับ จากนั้นซักพักหนึ่ง จวนจูก็ยกถาดปลาย่างออกมา องครักษ์สองฟากประกบจวนจูที่เปลือยแขน ประคองถาดคุกเข้ากระดืบเข้ามา จวนจูได้แอบซ่อนกระบี่ไส้ปลา ที่คมกริบไว้ในท้องปลาที่ย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดินไปถึงหน้าที่นั่งของอ๋องเหลียว ทันใดนั้นก็ดึงกระบี่ออกมา แทงถูกอ๋องเหลียว ด้วยเรียวแรงของจวนจู แทงทะลุเกราะ3ชั้น ทะลุไปถึงแผ่นหลัง อ๋องเหลียวร้องได้คำเดียว สิ้นพระชนม์ทันที องครักษ์รอบข้าง กรูเข้ามาพร้อมกัน ดาบหอกประสานกัน สับจวนจูเป็นชิ้นๆ จีกวงรู้ว่าเรื่องสำเร็จแล้ว สั่งให้ทหารที่เตรียมไว้ออกมาพร้อมกัน เข่นฆ่าองครักษ์อ๋องเหลียวหมดสิ้นในคราเดียว เมื่อกำจัดอ่องเหลียวสำเร็จ จีกวงก็ตั้งตัวเองแป็นอู๋อ๋อง ซึ่งก็คืออู่ฮ๋องเหอลวี่  พ่อของอู๋อ๋องฟูไชผู้ลุ่มหลงไซซีจนนำไปสู่การสิ้นชาตินั่นเอง ต่อมาคนรู้ว่าจวนจูเคยเรียนการทำอาหารที่ริมทะเลสาบไท่หู เลยยกย่องจวนจูว่าเป็นปรมาจารย์ของพ่อครัว

ถ้าใครเคยดูละครทีวีเรื่อง ซุนหวู่ น่าจะเคยดูฉากเหตุการณ์นี้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 16 กันยายน 2553, 16:53:24

ยังไม่เคยดูละครทีวีเรื่อง ซุนหวู่ อ่ะครับ

มี CD หรือ DVD ให้ยืมหรือเปล่า?........ท่านจุ๊ง

แล้วเรื่องประเพณีไหว้พระจันทร์ที่น้องๆอยากรู้.....ว่าไง.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 16 กันยายน 2553, 17:08:03
ปรกติ ที่จีนบริษัทจะมีประเพณีแจกขนมไหว้พระจันทร์ให้กับพนักงานครับ
         สำหรับ บริษัทผมจะแจกเป็น บัตรกำนัลของร้านขายขนมไหว้พระจันทร์ มูลค่าประมาณ 200 หยวน  แล้วให้พนักงานไปแลกซื้ัอเองครับ





หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 16 กันยายน 2553, 17:21:23

200 หยวน เกือบพันบาท........บริษัทใจดีจัง

พนักงานทุกระดับ ได้เรทเดียวกันหมดเลยหรือเปล่าครับ?........น้องขุน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 16 กันยายน 2553, 18:25:59
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 16 กันยายน 2553, 17:21:23

200 หยวน เกือบพันบาท........บริษัทใจดีจัง

พนักงานทุกระดับ ได้เรทเดียวกันหมดเลยหรือเปล่าครับ?........น้องขุน


เท่าที่ทราบ ได้เรทเดียวก้นหมดครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 16 กันยายน 2553, 19:40:26


เพิ่งคันพบห้องนี้
ต๊ะไว้ก่อน   เดี๋ยวจะมาตามอ่าน ตามเก็บ
ขอบคุณเฮียจุ๊ง



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 17 กันยายน 2553, 15:21:18
แฟนคลับมารอแล้วครับพี่จุ๊ง   สร่างหรือยังครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 17 กันยายน 2553, 18:03:01
สรุปว่า จวนจู เป็นคนแข็งแรงบึกบึน ใช่ไหมค่ะพี่จุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 17 กันยายน 2553, 18:08:02
ไม่อ้วนนะคะ?
ไม่รู้ปลาย่างใส้มีด
รสชาดเป็นไง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 กันยายน 2553, 13:07:46
ถ้าใครเคยอ่านหนังสือกำลังภายใน อาจจะเคยเจอกระบี่ไส้ปลา ก็ขอให้รู้ว่ามาจากจวนจูนี่แหละ วันไหว้พระจันทร์กำลังจะมาวันที่22 กันยายนนี้ เดี๋ยวจะเปิดกรุปัดฝุ่นบทความเก่าๆเกี่ยวกับวันไหว้พระจันทร์มาแอ้มขนมไหว้พระจันทร์หน่อย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 กันยายน 2553, 13:33:55
แอ่น แอ๊น ขุดปุ๊บ เจอปั๊บ เป็นบทความของเพื่อนที่เคยโพสต์ในเน็ต เก็บเอามาโพสต์ต่ิดื้อๆเลย อาจจะยาวหน่อย แต่ถ้าแบ่งโพสต์ ข้อความมันจะไม่ต่อเนื่อง ใครว่างช่วยหาภาพขนมไหว้พระจันทร์มาเรียกน้ำย่อยหน่อยก็ดี

จงชิว(แปลว่ากลางฤดูใบไม้ร่วง)   เทศกาลฉลองฤดูเก็บเกี่ยว  中秋节

วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 เป็นวันเทศกาลจงชิว    คนไทยเราเรียกว่าวันไหว้พระจันทร์     เดือน 8 เป็นเดือนที่อยู่กลางฤดูชิว(ใบไม้ร่วง)  และวันขึ้น 15 ค่ำเป็นวันที่อยู่กลางเดือน 8     จึงเรียกว่าวันจงชิว     มีบันทึกเรื่องราวของจงชิว ในคัมภีร์โจวหลี่  周礼  ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว  周朝    การก่อเกิดของเทศกาลจงชิว สืบเนื่องมาการบูชาธรรมชาติของมนุษย์     กษัตริย์ในสมัยโบราณมีพิธีฤดูชุนบูชาสุริยะเทพ   ฤดูชิวบูชาดวงจันทร์     ฤดูชิว คือฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูแห่งการเก็บเกี่ยว     ชาวจีนโบราณมีคำกล่าวว่า     ชุน(ฤดูใบไม้ผลิ)ไถหว่าน เซี่ย(ฤดูร้อน)เพาะปลูก ชิว(ฤดูใบไม้ร่วง) เก็บเกี่ยว ตง(ฤดูหนาว)กักเก็บ     นั่นก็คือจากการทำงานอย่างอาบเหงื่อต่างน้ำมาตลอดทั้งปีในฤดูชุนและเซี่ย     จะมาเก็บเกี่ยวดอกผลเอาในฤดูชิว     จึงเป็นฤดูกาลที่น่ามีการเฉลิมฉลองเป็นอย่างยิ่ง      บรรยากาศในฤดูชิว แกนโลกเบนห่างออกจากดวงอาทิตย์     อากาศร้อนในเริ่มคลายตัวลง     ท้องฟ้าโปร่งใสไร้เมฆหมอกและดูสูงกว่าฤดูอื่น     ดวงจันทร์สุกใสกลมโตเป็นพิเศษ     จึงเหมาะแก่การดื่มเหล้าจิบชาชมจันทร์     โดยเฉพาะถ้าปีไหนการเพาะปลูกได้ผลดีเรียกว่า     เฟิงโซว 丰收 หรือเฟิงเหนียน  丰年    ยิ่งต้องเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุขและเป็นการเตรียมต้อนรับลมหนาวที่จะย่างกรายมาในไม่ช้า    คิดว่าการเฉลิมฉลองสนุกสนานรื่นเริงหลังการเก็บเกี่ยวคงจะมีมาตั้งแต่สมัยโบราณในสังคมการเกษตร    จนกระทั่งในสมัยถัง  จงชิว จึงถูกกำหนดเป็นวันเทศกาลประจำปีอย่างทางการ    พอถึงสมัยหมิงและชิง เทศกาลจงชิว ได้ถูกกำหนดเป็นหนึ่งในสามเทศกาลใหญ่ประจำปี    

ขณะเดียวกันฤดูชิวก็เป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์โศกเช่นเดียวกัน     โดยเฉพาะปีไหนที่ฝนไม่ต้องตามฤดูกาล     การเพาะปลูกไม่ได้ผลเรียกว่าฮวางเหนียน  荒年     ไม่มีข้าวเก็บในยุ้งในฉางมองดูท้องนาเหลือแต่ฟางข้าวที่เฉาแห้ง     ต้นไม้ผลัดใบเหลือแต่กิ่งและใบเหลืองแดงที่ปลิวตามสายลม     น้ำในลำธารที่ใกล้จะแห้งขอดไหลเอื่อยๆ     ช่างดูเป็นบรรยากาศที่หงอยเหงาเศร้าสร้อยเหมือนดั่งคำว่า     ว่างชวนชิวสุ่ย   望穿秋水(มองด้วยความหวังจนตาแทบทะลุ)

เทพีฉางเอ๋อ จรดวงจันทร์  嫦娥奔月

เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลจงชิวมีอยู่มากมาย      หนึ่งในนั้นคือเรื่องเทพนิยายฉางเอ๋อ 嫦娥 และโฮ่ว-อวี้ 后羿 ซึ่งเป็นนิยายปรัมปราที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์โบราณว่า     ฉางเอ๋อ เป็นภรรยาของโฮ่ว-อวี้     ขโมยกินยาอายุวัฒนะที่โฮ่ว-อวี้ ได้มาจากเจ้าแม่ซีหวางหมู่แห่งเขาคุนลุ้น      จึงถูกสาปให้กลายเป็นคางคกฝนยาอยู่ที่วังเย็น(มันคือวังจันทร์ส่องหล้าหรือเปล่าก็ไม่รู้)บนดวงจันทร์    มีชีวิตอยู่อย่างคับแค้นเดียวดายไปชั่วกัปชั่วกัลป์     แต่เนื่องจากดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์แห่งความงาม     มีอิทธิพลต่ออารมณ์และจิตใจของคนเราทั้งยามสุขและยามเศร้า      คนทุกชาติภาษาในโลกนี้ล้วนมีนิยายโรแมนติคที่เกี่ยวข้องกับดวงจันทร์     นักกวีในยุคต่อมามีความรู้สึกว่าฉางเอ๋อ ถูกสาปกลายเป็นคางคกไปอยู่ที่ดวงจันทร์เป็นเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับความรู้สึกของผู้คนที่เห็นดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์แห่งความงาม         จึงมีการแก้ไขเทพนิยายเรื่องนี้เป็น       ในสมัยของจักรพรรดิ์เหยา บนท้องฟ้ามีดวงอาทิตย์ 10 ดวง      แผ่รังสีความร้อนแผดเผาจนพืชผลบนพื้นโลกแห้งตาย      พื้นดินแตกระแหงท้องทะเลแห้งเหือด      ในขณะนั้นเกิดวีรบุรุษผู้หนึ่งชื่อว่าโฮ่ว-อวี้ (บางฉบับว่าเป็นเทพจุติลงมา)      มีความสามารถในการยิงธนูสูงเยี่ยม     โฮ่วอวี้ ใช้ธนูยิงดวงอาทิตย์ตกลงมา 9 ดวง     เหลือไว้เพียงหนึ่งดวงและกำชับให้ขึ้นทางทิศตะวันออกในเวลาเช้า     ตกลงทางทิศตะวันตกในเวลาเย็น     เพื่อให้เกิดฤดูกาลที่เหมาะแก่กาลเพาะปลูก     โฮ่ว-อวี้จึงกลายเป็นวีรบุรุษที่ได้รับการยกย่อง     มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย     มีคนหลั่งไหลมาเป็นลูกศิษย์ลูกหา     และได้แต่งงานกับฉางเอ๋อ ผู้เลอโฉม     วันหนึ่งโฮ่ว-อวี้ เดินทางไปพบเจ้าแม่ซีหวางหมู่ ที่เขาคุนลุ้น     ได้รับยาอายุวัฒนะมาเม็ดหนึ่ง     โฮ่ว-อวี้ เกรงว่าถ้าตัวเองกินยานี้แล้วคงต้องอยู่อย่างเดียวดายหลังจากที่ฉางเอ๋อเสียชีวิตไปแล้ว     จึงฝากให้ฉางเอ๋อ เก็บยานี้เอาไว้     วันหนึ่งโฮ่ว-อวี้  พาลูกศิษย์ออกไปล่าสัตว์     เฟิงเหมิง ลูกศิษย์ทรยศได้บังคับให้ฉางเอ๋อมอบยาอายุวัฒนะให้กับตนเอง      ฉางเอ๋อ จึงกลืนกินยานั้นลงไป     หลังจากกลืนยาลงไปแล้วฉางเอ๋อ ก็ล่องลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า     แต่ความที่คิดถึงและเป็นห่วงสามีจึงไปอาศัยอยู่บนดวงจันทร์     เฝ้ามองสามีที่อยู่บนพื้นโลก     เมื่อโฮ่ว-อวี้ กลับจากการล่าสัตว์จึงได้จัดการสำเร็จโทษเฟิงเหมิง ลูกศิษย์ทรยศ     หลังจากนั้นได้แต่เฝ้ามองดวงจันทร์ด้วยความคิดถึงภรรยา     ส่วนชาวบ้านต่างก็จุดธูปบูชาฉางเอ๋อที่อยู่บนดวงจันทร์    

นิยายเรื่องนี้มีการปรับแต่งเป็นไปหลายรูปแบบ    แต่ล้วนแต่เป็นการยกย่องความดีและความงามของฉางเอ๋อ     เมื่อประมาน 40 ปีที่ผ่านมาบริษัทชอว์บราเดอร์ได้สร้างเป็นภาพยนตร์    นำแสดงโดยเจ้าเหลย และเล่อตี้     แต่เรื่องราวกลับเป็นโฮ่ว-อวี้     หลงอำนาจกลายเป็นทรราชแสวงหายาอายุวัฒนะ    ส่วนฉางเอ๋อ นั้นเดิมเป็นเทพธิดาบนสวรรค์     เมื่อว่ากล่าวตักเตือนโฮ่ว-อวี้ ไม่เป็นผลจึงจรลีหนีไปอยู่ที่ดวงจันทร์     ประธานเหมา เคยวิจารณ์นิยายเรื่องนี้ว่า     ท้ายที่สุดฉางเอ๋อ ก็ต้องจรลีไปอยู่ที่วังเย็นบนดวงจันทร์อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย     เป็นการสะท้อนถึงความคิดศักดินาที่เห็นว่าสตรีไม่สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตนอง     เมื่อแยกออกจากบุรุษแล้วก็ต้องอยู่อย่างคับแค้นเดียวดาย


ฉางเอ๋อ    

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l902wq-70fe1c.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 20 กันยายน 2553, 12:59:07
ที่บ้านหนิงเขาฉลองฤดูเก็บเกี่ยวด้วยการดื่มคะ!
Oktoberfest-Folkfest-Weinfest...
ถองกันให้เป๋...แฟ็ด


ขอภาพขนมไหว้พระจันทน์ด้วยพี่จุ๊ง
ใส้ทุเรียน-ไข่นะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 กันยายน 2553, 22:52:34
เยอรมันต้องฉลองด้วยการดื่มเบียร์ล่ะดิ ภาพขนมไหว้พระจันทร์คงต้องอาศัยคนอื่นช่วยโพสต์แล้วล่ะ หรือไม่เดี๋ยวจะลองหาในเน็ตดู คราวนี้มาคุยเรื่องตำนานขนมไหว้พระจันทร์บ้าง

จูหยวนจาง ก่อการคืนจงชิว

ในสมัยราชชวงศ์หยวน ชาวจีนต้องทนทุกข์ทรมานกับการปกครองที่โหดร้ายของราชสำนักมองโกลมาช้านาน     จนถึงปลายสมัยราชวงศ์หยวน      เกิดขบวนการต่อต้านราชสำนักขึ้นทั่วทุกหัวระแหง     แต่ไม่สามารถจะติดต่อประสานงานกันได้     เนื่องจากราชสำนักมองโกลทำการปิดกั้นอย่างเข้มงวด     ในสมัยนั้นแม้แต่การสุมหัวคุยกันเพียงสองคนก็อาจมีความผิดถึงขั้นประหารชีวิตได้     หลิวป๋อเวิน刘伯温   ขุนศึกผู้หนึ่งของจูหยวนจาง 朱元璋จึงคิดทำขนมเปี้ยะแบบมีใส้ขึ้นมาถือเป็นขนมในเทศกาลจงชิว     แจกจ่ายให้กับชาวบ้านทั่วๆไป     โดยมีหนังสือนัดหมายลุกฮือก่อการขึ้นพร้อมกันในคืนวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 (เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ชาวบ้านต้องมีกิจกรรมตามประเพณีอยู่แล้ว)     ซุกซ่อนอยู่ในขนมที่ส่งให้กับขุมกำลังที่สำคัญ     ทำให้เกิดการลุกฮือขึ้นขับไล่ราชวงศ์มองโกล  อย่างพร้อมเพรียงกัน     กองทหารของจูหยวนจางรุกเข้ายึดสถานที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว    หลังก่อการสำเร็จ จูหยวนจาง สถาปนาราชวงศ์หมิง明朝 ขึ้น     ตั้งตนเองขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์นามจักรพรรดิ์หมิงไท่จู่ 明太祖    ประกาศให้มีการเฉลิมฉลองชัยชนะ     เปิดราชวังร่วมสุขกับประชาชนในคืนเทศกาลจงชิว ของทุกปี      และเรียกขนมนี้ว่าขนมพระจันทร์     ตั้งแต่นั้นมาขนมพระจันทร์จึงกลายเป็นขนมประจำเทศกาลจงชิว     มีการพัฒนาไปมากมายหลายรูปแบบ   หลายชนิด     วันเทศกาลจงชิวจึงกลายเป็นวันเทศกาลขนมอีกเทศกาลหนึ่ง     และเนื่องจากวันจงชิวเป็นเทศกาลเก็บเกี่ยว      นอกจากการเก็บเกี่ยวข้าวในไร่ในนาแล้ว    ผลหมากรากไม้ต่างๆก็สุกพอดีวันนี้จึงเป็นวันเทศกาลผลไม้อีกด้วย  

เนื่องจากเดือนเพ็ญมีรูปทรงกลม      คำว่ากลมนั้นหมายถึงความกลมเกลียว     ดังนั้นสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นขนมหรือภาพประกอบ     จึงนิยมทำเป็นรูปกลมๆเพื่อแสดงถึงความกลมเกลียว     จากการสืบทอดมาแต่อดีตถึงปัจจุบัน     เทศกาลจงชิวกลายเป็นวันเทศกาลใหญ่ประจำปีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย      เป็นรองเพียงวันตรุษจีนเท่านั้น     ทุกครอบครัวถือเอาวันนี้เป็นวันสำคัญของครอบครัว      ต้องอยู่กินข้าวกลมเกลียวร่วมกัน     คนที่จากไปทำงานอยู่ไกลบ้านก็ต้องกลับมาอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา      จึงถือเป็นวันครอบครัวอีกวันหนึ่ง



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 21 กันยายน 2553, 18:36:25
เรื่องสุดท้ายสองเรื่องนี้
ชอบที่สุดคะ...แม้ฉางเอ๋อ
จะเป็นเทพ หรือเป็นคางคก
หนิงก็ยังไม่แน่ใจ...ที
จะไปถามท่านประธานเหมา
ก็เกรงจาถูกเพ่ยออกมา!!


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 22 กันยายน 2553, 08:21:07

สวัสดีครับจุ๊ง น้องหนิง
เข้ามาติดตามอ่านอย่างชอบเลยครับ
ขอบคุณทั่นจุ๊ง ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 22 กันยายน 2553, 09:01:03

       ผมเพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องในห้องนี้ได้ความรุ้เกร็ดประวัติศาสตร์จีนหลายเรื่องที่เล่ามาดีมาก  จึงขอให้กำลังใจ

  และสนับสนุนให้นำเรื่องต่างๆมาลงบ่อยๆเป็นวิทยาทานและเป็นความรู้แก่ผู้ที่สนใจที่เข้าอ่านในห้องนี้ครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 22 กันยายน 2553, 11:10:52
ขอขอบคุณพี่ปรีชา พี่หนุน และท่านผู้ชมผู้ฟังทั้งหลายที่คอยให้กำลังใจ ผมวณิพกในฐานะผู้รับอาสาขุด จะได้มีกำลังใจในการขุดต่อไป วันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ ขอให้ทุกท่านกินขนมไหว้พระจันทร์แกล้มเกร็ดประวัติศาสตร์ให้อร่อยไปเลย สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์ครับ
วันนี้ผมขอขุดเอาปฏิทินสมัยโบราณมาคุยซะหน่อย เก็บตกและแปลเก็บไว้อ่านเองพร้อมกับกลุ่มผู้นิยมอะไรแบบจีนๆมานานแล้ว ถ้าใครมีปฏิทินจันทรคติแบบไทยๆมาแจมด้วยก็ดีครับ เพราะกรณีนี้ผมใบ้กิน

จะกล่าวถึงปฏิทิน จากหนังสือที่ผมอ้างถึงบอกว่าปฏิทินในโลกนี้มี 3 แบบ ของไทยเป็นแบบไหนใครพอรู้บ้าง

1  ปฏิทินสุริยคติ(阳历) ก็คือปฏิทินที่เรานับวันใช้อยู่นี่แหละ คิดค้นโดยจูเลียส ซีซาร์ จักรพรรดิแ่ห่งโรมันราว416ก่อนค.ศ. บางทีก็เรียกว่าปฏิทินโรมัน ระบบนี้อาศัยการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ล้วนๆ เห็นหนังสือบอกว่าในปีอธิกสุรทินที่เดือนกุมภาพันธ์มี29วันเรียก闰年 คือปีที่เลขค.ศ.หารด้วย4ลงตัว ปีอื่นที่ไม่ใช่จะเรียก平年 แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเพราะจำนวนนาทีเกินจากที่คิด เมื่อรวมครบ400ปีจะมี闰เพิ่มอีก3วัน จึงจำกัดให้หมายเลขศตวรรษไหนที่หารด้วย4ลงตัวไม่มี闰年เพิ่ม ศตวรรษอื่นเพิ่มอีก1ปีอธิกสุรทินหมด ฉะนั้นทุก400ปีจะมีปีอธิกสุรทิน闰年มี97ปี

2.  ปฏิทินจันทรคติ(阴历) อันนี้นับรอบโคจรของพระจันทร์ล้วนๆ คิดค้นโดยท่านนบี มูหะหมัด ศาสดาอิสลาม บางทีเลยเรียกปฏิทินอิสลาม(回历) ปกติดวงจันทร์โคจรรอบโลกใช้เวลา29วันกับ12ชั่วโมง44นาที2.8วินาที ทั้งปีแบ่งเป็น12เดือน เดือนคี่30วัน เดือนคู่29วัน 1ปีมี354วัน คิด30ปีเป็น1รอบ แต่ละรอบปีที่ 2,5,7,10,13,16,18,21,24,26,29 ถือเป็นปีอธิกสุรทิน闰年จะเพิ่มขึ้น1วันในเดือนสุดท้ายของปี ดังนั้นทุก30ปีจะมี11วันอธิกสุรทิน闰日
เนื่องจากการนับปฏิทินจันทรคติของคนอิสลามไม่ได้ ขึ้นกับการโคจรรอบดวงอาทิตย์ วันขึ้นใหม่อิสลามก็อาจจะอยู่เดือน2 หรือบางปีไปอยู่เดือน10ของเราเลยก็ได้

3.  ปฏิทินสุริยจันทรคติ(阴阳合历)เป็นปฏิทินที่ชาวจีนใช้อยู่ คิดค้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เซี่ย(夏朝)ซึ่งเป็นราชวงศ์์แรกที่ปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชและการสืบสันติวงศ์ในประวัติศาสตร์จีน(ยุคก่อนหน้านั้น จะใช้วิธีที่ผู้ปกครองคนก่อนเลือกผู้มีความดีความสามารถมาสืบตำแหน่งแทน) บางครั้งก็เรียกว่าปฏิทินเซี่ย(夏历)ตอนแรกก็เป็นแบบจันทรคตินั่นแหละ แต่ผ่านการแก้ไขมาหลายครั้งเลยกลายเป็นสุริยจันทรคติ แต่ด้วยความเคยชินคนจีนก็ยังเรียกว่าปฏิทินจันทรคติ(阴历)โดยเฉพาะชาวนาอาศัยปฏิทินนี้ในการทำเกษตรกรรมจึงเรียกกันทั่วไปว่าปฏิทินเกษตรกรรม(农历)ปฏืทินนี้อาศัยหลักที่ว่า1เดือนคือระยะเวลาดวงจันทร์โคจรรอบโลก และ1ปีคือระยะเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ นับจากเมื่อดวงจันทร์โคจรไปอยู่หว่างกลางที่สุดระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์จะ เป็นวันขึ้น1ค่ำ(初一)หรือที่เรียก朔日 朔แปลว่าพระจันทร์ดวงใหม่ เมื่อโลกโคจรไปอยู่หว่างกลางที่สุดระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์จะเป็นวัน เพ็ญขึ้น15ค่ำ(十五)หรือที่เรียกว่า望日 1ปีมี12เดือน เดือนใหญ๋(大月)มี30วัน เดือนเล็ก(小月)มี29วัน(ถือเป็น2เดือนเอามาเฉลี่ยกัน) ทั้งปีมี354วัน ยังน้อยกว่าเวลาที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์อยู๋11วัน เมื่อรวมกัน3ปีจะมีจำนวนวันเพิ่มขึ้น33วัน ดังนั้น3ปีก็นับปีอธิกสุรทิน闰年ที่มีเดือนเพิ่มขึ้นมา1เดือน ยังคงมีจำนวนวันเกินอีก3หรือ4วัน ก็รออีก2ปีจะมีวันเกินมา25-26วันก็นับปีอธิกสุรทิน闰年กันอีกทีอย่างนี้เป็นรอบๆ แบบนี้นับโดยเฉลี่ย29ปีมีเดือนอธิกสุรทินที่เพิ่ม(闰月)7 เดือน ปีอธิกสุรทิน闰年มี13เดือน ปีธรรมดา平年มี 12เดือน

เฮ่อ จบซะที เหนื่อย!


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 กันยายน 2553, 11:16:05

สวัสดีตอนสายๆครับ.......ท่านจุ๊ง...พี่ปรีชา...พี่หนุน...น้องหนิง และพี่น้องทุกท่าน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 กันยายน 2553, 11:34:48

วันนี้....วันไหว้พระจันทร์

มีขนมไหว้พระจันทร์มาฝากทุกท่านครับ



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l94sn6-f168e4.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 23 กันยายน 2553, 18:23:32
ไม่เห็นมีผู้ผ่านมาให้ความสนใจเลย เพื่อเรียกเรทติ้ง ก็เลยต้องขุดเรื่องใหม่ที่เก่าจากที่อื่นมาแล้วขึ้นมาเล่าซะหน่อย คราวนี้เรื่องเรื่องของกามเทพแบบจีนๆ เคยค้นคว้าแปลลงมุมจีนมานานแล้ว อาจจะมีความเป็นจีนมากไปหน่อย จะพยายามให้เป็นไทย  บทความเดิมสามารถดูได้ที่ http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=267737&Mbrowse=33 (http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=267737&Mbrowse=33)

เทพใต้แสงจันทร์  กามเทพแบบจีนๆ
เทพใต้แสงจันทร์ 月下老人 บางครั้งก็เรียกผู้อาวุโสแห่งจันทร์ 月老 เป็นเทพในเทพนิยายจีนที่ทำหน้าที่โดยเฉพาะในการจับคู่มนุษย์โดยใช้เส้นด้ายแดงผูกข้อเท้าของมนุษย์ชายหญิง  ยังมีศาลบูชาของเทพใต้แสงจันทร์ตามเมืองต่าง มีรูปปั้นสำหรับบูชาของคนที่มุ่งหวังจะมีคู่ครอง  ในสมัยโบราณข้างบึงตะวันตกซีหู  มีศาลบูชาเทพใต้แสงจันทร์  ชายและหญิงที่อยากมีคู่ครองก็จะไปจุดธูปวิงวอน เสี่ยงเซียมซี แก้บนต่างๆไม่ขาดสาย  เซียมซีของเทพใต้แสงจันทร์จะมีทั้งหมดสี่สิบเก้าไม้ เริ่มจากไม้แรก  “关关雎鸠,在河之洲。窈窕淑女,君子好逑。”จนถึงไม้สุดท้าย “愿天下有情人都成眷属。”

ตามตำนานกล่าวว่าเทพใต้แสงจันทร์มีบทบาทครั้งแรกในสมัยต้นราชวงศ์ถังไท่จงรัชกาลเจินกวน มีชายคนหนึ่งชื่อเหวยกู้  บิดามารดาเสียชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก  มีความคิดที่จะแต่งงานหาคู่ครองเสียแต่เนิ่นๆ  ไปสู่ขอก็หลายครั้งไม่ประสบความสำเร็จ  ครั้งนี้เขาเดินทางมาถึงเมืองซ่ง ไปพำนักในโรงเตี๊ยม คนที่พักอยู่ด้วยกันแนะนำให้ลูกสาวของอดีตซือหม่า(เดาว่าน่าจะเป็นตำแหน่งสมหกลาโหม)ให้  นัดกันไว้ว่ารุ่งเช้าไปพบกันที่วัดหลงซิง เหวยกู้ใจร้อน  ตอนเช้าฟ้ายังไม่สางก็รีบเดินทางไป เวลาขณะนั้น พระจันทร์กำลังจะตก แต่แสงจันทร์ก็ยังสว่างอำไพ เห็นคนแก่คนหนึ่งสะพายห่อผ้านั่งเอนหลังอยู่ข้างบันไดทางขึ้น ใช้แสงจันทร์อ่านหนังสืออยู่ เมื่อมองไปที่หนังสือนั้น เป็นภาษาประหลาดเหวยกู้อ่านไม่ออก เหวยกู้เลยถาม “ท่านลุง นี่เป็นหนังสืออะไร ผมเองก็เรียนหนังสือมาเยอะ แม้แต่ภาษาบาลีก็ยังอ่านออก แต่ตัวหนังสือไม่รู้จัก มันเกี่ยวกับอะไรหรือ”  คนแก่นั้นยิ้มแล้วบอกว่า “ นี่ไม่ใช่หนังสือบนโลกมนุษย์ เจ้าไหนเลยจะอ่านออก” เหวยกู้ถาม “แล้วมันเป็นหนังสืออะไรล่ะ” คนแก่ตอบ “นี่เป็นหนังสือของยมโลก” เหวยกู้ถาม “คนยมโลกทำไมถึงมาอยู่ในโลกมนุษย์ล่ะ”  คนแก่ตอบว่า” ไม่ใช่ว่าข้าไม่สมควรมา เพียงแต่เจ้าออกจากบ้านมาเช้าไป เลยเจอกับข้า เจ้าพนักงานในยมโลกล้วนแล้วแต่ดุแลเรื่องของโลกมนุษย์ ย่อมต้องมาโลกมนุษย์บ่อยเป็นธรรมดา”  เหวยกู้ถามอีก “แล้วท่านดูแลเรื่องอะไรหรือ” คนแก่ตอบว่า” เรื่องราวการมีคู่ครองของชาวโลกมนุษย์”  เหวยกู้ดีใจใหญ่ รีบถาม” ผมชื่อเหวยกู้ มีความตั้งใจอยากจะรีบแต่งงาน มีลูกหลานสืบสกุล ในช่วงสิบปีมานี้ พยายามหาคู่อยู่หลายครั้งก้ไม่ประสบความสำเร็จ ครั้งนี้มีนัดอีก จะสมหวังหรือไม่ครับ” คนแก่ตอบว่า” ยังไม่ถึงเวลา เจ้าสาวของเจ้าเพิ่งอายุได้ 3 ขวบเอง ต้องอายุ17 ปีถึงจะสามารถแต่งเข้าบ้านได้”  เหวยกู้รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก ถามไปอย่างแกนๆ “ห่อผ้าข้างหลังของท่านลุงเป็นอะไรหรือ”  คนแก่ตอบว่า “เป็นเส้นด้ายสีแดง  ใช้สำหรับผูกข้อเท้าของคนที่เป็นคู่ครองกัน เมื่อทั้งสองฝ่ายนั่งลง ก็จะแอบเอาด้ายนี้ไปผูกข้อเท้าฝ่ายละข้าง  หลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มีความแค้นต่อกัน หรือว่าศักดิ์ฐานะที่ต่างกันราวฟ้ากับดิน หรือว่าจะต้องเดินทางไปสุดหลายฟ้าเขียว อยู่กันต่างบ้านต่างเมืองก็ไม่สามารถสลัดหลุดจากกันได้ เท้าของเจ้าได้ผูกด้ายไว้กับเด้กหญิงคนนั้นแล้ว  จะไปหาหญิงอื่นก็ไม่มีประโยชน์”  เหวยกู้ถามอีก “ภรรยาของผมคนนั้นตอนนี้อยู่ไหน บ้านของเขาทำงานเลี้ยงชีพอย่างไร” คนแก่ตอบว่า “ลุกสาวของหญิงแซ่เฉินที่ขายผัก ข้างๆโรงเตี๊ยมนี้ใช่แล้ว” เหวยกู้ถาม “ขอดูหน่อยได้ไหม” คนแก่ตอบ “หญิงแซ่เฉินมักจะอุ้มเด้กหญิงมาขายผักด้วย เจ้าตามข้ามา เดี๋ยวข้าจะชี้ให้เจ้าดู” ฟ้าสว่างแล้ว คนที่นัดไว้รอก็ไม่มา  คนแก่ก็เอาหนังสือเก็บใส่ห่อผ้าแล้วก้เดินไป เหวยกู้เดินตาม  ไปถึงตลาดสด มีหญิงที่ตาบอดข้างหนึ่ง  อุ้มเด็กหญิงอายุประมาณ 3 ขวบ เด้กหญิงนั้นฟันหลอ หน้าตาดูไม่ได้  ชายแก่ก็ชี้เด็กผู้หญิงนั้น แล้วบอกว่า “นั่นเป็นภรรยาเจ้า”  เหวยกู้เห็นแล้วก็มีโมโห  บอกว่า “ผมฆ่ามันให้ตายดีกว่า ได้หรือเปล่า” ชายแก่หัวเราะหึๆ บอกว่า “ เด็กคนนี้ได้ถูกลิขิตมาแล้วว่าจะต้องเป็นคุญหญิงคุณนาย ทั้งนี้ก้โดยอาศัยบารมีของเจ้า เจ้าฆ่าไม่ตายดอก” กล่าวจบ ชายแก่ก็หายตัวไป
เหวยกู้กลับมาถึงโรงเตี๊ยม  ไปหามีดมาด้ามหนึ่ง เรียกคนใช้มาบอกว่า “เจ้าเป็นคนคล่องแคล่วว่องไว ข้าจะใช้ให้ไปฆ่าเด็กน้อยคนหนึ่ง ถ้าทำสำเร็จ มีรางวัล”  คนใช้รับปากแล้ว วันต่อมา คนใช้ก้ถือมีดไปที่ตลาด แทงใส่เด็กหญิงไปหนึ่งมีด อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีมา เหวยกู้ถาม “แทงตายไหม”  คนใช้ตอบว่า “ความจริงจะแทงที่หัวใจ แต่พลาดไปถูกหว่างคิ้ว” หลังจากนั้น เหวยกู้ก็พยายามเสาะหาคู่ครองก็ไม่สำเร็จ 14 ปีให้หลัง เนื่องจากทางราชการเห็นแก่ความดีความชอบของพ่อเหวยกู้ตอนมีชีวิต  เลยให้ตำแหน่งที่ปรึกษาทางทหารแก่เหวยกู้  เจ้าเมืองให้เหวยกู้รับผิดชอบคุกคุมขังนักโทษด้วย  ประทับใจในความสามารถของเหวยกู้ เลยยกลูกสาวให้ สาวน้อยอายุเพิ่ง 17 ปี หน้าตาสวยงามน่ารัก เหวยกู้พอใจเป็นอย่างมาก  เพียงแต่ตรงคิ้วจะปิดไว้ด้วยดิ้นทอง แม้แต่ตอนล้างหน้ายังไม่ถอดออก แต่งงานมาปีกว่าๆ เหวยกู้คาดคั้นสอบถามสาเหตุของการประดับดิ้นทอง  ภรรยาจึงตัดใจตอบด้วยความเสียใจว่า “ฉันเป็นหลานของท่านเจ้าเมือง ไม่ใช่ลูกแท้ๆหรอก สมัยก่อนพ่อฉันเป็นเจ้าเมืองซ่ง ตายในหน้าที่ ตอนนั้นฉันยังแบเบาะ  ทั้งแม่และพี่ชายต่างก็ตายจากไป  ในเมืองซ่งเหลือแค่ที่นา 1 แปลง พักอยู่กับแม่นมที่แซ่เฉิน ที่นาก้ไม่ห่างจากตัวเมืองนัก  แต่ละวันก็อาศัยขายผักเลี้ยงชีพ แม่นมสงสารฉันว่ากำพร้า เลยดูแลไม่ห่างตา  ดังนั้นก็อุ้มฉันไปขายผักด้วย  วันหนึ่งถูกคนใจดำมาทิ่มแทง 1 มีด  รอยแผลยังอยู่ เลยใช้ดิ้นปิดไว้  7-8ปีก่อน ท่านอามารับราชการที่เมืองใกล้เคียง ฉันเลยตามมาที่นี่ ตอนนี้ท่านก็รักฉันเหมือนลูกและยกฉันให้พี่” เหวยกู้ถามว่า “หญิงแซ่เฉินใช่ตาบอดข้างหนึ่งหรือไม่ “ ภรรยาแปลกใจถามว่า “พี่รู้ได้อย่างไร” เหวยกู้เลยยอมว่าว่าเป็นคนใช้ให้มาแทงเอย จากนนั้นก็เล่ารายละเอียดต่างๆให้ฟัง  หลังจากนนั้นสามีภรรยาก็ครองความรักอย่างสุขสม หลังจากนั้นเรื่องของเหวยกู้ก็แพร่หลายไปทั่ว ผู้คนเลยรู้ว่ามีเทพองค์หนึ่งที่คอยดุแลการแต่งงานของชายหญิง แต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร เลยเรียกว่าเทพใต้แสงจันทร์


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 25 กันยายน 2553, 22:20:24
ละครทีวีเรื่อง ซุนหวู่ 

ช่องไหนคะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 25 กันยายน 2553, 22:22:07
แหะ ๆ เวลาอ่าน หนูต้องก๊อปปี้ ใส่เวิร์ดค่ะ

ได้ความรู้อีกเรื่อง เย่่่!  emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 26 กันยายน 2553, 08:25:40
สวัสดีน้องหมี ซีรีย์เรื่องซุนหวู่นี่ไม่เคยดูเหมือนกัน แต่เห็นเขาคุยกันในเว็บว่าออกอากาศทางทีวีช่องThai PBS เมื่อ2ปีที่แล้ว ตอนนี้คงหาดูไม่ได่แล้ว  แต่ถ้าใครพอฟังภาษาจีนออกอาจจะพอหากล้อมแกล้มดูได้ที่ http://www.tudou.com/programs/view/nASt03emwYk/ (http://www.tudou.com/programs/view/nASt03emwYk/)
อ้อ เรื่องซุนหวู่ยังมีเกร็ดสนุกๆเกี่ยวกับซุนหวู่ฝึกทหารหญิง เดี๋ยวจะหามาเล่า
ถ้านึกถึงเรื่องอะไรที่เคยได้ยินได้ฟังมา อยากหารายละเอียดก้บอกมานะ จะหาให้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 26 กันยายน 2553, 09:39:59
อ้อ หาเจอพอดี แก้ไขเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับผู้อ่านแบบไทยๆก็ใช้การได้

ในยุคชุนชิว(หมายเหตุ คำว่าชุนกับชิวในที่นี้แปลได้หลายอย่าง ชุนอาจจะแปลว่าฤดูใบไม้ผลิก็ได้ แปลว่าความกระปรี้กระเปร่าหรือแม้แต่แปลว่าความเสน่หาระหว่างหนุ่มสาวในวัยรักก็ได้ คำว่าชิวก็แปลได้หลายอย่าง อาจจะแปลว่าฤดูใบไม้ร่วงก็ได้  ระยะเวลาเก็บเกี่ยวพืชผลก็ได้ บางทีก็อาจจะแปลว่าระยะเวลาช่วงที่ไมดีช่วงใดช่วงหนึ่ง อย่างเช่นเหตุการณ์ความแตกแยกเกิดความไม่สงบระหว่างคนไทยด้วยกัน ภาษาจีนอาจจะเรียกว่า乱世之秋(ชิว(ยุคสมัย)แห่งความวุ่นวาย) คำชุนชิวในที่นี้อาจจะแปลตามสำนวนสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ว่าแผ่นดินจีนนั้นไซร้มีสุขมาช้านานแล้วก็เป็นศึก ครั้นศึกสงบแล้วก้เป็นสุข คำว่าชุนชิวในที่นี้เป็นยุคสมัยหนึ่งในประวัติศาสตร์ หรือบางคนอาจจะคิดว่าฤดูใบไม้ผลิก็สงบกันที ฤดูใบไม้ร่วงก็รบกันทีก็ได้ สำหรับสมัยเลียดก๊กที่คนไทยรู้จักกันดี เป็นยุคหลังของเหตุการณ์สมัยชุนชิว)   มีนักวิชาการทหารที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง ชื่อ ซุนหวู่   เขามีตำราพิชัยสงครามอาจารย์ซุน  ซึ่งเขาเขียนเองพกติดตัวไปพบกับท่านอ๋องเหอหลู ซึ่งเป็นอ๋องของเมืองวู หลังจากที่ท่านอ๋องวูได้อ่านแล้วก็ถามขึ้นว่า  “ตำราพิชัยสงคราม 13 บทของท่าน ฉันได้อ่านหมดแล้ว จะทดลองใช้กับหน่วยทหารของฉันได้ไหม”  ซุนหวู่ตอบว่าได้

ท่านอ๋องวูถามอีก “ ให้ผู้หญิงเป็นผู้ทดสอบได้ไหม “  ซุนหวู่ก็ตอบว่าได้  ครั้นแล้วท่านอ๋องวูก็เรียกรวมพวกสนมนางในภายในพระราชวัง จำนวน 180 คน มาให้ซุนหวู่ฝึกฝน

ซุนหวู่จัดการแบ่งพวกนางในออกเป็น 2 หมู่ ให้สนมคนโปรดของท่านอ๋อง 2 คนเป็นหัวหน้ากลุ่ม ทั้งให้พวกเธอทุกคนถือหอกยาว  หลังจากตั้งขบวนเรียบร้อยแล้ว  ซุนหวู่ก็พูดว่า “  พวกท่านรู้ไหมว่าเดินหน้าถอยหลังซ้ายหันขวาหันทำอย่างไร”  เหล่าทหารหญิงพูดว่า “ ทราบค่ะ”

ซุนหวู่ถามอีก  “ไปข้างหน้าให้ดูหน้าอกฉัน  ไปข้างซ้ายให้ดุแขนซ้ายฉัน  ไปทางขวาก็ให้ดูแขนขวาฉัน ไปข้างหลังก็ให้ดูข้างหลังฉัน” พวกทหารหญิงพูดว่า  “เข้าใจค่ะ”  

ครั้นแล้วซุนหวู่สั่งให้นำเอาหยง(มีลักษณะคล้ายขวานเป็นเครื่องมือในการลงโทษประหารชีวิตในสมัยโบราณ)  สั่งและอธิบายพวกนางหลายรอบถึงกฏข้อที่ต้องระวัง พูดจบก็ตีกลองส่งสัญญาณให้ไปทางด้านขวา  

หารู้ไม่ว่าพวกทหารหญิงไม่เพียงแต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง พวกนางยังกลับหัวเราะอย่างครึกครื้น ซุนหวุ่เห็นดังนั้นก็พูดว่า “อธิบายไม่ชัด มอบงานไม่ชัดเจน สมควรจะเป็นความผิดพลาดของผู้บังคับบัญชา”

ครั้นแล้วก็ได้จัดการอธิบายคำสั่งเมื่อสักครู่ให้กับพวกนางอย่างละเอียดอีกครั้ง  แล้วก็ดีกลองส่งสัญญาณให้ไปทางซ้าย  พวกทหารหญิงยังคงเอาแต่ยิ้มหัวกันอยู่ดี

ซุนหวู่จึงพูดว่า  “อธิบายไม่ชัด มอบงานไม่ชัดเจน เป็นความผิดพลาดของผู้บังคับบัญชา   ในเมื่อมอบงานชัดเจนแล้วไม่ฟังคำสั่ง ก็เป็นความผิดของหัวหน้าหมู่และบรรดาทหารแล้วล่ะ”  

พูดจบก็ออกคำสั่งผู้ติดตามจัดการประหารหัวหน้าหมู่ ท่านอ๋องวูเห็นซุนหวู่จะประหารนางในคนโปรดของเขา ก็รีบส่งคนไปขอผ่อนผันละเว้น แต่ว่าซุนหวู่พูดว่า  

“ในเมื่อฉันรับคำสั่งเป็นผู้นำทัพ  แม่ทัพอยู่ในกองทัพ    คำสั่งเจ้าชีวิตมีบ้างที่จะไม่ปฏิบัติตาม”  ครั้นแล้วก็สั่งผู้ติดตามประหารหัวหน้ากลุ่มสองคนนั้นไป แล้วก็สั่งคนที่ยืนหัวแถวสองคนเป็นหัวหน้าหมู่  

หลังจากนี้ไป เหล่าทหารหญิงไม่ว่าจะให้เดินหน้าถอยหลัง ไปซ้ายไปขวา   หรือแม้แต่คุกเข่า ยืนตรง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่ยุ่งยากซับซ้อนแค่ไหนต่างก็ตั้งใจฝึก ไม่กล้าทำเป็นเล่นอีกเลย  

เรื่องเล่านี้เดิมมาจาก..สื่อจี้{บันทึกประวัติศาสตร์เล่มแรกของจีน เขียนโดยซือหม่าเชียน ในรัชสมัยฮั่นหวู่ตี้ เนื้อหาประกอบไปด้วย 12 本纪(บันทึกกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์)  30世家(บันทึกเจ้าผู้ครองนครและตระกูลขุนนาง) 70列传(บันทึกบุคคลที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์) และ 十书(บันทึกเกี่ยวกับวิทยาการความก้าวหน้าอย่างประเพณีมารยาท ปฏิทิน กฏหมาย ดนตรี ฯลฯ)} ในบทบันทึกเรื่องราวของซุนจื่อหวู่ฉี  ต่อมา คนทั่วไปก็นำวิธีการที่ซุนหวู่อธิบายทหารหญิงครั้งแล้วครั้งเล่ามาแผลงเป็น “สามสั่งห้าตักเตือน” ซึ่งความหมายก็คือการตักเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้ง อย่างเช่นทางการของบางพื้นที่ได้ออกตักเตือนร้านขายสินค้าบริโภคหลายครั้งว่าต้องสะอาด ถูกหลักอนามัย เพื่อป้องกันการก่อให้เกิดผลร้ายทางด้านสุขภาพของลูกค้า พวกเราสามารถพูดว่า “เกี่ยวกับเรื่องทางร้านขายสินค้าบริโภคจะต้องรับประกันความสะอาดและถูกอนามัยทางรัฐบาลได้ “สามสั่งห้าตักเตือน” ทุกคนก็รู้กันมาตั้งนานแล้ว และอีกคำที่นิยมใช้ในวงการทหารและการค้าคือคำว่า “แม่ทัพเมื่ออยู่ในสนามรบ คำสั่งเจ้านายมีบ้างที่จะไม่ปฏิบัติตาม”  ทั้งนี้บรรดาเจ้านายก็ย่อมรู้ดีและเข้าใจ เพราะเจ้านายอยู่แต่ในหอคอยงาช้าง ไหนเลยจะเข้าใจสถานการณ์ของแม่ทัพซึ่งเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ได้



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 26 กันยายน 2553, 15:06:35
ในเรื่องสามก๊ก ผมชอบโจโฉมากที่สุด อาจจะได้อ่านประวัติเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของโจโฉมาพอสมควร โดยเฉพาะบทกลอนของโจโฉ ช่างลึกซึ้งกินใจ ไม่ใช่ความรักหนุ่มสาว ไม่ใช่ความรักระหว่างเพื่อน แต่เป็นความอาจหาญของบุคคล วันนี้ครึ้มใจ เลยทดลองแปลดู ผสมจินตนาการและความรู้สึกของตัวเองเข้าไปบ้าง ชอบจริงๆ กลอนบทนี้ของโจโฉ กลอนบทนี้อยู่ในบทเรียนชั้นมัธยมของจีนที่นักเรียนทุกคนต้องท่องจำให้ได้

短歌行
  
  对酒当歌,人生几何?
  譬如朝露,去日苦多。
  慨当以慷,忧思难忘。
  何以解忧?唯有杜康。
  青青子衿,悠悠我心。
  但为君故,沈吟至今。
  呦呦鹿鸣,食野之苹。
  我有嘉宾,鼓瑟吹笙。
  皎皎如月,何时可掇?
  忧从中来,不可断绝。
  越陌度阡,枉用相存。
  契阔谈宴,心念旧恩。
  月明星稀,乌鹊南飞,
  绕树三匝,何枝可依?
  山不厌高,海不厌深。
  周公吐哺,天下归心。

(ลำนำจริยาขนาดย่อม)

ดื่มเหล้าพร้อมเหล่าเพื่อน ผู้มาเยือนเพื่อนชีวา
ชีวิตเรานี่หนา จะหามีซักกี่หน

ดั่งน้ำค้างพราวตา เวลาตรู่อยู่ไม่ทน
อนาถชีวิตคน หนทางช่างลำบากนัก

ถึงแม้จะอาจหาญ คึกทะยานมั่นหาญหัก
ยังเรื่องกังวลหนัก สลักใจไม่อาจลืม

อย่างนี้ทำไงได้ ถึงทำใจให้เป็นปลื้ม
เอ้าเพื่อนเรามาดื่ม เพื่อคลายเหงาที่เศร้าใจ

เหล่าพวกหนอนตำรา   คอยกวนข้าให้เขวไขว้
คอยรบกวนจิตใจ ให้ข้ามีที่รำคาญ

ยังแต่เจ้าชีวิต ที่ข้าคิดเกรงทัยท่าน  
เพื่อความสมานมั่น ฉันเลยเฉยจนถึงบัดนี้

แว่วแว่วเสียงเก้งกวาง ร้องเสียงกร่างดังอึงมี่
เคี้ยวหญ้าในไพรี มันช่างมีความสุขนัก

ข้ามีแขกมาแล้ว ซอปี่แก้วกลองตีหนัก
ดนตรีมีพร้อมพรัก ขับขานให้ใจเบิกบาน

พระจันทร์อันสกาว ส่องแสงพราวพร่างบนลาน
ไฉนใจข้าหาญ อยากเก็บมันมาแนบไว้

พลันเกิดความกังวล อันล้นพ้นขึ้นในใจ
มิอาจระงับได้ ให้หมองหม่นเหลือทนนัก

ฝ่าเขาลำเนาไพร ที่ไกลๆไม่หยุดพัก
แต่ผลที่ได้มัก ไม่คุ้มกับที่คาดหวัง

คุยกับคนรู้ใจ เหล้าในไหเกลี้ยงเป็นลัง  
แต่ใจเราก็ยัง รำลึกถึงคนแก่เก่า

ในคืนที่จันทร์แจ่ม ไร้ดาวแซมแจ่มใจเรา
นกกาพลันร้อนเร่า เฝ้าบินไปในทิศใต้

เจอไม้ใหญ่วนเวียน เฝ้าแต่เพียรหากิ่งไม้
วนแล้วสามรอบไซร้ ไม่มีที่จะอาศัย

ขุนเขาทะยานเมฆ ยิ่งสรรเสกยิ่งสูงใหญ่
ทะเลลึกสุดใจ ใครหยั่งได้ให้บาทเดียว

โจวกงกินข้าวอยู่ รู้ใครมาพ่นข้าวเชียว
ทำได้ไม่ลดเลี้ยว ทั้งโลกหล้ามาสยบ

อ้อ (ลำนำจริยาขนาดย่อม)นี้ได้นำมาทำเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่องสามก๊กที่เคยฉายในบ้านเราเมื่อสิบกว่าปีก่อน สามารถฟังเพลงคลอไปกับความหมายของเพลงได้ที่ http://www.tudou.com/programs/view/_7mMR0wCJwc/ (http://www.tudou.com/programs/view/_7mMR0wCJwc/)
หมายเหตุ
โจวกงในที่นี้หมายถึงจีต้าน เป็นลูกชายคนที่สีของจิวบุ๋นอ๋อง เป็นน้องชายจิวบู๊อ๋อง ช่วยจิวบู๊อ๋องในการพิชิตติ้วอ๋อง กษัตริย์องค์สุดท้ายในราชวงศ์ซาง และสถาปนาราชวงศ์โจว ตามบันทึกประวัติศาสตร์ โจวกงเป็นคนที่ชอบหาคนมีความรู้ความสามารถเรียกว่า  (มองหาคนดีราวกับกระหายน้ำ)  โจวกงกลัวว่าจะสูญเสียคนดีของแผ่นดิน มีหลายครั้ง เวลามีคนมีความสามารถมาหา ยังสระผมอยู่ ก็รีบจับผมที่ยังไม่ได้หวีออกมาต้อนรับ บางทีรับทานข้าวอยู่ ได้ยินว่ามีแขกมา ก็รีบพ่นข้าวที่ยังไม่เคี้ยวออกมาต้อนรับแขกเหรื่อ  คำว่า(โจวกงพ่นข้าว) เลยกลายเป็น成语(คำสำเร็จรูปเชิงสุภาษิตเปรียบเปรย)  ที่แปลว่ากระตือรือร้นในการต้อนรับแขกเหรื่อ



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 26 กันยายน 2553, 16:47:40
เรื่องกามเทพใต้แสงจันทน์
อ่านแล้วคิดคะ!
คิดมาหลายวันแล้วด้วย..
ว่าพระเอก...มีจิตคิดฆ่า
เพียงเพราะความขี้เหล่..
พอมารู้ทีหลัง..สวย
อืมมมม
อำมหิตนะนี่!
รับไม่ได้.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 27 กันยายน 2553, 08:00:08


โอ้...เฮียจุ๊ง
เป็นเรื่องเล่าและลำนำที่อ่านเพลินมาก
ได้บรรยากาศ เลยหล่ะ
เอาอีกๆ

เฮียจุ๊ง  เยี่ยมอ่ะ




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กันยายน 2553, 08:19:46
ท่านจุ๊ง......

ถ้าเป็นข้อความยาวๆ กรุณาอย่าใช้ฟรอนท์ตัวเอียงเลยครับ......มันอ่านยาก..ปวดหัว

สงสารคนเริ่มสูงอายุอย่างผมหน่อย.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กันยายน 2553, 09:02:11
แก้ไขให้ท่านแหลมตามที่คุณขอมาแล้ว พร้อมกับแถมบทกลอนอมตะของหลี่ไป๋ สุนทรภู่จีน ซึ่งได้มีการแปลเป็นภาษาปะกิตไว้แล้วด้วย เป็นกลอนที่แต่งขึ้นในงานเลี้ยงส่งท่านเสมียนซูหวิน เชิญทัศนาได้ ใครถนัดจีนจีน ใครปะกิตปะกิต หรือจะเพลิดเพลินไปกับกาพย์ยานี11ก็ได้

《宣州谢朓楼饯别校书叔云》
作者:李白
弃我去者,昨日之日不可留。
乱我心者,今日之日多烦忧。
长风万里送秋雁,对此可以酣高楼。
蓬莱文章建安骨,中间小谢又清发。
俱怀逸兴壮思飞,欲上青天览日月。
抽刀断水水更流,举杯消愁愁更愁。
人生在世不称意,明朝散发弄扁舟。

Seven-character-ancient-verse

    Li Bai

    A FAREWELL TO SECRETARY SHUYUN
    AT THE XIETIAO VILLA IN XUANZHOU


        Since yesterday had to throw me and bolt,
        Today has hurt my heart even more.
        The autumn wildgeese have a long wind for escort
        As I face them from this villa, drinking my wine.
        The bones of great writers are your brushes, in the School of Heaven,
        And I am a Lesser Xie growing up by your side.
        We both are exalted to distant thought,
        Aspiring to the sky and the bright moon.
        But since water still flows, though we cut it with our swords,
        And sorrows return, though we drown them with wine,
        Since the world can in no way answer our craving,
        I will loosen my hair tomorrow and take to a fishingboat.

จากข้าเวลาวาน พร่ำเรียกขานมิหวนคืน
รบกวนข้ายามตื่น คืนวันนี้ที่เศร้าโศก
ลมโบกโบยโชยพา ห่านป่ามาจากไกลโลก
มิควรจะวิโยค ร่ายโศลกยกเหล้าถอน
ท่านนั้นเปรียบประดุจ เป็นที่สุดแห่งสาคร
ตำราและอักษร อีกโคลงกลอนที่หาญกล้า
เราสองมีพลัง ที่แฝงฝังยังชีวา
ทะยานสู่เมฆา สู่เวหาหาแขไข
มือสองประคองกอด มิให้ลอดหนีไปได้
ฟันหมับฉับน้ำไหล ขาดหรือไม่ไหลยิ่งเชี่ยว
หมองเศร้าเคล้าห่อเหี่ยว เหล้าจอกเดียวยิ่งหม่นหมอง
ยกมือถือจอกสอง นิ่งเฝ้ามองตรองตรองคิด
คนเราในโลกหล้า ต้องนำพาเรียกหาสิทธิ์
มิอาจใช้ชีวิต ตามที่คิดใครทนไหว
มิสู้รุ่งเช้าตรู่ พายเรือดูตามน้ำไป
ไปสู่ที่ไกลไกล มิมีใครไร้ผู้คน



หลี่ไป๋  

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9e9m4-7c9e89.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9e9mx-64dfdc.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 27 กันยายน 2553, 13:14:05
พี่จุ๊งที่เคารพ

มาอ่านต่อค่ะ

อ่านเสร็จมีเวลาก็ไปหาภาพมาดูว่า แต่ละตัวละคร เป็นยังไง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กันยายน 2553, 13:47:21
ขอบคุณครับ..........


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 27 กันยายน 2553, 14:09:57
สวัสดีครับพี่จุ๊ง

         เห็นพี่แหลมขอปุ๊บ พี่จุ๊งจัดให้ทันที

ผมขอมั่งนะครับ    ขอตัวอักษรที่เป็น Pin Yin ด้วยนะครับ  เพื่อการศึกษา

ขอบคุณล่วงหน้าครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กันยายน 2553, 14:27:14
เอามาให้ท่านจุ๊งช่วยแปล......

สวัสดีพี่หนุน..น้องหนิง..น้องขุน และน้องหมีด้วยครับ....



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9e9yf-5f12c8.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กันยายน 2553, 16:27:04
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 27 กันยายน 2553, 14:09:57
สวัสดีครับพี่จุ๊ง

         เห็นพี่แหลมขอปุ๊บ พี่จุ๊งจัดให้ทันที

ผมขอมั่งนะครับ    ขอตัวอักษรที่เป็น Pin Yin ด้วยนะครับ  เพื่อการศึกษา

ขอบคุณล่วงหน้าครับ


ไม่เข้าใจว่าต้องการให้ทำยังไง ให้ใส่pinyinเพื่อช่วยในการอ่านหรือยังไง แต่ถ้าต้องการแค่pinyinเพียวๆไม่สนับสนุน เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร และการใส่pinyinค่อนข้างยุ่งยาก เสียเวลามาก ถ้าอยากได้pinyinช่วยในการอ่าน สามารถใช้wordช่วย สามารถให้มันแสดงpinyinได้

สำหรับท่านแหลมเปี๊ยบ เอาอาหารหนักมาให้ผมซะแล้ว ขอเวลาบิ๊วอารมณ์ซักแป๊บนะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กันยายน 2553, 16:49:38
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 27 กันยายน 2553, 14:27:14
เอามาให้ท่านจุ๊งช่วยแปล......

สวัสดีพี่หนุน..น้องหนิง..น้องขุน และน้องหมีด้วยครับ....



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9e9yf-5f12c8.jpg)

ปกติกลอนโบราณของจีนไม่ใช่ภาษาง่ายๆที่จะแปลตรงๆได้ เพราะจะแทรกไปด้วยสำนวนและความคิดในสมัยนั้น บางบทอาจจะต้องมีความรู้ทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม นิรุกติศาสตร์(แปลว่าอะไรไม่รู้ ใครช่วยแปลหน่อย)ฯลฯ  อย่างกลอนบทนี้เป็นกลอนที่หลี่ไป๋แต่งเพื่อส่งเมิ่งฮ่าวหราน กวีเอกสมัยถังอีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นสหายรัก ชื่อบทกลอนชื่อว่า "ส่งเมิ่งฮ่าวหราน ณ กว่างหลิง" คนสมัยใหม่ถ้าไม่ได้ค้นคว้าจะไม่รู้ว่าเมืองกว่างหลิงสมัยนั้น ก็คือเมืองหยางโจวในมณฑลเจียงซูปัจจุุบันนี่เอง ผมเองก็ต้องไปหาอรรถาธิบายบทกลอนนี้จากหนังสือกลอนเอกสมัยถัง300บท ก็ได้สรุปใจความของกลอนบทนี้ว่า


《送孟浩然之广陵》   
故人西辞黄鹤楼,烟花三月下扬州。
孤帆远影碧空尽,唯见长江天际流。

เพื่อนรักโบกมืออำลา ณ หอกระเรียนเหลือง(หมายเหตุ หอกระเรียนเหลืองนี้อยู่คงทนมานับพันปี จนถึงปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งของจีน)
เขาจะเดินทางไกลไปเมืองหยางโจวซึ่งอยู่ไปทางตะวันออก
ในเดือนสาม ที่ดอกไม้บานสะพรั่ง
ล่องไปตามลำน้ำแยงซีเกียง
ใบเรือของเขาค่อยๆรางเลือนลับไปภายใต้ท้องฟ้าสีคราม
คงเห็นน้ำในลำแยงซีเกียงที่ไหลเชี่ยว


โทษที อารมณ์กลอนหมดไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มาช้าไปหน่อย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กันยายน 2553, 17:06:22
พวกเราเห็นชาวเหล้ากันเยอะ เลยเอาบทกลอนเก่าๆเกี่ยวกับเหล้า มาบิ๊วอารมณ์กันหน่อย

凉州词(葡萄美酒夜光杯)
王 翰

葡萄美酒夜光杯, 欲饮琵琶马上催。

醉卧沙场君莫笑, 古来征战几人回

บทพรรณนาเหลียงโจว(เหล้าองุ่นในถ้วยพราวราตรี)
หวังฮ่าน

องุ่นเหล้าล้ำเลิศ  ถ้วยบรรเจิดเพริศพราวตา
ใคร่ดื่มปลื้มสักครา เสียงผีผาม้าเร่งคึก
เมาพับหลับกลางศึก  เกลออย่านึกนับเยาะข้า
ตั้งแต่โบราณมา กี่คนหนากลับคืนเรือน

หมายเหตุ ผีผาเป็นเครื่องดนตรีประเภทสาย ลักษณะคล้ายกีต้าร์


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 27 กันยายน 2553, 18:34:58
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 27 กันยายน 2553, 16:27:04
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 27 กันยายน 2553, 14:09:57
สวัสดีครับพี่จุ๊ง

         เห็นพี่แหลมขอปุ๊บ พี่จุ๊งจัดให้ทันที

ผมขอมั่งนะครับ    ขอตัวอักษรที่เป็น Pin Yin ด้วยนะครับ  เพื่อการศึกษา

ขอบคุณล่วงหน้าครับ


ไม่เข้าใจว่าต้องการให้ทำยังไง ให้ใส่pinyinเพื่อช่วยในการอ่านหรือยังไง แต่ถ้าต้องการแค่pinyinเพียวๆไม่สนับสนุน เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร และการใส่pinyinค่อนข้างยุ่งยาก เสียเวลามาก ถ้าอยากได้pinyinช่วยในการอ่าน สามารถใช้wordช่วย สามารถให้มันแสดงpinyinได้

สำหรับท่านแหลมเปี๊ยบ เอาอาหารหนักมาให้ผมซะแล้ว ขอเวลาบิ๊วอารมณ์ซักแป๊บนะ


ถ้าอยากได้pinyinช่วยในการอ่าน สามารถใช้wordช่วย สามารถให้มันแสดงpinyinได้

ผมพออ่าน pinyin ได้ แต่อ่านตัวอักษรจีนไม่ได้เลย
จึงขอความรู้พี่จุ๊งหน่อยครับว่าใช้ word ให้มันแสดง Pinyin ได้ยังไงครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กันยายน 2553, 20:57:50
เปิดword ทำ้highlight ข้อความภาษาจีน ไปที่format/Asian Layout/phonetic guide  แล้วเลือกจากนั้น ok


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 28 กันยายน 2553, 10:03:41
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 27 กันยายน 2553, 20:57:50
เปิดword ทำ้highlight ข้อความภาษาจีน ไปที่format/Asian Layout/phonetic guide  แล้วเลือกจากนั้น ok

ขอบคุณครับพี่จุ๊งที่ให้แนวทาง   พอดีเครื่องผมเป็น office2007  ต้องไป download  mspy2010 มาติดตั้งเพิ่มเติมครับ  ตอนนี้ใช้ได้แล้ว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 กันยายน 2553, 10:10:45

嗨...離線時電纜的弟兄。


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 กันยายน 2553, 11:11:40
เจอบทความเก่าที่เคยแปลลงมุมจีนพอดี เลยเอามาฝาก

การกำเนิดและพัฒนาการของว่าว

ว่าวของจีนมีประว้ติศาสตร์ที่ยาวนาน ผ่านพัฒนาการมาร่วม 2 พันปี ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิทยาการเฉพาะอีกรูปแบบหนึ่งมานานแล้ว แล้วเป็นส่วนประกอบสำคัญของอารยธรรมจีนอีกด้วย

ตามบันทึกในหนังสือโบราณ ในปี 400 ก่อน ค.ศ. นักคิดที่มีชื่อเสียงของจีน ม่อจื่อร่วมกับปรมาจารย์ด้านการช่างหลู่ปันใช้ไม้ไผ่ทำเป็น “นกไม้” นกไม้ขนิดนี้สามารถลอยกลางอากาศ 3 วันยังไม่ร่วงลงมา คนทั่วไปเรียกว่า”เหยี่ยวไม้” นี่ก็คือว่าวแรกสุดที่มีในโลก ต่อมา เหยี่ยวไม้เปลี่ยนเป็นใช้ไม้ไผ่กับผ้าไหมเป็นส่วนประกอบ และต่อมาอีกก็เปลี่ยนเป็นใช้กระดาษเป็นส่วนประกอบ เลยเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น”เหยี่ยวกระดาษ” เหยี่ยวกระดาษยังมีชื่อเรียกอีกรูปแบบ เช่น เหยี่ยวถลาลม เหยี่ยวเล็กกระดาษ เหยี่ยวเล็กเป็นต้น(หมายเหตุ ปัจจุบันคนฮากกายังคงเรียกว่าเหยี่ยวเล็ก(纸鹞)อยู่ เข้าใจว่าคนแต้จิ๋ว,กวางตุ้ง,ฮกเกี้ยน,ไหหลำก็ยังคงใช้คำโบราณนี้เหมือนกัน) จนถึงปีค.ศ. 618-907 ปลายราชวงศ์ถัง คนก็เพิ่มแผ่นริ้วหรือหวีดไม้ไผ่ที่ทำให้เกิดเสียงขึ้นในเหยี่ยวกระดาษ เมื่อเจอลมก็จะเกิดเสียงขึ้นจึงเกิดมีคำว่า ขิมลม(风筝)ซึ่งเป็นคำที่ชาวจีนเรียกว่าวในปัจจุบัน

ว่าวนั้นแรกเริ่มเดิมทีใช้เป็นอุปกรณ์ทางด้านการทหาร อย่างเช่นปล่อยขึ้นไปในอากาศเพื่อวัดระยะห่างระหว่างทัพทั้ง2ฝ่าย หรืออาจจะใช้ในการติดต่อสื่อสารในกองทัพ ในสมัยราชวงศ์ถัง การใชังานค่อยๆปรับเปลี่ยนเป็นทางด้านความรื่นรมณ์ แล้วก็แพร่หลายในหมู่คนทั่วไป จนถึงในศตวรรษที่10 ในรัชสมัยราชวงศ์ซ่ง การแพร่หลายของว่าวยิ่งกว้างไกล และค่อยแพร่หลายไปทุกที่ในโลก แรกๆก้กระจายไปที่เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซียในทวีปเอเชีย จากนั้นก้ไปถึงยุโรปและอเมริกา ได้มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านวัฒนธรรมพื้นบ้านชาวอังกฤษค้นคว้าสรุปว่า การแพร่กระจายของว่าวจากจีนไปทั่วโลกมีทั้งหมด7ลู่ทาง สามารถพูดได้ว่ามีต้นกำเนิดมายาวนาน เครื่องเล่นประเภทว่าวของจีนในยุโรปกับอเมริกา ได้รับการพัฒนาไปทางด้านเครื่องมือที่ใช้ในการเดินทางทางอากาศ ในที่สุดในอเมริกาโดยพี่น้องตระกูลไรท์ก็สามารถผลิตเป็นเครื่องบินที่สามารถบรรทุกคนได้ ดังนั้น ในห้องโถงพิพิธภัณฑ์ทางอากาศสหรัฐที่วอชิงตัน ได้แขวนไว้ด้วยว่าวจากจีน ข้างๆเขียนไว้ด้วยคำ “อุปกรณ์ในการเดินทางทางอากาศแรกเริ่มของมนุษยชาติก็คือว่าวและพลุจากจีน”  
 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 กันยายน 2553, 11:15:09
พัฒนาการด้านว่าวของจีนขึ้นถึงจุดสูงสุดในราชวงศ์หมิงและชิง(ค.ศ.1368-1911) ไม่ว่าทางด้านรูปลักษณ์ เทคนิคการผูกตัวว่าว การประดับประดารวมทั้งวิธีการปล่อยว่าวล้วนแต่ได้ที่ ได้มีการนำเอาศิลปะพื้นบ้านปะปนเข้ามาอยู่ในตัวว่าว อย่างเช่น การพิมพ์บล็อกภาพอวยพรวันตรุษจีน ใช้กาวติดกระดาษ การแกะสลักโดยใช้แบบกระดาษ การตัดกระดาษ การวาดรูปเงินรูปทอง การติดดอกไม้กระดาษเป็นต้น ทำให้การประดิดประดอยของว่าวมีสีสันต์หลากหลาย แอกของว่าวที่ก่อกำเนิดเสียงก็มีการพัฒนา ใช้น้ำเต้า เปลือกของผลแปะก๊วยทำเป็นหวีดรูปแบบต่างๆประกอบเข้ากับตัวว่าว ทำให้เกิดเสียงที่ก้องกระจาย รอบบริเวณหลายลี้ก็สามารถได้ยิน ตอนนั้น มีผู้มีความรู้บางส่วนทำว่าวที่ตัวเองวาดภาพไว้ให้เป็นของขวัญซึ่งกันและกัน เป็นการแสดงออกถึงความบุคลิกที่สง่างาม พร้อมทั้งได้รจนาโคลงกลอนและภาพวาดที่มีหัวข้อเกี่ยวกับว่าวเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีผู้แต่ง1ใน 4 ผลงานโดดเด่นในสมัยโบราณเรื่อง (ความฝันในหอแดง) ฉาวเสวี่ยฉินถือว่าโดดเด่นที่สุด เขาไม่เพียงรจนาไว้ในหนังสือ(ความรักในหอแดง)อย่างมีชีวิตชีวาถึงภาพตัวเอกในเรื่องที่เล่นว่าวชนิดต่างๆ นอกจากนี้ยังได้แต่งหนังสือวิชาการเกี่ยวกับว่าว แนะนำวิธีการผูกตัวว่าวกว่า 40 ชนิด  

หลังจากผ่านการปรับปรุงมาเป็นทอดๆ ว่าวของจีนก็ค่อยๆประกอบร่างขึ้นเป็นรูปแบบเฉพาะของตัวเอง จากเรื่องราวประกอบ สามารถแบ่งเป็นรูปแบบที่สำคัญ 3 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 ใช้สัตว์ต่างๆ เช่น มังกร หงส์ อินทรี ผีเสื้อ ปลาทอง ตะขาบ นกนางแอ่นเป็นต้น ประเภทที่ 2 ใช้ตัวละครจากเทพนิยาย นิยายที่รังสรรคฺขึ้นมาอย่างเช่นเจ้าวานรรูปงามซุนหงอคง เทพธิดา เด็กโอบปลาใหญ่เป็นต้น ประเภทที่ 3 สิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น พัด กระเช้าดอกไม้ โคมระย้าเป็นต้น    จากรูปแบบที่นิยมกันในแต่ละท้องที่สามารถบอกได้ว่าว่าวจีนมีรูปแบบหลากหลายจริงๆ ร้อยรูปแบบพันสีสันต์  กรุงปักกิ่ง เมืองเทียนจิน เมืองหนานทงในมณฑลเจียงซู เมืองเหวยฟางในมณฑลซานตงเป็น 4 เมืองสำคัญที่ผลิตว่าวในจีน แต่ละที่จะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง

ว่าวปักกิ่งมีรูปแบบพื้นฐานอย่างเช่น แบบปีกแข็ง แบบปีกอ่อน แบบเรียงราย แบบร้อยสายยาว และแบบรูปถังรวม 5 แบบ ว่าวปักกิ่งที่โดดเด่นก็คือว่าวที่ผูกเป็นรูปนกนางแอ่น บางทีก็เรียกว่าว่าวนางแอ่นปักกิ่ง

ว่าวเทียนจินเรียกอีกอย่างว่าว่าวเว่ยจี้(ว่าวระลึกถึงคนแซ่เว่ย ซึ่งก็คือ魏元泰 เว่ยหยวนท่าย ผู้คิดค้นว่าวชนิดนี้ เมื่อประมาณ100กว่าปีก่อน) ลักษณะพิเศษเฉพาะคือใช้วัตถุดิบที่พิถีพิถัน หน้าว่าวส่วนมากจะใช้แพรบางๆ เบาแต่แข็งแรง โครงว่าวใช่ไม้ไผ่หมาวจู๋ที่เนื้อละเอียด ปล้องยาว มีแรงดีดสะท้อนมาก ว่าวเทียนจินมีหลายรูปแบบ งานฝีมือประณีต สีสันต์ภาพวาดคล้ายของจริง การลอยตัวมั่นคงสม่ำเสมอ ในช่วงที่ปล่อยตัวว่าวลอยไป ส่ายป่านหลักสามารถนำพาสายป่านแขนงที่ลากดึงว่าวนางแอ่นน้อย10กว่าตัวหรือแม้กระทั่งหลายสิบตัว เวลาปล่อยว่าว ว่าวนางแอ่นน้อยจะล้อมรอบว่าวตัวหลักร่อนขึ้นลงไปในอากาศล้อกันไปมา สามารถหลอกนางแอ่นจริงได้ ว่าวนี้เรียกว่า “ฝูงนางแอ่น”

เมืองหนานทงขึ้นชื่อในการผลิตว่าวที่เรียกว่าเหยี่ยวกระดาน ซึ่งถือเป็นว่าวสุดยอดในประเทศจีน เหยี่ยวกระดานมีขนาดใหญ่แบบที่ไม่มีว่าวชนิดใดจะเปรียบได้ มีลักษณะแบบราบเหมือนกระดาน มีลักษณะพื้นฐานเป็นรูปหกเหลี่ยม ผ่านการประกอบขึ้นและดัดแปลง ทำให้เป็นรูปลักษณ์แบบดาว เหยี่ยวกระดานมีรูปแบบโบราณง่ายๆ รูปประกอบละเอียดประณีต หน้าเหยี่ยวติดไว้ด้วยหวีดใหญ่น้อยร่วมสิบหรือร้อยตัว เวลาปล่อยลอยไป ก่อเกิดเป็นเสียงดนตรีที่หนักแน่นล่องลอยไปในอากาศ คล้ายกับฝูงเครื่องบินลอยอยู่กลางอากาศ ดังจนแก้วหูแทบแตก และก็คล้ายคลื่นคลั่งในมหาสมุทร ซัดสาดเข้าหาฝั่ง ว่าวในรูปแบบของเมืองหนานทง ต้องนับว่าวที่ผลิตจากเขตหยูหาวถือเป็นว่าวที่โดดเด่น นำสีสันต์ของโคมไฟ ภาพวาดและว่าวมารวมกัน เมื่อเปรียบเทียบกับว่าวของสำนักฝ่ายเหนือ(หมายถึงปักกิ่ง เทียนจิน) ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความพอเหมาะพอเจาะกับความละเอียดของงาน ความปราดเปรียวดูแล้วสวยงาม

ว่าวเหวยฟางมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน งานฝีมือประณีต ใช้ไม้ไผ่ลำเล็กผูกประกอบโครงร่าง ใช้ผ้าแพรคุณภาพสูงทำเป็นหน้าว่าว ใช้ฝีมือคนในการวาดภาพ การใช้งานฝีมือบวกกับการตกแต่งมาประกอบกัน แสดงให้เห็นถึงคุณค่าในการใช้เล่นและเก็บถนอมชื่นชม ว่าวเหวยฟางที่โดดเด่นที่สุดก็คือ “ตะขาบหัวมังกร” ว่าวขนิดนี้ มีส่วนหัวเป็นมังกร ส่วนตัวจะร้อยเป็นตอนๆเหมือนปล้องของตะขาบ การเคลื่อนไหวเป็นไปตามธรรมชาติ “ตะขาบหัวมังกร”มีหลายรูปแบบ ขนาดเล็กสามารถวางไว้บนฝ่ามือ ขนาดใหญอาจจะมีความยาวร่วมหลายร้อยเมตร รูปร่าง สีสันต์ต่างก็ไม่เหมือนกัน ในปี 1984 ในการจัดงานเทศกาลว่าวนานาชาติเป็นครั้งแรกที่เหมืองเหวยฟาง มีการปล่อย “ตะขาบหัวมังกร” ส่วนหัวสูง 4 เมตร กว้าง4 เมตร ข้อร้อยหางเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.2 เมตร ว่าวทั้งตัวยาวรวมทั้งหมด 320 เมตร เป็นว่าวที่ใหญ่ที่สุดของจีนในขณะนั้น

ว่าวจีนเป้นการตกผลึกของศิลปะและวิทยาการ เสน่ห์ไม่มีที่สุดของมันดึงดูดความสนใจของผู้รักชอบว่าวทั่วโลก เดี๋ยวนี้ เทศกาลว่าวนานาชาติเมืองเหวยฟางในมณฑลซานตงกลายเป็นงานชุมนุมว่าวนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ปีละครั้ง  ในเดือน 4 ของแต่ละปี จะมีผู้เชียวชาญจากในและนอกประเทศจีนมาร่วมชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก แลกเปลี่ยนความรู้กัน เหวยฟางก้ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ว่าวที่ใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้ เก็บรวบรวม จัดนิทรรศการว่าวที่เก็บรักษาไว้ตั้งแต่โบราณจวบปัจจุบันทางในและนอกประเทศ

ว่าวจีนยังไม่จำกัดเฉพาะที่อธิบายมาแล้ว ในความเป็นจริง แต่ละท้องที่ในประเทศจีนก็ล้วนมีลักษณะพิเศษเฉพาะของแต่ละท้องที่ รูปแบบของแตละที่ก็ไม่เหมือนกัน อาจจะเป็นแบบใหญ่เทอะทะ หรือปราดเปรียวเหมาะเจาะ หรือหลากสีสันต์งดงาม หรืออาจจะแบบเรียบง่ายสง่างาม เป็นบุบผชาติของศิลปะพื้นบ้านอีกดอกหนึ่ง 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 กันยายน 2553, 16:47:23
ขอบคุณ........

แล้วประเทศไทย เริ่มมีการเล่นว่าวมาตั้งแต่เมื่อไร?..........ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 กันยายน 2553, 19:30:17
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 28 กันยายน 2553, 16:47:23
ขอบคุณ........

แล้วประเทศไทย เริ่มมีการเล่นว่าวมาตั้งแต่เมื่อไร?..........ท่านจุ๊ง


โทษทีรายการนี้คุยเรื่องจีนๆ ส่วนเรื่องไทยๆยังไม่รู้ เดี๋ยวไปค้นสมุดข่อยมาให้นะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 28 กันยายน 2553, 20:38:57
พี่จุ๊ง

ภาษาจีนพี่เก่งจังเลยค่ะ
หนูมีเพื่อนชาวจีนเยอะ


อยากพูด/เขียนเป็นจริง 







หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 กันยายน 2553, 20:47:22
อ้างถึง
ข้อความของ BU_KA เมื่อ 28 กันยายน 2553, 20:38:57
พี่จุ๊ง

ภาษาจีนพี่เก่งจังเลยค่ะ
หนูมีเพื่อนชาวจีนเยอะ


อยากพูด/เขียนเป็นจริง  







ภาษาจีนก็พอsnake snake fish fish พอไปวัดตอนพระท่านฉันเพลเสร็จได้ แต่เท่าที่เห็นครูจีนพูดกัน เขาบอกว่ามาตรฐานการศึกษาภาษาจีนในบ้านเราแย่ที่สุดในภูมิภาคเดียวกันเลย ประเภทเรียนจบมา ถ้าไปจะเรียนต่อ ต้องไปเข้าintensive course ติวเข้มกันเชียวแหละ น้องหมีเอ๋ย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 29 กันยายน 2553, 02:41:49
เผลอไปแผล็บ!
กลับมา...เขากะลังชักว่าวกันพอดี!!
..
..
ฮ้ายยยย พี่ๆกลุ่มนี้นะ ช่างคิด
เดี๋ยวน้องหมีเสียเด็กหมด!!


พี่จุ๊ง,
เวลาเล่นว่าว...เขาไปเล่นที่ไหน?
เหมือนไปสนามหลวงป่าว?
คงไม่ไปเล่นกันที่เทียนอันหมึน นะคะ



ลงชื่อ
น้องว่าวปั๊กเป้า


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 29 กันยายน 2553, 14:01:29
มาคุยเรื่องกลอนของชอบต่อ เป็นกลอนของกวีเอกหลี่ไป๋

"靜夜思"
"李白"

床前明月光                    
疑是地上霜                    
舉頭望明月                    
低頭思故鄉

คิดเงียบๆ
หลีไป๋

เพ็ญจันทร์ส่องผ่องหน้าเตียงเพียงแสงพราว
สุกสกาวราวพื้นเป็นเช่นเกล็ดค้าง
แหงนหน้ามามองที่นั่นจันทร์กระจ่าง
ก้มลงล่างพลางคิดถึงซึ่งถิ่นเกิด


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 01 ตุลาคม 2553, 11:49:32
ธรรมเนียมกับดื่มน้ำชาของคนกวางตุ้ง

คนกวางตุ้ง เป็นหมู่คนที่ดำรงชีวิตในแถบภาคใต้ของจีน พวกเขามีบริเวณที่รวมกลุ่มของตนเองโดยเฉพาะ ใช้ภาษาท้องถิ่นของตัวเอง ดังนั้นวิถีการดำรงชีวิตประจำวันจึงมีเอกลักษณ์ของตัวเอง

ชาในชีวิตประจำวันของชาวกวางตุ้งมีความสำคัญมาก คำทักทายของชาวกวางตุ้งในการพบหน้ากันไม่ใช่ว่า”อรุณสวัสดิ์” กลับถามว่า”ดื่มชาหรือยัง” จากคำทักทายนี้แสดงให้เห็น ชาในชีวิตประจำวันของชาวกวางตุ้งมีความสำคัญอย่างยิ่ง แน่นอนว่าคำว่า”ดื่มชา” ไม่ใช่เฉพาะว่าเป็นการดื่มน้ำชาเท่านั้น ยังต้องมีอาหารว่างอย่างอื่น แต่ที่แน่นอนที่สุด ชาเป็นสิ่งที่จะขาดเสียไม่ได้

ในกวางเจา ไม่ว่าจะเป็นร้านน้ำชาใหญ่หรือเล็ก แต่ละวันก็จะหากินกับ “3มื้อชา2มื้อข้าว” คนทั่วไปจะต้องกินน้ำชาก่อนอาหาร โดยเฉพาะการดื่มน้ำชาตอนเช้า มีผู้เฒ่าบางท่าน ตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ก็ไปที่ร้านน้ำชาชงชาหอม 1 กา ค่อยๆจิบรับรู้รสชาติ จิบชาพลางก็คุยกันพลาง อย่างน้อยก็ใช้เวลาร่วมกว่าชั่วโมง อย่างมากอาจจะใช้เวลาหลายชั่วโมง คนกวางตุ้งเรียกการกระทำนี้เรียกว่า “ปลงชา”

การดื่มน้ำชาของชาวกวางตุ้งค่อนข้างจะมีพิธีรีตองมาก ถ้าไม่ระมัดระวังอาจจะถูกคนหัวเราะเอาได้ง่ายๆ  อย่างเช่น เวลารินให้รินได้แค่ครึ่งค่อนจอก ถ้ารินเต็มจอก กลับกลายเป้นการแสดงกิริยาไม่คารวะ มีคำกล่าวว่า “เหล้าเต็มจอกคารวะแขก ชาเต็มจอกไล่แขก” ความหมายก็เป็นเช่นนี้ ยังมีอีกเช่นผู้อื่นรินน้ำชาให้ท่าน ท่านจะอยู่เฉยๆไม่ได้ จะต้องใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางของมือขวางอลง เคาะเบาๆกับพื้นโต๊ะ 3 ครั้ง เป็นการแสดงความขอบคุณ มารยาทนี้เป็นที่รู้กันในหมู่ชุมชน มิฉะนั้นคนอื่นจะว่าเป็นคนไม่มีสัมมาคารวะ

ธรรมเนียมปฏิบัตินี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ราชวงศ์ชิง มีอยู่ปีหนึ่งจักรพรรดิเฉียนหลงเสด็จประพาสต้นมาทางภาคใต้ ไปร้านน้ำชาดื่มชาร่วมกับโจวยื่อชิง พระองค์รินน้ำชาให้ตัวเองเสร็จแล้ว ก็ถือโอกาสรินให้โจวยื่อชิงด้วย โจวยื่อชิงเห็นฝ่าบาทรินน้ำชาให้ตัวเอง ก้ไม่สามารถอยู่ในที่สาธารณะแสดงฐานะของตัวเองและถวายบังคมขอบพระทัย ดังนั้นในช่วงที่ลำบากใจพลันเกิดปัญญาขึ้นมา ใช้ 2  นิ้วงอโค้ง เคาะกับพื้นโต๊ะ3ที เป็นการแทนธรรมเนียมการถวายบังคมขอบพระทัย จากนั้นธรรมเนียมนี้ก้ค่อยๆกระจายไปในหมู่ผู้คน กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่งในการดื่มน้ำชา
  
การนิยมดื่มน้ำชาตอนเช้าของชาวกวางตุ้ง ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแต่ประการใด สามารถเจริญอาหารได้ มีผลดีต่อสุขภาพ  ดังนั้นคำกล่าว “ชา 1 จอกเวลาตรู่ อดตายหมอยาให้ดู” อีกทั้ง “ตอนเช้า ชา 1กา ไม่ต้องหาหมอรักษา” ก็ไม่ใช่ไร้ซึ่งเหตุผล



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 01 ตุลาคม 2553, 15:12:57
ที่จีนเขาจะไม่ทานน้ำเย็นกันนะครับ จะทานน้ำเปล่าธรรมดา 
หลังทานข้าวเขาจะไม่ดื่มน้ำตามทันทีเหมือนบ้านเรานะครับ   ผมมาอยู่ใหม่ๆ  ทานข้าวเสร็จขอน้ำเปล่า   กลับได้น้ำร้อนแทน  emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)   
   


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 01 ตุลาคม 2553, 18:12:31
แล้วขุนสังเกตุหรือป่าว เคยกินบะหมี่ที่จีนไหม จีนจะไม่ทำบะหมี่แห้ง จะมีแต่บะหมี่น้ำ และไม่มีช้อนด้วย ถ้าอยากกินน้ำ ก็ยกซดเอา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 01 ตุลาคม 2553, 20:53:06
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 01 ตุลาคม 2553, 18:12:31
แล้วขุนสังเกตุหรือป่าว เคยกินบะหมี่ที่จีนไหม จีนจะไม่ทำบะหมี่แห้ง จะมีแต่บะหมี่น้ำ และไม่มีช้อนด้วย ถ้าอยากกินน้ำ ก็ยกซดเอา

ทำไม แล้วที่เราซื้อบะหมี่แห้งกันล่ะคะ



อุ๊ยย!! มีว่าว ว่าว ด้วย
ชักไปกันใหญ่ อิอิ

เสียเด็กโหมะเยยยยยยยยยยยยยยยยย  emo45:(


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 08:13:31
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 01 ตุลาคม 2553, 18:12:31
แล้วขุนสังเกตุหรือป่าว เคยกินบะหมี่ที่จีนไหม จีนจะไม่ทำบะหมี่แห้ง จะมีแต่บะหมี่น้ำ และไม่มีช้อนด้วย ถ้าอยากกินน้ำ ก็ยกซดเอา

เคยกินครับ คงมีแต่คนไทยครับที่ขอช้อนเพิ่มเพื่อซดน้ำ

ปล  ผมชอบเส้นที่เขาทำสดๆ ครับ  

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9n1ts-893a2f.jpg)(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9n1wc-7fc475.jpg)
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9n201-7bf573.jpg)(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9n20w-b13777.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 12:35:21
เอาเพลงที่เติ้งลี่จวินร้องมาโพสต์ดีกว่า เพลงนี้มาจากบทกลอนแต่งโดยหลี่อวี้ กษัตริย์องคฺสุดท้ายของก๊กหนานถัง และเป็นบทกลอนที่ชักนำเภทภัยถึงแก่ชีวิตแก่ผู้แต่งเอง ตอนนี้มาดื่มด่ำกับเนื้อหาเพลงก่อน แล้วเดี๋ยวรายละเอียดเกี่ยวกับผู้แต่งซึ่งเป็นประวัติศาสตร์เสี้ยวหนึ่งของประเทศจีนซึ่งจะมีเกี่ยวกับการสถาปนาราชวงศ์ซ่ง หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามราชวงศ์ซ้องด้วยจะตามมา คนจีนนี้ชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะกี่พันปีก็รู้ได้ แต่คนไทยรู้ประวัติศาสตร์น้อยมาก ไม่ต้องอื่นไกล เกินร้อยปีก็หายากแล้ว

几多愁   歌手:邓丽君     "ความทุกข์มากเพียงใด"

春花秋月何时了               บุปผาวสันต์จันทร์ฤดูใบไม้ร่วง  ไม่รู้เมื่อไรจะสิ้นสุด
往事知多少                        รับรู้เรื่องราวเก่าๆมากเพียงใด
小楼昨夜又东风               เมื่อคืนลมตะวันออกพัดเข้าตำหนักฉัน
故国不堪回首月明中       สุดระทมคนึงถึงชาติเมืองเก่ากลางจันทร์แจ่ม

雕栏玉砌应犹在                ลูกกรงสลักบรรไดหยกยังคงอยู่ดังเดิม
只是朱颜改                          แต่ทว่าหน้าตาที่สดใสได้เปลียนไป
问君能有几多愁                  หากถามฉันมีความทุกข์มากเพียงใด
恰似一江春水向东流         เสมือนธารน้ำวสันต์ไหลไปทางตะวันออกไม่สุดสิ้น


หมายเหตุ รายละเอียดการแปลหรือเกร็ดต่างๆที่จะตามมา เป็นการเก็บของเก่าๆที่เล่าสู่กันฟังในมุมจีนมาโพสต์ใหม่ บางอย่างอาจมีเสียงในฟิล์มบ้าง คงไม่ว่ากัน)

http://www.youtube.com/v/8iKHnHZVkB4?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 12:39:31
เป็นหวงตี้ชีช้ำเหมือนกรรมซัด
ดั่งถูกมัดด้วยยศถาบรรดาศักดิ์
จะแต่งกลอนโคลงฉันท์พลันถูกทัก
ชาติจะล่มจมปลักหนักอุรา

ในประวัติศาสตร์ชาติจีน ใครๆ ก็อยากเป็นหวงตี้(ฮ่องเต้) 皇帝 แห่งดินแดนจงหยวน ขนาดพวกคนป่าเถื่อนที่ชาวจีนเรียกว่าพวกหู 胡 พวกฮวน 番 หากไม่ทันระวัง ก็พากันตั้งราชวงศ์เลียนแบบชนชาวฮั่น ตั้งตนเองเป็น “อ๋อง” หรือ “หวาง” 王 พอเป็นปึกแผ่นขึ้นหน่อย ก็ไม่วายสถาปนาตนเองเป็นหวงตี้ 皇帝 นับว่าการเป็นหวงตี้ เป็นสิ่งเย้ายวนชายชาตรี หรือผู้นำน้อยใหญ่ในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก แต่ก็มีเหมือนกัน ที่บางคนไม่ต้องการเป็นหวงตี้ แต่ก็เป็นเคราะห์กรรมมากกว่าโชคดี ที่ได้เป็นหวงตี้กับเขาเหมือนกัน หากแต่เป็นหวงตี้ที่เหมือนละครเศร้าเคล้าน้ำตา คนยุคหลังเอามาเล่นงิ้วเล่นละคร คนดูร้องไห้กระจองอแง 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 12:42:28
李煜 หลี่อวี้เกิดปี ค.ศ.937 สมัยบ้านเมืองอยู่ในช่วงกลียุค ราชวงศ์ถัง 唐朝 ที่วัฒนาสถาพรอยู่ร่วม 300 ปี ล่มสลายไปเมื่อ ค.ศ. 907 พวกกบฏและบรรดาขุนศึก รวมทั้งพวกชาวเตอร์กเชื้อสายซาถัว沙陀 ต่างชิงความเป็นใหญ่ เพื่อจะได้ขึ้นเป็นหวงตี้ครอบครองดินแดนจงหยวน จึงเกิดมีราชวงศ์สั้นๆ ถึง 5 ราชวงศ์ในระยะเวลาเพียงห้าสิบกว่าปี (ค.ศ.907-960) นอกจากนี้ ยังมีผู้นำท้องถิ่น ที่ตั้งตัวเป็นอิสระเป็นก๊กเป็นเหล่าอีกจำนวนมาก แต่นักประวัติศาสตร์นับที่สำคัญเพียง 10 ก๊ก ประวัติศาสตร์จีนช่วงนี้ จึงเรียกกันว่าห้าอาณาจักรสิบก๊ก 五代十国 เป็นช่วงต่อเชื่อมสั้นๆ ก่อนก้าวขึ้นเป็นราชวงศ์ซ่ง 宋朝

ราชวงศ์หรืออาณาจักรทั้งห้า อีกทั้งก๊กต่างๆ เป็นสิบ ต่างใช้ชื่อเลียนแบบราชวงศ์ก่อนๆ ในอดีตของจีน อย่างเช่นอาณาจักรทั้งห้า (5) มีเหลียง梁 ถัง唐 จิ้น晋 ฮั่น汉 และโจว周 เพื่อมิให้เกิดความสับสัน นักประวัติศาสตร์จึงเติมคำว่าโฮ่ว后(แปลว่ายุคหลัง) ไว้หน้าชื่อราชวงศ์เหล่านี้ เช่นโฮ่วเหลียง后梁 หรือโฮ่วถัง后唐

แต่ก็ยังไม่หมดปัญหา เพราะก๊กต่างๆ เป็นสิบ ก็ใช้ชื่อซ้ำกันอีก เหมือนกระเป๋าถือสุภาพสตรี ใครๆ ก็อยากใช้ชื่อกุชชี่และหลุยส์ วิกตอง หนึ่งในก๊กที่ว่านี้ ใช้ชื่อว่า “ถัง” 唐 แต่เนื่องจากมีราชธานีอยู่ที่เมืองจินหลิง金陵 (ปัจจุบันคือเมืองหนานจิง 南京) นักประวัติศาสตร์เลยเรียกก๊กนี้ว่าหนานถัง 南唐 หลี่อวี้พระเอกของเรา เป็นองค์ชายแห่งก๊กหนานถังครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 12:47:45
หลี่อวี้มีชื่อเดิมว่าฉงเจีย从嘉 แต่ชื่อที่เป็นจารีต(จื้อ)字 เรียกว่าฉงกวง重光 บุคลิกของเขา นับว่าไม่ธรรมดา นัยน์ตาของเขา มีอยู่ข้างหนึ่งที่มีรูรับแสงถึงสองรู ภาษาจีนเรียกว่า “ฉงถง” 重瞳 ลักษณะที่ว่า มีไม่ถึงหนึ่งในล้าน

ในประวัติศาสตร์ชาติจีน บุคคลสำคัญที่มีฉงถง重瞳 ก็มีเพียงเซี่ยงอวี่ 项羽 หรือฉู่ป้าหวาง楚霸王 คู่ปรับของหลิวปัง刘邦 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่น汉 หรือหากย้อนหลังไปก่อนหน้านั้น ก็มีกษัตริย์ในยุคบรรพกาลอีกหนึ่งองค์ นั่นคือกษัตริย์ซุ่น舜 ที่มีนัยน์ตาพิสดารเช่นนั้น

ชนชาวจีนเชื่อว่า ลักษณะเช่นนี้เป็นลักษณะของคนบุญหนักศักดิ์ใหญ่ มีโอกาสได้เป็นเจ้าครองนคร แต่โอกาสที่ฉงเจียหรือหลี่อวี้ จะได้ขึ้นครองราชย์ แทบจะไม่ต้องฝัน เพราะทรงเป็นโอรสองค์ที่หก ของกษัตริย์หลีจิ่ง李璟 เจ้าผู้ครองแคว้นแห่งนครหนานถัง南唐 ฉะนั้นจึงทรงโปรดแต่เรื่องการศึกษาเล่าเรียนทางวรรณกรรมและศิลปกรรมตั้งแต่เด็ก เรื่องโคลงฉันท์กาพย์กลอน หาใครเทียบยาก ซ้ำยังเชี่ยวชาญเรื่องการเขียนลายมือ书法 และวาดภาพ绘画 พูดง่ายๆ คือเป็นศิลปินเต็มร้อย หาใช่เป็นนักปกครองไม่



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 12:50:22
ปี ค.ศ.937 ซึ่งเป็นปีที่หลี่อวี้เกิดนั้น พระอัยกา(ปู่)ของหลี่อวี้ ทรงพระนามว่าหลี่เปี้ยน李弁〈昪〉 ตั้งก๊กถังได้สำเร็จ แต่ภายหลังถูกเรียกว่า “หนานถัง” 南唐 เพื่อไม่ให้สับสน

หลี่เปี้ยน เดิมมีชื่อว่าสวีจือก้าว 徐知诰 เป็นลูกเลี้ยงของสวีเวิน徐温 อำมาตย์คนดังแห่งก๊กอู๋ 吴 ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบก๊ก ปี ค.ศ. 937 สวีจือก้าวล้มล้างก๊กอู๋ แล้วก่อตั้งก๊กถัง พร้อมทั้งเปลี่ยนมาใช้แซ่หลี่李 เพราะอ้างว่าเป็นลูกหลานสืบเชื้อสายมาจากถังเสี้ยนจงฮ่องเต้唐宪宗 เลยใช้ชื่อว่าหลี่เปี้ยน ภายหลังได้รับการถวายพระนามว่า “เลี่ยจู่” 烈祖

อาณาจักรถังหรือหนานถังของหลี่เปี้ยน มีดินแดนกว้างใหญ่กว่าใครทั้งหมด ในจำนวนก๊กทั้ง 10 ด้วยกัน โดยครอบคลุมดินแดนฝั่งใต้แม่น้ำไหว(huai2) 淮南 ดินแดนเจียงซี江西 หูหนาน湖南 และฝูเจี้ยน福建

ปี ค.ศ.943 หลี่เปี้ยนสวรรคต ราชโอรสหลีจิ่ง李璟 ได้ขึ้นครองราชย์ต่อ ทรงพระนามว่าหยวนจง元宗 ในช่วงปีท้ายๆ ของรัชกาลของหยวนจง ราชวงศ์โฮ่วโจว后周 ซึ่งตั้งราชธานีอยู่ที่เมืองไคเฟิง(ไคฟง)แต่ในสมัยนั้น เรียกกันว่าเมืองเปี้ยนเหลียง卞梁 มีความกล้าแข็งขึ้นมาก สุดที่หนานถังของหลีจิ่งจะต้านทานไหว จึงต้องยอมเจรจาสงบศึก พร้อมตัดดินแดนฝั่งใต้แม่น้ำไหว(huai2) หรืออีกนัยหนึ่งคือดินแดนฝั่งเหนือแม่น้ำแยงซี 江北 ให้แก่โฮ่วโจว

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่โฮ่วโจว后周 กำลังรุ่งสุดๆ กษัตริย์สื้อจง世宗 แห่งโฮ่วโจว后周 ก็สวรรคตกระทันหัน ด้วยวัยเพียง 39 พรรษา ปีนั้นคือปี ค.ศ. 959 ราชโอรสของสื้อจง นามกงตี้恭帝 ได้ครองราชย์ต่อ ด้วยวัยเพียง 7 ชันษา



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 12:56:31
เมื่อโฮ่วโจวขาดผู้นำที่มีบารมีอย่างกษัตริย์สื้อจง世宗 กษัตริย์องค์ใหม่ยังเป็นเด็กไม่ประสีประสา ในภาวะที่บ้านเมืองวิกฤตคับขันเช่นนั้น มีหรือเนื้อย่างหอมหวานจะพ้นปากเสือ

นายทหารแซ่จ้าว 赵 คนหนึ่ง มีตำแหน่งเป็นจ่งซือลิ่ง总司令(สมุหกลาโหม) มีหน้าที่ถวายการอารักขาต่อเจ้าเหนือหัว มีกำลังทหารในบังคับบัญชาพร้อมสรรพ ได้ออกอุบายว่า พวกเหลี่ยว 辽兵 ซึ่งเป็นพวกนอกด่านทางเหนือ กำลังยกพลมาตีแคว้นโจว 后周 ทำเอากษัตริย์กงตี้ขวัญหนีดีฝ่อ ร้องไห้ด้วยความกลัวตามประสาเด็กๆ แต่พอรู้ว่าแม่ทัพแซ่จ้าวนามควงอิ้น สามารถต่อกรกับพวกเหลียวได้ ก็มีบัญชาให้ท่านแม่ทัพระดมพลได้ทันที ทุกอย่างเลยเข้าแผนการของจ้าวควงอิ้น 赵匡胤

จ้าวควงอิ้นยกทัพออกไปจากเมืองหลวงไม่ทันข้ามวัน ตกดึกขณะกำลังนอนหลับพักผ่อน ทหารใต้บังคับบัญชา ก็นำเสื้อคลุมลายมังกรสีเหลืองใหม่เอี่ยมมาคลุมกายจ้าวควงอิ้น พร้อมกับคุกเข่าถวายคำกราบทูลให้ขึ้นเป็นหวงตี้皇帝 เพราะแผ่นดินไม่อาจปกครองด้วยเด็กที่อ่อนแอได้ นี่คือที่มาของประวัติศาสตร์บทหนึ่งที่มีชื่อว่า “หวงผาวเจียเซิน” 黄袍加身(เสื้อเหลืองครอบคลุมกาย หมายเหตุ สมัยโบราณคนจีนทั่วไปห้ามใช้สีเหลือง เพราสีเหลืองใช้ได้เฉพาะกษัตริย์เท่านั้น โดยเฉพาะคำว่าเหลืองภาษาจีนอ่านว่าหวง จะพ้องเสียงกับคำว่าหวงที่แปลว่ากษัตริย์) แหม.. ช่างง่ายดายเสียจริง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 13:02:53
โฮ่วโจว 后周 เป็นราชวงศ์สุดท้ายของ “อู่ไต้” 五代(ห้าอาณาจักร) ขุนศึกจ้าวควงอิ้นชิงบัลลังก์จากยุวกษัตริย์กงตี้ ทำการเปลี่ยนศักราชใหม่ อีกทั้งเปลี่ยนชื่อราชวงศ์มาเป็นซ่ง 宋 ท่านก็คือซ่งไท่จู่宋太祖 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเริ่มต้นในปี ค.ศ.960

ก่อนหน้านี้ กษัตริย์หยวนจง 元宗 แห่งหนานถัง ก็แทบถอดใจโยนผ้ายอมแพ้โฮ่วโจวไปแล้ว นอกจากยอมเสียดินแดนฝั่งเหนือแม่น้ำแยงซี(เจียงเป่ย) ตัวเองก็ยังยอมถอยออกจากการเป็นหวงตี้ ฉะนั้นในปูมประวัติศาสตร์ราชวงศ์และยุคสมัยต่างๆ ของจีน จึงมักบันทึกศักราชของหนานถัง 南唐 สิ้นสุดแค่เพียงหยวนจงหลีจิ่ง元宗李璟 ในปี ค.ศ. 958

ปีรุ่งขึ้น ค.ศ.959 หลีจิ่งย้ายเมืองหลวงไปเมืองหนานชาง 南昌 (ปัจจุบันคือเมืองหนานชางในมณฑลเจียงซี江西) แต่ก็ยังให้รัชทายาทหลี่อวี้李煜 อยู่ดูแลเมืองจินหลิง金陵 ต่อไป

พอมาเจอการตั้งราชวงศ์ซ่ง 宋 ของจ้าวควงอิ้นในปี ค.ศ.960 หลีจิ่งก็ยิ่งหมดอาลัยตายอยาก พยายามญาติดีกับราชวงศ์ซ่ง โดยยอมลดตัวลงเป็นเพียงแค่อำมาตย์(เฉิน) 臣 เพื่อแสดงว่าไม่ต้องการท้าทายอำนาจของผู้มาใหม่

ในที่สุดหลีจิ่ง李璟 ก็ทดเครียดไม่ไหว เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ.961 ราชโอรสคนที่หกนามหลี่อวี้ 李煜 ได้ขึ้นครองราชย์ต่อ เพราะพระเชษฐาทั้งห้าล้วนแต่สิ้นบุญไปก่อน ท่านลองหลับตาคิดดูเถิด หลี่อวี้ตกอยู่ในสภาพการณ์คับขันเช่นใด



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 13:06:41
หลี่อวี้ไม่ถนัดงานปกครองบ้านเมือง เพราะฝักใฝ่ทางศิลปะ ชอบเขียนบทกวีประเภทฉือ 词 ชอบชีวิตสำเริงสำราญตามแบบอารมณ์ศิลปิน หลี่อวี้เป็นคนโรแมนติกตั้งแต่เกิด เพราะเกิดในวันแห่งความรัก อ๊ะ..อ๊ะ.. อย่าเพิ่งทายว่าเป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์

วันแห่งความรักของธรรมเนียมจีน情人节 คือวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติอย่างจีน หลี่อวี้เกิดในวันนี้ครับ นอกจากนัยน์ตาของเขาข้างหนึ่ง มีรูรับแสง 瞳孔 ถึง 2 รู คล้ายกษัตริย์ซุ่น舜 ในสมัยโบราณแล้ว เขายังได้พี่สาวน้องสาวคู่หนึ่งมาเป็นพระชายาเหมือนกัน แถมคนพี่ชื่อเอ๋อหวง娥皇  และคนน้องชื่อหนี่ว์อิง女英 เหมือนชายาขององค์กษัตริย์ซุ่นอีกต่างหาก ท่านว่าแปลกไหมครับ?

ตอนหลี่อวี้ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 961 ก๊กหนานถังแทบจะหมดสภาพแล้ว เพราะแม้ไพร่ฟ้าของหนานถัง จะยังถือว่าก๊กตัวเองมีกษัตริย์ปกครองอยู่ แต่ในความเป็นจริง หลี่อวี้ไม่มีความเป็นหวงตี้皇帝 หรือตี้帝 หรือแม้กระทั่งหวาง王 เหลืออยู่แล้ว หากแต่ผมเข้าใจว่า ในบทละครหรืองิ้วที่เปิดแสดงทั่วไป ยังมีการเรียกหลี่อวี้เป็นหวงตี้อยู่ ฉะนั้นบางคนจึงเรียกหลี่อวี้ว่า “ฉือหวงตี้” 词皇帝 หมายถึงฮ่องเต้ที่มีความสามารถทางบทกวีแบบฉือ词


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 13:14:39
บทกวีแบบฉือของหลี่อวี้ อาจแบ่งได้เป็น 3 ระยะด้วยกัน คือระยะที่หนึ่ง เป็นช่วงที่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ จะยังคงบรรยายถึงชีวิตที่สำเริงสำราญในราชสำนัก ระยะที่สอง เป็นช่วงที่ขึ้นเป็นผู้ปกครองบ้านเมืองที่มีความกดดันรอบด้าน และระยะที่สาม เป็นช่วงที่ชาติของตนล่มสลายแล้ว ตกอยู่ในสภาพลูกไก่ในกำมือ

บทกวี “หวีเหม่ยเหยิน” 虞美人(แปลว่าดอกป๊อปปี้ เห็นบอกว่าทุกส่วนของลำต้นมีพิษ เผลอกินเข้าไปมีผลต่อระบบประสาท ไปอ่านวิเคราะห์ของบทโศลกนี้ ต้องยอมรับว่าความหมายลึกซึ้งจริงๆ ทำให้ฟังเพลง几多愁ไพเราะขึ้นอีกมากเลย) ซึ่งคนภายหลังเอามาแต่งเป็นเพลงให้เติ้งลี่จวินร้องในชื่อเพลง几多愁 มีความทุกข์มากเพัยงใด นั้น เป็นบทกวีแบบฉือ 词 ที่มีคนพูดถึงอยู่เสมอ ส่วนกวีบทอื่นๆ ที่มีชื่อเสียง ก็ยังมี “อวี้โหลวชุน” 玉楼春 “ฮ่วนซีซา” 浣溪沙 “ชิงผิงเยว่” 清平乐 “ลั่งเถาซาลิ่ง” 浪淘沙令 “โพ่เจิ้นจื่อ” 破阵子 เป็นต้น

ในด้านการปกครองนั้น หลี่อวี้หงอราชวงศ์ซ่งถึงที่สุด ยอมแม้กระทั่งถอดชื่อก๊กตัวเองออก (ก๊กถังหรือหนานถัง) แล้วเปลี่ยนมาใช้ชื่อก๊กเจียงหนาน江南国 หมายถึงก๊กที่อยู่ฝั่งใต้แม่น้ำแยงซี เนื่องจากการใช้ชื่อ “ถัง” 唐 เป็นการอ้างอิงอาณาจักรถังที่ยิ่งใหญ่ในอดีต

แต่จะ "หงอ" อย่างไรก็ไม่เป็นผล เพราะซ่งไท่จู่แห่งราชวงศ์ซ่งถือว่าหนานถังเคยยิ่งใหญ่ เก็บเอาไว้เป็นหอกข้างแคร่ เดี๋ยวจะโดนทิ่มแทงที่หลัง จึงมีบัญชาให้หลี่อวี้ไปเข้าเฝ้าที่เมืองเปี้ยนเหลียง ในปี ค.ศ. 974 หลี่อวี้ทรงทราบว่า หากไปคงไม่ได้กลับแน่ จึงแกล้งป่วย ไม่ยอมไปเข้าเฝ้า อีกไม่กี่เดือนต่อมา กองทัพของซ่งไท่จู่ก็มาปิดล้อมเมืองจินหลิง金陵 หลี่อวี้ยอมจำนน ถูกคุมตัวเป็นเชลยไปยังเมืองเปี้ยนเหลียง汴梁

เมื่อถึงราชธานีของราชสำนักซ่ง ซ่งไท่จู่ไม่ได้ทำร้ายหลี่อวี้ เพราะรู้ๆ อยู่ว่ายอมทุกอย่าง จึงเพียงแค่กักบริเวณไว้ ทั้งยังพระราชทานฐานันดรให้เป็น “โหว” 侯 (คล้ายตำแหน่งพระยาของไทย) ชื่อ “เหวยมิ่งโหว” 违命侯 มีความหมายว่าพระยาฝ่าฝืนลิขิต ดูสิครับ.. จะให้ค่อยๆ ตรอมใจตายหรือยังไง???

ซ่งไท่จู่เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ.976 พระอนุชาจ้าวกวงอี้ 赵光义 ขึ้นครองราชย์ต่อ ทรงพระนามว่าซ่งไท่จง 宋太宗 พระองค์โหดร้ายกว่าพระเชษฐา ปี ค.ศ. 978 ในวันที่ 7 เดือน 7 ซึ่งเป็นวันเกิดของหลี่อวี้ มีคนไปทูลเรื่องบทกวี “หวีเหม่ยเหยิน” 虞美人ที่หลี่อวี้แต่ง ซ่งไท่จงคงหาโอกาสที่จะฆ่าหลี่อวี้อยู่แล้ว จึงประทานเหล้าใส่ยาพิษให้หลี่อวี้ดื่ม มีข้อมูลบางแห่งระบุว่า จ้าวกวงอี้หรือซ่งไท่จง มีเจตนาจะเคลมพระชายาคนน้องของหลี่อวี้นามหนี่ว์อิง女英 แต่ก็ไม่สมพระทัย เพราะพอหลี่อวี้ตายลงด้วยยาพิษ หนี่ว์อิงก็ฆ่าตัวตายตาม

คนยุคหลังก็ยังรำลึกถึงหลี่อวี้ ไม่ใช่ในฐานะกษัตริย์ที่สามารถ แต่เป็นเจ้าเหนือหัวที่อาภัพ แต่ในด้านบทกวี ท่านเป็นผู้นิพนธ์ฉือที่ยิ่งใหญ่ จึงถวายสมัญญาให้ท่านว่าฉือจง 词宗

ทุกสิ่งเกิดขึ้นแล้วแตกดับ จะมีเหลือก็แต่คุณความดีและผลงาน

ต้องขอออกตัวว่า การเขียนโคลงกลอนแบบไทย ให้มีสัมผัสนอกสัมผัสใน ไม่ใช่เรื่องยากลำบาก แต่การทำความเข้าใจกาพย์กลอนของจีน ไม่เพียงแค่ตัวอักษร แต่รวมถึงความหมายที่แฝงอยู่ในคำกลอน รวมทั้งบรรยากาศและอารมณ์ของผู้ประพันธ์ในเวลานั้น เป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ จึงจะแปลออกมาเป็นคำกลอนแบบไทยที่งดงามพร้อมสรรพได้



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2553, 15:46:05
อ้อ มีอีกเพลงที่เอามาจากบทกวีของหลี่อวี้ ซึ่งเติ้งลี่จวินเอามาร้อง

无言独上西楼,月如钩。寂寞梧桐深院,锁清秋。
剪不断,理还乱,是离愁。别是一般滋味,在心头。

บรรยายไม่ถูก ขึ้นไปที่หอตะวันตกอย่างเดียวดาย
จันทร์เสี้ยวเหมือนเคียวเกี่ยวข้าว เงียบเหงาท่ามกลางอุทยานที่เต็มไปด้วยต้นอู๋ถง ในฤดูใบไม้ร่วง
ตัดไม่ขาด ใจสับสน เป็นความเศร้าของการลาจาก เป็นรสชาติอีกแบบหนึ่ง ที่เกิดขึ้นในใจ

http://www.youtube.com/v/71aP3fz5MsU?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 02 ตุลาคม 2553, 22:40:30
ว่าแต่...

พี่จุ๊ง,
นอกจากจีน,ที่ใช้ตะเกียบ
พา-นำอาหารเข้าปาก....
ยังมีชาติไหนในโลกอีกมั้ยพี่
ที่ใช้ตะเกียบ?



ลงชื่อ
น้องกินข้าวกะ...มือ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 05 ตุลาคม 2553, 11:37:07
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 02 ตุลาคม 2553, 22:40:30
ว่าแต่...

พี่จุ๊ง,
นอกจากจีน,ที่ใช้ตะเกียบ
พา-นำอาหารเข้าปาก....
ยังมีชาติไหนในโลกอีกมั้ยพี่
ที่ใช้ตะเกียบ?



ลงชื่อ
น้องกินข้าวกะ...มือ
ชาติที่ใช้ตะเกียบเป็นอาวุธประจำชาติ นอกจากจีนแล้วก็มีเกาหลี ญี่ปุ่น พวกนี้รับวัฒนธรรมไปจากจีนทั้งนั้น ญึ่ปุ่นจะใช้ตะเกียบสั้น ที่เคยเห็นติดกันเป็นคู่ เวลาจะใช้ก็แยกออกนั่นแหละ สไตล์ญี่ปุ่นของแท้เลยล่ะ เป็นตะเกียบที่ใช้แล้วทิ้ง แต่ละปีญี่ปุ่นสั่งซื้อตะเกียบไม้ไผ่จากจีนไม่น้อยเลยล่ะ เพราะวัตถุดิบไม้ไผ่ญี่ปุ่นตอนนี้ปลูกน้อยมาก ส่วนเกาหลีจะใช้ตะเกียบทำด้วยโลหะ ไม่รู้เป็นอลูมิเนียมหรือเปล่า เวลาคีบยากน่าดู ปกติจะมีด้านที่มีเหลี่ยมมุม เวลาคีบต้องใช้เหลี่ยมมุมช่วย เท่าที่เห็น ในจีนหาน้ำแข็งก้อนกินยากมาก แต่เกาหลีจะชอบกินน้ำแข็ง อ้อ อาหารโปรดของเกาหลีอีกอย่างก็คือเนื้อหมา เคยถามคนเกาหลี เห็นบอกว่าราคาแพงเป็นอันดับสองรองจากเนื้อวัวเชียวหละ ส่วนเวียดนามคงจะต้องสอบถามท่านแหลมแล้วล่ะ ที่ร้านญวนญีมีแรงงานยวนเยอะ คงสอบถามได้บ้าง น่าจะใช้ตะเกียบเป็นอาวุธประจำชาติเหมือนกันนะ เพราะอดีตก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของจีน ชาวจีนสมัยโบราณเรียกเวียดนามว่ากวางนาม


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 ตุลาคม 2553, 14:18:07

หวัดดี......ท่านจุ๊ง...น้องหนิง..น้องหมี..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน


พรุ่งนี้จะเริ่มเทศการกินเจของชาวจีนแล้ว.

เล่าถึงธรรมเนียมประเพณีการกินเจน่าจะดีนะ........ท่านจุ๊ง.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 14:39:57
โบราณเขาว่า "ดูละครแล้วย้อนดูตัวเอง" เห็นเหตุการณ์บ้านเมืองเราในกำมือของพณฯทั้งหลายแล้ว ลองมาดูบทบาทของบุคคลในประวัติศาสตร์จีนบ้าง ตำนานเรื่องนี้ทำให้เกิดคำสำเร็จรูปของจีนที่แปลว่ายอมรับผิดคือคำว่า " พันธนาการตัวเองด้วยกิ่งหนามแหลมมารับผิด"

พันธนาการตัวเองด้วยกิ่งหนามแหลมมารับผิด

สมัยจั้นกวั๋ว ( ZhanGuo) มีรัฐใหญ่อยู่ 7 รัฐ  ได้แก่ รัฐฉี  รัฐฉู่   รัฐเยี่ยน  รัฐหัน  รัฐเจ้า  รัฐเว่ย  และรัฐฉิน  ในประวัติศาสตร์เรียกว่า  “ เจ็ดสิงห์จั้นกวั๋ว ”
ในกลุ่มเจ็ดรัฐนี้ ก็นับว่ารัฐฉินเข้มแข็งที่สุด
รัฐฉินมักจะกลั่นแกล้งรังแกรัฐเจ้าบ่อย ๆ
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่กษัตริย์รัฐเจ้าส่งขุนนางผู้ใหญ่คนหนึ่งชื่อลิ่นเซียงหยูไปที่รัฐฉินเพื่อเจรจาต่อรอง
ลิ่นเซียงหยูได้พบกับกษัตริย์รัฐฉิน  เขาอาศัยความฉลาดหลักแหลมและความกล้าหาญ  ทำให้รัฐเจ้าสามารถมีหน้ามีตาไปไม่น้อย
กษัตรย์ รัฐฉินเห็นว่ารัฐเจ้ามีบุคลากรที่มีสติปัญญาความสามารถอย่างนี้  ก็ไม่กล้าดูถูกรัฐเจ้าอีกต่อไป  กษัตริย์รัฐเจ้าเห็นว่าลิ่นเซียงหยูมีความสามารถอย่างนี้
ก็แต่งตั้งให้เขาเป็นขุนนางระดับกลางก่อน  หลังจากนั้นก็แต่งตั้งอัครเสนาบดีในเวลาต่อมา
กษัตริย์รัฐเจ้าให้ความสำคัญกับลิ่นเซียงหยูอย่างนี้  ทำให้ท่านนายพลเหลียนพอโกรธมากทีเดียว
เขาคิดว่า “ ฉันทำการรบทุ่มเทสุดชีวิตเพื่อรัฐเจ้า  หรือว่าคุณงามความดีความชอบไม่เท่ากับลิ่นเซียงหยูเลยรึ”
ลิ่นเซียงหยูเพียงอาศํยลมปากเท่านั้น มีฝีมือยอดเยี่ยมอะไรกัน ยังจะมีฐานะสูงกว่าฉันอีก
เขายิ่งคิดยิ่งหมดศรัทธา  พูดอย่างเดือดดาลว่า
“ ถ้าฉันพบกับลิ่นเซียงหยู จะตอกให้เขาหน้าหงายไปเลย ทำต่อหน้าต่อตาเชียวล่ะ ดูสิว่าเขาจะทำยังไงกับฉันได้ ”
คำพูดเหล่านี้ของเหลียนพอได้ยินไปถึงหูของลิ่นเซียงหยู
ลิ่นเซียงหยูก็สั่งกำชับกับลูกน้องตนทันทีว่า
"ยอมเขาเสียหน่อยนะ  อย่าไปมีเรื่องทะเลาะกับพวกเขา"
หลังจากนั้นเขาก็นั่งรถม้าออกจากบ้านไป  ขอเพียงแค่ได้ยินว่าเหลียนพออยู่ด้านหน้า
ก็สั่งให้คนขับรถม้ารับหลบเข้าซอยเล็กซอยน้อย รอจนเหลียนพอผ่านไปแล้วค่อยเดินทางต่อ
ลูกน้องของเหลียนพอเห็นว่าท่านเสนาบดียอมอ่อนข้อให้กับเจ้านายของตนเองอย่างนี้
ก็ยิ่งกำเริบใหญ่ เมื่อพบกับลูกน้องของลิ่นเซียงหยูก็เย้ยหยันพวกเขา
ลูกน้องของลิ่นเซียงหยูทนไม่ไหวกับการยั่วโทสะแบบนี้  จึงบอกกับลิ่นเซียงหยูว่า
“ฐานะของท่านสูงกว่านายพลเหลียน  เขาด่าว่าท่าน  ทำไมท่านกลับหลบเขา ยอมอ่อนข้อเขา   เขายิ่งไม่เห็นท่านอยู่ในสายตา  เป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราทนไม่ได้แล้ว”
ลิ่นเซียงหยูพูดกับพวกเขาด้วยจิตใจที่สงบเยือกเย็น
“   ระหว่างนายพลเหลียนกับกษัตริย์ฉิน  ใครคนไหนร้ายกาจกว่ากันนะ ”
ทุกคนพูดว่า  “ แน่นอนนั่นต้องเป็นกษัตริย์ฉินที่ร้ายกาจ ”
ลิ่นเซียงหยูพูดว่า  “ถูกล่ะ  ฉันได้พบแล้วกษัตริย์ฉินไม่มีอะไรน่ากลัวเลย หรือว่ายังกลัวนายพลเหลี่ยนนะรึ ต้องรู้ว่า  กษัตริย์ฉินตอนนี้ไม่กล้ามาตีรัฐเจ้า ก็เพราะว่าพลเรือนทหารในประเทศมีจิตใจเดียวกัน พวกเราสองคนก็เหมือนกับเป็นเสือสองตัว เสือสองตัวถ้าทะเลาะวิวาทกันขึ้นมา   จะมีตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ หรือแม้กระทั่งตายไป  อย่างนี้ก็ทำให้รัฐฉินมีโอกาสที่ดีเข้าโจมตีรัฐเจ้าได้ พวกท่านคิดดูสิว่า   ภารกิจของประเทศชาติสำคัญหรือว่าหน้าตาของบุคคลสำคัญ
ลูกน้องของลิ่นเซียงหยูได้ฟังแล้วคำนี้แล้ว  ซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง
หลังจากนี้เมื่อได้พบเห็นลูกน้องของเหลียนพอแล้ว
ก็ล้วนระมัดระวังตัว  มักจะยอมอ่อนข้อต่อพวกเขา
ภายหลังเหลียนพอทราบความเรื่องนี้ เริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองจิตใจคับแคบไป คิดถึงแต่เรื่องส่วนตัว ลืมเรื่องของประเทศชาติไป สู้ลิ่นเซียงหยูไม่ได้ จึงมัดตัวเองด้วยกิ่งไม้ที่มีหนามแหลมไปยอมรับผิดกับลิ่นเซียงหยู กลายเป็นเรื่องประทับใจในประวัติศาสตร์


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 ตุลาคม 2553, 14:47:38

ยุคจั้นกวั๋ว เป็นยุคเดียวกับเรื่อง เจาะเวลาหาจิ้นซี หรือเปล่าครับท่าน?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 14:49:33
เรียนท่านแหลมเปี๊ยบ เรื่องตำนานกินเจ ขอเช็คดูก่อนนะว่ามีแปลไว้ในสมุดข่อยโบราณหรือเปล่า ถ้ามีจะขุดมาให้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 ตุลาคม 2553, 14:51:42
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 06 ตุลาคม 2553, 14:49:33
เรียนท่านแหลมเปี๊ยบ เรื่องตำนานกินเจ ขอเช็คดูก่อนนะว่ามีแปลไว้ในสมุดข่อยโบราณหรือเปล่า ถ้ามีจะขุดมาให้

ขอบคุณล่วงหน้า ครับ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 15:14:52
ไปขุดกระทู้เก่าๆจากมุมจีนมาได้แล้ว ขอออกตัวก่อนว่าไม่ยืนยันว่าถูกต้องโร้ยโปเซ็ง เพราะcopy และ paste อย่างเดียว

ตำนานเทศกาลกินเจ

ตำนานที่ 1 ชาวจีนกินเจเป็นการบำเพ็ญกุศลเพื่อรำลึกถึงวีรชน 9 คน ซึ่งเรียกว่า “หงี่หั่วท้วง” ซึ่งได้ต่อสู้กับชาวแมนจูอย่างกล้าหาญถึงแม้จะแพ้ก็ตาม ชาวบ้านได้พากันถือศีลกินเจนุ่งขาวห่มขาวเพราะเชื่อว่าการปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยชำระจิตวิญญาณเกิดความเข้มแข็งทางร่างกายและจิตใจ

ตำนานที่ 2 เพื่อเป็นการประกอบพิธีกรรมเพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีตกาล 7 พระองค์และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ด้วยกัน หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า “ดาวนพเคราะห์” ทั้ง 9 ได้แก่ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู และพระเกตุ ในพิธีกรรมบูชานี้สาธุชนในพระพุทธศาสนาสละเวลาทางโลกมาบำเพ็ญศีลงดเว้นเนื้อสัตว์และแต่งกายด้วยชุดขาว



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 15:17:04
ตำนานที่ 3 ผู้ถือศีลกินเจในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาของชาวจีนในประเทศไทย เพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีลกาล 7 พระองค์ ดังมีในพระสูตร ปั๊กเต๊าโก๋ว ฮุดเชียวไจเอียงชั่วเมียวเกง กล่าวไว้คือ พระวิชัยโลกมนจรพุทธะ พระศรีรัตนโลกประภาโมษอิศวรพุทธะ พระเวปุลลรัตนโลกวรรณสิทธิพุทธะ พระอโศกโลกวิชัยมงคลพุทธะ พระวิสุทธิอาศรมโลกเวปุลลปรัชญาวิภาคพุทธะ พระธรรมมติธรรมสาครจรโลกมโนพุทธะ พระเวปุลลจันทรโภคไภสัชชไวฑูรย์พุทธะ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ คือพระศรีสุขโลกปัทมอรรถอลังการโพธิสัตว์และพระศรีเวปุลกสังสารโลกสุขอิศวรโพธิสัตว์ รวมเป็น 9 พระองค์(หรือ “เก้าอ๊อง”)ทรงตั้งปณิธานจักโปรดสัตว์โลก จึงได้แบ่งกายมาเป็นเทพเจ้า 9 พระองค์ด้วยกันคือ ไต้อวยเอี๊ยงเม้งทัมหลังไทแชกุน ไต้เจียกอิมเจ็งกื้อมึ้งงวนแชกุน ไต้กวนจิงหยิ้งลุกช้งเจงแชกุน ไต้ฮั่งเฮี่ยงเม้งม่งเคียกนิวแชกุน ไต้ปิ๊กตังง้วนเนี้ยบเจงกังแชกุน ไต้โพ้วปั๊กเก๊กบู๊เอียกกี่แชกุน ไต้เพียวเทียนกวนพัวกุงกวนแชกุน ไต้ตั่งเม้งงั่วคูแชกุน ฮุ้ยกวงไตเพียกแชกุน เทพเจ้าทั้ง 9 พระองค์ ทรงอำนาจตบะอันเรืองฤทธิ์บริหารธาติดิน น้ำ ลม ไฟ และทอง ทั่วทุกพิภพน้อยใหญ่สารทิศ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 15:19:58
ตำนานที่ 4 กินเจเพื่อเป็นการบูชากษัตริย์เป๊ง “กษัตริย์เป๊ง” เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ซ้องซึ่งสิ้นพระชนม์โดยทรงทำอัตวินิบาตกรรม (การฆ่าตัวตาย) ในขณะที่เสด็จไต้หวันโดยทางเรือ เมื่อมีพระชนนมายุได้ 9 พรรษา พิธีบูชาเพื่อระลึกถึงราชวงศ์ซ้องนี้ มีแต่เฉพาะในมณฑลฮกเกี้ยนซึ่งเป็นดินแดนผืนสุดท้ายของราชวงศ์ซ้องเท่านั้น โดยชาวฮกเกี้ยนได้จัดทำพิธีดังกล่าวนี้ขึ้นด้วยการอาศัยศาสนาบังหน้าการเมือง การที่เผยแผ่มาสู่เมืองไทยได้นั้นเพราะชาวจีนแต้จิ๋วที่อพยพจากฮกเกี้ยนนำมาเผยแผ่อีกทอดหนึ่ง
 
ตำนานที่ 5 1500 ปีมาแล้ว มณฑลกังไสเป็นดินแดนที่เจริญรุ่งเรืองมาก ฮ่องเต้เมืองนี้มีพระราชโอรส 9 พระองค์ซึ่งเป็นเลิศทั้งบุ๋นและบู๊จึงทำให้หัวเมืองต่างๆ ยอมสวามิภักดิ์ ยกเว้นแคว้นก่งเลี้ยดที่มีอำนาจเข้มแข็งและมีกองกำลังทหารที่เหนือกว่า ทั้งสองแคว้นทำศึกกันมาถึงครั้งที่ 4 แคว้นก่งเลี้ยดชนะโดยการทุ่มกองกำลังทหารที่มีทั้งหมดที่มากกว่าหลายเท่าตัวโอบล้อมกองทัพพระราชโอรสทั้งเก้าไว้ทุกด้าน แต่กองทัพก่งเลี้ยดไม่สามารถบุกเข้าเมืองได้จึงถอยทัพกลับ จนวันหนึ่งชาวกังไสเกิดความแตกสามัคคีและเอาเปรียบกัน เทพยดาทราบว่าอีกไม่นานกังไสจะเกิดภัยพิบัติจึงหาผู้อาสาช่วยแต่ชาวบ้านจะพ้นภัยได้ก็ต่อเมื่อได้สร้างผลบุญของตนเอง ดวงวิญญาณพระราชโอรสองค์โตรับอาสาและเพ่งญาณเห็นว่าควรเริ่มที่บ้านเศรษฐีใจบุญ ลีฮั้วก่าย คืนวันหนึ่งคนรับใช้แจ้งเศรษฐีลีฮั้วก่ายว่ามีขอทานโรคเรื้อนมาขอพบเศรษฐีจึงมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เป็นค่าเดินทาง แต่ขอทานไม่ไปและประกาศให้ชาวเมืองถือศีลกินเจเป็นเวลา 9 วัน 9 คืนผู้ใดทำตามภัยพิบัติจะหายไป เศรษฐีนำมาปฏิบัติก่อนและผู้อื่นจึงปฏิบัติตามจนมีการจัดให้มีอุปรากรเป็นมหรสพในช่วงกินเจด้วย เล่าเอี๋ยเกิดศรัทธาประเพณีกินเจของมณฑลกังไสจึงได้ศึกษาตำราการกินเจของเศรษฐีลีฮั้วก่ายที่บันทึกไว้ แต่ได้ดัดแปลงพิธีกรรมบางอย่างให้รัดกุมยิ่งขึ้นและให้มีพิธียกอ๋องส่องเต้ (พิธีเชิญพระอิศวรมาเป็นประธานในการกินเจ)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 15:23:35
ตำนานที่ 6 ชายขี้เมานามว่า เล่าเซ็ง เข้าใจผิดคิดว่าแม่ตนตายไปเพราะเป็นโรคขาดสารอาหาร จนคืนหนึ่งแม่ได้มาเข้าฝันบอกว่า แม่ตายไปได้รับความสุขมากเพราะแม่กินแต่อาหารเจและตอนนี้แม่อยู่บนเขาโพถ้อซัว ตั้งอยู่บนเกาะน่ำไฮ้ ในมณฑลจิ๊ดเจียงถ้าลูกอยากพบแม่ให้ไปที่นั่น ครั้นถึงเทศกาลไหว้พระโพธิสัตว์กวนอิมที่เขาโพถ้อซัว เล่าเซ็งอยากไปแต่ไปไม่ถูกจึงตามเพื่อนบ้านที่จะไปไหว้พระโพธิสัตว์ เพื่อนบ้านเห็นเล่าเซ็งสัญญาว่าจะไม่กินเหล้าและเนื้อสัตว์จึงให้ไปด้วย ระหว่างทางเดินสวนกับคนขายเนื้อเล่าเซ็งลืมสัญญาที่ให้ไว้เพื่อนบ้านก็หนีไป โชคดีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินผ่านมาและต้องการไปไหว้พระโพธิสัตว์เล่าเซ็งจึงขอตามนางไป เมื่อถึงเขาโพถ้อซัวขณะที่เล่าเซ็งก้มลงกราบไหว้พระโพธิสัตว์นั้น เขาเห็นแม่ลอยอยู่เหนือกระถางธูปที่คนอื่นมองไม่เห็น ขณะเดินทางกลับเขาได้แยกทางกับหญิงสาวและได้พบเด็กชายคนหนึ่งยืนร้องไห้อยู่จึงเข้าไปถามไถ่ได้ความว่าเป็นลูกของเขากับภรรยาที่เลิกกันไปนานแล้ว เขาจึงพาไปอยู่ด้วยแล้ววันหนึ่งหญิงสาวที่นำทางไปเขาโพถ้อซัวมาขออาศัยอยู่ด้วย ทั้งสามอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข หญิงสาวผู้นั้นเป็นสาวบริสุทธิ์ประพฤติตนเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมและถือศีลกินเจอยู่เนืองนิตย์ นางรู้ว่าใกล้ถึงวันตายของนางแล้วจึงบอกเล่าเซ็ง เมื่อถึงวันนั้นนางอาบน้ำแต่งตัวด้วยอาภรณ์ที่ขาวสะอาดแล้วนั่งสักครู่ก็สิ้นลม เล่าเซ็งเห็นการจากไปด้วยดีของนางคล้ายกับแม่จึงเกิดศรัทธายกสมบัติให้ลูกชายแล้วประพฤติตนใหม่ เมื่อตายไปจะได้บังเกิดผลเช่นเดียวกับแม่และหญิงสาวและประเพณีกินเจจึงเริ่มขึ้น


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 15:25:32
ตำนานที่ 7 การกินเจที่ภูเก็ต มีคณะงิ้วจากเมืองจีนมาเปิดการแสดงที่กะทู้นานเป็นแรมปี แล้วบังเอิญช่วงนั้นเกิดโรคระบาดขึ้นคณะงิ้วจึงจัดให้มีพิธีกินเจและสร้างศาลเจ้าขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ หลังจากนั้นโรคภัยไข้เจ็บก็หายสิ้น ชาวกะทู้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงปฏิบัติตาม และหลังจากประกอบพิธีอยู่ประมาณ 2-3 ปี ผู้ศรัทธามากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับอยากได้พิธีกินเจที่สมบูรณ์ตามแบบประเพณีมณฑลกังไส ประเทศจีน จึงได้ส่งตัวแทนไปนำควันธูป (เหี่ยวเอี้ยน) ในการเดินทางกลับจะต้องคอยจุดธูปต่อกันมิให้ดับมอด ศาลเจ้ากะทู้จึงได้ชื่อว่าเป็นต้นตำรับของพิธีกินเจในปัจจุบัน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 15:43:10
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 06 ตุลาคม 2553, 14:47:38

ยุคจั้นกวั๋ว เป็นยุคเดียวกับเรื่อง เจาะเวลาหาจิ้นซี หรือเปล่าครับท่าน?

ถูกต้องแล้วคร้าบ ยุคนี้เป็นยุคของราชวงศ์โจวซึ่งเป็นราชวงศ์ที่สามในประวัติศาสตร์จีน ราชวงศ์โจวแบ่งเป็นราชวงศ์โจวตะวันตกและโจวตะวันออก เดิมโจวตะวันตกจะเป็นศูนย์รวมของอำนาจ ภายหลังในยุคของพระเจ้าติ้วอ๋อง(ชื่อตามที่นักแปลไทยเรียก) พระเจ้าติ้วอ๋องลุ่มหลงนางเปาสื้อซึ่งเป็นคนยิ้มยาก เลยหากลวิธีที่จะให้นางงามยิ้มโดยให้จุดไฟหอคอย ที่ติดตั้งเป็นทอดๆไว้เตือนภัยยามมีศึกสงคราม เพื่อให้ขุนศึกหัวเมืองมาช่วย ขุดศึกมา เห็นติ้วอ๋องกำลังเกษมสำราญด้วยเหล้าเบียร์ก็หน้าแตกไปซิครับท่าน กลเม็ดนี้ทำให้นางเปาสื้อยิ้มได้ หลายครั้งเข้า ขุนศึกรู้แกว เลยไม่มา เข้าตำราเด็กเลี้ยงแกะ เผอิญมีครั้งนึงมีศึกสงครามมาจริงๆ ติ้วอ๋องกับนางเปาสื้อก็ซี้แหงแก๋ ต่อมาแม้จะกอบกู้ได้ แต่การปกครองไม่เข้มแข็งเหมือนเดิมแล้ว ราชธานีก็ต้องย้าย เลยเกิดราชวงศ์โจวตะวันออก กลายเป็นยุคชุนชิว มีรัฐแยกตัวออกมาปกครองอิสระร้อยกว่ารัฐ ราชวงศ์โจวยังมีอยู่ทางนิตินัยก็แค่เป็นเจว็ดแค่นั้นเอง ต่อมาก็ปราบกันไปปราบกันมาก็เหลืออยู่ยงคงกระพันเพียงแค่เจ็ดพยัคฆ์ ยุคนี้เรียกว่ายุคจั้นกั๋ว ส่วนคำว่าเลี่ยกั๋วหรือเลียดก๊กในภาษาไทย เอามาจากนิยายพงศาวดารชื่อตำนานเลียดก๊ก ซึ่งเกิดขึ้นในยุคโจวตะวันออกนี่เอง คงทับศัพย์ชื่อเรื่องน่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 ตุลาคม 2553, 16:58:12

 ...เทศกาลกินเจ (กินผัก) วันที่ 08 - 16 ตุลาคม 2553...  

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l9v501-f2aa18.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 20:57:00
ที่หางโจว ไม่มีประเพณีกินเจเลยครับพี่ๆ  ถามน้องๆ คนจีนก็ไม่มีใครรู้เรื่องประเพณีกินเจ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 07 ตุลาคม 2553, 09:41:15
เรื่องกินเจ ไม่รู้อะไรมาก คุยเรื่องอื่นของชอบดีกว่า อ่านเรื่อง "พันธนาการตัวเองด้วยกิ่งหนามแหลมมารับผิด" แล้ว ให้คิดถึงสุภาษิตจีน ที่ปะป๊าเคยสอนมาตอนเด็ก นับๆเวลาก็ร่วมสามสิบกว่าปีแล้ว บรรดาพณฯท่านในเมืองไทยคงไม่รู้จักสุภาษิตบทนี้มั้ง

将相胸前堪走马,公候肚里好撑船。
"ในอ้อมอกของแม่ทัพนายกองและบรรดาเสนาบดีต่างๆสามารถควบม้าได้ ในท้องของเจ้าขุนมูลนายแล่นเรือได้เป็นอย่างดี"

ต่อด้วยด้วยบทกลอนบรรยากาศในวันสาร์ทหยวนเซียว ซึ่งเป็นวันเพ็ญขึ้นสิบห้าค่ำหลังตรุษจีน หลายท่านอาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่าเป็นวันที่เขาจัดเชิดสิงโตในประเทศไทย หลายคนคงร้องอ๋อ

《正月十五夜》
苏味道
火树银花合,星桥铁锁开。
暗尘随马去,明月逐人来。
游伎皆秾李,行歌径落梅。
金吾夜不禁,玉漏莫相催。

คืินวันเพ็ญเดือนอ้าย
ซูเว่ยเต้า
ต้นไม้ไฟระยับ  ดาวประดับกับสะพาน
ฝุ่นคลุ้งตามม้าผ่าน เดือนสกาวเร้าฝูงชน
นารีที่สวยล้ำ ขับลำนำตามถนน
คืนนี้มิห้ามคน นาฟิกาอย่ามาเร่ง

元宵
(明) 唐寅
有灯无月不娱人,有月无灯不算春。
春到人间人似玉,灯烧月下月如银。
满街珠翠游村女,沸地笙歌赛社神。
不展芳尊开口笑,如何消得此良辰。

หยวนเซียว
ถังหยิง
มีโคมไร้จันทรา  ไหนจะหาความรื่นรมย์    
มีจันทร์ไร้โคมชม  ก็มิสมลมวสันต์

ฤดูเมื่อมาถึง คนงามซึ้งตรึงชีวัน  
ใต้แสงโคมไฟนั้น จันทร์ดุจดังแสงเงินยวง

ชนบทสาวชาวบ้าน  ล้วนละลานด้วยมุกพวง
บรรเลงเพลงแดนสรวง  เทพทั้งปวงมาช่วยขับ

บัดนี้มิรินเหล้า  เคล้าเสียงคุยหัวเราะรับ
ไหนเลยจะรับกับ เพลาดีวันนี้ได้



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 07 ตุลาคม 2553, 15:22:32

将相胸前堪走马,公候肚里好撑船。
"ในอ้อมอกของแม่ทัพนายกองและบรรดาเสนาบดีต่างๆสามารถควบม้าได้ ในท้องของเจ้าขุนมูลนายแล่นเรือได้เป็นอย่างดี"




ภูมิรู้ผมยังน้อย......
ช่วยแปลไทยเป็นไทยหน่อยได้ไหม?.......ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 07 ตุลาคม 2553, 15:35:23
แหม ท่านแหลมเปี๊ยบก้อ ก็แปลว่าบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ปกติจะต้องใจกว้างปานห้วงนภากาศไงล่ะคร้าบทั่น


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 07 ตุลาคม 2553, 15:46:02
เข้าใจแล้ว........ขอบคุณ

แต่.....ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราจำนวนไม่น้อย จิตใจปานมหาสมุทรเลย.  



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 07 ตุลาคม 2553, 16:00:11
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 27 กันยายน 2553, 17:06:22
พวกเราเห็นชาวเหล้ากันเยอะ เลยเอาบทกลอนเก่าๆเกี่ยวกับเหล้า มาบิ๊วอารมณ์กันหน่อย

凉州词(葡萄美酒夜光杯)
王 翰

葡萄美酒夜光杯, 欲饮琵琶马上催。

醉卧沙场君莫笑, 古来征战几人回

บทพรรณนาเหลียงโจว(เหล้าองุ่นในถ้วยพราวราตรี)
หวังฮ่าน

องุ่นเหล้าล้ำเลิศ  ถ้วยบรรเจิดเพริศพราวตา
ใคร่ดื่มปลื้มสักครา เสียงผีผาม้าเร่งคึก
เมาพับหลับกลางศึก  เกลออย่านึกนับเยาะข้า
ตั้งแต่โบราณมา กี่คนหนากลับคืนเรือน

หมายเหตุ ผีผาเป็นเครื่องดนตรีประเภทสาย ลักษณะคล้ายกีต้าร์


รอเวลา เจอะเจอคราใด
พี่จะขอคารวะทั่นน้องสัก 1 จอก


 emo30:sorry: emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 07 ตุลาคม 2553, 16:16:35


เฮียจุ๊ง
เฮียจุ๊ง  ยอดเยี่ยมมาก
มุมมองเรื่องจีนๆ นับว่าหาใครแถวนี้เท่าเทียมได้
ช่างค้นคว้า ช่างเสาะหา มาเล่าสู่
ถามไปตอบมา เก่งอ่ะขอชื่นชม
อ่านแล้วเพลินดี
ชอบ ชอบ


 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 07 ตุลาคม 2553, 16:20:40
ภาษาจีนน่าจะเป็นภาษาที่พิมพ์ได้เร็วที่สุดในโลกแล้วมั้ง เพราะจีนจะมีสำนวน คำคม คำประสม ที่ใช้อยู่ทุกบ่อย เวลาพิมพ์ ถ้าเป็นภาษาไทย หรืออังกฤษที่ต้องพิมพ์ตัวสะกด จะต้องพิมพ์ทุกตัวอักษร แต่ภาษาจีน เพียงพิมพ์ตัวอักษรที่แทนการออกเสียงตัวแรกของแต่ละคำ กลุ่มคำที่ต้องการจะโผล่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะสมัยนี้ใช้พินอินสำหรับคีย์ตัวอักษรแล้วด้วย ยื่งเร็วใหญ่ แต่เรื่องนี้ก็สร้างปัญหาใหม่เหมือนกัน เพราะเด็กสมัยใหม่เยอะมากในจีนที่เขียนอักษรจีนไม่เป็น เพราะไม่ต้องฝึกเขียน

สรรพนามเอกลักษณ์ของเอกบุรุษของภาษาจีนมีใช้เยอะมาก อย่างที่คนไทยรู้จักกันดีคือคำว่าอั๊ว แต่พี่น้องรู้หรือไม่ว่าคำว่า"กู" "ฉัน" ก็มาจากภาษาจีน ในบรรดาสรรพนามเอกลักษณ์ของเอกบุรุษคำที่ผมชอบมากที่สุดคือคำว่า "กู" เวลาพูดมีอำนาจอยู่ในตัวยังไงไม่รู้ เวลาโกรธ จะด่าใคร ใช้คำว่าฉัน ข้า เรา ผม ยังไงก็ไม่สะใจ คำว่า"กู" นี่แหละได้น้ำหนักที่สุด คำว่า"กู" ในสมัยโบราณเป็นคำที่เจ้าผู้ปกครองรัฐใช้เรียกตัวเอง แปลว่าโดดเดี่ยวแต่ผู้เดียว คนอื่นห้ามใช้ยกเว้นเจ้าผู้ปกครองรัฐใช้ได้คนเดียว ส่วนคำว่า "ฉัน" เป็นคำที่เกิดขึ้นหลังยุคของจิ๋นซีฮ่องเต้พร้อมกับคำว่า"ฮ่องเต้" สมัยโบราณ กษัตริย์ต่างๆจะเรียกว่าฮ่องหรือเต้อย่างเดียว เมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้รวบรวมจีนขึ้นเป็นปึกแผ่นแล้ว ก็ถามบรรดาขุนนางว่าบรรดาผู้ปกครองในอดีตจะมีใครยิ่งใหญ่เทียบเท่าพระองค์อีกไหม ถ้าไม่มี คำว่าฮ่องหรือคำว่าเต้ก็ไม่เหมาะสมกับพระองค์ บรรดาขุนนางเลยถวายคำว่าฮ่องเต้ ส่วนคำว่า"กู"ซึ่งใช้ในสมัยโบราณของผู้ปกครองเิดิม ก็ไม่เหมาะสมกับพระองค์ เลยเกิดคำว่า"ฉัน"ขึ้นมา เพื่อให้ฮ่องเต้ใช้เรียกตัวเองโดยเฉพาะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 07 ตุลาคม 2553, 16:31:40
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 07 ตุลาคม 2553, 16:16:35


เฮียจุ๊ง
เฮียจุ๊ง  ยอดเยี่ยมมาก
มุมมองเรื่องจีนๆ นับว่าหาใครแถวนี้เท่าเทียมได้
ช่างค้นคว้า ช่างเสาะหา มาเล่าสู่
ถามไปตอบมา เก่งอ่ะขอชื่นชม
อ่านแล้วเพลินดี
ชอบ ชอบ


 emo6::)) emo6::))

ขอบคุณท่านพี่หนุน ที่กรุณามาอุดหนุน วณิพกน้อยขอคารวะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 07 ตุลาคม 2553, 18:03:22
คนที่อยู่จีน  ยังต้องอ่านเรืองจีนของพี่จุ๊งครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 ตุลาคม 2553, 18:20:44
มีคนสะกิดบอกให้มาห้องนี้ด้วย .. ไม่รู้พลาดไปได้ยังไง
อ่านหน้าแรกหน้าเดียว ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
แต่สนุกมาก

ยังอ่านไม่หมดค่ะ พี่จุ๊ง .. แต่รีบมาแสดงตนขอเป็นศิษย์ด้วยหนึ่งคน .. คริคริ
    emo6::))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 07 ตุลาคม 2553, 20:29:50
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 07 ตุลาคม 2553, 18:20:44
มีคนสะกิดบอกให้มาห้องนี้ด้วย .. ไม่รู้พลาดไปได้ยังไง
อ่านหน้าแรกหน้าเดียว ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
แต่สนุกมาก

ยังอ่านไม่หมดค่ะ พี่จุ๊ง .. แต่รีบมาแสดงตนขอเป็นศิษย์ด้วยหนึ่งคน .. คริคริ
    emo6::))

มีจับพลัดจับผลูเข้ามาอีกคนแล้ว แสดงว่ากลวิธีเรียกเรทติ้งมันเวิร์ค


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 ตุลาคม 2553, 20:40:20
work จริง ๆ ๆ ๆ นะค้า     emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 08 ตุลาคม 2553, 08:59:20


เฮียจุ๊ง ครับ
วันนี้..กู.. เข้ามาอ่านด้วยความเพลิดเพลิน
อ๊ากกกกกกซซซซซซ์...ทะแม่งๆ ชอบกลว่ะ
ดีจัง เกล็ดเล็ก เกล็ดน้อย
หามาให้อ่านกัน
กรู....ชอบบบบ....

กร๊ากกกก  กร๊ากกก


 emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 08 ตุลาคม 2553, 09:19:08
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 08 ตุลาคม 2553, 08:59:20


เฮียจุ๊ง ครับ
วันนี้..กู.. เข้ามาอ่านด้วยความเพลิดเพลิน
อ๊ากกกกกกซซซซซซ์...ทะแม่งๆ ชอบกลว่ะ
ดีจัง เกล็ดเล็ก เกล็ดน้อย
หามาให้อ่านกัน
กรู....ชอบบบบ....

กร๊ากกกก  กร๊ากกก


 emo20:)):) emo20:)):)

ขอบคุณพี่หนุนครับ ที่ชมเชย  
พูดถึงสรรพนามเอกลักษณ์ของเอกบุรุษนี้ คนจีนโบราณถือกันมาก ในอดีตน้อยคนนักที่จะกล้าใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “อั๊ว" หรือคำอื่นที่มีความหมายคล้ายๆกัน เพราะธรรมเนียมคนจีน โดยมารยาทต้องถล่มตัว สรรพนามแทนตัวเองก็มีการอัพเดทไปแต่ละยุคแต่ละสมัย ในแวดวงราชการ สรรพนามแทนตัวเองที่นิยมใช้กัน การเรียกตัวเองสำหรับผู้น้อยที่มีต่อผู้มีตำแหน่งใหญ่กว่า จะใช้คำว่า"ผู้น้อย" "ข้าน้อย" "บริวาร" ส่วนผู้มีตำแหน่งสูงกว่า เวลาพูดกับผู้มีตำแหน่งด้อยกว่าหรือประชาชนธรรมดา จะเรียกตัวเองว่า"ผู้ทำหน้าที่" "ผู้มีตำแหน่ง(ตามที่ผู้พูดเป็น)" ส่วนประชาชนคนธรรมดา จะเรียกตนเองว่า "ผู้น้อย" "ผู้เยาว์"เป็นต้น ใครที่เรียกตัวเองว่า"อั๊ว"ในภาษาแต้จิ๋ว หรือ"หว่อ"ในภาษาจีนกลาง คนทั่วไปจะถือว่าเป็นคนไม่มีมารยาท ไม่รู้ขนบธรรมเนียมประเพณี เรื่องนี้มีเรื่องฮือฮาที่บันทึกไว้ในตำราข่อยโบราณ เดี๋ยวขอเวลาบิ๊วอารมณ์แล้วจะบรรยายต่อไป


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 08 ตุลาคม 2553, 12:26:14

บิ๊วอารมณ์ได้ที่รึยัง?........ท่านจุ๊ง

กรู...รออ่านต่อ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 08 ตุลาคม 2553, 13:42:38
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 ตุลาคม 2553, 12:26:14

บิ๊วอารมณ์ได้ที่รึยัง?........ท่านจุ๊ง

กรู...รออ่านต่อ.


อั๊วก็รออ่านอยู่




ขอโทษครับพี่จุ๊ง   อินไปหน่อย   ฮา ฮา ฮา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 08 ตุลาคม 2553, 14:55:17
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 08 ตุลาคม 2553, 13:42:38
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 ตุลาคม 2553, 12:26:14

บิ๊วอารมณ์ได้ที่รึยัง?........ท่านจุ๊ง

กรู...รออ่านต่อ.


อั๊วก็รออ่านอยู่




ขอโทษครับพี่จุ๊ง   อินไปหน่อย   ฮา ฮา ฮา

ขุนอินก็จริง แต่อินแค่กระพี้ ถ้าอินถึงแก่นต้องบอกว่า "เร็วซิท่าน ผู้น้อยรออ่านอยู่" 555 เอิ๊กกกก emo19:((: emo19:((:

เอาล่ะ แควนๆเรียกร้อง ไอ้เรา"ผู้วณิพกน้อย" ก็กินข้าว อาบน้ำ ขัดสีฉวีวรรณ แถมกรึ๊บมาอีกหนึ่งจอก บิ๊วอารมณ์มาเต็มที่ ก็มาว่ากันต่อ

ยุคโบราณสมัยนึง ตำราก็ไม่ได้บอกไว้ว่าสมัยไหนเสียด้วย มีชายคนหนึ่งแซ่สวี่ เจ้าเกลอคนนี้พูดจาฉาดฉาน คนฟังยกย่องกันอยู่ เลยนึกกำเริบ เวลาคุยกับใครล้วนไม่มีสัมมาคารวะ ดูถูกดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐเป็นประจำ ชอบใช้สรรพนามแทนตัวเองว่าอั๊วหรือหว่อ ผู้คนก็ถือว่าเป็นคนที่แปลกมาก อยู่ๆกล้าใช้สรรพนามแทนตัวเองโต้งๆแบบนี้ เลยตั้งชื่อให้เชิงเสียดสีและล้อเลียนว่าสวี่หว่อ หรือจะใช้ภาษาสามก๊กก็ต้องเรียกว่าเคาอั๊ว
ตอนนั้นเจี่ยเว่ยกงเป็นอัครมหาเสนาบดีอยู่ รู้เรื่องเข้า ก็อยากเจอชายคนนี้ เลยเรียกคนให้ไปเชิญตัวมาพบ เกลอเป็นตายยังไงก็ไม่ยอมมา ในที่สุดเลยให้ลูกศิษย์ไปเชิญตัวมา ถึงจะยอมมา เจ้าเกลอขี่ลาอาดๆมาถึงจวนของเจี่ยเว่ยกง จะขี่ลาตรงดิ่งเข้าไปเลย คนเฝ้าประตูบอกว่า "นี่จวนของอัครมหาเสนาบดีนะ แม้แต่บุตรชายท่านยังต้องเดินเท้าเปล่าเข้ามาเลย " เจ้าเกลอกสวี่บอกว่า "อั๊วไม่มีอะไรที่จะมาขอร้องต่อท่านเสนาบดี ท่านเสนาบดีอยากจะพบอั๊ว เรียกอั๊วมา ถ้าต้องลงจากหลังลา อั๊วไปดีกว่า" จากนั้นก็ขี่ลากลับออกไป คนเฝ้าประตูรีบห้าม ก็ไม่ยอมหยุด ไปเฉยเลย คนเฝ้าประตูหมดปัญญา เลยไปแจ้งให้เจี่ยเว่ยกงทราบ เจี่ยเว่ยกงจึงใช้คนไปขอโทษและเชิญให้มาใหม่ ยังไงก็ไม่ยอมมา เจี่ยเว่ยกงถอนใจบอกว่า "เกลอสวี่เป็นแค่ชาวบ้านร้านตลาดแค่นั้นเอง เมื่อไม่มีอะไรจะขอร้องใคร ก็หยิ่งทนงได้ถึงขนาดนี้ อย่าว่าแต่ผู้ที่ถือว่าตัวเองมีคุณธรรมเมตตาธรรมเลย"
ไม่ว่าจะเจอใคร เกลอสวี่คนนี้ก็ใช้สรรพนามแทนตัวว่า"อั๊ว" เรื่องนี้ในสมัยนั้นสามารถสร้างความฮือฮาได้ จากอุทาหรณ์นี้พวกเราสามารถเห็นได้ว่าการเรียกตัวเองว่า"อั๊ว" เป็นเรื่องที่น่าแตกตื่นตกใจเพียงใดในสมัยนั้น และสะท้อนให้เห็นว่าการเรียกตัวเองว่า"อั๊ว" เป็นเรื่องที่หาได้ยาก และสามารถสร้างกิตติศัพย์ให้ตัวเองได้


เฮ่อ จบ เอ้า อีกกรึ๊บ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 08 ตุลาคม 2553, 17:42:46

หมดเรื่อง"อั๊ว" แล้วต่อไปจะเล่าเรื่อง "ลื้อ" หรือไม่
ท่านมหาเสนาบดีจุ๊ง ผู้รอบรู้
ข้าน้อยหน่อยนึง...รอสดับตรับฟังอยู่ขอรับ

กรึ๊บ กรึ๊บ


 emo42 emo42


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 08 ตุลาคม 2553, 18:27:19
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 08 ตุลาคม 2553, 17:42:46

หมดเรื่อง"อั๊ว" แล้วต่อไปจะเล่าเรื่อง "ลื้อ" หรือไม่
ท่านมหาเสนาบดีจุ๊ง ผู้รอบรู้
ข้าน้อยหน่อยนึง...รอสดับตรับฟังอยู่ขอรับ

กรึ๊บ กรึ๊บ


 emo42 emo42

พี่หนุน เรื่องของลื้อก็เรื่องของลื้อซิ อั๊วจะไปเกี่ยวอะไรได้ด้วยล่ะ เอิ๊กๆๆ emo48:) emo48:)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 08 ตุลาคม 2553, 19:15:20
เอ้า .. ข้าน้อยก็รอเหมือนกัน  ท่านพี่จุ๊ง      emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 08 ตุลาคม 2553, 19:16:14
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 08 ตุลาคม 2553, 18:27:19
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 08 ตุลาคม 2553, 17:42:46

หมดเรื่อง"อั๊ว" แล้วต่อไปจะเล่าเรื่อง "ลื้อ" หรือไม่
ท่านมหาเสนาบดีจุ๊ง ผู้รอบรู้
ข้าน้อยหน่อยนึง...รอสดับตรับฟังอยู่ขอรับ

กรึ๊บ กรึ๊บ


 emo42 emo42

พี่หนุน เรื่องของลื้อก็เรื่องของลื้อซิ อั๊วจะไปเกี่ยวอะไรได้ด้วยล่ะ เอิ๊กๆๆ emo48:) emo48:)

ตะลึ่งตึ่งโป๊ะ !!
    emo42


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 08 ตุลาคม 2553, 21:32:52
หักมุมจากเรื่องอั๊วๆลื้อๆ มาพูดถึงเรื่องนักสำรวจผู้ยิ่งใหญ่ ชาวจีนที่ค้นพบทวีปอเมริกาก่อนโคลัมบัสร่วม 60ปีดีกว่า คนไทยรู้จักในนามของซำปอกง มีศาลเจ้าซำปอกงอยู่หลายแห่งในไทย ใครเคยเห็นที่ไหนก็ช่วยบอกด้วย ก่อนอื่นขอบอกว่างานนี้ copy&paste ทั้งน้าน ผู้ชมควรมีวิจารณญานในการชม ที่สำคัญห้ามเลียนแบบ เพราะอันตรายมาก เอิ๊กๆๆ  emo43 emo43

เจิ้งเหอขันทีนักสำรวจผู้ยิ่งใหญ่ของชาวตะวันออก

เจิ้งเหอ เดิมแซ่เบ้ มีชื่อเล่นว่า ซานป่าว(ซำป้อ)เป็นชาวยูนนาน (เล่ากันว่าบรรพบุรุษเป็นชาวเปอร์เซีย นับถือศาสนาอิสลาม)เกิดปี คศ.1371 ปีคศ.1382ถูกทหารราชวงค์หมิงจับเป็นเชลยโดนจับไป ตอนเป็นขันที เป็นองครักษ์ของฮ่องเต้จูตี้ ปีคศ.1405 ได้รับบีญชา จากฮ่องเต้ นำกองเรือไปเปิดสัมพันธไมตรีกับ ประเทศที่อยู่ทางใต้ ของจีน กองเรือมีจำนวน200กว่าลำ พลเรือ20000กว่าคน เล่ากันว่า นำทัพเรือไปไกลถึงแหลมกู๊ดโฮปของแอฟริกาใต้ เคยไปมาลายู อินโดเนเซีย ชาวจีนที่อาศัยอยู่ที่ประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เลื่อมใสท่านมาก จึงตั้งศาลเจ้าซำปอกงมารำลึกและบูชาท่าน

การเดินเรือสำรวจทางทะเลในระยะเวลา 28 ปี กองเรือของเจิ้งเหอออกสำรวจทางทะเลรวม 7 ครั้ง เดินทางมากกว่า 50,000 กิโลเมตร ท่องต่างแดนมากกว่า 37 ประเทศ เริ่มต้นเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฏาคม ค.ศ. 1405 (พ.ศ. 1948) ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระรามราชาธิราชแห่งราชวงศ์อู่ทองปกครองกรุงศรีอยุธยา เจิ้งเหอทำหน้าที่ผู้บังคับกองเรือสำเภาขนาดใหญ่ เรียกว่า "เป่าฉวน" แปลว่า "เรือมหาสมบัติ" ต่อขึ้นที่เมืองนานกิง อดีตเมืองหลวงอันเก่าแก่ของจีนเป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งของ "อู่ต่อเรือ" ใช้ในการเดินเรือของเจิ้งเหอ เรือมหาสมบัติของเจิ้งเหอยาว 400 ฟุต ขนาดใหญ่กว่าเรือ ซานตา มาเรีย ของโคลัมบัสที่ยาวเพียง 85 ฟุต ถึง 5 เท่า การเดินทะเลในครั้งแรกมีเรือขนาดใหญ่ตามไปด้วย 60 ลำ ขนาดเล็ก 255 ลำ มีลูกเรือทั้งหมด 27,870 คน แล่นเลียบชายฝั่งฟุเกี้ยน ผ่านไปยังอาณาจักรจามปา ชวา มะละกา สมุทรา (เซมูเดรา) และแลมบรีทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา จากนั้นเดินทางต่อไปยังเกาะลังกา กาลกัติ ขากลับได้นำคณะทูตจากเมืองเหล่านี้มาเข้าเฝ้าฯ จักรพรรดิหย่งเล่อ ในการเดินเรือแต่ละครั้ง ขากลับจะนำเครื่องบรรณาการจากเมืองต่าง ๆ มาถวายจักรพรรดิหย่งเล่อ โดยเฉพาะสัตว์จากหลาย ๆ เมืองที่ผ่าน อย่างเช่นขากลับจากการเดินเรือทางทะเลในครั้งที่ 5 เจิ้งเหอได้นำสิงโต เสือดาว นกกระจอกเทศ ม้าลาย และยีราฟ (โดยบอกว่าเป็น กิเลน) กลับไปถวายแด่จักรพรรดิหย่งเล่อ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบมาก และกลายเป็นของแปลกและน่าตื่นเต้นสำหรับชาวจีนที่พบเห็นเป็นครั้งแรก ต้นปีถัดมาเจิ้งเหอก็เริ่มออกเดินทางในครั้งที่ 2 เวลานั้นอายุ 36 ปี ครั้งที่ 3 อายุ 38 ปี ครั้งที่ 4 อายุ 42 ปี ครั้งที่ 5 อายุ 46 ปี ครั้งที่ 6 อายุ 50 ปี ครั้งที่ 7 อายุ 60 ปี โดยครั้งสุดท้ายมีจำนวนลูกเรือ 27,550 คน ไปไกลถึงทวีปแอฟริกา เจิ้งเหอได้เข้าเยี่ยมสุสานศาสนทูตมุฮัมมัดในมะดีนะหฺและประกอบพิธีฮัจญ์ในมักกะหฺ นอกจากนั้นเจิ้งเหอได้ผ่านเข้าไปในเปอร์เซีย อ่าวเปอร์เซีย อารเบีย ทะเลแดง และอียิปต์ ภายหลังการเดินเรือทางทะเลในครั้งที่ 7 สิ้นสุดลง จากนั้นจีนก็หยุดดำเนินการสำรวจทางทะเล ส่วนเจิ้งเหอเสียชีวิตลงในปี ค.ศ 1432 ที่อินเดีย แต่มีการสร้างหลุมฝังศพจำลองของเขาอยู่บนภูเขาในเมืองนานกิง ไม่มีศพอยู่ในนั้น มีเพียงเส้นผมและเสื้อผ้าที่เคยใช้เท่านั้น ก่อสร้างตามแบบประเพณีมุสลิม เรียกว่า เจิ้งเหอมู่ หรือ สุสานเจิ้งเหอ ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ. 1985 บนสุสานมีคำว่า อัลลอหุ อักบัร แปลว่า อัลลอหฺใหญ่ยิ่ง



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 08 ตุลาคม 2553, 21:36:44
ที่เด็ดน่าสนใจยิ่งไปกว่าคือ อดีตผู้บัญชาการนาวีอังกฤษนายเมนซีส์ ได้ตะลุยรวบรวมหลักฐานไปทั่วโลก ใช้เวลาถึง 14 ปี และได้ประกาศทฤษฎีความเชื่อใหม่ว่า เจิ้งเหอ เป็นผู้ค้นพบอเมริกาก่อนนายโคลัมบัสถึง 60 กว่าปี
ปีพ.ศ.2548  เป็นปีครบรอบ 600 ปี ที่ท่านออกทะเล จีนจัดนิทรรศการใหญ่โตที่เซี่ยงไฮ้ (ปีก่อนหน้านี้ ก็มีการจัดงานครบรอบ 500 ปี โคลัมบัสพบอเมริกา)
สำหรับสยามประเทศ  เจิ้งเหอได้เดินทางมาเยือน 2 ครั้งคือ ครั้งที่ 2 และ3 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาครับ   ในแผนที่ *สีแดงชมพู คือ เส้นทางหลักที่เจิ้งเหอเดินเรือสำรวจ *สีฟ้า คือ ขบวนเรือย่อยของเจิ้งเหอออกไปสำรวจ


(http://img219.imageshack.us/img219/871/zhenghe.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 05:31:09
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 08 ตุลาคม 2553, 14:55:17
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 08 ตุลาคม 2553, 13:42:38
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 ตุลาคม 2553, 12:26:14

บิ๊วอารมณ์ได้ที่รึยัง?........ท่านจุ๊ง

กรู...รออ่านต่อ.


อั๊วก็รออ่านอยู่




ขอโทษครับพี่จุ๊ง   อินไปหน่อย   ฮา ฮา ฮา

ขุนอินก็จริง แต่อินแค่กระพี้ ถ้าอินถึงแก่นต้องบอกว่า "เร็วซิท่าน ผู้น้อยรออ่านอยู่" 555 เอิ๊กกกก emo19:((: emo19:((:

เอาล่ะ แควนๆเรียกร้อง ไอ้เรา"ผู้วณิพกน้อย" ก็กินข้าว อาบน้ำ ขัดสีฉวีวรรณ แถมกรึ๊บมาอีกหนึ่งจอก บิ๊วอารมณ์มาเต็มที่ ก็มาว่ากันต่อ

ยุคโบราณสมัยนึง ตำราก็ไม่ได้บอกไว้ว่าสมัยไหนเสียด้วย มีชายคนหนึ่งแซ่สวี่ เจ้าเกลอคนนี้พูดจาฉาดฉาน คนฟังยกย่องกันอยู่ เลยนึกกำเริบ เวลาคุยกับใครล้วนไม่มีสัมมาคารวะ ดูถูกดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐเป็นประจำ ชอบใช้สรรพนามแทนตัวเองว่าอั๊วหรือหว่อ ผู้คนก็ถือว่าเป็นคนที่แปลกมาก อยู่ๆกล้าใช้สรรพนามแทนตัวเองโต้งๆแบบนี้ เลยตั้งชื่อให้เชิงเสียดสีและล้อเลียนว่าสวี่หว่อ หรือจะใช้ภาษาสามก๊กก็ต้องเรียกว่าเคาอั๊ว
ตอนนั้นเจี่ยเว่ยกงเป็นอัครมหาเสนาบดีอยู่ รู้เรื่องเข้า ก็อยากเจอชายคนนี้ เลยเรียกคนให้ไปเชิญตัวมาพบ เกลอเป็นตายยังไงก็ไม่ยอมมา ในที่สุดเลยให้ลูกศิษย์ไปเชิญตัวมา ถึงจะยอมมา เจ้าเกลอขี่ลาอาดๆมาถึงจวนของเจี่ยเว่ยกง จะขี่ลาตรงดิ่งเข้าไปเลย คนเฝ้าประตูบอกว่า "นี่จวนของอัครมหาเสนาบดีนะ แม้แต่บุตรชายท่านยังต้องเดินเท้าเปล่าเข้ามาเลย " เจ้าเกลอกสวี่บอกว่า "อั๊วไม่มีอะไรที่จะมาขอร้องต่อท่านเสนาบดี ท่านเสนาบดีอยากจะพบอั๊ว เรียกอั๊วมา ถ้าต้องลงจากหลังลา อั๊วไปดีกว่า" จากนั้นก็ขี่ลากลับออกไป คนเฝ้าประตูรีบห้าม ก็ไม่ยอมหยุด ไปเฉยเลย คนเฝ้าประตูหมดปัญญา เลยไปแจ้งให้เจี่ยเว่ยกงทราบ เจี่ยเว่ยกงจึงใช้คนไปขอโทษและเชิญให้มาใหม่ ยังไงก็ไม่ยอมมา เจี่ยเว่ยกงถอนใจบอกว่า "เกลอสวี่เป็นแค่ชาวบ้านร้านตลาดแค่นั้นเอง เมื่อไม่มีอะไรจะขอร้องใคร ก็หยิ่งทนงได้ถึงขนาดนี้ อย่าว่าแต่ผู้ที่ถือว่าตัวเองมีคุณธรรมเมตตาธรรมเลย"
ไม่ว่าจะเจอใคร เกลอสวี่คนนี้ก็ใช้สรรพนามแทนตัวว่า"อั๊ว" เรื่องนี้ในสมัยนั้นสามารถสร้างความฮือฮาได้ จากอุทาหรณ์นี้พวกเราสามารถเห็นได้ว่าการเรียกตัวเองว่า"อั๊ว" เป็นเรื่องที่น่าแตกตื่นตกใจเพียงใดในสมัยนั้น และสะท้อนให้เห็นว่าการเรียกตัวเองว่า"อั๊ว" เป็นเรื่องที่หาได้ยาก และสามารถสร้างกิตติศัพย์ให้ตัวเองได้


เฮ่อ จบ เอ้า อีกกรึ๊บ


ข้าผู้น้อยสมควรตาย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 07:42:39
.....หวัดดีครับน้องจุ๊ง   cmadong discovery channel  ช่อง ที่น่าติดตามอย่างยิ่งครับ

     ขออนุญาตเอาไปให้ลูกสาว 2 เรื่องนะครับ ฉางเอ๋อ  กับ ขนมไหว้พระจันทร์  จ่อยเสี่ยๆๆ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 09:02:38
สวัสดีครับพี่ตี๋ ไม่นึกเลยว่าพี่จะมาเยี่ยมมาเยียน เรื่องราวที่ผมโพสต์ เชิญเผื่อแผ่ตามสบายนะครับ เพราะผมเองก้ไปเอาของเขามาเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 09:28:09


ตามเฮียตี๋มาสำรวจโลกกับท่าน เจิ้งเหอ ด้วยคน
ชอบจังเลย
รอเรื่องต่อไปเน้อ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 09:41:04
มาเล่าเรื่องต่อดีกว่า เรื่องที่จะเล่านี้ มิบมาจากท่านเหล่าตั๊งหรือคุณนิรันดร นาคสุริยันต์ ผู้อาวุโสแห่งมุมจีน ที่เคยโพสต์ ผมเห็นว่าให้ความรู้ดีเลยต้องให้เครดิตเขาหน่อย ท่านเหล่าตั๊งหรือคุณนิรันดร นาคสุริยันต์นี่ แกเขียนบรรยายได้ดีมากนะครับ แต่งหนังสือ "เรื่องเล่าชาวแต้จิ๋ว" "ลูกหลานชาวแต้จิ๋ว" และ"นั่งรถไฟไปลาซา" ผมได้รับหนังสือจากแกมา อ่านแล้วได้ความรู้ดีมาก โดยเฉพาะหนังสือ "นั่งรถไฟไปลาซา" พิมพ์โดยศูนย์หนังสือจุฬา อ่านแล้วเหมือนได้ไปเที่ยวทิเบตด้วยตนเองเลย ได้ของฟรีมาเยอะแล้ว ขอโฆษณาให้เพื่อนหน่อย(ลืมนึกไป มัวแต่ยั่วน้ำลาย ใครหลงกลไปศูนย์หนังสือจุฬาอาจจะได้รับแจ้งว่าหมดก็ได้ เพราะพิมพ์ออกขายนานแล้ว และบรรดาชาวมุมจีนช่วงนั้นเรียกร้องกันมาก) เอาล่ะ งานขายของผ่านไปแล้ว มาเข้าเรื่องกันเลย  
อ้อ ผมจะคงภาษาจีนดั้งเดิมอยู่ เผื่อคนที่ศึกษาภาษาจีนจะได้เปรียบเทียบไปด้วยในตัว อาจจะเกะกะสายตาไปบ้าง คงไม่ว่ากัน

ศาสนาเต๋า หลักเมตตาธรรมของขงจื๊อ และพุทธศาสนาแบบจีน

ก๊กผู้ห้าวหาญ หรือก๊กผู้กล้าหาญทั้งเจ็ด 七雄 สู้กันไปสู้กันมา ในที่สุด ก๊กฉิน 秦国 ก็สยบทุกก๊กได้สำเร็จ ในปีก่อน ค.ศ.221 (221B.C.) แผ่นดินจีนก็เป็นปึกแผ่น ฉินหวางเจิ้ง 秦王政 จึงสถาปนาตนเองเป็น “ฮ่องเต้” 皇帝 พระองค์แรกของแผ่นดินจีน ทรงพระนามว่า “ฉินสื่อหวงตี้” 秦始皇帝 รวมอำนาจการบริหารมาไว้ที่ส่วนกลาง แบ่งอาณาเขตซึ่งเดิมเป็นแว่นแคว้นต่างๆ ออกเป็นจวิ้น 郡 ถึง 36 จวิ้น ต่อมายังได้ประกาศมาตรฐาน ISO ให้ใช้ภาษาเขียนเป็นแบบเดียวกัน ใครจะพูดแต้จิ๋ว ไหหลำ กวางตุ้ง ภาษาแคะหรือภาษากลางไม่ว่ากัน แต่หนังสือเขียน ต้องเป็นแบบมาตรฐานของฉิน โดยเสนาบดีหลี่ซือ 李斯 ได้พัฒนาอักษรจีนแบบหนึ่ง เรียกว่า “เสี่ยวจ้วน” 小篆 ขึ้นใช้ทั่วราชอาณาจักร พร้อมทั้งกำหนดให้มาตรา ชั่ง ตวง วัด และเพลาของรถม้า รถลากจูง ให้มีขนาดเดียวกัน อีกทั้งเงินตรา ซึ่งเป็นสื่อในการซื้อขายแลกเปลี่ยน ก็ให้เป็นแบบเดียวกันด้วย

แต่เรื่องของคติความเชื่อ หรือเรื่องศาสนานั้น ก็ยังตั้งไข่อยู่เลยครับ ยังเป็นแบบเดิมๆ อยู่ เพียงแต่เอาแนวคิดและหลักปฏิบัติที่เด่นๆ ของสำนักทั้งหลายมายำใหญ่ เพื่อเป็นหลักปรัชญาในการปริหารบ้านเมืองและการทำพิธีบวงสรวงขอบคุณเทพเจ้า โดยในสมัยราชวงศ์ฉิน 秦 ได้ใช้หลักธรรมราชาของหวงตี้ 黄帝(จักรพรรดิเหลือง คนละคำกับคำว่าหวงตี้หรือฮ่องเต้ที่แปลว่าจักรพรรดิ) บวกกับปรัชญาของเล่าจื๊อ 道家 ผสมกับอินหยางเจีย 阴阳家 และฝ่าเจีย 法家 รวมกันเรียกว่า “หวงเหล่าซือเสี่ยง” 黄老思想 นั่นหมายถึงยึดหวงตี้และเล่าจื๊อเป็นหลักใหญ่

แต่คติความเชื่อเรื่องเทพเจ้า หรือเทวดาฟ้าดิน ยังเป็นแบบเดิมๆ เลยครับ คือยังนับถือบูชาเทพธรรมชาติ 自然崇拜 บูชาเทพยดาที่เกิดจากจินตนาการ 神灵崇拜 และบูชาผีบรรพบุรุษ 祖先崇拜

ปีก่อนค.ศ. 219 (219 B.C.) ฉินสื่อหวงตี้ 秦始皇帝 เสด็จพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาไท่ซาน 泰山 (ปัจจุบันอยู่ ณ เมืองไท่อัน มณฑลซานตง) ซึ่งเขาไท่ซานนี้ เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่กษัตริย์ของจีนองค์ก่อนๆ เคยเสด็จมาสักการเป็นประจำ ทุกวันนี้ บนเขาไท่ซาน ยังมีอักษรจีนสลักอยู่บนแผ่นหินจำนวนมาก ต่างยุคต่างสมัย มีอยู่ชิ้นหนึ่ง มีอักษรอยู่เก้าคำครึ่ง เชื่อกันว่าเป็นลายมือสลัก 石刻 ของเสนาบดีหลี่ซือ 李斯 ในสมัยราชวงศ์ฉิน

หมายเหตุ :ไท่ซาน 泰山 คือบรรพตตะวันออก 东岳 หนึ่งในห้ามหาบรรพตของจีน
(โปรดติดตามต่อตื่นเต้นต่อไป อิอิ)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 09:50:03
แนวความคิดแบบหวงเหล่า 黄老思想 ของราชวงศ์ฉิน 秦 ถูกส่งต่อมาถึงราชวงศ์ฮั่น 汉 กษัตริย์ราชวงศ์ฮั่นยุคต้น โดยเฉพาะสมัยฮั่นเหวินตี้ 汉文帝 และฮั่นจิ่งตี้ 汉景帝 หลักปรัชญาของสำนักเต้าเจีย ก็ยังเป็นกระแสหลักในการบริหารประเทศ แต่พอมาถึงกษัตริย์องค์ที่ 5 ทรงพระนามว่าฮั่นอู่ตี้ 汉武帝 (ครองราชย์ระหว่าง ก่อน ค.ศ. 141 ถึง ก่อน ค.ศ. 87) พระองค์ทรงเห็นด้วยกับแนวคิดของอำมาตย์ผู้ใหญ่ชื่อ ต่งจ้งซู 董仲舒 ให้ใช้แนวคิดของสำนักขงจื๊อ 儒家 ในการบริหารปกครองบ้านเมือง ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า ท่านอาจารย์ขงจื๊อ 孔子 ก็ถูกยกย่องจนกลายเป็นเทพไปในทันที ศาสนาขงจื๊อ 儒教 และศาสนาเต๋า 道教 ก็ค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น เพราะมีภาพขององค์ศาสดาและคัมภีร์คำสั่งสอนที่เด่นชัดขึ้น หลังจากใช้เวลาสั่งสมหมักบ่มมาเป็นเวลานาน

ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย ก็คือนักพรตที่มีชื่อว่าจางหลิง หรือจางเต้าหลิง 张道陵 ในสมัยฮั่นยุคหลัง 后汉 (มีชีวิตอยู่ระหว่าง ค.ศ.34-156) ซึ่งนักประวัติศาสตร์จีน ยอมรับพร้อมกัน ให้เป็นผู้ก่อตั้งศาสนาแห่งเต๋า 道教

ในสมัยนั้น ท่านได้ตั้งระเบียบง่ายๆ ว่า หากใครต้องการเป็นสานุศิษย์ ก็ต้องยกครูด้วยข้าว 5 โต่ว (ระบบตวงของจีนสมัยก่อน) เลยเรียกลัทธิของท่านว่า “อู่โต่วหมี่เต้า” 五斗米道  ความจริงในสมัยใกล้เคียงกัน ก็มีนักปฏิวัติ นักพรตนักบวชหลายท่าน ที่ก่อตั้งคติความเชื่อแบบเต๋า เพื่อเหตุผลบางอย่าง ตัวอย่างเช่นจางเจี่ยว(เตียวก๊ก) 张角 หัวหน้าผู้ก่อการโจรโพกผ้าเหลือง บทนำของเรื่องสามก๊ก ก็เป็นผู้หนึ่งที่อ้างตนเป็นผู้วิเศษ และเรียกลัทธิของตนว่า “ไท่ผิงเต้า” 太平道 แต่เนื่องจากโจรโพกผ้าเหลืองก่อการไม่สำเร็จ เลยไม่ได้รับการจัดอันดับ

อย่างไรก็ตาม หลังจากจางเต้าหลิงแล้ว ศาสนาเต๋าก็มีองค์ศาสดา มีเทพเจ้าเป็นชั้นเป็นระดับต่างๆ อีกทั้งยังยอมให้เทพยดาและภูติผีปีศาจที่ชาวบ้านนับถือ เข้าเช็คอินอยู่ภายใต้ศาสนาเต๋าที่ก่อตัวขึ้นใหม่ ทำให้ศาสนาเต๋ามีเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์นับจำนวนไม่ถ้วน อีกทั้งศาสนาเต๋ารูปแบบใหม่นี้ ยังดูดซับเอาจุดเด่นของสำนักขงจื๊อ จนภายหลัง ลัทธิบูชาขงจื๊อ ไม่อาจยืนอยู่ในฐานะศาสนาอีกต่อไป

ศาสนาพุทธ เริ่มเข้าสู่เมืองจีนในสมัยฮั่นยุคหลัง แต่กว่าจะรุ่งเรื่องเป็นที่รู้จัก ก็ต้องใช้เวลาหลายร้อยปี ถึงยุคเว่ยจิ้น 魏晋 ต่อด้วยราชวงศ์เหนือใต้ 南北朝

ศาสนาพุทธแบบจีน มักเรียกองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าพระศากยมุนี หรือสื้อเจียโหมวหนี 释迦牟尼 เรียกย่อๆ ว่า “สื้อ” 释 แต่ถ้าเป็นลัทธิขงจื๊อ เรียกว่า “หยู” 儒 ย่อมาจากหยูเจีย 儒家 ส่วนคติความเชื่อแบบเต๋า ใช้คำว่า “เต้า” 道 ฉะนั้น หากชาวจีนพูดถึง “หยูสื้อเต้า” 儒释道 ก็จะหมายถึง 3 ศาสน์ 三教 ที่ซึ่งคนจีนนับถือแบบรวมๆ เพราะมีการดูดซับหลอมรวมเข้าหากันมาเป็นเวลาช้านาน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 09:54:24
จอมเทพเง็กเซียนฮ่องเต้และเทพเจ้ากวนอู ล้วนเป็นเทพเจ้าตามคติความเชื่อแบบเต๋า ซึ่งถือเป็นลัทธิ หรือศาสนาของชนชาวจีนโดยแท้ และคนไทยเชื้อสายจีน หรือลูกหลานคนจีนในเมืองไทย ได้รับตกทอดมาเป็นอย่างมรดกทางวัฒนธรรม

การรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมของบรรพบุรุษ การจรรโลงขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของปู่ย่าตายาย เป็นสิ่งที่น่าเคารพนับถือ แต่ในขณะที่โลกหมุนไปทุกขณะจิต การรับมรดกทางวัฒนธรรมมาแบบส่งต่อเป็นทอดๆ โดยไม่ทำความเข้าใจ หรือรับเอาความเชื่อมาอย่างงมงายไร้สาระ ก็ย่อมจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

คติความเชื่อแบบเต๋านั้น ผ่านการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปมานับครั้งไม่ถ้วน เล่าจื๊อ(เหลาจื่อ) ผู้ถูกยกให้เป็นองค์ศาสดาของคติความเชื่อแบบเต๋า เป็นผู้ยึดมั่นในความเรียบง่ายแบบเป็นธรรมชาติ แต่เมื่อกาลผ่านไปเป็นร้อยเป็นพันปี ลัทธิเต๋ากลับกลายเป็นลัทธิที่มีพิธีกรรมสลับซับซ้อนอย่างที่สุด ทั้งนี้ยังไม่ต้องพูดถึงศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุ เคล็ดลับการปรุงยาอายุวัฒนะ การเขียนยันตร์และประพรมน้ำมนต์ การสำเร็จการบำเพ็ญเต๋าจนสามารถล่องลอยไปสู่สวรรค์ ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่ไม่เหมาะกับยุคสมัยในปัจจุบัน

ส่วนเทพสักการบูชานั้น ก็มีการจัดชั้น จัดหมวดหมู่กันอย่างโอฬาร ครอบคลุมตั้งแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวลในบรรพกาล ผีสางนางไม้ ผีวีรบุรุษในประวัติศาสตร์ อีกทั้งเทพในตำนานอีกนับจำนวนไม่ถ้วน ผู้มีสติและมีความรู้ในปัจจุบัน แม้อยากจะรักษาประเพณีเก่าแก่ของบรรพบุรุษ ก็ควรจะทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ ว่าอะไรควรรักษาไว้ และอะไรควรตัดทอนออกไป

ในลัทธิเต๋านั้น เมื่อมีการจัดชั้นจัดระเบียบแล้ว ก็กำหนดให้มีมหาเทพสูงสุดที่เรียกว่าซานชิง 三清 ซานชิงมีสามรูปคือ เหวียนสื่อเทียนจุน 元始天尊 หลิงเป่าเทียนจุน 灵宝天尊 และเต้าเต๋อเทียนจุน 道德天尊 แต่แม้จะมีสามรูป  ก็เหมือนมีร่างเดียว ซานชิง 三清 จึงมีนิรมานกายออกมาเป็นอวี้หวงซ่างตี้ 玉皇上帝 หรืออวี้หวงต้าตี้ 玉皇大帝 หากเป็นจีนแต้จิ๋ว ก็ต้องออกเสียงว่า “เหง็กฮ้วงเสี่ยงตี่” หรือ “เหง็กฮ้วงไต่ตี่”  ผมเองก็เดาไม่ถูกว่า เหตุใดจึงได้เพี้ยนไปเป็น “เง็กเซียนฮ่องเต้” ในภาษาไทย ทั้งๆ ที่คำว่า “หวง” 皇 กับ “ตี้” 帝 ไม่ได้เขียนติดกันเป็นหวงตี้ จะได้แปลเป็นฮ่องเต้



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 10:04:28
ความรู้เรื่องคติความเชื่อและศาสนาของมวลมนุษย์ กว้างใหญ่ไพศาลดั่งมหาสมุทร เหล่าตั๊งเปรียบเหมือนมดตัวน้อยนิด อาจหาญกระโดดลงไปในทะเลกว้าง พยายามอธิบายความด้วยอาการตะเกียกตะกาย เกือบหาฝั่งขึ้นไม่ได้ หากเห็นผมในสภาพเปียกปอน ผมเผ้าเปียกแฉะไม่เป็นทรง ขอเพื่อนๆ โปรดได้เข้าใจ

ที่ผมใช้เวลาอธิบายมาตั้งแต่กระทู้ก่อน ก็เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถแยกแยะได้ว่า อะไรเป็นคติขงจื๊อ 儒 อะไรเป็นพุทธ 释  อะไรเป็นเต๋า 道 เช่นพระแม่กวนอิม หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม 观音菩萨 ก็ต้องเข้าใจไว้ก่อนว่าเป็นคติความเชื่อแบบพุทธ แต่เป็นพุทธแบบมหายาน 大乘佛教 หรือ โพธิสัตว์ยาน

แต่ถ้ามีรูปเคารพที่เป็นเพศชาย มีมงกุฎแบบมีพู่ห้อยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ลักษณะเหมือนฮ่องเต้ของจีนในสมัยโบราณ ก็น่าจะเป็นองค์อวี้หวงซ่างตี้ 玉皇上帝 หรืออวี้หวงต้าตี้ 玉皇大帝 ซึ่งเป็นเทพเบื้องสูงของทางเต๋า 道教 หากเพื่อนๆ เรียนรู้ภาษาจีน เพื่อนๆ ก็จะได้เปรียบ เพราะสามารถอ่านทำความเข้าใจได้ว่าเป็นเทพองค์ใด และยังสามารถถามไถ่คนดูแลสถานที่ ว่าเหตุใดจึงเคารพบูชาเทพองค์นี้ในสถานที่นี้ เพราะวัดหลายๆ แห่งของจีน ไม่ได้แยกเต๋าแยกพุทธอย่างเด่นชัด

ตัวอย่างเช่นวัดเล่งเน่ยยี่ 龙莲寺 ในกรุงเทพฯ เป็นวัดพุทธมหายาน นิกายฉาน 禅宗 โดยนอกจากจะมีพระพุทธเป็นพระประธาน 3 องค์ในพระอุโบสถใหญ่แล้ว ยังมีรูปเคารพของท่านฮุ่ยเหนิง 慧能 หรือชาวแต้จิ๋วเรียก “หลักโจ้ว” 六祖 แปลว่าปรมาจารย์คนที่ 6 เนื่องจากนิกายฉาน 禅宗 ถือว่าสังฆปริณายกองค์ที่ 1 คือปรมาจารย์ตักม้อ 达摩祖师 เป็นผู้เน้นเรื่องการนั่งสมาธิ(เข้าฌาน) ฌาน ภาษาจีนเลียนเสียงว่าฉาน 禅 พอไปถึงญี่ปุ่น เรียกว่านิกาย “เซ็น”

แต่ในวัดเล่งเน่ยยี่ ก็มีรูปเคารพของขงจื๊อ 孔子 ที่ชาวแต้จิ๋วพากันไปกราบไว้ เพื่อให้ลูกหลานเรียนหนังสือเก่งๆ เพราะท่านขงจื๊อเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ของชาวจีน การกราบไหว้บูชารูปขงจื๊อนั้น ถือว่าได้กลายสภาพจาก “หยู” 儒 เป็นส่วนหนึ่งของเต้าเจี้ยว 道教 แล้ว



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 11:02:00
เมิ่งจื่อ ชื่อเคอ 轲 ชื่อรองเหนี่ยน 碾〈輿〉 เกิดหลังจากขงจื๊อตายแล้วเกือบร้อยปี เมิ่งจื่อเป็นศิษย์ของจื่อซือ 子思 จื่อซือเป็นลูกของขงหลี่ 孔鲤 ส่วนขงหลี่เป็นลูกของขงจื๊ออีกที เท่ากับว่าจื่อซือเป็นหลานแท้ๆ ของขงจื๊อ แต่เนื่องจากขงหลี่ 孔鲤 ตายตั้งแต่ยังหนุ่ม จึงไม่มีบทบาทสอนสั่งจื่อซือ อาจารย์ของจื่อซือมีชื่อว่าเจิงเซิน 曾参 เจิงเซินเป็นลูกศิษย์ชั้นแนวหน้าของขงจื๊อ เน้นเรื่องเมตตาธรรมค้ำจุนโลก(เหยิน 仁) จื่อซือเลยรับน้ำเลี้ยงแห่งการมีเมตตาไว้เต็มๆ (ขอโทษ..น้ำเลี้ยงไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้ายไปทั้งหมด)

เมิ่งจื่อ 孟子 ก็รับน้ำเลี้ยงแห่งเมตตาธรรมมาจากจื่อซือ 子思 อีกต่อหนึ่ง แต่เมิ่งจื่อมีความเป็นอัจฉริยะ สามารถขยายความปรัชญาของอาจารย์ และอาจารย์ของอาจารย์ได้ลุ่มลึก คำสอนของขงจื๊อที่เข้าใจยาก เมิ่งจื่อสามารถร่ายเป็นอรรถกถาได้อย่างละเอียดลออ โดยเฉพาะเรื่องเหยินเซี่ยว 仁孝  นั่นคือเรื่องเมตตาธรรมและกตัญญูกตเวทิตา แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เมิ่งจื่อเกิดในยุคจ้านกั๋ว ยุคที่ก๊กต่างๆ จ้องจะเขมือบซึ่งกันและกัน นโยบายเมตตาธรรมและคุณธรรมนำการเมือง เลยไม่มีใครอยากเล่น เอาแต่จะเล่นหนังแอ็คชั่นช็อคโกแล็ต

เมิ่งจื่อเดินสายประชาสัมพันธ์แนวความคิด เรื่องการใช้เมตตาธรรมในการปกครอง ให้กับเจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆ ใช้ข้อความว่า 以仁政到各国去讲学 แต่มีหนังสือไทยเล่มนึง แปลว่าเมิ่งจื่อเร่ร่อนไปตามแคว้นต่างๆ ... ซึ่งเป็นคำที่ไม่เหมาะสม

สรุปก็คือว่าสิ่งที่เมิ่งจื่อพยายามขายความคิดให้กับเจ้าผู้ครองนครต่างๆ เท่ากับสีซอให้ควายฟัง เพราะผลประโยชน์ขัดกัน ยุคไหนๆ ก็เหมือนกันแหละพี่น้อง... สาบานให้ฟ้าผ่าก็ไม่กลัว  บาปกรรมถ้ามีขอไปใช้เอาโลกหน้า คุณงามความดีรอคุยชาติหน้าตอนบ่ายๆ ตอนนี้เอาเรื่องเปิดบ่อนเสรีมาคุยกันก่อน

เมิ่งจื่อยังได้ชื่อว่าเป็นบุคคลแรกในประวัติศาสตร์จีน ที่พูดถึงการปกครองแบบประชาธิปไตย 民主政治 โดยมีแนวคิดว่า 民为贵 君为轻 แปลว่าประชาชนต้องมาก่อน...(เหมือนของใครหว่า)

นอกจากเหยิน 仁 หรือเมตตาธรรมแล้ว เมิ่งจื่อยังเน้นเรื่องอี้ 义 ที่หมายถึงคุณธรรม หรือหลักทำนองคลองธรรม เมื่อเมิ่งจื่อตายลง ศิษย์ของเขาได้เรียบเรียงคำสอนของเมิ่งจื่อออกได้ 7 บท เรียกชื่อว่า “เมิ่งจื่อ” 孟子 ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือทรงคุณค่า 4 เล่มของประวัติศาสตร์วัฒนธรรมจีน 四书

ต้องถือว่าเมิ่งจื่อ เป็นอรรถกถาจารย์ของสำนักขงจื๊อ เป็นผู้ทำให้ปรัชญาของขงจื๊อเบ่งบาน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 11:10:41
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 09 ตุลาคม 2553, 09:28:09


ตามเฮียตี๋มาสำรวจโลกกับท่าน เจิ้งเหอ ด้วยคน
ชอบจังเลย
รอเรื่องต่อไปเน้อ

พูดถึงเรื่องเจิ้งเหอ ทำให้ผมนึกถึงบทเรียนในแบบเรียนเริ่มต้นภาษาจีนสมัยเด็ก ชื่อบทเรียนก็ "ขันทีซานเป่านิราศตะวันตก" เฮ่อ นับเวลาก็ร่วม30กว่า40ปีมาแล้ว ท่าทางเราจะแก่ นึกถึงแต่เรื่องเก่าๆ

อ้อ ผมไม่รู้ว่าเอาเรื่องหนักสมองมาคุยหรือเปล่า พี่น้องบางท่านอาจจะรู้สึกว่าเครียด ถ้าอย่างนั้นผมจะได้เอาเกร้ดเล็กเกร็ดน้อย แบบกูมึง อั๊วลื้อ อย่างที่แล้วมามาคุย จะเอาแบบเจ้าแจ๊ะเพื่อเต๊าะตำแหน่งเลื่อนเป็นอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลเซียนอะไรแบบครูถ้วย เอ้ย ครูตุ๋ย โทษที ผมทำไม่เป็น อิอิ emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 18:45:39
พอคุยถึงเรื่องหนังสือ "นั่งรถไฟไปลาซา" ก็นึกถึงเพลงหนึ่งที่แต่งขึ้นสำหรับทางรถไฟสายธิเบตที่เริ่มเปิดใช้เมื่อไม่นานนี้เอง แต่งและร้องโดยหานหง นักร้องร่างท้วม ยอดนิยมอันดับต้นๆของจีน แต่ผมคิดว่าคงมาหากินเมืองไทยไม่ได้ เพราะคนไทยชอบที่รูปร่างหน้าตา คุณภาพฉันไม่สน พอดีมีเนื้อเพลง และคำแปลไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เลยหยิบคว้ามาโปะพร้อมกับรูปถ่ายทางรถไฟสายหลังคาโลก

บทเพลงเส้นทางสวรรค์ -  天路  -  歌手:韩红


清晨我站在青青的牧场
看到神鹰披着那霞光
象一片祥云飞过蓝天
为藏家儿女带来吉祥

ยามรุ่งอรุณฉันยืนอยู่บนทุ่งหญ้าเลี้ยงปศุสัตว์อันเขียวขจี
มองเห็นพญานกอินทรีย์สยายปีกกลางแสงหมู่เมฆสีส้มแดง
ราวกับเมฆแห่งความสิริมงคลล่องลอยบนท้องฟ้าสีคราม
เพื่อนำพาความโชคดีมีชัยมาสู่ลูกหลานชาวธิเบต

 黄昏我站在高高的山岗
 看那铁路修到我家乡
一条条巨龙翻山越岭
 为雪域高原送来安康

ยามพลบค่ำฉันยืนอยู่บนเนินเขาสูงลิบลิ่ว
มองเห็นทางรถไฟที่สร้างมาถึงบ้านเกิดของฉัน
ราวกับมังกรตัวมหึมาทอดข้ามยอดภูผานานา
เพื่อนำพาความสมบูรณ์พูนสุขมาสู่ที่ราบสูงอันปกคลุมด้วยหิมะ

那是一条神奇的天路
把人间的温暖送到边疆
从此山不再高路不再漫长
各族儿女欢聚一堂

นั่นคือเส้นทางสวรรค์อันมหัศจรรย์ยิ่ง
พาความอบอุ่นของชาวโลกมามอบแด่ดินแดนชายขอบ
นับแต่นี้ ภูผาไม่นับว่าสูงเกิน หนทางไม่นับว่ายาวไกล
ลูกหลานของทุกชนชาติต่างอยู่ร่วมสันติสุขภายใต้หลังคาเดียวกัน

黄昏我站在高高的山岗
看那铁路修到我家乡
一条条巨龙翻山越岭
为雪域高原送来安康

ยามพลบค่ำฉันยืนอยู่บนเนินเขาสูงลิบลิ่ว
มองเห็นทางรถไฟที่สร้างมาถึงบ้านเกิดของฉัน
ราวกับมังกรตัวมหึมาทอดข้ามยอดภูผานานา
เพื่อนำพาความสมบูรณ์พูนสุขมาสู่ที่ราบสูงอันปกคลุมด้วยหิมะ

那是一条神奇的天路
带我们走进人间天堂
青稞酒酥油茶会更加香甜
幸福的歌声传遍四方

นั่นคือเส้นทางสวรรค์อันมหัศจรรย์ยิ่ง
นำพาพวกเราให้มารู้จักกับดินแดนแห่งสวรรค์บนดิน
งานเลี้ยงน้ำชาขนมหวานเหล้าจากข้าวบาร์เลย์หอมหวานยิ่งนัก
เสียงเพลงแห่งความสุขหรรษากังวาลไปทั่วทุกสารทิศ


(http://img221.imageshack.us/img221/9674/lasa.jpg)

http://www.youtube.com/v/xwst9gQ9Xgw?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 09 ตุลาคม 2553, 18:53:02
เวลาที่เจอกันตัวเป็น ๆ ไม่เห็นพี่จุ๊งคุยเป็นสาระอย่างนี้เลยอ่ะ .. เอาแต่จะปีนโต๊ะท่าเดียว    emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 19:06:04
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 09 ตุลาคม 2553, 18:53:02
เวลาที่เจอกันตัวเป็น ๆ ไม่เห็นพี่จุ๊งคุยเป็นสาระอย่างนี้เลยอ่ะ .. เอาแต่จะปีนโต๊ะท่าเดียว    emo20:)):)

โทษที เวลาพี่เจอรุ่นพี่รุ่นน้อง มันขวยเคิน เอ้ย เขินน่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 09 ตุลาคม 2553, 19:08:13
 emo20:)):)   emo20:)):)   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 ตุลาคม 2553, 19:12:55

สวัสดีครับ....ท่านจุ๊ง..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน



เพลงเส้นทางสวรรค์

เป็นเพลงที่สมบูรณ์ สวยงามทั้งคำร้อง,ทำนอง และน้ำเสียง

และเป็นเพลงหนึ่งที่ถูกใช้เพื่อ........ Free Tibet.



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 19:25:31
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 ตุลาคม 2553, 19:12:55

สวัสดีครับ....ท่านจุ๊ง..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน



เพลงเส้นทางสวรรค์

เป็นเพลงที่สมบูรณ์ สวยงามทั้งคำร้อง,ทำนอง และน้ำเสียง

และเป็นเพลงหนึ่งที่ถูกใช้เพื่อ........ Free Tibet.



ถ้าทิเบตถูกฟรี ตายซิครับทั่น ตายหยังเขียด เพราะทรัพยากร คมนาคม ไม่อำนวยเลย ใครที่อยากฟรี คิดเพื่อความสะใจของบางหมู่พวก และที่สำคัญอเมริกาเพื่อนรักตัวดี อยากให้ฟรีทิเบตใจแทบขาด จะได้ตัดแขนตัดขาจีนเหมือนที่สหภาพโซเวียตเคยเจอ เรียกว่าประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แค่นั้นสหรัฐก็เป็นพี่เบิ้มแต่ผู้เดียวแหละเพื่อนเอ๋ย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 09 ตุลาคม 2553, 19:29:08
เขาอาจจะอยากอยู่แบบนั้นก็ได้นะคะ พี่จุ๊ง      emo47


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 19:29:58
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 ตุลาคม 2553, 19:12:55

สวัสดีครับ....ท่านจุ๊ง..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน



เพลงเส้นทางสวรรค์

เป็นเพลงที่สมบูรณ์ สวยงามทั้งคำร้อง,ทำนอง และน้ำเสียง

และเป็นเพลงหนึ่งที่ถูกใช้เพื่อ........ Free Tibet.



เพลงนี้ มีความเกี่ยวข้องกับเพลง เส้นทางสายไหม (silk road) หรือเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 21:30:46
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 09 ตุลาคม 2553, 19:29:58

เพลงนี้ มีความเกี่ยวข้องกับเพลง เส้นทางสายไหม (silk road) หรือเปล่าครับ

เพลงนี้ คนละเรื่องเดียวกันกับเส้นทางสายไหม เรื่องเส้นทางสายไหม เดี๋ยววันหลังจะขุดขึ้นมาโปะ วันนี้ติดอารมณ์เพลง เลยขอเป็นดีเจซักวัน เสนอเพลงอีกเพลงหนึ่งซึ่งเป็นเพลงแห่งความหวัง ขอบอกไว้ก่อนว่าทุกวันนี้ผมไม่อ่านข่าวไทยเลย เพราะดูแล้วมีแต่ความหดหู่ ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยอารมณ์แจ่มใส ดูข่าวมีแต่ข่าวดาราแสดงบทนอกจอ ระเบิดรายวัน บรรดาเสื้อต่างๆด่ากันไปด่ากันมา เลยขอปิดหน้าต่างโลกห่วยๆในประเทศ ดูข่าวจีน มีแต่ข่าวที่สร้างความสุข เดี๋ยวก็จัดโอลิมปิค เดี๋ยวก็จัดเอกซโป นี่ก็ดาวเที่ยมสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อนัมเบอร์ทูทะยานขึ้นไปอีกแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะจัดเอเชี่ยนเกมส์ ดูข่าวจีนแล้ว ผมในฐานะศิษย์เก่าจีนมีความสุขมากกว่า เอาล่ะ เข้าเรื่องซะที เพลงนี้เป็นเพลงประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งของจีน

ในปีคศ. 1979 เติ้งเสี่ยวผิง ได้เสนอนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจแล้วชี้นิ้วลงที่เมืองเซินเจิ้นในแผนที่     แล้วกล่าวว่าเขตนี้ต้องพัฒนา    หลังจากนั้นเขตนี้ก็มีตึกรามบ้านช่องอาคารสูงใหญ่เกิดขึ้นราวกับปฏิหารย์     นี่คือก้าวแรกของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ     และติดตามก้าวต่อๆมาอย่างไม่หยุดยั้ง     ในปีคศ. 1992 เติ้งเสี่ยวผิง เดินทางลงใต้ได้แสดงทัศนะว่า     สังคมนิยมไม่ใช่ความยากจนโดยเสมอภาค     การพัฒนาตลาดไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างสังคมนิยมกับทุนนิยม     ถือเป็นการปลดปล่อยสังคมนิยมขจัดความทุกข์ยากที่พันธนาการสังคมนิยมจีนมาช้านาน      ทำให้ประเทศจีนเริ่มพัฒนาพลังทางการผลิต   เปิดประตูสู่โลกภายนอก      เพื่อบรรลุเป้าหมายสังคมนิยมที่พัฒนา     ขยายตลาดสู่โลกกว้าง    ทำให้ประชาชนจีนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น      เพลงนี้จึงแต่งขึ้นเพื่อสรรเสริญคุณความดีของเติ้งเสี่ยวผิง      ผมเคยได้ยินคนจีนพูดกันว่า เหมาเจ๋อตง เป็นผู้ปลดปล่อยทางการเมือง     แต่เติ้งเสี่ยวผิงเป็นผู้ปลดปล่อยทางเศรษฐกิจ    ไม่มีคนจีนคนไหนไม่รู้จักที่มาของเพลงนี้

春天 的 故事 歌手 : 董 文 华
เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ    :Dong Wen Hua

女 .. 春天 的 故事          男 .. 春天 的 故事
ญ    เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ    ช.    เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ

女 .. 春天 的 故事            男 .. 春天 的 故事
ญ    เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ   ช.    เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ

女 .. 难忘 的 春天 男 .. 啊 …. 啊 …
ญ     ฤดูใบไม้ผลิที่ยากจะลืม    ช  อา.......อา.......

女 .. 春天 的 故事 男 .. 啊 …
ญ    เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ    ช.  อา...........  

女 独 .. 一 九 七 九 年 那 是 一 个 春天
ญ      ในปี 1979 นั่นเป็นวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ

有 一 位 老人 在 中国 的 南 海 边 画 了 一 个 圈
มีผู้เฒ่าท่านหนึ่งได้กำหนดเขตบริเวณหนึ่ง ณ ชายฝั่งทะเลด้านใต้ของประเทศจีน

神话 般 地 崛起 座 座 城
จากนั้นเมืองใหม่หลายเมืองได้ผุดขึ้นมาราวกับเป็นเรื่องเทพนิยาย

奇迹 般 地 聚 起 座 座 金 山
อาคารสูงใหญ่จำนวนมากเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

春 雷 啊 唤醒 了 长城 内 外
ดุจดั่งอสนีบาตในฤดูใบไม้ผลิทำให้ผู้คนทั้งในและนอกกำแพงใหญ่ตื่นตัว

春 晖 啊 暖 透 了 大 江 两 岸
ประกายแห่งความหวังสร้างความอบอุ่นมีชีวิตชีวาไปทั้งสองฝั่งแม่น้ำใหญ่

啊 .. 中国 .. 啊 .. 中 … 国
อา ....ประเทศจีน   อา....ประเทศจีน

你 迈 开 了 气 壮 山 河 的 新 步伐
คุณได้เยื้องย่างก้าวใหม่ด้วยจังหวะที่เปี่ยมไปด้วยพลัง

你 迈 开 了 气 壮 山 河 的 新 步伐
คุณได้เยื้องย่างก้าวใหม่ด้วยจังหวะที่เปี่ยมไปด้วยพลัง

走 进 万象 更新 的 春天
ก้าวเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงนานัปการในฤดูใบไม้ผลิ

一 九 九 二 年 又 是 一 个 春天
ในปี 1992 และก็เป็นอีกวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ

有 一 位 老人 在 中国 的 南 海 边 写 下 诗篇
มีผู้เฒ่าท่านหนึ่งได้ร่ายโศลกบทหนึ่ง ณ ชายฝั่งทะเลด้านใต้ของประเทศจีน


天地 间 荡 起 滚 滚 春 潮
พลันทั้งพิภพก็พลุ่งพล่านไปด้วยคลื่นความอบอุ่น

征途 上 扬 起 浩 浩 风 帆
บนเส้นทางของการต่อสู้ ได้มีผู้คนชูธงสนับสนุนอย่างมหาศาล

春风 啊 吹 绿 了 东方 神 州
ลมในฤดูใบไม้ผลิเอย ได้พัดมาทำให้เทพพิภพด้านตะวันออกเขียวขจี

春 雨 啊 滋润 了 华夏 故 园
ฝนในฤดูใบไม่ผลิเอย ให้ความชุ่มชื้นแก่ดินแดนดั้งเดิมของชนเผ่าจีน

啊 .. 中国 .. 啊 .. 中 … 国
อา........ประเทศจีน   ประเทศจีน

你 展开 了 一 幅 百年 的 新 画卷
คุณได้เปิดม้วนภาพม้วนใหม่ของหนึ่งศตวรรษข้างหน้า

你 展开 了 一 幅 百年 的 新 画卷
คุณได้เปิดม้วนภาพม้วนใหม่ของหนึ่งศตวรรษข้างหน้า

捧 出 万紫千红 的 春天
เสนอภาพหลากสีสันต์ในฤดูใบไม้ผลิ

女 .. 春天 的 故事          男 .. 春天 的 故事
ญ    เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ   ช.    เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ

女 .. 春天 的 故事            男 .. 春天 的 故事
ญ    เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ   ช.    เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ  

女 .. 难忘 的 春天                        男 .. 啊 …. 啊 …
ญ     ฤดูใบไม้ผลิที่ยากจะลืม    ช  อา.......อา.......

女 .. 春天 的 故事            男 .. 啊 …
ญ    เรื่องเล่าของฤดูใบไม้ผลิ    ช.    อา...........  


http://www.youtube.com/v/BU4dwJkebHQ?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 09 ตุลาคม 2553, 22:30:08

บรรยากาศจึนนนมากกกกก
ฟังไม่รู้เรื่อง แต่ทำนองและน้ำเสียงไพเราะทั้ง 2 เพลง
อ่านไป ฟังเพลงไป เพลินดี
เยี่ยม


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 10 ตุลาคม 2553, 06:29:32
.....หวัดดีครับ น้องจุ๊ง ติดตามอยู่ครับ 
     อ้างถึงบางข้อความ  " ดูข่าวจีน มีแต่ข่าวที่สร้างความสุข เดี๋ยวก็จัดโอลิมปิค เดี๋ยวก็จัดเอกซโป นี่ก็ดาวเที่ยมสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อนัมเบอร์ทูทะยานขึ้นไปอีกแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะจัดเอเชี่ยนเกมส์ "   ชอบมากเลยครับ  น่าอิจฉาความสุขที่หาชมได้ครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 10 ตุลาคม 2553, 09:53:56
สวัสดีครับพี่ตี๋ พี่หนุน
อีกไม่กี่วันผมจะไปคืนสู่เหย้าที่เมืองจีนแล้ว ไปเยี่ยมพี่สาวตาดำๆที่อยู่ที่นั่นซักหน่อย ตอนนี้สุขภาพแกไม่ค่อยดี อย่างว่าอายุมากแล้ว ช่วงนี้ความคิดหลายอย่างเลยผุดขึ้นมาในใจ นึกถึงตอนที่ผมไปเจอพี่สาวครั้งแรกเมื่อ7-8ปีก่อน นึกถึงสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบากสมัยโน้น ยิ่งผมได้ดูหนังซีรี่ย์จีนสมัยสงครามปลดปล่อยการรุกรานจากญี่ปุ่น สงครามภายในประเทศระหว่างเหมาเจ๋อตุงกับเจียงไคเช็ก พี่ๆรู้ไหมครับว่าความรู้สึกของผม จีนตอนนั้นมีโอกาสสิ้นชาติได้เลยถ้าเดินไม่ถูกทาง จนญี่ปุ่นแพ้สงครามและเจียงแพ้หนีไปอยู่เกาะไต้หวัน คราวนี้ก็เกิดสงครามเกาหลี จีนจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือเกาหลี เพราะจีนกับเกาหลีเปรียบเสมือนริมฝีปากกับฟัน จีนมีสุภาษิตว่า "ถ้าริมฝีปากบรรลัย ฟันก็ไม่มีอะไรมาปกป้อง" แต่จีนไม่มีอาวุธ จึงร่วมกับรัสเซียโดยจีนออกแรง รัสเซียออกตัง เอ้ย อาวุธ ตอนนั้นเหมากับสตาลินก็ตกลงด้วยสัญญาสุภาพบุรุษเป็นอย่างดีแล้วว่างานนี้ถือว่าลงทุน50-50นะ ทุกฝากเข้าใจกันเป็นอย่างดี เมื่อจีนชนะสงครามเกาหลี อเมริกาหน้าแตกกลับไป  คราวนี้สตาลินตายไป ครุสชอพขึ้นมาแทนที่ แต่ครุสชอพไม่รู้จักสัญญาสุภาพบุรุษอะไร บอกอย่างเดียวว่าเอ็งเป็นหนี้ข้า คืนตังข้ามาซะดีๆ ตอนนั้นท่านเหมายังวัยรุ่นอยู่ก็เลยฮึดขึ้นมานะซิ ลื้อหาว่าอั๊วติดหนี้แล้วเบี้ยวไม่ยอมใช้ อั๊วเองก็จนหยังเขียด ไม่มีกะตัง มีแต่ข้าว ผัก ผลไม้ อั๊วจ่ายลื้อด้วยจัตตุปัจจัยพร้อมข้าวของบริวารทั้งหลายเหล่านี้ละกัน จากนั้นก็สั่งจัดระเบียบอาหารการกิน ให้ทุกคนปลูกข้าวได้ต้องส่งให้ทางรัฐบาล แล้วรัฐบาลจะแจกบัตรคิวรับของแบ่งสันปันส่วนให้กับแต่ละครอบครัวตามปริมาณที่เหมาะสม นอกนั้นใช้หนี้รัสเซีย เรียกว่า"ชาติต้องมาก่อน" งานนี้คนอดอยากอดตายกันเพียบ หลานชายผมคนนึงก็เป็นโรคกระเพาะเรื้อรังจนต้องเกษียณตัวก่อนกำหนดมาตั้งหลักอยู่บ้าน บางครั้งครอบครัวแทบเป็นบ้าเมื่อบัตรคิวหาย ผมฟังพี่สาวเหล้า เอ้ย เล่าด้วยความรู้สึกสะเทือนใจพลางน้ำตาไหลพรากๆ นึกไม่ถึงพ่อผมอุตส่าห์ทำงานส่งเงินไปทุกเดือน ครอบครัวผมยังลำบากถึงขนาดนี้ ตอนนั้นประเทศจีน คนจีนพะงาบๆอยู่จะตายมิตายแหล่ แต่ก็รอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ แถมเดินหน้าไปด้วยก้าวที่มั่นคง เดินไปอย่างมีความหวังในปัจจุบัน ในขณะที่ไทยเรา สมัยก่อนเราถูกล้างสมองว่าจีนคอมมิวนิสต์เป็นยักษ์เป็นมารในขณะที่สหายเหมาและพวกยังนอนพะงาบๆหยอดน้ำเกลืออยู่ แล้วมาดูตอนนี้ ประเทศไทยอยู่มาเจ็ดร้อยปีแล้ว ไปถึงไหนกัน แผนพัฒนาแห่งชาติ มันพัฒนาไปถึงไหน และมันจะพัฒนาไปอีกนานเท่าไร สมัยเด็ก เคยเรียนรู้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา ตอนนี้ก็ยังกำลังพัฒนาต่อไป และคงจะยังกำลังพัฒนาต่อไปในอนาคต เห็นเหตุการณ์บ้านเมืองแล้วทำให้คิดว่าเป็นเพราะเราอยู่กันสุขสบายเกินไปหรือเปล่า ในน้ำมีปลาในนามีข้าว เราไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย เราไม่เคยเจอเหตุการณ์วิกฤติระดับใกล้สิ้นชาติเลยทำให้เราไม่เป็นผู้ใหญ่ ยังไม่โตหรือยังไง อยู่ๆเลยเดินขบวนปิดถนนเล่นซะงั้น อารมณ์ดีก็ไปเผาตึกชาวบ้านเล่น ประชาธิปไตยที่เรียกร้องกันอยู่ปาวๆ แต่ละคนเข้าใจกับมันขนาดไหน คนไทยเหมาะสมกับประชาธิปไตยเวอร์ชั่นปัจจุบันขนาดไหน เราเขียนรัฐธรรมนูญมากี่ฉบับแล้วและจะเขียนกันไปอีกกี่ฉบับถึงจะเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ในขณะที่ท่านเหมาก็บอกว่าระบบของอั๊วนี่แหละเฮ่ย คือประชาธิปไตยอย่างแท้จริง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 10 ตุลาคม 2553, 12:15:05
ใกล้คืนสู่เหย้าของผมแล้ว ทำให้นึกถึงปะป๊า เพราะชีวิตผมมีแต่ปะป๊า มะม้าเป็นยังไงไม่เคยรู้จัก เลยขอเป็นดีเจจัดเพลงคุณภาพอีกเพลงหนึ่ง พี่น้องอาจจะสงสัยว่าทำไมเจ้าจุ๊งมันเฮ้าจัดช่วงนี้ ไม่มีอะไรหรอก เก็บของเก่ามาโพสต์ทั้งนั้น แค่ copy&paste ไม่เหนื่อยอะไร เห็นกระทู้พี่หนุนจัดเพลงลูกทุ่งเก่าๆ เราเองเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเลยเอากับเขามั่ง เพลงนี้มีชื่อว่าพ่อ ร้องโดยนักร้องคุณภาพที่คิดว่ายากที่จะหาคนร้องได้คุณภาพในสไตล์เดียวกันโดยเฉพาะเมืองไทยยุคนี้ ที่เห็นพอจะสู้เขาได้ก็มีคุณลุงสันติ ลุนเผ่ ผู้ร้องเพลงความฝันอันสูงสุดและเพลงปลุกใจอีกหลายเพลงแหละ

曲 名 : 父亲  
พ่อ

歌手 : 刘 和 刚  
 Liu He Gang

想 想 你的 背影
นึกถึงภาพด้านหลังของท่าน

我 感受 了 坚韧
ฉันรับรู้ได้ถึงทรหดอดทนของท่าน

抚 摸 你的 双手
เมื่อลูบคลำสองมือของท่าน

我 摸 到 了 艰辛
ฉันคลำพบความลำบากยากเข็ญ

不知不觉 你 鬓 角 露 了 白 发
อย่างไม่รู้สึกตัว จอนของท่านเริ่มมีผมสีขาว

不 声 不 响 你 眼 角 上 添 了 皱纹
อย่างไม่มีท่าที หางตาของท่านเริ่มมีรอยย่น

我的 老 父亲
พ่อคนเดิมของฉัน

我 最 疼爱 的 人
คนที่ฉันรักและห่วงใยมากที่สุด

人间 的 甘甜 有 十分
ความสุขสดชื่นในโลกนี้มีสิบส่วน

你 只 尝 了 三 分
ท่านได้ลิ้มรสไปเพียงสามส่วนเท่านั้น

这 辈子 做 你的 儿女
ชาตินี้เกิดมาเป็นลูกของท่าน

我 没有 做 够
ฉันยังเป็นไม่พอ

央求 你 呀 下辈 子
ขออ้อนวอนขอร้องท่านว่าชีวิตในภพหน้า

还 做 我的 父亲
ขอให้ท่านยังเป็นพ่อของฉันอีก

听 听 你的 叮 瞩
ฟังคำพร่ำสั่งสอนของท่าน

我 接 过 了 自信
ฉันได้รับถ่ายทอดความเชื่อมั่นในตัวเอง

凝 望 你的 目光
เพ่งมองแววตาของท่าน

我 看到 了 爱 心
ฉันมองเห็นใจที่เปี่ยมไปด้วยความรัก

有 老 有 小 你 手 里 捧 着 孝顺
มีสัมมาคารวะ ในมือของท่านประคองไว้ด้วยความกตัญญูเชื่อฟัง

再 苦 再 累 你 脸 上 挂 着 温 馨
จะลำบาก จะเหนื่อยสักเพียงใด ใบหน้าของท่านก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น

我的 老 父亲
พ่อคนเดิมของฉัน

我 最 疼爱 的 人
คนที่ฉันรักและห่วงใยมากที่สุด

生活 的 苦涩 有 三 分
รสชาติขมขื่นในชีวิตมีสามส่วน

你 却 吃 了 十分
แต่ท่านกลับรับไว้สิบส่วน

这 辈子 做 你的 儿女
ชาตินี้เกิดมาเป็นลูกของท่าน

我 没有 做 够
ฉันยังเป็นไม่พอ

央求 你 呀 下辈 子
ขออ้อนวอนขอร้องท่านว่าชีวิตในภพหน้า

还 做 我的 父亲
ขอให้ท่านยังเป็นพ่อของฉันอีก

我的 老 父亲
พ่อคนเดิมของฉัน

我 最 疼爱 的 人
คนที่ฉันรักและห่วงใยมากที่สุด

生活 的 苦涩 有 三 分
รสชาติขมขื่นในชีวิตมีสามส่วน

你 却 吃 了 十分
แต่ท่านกลับรับไว้สิบส่วน

这 辈子 做 你的 儿女
ชาตินี้เกิดมาเป็นลูกของท่าน

我 没有 做 够
ฉันยังเป็นไม่พอ

央求 你 呀 下辈 子
ขออ้อนวอนขอร้องท่านว่าชีวิตในภพหน้า

还 做 我的 父亲
ขอให้ท่านยังเป็นพ่อของฉันอีก

我的 老 父亲
พ่อคนเดิมของฉัน




http://www.youtube.com/v/Tldz1FfgimM?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 10 ตุลาคม 2553, 19:26:50
ประโยคของพี่จุ๊ง .. พี่น้องอาจจะสงสัยว่าทำไมเจ้าจุ๊งมัน 'เฮ้า' จัดช่วงนี้ ..

คำว่า 'เฮ้า' หมายความว่าไรคะ ??
เด็ก Gen Z อย่างหยีไม่เข้าใจ ..




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 10 ตุลาคม 2553, 19:28:06
เพลงซึ้งมากค่ะ  พี่จุ๊ง ..    emo6::))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 10 ตุลาคม 2553, 21:40:12
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 10 ตุลาคม 2553, 19:26:50
ประโยคของพี่จุ๊ง .. พี่น้องอาจจะสงสัยว่าทำไมเจ้าจุ๊งมัน 'เฮ้า' จัดช่วงนี้ ..

คำว่า 'เฮ้า' หมายความว่าไรคะ ??
เด็ก Gen Z อย่างหยีไม่เข้าใจ ..




อะไรกัน หยี่เรียนจุฬาหรือเปล่าเนี่ย จำได้สมัยเรียนคำนี้ค่อนข้างฮิต แปลว่าคึก หรือขยันขันแข็ง บางทีก็เรียกเต็มยศว่าเฮ้าเลี่ยน ทั้งสองคำก็เอามาจากภาษาจีน เช่นเดียวกับคำว่าเฮี้ยนนี่ก็ภาษาจีนเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 10 ตุลาคม 2553, 22:04:09
จริงเหรอพี่จุ๊ง .. นี่หยีไม่รู้ขนาดนี้เลยหรือคะ
เป็นคนเดียวหรือเปล่าเนี่ย !!
   


emo29:P:


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 10 ตุลาคม 2553, 23:18:39

สวัสดีครับ........ท่านจุ๊ง..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน

เฮ้าเลี่ยน...... ที่สิงคโปร์ได้ยินบ่อยๆ แต่เค้าแปลว่า show off ครับ

ไปจีนเที่ยวนี้ถ่ายรูปมาเยอะๆนะ ท่านจุ๊ง.......ขอภาพตามตรอกซอกซอยมากหน่อยละกัน.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 10 ตุลาคม 2553, 23:26:18

มีภาพรูปหล่อ และสุสานของ " เจิ้งเหอ " มาฝากครับ


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la31lc-ab01a4.jpg)



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la31m1-eed24d.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 ตุลาคม 2553, 03:57:41
อูย .. หล่อจริง ๆ ด้วยล่ะ
รูปร่างสูงใหญ่ สง่างามนัก


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 07:05:43
พี่จุ๊งจะแวะมาหางโจว ด้วยหรือเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 08:09:20
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 07:05:43
พี่จุ๊งจะแวะมาหางโจว ด้วยหรือเปล่าครับ


อ้อ ขุนไปอยู่หังโจวนี่เอง โบราณว่าไว้ “เบื้องบนมีสวรรค์ เบื้องล่างมีซูหัง(ซูโจวกับหังโจว)" ขุนไม่ถ่ายรูปซีหูพร้อมกับเจดีย์ที่ครอบนางพญางูขาวมาฝากล่ะ งานนี้พี่ไปแถวกวางตุ้ง ฮกเกี้ยน คงไม่ไปไกลถึงหังโจว เป็นการไปพร้อมกับสมาคมเฉลิมมิตรของศิษย์เก่าชาวเหมยโจว แขนงหนึงของสมาคมชาวฮากกา จะไปเยี่ยมชมตึกโอบมังกร หอดินของชาวฮากกาที่เป้นมรดกโลก คงจะเก็บรูปมาฝากได้ เดี๋ยวต้องสำรวจกล้อง อาวุธประจำกายก่อนว่ายังเนี้ยบเหมือนเดิมมั้ย ไม่ได้ใช้มานาน แต่งานนี้ญาติไปด้วยกันหลายคน ยังไงก็จะเอารูปมาฝาก เผลอๆจะถ่ายเป็นภาพเคลื่อนไหว ขึ้นยูทูปให้ดู


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 08:48:44
มาคุยเรื่องศาสนาต่อ เพราะไหนๆก็ขุดมาหลายวันแล้ว ต้องโปะเสียที เป็นงานที่ง่ายที่ภาษาไทยเรียกว่า"ปอกกล้วยเข้าปาก" แต่ภาษาจีนจะเรียก"ไม่เปลืองแม้แต่แรงที่จะเป่าขี้เถ้า" หรือ "ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ" อันไหนจะเปลืองแรงมากกว่ากัน พี่น้องโปรดใช้วิจารณญาณกันดู ท่านแหลมเปี๊ยบผู้จีดการฝ่ายแสงเสียงภาพ ช่วยจัดการเรื่องรูปหน่อย

ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนมีจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน แต่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับจากชนทุกระดับชั้น ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มีอยู่ด้วยกันสองกลุ่ม  กลุ่มแรกคือกลุ่มห้ามหาบรรพตทางลัทธิเต๋า ส่วนกลุ่มที่สองคือกลุ่มของสี่ขุนเขาเรืองนามแห่งพุทธศาสนา

ห้ามหาบรรพต จีนเรียกว่า “อู่เอวี้ย” 五岳 สำเนียงแต้จิ๋วเรียกว่า “โหงวงัก” เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณกาล ตั้งแต่คนจีนยังนับถือผีสางเทวดา จ้าวป่าและจ้าวเขา ต่อมาชาวจีนมีการนับถือคติความเชื่อแบบเต๋า และสักการะเล่าจื๊อและนักพรตต่างๆ มหาบรรพตทั้งห้านี้ จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า ห้ามหาบรรพตมีรายนามดังต่อไปนี้คือ

1. บรรพตบูรพา (ทิศตะวันออก) หรือ “ตงเอวี้ย” 东岳 มีนามว่า “ไท่ซาน” 泰山 อยู่ในมณฑลซานตง สูงจากระดับน้ำทะเล 1,545 เมตร
2. บรรพตทักษิณ (ทิศใต้) หรือ “หนานเอวี้ย” 南岳 มีนามว่า “เหิงซาน” 衡山 อยู่ในมณฑลหูหนาน สูงจากระดับน้ำทะเล 1,290 เมตร
3. บรรพตปัจฉิม (ทิศตะวันตก) หรือ “ซีเอวี้ย” 西岳 มีนามว่า “ฮว่าซาน” 华山 อยู่ในมณฑลส่านซี  สูงจากระดับน้ำทะเล 1,997 เมตร
4. บรรพตอุดร (ทิศเหนือ) หรือ “เป่ยเอวี้ย” 北岳 มีนามว่า “เหิงซาน” เช่นกัน แต่เขียน 恒山 อยู่ในมณฑลซานซี สูงจากระดับน้ำทะเล 2,017 เมตร
5. บรรพตกลาง (อยู่กลางบรรพตทั้งสี่) หรือ “จงเอวี้ย” 中岳 มีนามว่า “ซงซาน” 嵩山 อยู่ในมณฑลเหอหนาน สูงจากระดับน้ำทะเล 1,494 เมตร


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 08:50:56
กลุ่มที่สองเป็นภูเขาเรืองนามของพุทธศาสนา

สี่ขุนเขาเรืองนามแห่งพุทธศาสนา จีนเรียกว่า “โฝเจี้ยวซื่อต้าหมิงซาน” 佛教四大名山 เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของพระโพธิสัตว์ทั้งสี่ ได้แก่ พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์(หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม) และพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ รายนามขุนเขาทั้งสี่แห่งมีดังนี้คือ

1. เอ๋อร์เหมยซาน 峨嵋山 หรือเขาง้อไบ๊(หง่อไบ๊)  เป็นขุนเขาทางทิศตะวันตก อยู่ที่มณฑลเสฉวน(ซื่อชวน) 四川 สูงจากระดับน้ำทะเล 3,099 เมตร เป็นที่สถิตของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ หรือผู่เสียนผูซ่า(โผวเฮี้ยงผ่อสัก) 普贤菩萨

2. อู่ไถซาน 五台山 เป็นขุนเขาทางทิศเหนือ อยู่ในมณฑลซานซี 山西 สูงจากระดับน้ำทะเล 3,058 เมตร เป็นที่สถิตของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ หรือเหวินซูผูซ่า(บุ่งซู้ผ่อสัก) 文殊菩萨

3. ผู่ถัวซาน 普陀山 เป็นขุนเขาทางทิศตะวันออก อยู่บนเกาะโจวซาน 舟山岛 นอกชายฝั่งทะเลมณฑลเจ้อเจียง 浙江 เขาผู่ถัวซาน สูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 284 เมตร เป็นที่สถิตของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ หรือกวนอินผูซ่า(กวงอิมผ่อสัก) 观音菩萨

4. จิ่วหัวซาน 九华山 เป็นขุนเขาทางทิศใต้ อยู่ในมณฑลอันฮุย 安徽 สูงจากระดับน้ำทะเล 1,342 เมตร เป็นที่สถิตของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์หรือตี้จั้งหวางผูซ่า(ตี่จั่งอ๊วงผ่อสัก) 地藏王菩萨



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 08:54:26
คนจีนและคนไทย ส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ จะต่างกันก็เพียงว่า คนไทยนับถือพุทธแบบเถรวาท นั่นคือยึดถือพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าดั้งเดิม นับแต่ครั้งที่มีการทำปฐมสังคายนาโดยพระอรหันต์เถระ หลังพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้วประมาณ 3 เดือน ส่วนคนจีนนับถือพุทธแบบมหายาน โดยมีพัฒนาการไปตามกาลเวลา ซ้ำมีการต่อเติมเสริมแต่งและปรับให้เข้ากับจริตของคนจีน ที่คุ้นเคยกับการกราบไหว้บูชาสิ่งที่เป็นธรรมชาติ เคารพเทพเจ้าที่มาจากวีรบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว อีกทั้งสักการะภูติผีปีศาจด้วยเกรงกลัวต่ออำนาจชั่วร้าย

นอกจากนี้แล้ว คนจีนยังนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกส่งต่อมาแต่ครั้งบรรพกาล จนเกิดมีเทพเจ้าต่างๆ มากมาย แต่ภายหลังเกิดมีนักพรตที่มีวิสัยทัศน์ ทำการจัดระเบียบจัดชั้นเทพเจ้าของจีน ให้มีที่มาที่ไปเข้าใจกันดีขึ้น แล้วยกประโยชน์ให้ท่านเล่าจื๊อ(เหล่าจื่อ) 老子 ขึ้นเป็นศาสดาแห่งเต๋า โดยมีเต้าเต๋อจิงที่เล่าจื๊อรจนาไว้เป็นพระคัมภีร์ ทั้งที่ในบันทึกประวัติศาสตร์ ท่านเล่าจื๊อเป็นปฏิปักษ์กับการจัดระเบียบอย่างที่สุด เพราะท่านสนับสนุนให้อยู่กันตามธรรมชาติ ผู้ปกครองประเทศไม่ควรต้องออกกฏหมายหรือตราข้อบังคับขึ้นใช้ต่อประชาชน ให้ประชาชนมีเสรีภาพ หมายถึงว่าให้ปกครองโดยมิต้องตรากฏหมายไปปกครองประชาชน เรียกว่าอู๋เหวยเอ๋อร์จื้อ 无为而治

ไม่เพียงเท่านี้ ในช่วงชุนชิวจั้นกั๋ว 春秋战国 เกิดมีนักปราชญ์จีนชื่อขงจื๊อ(ขงจื่อ) 孔子 ซึ่งพยายามขายความคิดความอ่าน หรือปรัชญาการเมืองของท่าน ให้กับบรรดาเจ้าเมืองต่างๆ ที่ต่างต้องการตั้งตัวเป็นใหญ่ แต่ปรัชญาของขงจื๊อเป็นสิ่งดีงาม จึงเข้าไม่ได้กับความสกปรกทางการเมือง ที่สุดขงจื๊อก็เลยอกหัก ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเพราะผู้ปกครองทุกแว่นแคว้น ต่างเป็นแบบปากว่าตาขยิบ จีบขงจื๊อไปร่วมบริหารบ้านเมือง แต่พอเอาเข้าจริง ก็เพียงต้องการใช้ภาพความเป็นคนดีมีจริยธรรมของขงจื๊อให้เป็นประโยชน์ แต่การบริหารบ้านเมือง เจ้าเมืองแต่ละแคว้น ต่างทำตามใจตนเอง

บั้นปลายของชีวิต ขงจื๊อเลยอุทิศตนให้กับการศึกษา เปิดมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก สอนหนังสือให้กับคนทุกระดับชั้น ไม่จำเป็นต้องพ่อรวยเส้นใหญ่ ขงจี๊อจึงกลายเป็นบรมครูของชนชาวจีน และกลายเป็นเทพเจ้า โดยที่ท่านไม่เคยแอบอ้างตนว่าเป็นศาสดา

ที่พรรณนาเสียยืดยาว ก็เพื่อเพียงให้เกิดความเข้าใจว่า คนจีนส่วนใหญ่ นับถือคติความเชื่อแบบผสมผสานทั้ง 3 อย่าง คือพุทธแบบมหายาน คติความเชื่อแบบเต๋า และหลักจริยธรรมของขงจื๊อ รวมเรียกว่าสามศาสน์ จีนเรียกว่าซันเจี้ยว แต้จิ๋วว่า "ซำก่า"  三教 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 08:56:26
พุทธสายเถรวาทแบบไทย พม่า ลาว และเขมร ยึดถือพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จออกบวช กระทั่งได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั้น ท่านเป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ ทรงพระนามว่าเจ้าชายสิทธัตถะ และแม้ว่าในพระไตรปิฎก จะระบุไว้ว่า ในภัทรกัปนี้ มีพระพุทธเจ้ากำเนิดขึ้นก่อนแล้ว 3 พระองค์ และองค์พระสมณะโคดม สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นองค์ที่ 4 อีกทั้งยังจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในอนาคตอีก 1 พระองค์ มีชื่อว่าพระศรีอาริยเมตไตร ชาวพุทธสายเถรวาท ก็กราบไหว้บูชาเพียงแค่องค์พระสมณะโคดม

แต่พุทธศาสนาสายมหายาน ซึ่งเจริญรุ่งเรืองในจีน ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่นและเวียตนาม กลับยึดถือว่า มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นแล้วนับหมื่นนับแสนพระองค์ในอดีต และยังจะมีผู้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตอีกนับจำนวนไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่บำเพ็ญเพียรเป็นพระโพธิสัตว์อีกนับจำนวนไม่ถ้วน

ทั้งๆ ที่ต่างก็เป็นศาสนาพุทธ แต่เพียงเริ่มต้นกล่าวถึง ก็มีความแตกต่างกันแล้ว หากกระผมจะยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ ถ้าชาวพุทธเราไปนมัสการพระพุทธชินราช ที่พิษณุโลก เราจะเห็นองค์พระประธานเพียงองค์เดียว เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า แต่ถ้าหากเราไปวัดพุทธอย่างจีน เช่นวัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ เราจะเห็นองค์พระประธานถึงสามองค์ องค์กลางคือองค์พระศากยมุนี เบื้องซ้ายขององค์ศากยมุนี คือองค์พระไภษัชคุรุพุทธเจ้า และเบื้องขวาขององค์ศากยมุนี คือองค์พระอมิตาภพุทธเจ้า



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 08:59:36
ในพุทธศาสนา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เปี่ยมด้วยพระเมตตากรุณา แม้จะเป็นถึงเจ้าชาย มีปราสาทราชวังหลายหลังผลัดเปลี่ยนเป็นที่ประทับตามฤดูกาล แต่พระพุทธองค์ก็ยอมสละได้ทั้งสิ้น ทรงเสด็จออกบวช บำเพ็ญเพียร กระทั่งได้ตรัสรู้ธรรมอันประเสร็ฐ และทรงแสดงธรรมต่อเวไนยนิกร เป็นเวลาอีก 45 พรรษา ก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน

ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงบรรลุแล้วนั้น เป็นธรรมที่สุขุมลุ่มลึก ยากที่จะเห็นและล่วงรู้ด้วยปัญญาที่พิจารณาด้วยตัวเองได้ เนื่องจากเป็นธรรมที่สงบ ประณีต ผู้มีวิสัยเป็นบัณฑิตเท่านั้น จึงมีโอกาสที่จะรู้แจ้งได้  พูดง่ายๆ ก็คือ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ไม่อาจจะเข้าถึงหรือเข้าใจได้ง่ายๆ ฉะนั้น เมื่อพุทธศาสนาเผยแผ่มาถึงเมืองจีน จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับจริตของผู้คน ภาษาสันสกฤตในพระคัมภีร์ ก็จัดการแปลให้เป็นภาษาจีน โดยนักบวชชาวเอเชียกลางและชาวจีนหลายท่าน ส่วนพระเมตตากรุณา หรือพระปัญญาบารมีของพระพุทธองค์ ก็แตกหน่อเป็นพระโพธิสัตว์หลายพระองค์ เพื่อให้ปุถุชนผู้อ่อนแอ สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย และเลือกสวดอ้อนวอนขอพรได้ตรงกับความต้องการของผู้ตกทุกข์ได้ยาก

ตัวอย่างเช่น พระเมตตาพระกรุณาของพระพุทธองค์ ก็แปรเปลี่ยนเป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งชาวพุทธที่เป็นชาวบ้านธรรมดา สามารถมองเห็นดวงหน้าที่อิ่มเอิบและสงบ เปี่ยมด้วยมหาเมตตามหากรุณา ชาวประชาพากันกราบไหว้ ด้วยหวังจะได้รับความเมตตากรุณาตามการสวดอ้อนวอน เรียกสิ่งนี้ว่าเป็นบุคลาธิษฐาน นั่นคือยกบุคคลหรือสิ่งที่จับต้องได้เป็นที่ตั้ง แทนที่จะยกธรรมะเป็นที่ตั้ง

ปีหนึ่งๆ มีผู้หลั่งไหลไปนมัสการพระโพธิสัตว์กวนอิม 观音菩萨 ณ เขาผู่ถัวซาน 普陀山 บนเกาะโจวซาน 舟山岛 นอกฝั่งมณฑลเจ้อเจียง 浙江 เพราะเชื่อกันว่า ผู่ถัวซานคือเขาโปตาละกะในตำนานของอินเดีย เป็นที่สถิตขององค์พระโพธิสัตว์กวนอิม พระโพธิสัตว์ที่เป็นเลิศทางแผ่พระเมตตากรุณา 以慈悲著称 ผู้ที่แต่งงานกันมานาน แต่ยังไม่มีลูก ก็ไปกราบไหว้อ้อนวอนขอให้มีลูก เพราะเห็นว่าท่านเปี่ยมด้วยมหาเมตตามหากรุณา ผู้มีความทุกข์ก็ไปสวดอ้อนวอนให้พ้นทุกข์ คนยากจนก็ไปอ้อนวอนขอให้ร่ำรวย โดยเหล่าสาธุชนต่างหวังจะได้รับความเมตตากรุณาจากท่าน



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 09:03:37
พระพุทธองค์สอนว่าคนเราจะพ้นทุกข์ได้ก็ด้วยปัญญา จะพ้นจากความยากจนได้ก็ด้วยความเพียร แต่มนุษย์ก็มักทำตรงกันข้าม ไปอ้อนวอนขอหวยขอเลข โดยหวังรวยทางลัด ที่สุดก็ยิ่งจนลงไปอีก หรือไม่ก็กินเหล้าดับทุกข์ ผลก็คือทุกข์ทวีซ้ำสองซ้ำสาม ขอสาธุชนโปรดพิจารณา

จะขอกล่าวถึงพระปัญญาคุณของพระพุทธเจ้า มีพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ เป็นบุคลาธิษฐาน องค์นี้แหละ ที่ชาวพุทธพากันไปกราบไหว้ เพื่อขอให้มีสติปัญญา ทั้งนี้

พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ 文殊菩萨 เชื่อกันว่าสถิตอยู่ ณ เขาอู่ไถซาน 五台山 มณฑลซานซี 山西 ได้ชื่อว่าเป็นเลิศทางสติปัญญา 以智慧著称 เขาอู่ไถซาน อาจเรียกว่าชิงเหลียงซาน 清凉山 เพราะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี

พระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่ง ที่คนไทยไปนมัสการกันมามากแล้ว คือพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ 普贤菩萨 เชื่อกันว่าสถิตอยู่ ณ เขาเอ๋อเหมยซาน 峨嵋山 มณฑลเสฉวน 四川 พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ ได้ชื่อว่าเป็นเลิศในปณิธานและการปฏิบัติธรรม 以行愿著称

และพระโพธิสัตว์องค์สุดท้าย ในกลุ่มของ 4 ขุนเขาเรืองนาม คือพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ซึ่งจีนเรียกว่า “ตี้จั้งผูซ่า” หรือ “ตี้จั้งหวางผูซ่า” 地藏王菩萨 หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ตี่จั่งอ๊วง” 地藏王 (ตี้จิ้งหวาง) เชื่อกันว่าสถิตอยู่ ณ เขาจิ่วหัวซาน 九华山 มณฑลอันฮุย 安徽 ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีเรื่องราวพิสดาร กล่าวคือมีปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ แม้แต่อบายภูมิเช่นนรก ท่านก็เสด็จลงไปโปรดสัตว์ จึงถือว่าท่านเป็นเลิศทางมีมหาปณิธานอันยิ่งใหญ่ 以悲愿著称 พวกนักการเมืองโสมมโกงกินชาติ ก็ควรสวดอ้อนวอนต่อท่าน ขอให้พาพ้นจากนรก



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 10:09:57
เข้ามาอ่านแล้วแต่ยังไม่จบ
เดี๋ยวกลับมาอ่านใหม่ครับ
ขอบคุณมาก

เฮียจุ๊ง คุณ......เยี่ยม


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 10:51:51
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 10:09:57
เข้ามาอ่านแล้วแต่ยังไม่จบ
เดี๋ยวกลับมาอ่านใหม่ครับ
ขอบคุณมาก

เฮียจุ๊ง คุณ......เยี่ยม


ขอบคุณมากครับพี่หนุน ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง พูดไม่ค่อยทันเพื่อน บางทีเขียนบรรยายจะได้ใจความสิ่งที่อยากพูดมากกว่า ที่สำคัญไม่มีใครขัดคอ อิอิ emo43 emo43
ในเว็บพี่น้อง บางทีผมก็บ่นตามประสาพี่น้องบ้างตามความคิดผม ผมคิดว่าไทยเรากำลังเข้าสู่ภาวะสิ้นชาตินะ ทำไมผมคิดแบบนั้น ผมคิดว่าชาติคือประเพณีปฏิบัติ วัฒนธรรม ความรู้สึกหลายสิ่งหลายอย่างที่หล่อเข้ามาเป็นเนื้อเดียวกัน แต่สิ่งเหล่านี้กำลังก็สูญสลายไป คนไทยไม่เคยนึกถึงอดีต พวกดนตรีแบบไทยเดิม ลิเก ลำตัด วัฒนธรรมรักสงบของคนไทยกำลังจะตาย ผมเป็นคนชอบศึกษาประวัติศาสตร์ ผมเห็นคนจีนปัจจุบันเอาประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์ สร้างหนัง และคอยเตือนคนจีนอยู่เสมอ สมัยก่อนจีนมีงิ้ว การเล่านิทานแบบวณิพก การร้องเพลงประกอบละคร ละครวิทยุ ดนตรีจีนเดิมต่างๆ ตอนนี้จีนก็ยังคงอนุรักษ์ไว้ เพียงแต่ย้ายโรงมาอยู่แถวทีวีหรือในเน็ต แต่ในไทย เดี๋ยวนี้พี่หาดนตรีไทยเดิม ลิเก ลำตัด ละครวิทยุ ชมดูได้ที่ไหนบ้าง เดี๋ยวนี้ที่ผมเบื่อมากที่สุดก็คือการไหว้ คนไทยเดี๋ยวนี้ไหว้ ผมมองว่ามันคือหน้ากาก มันไม่มีลักษณะแช่มช้อยแบบไทยๆอีกแล้ว ไหว้ไปตามที่เขาบอกมา ไม่ได้ไหว้ด้วยใจ วันก่อนน้องหนิงมาเจอที่ร้านญวนญี ผมเห็นแกไหว้แล้ว ถือเป็นท่าไหว้ที่ผมประทับใจมากที่สุดในรอบสิบปี

เอาล่ะ ผมอยากจะเสนอเพลงของการต่อสู้ เพลงปลุกใจในช่วงวิกฤติใกล้สิ้นชาติและกลายมาเป็นเพลงชาติจีนยุคปัจจุุบัน ถ้าไม่ใช่เว็บของพี่น้อง คนที่อ่านอาจจะอยากไล่ให้ผมกลับไปเมืองจีน แต่ผมอยากจะชี้ว่าคนที่เจอวิกฤติในชีวิตมา จะคอยเตือนใจตัวเองอยู่เสมอว่าอย่าลืมบทเรียนของตัวเอง แล้วพี่น้องลองเปรียบเทียบเหตุการณ์บ้านเมืองของเรา ก็จะรู้ว่าวิกฤติมาถึงแล้ว

  义勇军进行曲

起来!不愿做奴隶的人们!
ลุกขึ้นเถิด ! มวลชนผู้ไม่ยอมเป็นทาสทั้งหลาย !
      
       把我们的血肉筑成我们新的长城!
ให้เลือดเนื้อของพวกเราสร้างเป็นกำแพงเมืองจีนขึ้นใหม่ !
      
       中华民族到了最危险的时候,
ถึงเวลาอันเป็นวิกฤตยิ่งของชนชาวจีนแล้ว
      
       每个人被迫着发出最后的吼声。
ทุกผู้คนล้วนต้องแสดงพลังเป็นครั้งสุดท้าย
      
       起来!起来!起来!
ลุกขึ้นเถิด ! ลุกขึ้น ! ลุกขึ้น !
      
       我们万众一心,冒着敌人的炮火前进!
จิตใจหมื่นดวงของพวกเรารวมเป็นหนึ่งเดียว บุกเข้าฟันฝ่าปืนไฟของศัตรู !
      
       冒着敌人的炮火前进!前进!前进!进!
บุกเข้าฟันฝ่าปืนไฟของศัตรู !
บุกเข้าไป !บุกเข้าไป ! บุกเข้าไป !
      
นี่คือเนื้อเพลงมาร์ชกองกำลังทหารอาสา (义勇军进行曲) หรือเพลงประจำชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน....


http://www.youtube.com/v/XyHVsFdxGRU?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 11:08:36


กลับมาอ่านต่อแล้วหละจุ๊ง
แต่ไม่เห็นเพลงที่จะให้ฟังเลย

พี่หนุนชอบอ่านสิ่งที่จุ๊งเขียนนะ
มันเป็นการพูดคุยที่ออกจากความรู้สึกนึกคิด
มันสะท้อนความคิดและตัวตนของคนที่คุยกันเลยแหละ
พี่หนุนชอบคุยมากกว่าชอบเขียนว่ะ

แต่ชอบมุมมองของจุ๊งที่เกี่ยวกับความเป็นไปของบ้านเมืองเรานะ
ทั้งศิลปวัฒนธรรม ขนบประเพณี และวีถีปฏิบัติ
วัน สองวันก่อน ได้ยินว่ากระทรวงศึกษาของพี่แมว
กำลังเข็นนโบาย ให้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่ 2 ของประเทศ
พี่ว่า ก็ OK นะเป็นการเปิดโลกการติดต่อสื่อสารให้กว้างมากขึ้น
แล้วจะมีภาษาที่ 3 รึป่าวนี่

เดี๋ยวกลับไปอ่านที่ค้างไว้ก่อนดีกว่า



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 11:13:41

สวัสดียามสายครับ.......ท่านจุ๊ง..พี่หนุน และพี่น้องทุกท่าน

พี่น้องคุยกันเพลินเลย......ดีครับ

มีภาพชุดภูเขาสวยของจีนอยู่พอดี......บ่ายๆถ้าไม่ติดอะไร จะลงให้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 14:08:03

ภูเขาสวยของจีน (ชุดที่.1)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46f0-d6f79f.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46fu-f3fbc5.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46gj-e14f56.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 14:08:26

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46mz-607ee0.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46ot-929d69.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46pr-6e5f2c.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 14:08:53

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46sd-a26f1d.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46ta-07ef39.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46u0-1c3734.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 14:09:20

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46y4-72c957.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la46yy-b456b4.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4702-fda4a9.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 14:10:10

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la479q-54871f.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la47ae-0b2e7f.jpg)


end of set.1


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 14:21:02

ยอดเขาเสียดฟ้า
หิมะโปรยปราย
หนาวเหน็บในหัวใจยิ่งนัก

.....ทุกคนต่างรู้เรื่องราวของนาง
มีเพียงอาฮุย..เท่านั้น  ที่ยังไม่ล่วงรู้
ฤาว่ามันมิต้องการรับรู้ ให้ปวดใจ.....

กร๊ากกก  กร๊ากกกกกก
คิดถึงฤทธิ์มีดสั้น  ลี้น้อยมีดบิน กับอาฮุย


 emo43 emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 14:31:03

บางเรื่องราว...ยิ่งรับรู้ยิ่งปวดร้าว มิสู้แสร้งเฉยชา.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 15:07:20


สำนวนชวนคุยเยี่ยงนี้
มานัดร่ำ...เมรัย กันสักจอก 2 จอก
ก่อนย่างเข้าเหมันต์ฤดู
ท่าจะสุขอุราไม่น้อยนะสหายผู้น้อง
ท่านมีความเห็นเช่นใด  โปรดบอกกล่าว...


จะทำกระทู้คุณค่าเค้าเลออะเทอะไปมั๊ยนี่
เอิ๊ก เอิ๊ก


 emo47 emo47


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 16:03:03
สุภาษิตจีนเก่า "ในวงเหล้าเจอมิตรรู้ใจ พันจอกยังน้อยไป"
สุภาษิตจีนใหม่ "ในวงเหล้ากินกันพันจอก คนรู้ใจยังน้อยนิด"


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 16:39:04
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 15:07:20


สำนวนชวนคุยเยี่ยงนี้
มานัดร่ำ...เมรัย กันสักจอก 2 จอก
ก่อนย่างเข้าเหมันต์ฤดู
ท่าจะสุขอุราไม่น้อยนะสหายผู้น้อง
ท่านมีความเห็นเช่นใด  โปรดบอกกล่าว...


จะทำกระทู้คุณค่าเค้าเลออะเทอะไปมั๊ยนี่
เอิ๊ก เอิ๊ก


 emo47 emo47

ตามนัดหมาย.........

รออีกสามเพลา คงมิช้านานเกินไปดอกนะ.......ท่านพี่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 16:40:09

ภูเขาสวยของจีน (ชุดที่.2)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4dy6-b9bea0.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4dz5-cb1af2.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4e09-0fb631.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 16:41:05

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4e3q-52f759.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4e4g-620d5f.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4e5d-66224d.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 16:41:58

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4e9m-108067.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4eaj-7e9928.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4eb9-3fdd33.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 16:42:54

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4efw-9ae2f0.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4egu-1b53cd.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 16:43:58

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4fcn-da6a54.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4fed-f18b0d.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la4ffy-d9b43a.jpg)



end of set.2


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 18:26:06
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 08:09:20
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 07:05:43
พี่จุ๊งจะแวะมาหางโจว ด้วยหรือเปล่าครับ



อ้อ ขุนไปอยู่หังโจวนี่เอง โบราณว่าไว้ “เบื้องบนมีสวรรค์ เบื้องล่างมีซูหัง(ซูโจวกับหังโจว)" ขุนไม่ถ่ายรูปซีหูพร้อมกับเจดีย์ที่ครอบนางพญางูขาวมาฝากล่ะ งานนี้พี่ไปแถวกวางตุ้ง ฮกเกี้ยน คงไม่ไปไกลถึงหังโจว เป็นการไปพร้อมกับสมาคมเฉลิมมิตรของศิษย์เก่าชาวเหมยโจว แขนงหนึงของสมาคมชาวฮากกา จะไปเยี่ยมชมตึกโอบมังกร หอดินของชาวฮากกาที่เป้นมรดกโลก คงจะเก็บรูปมาฝากได้ เดี๋ยวต้องสำรวจกล้อง อาวุธประจำกายก่อนว่ายังเนี้ยบเหมือนเดิมมั้ย ไม่ได้ใช้มานาน แต่งานนี้ญาติไปด้วยกันหลายคน ยังไงก็จะเอารูปมาฝาก เผลอๆจะถ่ายเป็นภาพเคลื่อนไหว ขึ้นยูทูปให้ดู

ผมเชื่อว่าพี่เป็นคนจีนฮากกา ร้อยเปอร์เซนต์ครับ

เพราะวันนี้ ผมได้อ่าน  ประวัติ  จีนฮากกา หรือ จีนแคะ

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000141612


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 18:28:28
http://www.youtube.com/watch?v=zsNDnuQoQc4


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 18:58:32
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 18:26:06
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 08:09:20
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 07:05:43
พี่จุ๊งจะแวะมาหางโจว ด้วยหรือเปล่าครับ



อ้อ ขุนไปอยู่หังโจวนี่เอง โบราณว่าไว้ “เบื้องบนมีสวรรค์ เบื้องล่างมีซูหัง(ซูโจวกับหังโจว)" ขุนไม่ถ่ายรูปซีหูพร้อมกับเจดีย์ที่ครอบนางพญางูขาวมาฝากล่ะ งานนี้พี่ไปแถวกวางตุ้ง ฮกเกี้ยน คงไม่ไปไกลถึงหังโจว เป็นการไปพร้อมกับสมาคมเฉลิมมิตรของศิษย์เก่าชาวเหมยโจว แขนงหนึงของสมาคมชาวฮากกา จะไปเยี่ยมชมตึกโอบมังกร หอดินของชาวฮากกาที่เป้นมรดกโลก คงจะเก็บรูปมาฝากได้ เดี๋ยวต้องสำรวจกล้อง อาวุธประจำกายก่อนว่ายังเนี้ยบเหมือนเดิมมั้ย ไม่ได้ใช้มานาน แต่งานนี้ญาติไปด้วยกันหลายคน ยังไงก็จะเอารูปมาฝาก เผลอๆจะถ่ายเป็นภาพเคลื่อนไหว ขึ้นยูทูปให้ดู

ผมเชื่อว่าพี่เป็นคนจีนฮากกา ร้อยเปอร์เซนต์ครับ

เพราะวันนี้ ผมได้อ่าน  ประวัติ  จีนฮากกา หรือ จีนแคะ

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000141612
อืม คุณนพดล ชวาลกร ผู้อำนวยการศูนย์ฮากกาศึกษา เข้ากล่าวอ้างในเว็บผู้จัดการก็คือนายกสมาคมเฉลิมมิตร ศิษย์เก่าเหมยโจว แห่งสมาคมฮากกานั่นเอง ไปเยี่ยมพี่สาวครั้งนี้ก็ไปพร้อมกับสมาคมเฉลิมมิตร โดยมีคุณนพดลเป็นผู้นำทัวร์นั่นเอง เว้บนี้ต๊ะไว้ก่อน ยังไม่อ่าน หิวข้าวบารเล่ย์ หลังจากฟังเพลงทุ่งหญ้าบาร์เลย์ ต้องไปหาน้ำบาร์เลย์กินหน่อย
เอ เจ้าครูตุ๋ยมาอารมณ์ไหนกันเนี่ย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 21:00:00

สามทุ่มแล้ว เจ้าของห้องยังไม่กลับมาอีก..........

ไปสำลักน้ำบาร์เลย์อยู่ไหนนิ?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 21:21:45
มาแล้วจ้า ถือโอกาสไปตัดผม ล้างหู ล้างตามาด้วย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 11 ตุลาคม 2553, 21:37:07
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 21:21:45
มาแล้วจ้า ถือโอกาสไปตัดผม ล้างหู ล้างตามาด้วย

เบาหัว สบายหู ตาสว่าง แล้ว........ก็ทำงานต่อซิท่าน

มีอะไรดีๆก็เล่ามา.........


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 21:39:08
ครึ้มใจขึ้นมา เลยจัดเพลงให้ฟังอีกเพลง เพลงนี้เอาทำนองมาจากเพลงพื้นบ้านเกาหลี มีเพื่อนทางเน็ตคนนึงสอนลูกให้ร้องเพลงนี้ เชิญทัศนาได้

小白船    
เรือน้อยสีขาว     

蓝蓝的天空银河里
ในทางช้างเผือกบนท้องฟ้าสีครามนั้น 
   

有只小白船
มีเรือลำน้อยสีขาวลำหนึ่ง   


船上有棵桂花树
บนเรือน้อยนี้มีต้นเบญจมาศหนึ่งต้น

白兔在游玩
มีกระต่ายขาวกำลังวิ่งเล่นรอบๆ

浆儿浆儿看不见
ไม่เห็นมีไม้พาย

船上也没帆
บนเรือก็ไม่มีใบเรือ 

飘呀飘呀,飘向西天
ลอยเอย ลอยไป   ลอยไปทางขอบฟ้าทิศตะวันตก 

渡过那条银河水
ข้ามฝั่งลำทางช้างเผือกสายนั้น

走向云彩国
มุ่งไปสู่หมู่เมฆหลากสีสันต์

走过那个云彩国
แล้วก็ผ่านหมู่เมฆหลากสีสันต์นั้น

再向那儿去
ยังคงเดินทางต่อไปตามทางเดิม

在那遥远的地方
ในสถานที่อันแสนไกลนั้น

闪着金光
ระยิบไปด้วยประกายสีทอง

辰星是灯塔
ดาวประจำเมือง(ดาวพระศุกร์) เป็นประภาคารส่องทาง

照呀照得亮 
ส่องเอยส่องทางสว่างไสว


http://www.youtube.com/v/AwQYKDe4K5E?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 ตุลาคม 2553, 22:11:30
แก่แล้ว เอาเพลงเด็กๆมาเปิดให้ฟังดีกว่า

童年
วัยเด็ก

池塘边的榕树上,知了在声声叫着夏天
บนต้นไทรริมสระน้ำ จักจั่นร้องระงมเนื่องจากเป็นฤดูร้อน

操场边的秋千上,只有蝴蝶停在上面
บนชิงช้าข้างๆสนามฝึก มีเพียงผีเสื้อเกาะอยู่

黑板上老师的粉笔还在拼命叽叽喳喳写个不停
บนกระดานดำ ชอล็คในมือของครูมีเสียงจึ๊กๆจั๊กๆของการขีดเขียนไม่หยุดหย่อน

等待着下课等待着放学等待游戏的童年
นี่คือวัยเด็กที่รอเวลาหมดชั่วโมงเรียน รอเวลาเลิกเรียน รอเวลาเล่นเกมส์

福利社里面什么都有就是口袋里没有半毛钱
ห้องสวัสดิการอะไรก็มีพร้อมหมด แต่ในกระเป๋าไม่มีแม้แต่สตางค์เดียว

诸葛四郎和魔鬼党到底谁抢到那支宝剑
คุณชายสี่ตระกูลจูเก๋อกับพรรคมารใครจะแย่งกระบี่วิเศษเล่มนั้นได้นะ

隔壁班的那个女孩怎么还没经过我的窗前
เด็กผู้หญิงชั้นเรียนข้างๆทำไมยังไม่เดินผ่านหน้าต่างห้องเรียนฉันนะ

嘴里的零食手里的漫画心里初恋的童年
วัยเด็กที่ปากเต็มไปด้วยของขบเคี้ยว มือก็ถือการ์ตูน และก็มีรักครั้งแรกในใจ

总是要等到睡觉前才知道功课只做了一点点
รอจนก่อนนอนถึงได้รู้ว่าการบ้านทำไปได้นิดเดียว

总是要等到考试后才知道该念的书都没有念
รอจนสอบเสร็จถึงจะรู้ว่าตำราที่ต้องอ่านยังไม่ได้อ่าน

一寸光阴一寸金老师说过寸金难买寸光阴
ครูเคยสอนไว้เวลาประดุจดังทองคำ ทองคำไม่สามารถจะซื้อเวลาได้

一天又一天一年又一年迷迷糊糊的童年
ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า นี่แหละวัยเด็กที่เลอะๆเลือนๆ

没有人知道为什么太阳总下到山的那一边
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมพระอาทิตย์ถึงต้องตกไปหลังเขาด้านนั้น

没有人能够告诉我山里面有没有住着神仙
ไม่มีใครสามารถบอกฉันว่าในป่าเขามีผู้วิเศษอาศัยอยู่หรือไม่

多少的日子里总是一个人面对着天空发呆
กี่วันนะที่มักจะเหม่อมองท้องฟ้าอยู่คนเดียวและเคลิบเคลิ้ม

就这么好奇就这么幻想这么孤单的童年
นี่คือวัยเด้กที่ขี้สงสัยก็ปานนั้น มีจินตนาการก็ปานนั้น และโดดเดี่ยวก็ปานนั้น

阳光下蜻蜓飞过来一片片绿油油的稻田
ในแสงแดด แมลงปอบินเข้ามา มองออกไปเป็นนาข้าวที่เขียวขจี
 
水彩蜡笔和万花筒画不出天边那一条彩虹
สีน้ำ สีเทียนและกระบอกปริซึมเขียนรุ้งกินน้ำสายนั้นไม่เป็นรูป

什么时候才能像高年级的同学有张成熟与长大的脸
เมื่อไรนะ ถึงจะเหมือนเด็กชั้นโตที่มีใบหน้าที่มีประสบการณ์และเติบใหญ่
 
盼望着假期盼望着明天盼望长大的童年
นี่คือวัยเด้กที่รอคอยแต่ปิดเทอม รอคอยแต่วันพรุ่งนี้ รอคอยแต่เติบใหญ่

一天又一天一年又一年盼望长大的童年
นี่คือวัยเด็กที่รอคอยแต่ปิดเทอม รอคอยแต่วันพรุ่งนี้ รอคอยแต่เติบใหญ่


http://www.youtube.com/v/MXGBrDYKhYA?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 06:21:20
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 21:21:45
มาแล้วจ้า ถือโอกาสไปตัดผม ล้างหู ล้างตามาด้วย

แต่อย่าเพิ่ง ล้างมือ   ในอ่างทองคำนะครับพี่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 ตุลาคม 2553, 06:31:36
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 18:58:32
เอ เจ้าครูตุ๋ยมาอารมณ์ไหนกันเนี่ย

ละเมอมาจากห้องพี่หนุนมั้งคะ .. เหอ ๆ ๆ ๆ
    emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 ตุลาคม 2553, 06:32:54
พี่จุ๊งเล่าสนุกดีค่ะ ..   emo43

ส่วนพี่แหลมก็เป็นฝ่ายแสงสีที่เยี่ยมมาก
เห็นภาพแล้วใจละลาย .. สวยเหลือเกิน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 08:07:15
สวัสดีครับผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน วณิพกกลับมาประจำการอีกแล้ว คราวนี้หยิบคว้าเรื่องที่คนอื่นเล่ามาเล่าต่อตามถนัด

กระผมเขียนเรื่องต่อไปนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เพราะเรื่องเล่าและบทความเกี่ยวกับเจ้าแม่ทับทิม เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือเทพธิดาแห่งท้องทะเลต่างๆ ก็มีให้ฟังให้อ่านกันมากมายอยู่แล้ว แต่ในหลายแง่มุม กลับสร้างความสับสนมากกว่าจะให้ความกระจ่าง ตัวอย่างเช่นนักเขียนไทยผู้หนึ่ง เริ่มต้นก็เขียนถึงเกาะเหมยโจว 湄洲岛 (แต้จิ๋วว่า..ไบ่จิว) เป็น เกาะหมีจิวเสียแล้ว เลยไม่รู้ว่าท่านหมายถึงเกาะอะไร?

ชาวจีนฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว กวางตุ้งและไหหลำ มีความคุ้นเคยกับทะเลมาช้านาน เพราะสถานที่ตั้งของบ้านเมือง มีอาณาเขตติดกับทะเล ด้วยเหตุนี้ กลุ่มคนที่มีใจนักสู้ หรือบางครั้งเพราะความจำเป็น เนื่องจากมีภัยสงครามหรือเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง กลุ่มคนชุดแรก ซึ่งเปรียบเหมือนหน่วยกล้าตาย ก็ออกทะเลเพื่อหาที่ทำกินในแผ่นดินใหม่ กลายเป็นคนจีนโพ้นทะเลหัวเฉียว 华侨 รุ่นทวดรุ่นปู่ของคนเชื้อสายจีนทุกวันนี้

แม้พวกเขาจะคุ้นเคยกับทะเล แต่ก็มีความเกรงกลัวสุดๆ คนแต้จิ๋วรุ่นก่อนพูดว่า “เกี่ยจุ๊งชุกไฮ่ซาฮุงเหมี่ย” 行船出海三分命 หมายถึงว่าแล่นเรือออกเดินทางในมหาสมุทร โอกาสมีชีวิตเหลือแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ก่อนออกเดินทาง พวกเขาและญาติพี่น้อง จะไปบนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย โดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กราบไหว้บูชาก่อนออกเดินทาง หากเป็นคนแต้จิ๋ว ก็ไม่พ้นปึงถ่าวกง 本头公 ตั่วเหล่าเอี๊ย 大老爷 (เจ้าพ่อเสือ) และหมาโจ้ว 妈祖

หมาโจ้ว 妈祖 เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว หากเป็นจีนกลาง ออกเสียงว่า "มาจู่"  ขอเพื่อนๆ อย่าเพิ่งขำ เพราะเรากำลังเขียนเลียนเสียงภาษาจีน ไม่ได้หมายถึงภาษาไทย

ม่า 妈 หรืออาม่า 阿妈 แต้จิ๋วหมายถึงคุณย่าหรือคุณยาย โจ้ว 祖 หมายถึงบรรพบุรุษหรือคุณทวด เวลาอ่านด้วยกัน ต้องผันเสียงคำแรก จึงกลายเป็น “หมาโจ้ว” แปลตรงๆ ว่าคุณย่าทวดหรือคุณยายทวด แต่ในที่นี้ มีความหมายพิเศษ หมายถึงเทพสตรีองค์หนึ่งที่ชาวเรือเคารพนับถือเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่า “หมาโจ้ว” หรือ “มาจู่” เป็นผู้คุ้มครองชาวเรือให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 08:10:14
เทพมาจู่หรือหมาโจ้ว 妈祖 ไม่ได้เป็นเทพมาตั้งแต่ต้น ท่านเกิดเป็นมนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ในวันที่ 23 เดือน 3 ตามปฏิทินทางจันทรคติอย่างจีน ปี ค.ศ. 960 ปีนั้นเป็นปีแรกแห่งศักราชเจี้ยนหลง 建隆 ซ่งไท่จู่จ้าวควงอิ้น 宋太祖赵匡胤 ขึ้นครองราชย์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง 宋 (เริ่มราชวงศ์ซ่งเหนือ 北宋)

มาจู่เป็นคนเกาะเหมยโจว 湄洲岛 แต่ข้อมูลบางแห่งระบุว่าไม่ได้เกิดบนเกาะ แต่บ้านเกิดอยู่แถวอ่าวใกล้เกาะเหมยโจว 湄洲湾畔 อำเภอผูเถียน 莆田 มณฑลฝูเจี้ยน 福建 หรือฮกเกี้ยนนั่นเอง พ่อของนางแซ่ลิ้ม(หลิน) ชื่อหลิ่มเต็ก 林德 แต่บางแห่งระบุหลิ่มหงวง 林愿 แม่แซ่เฮ้ง(หวางสื้อ 王氏) ตอนเกิด ดินฟ้าอากาศมีปรากฏการณ์มหัศจรรย์ แต่กระผมจะไม่บรรยาย เพราะเป็นความเชื่อแต่โบราณ

มาจู่ยามเด็กไม่ร้องไห้โยเย อยู่นิ่งๆ เงียบๆ พ่อแม่เลยตั้งชื่อว่าโม่ 默 (แต้จิ๋วว่ามิก) แปลว่าเงียบ ต่อมาจึงเรียกกันว่า หลินโม่เหนียง 林默娘 หรือแต้จิ๋วว่า หลิ่มหมิกเนี้ย

โม่เหนียงเฉลียวฉลาดตั้งแต่เด็ก ความจริงต้องเรียกพรสวรรค์ถึงจะถูก คือมีคุณสมบัติพิเศษที่เด็กธรรมดาไม่มี อายุ 8 ขวบพ่อส่งเสียให้เรียนหนังสือ พออายุเพียงแค่ 12 ขวบ ก็สามารถอ่านตำราได้สารพัด ไม่ใช่หนังสือนวนิยาย ขอบอก.. แต่เป็นระดับจิง 经 สื่อ 史 จื่อ 子 จี๋ 集 (ยังไม่ขออธิบาย)
พออายุได้ 13 ปี เล่ากันว่า ปรากฏนิมิตของผู้วิเศษ เสวียนทงเจินเหยิน 玄通真人 (ตรงนี้เข้าสู่ความเชื่อแบบเต๋าแล้ว) ผู้วิเศษถือว่าแม่นางโม่เหนียงมีคุณสมบัติพิเศษ จึงถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาให้ โม่เหนียงบำเพ็ญฝึกฝนเช้าเย็น ไม่นานก็บรรลุเต๋า

เมื่ออายุได้ 16 ปี ขณะที่โม่เหนียงกำลังเล่นกับเพื่อนบ้านที่ข้างบ่อน้ำ พลันมีเทพปรากฏกายขึ้น พร้อมถ่ายทอดยันตร์วิเศษให้โม่เหนียง หลังจากนั้น โม่เหนียงก็ยิ่งมีวิชาแก่กล้า สามารถล่วงรู้ดินฟ้าอากาศ มักบอกชาวเรือแถบนั้นให้รู้ถึงภัยจากลมพายุล่วงหน้า ทั้งยังมีมนตร์วิเศษ สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับชาวบ้าน อีกทั้งสามารถขอฝนให้ตกยามฝนแล้ง และเรียกฝนให้หยุดยามฝนชุก ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้

ส่วนเรื่องอิทธิฤทธิ์มากไปกว่านั้น เช่นสามารถสยบปีศาจตาทิพย์และหูทิพย์มาเป็นบริวาร กระผมจะไม่ขอขยายความ ขอเพียงให้รู้ว่าท่านมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เกินจะบรรยาย

แต่ใดๆ ในโลกไม่เที่ยง วันหนึ่งท่านช่วยแม่ถักแหจับปลาอยู่ แต่แล้วก็นั่งหลับ แม่เหลือบไปเห็นเข้า เลยแตะไหล่เพื่อปลุกให้ตื่น ปรากฏว่าเป็นเรื่อง....

ที่แท้พี่ชายและพ่อของโม่เหนียงออกทะเลไปหาปลา โม่เหนียงรู้ด้วยญาณวิเศษว่าพี่ชายและพ่อกำลังประสบกับวาตภัย จึงเข้าสมาธิส่งพลังจิตไปช่วย ขณะที่แม่ปลุกนั้น โม่เหนียงเพิ่งช่วยพ่อได้สำเร็จ ยังไม่ทันได้ช่วยพี่ชาย ก็ตื่นจากภวังค์ เป็นอันว่าช่วยพี่ชายไม่ทัน

    ไม่ถึงตายก็ไม่วายชีวาวาตม์
ใครพิฆาตเข่นฆ่าไม่อาสัญ
ถึงที่ตายไม่วายชีวาวัน
นอนยิงฟันนิ่งแน่ซี้แหงเอย



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 08:14:13
อภินิหารของโม่เหนียง 默娘 ในการช่วยเหลือชาวประมงและนักเดินเรือ เป็นที่โจษจันตั้งแต่แม่นางยังมีชีวิตอยู่ ผู้มีประสบการณ์รอดชีวิตกลับมา ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ได้แต่ขนานนามให้โม่เหนียงเป็น “ทงเสียนหลิงหนี่ว์” 通贤灵女 หรือ “หลงหนี่ว์” 龙女 แปลว่าเทพธิดาผู้รู้แจ้ง หรือเทพธิดาพญามังกร

ปี ค.ศ. 987 โม่เหนียงอายุได้ 28 ปี (นับหัวนับท้ายแบบจีน) โม่เหนียงรู้ว่าใกล้ถึงวันลาจากแล้ว จึงบอกชาวบ้านให้รู้ตัว ถึงวันที่ 9 เดือน 9 ตามปฏิทินอย่างจีน โม่เหนียงขึ้นเขาเหมยซาน 湄山 สำเร็จเป็นเซียนล่องลอยสู่สวรรค์ ชาวบ้านได้ยินเสียงดนตรีขับกล่อมอยู่เป็นฉากหลัง

ความดีงามและอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของโม่เหนียง ไม่เคยจืดจางไปจากศรัทธาของชาวบ้าน เมื่อโม่เหนียงจากไป ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันสร้างศาลเจ้าหลินโม่เหนียง 林默娘庙 เป็นที่รำลึก แต่แรงศรัทธาไม่หยุดเพียงแค่นั้น ชาวบ้านชาวช่องในเมืองในมณฑลต่างๆ ก็พากันสร้างศาลเจ้าโม่เหนียงในกาลต่อมา แต่อาจมีชื่อเรียกไม่เหมือนกัน เพราะ....

ปี ค.ศ. 1155 สมัยราชวงศ์ซ่งใต้ กษัตริย์ซ่งเกาจง 宋高宗 พระราชทานสมัญญาให้เป็น ฉงฝูฟูเหยิน 崇福夫人
ปี ค.ศ. 1190 กษัตริย์ซ่งกวงจง 宋光宗 พระราชทานสมัญญาให้เป็น หลิงฮุ่ยเฟย 灵惠妃
ปี ค.ศ. 1278 สมัยราชวงศ์หยวน กษัตริย์หยวนสื้อจู่ 元世祖 (กุบไลข่าน) ให้เป็น เทียนเฟย 天妃
ปี ค.ศ. 1680 สมัยจักรพรรดิคังซี พระราชทานให้เป็น เทียนซ่างเสิ้งหมู่ 天上圣母
ปีรุ่งขึ้น ค.ศ. 1681 พระราชทานให้เป็น เหยินฉือเทียนโฮ่ว 仁慈天后

จากนั้นในปีต่อๆ มา สมัญญาของท่านโม่เหนียงก็ยาวขึ้นๆ จนถึงสมัยจักรพรรดิเสียนเฟิง 咸丰 สมัญญาของโม่เหนียงต้องเขียนเป็นตัวอักษรจีนถึง 64 คำ

เวลาผ่านไปเป็นร้อยเป็นพันปี โม่เหนียงก็ถูกชาวบ้านยกเป็นย่าทวดยายทวด จึงเรียกว่าหมาโจ้วหรือมาจู่ 妈祖
ศาลเจ้าโม่เหนียง จีนใช้คำว่าเมี่ยว 庙 ก็ให้เปลี่ยนมาเป็น “กง” 宫 หมายถึงวัง คำว่ากงนี้ แต้จิ๋วออกเสียงว่า “เก็ง” ฉะนั้นศาลเจ้าอาม่า 阿妈(หมายถึงศาลหลินโม่เหนียง) คนแต้จิ๋วก็เรียกว่า “หมาเก็ง” 妈宫
ส่วนเทียนโฮ่ว 天后 แต้จิ๋วออกเสียงว่า “เทียงโหว” เสิ้งหมู่ 圣母 แต้จิ๋วว่า “เซี้ยบ้อ” ก็เอามาสมาสเป็น “เทียงโห่วเซี้ยบ้อ” 天后圣母 ก็หมายถึงท่านโม่เหนียงเหมือนกัน

แต่ที่ไม่เหมือนกัน คือชื่อเจ้าแม่ทับทิม องค์นี้ไม่ใช่ท่านโม่เหนียง เป็นคนละองค์ ขอพี่น้องอย่าสับสน

ตอนหน้าจะกล่าวถึงเจ้าแม่ทับทิม



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la5xcy-484635.jpg)
โม่เหนียง


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la5x15-122edd.jpg)
หลงหนี่ว์


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 08:18:29
คุณงามความดีของมาจู่หลินโม่เหนียง 林默娘 ส่งผลให้เมืองในมณฑลต่างๆ ที่มีชายฝั่งทะเล เช่นฝูเจี้ยน 福建 เจ้อเจียง 浙江 กว่างตง 广东และไห่หนาน 海南 พากันตั้งศาลสักการะมาจู่เป็นจำนวนมาก ช่วงปลายราชวงศ์ชิง 清 เกิดกบฏไท่ผิง 太平起义 แต่ก่อการไม่สำเร็จเป็นเหตุให้พวกกบฏถูกปราบปรามอย่างหนัก คนจีนส่วนหนึ่งจึงหนีตายออกนอกประเทศ โดยแล่นเรือมาทางอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และภาคใต้ของประเทศไทย บ้างก็ไปไกลถึงอเมริกาและยุโรป ที่ไปญี่ปุ่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ก็มี

ความจริงชนชาวจีนมีการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานมาเป็นเวลาช้านาน แต่ที่เป็นระลอกใหญ่มาก ก็คือช่วงหลังกบฏไท่ผิง เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วนี่เอง

ชาวจีนที่หนีตายภัยสงคราม หรือหนีตายความแห้งแล้ง ข้าวยากหมากแพง แต่ก็เอาชีวิตไปทิ้งในทะเลก็มีจำนวนไม่น้อย ส่วนพวกที่รอดตาย ก็เชื่อว่าเป็นเพราะมาจู่คุ้มครอง เพราะการเดินเรือเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว มีอันตรายมากกว่าปัจจุบันหลายเท่าตัว การสวดภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ระหว่างเดินทาง จึงเป็นความหวังและกำลังใจ ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น เมื่อมาถึงแผ่นดินใหม่ โดยเฉพาะเมื่อได้ดิบได้ดีในภายหลัง ก็ชักชวนกันสร้างศาลมาจู่ 妈祖庙 ในต่างแดนเพื่อแสดงกตัญญูกตเวทิตา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวในยามประสบเภทภัย วัฒนธรรมมาจู่จึงเผยแพร่ในยังดินแดนต่างๆ ของโลก ที่มีคนเชื้อสายจีนอาศัยอยู่ ฉะนั้นขอให้เพื่อนๆ ตั้งหลักให้ดี เพราะบางครั้งชื่อศาลเจ้าอาจไม่เหมือนกัน หรือพระนามขององค์เทพอาจเรียกต่างกัน แต่ก็มีต้นกำเนิดมาจากท่านหลินโม่เหนียง 林默娘 หรือแต้จิ๋วว่าหลิ่มหมิกเนี้ย แต่ไม่ควรไปเพิ่มเติมพระนามของท่าน เพราะความเข้าใจผิด

ชาวฮกเกี้ยนในมณฑลฝูเจี้ยน มักเรียกท่านโม่เหนียงว่าเทียนโฮ่วเสิ้งหมู่ 天后圣母 หรือมาจู่ 妈祖 (ออกเสียงแบบจีนกลาง) ชาวแต้จิ๋วเรียกคล้ายกัน แต่ออกเสียงเป็น “เทียงโห่วเซี้ยบ้อ” และ “หมาโจ้ว” ชาวเค่อเจียหรือคนแคะเรียก “สุยหมู่เหนียง” 水母娘 ส่วนชาวไหหลำเรียก “โผจู่” 婆祖

พูดถึงชาวไหหลำ 海南人 เลยต้องพูดถึงเทพแห่งท้องทะเลอีกหนึ่งองค์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเจ้าแม่ทับทิม 



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 08:22:56
เกาะไหหลำ ปัจจุบันเป็นมณฑลหนึ่งของประเทศจีน 海南省 มีพื้นที่ 32,198 ตารางกิโลเมตร ขนาดใกล้เคียงประเทศเบลเยี่ยม มีประชากรประมาณ 2.35 ล้านคน

ชาวไหหลำ นับถือมาจู่เหมือนชาวฮกเกี้ยน ไต้หวันและแต้จิ๋ว แต่ชาวไหหลำยังมีเทพแห่งท้องทะเลเวอร์เชิ่นของตนเองอีกต่างหาก แต่เกิดหลังมาจู่หลินโม่เหนียงราวห้าร้อยกว่าปี

หากพิจารณาแผนที่เกาะไหหลำ เล็งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะเห็นเมืองเหวินชาง 文昌市 ซึ่งเป็นเมืองติดทะเล ด้านหน้ามีลักษณะเป็นอ่าวเว้าเข้ามาในแผ่นดิน ตรงจุดหนึ่งมีชื่อว่า “ชิงหลันกั่ง” 清澜港 ลึกเข้าไปในชิงหลันกั่ง ค่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเหวินชาง มีเมืองอีกเมืองหนึ่งชื่อตงเจียว 东郊 บริเวณนี้แหละ ที่เป็นที่มาของตำนานเทพทางทะเลของชาวไหหลำ มีชื่อว่า “สุยเหว่ยเสิ้งเหนียง” 水尾圣娘 ชาวแต้จิ๋วเรียกว่า “จุ๋ยบ๋วยเนี้ย”

เล่ากันว่าสมัยราชวงศ์หมิง ศักราชเจิ้งเต๋อ 明正德 (ค.ศ.1506-1521) ที่เมืองตงเจียว 东郊 ใกล้ท่าเทียบเรือชิงหลันกั่ง 清澜港 มีชาวประมงแซ่พาน潘 ได้ออกเรือไปจับปลา วันหนึ่งขณะที่กำลังลากแหอยู่นั้น ก็รู้ลึกถึงความหนักของแหอวน จึงดีใจว่าคงจะได้ปลาจำนวนมากในคราวนี้ แต่ครั้นดึงขึ้นมาบนเรือ ก็พบเพียงท่อนไม้ท่อนหนึ่ง จึงเหวี่ยงท่อนไม้กลับลงไปในน้ำ เมื่อทำการลากแห่อีกครั้ง ปรากฏว่าท่อนไม้นั้น ก็ติดแหอวนขึ้นมาอีก ชาวประมงแซ่พาน ก็จึงอธิษฐานว่าหากช่วยให้เขาจับปลาได้มาก เขาก็จะนำท่อนไม้นี้ กลับไปแกะสลักเป็นเทพยดาเอาไว้บูชา ซึ่งเขาก็ได้ตามประสงค์

ชาวประมงกลับถึงบ้าน เอาท่อนไม้วางไว้กลางแจ้งตากแดดตากฝน ไม่ทันได้เอาไปแกะสลักตามที่บนเอาไว้ เพราะวันๆ ก็เอาแต่ทำมาหากิน ต่อมาท่อนไม้นั้นถูกย้ายไปย้ายมา จนไปวางอยู่หน้าเล้าหมู เป็นเหตุให้หมูตายอย่างไม่มีสาเหตุ รวมทั้งคนที่บังเอิญไปลบหลู่ท่อนไม้นั้นโดยไม่ตั้งใจ ก็มีอันไม่สบาย ทำให้ชาวประมงแซ่พานนึกขึ้นมาได้ ว่าคงเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่แท้ เลยรีบจุดธูปขอขมา พลันก็มีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นคือ ทุกวันยามตะวันโพล้เพล้ บนต้นลำไยหน้าบ้านชาวประมงแซ่พาน จะปรากฏสตรีหน้าตาอิ่มบุญเปี่ยมด้วยเมตตาประทับอยู่บนต้นไม้ ชาวบ้านรู้เข้าก็เลยร่วมด้วยช่วยกัน จัดสร้างเป็นรูปเทพยดาสตรี ส่วนสถานที่ตั้งของศาลเจ้า เด็กประทับทรง 乩童 วิ่งไปชี้จุดตรงหมู่บ้านชายน้ำชื่อ “โพเหว่ยชุน” 坡尾村 ไกลออกไปหลายลี้ ชาวบ้านเลยขนานนามองค์เทพว่าพระแม่ชายน้ำ(พระแม่ปลายน้ำ) สุยเหว่ยเสิ้งเหนียง 水尾圣娘 จีนแต้จิ๋วเรียกว่า “จุ๋ยบ๋วยเนี้ย” หรือ “จุ๋ยบ๋วยเซี้ยเนี้ย” ส่วนสำเนียงไหหลำจะออกเสียงเป็น “ตุ้ยบ๋วยเต่งเหนี่ยง”

เมื่อชาวไหหลำอพยพถิ่นฐานมาเมืองไทย ก็นำความเชื่อเรื่องพระแม่ชายน้ำมาสร้างศาลเจ้าในเมืองไทย ลักษณะคล้ายกับการจำลองศาลหรือวังของมาจู่

ศาลเจ้า “ตุ้ยบ๋วยเต่งเหนี่ยง” หรือ “จุ๋ยบ๋วยเนี้ย”  ที่คนส่วนใหญ่รู้จัก อยู่เชิงสะพานซังฮี้ฝั่งพระนคร และเนื่องจากองค์เทพมีเครื่องประดับประจำองค์เป็นพลอยสีแดง เลยพากันเรียกว่าเจ้าแม่ทับทิม ผิดถูกอย่างไร ผมต้องขอให้ลูกหลานชาวไหหลำเป็นผู้ชี้แนะ

แต่ที่ผมเห็นว่า ไม่น่าจะถูกต้อง ก็เนื่องจากมีการเหมาเรียกเทพที่เกี่ยวข้องกับทะเล เป็นเจ้าแม่ทับทิมไปทั้งหมด จึงเห็นว่าคนไทยเชื้อสายจีนยุคใหม่ ได้ชื่อว่ามีการศึกษาที่ดีกว่า หากจะรักษาประเพณีเก่าแก่ของบรรพบุรุษ ก็ยังควรทำความเข้าใจให้ถูกต้อง



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la5w10-3f6e25.jpg)
สุยเหว่ยเสิ้งเหนียง




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 08:27:15
ตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ รวมทั้งชาวแต้จิ๋ว อะไรๆ ก็อาจมีเทพมีเจ้าสถิตอยู่ เช่นประตูก็มี "หมึ่งซิ้ง" 门神 เตาก็มี "เจ๊าซิ้ง" 灶神 แต่ไม่ถึงกับมีกับคำว่า "กง" หรือ "ม่า" ต่อท้าย หมายถึงว่าผมไม่เคยได้ยินเขาเรียก "หมึ่งสิ่งกง" และ "หมึ่งสิ่งม่า"

ถ้าจะมี ก็คงจะเป็นคำว่า "ปึงท้าว" หรือ "ปุงท้าว" 本头 เรียกเต็มๆ ว่า "ปึงถ่าวกงม่า" หรือ "ปุงถ่าวกงม่า" 本头公妈 หมายถึงบรรพบุรุษของชาวแต้จิ๋ว ที่ถูกยกให้เป็นเซียนเป็นเทพไปแล้ว

แต่ชาวแต้จิ๋ว ก็เหมือนชาวจีนทั่วไปสมัยก่อน คือถือเพศชายเป็นใหญ่ มักเรียกแค่อากง เช่น "ปึงถ่าวกง" 本头公 หรือเจ้าที่เจ้าทาง ก็เรียก "แป๊ะกง" 伯公  เลยมีคำเปรียบเปรยที่เด็กรุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก ใช้ในกรณีที่บ้านใดภรรยาเป็นใหญ่กว่าสามี (สามีไม่กล้าหือ เกรงใจภรรยา) คนแต้จิ๋วจะพูดว่าบ้านนี้ "ปึงถ่าวม่าเฮี่ยง" 本头妈显

คำว่า "เฮี่ยง" 显 หมายถึง "เหียงเล้ง" 显灵 แปลว่าศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์เดช (ไม่ได้แปลว่าเสียงดัง) คำนี้ ภาษาไทยเอามาใช้ทับศัพท์ว่า "เฮี้ยน" คุ้นๆ มั้ยครับ?

เรื่องราวของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่จังหวัดปัตตานีของไทย เป็นเรื่องละเอียดอ่อนไหว แต่ผมจะใช้ความระมัดระวังอย่างที่สุด

คำว่า “ลิ้ม” มาจากแซ่ลิ้ม หรือจีนกลางว่า “หลิน” 林 ส่วนกอเหนี่ยว น่าจะเป็นสำเนียงฮกเกี้ยน จีนกลางอ่านว่า “กูเหนี่ยง” 姑娘 แต้จิ๋วอ่านว่า “โกวเนี้ย”

จะเห็นได้ว่าเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว มีชื่อแซ่คล้ายกับมาจู่ “หลินโม่เหนียง” 林默娘 หรือ “หลิ่มหมิกเนี้ย” แต่ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือ เรื่องราวของลิ้มกอเหนี่ยว เกิดหลังเรื่องราวของหลินโม่เหนียงประมาณ 600 ปี และลิ้มกอเหนี่ยว ไม่ปรากฏชื่อจริง เพราะลิ้มกอเหนี่ยว หรือหลิ่มโกวเนี้ย มีความหมายว่า “แม่นางแซ่ลิ้ม” ฉะนั้น ผู้มีจิตศรัทธาจึงควรทำความเข้าใจแต่ต้น ว่าทั้ง 2 ท่านเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ต่างยุคต่างสมัย และกลายเป็นเทพในหัวจิตหัวใจของผู้ศรัทธาในภายหลัง แต่เป็นเทพคนละองค์ ไม่ควรเหมาเป็นเทพองค์เดียวกัน

ชื่อ “ลิ้มกอเหนี่ยว” น่าจะเป็นสำเนียงฮกเกี้ยน โดยพิจารณาจากพงศาวดารเมืองปัตตานี พ.ศ. 2445 (คัดลอกตามอักขระเดิม) ความว่า....

“.....แลนายช่างผู้หล่อปืนสามกะบอกนั้น สืบความได้ว่าเดิมเปนจีนมาจากเมืองจีน เปนชาติหกเคี้ยมแส้หลิม ชื่อเคี่ยม เข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านกะเสะ จีนเคี่ยมคนนี้มาได้ภรรยามลายู จีนเคี่ยมก็เลยเข้าสุหนัดนับถือศาสนามลายูเสียด้วย พวกมลายูสมมติเรียกกันว่า หลิมโต๊ะเคี่ยม ตลอดต่อมาจนถึงทุกวันนี้
แลในตำบลบ้านกะเสะซึ่งหลิมโต๊ะเคี่ยมอยู่มาก่อนหน้านั้น พลเมืองที่อยู่ต่อมาจนเดี๋ยวนี้ยังนับถือหลิมโต๊ะเคี่ยม ว่าเปนต้นตระกูลของพวกหมู่บ้านนั้น แลยังกล่าวกันอยู่เนืองๆ ว่า เดิมเปนจีน หลิมโต๊ะเคี่ยม นายช่างหล่อปืนนี้มาอยู่ในเมืองปัตตานีหลายปี น้องสาวลิ้มโต๊ะเคี่ยมชื่อเก๊าเนี่ยว ตามมาจากเมืองจีน มาปะหลิมโต๊ะเคี่ยมที่เมืองปัตตานีอยู่เฝ้าอ้อนวอนหลิมโต๊ะเคี่ยม ให้ละเสียจากเพศมลายู กลับไปเมืองจีน หลิมโต๊ะเคี่ยมก็ไม่ยอมไป เก๊าเนี่ยวซึ่งเป็นน้องสาวแต่เฝ้าอ้อนวอนหลิมโต๊ะเคี่ยมมานั้นประมาณหลายปี ลิ้มโต๊ะเคี่ยมก็ไม่ยอมไป แขงอยู่ เก๊าเนี่ยวซึ่งเป็นน้องสาว มีความเสียใจลิ้มโต๊ะเคี่ยมผู้พี่ชาย ผูกคอตายเสีย
ครั้นเก๊าเนี่ยวน้องสาวผูกคอตายแล้ว หลิมโต๊ะเคี่ยมผู้เป็นพี่ก็จัดแจงศพเก๊าเนี่ยวน้องสาวฝังไว้ในตำบลบ้านกะเสะ ทำเป็นฮ๋องสุยปรากฏอยู่ตลอดมาจนเดี๋ยวนี้ พวกจีนก็เลยนับถือว่าเปนผู้หญิงบริสุทธิ์อย่างหนึ่ง เปนคนรักชาติตระกูลอย่างหนึ่ง ได้มีการเซ่นไหว้เสมอทุกปีมิได้ขาด ที่ศพเก๊าเนี่ยวนี้..."

ชาติหกเคี้ยมแส้หลิมชื่อเคี่ยม หมายถึงเป็นจีนเชื้อสายฮกเกี้ยนแซ่ลิ้ม ชื่อเคี้ยง
หลิมโต๊ะเคี่ยม แต้จิ๋วอ่านว่า “หลิ่มเต่าเคี้ยง” จีนกลางว่า “หลินเต้าเฉียน” 林道乾
เก๊าเหนี่ยว สำเนียงแต้จิ๋วก็คือ “โกวเนี้ย” จีนกลางว่า “กูเหนี่ยง” 姑娘 แปลว่าแม่นาง นางสาว หรือสาวน้อย ไม่ใช่เป็นชื่อตามที่บันทึกระบุ หากแต่เป็นเรื่องธรรมดา ที่คนจีนในสมัยราชวงศ์หมิงจะไม่ให้ความสำคัญกับชื่อของผู้หญิง เรียกเพียงแค่สกุล(แซ่)เท่านั้น

เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล กระผมจะไม่ขอต่อเติมเสริมแต่ง เพียงแต่ใคร่ขอให้เยาวชนรุ่นใหม่ ที่มีการศึกษาที่ดีกว่าคนรุ่นก่อนได้ใคร่ครวญให้รอบคอบ ว่าควรจะแห่ตามกันไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วบ้านทั่วเมือง มีใครมาบอกว่าเจ้าที่ไหนเฮี้ยน หรือเทพที่ไหนดัง ก็แห่ตามกันไป หากแต่แก่นแท้ของธรรมะ ละชั่ว ประพฤติดี ทำจิตใจให้สะอาดผ่องใส กลับละเว้นไม่ปฏิบัติ อย่างนี้แล้ว การไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอศีลขอพร ก็ไม่ต่างอะไรกับการไปท่องเที่ยวทัศนาจรเท่านั้น

ตำนานเรื่องคำสาปของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนคนไทยบางกลุ่ม คนไทยเชื้อสายจีน คนไทยมุสลิม ไทยอิสานหรือไทยล้านนา ก็เป็นคนไทยเหมือนกัน เราจึงควรเคารพข้อแตกต่างเพียงส่วนน้อย แต่ส่วนใหญ่เราเหมือนกัน มีชาติที่เป็นเอกราชเดียวกัน ใช้ภาษาไทยเป็นเหมือนกัน มีพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน เรื่องตำนานคำสาปของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ผมจึงขออนุญาตไม่กล่าวถึง

หากสามารถกล่าวอะไรได้อีกในตอนท้าย ก็เพียงแต่ขอให้เพื่อนๆ ได้พิจารณาเรื่องราวให้รู้ชัดก่อนแล้วค่อยเชื่อ อย่าได้หลงเชื่อสิ่งใดๆ เพียงเพราะการชักชวนกันไป


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 08:56:05
ดูช่องจีน เห็นว่ากำลังจะทำพิธีจุดคบเพลิงเอเชี่ยนเกมส์กวางเจา ไม่แน่ใจว่าวันนี้หรือเปล่า อืม จุดคบเพลิงจริงๆด้วย กำลังถ่ายทอดสดอยู่พอดี


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 09:10:16
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 12 ตุลาคม 2553, 08:56:05
ดูช่องจีน เห็นว่ากำลังจะทำพิธีจุดคบเพลิงเอเชี่ยนเกมส์กวางเจา ไม่แน่ใจว่าวันนี้หรือเปล่า อืม จุดคบเพลิงจริงๆด้วย กำลังถ่ายทอดสดอยู่พอดี

น่าจะจุดไปแล้ว วัน หรือ สองวันที่แล้วนะครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 09:15:42
ขุนดูอยู่หรือเปล่า เห็นเขากำลังกล่าวสุนทรพจน์กัน อาจจะจุดไปแล้ว แต่วันนี้ส่งมอบคบเพลิงมั้ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 09:20:30
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 12 ตุลาคม 2553, 09:15:42
ขุนดูอยู่หรือเปล่า เห็นเขากำลังกล่าวสุนทรพจน์กัน อาจจะจุดไปแล้ว แต่วันนี้ส่งมอบคบเพลิงมั้ง

ไม่ได้ดูครับ ตอนนี้อยู่ที่ทำงาน  ผมเคยเห็นข่าวว่ามีพิธีจุดคบเพลิงที่ปักกิ่ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 09:34:41
พูดแล้วก็อิจฉาประเทศจีนนะ หน้าที่หูจิ่นเทากับเวินเจียเป่าก็คือกล่าวสุนทรพจน์ เดินเช็คแฮนด์และก้ปลอบโยนราษฏร อย่างอื่นมีหน่วยงานเฉพาะทำหมด ดูข่าวจีน จะเจอการแจ้งและตอบคำถามนโยบายด้านต่างๆต่อผู้สื่อข่าวและต่างชาติ จากโฆษกหน่วยงานต่างๆอยู่เสมอ เมื่อไรประเทศไทยจะสามารถเป็นระบบแบบนี้ได้บ้างนะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 09:56:02


มาครับ...อ่านเพลินเลย

พี่ว่าเมืองไทยเราก็มีระบบนะ เฮียจุ๊ง
แต่คนไม่ทำตามระบบไง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 10:05:39
ครับพี่หนุน ทำอะไรตามใจตนคือคนไทย
ดูข่าวด่วนจีนแล้ว ยืนยันว่าพิธีจุดคบเพลิงเพิ่งจุดเมื่อเช้านี้ที่ปักกิ่ง มีหูจิ่นเทาจุดคบเพลิง ประธานสหพันธ์์อะไรเอเชียมาเป็นพยาน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 12:04:12

หวัดดีตอนเที่ยงครับ........ท่านจุ๊ง..พี่หนุน..ครูตุ๋ย..น้องหยี..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน

เรื่องแน่นเอี้ยดเลยท่านจุ๊ง.........ขอเวลาอ่าน 2 วันนะ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 12:09:30
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 ตุลาคม 2553, 06:32:54
พี่จุ๊งเล่าสนุกดีค่ะ ..   emo43

ส่วนพี่แหลมก็เป็นฝ่ายแสงสีที่เยี่ยมมาก
เห็นภาพแล้วใจละลาย .. สวยเหลือเกิน


น้องหยี.....

เสียดายที่ลงภาพต้นฉบับไม่สะดวก..........เพราะเป็นภาพใหญ่ กินความจำเยอะอ่ะครับ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 12:53:27
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, 08:50:56
กลุ่มที่สองเป็นภูเขาเรืองนามของพุทธศาสนา

สี่ขุนเขาเรืองนามแห่งพุทธศาสนา จีนเรียกว่า “โฝเจี้ยวซื่อต้าหมิงซาน” 佛教四大名山 เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของพระโพธิสัตว์ทั้งสี่ ได้แก่ พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์(หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม) และพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ รายนามขุนเขาทั้งสี่แห่งมีดังนี้คือ

1. เอ๋อร์เหมยซาน 峨嵋山 หรือเขาง้อไบ๊(หง่อไบ๊)  เป็นขุนเขาทางทิศตะวันตก อยู่ที่มณฑลเสฉวน(ซื่อชวน) 四川 สูงจากระดับน้ำทะเล 3,099 เมตร เป็นที่สถิตของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ หรือผู่เสียนผูซ่า(โผวเฮี้ยงผ่อสัก) 普贤菩萨

2. อู่ไถซาน 五台山 เป็นขุนเขาทางทิศเหนือ อยู่ในมณฑลซานซี 山西 สูงจากระดับน้ำทะเล 3,058 เมตร เป็นที่สถิตของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ หรือเหวินซูผูซ่า(บุ่งซู้ผ่อสัก) 文殊菩萨

3. ผู่ถัวซาน 普陀山 เป็นขุนเขาทางทิศตะวันออก อยู่บนเกาะโจวซาน 舟山岛 นอกชายฝั่งทะเลมณฑลเจ้อเจียง 浙江 เขาผู่ถัวซาน สูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 284 เมตร เป็นที่สถิตของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ หรือกวนอินผูซ่า(กวงอิมผ่อสัก) 观音菩萨

4. จิ่วหัวซาน 九华山 เป็นขุนเขาทางทิศใต้ อยู่ในมณฑลอันฮุย 安徽 สูงจากระดับน้ำทะเล 1,342 เมตร เป็นที่สถิตของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์หรือตี้จั้งหวางผูซ่า(ตี่จั่งอ๊วงผ่อสัก) 地藏王菩萨




เอ๋อร์เหมยซาน  
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la61ts-2cd934.jpg)


อู่ไถซาน  
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la61um-a7f32d.jpg)


ผู่ถัวซาน  
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la61v8-67aa95.jpg)


จิ่วหัวซาน  
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la61vt-ff7515.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 13:05:51
ดีครับ ดี....
เอ้อ ใครนะใจดีช่วยลงรูปสุ่ยเหว่ยเสิ้งหมู่ให้ ดีจริง อ้อ มีรูปโม่เหนียง หลงหนี่ว์ด้วย ได้บรรยากาศดีจริง
อ้อ ไปเซินเจิ้นเมื่อหลายปีก่อน มีรูปปั้นเทพสตรีผู้สร้างมนุษย์ หนี่ว์วาด้วย ไม่แน่ใจว่าถ่ายรูปมาป่าว ถ้ามีจะลงให้ ส่วนเรื่องราว ต้องขุดหาดู




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 ตุลาคม 2553, 13:07:26
สนใจเรื่องเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวค่ะ
เคยมีคนเล่าประวัติให้ฟัง  แต่สั้นมาก
พี่จุ๊งใส่มาเต็มที่เลย .. จุใจจัง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 14:03:08
เก็บตกมาจากลูกศิษย์ ผู้หัดแปลจีนเป็นไทยในเน็ต

女娲造人 เทพธิดา”หนวี่ อวา”สร้างมนุษย์

ที่ประเทศจีน   มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า”มนุษย์”นั้นสร้างโดยเทพธิดา”หนวี่ อวา “   นับจากที่”ผานกู่”ได้ใช้ชีวิตและร่างกายเพื่อสร้างฟ้าและดินแล้วนั้น    ถึงแม้ว่าบนพื้นโลกจะมีภูเขามีน้ำ   มีดอกไม้มีต้นไม้   มีแมลงปลานกและสัตว์ป่า  แต่สำหรับเทพธิดาหนวี่ อวาแล้ว   กลับรู้สึกว่ายังขาดอะไรสักอย่าง    ดังนั้นนางจึงกำดินส่วนหนึ่งและผสมน้ำนิดหน่อย  ปั้นตุ๊กตาดินตามรูปร่างลักษณะของตนเองขึ้นมา

เวลา ผ่านไปสักครู่   ก็ปั้นตุ๊กตาดินที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายๆกับตนเองออกมาตัวหนึ่ง   มีอวัยวะทั้งห้าและแขนขาทั้งสี่ครบถ้วนสมบูรณ์   หนวี่ อวาเป่าลมไปที่ตัวตุ๊กตาหนึ่งที   จากนั้นวางไว้บนพื้น   มันขยับได้อย่างไม่น่าเชื่อ   หนวี่ อวามองดูแล้วพอใจยิ่งนัก   ก็ปั้นต่อไปอีกมากมาย    นางเรียกตุ๊กตาตัวน้อยๆนี้ว่า”มนุษย์”นางหวังที่จะสร้างมนุษย์แบบนี้มาก ขึ้นอีก   เพื่อพัฒนาโลกนี้ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น    แต่ว่าใช้มือปั้นนั้นช้าเกินไป    ดังนั้น  นางถือโอกาสดึงเถาวัลย์มากิ่งหนึ่ง     ชุบดินโคลนแล้วสะบัดลงที่พื้น    พบว่าพอดินโคลนหล่นลงที่พื้นก็กลายเป็นมนุษย์ตัวเล็กๆทันที    วิธีนี้เร็วกว่าการปั้นด้วยมือมากทีเดียว    นางยิ่งสะบัดก็ยิ่งดีใจ   การสร้างมนุษย์ก็ยิ่งมากขึ้น    นางได้ปล่อยให้ตุ๊กตาเหล่านี้กระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศ    ดังนั้น  โลกนี้จึงมี”มนุษย์”อยู่ทั่วทุกสารทิศ 

 “มนุษย์”ซึ่ง ถอดแบบมาจากรูปร่างลักษณะของเทพยดา   จึงแตกต่างจากสัตว์อื่นๆ     ยิ่งไม่ใช่จากการกลายพันธุ์ของสัตว์บางชนิด   แต่ทว่า  สืบเนื่องจากความยโสโอหังของมนุษย์   นึกว่าตนเองคือสัตว์ที่ประเสริฐที่สุด   ก็เริ่มไม่ให้ความเคารพต่อชีวิตของสัตว์อื่นๆ    เข่นฆ่าสัตว์อื่นอย่างไม่จำกัด    นึกว่า”พลังมนุษย์ย่อมชนะสวรรค์”จึงไม่เคารพฟ้าดิน  ไม่เคารพโลกที่เทพยดาได้ก่อร่างสร้างขึ้น    ได้โค่นไม้หักร้างถางพงอย่างไม่บันยะบันยัง   ทำลายระบบนิเวศน์วิทยา   กลายเป็นมือสังหารของโลก   เพื่อแย่งชิงผลประโยชน์ส่วนตัว    แม้ทำลายล้างเผ่าพันธุ์เดียวกันก็ไม่เสียดาย     นี่คือผลลัพธ์ของความเห็นแก่ตัวของมนุษย์

มนุษย์ ปัจจุบันดำเนินชีวิตภายใต้แนวความคิดที่ว่า”ตนเองถูกต้องเสมอ”มัวยืนหยัดใน ความรู้ที่ไม่ถ่องแท้(ไม่ลึกซึ้ง)ของตนเอง   มักจะมองไม่ทะลุปรุโปร่งถึงเรื่องราวความเป็นจริง   ได้กระทำในสิ่งที่ไม่สมควร   ก่อให้เกิดผลร้ายที่ไม่อาจชดเชยได้   หากคิดที่จะเปลี่ยนแปลง   ก็ต้องศึกษาอากัปกริยาการถ่อมตน   รักธรรมชาติ   รักความสงบสุข   เคารพฟ้าดินของคนยุคโบราณ   จึงจะอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆและธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน      และถึงจะไม่ผิดต่อเจตนาเดิมในการสร้างมนุษย์ของเทพยดา


(http://img98.imageshack.us/img98/2639/nvwa1m.jpg)
หนี่ว์วา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 14:29:03

หนี่ว์วา ไม่ถูกกับอสุนีเทพเหรอครับ.........ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 14:42:10
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 ตุลาคม 2553, 13:07:26
สนใจเรื่องเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวค่ะ
เคยมีคนเล่าประวัติให้ฟัง  แต่สั้นมาก
พี่จุ๊งใส่มาเต็มที่เลย .. จุใจจัง


จริงๆแล้ว จุ๊งเลี่ยงที่จะไม่เล่าเรื่องคำสาปเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว.

ด้วยคำสาปดังกล่าวจึงทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นอย่างมาก

เจ้าของห้องไม่อยากเล่า ผมก็ไม่อยากเสียมารยาทขยายความ........


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 14:53:15
ชุดนี้แถมครับ........

เล่าฝู่ซาน

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la63hw-e94a4c.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65jj-14d697.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65l7-271efa.jpg)



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 14:53:37

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65ob-bd978e.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65p8-256643.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65pw-af442e.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 14:57:47

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65tf-e7ee15.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65u5-3c49db.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65uy-b7360c.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 15:22:10
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 ตุลาคม 2553, 14:42:10
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 ตุลาคม 2553, 13:07:26
สนใจเรื่องเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวค่ะ
เคยมีคนเล่าประวัติให้ฟัง  แต่สั้นมาก
พี่จุ๊งใส่มาเต็มที่เลย .. จุใจจัง


จริงๆแล้ว จุ๊งเลี่ยงที่จะไม่เล่าเรื่องคำสาปเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว.

ด้วยคำสาปดังกล่าวจึงทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นอย่างมาก

เจ้าของห้องไม่อยากเล่า ผมก็ไม่อยากเสียมารยาทขยายความ........

คำสาปอะไรไม่รู้เรื่องเลย บอกแล้วว่าลอกเขามาทั้งนั้น ทั่นรู้อะไรก็มาลงแขกได้เลยครับทั่น
เห็นเขาบอกว่าหวงซาน สวยมั่กๆ อันดับทอปเลย ช่วยหามาลงด้วย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 15:53:56
งั้นก็ได้เลย...ทั่นจุ๊ง


คำสาปเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว


   เรื่องเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวเป็นตำนานที่เล่ากันมาหลายร้อยปี ศาลที่ประดิษฐานรูปสลักเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยว ปัจจุบันตั้งอยู่กลางเมืองปัตตานี ชาวบ้านเรียก ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ตำนานเกี่ยวกับศาลเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวมีว่า  แต่เดิมนั้นเมืองปัตตานีเรียกว่า เมืองตานี เป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง มีเรือสำเภานำสินค้าจากต่างเมืองมาค้าขายและขนถ่ายสินค้าเป็นประจำ ลิ่มโต๊ะเคี่ยมเป็นพ่อค้าหนุ่มชาวจีนนำเรือสำเภาไปค้าขายตามเมืองต่างๆ ได้แวะมาที่เมืองตานี และนำสินค้าเครื่องบรรณาการไปมอบให้เจ้าเมืองตานี จึงได้มีโอกาสพบธิดาเจ้าเมืองซึ่งมีรูปโฉมงดงาม ลิ่มโต๊ะเคี่ยมเกิดหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ส่วนนางก็มีใจตรงกัน ติดขัดอยู่ที่ว่าฝ่ายชายเป็นคนต่างชาติ  ต่างศาสนา บิดาของนางจึงขอให้ลิ่มโต๊ะเคี่ยมเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามตามอย่างนาง ซึ่งลิ่มโต๊ะเคี่ยมก็ยินยอมโดยได้ส่งเรือสำเภาให้เดินทางกลับไปส่งข่าวให้มารดาทราบว่าตนจะตั้งหลักแหล่งอยู่ที่เมืองตานี ไม่กลับไปเมืองจีนอีก เมื่อมารดาทราบข่าวก็เศร้าโศกเสียใจมาก
นางลิ่มกอเหนี่ยวผู้เป็นน้องสาวจึงตัดสินใจเดินทางมาหาพี่ชายเพื่อขอร้องให้กลับไปเยี่ยมมารดา
        เมื่อลิ่มกอเหนี่ยวมาที่เมืองตานี ก็พบว่าพี่ชายได้เข้ารีตนับถือศาสนาอิสลาม และกำลังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยเจ้าเมืองตานีก่อสร้างมัศยิดหลังใหญ่เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานทางศาสนาซึ่งนางเห็นว่าเป็นความผิดอย่างมหันต์ เพราะจะทำให้วิญญาณของบรรพบุรุษต้องเสียใจที่ลูกหลานนอกรีตนอกรอย นางพยายามขอให้พี่ชายวางมือจากการก่อสร้าง
แต่ลิ่มโต๊ะเคี่ยมก็ไม่ยอมฟังเสียง ในที่สุดนางลิ่มกอเหนี่ยวก็ลั่นวาจาสาปแช่งขออย่าให้พี่ชายสร้างมัสยิดได้สำเร็จได้ แล้วคืนนั้นเอง นางก็ตัดสินใจผูกคอตายกับกิ่งมะม่วงหิมพานต์ที่ตรงหน้ามัสยิดที่กำลังก่อสร้างนั้น เมื่อลิ่มโต๊ะเคี่ยมรู้ก็เศร้าโศกเสียใจ และได้จัดการฝังศพนางไว้ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ต้นนั้น


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 15:58:05
       หลังจากทำศพน้องสาวเสร็จ ลิ่มโต๊ะเคี่ยมก็พยายามสร้างมัสยิดต่อไป โดยเจตนาให้เป็นอนุสรณ์แก่น้องสาวด้วย
แต่ปรากฏว่า เมื่อสร้างไปถึงยอดโดมอันเป็นสัญลักษณ์สำคัญก็เกิดเหตุอัศจรรย์ฟ้าผ่าลงตรงกลางทำให้ยอดโดมพังทลายลงมา ครั้งแรกยังไม่มีใครคิดเป็นอย่างอื่นนอกจากเห็นว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติและลงมือสร้างต่อไปใหม่ แต่พอสร้างถึงยอดโดมก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาเป็นครั้งที่สอง ทำให้ยอดโดมพังทลายลงไปอีก ลิ่มโต๊ะเคี่ยมจึงนึกถึงคำสาปแช่งของน้องสาวขึ้นมาได้และสั่งให้คนวางมือจากการก่อสร้างทั้งๆที่สร้างเสร็จแล้วเป็นส่วนมากเหลืออยู่แต่เพียงยอดโดมที่เป็นสัญลักษณ์ของมัสยิดเท่านั้น
        มีเรื่องเล่าว่า เมื่อประมาณร้อยปีมานี้ มีผู้พยายามสร้างยอดโดมต่อ แต่ก็ประสบเหตุอาถรรพ์เช่นเดิมอีก กล่าวคือเกิดฟ้าผ่าลงมาตรงกลางครั้งที่สาม เป็นเหตุให้ผู้คนเชื่อว่าเป็นเพราะคำสาปแช่งของนางลิ่มกอเหนี่ยวนั่นเอง ในปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้ยังคงเหลือ โครงร่างอยู่เช่นเดิม ที่ตำบลรือเซาะ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร และหลุมศพของนางลิ่มกอเหนี่ยวก็ยังคงปรากฏอยู่ช่นกัน   เรื่องเมืองปัตตานีสร้างมัสยิดไม่สำเร็จเพราะคำสาปแช่งของนางลิ่มกอเหนี่ยวได้แพร่สะพัดไปทั่ว ต่างก็ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และอาถรรพ์ของคำสาป หลุมศพของนางลิ่มกอเหนี่ยวจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีคนไปกราบไหว้ไม่ขาด และเชื่อกันว่าเป็นหลุมศพของเจ้าแม่ เมื่อมีเรื่องทุกข์ร้อนก็พากันไปบนบานศาลกล่าวขอให้เจ้าแม่ช่วยเหลือ และก็ปรากฏว่าสัมฤทธิผลไปตามๆกันคน  จึงพากันนับถือมากขึ้นทุกที ต่อมามีชาวจีนคนหนึ่งได้ตัดกิ่งมะม่วงหิมพานต์ที่นางลิ่มกอเหนี่ยวผูกคอตายนำไปแกะสลักเป็นรูปเหมือนของนางและสร้างศาลเล็กๆ ขึ้นไว้ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์นั้น นำรูปแกะสลักไปประดิษฐานไว้ให้คนไปเคารพบูชา
        เมื่อไม่นานมานี้เอง ชาวจีนในจังหวัดปัตตานีส่วนมากมีความเห็นว่า ศาลเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวเป็นที่เคารพบูชาของคนทั่วไป ด้วยถือว่าเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ แต่ศาลนั้นตั้งอยู่ไกลจากตัวเมือง ไม่สะดวกแก่การประกอบพิธีบวงสรวง จึงได้ร่วมมือกันสร้างศาลเจ้าแห่งใหม่ขึ้นที่ตัวเมืองปัตตานี คือ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง และอัญเชิญรูปสลักเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวมาประดิษฐานที่ศาลเจ้าแห่งใหม่ และยังคงเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไปตราบจนทุกวันนี้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 ตุลาคม 2553, 16:18:24
รูปสลักเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la6896-e158ee.jpg)


สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la68ah-0227c5.jpg)


ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la68c2-99a557.jpg)


กรือเซะ - มัสยิศต้องสาบ
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la68dj-67ba21.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 17:08:15
สลับบรรยากาศด้วยเพลงประกอบจากหนังจีนยุคเก๋ากึ๊กส์เรื่องเพลงรักชาวเรือ

一山还有一山高
เหนือฟ้ายังมีฟ้า

(男)哎一山还有一山高哎强中自有强中手哎一声山歌我唱出口哎气死女娇娥哎
(ชาย) เอย..เหนือฟ้ายังมีฟ้านะ    คนที่เก่งกาจก็ต้องเจอกับคู่แข่งที่เก่งกาจเช่นกัน   แค่ฉันร้องเพลงชาวเขาออกมาคำเดียว   จะทำให้สาวเจ้าคนงามคลั่งใจตาย

(女)哎前面来了个小哥哥哎手拿渔桨口唱歌请问小哥唱什么哎愘是来对歌哎
(หญิง) เอย...ข้างหน้ามีพี่ชายมาคนหนึ่งเอย   มือถือไม้พายปากก็ร้องเพลงไป  ขอถามพี่ชายว่าจะร้องเพลงอะไรหรือ  ใช่มาโต้เพลงกันอ๊ะป่าว

(男)我家有个知心人哎许我八月配成婚天上起云人心变哎她要选唱歌人哎
(ชาย)  ที่บ้านฉันมีผู้รู้ใจอยู่คนหนึ่ง  ฉันขอไว้แล้วว่าจะแต่งงานกันในเดือนแปด  เกิดฟ้าเมฆครึ้มใจคนแปรเปลี่ยน   เธอต้องการคัดเลือกคนร้องเพลงเอย

(女)过往事情我不问哎此地对歌选新人好歌自有好歌配哎万人作见证哎
(หญิง)  เรื่องราวในอดีตฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวนะ  ในที่นี้ขอโต้ตอบเพลงเพื่อคัดเลือกคู่   เพลงดีต้องมีเพลงที่มาประกบนะ  มีมหาชนเป็นพยาน

(男)唱呀唱哎唱歌条件我先讲如果我唱得强过你
 (ชาย)  ร้องก็ร้องสิ(ใครกลัวใคร) เงื่อนไขการร้องฉันขอพูดก่อนนะ  ถ้าหากฉันร้องชนะคุณล่ะ

(女)梳妆打扮等你娶
(หญิง)  จะแต่งองค์ทรงเครื่องไว้รอคุณมาสู่ขอ

(男)如果我唱得比你强
(ชาย)  ถ้าหากฉันร้องเพลงได้ดีกว่าคุณ

(女)你家妈妈我叫娘哎我叫娘哎
(หญิง)  คุณแม่ของคุณที่บ้าน  ฉันจะเรียกท่านว่า”แม่”ก็แล้วกัน

(男)唱起唱起就唱起哎先把见识比一比哎
什么长长上了天,什么长长水中间,哪样长长街前卖,哪样长长妹跟前哎
(ชาย)  เอ้า ร้องเพลง ร้องเพลง ก็ร้องสิ ก่อนอื่นมาแข่งระดับความรอบรู้กันก่อน
 อะไรยาวๆอยู่กลางเวหา   อะไรยาวๆอยู่กลางสายน้ำ   ยาวๆแบบไหนมีขายหน้าตรอกซอย   ยาวๆแบบไหนอยู่ตรงหน้าน้องเอย

(女)银河长长上了天,莲藕长长水中间,米线长长街前卖,丝线长长妹跟前
(หญิง)    ทางช้างเผือกยาวๆอยู่กลางเวหา    รากบัวยาวๆอยู่กลางสายน้ำ     เส้นหมี่ยาวๆมีขายหน้าตรอกซอย    เส้นด้ายยาวๆอยู่ตรงหน้าน้องเอย

(男)什么圆圆上了天,什么圆圆水中间,哪样圆圆街前卖,哪样圆圆妹跟前
(ชาย)    อะไรกลมๆอยู่กลางเวหา    อะไรกลมๆอยู่กลางสายน้ำ     กลมๆแบบไหนมีขายหน้าตรอกซอย     กลมๆแบบไหนอยู่ตรงหน้าน้องเอย

(女)月亮圆圆上了天,荷叶圆圆水中间,粑粑圆圆街前卖,镜子圆圆妹跟前
(หญิง)  ดวงจันทร์กลมๆอยู่กลางเวหา    ใบบัวกลมๆอยู่กลางสายน้ำ      ขนมปาปากลมๆมีขายหน้าตรอกซอย   กระจกกลมๆอยู่ตรงหน้าน้องเอย (หมายเหตุ ขนมปาปาทำด้วยแป้งหมี่ ลักษณะนิ่ม รูปร่างกลมๆมีสอดไส้)

(男)什么高高上了天,什么高高水中间,哪样高高街前卖,哪样高高妹跟前
(ชาย)  อะไรสูงๆอยู่กลางเวหา   อะไรสูงๆอยู่กลางสายน้ำ    สูงๆแบบไหนมีขายหน้าตรอกซอย   สูงๆแบบไหนอยู่ตรงหน้าน้องเอย

(女)青山高高上了天,大船高高水中间,竹竿高高街前卖
(หญิง)  ขุนเขาสูงๆอยู่กลางเวหา    เรือใหญ่สูงๆอยู่กลางสายน้ำ    ราวไม้ไผ่สูงๆมีขายหน้าตรอกซอย    

(男)哪样高高妹跟前
(ชาย)   สูงๆแบบไหนอยู่ตรงหน้าน้องล่ะ

(女)小郎哥哎你高高地站妹跟前哎妹跟前哎
 (หญิง)  ก็พี่ชายไงล่ะ     ตัวของคุณสูงๆยืนอยู่ตรงหน้าน้อง หน้าน้องนี่เอง


http://www.youtube.com/v/YtXHO11D-IA?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 22:23:39
http://www.youtube.com/watch?v=yuMbsQ7joiY


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 12 ตุลาคม 2553, 22:26:23
http://www.youtube.com/watch?v=7mWKeZT0z5g


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 10:58:45
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 ตุลาคม 2553, 14:57:47

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65tf-e7ee15.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65u5-3c49db.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65uy-b7360c.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65uy-b7360c.jpg)

ขอบคุณเฮียแหลม เฮียจุ๊งมากมากที่สรรหาเรื่องและรูป
มาให้ได้อ่านได้ดูกันอย่างเพลิดเพลิน
อิ อิ มีแอบฟัง(ทำนอง)เพลงจีนเพราะๆด้วย

ว่าแต่เฮียแหลมรูปนี้เป็น "นายทหาร"มากเลยครับ
ยืนตัวตรงแน๋ว


 emo48:)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 11:12:10
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 ตุลาคม 2553, 14:29:03

หนี่ว์วา ไม่ถูกกับอสุนีเทพเหรอครับ.........ท่านจุ๊ง

เอ อันนี้ไม่รู้นะ ท่านแหลมเปี๊ยบคงจะสับสนกับเรื่องเมขลาล่อแก้วละมั้ง แต่เท่าที่รู้ หนี่ว์วากับเทพอสนี คนละรุ่นกัน หนี่ว์วานี่รุ่นเดอะ ส่วนเทพอสนีเกิดในยุคเดี๋ยวกับนาจา ช่วยจิวกงปราบราชวงศ์ซาง สถาปนาราชวงศ์โจว อันนี้ปรากฏในนิยายอิงพงศาวดารที่รุ่นเดอะไทยแปลไว้แล้วในชื่อว่า"ห้องสิน"(แปลว่าการมอบบรรดาศักดิ์แก่ปวงเทพ) น่าจะพอหาอ่านได้ในสมุดข่อยหรือใบลานที่ไหนได้บ้างล่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 ตุลาคม 2553, 11:19:51
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 11:12:10
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 ตุลาคม 2553, 14:29:03

หนี่ว์วา ไม่ถูกกับอสุนีเทพเหรอครับ.........ท่านจุ๊ง

เอ อันนี้ไม่รู้นะ ท่านแหลมเปี๊ยบคงจะสับสนกับเรื่องเมขลาล่อแก้วละมั้ง แต่เท่าที่รู้ หนี่ว์วากับเทพอสนี คนละรุ่นกัน หนี่ว์วานี่รุ่นเดอะ ส่วนเทพอสนีเกิดในยุคเดี๋ยวกับนาจา ช่วยจิวกงปราบราชวงศ์ซาง สถาปนาราชวงศ์โจว อันนี้ปรากฏในนิยายอิงพงศาวดารที่รุ่นเดอะไทยแปลไว้แล้วในชื่อว่า"ห้องสิน"(แปลว่าการมอบบรรดาศักดิ์แก่ปวงเทพ) น่าจะพอหาอ่านได้ในสมุดข่อยหรือใบลานที่ไหนได้บ้างล่ะ

แซวเล่นนะท่าน...........เห็นบนหัวรูปปั้นมีล่อฟ้า

แล้วทำไมท่อนล่าง หนี่ว์วา เป็นงู?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 ตุลาคม 2553, 11:23:19
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 10:58:45
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 ตุลาคม 2553, 14:57:47

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65tf-e7ee15.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65u5-3c49db.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65uy-b7360c.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65uy-b7360c.jpg)

ขอบคุณเฮียแหลม เฮียจุ๊งมากมากที่สรรหาเรื่องและรูป
มาให้ได้อ่านได้ดูกันอย่างเพลิดเพลิน
อิ อิ มีแอบฟัง(ทำนอง)เพลงจีนเพราะๆด้วย

ว่าแต่เฮียแหลมรูปนี้เป็น "นายทหาร"มากเลยครับ
ยืนตัวตรงแน๋ว


 emo48:)

ลมมันเย็นนนนนน.........ครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 11:49:08
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65p8-256643.jpg)

เคเบิ้ลสายท้าทายมฤตยู คนเป็นโรคหัวใจ สตรีมีครรภ์และเด็กห้ามขึ้น



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 ตุลาคม 2553, 12:32:02
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 11:49:08
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la65p8-256643.jpg)

เคเบิ้ลสายท้าทายมฤตยู คนเป็นโรคหัวใจ สตรีมีครรภ์และเด็กห้ามขึ้น



มีข้อห้ามและข้อจำกัดหลายอย่างก่อนขึ้น Rope way.

ภาพเสียวกว่านี้ก็มี เดี๋ยวหาดูก่อน........


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 ตุลาคม 2553, 12:39:25
เจอแล้ว.....


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la7rs8-a03160.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la7rsu-5222a4.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la7rth-cc628c.jpg)
สู้ว๊อยยย......ยังไหว.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 13:18:16
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:01:34

ท่านจุ๊ง......

เพลงกระบี่เย้ยยุทธจักร ท่วงทำนองคล้ายเพลงชาวเรือมาก

จัดเป็นเพลงชาวเรือหรือเปล่า?


เพลงกระบี่เย้ยยุทธจักร ชื่อเพลงแปลว่า "เยาะเย้ย เหวย เหวยฟ้า" บรรยายถึงความอาจหาญ ไม่กลัวฟ้ากลัวดินของพระเอก ยังไม่มีต้นฉบับแปล ฟังเพลงไปพลางๆก่อน

http://www.youtube.com/v/iknGg9l4a7s?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 13:18:47
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 12:39:25
เจอแล้ว.....

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la7rth-cc628c.jpg)
สู้ว๊อยยย......ยังไหว.[/center]

พี่เหลือ สองนิ้ว  เองเหรอ



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 13:25:23
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:18:47
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 12:39:25
เจอแล้ว.....

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la7rth-cc628c.jpg)
สู้ว๊อยยย......ยังไหว.[/center]

พี่เหลือ สองนิ้ว  เองเหรอ



เหลือสองนิ้ว
กร๊ากกกก  กร๊ากกกก


 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 ตุลาคม 2553, 13:25:34
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:18:16
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:01:34

ท่านจุ๊ง......

เพลงกระบี่เย้ยยุทธจักร ท่วงทำนองคล้ายเพลงชาวเรือมาก

จัดเป็นเพลงชาวเรือหรือเปล่า?


เพลงกระบี่เย้ยยุทธจักร ชื่อเพลงแปลว่า "เยาะเย้ย เหวย เหวยฟ้า" บรรยายถึงความอาจหาญ ไม่กลัวฟ้ากลัวดินของพระเอก ยังไม่มีต้นฉบับแปล ฟังเพลงไปพลางๆก่อน

http://www.youtube.com/v/iknGg9l4a7s?fs=1&hl=en_US&autoplay=1


ชอบมาก........ขอบคุณทั่นจุ๊ง

ขอตั้งเปิดออโต้ไว้เลยละกันครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 13:27:20
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:18:47
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 12:39:25
เจอแล้ว.....

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la7rth-cc628c.jpg)
สู้ว๊อยยย......ยังไหว.[/center]

พี่เหลือ สองนิ้ว  เองเหรอ



สองนิ้ว ภาษาไทยแปลว่าสู้ว้อย เอ! ไม่ถนัดภาษาปะกิต แปลว่าอะไรเอ๋อ emo48:) emo48:)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 ตุลาคม 2553, 13:27:30
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:25:23
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:18:47
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 12:39:25
เจอแล้ว.....

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la7rth-cc628c.jpg)
สู้ว๊อยยย......ยังไหว.[/center]

พี่เหลือ สองนิ้ว  เองเหรอ



เหลือสองนิ้ว
กร๊ากกกก  กร๊ากกกก


 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)

 emo47   emo47   emo47

 emo19:((:


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 16:12:31
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 10 ตุลาคม 2553, 22:04:09
จริงเหรอพี่จุ๊ง .. นี่หยีไม่รู้ขนาดนี้เลยหรือคะ
เป็นคนเดียวหรือเปล่าเนี่ย !!
   


emo29:P:

   พี่ก็ไม่รู้...จริงๆนะ..
    จุ๊ง...[/color]ช่างหาเรื่องมาเล่านะ..ดีจัง..
       พี่นะอยู่นอกวงไม่ค่อยรู้ภาษาจีน..รู้แต่..ภาษาลาว...เหอเหอ..


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 16:13:12
พูดถึงเพลงกระบี่เย้ยยุทธจักร ก็ทำให้นึกถึงเพลงแม่แบบที่กล่าวอ้างถึงในนิยายเรื่องนี้ คือเพลงกว่างหลิงซ่าน ถือเป็นหนึ่งในสิบแม่ไม้เพลงจีนเดิม ที่เอามาให้ฟังบรรเลงด้วยพิณโบราณ เสียงจะเยือกเย็นกว่าบรรเลงด้วยโกวเจ็งหรือขิมโบราณที่มักจะเจอในตลาด พิณโบราณหาฟังยาก ฟังแล้วอารมณ์ปลอดโปร่ง อ้อ จะพูดถึงประวัติของเพลงจีนเดิมเพลงนี้หน่อย เพลงนี้เป็นเพลงที่แต่งเพื่อรำลึกถึงเนี่ยเจิ้ง ซึ่งไปฝึกเรียนพิณ10ปี และทำลายโฉมหน้าตัวเอง เพื่อปลอมตัวไปฆ่าอ๋องหานสำเร็จ แต่ตัวตายไปด้วย เรื่องเนี่ยเจิ้งนี้ถูกนำมาสร้างหนังโดยชอว์บราเดอร์เมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้ว ชื่อเรื่องอสูรเพชฌฆาต แสดงนำโดยหวังอยู่ เป็นเรื่องที่ผมชอบมาก ดูโดยไม่เบื่อ บทเพลงนี้ถูกฝังในสุสานแล้วมีผู้บ้าดนตรีไปขุดพบที่หลัง ตรงเป๊ะตามที่กล่าวในนิยาย แต่รายละเอียดจำไม่ได้แล้ว เพลงนี้ยาวหน่อยนะ 9นาทีฝ่าๆ ต้องทนฟังหน่อย

http://www.youtube.com/v/V8pKJAdv7wo?fs=1&hl=en_US



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 16:40:41
ยินดีต้อนรับพี่อ้อยเข้าสู่มุมแห่งความคลาสสิกแบบจีนๆครับ ตอนนี้ผมเกิดอารมณ์เพลงขึ้นมาพอดี ว่าจะโพสต์เพลงแม่ไม้เพลงจีนอีกเพลง ที่อาจจะคุ้นหูท่านแควนๆหนังจีน เพลงนี้ชื่อแปลเป็นทั้งไทยและจีนว่า "ซุ่มล้อมทุกสารทิศ" กำลังเลือกอยู่ รอแป๊บนะครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 13 ตุลาคม 2553, 16:50:12
เพลง "ซุ่มล้อมทุกสารทิศ"นี้ ในหนังจะใช้สร้างบรรยากาศตอนกำลังจะชี้เป็นชี้ตายกัน โดยมากเพลงนี้จะบรรเลงโดยใช้ผีผา กีตาร์แบบจีนๆ


http://www.youtube.com/v/cq9w79TwyUo?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 14 ตุลาคม 2553, 08:57:07
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 16:40:41
ยินดีต้อนรับพี่อ้อยเข้าสู่มุมแห่งความคลาสสิกแบบจีนๆครับ ตอนนี้ผมเกิดอารมณ์เพลงขึ้นมาพอดี ว่าจะโพสต์เพลงแม่ไม้เพลงจีนอีกเพลง ที่อาจจะคุ้นหูท่านแควนๆหนังจีน เพลงนี้ชื่อแปลเป็นทั้งไทยและจีนว่า "ซุ่มล้อมทุกสารทิศ" กำลังเลือกอยู่ รอแป๊บนะครับ

    ขอบคุณคร๊าบบบ...ที่ยินดีต้อนรับ.. emo43 emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 14 ตุลาคม 2553, 09:22:31
วันก่อนเจ้าขุนทองพูดถึงเส้นทางสายไหม วณิพกในฐานะนักขุด เลยขุดมาให้อ่านกัน

จุดกำเนิดของเส้นทางสายไหมนั้น ในบันทึกของจีน เช่น สื่อจี้ของซือหม่าเชียน ( 史記 – 司馬遷 ) หรือตำราของฝรั่งมังค่า ที่ศึกษาอารยะธรรมตะวันออก ล้วนมีข้อความที่สอดคล้องต้องกันว่า เกิดจากการที่จักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ ( 漢武帝 ) แห่งราชวงศ์ฮั่น ต้องการปราบพวกคนเถื่อนซงหนู ( 匈奴 ) อย่างเด็ดขาด ประกอบกับฮั่นอู่ตี้เคยได้รับข้อมูลของพวกซงหนูมาบ้าง จึงตัดสินใจที่จะส่งทูตไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับพวกเยว่จือ ( 月氏 ) ซึ่งเคยอาศัยอยู่ทางทิศตะวันตกของจีน แต่ถูกพวกซงหนูโจมตีจนบ้านแตก ต้องถอยร่นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือไกลออกไป  โดยคิดว่าหากได้พวกเยว่จือมาเป็นพันธมิตร ร่วมกันโจมตีซงหนูทั้งสองด้าน  ก็น่าจะเอาชนะพวกซงหนูจอมกวนได้โดยง่าย

            ฮั่นอู่ตี้ก็จึงประกาศรับอาสาสมัคร และได้จางเชียน ( 張騫 ) ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย แต่มีหัวใจเต็มร้อย ออกเดินทางไปยังดินแดนซึ่งเวลานั้นคนจีนยังไม่รู้จัก ปีนั้นเป็นปี ก่อนคริสต์กาล 138 ปี (138 B.C.) หรือหากเทียบเป็นปีพ.ศ. ก็จะเป็นพ.ศ. 405

            จางเชียนกับคณะออกเดินทางจากเมืองหล่งซี (隴西 ) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของนครฉางอานไปได้ไม่ไกล ก็ถูกพวกซงหนูล้อมจับได้  ชะรอยจางเชียนคงได้แสดงความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเป็นที่ประทับใจพวกซงหนู  ก็จึงไม่ได้ถูกฆ่าทิ้ง เพียงแต่ถูกกักตัวไว้ แถมซงหนูยังหาทางล้างสมอง เพื่อเอาไว้เป็นพวก ขนาดแต่งเมียชาวซงหนูให้ แต่จางเชียนก็ไม่เคยลืมภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา คิดหาทางที่จะหนีจากพวกซงหนูอยู่ตลอดเวลา จางเชียนถูกกักตัวอยู่นานกว่าสิบปี จึงหนีได้สำเร็จ

            จางเชียนกับสมุนคู่ใจสองคนหนีซงหนูจนกระทั่งถึงเมืองต้าเอวียน ( 大宛 ) ปัจจุบันคือเมืองเฟอร์กาน่า ประเทศอุซเบกิสถาน เจ้าเมืองต้าเอวียนให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี โดยให้ผู้นำทางพาไปส่งยังเมืองคังจวี ( 康居 ) แล้วจากเมืองคังจวีจึงมีคนพาไปส่งต่อยังเมืองเยว่จืออีกทีหนึ่ง ซึ่งเวลานั้น พวกเยว่จือพยายามเข้าครอบครองดินแดนต้าเซี่ย ( 大夏 ) ปัจจุบันอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอัฟกานิสถาน  และได้เปลี่ยนชื่อเป็นต้าเยว่จือ ( 大月氏 ) แต่จางเชียนประกอบภารกิจไม่สำเร็จ เนื่องจากต้าเยว่จือมีความสงบสุขดีแล้ว ไม่ต้องการทำสงครามกับซงหนูอีก จางเชียงตื๊ออยู่เป็นปีก็ไม่ได้ผล จึงจำใจกลับบ้าน ขากลับก็ยังถูกซงหนูจับตัวไปกักขังอีกร่วมปี ในที่สุดก็สามารถหนีรอดกลับมาถึงนครฉางอานได้อีกครั้งในปีก่อนคริสต์ศักราช 126 ปี (126B.C.) รวมเวลาทั้งสิ้นถึง 13 ปี
  แม้ภารกิจการหาแนวร่วมมาช่วยรบจะล้มเหลว แต่จางเชียนก็กลับมาพร้อมกับเรื่องราวและข้อมูลต่างๆ มากมายเกี่ยวกับดินแดนตะวันตก เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้แก่จักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ ประวัติศาสตร์จีนจึงถือสาเหตุของการเดินทางไปดินแดนตะวันตกในครั้งนั้น อีกทั้งการผจญภัยของจางเชียนเป็นจุดกำเนิดของเส้นทางสายไหม ไม่ใช่เพราะจีนอยากได้ม้าสวรรค์หรอกครับ  เพราะเรื่องม้าสวรรค์เกิดขึ้นภายหลังอีกหลายปี

            ต่อมาในปี พ.ศ. 424 หรือเทียบค.ศ. ก็เท่ากับก่อนปีค.ศ. 119 ปี (119B.C.) จางเชียนถวายความเห็นต่อฮั่นอู่ตี้ให้ไปผูกสัมพันธ์กับพวกอูซุน ( 烏孫 ) ซึ่งขณะนั้นเป็นลูกไล่ของพวกซงหนู  ด้วยว่าหากจีบพวกอูซุนมาเป็นพวกได้สำเร็จ ก็เท่ากับได้ตัดกำลังปีกขวาของซงหนู และอาจจะได้เมืองใกล้เคียงอีกหลายเมืองมาเป็นพันธมิตรด้วย เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะใช้กระหนาบพวกซงหนูให้อยู่หมัด  จะเห็นว่าสาเหตุใหญ่ก็ยังเป็นความต้องการที่จะปราบพวกซงหนู
               แน่นอนที่สุด ราชสำนักฮั่นจะไปเชื่อมสัมพันธ์ทั้งที ย่อมไม่มีคำว่ากระจอก คณะทูตของจางเชียน ออกเดินพร้อมด้วยวัวควายแพะแกะนับหมื่นตัว อีกทั้งเครื่องทองและแพรพรรณมากมายเพื่อเป็นของขวัญของกำนัลให้แก่กษัตริย์อูซุน ซึ่งหลังจากได้เข้าเฝ้าแล้ว กษัตริย์เมืองอูซุนก็เป็นปลื้มมาก แต่ก็ไม่กล้าตัดสินใจเป็นพันธมิตรร่วมรบกับราชสำนักฮั่น ด้วยยังเกรงกลัวอิทธิพลของซงหนู  จางเชียนพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างหนัก ในขณะเดียวกันก็แบ่งผู้ช่วยให้เดินทางไปสร้างสัมพันธ์ยังเมืองอื่นๆ เช่น ต้าเอวียน ( 大宛 )  คังจวี ( 康居 )   ต้าเยว่จือ ( 大月氏 )  ต้าเซี่ย ( 大夏 ) อันสี ( 安息 ) เซินตู๋ ( 身毒 ) ฯลฯ ปรากฏว่า ภารกิจในการชักชวนเมืองต่างๆ ให้มาร่วมโจมตีพวกซงหนู ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าอีกครั้งหนึ่ง แต่กลับประสบความสำเร็จในด้านการเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีและการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม กษัตริย์อูซุนถึงขนาดให้คณะทูตตามมาส่งจางเชียนถึงนครฉางอาน ในปี 115 B.C. (เพราะอยากมาดูนครหลวงของจีนให้เห็นกับตา) พร้อมกับถวายเครื่องบรรณาการตอบแทนฮั่นอู่ตี้  หลังจากนั้นในปีต่อๆ มา คณะทูตผู้ช่วยของจางเชียนก็ทยอยกันกลับจากเมืองต่างๆ ทางดินแดนตะวันตก พร้อมกับผู้แทนและของกำนัลแปลกๆ จากแดนไกล  เส้นทางสายไหมก็จึงมีจุดกำเนิดด้วยประการเช่นนี้



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 14 ตุลาคม 2553, 09:35:04
เมื่อคืนเห็นพี่แหลมกับพี่จุ๊ง ไปร่วมเสวนาที่หอซีมะโด่งด้วยครับ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la9du7-607d63.jpg)



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 14 ตุลาคม 2553, 10:54:57

รับจ๊อบเป็นหน้าม้า และเด็กขนของ อ่ะครับ...... น้องขุน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 14 ตุลาคม 2553, 11:48:21
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:25:34
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:18:16
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:01:34

ท่านจุ๊ง......

เพลงกระบี่เย้ยยุทธจักร ท่วงทำนองคล้ายเพลงชาวเรือมาก

จัดเป็นเพลงชาวเรือหรือเปล่า?


เพลงกระบี่เย้ยยุทธจักร ชื่อเพลงแปลว่า "เยาะเย้ย เหวย เหวยฟ้า" บรรยายถึงความอาจหาญ ไม่กลัวฟ้ากลัวดินของพระเอก ยังไม่มีต้นฉบับแปล ฟังเพลงไปพลางๆก่อน

http://www.youtube.com/v/iknGg9l4a7s?fs=1&hl=en_US


ชอบมาก........ขอบคุณทั่นจุ๊ง

ขอตั้งเปิดออโต้ไว้เลยละกันครับ


เอาล่ะ เนื้อเพลงมาแล้ว

沧海一声笑
เยาะเย้ย เหวย เหวยฟ้า

沧海一声笑
เยาะเย้ยกับชีวิต

滔滔两岸潮
คลื่นซัดสาดโครมๆกระทบสองฟากฝั่ง

浮沉随浪只记今朝
น้ำขึ้นหรือน้ำลงก็ช่างมัน สนใจเฉพาะตอนนี้

苍天笑
หัวร่อท้าทายฟ้า

纷纷世上潮
คลื่นที่ทะยอยสาดซัดมา

谁负谁胜出天知晓
ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ฟ้าย่อมรู้ดี

江山笑
หัวร่อไปทั่วแผ่นดิน

烟雨遥
ฝนปรอยๆเห็นแต่ไกล

涛浪淘尽红尘俗事几多骄
คลื่นซัดสาดชะล้างเรื่องราวในโลกีย์เป็นเรื่องที่น่าผยองเพียงไหน

清风笑
หัวร่อกับลมที่โชยพัดมา

竟惹寂寥
ที่บันดาลให้หงอยเหงา

豪情还剩了
ความฮึกเหิมยังคงมีอยู่

一襟晚照
ท่วมท้นเต็มหัวอก

沧海一声笑
เยาะเย้ยกับชีวิต

滔滔两岸潮
คลื่นซัดสาดโครมๆกระทบสองฟากฝั่ง

浮沉随浪只记今朝
น้ำขึ้นหรือน้ำลงก็เห็นได้เฉพาะตอนนี้

苍天笑
หัวร่อท้าทายฟ้า

纷纷世上潮
คลื่นที่ทะยอยสาดซัดมา

谁负谁胜出天知晓
ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ฟ้าย่อมรู้ดี

江山笑
หัวร่อไปทั่วแผ่นดิน

烟雨遥
ฝนปรอยๆเห็นแต่ไกล

涛浪淘尽红尘俗事几多骄
คลื่นซัดสาดชะล้างเรื่องราวในโลกีย์เป็นเรื่องที่น่าผยองเพียงไหน

苍生笑
หัวร่อท้าทายฟ้า

不再寂寥
ไม่หงอยเหงาอีกแล้ว

豪情仍在痴痴笑笑
ความฮึกเหิมยังคงมีอยู่ จะหัวร่อให้ก้องฟ้า

啦......
ลา......



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 14 ตุลาคม 2553, 13:25:56
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 14 ตุลาคม 2553, 10:54:57

รับจ๊อบเป็นหน้าม้า และเด็กขนของ อ่ะครับ...... น้องขุน

กิจกรรมหอ ต้องการเป็นอย่างยิ่งค่ะ  emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 14 ตุลาคม 2553, 13:31:59

สวัสดีน้องจุ๊งค่ะ  emo4:))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 14 ตุลาคม 2553, 14:50:25
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 14 ตุลาคม 2553, 10:54:57

รับจ๊อบเป็นหน้าม้า และเด็กขนของ อ่ะครับ...... น้องขุน

งานเก่าผมเลยนะเนี่ย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 ตุลาคม 2553, 18:26:46
อ้าว .. หยีก็ด้วย
ไม่ว่าจะอยู่คณะไหน  ตกลงว่า .. สุดท้ายแล้ว เราทำงานเป็น "หน้าม้าและเด็กขนของ" เหมือนกันหมดเลยหรือ


เหอ ๆ ๆ ๆ
   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 ตุลาคม 2553, 14:18:23

สวัสดีครับ......ท่านจุ๊ง..พี่เสียด..พี่อ้อย..พี่หนุน..น้องหยี..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน

เจ้าของห้องไปบิวอารมณ์อยู่ที่ไหนละเนี้ยะ?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 ตุลาคม 2553, 14:23:14
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 14 ตุลาคม 2553, 14:50:25
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 14 ตุลาคม 2553, 10:54:57

รับจ๊อบเป็นหน้าม้า และเด็กขนของ อ่ะครับ...... น้องขุน

งานเก่าผมเลยนะเนี่ย


อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 14 ตุลาคม 2553, 18:26:46
อ้าว .. หยีก็ด้วย
ไม่ว่าจะอยู่คณะไหน  ตกลงว่า .. สุดท้ายแล้ว เราทำงานเป็น "หน้าม้าและเด็กขนของ" เหมือนกันหมดเลยหรือ


เหอ ๆ ๆ ๆ
    emo20:)):)

จริงอ่ะ?

เหอๆๆๆ..........หัวอกเดียวกัน.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 15 ตุลาคม 2553, 14:37:41
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 14:18:23

สวัสดีครับ......ท่านจุ๊ง..พี่เสียด..พี่อ้อย..พี่หนุน..น้องหยี..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน

เจ้าของห้องไปบิวอารมณ์อยู่ที่ไหนละเนี้ยะ?

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 14:18:23

สวัสดีครับ......ท่านจุ๊ง..พี่เสียด..พี่อ้อย..พี่หนุน..น้องหยี..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน

เจ้าของห้องไปบิวอารมณ์อยู่ที่ไหนละเนี้ยะ?

สวัสดีน้องๆทุกคน.... ท่านจุ๊งไปไหนล่ะ....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เย่อ-ซีมะโด่ง70 ที่ 15 ตุลาคม 2553, 14:44:23
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 14 ตุลาคม 2553, 18:26:46
อ้าว .. หยีก็ด้วย
ไม่ว่าจะอยู่คณะไหน  ตกลงว่า .. สุดท้ายแล้ว เราทำงานเป็น "หน้าม้าและเด็กขนของ" เหมือนกันหมดเลยหรือ


เหอ ๆ ๆ ๆ
    emo20:)):)
  emo26:D อย่า อย่า ...อย่ามายุ่งกะผม นายสั่งไว้ ส่วนมากได้เป็น "รปภ."  emo48:) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 ตุลาคม 2553, 14:53:24

รปภ.....แปลว่า รอเป็นภูต หรือเปล่า? น้องเย่อ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 15 ตุลาคม 2553, 17:31:54
สวัสดีพี่น้อง วันนี้แย่ สมองหมุน ตาลายแต่เช้าเลย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 ตุลาคม 2553, 22:51:53
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 17:31:54
สวัสดีพี่น้อง วันนี้แย่ สมองหมุน ตาลายแต่เช้าเลย

ตอนนี้เป็นไงบ้าง ดีขึ้นรึยัง?...........ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ตุลาคม 2553, 23:18:32
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 22:51:53
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 17:31:54
สวัสดีพี่น้อง วันนี้แย่ สมองหมุน ตาลายแต่เช้าเลย

ตอนนี้เป็นไงบ้าง ดีขึ้นรึยัง?...........ท่านจุ๊ง

เมาหรือคะ ??     emo47  .. แต่เมื่อคืนพี่จุ๊งไม่ได้ร่วมในการประชุม ครม. ที่ Pola Pola กับเขาด้วยนี่นา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 16 ตุลาคม 2553, 08:22:16
อันนี้โรคเก่า สมองมีปัญหา วันไม่ดีคืนไม่ดีก็กำเริบที


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 17 ตุลาคม 2553, 20:22:07


สวัสดีเฮียจุ๊ง
ดีขึ้นหรือยังครับนี่

อยู่ๆอาการมันเกิดขึ้นมาได้ยังไงเนี่ย
ไปหาหมอด้วยหรือปล่าว
ให้หมอเช็คหน่อยไม่ดีหรือ
แล้วอีกไม่กี่วันก็จะเดินทางไปเยี่ยมพี่สาวที่เมืองจีนอีกด้วย
สุขภาพต้องพร้อมๆนะเฮียจุ๊ง เป็นห่วงว่ะ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 17 ตุลาคม 2553, 20:26:13
กินเบียร์แล้วจะหายรึเปล่า?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 ตุลาคม 2553, 20:44:51

เห็นว่าตอนนี้อาการดีแล้วไม่ใช่หรือ?.......ท่านจุ๊ง

หาเรื่องมาลงสัก 2-3 เรื่อง ก่อนไปจีน ได้ป่ะ......


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 23:18:15
ได้เลย เดี๋ยวจะหาดู


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เย่อ-ซีมะโด่ง70 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 23:42:11
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 14:53:24

รปภ.....แปลว่า รอเป็นภูต หรือเปล่า? น้องเย่อ
  emo26:D น่าน น่าน...ชวนไปนู๊นนนนเลย  รออยู่...แต่ให้เวลาผมหน่อยเถ๊อะ emo48:) emo29:P:


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เย่อ-ซีมะโด่ง70 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 23:44:30
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:25:23
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 13:18:47
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, 12:39:25
เจอแล้ว.....

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/la7rth-cc628c.jpg)
สู้ว๊อยยย......ยังไหว.[/center]

พี่เหลือ สองนิ้ว  เองเหรอ



เหลือสองนิ้ว
กร๊ากกกก  กร๊ากกกก


 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)
emo26:D  ไรอ่ะ.?   emo47 emo24:( emo24:(


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เย่อ-ซีมะโด่ง70 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 23:45:59
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 08:22:16
อันนี้โรคเก่า สมองมีปัญหา วันไม่ดีคืนไม่ดีก็กำเริบที
emo26:D หายไว ๆนะครับ... emo4:)) emo48:)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 19 ตุลาคม 2553, 00:07:34

.....ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ เฮียจุ๊ง น้องรัก.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 ตุลาคม 2553, 22:10:33
ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงครับ ตอนนี้ก็ดีแล้ว อ่านนิยายจีนจบไปเรื่องนึง วันก่อนรับปากท่านแหลมเปี๊ยบว่าจะหาเรื่องเล่ามาทิ้งท้ายก่อนไปพักฝนที่จีน เดี๋ยวลองหาดูว่ามีสำเนาเรื่องของสี่ยอดหญิงงามจีนในประวัติศาสตร์เจ้าของสมญา จันทราหลบเร้นหาย บุปผาสะเทิ้นอาย มัจฉาหมอบหลบลี้ ห่านป่าร่วงธรณีหรือเปล่า จำได้ว่าแอบเก็บไว้ เดี๋ยวขอเวลาขุดก่อน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 19 ตุลาคม 2553, 22:14:37
รอฟัง     emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 ตุลาคม 2553, 22:30:17
ขุดขึ้นมาก็เจอเลย ขอเกริ่นไว้หน่อยว่าหญิงงามในประวัติศาสตร์จีนมีไม่น้อย โดยมากจะงามพอที่จะล่มเมืองได้เลย แต่ที่ได้รับการยกย่องจริงมีไม่มาก ทั้งนี้บางคนอาจจะไม่ได้รับการยกย่องอาจจะเพราะมีจิตใจโหดร้าย หรืออาจจะไม่มีบทบาทมากนักในหน้าประวัติศาสตร์จีน

沉鱼、洛雁、闭月、羞花

ตัวหนังสือจีนสี่คู่แปดตัวอักษรที่ปรากฏอยู่ข้างบนนี้ อ่านว่าเฉินหวี  ลั่วเอี้ยน  ปี้เอวี้ย  ซิวฮวา  ถ้าผมจำไม่ผิด ท่านอาจารย์ถาวร สิกขโกศล ได้แปลเป็นไทย แถมยังรจนาให้คล้องจองกันว่า
 
มัจฉาจมวารี   ปักษีตกนภา
จันทร์หลบโฉมสุดา   มวลผกาละอายนาง

ประวัติศาสตร์อันยาวนานของจีนนั้น ปรากฏสาวงามในแต่ละยุคแต่ละสมัยเป็นจำนวนมาก  แต่ที่เลื่องลือระบือนามจนเป็นตำนานเล่าขานนั้น มีอยู่สี่นางด้วยกันคือ ไซซี หวางเจาจวิน เตียวเสี้ยน และสนมเอกหยางกุ้ยเฟย และเป็นที่มาของอุปมาอุไมยดังกล่าวข้างต้น

ยอดหญิงงามคนแรกนั้น มีนามว่าไซซี(สำเนียงแต้จิ๋ว) 西施 (ซีซือ) นางมีความงามอย่างอมตะ เรียกว่างามข้ามสหัสวรรษเพราะคนทั่วโลกหลายชาติหลายภาษาในสหัสวรรษใหม่  ก็ยังไม่ลืมที่จะเปรียบเทียบหญิงงามว่า งามเหมือนไซซี ตัวอย่างเช่นครูเพลงสุรพล สมบัติเจริญผู้ล่วงลับไปแล้ว ตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ได้แต่งและร้องเพลงชื่อ “มอง” ไว้ว่า

“มอง... เธอสาวเธอสวยฉันจึงได้มอง
หากเธอไม่สวยฉันจะไม่มอง
หากเธอไม่แจ่มฉันจะไม่จ้อง
ฉันจะไม่มองให้หัวใจเต้น... 
ต่อให้เทพีที่อยู่บนฟ้า
ต่อให้สีดาก็ยังเป็นสอง
ต่อให้ไซซีที่โลกยกย่อง
ถ้าเจอะกันสองต่อสอง
ฉันว่าพระอินทร์ยังต้องมองเธอ..” 

กล่าวกันว่ายามไซซีไปซักล้างที่ริมธาร ปลาในลำธารก็ยังตกใจในความงามของไซซีกระทั่งจมลงไปในน้ำ เลยได้รับการเปรียบเปรยว่างามจนมัจฉาจมวารี ไซซีมีชีวิตอยู่ในสมัยปลายชุนชิว ราว 500 ปีก่อนคริสต์ศักราช ห่างจากปัจจุบันประมาณ 2,500 ปี ขออนุญาตถอดความเป็นภาษาไทยย่อๆ เพื่อประโยชน์ของผู้อ่านบางท่าน ขอท่านที่รู้ภาษาจีน อย่าเพิ่งรำคาญ...

ประมาณปี 496 ก่อนปีค.ศ. อู๋อ๋อง(อู๋หวาง)เหอหลีว์ 吴王阖闾 แห่งแคว้นอู๋ 吴 ได้รับบาดเจ็บจากการรบกับแคว้นเยว่ 越 ฟูไช 夫差 ผู้เป็นบุตรได้ขึ้นเป็นอู๋อ๋องแทนบิดา ประกาศจะต้องล้างแค้นให้ได้ อีกสองปีต่อมา ฟูไชให้อู๋จื่อซวี 伍子胥 เป็นแม่ทัพไปตีแคว้นเยว่ ปรากฏว่าคราวนี้ทัพของแคว้นเยว่ถูกตีแตกย่อยยับ โกวเจี้ยน 越王勾践 อ๋องแห่งแคว้นเยว่เชิญตัวฟั่นหลี่ 范蠡 และเหวินจ่ง文种 มาปรึกษา ขุนนางทั้งสองแนะให้ยอมจำนนเพื่อผ่อนหนักเป็นเบา แล้วค่อยหาทางแก้ภายหลัง

โกวเจี้ยนและฮูหยิน ต้องยอมลดตัวลงไปเป็นคนเลี้ยงม้าของอู๋อ๋องฟูไช เวลาฟูไชจะเสด็จโดยรถม้า โกวเจี้ยนยอมเป็นผู้จูงม้าของรถพระที่นั่ง แสดงให้เห็นว่ายอมสวามิภักดิ์ ครั้งหนึ่งฟูไชไม่สบาย โกวเจี้ยนขอไปเยี่ยมไข้ฟูไชด้วยความเป็นห่วง และไม่มีใครคาดถึง โกวเจี้ยน...  นั่นแน่.. มีคนดักคอผมว่า ฉวยโอกาสทำร้ายฟูไช คำตอบคือ.. ไม่ใช่ครับ

ยังมีต่อ..



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 ตุลาคม 2553, 22:33:24
โดยไม่มีใครคาดถึง โกวเจี้ยนเอา “อึ” 粪便 ของฟูไชในกระโถนขึ้นมาชิม เล่นเอาขุนนางของฟูไช และทหารรักษาพระองค์อ้วกแตกกันเป็นแถว แต่โกวเจี้ยนตีหน้าเฉย เก็บอาการอย่างดี พร้อมกราบทูลอู๋อ๋องฟูไชว่า..  “ข้าพเจ้าเคยศึกษาวิชาแพทย์มาบ้าง ได้ชิมอุจจาระของท่านอ๋องแล้ว บอกได้ว่าอีกไม่กี่วัน อาการป่วยของท่านอ๋องก็จะหาย...”  อู๋อ๋องถึงกับอึ้งกิมกี่ อ้าปากค้าง ประทับใจโกวเจี้ยนมาก รับสั่งว่าที่ผ่านมาข้าฯ เข้าใจท่านผิด บัดนี้รู้แล้วว่า ท่านมีความจริงใจ หลังจากนี้ ข้าฯ จะปล่อยตัวเจ้าและฮูหยินกลับบ้าน..” เห็นไหมครับท่าน การเมืองนั้น เล่นเล่ห์เล่นเหลี่ยม ลูกล่อลูกชนกันตั้งแต่สองพันกว่าปีที่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งเป็นกันในปัจจุบันนี้

โกวเจี้ยนกลับถึงแคว้นเยว่ 越 ตั้งปณิธานแน่วแน่ที่จะล้างอายให้ได้ จึงทุ่มเททำนุบำรุงบ้านเมืองให้เข้มแข็ง ออกตรวจสภาพความเป็นอยู่ของราษฎรอยู่เสมอ และเพื่อเตือนสติตนเอง ตกค่ำจะหนุนขอนไม้ต่างหมอน ทั้งยังแขวนดีสัตว์ที่มีรสขมไว้ เวลากินข้าวก็หมั่นชิมรสขมของดีนั้น (กันลืม) จึงเป็นที่มาของวลี.. นอนหนุนขอน ชิมดีขม 卧薪尝胆

นอกจากนี้ โกวเจี้ยนยังคัดเลือกสาวงามของแคว้นเยว่มาได้สองคน คนหนึ่งชื่อซีซือ(ไซซี) 西施 อีกคนชื่อเจิ้งต้าน 郑旦 มาฝึกระบำและมารยาท จากนั้นฟั่นหลี่ได้นำสาวงามสองคนนี้ไปถวายให้อู๋อ๋องฟูไช 吴王夫差  เพื่อให้อู๋อ๋องลุ่มหลง จะได้ไม่สนใจกิจการบ้านเมือง ขุนนางอู๋จื่อซวี 伍子胥 พยายามเตือนสติอู๋อ๋องฟูไช แต่ฟูไชหลงเสน่ห์ไซซีจนหัวปักหัวปำ เลยบอกให้อู๋จื่อซวีไปตายซะ (ประทานกระบี่ให้)

เพียงไม่กี่ปีที่โกวเจี้ยนซุ่มฟิตอยู่ที่แคว้นเยว่ แคว้นเยว่ก็มั่งคั่งเข้มแข็ง ส่วนแคว้นอู๋มีแต่ผุกร่อน เพราะผู้นำประเทศเอาแต่ปรนเปรอตัวเอง สร้างปราสาทราชวังใหญ่โต ดนตรีระบำรำฟ้อน ฟุ่มเฟือยสารพัด แต่อาณาประชาราษฎร์แห้งเหี่ยวหัวโต ในราวปี 473 ก่อนปีค.ศ. แคว้นอู๋ก็สิ้นชาติ เพราะถูกแคว้นเยว่ล้มล้าง

ในบันทึกของจีนนั้น มีเรื่องราวของไซซีน้อยมาก แต่มีเรื่องเล่าต่อมาว่า เมื่อแคว้นอู๋ถูกทำลายแล้ว ฟั่นหลี่ 范蠡 ได้พาไซซี 西施 หนีไปครองรักด้วยกันอย่างสงบ เพราะฟั่นหลี่ไม่อยากเป็นอย่างอู๋จื่อซวี... “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล”



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 20 ตุลาคม 2553, 05:16:54
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 19 ตุลาคม 2553, 22:10:33
ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงครับ ตอนนี้ก็ดีแล้ว อ่านนิยายจีนจบไปเรื่องนึง วันก่อนรับปากท่านแหลมเปี๊ยบว่าจะหาเรื่องเล่ามาทิ้งท้ายก่อนไปพักฝนที่จีน เดี๋ยวลองหาดูว่ามีสำเนาเรื่องของสี่ยอดหญิงงามจีนในประวัติศาสตร์เจ้าของสมญา จันทราหลบเร้นหาย บุปผาสะเทิ้นอาย มัจฉาหมอบหลบลี้ ห่านป่าร่วงธรณีหรือเปล่า จำได้ว่าแอบเก็บไว้ เดี๋ยวขอเวลาขุดก่อน

ขอถามครับ  ที่พี่จุ๊งอ่านนิยายจีน คืออ่านที่เป็นภาษาจีนหรือเปล่าครับ  หรือพี่อ่านฉบับแปล
ตอนนี้ ผมอ่านข้อเขียนของหลายๆคน เกี่ยวกับนิยายกำลังภายในของจีนใน เวปผู้จัดการ  ทำให้อยากกลับมาอ่านอีกรอบ หลังจากเคยไปเช่าหนังสือมาอ่านสมัยอยู่หอ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 20 ตุลาคม 2553, 05:30:45
นอนหนุนขอน ชิมดีขม 卧薪尝胆

ถ้าพี่แหลม ก็ต้องเป็น

กินของขม  ชมเด็กสาว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 ตุลาคม 2553, 07:54:31
ก็อ่านนิยายในเน็ต หรือจะพูดง่ายๆว่าฟังเขาอ่านนิยาย เรื่องเล่าในเน็ตมีอยู่2แบบ คือนักเล่ามืออาชีพอาจจะเอาเรื่องเก่าๆ ปรัมปรามาเรียบเรียงใหม่และก็เล่าเองแบบเล่านิทานเหมือนวณิพกแบบยาขอบในสามก๊กฉบับวณิพก หรือไม่ก็อาจจะเป็นการที่ผู้เล่าเอาเรื่องที่เขาแต่งมาแล้วมาอ่านในลักษณะการเล่า อาจจะใส่ไข่บ้างหรือจัดบรรยากาศประกอบเรื่องเล่าบ้างตามถนัด อย่างกำลังภายในนี่ที่เอามาเล่าหรืออ่านแบบเล่าที่มากที่สุดก็เห็นจะมีของกิมย้ง กิมย้งแต่งนิยายกำลังภายใน15เรื่อง ถูกนำมาถ่ายทอดทางเสียงทุกเรื่องทั้งภาคภาษาจีนกลางและภาษากวางตุ้ง บังเอิญสมัยเด็กเข้าโรงหนังทีบ้านที่เบตงจะมีหนังประเภทงิ้วกวางตุ้งมาฉายประจำ บางทีฟังพวกนี้ก็ทำให้รำลึกถึงความหลังสมัยเด็ก อ้อ นอกนั้นก็จะมีของโก้วเล้งอยู่บ้าง ไม่มากนักที่เห็นก็จะมีเรื่องฤทธิ์มีดสั้น เซียวฮื้อยี้ ชอลิ่วเฮียง เล็กเซี่ยวหงส์ ส่วนของคนอื่นก็จะมีเรืื่องนางพญาผมขาว และเจ็ดกระบี่เทียนซานของเนี่ยอู้เซ็งหรือเหลียงอวี่เซิง ส่วนนิยายอ่านนี่สามารถโหลดมาได้เกือบทุกเรื่อง อย่างของหวงอี้ สมัยก่อนโหลดมาเพียบ เพียงแต่เรื่องของหวงอี้ อ่านแล้วเครียด เลยขี้เกียจอ่าน ขนาดที่เขาแปลมายังอ่านไม่กี่เรื่องเลย ต้นฉบับภาษาจีนก็อ่านยากใหญ่ อีกอย่างนิยายที่โหลดมา บางทีเขารีบพิมพ์ ไม่มีตรวจปรูํฟ อ่านแล้วงงประจำ ใช้ฟังสบายกว่ากันเยอะเลย แต่ต้นฉบับก็โหลดมาด้วยเพื่อประกอบการฟัง อ้อ นิยายกำลังภายในใหม่แปลเป็นไทยที่พอหาฟังได้ก็มีเรื่องมือสังหารเนี่ยเสี่ยวอู๋

นิยายจีนตอนนี้ที่ติดตามฟังก็จะเป็นนิยายแบบแนวเต๋า แบบพวกที่ฝึกเซียนน่ะ มีการฝึกวิชามาร และการต่อสู้เข่นฆ่ากันเหมือนกำลังภายใน ลัทธิเต๋าเชื่อว่าคนเราจะประกอบไปด้วย3วิญญาณ6ดวงมาลย์ คนเราสามารถฝึกจิตได้ เมื่อถึงระดับจะต้องผ่านอุปสรรคจากฟ้าผ่าจากเทพอสนีให้ได้ แล้วจะมีโอกาสขึ้นสู่พิภพที่เหนือกว่าพร้อมกับอายุที่ยืนยาว บ้างเป็นพันปี บ้างเป็นหมื่นปี พวกสัตว์ พวกต้นไม้ก็สามารถฝึกตนได้เหมือนกันก็สามารถไปสู่พิภพใหม่ได้เช่นกัน ตอนนี้มีนิยายแนวนี้ออกมาเยอะ ในเน็ตติดกันงอมแงม ติดตามฟังมา3-4เรื่อง ฟังจบแค่เรื่องเดียว นอกนั้นผู้แต่งยังแต่งไม่จบ ผู้เล่าก้เลยชะงัก นิยายพวกนี้แปลเป็นไทยไม่รู้จะนิยมมากน้อยขนาดไหน แต่กำลังภายในตอนนี้อิ่มตัว อ้อ นิยายกำลังภายในอันดับหนึ่งในเน็ตจากเว็บwww.tingchina.com ต้องนับเรื่องแปดสุดยอดเส้าหลิน เป็นเรื่องอิงประวัติศาสตร์ที่คิดว่าแต่งได้ไม่แพ้กิมย้งเลยหล่ะ โดยเฉพาะวิชาเฉพาะตัวของพระเอกก็คือวิชานิทราสวัสดิ์ จะเป็นการฝึกวิชาเมื่อนอนหลับ และเมื่อถึงระดับ7สามารถเข้าไปในความฝันผู้อื่นได้ เรื่องพวกนี้ถ้าเล่าแล้วยาว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 ตุลาคม 2553, 09:22:04
หาเรื่องสี่ยอดหญิงงามเรื่องอื่นนอกจากมัจฉาจมวารีไม่เจอ แต่ดูเนื้อเรื่องเลยนึกถึงวันเทศกาลเดือนห้าของจีนหรือที่ไทยรู้จักกันในชื่อวันกินบะจ่าง เลยเอามาเสริม

ตวนอู่ วันกวีแห่งชาติ    รำลึกถึงชวีหยวน

วันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 ในปฏิทินการเกษตรของจีนเรียกว่าวันตวนอู่ 端午   端 คือช่วงต้น   เดือน 5 เรียกว่าเดือน 午   และเวลา 午  ถือเป็นเวลา 阳  จึงเรียกว่าวัน  端阳อีกชื่อหนึ่ง     และเดือน 5  ซ้อนกับวันที่ 5จึงเรียกวันฉงอู่ 重午ด้วย  ถือเป็นหนึ่งใน 3 เทศกาลใหญ่ของชาวจีน(อีก 2 เทศกาลคือ 春节วันตรุษจีน และ中秋节วันไหว้พระจันทร์)   วันนี้มีเรื่องราวของวีรชนผู้รักชาติเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มากมาย     เป็นวันที่รำลึกถึง อู่จื่อซวี่ วีรชนผู้รักชาติในสมัยชุนชิว    เป็นวันที่รำลึกถึงชวีหยวน  กวีผู้รักชาติในสมัยจ้านกว๋อ  ปลายสมัยราชวงศ์โจว     เป็นวันที่รำลึกถึงเฉาเอ๋อ ธิดากตัญญูในสมัยตงฮั่น     และเป็นวันที่รำลึกถึงชิวจิ่น วีรสตรีในสมัยการปฏิวัติประชาธิปไตยของ ดร.ยัดซุนเซ็น    คนไทยเรารู้จักกันว่าเป็นวันกินบะจ่าง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 ตุลาคม 2553, 09:25:20
อู่จื่อซวี่ 伍子胥 เดิมเป็นคนเมืองฉู่ 楚     ครอบครัวถูกกษัตริย์โหดฉู่ผิงหวาง ประหารสิ้น     อู่จื่อซวี่ หนีรอดไปอยู่ที่เมืองอู๋ ซึ่งเป็นคู่แค้นกับเมืองฉู่    อู่จื่อซวี่ มีร่างกายสูงใหญ่บุคลิกเหนือคนธรรมดา    แต่ไม่ได้รับความสนใจจากอ๋องเหลียวแห่งเมืองอู๋    แต่องค์ชายกวาง กลับเห็นคุณค่าของอู่จื่อซวี่ จึงรับไว้เป็นคนสนิท     ต่อมาอู่จื่อซวี่ ร่วมมือกับจวนจู ช่วยเหลือองค์ชายกวาง     ฉวยโอกาสช่วงที่กำลังทหารส่วนใหญ่ไปทำศึกกับเมืองฉู่     วางแผนจัดงานเลี้ยงให้จวนจู ปลอมเป็นคนส่งอาหาร     แล้วซ่อนกระบี่สั้นในท้องปลานึ่งลอบสังหารอ๋องเหลียว ยึดบัลลังค์ได้สำเร็จ (เรื่องนี้บริษัทชอว์บราเดอร์ ได้นำมาสร้างเป็นหนังบู๊ถึง 2 ครั้ง     ครั้งแรกนำแสดงโดยหวังหยู่     ครั้งที่ 2 นำแสดงโดยเดวิดเจียง     ส่วนกระบี่ที่ซ่อนอยู่ในท้องปลานึ่ง     ก็คือกระบี่ไส้ปลาที่ปรากฏในนิยายบู๊ลิ้มของโกวเล้งอยู่หลายเรื่อง)     

หลังจากองค์ชายกวาง ได้นั่งบัลลังค์ก็คือจักรพรรดิ์ เหอหลู 吴阖庐    ที่ใช้ซุนอู่ 孙武 เป็นเสนาธิการทหาร    โจมตีจนยึดเมืองฉู่ได้สำเร็จ    อู่จื่อซวี ได้ขุดเอาศพของฉู่ผิงหวาง ขึ้นมาเฆี่ยนตี 300 ไม้เป็นการแก้แค้น     จักรพรรดิ์ เหอหลู แต่งตั้งซุนอู่เป็นเสนาธิการฝ่ายทหาร     อู่จื่อซวี เป็นเสนาธิการฝ่ายการเมือง    ทำสงครามจนตนเองได้ครองความเป็นจ้าวในสมัยชุนชิว     แต่เหอหลูเสียชีวิตในสนามรบระหว่างทำสงครามกับเมืองเยว่ 越       บุตรชายของเหอหลู   ฟูไช 夫差 ผูกใจเจ็บแค้นต่อเมืองเยว่    ใช้เวลา 3 ปีสะสมเสบียงระดมกำลังทหารเข้าโจมตีเมืองเยว่    ปิดล้อม อ๋องเยว่ โกวเจี้ยน 勾践 ไว้ที่เขาไขว้จีซาน      อ๋องเยว่ โกวเจี้ยน รู้ว่าไม่อาจต้านทานกำลังของเมืองอู๋ จึงขอเจรจาสงบศึก      โดยเสนอตัวเองและครอบครัวเป็นตัวประกัน      อู่จื่อซวี่  เสนอว่า    โจรไม่อาจปล่อยเอาไว้     ศัตรูไม่อาจให้ความปรานี     โกวเจี้ยน เป็นคนไม่ซื่อปากพูดอย่างใจคิดอย่าง      ถ้าหากไม่ฉวยโอกาสนี้กำจัดเสียต้องเป็นภัยในภายหลัง      แต่ฟูไชเป็นคนชอบเอาหน้า     ประกอบกับโกวเจี้ยนใช้เงินทองซื้อตัวป๋อพี คนสนิทของฟูไช ไว้     จึงทำให้ฟูไชยอมรับเงื่อนไขสงบศึก     รับโกวเจี้ยน ไว้เป็นตัวประกัน     ให้ทำหน้าที่เป็นคนเลี้ยงม้า     คนในครอบครัวของโกวเจี้ยน ก็ต้องทำงานเหมือนสามัญชน     โกวเจี้ยน ก้มหน้าทนรับความอดสูอยู่ 3 ปี     ฟูไชเห็นว่าโกวเจี้ยน ไม่มีทีท่าจะคิดการใหญ่จึงยอมปล่อยตัวให้กลับเมืองเยว่     ซึ่งก็ได้รับการทัดทานอย่างหนักจากอู่จื่อซวี่ 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 ตุลาคม 2553, 09:28:45
โกวเจี้ยน กลับมาจากเมืองอู๋  มอบงานบ้านงานเมืองให้ขุนนางคนสนิท    ฟ่านหลี่ 范蠡 และเหวินจ่ง 文种  ดูแล   เพื่อเตือนไม่ให้ลืมความอัปยศใน 3 ปีที่เมืองอู๋    จึงย้ายไปทำไร่ทำนาใช้ชีวิตร่วมกับสามัญชนที่เขาไขว้จีซาน     นอนพื้นปูด้วยฟางหญ้าหนุนขอนไม้แขวนดีขมไว้ตรงหน้า     ทุกครั้งก่อนกินข้าวจะต้องกลืนดีขมก่อนทุกครั้ง     ในประวัติศาสตร์เรียกว่า   นอนพื้นหนุนขอนกลืนดีขม    ในขณะเดียวกันก็หมั่นส่งเครื่องบรรณาการไปเอาใจฟูไช     แล้วยังส่งหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองเยว่ ไซซี (西施)    ไปยั่วยวนฟูไช จนลุ่มหลงชนิดโงหัวไม่ขึ้น(ไซซี เป็นหนึ่งในหญิงงามล่มเมืองในประวัติศาสตร์จีน    และเรื่องนี้ก็ได้สร้างเป็นภาพยนต์หลายครั้ง)

   อู่จื่อซวี่  คัดค้านเรื่องนี้อีกเช่นกันและพยายามว่ากล่าวตักเตือนฟูไช     จนฟูไชโกรธประทานกระบี่ให้อู่จื่อซวี่ จัดการกับตัวเอง    อู่จื่อซวี่  ประคองกระบี่แหงนหน้าหัวเราะกล่าวว่า     เราติดตามจักรพรรดิ์เหอหลู  ทำศึกตั้งแต่เหนือจรดใต้     จนเหอหลูได้ครองความเป็นจ้าว     นึกไม่ถึงว่าวันนี้ท่านอ๋องเชื่อฟังคนประจบสอพลอ     มอบความตายให้แก่ข้า     แผ่นดินอู๋ คงถึงกาลสูญสิ้นแน่แล้ว    กล่าวจบก็ใช้กระบี่ควักเอาหัวใจของตนเองส่งให้ฟูไช    ก่อนตายยังสั่งกับคนสนิทว่า     หลังจากเราตายแล้วให้ควักเอาดวงตาของเราติดไว้ที่หน้าประตูเมือง     เราจะเบิ่งตามองดูกองทัพเมืองเยว่ บุกเข้าโจมตีเมืองอู๋ ในวันข้างหน้า     ฟูไชโกรธจึงสั่งให้ทหารห่อศพของอู่จื่อซวี่   โยนทิ้งน้ำเป็นอาหารปลาในวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5    หลังจากอู่จื่อซวี่ ตายแล้ว    โกวเจี้ยน นำกองทัพเมืองเยว่ โจมตีเมืองอู๋  สำเร็จ     ครองความเป็นจ้าวคนสุดท้ายในสมัยชุนชิว    ต่อมาชาวบ้านต่างทำพิธีรำลึกถึงจิตใจที่ยอมพลีชีพเพื่อชาติของอู่จื่อซวี่ ในวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 ของทุกปี


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 ตุลาคม 2553, 09:49:20
屈原   ชวีหยวน กวีผู้รักชาติและประเพณีกินบ๊ะจ่าง  แข่งเรือมังกร

ชวี หยวน 屈原แซ่ชวี 屈 ชื่อผิง 平 ชื่อรองว่าหยวน 原 เป็นคนเมืองฉู่ มีชีวิตอยู่ในช่วงกลางค่อนปลายในยุคจ้านกว๋อ  ห่างจากอู่จื่อซวี่ ประมาน 200 ปี  ในสมัยนั้น เมืองฉู่เป็นเมืองใหญ่มีประชากรประมาน 5 ล้านคน   เคยเป็นเมืองที่เข้มแข็งที่สุดใน 7 พยัคฆ์รัฐสงคราม 战国七雄 แต่พอมาถึงสมัยฉู่ฮว๋ายหวาง กษัตริย์ผู้โง่เขลา   การเมืองอ่อนแอบ้านเมืองระส่ำระสาย   ช่วงนั้นเป็นช่วงที่รัฐฉิน   เข้มแข็งขึ้นเป็นพยัคฆ์ตัวใหม่และมีนโยบายรุกราน  ชวีหยวนเป็นขุนนางใหญ่ของรัฐฉู่ ในช่วงนี้   ชวีหยวนเกิดในตระกูลสูงศักดิ์ได้รับการศึกษาอย่างดี   รอบรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในทุกแขนงและเป็นผู้มีลิ้นการทูตเป็นเลิศ   ชวีหยวนเสนอนโยบายภายในให้ปฏิรูปการปกครอง  ขจัดพวกนายทาสที่กดขี่และเหล่าขุนนางที่มีอิทธิพล   ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนยากจน   ส่งเสริมให้คนดีมีความสามารถมีโอกาสเข้ามารับใช้บ้านเมือง   ต่อภายนอกชวีหยวน เสนอให้ใช้นโยบาย 合纵 ของ  苏秦  คือ   ทำสนธิสัญญารวม 6 รัฐต่อต้านฉิน   ตรงข้ามกับจางอี้ 张仪ขุนนางใหญ่ของเมืองฉินที่เสนอนโยบาย 连横 คือแยกสลาย 6 รัฐสามัคคีฉิน   อ๋องฉิน เป็นคนฉลาดและเทยอทะยาน  ทำนุบำรุงรัฐฉินจนเข้มแข็งมั่งคั่งดีวันดีคืน   จนสามารถซื้อตัวขุนนางต่างๆในรัฐฉู่   ให้คัดค้านนโยบายของชวีหยวน  จนในที่สุดอ๋องฉู่ ล้มเลิกสนธิสัญญารวม 6 รัฐ   ไปทำสนธิสัญญากับรัฐฉิน   ปลดชวีหยวนลงเป็นขุนนางชั้นผู้น้อย   และเนรเทศชวีหยวนไปอยู่ชายแดนที่กันดาร  ชวีหยวนพยายามทำหนังสือ ตักเตือนอ๋องฉู่ หลายครั้ง   นอกจากจะไม่เป็นผลยังถูกเหล่าขุนนางกังฉินใส่ร้ายว่าหลงตัวเองบังอาจหมิ่น อ๋องฉู่  จนในที่สุดถูกเนรเทศไปอยู่ที่ มี่หลัวเจียง 汨罗江   ลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง


หมายเหตุ การทำสนธิสัญญารวม 6 รัฐต่อต้านฉิน ตามความหมายในภาษาจีนจะแปลว่าแนวประสานทางดิ่ง ส่วนการแยกสลาย 6 รัฐสามัคคีฉินในภาษาจีนแปลว่าแนวประสานทางราบ ทั้งนี้ชื่อเอามาจากการมองในแผนที่การทหาร รายละเอียดค่อนข้างจะมีเอ่ยถึงบ่อยในนิยายกำลังภายในเรื่องเจาะเวลาหาจิ๋นซี  


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 ตุลาคม 2553, 09:53:11
ชวีหยวนเป็นผู้มีความสามารถในด้านงานเขียนและกาพย์กลอน   ช่วงที่ถูกเนรเทศได้ใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างใกล้ชิด     และได้เห็นความทุกข์ยากของมวลชน   เนื่องจากความโง่เขลาเบาปัญญาของผู้ปกครอง    จึงได้เขียนบทกวีขึ้นมากมาย   ที่สะท้อนถึงความทุกข์ยากของมวลชนอันเนื่องจากมีผู้ปกครองที่โง่เขลาเบา ปัญญา   และสอดแทรกทัศนะที่สะท้อนถึงจิตใจที่รักชาติของตนเอง   ชวีหยวนได้ประพันธ์บทกวีขนาดยาวไว้ถึง 20 กว่าเรื่อง    ที่มีคุณค่าต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองในยุคนั้น  ในช่วงแรกที่ชวีหยวน ถูกเนรเทศมาอยู่บริเวณตอนเหนือของแม่น้ำฮั่นสุ่ย   ได้ใช้ชีวิตร่วมทุกข์สุขกับชาวบ้านอย่างกลมกลืน     และใช้เวลาว่างศึกษาบทเพลงพื้นบ้านของเมืองฉู่     และในช่วงนี้เองที่ชวีหยวน ได้เขียนบทกวีหลีเซา 离骚    ที่บรรยายถึงความทุกข์ระทมที่ต้องถูกเนรเทศไปอยู่แดนไกล   ความทุกข์ยากของประชาชนที่มีกษัตริย์โง่เขลา    และความเคียดแค้นต่อพวกขุนนางที่ประจบสอพลอ   บทกวีหลีเซาเป็นบทร้อยกรองขนาดยาว      มี 373 บทมีตัวอักษรถึง 2500 ตัว    ถือเป็นบทกวีร้อยกรองขนาดยาวชิ้นแรกในประวัติศาสตร์จีน  ชวีหยวนจึงถูกยกย่องให้เป็นปฐมกวีของจีน   และในวันตวนอู่ ก็ถือเป็นวันกวีแห่งชาติอีกด้วย

ชวีหยวนยังคงเฝ้าคอยว่าสักวันหนึ่ง ราชสำนักคงจะให้ความเชื่อถือและเรียกใช้ตนอีกครั้ง     แต่ก็ไม่มีข่าวคราวใดจากราชสำนัก   ต่อมาชวีหยวน ถูกเนรเทศมาอยู่บริเวณตอนใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียง      ชีวิตที่ระหกระเหินนานปีทำให้ชวีหยวนมีสุขภาพทรุดโทรม     ผมเผ้าขาวหงอก      วันหนึ่งขณะที่ชวีหยวนเดินอยู่ริมแม่น้ำมีชาวเรือผู้หนึ่งเข้ามาถามว่า     ท่านคือขุนนางชวีหยวนใช่หรือไม่     ทำไมจึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้     ชวีหยวนตอบว่า     โลกนี้มีแต่ความโสมม     มีเพียงเราเท่านั้นที่ยังสดใส     ขุนนางในราชสำนักล้วนงมงาย     มีแต่เราที่ยังจงรักภัคดีอย่างบริสุทธิ์ใจ     เราจึงถูกเนรเทศมาตกระกำลำบากอย่างนี้     ชาวเรือผู้นั้นพูดว่า     ในเมื่อคนทั้งโลกล้วนโสมมและงมงาย     ทำไมท่านถึงไม่ร่วมหัวจมท้ายกับพวกเขาเหล่านั้น     การทำตัวดีเด่นแตกต่างจากผู้อื่น     จึงต้องประสบเภทภัยเช่นนี้      ชวีหยวนกล่าวว่า     ตัวเรายอมจมลงสู่ก้นแม่น้ำเป็นอาหารของปูปลา     แต่ไม่ยอมให้จิตใจที่บริสุทธิ์ต้องแปดเปื้อนไปกับพวกคนชั่ว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 ตุลาคม 2553, 09:56:31
ใน ปีที่ 278 ก่อนค.ศ. กองทัพฉินกรีฑาทัพรุกรานฉู่     รัฐฉู่ล่มสลายชวีหยวนจบบทกวีบทสุดท้ายชื่อฮว๋ายซา     แล้วใช้ก้อนหินถ่วงตัวเองจมลงสู่แม่น้ำมี่หลัวเจียง  ในวันที่ 5 เดือน 5    หลังจากที่ชวีหยวน จมร่างลงสู่แม่น้ำมี่หลัวเจียง แล้ว     ชาวบ้านแถบนั้นพายเรือวนเวียนค้นหาอยู่บนแม่น้ำหลายวัน     บางคนพายไปจนถึงทะเลสาบต้งถิงหู     แต่ก็ไม่พบซากศพของชวีหยวน     ชาวเรือบางคนเอาข้าวเหนียวปั้นที่เตรียมมาเป็นเสบียงโยนลงไปในแม่น้ำเป็น อาหารปลา      เพื่อให้ปลาเหล่านั้นกินอิ่มแล้วไม่มาทำร้ายซากศพของชวีหยวน      มีผู้เฒ่าคนหนึ่งเทเหล้ากำมะถันลงไปในน้ำเพื่อมึนเมาพวกสัตว์น้ำ     จะได้ไม่มาทำร้ายซากศพของชวีหยวนเช่นกัน      จากนั้นในวันที่ 5 เดือน 5 ของทุกปีชาวบ้านในบริเวณนั้นจะทำการรำลึกถึงชวีหยวนด้วยการ      พายเรือบนแม่น้ำมี่หลัวเจียง     โยนข้าวเหนียวปั้นและเทเหล้ากำมะถัน     ก่อเป็นประเพณีแข่งเรือมังกร    กินขนมจ้งจื่อดื่มเหล้ากำมะถันในวันเทศกาลตวนอู่

พูดถึงการเอาข้าว เหนียวปั้นเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายๆกำปั้นห่อด้วยใบไผ่ที่เรียกกันว่าจ้ง จื่อ   มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่นั้นคงยากที่จะระบุชัดได้    เป็นวิธีการพกข้าวห่อของคนสมัยโบราณ   จ้งจื่อ มี 2 ชนิดชนิดหนึ่งเอาข้าวเหนียวผสมน้ำด่าง     ห่อด้วยใบไผ่เป็นรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ      นึ่งสุกแล้วมีสีอมเหลืองรสกร่อยๆเมือกๆ     เรียกว่าจีจ้ง รสชาติไม่ดีนักเวลากินต้องจิ้มน้ำตาล    ชนิดนี้กินเพื่อล้างท้องฆ่าเชื้อโรค     เนื่องจากเดือน 5 อากาศร้อนจัดมีโรคระบาดชุก     คนจีนเชื่อกันว่าด่างสามารถล้างท้องและฆ่าเชื้อโรคได้     ส่วนอีกชนิดหนึ่งคือบะจ่างที่นิยมในบ้านเรา     ส่วนใหญ่นิยมใส่ใส้พุทรา    เม็ดบัว   ถั่วลิสง     เนื้อหมู      ถ้าเป็นของคนกวางตุ้งจะใช้ใบบัวห่อเป็นรูปกะทง      แทนที่จะห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมด้วยใบไผ่    แต่ส่วนผสมและการปรุงรสก็จะคล้ายๆกัน     ปัจจุบันประเพณีเทศกาลตวนอู่ ได้เผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางถึงนานาประเทศ    และบะจ่าง ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลตวนอู่     นอกจากนี้ในอดีตยังเป็นสัญลักษณ์การขอแต่งงานต่อหญิงสาวของชายหนุ่มอีกด้วย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 21 ตุลาคม 2553, 00:52:30
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 20 ตุลาคม 2553, 19:51:48
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 ตุลาคม 2553, 16:13:08
พี่จุ๊งเดินทางเมื่อไรคะ ??     emo43

พรุ่งนี้แหละ ตอนนี้เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ลาแล้วหนาบ้านใหม่ กลับไปคืนสูเหย้าแล้ว อีก10วัน ถึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ


เดินทางไป-กลับ โดยสวัสดิภาพ ครับท่านจุ๊ง

เที่ยวให้สนุก ถ่ายรูปมาเยอะๆ........ของฝากไม่ต้อง (มาก).


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 21 ตุลาคม 2553, 01:09:45
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 20 ตุลาคม 2553, 05:30:45
นอนหนุนขอน ชิมดีขม 卧薪尝胆

ถ้าพี่แหลม ก็ต้องเป็น

กินของขม  ชมเด็กสาว

แบบเต็มๆเลยก็ได้........น้องขุน

" กินของขม ชมเด็กสาว เล่นของเก่า เล่าความหลัง "

ขมเป็นยา กาแฟที่กินวันละหลายแก้วก็ขม
ชื่นชมความสวยความงามก็เป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชน
ส่วนตัวชอบสะสมแสตมป์ บางชุดเก่ากว่าร้อยปี
ความหลังความหน้า ก็บอกกล่าวเล่าคุย ที่เว็บหอตั้งเยอะ

ก็ครบแล้วนี้.

แต่......คิดว่าตัวเองยังไม่แก่หรอกครับ..........HA....HA.




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 21 ตุลาคม 2553, 01:28:18
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 21 ตุลาคม 2553, 00:52:30
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 20 ตุลาคม 2553, 19:51:48
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 ตุลาคม 2553, 16:13:08
พี่จุ๊งเดินทางเมื่อไรคะ ??     emo43

พรุ่งนี้แหละ ตอนนี้เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ลาแล้วหนาบ้านใหม่ กลับไปคืนสูเหย้าแล้ว อีก10วัน ถึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ


เดินทางไป-กลับ โดยสวัสดิภาพ ครับท่านจุ๊ง

เที่ยวให้สนุก ถ่ายรูปมาเยอะๆ........ของฝากไม่ต้อง (มาก).


เดินทางปลอดภัยค่ะ
     emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 21 ตุลาคม 2553, 06:57:32
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 21 ตุลาคม 2553, 01:28:18
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 21 ตุลาคม 2553, 00:52:30
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 20 ตุลาคม 2553, 19:51:48
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 ตุลาคม 2553, 16:13:08
พี่จุ๊งเดินทางเมื่อไรคะ ??     emo43

พรุ่งนี้แหละ ตอนนี้เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ลาแล้วหนาบ้านใหม่ กลับไปคืนสูเหย้าแล้ว อีก10วัน ถึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ


เดินทางไป-กลับ โดยสวัสดิภาพ ครับท่านจุ๊ง

เที่ยวให้สนุก ถ่ายรูปมาเยอะๆ........ของฝากไม่ต้อง (มาก).


เดินทางปลอดภัยค่ะ
     emo9:huhu:

มาส่งเฮียจุ๊ง
ขอให้เดินทางด้วยความปลอดภัย
กลับมาค่อยฉลองกันเน้อ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 21 ตุลาคม 2553, 13:04:15

จำได้ว่า..... เคยอ่านเรื่องสี่สาวงามของจีน ที่ห้องเที่ยวเมืองจีนของพี่เหยง

เรื่องราวสมบูรณ์เลยทีเดียว.... ขอกลับไปดูก่อนครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 21 ตุลาคม 2553, 13:23:44

พี่เหยงเคยลงเรื่องสี่สาวงามของจีน ที่ห้องเที่ยวปักกิ่ง เมื่อเดือนกันยาฯ ปีที่แล้ว

เป็นเรื่องพร้อมรูป สมบูรณ์และครบถ้วนครับ


(ขออนุญาตพี่เหยง ขอทำลิงค์ไปห้องพี่ด้วยนะครับ)


ไซซี  http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3615.msg260529.html#msg260529
หวังเจาจวิน  http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3615.msg260533.html#msg260533
เตียวเสี้ยน http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3615.msg260534.html#msg260534
หยางกุ้ยเฟย  http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3615.msg260536.html#msg260536





หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 ตุลาคม 2553, 14:29:39

 " สี่สุดยอดสาวงามของจีน "


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/laokpl-ff1d6c.jpg)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/laoksj-023325.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 ตุลาคม 2553, 14:31:19
" ไซซี "  

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/laolba-b5e9b1.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 ตุลาคม 2553, 14:31:36

" หวังเจาจวิน "  

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/laolfr-27fbeb.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 ตุลาคม 2553, 14:31:51

" เตียวเสี้ยน "  

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/laolj2-d29136.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 ตุลาคม 2553, 14:32:09

" หยางกุ้ยเฟย "  

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/laokyt-8b1ccb.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 22 ตุลาคม 2553, 15:50:37
อืม ภาพโดนใจมาก ขอบอก


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 ตุลาคม 2553, 16:13:32
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 15:50:37
อืม ภาพโดนใจมาก ขอบอก

งั้นก้อขอของฝากเพิ่มอีกชิ้นหนึ่งแล้วกัน.................ท่านจุ๊ง

ที่จีนเป็นไงบ้าง........หากมีโอกาสเล่าสู่กันฟังด้วย.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 ตุลาคม 2553, 16:16:03

สี่สุดยอดสาวงาม.........

หากต้องเลือกให้เหลือเพียงหนึ่ง..............ควรเป็นใคร?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: lor30 ที่ 22 ตุลาคม 2553, 16:23:01
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 16:13:32
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 15:50:37
อืม ภาพโดนใจมาก ขอบอก

งั้นก้อขอของฝากเพิ่มอีกชิ้นหนึ่งแล้วกัน.................ท่านจุ๊ง

ที่จีนเป็นไงบ้าง........หากมีโอกาสเล่าสู่กันฟังด้วย.


ที่สำคัญ ติดมือ มาฝากด้วยใช่ไหมครับ  อิอิ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 ตุลาคม 2553, 16:27:11
อ้างถึง
ข้อความของ lor30 เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 16:23:01
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 16:13:32
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 15:50:37
อืม ภาพโดนใจมาก ขอบอก

งั้นก้อขอของฝากเพิ่มอีกชิ้นหนึ่งแล้วกัน.................ท่านจุ๊ง

ที่จีนเป็นไงบ้าง........หากมีโอกาสเล่าสู่กันฟังด้วย.


ที่สำคัญ ติดมือ มาฝากด้วยใช่ไหมครับ  อิอิ

ใส่กระเป๋ามาก็ได้............5...5..5


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 22 ตุลาคม 2553, 18:02:50
สวยทั้ง 4 คน .. แต่หากนับถึงยุคใหม่นี้  ต้องมีหยีนับรวมไปเป็นคนที่ 5 .. 555555    emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 22 ตุลาคม 2553, 23:41:05
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 18:02:50
สวยทั้ง 4 คน .. แต่หากนับถึงยุคใหม่นี้  ต้องมีหยีนับรวมไปเป็นคนที่ 5 .. 555555    emo20:)):)

ให้จุ๊งลองตั้งชื่อจีนให้ก่อนดีไม๊.........น้องหยี


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 ตุลาคม 2553, 02:36:35
ดีค่ะ ..   emo6::))

ข้าขอรบกวนท่านพี่จุ๊ง
กรุณาหาชื่อจีนเหมาะ ๆ ให้ข้าสักหนึ่งชื่อนะคะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 24 ตุลาคม 2553, 13:26:29

สองชื่อละกัน...........

แบบซึ้งๆหนึงชื่อ........แบบฮาๆอีกหนึ่งชื่อ.

ท่านจุ๊ง.....รีบจัดมา.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 24 ตุลาคม 2553, 14:28:59
รูปสวยๆจากประเทศจีนครับ........


นาขั้นบันได ที่ ยูนนาน

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lasa05-78dc1f.jpg)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lasa1c-72aa88.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 24 ตุลาคม 2553, 18:04:41
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 24 ตุลาคม 2553, 14:28:59
รูปสวยๆจากประเทศจีนครับ........


นาขั้นบันได ที่ ยูนนาน

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lasa05-78dc1f.jpg)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lasa1c-72aa88.jpg)

นี่มันคือภาพถ่ายหรือภาพวาดคะ ??
    emo47


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 24 ตุลาคม 2553, 20:31:13
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 24 ตุลาคม 2553, 18:04:41
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 24 ตุลาคม 2553, 14:28:59
รูปสวยๆจากประเทศจีนครับ........


นาขั้นบันได ที่ ยูนนาน

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lasa05-78dc1f.jpg)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lasa1c-72aa88.jpg)

นี่มันคือภาพถ่ายหรือภาพวาดคะ ??
   emo47

ไม่แน่ใจว่าเป็นคำถาม หรือ อุทานนะครับ.

เป็นภาพถ่าย ที่งามเหมือนภาพวาดของจิตรกรฝีมือดีเลยใช่ไหม?

ภาพแรก จำที่มาไม่ได้........ภาพที่สอง จากเนชั่นนัล จีโอกราฟฟิค ครับ



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 26 ตุลาคม 2553, 23:07:16
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 24 ตุลาคม 2553, 14:28:59
รูปสวยๆจากประเทศจีนครับ........


นาขั้นบันได ที่ ยูนนาน

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lasa05-78dc1f.jpg)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lasa1c-72aa88.jpg)

สวยเกินไปอีกแล้วครับท่าน
ขอบคุณ ทั่นแหลม


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 26 ตุลาคม 2553, 23:46:15
ครับพี่หนุน.....

ตั้งแต่ไปจีน........เจ้าของห้องเข้ามา 15 วิ. โพสท์กระทู้เดียวแล้วหายจ้อยเลย.

ส่งข่าวคาวๆมาหน่อยสิครับ.......ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 27 ตุลาคม 2553, 02:58:16
โถ .. ให้แกเที่ยวให้สนุกเถอะค่ะ
กลับมาค่อยโพสต์ก็ได้ ..



emo42


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 ตุลาคม 2553, 11:13:41
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 27 ตุลาคม 2553, 02:58:16
โถ .. ให้แกเที่ยวให้สนุกเถอะค่ะ
กลับมาค่อยโพสต์ก็ได้ ..



emo42

เป็นห่วงอ่ะครับ.......

กลัวจะไปขึ้นโต๊ะ....แล้วสะดุดเท้าอาตี๋อาเฮียที่โน้น........HAAAAAA.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 28 ตุลาคม 2553, 22:15:05

เติ้งเสี่ยวจุ๊ง ... ไม่อยู่
ไม่มีใครคุยเรื่องจีนๆ ให้ฟัง

นึกภาพ เติ้งเสี่ยวจุ๊ง สะดุดเท้าคนที่โน่น
ผลจะออกมาไงเนี่ย
คิก คิก


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 พฤศจิกายน 2553, 18:28:45
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 28 ตุลาคม 2553, 22:15:05

เติ้งเสี่ยวจุ๊ง ... ไม่อยู่
ไม่มีใครคุยเรื่องจีนๆ ให้ฟัง

นึกภาพ เติ้งเสี่ยวจุ๊ง สะดุดเท้าคนที่โน่น
ผลจะออกมาไงเนี่ย
คิก คิก


ตามกำหนดการ.....เติ้งเสี่ยวจุ๊ง ของพี่หนุนน่าจะกลับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว.

ไฉนไม่ยอมปรากฎกาย?

.......รอชมรูปสวยๆจากจีนอยู่ครับท่าน.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 13:55:57
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องและผู้มีอุปการะคุณ
กลับมาตอนดึกคืนวาน เมื่อวานก็มัวแต่ลุ้นกลุ่มญาติโกเดินทางกลับหาดใหญ่ด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ โทษทีที่มารายงานตัวสาย ส่วนรูปนั้นคนอื่นถ่ายๆกันทั้งนั้น เดี๋ยวคงต้องคัดดูว่าพอจะมีรูปไรมาอวดได้บ้าง รอเดี๋ยวนะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 16:02:23
(http://img233.imageshack.us/img233/3664/dsc61631.jpg)

(http://img215.imageshack.us/img215/5830/dsc00031m.jpg)
มรดกโลก ปราสาทดินของชาวฮากกา ณ เมืองหย่งติ้ง มณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 16:13:31
http://www.youtube.com/v/j299HCjnO64?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 16:54:53
(http://img220.imageshack.us/img220/6264/dsc56511.jpg)
ชุดคอนโดโอบมังกรของชาวฮากกา เป็นโมเดลในพิพิธภัณฑ์ ณ เมืองเหมยโจว ถัดจากกวางเจาไปหนึ่งเพลิน

(http://img89.imageshack.us/img89/7513/dsc53171.jpg)
สภาพทางเดินในคอนโดโอบมังกร ที่เมืองเหมยโจว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 17:22:00
(http://img221.imageshack.us/img221/2809/dsc52911.jpg)

บรรยากาศการฉลองกันแบบฮากก๊าฮากกา ในคอนโดโอบมังกร ไม่ต้องหรู แค่หนังท้องตึงก็พอ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 17:45:02
(http://img215.imageshack.us/img215/3751/dsc033421.jpg)
ท่าน้ำที่ตำบลซงโข่ว ซึ่งบรรดาอากงอาม่าสมัยยังเอ๊าะ ขึ้นเรือไปออกทะเลที่ซัวเถาก็ท่านี้แหละ

(http://img443.imageshack.us/img443/1703/dsc033341.jpg)
สภาพเมืองยังรักษาความคลาสสิกแบบเดิมอยู่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 18:02:22
เสื่อพร้อม หมอนพร้อม ข้าวโพดคั่วพร้อม .. ลุยเลยค่ะ พี่จุ๊ง      emo47


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 18:02:48
เพื่อเสริมบรรยากาศ เลยเอาเพลงฮากกามาให้ฟัง

http://www.youtube.com/v/oMMRt7C9GPc?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 18:11:12
อีกเพลงเป็นเพลงที่แต่งอุทิศให้คอนโดโอบมังกรแบบฮากก๊าฮากกาโดยเฉพาะ

http://www.youtube.com/v/ECKDWCAsf2s?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 18:33:05
อ้อ หวัดดีหยี โพสต์ไปโพสต์มาชัดติดใจ แถมเพลงโปรดมาให้อีกเพลง เป็นสำเนียงฮากกาต้นฉบับมาตรฐานแบบเหมยโจวของแท้เชียวนะ

http://www.youtube.com/v/UxFGOobG3pA?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 19:55:14

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbb3pw-cc7ceb.jpg)
(http://img153.imageshack.us/img153/1200/dsc00651x.jpg)
อนุสรณ์สถาน ดร.ซุนยัดเซ็น ชาวฮากกาผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็นบิดาชาวจีนปัจจุบันร่วมกันทั้งจากจีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน ผู้นำในการล้มล้างราชวงศ์ชิง ซึ่งนำการสู่การปิดฉากระบบจักรพรรดิของจีนที่ยืนยาวมาร่วม2,000ปี

(http://img220.imageshack.us/img220/535/dsc00481co.jpg)
หุ่นขี้ผึ้ง คนนั่งที่2จากขวาคือ ดร.ซุนยัดเซ็นและคนที่หัวล้านยืนด้านซ้ายมือคือเจียงไคเช็ค


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 20:11:23
(http://img222.imageshack.us/img222/1799/dsc00701ho.jpg)
สันดอนแห่งประวัติศาสตร์ซานเหอป้า ในตำบลไท่ปู่ ที่เป็นจุดยุทธศาตร์ชี้เป็นชี้ตายระหว่างเจียงไคเช็คกับเหมาเจ๋อตุง ที่ใครยึดครองได้จะสามารถรุกต่อเนื่องไปทั้งด้านมณฑลกวางตุ้งและมณฑลฮกเกี้ยน

(http://img217.imageshack.us/img217/5500/dsc00711n.jpg)
ซานเหอป้าเป็นจุดบรรจบพบกันของแม่น้ำเหมยเจียงและติงเจียง ก่อเป็นแม่น้ำสายใหม่คือหย่งเจียงซึ่งหล่อเลี้ยงชาวฮากกาในมณฑลกวางตุ้ง จึงสร้างอนุสาวรีย์เป็นรูปมารดาผู้แบกลูกน้อยและจูงลูกเดิน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 21:50:52
ตามมาชมครับ.........ท่านจุ๊ง

ชอบๆ.

แล้วป้ายที่ปราสาทดินอ่านว่า?......แปลว่า?



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 23:33:18


ตามมาชมตอนดึกๆด้วยคนอาจุ๊ง
ชอบเหมือนกัน
เล่าไปเรื่อยๆ
ลงรูปไปเรื่อยๆเน้อ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 02:59:32
พี่จุ๊งไปเที่ยวคณะใหญ่เลยนิ .. น่าสนุกอ่ะ    emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 08:59:41
  ตามอ่านด้วยคน  น้องจุ๊ง...
        ได้อรรถรสทั้งภาพและเสียงรวมทั้งคำบรรยาย อย่าลืมเล่าเรื่องบรรพบุรุษที่พากันไปเยี่ยมด้วยนะ..


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 09:57:11
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 02 พฤศจิกายน 2553, 21:50:52
ตามมาชมครับ.........ท่านจุ๊ง

ชอบๆ.

แล้วป้ายที่ปราสาทดินอ่านว่า?......แปลว่า?



ปราสาทดินนี้ เท่าที่ไกด์ท้องถิ่นแนะนำ นับได้ว่าสร้างมา89 ปีแล้ว ชื่อปราสาท 振成楼 อ่านว่าเจิ้นเฉิงโหลว เห็นบอกว่าเป็นการสมาทของชื่อบุตรชายของท่านผู้สร้าง ซึ่งคนหนึ่งมีชื่อว่า振(เจิ้น แปลว่ามุมานะ) และอีกคนมีชื่อ成(เฉิง แปลว่าประสบความสำเร็จ คำนี้นิยมใช้ตั้งชื่อร้าน เห็นได้แถวเยาวราช ภาษาแต้จิ๋วอ่านว่าเซ่ง) ส่วน楼(โหลวหรือเหลา ก็คือหอสูง) ร่วมชื่ออาคารแปลว่าปราสาทบากบั่นเพื่อความสำเร็จ ปราสาทนี้เดิมอาศัยอยู่เฉพาะคนในตระกูลและใช้แซ่เดียวกัน(จำไม่ได้แล้วว่าแซ่ไร) ตอนนี้ลูกหลานบางส่วนก็ยังอาศัยอยู่ และทำการขายของที่ระลึกให้ผู้มาท่องเที่ยว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 10:42:14
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องและผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน

ลืมอารัมภบทไป การท่องเที่ยวของคณะนี้จะเดินทางกันรวม35ชีวิต อายุเยาว์สุด 17ปี ส่วนอายุมากสุดน่าจะ80ฝ่าๆ อาจจะรู้ภาษาจีนกลาง ภาษาฮากกา หรือรู้จักเฉพาะภาษาไทยอย่างเดียวก็มี จัดโดยสมาคมเฉลิมมิตร ซึ่งเป็นสมาคมของลูกหลานชาวเหมยโจวในประเทศไทย ในประเทศไทยจะมีสมาคมชาวฮากกากระจายไปเกือบทุกจังหวัดและอำเภอทั่วประเทศไทย ส่วนนี้กรุงเทพก็จะมีสมาคมแยกย่อยออกไปอีก8สมาคม เช่นสมาคมเฉลิมมิตร สมาคมฮงสุน สมาคมฮากกาไต้หวันเป็นต้น เที่ยวนี้มีตั้งแต่เฟิรสต์ เจเนอเรชั่น ไปจนถึงฟอร์ท เจเนอเรชั่น จุดมุ่งหมายก็ต่างกัน บางท่านมาเพื่อท่องเที่ยว ทำความรู้จักกับวิถีชีวิต ขนบประเพณี และอาหารการกินแบบฮากก๊าฮากกา บางท่านก็มาเที่ยวและถือโอกาสมาเยี่ยมญาติไปด้วย อย่างผมนี้มาเยี่ยมญาติและถือโอกาสมาท่องเที่ยวไปด้วย มีหลายท่านก็ถือโอกาสให้ทางสมาคมช่วยพาไปหาญาติถี่ ซึ่งก็มี2ราย ประสบความสำเร็จหน้าชื่นตาบานกลับไปอย่างนอนหลับฝันดี แต่มีอยู่รายหนึ่งมาจากบุรีรัมย์ พกภาพถ่ายเก่าๆมาตามหาญาติ ต้องหน้าแตกกลับไปตามระเบียบ คงต้องพยายามอีกครั้ง กรุ๊บนี้ส่งตัวแทนการศึกษาระดับดอกเตอร์มาด้วย2ท่าน ชายหญิงฝา่ยละท่านเพื่อไม่ให้น้อยหน้ากัน ส่วนการศึกษาระัดับต่ำสุด ไม่กล้าถามง่ะ

อ้อ สำหรับประวัติชาวฮากกา เท่าที่มีผู้ศึกษาและเท่าที่รู้ จะอพยพมาจากแถบลุ่มน้ำฮวงโห บริเวณมณฑลเหอหนานปัจจุบัน จะอพยพกันครั้งใหญ่ในประวัติรวม5ครั้ง เริ่มจากครั้งแรกสมัยจักรพรรดิจิ๋นซี ซึ่งได้ส่งแม่ทัพชื่อเจ้าถัว มาปราบแดนใต้ เสร็จก็ตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้าแคว้นแดนใต้ที่เมืองหลงชวน(แปลว่าสายธารแห่งมังกร) นี่ถือเป็นก้าวแรกของชาวฮากกาในมณฑลกวางตุ้ง แว่วๆว่าถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆขึ้น เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้งแทนที่จะชื่อกวางเจา จะเป็นชื่อหลงชวน

ส่วนทิศทางการเดินทางของชาวฮากกา จากเหอหนาน มาหยุดก้าวแรกแดนใต้ที่มณฑลเจียงซีด้านใต้ ที่เรียกกันแบบจีนๆว่าแถบก้านหนาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ชาวก้านหนานเลยยกถิ่นที่อยู่ของตนเองว่าเป็นแหล่งกำเนิดของชาวฮากกา จากนั้นก็แยกย้ายไปที่มณฑลเสฉวน ฮกเกี้ยน ไต้หวันตามอัธยาศัย บางครั้งเดินไปชนตึกเข้า ก็กลับมาตั้งลำใหม่ที่ก้านหนานตามระเบียบ มาสุกงอมที่มณฑลกวางตุ้ง เมืองเหมยโจว เลยเรียกเหมยโจวว่าเมืองหลวงของชาวฮากกา สำเนียงภาษาฮากกาที่ยอมรับกันว่าถูกหลักอนามัยทางหูที่สุดก็สำเนียงเหมยโจวนี่แหละ  จากการก่อสร้างปราสาทดินที่ฮกเกี้ยน และคอนโดโอบมังกรของชาวฮากกา แสดงว่าการตั้งรกรากของชาวฮากกาสมัยนู้นต้องเจอภัยรอบด้าน การสร้างอาคารเลยต้องมิดชิดหน่อยกันคนแอบดู ส่วนการสร้างคอนโดโอบมังกร สร้างแบบเปิดวับๆแวมๆ เพราะใจเริ่มกล้าขึ้น เลยเปลี่ยนกลยุทธใหม่เรียกแขก ตามตำราพิชัยสงครามซุนวู

อ้อ ภาษาฮากกานี้ถือเป้นหนึ่งในแปดภาษาท้องถิ่นหลักในแวดวงภาษาจีน ครองมาร์จิ้นอยู่ 4%


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 13:11:55
2 เพลงแรกที่จัดให้ฟังเป็นเพลงมาเลเซียเชื้อสายฮากกา ส่วนเพลงที่3เป็นเพลงจากต้นตำรับเหมยโจวของแท้และดั้งเดิม คราวนี้เอาเพลงจากไต้หวันเชื้อสายฮากกาบ้าง เพลงนี้ชื่อแปลเป็นไทยว่าเป็นอาคันตุกะในแดนอื่น เพราะคำว่าฮากกาแปลว่าครอบครัวอาคันตุกะ ภาษาฮากกาเป็นภาษาเดียวที่ชื่อของภาษาไม่ได้บอกว่ามาจากที่ใด ตั้งรกรากที่ไหน เพราะกระจายอาศัยอยู่ในแถบภาคใต้ของประเทศจีน เปรียบเสมือนเป็นชาวยิปซีที่พลัดถิ่น ไม่เหมือนพวกกวางตุ้ง ฮกเกี้ยน ไหหลำ หรือแต้จิ๋ว เพลงนี้จะมีทิวทัศน์และขนบประเพณีของชาวฮากกาประกอบฉาก โดยเฉพาะชาวฮากกาชอบร้องเพลงชาวเขา ถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวฮากกาเลยหละ ส่วนภาพทิวทัศน์มีแม่น้ำล้อมรอบเมืองนี่แหละคือเมืองเหมยโจว

http://www.youtube.com/v/QzY6XPvbOlU?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 13:50:42
ท่านจุ๊ง.......

ปราสาทดินเจิ้นเฉิงโหล........เป็นปราสาทเดี่ยวหรือว่ามีปราสาทบริวารด้วย?

อยากรู้........


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 14:16:06
แถมด้วยเพลงที่ถือว่าเพลงประจำสมาคมฮากกา ชื่อเพลงแปลเป็นไทยว่า "ฉันคือชาวฮากกา"

http://www.youtube.com/v/DI2fhc1KaFw?fs=1&hl=en_US


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 14:23:50
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 13:50:42
ท่านจุ๊ง.......

ปราสาทดินเจิ้นเฉิงโหล........เป็นปราสาทเดี่ยวหรือว่ามีปราสาทบริวารด้วย?

อยากรู้........


ปราสาทดินเจิ้นเฉิงโหลว มีอาคารเดียว ไม่มีสาขา ส่วนอาคารอื่นก็ใช้ชื่ออื่น เพียงแต่อาคารค่อนข้างสมบูรณ์และทันสมัยกว่าปราสาทอื่น เลยได้รับอุปการคุณส่งเสริมการท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 14:52:15
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 14:23:50
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 13:50:42
ท่านจุ๊ง.......

ปราสาทดินเจิ้นเฉิงโหล........เป็นปราสาทเดี่ยวหรือว่ามีปราสาทบริวารด้วย?

อยากรู้........


ปราสาทดินเจิ้นเฉิงโหลว มีอาคารเดียว ไม่มีสาขา ส่วนอาคารอื่นก็ใช้ชื่ออื่น เพียงแต่อาคารค่อนข้างสมบูรณ์และทันสมัยกว่าปราสาทอื่น เลยได้รับอุปการคุณส่งเสริมการท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ

พอดีเจอรูปนี้เลยสงสัย...........

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbattn-e4958a.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 15:06:19
ท่านแหลมเปี๊ยบรู้ไหมว่าคำอธิบายข้างล่างภาพ แปลว่าไร ถ้ารู้แล้วจะฮือฮา เขาบอกว่าปราการดินบนเนินหอยโข่งเหล่านี้ ได้รับการเข้าใจผิดจากขบวนการซีไอเอจากภาพถ่ายทางดาวเทียม นึกว่าเป็นฐานปฏิบัติการต่อต้านขีปนาวุธนิวเคลียร์ของจีน แหม ท่านซีไอเอเขาเก่งจริงๆ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 16:52:38
(http://img215.imageshack.us/img215/6613/dsc01651xa.jpg)
ภาพอาคารศึกษาของจีนที่เมืองหลงชวน เห็นบอกว่าสมัยก่อน พวกที่จะสอบจอหงวนต้องมาสอบที่นี่แห่งเดียวในภาคใต้จีน

(http://img253.imageshack.us/img253/6567/dsc05831.jpg)
ทัศนียภาพยามค่ำคืนที่เมืองเหอหยวน แหล่งของชาวฮากกาอีกแห่งหนึ่งที่กำลังรับเป็นเจ้าภาพคืนสู่เหย้าชาวฮากกาทั่วโลกในเดือนนี้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 16:55:51
(http://img221.imageshack.us/img221/9621/dsc10631.jpg)
ภาพการดักจับปลาในชนบท บ้านแม่ยายของหลานในไส้(นับญาติถูกไหมเนี่ย)

(http://img233.imageshack.us/img233/3912/dsc50721.jpg)
ทัศนียภาพของเมืองเหมยโจว

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbb21i-a38bd0.jpg)
ที่ตั้งของเมืองเหมยโจว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 17:06:45
(http://img442.imageshack.us/img442/186/dsc035021.jpg)
รูปถ่ายพี่สาวและพี่เขยในไส้

(http://img201.imageshack.us/img201/2572/dsc11861.jpg)
ภาพถ่ายกับญาติๆที่เซินเจิ้น ผู้หญิงที่ยืนข้างๆผมคือหลานในไส้ที่อยู่เซินเจิ้น ส่วนเด็กน้อยที่อยู่ข้างๆคือลูกของหลานในไส้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 17:10:49
(http://img201.imageshack.us/img201/4584/dsc53661.jpg)

(http://img153.imageshack.us/img153/1599/dsc53681.jpg)
ภาพถ่ายวิถีชีวิตของชาวฮากกา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 17:14:12
(http://img153.imageshack.us/img153/3046/dsc53691.jpg)

(http://img153.imageshack.us/img153/1281/dsc53741.jpg)
ภาพถ่ายวิถีชีวิตของชาวฮากกา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 17:20:00
(http://img221.imageshack.us/img221/5598/dsc54751.jpg)

(http://img221.imageshack.us/img221/5923/dsc54401.jpg)

(http://img221.imageshack.us/img221/870/dsc54141.jpg)

บรรยากาศงานเลี้ยงรับรองในบ้านของชาวฮ่องกงเชื้อสายฮากกาที่เมืองเหมยโจว บังเอิญน้องชายของเขาก็อยู่ในคณะทัวร์ด้วย เรื่องของฟรี ใครๆก็ชอบเป็นธรรมดา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 17:33:44
(http://img221.imageshack.us/img221/5899/dsc56531.jpg)
ภาพการสอนลูกศิษย์ลูกหาในจีนสมัยก่อน

(http://img221.imageshack.us/img221/1848/dsc59331.jpg)
ภาพการแสดงในศูนย์ท่องเที่ยว “สวนห่านป่าบินล่องใต้” แหล่งท่องเที่ยวระดับ4Aของชาวฮากกา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 17:44:26
ชาวฮากกาเป็นพวก "ไปไหนไปด้วยช่วย2บาท" อย่างในอินโดนีเซีย ชาวฮากกาเยอะ เพราะอพยพไปเนื่องจากกรณีกบฎไท่ผิงในสมัยราชวงศ์แมนจู ตัวหัวหน้าทีม หงซิ่วฉวน นี่แหละชาวฮากกาของแท้และดั้งเดิม ส่วนในยุคปัจจุบัน ในไทยหลายท่านก็คงพอเดาออก "เขาผู้ไม่สามารถเอ่ยนาม" ลีกวนยูนี่ก็ชาวฮากกา นักเขียนเอกของโลกฮันซูหยิน ก็ชาวฮากกา ส่วนในจีนยุคสร้างประเทศใหม่นี่ ท่านจูเต๋อ ผบสส ของจีนนี่ก็ฮากกา ดร.ซุนยัดเซ็น เติ้งเสี่ยวผิงก็ชาวฮากกา แต่ความภูมิใจของชาวเหมยโจวก็คือท่านเยี่ยเจี้ยนอิง หนึ่งในสิบยอดขุนพลของจีนยุคใหม่ ผู้สร้างคุณูปการในการปราบเจียงไคเช็ค และพวกแก๊งค์4คน ผู้สร้างเมืองเหมยโจวให้เจริญก้าวหน้า

(http://img139.imageshack.us/img139/3315/dsc033221.jpg)
อนุสาวรีย์เยี่ยเจี้ยนอิง( ภาษาฮากกาเรียกว่ายับเกี๊ยมยิน)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 18:31:40
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 17:44:26
ชาวฮากกาเป็นพวก "ไปไหนไปด้วยช่วย2บาท" อย่างในอินโดนีเซีย ชาวฮากกาเยอะ เพราะอพยพไปเนื่องจากกรณีกบฎไท่ผิงในสมัยราชวงศ์แมนจู ตัวหัวหน้าทีม หงซิ่วฉวน นี่แหละชาวฮากกาของแท้และดั้งเดิม ส่วนในยุคปัจจุบัน ในไทยหลายท่านก็คงพอเดาออก "เขาผู้ไม่สามารถเอ่ยนาม"  ลีกวนยูนี่ก็ชาวฮากกา นักเขียนเอกของโลกฮันซูหยิน ก็ชาวฮากกา ส่วนในจีนยุคสร้างประเทศใหม่นี่ ท่านจูเต๋อ ผบสส ของจีนนี่ก็ฮากกา ดร.ซุนยัดเซ็น เติ้งเสี่ยวผิงก็ชาวฮากกา แต่ความภูมิใจของชาวเหมยโจวก็คือท่านเยี่ยเจี้ยนอิง หนึ่งในสิบยอดขุนพลของจีนยุคใหม่ ผู้สร้างคุณูปการในการปราบเจียงไคเช็ค และพวกแก๊งค์4คน ผู้สร้างเมืองเหมยโจวให้เจริญก้าวหน้า

(http://img139.imageshack.us/img139/3315/dsc033221.jpg)
อนุสาวรีย์เยี่ยเจี้ยนอิง( ภาษาฮากกาเรียกว่ายับเกี๊ยมยิน)

บอกใบ้หน่อยดิ......เดาไม่ถูกครับ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 19:57:55
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 18:31:40
บอกใบ้หน่อยดิ......เดาไม่ถูกครับ.

แหม ท่านแหลมเปี๊ยบก้อ อุตส่าห์ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ยังไม่เข้าใจอีก งั้นขอสารภาพกรงๆละกัน จำไม่ได้หว่ะ เลยไม่สามารถเอ่ยนามไง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 00:24:54


ใช่ "เม๊ง แซ่คู" ลูกชาย นายลั๊ก แซ่คู อ่ะเปล่า?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 02:03:26
เขาคือใครคะ พี่แหลม พี่จุ๊ง .. ชื่อไทยคืออะไร ?   emo47


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pae ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 09:35:34
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 00:24:54


ใช่ "เม๊ง แซ่คู" ลูกชาย นายลั๊ก แซ่คู อ่ะเปล่า?

ชื่อนี้นี่ ต่อมาเพี้ยนนิดหน่อย จาก เ เป็น แ และจาก ง เป็น ว รึเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 11:51:27
สงสัยกันนัก งั้นเฉลยละกัน "ลอร์ดโวลเดอร์มอร์"ไง กลับชาติมาเกิดเป็นชาวไทยเชื้อชาติฮากกา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 12:51:16
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 02:03:26
เขาคือใครคะ พี่แหลม พี่จุ๊ง .. ชื่อไทยคืออะไร ?   emo47

อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 09:35:34
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 00:24:54


ใช่ "เม๊ง แซ่คู" ลูกชาย นายลั๊ก แซ่คู อ่ะเปล่า?

ชื่อนี้นี่ ต่อมาเพี้ยนนิดหน่อย จาก เ เป็น แ และจาก ง เป็น ว รึเปล่าครับ

อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 11:51:27
สงสัยกันนัก งั้นเฉลยละกัน "ลอร์ดโวลเดอร์มอร์"ไง กลับชาติมาเกิดเป็นชาวไทยเชื้อชาติฮากกา

 ...งั้นดูรูปละกันครับ...

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbcizy-741d3d.jpg)
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbcj1h-65a32e.jpg)
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbcj2m-a3b61a.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 13:36:30

รอเที่ยวเหมยโจวต่อครับ.........ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 05 พฤศจิกายน 2553, 13:46:02
สวัสดีค่ะ น้องจุ๊ง

มาตามอ่านความเป็นมาของฮากกาค่ะ  

รู้เพิ่มมาอีกมากกว่า 90 %



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 พฤศจิกายน 2553, 23:34:09
อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 09:35:34
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 00:24:54


ใช่ "เม๊ง แซ่คู" ลูกชาย นายลั๊ก แซ่คู อ่ะเปล่า?

ชื่อนี้นี่ ต่อมาเพี้ยนนิดหน่อย จาก เ เป็น แ และจาก ง เป็น ว รึเปล่าครับ

กำลังจะเดา .. พอดีเห็นพี่แหลมเฉลยรูปภาพซะแจ่มเลย .. คริคริ     emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 พฤศจิกายน 2553, 18:01:23

สวัสดีตอนเย็นๆครับ.........ท่านจุ๊ง..พี่เสียด..น้องหยี..น้องเป้ และพี่น้องทุกท่าน

ท่านจุ๊ง เงียบไปเลย......มีอะไรหรือเปล่า?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 พฤศจิกายน 2553, 18:06:20
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 05 พฤศจิกายน 2553, 23:34:09
อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 09:35:34
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 00:24:54


ใช่ "เม๊ง แซ่คู" ลูกชาย นายลั๊ก แซ่คู อ่ะเปล่า?

ชื่อนี้นี่ ต่อมาเพี้ยนนิดหน่อย จาก เ เป็น แ และจาก ง เป็น ว รึเปล่าครับ

กำลังจะเดา .. พอดีเห็นพี่แหลมเฉลยรูปภาพซะแจ่มเลย .. คริคริ     emo20:)):)

เห็นใครๆก็ไม่อยากเอ่ยนามเค้าอ่ะ........เลยลงเป็นรูปดีกว่า...อิ..อิ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 07 พฤศจิกายน 2553, 10:02:56


สวัสดีครับทั่นจุ๊งและท่านผู้ติดตามชมทุกท่าน
เป็นเรื่องเล่าตามรายงานที่น่าสนใจมากๆ
ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเล่าช่วยเฉลยเพิ่มเติม
เรารึก็นึกตั้งนานเหมือนกัน
ว่าใคร...ที่แท้ก็
ลอร์ดวอเดอร์มอร์ นี่เอง
อิ อิ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pae ที่ 07 พฤศจิกายน 2553, 20:03:00
สวัสดีวันอาทิตย์ครับ ท่านพี่่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 พฤศจิกายน 2553, 20:29:23
หวัดดีค่ะ พี่น้อง
หวัดดีค่ะ น้องเป้ .. ไม่เจอกันนานเลย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pae ที่ 07 พฤศจิกายน 2553, 20:45:10
ช่วงนี้งานยุ่ง
แวบเข้ามาอ่านเป็นพักๆครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 พฤศจิกายน 2553, 20:48:54
แต่ยังสบายดีอยู่เนอะ .. หน้าตา (ในรูป) ดูสดใสเหมือนเดิมเป๊ะ !!      emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 16:04:20

สวัสดีครับ.......พี่น้องทุกท่าน

ท่านจุ๊ง เงียบไปเป็นอาทิตย์เลย..........ยังไงๆก็อย่าลืมนัดเย็นพรุ่งนี้ละครับ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 17:12:42


มาตะโกนเรียกเฮียจุ๊งอีกคน
ไปนะพรุ่งนี้อ่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 18:07:21
มีภาพสวยๆจากจีนมาฝากครับ......


 ...Bashang - The beautiful grasslands of China...



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm6uh-8658b8.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm6vj-790d70.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 18:07:35

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm70r-1d98a4.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm717-71330e.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 18:07:39

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm72y-fe07ba.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm73h-0cde5c.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 18:07:44

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm758-a22684.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm75o-92df91.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 18:07:49

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm77d-311dc0.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm77u-94f597.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 18:07:55

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm7a4-5ad15d.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm7al-fd1f01.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 18:08:01
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm7cj-26b38d.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm7d1-acdae3.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 18:08:07

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm7ez-489636.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm7fi-6da0dc.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 18:08:13

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm7ht-345700.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm7ic-80bb44.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 พฤศจิกายน 2553, 18:08:30

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm7kb-85933c.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbm7ks-5fa2d4.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 11 พฤศจิกายน 2553, 09:08:18
น้องเสี่ยแหลมครับ
สุดยอดมาก
มากสุดยอด
สวยที่สุด
เก่งที่สุด
ที่หามาให้ชมได้
ขอบคุณที่สุดครับน้อง


 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 09:50:57
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2553, 09:08:18
น้องเสี่ยแหลมครับ
สุดยอดมาก
มากสุดยอด
สวยที่สุด
เก่งที่สุด
ที่หามาให้ชมได้
ขอบคุณที่สุดครับน้อง


 emo6::)) emo6::))

สำนวนราวกับว่า.......ฤทธิ์พอตท์ไวน์ยังไม่จางหายเลยครับพี่.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 09:53:25


เอ๊ยยย...ชอบจริงๆ
มันสวยมาก
หลายรูปเอาไปทำวอลเปเปอร์ได้เลย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 09:59:53

รวบรวมมาจาก 3- 4 ที่ครับ........สวยดี น่าไปเที่ยว.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 10:40:27
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2553, 09:59:53

รวบรวมมาจาก 3- 4 ที่ครับ........สวยดี น่าไปเที่ยว.

   สวยจริงๆ...แต่พี่ไม่ไปเที่ยวด้วยนะ..
   เพราะ...ดูจากรูปเนี่ยน่าจะสวยกว่าที่จะไปดูเอง..อิอิ...
   สุดยอดจริงๆน้องแหลม ...ดูแล้วอิ่มอกอิ่มใจ...ขอบใจที่ไปคว้ามาให้ชม...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 11:29:53
หนีห่าว .. พี่จุ๊ง     emo48:)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 13 พฤศจิกายน 2553, 17:10:18
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2553, 11:29:53
หนีห่าว .. พี่จุ๊ง     emo48:)

หนีหาย...ไปไหนไม่รู้  ทั่นจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 พฤศจิกายน 2553, 23:52:49
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2553, 17:10:18
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2553, 11:29:53
หนีห่าว .. พี่จุ๊ง     emo48:)

หนีหาย...ไปไหนไม่รู้  ทั่นจุ๊ง

รู้สึกว่า......พี่จุ๊งของน้องหยี,ทั่นจุ๊งของพี่หนุน จะกบดานนานไปหน่อยแล้ว.

ระวังอากาศจะหมดก่อนขึ้นเหนือน้ำนะครับท่าน.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 18 พฤศจิกายน 2553, 23:45:20
.....ส ง สั ย มี ถั ง อ อ ก ซิ เ จ น ค รั บ  น้ อ ง แ ห ล ม.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 19 พฤศจิกายน 2553, 05:59:17
หาวจิ่วปู๋เจี้ยน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 20 พฤศจิกายน 2553, 09:11:28
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2553, 05:59:17
หาวจิ่วปู๋เจี้ยน

Long time no see.....

Sawasdee krub..... P' Tee,Jung,Nong Khun and all of you.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 22 พฤศจิกายน 2553, 07:58:31

เห็นทั่นจุ๊งเข้ามาอ่านบ่อยๆ
แต่ไมโพส
คงรอบิ้วอารมณ์อยู่
ฮ่า ฮ่า




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 24 พฤศจิกายน 2553, 12:51:07
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2553, 07:58:31

เห็นทั่นจุ๊งเข้ามาอ่านบ่อยๆ
แต่ไมโพส
คงรอบิ้วอารมณ์อยู่
ฮ่า ฮ่า




บิ้วอารมณ์ นานจัง..........ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 19:06:50

ท่านจุ๊ง........คิดถึงว่ะ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 05 ธันวาคม 2553, 21:57:58
.....ด้วยความ คิดถึง ครับ  น้องจุ๊ง.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 ธันวาคม 2553, 14:28:26

สวัสดีครับ.........ท่านจุ๊ง..พี่ตี๋ และพี่น้องทุกท่าน

เจ้าของห้อง ยังอยู่ดีสบายหรือเปล่าครับ?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 06 ธันวาคม 2553, 15:33:00
จนป่านนี้ก็ยังไม่มา ..      emo45:(


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 07 ธันวาคม 2553, 09:01:53

สงสัยยังเมา...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 07 ธันวาคม 2553, 11:45:42

อย่างงี้.....เมาข้ามเดือนเลยนะพี่.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 ธันวาคม 2553, 19:15:09
หายไปทั้งสองคนเลย .. ทั้งพี่จุ๊งและพี่ตุ๋ย      emo47


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 08 ธันวาคม 2553, 07:56:40


จะรอดูว่า จะทนหายไปได้นานเท่าไร
เอ๊ะ...สำนวนแปลกมาก


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 08 ธันวาคม 2553, 10:51:11

มันอึด........


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 08 ธันวาคม 2553, 11:33:05
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 ธันวาคม 2553, 10:51:11

มันอึด........
.....แหลม   มันอึด... คือ อึดอัด  อยากเข้ามา เต็มทีแล้ว มั้ง ครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 08 ธันวาคม 2553, 13:34:57
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 08 ธันวาคม 2553, 11:33:05
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 ธันวาคม 2553, 10:51:11

มันอึด........
.....แหลม   มันอึด... คือ อึดอัด  อยากเข้ามา เต็มทีแล้ว มั้ง ครับ.....

ครับพี่......

ช่วงหลังนี้พี่ตี๋พริ้วจริงๆ.....ลูกล่อลูกชนแพรวพราว เวลาโพสท์.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 08 ธันวาคม 2553, 21:03:27
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 ธันวาคม 2553, 13:34:57
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 08 ธันวาคม 2553, 11:33:05
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 ธันวาคม 2553, 10:51:11

มันอึด........
.....แหลม   มันอึด... คือ อึดอัด  อยากเข้ามา เต็มทีแล้ว มั้ง ครับ.....

ครับพี่......

ช่วงหลังนี้พี่ตี๋พริ้วจริงๆ.....ลูกล่อลูกชนแพรวพราว เวลาโพสท์.


น่านจิ .. ชักเริ่มสงสัยอีกแล้วว่าเป็นพี่ตี๋ตัวจริงหรือเปล่า ??


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 08 ธันวาคม 2553, 23:22:13
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 08 ธันวาคม 2553, 21:03:27
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 ธันวาคม 2553, 13:34:57
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 08 ธันวาคม 2553, 11:33:05
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 ธันวาคม 2553, 10:51:11

มันอึด........
.....แหลม   มันอึด... คือ อึดอัด  อยากเข้ามา เต็มทีแล้ว มั้ง ครับ.....

ครับพี่......

ช่วงหลังนี้พี่ตี๋พริ้วจริงๆ.....ลูกล่อลูกชนแพรวพราว เวลาโพสท์.


น่านจิ .. ชักเริ่มสงสัยอีกแล้วว่าเป็นพี่ตี๋ตัวจริงหรือเปล่า ??
.....ตุ้ด ตุ้ด   สวัสดีครับ น้องหยี  น้องเสี่ยแหลม
 พี่ตี๋รู้สึกมีความสุข+อบอุ่นมากๆเวลาได้เข้า เวปซีมะโด่ง  บางครั้งอาจทำให้ พี่ เพื่อน น้อง เคือง@งง ไปบ้าง
 กระผม ต้องถือโอกาสขอโทษ มา ณ ที่นี้ สำหรับหรือ หากมีครั้งต่อไปบ้าง ครับ (หน้าด้านหน้าทนจัง)
ได้แชร์ความสุข คลายทุกข์  เป็นปลื้มกับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ กับรางวัลชีวิตที่ได้ฝ่าฟันมา
 แม้หลากความคิด หลากสีสรร   แต่ตี๋ ทนได้
เพื่อนหนุน เรารู้จักกันมา  33 ปี ไม่น่าเชื่อว่าคนที่คุณเคยหมั่นใส้มากสุดคือผม
คนที่คุณสอนรีดผ้าคือผม
คนที่คุณเคยโดดเรียนด้วยคือผม
 คนที่เคยหลายอย่าง...แต่บางอย่างผม ก็ ไม่เคย นะ แต่หนุนเคย.....
ผม รู้สึก ว่า อิจฉาตัวเอง ที่มีเพื่อนรักอย่างคุณ  เม็ดขนุน 
ผมรักคุณ
แหลม@จุ๊งน้องรัก เรา รู้จักกันมา 32 ปี
น้องหยี พี่ได้รู้จักมา  31 ปี  ล้วนเป็น ซีมะโด่ง ที่น่าภาคภูมิ น่ารักอีกต่างหาก
 แล้วใครเล่าจะโชคดีเหมือนเรา ชาวซีมะโด่ง
หลายอย่างยังไม่ได้พูดไป แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ มาจากใจ ผม ครับ.....


 
 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 09 ธันวาคม 2553, 07:51:53
^
^
^

วันนี้มายาวมากเลยเพื่อนโผ๊มมมม..ครึ้มอกครึ้มใจมากมายล่ะนี่
ว่าไปแล้วพวกเราซีมะโด่ง ที่เล่น ที่อยู่ ที่เรียน ที่เที่ยว
แล้วทำกิจกรรมร่วมกัน ก็รักกันผูกพันกันทุกคนแหละ
และมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนแปลง

อุ๊ย...คุยกันเรื่องจีน
เจ้าของยังไม่มา
ก็คุยเรื่องหอ
ก่อนแล้วกัน
ฮิ ฮิ


 emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 ธันวาคม 2553, 12:58:45

สวัสดีครับ.........ท่านจุ๊ง..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

32 ปีผ่านไป.....ผมก็ยังรักเคารพพี่ตี๋เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง...ยืนยันครับ

(ถึงวันนี้ ยังจำเมื่อครั้งที่พี่พาผมไปขอสปอนเซ่อร์ค่ายหอจากบ.ไทยน้ำทิพย์ได้อยู่เลย........)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 09 ธันวาคม 2553, 15:04:07
ซึ้งอ่ะ .. พี่ตี๋       emo9:huhu:

31 ปี พี่ตี๋ทำให้หยีประหลาดใจหลายเรื่อง
ที่ประทับใจที่สุดคือ  .. พี่ตี๋จำหยีได้ในภาพถ่ายเก่า ๆ ภาพหนึ่ง
ซึ่งไม่ควรจะมีใครรู้จักหรือจำได้  เพราะหน้าตาหยีตอนโน้นต่างจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง
หยีถึงกับอึ้ง ทึ่ง และว๊าววว ..

พี่ตี๋ยังมีอะไรที่ทำให้ประทับใจต่อ ๆ มาอีกเป็นระยะ
สัมพันธ์น้องพี่ซีมะโด่ง .. ซึ้งอ่ะ ..

รักพี่ตี๋เช่นกันค่ะ ..



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ld5ic8-4c20c2.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 09 ธันวาคม 2553, 19:19:34

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ld5u6e-0f327a.jpg)


เอามาฝากพ่อเลี้ยงลำปางครับ
รู้สึกแบบนี้
ฮี่ ฮี่


 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 14 ธันวาคม 2553, 22:35:21
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 09 ธันวาคม 2553, 15:04:07
ซึ้งอ่ะ .. พี่ตี๋       emo9:huhu:

31 ปี พี่ตี๋ทำให้หยีประหลาดใจหลายเรื่อง
ที่ประทับใจที่สุดคือ  .. พี่ตี๋จำหยีได้ในภาพถ่ายเก่า ๆ ภาพหนึ่ง
ซึ่งไม่ควรจะมีใครรู้จักหรือจำได้  เพราะหน้าตาหยีตอนโน้นต่างจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง
หยีถึงกับอึ้ง ทึ่ง และว๊าววว ..

พี่ตี๋ยังมีอะไรที่ทำให้ประทับใจต่อ ๆ มาอีกเป็นระยะ
สัมพันธ์น้องพี่ซีมะโด่ง .. ซึ้งอ่ะ ..

รักพี่ตี๋เช่นกันค่ะ ..



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ld5ic8-4c20c2.jpg)
.....ขอบคุณ ครับ
นี่ ถ้าทายรูป ออกรายการ แจ๊คพอต แตกเลย
พี่ จำน้องที่น่ารัก มนุษย์สัมพันธ์โคตดีคนนี้ได้เสมอ
แถมรุ่น23 เป็นปีที่จัดคืนสู่เหย้าหอ  พัฒนาหอ มีกิจกรรมร่วมกันค่อนข้างมาก  อ้อปีนั้น พี่หมอเมธ ประธานหอชาย(เมื่อคืนออกรายการ ไตรภพ อยู่)
พี่อ้วน ประธานหอหญิง  พี่หนุน เป็นกรรมการหอฝ่ายกิจกรรมพิเศษ  
ประทับใจน้องรุ่นนี้หลายๆคนที่ช่วยกันเต็มที่ น้องเล็ก(สุดเลิฟ)  สายันจำได้อยู่ช่วยซุ้มสอยดาว แอ้ดนี่ก็สุดยอด  จิ๊กกี้ อีก น่ารักทั้งน้านนน.....  


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 14 ธันวาคม 2553, 22:55:14
.....น้องจุ๊ง  อิด...อยู่    พี่ตี๋ ขออนุญาตใช้พื้นที่เล็กน้อย
จาก วิกิพีเดีย
เต้าหู้ กำเนิดมากว่า 2,000 ปีในจีนแผ่นดินใหญ่ คนจีนบางกลุ่มถือว่าเต้าหู้เป็นอาหารที่มีคุณค่าสูงที่อยู่ในความธรรมดาสามัญ
คนไทยเรียกเต้าหู้เพี้ยนมาจากภาษาจีนว่า 豆腐 อ่านว่า โตวฟู
คนฮกเกี้ยนเรียกว่า ต้าวกั่ว
คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า โทฟุ (tofu)
คนอังกฤษเรียก bean curd หรือบางครั้งก็เรียกทับศัพท์ว่า tofu เช่นกัน
คนฝรั่งเศสเรียกว่า fromage de soja (ชีสถั่วเหลือง)

เต้าหู้ก้อนแรกเกิดขึ้นในประเทศจีน เล่าขานกันว่า เจ้าชายหลิวอัน (พระนัดดาของจักรพรรดิหลิวปัง กษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์ฮั่น) สั่งให้พ่อครัวบดถั่วเหลืองให้เป็นผงแล้วนำไปต้มเป็นน้ำซุปด้วยเกรงว่ารสจะจืดเกินไป จึงโปรดให้พ่อครัวเติมเกลือลงไปปรุงรส เพื่อถวายพระมารดาซึ่งประชวรหนักจนไม่มีแรงที่จะเคี้ยวอาหารได้
น้ำซุปถั่วเหลืองนั้นค่อยๆ จับตัวข้นเป็นก้อนสีขาวนุ่มๆ เมื่อพระมารดาเสวยแล้วถึงกับรับสั่งว่า “อร่อย” เจ้าชายจึงให้เหล่าพ่อครัวค้นหาสาเหตุ จึงพบว่าเกลือบางชนิดมีผลทำให้ผงถั่วเหลืองผสมน้ำเกิดการเกาะตัวขึ้นเป็นเต้าหู้

เต้าหู้ยี้ เป็นอาหารจีนชนิดหนึ่ง ได้จากการหมักเต้าหู้ขาวกับเกลือและเครื่องปรุงรสต่างๆ มีคุณค่าโปรตีนจากถั่วเหลืองที่นำมาทำเต้าหู้ขาว มีลักษณะเป็นก้อนเต้าหู้เนื้อแน่น มีรสเค็ม.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 15 ธันวาคม 2553, 00:08:09
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 ธันวาคม 2553, 12:58:45

สวัสดีครับ.........ท่านจุ๊ง..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

32 ปีผ่านไป.....ผมก็ยังรักเคารพพี่ตี๋เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง...ยืนยันครับ

(ถึงวันนี้ ยังจำเมื่อครั้งที่พี่พาผมไปขอสปอนเซ่อร์ค่ายหอจากบ.ไทยน้ำทิพย์ได้อยู่เลย........)

.....ขอบคุณครับ   
เอ เรานั่งรถเมล์สาย 93  ไป รึป่าวแหลม   สมัยนั้น บริษัท เค้าใจดีเป็นสปอนเซอร์ให้กิจกรรมนิสิต นักศึกษา ตลอด พวก บัตร โปสเตอร์ผ้า(ถึงเวลาก็กลายเป็น ผ้าม่าน ผ้าขาวม้าไป อิอิ).....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 15 ธันวาคม 2553, 00:21:20
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 09 ธันวาคม 2553, 19:19:34

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ld5u6e-0f327a.jpg)


เอามาฝากพ่อเลี้ยงลำปางครับ
รู้สึกแบบนี้
ฮี่ ฮี่


 emo6::)) emo6::))
.....ขอบใจมากเพื่อนหนุน
     ระยะหลังผมใช้ ซึ้ง อุ่นหรือทำอาหาร แทนไมโครเวฟ (ความรู้จากห้องพี่เจี๊ยบ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม)
     คุณ ให้ ผมเยอะซะขนาดนี้ื ต้องขอบคุณอย่างสูง ที่เป็นห่วงสุขภาพ  คุณก็เช่นกัน รักษาสุขภาพด้วยนะครับ 
     อย่าหักโหม อะไร มากไป นะครับ  รัก ว่ะ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ตี้ถาปัด ที่ 15 ธันวาคม 2553, 08:51:03
สวัสดีครับพี่ๆทุกท่านทั้งพี่ตี๋ พี่หนุน พี่แหลม พี่จุ๊ง และพี่หยี
โฉบเข้ามาได้เข้ามาอ่านความในใจอะไรที่ซึ้งๆของพี่ตี๋เลยพลอยซึ้งกับพวกพี่ๆไปด้วย
อบอุ่นครับ อบอุ่น ถ้าอยู่ใกล้ๆคงจะกระโดดกอดหอมแก้มพวกพี่ๆคนละปื้ดสองปืื้ดละครับ emo49:))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 ธันวาคม 2553, 12:41:17

สวัสดียามเที่ยงครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี..น้องตี้ และพี่น้องทุกท่าน


อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 15 ธันวาคม 2553, 00:08:09
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 ธันวาคม 2553, 12:58:45

สวัสดีครับ.........ท่านจุ๊ง..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

32 ปีผ่านไป.....ผมก็ยังรักเคารพพี่ตี๋เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง...ยืนยันครับ

(ถึงวันนี้ ยังจำเมื่อครั้งที่พี่พาผมไปขอสปอนเซ่อร์ค่ายหอจากบ.ไทยน้ำทิพย์ได้อยู่เลย........)

.....ขอบคุณครับ   
เอ เรานั่งรถเมล์สาย 93  ไป รึป่าวแหลม   สมัยนั้น บริษัท เค้าใจดีเป็นสปอนเซอร์ให้กิจกรรมนิสิต นักศึกษา ตลอด พวก บัตร โปสเตอร์ผ้า(ถึงเวลาก็กลายเป็น ผ้าม่าน ผ้าขาวม้าไป อิอิ).....


ใช่ครับพี่ตี๋.....รถเมล์สาย 93 
แล้วผ้าม่านห้องผมสมัยนั้นก็เป็นป้ายผ้าของสปอนเซอร์จริงๆด้วยครับ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 ธันวาคม 2553, 12:50:34
อ้างถึง
ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 15 ธันวาคม 2553, 08:51:03
สวัสดีครับพี่ๆทุกท่านทั้งพี่ตี๋ พี่หนุน พี่แหลม พี่จุ๊ง และพี่หยี
โฉบเข้ามาได้เข้ามาอ่านความในใจอะไรที่ซึ้งๆของพี่ตี๋เลยพลอยซึ้งกับพวกพี่ๆไปด้วย
อบอุ่นครับ อบอุ่น ถ้าอยู่ใกล้ๆคงจะกระโดดกอดหอมแก้มพวกพี่ๆคนละปื้ดสองปืื้ดละครับ  emo49:))


ต่อหน้าธารกำนัล ห้ามทำนะฮ๊าาา.....น้องตี้.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2553, 20:13:01
แต่พี่ยอมด้ายค่ะ .. น้องตี้ .. ขอให้ว่องค่ะ  ให้ว่อง       emo21:):):


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 16 ธันวาคม 2553, 08:01:58


มาอ่านอะไรซึ้งๆ
ก่อนทำงานอย่างมีกำลังแรงใจ
ถึงวันนี้เราก็มีพี่ๆน้องๆ และเพื่อนรักมากมายอยู่ในสังคมนี้
สุขครับ


 emo43 emo43



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 16 ธันวาคม 2553, 14:20:18
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง

เปิดห้องทิ้งไว้ แอบหนีไปปลีกวิเวกซะนาน มีไรหายมั่งป่าวนะเนี่ย แต่ดูท่าไม่มีอะไรหาย มีแต่จะเพิ่ม อิอิ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 16 ธันวาคม 2553, 15:05:14
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 16 ธันวาคม 2553, 14:20:18
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง

เปิดห้องทิ้งไว้ แอบหนีไปปลีกวิเวกซะนาน มีไรหายมั่งป่าวนะเนี่ย แต่ดูท่าไม่มีอะไรหาย มีแต่จะเพิ่ม อิอิ

  หวัดดี ..จุ๊ง....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ตี้ถาปัด ที่ 16 ธันวาคม 2553, 15:35:17
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 15 ธันวาคม 2553, 20:13:01
แต่พี่ยอมด้ายค่ะ .. น้องตี้ .. ขอให้ว่องค่ะ  ให้ว่อง       emo21:):):

 ชักไม่มั่นใจแล้ว ว่าจะดีเหรอ อิ อิ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2553, 16:56:50
อ้างถึง
ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 16 ธันวาคม 2553, 15:35:17
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 15 ธันวาคม 2553, 20:13:01
แต่พี่ยอมด้ายค่ะ .. น้องตี้ .. ขอให้ว่องค่ะ  ให้ว่อง       emo21:):):

 ชักไม่มั่นใจแล้ว ว่าจะดีเหรอ อิ อิ

 emo20:)):)   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2553, 16:57:24
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 16 ธันวาคม 2553, 14:20:18
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง

เปิดห้องทิ้งไว้ แอบหนีไปปลีกวิเวกซะนาน มีไรหายมั่งป่าวนะเนี่ย แต่ดูท่าไม่มีอะไรหาย มีแต่จะเพิ่ม อิอิ



พี่จุ๊งมาแล้ว .. หวัดดีค่ะ
    emo18:brae:


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 16 ธันวาคม 2553, 22:57:04
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 16 ธันวาคม 2553, 14:20:18
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง

เปิดห้องทิ้งไว้ แอบหนีไปปลีกวิเวกซะนาน มีไรหายมั่งป่าวนะเนี่ย แต่ดูท่าไม่มีอะไรหาย มีแต่จะเพิ่ม อิอิ


สวัสดีครับ......ท่านจุ๊ง..พี่อ้อย..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี..น้องตี้ และพี่น้องทุกท่าน

หายไปซะนานสองนาน แล้วกลับมาแค่ดูลาดเลาเท่านั้นเองหรือ?.......ท่านจุ๊ง.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 20 ธันวาคม 2553, 08:30:14

สงสัยต้องรอ.......ออออ
หลังปีใหม่ล่ะม้างงงงง....
ถึงจะมีเรื่องมาลง มาเล่าต่ออ่ะ
ทั่นจุ๊ง...ว่าไง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 20 ธันวาคม 2553, 12:08:25

ว่าไง..... ว่าไง..... ท่านจุ๊ง.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 ธันวาคม 2553, 09:02:47
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ..       emo9:huhu:

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lduyei-c37ce2.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 24 ธันวาคม 2553, 07:41:42
.....สวัสดี ครับ   รูปครอบครัว น้องหยี  น่ารัก@อบอุ่น ครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 มกราคม 2554, 11:27:53

 " สวัสดีปีใหม่ครับ ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน "


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lebtpx-dd6ea7.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 01 มกราคม 2554, 11:38:53
.....ปีใหม่ 2554 พี่ขออัญเชิญ เพลงพระราชนิพนธ์ พรปีใหม่ มาให้ น้องจุ๊ง รับฟัง ครับ.....
  
http://www.youtube.com/watch?v=iJdjgr76-cA


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 03 มกราคม 2554, 10:39:24


สวัสดีปีใหม่ครับ จุ๊ง และพี่น้องทุกคน
ได้ฤกษ์ ปีใหม่แล้ว จุ๊ง จะเอาเรื่องอะไรมาเล่าต่อเนี่ย
ลูกค้ามารอแล้ว
 

 emo6::))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 10 มกราคม 2554, 21:43:42

สวัสดีครับ......ท่านจุ๊ง..พี่อ้อย..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี..น้องตี้ และพี่น้องทุกท่าน

ท่านจุ๊ง...... วันก่อนเจอ ว่าที่วุฒิวิศวกรโยธา เพื่อนท่าน

มันฝากความคิดถึงมา........


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leta77-c3ce60.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 26 มกราคม 2554, 16:41:53

ท่านจุ๊ง.....สุขกายสบายใจดีอยู่หรือเปล่า?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 26 มกราคม 2554, 19:03:21
.....รออยู่ ด้วยความคิดถึงครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 มกราคม 2554, 19:25:23
มารอด้วยคนค่ะ .. เอ๊ะ .. หรือว่าพี่จุ๊งมี ปห. เรื่องการเข้าเว็บอีกคน    emo47


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 27 มกราคม 2554, 19:49:46
ไม่เห็นนายจุ๊งเข้าเว็บนานแล้ว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2554, 07:29:14
.....สวัสดี ตรุษจีน ครับ.....

http://www.youtube.com/watch?v=onpknWdC6og


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554, 20:44:45
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/63548Valentine_2011_CMD.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554, 21:14:53

ท่านจุ๊ง......

ปีใหม่ผ่านไปแล้ว...... ตรุษจีนก็ผ่านไปแล้ว..... วันวาเลนไทน์ก็จะมาถึงพรุ่งนี้แล้ว......

จะกบดานไปถึงไหน?......... ระวังจะกลายเป็นฟอสซิลนะท่าน.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554, 23:08:40

http://www.youtube.com/watch?v=vGgluy7Z5NQ 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554, 11:02:50

.....ระหว่าง _ _ _ รอ ครับ .....


http://www.youtube.com/watch?v=U1J7V5UHKJA



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554, 20:11:30

พี่ตี๋ครับ......

ผมว่าเรามาร่วมมือกัน.....ยึดห้องจุ๊งดีกว่าครับ ....HA...HA...HA


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554, 20:25:14
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2554, 11:02:50

.....ระหว่าง _ _ _ รอ ครับ .....


http://www.youtube.com/watch?v=U1J7V5UHKJA



เพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง ...... The Myth ดาบทะลุฟ้า ฟัดทะลุเวลา

3 ปีที่แล้วฟังวันละหลายรอบเลย......

คำแปลเนื้อเพลงก็กินใจครับ.......  


Jackie Chan : ปลดปล่อยฉันจากการรอคอยที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ดวงดาวล่วงหล่น สายลมพัดผ่าน
ในที่สุดฉันก็ได้กอดเธอไว้ในอ้อมแขน
หัวใจสองดวงเต้นไปด้วยกัน

โปรดเชื่อฉันว่าหัวใจของฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
รอคอยเป็นเวลาพันปี ฉันสัญญา
แม้ลมจะเหน็บหนาว และขมขื่นเท่าใดฉันก็จะ ไม่ยอมให้เธอจากไป

KIM Hee-Seon : หลับตาลงและจับมือฉันไว้ให้แน่น
รำลึกถึงความหลังคืนวันที่เรารักกัน เรารักกันมาก
ช่างหน้าเสียใจเหลือเกินที่เราไม่ทันได้พูดว่า ฉันรักเธอ

JC : ทุกคืนฉันเจ็บปวดใจ ฉันไม่เคยหยุดคิดถึงเธอ
มันชาชินเสียแล้ว กับการที่ต้องอยู่คนเดียวนานแสนนาน
แต่ฉันก็ยังยิ้มได้ เชื่อฉันเถอะ ฉันเลือกที่จะรอคอย
ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวด ฉันก็จะไม่ไปไหน
มีแต่ความอบอุ่นจากเธอเท่านั้นที่จะปกป้องฉันจากความหนาวเย็น

KIM : หลับตาลงและจับมือฉันไว้ให้แน่น
รำลึกถึงความหลังคืนวันที่เรารักกัน เรารักกันมาก
ช่างหน้าเสียใจเหลือเกินที่เราไม่ทันได้พูดว่า ฉันรักเธอ

JC/KIM : ขอให้ความรักกลางใจฉัน เปล่งบานเหมือนดอกไม้บานในใจเราตลอดไป
เราจะสามารถผ่านห่วงเวลาไปได้ ไม่ยอมก้มหัวให้ ไม่ยอมละทิ้งความฝัน

KIM : ช่างหน้าเสียใจเหลือเกินที่เราไม่ทันได้พูดว่า ฉันรักเธอ

JC : ขอให้ความรักกลางใจฉัน เปล่งบานเหมือนดอกไม้บานในใจเราตลอดไป

KIM : เราไม่เคยลืมคำสัญญา

JC : รักแท้ของเราจะติดตามไปตราบห้วงเวลา

KIM : เรายังไม่ทันได้พูดว่า "ฉันรักเธอ"

JC : ความรักที่เรามีในจิตใจเป็นแค่เพียงตำนานที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง


ขอบคุณ ที่มา : http://www.Popcornfor.com,laviona


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554, 07:49:37

เฮียจุ๊ง ไม่มาคุยเรื่องจีน
เฮียตี๋ เอาเพลงจีนมาให้ฟัง
เฮียแหลม จัดการแปลให้อ่านไปฟังไป
เพลินนะเนี่ย
แสดงว่าเรา...ได้ยึดห้องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
กร๊ากกก  กร๊ากกก



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554, 23:17:56
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2554, 07:49:37

เฮียจุ๊ง ไม่มาคุยเรื่องจีน
เฮียตี๋ เอาเพลงจีนมาให้ฟัง
เฮียแหลม จัดการแปลให้อ่านไปฟังไป
เพลินนะเนี่ย
แสดงว่าเรา...ได้ยึดห้องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
กร๊ากกก  กร๊ากกก



.....มี เฮียแหลม จัดการแปล   พลอยเพลินไปด้วยนะเนี่ย.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554, 23:27:34
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2554, 23:08:40

http://www.youtube.com/watch?v=vGgluy7Z5NQ 


.....อันนี้ส่วนตัว ชอบมากครับ

     เป็นของ บริษัท Kangmei Pharmaceuticals   พาชมภูมิปัญญาสมุนไพรโบราณ  วิวทิวทัศน์

     ผมว่า ผู้บริหารมองการณ์ไกล+ความรับผิดชอบต่อสังคมดีมากครับ

     บ้านเราน่าจะเอาเป็นแบบอย่างบ้างน้อ  อิจฉาาา.....



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554, 14:21:53

..... _ _ _ .....

http://www.youtube.com/watch?v=2Ms_You5Gec


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554, 19:09:19

.....เปาบุ้นจิ้น - ตอน องค์หญิงตกยาก ครับ.....


http://www.youtube.com/watch?v=NmY6oOxBnj4


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554, 22:29:05
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2554, 19:09:19

.....เปาบุ้นจิ้น - ตอน องค์หญิงตกยาก ครับ.....


http://www.youtube.com/watch?v=NmY6oOxBnj4


วันนี้ช่อง3 ยังฉายไม่ถึงตอนนี้เลยครับ...........พี่ตี๋

พี่นำคลิปนี้มาลง......คงมีวัตถุประสงค์ลึกๆ

ขอตั้งชื่อตอนใหม่ว่า......... ตัดสินดคีคอรัปชั่น โกงบ้าน กินเมือง

.....5.....5.....5 ..... " เอามันไปประหาร "


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554, 00:46:38
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2554, 14:21:53

..... _ _ _ .....

http://www.youtube.com/watch?v=2Ms_You5Gec


ชอบเพลงนี้ค่ะ .. ภาพสวยมากด้วย
     emo42


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554, 01:06:01
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2554, 22:29:05
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2554, 19:09:19

.....เปาบุ้นจิ้น - ตอน องค์หญิงตกยาก ครับ.....


http://www.youtube.com/watch?v=NmY6oOxBnj4


วันนี้ช่อง3 ยังฉายไม่ถึงตอนนี้เลยครับ...........พี่ตี๋

พี่นำคลิปนี้มาลง......คงมีวัตถุประสงค์ลึกๆ

ขอตั้งชื่อตอนใหม่ว่า......... ตัดสินดคีคอรัปชั่น โกงบ้าน กินเมือง

.....5.....5.....5 ..... " เอามันไปประหาร "


.....อ้าว แหลม เป็นแฟนตามชมด้วยเหมือนกันเลย

     ดูเรื่องเก่าๆตั้งแต่ โอชิน  มา>เปาบุ้นจิ้น 

    ได้แง่คิด+สะท้อนใจ หลายๆ อย่างครับน้องแหลม บางตอนดูไปน้ำตาตกใน

     แต่นั่นแหละนะ สังคมเรามีคนดีๆเยอะกว่าอยู่แล้ว

     ดังพระราชโอวาท พ่อหลวงของเรา เอาน้ำดีขจัดน้ำเสียออกไป ครับ.....



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554, 01:14:34
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2554, 00:46:38
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2554, 14:21:53

..... _ _ _ .....

http://www.youtube.com/watch?v=2Ms_You5Gec


ชอบเพลงนี้ค่ะ .. ภาพสวยมากด้วย
     emo42

.....รอเจ้าบ้านแปล ครับ รู้แต่ว่า วัฒนธรรม เศรษฐกิจพอเพียง

     ข้าวชั้นเลิศ อากาศดี ผู้คนยิ้มแย้ม แจ่มใส มิตรไมตรี 

     อายุเฉลี่ยที่นี่เยอะมาก น่าจะ ๙๐  ขึ้น ครับ.....



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554, 08:21:17
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2554, 01:06:01
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2554, 22:29:05
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2554, 19:09:19

.....เปาบุ้นจิ้น - ตอน องค์หญิงตกยาก ครับ.....


http://www.youtube.com/watch?v=NmY6oOxBnj4


วันนี้ช่อง3 ยังฉายไม่ถึงตอนนี้เลยครับ...........พี่ตี๋

พี่นำคลิปนี้มาลง......คงมีวัตถุประสงค์ลึกๆ

ขอตั้งชื่อตอนใหม่ว่า......... ตัดสินดคีคอรัปชั่น โกงบ้าน กินเมือง

.....5.....5.....5 ..... " เอามันไปประหาร "


.....อ้าว แหลม เป็นแฟนตามชมด้วยเหมือนกันเลย

     ดูเรื่องเก่าๆตั้งแต่ โอชิน  มา>เปาบุ้นจิ้น 

    ได้แง่คิด+สะท้อนใจ หลายๆ อย่างครับน้องแหลม บางตอนดูไปน้ำตาตกใน

     แต่นั่นแหละนะ สังคมเรามีคนดีๆเยอะกว่าอยู่แล้ว

     ดังพระราชโอวาท พ่อหลวงของเรา เอาน้ำดีขจัดน้ำเสียออกไป ครับ.....



    น้องตี๋  น้องแหลม..

  เมื่อวานพี่ก็ดู...ยังคุยกันกับคนที่บ้านอยู่เลยว่า....โลกนี้มีท่านเปาอยู่คนเดียวแหละ..
  หาอีกไม่ได้แล้ว...ขืนคนปัจจุบันเป็นอย่างท่านเปา คงถูกเจี๋ยนเสียแต่แรกเกิดแล้ว....ฮาาา...
  แต่เศร้าจริงๆ...ฮือฮือ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554, 17:36:38
มาแล้วคร้าบ ฝากเพลงจากหนังเรื่อง โปเยโปโลเย ให้ฟัง

http://www.youtube.com/watch?v=cBlolVb2E5M


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554, 19:42:15
มาแล้ว .. และก็หายไปอีก       emo25:(((


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554, 20:24:25
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2554, 19:42:15
มาแล้ว .. และก็หายไปอีก       emo25:(((

อันนี้ไม่แน่ ไปๆมาๆน่ะ อิอิ

มาเปิดเพลงให้ฟังดีกว่า หลายทั่นอาจจะชอบเพลง Take me to your heart ของ Michael Learns to Rock แต่อาจจะหารู้ไม่ว่าต้นฉบับเป็นเพลงจีนเสียงดี ดนตรีไพเราะ ที่แปลว่าจูบลา ของจางเสวโหย่ว(แปลว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนจาง) เพลงจูบลาออกมาฮิตได้ประมาณ3ปีเพลง Take me to your heart ถึงได้ฤกษฺแฮปปี้เบิร์ธเดย์  ลองฟังเปรียบเทียบดูนะ แต่ผมชอบเพลงจูบลามากกว่า เสียงซอมันกินใจจริงๆ


http://www.youtube.com/watch?v=CQ003-eBaxk

http://www.youtube.com/watch?v=3esUMTQGc34

เพลง Take me to your heart ทุกทั่นรู้ความหมาย ฟังเข้าใจ(แต่จะรู้เรื่องหรือเปล่าอีกเรื่องนึง) มาดูความหมายของเพลงจูบลาบ้าง(ส่วนจะรู้เรื่องหรือเปล่าก็เป็นอีกเรื่องนึง)

吻别
จูบลา
词/何启弘 曲/殷文琦

前尘往事成云烟消散在彼此眼前
อดีตกลายเป็นหมอกควัน ละลายหายไปในสายตาของเราทั้งคู่

就连说过了再见也看不见你有些哀怨
แม้จะพูดแล้วว่าลาก่อน ก็ไม่เห็นเธอจะมีท่าทีรันทดใจ

给我的一切你不过是在敷衍
ที่ให้ฉันมาทั้งหมด เธอก็เป็นเพียงแค่การตบตาเท่านั้น

你笑的越无邪我就会爱你爱得更狂野
เธอยิ้มยิ่งเหมือนบริสุทธิ์ใจเท่าใด ฉันก็ยิ่งคลั่งรักเธอเข้าไปเท่านั้น

总在刹那间有一些了解
ก็มีชั่วบางขณะที่ฉันพอจะเข้าใจบ้าง

说过的话不可能会实现
คำพูดที่พูดออกไปมันไม่สามารถเป็นจริงได้

就在一转眼发现你的脸
ในชั่วพริบตา ฉันพบว่าใบหน้าของเธอ

已经陌生不会再像从前
กลายเป็นแปลกหน้า ไม่เหมือนเช่นที่ฉันเคยรู้จักอีกแล้ว

我的世界开始下雪
โลกของฉันเริ่มจะปกคลุมไปด้วยหิมะ

冷得让我无法多爱一天
มันเย็นจนฉันไม่สามารถรักได้อีกแม้แต่วันเดียว

冷得连隐藏的遗憾都那么地明显
มันเย็นจนความเศร้าเสียดายที่ฝังลึกอยู่ในใจ มันปรากฎชัดเจนอะไรอย่างนี้

我和你吻别在无人的街
ฉันและเธอจูบลาบนถนนสายเปลี่ยวไร้ผู้คน

让风痴笑我不能拒绝
ให้ลมมันหัวเราะหึๆ ฉันก็ไม่อาจจะห้ามมันได้

我和你吻别在狂乱的夜
ฉันและเธอจูบลาในค่ำคืนที่อลเวง

我的心等著迎接伤悲
ใจขอฉันกำลังรอ รอเผชิญกับความเศร้าระทมใจอยู่

想要给你的思念就像风筝断了线
ตวามคิดที่จะคิดถึงเธอ ก็เหมือนว่าวที่มันหลุดลอย

飞不进你的世界也温暖不了你的视线
มันไปไม่ถึงโลกของเธอ แล้วไม่สามารถอบอุ่นสายตาเธอได้

我已经看见一出悲剧正上演
ฉันเห็นแล้ว ละครบทเศร้าเรื่องหนึ่งกำลังแสดงอยู่

剧终没有喜悦我仍然躲在你的梦里面
บทจบมันไม่มีความร่าเริงยินดี  ฉันยังคงแอบซ่อนอยู่ในฝันของเธอ



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 14:48:35

สวัสดีครับ.......ท่านจุ๊ง..พี่อ้อย..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

มาซะที......
รอจนเหนื่อยเลย......ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 14:51:00
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2554, 01:14:34
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2554, 00:46:38
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2554, 14:21:53

..... _ _ _ .....

http://www.youtube.com/watch?v=2Ms_You5Gec


ชอบเพลงนี้ค่ะ .. ภาพสวยมากด้วย
     emo42

.....รอเจ้าบ้านแปล ครับ รู้แต่ว่า วัฒนธรรม เศรษฐกิจพอเพียง

     ข้าวชั้นเลิศ อากาศดี ผู้คนยิ้มแย้ม แจ่มใส มิตรไมตรี 

     อายุเฉลี่ยที่นี่เยอะมาก น่าจะ ๙๐  ขึ้น ครับ.....



พี่น้องขอไว้......

ช่วยแปลให้ด้วยครับ........ ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 15:21:08
เอาเพลงฝนตกที่หน้าต่างไปฟังอีกเพลง เพลงภาษาจีนชื่อพรนมลิขิต

http://www.youtube.com/watch?v=MTMYB89XQ-s

http://www.youtube.com/watch?v=tuFi4JjNZ84


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 15:25:51

แล้วทำนองต้นฉบับเป็นของใครครับ?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 15:44:19
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 14:51:00
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2554, 01:14:34
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2554, 00:46:38
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2554, 14:21:53

..... _ _ _ .....

http://www.youtube.com/watch?v=2Ms_You5Gec


ชอบเพลงนี้ค่ะ .. ภาพสวยมากด้วย
    emo42

.....รอเจ้าบ้านแปล ครับ รู้แต่ว่า วัฒนธรรม เศรษฐกิจพอเพียง

     ข้าวชั้นเลิศ อากาศดี ผู้คนยิ้มแย้ม แจ่มใส มิตรไมตรี  

     อายุเฉลี่ยที่นี่เยอะมาก น่าจะ ๙๐  ขึ้น ครับ.....



พี่น้องขอไว้......

ช่วยแปลให้ด้วยครับ........ ท่านจุ๊ง


รับไว้พิจารณาครับ ขอเวลาบิ๊วอารมณ์แป๊บ เพลงนี้ชื่องานเลี้ยงกลางแจ้งกลางหมู่บ้าน มีภาษาท้องถิ่นพอสมควร ต้องใช้เวิ้บทูเดาเสริมด้วย ไม่ใช่งานง่ายๆนะเนี่ย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 15:46:23

เชื่อว่า.......คงไม่เกินความสามารถท่านจุ๊งหรอก.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 16:06:19
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 15:25:51

แล้วทำนองต้นฉบับเป็นของใครครับ?
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 15:25:51

แล้วทำนองต้นฉบับเป็นของใครครับ?

หมายถึงเพลงฝนตกที่หน้าต่างใช่ไหม อันนี้ไม่รู้ซิ หาดูในสารานุกรมจีนแล้ว มันไม่เจอ คงบังเอิญคิดเหมือนกันแล้วจะเอ๋มาตรงกันมั้ง มันบังเอิญจริงๆ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 16:30:04
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 16:06:19
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 15:25:51

แล้วทำนองต้นฉบับเป็นของใครครับ?

หมายถึงเพลงฝนตกที่หน้าต่างใช่ไหม อันนี้ไม่รู้ซิ หาดูในสารานุกรมจีนแล้ว มันไม่เจอ คงบังเอิญคิดเหมือนกันแล้วจะเอ๋มาตรงกันมั้ง มันบังเอิญจริงๆ
[/quote]

กลับไปดูใหม่อีกครั้งแล้ว.......

ของไทยคงเป็นต้นฉบับอ่ะครับ เพราะของจีนเค้าให้เครดิต Loso ไว้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 19:27:43
หวัดดีม่านจุ๊ง  มาแล้วนึกว่าล้มหายตายจากกันไปเสียแล้วเพื่อน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 10:31:06
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 19:27:43
หวัดดีม่านจุ๊ง  มาแล้วนึกว่าล้มหายตายจากกันไปเสียแล้วเพื่อน

ใช้ปากพูดหรือเนี่ย ถ้าตายจะไปเยี่ยม


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 10:45:01

อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 10:31:06
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 19:27:43
หวัดดีม่านจุ๊ง  มาแล้วนึกว่าล้มหายตายจากกันไปเสียแล้วเพื่อน

ใช้ปากพูดหรือเนี่ย ถ้าตายจะไปเยี่ยม

 emo20:)):)   emo20:)):)   emo20:)):)

HA...HA...HA... หัวเราะไปอย่างงั้นแหละ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าหัวเราะใคร.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 11:20:08
เอาเพลง Don't cry for me Agentina ไปฟังบ้าง

http://www.youtube.com/watch?v=hucyDCxCnrg


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 12:12:17

สวัสดียามเที่ยงครับ.......ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน

อย่าลืมทานข้าวเที่ยงนะครับ.....พี่น้อง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 14:03:18
...เข้ามาฟังเพลงค่ะ...เพราะดี...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 15:01:22
สวัสดีครับท่านผู้ฟังท่านใหม่ เพื่อเป็นการต้อนรับผู้ฟังท่านใหม่ เลยขอเปิดเพลง เรื่องโรแมนติกที่ซู้ดให้ฟัง อุตส่าห์คัดเสียงดนตรีที่ดีที่สุดแล้วนะเนี่ย

http://www.youtube.com/watch?v=HBhZbKo071o


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 15:05:34
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 14:03:18
...เข้ามาฟังเพลงค่ะ...เพราะดี...

เข้ามาบ่อยๆนะครับ......พี่ตู่

ห้องนี้ผมมีหุ้น........  


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 18:34:42
ทิ้งฐานปฏิบัติการไปนาน ท่าทางเรทติ้งตก ท่านผู้ชมน้อย อย่ากระนั้นเลย โพสต์เพลงต่อเรียกแขกดีกว่า เอาเพลงจากเรื่องโรเมโอและจูเลียตฉบับภาษาจีนให้ฟังดีกว่า เรื่องนี้ฝรั่งเขาเข้าใจในชื่อ The Butterfly Lovers เพลงนี้ชื่อว่า"แปลงกายาเป็นผีเสื้อ"

http://www.youtube.com/watch?v=mDzjC0eLVQQ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 19:57:51
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 11:20:08
เอาเพลง Don't cry for me Agentina ไปฟังบ้าง

http://www.youtube.com/watch?v=hucyDCxCnrg
ในรถผมมีเฟลงที่บรรเลงจากูเจิงด้วย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 20:01:36
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 10:45:01

อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 10:31:06
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 19:27:43
หวัดดีม่านจุ๊ง  มาแล้วนึกว่าล้มหายตายจากกันไปเสียแล้วเพื่อน

ใช้ปากพูดหรือเนี่ย ถ้าตายจะไปเยี่ยม

 emo20:)):)   emo20:)):)   emo20:)):)

HA...HA...HA... หัวเราะไปอย่างงั้นแหละ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าหัวเราะใคร.

พากันมาเยี่ยมเยอะๆ นา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 20:48:12
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 20:01:36
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 10:45:01

อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 10:31:06
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2554, 19:27:43
หวัดดีม่านจุ๊ง  มาแล้วนึกว่าล้มหายตายจากกันไปเสียแล้วเพื่อน

ใช้ปากพูดหรือเนี่ย ถ้าตายจะไปเยี่ยม

 emo20:)):)   emo20:)):)   emo20:)):)

HA...HA...HA... หัวเราะไปอย่างงั้นแหละ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าหัวเราะใคร.

พากันมาเยี่ยมเยอะๆ นา

จ้า!.!.!........


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 01 มีนาคม 2554, 08:54:16
มาจัดเพลงเรียกแขกต่อ เพลงนี้เป็นเพลงที่ในจีนนิยมเปิดตอนที่เกิดภัยพิบัติต้องการการบริจาค เพลงนี้แปลจีนเป็นไทยชื่อว่าการให้ด้วยความรัก แต่ถ้าให้แปลเป็นไทยแบบไทยๆให้เข้ากับยุคสมัยต้องเรียกว่าร่วมด้วยช่วยกัน เพลงนี้คนจีนได้ยินทุกครั้งต้องปวดกระบาน คิดในใจว่าตายละวา อั๊วต้องเสียตังอีกละ อีกละ แต่เพลงนี้ทำนองดีมาก ความหมายก็ดี โดยเฉพาะตอนที่ร้องว่า เพียงแต่แต่ละท่านให้ความรักออกมาคนละเล็กละน้อย โลกนี้จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลย ว่างๆมีอารมณ์แล้วจะแปลเนื้อเพลงให้ดู ตอนนี้ฟังเพลงไปพลางๆก่อน เพลงนี้บันทึกจากการแสดงสด อาจมีเสียงในฟิล์มบ้าง ท่านผู้ฟังควรมีวิจารณญาณในการรับฟัง เด็กและสตรีมีครรภ์ควรมีผู้ปกครองร่วมรับฟังด้วยเพราะเป็นเรท PG

http://www.youtube.com/watch?v=hAgrtZ8HUbs



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 01 มีนาคม 2554, 09:01:26
   น้องจุ๊ง....
     พรุ่งนี้บ่ายๆว่างไหม?.....
     เชิญมาจิบกาแฟที่กรมส่งเสริมการเกษตรหน่อยจิ...
      พี่ๆน้องๆเขานัดกันมาที่ร้านกาแฟสดที่นี่...
       พยายามมาให้ได้นะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 01 มีนาคม 2554, 09:10:50

.....สวัสดีครับ จุ๊ง   

     เพลงจีนเพราะๆฟังได้ทั้งปีทั้งชาติ ยิ่งมีเซียนจุ๊ง บิ้วอารมณ์ให้  ได้อารมณ์ตามเลยครับ

     แล้วนี่ ทานข้าวเช้ากับ อะไรครับ น้องจุ๊ง (ธรรมเนียมจีนเจอะกัน มีอยู่อีกคำที่ทักทายกัน

     เจี้ยห้อบ่วย  บ่อยๆ ครับ).....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 01 มีนาคม 2554, 09:41:57
...ขอบคุณค่ะน้องจุ๊งที่จัดเพลงต้อนรับ...ฟังแล้วค่ะทั้งของน้องจุ๊งน้องตุ๋ย...เพราะๆทั้งนั้นเลยค่ะ...
...เพลงสุดท้ายนี่ถึงแม้จะไม่รู้ความหมาย...แต่ก็ขนลุกเลยค่ะ...
...แสดงว่าน้องจุ๊งเชี่ยวชาญภาษาจีนนะคะ...
...เพลงจีนพี่ตู่ร้องได้อยู่เพลงเดียวค่ะ...เทียนมีมี่...แต่ต้องดูเนื้อด้วยนะคะ...ร้องแบบมั่วๆค่ะ...
...นอกนั้นก็จะได้ทำนอง...
...รู้จักเพลงนี้มั้ยคะ...ชื่อภาษาไทยว่า...สิ่งสุดท้าย...ค่ะ...ร้องโดยฮ๊อทเป็ปเปอร์...
...ถ้าใครเคยอกหัก...ฟังเพลงนี้จะเพราะมากค่ะ...

...เมื่อเธอคิดควรใคร่...การผละจากไปนั้นคือสิ่งสุดแสนดี...

...ดวงดาวสวยเรืองเฉิดฉวี...แขวนดวงรอให้เธอคว้ามัน...

...ฉันหรือจะเอื้อมอาจ...เอ่ยคำขวางกั้น...ดึงดันยื้อฉุดให้เธอเปลี่ยนใจ...

...ใจจริงยังรักเธอ...ใครมิเทียมได้...เฝ้าเสียใจอยู่ไม่หายและแสนห่วง...

...วันใดเธอต้องเจ็บปวดครวญครางร้าวรวดสุดแสบทรวง...

...จงหวนคืนมาหาฉัน...พร้อมลืมวันเหน็บหน่วงโหดร้าย...

...สิ้นสูญทุกสิ่งที่หวัง...แม้คำน่าชังหยามอาย...

...ขอรับประกันว่า...เธอยังเหลือสิ่งสุดท้าย...

...คือเธอยังมีฉันอยู่...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 01 มีนาคม 2554, 10:35:19
สวัสดีครับพี่อ้อย พี่ตี๋ พี่ตู่ และบรรดาชาวเพลงทุกท่าน สำหรับงานกินกาแฟและอื่นๆที่ตามมา ได้วางโครงการไว้กับท่านแหลมเปี๋ยบไว้เรียบร้อยแล้วครับ ดีใจครับที่ชอบเพลงที่ผมจัด สำหรับเพลง"เรื่องโรแมนติกที่ซู้ด" ผมชอบตอนที่ร้องว่า "ฉันสามารถคิดถึงเรื่องที่โรแมนคาทอลิกที่ซู้ด นั่นคืออยู่ร่วมกับเธอค่อยๆแก่เฒ่าไปตามกัน ตลอดทางค่อยๆะสะสมรอยยิ้มร่วมกันไปเรื่อยๆ ไว้ตอนหลังนั่งกันบนเก้าอี้นั่งเอนร่วมระลึกถึงกัน" เป็นไงโรแมนติกพอมะ สำหรับเพลง"สิ่งสุดท้าย" ต้นฉบับแปลชื่อเพลงเป็นภาษาปะกิตน่าจะใช้ชื่อว่า"The Green Island Serenade" สำหรับภาษาไทยแปลให้ใกล้เคียงสุดน่าจะเรียกว่า"ลำนำแห่งเกาะขจี" เอ๊ะ ไม่ใช่ซี ต้องเป็น"เพลงราตรีแห่งเกาะขจี" ซิ เป็นเพลงเก่ารุ่นเดอะเรียกพี่ จัดให้ตามคำขอครับ แถมด้วยเพลง "Moonlight Serenade" ละกัน ฟังเพลง"The Green Island Serenade" ทุกทีต้องนึกถึงเพลงนี้ทุกที่ เพราะมัน Serenade เหมือนกัน อืม เพลง"Moonlight Serenade"เอาของฟ่งเฟยเฟย นักร้องโปรดผมดีกว่า


http://www.youtube.com/watch?v=CHQaUCsq0YM

http://www.youtube.com/watch?v=TgOwpbuigeQ

http://www.youtube.com/watch?v=RBAHln8qU0I




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 01 มีนาคม 2554, 10:54:04
...ขอบคุณมากค่า...น้องจุ๊ง...
...พี่ตู่ฟังแล้วเพราะทั้งสองเวอร์ชั่นค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 01 มีนาคม 2554, 11:25:08
เจอแล้ว เพลง"ฝากความคิดถึงไปแดนไกล" เพลงโปรดผมอีกเพลง แถมร้องโดยฟ่งเฟยเฟย นักร้องโปรดผมด้วย

http://www.youtube.com/watch?v=23aOSljf2fM


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 มีนาคม 2554, 12:17:18

สวัสดียามเที่ยงครับ......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อ้อย..พี่ตี๋..ครูตุ๋ย และพี่น้องทุกท่าน

มาหาเพลงจีนไพเราะๆฟังครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 02 มีนาคม 2554, 07:54:10

สวัสดีตอนเช้าครับเฮียจุ๊งและพี่น้องทุกกคน
เพลงเพราะๆทั้งน้านนนน...เลยต้องใช้เวลานานหน่อย
นี่ยังฟังได้ไม่ครบเลยครับ
ต้องเปิดหน้าค้างไว้
ทะยอยฟังไป
ขอบคุณครับ



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 มีนาคม 2554, 09:55:29
สวัสดีครับพี่หนุน
มาจัดเพลง ผมก็หามาฟัง ชอบแล้วก็เอามาจัดให้ แถมเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับเพลงประกอบการฟังด้วย เพลงที่ผมจัดให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ประกอบในเรื่องความรักในหอแดงทุกเวอร์ชั่น ทำนองเพลงก็แยกไปเป็นสิบ มาจากกลอนบรรยายความรู้สึกของนางเอกเรื่อง ซึ่งเป็นบทกลอนที่คนจีนและคนที่เคยอ่านเรื่องความรักในหอแดงรู้ดี  เรื่องความรักในหอแดงได้รับการยอมรับจากนักวิชาการว่าเป็นNumber One ในวรรณกรรมอมตะ4เรื่องของจีน ซึ่งประกอบด้วยสามก๊ก ซ้องกั๋ง(ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน) ไซอิ๋ว และความรักในหอแดง เรื่องความรักในหอแดงมีคุณค่าทางวิชาการ ศิลปวัฒนธรรมสูงมาก มีคุณค่ายังไงหรือ ยกตัวอย่างในรายการทีวีเขามีการยกอาหารในเนื้อเรื่องออกมาจัด แถมคุณค่าทางโภขนาการและวิธีทำด้วย เจ๋งไหมล่ะ มีการวิเคราะห์ตัวละครแต่ละคนในเรื่องไม่แพ้การวิเคราะห์เรื่องสามก๊ก เรียกว่าฝ่ายหนึ่งบุ๋น ฝ่ายหนึ่งบู๊ก็ได้ ในไทยก็มีแปลอยู่หลายเวอร์ชั่น หาอ่านได้ตามสบายจาย เอาล่ะ ฝอยน้ำมาก็เยอะแล้ว เชิญรับฟังเพลงเลยครับ เพลงนี้ชื่อ กลบฝังบุปผา เพลงที่เปิดนี้ เนื้อเพลงเดียวกัน แต่คนละเวอร์ชั่น


http://www.youtube.com/watch?v=BzoNc3Aoip0

http://www.youtube.com/watch?v=sCWekPinRmE

http://www.youtube.com/watch?v=mR2pBH5aeY8

อ้อ แถมเวอร์ชั่นรุ่นเก๋ากึ๊กส์ รุ่นปี1930 ยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ น่าจะเป็นเวอร์แรกสุดที่เคยมีมา ร้องโดย"โจวเสวียน" ราชินีเพลงจีนคนแรก ใครไม่รู้จักลองไปถามอาม่ารุ่น 80 ถามถึง"จิวซ้วง"ลู อีลู้ลี

http://www.youtube.com/watch?v=tnwmQQyWNMU


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 02 มีนาคม 2554, 12:23:34

สวัสดียามเที่ยงครับ.......ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน

ดอกเหมยงามละลานตา......... กลบฝังบุปผาที่ราร่วง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 02 มีนาคม 2554, 14:41:06
...มาฟังเพลงต่อค่ะ...
...ความรักในหอแดง...เคยดูหนังจีน...นางเอกน่าสงสารมาก


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 02 มีนาคม 2554, 16:18:58
emo42  ร้องไม่เป็น  จึงได้แต่คลอทำนองตามไปเบา ๆ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 มีนาคม 2554, 16:37:14
มาฟัง Endless Love ฉบับภาษาจีนกัน แบ่งเป็น2เวอร์ชั้น เพลงแรกเป็น (Classic) Endless Love เพลงที่สองเป็น (Modern) Endless Love

http://www.youtube.com/watch?v=MzROA-wGyZY

http://www.youtube.com/watch?v=J-vaI4lBE44


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 02 มีนาคม 2554, 16:42:40
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 02 มีนาคม 2554, 09:55:29
สวัสดีครับพี่หนุน
มาจัดเพลง ผมก็หามาฟัง ชอบแล้วก็เอามาจัดให้ แถมเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับเพลงประกอบการฟังด้วย เพลงที่ผมจัดให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ประกอบในเรื่องความรักในหอแดงทุกเวอร์ชั่น ..............เชิญรับฟังเพลงเลยครับ เพลงนี้ชื่อ กลบฝังบุปผา เพลงที่เปิดนี้ เนื้อเพลงเดียวกัน แต่คนละเวอร์ชั่น



อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 02 มีนาคม 2554, 12:23:34

สวัสดียามเที่ยงครับ.......ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน

ดอกเหมยงามละลานตา......... กลบฝังบุปผาที่ราร่วง


เพลินทั้ง 3 เวอร์ชั่นเลยครับ
น้องเสี่ยแหลมก็ช่างหาคำสวยๆมาเสริม
ชอบ ชอบ



 emo42 emo43 emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 มีนาคม 2554, 06:47:36
อรุณสวัสดิ์ครับพี่น้องและผองเพื่อน
เช้าๆเอาเพลงเทพธิดาดอยมาฝาก อันนี้ฉบับภาษาจีนชื่อ "แต่งงานกับหนุ่มชาวฮั่นดีกว่า " ชาวฮั่นเป็นคำที่ชาวเขาเผ่าต่างๆใช้เรียกคนจีนชนหมู่มาก อย่างภาษาจีนกลางที่เราเรียกกันจะเรียกว่าภาษาฮั่นก็ไม่ผิด ตามเนื้อเพลงก็เป็นสาวชาวดอยรำพึงความในใจตรงกับนิยามของคำว่าเทพธิดาดอยเป๊ะเลย เพลงนี้มีหลายเวอร์ คัดมาอันที่ตรงกับบรรยากาศชาวดอยที่สุดละกัน บรรดาชาวแขกดอย


http://www.youtube.com/watch?v=v-DPvxJ1nQE

http://www.youtube.com/watch?v=51VzseI6-KI


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 มีนาคม 2554, 12:46:27
นึกถึงเพลง "ผีเสื้อสองตัว" และเพลง "หมาป่าที่คลุมร่างด้วยหนังแกะ"เลยเอามาฝาก

http://www.youtube.com/watch?v=ZvRniYYzzn4

http://www.youtube.com/watch?v=QArB96NBk4A


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 03 มีนาคม 2554, 13:09:12

สวัสดียามบ่ายครับ......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อ้อย..พี่หนุน..พี่ตี๋..ครูตุ๋ย..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

เพลงผีเสื้อสองตัว......มีเนื้อหาอย่างไร? อยากรู้อ่ะครับ ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 มีนาคม 2554, 13:58:35
เนื้อหาเพลง"ผีเสื้อสองตัว"

ที่รักจ๋า เธอค่อยๆบินนะ
ระวังกุหลาบที่มีหนามแหลมตรงหน้านะ
ที่รักจ๋า เธอเปิดปากหน่อย
เมื่อลมพัดพากลิ่นหอมมา จะทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม
ที่รักจ๋า เธอบินไปกับฉันนะ
บินผ่านลำเนาป่าไม้ไปดูลำธารโน่นแน่ะ
ที่รักจ๋า มาเต้นรำกัน
ความรักในวสันตฤดูจะไม่ทำให้ฟ้ามืดมัว
ฉันกับเธอบินคลอเคลียร่อนถลาไปด้วยกัน
บินข้ามโลกมายาร่วมกันนิรันดร
ตามจู๋จี้เธอทั้งชาติ
รักฉันสักพันครั้ง
ให้สมกับความรักของฉัน ความงามของเธอ
ฉันกับเธอบินคลอเคลียร่อนถลาไปด้วยกัน
บินข้ามโลกมายาร่วมกันนิรันดร
จนลมสารทฤดูหยุดพัด ใบไม้ร่วงมาเป็นกอง
ได้โรยราร่วมกันกับเธอ ก็ไม่สำนึกเสียใจ


เพลง"ผีเสื้อสองตัว" ฟังแล้วมีแต่รูปผีเสื้อมันจะแห้งไป เหมือนกินข้าวแล้วไม่ได้กินน้ำ เลยฝากเวอร์ชั่นของ"จั้วอีถิง" อืม เห็นร้องมาแต่ตัวกะเปี๊ยก ไม่เจอตั้งนานนม โตขึ้นเป็นกอง

http://www.youtube.com/watch?v=n-HADeayDLs


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 03 มีนาคม 2554, 15:07:22

   จุ๊ง..เปิดสอนภาษาจีนวันละคำดีไหม?...
   พี่จะเรียนมั่งอ่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 03 มีนาคม 2554, 17:04:50

ฟังเพลงเทพธิดาดอยแล้ว...ก็นึกถึงตอนไปออกค่าย
หรือตอนไปเที่ยวกัน
โดยเฉพาะ หมอต๋องกับหมอศาล
ชออบจริงเพลงนี้


 emo42 emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 มีนาคม 2554, 17:30:07
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 03 มีนาคม 2554, 15:07:22

   จุ๊ง..เปิดสอนภาษาจีนวันละคำดีไหม?...
   พี่จะเรียนมั่งอ่ะ...

แหมพี่อ้อยก้อ ให้ไปวันละเพลง น้อยไปรึไง

เอาเพลงของเผ่ามองโกลไปฟังบ้าง ชื่อเพลง "แก้วตาแห่งราศรี" คนจีนฮิตกันช่วงหนึง ให้ทั้ง2เวอร์ ทั้งภาษาจีนกลางและภาษามองโกล

http://www.youtube.com/watch?v=hr5GgQelnKE

http://www.youtube.com/watch?v=9uKOdSVuDi8


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 03 มีนาคม 2554, 17:41:13
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 03 มีนาคม 2554, 15:07:22

   จุ๊ง..เปิดสอนภาษาจีนวันละคำดีไหม?...
   พี่จะเรียนมั่งอ่ะ...

หนับหนุนค่ะ .. หยีเรียนด้วย    emo4:))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 03 มีนาคม 2554, 17:42:16
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 03 มีนาคม 2554, 13:58:35
เนื้อหาเพลง"ผีเสื้อสองตัว"

ที่รักจ๋า เธอค่อยๆบินนะ
ระวังกุหลาบที่มีหนามแหลมตรงหน้านะ
ที่รักจ๋า เธอเปิดปากหน่อย
เมื่อลมพัดพากลิ่นหอมมา จะทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม
ที่รักจ๋า เธอบินไปกับฉันนะ
บินผ่านลำเนาป่าไม้ไปดูลำธารโน่นแน่ะ
ที่รักจ๋า มาเต้นรำกัน
ความรักในวสันตฤดูจะไม่ทำให้ฟ้ามืดมัว
ฉันกับเธอบินคลอเคลียร่อนถลาไปด้วยกัน
บินข้ามโลกมายาร่วมกันนิรันดร
ตามจู๋จี้เธอทั้งชาติ
รักฉันสักพันครั้ง
ให้สมกับความรักของฉัน ความงามของเธอ
ฉันกับเธอบินคลอเคลียร่อนถลาไปด้วยกัน
บินข้ามโลกมายาร่วมกันนิรันดร
จนลมสารทฤดูหยุดพัด ใบไม้ร่วงมาเป็นกอง
ได้โรยราร่วมกันกับเธอ ก็ไม่สำนึกเสียใจ



เพราะมาก ..     emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 04 มีนาคม 2554, 18:55:38
ไชโย เว็บใช้ได้แล้ว กำลังมีอารมณ์โพสต์เพลง แต่งตัวเตรียมโพสต์ตั้งแต่วันวาน
วันนี้ขอเน้นเพลงพื้นบ้าน ฝาก"เพลงเรือแห่งแม่น้ำอูซูหลี่" ให้ฟัง เพลงนี้เพื่อนศิษย์เก่าจีนด้วยกันร้องเป็นเพลงเอกประจำตัว ไปคาราโอเกะที่ไหนก็ต้องติดแผ่นไปร้องด้วย ช่วยดูทีว่ามันเพราะตรงไหน สำหรับผมก็หากินแต่เพลง"น้อยใจยา"


http://www.youtube.com/watch?v=BdwlayjhCXw


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 04 มีนาคม 2554, 20:53:58
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 03 มีนาคม 2554, 17:42:16
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 03 มีนาคม 2554, 13:58:35
เนื้อหาเพลง"ผีเสื้อสองตัว"

ที่รักจ๋า เธอค่อยๆบินนะ
ระวังกุหลาบที่มีหนามแหลมตรงหน้านะ
ที่รักจ๋า เธอเปิดปากหน่อย
เมื่อลมพัดพากลิ่นหอมมา จะทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม
ที่รักจ๋า เธอบินไปกับฉันนะ
บินผ่านลำเนาป่าไม้ไปดูลำธารโน่นแน่ะ
ที่รักจ๋า มาเต้นรำกัน
ความรักในวสันตฤดูจะไม่ทำให้ฟ้ามืดมัว
ฉันกับเธอบินคลอเคลียร่อนถลาไปด้วยกัน
บินข้ามโลกมายาร่วมกันนิรันดร
ตามจู๋จี้เธอทั้งชาติ
รักฉันสักพันครั้ง
ให้สมกับความรักของฉัน ความงามของเธอ
ฉันกับเธอบินคลอเคลียร่อนถลาไปด้วยกัน
บินข้ามโลกมายาร่วมกันนิรันดร
จนลมสารทฤดูหยุดพัด ใบไม้ร่วงมาเป็นกอง
ได้โรยราร่วมกันกับเธอ ก็ไม่สำนึกเสียใจ



เพราะมาก ..     emo9:huhu:

ภาษาสวย..... ครับ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 04 มีนาคม 2554, 20:57:55
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 04 มีนาคม 2554, 18:55:38
ไชโย เว็บใช้ได้แล้ว กำลังมีอารมณ์โพสต์เพลง แต่งตัวเตรียมโพสต์ตั้งแต่วันวาน
วันนี้ขอเน้นเพลงพื้นบ้าน ฝาก"เพลงเรือแห่งแม่น้ำอูซูหลี่" ให้ฟัง เพลงนี้เพื่อนศิษย์เก่าจีนด้วยกันร้องเป็นเพลงเอกประจำตัว ไปคาราโอเกะที่ไหนก็ต้องติดแผ่นไปร้องด้วย ช่วยดูทีว่ามันเพราะตรงไหน สำหรับผมก็หากินแต่เพลง"น้อยใจยา"


http://www.youtube.com/watch?v=BdwlayjhCXw


เพื่อนศิษย์เก่าจีนคนนั้น.......

อาจจะมีความหลังกับแม่น้ำอูซูหลี่ หรือเคยชอบสาวชาวจ้วงมาก่อน ก็เป็นได้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 04 มีนาคม 2554, 21:24:03
หวัดดีตอนดึกเกลอแหลม
ฝาก"เจ้าแม่กวนอิมพันมือ"ไปให้บูชาซะหน่อย เวอร์ชั่นแรกพร้อมบทสวดเมตตามหานิยม


http://www.youtube.com/watch?v=2oGwfhdwQ1g

http://www.youtube.com/watch?v=KHOQllydcyQ

เวอร์ชั่นนี้ น่าจะไปแสดงที่ไต้หวัน อาจจะมีเสียงในฟิล์มแทรกตอนเริ่มบ้าง แต่มุมกล้องดี และฉากอลังการจริงๆ ทนดูหน่อยนะ

http://www.youtube.com/watch?v=bo0NmbDE88M


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 04 มีนาคม 2554, 21:47:48

ต้องบูชาด้วยอะไรครับ......ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 04 มีนาคม 2554, 22:09:27
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 04 มีนาคม 2554, 21:47:48

ต้องบูชาด้วยอะไรครับ......ท่านจุ๊ง


อ๊ะ ตักบาตรถามพระ บาปนะสมี เอ๊ย! โยม


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 05 มีนาคม 2554, 10:09:18
หวัดดีตอนเช้าครับพี่น้อง
เมื่อเช้าตอนนั่งปลีกวิเวก หยิบเอาสารานุกรมจีนมาอ่าน พลิกเจอเรื่อง "พ่อสอนไว้" เลยนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้คุยเรื่อง"พ่อสอนไว้" และ"แม่สอนไว้"  อย่ากระนั้น เปลี่ยนบรรยากาศเอาเรื่องการสอนของพ่อและการสอนของแม่มาคุยดีกว่า อันนี้เป็นตำนานมาจากท่านขงจื้อซึ่งถือเป็นครูระดับปรมาเทพ และท่านเม่งจื้อซึ่งเป็นครูระดับวรรณเทพ

เริ่มจากคำสอน "พ่อสอนไว้" ละกัน อันนี้คนจีนถ้าพูดถึง "การสอนหน้าศาลา" เป็นอันรู้กันว่าเป็นการสอนสั่งของพ่อแน่ๆ อันนี้มาจากการสอนของท่านขงจื้อ ที่หน้าบ้านของท่านจะมีเก่งศาลาไว้สำหรับไว้ให้ลูกศิษย์เวลามีปัญหาอะไรมาถาม ซึ่งท่านก็นั่งประจำอยู่ ท่านมีลูกชายอยู่คนหนึ่งชื่อข่งหลี เวลาจะออกจากบ้าน เจอขงจื้อจะถูกถามอยู่เรื่อยเลย
"วันนี้เรียนรู้กิริยามารยาทหรือยัง"
 "อ้อ ยังครับ"
"กลับเข้าไปเรียนรู้ซะก่อน ไม่รู้กิริยามารยาท จะออกจากบ้านได้ไง"
ข่งหลีก็หน้าแตกกลับไปตามระเบียบ
อีกครั้ง
"วันนี้ทำการบ้านยัง"
"อ้อ ลืมครับ"
"กลับเข้าบ้านไป ขี้ลืมยังงี้จะออกจากบ้านได้ไง"
ข่งหลีก็หน้าแตกอีกครั้ง
อันนี้ความจริงเป็นเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัวระหว่างพ่อกับลูก เผอิญเฉินหัง ลูกศิษย์ของท่านขงจื้อถามข่งหลี ท่านข่งหลีก็สารภาพดื้อๆ ความเลยแตกให้พวกเราได้รับรู้กัน เรื่อง"การสอนหน้าศาลา" นี้ โจโฉซึ่งถือว่าเป็นกวีเอกท่านหนึ่งของจีนก็ได้เขียนอ้างไว้ในบทกลอนของท่าน เพราะท่านเองก็ไม่ได้รับการสั่งสอนจากพ่อ เลยรำพึงเสียงดังๆว่าถึงแม้อั๊วจะไม่มีพ่อคอยสอนสั่ง อั๊วก็เอาดีได้นะเฟ้ย เอ้า ผ่านไปเรื่อง"พ่อสอนไว้"

มาเรื่อง"แม่สอนไว้"บ้าง อันนี้มาจากประวัติของท่านเม่งจื้อ ท่านเม่งจื้อนี้เป็นลูกกำพร้าพ่อมาแต่เด็ก อาศัยแม่คอยถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงรตี เรื่องนี้มีชื่อว่า"แม่เม่งย้ายเรือน3ครั้ง3ครา" ครั้งแรกแม่เม่งย้ายไปข้างบ้านคนฆ่าหมู ท่านเม่งจื้อเห็นตัวอย่างแล้วมาทำเลียนแบบ แม่เม่งกลัวลูกโตขึ้นจะมีจิตใจดุดันโหดร้าย ก็เลยย้ายตามระเบียบ อีกครั้งย้ายไปใกล้พวกที่ทำพิธีงานศพ เม่งจื้อก็เล่นบ้าๆบอๆเลียนแบบบ้าง แม่เม่งก็ย้ายอีก คราวนี้มาอยู่ใกล้ครูสอนหนังสือ เลยค่อยยังชั่ว ท่านเม่งจื้อเลยเป็นผู้เป็นคนขึ้นมา เรื่องแม่เม่งสอนลูกนี้ยังมียกเป็นอุทาหรณ์ไว้สอนอนุชนชาวจีนยุคโบราณในตำราอาขยาน"คัมภัร์สามอักษร" ซึ่งมีประวัติการใช้เป็นตำราแบบเรียนเริ่มต้นของจีนมาร่วม700กว่าปี สมัยเด็กปะป๊าผมก็ได้สอนผมไว้ เรื่องมีอยู่ว่าครั้งหนึ่งท่านเม่งจื้อโดดเรียนกลับมาบ้าน แม่รู้เข้าโกรธใหญ่ ตอนนั้้นแม่เม่งกำลังใช้กระสวยทอผ้าอยู่ เลยเอามีดมาตัดกระสวยขาดแล้วถามว่า
"ลูกจ๋า ลูกเห็นมั้ย แม่ทำไรยู้"
"เห็นแล้วแม่ทอผ้าอยู่"
"แม่ทอผ้าไปได้ครึ่งนึงแล้วตัดกระสวยทิ้ง หนูคิดว่าแม่จะทอผ้าเสร็จมั้ยเนี่ย"
"แหม แม่ก้อ พูดเป็นเล่นไปได้ กระสวยไม่มีแล้วจะทอผ้าได้ไง"
"ก็ครือๆกันนั่นแหละ ลูกเอ้ย ลูกไปเรียนแล้วก็มาโดดเรียน จะเรียนรอดมั้ยเนี่ย ก็เหมือนแม่ตัดกระสวยทิ้งนี่แหละ"
จากนั้นมา ท่านเม่งจื้อไม่เคยโดดเรียนอีกเลย แม่เม่งเจ๋งไหมล่ะ


หมายเหตุ
"แม่เม่ง" อ่านดีๆนะครับ ห้ามอ่านแบบเรียนเร็วใหม่เป็น"แม่ง" เด็ดขาด อ่านแบบนี้ เม่งไม่ชอบ



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 มีนาคม 2554, 12:39:40

แม่เม่ง(จื้อ)เจ๋งจริง..... ...HA...HA


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 มีนาคม 2554, 12:44:30
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 04 มีนาคม 2554, 22:09:27
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 04 มีนาคม 2554, 21:47:48

ต้องบูชาด้วยอะไรครับ......ท่านจุ๊ง


อ๊ะ ตักบาตรถามพระ บาปนะสมี เอ๊ย! โยม
" เป็นสมี เพราะชีสวย "

(จาก....ความในใจของสมีคนหนึ่ง)




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 05 มีนาคม 2554, 13:41:57
ช่วยกันมาฟังเพลงไทยเชื้อชาติจีนกันซักหน่อย คงไม่ต้องแปลนะ


http://www.youtube.com/watch?v=tdoHmkoWsSk

http://www.youtube.com/watch?v=3_aPONA4ok0


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 05 มีนาคม 2554, 14:05:26
แถมอีก 2 เพลง

http://www.youtube.com/watch?v=pemNng29Ni4

http://www.youtube.com/watch?v=BSY7aASm6c4


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 มีนาคม 2554, 17:11:46

ไพเราะดี...ท่านจุ๊ง

หลับตาฟัง หลงอดีตไปสัก 30-40 ปีเลย.......


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 06 มีนาคม 2554, 10:25:06
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 03 มีนาคม 2554, 17:04:50

ฟังเพลงเทพธิดาดอยแล้ว...ก็นึกถึงตอนไปออกค่าย
หรือตอนไปเที่ยวกัน
โดยเฉพาะ หมอต๋องกับหมอศาล
ชออบจริงเพลงนี้


 emo42 emo43

...พี่ตู่ก็ชอบฟังเพลงเทพธิดาดอยค่ะ...

...ตอนขึ้นอินโทร...พี่อยากจะร่ายรำไปด้วยเลย...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 มีนาคม 2554, 11:32:16
สวัสดีครับพี่ตู่
เห็นใครๆฟังเพลง"เทพธิดาดอย"แล้ว รำลึกถึงความหลังกันใหญ่เลย เลยเอาเพลง"ทำไมถึงทำกับฉันได้" ของดาวใจ ไพจิตร มาให้ฟังบ้าง เผื่อมีใครจะรำลึกถึงความหลังที่ลืมๆกันไปได้บ้าง สำหรับผม ตอบได้คำเดียว "ก็มันเพราะง่ะ" อืม เพลงต้นฉบับนี่เลย "ใครจะมารักฉันกันแน่เนี่ย" ของเติ้งลี่จวิน ความหมายกินใจกว่าเยอะ โดยเฉพาะพวกเพื่อนๆแถวบ้าน เวลาจะจีบสาว เอะอะก็ร้องเพลง "ใครจะมารักฉันกันแน่เนี่ย"  อืม แปลเนื้อเพลงให้ไปเลยดีกว่า เพลงนี้ถือเป็นเพลงยุคแรกๆที่สร้างชื่อเสียงให้แก่เติ้งลี่จวิน หรือฝรั่งรู้จักในชื่อ เทเรซ่า เต็ง อ้อ ผมเองเป็นคนประเภทครูพักลักจำ เจ๊เทเรซ่าก็ถือเป็นครูภาษาจีนคนนึงของผม เช่นเดียวกับท่านปรมาจารย์กิมย้ง ครูผมทั้งน้าน

เธอเคยบอกฉันว่าจะรักฉันตลอดไป
ใครจะไปรู้ที่เธอพูดนั้น แท้จริงแล้วหลอกลวงกันทั้งเพ
เธอโหดร้ายที่ทิ้งฉันไป
ไม่สนใจว่าฉันจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
แล้วใครล่ะจะมาถนอมฉัน มารักฉันจริง
ไม่รู้เลยจริงๆนะว่าใครจะมารักฉันจริง

นึกขึ้นมาแล้วฉันก็ทำใจลำบาก
ฉันปฏิบัติกับเธอไม่เลวเลยนะเนี่ย
สำหรับฉันแล้ว กับเธอใจฉันไม่เคยปล่อยวาง
กลัวเธอหนาวบ้างล่ะ ร้อนบ้างล่ะ
กลัวเธอหิวข้าว กระหายน้ำ
แล้วใครล่ะจะมาถนอมฉัน มารักฉันจริง
ไม่รู้เลยจริงๆนะว่าใครจะมารักฉันจริง

เธอเองไม่เคยให้ความชื่นบานใจแก่ฉันแม้แต่เพียงนิดเดียว
ชะตาฉันถูกกำหนดให้เกิดมารับการทรมานจากเธอ
รักคือปลอก คือกุญแจที่ล่ามฉันไว้
ฉันกลับเต็มใจที่จะทนทรมาน
แล้วใครล่ะจะมาถนอมฉัน มารักฉันจริง
ไม่รู้เลยจริงๆนะว่าใครจะมารักฉันจริง

เอาล่ะ มารับฟังเพลงได้ ณ บัดนี้


http://www.youtube.com/watch?v=EUBos1JUcYU

http://www.youtube.com/watch?v=tAr4d-9XBjY


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 มีนาคม 2554, 12:52:19
ไชโย ลองแปะจากเวปถู่โต้วได้แล้ว เพลงนี้ชื่อเพลง "เธอเคยบอกไว้" เป็นเพลงแห่งความหลังผม หาในยูทูปไม่มี นักร้องคนนี้ชื่อเฟ่ยอวี้ชิง นักร้องไต้หวัน ถือเป็นนักร้องชายคนโปรดผมได้คนนึง ชอบเก็บเอาเพลงรุ่นอาม่ายังเอ๊าะมาร้อง สามารถกดลองฟังเพลงอื่นได้ตามรูป

http://www.tudou.com/v/IRtjY4u7ZcE


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 มีนาคม 2554, 16:00:20
ไหนๆก็เป็นกระทู้คุยเรื่องจีนๆแล้ว เลยอยากเสนอเพลง "ดอกเหมยหนึ่งกิ่ง ซึ่งเป็นเพลงที่คนจีนใช้ประกอบการรำกระบี่ออกกำลังกาย พูดถึงเพลงเกี่ยวกับดอกเหมยแล้ว เพลงเหมยฮวา(ดอกเหมย)ฮิตมากในบ้านเรา แต่ถามเพื่อนชาวจีนเขาไม่รู้จัก แต่เขากลับรู้จักเพลงนี้

http://www.tudou.com/v/KInpYf9yRI8

http://www.tudou.com/v/zd1sC1IF5yM


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 มีนาคม 2554, 20:26:45
มาดูรำไท้เก๊กบ้าง

http://www.tudou.com/v/rpEQqE60TuI

http://www.tudou.com/v/iMW8uil4Rus


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 07 มีนาคม 2554, 09:27:50
...รำไท้เก๊กดูท่าจะมีประโยชน์มากค่ะ...ครูสอนเต้นแอโรบิคเคยรำให้ดูแล้วให้เราเต้นตาม...ทำได้บ้างไม่ได้บ้างค่ะ...
...เพลงทำไมถึงทำกับฉันได้...ดาวใจ ไพจิตร...ร้องเพราะมากๆค่ะ...
...พี่ตู่เคยฟังตัวจริงเสียงจริงร้องเลยนะคะ...แต่นานมากแล้ว...ประมาณปี 20...
...ที่โรงแรมแถวสุราษฎร์ค่ะ...
...ขอบคุณน้องจุ๊งนะคะที่นำเสนอ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 07 มีนาคม 2554, 11:35:47

สวัสดียามเที่ยงครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

เย็นนี้หกโมงเย็น เจอกันที่เรือนไทย จุฬาฯ นะครับ ท่านจุ๊ง.......อย่าลืม!.!.!


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 07 มีนาคม 2554, 13:19:01
สวัสดีค่ะ น้องจุ๊ง เจ้าของห้อง และทุกคนค่ะ
 ห้องนี้ยังไม่เคยเข้ามา
แต่น่าสนใจ จะตามกลับไปทยอยอ่านตั้งแต่หน้าแรกๆ ก่อน แล้วจะมาคุยด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 07 มีนาคม 2554, 13:40:59
หวัดดีครับพี่ตู่ ท่านแหลม อ้อ เพิ่งเห็นพี่อร ยินดีต้อนรับครับ
สงสัยพี่ตู่จะเป็นแฟนเหนียวแน่นซะแล้ว หลงมนต์เสน่ห์แบบจีนๆจนได้ สำหรับท่านแหลม จะพยายามตื่นให้ทันไปบ้านเรือนไทย ขอนอนเอาแรงก่อน ว่าแล้วก็ฝากเพลงโปรดผมอีกสองเพลงให้ฟังตามระเบียบ เพลงแรกชื่อเพลง "พระจันทร์ยุคโบราณส่องสว่างยุคนี้" และเพลง "มองดารานภากาศ" เพลงนี้เป็นเพลงที่แม่บ้านส่งใจไปให้สามีที่ไปรับใช้ชาติ บอกว่าเธอมีหน้าที่ทำเพื่อชาติไป ฉันอยู่ทางนี้จะดูแลบ้านให้เรียบร้อบ เราตางคนต่างแบ่งหน้าที่กัน เฮ่อ หาเวอร์ชั่นที่เคยฟังแล้วชอบไม่มี งั้นแถมเวอร์ที่บรรเลงด้วยหีบเพลงละกัน มีภาพที่คุ้นๆ ได้ความหมายของเพลงหน่อย เอ๊ะ เพลงบรรเลงนี่ไปสมาทกับเพลง "พระจันทร์ยามขึ้น15ค่ำ" อย่ากระนั้นเลย จำเราจะแถมให้อีกตามฟอร์ม ความหมายก็ไปทางเดียวกัน เพราะเป็นเพลงฝาแฝดกัน


http://www.youtube.com/watch?v=cIKrRUGkSWs

http://www.tudou.com/v/qIhV_Hw8k3c

http://www.tudou.com/v/Inna6-lnWzU

http://www.tudou.com/v/i9nal2GJw-o



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 07 มีนาคม 2554, 19:58:39
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 07 มีนาคม 2554, 11:35:47

สวัสดียามเที่ยงครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

เย็นนี้หกโมงเย็น เจอกันที่เรือนไทย จุฬาฯ นะครับ ท่านจุ๊ง.......อย่าลืม!.!.!

...น้องแหลมอย่าลืมถ่ายรูปตัวเองและท่านจุ๊งมาให้พี่ตู่ดูด้วยนะคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 07 มีนาคม 2554, 20:09:11
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 07 มีนาคม 2554, 13:40:59
หวัดดีครับพี่ตู่ ท่านแหลม อ้อ เพิ่งเห็นพี่อร ยินดีต้อนรับครับ
สงสัยพี่ตู่จะเป็นแฟนเหนียวแน่นซะแล้ว หลงมนต์เสน่ห์แบบจีนๆจนได้ สำหรับท่านแหลม จะพยายามตื่นให้ทันไปบ้านเรือนไทย ขอนอนเอาแรงก่อน ว่าแล้วก็ฝากเพลงโปรดผมอีกสองเพลงให้ฟังตามระเบียบ เพลงแรกชื่อเพลง "พระจันทร์ยุคโบราณส่องสว่างยุคนี้" และเพลง "มองดารานภากาศ" เพลงนี้เป็นเพลงที่แม่บ้านส่งใจไปให้สามีที่ไปรับใช้ชาติ บอกว่าเธอมีหน้าที่ทำเพื่อชาติไป ฉันอยู่ทางนี้จะดูแลบ้านให้เรียบร้อบ เราตางคนต่างแบ่งหน้าที่กัน เฮ่อ หาเวอร์ชั่นที่เคยฟังแล้วชอบไม่มี งั้นแถมเวอร์ที่บรรเลงด้วยหีบเพลงละกัน มีภาพที่คุ้นๆ ได้ความหมายของเพลงหน่อย เอ๊ะ เพลงบรรเลงนี่ไปสมาทกับเพลง "พระจันทร์ยามขึ้น15ค่ำ" อย่ากระนั้นเลย จำเราจะแถมให้อีกตามฟอร์ม ความหมายก็ไปทางเดียวกัน เพราะเป็นเพลงฝาแฝดกัน


http://www.youtube.com/watch?v=cIKrRUGkSWs

http://www.tudou.com/v/qIhV_Hw8k3c

http://www.tudou.com/v/Inna6-lnWzU

http://www.tudou.com/v/i9nal2GJw-o


...ชอบทุกเพลงเลยค่ะ...น้องจุ๊ง...พิเศษเลยก็เพลงที่ 2 และ 4 ค่ะ...
...เพลงที่ 2 ทำนองเร้าใจดี...เพลงที่ 4 วีดีโอสวยค่ะ...นางเอกผมเปียน่ารักค่ะ...
...เรื่องมนต์เสน่ห์แบบจีนค่อยมาคุยอีกทีค่ะ...เดี๋ยวขอทานข้าวก่อนค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 07 มีนาคม 2554, 21:52:22
ยังตามมาดูค่ะ
แล้วค่อยตามค่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 08 มีนาคม 2554, 00:00:04
สวัสดีดีครับพี่อร
เพิ่งกลับมาจากงานฉลองศิลปินแห่งชาติ อาจารย์เผ่า มา ดีใจครับที่พี่ชอบเพลงเหมือนผม จริงๆเพลงที่2 เวอร์ชั่นยังไม่ถูกใจผม แต่เมื่อพี่อรชอบ เลยไม่เปลี่ยนดีกว่า ส่วนที่พี่ว่าเป็นนางเอกนางแบบนั้น นี่แหละครับนักร้องเองเลยครับ ตัวเป็นๆ ตัวจริงเสียงจริงเลยชื่อต่งเหวินฮว๋า(ขอโทษที่ต้องพิมพ์ผิดหลักภาษาไทย เพราะถ้าเขียนเป็นหัวหรือหวาก็ผิดหลักการอ่านภาษาจีนเหมือนกัน) นักร้องโปรดผมอีกคน มีรวบรวมเพลงที่เขาร้องมาแล้วสิบกว่าชุด

หมู่นี้โพสต์แต่เพลง ในช่วงที่ยังไม่อยากนอน เห็นบทความที่ผมเคยโพสต์ ได้มีการอ้างถึง“คัมภีร์สามอักษร” หลายท่านอาจจะไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร มีแค่สามตัวอักษรจะเป็นคัมภีร์ได้ไง เลยขอหยิบเอาสาระเก่าๆเกี่ยวกับแบบเรียนเริ่มต้นจีนมาปัดฝุ่น ลบความเป็นจีนทิ้งไปบ้าง เอามาให้อ่านกันเล่นๆ จะได้คุยกับคนจีนได้บ้างนะครับ

แบบเรียนเริ่มต้นของจีนตั้งแต่ยุคโบราณ จะมีอยู่ 3 ม้วน(สมัยโบราณยังไม่มีกระดาษ เวลาเขียนหนังสือก็จะใช้พู่กันเขียนบนไม้ไผ่ใช้เชือกผูกกันเป็นแพ เวลาเก็บก็ใช้ม้วนเอา ลักษณะนามของหนังสือเลยต้องเป็นม้วน และนี่เป็นสาเหตุว่าทำไมภาษาจีนจึงเขียนอักษรจากบนลงล่าง) ประกอบไปด้วย“คัมภีร์สามอักษร” ,“วรรณกรรมพันอักษร” และ“ร้อยแซ่หมู่คน” ภาษาจีนเรียกรวมแบบย่อๆว่า“สามร้อยพัน” อืม ไปเช็คในเว็บมา เจอรายละเอียดเพิ่มว่าหลวี่คุน นักคิดในสมัยราชวงศ์หมิง(ค.ศ.1368-1644) ให้ข้อเสนอแนะว่าเด็กอายุ8ขวบลงมาให้ศึกษา “คัมภีร์สามอักษร”ก่อนเพื่อให้รู้จักตัวอักษร จากนั้นศึกษา“ร้อยแซ่หมู่คน”เพื่อการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน แล้วค่อยศึกษา“วรรณกรรมพันอักษร” เพื่อให้เข้าใจในหลักปรัชญาและคุณธรรม เลยเรียงลำดับเป็น“สามร้อยพัน” เด็กจีนสมัยโบราณท่องพวกนี้ได้ทุกคน ผมเด็กกึ่งโบราณ สมัยเด็กก็ท่อง“คัมภีร์สามอักษร”ได้ พอดีผมเคยค้นคว้าประวัติของ“คัมภีร์สามอักษร” และ“วรรณกรรมพันอักษร”มา เลยยกมาเล่าในที่นี้

“วรรณกรรมพันอักษร” เป็นวรรณกรรมที่เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์เหนือใต้(ค.ศ.420-589)ตามบันทึกประวัติศาสตร์ ให้รายละเอียดไว้ว่า กษัตริย์เหลียงอู่ตี้สั่งให้ อินเถี่ยสือคัดลอกตัวอักษรจากแบบคัดลายมือของหวังซีจือซึ่งเป็นเจ้าตำรับคัดลายมือเลื่องชื่อท่านหนึ่ง มา1000 ตัวอักษรที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อให้บรรดาเจ้าองค์น้อยได้คัดลายมือเลียนแบบ หลังจากคัดตัวอักษร1000ตัวนี้เสร็จแล้ว เหลียงอู่ตี้รู้สึกว่าตัวหนังสือมากมาย ไม่เป็นระบบ จึงให้คนติดตามรับใช้ด้านอักษรของพระองค์ชื่อโจวซิงซื่อปรับแต่งให้ เป็นประโยคที่มีความหมาย เหมาะกับการจดจำ โจวซิงซื่อรับบัญชามาเช่นนั้น ใช้เวลา1คืนเต็มๆ แต่งขึ้นเป็นหนังสือเล่มหนึ่งถวาย เหลียงอู่ตี้ทอดพระเนตรแล้ว รู้สึกทึ่งในความสามารถของโจวซิงซื่อมาก เพราะเขาใช้ตัวอักษรจำนวนจำกัดที่มีอยู่ 1000คำอย่างไม่ขาดไม่เกิน ใช้เวลาแค่คืนเดียวก็สามารถแต่งเป็นหนังสือที่เป็นคำสละสลวย มีสาระ มีคติสอนใจ มีท่วงทำนองไพเราะได้ จึงให้รางวัลแก่โจวซิงซื่ออย่างมาก
 
“วรรณกรรมพันอักษร” ถือเป็นหนังสือเล่มแรกที่เป็นแบบเรียนสำหรับเด็กๆ ชาวจีนใช้เป็นแบบเรียนสำหรับเด็กเริ่มเรียนมาร่วม700กว่าปี ผมอ่านมาแล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น1000คำพอดีไม่ขาดไม่เกิน จัดเป็นหมวดประโยค ประโยคละ4 ตัวอักษร ที่สำคัญตัวอักษรไม่มีซ้ำเดิม เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่กำเนิดพิภพ ประวัติศาสตร์จีน ดินฟ้าอากาศ ขนมธรรมเนียมประเพณี หน้าที่ที่มีต่อกันระหว่างบุคคลอย่างเช่นระหว่างพ่อกับลูก เจ้านายกับลูกน้อง สามีกับภรรยา เป็นต้นอย่าคิดว่าเป็นแค่ตัวอักษร1000ตัวแล้วจะรวบรวมเนื้อหามากมายขนาดนี้ได้ไงนะครับ 1000ตัวอักษรเป็นแค่สรุปเนื้อหาโดยรวม ส่วนรายละเอียดเนื้อหาครูจะเป็นผู้อธิบายให้อีกที ซึ่งสมัยนี้ก็มีผู้ที่เอา“วรรณกรรมพันอักษร”เช่นเดียวกับ“คัมภีร์สามอักษร” และ“ร้อยแซ่หมู่คน”มาเขียนเชิงอรรถเป็นเล่มหนาปึกมาขายอยู่หลายเวอร์ชั่น ถ้าเอาเฉพาะหนังสือเหล่านี้โดยเนื้อแท้มาทำความเข้าใจ จะไม่รู้เรื่อง เพราะมีรายละเอียดที่ต้องศึกษาอีกเยอะ ต้องมีเชิงอรรถประกอบจึงจะทำความเข้าใจได้ ผมเองก็ซื้อหนังสือพวกนี้มาหลายเวอร์ เพราะชอบน่ะ ในรายการทีวีก็จะมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยในจีนออกมาจัดทำเป็นซีรี่ย์ปาถกถาแถมเกร็ดเล้กเกร็ดน้อยอยู่เป็นประจำ ผมฟังทุกทีต้องหูผึ่งทุกทีแบบอยู่ไม่ติด และก้ไปหาโหลดจากอินเตอร์เนตมาเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัวคอยรื้อฟื้นประจำ“วรรณกรรมพันอักษร”ถือเป็นหนังสือทีผมคิดว่าดีที่สุดที่ผมเคยอ่านมา ทำให้ผมรู้ว่าภาษาจีนแทบทุกคำสามารถเป็นคำกิริยาได้ ซึ่งภาษาอื่นไม่สามารถทำได้

ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง(ค.ศ.960-1279)  หวังอิงหลินที่เป็นเสนาบดีด้านพิธีการ  ได้เลียนแบบ“วรรณกรรมพันอักษร”โดยแต่ง“คัมภีร์สามอักษร”ขึ้น  ซึ่งเป็นแบบเรียนที่ง่ายกว่า“วรรณกรรมพันอักษร” เนื้อหาคล้ายกันแต่ครอบคลุมมากกว่าเพราะแต่งทีหลัง รวมประวัติศาตร์ยุคหลังเข้าด้วย อ่านง่าย มีทำนองเสนาะจึงได้รับความนิยมมากกว่า ที่เรียกว่า“คัมภีร์สามอักษร”เพราะเป็นประโยคที่จัดหมวดหมู่ตัวอักษรทีละ3ตัวอักษร คนจีนยุคหลังๆก็มีการเพิ่มเติมเนื้อประวัติศาสตร์ยุคหลังเข้าไปอีก คนจีนให้การยกย่องมากกว่า“วรรณกรรมพันอักษร”เลยยกให้เป็นคัมภีร์ไป

อ้อ “ร้อยแซ่หมู่คน” ผมรู้แต่เพียงว่าเกิดในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ(ค.ศ.960-1127)เป็นการรวบรวมเอาแซ่ทั้งหลายของคนจีนล้วนๆมาจัดเป็นชุด ชุดละ 4 ตัวอักษร เดิมมี 411 แซ่ ภายหลังเพิ่มเป็น 504 แซ่ นับแซ่เดี่ยวได้444แซ่ แซ่คู่ 60 แซ่  แต่วิธีคิดของจีนอะไรที่อยู่ระหว่างร้อยกับพัน เมื่อยังไม่ถึงพัน ก็จะยังนับในหลักร้อยอยู่ เลยเรียกชื่อว่า“ร้อยแซ่หมู่คน” ไม่จำเป็นต้องเป็นร้อยเป๊ะ



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 08 มีนาคม 2554, 08:45:58
    น่าสนใจมาก น้องจุ๊ง....

       ได้ความรู้มากมาย...เสียดาย เมื่อคืนไม่ค่อยได้คุยกันเลย...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 08 มีนาคม 2554, 09:50:22
สวัสดีครับพี่อ้อย
เมื่อคืนคนเยอะ บางทีเวลาที่มีส่วนมากก็จะใช้ในการคุยกันคนที่ไม่ค่อยได้เจอกัน สำหรับพวกเราเจอกันในนี้ก็บ่อยออก ก็เลยเป็นต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจ(เอ๊ะ หรือว่าไม่เข้าใจ อิอิ) อีกอย่างใช้เวลาในการดูบรรยากาศก็ได้รับรสชาติคุ้นๆที่ห่างหายไปนาน บางทีเลยใช้เวลาในการอินมากไปหน่อย อืม คุยเรื่องนี้ นึกถึงเรื่องเก่าๆได้อยู่เรื่องนึง มีครั้งนึ่งไปเที่ยวพัทยา กลับมาเพื่อนถามว่าเป็นไง พัทยาเที่ยวสนุกไหม มีไรน่าเที่ยวมั่ง ผมก็ได้แต่ตอบแบบงงๆว่า ไม่สนุกเลยว่ะ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย เล่นไพ่ทั้ง2วัน เสียไพ่ด้วย(งงด้วยว่านี่ตูไปเที่ยวพัทยาด้วยหรือวะเนี่ย จำได้ว่าอยู่แต่ในห้อง) เอ๊ะ มันเกี่ยวกับเรื่องที่เราคุยกันมั้ยเนี่ย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 08 มีนาคม 2554, 11:44:34
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 08 มีนาคม 2554, 00:00:04
สวัสดีดีครับพี่อร
เพิ่งกลับมาจากงานฉลองศิลปินแห่งชาติ อาจารย์เผ่า มา ดีใจครับที่พี่ชอบเพลงเหมือนผม จริงๆเพลงที่2 เวอร์ชั่นยังไม่ถูกใจผม แต่เมื่อพี่อรชอบ เลยไม่เปลี่ยนดีกว่า ส่วนที่พี่ว่าเป็นนางเอกนางแบบนั้น นี่แหละครับนักร้องเองเลยครับ ตัวเป็นๆ ตัวจริงเสียงจริงเลยชื่อต่งเหวินฮว๋า(ขอโทษที่ต้องพิมพ์ผิดหลักภาษาไทย เพราะถ้าเขียนเป็นหัวหรือหวาก็ผิดหลักการอ่านภาษาจีนเหมือนกัน) นักร้องโปรดผมอีกคน มีรวบรวมเพลงที่เขาร้องมาแล้วสิบกว่าชุด

หมู่นี้โพสต์แต่เพลง ในช่วงที่ยังไม่อยากนอน เห็นบทความที่ผมเคยโพสต์ ได้มีการอ้างถึง“คัมภีร์สามอักษร” หลายท่านอาจจะไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร มีแค่สามตัวอักษรจะเป็นคัมภีร์ได้ไง เลยขอหยิบเอาสาระเก่าๆเกี่ยวกับแบบเรียนเริ่มต้นจีนมาปัดฝุ่น ลบความเป็นจีนทิ้งไปบ้าง เอามาให้อ่านกันเล่นๆ จะได้คุยกับคนจีนได้บ้างนะครับ

แบบเรียนเริ่มต้นของจีนตั้งแต่ยุคโบราณ จะมีอยู่ 3 ม้วน(สมัยโบราณยังไม่มีกระดาษ เวลาเขียนหนังสือก็จะใช้พู่กันเขียนบนไม้ไผ่ใช้เชือกผูกกันเป็นแพ เวลาเก็บก็ใช้ม้วนเอา ลักษณะนามของหนังสือเลยต้องเป็นม้วน และนี่เป็นสาเหตุว่าทำไมภาษาจีนจึงเขียนอักษรจากบนลงล่าง) ประกอบไปด้วย“คัมภีร์สามอักษร” ,“วรรณกรรมพันอักษร” และ“ร้อยแซ่หมู่คน” ภาษาจีนเรียกรวมแบบย่อๆว่า“สามร้อยพัน” อืม ไปเช็คในเว็บมา เจอรายละเอียดเพิ่มว่าหลวี่คุน นักคิดในสมัยราชวงศ์หมิง(ค.ศ.1368-1644) ให้ข้อเสนอแนะว่าเด็กอายุ8ขวบลงมาให้ศึกษา “คัมภีร์สามอักษร”ก่อนเพื่อให้รู้จักตัวอักษร จากนั้นศึกษา“ร้อยแซ่หมู่คน”เพื่อการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน แล้วค่อยศึกษา“วรรณกรรมพันอักษร” เพื่อให้เข้าใจในหลักปรัชญาและคุณธรรม เลยเรียงลำดับเป็น“สามร้อยพัน” เด็กจีนสมัยโบราณท่องพวกนี้ได้ทุกคน ผมเด็กกึ่งโบราณ สมัยเด็กก็ท่อง“คัมภีร์สามอักษร”ได้ พอดีผมเคยค้นคว้าประวัติของ“คัมภีร์สามอักษร” และ“วรรณกรรมพันอักษร”มา เลยยกมาเล่าในที่นี้

“วรรณกรรมพันอักษร” เป็นวรรณกรรมที่เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์เหนือใต้(ค.ศ.420-589)ตามบันทึกประวัติศาสตร์ ให้รายละเอียดไว้ว่า กษัตริย์เหลียงอู่ตี้สั่งให้ อินเถี่ยสือคัดลอกตัวอักษรจากแบบคัดลายมือของหวังซีจือซึ่งเป็นเจ้าตำรับคัดลายมือเลื่องชื่อท่านหนึ่ง มา1000 ตัวอักษรที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อให้บรรดาเจ้าองค์น้อยได้คัดลายมือเลียนแบบ หลังจากคัดตัวอักษร1000ตัวนี้เสร็จแล้ว เหลียงอู่ตี้รู้สึกว่าตัวหนังสือมากมาย ไม่เป็นระบบ จึงให้คนติดตามรับใช้ด้านอักษรของพระองค์ชื่อโจวซิงซื่อปรับแต่งให้ เป็นประโยคที่มีความหมาย เหมาะกับการจดจำ โจวซิงซื่อรับบัญชามาเช่นนั้น ใช้เวลา1คืนเต็มๆ แต่งขึ้นเป็นหนังสือเล่มหนึ่งถวาย เหลียงอู่ตี้ทอดพระเนตรแล้ว รู้สึกทึ่งในความสามารถของโจวซิงซื่อมาก เพราะเขาใช้ตัวอักษรจำนวนจำกัดที่มีอยู่ 1000คำอย่างไม่ขาดไม่เกิน ใช้เวลาแค่คืนเดียวก็สามารถแต่งเป็นหนังสือที่เป็นคำสละสลวย มีสาระ มีคติสอนใจ มีท่วงทำนองไพเราะได้ จึงให้รางวัลแก่โจวซิงซื่ออย่างมาก
 
“วรรณกรรมพันอักษร” ถือเป็นหนังสือเล่มแรกที่เป็นแบบเรียนสำหรับเด็กๆ ชาวจีนใช้เป็นแบบเรียนสำหรับเด็กเริ่มเรียนมาร่วม700กว่าปี ผมอ่านมาแล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น1000คำพอดีไม่ขาดไม่เกิน จัดเป็นหมวดประโยค ประโยคละ4 ตัวอักษร ที่สำคัญตัวอักษรไม่มีซ้ำเดิม เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่กำเนิดพิภพ ประวัติศาสตร์จีน ดินฟ้าอากาศ ขนมธรรมเนียมประเพณี หน้าที่ที่มีต่อกันระหว่างบุคคลอย่างเช่นระหว่างพ่อกับลูก เจ้านายกับลูกน้อง สามีกับภรรยา เป็นต้นอย่าคิดว่าเป็นแค่ตัวอักษร1000ตัวแล้วจะรวบรวมเนื้อหามากมายขนาดนี้ได้ไงนะครับ 1000ตัวอักษรเป็นแค่สรุปเนื้อหาโดยรวม ส่วนรายละเอียดเนื้อหาครูจะเป็นผู้อธิบายให้อีกที ซึ่งสมัยนี้ก็มีผู้ที่เอา“วรรณกรรมพันอักษร”เช่นเดียวกับ“คัมภีร์สามอักษร” และ“ร้อยแซ่หมู่คน”มาเขียนเชิงอรรถเป็นเล่มหนาปึกมาขายอยู่หลายเวอร์ชั่น ถ้าเอาเฉพาะหนังสือเหล่านี้โดยเนื้อแท้มาทำความเข้าใจ จะไม่รู้เรื่อง เพราะมีรายละเอียดที่ต้องศึกษาอีกเยอะ ต้องมีเชิงอรรถประกอบจึงจะทำความเข้าใจได้ ผมเองก็ซื้อหนังสือพวกนี้มาหลายเวอร์ เพราะชอบน่ะ ในรายการทีวีก็จะมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยในจีนออกมาจัดทำเป็นซีรี่ย์ปาถกถาแถมเกร็ดเล้กเกร็ดน้อยอยู่เป็นประจำ ผมฟังทุกทีต้องหูผึ่งทุกทีแบบอยู่ไม่ติด และก้ไปหาโหลดจากอินเตอร์เนตมาเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัวคอยรื้อฟื้นประจำ“วรรณกรรมพันอักษร”ถือเป็นหนังสือทีผมคิดว่าดีที่สุดที่ผมเคยอ่านมา ทำให้ผมรู้ว่าภาษาจีนแทบทุกคำสามารถเป็นคำกิริยาได้ ซึ่งภาษาอื่นไม่สามารถทำได้

ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง(ค.ศ.960-1279)  หวังอิงหลินที่เป็นเสนาบดีด้านพิธีการ  ได้เลียนแบบ“วรรณกรรมพันอักษร”โดยแต่ง“คัมภีร์สามอักษร”ขึ้น  ซึ่งเป็นแบบเรียนที่ง่ายกว่า“วรรณกรรมพันอักษร” เนื้อหาคล้ายกันแต่ครอบคลุมมากกว่าเพราะแต่งทีหลัง รวมประวัติศาตร์ยุคหลังเข้าด้วย อ่านง่าย มีทำนองเสนาะจึงได้รับความนิยมมากกว่า ที่เรียกว่า“คัมภีร์สามอักษร”เพราะเป็นประโยคที่จัดหมวดหมู่ตัวอักษรทีละ3ตัวอักษร คนจีนยุคหลังๆก็มีการเพิ่มเติมเนื้อประวัติศาสตร์ยุคหลังเข้าไปอีก คนจีนให้การยกย่องมากกว่า“วรรณกรรมพันอักษร”เลยยกให้เป็นคัมภีร์ไป

อ้อ “ร้อยแซ่หมู่คน” ผมรู้แต่เพียงว่าเกิดในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ(ค.ศ.960-1127)เป็นการรวบรวมเอาแซ่ทั้งหลายของคนจีนล้วนๆมาจัดเป็นชุด ชุดละ 4 ตัวอักษร เดิมมี 411 แซ่ ภายหลังเพิ่มเป็น 504 แซ่ นับแซ่เดี่ยวได้444แซ่ แซ่คู่ 60 แซ่  แต่วิธีคิดของจีนอะไรที่อยู่ระหว่างร้อยกับพัน เมื่อยังไม่ถึงพัน ก็จะยังนับในหลักร้อยอยู่ เลยเรียกชื่อว่า“ร้อยแซ่หมู่คน” ไม่จำเป็นต้องเป็นร้อยเป๊ะ


...อ๊ะ...ได้รับความรู้มากมาย...ผมในที่นี้หมายถึงน้องจุ๊งใช่มั้ยคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 08 มีนาคม 2554, 12:04:31
หวัดดีครับพี่อร
บทความนี้ผมเขียนเองล้วนๆ เพราะฉะนั้นผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวครับผม อิอิ

อืม ความจริงภาษาจีนผมก็ทะยอยคืนปะป๊าและบรรดาครูๆสมัยเด็กแบบผ่อนส่งไปเรื่อยๆ เผอิญปี1998 ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตวาล์ว ได้คุยกับพนักงานผู้ร่วมค้ากันที่โน่น ได้ความรู้มากมาย มีอะไรผมถามดะ ทำให้ภาพเกี่ยวกับจีนที่ค่อนข้างเบลอของผมมันชัดขึ้นมา เลยเกิดลุกฮึด ติดตามไปขอที่คืนจากปะป๊าและบรรดาครูๆทั้งหลายกลับมา กว่าจะได้คืนนี่แทบตาย เรื่องทวงความรู้นี่ยากยิ่งกว่าท้วงหนี้อีก และโดยเฉพาะปะป๊าผมเองท่านก็เสียไปนานแล้วซะด้วย อืม พูดถึงคนจีนบางคนโดยเฉพาะคนที่ผมติดต่อด้วยก็ทึ่งนะครับ ถามอะไรเขาตอบได้หมด เขาเป็นคนประเภทเรียนรู้อะไรเรียนรู้จริง อย่างพวกอาหารนี่ในจีนจะแบ่งเป็นอาหารจานร้อนกับจานเย็น อาหารจานเย็นจะเสิร์ฟก่อนอาหารจานร้อนซึ่งเป็นอาหารจานหลัก ผมเองก็สงสัย เลยถามเกี่ยวกับอาหารจานเย็น เขาบอกส่วนผสมแบบวิธีการทำได้หมด ทั้งๆที่มีอาชีพซื้อกิน ไม่ได้ทำขาย อย่างอาหารจานเย็นหลายอย่าง ผักบางอย่างจำเป็นต้องทำเย็นอย่างเดียวทำร้อนไม่ได้ เพราะถ้าเจออุณหภูมิร้อนแล้วจะเละ ไม่ได้รสชาติ ผมฟังแล้วก็เออ จริงของมัน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 08 มีนาคม 2554, 13:47:26
...น้องจุ๊ง...ขาประจำจริงๆคือพี่ตู่ค่ะ...ไม่ใช่พี่อร...
...เดี๋ยวอรเค้าจะตามมาคุยด้วยทีหลังค่ะ...
...เรื่องหลงสเน่ห์เมืองจีน...หลงไม่หลง...พี่ตู่ก็แต่งงานกับคนจีนไปแล้ว...เรียบร้อยโรงเรียนจีนค่ะ...อิอิ...
...แต่งแบบจีนด้วยนะคะ...เจี๊ยะเต๊...ไม่มีประเพณีไทยเลย...แม้รดน้ำสังข์แบบที่เคยฝันๆไว้ก็ไม่มีค่ะ...
...ภาษาจีนก็ไม่รู้เรื่องสักตัว...ค่อยๆมาเรียนรู้ทีหลังค่ะ...
...จากที่ไม่เคยไว้เจ้า...คราวนี้ตั้งโต๊ะเองเลยค่ะ...แต่ก็ปรับๆหน่อยไม่เต็มที่เหมือนคนจีนแท้ๆค่ะ...
...ตอนพี่ตู่เที่ยวเมืองจีนครั้งแรก...ปักกิ่ง...ซีอาน...กุ้ยหลิน...กวางเจา...รู้สึกรักเมืองจีนมากๆค่ะ...
...ปี 2530 ตอนนั้นเมืองจีนยังไม่เจริญมากเท่าไหร่ค่ะ...
...แต่โบราณสถานแต่ละแห่งๆของเค้ามันยิ่งใหญ่อลังการ...
...หลังจากนั้นก็ไปฮ่องกง...มาเก๊า...ก็สัมผัสกับความเจริญมากๆค่ะ...สนุกค่ะ...ช็อปมันมาก...
...จากนั้นก็ไปคุนหมิง...ลี่เจียง...แชงกรีล่า...ค่ะ...ธรรมชาติมากๆ...ชอบค่ะ...ชอบเที่ยวบ้านนอกๆแบบนี้...
...จากนั้นก็เที่ยว...เฉินตูค่ะ...จิวจ่ายโกว...หวงหลง...แต่ไม่ได้ขึ้นจิวจ่ายโกวเพราะไม่สบาย...
...ต้องนอนอยู่โรงแรม 1 วันเต็มๆ...มีข้าวตัง 1 ห่อประทังชีวิตค่ะ...ดีที่แวะซื้อมาจากเฉินตู...มันทานอะไรไม่ลงเลยค่ะ...
...บทเรียนครั้งนั้นทำให้พี่ได้คิดว่า...มีตังค์อย่างเดียวเที่ยวไม่ได้ค่ะ...ต้องมีบุญวาสนาด้วย...
...ก็ดูสิคะ...พี่อุตส่าดั้นด้นถึงตีนเขาแล้ว...แต่พี่ไม่ได้ขึ้นค่ะ...
...ปลายปีนี้ค่ะ...เดือนตุลา...พี่จะจัดทัวร์จิวจ่ายโกวอีกครั้ง...น้องจุ๊งสนใจมั้ยคะ...ชวนน้องแหลมด้วยค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 08 มีนาคม 2554, 13:55:41
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 08 มีนาคม 2554, 12:04:31
หวัดดีครับพี่อร
บทความนี้ผมเขียนเองล้วนๆ เพราะฉะนั้นผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวครับผม อิอิ

อืม ความจริงภาษาจีนผมก็ทะยอยคืนปะป๊าและบรรดาครูๆสมัยเด็กแบบผ่อนส่งไปเรื่อยๆ เผอิญปี1998 ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตวาล์ว ได้คุยกับพนักงานผู้ร่วมค้ากันที่โน่น ได้ความรู้มากมาย มีอะไรผมถามดะ ทำให้ภาพเกี่ยวกับจีนที่ค่อนข้างเบลอของผมมันชัดขึ้นมา เลยเกิดลุกฮึด ติดตามไปขอที่คืนจากปะป๊าและบรรดาครูๆทั้งหลายกลับมา กว่าจะได้คืนนี่แทบตาย เรื่องทวงความรู้นี่ยากยิ่งกว่าท้วงหนี้อีก และโดยเฉพาะปะป๊าผมเองท่านก็เสียไปนานแล้วซะด้วย อืม พูดถึงคนจีนบางคนโดยเฉพาะคนที่ผมติดต่อด้วยก็ทึ่งนะครับ ถามอะไรเขาตอบได้หมด เขาเป็นคนประเภทเรียนรู้อะไรเรียนรู้จริง อย่างพวกอาหารนี่ในจีนจะแบ่งเป็นอาหารจานร้อนกับจานเย็น อาหารจานเย็นจะเสิร์ฟก่อนอาหารจานร้อนซึ่งเป็นอาหารจานหลัก ผมเองก็สงสัย เลยถามเกี่ยวกับอาหารจานเย็น เขาบอกส่วนผสมแบบวิธีการทำได้หมด ทั้งๆที่มีอาชีพซื้อกิน ไม่ได้ทำขาย อย่างอาหารจานเย็นหลายอย่าง ผักบางอย่างจำเป็นต้องทำเย็นอย่างเดียวทำร้อนไม่ได้ เพราะถ้าเจออุณหภูมิร้อนแล้วจะเละ ไม่ได้รสชาติ ผมฟังแล้วก็เออ จริงของมัน

...จะเปลี่ยนเรื่องคุยใช่มั้ยล่ะคะ...พูดเรื่องอาหาร...พี่ชอบผัดผักของเค้ามาก...
...มีกี่จานๆ...หมด...ผัดผักเค้าอร่อยจริงๆค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 08 มีนาคม 2554, 14:04:42

สวัสดียามบ่ายครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อร..พี่อ้อย และพี่น้องทุกท่าน

ขอบคุณสำหรับความรู้และความบันเทิง.....ท่านจุ๊ง

พี่ตู่ครับ.....จิวจ่ายโกว...หวงหลง ผมก็อยากไปนะครับ
แต่เดือนตุลาฯ มีโปรแกรมแล้วครับพี่.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 08 มีนาคม 2554, 14:27:58
สวัสดีครับพี่ตู่และท่านแหลม
ขอโทษด้วยนะครับที่ลืมสังเกตุว่าเป็นพี่ตู่ จริงๆก็โทษผมแบบเต็มๆไม่ได้นา  ก็พี่ตู่เล่นมาแบบผิดฟอร์ม ปกติพี่จะมาแบบชุดสีชมพู นี่มาแบบผิดฟอร์ม แต่งกายชุดลำลอง ผมเลยต้องทักผิดบ้างเป็นธรรมดา

เรื่องเที่ยวจิ่วจ้ายโกวนี่ก็น่าสนนะครับ เที่ยวช่วงเดือนตุลา เป็นหน้าเที่ยวของจิ่วจ้ายโกวพอดี โครงการนี้ก็คงต้องคุยรายละเอียดกัน จริงๆผมก็มีโครงการที่ยังไม่ได้วางไว้ ว่าจะไปเที่ยวปักกิ่ง เพราะอาจารย์ผมที่โน่นแกชวนไว้แต่ปีที่แล้ว เห็นแกคุยนักคุยหนาว่าพวกที่ไปกับทัวร์น่ะ ไม่ได้ขี้ปะติ๋วหรอก พวกนี้ไปแต่ที่เที่ยวที่คนแห่กันไปเที่ยวจะเสื่อมโทรมแล้ว ไม่ได้ไปถึงปักกิ่ง ของแท้เจ้าเก่าและตั้งเดิมหรอก ต้องให้แกพาทัวร์ซิ แกเล่นโม้จนผมเนื้อเต้น แอบฝากอาฆาตไว้ ก็วางโครงการไว้ว่าจะชวนพวกศิษย์เก่าจีนรวมทั้งพวกที่ตั้งใจจะเป็นศิษย์จีนมาร่วมวงด้วย แต่โครงการก็ยังเป็นวุ้นอยู่เลยนะครับ

ส่วนเรื่องพิธีไหว้เจ้านี่ ผมไม่มีความรู้เลย จำได้แต่ว่าเวลาไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษนี่ พ่อผมจะต้องบังคับผมว่าจะต้องใส่รองเท้าให้เรียบร้อย ใส่รองเท้าแตะไหว้ไม่ได้ เรื่องนี้ผมก็เก็บความสงสัยไว้ในใจตลอด ภายหลังอ่านหนังสือบ้าง ดูทีวีบ้าง เดาบ้าง คิดว่าน่าจะถึงบางอ้อได้แล้ว ไว้ว่างๆปลุกระดมความคิดได้ จะเอามาเล่า


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 08 มีนาคม 2554, 15:22:52
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 มีนาคม 2554, 14:04:42

สวัสดียามบ่ายครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อร..พี่อ้อย และพี่น้องทุกท่าน

ขอบคุณสำหรับความรู้และความบันเทิง.....ท่านจุ๊ง

พี่ตู่ครับ.....จิวจ่ายโกว...หวงหลง ผมก็อยากไปนะครับ
แต่เดือนตุลาฯ มีโปรแกรมแล้วครับพี่.


...จะปายหนายคะ...น้องแหลม...ไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอ...ยังมีเวลาคิดค่ะ...

...เมื่อกี้โทรคุยกะเนื่อง...เนื่องบอกเมื่อคืนคุยกะพี่แก้ว...ได้แล้ว 10 คน...

...พี่ตู่ได้ 11 คน...เนื่องอีกคนเป็น 12 รวมแล้ว 22 คน...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 08 มีนาคม 2554, 15:30:09
...แต่ลงท้ายพี่ไม่ผิดฟอร์มนะคะ...น้องจุ๊ง...
...คือเวลาพี่ลากเมาส์จะใส่สี...มันจะขึ้นมาเยอะแยะหมดเลยค่ะ...
...บางครั้งพี่เลยไม่ใส่สีค่ะ...
...เอาเถอะ...ถ้าน้องจุ๊งอยากถึงปักกิ่งจริงๆ...พี่จะขัดใจได้ยังไงคะ...เห็นแก่ความสุขของน้องค่ะ...อิอิ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 08 มีนาคม 2554, 15:36:31
...น้องจุ๊งและน้องแหลม...เปลี่ยนโลโก้บ้างก็ดีนะคะ...แบบตัวจริงมีมั้ยคะ...
...โลโก้ของน้องแหลม...พี่คิดว่าเป็นรูปลูกชายน่ะค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 มีนาคม 2554, 10:40:49

สวัสดียามสายครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 มีนาคม 2554, 10:46:21
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 08 มีนาคม 2554, 15:22:52
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 มีนาคม 2554, 14:04:42

สวัสดียามบ่ายครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อร..พี่อ้อย และพี่น้องทุกท่าน

ขอบคุณสำหรับความรู้และความบันเทิง.....ท่านจุ๊ง

พี่ตู่ครับ.....จิวจ่ายโกว...หวงหลง ผมก็อยากไปนะครับ
แต่เดือนตุลาฯ มีโปรแกรมแล้วครับพี่.


...จะปายหนายคะ...น้องแหลม...ไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอ...ยังมีเวลาคิดค่ะ...

...เมื่อกี้โทรคุยกะเนื่อง...เนื่องบอกเมื่อคืนคุยกะพี่แก้ว...ได้แล้ว 10 คน...

...พี่ตู่ได้ 11 คน...เนื่องอีกคนเป็น 12 รวมแล้ว 22 คน...
คงเปลี่ยนใจลำบากครับพี่ตู่......ออกตั๋วเดินทางมาแล้ว

จะไปหาชาอร่อยๆดื่มที่ซีลอนนะครับ......




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 มีนาคม 2554, 10:51:55

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 08 มีนาคม 2554, 15:36:31
...น้องจุ๊งและน้องแหลม...เปลี่ยนโลโก้บ้างก็ดีนะคะ...แบบตัวจริงมีมั้ยคะ...
...โลโก้ของน้องแหลม...พี่คิดว่าเป็นรูปลูกชายน่ะค่ะ...

ครับผม.... รอจังหวะเหมาะๆครับ

ส่วนอวตาร์เด็กชายที่ผมใช้อยู่ก็รูปลูกคนอื่นนะครับพี่.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 มีนาคม 2554, 10:58:47
สวัสดีเสี่ยแหลม
มาถึงโพสต์เป็นชุดเชียวนะ วันนี้เดินทางแล้ว ขอให้ไปรอดปลอดภัย ไปดีมาดี เที่ยวให้สนุกนะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 มีนาคม 2554, 11:03:44


อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 10:58:47
สวัสดีเสี่ยแหลม
มาถึงโพสต์เป็นชุดเชียวนะ วันนี้เดินทางแล้ว ขอให้ไปรอดปลอดภัย ไปดีมาดี เที่ยวให้สนุกนะ


ขอบคุณ...เป็นอันขาด ท่านจุ๊ง

อยากได้อะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 มีนาคม 2554, 11:11:57
พูดถึงอินเดียก็นึกถึงหนังอินเดียที่เคยชอบดูสมัยเด็ก เสียดายไม่มีทิวาราตรี มาพากย์เสียง ไม่งั้นจะฝากซื้อหนังซักเรื่อง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 มีนาคม 2554, 11:14:44
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 11:11:57
พูดถึงอินเดียก็นึกถึงหนังอินเดียที่เคยชอบดูสมัยเด็ก เสียดายไม่มีทิวาราตรี มาพากย์เสียง ไม่งั้นจะฝากซื้อหนังซักเรื่อง

ตกลง...เอาไงล่ะครับท่าน.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 09 มีนาคม 2554, 11:26:03
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 10:46:21
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 08 มีนาคม 2554, 15:22:52
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 มีนาคม 2554, 14:04:42

สวัสดียามบ่ายครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อร..พี่อ้อย และพี่น้องทุกท่าน

ขอบคุณสำหรับความรู้และความบันเทิง.....ท่านจุ๊ง

พี่ตู่ครับ.....จิวจ่ายโกว...หวงหลง ผมก็อยากไปนะครับ
แต่เดือนตุลาฯ มีโปรแกรมแล้วครับพี่.


...จะปายหนายคะ...น้องแหลม...ไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอ...ยังมีเวลาคิดค่ะ...

...เมื่อกี้โทรคุยกะเนื่อง...เนื่องบอกเมื่อคืนคุยกะพี่แก้ว...ได้แล้ว 10 คน...

...พี่ตู่ได้ 11 คน...เนื่องอีกคนเป็น 12 รวมแล้ว 22 คน...
คงเปลี่ยนใจลำบากครับพี่ตู่......ออกตั๋วเดินทางมาแล้ว

จะไปหาชาอร่อยๆดื่มที่ซีลอนนะครับ......



...น้องแหลม...ไปศรีลังกา...ไม่เลยไปมัลดีฟด้วยล่ะคะ...
...เกาะในฝันของพี่ตู่เลย...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 มีนาคม 2554, 11:30:25


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 11:26:03
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 10:46:21
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 08 มีนาคม 2554, 15:22:52
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 มีนาคม 2554, 14:04:42

สวัสดียามบ่ายครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อร..พี่อ้อย และพี่น้องทุกท่าน

ขอบคุณสำหรับความรู้และความบันเทิง.....ท่านจุ๊ง

พี่ตู่ครับ.....จิวจ่ายโกว...หวงหลง ผมก็อยากไปนะครับ
แต่เดือนตุลาฯ มีโปรแกรมแล้วครับพี่.


...จะปายหนายคะ...น้องแหลม...ไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอ...ยังมีเวลาคิดค่ะ...

...เมื่อกี้โทรคุยกะเนื่อง...เนื่องบอกเมื่อคืนคุยกะพี่แก้ว...ได้แล้ว 10 คน...

...พี่ตู่ได้ 11 คน...เนื่องอีกคนเป็น 12 รวมแล้ว 22 คน...
คงเปลี่ยนใจลำบากครับพี่ตู่......ออกตั๋วเดินทางมาแล้ว

จะไปหาชาอร่อยๆดื่มที่ซีลอนนะครับ......



...น้องแหลม...ไปศรีลังกา...ไม่เลยไปมัลดีฟด้วยล่ะคะ...
...เกาะในฝันของพี่ตู่เลย...

เวลาไม่อำนวย(และทุนทรัพย์ไม่เพียงพอ) น่ะครับพี่ตู่

ว่าไปแล้ว....มัลดีฟ ก็น่าไปครับ ก่อนที่มันจะจมทะเลใน 25 ปีข้างหน้า


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 09 มีนาคม 2554, 11:31:31
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 11:14:44
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 11:11:57
พูดถึงอินเดียก็นึกถึงหนังอินเดียที่เคยชอบดูสมัยเด็ก เสียดายไม่มีทิวาราตรี มาพากย์เสียง ไม่งั้นจะฝากซื้อหนังซักเรื่อง

ตกลง...เอาไงล่ะครับท่าน.

...สมัยพี่ตู่เด็กๆก็ดูหนังอินเดียค่ะ...มุมตัสไงดังมากๆ...สวยขาว...แต่พระเอกหาหล่อๆยาก...
...ชอบมิตร  ชัยบัญชา...สมบัติ  เมทะนี...มากกว่าค่ะ...
...แต่มีดาราชายอินเดียวัยรุ่นคนนึง...ดังมาถึงเมืองไทย...
...พี่ตู่ก็จำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ...สมัยนั้นพี่ตู่เก็บรูปเค้าไว้ด้วยนะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 มีนาคม 2554, 13:53:25
สวัสดีครับครับพี่ตู่
พระเอกหนังอินเดียที่ผมว่าหล่อ ก็ี่เลย มาโนช กุมาร ส่วนทา์ร์เมนเดอร์ ไม่เท่าไร มุมตัสนี่ถือว่าเป็นดาวยั่วหนังอินเดีย นางเอกก็ เฮมา มาลินี คนอืนผมจำชื่อไม่ได้แล้ว อ้อ มีดาวร้ายอีกคน ปราน ไงล่ะครับ
สำหรับท่านแหลม จะซื้อหนังอินเดียมาฝากซักเรื่องก็ได้ เอาเรื่องที่มีร้องเพลงเยอะๆ แบบที่เราเคยดูนะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 09 มีนาคม 2554, 15:19:03
...ทาร์เมนเดอร์...ใช่ๆหล่อ...เฮมา มาลินี ก็สวยค่ะ...
...แต่ดาราคนนั้นอายุสักสิบกว่าๆค่ะ...เป็นวัยรุ่นๆอยู่เลย...เล่นหนังสักเรื่องแล้วก็เงียบไปค่ะ...
...เป็นนักร้องด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจ...ตอนนั้นพี่ตู่สัก ม.ศ.1 นะ...ก็อายุสิบกว่าๆเหมือนกัน...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 มีนาคม 2554, 18:41:50
ผมจำได้แล้ว มีพระเอกตัวเล็กชื่อราเยส คานนา อักคน คนนี้ก็แสดงหนังบ่อย ส่วนมาโนชกุมาร จะแสดงหนังชวงแรกๆที่ดูหนังเป็น น่าจะซักอายุ8-9ขวบ ที่จำได้มีเรื่องธรณีสายเลือด


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 09 มีนาคม 2554, 19:23:15
...น้องจุ๊งคะ...น่าจะเป็นนักร้องค่ะ...ไม่ใช่ราเยส  คานนา   ค่ะ...แต่นึกไม่ออก...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 มีนาคม 2554, 20:12:08
ที่พี่ตู่ว่าใช่โชเล่หรือปล่าวครับ ตัวดำๆ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 09 มีนาคม 2554, 22:23:13
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 11:14:44
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 11:11:57
พูดถึงอินเดียก็นึกถึงหนังอินเดียที่เคยชอบดูสมัยเด็ก เสียดายไม่มีทิวาราตรี มาพากย์เสียง ไม่งั้นจะฝากซื้อหนังซักเรื่อง

ตกลง...เอาไงล่ะครับท่าน.


ของหยี .. เหมือนเดิมค่ะ .. ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ

ว๊า ทันไหมเนี่ย !!
พี่แหลมไปแล้วนี่หว่า ..


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 10 มีนาคม 2554, 08:14:18
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 22:23:13
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 11:14:44
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 11:11:57
พูดถึงอินเดียก็นึกถึงหนังอินเดียที่เคยชอบดูสมัยเด็ก เสียดายไม่มีทิวาราตรี มาพากย์เสียง ไม่งั้นจะฝากซื้อหนังซักเรื่อง

ตกลง...เอาไงล่ะครับท่าน.


ของหยี .. เหมือนเดิมค่ะ .. ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ

ว๊า ทันไหมเนี่ย !!
พี่แหลมไปแล้วนี่หว่า ..


   พี่ขอเลือกลูกปัดค่ะ...อิอิ...รู้ว่าไม่ทันยังขอ....555


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 10 มีนาคม 2554, 08:54:54
สวัสดีพี่ๆน้องๆ
อาบังแหลมไปอินตระเดียซะแล้ว มาฟังเพลงกันต่อ เอาเพลงลอยกระทงฉบับภาษาจีนละกัน


http://www.youtube.com/watch?v=C22763ZHQ9w


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 11 มีนาคม 2554, 09:29:26
...มีด้วยเหรอ...ลอยกระทง...เวอร์ชั่นจีน...
...ฟังแล้วค่ะ...เพราะมาก...แสดงว่าทำนองนี้เป็นที่แพร่หลายค่ะ...
...น้องจุ๊ง...พี่ตู่นึกออกแล้ว...เพิ่งนึกออกเมื่อวานนี้เองค่ะ...อยู่ๆมันก็แว้บขึ้นมาเลย...แล้วพี่ก็พยายามท่องไว้เดี๋ยวกลัวลืม...
...ซายิด ข่าน...ค่ะ...เคยได้ยินมั้ยคะ...สมัยนั้นเค้าดูหล่อมากๆค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 11 มีนาคม 2554, 09:31:45
...น้องจุ๊ง...ทราบเรื่องฮวงจุ้ย...บ้างมั้ยคะ...
...หรือ...เรื่องหินธิเบต...น่าสนนะคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 11 มีนาคม 2554, 10:07:05
สวัสดีครับพี่ตู่
เรื่องฮวงจุ้ยหรือหินธิเบต ไม่เคยมีความรู้เลย ลองหาในเน็ตก็พอจะหาได้บ้าง ไว้มีเวลาผมจะลองแปลให้ดู เรื่องพวกนี้เวลาจะแปลอะไรออกมา ต้องมั่นใจข้อมูลพอสมควร ไม่งั้นห้อง "คุยเรื่องจีนๆ" จะกลายเป็นห้อง"คุยกันแบบมั่วๆ" เสียชื่อศิษย์เก่าจีนหมด อิอิ

ผมมาฟังเพลงลอยกระทงอีกรอบ ก็นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องหนึ่งที่ผมอยากคุยมานานแล้ว หลายท่านคุยกับคนจีนแก่ๆ อาจจะดูว่าเอีะ ทำไมคนจีนพูดไทยไม่ชัด อันนี้มันเป็นธรรมชาติของคนจีนนะครับ อย่างภาษาจีนจะไม่มีออกเสียง ด.เด็ก ยกเว้นคนไหหลำ คนจีนสมัยเก่าพูดให้ตายก็ออกเสียง ด.เด็กไม่ได้ จะออกเป็น ล.เหล็ก และการออกเสียงของคนจีนจะอ้างอิงหลักภาษาของตัวเองเสมอ และหลักภาษาจีนก็ตายตัว จะไม่โอนเอนไปตามเสียงที่ได้ยินมาเด็ดขาด อย่างภาษาจีนกลาง จะไม่มีออกเสียง บ.ใบไม้ คนจีนสมัยก่อนถ้าไม่เคยเรียนภาษาปะกิต ออกเสียงให้ตายก็ออกเสียง บ.ใบไม้ไม่ได้ อย่างคำว่าปักกิ่งในภาษาแต้จิ๋ว ออกเสียงภาษาจีนกลางจะเรียกว่าเป่ยจิง เขียนเป็นภาษาสะกดอ่านเสียงจีนแบบพินอิน โดยยึดอักษรลาติน จะเป็นBeijing ฉะนั้นเวลาอ่านชื่อคน Bจะออกเสียง ป.ปลา หรือ P จะออกเสียง พ.พาน เสมอ อันนี่ตายตัว

เฮ่อ พูดถึงคนแก่ ก็นึกถึงปะป๊าผม แกเรียนหนังสือแค่7ปี ก็ออกมาวิ่งเต้นทำมาหากิน เรียนอะไรก็รู้เร็ว ศึกษาวิธีทำฟันแค่3วัน ออกมาเปิดร้านหมอฟันได้เลย ภาษาไทย มาลายู ฮกเกี้ยน กวางตุ้ง พูดได้หมด ส่วนจะชัดไม่ชัด ก็คุยกับคนไข้รู้เรื่องละกัน แกเป็นหมอจีนด้วย เห็นแกเล่าว่าสมัยก่อนแกสุขภาพไม่ดี ไปหาหมอก็เป็นๆหายๆ แกฮึดขึ้นมา เลยอ่านตำรา ศึกษาวิชาหมอเอง ไปๆมาๆ เลยกลายเป็นหมอรักษาชาวบ้าน แถวภาคใตเตั้งแต่ชุมพรลงไป มีคนไข้ของอยู่ทั่วไป บางทีไปหาแก บางทีก็เชิญแกไปตรวจ บางคนรักษากับแกจนแกสอนให้รักษาตัวเองได้เลย แกเก่งไหมล่ะ

เอ๊ะ ผมพล่ามมากไปไหมเนี่ย ก็ใกล้วันเช็งเม้งเข้าไปทุกที ก็ต้องคิดถึงปะป๊ามั่งซิครับ ใครไม่มีปะป๊ามะม้าล่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 12 มีนาคม 2554, 09:23:31
อรณสวัสดิ์ครับทุกท่าน
เอาเพลง"ต้องสู้จะชนะ"มาให้ฟัง


http://www.youtube.com/watch?v=NVMBGinM8v4

http://www.youtube.com/watch?v=VgLcqLjocYE


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 12 มีนาคม 2554, 20:59:18
...สวัสดีค่ะ...น้องจุ๊ง...
...ป่านนี้น้องแหลมคงเที่ยวอินเดียสนุกไปเลย...
...เมื่อวานพี่ตู่หดหู่มาก...สงสารญี่ปุ่นค่ะ...ดูข่าวทีวีทั้งวัน...
...เพลงต้องสู้จึงจะชนะ...เพราะค่ะ...พี่ตู่ชอบเพลงนี้มากๆเลย...
...ว่าจะขอหลายวันแล้ว...ขอบคุณมากๆค่ะ...
...น้องจุ๊งไปเช้งเม้งแถวไหนคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 13 มีนาคม 2554, 18:39:32
สวัสดีครับพี่ตู่
เช็งเม้งก็ต้องกลับไปบ้านที่เบตงซืครับ จริงๆผมก็ไม่ชอบญี่ปุ่นเท่าไร ยังเจ๊บใจกรณีฆ่าหมู่ชาวนานกิงปี1930ไม่หาย แต่เมื่อเกิดกรณีธรณีพิโรธพร้อมกับของแถมซึนามิติดไม้ติดมือไปด้วย ก็เห็นใจและสงสารชาวญี่ปุ่นอยู่เหมือนกัน อาจจะเป็นการบังเอิญ พอดีช่วงนี้อยากเพลงญี่ปุ่นขึ้นมาตะหงิดๆ เลยของร่วมแสดงความเสียใจ(คงไม่ถึงกับต้องไว้อาลัยนะครับ)ด้วยเพลงญี่ปุ่นละกัน พอดีมีเพลงทำไมถึงทำกับฉันได้ฉบับญี่ปุ่นเลยเอามาฝากด้วย


http://www.youtube.com/watch?v=qzioiTIvP-8

http://www.youtube.com/watch?v=JlEIdsN2Bi4

http://www.youtube.com/watch?v=o6KlBTAfW5A

http://www.youtube.com/watch?v=V5jx2lPxPsA

http://www.youtube.com/watch?v=zUeWPQHzycg


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 มีนาคม 2554, 18:44:47
เพิ่งรู้ว่าเพลงนี้  มี version ญี่ปุ่นด้วย ..     emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 14 มีนาคม 2554, 17:16:33
...เมื่อเช้าก็มาตอบค่ะ...แต่สงสัยเออเร่อร์...
...เพลงเพราะค่ะ...น้องจุ๊ง...แสดงว่าเพลง...ทำไมถึงทำกับฉันได้...ทำนองฮิต...
...เพลงซาโยนาระ...เพราะค่ะ...และวีดิโอสวยจังเลย...
...ใครที่ชอบดอกไม้...เชิญเข้ามาชมและรับฟังเลยค่ะ...ชอบชอบ...
...ขอบคุณนะค้า...น้องจุ๊ง...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 14 มีนาคม 2554, 17:28:48
สวัสดีครับพี่ตู่ น้องหยี
ท่านแหลมกลับมาถึงแล้ว ตอนนี้คงยังงงกับตัวเองอยู่ เดี๋ยวก็คงมาคุย
เมื่อกี้ลองกดเพลงญี่ปุ่นฟังดู เจอเพลงเก๋ากึ๊กส์จากหนังที่ผมเคยดูสมัยเดะๆ(ประมาณปี2510) ชื่อเพลง"ผู้ทรยศรัก" เลยเอามาฝากทั้งเวอร์ชั่นจีนแล้วญี่ปุ่น เพลงจีนเอาของเจ๊ทังหลันฮวา นางเอกของเรื่องและเป็นผู้ทำให้เพลงนี้โด่งดังดีกว่า เอ๊ะ เจ๊ทังทำไมยังดูสาวๆอยู่ แปลกมั่กๆ อืมวิดิโอที่เอามารู้สึกว่าจะสมาทกับเพลง"น้ำตาในสายฝน" ร้องโดยชิงซาน นี่ก็เดอะเหมือนกัน


http://www.youtube.com/watch?v=u_uoxRqgxGE

http://www.youtube.com/watch?v=ka1qnM2q31Q



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 14 มีนาคม 2554, 18:51:21
...นักร้องใส่ความรู้สึกน่าดูเลยนะ...น้องจุ๊ง...
...ไม่รู้ทั้งภาษาจีนและญี่ปุ่น...แต่ก็มีความรู้สึกว่า2เพลงนี้ซีเรียสจังเลยอ่ะ...
...แต่ก็เพราะทั้ง 2 เพลงค่ะ...น้องจุ๊ง...
...ที่เบตงเนี่ย...ขึ้นชื่อเรื่องอาหารนะคะ...
...ที่พัทยาก็มีคนเบตงมาเปิดร้านอาหารค่ะ...อร่อยมาก...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 15 มีนาคม 2554, 08:27:25
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ตู่
โหลดเพลงบทสวดมนต์ภาวนาบูชา พระโพธิสัตว์กวนอิม เลยเอามาฝาก พี่ตู่ว่าฟังเพลงแล้วเครียด เลยเอาเพลงบทสวดมา คิดว่าไม่น่าเครียดนะ แต่ก็ไม่แน่ เพราะชื่อเพลงชื่อ "ผลบุญผลกรรม3ชาติตามผูกพัน" ให้ทั้งเวอร์ชั่นภาษาจีนกลางแมนดารินและภาษากวางตุ้งไปเลย

http://www.youtube.com/watch?v=L4esZDPOSa0

http://www.youtube.com/watch?v=e1zLRXEbS0Q


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 มีนาคม 2554, 11:00:47

สวัสดียามสายครับ....... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อ้อย..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน  


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 มีนาคม 2554, 11:05:05

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 10 มีนาคม 2554, 08:14:18
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 22:23:13
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 11:14:44
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 09 มีนาคม 2554, 11:11:57
พูดถึงอินเดียก็นึกถึงหนังอินเดียที่เคยชอบดูสมัยเด็ก เสียดายไม่มีทิวาราตรี มาพากย์เสียง ไม่งั้นจะฝากซื้อหนังซักเรื่อง

ตกลง...เอาไงล่ะครับท่าน.


ของหยี .. เหมือนเดิมค่ะ .. ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ

ว๊า ทันไหมเนี่ย !!
พี่แหลมไปแล้วนี่หว่า ..


   พี่ขอเลือกลูกปัดค่ะ...อิอิ...รู้ว่าไม่ทันยังขอ....555

ของฝากพอมีครับ.........แต่อาจไม่ได้ตามความประสงค์ของพี่อ้อย,น้องหยี.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 15 มีนาคม 2554, 13:53:18
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 15 มีนาคม 2554, 08:27:25
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ตู่
โหลดเพลงบทสวดมนต์ภาวนาบูชา พระโพธิสัตว์กวนอิม เลยเอามาฝาก พี่ตู่ว่าฟังเพลงแล้วเครียด เลยเอาเพลงบทสวดมา คิดว่าไม่น่าเครียดนะ แต่ก็ไม่แน่ เพราะชื่อเพลงชื่อ "ผลบุญผลกรรม3ชาติตามผูกพัน" ให้ทั้งเวอร์ชั่นภาษาจีนกลางแมนดารินและภาษากวางตุ้งไปเลย

http://www.youtube.com/watch?v=L4esZDPOSa0

http://www.youtube.com/watch?v=e1zLRXEbS0Q
...สวัสดีตอนบ่ายๆค่ะ...น้องจุ๊ง...น้องแหลม...

...ฟังบทสวดไม่เครียดหรอกค่ะ...ถึงแม้จะฟังไม่รู้เรื่อง...แต่มันก็ให้ความรู้สึกเย็นๆนะคะ...

...ขอบคุณค่ะ...น้องจุ๊ง...

...พี่เป็นแต่...นำโมไต๋ซือ..ไต๋ปุย..กิวโค่ว  กิวหลั่ง  กวงไต๋เล่งก้ำ  กวงสี่อิมผู่สัก...ค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 มีนาคม 2554, 17:34:57

สวัสดียามเย็นครับ..........ท่านจุ๊ง...พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

แวะมามาหาชมเรื่องประเทืองปัญญาของจีนอ่ะครับ..........ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 18 มีนาคม 2554, 17:40:42
ตอนนี้หมดปัญญามาประเทืองแล้ว เพื่อนแหลมช่วยแนะหน่อยว่าประเทืองหรือแต๋วแบบไหนดี


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 มีนาคม 2554, 17:44:54

จะประเทืองหรือแต๋วก็ได้ ให้ออกมาดูดีก็แล้วกัน.....ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 18 มีนาคม 2554, 19:06:33
หมดมุข ก็ขอยืมมุขคนอื่นมาให้ชมกัน

http://www.youtube.com/watch?v=FdjR-AMz50c

我是一隻小小鳥  
ฉันคือนกน้อยๆตัวหนึ่ง

有時後我覺得自己像一隻小小鳥
บางคราฉันรู้สึกตัวเองดุจนกน้อยๆตัวหนึ่ง  
想要飛卻怎麼樣也飛不高
คิดจะบินแต่ทำอย่างไรก็บินไม่สูงสักที  
也許有一天我棲上枝頭卻成為獵人的目標
อาจมีสักวันที่ฉันเกาะบนยอดไม้แต่กลับเป็นเป้าหมายของนายพราน  
我飛上了青天才發現自己從此無依無靠
ฉันบินขึ้นสู่ฟ้าสีครามจึงพบว่าตัวเองขาดไร้ที่พึ่งนับจากนี้ไป

每次到了夜深人靜的時候我總是睡不著
ทุกครั้งเมื่อถึงคืนสงัดที่เงียบสนิทฉันมักนอนไม่หลับ  
我懷疑是不是只有我的明天沒有變得更好
ฉันสงสัยว่ามีเพียงฉันหรือเปล่าที่วันพรุ่งนี้ไม่เปลี่ยนในทางดีขึ้น  
未來會怎樣究竟有誰會知道
อนาคตจะเป็นเช่นไรแท้จริงแล้วมีใครหยั่งรู้ำได้บ้าง  
幸福是否只是一種傳說我永遠都找不到  
ความสุขเป็นเพียงตำนานเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่มีทางค้นพบเจอหรือเปล่า

我是一隻小小小小鳥
ฉันคือนกน้อยๆกระจิดริดตัวหนึ่ง
想要飛呀飛卻飛也飛不高
คิดจะบินๆไปแต่ก็บินไม่สูงสักที  
我尋尋覓覓尋尋覓覓一個溫暖的懷抱
ฉันเสาะแสวงหาอ้อมกอดหนึ่งที่อบอุ่นเสมอมา  
這樣的要求算不算太高
ข้อเรียกร้องอย่างนีุ้ืถือว่าสูงไปหรือเปล่า

我是一隻小小小小鳥
ฉันคือนกน้อยๆกระจิดริดตัวหนึ่ง
想要飛呀飛卻飛也飛不高
คิดจะบินๆไปแต่ก็บินไม่สูงสักที
我尋尋覓覓尋尋覓覓一個溫暖的懷抱
ฉันเสาะแสวงหาอ้อมกอดหนึ่งที่อบอุ่นเสมอมา
這樣的要求算不算太高
ข้อเรียกร้องอย่างนีุ้ืถือว่าสูงไปหรือเปล่า  

所有知道我的名字的人啊你們好不好
ท่านทั้งหลายที่รู้จักชื่อของฉัน พวกคุณสบายดีหรือเปล่า  
世界是如此的小我們註定無處可逃
โลกช่างเล็กอะไรเช่นนี้ พวกเราถูกลิขิตให้ไม่มีที่หลบหนีได้  
當我嘗盡人情冷暖
เมื่อฉันได้ลิ้มรสความเย็นชาและความมีน้ำใจของคนถึงที่สุดแล้ว
當你決定為你了的理想燃燒
เมื่อคุณตัดสินใจยืนหยัดต่อสู้เพื่ออุดมการณ์สัมฤทธิ์ผล
生活的壓力與生命的尊嚴哪一個重要
ความกดดันในชีวิตและศักดิ์ศรีความเป็นคนสิ่งไหนจะสำคัญกว่ากัน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 18 มีนาคม 2554, 19:57:51
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 18 มีนาคม 2554, 17:44:54

จะประเทืองหรือแต๋วก็ได้ ให้ออกมาดูดีก็แล้วกัน.....ท่านจุ๊ง

อย่าให้ออกมาเหมือน Avatar ของพี่จุ๊งก็แล้วกัน .. คริคริ    emo20:)):)   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 18 มีนาคม 2554, 21:02:01
.....ยังไง เข้ามา ก็ คงความสุขมากๆตลอดเลยครับ น้องจุ๊ง.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 มีนาคม 2554, 10:16:52
สวัสดีครับพี่ตี๋ พี่ตู่ น้องยาหยี ท่านแหลมและพี่น้องทุกท่าน
พอดีไปดูหน้าเก่าๆของคุยเรื่องฯเห็นสียอดนางงาม เลยนึกถึงเพลงที่เคยแปลความหมายมานานแล้ว มาปัดฝุ่นโพสต์ให้ฟังพร้อมกับความหมายก็น่าจะดีนะ


http://www.youtube.com/watch?v=D67DK1UQ11Q

王昭君 หวังเจาจวิน
 
闷坐雕鞍  ขี่ม้าอานสลักด้วยความมึนซึม

思忆汉皇 หวนระลึกถึงเจ้าชีวิต

朝朝暮暮 ทุกเช้าทุกค่ำ

暮暮朝朝 ทุกค่ำ ทุกเช้า

黯然神伤 ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

前途茫茫 ทางที่ต้องเดินก็อ้างว้าง

极目空翘望 สุดที่สายตาจะมองเห็นได้

见平沙雁落 เห็นห่านป่าร่อนถลาลงพื้นทราย

声断衡阳 สิ้นเสียงร้องที่เมืองเหิงหยาง

月昏黄 ดวงจันทร์ในเวลาพลบ

返照雁门关上 ส่องแสงกระทบบนกำแพงด่านประตูห่านป่า(เยี่ยนเหมินกวาน)

塞外风霜 ลมหิมะนอกด่านกำแพงเมืองจีน

悠悠马蹄忙 แว่วเสียงฝีเท้าม้าวิ่งอย่างเร่งร้อน

整日思想 จมอยู่ในห้วงความนึกคิดทั้งวัน

长夜思量 ใคร่ครวญตลอดทั้งราตรี

魂梦忆君王 ในวิญญาณและความฝันมีแต่เจ้าชีวิต

阳关初唱 เริ่มร้องเพลง  หยางกวาน(เพลงหยางกวานจะเป็นเพลงสำหรับเลี้ยงคนญาติมิตรที่จะเดินทางไกล แต่งสมัยราชวงศ์ถัง แต่王昭君  ซึ่งเกิดก่อนสมัยถังร่วมพันปี เจาะเวลาไปเล่นได้ไงไม่ทราบ อันนี้เป็นงง  ปกติจะร้อง3รอบเรียก阳关三叠)

往事难忘 อดีตยากจะลืมเลือน

琵琶一叠 ผีผาบรรเลงชั้นที่หนึ่ง

回首望故国 เหลียวมองประเทศเกิด

河山总断肠 ทัศนียภาพ(ภูเขา)และแม่น้ำทำให้ใจรันทด

忆家庭景况 รำลึกถึงเรื่องราวทางบ้าน

桩萱恩重 พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดมีพระคุณนักหนา

隶萼情长 พี่น้องเติบโตกันมา มีความผูกพันเหลือพรรณา

远别家乡 จากบ้านเกิดไปไกล

旧梦前尘 ความฝันในอดีต ฝุ่นทรายที่อยู่เบื้องหน้า

前尘旧梦 ฝุ่นทรายเบื้องหน้า ความฝันในอดีต

空惆怅 คิดไปก็ว่างเปล่า

阳关再唱 หยางกวานร้องซ้ำ

触景神伤 สะทกสะท้อนอ่อนใจ

琵琶二叠 ดีดผีผารอบที่2

凝眸望野草 เพ่งมองหญ้าในทุ่ง

闲花驿路长 และมวลดอกไม้ดาษดื่นไปตามทาง

问天涯茫茫  มองเห็นไปไกลถึงขอบฟ้าดูแล้วเวิ้งว้าง

平沙雁落 ห่านป่าร่อนถลาลงพื้นทราย

大道霜寒 ตามทางเต็มไปด้วยหิมะที่จับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็ง

胡地风光 ทิวทัศน์พื้นที่นอกอารยธรรม

剩水残山 น้ำท่าจะดี หรือว่าภูเขาแห้งแล้ง

残山剩水 ภูเขาแห้งแล้งหรือว่าน้ำท่าจะดี

无心赏 ไม่มีอารมณ์ ไปชื่นชมมัน

阳关终唱 หยางกวานร้องเที่ยวสุดท้าย

后事凄凉 เรื่องราวภายหลังรันทด

琵琶三叠 ดีดผีผารอบที่3

前途望身世 มองชีวิตภายภาคหน้า

飘零付渺茫 เร่ร่อนไปมองไม่เห็นจุดหมาย

瞩君眼茫茫 ชะเง้อรอเจ้าชีวิต  ก็มองไม่เห็น

魂归汉地 ดวงวิญญาณกลับมาแผ่นดินจีน

目睹朝阳 มองย้อนไปทางพระอาทิตย์ขึ้น

久后思量 ครุ่นคิดเป็นเวลานาน

地老天长 ชั่วฟ้าดินสลาย

天长地老 ชั่วฟ้าดินสลาย

长怀想    ก็ยังคิดถึง

一曲琵琶 ผีผาหนึ่งบทเพลง

恨正长  แค้นยืนยง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 19 มีนาคม 2554, 20:12:54
...สวัสดีค่ะ...น้องจุ๊ง...
...เข้ามาฟังแล้วนะคะ...เพราะค่ะ...
...เพลงที่2ฟังไปๆตอนท้ายๆเหมือนเพลงงิ้วนะคะ...
...คืนนี้อย่าลืมดูพระจันทร์ทรงกลดดวงใหญ่ที่สุดในรอบปีด้วยนะคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 21 มีนาคม 2554, 07:56:43

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 04 มีนาคม 2554, 20:53:58
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 03 มีนาคม 2554, 17:42:16
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 03 มีนาคม 2554, 13:58:35
เนื้อหาเพลง"ผีเสื้อสองตัว"

ที่รักจ๋า เธอค่อยๆบินนะ
ระวังกุหลาบที่มีหนามแหลมตรงหน้านะ
ที่รักจ๋า เธอเปิดปากหน่อย
เมื่อลมพัดพากลิ่นหอมมา จะทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม
ที่รักจ๋า เธอบินไปกับฉันนะ
บินผ่านลำเนาป่าไม้ไปดูลำธารโน่นแน่ะ
ที่รักจ๋า มาเต้นรำกัน
ความรักในวสันตฤดูจะไม่ทำให้ฟ้ามืดมัว
ฉันกับเธอบินคลอเคลียร่อนถลาไปด้วยกัน
บินข้ามโลกมายาร่วมกันนิรันดร
ตามจู๋จี้เธอทั้งชาติ
รักฉันสักพันครั้ง
ให้สมกับความรักของฉัน ความงามของเธอ
ฉันกับเธอบินคลอเคลียร่อนถลาไปด้วยกัน
บินข้ามโลกมายาร่วมกันนิรันดร
จนลมสารทฤดูหยุดพัด ใบไม้ร่วงมาเป็นกอง
ได้โรยราร่วมกันกับเธอ ก็ไม่สำนึกเสียใจ



เพราะมาก ..     emo9:huhu:

ภาษาสวย..... ครับ.

เป็นเช่นนั้น
ขอบคุณครับ


 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 21 มีนาคม 2554, 08:10:58
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 14 มีนาคม 2554, 18:51:21
...นักร้องใส่ความรู้สึกน่าดูเลยนะ...น้องจุ๊ง...
...ไม่รู้ทั้งภาษาจีนและญี่ปุ่น...แต่ก็มีความรู้สึกว่า2เพลงนี้ซีเรียสจังเลยอ่ะ...
...แต่ก็เพราะทั้ง 2 เพลงค่ะ...น้องจุ๊ง...
...ที่เบตงเนี่ย...ขึ้นชื่อเรื่องอาหารนะคะ...
...ที่พัทยาก็มีคนเบตงมาเปิดร้านอาหารค่ะ...อร่อยมาก...

สวัสดีครับพี่ตู่ พี่อ้อย ทั่นตี๋ น้องเสี่ย เฮียจุ๊ง น้องหยีและพี่น้องทุกท่าน
พี่ตู่ครับผมก็ว่าเพลงนี้นักร้องใส่อารมณ์ได้ลึกเลยแหละครับ
แต่ชื่อเพลงคือ..."ผู้ทรยศรัก"...ก็เลยเป็นอย่างนี้
เราก็เลยอินไปด้วยกับสีหน้าอารมณ์ที่ปรากฏมั๊งครับพี่
ขอบคุณเฮียจุ๊งที่สรรหา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 21 มีนาคม 2554, 10:41:29
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 21 มีนาคม 2554, 08:10:58
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 14 มีนาคม 2554, 18:51:21
...นักร้องใส่ความรู้สึกน่าดูเลยนะ...น้องจุ๊ง...
...ไม่รู้ทั้งภาษาจีนและญี่ปุ่น...แต่ก็มีความรู้สึกว่า2เพลงนี้ซีเรียสจังเลยอ่ะ...
...แต่ก็เพราะทั้ง 2 เพลงค่ะ...น้องจุ๊ง...
...ที่เบตงเนี่ย...ขึ้นชื่อเรื่องอาหารนะคะ...
...ที่พัทยาก็มีคนเบตงมาเปิดร้านอาหารค่ะ...อร่อยมาก...

สวัสดีครับพี่ตู่ พี่อ้อย ทั่นตี๋ น้องเสี่ย เฮียจุ๊ง น้องหยีและพี่น้องทุกท่าน
พี่ตู่ครับผมก็ว่าเพลงนี้นักร้องใส่อารมณ์ได้ลึกเลยแหละครับ
แต่ชื่อเพลงคือ..."ผู้ทรยศรัก"...ก็เลยเป็นอย่างนี้
เราก็เลยอินไปด้วยกับสีหน้าอารมณ์ที่ปรากฏมั๊งครับพี่
ขอบคุณเฮียจุ๊งที่สรรหา


...สวัสดีค่ะ...น้องๆ...
...พี่ตู่ลืมสังเกตุชื่อเพลงไป...
...ใช่แล้วค่ะ...ผู้ทรยศรัก...มันน่าจะซีเรียส...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 21 มีนาคม 2554, 11:13:54
สวัสดีครับพี่ตู่ พี่หนุน
สำหรับเพลง"ผู้ทรยศรัก" ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในบรรดาเพลงอมตะจีนสำหรับเด็กยุคปะป๊าเรียกน้อง สมัยนี้พรรคพวกเมื่อรวบรวมกันไปคาราโอเกะก็อดไม่ได้ที่จะร้องเพลงนี้ ทังหลันฮวานักร้องเพลงนี้ ในยุคนั้นถือเป็นนางเอกยอดนิยมอันดับหนึ่งในยุคนั้น ฟังเพลงนี้ทุกทีก็ให้นึกถึงแม่ของเพื่อนคนหนึ่งทุกที เป็นหม้าย ยังสาวอยู่เลย กินยาฆ่าตัวตายในเวลาไล่ๆกับหนังเรื่องนี้เข้ามาฉาย เลยประทับใจเป็นพิเศษ วีซีดีเรื่องนี้ผมก็ซื้อมาสต็อคไว้นาน แต่ก็ยังบิ๊วอารมณ์ให้ตั้งใจดูไม่ได้ เพราะหนังมันเศร้า พี่ตู่ว่ามันเครียดก็สมควรอยู่ เพราะเป็นหนังชีวิต เท่าที่จำเนื้อเรื่องได้รางๆ พระเอกกับนางเอกเป็นคู่รักกัน แต่จับผลัดจับผลูห่างหายกันไปนาน มาเจอกันอีกที พระเอกมีลูกแล้ว2หน่อ แถมเป็นหม้ายซะด้วย สำหรับรายละเอียดตอนต่อไป ไว้ผมบิ๊วอารมณ์ดูหนังให้จบแล้วค่อยมาเล่าต่อนะครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 21 มีนาคม 2554, 11:31:56
...น้องจุ๊งคะ...เพลงผู้ทรยศรักไม่มีเวอร์ชั่นที่เป็นภาษาไทยใช่มั้ยคะ...
...ฟังเผินๆทำนองก็คล้ายๆเพลง...ทำไมถึงทำกับฉันได้...นะคะ...
...เวอร์ชั่นญี่ปุ่นรู้สึกจะร้องยากกว่าจีนนะคะ...มีลูกคอเยอะเลย...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 21 มีนาคม 2554, 18:12:52
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 21 มีนาคม 2554, 11:31:56
...น้องจุ๊งคะ...เพลงผู้ทรยศรักไม่มีเวอร์ชั่นที่เป็นภาษาไทยใช่มั้ยคะ...
...ฟังเผินๆทำนองก็คล้ายๆเพลง...ทำไมถึงทำกับฉันได้...นะคะ...
...เวอร์ชั่นญี่ปุ่นรู้สึกจะร้องยากกว่าจีนนะคะ...มีลูกคอเยอะเลย...
เพลงนี้พี่ตู่ต้องเข้าใจว่ามันรุ่นเดอะจริงๆ เพราะฉะนั้นอะไรที่เดอะจริงๆ จะหาเวอร์ชั่นภาษาไทยยากหน่อย อาจจะมี แต่ผมยังไม่เจอ

วันนี้นึกถึงบรรยากาศสมัยยังเป็นวุ้น ผมเลยหาเพลงเดอะรุ่นเก๋ากึกส์มาให้ฟัง รุ่นปี1939+345 ก็ประมาณปีพ.ศ.2485 สมัยรุ่นพี่ทองอู่ ปูชนียบุคคลชาวหอยังเอ๊าะๆอยู่ พอดีมีบทแปลเนื้อเพลงไว้พร้อม หยิบยกมาได้เลย


http://www.youtube.com/watch?v=QhfErNlQnwk

卖相思 ขายความรัก
----姚莉

我这心里一大块 ฉันมีเรื่องหนักอกหนักใจเรื่องหนึ่ง

左推右推推不开 ปัดอย่างไรทั้งซ้ายขวา ก็ปัดไม่ออก

怕生病 偏偏又把病害 หวั่นกลัวเกิดเจ็บป่วย  กลับทำให้ยิ่งเจ็บหนัก

无奈何 只好请个医生来 หมดปัญญา ได้แต่เชิญหมอมารักษาสักคน

医生与奴看罢脉 หมอแตะชีพจรฉันเสร็จ

说了一声不碍 แล้วบอกได้คำเดียวว่าไม่มีอะไร

不是病来可也不是灾 ไม่ใช่เกิดการป่วยและก็ไม่ใช่อันตรายร้ายแรง

不是病来可也不是灾 ไม่ใช่เกิดการป่วยและก็ไม่ใช่อันตรายร้ายแรง

这就是你的多情人 นี่เป็นเพราะคนรักของคุณ

留给你的相思债 ทำให้คุณตกอยู่เป็นหนี้รัก

敞医生庸庸 ตัวหมอเองเป็นแค่หมอธรรมด๊า ธรรมดา

无法把方儿开 ไม่มีปัญญาเขียนใบสั่งยาได้หรอก

且让你只好把那相思害 เพราะยิ่งจะทำให้คุณตกอยู่ในอันตรายแห่งห้วงรักมากขึ้นไปอีก

从今不把相思害 ตั้งแต่นี้ต่อไป  พยายามที่จะตัดรักไปจากใจ

猛然害起相思来 แต่ความรักกลับปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง

怕相思 偏偏入了相思寨 กลัวพะวงในรัก กลับตกไปอยู่ในห้วงรักหนักขึ้น

无奈何 只好把这相思卖 หมดปัญญา เลยต้องเอาความรักออกไปจำหน่าย

大街过去小巷来 ผ่านชุมชนใหญ่ ตรอกเล็กตรอกน้อยก็ไปแล้ว

叫了一声相思卖 ร้องออกไป  ความรักร้อนๆจ้า

谁肯来买我的相思去害 ใครก็ได้ช่วยเอาความรักของฉันไปที

谁肯来买我的相思去害  ใครก็ได้ช่วยเอาความรักของฉันไปที




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 21 มีนาคม 2554, 18:34:10
...น้องจุ๊งคะ...
...อ่านเนื้อเพลงแล้ว...ต้องรีบเปิดฟัง...
...เหมือนเพลงงิ้วค่ะ...
...โรคแบบนี้เค้าเรียก...ไข้ใจ...ค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 21 มีนาคม 2554, 19:12:23
ผมขอเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเอาเพลงโปรดจากซีรี่ย์เรื่องสามก๊กมาให้ฟังกัน เพลงแรกชื่อเพลง "รำพึง ณ ลำน้ำอวี้สุ่ย" เพลงที่สองชื่อ "เตียวเสี้ยวล่องลอยไปกับสายลม" อ้อ แถมอีกเพลงชื่อเพลง "ตำนาน" เป็นเพลงประกอบท้ายตอนของซีรี่ย์เรื่องเจ็งกิสข่าน เพลงนี้ชอบมั่กๆ ไม่รู้ว่าพี่น้องเคยได้ฟังบ้างไหม พอดีแทบไม่ได้ดูทีวีไทย เลยไม่รู้ว่ามีซีรี่ย์เรื่องเจ็งกิสข่านเคยมาฉายบ้างหรือเปล่า

http://www.youtube.com/watch?v=AYnK4RAN5rQ

http://www.youtube.com/watch?v=joFXd204fyk

http://www.youtube.com/watch?v=gWKbfQ4kY6o


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 21 มีนาคม 2554, 21:37:15
...ซี่รี่ส์เรื่องสามก๊ก...พี่ตู่ก็ดูตอนแรกๆค่ะ...
...ดูไปดูมา...พอนานๆเข้าจำชื่อตัวละครไม่ค่อยได้...เลยไม่ได้ติดตามดู...
...พี่ว่าจะไปซื้อหนังสือมาอ่านค่ะ...แต่ยังไม่ได้ฤกษ์เลย...
...เปิดฟังเพลงแล้วนะคะ...เพราะดีค่ะ...ไม่เคยฟังมาก่อนค่ะ...
...เจงกีสข่านเคยมีฉายในเมืองไทย...แต่จำไม่ได้ว่าเป็นหนังหรือซีรีส์ค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 23 มีนาคม 2554, 11:05:58
สวัสดีตอนสายครับ
เอาเพลงสียอดนางงามมาฝาก "ไซซีจมมัจฉา" " เจาจวินห่านป่าร่วง" "เตียวเสี้ยนจันทร์หลบลี้"  "อวี้หวนสะเทิ้นบุปผา"(อวี้หวนเป็นชื่อของหยางกุ้บเฟยหรือพระสนมหยาง) ตามลำดับ


http://www.youtube.com/watch?v=u3wnYRUtE-w

http://www.youtube.com/watch?v=lkmhqtFGtiQ
http://www.youtube.com/watch?v=1pqTZRGnuck

http://www.youtube.com/watch?v=1upvV87UToQ






หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 24 มีนาคม 2554, 09:42:51
...พี่ตู่เข้ามาฟังทั้ง 4 เพลงแล้วค่ะ...น้องดีเจจุ๊ง...
...หลากหลายอารมณ์...ขอบคุณที่นำเสนอค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 29 มีนาคม 2554, 12:14:56
สวัสดีครับแควนๆทุกท่าน
เก็บตกมาจากเว็บข้างบ้าน ช่วงนี้มัวแต่รำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆในกระทู้ซิกเซนส์ แวบไปดูเว็บข้างบ้าน พอดีช่วงนี้ใกล้เทศกาลเช็งเม้ง เห็นมีรูปน่าสนใจดี เลยเก็บมาฝาก

ใกล้ถึงเทศกาลเช็งเม้ง  ซึ่งเป็น 1 ใน 2 เทศกาลไหว้ผีบรรพบุรุษ  ( มักจะมีฝนพรำ ๆ แต่ปีนี้หนักเอาการเลย )
ทำให้นึกถึงกลอนนึง  ได้กล่าวถึงบรรยากาศในเวลานั้น และความมีน้ำใจของคนในยุคนั้น

清明時節雨紛紛,路上行人欲斷魂。借問酒家何處有?牧童遙指杏花村。
(ช่วงเช็งเม้งฝนพรำๆ คนกรำทางดั่งขาดใจ ใคร่ถามเหล้าน่ะขายที่ไหน เด็กชี้ั่นี่ไงต้นดอกเห็ง)
หมายเหตุ
จีนมีนิยายปรำปราว่าเดินทางเจอเด็กเลี้ยงโค แล้วถามถึงร้านขายเหล้า เด็กชี้ไปที่หมู่บ้านดอกเห็ง

แต่มายุคปัจจุบัน  การกระทำของคนได้เปลี่ยนไป  ด้วยผลประโยชน์  โดยทำให้

 清明時節雨紛紛,孤墓荒冢靜沉沉,往日卑恭逢迎態,今朝冷眼陌路人。
(ช่วงเช็งเม้งฝนพรำๆ สุสานโดยเดี่ยวช่างหงอยเหงา อดีตพบใครให้คารวะ ระยะนี้ตัวใครตัวมัน)

เก็บตกจากภาพเทศกาลของจีน ในงานเอ็กโปที่เซี่ยงไฮ้  ด้วยเทคโน ฯ สมัยใหม่  
สามารถทำให้ภาพวาดโบราณ มีชีวิตชีวา เคลื่อนไหวได้ในระบบ 3 ดี  ด้วยจอภาพสูง 6 เมตร ยาว 120 เมตร  ทำให้เข้าใจวิถีชีวิตในยุคนั้นได้ละเอียด  แม้สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ หากดูแต่ภาพเฉย ๆ ก็อาจมองข้ามไปได้


http://www.youtube.com/watch?v=FeK0DYHLWgE

และนี่ภาพต้นฉบับ

http://www.youtube.com/watch?v=mU1hEKa77dI


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 29 มีนาคม 2554, 12:59:55
...สวยดีค่ะ...ดูเพลินไปเลย...
...ช่วงนี้คนอาจจะไปเช็งเม้งกัน...
...แต่พี่ตู่ไหว้ไปแล้วค่ะ...ตั้งแต่วันจันทร์ที่แล้ว...ที่บ้านเค้าเรียกว่าชุนฮุนค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 01 เมษายน 2554, 14:14:07
สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆ
ผมหลงไปโพสต์ในกระทู้"เพลงเก่าจากภาพยนต์และละคร" พอดีคุยเรื่องสายลับญี่ปุ่น นึกขึ้นได้ว่าผมเคยเก็บข้อมูลเรื่องสายลับญี่ปุ่นในสมัยญี่ปุ่นบุกจีน เรื่องนี้บางทีเราอาจจะนึกไม่ถึงว่าการทำสงครามก็ทำทุกด้าน เรื่องด้านข่าวกรองทางทหารก็เป็นเรื่องสำคัญ สายลับที่ผมจะพูดถึงนี้เป็นผู้หญิง ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า川岛芳子 (kawashima yoshiko)(24/5/1906—25/3/1948) ชื่อภาษาแมนจูแปลเป็นไทยว่าอ้ายซินเจว๋หลอ เสี่ยนหวี คำว่าอ้ายซินเจว๋หลอเป็นชื่อสกุลหรือแซ่นั่นเอง และแซ่นี้เป็นแซ่เดียวกับจักรพรรดิในราชวงศ์แมนจู พูดง่ายๆว่าคุณโยชิโกะนี่เป็นเจ้าหญิงองค์หนึ่งในราชวงศ์แมนจู มีศักดิ์เป็นหลานของจักรพรรดิปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายในประวัติศาสตร์ ชื่อจีนของเธอก็มีชื่อ จินปี้ฮุย เป็นธิดาคนที่14ของเจ้าชายซู่ในราชวงศ์แมนจู ข่าวว่าแม่เป็นชาวญี่ปุ่น ไปเติบโตในญี่ปุ่น

มีบทบาทสำคัญในเหตุโจมตีรถไฟขบวนพิเศษเพื่อลอบสังหารผู้นำทางทหารจางจั้วหลินที่กวนตงเมื่อวันที่4มิถุนายน1928,เหตุปะทะกันระหว่างจีนกับญี่ปุ่นเมื่อวันที่18กันยายน1931และการเปิดฉากสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นเมื่อวันที่28มกราคม1932

คุณโยชิโกะโดยตัดสินประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าเมื่อวันที่25มีนาคม1948 สิริอายุรวม42ปี

เรื่องของคุณโยชิโกะ ได้เอามาทำเป็นหนังโดยบริษัทหนังฮ่องกง นำแสดงโดยเหมยเยี่ยนฟาง

ผมขอยกรายละเอียดจากเจ๊วิในภาษาปะกิตที่เราๆท่านๆคุ้นกันมาประกอบด้วยนะครับ

หมายเหตุ วันเดือนปีเกิดของที่ผมโพสต์กับเจ๊วิอาจจะไม่ตรงกันนะครับ เพราะข้อมูลผมมาจากอีกแหล่ง


Yoshiko Kawashima (川島 芳子, Kawashima Yoshiko?, 24 May 1907 - 25 March 1948) was a Manchu princess brought up in Japan, who served as a spy in the service of the Japanese Kwantung Army and Manchukuo. Originally named Aisin Gioro Xianyu (愛新覺羅·顯玗) with the courtesy name Dongzhen (東珍, literally meaning "Eastern Jewel"), her Chinese name was Jin Bihui (simplified Chinese: 金璧辉; traditional Chinese: 金璧輝; pinyin: Jīn Bìhuī). She is sometimes known in fiction by the pseudonym as the "Eastern Mata Hari”. She was executed as a traitor by the Kuomintang after the Second Sino-Japanese War.

http://en.wikipedia.org/wiki/Yoshiko_Kawashima (http://en.wikipedia.org/wiki/Yoshiko_Kawashima)

(http://img576.imageshack.us/img576/9397/126211795021062.jpg)(http://img576.imageshack.us/img576/5841/829816.jpg)
(http://img695.imageshack.us/img695/8199/00947268.jpg)
(http://img853.imageshack.us/img853/8058/e109f94444.jpg)
(http://img853.imageshack.us/img853/9811/2024162327257381.jpg)
(http://img535.imageshack.us/img535/2733/rdor3d8bd502089374c1345.jpg)
ภาพถ้ายน้องสาวโยชิโกะ
(http://img576.imageshack.us/img576/6386/u843p28t3d615256f326dt2.jpg)
เหมยเยี่ยนฟางแสดงเป็นโยชิโกะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 01 เมษายน 2554, 20:45:05
อายุสั้นจัง .. แค่ 42 ปีเอง ..     emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 เมษายน 2554, 21:09:46

เหมยเยี่ยนฟาง.... อายุสั้นกว่า จินปี้ฮุย หรือ โยชิโกะ อีกครับ

เยี่ยนฟาง จากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 40 ปี.......


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 01 เมษายน 2554, 21:53:38
หวัดดีท่านแหลม น้องยาหยี
หวัดดีจามทั้งวัน น้ำมูกน้ำตาไหลตลอด เ่ฮ่อ ลำบาก อ่านจากเจ๊วิ เมื่อไปค้นดิกคำว่า Mata Hari และpseudonym มา ความหมายของpseudonym ทำให้ผมนึกถึงหัวหน้าแก๊งอาชญากรเรื่อง"เล็บครุฑ" ของพนมเทียนที่ชื่อ"จางซูเหลียง"ขึ้นมา ในเรื่องบอกว่า"จางซูเหลียง"เป็นขุนพลจีนระดับบิ๊ก แล้วทรยศต่อเจียงไคเช็ก คิดตั้งตัวเป็นใหญ่คิดจะครองโลกทำนองเดียวกับDr.No ในเรื่องเจมส์บอนด์หรือยังไงนี่แหละ ผมอ่าน"เล็บครุฑ"แล้วก็สงสัยอยู่ตั้งนานว่า"จางซูเหลียง"เป็นใครในจีนยุคนั้น จากการดูซีรี่ย์ทีวี ฟังนิยายทางเน็ตตังนานถึงมาสรุปได้ว่าคือ"จางเสวเหลียง"นี่เอง "

จางเสวเหลียง"เกิดในตระกูลขุนศึกซึ่งมีอิทธิพลมาตั้งแต่ปลายยุคราชวงศ์แมนจู ต่อเนื่องมาในยุคสาธารณรัฐในสมัยเจียงไคเช็ค มีความสนิทสนมกับเจียงไคเช็คแบบพี่น้อง เป็นแม่ทัพผู้คุมกำลังทัพในเขตตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานจริง เคยได้รับการให้สมญานามอย่างอัปยศว่า"แม่ทัพผู้ไม่ต่อสู้" ซึ่งยังความขมขื่นใจให้แก่แม่ทัพจางอย่างมาก สาเหตุที่เขาได้รับสมญานามอัปยศนี้เพราะว่าเขาเป็นแม่ทัพผู้คุมกำลัง แต่เจอเจียงไคเช็คเปิดฉากสงครามกับญี่ปุ่นแบบปากกว่าตาขยิบ ทุกครั้งที่เขาจะนำทัพสู้รบญี่ปุ่น เจียงจะต้องเบรค ทำให้การสู้รบของเขาพ่ายแพ้อย่างย่อยยับจนภาคอิสานจีนกลายเป็นเขตปกครองของญี่ปุ่น

คนจีนเจ็บแค้นกันมาก  เฮียจางเองก็เจ็บช้ำใจ แต่ทำไงได้ เจียงก็พี่ร่วมสาบาน หนักเข้า จางก็หาทางออกโดยร่วมกับโจวเอินไหลแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทำการลักพาตัวเจียงไคเช็คไปบีบให้ทำสงครามกับญี่ปุ่นในเหตุการณ์ที่ประวัติศาสตร์จีนเรียกว่า"ปฏิบัติการ ณ เมืองซีอาน"(Xi-AN Incident)(ซึึ่งจีนทำเป็นซีรี่ย์ทางทีวีเมื่อปรัะมาณ2-3ปีที่ผ่านในชื่อนี้แหละ ผมเองก็บังเอิญไปเก็บตกแถวเยาวราชซื้อมาดูอยูรอบ2รอบ)
เมื่อเจียงรับปาก แม่ทัพจางการอาสาไปส่งเจียงถึงนานกิงซึ่งตอนนั้นเป็นเมืองหลวงจีน คราวนี้เป็นเรื่องซิครับ เจียงดำเนินการแก้แค้นทันที ด้วยการกักบริเวณจาง จากนั้นมาจางไไม่มีโอกาสออกสู่โลกภายนอกอีกเลย โดนกักบริเวณนานร่วมกึ่งศควรรษ ผมเคยค้นข้อมูล เห็นบอกว่าเพิ่งตายไปเมื่อราวปี2001นี่เอง คราวนี้อายุยืนยาวแน่ ร่วม100กว่าปี  

ช่วง2-3ปีนี้ จีนก็นำเรื่องนี้มาทำเป็นซีรี่ย์ทางทีวีอยู่หลายเรื่อง นักเล่านิยายแบบวณิพกก็จัดการเรียบเรียงเรื่องราวของจางทำเป็นนิยายเล่าเป็นตอนๆ โดยใช้ชื่อว่า"จางเสวเหลียง วีรบุรุษนิรันดร์กาล"

ผมเข้าใจว่าคำว่า"จางเสวเหลียง"ในภาษาจีนยุคเก่าจะใช้สะกดเป็นภาษาอังกฤษน่าจะเป็น Chang Hsüeh-liang อ่านเป็นไทยเลยกลายมาเป็นจางซูเหลียงไปเลย ดูดู๋ พี่ไทยทำได้ เอาวีรบุรุษของชาวจีนมาเขียนเป็นผู้ร้ายไปเลย อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเป็นโรคกลัวคอมมิวนิสต์ขึ้นสมอง เลยเห็นพี่กันและเพื่อนเจียงเป็นเทพไป

อืม อ่านจากเจ๊วิ เพิ่งถึงบางอ้อว่าจางจั๋วหลิน ที่เป็นเป้าหมายสังหารที่กล่าวถึงในเรื่องของโยชิโกะ สายลับญี่ปุ่นที่แท้เป็นพ่อของ"มฤตยูจางซูเหลียง"นี่เอง

Zhang Xueliang or Chang Hsüeh-liang English occasionally: Peter Hsueh Liang Chang) (3 June 1901 (according to other accounts in 1898 or 1900) in Haicheng County, Fengtian province of China – 14 October 2001 in Honolulu, Hawaii, United States), nicknamed the "Young Marshal" (少帥), became the effective ruler of Manchuria and much of North China after the assassination of his father Zhang Zuolin by the Japanese on 4 June 1928. As an instigator of the Xi'an incident he spent over 50 years under house arrest, but is regarded by the People's Republic of China as a patriotic hero.
http://en.wikipedia.org/wiki/Zhang_Xueliang (http://en.wikipedia.org/wiki/Zhang_Xueliang)

(http://img576.imageshack.us/img576/5392/2010011809044388727000.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 05 เมษายน 2554, 17:00:56
...พี่ตู่ไม่อยู่ 4-5 วัน...น้องจุ๊งเปลี่ยนโลโก้เลยเหรอคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 06 เมษายน 2554, 10:49:38

เข้ามาทักทายจารย์จุ๊งก่อนเดี๋ยวจะกลับไปฟังเพลงให้เพลินไปเลย
เมื่อกี๊ได้แต่อ่านผ่านๆ



 emo42 emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 06 เมษายน 2554, 13:40:56

ฟังเพลงอย่างเพลินเลย
เพิ่งกลับมา Thank you นี่แหละ
ช่างสรรหาจริงๆ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 เมษายน 2554, 20:13:16

ช่วงนี้เจ้าของห้องติดภาระกิจ ครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 เมษายน 2554, 00:45:27
เพลงไพเราะๆจาก 12 สาวเก่ง ชอบมาเจ็ด,แปดปีแล้วครับ.....



12 Girls Band - Ruten  


http://www.youtube.com/v/aetRj4S647M


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 เมษายน 2554, 00:57:50

12 Girls Band - New Classicism

http://www.youtube.com/v/20AKJpBMEB8


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 เมษายน 2554, 01:04:37

12 Girls Band - Miracle  


http://www.youtube.com/v/qURza4a-6Yc


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 เมษายน 2554, 01:21:18

12 Girls Band - Flower And Youth  


http://www.youtube.com/v/hC5k1mZ1oNc



ถ้าพี่น้องชอบวันหน้าจะมาโพสท์อีกครับ........


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ติ๋ม จันทร์ฉาย ที่ 12 เมษายน 2554, 02:55:37
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 เมษายน 2554, 01:21:18

12 Girls Band - Flower And Youth  


http://www.youtube.com/v/hC5k1mZ1oNc



ถ้าพี่น้องชอบวันหน้าจะมาโพสท์อีกครับ........

ดูแล้วมีความสุขจังค่ะ น้องแหลม พวกเขาช่างอ่อนไหวมีชีวิตชีวา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 เมษายน 2554, 03:24:47
เพราะดีค่ะ พี่แหลม .. มีชีวิตชีวาดีมากเลยค่ะ     emo48:)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 12 เมษายน 2554, 10:21:54
...เพราะค่ะ...น้องแหลม...ทั้งดีดสีตีเป่า...เพลงจีนเหรอคะ...
...ลักษณะของขิมคล้ายๆขิมไทยค่ะ
...มองเห็นลายที่ตัวขิมแว๊บนึง...เหมือนของเกาหลีค่ะ...เคยเห็นตู้ไม้ในซีรีส์เกาหลีก็เป็นลายแบบนี้...
...คล้ายๆว่าเคยเห็นลายนี้ที่ไหนในบ้าน...
...ลองเดินไปที่ห้องน้ำ...แล้วก็จริงๆค่ะ...ที่อ่างล้างหน้าและกระจกเป็นลายแบบเดียวกันเลย...
...แสดงว่ายี่ห้อนี้เป็นของเกาหลี...ตกลงเพลงจีนเหรอคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 เมษายน 2554, 11:50:06


สวัสดียามเที่ยงครับ......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่ติ๋ม..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

เมื่อคืนโพสท์คริปของ 12 Girls Band เสร็จแล้ว..... ยังเปิดดูซ้ำไปซ้ำมาอีกหลายรอบเลยครับ.

เดี๋ยวจะลงประวัติย่อๆของ 12 Girls Band ให้อ่านครับ......
(เป็นคำตอบสำหรับพี่ตู่ด้วย)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 เมษายน 2554, 11:50:31

12 Girls Band

             แนวความคิดในการจัดตั้งวง 12 Girls Band มีขึ้นตั้งแต่กลางปี 2544
            จากบริษัทในปักกิ่งแห่งหนึ่ง ที่มีความพยายามจะแหวกแนวดนตรีคลาสสิกของจีนให้เข้าสู่ยุคใหม่
            โดยมีการผสมผสานเครื่องดนตรีคลาสสิกจีน และชนกลุ่มน้อยของจีน
            เข้ากับสไตล์เพลงจากตะวันตกทั้ง ป๊อป ร๊อค และแจ๊ซ
            และที่สำคัญนอกจากฟังเพราะแล้ว นักดนตรีทั้งหมดจะต้องเป็น “สาวสวย”

            หลังจากการเปิดรับสมัครนักดนตรีสาว จากทั่วประเทศที่มีคุณสมบัติคือ
            มีพรสวรรค์ในการเล่นเครื่องดนตรี โบราณของจีนรวมถึงเครื่องดนตรีของชนกลุ่มน้อย
            อย่างเช่น เอ้อหู้, กู่เจิ้ง, ผีผา, ขิมจีน, ขลุ่ยไม้ไผ่ ฯลฯ และอีกคุณสมบัติที่สำคัญคือ
            อายุน้อย และหน้าตาดี ในที่สุดก็มีการคัดเลือกเอานักศึกษาที่กำลังเรียน
            และนักศึกษาที่จบการศึกษามาจากโรงเรียนดนตรีชั้นนำ ของประเทศจีน 3 สถาบัน ออกมา 12 คน

            หวังเสี่ยวจิง ผู้ก่อตั้งและควบคุมวงให้สัมภาษณ์ว่า.....
            สมาชิกของวงทั้ง 12 คน ต่างถนัดเครื่องดนตรีโบราณจีนแตกต่างกันไป
            โดยทั้ง 12 คน ต่างก็จับละเล่นเครื่องดนตรีนั้นๆมาเกิน10 ปี
            โดยทุกคนเริ่มเล่นตั้งแต่ยังเป็นเด็ก อายุ 6-7 ขวบ และต่างก็เป็นแชมป์ระดับประเทศ
            คว้ารางวัลในการแข่งขันระดับประเทศมาแล้วทุกคน

            อย่างไรก็ตาม หวังได้เน้นย้ำว่านอกจากฝีมือทางดนตรีที่ฉกาจฉกรรจ์แล้ว
            ทั้ง 12 คน ต้องรูปร่างหน้าตาดีได้มาตรฐาน โดยเขากล่าวว่า
          “12 Girls Band ไม่เพียงเล่นดนตรีแบบใหม่ๆให้คนฟังๆแล้วเพราะ แต่เป็นดนตรีที่ชมผ่านทางสายตาได้ด้วย”  


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 12 เมษายน 2554, 11:50:44

           มิวสิควิดีโอของพวกเธอ ไม่ได้เป็นการถ่ายทอดเอาทิวทัศน์ธรรมชาติมาประกอบเพลง
            แต่เน้นจุดขายตรงนักดนตรี
            ส่วนคอนเสิร์ตของพวกเธอก็เป็นคอนเสิร์ตที่ผสมเอา แสง-สี-เสียง และวงดนตรีแบ็กอัพ มาเต็มรูปแบบ
            และเพลงของ 12 สาว ก็เป็นการดัดแปลงเอาเพลงในหลากหลายรูปแบบเข้ามานำเสนอใหม่
            มีการผสมผสานเครื่องดนตรีจีน ทั้ง ขิม ขลุ่ย กู่เจิ้ง  เข้ากับกีต้าร์เบส กลอง
            หรือกระทั่งซาวด์ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์
            นอกจากนี้ ยังมีการนำเอาเพลงจากหลากหลายรูปแบบมาเรียบเรียงเสียใหม่
            ทั้งเพลงจีนโบราณ เพลงญี่ปุ่น เพลงคลาสสิก ป๊อป ร๊อก แจ๊ซ ของศิลปินตะวันตก
            อย่างเช่นงานของ บีโธเฟน , Take Five ของ Paul Desmond
            หรือเพลงสุดเพราะอย่าง Only Time ของ Enya ที่รวมอยู่ในอัลบั้ม Shinging Energy ด้วย

            นับตั้งแต่วันที่ 12 Girls Band ได้ปรากฏสู่สาธารณชนทั้งภาพและเสียง
            ความนิยมของพวกเธอ ก็มีมากขึ้นเป็นลำดับ มีผู้ชื่นชอบ และชื่นชมเป็นจำนวนมหาศาล
            โดยเฉพาะคนจีนรุ่นใหม่ และชาวต่างชาติ ด้วยเหตุผลที่ว่า….
            เป็นการดัดแปลงดนตรีคลาสสิกของจีน ให้เหมาะกับยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนไปได้อย่างเหมาะเจาะ
            พิสูจน์ผลงานล่าสุดที่สมบูรณ์ และทุ่มทุนสร้าง อย่างไม่เคยมีศิลปินจากประเทศจีนรายใดเคยทำมาก่อน

            วง 12 Girls มีสมาชิกทั้งหมด 12 คน ซึ่งแต่ละคนได้รับการฝึกสอนศิลปะชั้นสูง
            มีทักษะในการเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้านเป็นอย่างดี
            และสามารถนำเครื่องดนตรีดังกล่าว มาบรรเลงในรูปแบบเพลงสากล
            จนกระทั่งสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ของนักร้องหญิงเอเชียที่สามารถติดชาร์ต Billboard
            และชาร์ตในญี่ปุ่นต่อเนื่องนานกว่า 10 สัปดาห์ ด้วยยอดขายถึง 2 ล้านแผ่นภายใน 3 เดือน
            จากอัลบั้ม Beautiful Energy
            และประสบความสำเร็จสูงสุดจากการขายลิขสิทธ์อัลบั้มการแสดงสด Miracle ในแถบเอเชีย

            12 Girls Band เคยมาแสดงที่เมืองไทย ในงาน คอนเสิร์ตสานสัมพันธ์ไทย-จีน
             "12 Girls Band Live in Bangkok 2004" ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 และ 22 มิ.ย. 2547
            ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 เมษายน 2554, 18:27:53
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ .. ท่านเล่าซือจุ๊ง     emo9:huhu:

(http://img856.imageshack.us/img856/404/waterfestival02.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 15 เมษายน 2554, 10:43:38
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 เมษายน 2554, 11:50:06


สวัสดียามเที่ยงครับ......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่ติ๋ม..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

เมื่อคืนโพสท์คริปของ 12 Girls Band เสร็จแล้ว..... ยังเปิดดูซ้ำไปซ้ำมาอีกหลายรอบเลยครับ.

เดี๋ยวจะลงประวัติย่อๆของ 12 Girls Band ให้อ่านครับ......
(เป็นคำตอบสำหรับพี่ตู่ด้วย)


...ตกลงเป็นเพลงจีนนะคะ...เพราะน้องแหลมยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ...

...พี่ตู่คงดูละเอียดไปหน่อยค่ะ...เพลงสุดท้ายที่น้องแหลมเอามาแปะค่ะ...Flower And Youth...

...ยังไงๆ...พี่ตู่ก็ยังคิดว่ามันมีกลิ่นเกาหลีปนๆอยู่ค่ะ...เวลาที่เค้าโคล็สไปที่ตัวขิม...

...น้องแหลมเห็นลายตรงสันขิมมั้ยคะ...นั่นแล่ะค่ะ...มันเป็นลายของเกาหลี...ที่เป็นลายเถาน่ะค่ะ...

...ถ้าเป็นลายจีนจะเป็นเหลี่ยมๆค่ะ...สงสัยว่าขิมตัวนี้ทำมาจากเกาหลีค่ะ...

 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 19 เมษายน 2554, 23:48:49
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 15 เมษายน 2554, 10:43:38
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 เมษายน 2554, 11:50:06


สวัสดียามเที่ยงครับ......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่ติ๋ม..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

เมื่อคืนโพสท์คริปของ 12 Girls Band เสร็จแล้ว..... ยังเปิดดูซ้ำไปซ้ำมาอีกหลายรอบเลยครับ.

เดี๋ยวจะลงประวัติย่อๆของ 12 Girls Band ให้อ่านครับ......
(เป็นคำตอบสำหรับพี่ตู่ด้วย)


...ตกลงเป็นเพลงจีนนะคะ...เพราะน้องแหลมยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ...

...พี่ตู่คงดูละเอียดไปหน่อยค่ะ...เพลงสุดท้ายที่น้องแหลมเอามาแปะค่ะ...Flower And Youth...

...ยังไงๆ...พี่ตู่ก็ยังคิดว่ามันมีกลิ่นเกาหลีปนๆอยู่ค่ะ...เวลาที่เค้าโคล็สไปที่ตัวขิม...

...น้องแหลมเห็นลายตรงสันขิมมั้ยคะ...นั่นแล่ะค่ะ...มันเป็นลายของเกาหลี...ที่เป็นลายเถาน่ะค่ะ...

...ถ้าเป็นลายจีนจะเป็นเหลี่ยมๆค่ะ...สงสัยว่าขิมตัวนี้ทำมาจากเกาหลีค่ะ...

 

เพลง 1,3,4 เป็นเพลงจีน ครับพี่
เพลง 2 เป็นเพลงสากลคลาสสิค
ส่วนเรื่องลายที่ปรากฎบนตัวขิม ผมไม่สันทัดเท่าไรครับพี่ตู่

ท่านจุ๊ง.....หากเข้าเว็ปมาแล้ว ช่วยตอบด้วยครับ.  


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ติ๋ม จันทร์ฉาย ที่ 20 เมษายน 2554, 00:39:36
เรื่องลายวาดนี่ ต้องละเอียดมากๆนะจึงดูออก พี่ตู่ต้องชอบดูลายละเอียดแน่ๆเลยเห็น
ติ๋มเห็นแต่ตัวอักษรจีนกับเกาหลีที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงค่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 20 เมษายน 2554, 00:45:43

สวัสดีครับ......พี่ติ๋ม

ไม่ทราบ เคยมีใครเรียกพี่ตู่ว่า.....คุณละเอียด หรือคุณนายละเอียด หรือเปล่าครับ?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 20 เมษายน 2554, 09:07:58
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 20 เมษายน 2554, 00:45:43

สวัสดีครับ......พี่ติ๋ม

ไม่ทราบ เคยมีใครเรียกพี่ตู่ว่า.....คุณละเอียด หรือคุณนายละเอียด หรือเปล่าครับ?


...ตอบแทนน้องติ๋มนะคะ...น้องแหลม...

...ไม่เคยมีหรอกค่ะ...เพราะพี่ตู่ละเอียดเป็นบางเรื่องและบางเวลาค่ะ...

...อย่างเรื่องที่ควรใส่ใจ...บางทีพี่ตู่ก็ไม่ทำค่ะ...เพิกเฉยจนบางทีเพื่อนๆบ่นแทนค่ะ...อิอิ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 20 เมษายน 2554, 09:17:35
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 19 เมษายน 2554, 23:48:49
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 15 เมษายน 2554, 10:43:38
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 เมษายน 2554, 11:50:06


สวัสดียามเที่ยงครับ......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่ติ๋ม..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

เมื่อคืนโพสท์คริปของ 12 Girls Band เสร็จแล้ว..... ยังเปิดดูซ้ำไปซ้ำมาอีกหลายรอบเลยครับ.

เดี๋ยวจะลงประวัติย่อๆของ 12 Girls Band ให้อ่านครับ......
(เป็นคำตอบสำหรับพี่ตู่ด้วย)


...ตกลงเป็นเพลงจีนนะคะ...เพราะน้องแหลมยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ...

...พี่ตู่คงดูละเอียดไปหน่อยค่ะ...เพลงสุดท้ายที่น้องแหลมเอามาแปะค่ะ...Flower And Youth...

...ยังไงๆ...พี่ตู่ก็ยังคิดว่ามันมีกลิ่นเกาหลีปนๆอยู่ค่ะ...เวลาที่เค้าโคล็สไปที่ตัวขิม...

...น้องแหลมเห็นลายตรงสันขิมมั้ยคะ...นั่นแล่ะค่ะ...มันเป็นลายของเกาหลี...ที่เป็นลายเถาน่ะค่ะ...

...ถ้าเป็นลายจีนจะเป็นเหลี่ยมๆค่ะ...สงสัยว่าขิมตัวนี้ทำมาจากเกาหลีค่ะ...

 

เพลง 1,3,4 เป็นเพลงจีน ครับพี่
เพลง 2 เป็นเพลงสากลคลาสสิค
ส่วนเรื่องลายที่ปรากฎบนตัวขิม ผมไม่สันทัดเท่าไรครับพี่ตู่

ท่านจุ๊ง.....หากเข้าเว็ปมาแล้ว ช่วยตอบด้วยครับ.  


...มันเป็นเรื่องบังเอิญน่ะค่ะ...น้องแหลม...

...คือว่าก่อนที่น้องแหลมจะเอาวีดิโอเพลงนี้มาแปะนะคะ...

...ก็อย่างที่เคยเล่าค่ะ...พี่ตู่กับหมอนั่งดูหนังเกาหลีอยู่...

...แล้วในหนังมันก็มีลายพวกนี้ให้เห็นอยู่บ่อยๆค่ะ...

...พี่ตู่ก็เลยเดินเข้าไปในห้องน้ำ...แล้วเห็นอ่างล้างหน้าและกระจกมีลายเหมือนกันเด๊ะเลยค่ะ...

...พี่เลยคิดว่ามันเป็นของเกาหลีแน่ๆ...คือตอนที่ซื้อมาเนี่ย...เราไม่รู้ว่ายี่ห้อนี้เป็นของใครค่ะ...

...คิดว่าเป็นของยุโรปหรืออเมริกา...เพราะว่ามันดูคลาสสิคค่ะ...

...พี่ตู่กับหมอเลยขำกันใหญ่...เพราะว่าเวลาเลือกซื้อ...เราไม่ได้ดูที่ยี่ห้อค่ะ...

...เราดูว่าแบบไหนฉันถูกใจ...ฉันก็จะเอาค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 20 พฤษภาคม 2554, 13:33:26

รอท่านจุ๊งมาครบ 1 เดือนแล้วครับ.......


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 พฤษภาคม 2554, 09:52:17
สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆ
วันก่อนว่าจะเข้ามา พอดีเว็บหอเกิดอุบัติเหตุ ขออภัยในความไม่สะดวก เฮ่อ
วันก่อน อ่านหนังสือพิมพ์จีน เจอบทความเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงของจีนสายใหม่ ปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ กำลังเตรียมตัวเพื่อเปิดใช้ช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เห็นน่าสนใจดี เลยเก็บมาเล่ารายละเอียดให้รับรู้กัน


รถไฟความเร็วสูงจีน จากที่ค้นหาในเน็ต เริ่มมาตั้งแต่ปี 2003 จนถึงปัจจุบันก็มีหลายสาย

-2003   1สาย
สาย ฉินหวงต่าว-เสิ่นหยาง ยาว404 กม ความเร็วออกแบบ 200กม/ชม ลงทุน 75000 ล้านบาท

-2008   3สาย
สาย เมืองเหอเฝย-นานกิง ยาว166 กม ความเร็วออกแบบ 200กม/ชม 125000 ล้านบาท
สาย เปักกิ่ง-เทียนจิน ยาว120 กม ความเร็วออกแบบ 360กม/ชม 62500 ล้านบาท
สาย เมืองชิงต่าว-จี่หนาน ยาว363 กม ความเร็วออกแบบ 200กม/ชม 47900 ล้านบาท

-2009   5สาย
สาย เมืองสือเจียจวง-ไท่หยวน ยาว190 กม ความเร็วออกแบบ 250กม/ชม 65000 ล้านบาท
สาย เมืองเหอเฝย-อู่ฮั่น ยาว356 กม ความเร็วออกแบบ 250กม/ชม 84000 ล้านบาท
สาย เมืองหนิงปอ-เวินโจว ยาว282 กม ความเร็วออกแบบ 200-300 กม/ชม 77650 ล้านบาท
สาย เมืองเวินโจว-ฝูโจ; ยาว298 กม ความเร็วออกแบบ 200กม/ชม 87400 ล้านบาท
สาย เมืองอู่ฮั่น-กวางเจา ยาว1369 กม ความเร็วออกแบบ 394กม/ชม 583000 ล้านบาท

-2010   8สาย
ไว้มีเวลาค่อยมาต่อละกัน เนี่ยยังไม่ได้คุยถึงไฮไลท์สำคัญตอนการเตรียมตัวก่อนการเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงเลยนะเนี่ย
คุยๆไป ทำให้นึกถึงวิกฤติช่วงปี1930 ตอนนั้นจีนเกือบสิ้นชาติ กว่าจะรอดปากเหยี่บวปากกามาได้ เผลอแป็บเดียว เวลาผ่านไป80ปี ไวเหมือนโกหก นึกถึงประเทศไทย สมัยเด็กเคยเรียนว่าประเทศไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา มาตอนนี้ก็กำลังพัฒนา ขอให้ไปดีมาดีนะ พัฒนากันต่อไป


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 24 พฤษภาคม 2554, 13:14:13


   สวัสดีครับจุ๊ง

                    ไม่ได้ทักทายกันนานแล้วนะครับ เมืองไทยเราถ้าขืนการเมืองมันยังเล่นกันแบบนี้กันไปเรื่อยๆ  ต่อไปเมือง

 ไทยเราคงไม่ใช่ประเทศกำลังพัฒนา(ที่ใช้เรียกแแบบนี้มานานกาล)  คงจัดอยู่ในกลุ่มด้อยพัฒนาแน่นอน 

                    ระบบขนส่งทางรถไฟประเทศไทยเริ่มมีมา 100 กว่าปี(สมัย ร.5) พร้อมๆกับประเทศญี่ปุ่น  แต่ยํ่าอยู่กับ

 ที่ทั้งทางเทคโนโลยี่และการบริหาร ยังวิ่งด้วยความเร็วและจอดแช่ที่สถานีแบบหวานเย็นเช่นเคยและแถมสกปรก

 แบบคงเส้นคงวา เมื่อ 40 ปี ที่แล้วนั่งรถไฟจากบ้านเข้ามาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯมีสภาพอย่างไร  เมื่อไม่กี่เดือนนี้

 ลองนั่งดูทำให้รำลึกถึงเหมือนนั่งสมัยเป็นนักเรียนเพราะช้าและสกปรกอย่างไรก็อย่างนั้น ขณะที่ชาวบ้านทั่วโลกเขา

 พัฒนาระบบการขนส่งทางรถไฟไปถึงไหนๆกันแล้ว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 26 พฤษภาคม 2554, 07:52:26
สวัสดีเฮียจุ๊งและพี่น้องทุกท่าน
ขอบคุณน้องเสี่ยแหลมที่เอาเพลงเพราะๆมาให้ฟังด้วย
เพลินเลยครับ


 emo42 emo42


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 พฤษภาคม 2554, 01:17:19

สวัสดียามดึกครับ.......ท่านจุ๊ง..พี่แก้ว..พี่ตู่..พี่ติ๋ม..พี่หนุน..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

เคยนั่งรถไฟความเร็วสูงจากตงกว่านมาฮ่องกงครับ....... ความเร็วประมาณ 200 กม/ชม
ถ้าหารูปเจอจะเอามาโพสท์ให้ชมครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 พฤษภาคม 2554, 01:18:55
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2554, 07:52:26
สวัสดีเฮียจุ๊งและพี่น้องทุกท่าน
ขอบคุณน้องเสี่ยแหลมที่เอาเพลงเพราะๆมาให้ฟังด้วย
เพลินเลยครับ


 emo42 emo42

มีโอกาสจะลงอีกครับพี่.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 พฤษภาคม 2554, 15:04:15
สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆ
มาต่อเรื่องรถไฟความเร็วสูงจีนกันดีกว่า ยังคุยไม่จบ

-2010   8สาย
สาย เมืองเจิ้งโจว-ซีอาน ยาว457 กม ความเร็วออกแบบ 350กม/ชม 250500 ล้านบาท
สาย เมืองฝูโจว-เซี่ยเหมิน ยาว273 กม ความเร็วออกแบบ 250กม/ชม 72100 ล้านบาท
สาย เมืองเฉิงตู-ตูเจียงเยี่ยน ยาวุุ66 กม ความเร็วออกแบบ 200กม/ชม 33435 ล้านบาท
สาย เมืองเซี่ยงไฮ้-นานกิง ยาว300 กม ความเร็วออกแบบ 350กม/ชม 197250 ล้านบาท
สาย เมืองจิ่วเจียง-หนานชาง ยาว131 กม ความเร็วออกแบบ 250กม/ชม 32500 ล้านบาท
สาย เมืองเซี่ยงไฮ้-หังโจว ยาว160 กม ความเร็วออกแบบ 350กม/ชม 220000 ล้านบาท
สาย เมืองฉางชุน-จี่หลิน ยาว108 กม ความเร็วออกแบบ 250กม/ชม 48000 ล้านบาท
สายวงแหวนตะวันออกรอบมณฑลไหหลำ ยาว308 กม ความเร็วออกแบบ 250กม/ชม 100000 ล้านบาท

นับไปนับมา เวลาผ่านไป8ปี จีนเริ่มจากไข่มาตอนนี้ มีรถไฟความเร็วสูง 17สายเข้าไปแล้ว  ลองบวกลบคูณหารงบประมาณดูซิครับ ถ้าเป็นพี่ไทยคงตาโต ปากมัน น้ำลายยืดกันเป็นแถบ  ป่านนี้ยังเถียงกันเรื่องแบ่งเค็กไม่เสร็จ เฮ่อ พูดไปถ้าพระเจ้าแอบได้ยินเข้า คงเดินไปร้องไห้ไป นี่ยังไม่นับรวม รถไฟสายทิเบต หนึ่งในสี่มหกรรมสิ่งก่อสร้างยุคใหม่ของจีนนะเนี่ย

ต่อไปจะเข้ารายละเอียดตอน ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเดินรถไฟสายใหม่ ปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ อ่านดูก็ได้ไอเดียพอสมควร โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 พฤษภาคม 2554, 15:18:07

รอชมครับท่าน....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: บ่าวหน่อ เมืองพลาญ ที่ 27 พฤษภาคม 2554, 17:10:22
ของไทย นอกจากแบ่ง cake แล้ว ยังมี NGO มี Green Peace มีชาวบ้านที่ไม่ยอมเสียที่ดินเพื่อส่วนรวม มีชาวบ้านที่ทนเสียงไม่ไหวเวลามีมัน  มีจิปาถะ

ลำพัง สร้างยาก หากไม่ใช่ประเทศคอมมิวนิสต์ ที่ชี้เป็นชี้ตายได้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ติ๋ม จันทร์ฉาย ที่ 27 พฤษภาคม 2554, 22:18:35
รอเช่นกันค่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 พฤษภาคม 2554, 00:27:52

สวัสดียามดึกครับ.......ท่านจุ๊ง..พี่แก้ว..พี่ตู่..พี่ติ๋ม..พี่หนุน..น้องหยี..น้องหน่อ และพี่น้องทุกท่าน

มีเพลงบรรเลงไพเราะๆมาฝากครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 พฤษภาคม 2554, 00:53:49

12 Girls Band - Glory


http://www.youtube.com/v/q9QYGGx4dKQ&hl


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 พฤษภาคม 2554, 00:54:02

12 Girls Band - Carnival


http://www.youtube.com/v/A4Xee4wA624&hl


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 พฤษภาคม 2554, 01:40:36

12 Girls Band - Concerto #11


http://www.youtube.com/v/ScEKUg35exM


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 28 พฤษภาคม 2554, 14:31:03
...เพลงสุดท้ายเพราะดีค่ะ...น้องแหลม...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 พฤษภาคม 2554, 20:37:13
อ้างถึง
ข้อความของ บ่าวหน่อ เมืองพลาญ เมื่อ 27 พฤษภาคม 2554, 17:10:22
ของไทย นอกจากแบ่ง cake แล้ว ยังมี NGO มี Green Peace มีชาวบ้านที่ไม่ยอมเสียที่ดินเพื่อส่วนรวม มีชาวบ้านที่ทนเสียงไม่ไหวเวลามีมัน  มีจิปาถะ

ลำพัง สร้างยาก หากไม่ใช่ประเทศคอมมิวนิสต์ ที่ชี้เป็นชี้ตายได้

ผมไม่ได้มองที่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยหรือคอมมิวนิสต์หรือสังคมนิยมอะไรหรอก สำหรับชาวบ้านอย่างเรา มีข้าวกิน มีบ้านอยู่ ไม่สำบากนักก็ไม่ว่าอะไร ผมมองที่การสร้างระบบที่ใช้กับประเทศมากกว่า ผมมองจีนด้วยความชื่นชมระคนอิจฉา ลองมองดูว่าหูจิ่นเทา เวินเจียเป่า วันๆทำอะไรบ้าง เท่าที่ผมดูข่าว หน้าที่หูจิ่นเทาคือเดินไปเช็คแฮนด์กับผู้นำต่างประเทศ ประกาศท่าทีของประเทศตัวเองต่อประเทศอื่น หรือไม่ก็ไปปลอบใจชาวบ้านเมื่อเจอภัยพิบัติ เวินเจียเป่าก็เช่นกัน ส่วนนโยบายด้านต่างๆของประเทศ มีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยงานทำกันไป ในการแถลงนโยบายต่อต่างประเทศ เขากลัวชาวจีนฟังภาษาต่างประเทศไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจนโยบายประเทศตัวเอง การแถลงอะไรทุกอย่างจะใช้ภาษาจีน และมีล่ามโดยเฉพาะที่จะแปลเป็นภาษาต่างประเทศ คือเขามองชาวจีนสำคัญอันดับหนึ่ง  ไม่ใช่มัวแต่อวดต่างชาติว่าตัวเองเก่งภาษาอังกฤษ แล้วชาวบ้านก็มองกันตาปริบๆ แล้วก็มามองว่าหูจิ่นเทามาได้ไง หูจิ่นเทามาจากผู้ว่าการเมืองเซี่ยงไฮ้ และเป็นที่รู้กันว่าประธานาธิบดีจีนจะต้องผ่านงานนี้มาก่อน ต้องพิสูจน์ฝีมือก่อน จะมองประธานาธิบดีจีน มองหาจากผู้ว่าการเมืองเซี่ยงไฮ้ได้เลย ผมมองระบบการทำงานและระบบคัดเลือกคนมากกว่า ไม่ใช้ผู้นำประเทศเดินไปตลาด ต้องคอยระวังคนปาขี้ น่าอายชะมัด


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 29 พฤษภาคม 2554, 16:56:10

สวัสดียามเย็นครับ.......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

ท่านจุ๊ง......แล้วใครจะเป็นประธานาธิบดีจีนคนต่อไป?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 29 พฤษภาคม 2554, 16:58:22
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 28 พฤษภาคม 2554, 14:31:03
...เพลงสุดท้ายเพราะดีค่ะ...น้องแหลม...

น่าจะเป็นเพลงของโชแปงนะครับ... พี่ตู่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 29 พฤษภาคม 2554, 18:39:05
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 29 พฤษภาคม 2554, 16:56:10

สวัสดียามเย็นครับ.......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

ท่านจุ๊ง......แล้วใครจะเป็นประธานาธิบดีจีนคนต่อไป?


ถ้าจำไม่ผิดจะชื่อ "สีจิ้นผิง" นะ ท่านแหลมลองจำชื่อนี้ให้ดี เหมือนเมื่อตอนสมัย"เจียงเจ๋อหมิน" ตอนนั้นใครๆก็รู้ว่าทายาทคนต่อไปคือ"หูจิ่นเทา" แต่ปกติชาวจีนจะไม่เรียกว่าเป็นประธานาธิบดี ชาวจีนจะเรียกว่า"เลขาธิการพรรค"



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 29 พฤษภาคม 2554, 18:51:22
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 29 พฤษภาคม 2554, 18:39:05
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 29 พฤษภาคม 2554, 16:56:10

สวัสดียามเย็นครับ.......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

ท่านจุ๊ง......แล้วใครจะเป็นประธานาธิบดีจีนคนต่อไป?


ถ้าจำไม่ผิดจะชื่อ "สีจิ้นผิง" นะ ท่านแหลมลองจำชื่อนี้ให้ดี เหมือนเมื่อตอนสมัย"เจียงเจ๋อหมิน" ตอนนั้นใครๆก็รู้ว่าทายาทคนต่อไปคือ"หูจิ่นเทา" แต่ปกติชาวจีนจะไม่เรียกว่าเป็นประธานาธิบดี ชาวจีนจะเรียกว่า"เลขาธิการพรรค"




ขอบคุณ.....ท่านจุ๊ง

เอารูป,ประวัติและผลงานของ "สีจิ้นผิง" มาลงก็ดีนะครับท่าน.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 29 พฤษภาคม 2554, 21:52:57
ท่านแหลมลองอ่านภาษาปะกิตดูนะ ประวัติยาวเฟื้อย ถ้ายังไม่จุใจก็หาดูจากเจ๊วิได้นะ http://en.wikipedia.org/wiki/Xi_Jinping (http://en.wikipedia.org/wiki/Xi_Jinping)

Xi Jinping (simplified Chinese: 习近平; traditional Chinese: 習近平; pinyin: Xí Jìnpíng; IPA: [ɕɨ̌ t͡ɕînpʰǐŋ]; born 1 June 1953) is a high ranking politician of the People's Republic of China. He currently serves as the top-ranking member of the Secretariat of the Communist Party of China, the country's Vice President, Vice-Chairman of the Central Military Commission, Principal of the Central Party School and the 6th ranked member of the Politburo Standing Committee, China's de facto top power organ.

Son of Communist veteran Xi Zhongxun, Xi Jinping served mostly in Fujian province in his early career, and was later appointed party chief of the neighboring Zhejiang province, and then was appointed as Shanghai's party chief following the dismissal of Chen Liangyu. Known for his tough stance on corruption and a frank openness about political and market economy reforms,[1] Xi's combination of positions makes him the presumptive heir to current General Secretary and President Hu Jintao and the emerging leader of the Communist Party of China's fifth generation of leadership.[2]



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 30 พฤษภาคม 2554, 11:53:02

ขอบคุณครับ.....ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 30 พฤษภาคม 2554, 12:21:18
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 29 พฤษภาคม 2554, 16:58:22
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 28 พฤษภาคม 2554, 14:31:03
...เพลงสุดท้ายเพราะดีค่ะ...น้องแหลม...

น่าจะเป็นเพลงของโชแปงนะครับ... พี่ตู่

...เหรอคะ...พี่ตู่ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยค่ะ...

...ฟังเพลงบรรเลงต้องเป็นบางอารมณ์ค่ะ...เพลงบางเพลงไม่ต้องมีเนื้อแต่ก็ฟังได้ไพเราะมากๆค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 31 พฤษภาคม 2554, 00:01:54

ผมชอบฟังเพลงบรรเลง....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 31 พฤษภาคม 2554, 07:12:38
สวัสดีครับพี่น้อง
ตื่นเช้าขึ้นมา ดูสารคดีทางทีวีจีน เขาพูดถึงภาพเก่าแก่โบราณอายุราวุ5-600ปี ถึงเป็น1ใน10ภาพมรดกจีน ภาพมีชื่อว่"ภาพวาดที่พำนักในภูเขาวสันต์มั่งมี"เป็นภาพที่จักรพรรดิเฉียนหลงทรงโปรดปรานมาก เคยโดนไฟใหม้ไปเมื่อปีค.ศ. 1650 ทำให้ภาพวาดแยกไปเป็น2ส่วน โดยเฉพาะส่วนที่ถูกไปใหม่ไป เป็นภาพของสะพานเชื่อมถนน เมื่อปีค.ศ. 1948 ตอนพรรคก๊กมินตั๋งของเจียงไคเช็ก แพ้สงครามกลางเมือง ก็ถือโอกาสถือติดไม้ติดมือไปท่อนหนึ่ง เอาไปประดิษฐานในพิพิธภัณฑ์วังต้องห้ามประจำกรุงไทเป ส่วนอีกท่อนหนึ่งก็อยู่ในพิพิธภัณฑ์กรุงปักกิ่งหรือมณฑลเจ้อเจียงนี่ยังฟังไม่ได้ศัพย์ เลยกลายเป็นว่าภาพนี้ถูกแยกไปโดยมีช่องแคบไต้หวันคั่น เห็นได้ยินแว่วๆว่า ในที่สุดใกล้ๆนี้ ภาพนี้มีโอกาสได้มารวมกันอีกครั้งเพื่อเปิดให้ชมกันที่พิพิธภัณฑ์วังต้องห้ามประจำกรุงไทเป  เดี๋ยวจะลองเอาภาพมาแปะให้ดูนะ ไม่รู้จะติดหรือเปล่า ช่วงนี้พยายามแปะภาพไม่ติดซักที

อ้อ ยังค้างรื่องรถไฟความเร็วสูงอยู่ ไม่ลืมหรอกครับทั่นๆ ขอเวลาบิ๊วอารมณ์แป๊บนะ

อืม อัพภาพไม่ขึ้นซักที ถ้าสนใจภาพ หาดูได้ที่ http://www.google.com/search?q=%E5%AF%8C%E6%98%A5%E5%B1%B1%E5%B1%85%E5%9B%BE&hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-SearchBox&rlz=1I7_____en&prmd=ivns&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=0SfkTZeuJ8XqrQfZmZnCBg&ved=0CCMQsAQ&biw=1048&bih=482 (http://www.google.com/search?q=%E5%AF%8C%E6%98%A5%E5%B1%B1%E5%B1%85%E5%9B%BE&hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-SearchBox&rlz=1I7_____en&prmd=ivns&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=0SfkTZeuJ8XqrQfZmZnCBg&ved=0CCMQsAQ&biw=1048&bih=482)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 31 พฤษภาคม 2554, 09:11:47

...เข้าไปชมภาพแล้วค่ะ...สวยงามมากค่ะ...น้องจุ๊ง...ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆค่า...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 มิถุนายน 2554, 00:14:53

ตามไปดูแล้ว......

แต่....ไม่รู้ว่า ภาพไหนอ่ะครับ ท่านจุ๊ง  


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 01 มิถุนายน 2554, 08:33:36

...คงเป็นภาพแรกๆค่ะ...น้องแหลม...เป็นภาพเขียนสวยงาม...

...ส่วนภาพหลังๆคิดว่าไม่ใช่ค่ะ...เพราะไม่ได้เป็นภาพเขียนค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 01 มิถุนายน 2554, 09:28:01
เข้ามาสวัสดีพี่จุ๊ง
         หายไปนานเลยนะครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 มิถุนายน 2554, 14:10:08

สวัสดียามบ่ายครับ........ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน

น้องขุนเองก็ไม่ค่อยเห็นเข้ามาโพสท์เท่าไรนะครับ.....

มาโพสท์เรื่องจีนๆที่ห้องนี้บ้างก็ได้......เห็นว่าประสพการณ์เยอะนิครับ  


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 มิถุนายน 2554, 14:12:49


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 01 มิถุนายน 2554, 08:33:36

...คงเป็นภาพแรกๆค่ะ...น้องแหลม...เป็นภาพเขียนสวยงาม...

...ส่วนภาพหลังๆคิดว่าไม่ใช่ค่ะ...เพราะไม่ได้เป็นภาพเขียนค่ะ...

ยังรู้สึกว่า....ไม่ค่อยแน่ใจน่ะครับ พี่ตู่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 02 มิถุนายน 2554, 09:11:09
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 01 มิถุนายน 2554, 14:10:08

สวัสดียามบ่ายครับ........ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..น้องขุน และพี่น้องทุกท่าน

น้องขุนเองก็ไม่ค่อยเห็นเข้ามาโพสท์เท่าไรนะครับ.....

มาโพสท์เรื่องจีนๆที่ห้องนี้บ้างก็ได้......เห็นว่าประสพการณ์เยอะนิครับ  


...จำได้ว่า...น้องขุนเคยบอกว่า...เคยอยู่หังโจว...เล่าเรื่องหังโจวให้ฟังบ้างก็ดีค่ะ...

...พี่ตู่ยังไม่เคยไปล่องคลองเมืองหังโจวค่ะ...ได้ยินว่าสวยงามมาก...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 02 มิถุนายน 2554, 16:02:07

ทะเลสาบหังโจวหรือเปล่าครับ?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 02 มิถุนายน 2554, 16:44:59

...ไม่ใช่ค่ะ...น้องแหลม...

...หังโจวก็มีบ้านริมคลองเหมือนที่ซูโจวค่ะ...แต่ทัวร์ไม่ได้จัดให้พี่ตู่ไป...

...เค้าพาเที่ยวเมืองละอย่างเองค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 02 มิถุนายน 2554, 16:56:28

ครับ...พี่ตู่

งั้นรอชมรูปจากน้องขุนครับ....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 30 มิถุนายน 2554, 21:16:55
สวัสดีครับพี่ๆน้องๆ
ขอโทษด้วยนะครับที่หายตัวไปนาน พอดีขัดข้องทางเทคนิคเล็กน้อย เครื่องผมเกิดช็ิอทขึ้นมาดื้อๆ ต้องขออภัยมณี

ไม่ได้สนใจเรื่องข่าวรอบตัวมานาน วันนี้นั่งรถไปตามท้องถนน เห็นป้ายโฆษณาขายตัวอยู่ทั่วเมือง ผมอ่านไปก็สงสัยไป บางคนก็พูดถึงซื่อ+สัตว์ เอ้ย สัตย์ ผมก็สงสัยขึ้นมาอย่างจังว่ามีด้วยหรือคำนี้ในพจนานุกรมไทย ผมว่าคนไทยพร้อมใจกันลบคำนี้ออกไปจากพจนานุกรมเรียบร้อยนานแล้ว บางคนก็บอกว่า1คน 1รถ+1บ้านพร้อมที่ดิน ผมก็สงสัยว่ามีด้วยหรือเรื่องดีๆแบบนี้ อุเหม่มันเป็นไปได้ยังไงเนี่ย บางคนก็บอกว่าล้างหนี้ ผมก็แปลไทยเป็นไทยแบบอัตโนมัติว่า อ๋อ ชักดาบนี่เอง เก่งๆแบบนี้น่าจะส่งไปแข่งโอลิมปิค

เฮ่อ ไม่อาวดีกว่า คุยเรื่องขายตัวแบบไทยๆแล้วปวดหัว กลับมาเข้าเรื่องแบบจีนๆ เรื่องถนัดดีกว่า

วันนี้หัวค่ำ เปิดcctv4 ทีวีระดับอินเตอร์ภาคภาษาจีน เพิ่งรู้ว่าวันนี้เป็นวันเริ่มเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงสายปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ เป็นวันแรก ฟังข่าวถ้าจำไม่ผิดระยะทาง1318กม ใช้เวลาเดินรถประมาณ 4ชั่วโมง15นาที ก็ประเภทวิ่งแบบพอตามดมกลิ่นควันเครื่องบินแบบไกลๆนี่แหละ

ตกค่ำ กะจะเปิดดูข่าว2ทุ่มจีนซะหน่อย กลายเป็นรายการแสดงบนเวทีเพื่อเฉลิมฉลองแฮปปี้เบิร์ทเดย์ในโอกาสที่จีนฉลองโอกาสครบรอบ90ขวบของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในวันที่1กค.ที่จะถึงนี้ ฟังเพลง "เรื่องเล่าในฤดูใบไม้ผลิ" และเพลง"เดินก้าวสู่ยุคใหม่" พร้อมทั้งการแสดงบนเวที มองเห็นประกายความหวังของนักแสดงที่แสดงออกทางสายตาแล้ว มันมีชีวิตชีวายังไงไม่รู้ โดยเฉพาะนักร้อง นักแสดงรุ่นเดอะ ออกมาพูดถึงความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา โอลิมปิคบ้างล่ะ เอ็กซ์โปบ้างล่ะ ยานอวกาศเสินโจวบ้างล่ะ นี่วันที่1จะเริ่มตรวจสอบการเดินเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน ก่อนที่จะเริ่มใช้งานจริงวันที่1ตุลาคมนี้อีกแล้ว ของสดๆ เป็นๆ จับได้ ต้องได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะคำพูดของนักร้องนักแสดงอาวุโสหลายทาน และประกายสายตาที่แสดงออกมา เมื่อกล้องแพนไปที่กลุ่มท่านผู้นำ นำแสดงโดยทางประธานหูจิ่นเทาและสหาย ทุกคนแสดงพลังความฮึกเหิมออกทางสายตา ผมเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกว่ามีในโลกด้วย ที่นักร้องนักแสดงสามารถปลุกระดมท่านผู้นำได้ นี่โชคดีนะที่เห็นแบบนี้ตอนค่ำๆ คืนนี้นอนหลับสบาย ขืนติดตาภาพป้ายขายตัวตอนเช้าเนี่ย ผมได้นอนฝันร้ายแน่ จะนอนฝันร้ายผมก็ขอดูหนังผีดีกว่า อย่างน้อยได้ลุ้นและสนุกดี  





หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 กรกฎาคม 2554, 13:34:18

D...D...D...

ขอบคุณท่านจุ๊ง ที่มาบอกเล่าให้รู้.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 กรกฎาคม 2554, 19:38:58

มากระทู้เดียว แล้วเงียบไปเลยนะ....ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 01 กรกฎาคม 2554, 20:19:01
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 01 กรกฎาคม 2554, 19:38:58

มากระทู้เดียว แล้วเงียบไปเลยนะ....ท่านจุ๊ง

เรื่องนี้มันแล้วแต่อารมณ์น่ะ อารมณ์อยากคุยเรื่องจีน คุยเรื่องผี คุยเรื่องหนัง หรือความหลังเก่าๆมันก็มีมาเป็นพักๆ อันนี้เขาเรียกว่ากระแส มีขึ้นมีลง ลมเพลมพัด คุยเรื่องไม่อยากคุย คิดให้ตายก็คิดไม่ออก

อ้อ เพิ่งนึกได้ อ่านหนังสือพิมพ์จีน เขาบอกว่าตอนนี้จีนนำเข้าตะเกียบจากสหรัฐเรียบร้อยแล้ว จากบริษัทหนึ่งดำเนินการโดยคนเกาหลีที่ไปทำมาหากินที่รัฐจอร์เจียในสหรัฐ เขาพาดข่าวบอกว่า จีนนำเข้าตะเกียบเนี่ยเป็นเรื่องที่เสียดสีอย่างรุนแรง แต่รายละเอียดของข่าวก็บอกว่าผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า นั่นคือความหมายของการพ้นยุคแรงงานราคาถูกของจีน เพราะจีนต้องนำเข้าวัตถุดิบและขนส่งต้องมีเสีย  โดยเฉพาะจีนมีอัตราเพิ่มค่าแรงจากปี2002-2008 เป็น100% นำเข้าสำเร็จรูปสบายกว่าและถูกกว่า เขาบอกด้วยว่าเป็นการสวนทางกับสหรัฐ เพราะมีนักท่องเน็ตชาวสหรัฐ บอกอย่างกระฟัดกระเฟียดว่า เมื่อทศวรรษปี1960 จีนความรู้ยังด้อยอยู่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี่จากสหรัฐ ในขณะที่จีนส่งออกตะเกียบ แต่ตอนนี้สินค้าเทคโนโลยีจีนเกร่อสหรัฐ สหรัฐเลยต้องแก้ดุลย์ด้วยการส่งตะเกียบไปเป็นแนวหน้า เห็นข่าวบอกด้วยว่าโครงการต่อไปของเจ้าของบริษัทรายนี้จะผลิตไม้จิ้มฟันเป็นอันดับต่อไป แหม โครงการใหญ่ซะด้วย อืม ไม่รู้ว่าจีนจะผลิตเรือรบไปขายสหรัฐหรือเปล่านะ ยังลุ้นอยู่

อ้อ ในข่าวนี้ก็มีข่าวร้ายสำหรับชาวไทยด้วยนะ เขาบอก่ว่าสหรัฐกำลังมองหาตลาดแรงงานราคาถูก หรือย้ายสายการผลิตจากจีนมาที่กัมพูชา เพื่อนรัก และเวียตนาม เพื่อนรักอีกรายด้วยแหละ แหม มองข้ามพี่ไทยไปได้ไงเนี่ย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 02 กรกฎาคม 2554, 08:20:26

...สวัสดีค่ะ...น้องจุ๊ง...น้องแหลม...น้องขุน...

...น้องจุ๊งเลิกเปิดเพลงจีนแล้วเหรอคะ...

...ยังตามฟังอยู่นะคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 กรกฎาคม 2554, 21:18:12
สวัสดีครับพี่ตู่ ท่านแหลม
ตอนนี้ยังไม่ค่อยได้สนใจหาเพลงจีนมา อีกอย่าง เอาเพลงจากยูทูปมาได้มั่งไม่ได้มั่ง วันก่อนฟังเพลง"เดินก้าวสู่ยุคใหม่"ในการแสดงบนเวทีแล้วยังติดหูไม่หาย เดี๋ยวจะลองเอาเว็บถู่โต้ว(มันฝรั่ง)มาให้ ต้องหาดูก่อน ถ้าเคยมีแปลเนื้อเพลงจะลงให้ด้วย ความหมายมันมีชีวิตชีวาดี

เมื่อสักครู่ดูรายการ"จับตาวันนี้" ซึ่งเป็นรายการวิเคราะห์สถานการณ์โลกทางcctv4 ของจีน มีทุกวันเวลา2ทุ่มครึ่ง พอดีวันนี้เป็นวันเริ่มทดสอบเดินเรือบรรทุกเครื่องบินจีน เขาเลยวิเคราะห์เรื่องนี้ เขาบอกว่าในโลกนี้มีประเทศที่ครอบครองเรือบรรทุกเครื่องบินอยู่9ประเทศ นึกไม่ถึงว่าเรือ"จักรีนฤเบศร์"ของเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย นี่ผมตกข่าวไปได้ไงเนี่ย เลยต้องดูจากทีวีต่างประเทศ นี่แสดงว่าไทยล้ำหน้าไปกว่าจีนอีก มีเรือบรรทุกเครื่องบินก่อนจีนตั้งหลายปี ในเอเชีย นอกจากไทย แล้วก็มีอินเดีย และจีนเป็นรายล่าสุด เห็นเขาบอกด้วยว่าเรือบรรทุกเครื่องบินพลังเคลียร์ตอนนี้มีแค่2ประเทศคือสหรัฐกับฝรั่งเศส แต่เห็นว่าทางสหรัฐกำลังวิจัยหาทางใช้เรือบรรทุกเครื่องบินพลังไอน้ำอยู่ แต่ยังติดปัญหาเวลาเดินเรือผ่านบริเวณขั้วโลก น้ำที่ใช้จะจับตัวเป็นน้ำแข็ง

นี่ผมคุยเรื่องไรเนี่ย แต่ก็ถือเป็นการฝึกสมอง ฟังจับเอาเรื่องแล้วเอามาคุย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 กรกฎาคม 2554, 01:44:07
วันนี้นอนดึก เหลือบเห็นท่านแหลมก็นอนดึกเหมือนกัน ดึกๆลองหาเพลง "เดินก้าวสู่ยุคใหม่" เจอพอดี เลยเอามาโพสต์ไว้กอน เพลงนี้ผมถือเป็นภาค2ของเพลง"เรื่องเล่าฤดูใบไม้ผลิ" ความหมายมันดีจริงๆ ถึงแม้จะเกี่ยวกับประเทศจีน แต่ก็น่าจะสะท้อนใจใครบางคนได้บ้างล่ะน่า

http://www.tudou.com/v/v3RBvz_ZnLA

走进新时代
เดินก้าวสู่ยุคสมัยใหม่

总想对你表白我的心情是多么豪迈
บ่อยครั้งที่อยากจะแสดงออกให้คุณรู้
ว่าใจฉันนั้นมันฮึกเหิมเพียงใด

总想对你倾诉我对生活是多么热爱
มักจะอยากจะบอกคุณ
ว่าฉันมีความรักที่ร้อนระอุต่อชีวิตอะไรเช่นนั้น

勤劳勇敢的中国人意气风发走进新时代
ชาวจีนผู้กล้าหาญและทำงานหนัก
เดินก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยจิตใจที่ฮึกเหิมและร้อนแรง

啊!我们人意气风发走进那新时代
อา ! พวกเราเดินก้าวสู่ยุคใหม่
ด้วยจิตใจที่ฮึกเหิมและร้อนแรง

我们唱着东方红当家做主站起来
พวกเรากำลังร้องกันถึงดวงอาทิคย์ที่ขึ้นทางตะวันออก
เจ้ากี้เจ้าการตัดสินใจเอง ลุกขึ้นมาเล้ย

我们讲着春天的故事改革开放富起来
พวกเรากำลังคุยกันในเรื่องเล่าฤดูใบไม้ผลิ
ปฏิรูป ปลดปล่อย เพื่อให้มีมั่งกันขึ้นมา

继往开来的领路人带领我们走进了新时代
ท่านๆผู้นำทางที่ผ่านๆมา
นำพาเราให้เดินก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่

高举旗帜开创未来
ชูธงให้สูงเข้าไว้
มาร่วมกันบุกเบิกอนาคต
Music......

让我告诉世界中国命运自已主宰
ให้ฉันได้บอกให้โลกรับรู้
ชะตากรรมของประเทศจีน พวกเราลิขิตกันเอง

让我告诉未来中国进行着接力赛
ให้ฉันได้บอกกับอนาคต
ประเทศจีนกำลังดำเนินการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง

承前启后的领路人带领我们走进新时代
ท่านๆผู้นำทางที่รับอุดมการณ์จากบรรพชนและพัฒนาต่อไปเพื่อลูกหลาน
ได้เดินก้าวนำพวกเราเข้าสู่ยุคสมัยใหม่

啊!带领我们走进 走进那新时代
อา ! เดินก้าวนำพวกเราเข้าสู่ยุคสมัยใหม่
เดินเข้าสู่ยุคสมัยใหม่

我们唱着东方红当家做主站起来啊!
พวกเรากำลังร้องกันถึงดวงอาทิคย์ที่ขึ้นทางตะวันออก
เจ้ากี้เจ้าการตัดสินใจเอง ลุกขึ้นมาเล้ย

我们讲着春天的故事改革开放富起来
พวกเรากำลังคุยกันในเรื่องเล่าฤดูใบไม้ผลิ
ปฏิรูป ปลดปล่อย เพื่อให้มีมั่งกันขึ้นมา

继往开来的领路人带领我们走进了新时代
ท่านๆผู้นำทางที่ผ่านๆมา
นำพาเราให้เดินก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่

高举旗帜开创未来
ชูธงให้สูงเข้าไว้ มาร่วมกันบุกเบิกอนาคต

我们唱着东方红当家做主站起来
พวกเรากำลังร้องกันถึงดวงอาทิคย์ที่ขึ้นทางตะวันออก
เจ้ากี้เจ้าการตัดสินใจเอง ลุกขึ้นมาเล้ย

我们讲着春天的故事改革开放富起来
พวกเรากำลังคุยกันในเรื่องเล่าฤดูใบไม้ผลิ
ปฏิรูป ปลดปล่อย เพื่อให้มีมั่งกันขึ้นมา

继往开来的领路人带领我们走进了新时代
ท่านๆผู้นำทางที่ผ่านๆมา
นำพาเราให้เดินก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่

高举旗帜开创未来
ชูธงให้สูงเข้าไว้
มาร่วมกันบุกเบิกอนาคต

开创未来
บุกเบิกอนาคต


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 03 กรกฎาคม 2554, 09:59:14

ท่านจุ๊ง...

ที่ว่า.... ชะตากรรมของประเทศจีน พวกเราลิขิตกันเอง

จริงเหรอ?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 กรกฎาคม 2554, 10:43:35
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 03 กรกฎาคม 2554, 09:59:14

ท่านจุ๊ง...

ที่ว่า.... ชะตากรรมของประเทศจีน พวกเราลิขิตกันเอง

จริงเหรอ?

เรียนท่านแหลม
คำว่า"ชะตากรรมของประเทศจีน พวกเราลิขิตกันเอง" แปลจีนเป็นไทย แล้วแปลไทยเป็นไทยสมัยพ่อขุนรามคำแหงอีกทีว่า"ชะตากรรมของประเทศจีน อยู่ในกำมือของพวกกูชาวจีน คนอื่นไม่เกี่ยวนะเฟ่ย" ส่วนจะในกำมือไหนที่เป็นชาวจีน ในเพลงก็บอกอยู่โต้งๆว่า "ท่านๆผู้นำทางที่ผ่านๆมา
นำพาเราให้เดินก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่" และ "ท่านๆผู้นำทางที่รับอุดมการณ์จากบรรพชนและพัฒนาต่อไปเพื่อลูกหลาน ได้เดินก้าวนำพวกเราเข้าสู่ยุคสมัยใหม่" แปลเป็นไทยอีกทีก็คือ "ทางที่เราเดินมันถูกต้องแล้ว เพราะมีการรับมาและมีการพัฒนาจากคนรุ่นก่อนๆ และระดับผู้นำทางมืออาชีพ เราจึงควรรักษาเข็มทิศนี้ไว้เป็นแนวทางในการเดินต่อไป" เข้าใจไหมเพ่

ผมเคยฟังรายการวิทยุจากจีน เขาจะมีการสรุปแผนพัฒนาของแต่ละภูมิภาคเป็นระยะๆ ตอนนั้นฟังแล้วจำไม่ได้ว่าเขาคุยถึงเมืองไหน เขาบอกว่าแผนพัฒนา15ปี ตอนนี้ผ่านไป10ปีแล้ว ไปถึงไหนแล้ว เข้าเป้ากี่เปอร์เซนต์ ว่ากันเป็นฉากๆ เคยดูซี่รี่ย์จีนสมัยสงครามกลางเมืองระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน รวมทั้งสมัยสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ชอบวิธีการคิดของเขา ในการประชุมทุกครั้ง ทุกคนจะต้องรายงานความผิดพลาด บกพร่องของตัวเองให้ทุกคนในที่ประชุมทราบ เพราะการทำงานต้องมีความผิดพลาด และต้องยอมรับตัวเอง ถ้าใครบอกว่าตัวเองถูกต้อง ทุกคนในที่ประชุมจะแปลกใจมาก และจะได้รับการต่อต้านจากคนอื่นในที่ประชุม เพราะคนอื่นเห็นความผิดพลาดของเขากันหมด แต่เจ้ากลับไม่เห็นและไม่รับรู้ เรื่องนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการลืมตัวและดำเนินการในทางที่ผิด ซึ่งทุกคนยอมรับไม่ได้ ในด้านสายงาน ถ้าใครทำผิดจะถูกทำโทษด้วยการเขียนรายงานความผิดพลาดของตัวเองอย่างละเอียด ฉะนั้นผมคิดว่าสมัยนั้นแ่ต่ละคนจะไม่มีอีโก้กัน สามัคคีและสู้ศึกชนะศัตรูภายนอกได้ วันก่อนดูทีวีหรืออ่านหนังสือพิมพ์จำไม่ได้ มีชาวตะวันตกวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่พรรคคอมมิวนิสต์อยู่ยงมาได้ ไม่สลายเหมือนโซเวียตและยุโรปตะวันออก เพราะจีนมีการพัฒนาระบบการปกครองที่เหมาะกับความเป็นจีนๆอยู่เป็นระยะๆ และที่สำคัญ บรรดาผู้นำทุกรุ่นเข้ามาเพื่อพัฒนา ไม่ใช่กอบโกย ผมอ่านไปก็ผงกหัวหงึกๆ เออ จริงของมัน(อันนี้จากที่เห็นได้ จับต้องได้นะ ไม่ใช่วาดวิมานในอากาศ)

อืม หาวิธีโพสต์ของยูทูปตั้งนาน เล่นเปลี่ยนลูกเล่นแบบนี้อยู่เรื่อย ผมก็แย่ล่ะดิ


http://www.youtube.com/watch?v=Lgo2fF58Pw0


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 03 กรกฎาคม 2554, 10:56:53

ขอบคุณท่านจุ๊ง...

ชอบข้อความที่ว่า......

 "การไม่เห็นและยอมรับความผิดพลาดของตนเอง คือ จุดเริ่มต้นในการลืมตัวและดำเนินการในทางที่ผิด"

ชอบ ๆ ๆ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 03 กรกฎาคม 2554, 15:02:47
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 03 กรกฎาคม 2554, 10:56:53

ขอบคุณท่านจุ๊ง...

ชอบข้อความที่ว่า......

 "การไม่เห็นและยอมรับความผิดพลาดของตนเอง คือ จุดเริ่มต้นในการลืมตัวและดำเนินการในทางที่ผิด"

ชอบ ๆ ๆ



ชอบด้วยครับ
Like like like
ขอบคุณเฮียจุ๊ง

 emo6::))


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 กรกฎาคม 2554, 17:10:01
สวัสดีครับพี่หนุุน
เห้นพี่ตู่เรียกร้องขอฟังเพลง  วันนี้เป็นวันเลือกตั้ง ไหนๆผมก็นอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว ผมเลยจัดเพลง"ประเทศชาติ" ร้องโดยเฉินหลงและสหายให้ฟังหน่อย เพลงนี้ความหมายดี เปิดทีวีเจอเพลงเลยจัดให้เพื่อให้เข้ากับเทศกาล สำหรับความหมาย ถ้าไม่ลืมจะแปลให้ เพราะผมก็เพิ่งได้ยินเพลงนี้สดๆร้อนๆนี่เอง


http://www.youtube.com/watch?v=4OpHanFW4Dc


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 03 กรกฎาคม 2554, 21:32:41

ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเหรอ... ท่านจุ๊ง

เป็นไปได้ไง?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 04 กรกฎาคม 2554, 09:05:06
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 03 กรกฎาคม 2554, 17:10:01
สวัสดีครับพี่หนุุน
เห้นพี่ตู่เรียกร้องขอฟังเพลง  วันนี้เป็นวันเลือกตั้ง ไหนๆผมก็นอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว ผมเลยจัดเพลง"ประเทศชาติ" ร้องโดยเฉินหลงและสหายให้ฟังหน่อย เพลงนี้ความหมายดี เปิดทีวีเจอเพลงเลยจัดให้เพื่อให้เข้ากับเทศกาล สำหรับความหมาย ถ้าไม่ลืมจะแปลให้ เพราะผมก็เพิ่งได้ยินเพลงนี้สดๆร้อนๆนี่เอง


http://www.youtube.com/watch?v=4OpHanFW4Dc

...สวัสดีค่ะ...น้องจุ๊ง...น้องแหลม...น้องหนุน...และสมาชิกทุกท่าน...

...ขอบคุณสำหรับเพลงประเทศชาติค่ะ...พี่ตู่ว่าทำนองมันคล้ายๆเปาบุ้นจิ้นอ่ะค่ะ...

...เลยทำให้พี่ตู่ขนลุกได้ไม่ยากค่ะ...แม้จะไม่รู้ความหมายของเพลง...

...แต่ฟังแล้วก็ทำให้จิตใจฮึกเหิมค่ะ...เป็นเพลงเพราะอีกเพลงนึงค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 04 กรกฎาคม 2554, 12:28:25
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 03 กรกฎาคม 2554, 21:32:41

ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเหรอ... ท่านจุ๊ง

เป็นไปได้ไง?


ขอทำใจก่อนนะเพื่อนแหลม ขอลบคำสั่งสอนที่เรียนมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกว่าทำดีได้ ทำชั่วได้ชั่ว สัตว์โลกต้องเป็นไปตามกฎแห่งกรรม(กัมมึนา วัตตะตี โลโก กุ๊กๆ)ก่อนนะครับ แล้วก็ขอทำใจให้เชื่อว่าที่ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายปราศัยมานั้น ท่านทำได้ ถ้าทำใจได้ ผมจะไปเลือกตั้ง ได้ข่าวว่าคนไปเลือกตั้งกันมืดฟ้ามัวดินเลยหรือนี่ แหม คนไทยช่างเข้าซึ้งถึงประชาธิปไตยเหลือเกินนะ น่าอิจฉา

เผลอบอกไปแล้วว่าจะแปลเนื้อเพลงประเทศชาติ พี่ตู่มาทักพอดี เอาก็เอา ความจริงเพลงนี้แปลค่อนข้างยาก เพราะมันมีเรื่องของวัฒนธรรม ประเพณี ประวัติศาสตร์ ภาษาศาสตร์ และนิรุกติศาสตร์(แปลว่าอะไรฟะ) เข้ามาด้วย อ๋อ ไปค้นดิกไทยมา เขาแปลว่า นิรุกติศาสตร์(น. วิชาว่าด้วยที่มาและความหมายของคํา. (ส.). ) อืม แปลว่าเรายังไม่ได้ออกนอกเรื่อง คือคำว่าประเทศชาติในภาษาจีนสามารถแยกเป็นคำว่าประเทศกับบ้าน คือประเทศจีนแต่ดั้งเดิมทีจะรวมจากหลายเผ่า ซึ่งภายในเผ่าจะประกอบไปด้วยตระกูลต่างๆ(สมัยนั้นเพศแม่เป็นใหญ่ เรียกได้ว่าระบบแม่ปกครองลูก)ซึ่งก็คือแต่ละบ้านนั่นเอง ตอนนั้นแม้รวมกัน แต่ความรู้สึกของประทศหรือเผ่ายังไม่มี เพราะรวมกันทั้งหมดก็คือแผ่นดิน ไม่มีประเทศอื่น อย่างเก่งก็มีพวกคนเถื่อนนอกอารยธรรมที่มารุกรานแค่นั้นเอง จะมีก็แต่ละเมืองหรือนครรัฐเท่านั้น อันนี้เกี่ยวกับผลประโยชน์เป็นส่วนมาก ถ้าท่านไหนเคยอ่านเรื่องเจาะเวลาหาจิ๋นซี เรื่องนี้สะท้อนประวัติศาสตร์ ความคิดของคนจีนสมัยนั้น ทุกคนจะยึดกันที่ตระกูล ถ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ก็ย้ายกันทั้งตระกูลไปอยู่นครรัฐอื่น ฉะนั้นเวลาพูดถึงประเทศ ตามความเคยชิน เลยอดติดคำว่าบ้านเข้าไปด้วไม่ได้ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมและถือเป็นบ้านของตัวเอง
เอาล่ะ อารัมภบทพอหอมปากหอมคอ มีดูเนื้อเพลงกัน


国(ประเทศ)家(บ้าน)=ประเทศชาติ (บ้านหลังใหญ่)

一玉口中国 一瓦顶成家
หนึ่ง(一)หยก(玉)ปาก(口)(ประกอบเป็นคำว่า)ประเทศจีน(中国)
หนึ่งห้องมีหลังคามุงก็เป็นบ้าน(คำว่า家 ถ้าสังเกตุให้ดีจะมีหมวกคล้ายหลังคาอยู่ด้านบน จะเป็นรากตัวอักษรจีนที่ใช้สำหรับอะไรที่ครอบคลุมสิ่งอื่นให้อยู่ด้วยกัน  อย่างเช่นคำว่า宝 ประกอบไปด้วยหลังคาและหยก แปลว่าของมีค่า หรือของวิเศษ ส่วนคำข้างล่าง豕 เป็นคำโบราณที่แปลว่าหมู สมัยโบราณทุกบ้านจะเลี้ยงหมู ส่วนคำว่าประเทศ 国 สังเกตุว่ามีรั้วรอบขอบกั้น ข้างในมีหยก แสดงว่าในประเทศมีแต่ของดีๆทั้งน้าน ) ท่อนนี้ของเพลงถือเป็นการแกะอักษรจีนออกมาดูเล่น

都说国很大 其实一个家
ถ้าจะบอกว่าประเทศนั้นใหญ่มาก ที่แท้ก็คือบ้านหลังหนึ่ง

一心装满国 一手撑起家
ใจทั้งดวงจุไปด้วยประเทศ สร้างบ้านด้วยมือตัวเอง

家是最小国 国是千万家
บ้านคือหน่วยของประเทศที่เล็กที่สุด ประเทศคือบ้านเป็นพันหมื่น

在世界的国 在天地的家
ในประเทศทั้งหลายในโลกนี้ ในบ้านทั่วทั้งดินฟ้า

有了强的国 才有富的家
มีประเทศที่เข้มแข็ง ถึงจะมีบ้านที่มั่งคั่งสมบูรณ์

国的家住在心里 家的国以和矗立
ถิ่นที่อยู่ของประเทศอยู่ในใจเรา พื้นฐานของบ้านอยู่ยงด้วยความปรองดอง

国是荣誉的毅力 家是幸福的洋溢
ประเทศคือเกียรติยศแห่งความมุ่งมั่น บ้านคือห้วงนทีแห่งความสุข
 
国的每一寸土地 家的每一个足迹
แต่ละตารางนิ้วของประเทศ แต่ละรอยก้าวย่างภายในบ้าน

国与家连在一起 创造地球的奇迹
ประเทศ(国)กับบ้าน(家)จับมารวมกัน(กลายเป็นคำว่า国家(ประเทศชาติ))
สร้างสรรค์ให้เป็นปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์ภายในโลก


一心装满国 一手撑起家
ใจทั้งดวงจุไปด้วยประเทศ สร้างบ้านด้วยมือตัวเอง

家是最小国 国是千万家
บ้านคือหน่วยของประเทศที่เล็กที่สุด ประเทศคือบ้านเป็นพันหมื่น

在世界的国 在天地的家
ในประเทศทั้งหลายในโลกนี้ ในบ้านทั่วทั้งดินฟ้า

有了强的国 才有富的家
มีประเทศที่เข้มแข็ง ถึงจะมีบ้านที่มั่งคั่งสมบูรณ์

国的家住在心里 家的国以和矗立
ถิ่นที่อยู่ของประเทศอยู่ในใจเรา พื้นฐานของบ้านอยู่ยงด้วยความปรองดอง

国是荣誉的毅力 家是幸福的洋溢
ประเทศคือเกียรติยศแห่งความมุ่งมั่น บ้านคือห้วงนทีแห่งความสุข

国的每一寸土地 家的每一个足迹
แต่ละตารางนิ้วของประเทศ แต่ละรอยก้าวย่างภายในบ้าน

国与家连在一起 创造地球的奇迹
ประเทศ(国)กับบ้าน(家)จับมารวมกัน(กลายเป็นคำว่า国家(ประเทศชาติ))
สร้างสรรค์ให้เป็นปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์ภายในโลก

国是我的国 家是我的家
ประเทศคือประเทศของฉัน บ้านคือบ้านของฉัน

我爱我的国 我爱我的家
ฉันรักประเทศของฉัน ฉันรักบ้านของฉัน

国是我的国 家是我的家
ประเทศคือประเทศของฉัน บ้านคือบ้านของฉัน

我爱我的国 我爱我的家
ฉันรักประเทศของฉัน ฉันรักบ้านของฉัน

我爱我.........国家
ฉันรักประเทศชาติของฉัน



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 04 กรกฎาคม 2554, 12:37:56

ความหมายดีจังครับ....

ขอบคุณ... ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 04 กรกฎาคม 2554, 20:14:20
ดูทีวีจีน มีรายการวิเคราะห์ไต้หวันกรอกหูอยู่ทุกวัน ผมมองดูแล้ว การเมืองไต้หวันกับการเมืองไทย ยังกะเป็นพี่น้องฝาแฝดเลย ท่านพี่น้องลองนึกดูนะ การเมืองแบ่งเป็นสองค่าย แบ่งเป็นค่ายสีน้ำเงินกับสีเขียว สีเขียวถ้าจำไม่ผิดจะตรอบครองพื้นที่แถวด้านใต้ สีน้ำเงินจะครอบครองพื้นที่ด้านเหนือ อดีตประธานาธิบดีไต้หวันเฉินสุ่ยเปี่ยน ตอนนี้ถูกควบคุมตัวขึ้นศาล สอบสวนเกี่ยวกับทุจริตและฟอกเงิน ปากแข็งอยู่นาน ภายหลังโดนลูกชายขาย ค่อยๆเปิดปากยอมรับ แถมลากอดีตรองประธานาธิบดีหลี่เติงฮุยค่ายเดียวกัน อายุ80ขวบ ผู้อาวุโสมาร่วมชะตากรรมด้วย หลี่เติงฮุยกลัวเสียประโยชน์ของค่าย พยายามโยงให้เป็นเรื่องการเมือง บอกว่าเป็นแผนของประธานาธิบดีคนปัจจุบันหม่าอิงจิ่วเพื่อดิสเครดิตด้านการเมือง ตอนนี้ค่ายน้ำเงินบอกว่าคนผิดต้องชดใช้กรรม ค่ายสีเขียวบอกว่าเป็นแผนสกปรกทางด้านการเมืองของฝ่ายน้ำเงิน หวังจะใช้ผลการเลือกตั้งเพื่อล้างความผิด เนี่ยผมสงสัยอยู่ตะหงิดๆว่าใครลอกใครกันเนี่ย ตีกันนัวไปหมด เฮ่อ อ่อนเพลียละเหี่ยใจ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 กรกฎาคม 2554, 00:19:56

ต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกันหรือเปล่าครับ?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 05 กรกฎาคม 2554, 07:32:33

สวัสดีเฮียจุ๊งเฮียแหลมและพี่น้องทุกคน
ชอบมุมองและข้อมูลข้อเขียนของเฮียจุ๊งครับ



 emo4:)) emo48:)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 05 กรกฎาคม 2554, 10:55:23
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 04 กรกฎาคม 2554, 20:14:20
ดูทีวีจีน มีรายการวิเคราะห์ไต้หวันกรอกหูอยู่ทุกวัน ผมมองดูแล้ว การเมืองไต้หวันกับการเมืองไทย ยังกะเป็นพี่น้องฝาแฝดเลย ท่านพี่น้องลองนึกดูนะ การเมืองแบ่งเป็นสองค่าย แบ่งเป็นค่ายสีน้ำเงินกับสีเขียว สีเขียวถ้าจำไม่ผิดจะตรอบครองพื้นที่แถวด้านใต้ สีน้ำเงินจะครอบครองพื้นที่ด้านเหนือ อดีตประธานาธิบดีไต้หวันเฉินสุ่ยเปี่ยน ตอนนี้ถูกควบคุมตัวขึ้นศาล สอบสวนเกี่ยวกับทุจริตและฟอกเงิน ปากแข็งอยู่นาน ภายหลังโดนลูกชายขาย ค่อยๆเปิดปากยอมรับ แถมลากอดีตรองประธานาธิบดีหลี่เติงฮุยค่ายเดียวกัน อายุ80ขวบ ผู้อาวุโสมาร่วมชะตากรรมด้วย หลี่เติงฮุยกลัวเสียประโยชน์ของค่าย พยายามโยงให้เป็นเรื่องการเมือง บอกว่าเป็นแผนของประธานาธิบดีคนปัจจุบันหม่าอิงจิ่วเพื่อดิสเครดิตด้านการเมือง ตอนนี้ค่ายน้ำเงินบอกว่าคนผิดต้องชดใช้กรรม ค่ายสีเขียวบอกว่าเป็นแผนสกปรกทางด้านการเมืองของฝ่ายน้ำเงิน หวังจะใช้ผลการเลือกตั้งเพื่อล้างความผิด เนี่ยผมสงสัยอยู่ตะหงิดๆว่าใครลอกใครกันเนี่ย ตีกันนัวไปหมด เฮ่อ อ่อนเพลียละเหี่ยใจ

...ไต้หวันยังไม่เคยไปเลย...ได้ข่าวว่าเจริญมากๆ...

...เท่ากับฮ่องกงมั้ยคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 05 กรกฎาคม 2554, 11:40:45
สวัสดีครับพี่หนุน
ท่านแหลมสงสัยว่าทำไมผมไม่ไปใช้สิทธิ์ ผมมานั่งนึกๆดู ก็อยากจะเปรียบเทียบเป็นสุภาษิต ถ้าจะเปรียบเทียบ ผมก็เหมือนคนหิวน้ำ บางคนยื่นมา เป็นน้ำทะเลแก้กระหาย บางคนผมดูก็คือ(น้ำผึ้งอาบ)ยาพิษ บางคนบอกว่าน้ำอัดลมซิดี ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าผสมน้ำกรด หรือสารเมลานีนเข้าไปด้วยหรือเปล่า อย่ากระนั้นเลย จงหาน้ำเปล่าดื่มต่อไป ที่ยื่นๆให้มา ผมขอรับด้วยใจ

ช่วงนี้ครบรอบ90ขวบของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ดูทีวีจีนหลายช่องก็จะมีพูดถึงเกร็ดต่างๆในช่วงเวลา90ปีนี้ รายการพวกนี้ของโปรดผมอยู่แล้ว ต้องจ้องตาไม่กระพริบเลย ผมเองเป็นคนชอบประวัติศาสตร์ ไหนๆไทยก็ไม่มีประวัติศาสตร์ให้ได้รับรู้กัน ดูของจีนดีกว่า พยายามจับใจความ เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง มีอยู่รายการหนึ่งพูดถึงสงครามกลางเมืองระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับพรรคก๊กมินตั๋งว่าทำไมถึงแพ้ ทั้งๆที่พรรคก๊กมินตั๋งเหนือกว่าทุกด้าน มีสหรัฐสนับสนุน เขาบอกว่าเพราะประชาชนอยู่เคียงข้างพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเรื่องการวางสายการข่าวเนี่ย สำคัญมาก ลองคิดดู ลูกสาวแม่ทัพฝ่ายก๊กมินตั๋ง คือสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ฝ่ายวางแผนระดับเสนาธิการของเจียงไคเช็ค คือสายที่พรรคคอมมิวนิสต์วางไว้ โดยไม่มีการทำอะไรกระโตกกระตาก จนวาระตัดสินผลแพ้ชนะ ชนิดที่ก๊กมินตั๋งวางแผนเสร็จตอนเช้า ตอนสายๆแผนการวางขุมกำลังก้วางอยู่ตรงหน้าโจวเอินไหลไปเรียบร้อยแล้ว แบบนี้จะไปเหลือเรอะ ภาษิตจีนมีว่าไว้ "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะไม่มีพลาด" และพวกนี้ยอมอุทิศตัวเองแบบปิดทองหลังพระจริง ๆ บางคนคนจีนไม่มีใครู้เลย จนกระทั่งเจ้าตัวและผู้ร่วมเหตุการณ์ตายกันหมด จึงได้รับการเปิดเผย เมื่อราวทศวรรษที่1980 น่านับถือ น่านับถือ

ตอนนั้นพรรคคอมมิวนิสต์จีนชนะ ก็ยกกำลังเตรียมบุกไต้หวัน พอดีเกิดสงครามเกาหลีเสียก่อน อันนี้ใกล้หัวใจมากกว่า อันเกาหลีกันจีนก็เหมือนกับเหงือกกับฟัน ภาษิตมีว่าไว้ "เมื่อเหงือกบรรลัย ฟันจะไปอยู่กับใคร" จำเป็นต้องงดทางนี้ไว้ก่อน พอเสร็จศึกเกาหลี หันตัวกลับมาอีกที ไต้หวันเชิญสหรัฐเพื่อนรักมาง้างอีโต้รอเรียบร้อยแล้ว อันนี้จะมีเกาะหน้าด่านระหว่างช่องแคบไต้หวันชื่อเกาะทองคำ สหรัฐพยายามจะยุให้ไต้หวันแยกออกมาเป็นอีกประเทศ จีนก็บอกว่าขืนลื้อแยกประเทศ อั๊วจะไม่ดูหน้าอินทร์หน้าพรหมตีลื้อจนตายไปข้าง ทางเจียงไคเช็คไม่กล้าเป็นคนบาปของคนจีนที่คิดแยกประเทศ แต่ก็กลัวพรรคคอมมิวนิสต์ เลยบอกว่าลื้อจะไม่ให้อั๊วแยกประเทศก็ได้ แต่ลื้อห้ามยึดเกาะทองคำ จีนก็โอเค เลยใช้นโยบายนิ่มนวล ภายหลังคิดจะใช้วิธี 1ประเทศ 2ระบบ ไต้หวันก็นิ่งเฉย ภายหลังฮ่องกงกลับคืนสู่จีน ตอนนั้นชาวฮ่องกงแตกตื่นกันมาก พากันย้ายออกนอกประทศ จีนเลยใช้นโยบาย 1ประเทศ 2ระบบกับฮ่องกงแทน

เมื่อคืนเขาพูดถึงโครงการวางแผนครอบครัว สมัยหลายสิบปีก่อน เคยมีนักคิดชาวจีนชื่อหม่าอิงชูพูดถึงการวางแผนครอบครัว บอกว่าคนมากจะเป็นภาระของประเทศชาติ และแนะนำท่านเหมา ตอนนั้นท่านเหมาไม่เชื่อ บอกว่าคนมากแหละดี เป็นพลังของชาติ ตอนท้ายประชากรล้นประเทศกลายเป็นภาระของชาติจริงๆ ภายหลังท่านเหมาต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ออกนโยบายวางแผนครอบครัว ตอนแรกใช้คำขวัญก็แล้ว ให้รางวัลก็แล้ว แต่ความเชื่อของสังคมจีนในเรื่องมีลูกมากและมีลูกชายถือเป็นการสืบสกุลมีมาเป็นพันๆปี จะลบไปทีเดียวยากมาก บางครอบครัว คลอดลูกมาเป็นหญิง ก็ตั้งหน้าตั้งตาผลิตลูกกันต่อไป จนกว่าจะได้ลูกชาย เอากับพี่แกซิ สุดท้ายต้องใช้มาตรการลงโทษ หมู่บ้านไหนใครมีลูกเกิน1คน จับทำหมันทั้งหมู่บ้าน ช่วงนั้นมีหลายคนต้องแอบไปคลอดลูกหมู่บ้านอื่น จะได้ไม่ทำความลำบากแก่หมู่บ้าน แหม คิดกันเก่ง ฟังเรื่องนี้ก็นึกถึงลูกชายพี่สาวที่เมืองเหมยโจว ลูกคนแรกเป็นผู้หญิง ตอนนั้นกฎหมายออกมาใหม่ๆ แอบมีลูกคนที่สอง ต้องหลบๆซ่อนๆอยู่นาน กลายเป็นประชากรเถื่อน ภายหลังเสียค่าปรับไป เลยเป็นผู้เป็นคนขึ้น ตอนนี้ไปทำงานที่เมืองเซินเจิ้นแล้ว เรื่องวางแผนครอบครัวนี่ มีเรื่องเล่าเสียดสีอเมริกา เขาบอกว่าเมื่อปี1980 ตอนนั้นเติ้งเสี่ยวผิงไปเยือนอเมริกา พบกับจิมมี่ คาร์เตอร์ ท่านจิมมี่บอกว่าจีนมีนโยบายควบคุมการกำเนิดประชากร ละเมิดสิทธิมนุษยชนนะจ็ะ(สิทธิมนุษยชน เนี่ยถือเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ที่สหรัฐใช้ง่ายขายคล่อง และใช้บ่อย) ท่านเติ้งบอกว่าสิทธิมนุษยชนกินไม่ได้นา ประชากรมากเป็นภาระของประเทศอั๊วนา เอาอย่างนี้ไหมล่า ลื้อใจบุญนัก อั๊วบริจาคประชากรให้ลื้อไปฟรีๆ20ล้านหน่วย ลื้อจะว่าไง ท่านคาร์เตอร์ ??? (สรุปไม่ได้ว่าท่านตอบว่าไง อิอิ)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 05 กรกฎาคม 2554, 11:53:47
สวัสดีครับพี่ตู่
ไต้หวันผมก็ไม่เคยไปเหมือนกัน เรื่องนี้ต้องถามท่านแหลม ท่านแหลมเคยไปติดต่อธุรกิจที่นั้น ก็น่าจะเจริญกว่าไทยมาก ชาวไทยไปขายแรงงานที่นั่นบ่อย ราคาค่าเงินก็น่าจะพอๆกับค่าเงินบาทไทย ส่วนค่าครองชีพ ต้องให้ท่านแหลมมาตอบครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 กรกฎาคม 2554, 20:38:42
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 05 กรกฎาคม 2554, 11:53:47
สวัสดีครับพี่ตู่
ไต้หวันผมก็ไม่เคยไปเหมือนกัน เรื่องนี้ต้องถามท่านแหลม ท่านแหลมเคยไปติดต่อธุรกิจที่นั้น ก็น่าจะเจริญกว่าไทยมาก ชาวไทยไปขายแรงงานที่นั่นบ่อย ราคาค่าเงินก็น่าจะพอๆกับค่าเงินบาทไทย ส่วนค่าครองชีพ ต้องให้ท่านแหลมมาตอบครับ


เคยไป 3 ครั้งครับ...

เจริญกว่าไทยในเรื่องของเทคโนโลยี
ค่าครองชีพสูงกว่าไทยประมาณ 2 - 3 เท่าตัว
มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง
เดี๋ยวต้องไปลองค้นภาพดูก่อนครับ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 กรกฎาคม 2554, 21:00:13

ความทรงจำเกี่ยวกับไต้หวันของผมก็คือ.....

ฮั่วเหลียน
Hot Sping
หอยเป๋าฮื๊อ
ปลาแสงอาทิตย์ และ
สาวขายหมาก.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 กรกฎาคม 2554, 23:10:58

ลงรูปให้ชมนิดหน่อยละกันครับ....


หน้าสถานีรถไฟฮั่วเหลียน
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd692166_4536640_3299624_6619753photo.jpg)

Taroko Gorge or Taroko National Park
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd248839_8665720_1038077_1612395photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 กรกฎาคม 2554, 23:14:22

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd323263_4217490_1663593_462549photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd468673_3646729_8784759_149887photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd340898_5849221_346763_315225photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 กรกฎาคม 2554, 23:22:36

ทัศนียภาพระหว่างทางจากฮั่วเหลียนมาไทเป
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd172748_4872616_4414851_4443120photo.jpg)

ภัตตาคารปลาแสงอาทิตย์
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd742381_8213285_1458884_8935181photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 กรกฎาคม 2554, 06:56:26
ท่านแหลม
ช่วยอธิบายใต้รูปหน่อยซิครับ หวังว่าคงจำได้ว่าอะไรคืออะไร


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 06 กรกฎาคม 2554, 07:34:23

...ถ้ำเค้าสวยดีค่ะ...ชื่อฮั่วเหลียนเหรอคะ...

...ที่มีทะเลและภูเขา...ใช่ทะเลสาบสุริยันจันทรารึเปล่าคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 กรกฎาคม 2554, 11:53:44


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 07:34:23

...ถ้ำเค้าสวยดีค่ะ...ชื่อฮั่วเหลียนเหรอคะ...

...ที่มีทะเลและภูเขา...ใช่ทะเลสาบสุริยันจันทรารึเปล่าคะ...

ฮั่วเหลียน เป็นชื่อเมืองทางตอนใต้ของไต้หวัน
เป็นเมืองท่องเที่ยว มีสมญานามว่า.... เมืองแห่งหินอ่อน
ฟุตบาทที่ฮั่วเหลียน ยังใช้หินอ่อนปูเลยครับ.

รูปที่เห็นเป็นทะเลและภูเขา ไม่ใช่ทะเลสาปสุริยันจันทราครับ
รูปนี้ถ่ายที่จุดพักรถระหว่างทาง จากฮั่วเหลียนมาไทเป
ถนนจะมาตามเขาที่เห็นนะครับ....ด้านหนึ่งเป็นผาเขา อีกด้านหนึ้งเป็นเหวฝั่งทะเล
ระยะทางเป็นอย่างนี้ร่วม 100 กม..... ทั้งสวยทั้งเสียวครับ
(แต่คนขับรถเก่ง ประสพการณ์สูง - ไกด์บอก)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 กรกฎาคม 2554, 11:56:27
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 06:56:26
ท่านแหลม
ช่วยอธิบายใต้รูปหน่อยซิครับ หวังว่าคงจำได้ว่าอะไรคืออะไร


ก็พอจำได้บ้าง...แล้วจะจัดให้ตามความต้องการท่านจุ๊งครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 กรกฎาคม 2554, 18:18:16
พูดถึงหินอ่อน พี่น้องรู้ไหมว่าภาษาจีนเรียกว่าอะไร เขาเรียกว่าหินเมืองตาลี หลายท่านคงจำได้ว่าตาลีเป็นชื่อเมืองหลวงของอาณาจักรน่านเจ้า สำหรับคำว่าน่านเจ้าก็มาจากภาษาจีน แปลว่า"ราชวงศ์ทางใต้" หรือ"อาณาจักรทางใต้"


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 07 กรกฎาคม 2554, 08:57:59
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 11:53:44


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 07:34:23

...ถ้ำเค้าสวยดีค่ะ...ชื่อฮั่วเหลียนเหรอคะ...

...ที่มีทะเลและภูเขา...ใช่ทะเลสาบสุริยันจันทรารึเปล่าคะ...

ฮั่วเหลียน เป็นชื่อเมืองทางตอนใต้ของไต้หวัน
เป็นเมืองท่องเที่ยว มีสมญานามว่า.... เมืองแห่งหินอ่อน
ฟุตบาทที่ฮั่วเหลียน ยังใช้หินอ่อนปูเลยครับ.

รูปที่เห็นเป็นทะเลและภูเขา ไม่ใช่ทะเลสาปสุริยันจันทราครับ
รูปนี้ถ่ายที่จุดพักรถระหว่างทาง จากฮั่วเหลียนมาไทเป
ถนนจะมาตามเขาที่เห็นนะครับ....ด้านหนึ่งเป็นผาเขา อีกด้านหนึ้งเป็นเหวฝั่งทะเล
ระยะทางเป็นอย่างนี้ร่วม 100 กม..... ทั้งสวยทั้งเสียวครับ
(แต่คนขับรถเก่ง ประสพการณ์สูง - ไกด์บอก)


...นึกถึงภูเก็ตของเรานะคะ...แถวเขาหลักก็ข้างนึงเป็นภูเขา...ข้างนึงเป็นทะเล...

...ทั้งสวยทั้งเสียวเหมือนกันค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 07 กรกฎาคม 2554, 08:59:19
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 18:18:16
พูดถึงหินอ่อน พี่น้องรู้ไหมว่าภาษาจีนเรียกว่าอะไร เขาเรียกว่าหินเมืองตาลี หลายท่านคงจำได้ว่าตาลีเป็นชื่อเมืองหลวงของอาณาจักรน่านเจ้า สำหรับคำว่าน่านเจ้าก็มาจากภาษาจีน แปลว่า"ราชวงศ์ทางใต้" หรือ"อาณาจักรทางใต้"

...จำได้แล้วค่ะ...เมืองตาลีฟู...ที่เราเรียนตอนเด็กๆน่ะเอง...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 07 กรกฎาคม 2554, 16:32:41


อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 11:56:27
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 06:56:26
ท่านแหลม
ช่วยอธิบายใต้รูปหน่อยซิครับ หวังว่าคงจำได้ว่าอะไรคืออะไร


ก็พอจำได้บ้าง...แล้วจะจัดให้ตามความต้องการท่านจุ๊งครับ

อธิบายรูปภาพให้แล้วนะครับท่าน...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 07 กรกฎาคม 2554, 16:39:10

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 07 กรกฎาคม 2554, 08:57:59
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 11:53:44


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 07:34:23

...ถ้ำเค้าสวยดีค่ะ...ชื่อฮั่วเหลียนเหรอคะ...

...ที่มีทะเลและภูเขา...ใช่ทะเลสาบสุริยันจันทรารึเปล่าคะ...

ฮั่วเหลียน เป็นชื่อเมืองทางตอนใต้ของไต้หวัน
เป็นเมืองท่องเที่ยว มีสมญานามว่า.... เมืองแห่งหินอ่อน
ฟุตบาทที่ฮั่วเหลียน ยังใช้หินอ่อนปูเลยครับ.

รูปที่เห็นเป็นทะเลและภูเขา ไม่ใช่ทะเลสาปสุริยันจันทราครับ
รูปนี้ถ่ายที่จุดพักรถระหว่างทาง จากฮั่วเหลียนมาไทเป
ถนนจะมาตามเขาที่เห็นนะครับ....ด้านหนึ่งเป็นผาเขา อีกด้านหนึ้งเป็นเหวฝั่งทะเล
ระยะทางเป็นอย่างนี้ร่วม 100 กม..... ทั้งสวยทั้งเสียวครับ
(แต่คนขับรถเก่ง ประสพการณ์สูง - ไกด์บอก)


...นึกถึงภูเก็ตของเรานะคะ...แถวเขาหลักก็ข้างนึงเป็นภูเขา...ข้างนึงเป็นทะเล...

...ทั้งสวยทั้งเสียวเหมือนกันค่ะ...

คล้ายกันอยู่บ้างครับ พี่ตู่
แต่ผมว่าที่ไต้หวันเสียวกว่ามาก...และแถวเขาหลักระยะทางน่าจะประมาณ 10 กม. เองครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 07 กรกฎาคม 2554, 16:45:17
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 07 กรกฎาคม 2554, 16:39:10

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 07 กรกฎาคม 2554, 08:57:59
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 11:53:44


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 07:34:23

...ถ้ำเค้าสวยดีค่ะ...ชื่อฮั่วเหลียนเหรอคะ...

...ที่มีทะเลและภูเขา...ใช่ทะเลสาบสุริยันจันทรารึเปล่าคะ...

ฮั่วเหลียน เป็นชื่อเมืองทางตอนใต้ของไต้หวัน
เป็นเมืองท่องเที่ยว มีสมญานามว่า.... เมืองแห่งหินอ่อน
ฟุตบาทที่ฮั่วเหลียน ยังใช้หินอ่อนปูเลยครับ.

รูปที่เห็นเป็นทะเลและภูเขา ไม่ใช่ทะเลสาปสุริยันจันทราครับ
รูปนี้ถ่ายที่จุดพักรถระหว่างทาง จากฮั่วเหลียนมาไทเป
ถนนจะมาตามเขาที่เห็นนะครับ....ด้านหนึ่งเป็นผาเขา อีกด้านหนึ้งเป็นเหวฝั่งทะเล
ระยะทางเป็นอย่างนี้ร่วม 100 กม..... ทั้งสวยทั้งเสียวครับ
(แต่คนขับรถเก่ง ประสพการณ์สูง - ไกด์บอก)


...นึกถึงภูเก็ตของเรานะคะ...แถวเขาหลักก็ข้างนึงเป็นภูเขา...ข้างนึงเป็นทะเล...

...ทั้งสวยทั้งเสียวเหมือนกันค่ะ...

คล้ายกันอยู่บ้างครับ พี่ตู่
แต่ผมว่าที่ไต้หวันเสียวกว่ามาก...และแถวเขาหลักระยะทางน่าจะประมาณ 10 กม. เองครับ


...แต่มันก็เสียวเหมือนกันนะคะ...ต้องค่อยๆขับ...เดี๋ยวมีรถสวนมาค่ะ...

...มีอีกที่นึงค่ะ...แต่ระยะทางอาจไม่มาก...แต่มันสูงมากๆค่ะ...

...คือ...ทางไปหุบเขาเสือกระโจน...จากคุนหมิงไปลี่เจียง...

...ถ้าจะมีใครชวนพี่ตู่ไปอีก...ขอไปที่อื่นแทนค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 07 กรกฎาคม 2554, 16:48:48


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 07 กรกฎาคม 2554, 16:45:17
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 07 กรกฎาคม 2554, 16:39:10

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 07 กรกฎาคม 2554, 08:57:59
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 11:53:44


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 07:34:23

...ถ้ำเค้าสวยดีค่ะ...ชื่อฮั่วเหลียนเหรอคะ...

...ที่มีทะเลและภูเขา...ใช่ทะเลสาบสุริยันจันทรารึเปล่าคะ...

ฮั่วเหลียน เป็นชื่อเมืองทางตอนใต้ของไต้หวัน
เป็นเมืองท่องเที่ยว มีสมญานามว่า.... เมืองแห่งหินอ่อน
ฟุตบาทที่ฮั่วเหลียน ยังใช้หินอ่อนปูเลยครับ.

รูปที่เห็นเป็นทะเลและภูเขา ไม่ใช่ทะเลสาปสุริยันจันทราครับ
รูปนี้ถ่ายที่จุดพักรถระหว่างทาง จากฮั่วเหลียนมาไทเป
ถนนจะมาตามเขาที่เห็นนะครับ....ด้านหนึ่งเป็นผาเขา อีกด้านหนึ้งเป็นเหวฝั่งทะเล
ระยะทางเป็นอย่างนี้ร่วม 100 กม..... ทั้งสวยทั้งเสียวครับ
(แต่คนขับรถเก่ง ประสพการณ์สูง - ไกด์บอก)


...นึกถึงภูเก็ตของเรานะคะ...แถวเขาหลักก็ข้างนึงเป็นภูเขา...ข้างนึงเป็นทะเล...

...ทั้งสวยทั้งเสียวเหมือนกันค่ะ...

คล้ายกันอยู่บ้างครับ พี่ตู่
แต่ผมว่าที่ไต้หวันเสียวกว่ามาก...และแถวเขาหลักระยะทางน่าจะประมาณ 10 กม. เองครับ


...แต่มันก็เสียวเหมือนกันนะคะ...ต้องค่อยๆขับ...เดี๋ยวมีรถสวนมาค่ะ...

...มีอีกที่นึงค่ะ...แต่ระยะทางอาจไม่มาก...แต่มันสูงมากๆค่ะ...

...คือ...ทางไปหุบเขาเสือกระโจน...จากคุนหมิงไปลี่เจียง...

...ถ้าจะมีใครชวนพี่ตู่ไปอีก...ขอไปที่อื่นแทนค่ะ...

ให้ผมไปแทนก็ได้ครับ... ...5...5....5


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 08 กรกฎาคม 2554, 08:06:10
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 07 กรกฎาคม 2554, 16:48:48


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 07 กรกฎาคม 2554, 16:45:17
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 07 กรกฎาคม 2554, 16:39:10

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 07 กรกฎาคม 2554, 08:57:59
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 11:53:44


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 06 กรกฎาคม 2554, 07:34:23

...ถ้ำเค้าสวยดีค่ะ...ชื่อฮั่วเหลียนเหรอคะ...

...ที่มีทะเลและภูเขา...ใช่ทะเลสาบสุริยันจันทรารึเปล่าคะ...

ฮั่วเหลียน เป็นชื่อเมืองทางตอนใต้ของไต้หวัน
เป็นเมืองท่องเที่ยว มีสมญานามว่า.... เมืองแห่งหินอ่อน
ฟุตบาทที่ฮั่วเหลียน ยังใช้หินอ่อนปูเลยครับ.

รูปที่เห็นเป็นทะเลและภูเขา ไม่ใช่ทะเลสาปสุริยันจันทราครับ
รูปนี้ถ่ายที่จุดพักรถระหว่างทาง จากฮั่วเหลียนมาไทเป
ถนนจะมาตามเขาที่เห็นนะครับ....ด้านหนึ่งเป็นผาเขา อีกด้านหนึ้งเป็นเหวฝั่งทะเล
ระยะทางเป็นอย่างนี้ร่วม 100 กม..... ทั้งสวยทั้งเสียวครับ
(แต่คนขับรถเก่ง ประสพการณ์สูง - ไกด์บอก)


...นึกถึงภูเก็ตของเรานะคะ...แถวเขาหลักก็ข้างนึงเป็นภูเขา...ข้างนึงเป็นทะเล...

...ทั้งสวยทั้งเสียวเหมือนกันค่ะ...

คล้ายกันอยู่บ้างครับ พี่ตู่
แต่ผมว่าที่ไต้หวันเสียวกว่ามาก...และแถวเขาหลักระยะทางน่าจะประมาณ 10 กม. เองครับ


...แต่มันก็เสียวเหมือนกันนะคะ...ต้องค่อยๆขับ...เดี๋ยวมีรถสวนมาค่ะ...

...มีอีกที่นึงค่ะ...แต่ระยะทางอาจไม่มาก...แต่มันสูงมากๆค่ะ...

...คือ...ทางไปหุบเขาเสือกระโจน...จากคุนหมิงไปลี่เจียง...

...ถ้าจะมีใครชวนพี่ตู่ไปอีก...ขอไปที่อื่นแทนค่ะ...

ให้ผมไปแทนก็ได้ครับ... ...5...5....5

...แน่ใจเหรอคะ...น้องแหลม...

...ระหว่างนั่งรถนะ...พี่ตู่ต้องนั่งลุ้นจนตัวเอียงค่ะ...ยิ่งตอนที่เราต้องนั่งอยู่ด้านที่ออกนอกหน้าผา...

...ความจริงจะเดินก็ได้ค่ะ...แต่ก็ไกลเหมือนกัน...

...คือเค้าทำทางให้รถวิ่งด้านนึง...อีกด้านนึงรถวิ่งไม่ได้แต่คนเดินไปได้ค่ะ...

...เป็นหน้าผาสูงมากๆ...พอรถไปจอด...เราต้องเดินลงอีกเกือบกิโลค่ะ...

...มีรับจ้างหามด้วย...ไปกลับ 300 บาท...พี่ตู่เดินเอาค่ะ...ตอนลงสบายแต่ตอนขึ้นแทบเป็นลม...

...และมีหลายท่านด้วย...สละสิทธิ์ไม่ลงไปดูค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 กรกฎาคม 2554, 11:03:37
สวัสดีครับพี่น้อง
วันนี้เห็นพาดหัวข่าวแว่บๆ ถึงคำสั่งศาลโลก จริงๆเห็นข่าวแว่วๆตั้งแต่หลายอาทิตย์ก่อน ผมก็มีลางสังหรณืไม่ค่อยดีเท่าไร อาจจะมีผลมาจากผลการตัดสินกรณีเขาพระวิหารเมื่อปี 2508 เห็นว่าครั้งนั้น เสนีย์ ปราโมชเป็นทนายฝ่ายเรานี่ ผมรู้สึกลึกๆว่าระบบข่าวกรองของเขมร น่าจะเป็นมืออาชีพมากกว่าไทย และครั้งนั้น แน่นอนว่าข้อมูลของเรารั่ว พูดถึงเขาพระวิหาร ผมก็นึกถึงระบบจักรวรรดิที่เข้ามาตอนรัชกาลที่5 และ3จังหวัด คือเสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ ก็สูญเสียให้ฝรั่งเศส และเขมรก็ได้รับอานิสงค์ไปหลังจากได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส และเขาพระวิหาร ก็เป็นผลพลอยฟ้าพลอยฝนไปจากเหตุการณ์นี้ด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ศาลโลก ยึดหลักอะไรที่ตัดสินให้เขาพระวิหารเป็นของเขมร เจ้าระบบจักรววรดินิมเนี่ยร้ายนัก มีผลต่อเนื่องมาจนถึงยุคนี้ และก็ไม่มีท่าทีที่จะจบง่ายๆ ทั้งๆที่บรรดาเจ้ากรรมนายเวรต่างๆที่ร่วมทำกรรมไว้ ต่างก็เดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางของตัวเองแล้ว เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์หลายๆอย่างรอบๆตัวเรา อย่างอำเภอเบตงที่ผมอยู่และโตมา ก็โดนแยกฟากกลางเมือง จากกรณีที่รัฐไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู โดนแยกไปเป็นของมาเลเซีย ยุคที่ผมยังอยู่เบตง บางครอบครัวก็โดนแยกไปอยู่กันคนละประเทศ ไปเยี่ยมญาติ ก็ต้องใช้บอร์เดอร์พาส เฮ่อ นี่แหละ ผลจากจักรวรรดินิยม

ไหนๆ ห้องนี้ก็เป็นห้องคุยเรื่องจีนๆ ท่านพี่น้องลองค้นหาคำว่า mcmahon line ในอากู๋ หรือเจ๊วิ ดูนะ อาจจะได้ข้อมูลที่น่าสนใจ นี่แหละเป็นผลมาจากระบบจักรววรดินิยมที่อังกฤษแข็งขืนขีดเส้นกั้นดินแดนระหว่างจีนกับอินเดียในสมัยที่อังกฤษยังปกครองอินเดียอยู่ และผลจากกรณีการขีดเส้นกั้นดินแดนขนิดเห็นชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว ตอนนี้กลายมาเป็นกรณีพิพาทระหว่างจีนกับอินเดียไปเรียบร้อยแล้ว พี่แขกเราเล่นบทยืนกระต่ายขาเดียวว่าเส้นแมคมานนี้ชอบธรรมแล้ว ถูกใจมั่กๆ อาเฮียจีนก็ไม่รู้จะพูดไงดี ก็พี่แขกรู้อย่างเดียวนี่ว่ากระต่ายมันมีขาเดียว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 19 กรกฎาคม 2554, 11:12:07

...เขาพระวิหารอยู่ชายแดนจังๆเลยมีปัญหาค่ะ...

...ขนาดปราสาทอื่นๆอยู่ลึกเข้ามา...เค้ายังคิดจะตามมาเอากลับไปเป็นของเค้าอีกนะคะ...

...จริงๆแล้ว...เจ้าของจริงๆคือขอม...ซึ่งสิ้นชาติไปแล้ว...

...ถูกเขมรกลืน...เขมรเลยคิดว่าปราสาทของขอมทุกแห่งต้องเป็นของตัวเองค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 19 กรกฎาคม 2554, 11:18:23

หวัดดี..ท่านจุ๊ง,พี่ตู่

ระบบจักรวรรดินิยม...ก็เทียบเคียงได้กับเรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็กน่ะครับ

ส่วนเรื่องกรณีเขาพระวิหารในอดีต จริงๆแล้วเราสู้กับฝรั่งเศสครับไม่ใช่เขมร.



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 25 กรกฎาคม 2554, 22:53:00
สวัสดีครับพี่น้อง
วันนี้มาปลุกกระทู้ด้วยเพลงครับ


http://www.youtube.com/watch?v=QhQWND9jKDA

http://www.youtube.com/watch?v=aUUI70wZcZI

http://www.youtube.com/watch?v=Is4SOl8eYsA


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 25 กรกฎาคม 2554, 23:25:24
ยังไม่พอนะครับ ยังมีสต็อคอีกเยอะ

http://www.youtube.com/watch?v=kU0dtR2Qw4k

http://www.youtube.com/watch?v=SrPH2nIGUJs

http://www.youtube.com/watch?v=h9LNJrQ_LwY


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 26 กรกฎาคม 2554, 15:42:10

สวัสดี....ท่านจุ๊ง

มีสต็อคเยอะ ก็ลงไปเรื่อยๆเลยครับ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กรกฎาคม 2554, 08:14:19
อีะ ท่านแหลมเรียกร้องมา เราก็จัดให้ มาฟังเพลงจากถงลี่ นักร้องคนโปรดรุ่นปัจจุบันของผมละกัน ผมเจอเพลงของถงลี่ทีไรในเน็ต ไม่มีลังเล ต้องรี่เข้าใส่ โหลดมาเป็นสมบัติของตัวเองทันที ท่านว่าผมชอบไหมล่ะ อ้อ เกือบลืมบอกไป เพลง Fisherman's Song At Dusk เนี่ยเป็นหนึ่งในแม่ไม้เพลงจีน

http://www.youtube.com/watch?v=paTSenGKHy0

http://www.youtube.com/watch?v=MVwnAReGkQA

http://www.youtube.com/watch?v=2TYAgCr3NgY


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 27 กรกฎาคม 2554, 08:53:15
...เข้ามาฟังเพลงค่ะ...

...เพราะทุกเพลงค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กรกฎาคม 2554, 09:49:54
สวัสดีครับพี่ตู่
มาฟังเพลงแห่งความหลังสมัยวัยเด็กของผมนะครับ โดยเฉพาะเพลงMeng Jiang Nv(อ่านว่าเมื่งเจียงหนวี่) อ่านยากหน่อยนะครับ เพลงนี้มีตำนาน เป็นเรื่องเล่ามาแต่ครั้งจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นเรื่องเล่าตอนสร้างกำแพงเมืองจีน ข่าวว่าเกณฑ์มาสร้างกำแพงเมืองจีนกันเป็นแสนๆคน เหน็ดเหนื่อยตายกันก็หลายอยู่ Meng Jiang Nv เป็นสาวชาวบ้านธรรมด๊าธรรมดาที่สามีก็ถูกเกณฑ์ไปรับภาระกิจเพื่อชาติครานี้กะเขาด้วย ไปแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆไป Meng Jiang Nvก็คอยหาย คอยหาย ชะเง้อก็แล้ว ผัวไม่กลับมาซักกะที จนทนเงียบเหงาไม่ไหว ด้วยความเป็นห่วงสามี เลยไปยืนร้องไห้ตรงกำแพงเมืองจีน จนกำแพงพังทลายลงมาเป็นที่ฮือฮากันมาถึงปัจจุบัน สมัยเด็กก็ได้ดูหนังที่สร้างโดยชอว์บราเดอร์ สมัยก่อนยังไม่มีหนังฉาย ชาวจีนใช้การเล่าตำนานและประวัติศาสตร์ผ่านทางการแสดงงิ้ว เรื่องMeng Jiang Nv ก็ติดอันดับกับเขาด้วย  ชื่อMeng Jiang Nv เลยกลายเป็นเรื่องติดหูติดตาเด็กจีนทุกยุคมาจนถึงปัจจุบัน

อย่าหาว่าโง้นงี้เลย เรื่องสามก๊กที่เราๆรู้จักกันดีนัก ก็ได้รับอานิสงค์จากการแสดงงิ้ว เพราะหลอกว้านจง ผู้แต่งเรื่องสามก๊ก แต่งเรื่องนี้มาเพื่อเป็นบทงิ้วโดยเฉพาะ ถ้าไม่มีงิ้ว เราๆท่านๆคงไม่รู้จักหนังสือสามก๊กกันหรอก อ้อ พูดถึงหลอกว้านจง ผู้แต่งเรื่องสามก๊ก ความจริงชีวิตเขาเป็นนายทหารยุคหลังจากจูหยวนจาง ขับไล่ราชวงศ์หงวน ที่ส่งเข้าประกวดโดยชาวมงโกลผู้รุกรานออกไป และสถาปนาราชวงศ์หมิงของชาวจีนขนานแท้และดั้งเดิมขึ้นมา หลอกว้านจงถึอเป็นขุนศึกผู้ห้าวหาญ แต่เสียดายเกิดหลังยุคขับไล่ผู้รุกรานชาวมองโกลไปหลายสิบปี ไม่มีโอกาสแสดงฝีมือ เพื่อสนองตัณหาตัวเอง เลยหาเรื่องในประวัติศาสตร์เรื่องรักๆรบๆมาแต่งเป็นบทงิ้วให้มันสะใจเล่นๆ หันไปหันมา ตาเหลือบไปเห็น "จดหมายเหตุประวัติศาสตร์สามก๊ก" ซึ่งเป็นบันทึกชีวะประวัติบุคคลสำคัญในประวัตืศาสตร์จีนยุคสามก๊ก เลยจับเอาชีวะประวัติของบุคคลสำัคัญต่างๆ ในยุคนี้มาเรียบเรียงเหตุการณ์ก่อนหลังผสมจินตนาการของตัวเองไปบ้าง เลยเป็นเหตุกำเนิดของนิยายเรื่องสามก๊กด้วยประการฉะนี้แล

เอาล่ะ มาฟังเพลงกันดีกว่า


http://www.youtube.com/watch?v=BKuy_0zkBaw

http://www.youtube.com/watch?v=-8Mw2Z3W5_E

http://www.youtube.com/watch?v=zldvlFxjbPA



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กรกฎาคม 2554, 09:53:37

สวัสดียามสายครับ....ท่านจุ๊ง,พี่ตู่

ตามอ่าน...ตามชม....ตามฟัง....

เพลงเพราะดี......ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กรกฎาคม 2554, 10:53:56
หวัดดีท่านแหลม
วันนี้มีอารมณ์เพลงแต่เช้า เลยขอรับภาระเป็นวีเจจัดเพลงชอบๆให้ฟังกัน ไว้ฟังเพลงอะไร นึกอะไรได้ขึ้นมาก็จะเล่าเรื่องประทับใจให้ฟัง พอเล่าเรื่องสามก๊ก เลยเอาเพลงประกอบซีรี่ย์้เรื่องสามก๊กที่ประทับใจมาให้เฟังกัน

เพลงแรกเป็นเพลงประกอบตอนจบเรื่อง ชื่อเพลงแปลว่า"ห้วงแห่งประวัติศาสตร์"เป็นการสรุปว่าบุคคลในประวัติศาสตร์ มากหน้าหลายตา ผ่านมาก็ผ่านไป สุดท้ายคืนสู่ธุลีดิน

เพลงที่สองเป็นเพลงเอกของเรื่อง และเป็นบทกลอนที่แต่งนำเรื่องโดยหลอกว้านจง บทกลอนชื่อ"ตะวันขึ้นกี่ครั้ง และตกกี่ครา" บรรยายถึงว่าในแม่น้ำแยงซีเกียงที่ไหลเชี่ยวกราก มีคลื่นกำเนิดมามากมายไม่หยุดยั้ง ประกอบขึ้นเป็นเรื่องราวต่างๆ แต่ละยุค แต่ละสมัย และเป็นเรื่องเล่าขานกันมาตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน เป็นไง การนำเรื่องของท่านหลอ เข้าตำรา ต้นตื่นเต้น กลางกลมกลืน จบจับใจมั้ย

เพลงที่สาม เพลงชื่อ"ลำนำขงเบ้ง"บรรยายถึงความห้าวหาญของขงเบ้ง

เพลงที่สี่ เพลงชื่อ"ลำนำธารน้ำอวี้สุ่ย"บรรยายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงลำน้ำอวี้สุ่ย บรรยายความรู้สึกของสาวชาวบ้านในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วแต่ผู้มีอำนาจ เพลงนี้ถือเป็นเพลงโปรดอันดับหนึ่งของผมในเรื่องนี้


http://www.youtube.com/watch?v=kB_Z1sqvm9M

http://www.youtube.com/watch?v=dZUR2_vDCuA

http://www.youtube.com/watch?v=FwTwKfbnM0w

http://www.youtube.com/watch?v=AYnK4RAN5rQ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 27 กรกฎาคม 2554, 10:59:14

...สวัสดีตอนใกล้เที่ยงค่ะ...น้องแหลม...น้องจุ๊ง...

...ฟังเพลงและชมวีดิโอแล้ว...

...อยากไปเห็นกำแพงเมืองจีนตอนมีหิมะจังเลยค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กรกฎาคม 2554, 11:21:19

อย่างพี่ตู่....ไปเมื่อไรก็ได้นิครับ.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 27 กรกฎาคม 2554, 11:30:59
พูดถึงกำแพงเมืองจีน นึกถึงตอนผมไปคราวนั้น อากาศประมาณ1องศา มีหิมะลงมาปรอยๆ ไปกินไอสครีมแท่ง อื้อหือ อร่อยไปอีกแบบ ถ้าพี่ตู่ไปในบรรายกาศแบบนี้ ก็ลองหาซื้อกินนะครับ รสชาติไม่เหมือนธรรมดา ขาขึ้นกำแพงเมืองจีนก็ใช้รถเลื่อน ให้นึกถึงรถไฟเหาะในสวนสนุก ส่วนขาลงรู้สึกว่าจะลงลิฟท์นะ เพราะของดีมีครั้งเดียว กำแพงมันสูง ถ้าเดินขึ้น ได้เหนื่อยตายพอดี


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 27 กรกฎาคม 2554, 13:20:51

เอารูปมาแบ่งกันชมหน่อยซิ....ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 กรกฎาคม 2554, 08:32:04
ตอนไปปักกิ่ง ไม่ได้เอากล้องถ่ายรูปไปด้วย ใช้มือถือถ่าย พอดีโทรศัพท์โดนจิ๊กไป รูปเลยหายไปด้วย เสียดายจริงๆ มาคุยเรื่องเพลงต่อดีกว่า มาฟังเพลง"ตำนาน" เพลงเอกของซีรี่ย์เรื่องเจ็งกิสข่านกัน เพลงนี้ก็ถือเป็นเพลงโปรดอีกเพลง ฟังแล้วได้บรรยากาศแบบมองโก๊ล มองโกล


http://www.youtube.com/watch?v=gWKbfQ4kY6o


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 28 กรกฎาคม 2554, 08:49:22
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 27 กรกฎาคม 2554, 11:21:19

อย่างพี่ตู่....ไปเมื่อไรก็ได้นิครับ.

...สมพรปากค่ะ...น้องแหลม...

...มีคนชวนอยู่เรื่อยค่ะ...เพราะคนที่ชวนเค้ายังไม่เคยไป...

...พี่ตู่ก็รีรออยู่...เพราะว่าเคยไปแล้วครั้งนึงตั้งแต่ปี 31...หลายปีมาแล้ว...

...ตอนนี้ที่นั่นคงเปลี่ยนแปลงไปเยอะค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 28 กรกฎาคม 2554, 08:50:43
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 27 กรกฎาคม 2554, 11:30:59
พูดถึงกำแพงเมืองจีน นึกถึงตอนผมไปคราวนั้น อากาศประมาณ1องศา มีหิมะลงมาปรอยๆ ไปกินไอสครีมแท่ง อื้อหือ อร่อยไปอีกแบบ ถ้าพี่ตู่ไปในบรรายกาศแบบนี้ ก็ลองหาซื้อกินนะครับ รสชาติไม่เหมือนธรรมดา ขาขึ้นกำแพงเมืองจีนก็ใช้รถเลื่อน ให้นึกถึงรถไฟเหาะในสวนสนุก ส่วนขาลงรู้สึกว่าจะลงลิฟท์นะ เพราะของดีมีครั้งเดียว กำแพงมันสูง ถ้าเดินขึ้น ได้เหนื่อยตายพอดี

...เหมาะกับบรรยากาศค่ะ...น้องจุ๊ง...

...เพราะว่าไอติมมันก็อร่อยตอนที่เย็นจัดๆนี่แหล่ะ...

...ตอนพี่ตู่ไปยังไม่มีลิฟท์ค่ะ...เดินอย่างเดียว...

...เดินจากที่รถจอด...ขึ้นไปบนกำแพงและผ่านป้อมแค่ป้อมเดียวก็เหนื่อยแล้วค่ะ...

...ลงมาช็อปปิ้งดีกว่า...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 28 กรกฎาคม 2554, 08:56:26
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554, 08:32:04
ตอนไปปักกิ่ง ไม่ได้เอากล้องถ่ายรูปไปด้วย ใช้มือถือถ่าย พอดีโทรศัพท์โดนจิ๊กไป รูปเลยหายไปด้วย เสียดายจริงๆ มาคุยเรื่องเพลงต่อดีกว่า มาฟังเพลง"ตำนาน" เพลงเอกของซีรี่ย์เรื่องเจ็งกิสข่านกัน เพลงนี้ก็ถือเป็นเพลงโปรดอีกเพลง ฟังแล้วได้บรรยากาศแบบมองโก๊ล มองโกล


http://www.youtube.com/watch?v=gWKbfQ4kY6o

...พวกมองโกลขี่ม้ากันเก่งจริงๆ...เด็กตัวเล็กๆอายุไม่เท่าไรก็จะหัดขี่ม้ากันแล้วค่ะ...

...วิถีชีวิตเค้าคงเป็นอย่างนั้นนะคะ...มีป่าเยอะมีม้าเยอะ...คงมีอาชีพเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 กรกฎาคม 2554, 16:16:22

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554, 08:50:43
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 27 กรกฎาคม 2554, 11:30:59
พูดถึงกำแพงเมืองจีน นึกถึงตอนผมไปคราวนั้น อากาศประมาณ1องศา มีหิมะลงมาปรอยๆ ไปกินไอสครีมแท่ง อื้อหือ อร่อยไปอีกแบบ ถ้าพี่ตู่ไปในบรรายกาศแบบนี้ ก็ลองหาซื้อกินนะครับ รสชาติไม่เหมือนธรรมดา ขาขึ้นกำแพงเมืองจีนก็ใช้รถเลื่อน ให้นึกถึงรถไฟเหาะในสวนสนุก ส่วนขาลงรู้สึกว่าจะลงลิฟท์นะ เพราะของดีมีครั้งเดียว กำแพงมันสูง ถ้าเดินขึ้น ได้เหนื่อยตายพอดี

...เหมาะกับบรรยากาศค่ะ...น้องจุ๊ง...

...เพราะว่า ไอติมมันก็อร่อยตอนที่เย็นจัดๆนี่แหล่ะ...

...ตอนพี่ตู่ไปยังไม่มีลิฟท์ค่ะ...เดินอย่างเดียว...

...เดินจากที่รถจอด...ขึ้นไปบนกำแพงและผ่านป้อมแค่ป้อมเดียวก็เหนื่อยแล้วค่ะ...

...ลงมาช็อปปิ้งดีกว่า...

เคยได้ยินหลายคนพูดอย่างนั้นเหมือนกันครับ...  


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 กรกฎาคม 2554, 16:52:15

ท่านจุ๊ง.......

พอจะมีข่าวเบื้องลึก หรือเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย เกี่ยวกับรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุในจีนหรือเปล่า?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 28 กรกฎาคม 2554, 22:01:44
เห็นข่าวอยู่แว่บๆเหมือนกัน แต่ไม่ได้สนใจรายละเอียด เลยไม่รู้ โทษที


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 28 กรกฎาคม 2554, 23:38:45
.....สวัสดีครับ เฮียจุ๊ง  เพลงได้ความรู้สึกดีมากๆครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 29 กรกฎาคม 2554, 00:17:48
สวัสดีครับพี่ตี๋
ตอนนี้ดึกๆ เห็นพี่ตี๋เข้ามา เลยหาเพลงเย็นๆเหมาะกับบรรยากาศร้องโดยถงลี่เจ้าเก่ามาให้ฟังกัน คนไทยรู้จักแต่เติ้งลี่จวิน แต่ผมแค่ฟังก็เลี่ยนแล้ว ฟังอะไรไม่เหมือนชาวบ้านดีกว่า

http://www.youtube.com/watch?v=8micVhSBM70
เพลง"น้ำตาแห่งความคิดถึง"

http://www.youtube.com/watch?v=zfM1qHozZus
เพลง"ดวงจันทร์ยามราตรี"

http://www.youtube.com/watch?v=ByMltUzOLFA
เพลงนี้มาจากบทกลอนของซูตงพอ กวีเอกจีน ชื่อเพลง"แสงจันทร์สาดหอตะวันตก"

http://www.youtube.com/watch?v=sLaIYHl3-wM
เพลงนี้มาจากเรื่องความฝันในหอแดง เคยลงเวอร์ชั่นอื่นมาแล้ว ลองฟังเวอร์ชั่นนี้บ้าง ชื่อเพลง"ฝังรอยบุปผา"


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 29 กรกฎาคม 2554, 00:47:45
มาฟังเพลง"ดอกมะลิ" หลายเวอร์ชั่นกัน เพลงนี้ถือเป็นเพลงพื้นบ้านที่คนจีนรู้จักกันดี แต่คนไทยคงไม่รู้จัก

http://www.youtube.com/watch?v=i6jo4EOG_o8

http://www.youtube.com/watch?v=c-GN2t_UYss

http://www.youtube.com/watch?v=o-wp-FI3YYU

http://www.youtube.com/watch?v=SSI1Sx_cWxw

http://www.youtube.com/watch?v=z8DKtT-_a7w


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 29 กรกฎาคม 2554, 17:27:28

สวัสดี.... ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน

ดอกมะลิ ในภาษาจีนออกเสียงว่าอะไรครับ?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 29 กรกฎาคม 2554, 17:36:53

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554, 16:52:15

ท่านจุ๊ง.......

พอจะมีข่าวเบื้องลึก หรือเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย เกี่ยวกับรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุในจีนหรือเปล่า?


อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554, 22:01:44
เห็นข่าวอยู่แว่บๆเหมือนกัน แต่ไม่ได้สนใจรายละเอียด เลยไม่รู้ โทษที

ถือเป็นเรื่องใหญ่... ขนาดผู้นำประเทศยังไปเยี่ยมคนเจ็บ,คารวะคนตาย เลยครับ.



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 29 กรกฎาคม 2554, 17:58:15
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 17:27:28

สวัสดี.... ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน

ดอกมะลิ ในภาษาจีนออกเสียงว่าอะไรครับ?


เพลง"ดอกมะลิ" ชื่อภาษาจีนว่า"ม่อลี่ฮวา" เดิมเป็นเพลงพื้นบ้านของมณฑลเจียงซู เพลงนี้เป็นการมอบดอกมะลิ แสดงถึงความเป็นมิตรให้แก่คนแปลกหน้า ตอนหลังแพร่หลายไปทั่วประเทศจีน และกลายเป็นที่ชาวจีนมอบมิตรภาพให้แก่ชาวต่างชาติทั่วไปและกระจายไปต่างแดน


อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 17:36:53

ถือเป็นเรื่องใหญ่... ขนาดผู้นำประเทศยังไปเยี่ยมคนเจ็บ,คารวะคนตาย เลยครับ.



นั่นแหละ หน้าที่ของผู้นำจีนแหละ ทุกครั้งที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ ท่านๆผู้นำจีนจะรู้โดยอัตโนมัติเลยว่า"งานเข้า"


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 29 กรกฎาคม 2554, 18:07:36

ขอบคุณ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 30 กรกฎาคม 2554, 12:16:31
ท่านแหลมถามเรื่องดอกมะลิก็ดีแล้ว ไปค้นในสารานุกรมจีน เห็นบอกว่าเป็นดอกไม้ประจำชาติฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเป็นดอกไม้ประจำเมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู และเมืองฝูโจว เมืองเอกมณฑลฮกเกี้ยน  ประเทศจีน

ดอกมะลินี้มีตำนานที่น่าประทับใจนะ ตำนานมี2กระแส ล้วนเกิดที่มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ตำนานแรก เป็นตำนานเกี่ยวกับชื่อคำว่า"ม่อลี่" ภาษาจีนเขียนว่า"茉莉" เป็นการออกเสียงคำพ้องกับคำว่า"末利" ซึ่งแปลว่านึกถึงผลประโยชน์เป็นสิ่งสุดท้าย ตำนานนี้เกิดในปลายราชวงศ์หมิงต่อเนื่องกับราชวงศชิง ก็คงราวสี่ห้าร้อยปีมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่ามีชายคนหนึ่งแซ่จ้าว อาศัยอยู่ที่เนินพยัคฆ์(ฝรั่งรู้จักในชื่อTiger Hill เป็นสถานท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู) ชอบปลูกแปลงดอกไม้ ชายคนนี้มีลูกชายอยู่3คน เมื่อถึงวัยชราก็แบ่งเนื้อที่ที่ใช้ปลูกชาให้กับลูกชายทั้ง3ทั่วหน้าโดยเท่าเทียมกัน แตยังไงไม่ทราบ ชายชราคนนี้แอบปักตอนกิ่งไม้ดอกหอมไว้ในพื้นที่ลูกชายคนโต เมื่อถึงเวลาไปเก็บใบชา ไปบ่มตามกรรมวิธี ก็ได้กลิ่นหอมทะแม่งๆปนอยู่ในกลิ่นชานี้ด้วย ลูกชายตนโตเดิมก็ไม่คิดอะไร เอาใบชาไปขายในตลาด คนซื้อไปกินแล้วน้ำชามีกลิ่นหอม ดื่มแล้วสดชื่น ดื่มแล้วก็ติดใจ สรุปแล้วก็ขายไปสต็อคไปอย่างรวดเร็ว ฝ่ายน้องชายอีก2คน เห็นแล้วก็ไม่ยอม สืบไปสืบมา อ้อ เพราะปลูกดอกไม้หอมนี่เอง เลยไปตุยกับพี่ชายคนโต ขอแบ่งเงินที่ขายได้มาบ้าง ฝ่ายพี่ชายก็ไม่ยอมซิ ทะเลาะกันถึงขั้นจะไปถอนต้นไม้ดอกที่ปลูกในแปลงพี่ชาย ตกลงกันไม่ได้เลยไปหาผู้ใหญ่บ้านมาตัดสิน ฝ่ายผู้ใหญ่บ้านได้ยินเรื่องราวความเป็นไปเป็นมาแล้ว ก็ถอนใจบอกว่าเจ้าทั้งสามหารู้ไม่ว่าเทพเจ้าแห่งสมบัติมาเยือนแล้ว ยังจะไล่ออกไปอีก ขืนไปตัดต้นไม้ สูญเสียประโยชน์ด้วยกันทุกคน ทุกคนไม่ควรเห็นแก่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าด้วยเงินที่ขายได้เท่านี้ แต่ควรสามัคคี ขยายการปลูกดอกไม้ชนิดนี้ไปครบทุกแปลง ทุกคนก็จะได้ผลประโยชน์ทั่วหน้ากัน 3พี่น้องได้ยินก็เห็นด้วย เนืองจากดอกไม้ชนิดนี้ไม่มีชื่อ เลยเรียกชื่อเพื่อตักเตือนตัวเองว่า"末利"ปลว่านึกถึงผลประโยชน์เป็นสิ่งสุดท้าย แต่เนื่องจากภาษาจีน พวกดอกไม้จะเป็นพืชประเภทเดียวกับหญ้า เลยเพิ่มรากตัวอักษรตัวหญ้าเข้าไป กลายเป็น"茉莉"

ส่วนอีกตำนานหนึ่ง เกี่ยวกับชื่อเรียกอีกอย่างของดอกมะลิ อ่านว่า"เซียงหน" แปลว่าวิญญาณหอม ไว้บิ๊วอารมณ์แล้ว จะมาเล่าต่อ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 30 กรกฎาคม 2554, 16:55:21

บิ๊วอารมณ์เสร็จรึยัง?....ท่านจุ๊ง

อยากฟังตำนานดอกมะลิต่อ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 30 กรกฎาคม 2554, 18:43:00
ใจเย็นๆท่านแหลม รอเรียกแขกก่อน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 30 กรกฎาคม 2554, 18:49:27

เปิดรับสมัครคนเชียร์แขกเลยดีไหม?...ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 31 กรกฎาคม 2554, 10:12:35
ตอนเช้าอากาศดีมาบรรเลงตำนานดอกมะลิท่อนที่สองต่อ

เรื่องนี้จริงๆเป็นพล็อตนิยายรักน้ำเน่าที่นิยมเขียนหากินกัน ข่าวว่าสมัยราชวงศ์ถังที่เมืองซูโจว มีหญิงงามเมืองชื่อเจินเหนียง  เดิมเป็นลูกสาวคหบดีเกิดที่เมืองฉางอาน เป็นคนเฉลียวฉลาด คล่องแคล่วว่องไว มาแต่เด็ก เก่งในเรื่อวะบำรำฟ้อน ถนัดในเรื่องพิณ หมากรุก ลายพู่กัน และการวาดภาพ พอดีเกิดกลียุค ก็เลยย้ายตามพ่อแม่มาที่เมืองซูโจว ถูกหลอกไปทำงานที่หอเขียว เนื่องจากเจินเหนียงเพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติและความสามารถ ชื่อเสียงเลยลือเลื่อง แต่เธอก็ขายเฉพาะศิลปะ ไม่ขายตัว ครองตัวเป็นกุลสตรี ในเมืองซูโจวมีชายคนหนึ่งชื่อหวังเหมิงเสียง หนุ่มหวังคนนี้ติดใจเจินเหนียง ก็อยากจะได้มาเป็นคู่ครอง จึงไปสู่ขอกับพ่อแม่เจินเหนียง ฝ่ายเจินเหนียงเดิมมีคู่ครองที่หมั้นหมายกันมาแล้วแต่สมัยเด็ก ก็เลยต้องปฏิเสธไป ฝ่ายหนุ่มหวังก็ไม่ละความพยายาม พยายามติดต่อแม่เล้าให้ช่วยเกลี้ยกล่อม ขอนอนด้วยคน ฝ่ายเจินเหนียงก็ลำบากใจ คิดไม่ตกเลยผูกคอตาย หนุ่มหวังท่าทางจะรักจริง เสียใจมาก แล้วก็ลงทุนจัดงานศพ ซื้อที่ฮวงซุ้ยฝังศพที่เนินพยัคฆ์ และปลูกไม้ดอกบนหลุมฝังศพ คนทั่วไปเรียกว่า"สุสานบุปผชาติ" พร้อมทังสาบานว่าจะเป็นโสดจนตาย ตำนานเล่าว่าดอกมะลิเดิมไม่มีกลิ่นหอม หลังจากเจินเหนียงตายแล้วถึงจะมีกลิ่นหอม จึงเรียกดอกมะลิอีกชื่อหนึ่งว่า"วิญญาณหอม" ชากลิ่นมะลิ ก็เรียกว่าชาวิญญาณหอม


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 31 กรกฎาคม 2554, 10:20:24

สวัสดียามสาย.....ท่านจุ๊ง

ตามอ่านด้วยความขอบคุณ




(พิสูจน์อักษรก่อนโพสท์หน่อยก็ดีนะท่าน... อารมณ์คนอ่านจะได้ไม่สะดุด)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 03 สิงหาคม 2554, 00:27:39

สวัสดียามดึก.....ท่านจุ๊ง

เงียบหายไป 2 วันแล้ว......


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 04 สิงหาคม 2554, 08:25:08
...ตามอ่านอยู่ค่ะ...น้องจุ๊ง...แต่ไม่ได้เข้ามาตอบค่ะ...

...เรื่องดอกมะลิ...ถ้าใครรู้ตำนานว่าเป็นมาแบบนี้...คงรู้สึกขนลุกไม่ได้เหมือนกันนะคะ...

...เหมือนกับดอกซ่อนกลิ่นที่สีขาวๆและใช้เฉพาะงานศพ...ที่มีกลิ่นแรงมากๆ...

...แต่ดอกมะลิ...สำหรับคนไทยแล้ว...ให้ความรู้สึกที่ดีค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 04 สิงหาคม 2554, 16:23:29

สวัสดียามบ่าย.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

รอครับ....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 สิงหาคม 2554, 16:01:26
สวัสดีพี่น้องทุกท่าน
หลายหน้าไปหลายวัน วันนี้เปิดทีวีจีน เห็นเพลงนี้น่าฟังดี เลยเอามาฝาก เพลงนี้ชื่อว่า "คืนวิวาห์พาสุขสม" เห็นว่าเป็นเพลงประกอบในซี่รี่ย์หนังจีนเรื่องหนึ่งด้วยนะ


http://www.youtube.com/watch?v=4IlbTvykYR0


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 สิงหาคม 2554, 21:38:09

สวัสดียามค่ำครับ.....ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน

ไม่แปลเนื้อหาเพลงให้พี่น้องรู้สักหน่อยหรือครับ...ท่านจุ๊ง.


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 สิงหาคม 2554, 10:17:51
เพลง "คืนวิวาห์พาสุขสม" เป็นเพลงที่น่าฟังเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายน่าประทับใจอะไร คืนวันก่อนตื่นมาตอนดึก คิดถึงใบหน้าของญาติผู้ซึ่งได้ล่วงลับไปแล้ว เลยพลอยนึกถึง "ห้วงแห่งประวัติศาสตร์" ซึ่งเป็นเพลงประกอบท้ายซีรี่ย์เรื่องสามก๊กขึ้นมาได้ อารมณ์นั้นเลย ใบหน้าบรรดาญาติผู้ใหญ่ ปะป๊า คุณลุง คุณป้า พี่ๆ บางท่านก็เป็นแฟ้มอยู่ในบันทึกความทรงจำ กลายเป็นประวัติศาสตร์ส่วนบุคคลของผมไปเรียบร้อยแล้ว ใครจะนึกถึงท่านๆเหล่านี้ก็ลองฟังเพลงนี้ดูนะ แปลให้เลย เนื้อเพลงเอาตัวหนังสือให้ใหญ่ไปเลย ท่านแหลมบอกสายตาไม่ดี เลยกลัวท่านจะเห็นไม่ชัด

http://www.youtube.com/watch?v=o0fu0E9mgjc

历史的天空
ห้วงแห่งประวัติศาตร์
  
暗淡了刀光剑影,远去了鼓角铮鸣。
ประกายหอกคมดาบสร่างซาไปแล้ว ห่างไกลไปเสียงกลองรบและแตรเป่า

眼前飞扬着一个个鲜活的面容。湮没了黄尘古道,
ข้างหน้าปรากฏแต่ละใบหน้าตัวเป็นๆโลดเร่าอยู่  กลบร่องรอยฝุ่นที่จางหายไป

荒芜了峰火边城,岁月啊你带不走那一串串熟悉的姓名。
ชายแดนสนามรบถูกทิ้งรกร้าง  กาลเวลาเอย  แกพรากเอาไปชื่อคนเก่าๆที่คุ้นเคยไปไม่ได้หรอก

兴亡谁人定啊,盛衰岂无凭啊。
การก่อเกิดหรือการดับใครกันจะกำหนดได้  ความรุ่งโรจน์หรือร่วงโรยไหนเลยจะไม่มีที่มา

一页风云散哪,变幻了时空。
มรสุมเมื่อซาลง สภาพอากาศก็เปลี่ยนไป

聚散皆是缘哪,离合总关情啊,
การอยู่ร่วมกันหรือการแยกย้ายล้วนมาจากบุพกรรม  การรวมหรือแยกออกยังไงก็แล้วแต่น้ำใจที่มีต่อกัน

担当生前事啊,何计生后评。
ยามมีชีวิตอยู่ทำให้ดีที่สุด ห่วงอะไรใครจะว่ายังไงหลังเราตาย

长江有意化作泪,长江有情起歌声。
ลำนำแยงซีเกียงตั้งใจจริงที่จะหลั่งน้ำตาให้ และท่านก็มีน้ำใจที่จะขับลำนำเพลงให้ฟัง

历史的天空闪烁几颗星,人间一段英雄气在驰骋纵横
ห้วงแห่งประวัติศาสตร์ระยิบด้วยดาวหลายดวง โลกมนุษย์มีความฮึกเหิมของวีรบุรุษที่โลดเร่าและโลดแล่นอยู่เป็นระยะ





หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 สิงหาคม 2554, 10:52:24

ลึกจริงๆ...

ขอบคุณ...ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 10 สิงหาคม 2554, 08:49:02
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 06 สิงหาคม 2554, 16:01:26
สวัสดีพี่น้องทุกท่าน
หลายหน้าไปหลายวัน วันนี้เปิดทีวีจีน เห็นเพลงนี้น่าฟังดี เลยเอามาฝาก เพลงนี้ชื่อว่า "คืนวิวาห์พาสุขสม" เห็นว่าเป็นเพลงประกอบในซี่รี่ย์หนังจีนเรื่องหนึ่งด้วยนะ


http://www.youtube.com/watch?v=4IlbTvykYR0


...สวัสดีค่ะ...น้องจุ๊ง...น้องแหลม...

...เพลงนี้เพราะดีค่ะ...

...ฟังแล้วมีความสุขค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 10 สิงหาคม 2554, 10:48:59
สวัสดีครับพี่ตู่
พอแปลเพลง"ห้วงแห่งประวัติศาสตร์" ทำให้ผมนึกถึงบทกลอนจีนที่ผมชอบเป็นชีวิตจิตใจของโจโฉ จริงๆก็เคยโพสต์ลงในกระทู้นานแล้ว แต่ไม่ได้สร้างบรรยากาศด้วยเพลงประกอบ เลยขุดขึ้นมาโพสต์ใหม่ พูดถึงโจโฉเนี่ย ถือเป็นตัวละครในเรื่องสามก๊กที่ผมชอบที่สุด เป็นคนรักครอบครัว ตอนไปรบครั้งหนึ่ง ลูกชายคนโตชื่อโจอ๋อง(ในภาษาสามก๊กฉบับแปลไทย)มั้ง โดนฆ่าตาย โจโฉเสียใจมาก แต่ที่เสียใจมากกว่าคือเมียโจโฉที่สูญเสียลูกชาย ขนาดไม่ยอมให้อภัยโจโฉ แอบหนีกลับไปอยู่บ้านพ่อ โจโฉพยายามไปง้อถึง3ครั้ง(คนจีนถือว่าทำอะไรไม่เกิน3 เกินกว่า3ยอมรับไม่ได้) ครั้งสุดท้าย โจโฉถอนใจบบอกว่าเมียเอ๋ย ดูท่าวาสนาของเราคงสิ้นสุดกันแค่นี้ เธอเองก็ยังสาวอยู่ หาคู่แต่งงานใหม่ได้นะ ไม่ว่ากัน ฉันไปล่ะ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครกล้าขอเมียโจโฉแต่งงาน ก็ใครมันจะกล้าไปกระตุกหนวดเสือได้ล่ะ จนกระทั่งโจโฉตาย ก็บอกพวกเมียเล็กเมียน้อยให้รับเงินแล้วแยกย้ายไปแต่งงานใหม่กัน โฉไม่อยู่ดูแลพวกเธอแล้ว พวกเธออยู่ไปก็ลำบากเปล่า จากนั้นก็บอกคนใกล้ชิดว่าทั้งชีวิตตอนนี้ไม่มีอะไรตะขิดตะขวงในใจอีกแล้ว นอกเสียจากว่าตายไปแล้วไปพบโจอ๋อง ไม่รู้จะบอกกับลูกว่าไงว่าแม่ไปไหน คิดดู ความคิดของโจโฉกระทั่งจะตายยังถูกพันกับครอบครัวและลูกเมีย
เอาล่ะ มาพบบทกวีอมตะ บทกลอนที่นักเรียนมัธยมจีนต้องท่องให้ได้ทุกคน ถ้าหวังว่าจะสอบได้


http://www.youtube.com/watch?v=qNMPlnkyZLM

短歌行
  
  对酒当歌,人生几何?
  譬如朝露,去日苦多。
  慨当以慷,忧思难忘。
  何以解忧?唯有杜康。
  青青子衿,悠悠我心。
  但为君故,沈吟至今。
  呦呦鹿鸣,食野之苹。
  我有嘉宾,鼓瑟吹笙。
  皎皎如月,何时可掇?
  忧从中来,不可断绝。
  越陌度阡,枉用相存。
  契阔谈宴,心念旧恩。
  月明星稀,乌鹊南飞,
  绕树三匝,何枝可依?
  山不厌高,海不厌深。
  周公吐哺,天下归心。

(ลำนำจริยาขนาดย่อม)

ดื่มเหล้าพร้อมเหล่าเพื่อน ผู้มาเยือนเพื่อนชีวา
ชีวิตเรานี่หนา จะหามีซักกี่หน

ดั่งน้ำค้างพราวตา เวลาตรู่อยู่ไม่ทน
อนาถชีวิตคน หนทางช่างลำบากนัก

ถึงแม้จะอาจหาญ คึกทะยานมั่นหาญหัก
ยังเรื่องกังวลหนัก สลักใจไม่อาจลืม

อย่างนี้ทำไงได้ ถึงทำใจให้เป็นปลื้ม
เอ้าเพื่อนเรามาดื่ม เพื่อคลายเหงาที่เศร้าใจ

เหล่าพวกหนอนตำรา   คอยกวนข้าให้เขวไขว้
คอยรบกวนจิตใจ ให้ข้ามีที่รำคาญ

ยังแต่เจ้าชีวิต ที่ข้าคิดเกรงทัยท่าน  
เพื่อความสมานมั่น ฉันเลยเฉยจนถึงบัดนี้

แว่วแว่วเสียงเก้งกวาง ร้องเสียงกร่างดังอึงมี่
เคี้ยวหญ้าในไพรี มันช่างมีความสุขนัก

ข้ามีแขกมาแล้ว ซอปี่แก้วกลองตีหนัก
ดนตรีมีพร้อมพรัก ขับขานให้ใจเบิกบาน

พระจันทร์อันสกาว ส่องแสงพราวพร่างบนลาน
ไฉนใจข้าหาญ อยากเก็บมันมาแนบไว้

พลันเกิดความกังวล อันล้นพ้นขึ้นในใจ
มิอาจระงับได้ ให้หมองหม่นเหลือทนนัก

ฝ่าเขาลำเนาไพร ที่ไกลๆไม่หยุดพัก
แต่ผลที่ได้มัก ไม่คุ้มกับที่คาดหวัง

คุยกับคนรู้ใจ เหล้าในไหเกลี้ยงเป็นลัง  
แต่ใจเราก็ยัง รำลึกถึงคนแก่เก่า

ในคืนที่จันทร์แจ่ม ไร้ดาวแซมแจ่มใจเรา
นกกาพลันร้อนเร่า เฝ้าบินไปในทิศใต้

เจอไม้ใหญ่วนเวียน เฝ้าแต่เพียรหากิ่งไม้
วนแล้วสามรอบไซร้ ไม่มีที่จะอาศัย

ขุนเขาทะยานเมฆ ยิ่งสรรเสกยิ่งสูงใหญ่
ทะเลลึกสุดใจ ใครหยั่งได้ให้บาทเดียว

โจวกงกินข้าวอยู่ รู้ใครมาพ่นข้าวเชียว
ทำได้ไม่ลดเลี้ยว ทั้งโลกหล้ามาสยบ

หมายเหตุ
โจวกงในที่นี้หมายถึงจีต้าน เป็นลูกชายคนที่สีของจิวบุ๋นอ๋อง เป็นน้องชายจิวบู๊อ๋อง ช่วยจิวบู๊อ๋องในการพิชิตติ้วอ๋อง กษัตริย์องค์สุดท้ายในราชวงศ์ซาง และสถาปนาราชวงศ์โจว ตามบันทึกประวัติศาสตร์ โจวกงเป็นคนที่ชอบหาคนมีความรู้ความสามารถเรียกว่า  (มองหาคนดีราวกับกระหายน้ำ)  โจวกงกลัวว่าจะสูญเสียคนดีของแผ่นดิน มีหลายครั้ง เวลามีคนมีความสามารถมาหา ยังสระผมอยู่ ก็รีบจับผมที่ยังไม่ได้หวีออกมาต้อนรับ บางทีรับทานข้าวอยู่ ได้ยินว่ามีแขกมา ก็รีบพ่นข้าวที่ยังไม่เคี้ยวออกมาต้อนรับแขกเหรื่อ  คำว่า(โจวกงพ่นข้าว) เลยกลายเป็น成语(คำสำเร็จรูปเชิงสุภาษิตเปรียบเปรย)  ที่แปลว่ากระตือรือร้นในการต้อนรับแขกเหรื่อ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 10 สิงหาคม 2554, 11:11:42

สวัสดียามสายครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

มาฟัง.... โจโฉรำพัน ครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 สิงหาคม 2554, 20:31:01

สวัสดียามค่ำครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

มีภาพวาดสวยๆของจิตรกรชาวจีนที่เหมาะกับเทศกาลมาฝากครับ....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 สิงหาคม 2554, 20:31:16

 " แม่ "

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd339830_4099043_383217_8983844photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd726079_5572319_928250_5735296photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 สิงหาคม 2554, 20:31:27

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd639403_9554008_2754554_3646044photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd677241_1915479_580625_1144511photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 สิงหาคม 2554, 20:31:35

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd773373_2839414_4542870_8374549photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd993060_8453879_1468903_2820636photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 สิงหาคม 2554, 20:31:44

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd850266_9439529_6616644_8487167photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd209395_8625910_6071728_3911270photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 สิงหาคม 2554, 20:31:55

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd594244_3698261_6820296_1598701photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd260188_7276290_5925481_538827photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 15 สิงหาคม 2554, 19:29:41
เอาเพลงบรรเลงด้วยพิณโบราณมาให้ฟังประกอบรูปให้ด้วยเลย

http://www.youtube.com/watch?v=nDt2NAwRtvM
เพลงมนตราแห่งผู่อัน

http://www.youtube.com/watch?v=HYtbXnLnkPA
เพลงดอกเหมย3ชั้น

http://www.youtube.com/watch?v=s_1W6C6SuBk
เพลงห่านป่าร่อนผืนทราย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 สิงหาคม 2554, 22:29:09

ฟัง "กู่ฉิน" แล้วเหมือนหลงเข้าไปในอดีตเลย..... ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 16 สิงหาคม 2554, 10:32:29
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 สิงหาคม 2554, 20:31:16

 " แม่ "

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd339830_4099043_383217_8983844photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd726079_5572319_928250_5735296photo.jpg)

...ภาพวาดสวยดีค่ะ...น้องแหลม...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 16 สิงหาคม 2554, 10:34:44
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 15 สิงหาคม 2554, 19:29:41
เอาเพลงบรรเลงด้วยพิณโบราณมาให้ฟังประกอบรูปให้ด้วยเลย

http://www.youtube.com/watch?v=nDt2NAwRtvM
เพลงมนตราแห่งผู่อัน

http://www.youtube.com/watch?v=HYtbXnLnkPA
เพลงดอกเหมย3ชั้น

http://www.youtube.com/watch?v=s_1W6C6SuBk
เพลงห่านป่าร่อนผืนทราย


...เพราะมากค่ะ...น้องจุ๊ง...

...ฟังแล้วเย็นๆดีค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 16 สิงหาคม 2554, 16:06:24

สวัสดียามเย็นครับ...... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 16 สิงหาคม 2554, 16:07:42
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 16 สิงหาคม 2554, 10:32:29
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 สิงหาคม 2554, 20:31:16

 " แม่ "

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd339830_4099043_383217_8983844photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd726079_5572319_928250_5735296photo.jpg)

...ภาพวาดสวยดีค่ะ...น้องแหลม...

ยังมีอีกเยอะเลยครับ...พี่ตู่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 17 สิงหาคม 2554, 09:09:09
ถ้าพี่ตู่ชอบงั้นผมเอามาให้อีก

http://www.youtube.com/watch?v=ni5kxTkMHHA
เพลงชมตลาด

http://www.youtube.com/watch?v=A5i4O6DQmXI
เพลงประกาศิตขุนพล


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 17 สิงหาคม 2554, 09:15:17
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 16 สิงหาคม 2554, 16:07:42
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 16 สิงหาคม 2554, 10:32:29
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 สิงหาคม 2554, 20:31:16

 " แม่ "

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd339830_4099043_383217_8983844photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd726079_5572319_928250_5735296photo.jpg)

...ภาพวาดสวยดีค่ะ...น้องแหลม...

ยังมีอีกเยอะเลยครับ...พี่ตู่

...เอามาลงอีกสิคะ...น้องแหลม...

...ภาพวาดจีนเส้นสายอ่อนช้อย...

...ภาพวาดสีน้ำก็สวยนะคะ...ดูแล้วเบาๆสบายๆดีค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 17 สิงหาคม 2554, 09:22:23
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 17 สิงหาคม 2554, 09:09:09
ถ้าพี่ตู่ชอบงั้นผมเอามาให้อีก

http://www.youtube.com/watch?v=ni5kxTkMHHA
เพลงชมตลาด

http://www.youtube.com/watch?v=A5i4O6DQmXI
เพลงประกาศิตขุนพล

...เพลงชมตลาดมีเสียงขลุ่ยนำ...เพราะค่ะ...

...พี่ตู่กำลังหาความแตกต่างระหว่างเพลงจีนกับเพลงไทยเดิมค่ะ...

...เพลงปะกาศิตขุนพล...ลักษณะการตีขิมเหมือนของไทยเปี๊ยบเลยค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 17 สิงหาคม 2554, 12:24:04

สวัสดียามเที่ยงครับ.....ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 17 สิงหาคม 2554, 12:37:07
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 17 สิงหาคม 2554, 09:22:23
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 17 สิงหาคม 2554, 09:09:09
ถ้าพี่ตู่ชอบงั้นผมเอามาให้อีก

http://www.youtube.com/watch?v=ni5kxTkMHHA
เพลงชมตลาด

http://www.youtube.com/watch?v=A5i4O6DQmXI
เพลงประกาศิตขุนพล

...เพลงชมตลาดมีเสียงขลุ่ยนำ...เพราะค่ะ...

...พี่ตู่กำลังหาความแตกต่างระหว่างเพลงจีนกับเพลงไทยเดิมค่ะ...

...เพลงปะกาศิตขุนพล...ลักษณะการตีขิมเหมือนของไทยเปี๊ยบเลยค่ะ...

เพลงชมตลาด.... ไม่คุ้นหูเท่าไร

แต่...เพลงประกาศิตขุนพล ทั้งพริ้ว, เร้าใจ, ไพเราะ และคุ้นชิน
เป็นเพลงที่ภาพยนต์เรื่อง...หวงเฟยหง นำมาใช้เป็นเพลงเอกประกอบเรื่อง.

ขอบคุณท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 17 สิงหาคม 2554, 12:47:39

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 17 สิงหาคม 2554, 09:15:17
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 16 สิงหาคม 2554, 16:07:42
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 16 สิงหาคม 2554, 10:32:29
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 สิงหาคม 2554, 20:31:16

 " แม่ "

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd339830_4099043_383217_8983844photo.jpg)

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd726079_5572319_928250_5735296photo.jpg)

...ภาพวาดสวยดีค่ะ...น้องแหลม...

ยังมีอีกเยอะเลยครับ...พี่ตู่

...เอามาลงอีกสิคะ...น้องแหลม...

...ภาพวาดจีนเส้นสายอ่อนช้อย...

...ภาพวาดสีน้ำก็สวยนะคะ...ดูแล้วเบาๆสบายๆดีค่ะ...

งั้นคืนนี้... กลับบ้านแล้วจะลงให้ชมอีกหน่อยละกันครับ พี่ตู่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 17 สิงหาคม 2554, 17:12:02
เอาเพลงจากซีรี่ย์เรื่องสามก๊กไปฟังอีกเพลงนึงนะครับ เพลงนี้ก็ถือเป็นเพลงที่ผมชอบอีกเพลง และก็ถือโอกาสแปลเนื้อเพลงให้ร่วมดื่มด่ำกับความหมายของเพลงไปด้วยนะครับ เพลงนี้บางกระแสก บอกว่าชื่อเพลงสรรเสริญเตียวเสี้ยน บางกระแสก็บอกว่าชื่อเพลงเตียวเสี้ยนล่องหายไปกับสายลม ผมเลยตัดปัญหาดื้อๆสรุปว่าชื่อเพลงเตียวเสี้ยนละกัน อาศัยสูตรเอามาสมาธและตัดทอนน่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=joFXd204fyk


*貂蝉已随清风去*
เพลงเตียวเสี้ยน


说什么郿坞春深,
ไหนบอกว่าเมืองเหมยอูอบอุ่น

全不晓天意人心?
ช่างไม่รู้เลยถึงลิขิตฟ้าและการเข้าถึงใจคน

受禅台反成了断头台,
ลานมอบราชบังลังก์กลายเป็นลานบั่นเศียร

帝王梦何处寻?
ความฝันเป็นจอมจักรพรรดิหาที่ไหนได้ล่ะ

远离了富贵繁嚣地,
เดินห่างไกลไปจากสถานที่รุ่งเรืองศิวิไลซ์

告别了龙争虎斗门,
โบกมือลากลุ่มพวกฟาดฟันช่วงชิงอำนาจกัน

辜负了锦绣年华,
เสียดายนักกับวัยสาวที่สดใส

错过了豆蔻青春,
พลาดแล้วกับวัยแรกแย้ม

为报答司徒大义深恩,
เพื่อตอบแทนพระคุณในน้ำใจของท่านสมุหกลาโหม

拼舍这如花似玉身!
ยอมสละร่างกายราวบุปผาแรกแย้มราวหยกเนื้อดี

从今后,再不见儿的身影,
นับแต่นี้ไป จะไม่เห็นเงา

也再不闻儿的声音!
และก็จะไม่ได้ยินเสียงของหนูอีกแล้ว

貂禅已随着那清风去,
เตียวเสี้ยนได้ล่องลอยไปตามสายลม

化作了一片白云...
กลับกลายเป็นเมฆสีขาวที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า

貂禅已随着那清风去,
เตียวเสี้ยนได้ล่องลอยไปตามสายลม

化作了一片白云...
กลับกลายเป็นเมฆสีขาวที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 00:34:16

เตียวเสี้ยน

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd625015_1333508_7067784_201918photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 00:38:42

 " แม่ " (ชุด.2)


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd311567_1168803_4064504_6041637photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 00:38:55

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd937124_6237220_3295907_7825698photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 00:39:06

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd424530_4779926_4107458_9678488photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 00:39:19

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd550686_6709607_3879199_1191444photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 00:39:29

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd111046_4769528_4026370_2395097photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 00:39:41

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd806082_2840631_1694227_7087694photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 00:39:52

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd620145_9996007_4794410_6299079photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 00:40:02

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd726573_8065448_7412166_2961310photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 18 สิงหาคม 2554, 09:39:39
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 17 สิงหาคม 2554, 17:12:02
เอาเพลงจากซีรี่ย์เรื่องสามก๊กไปฟังอีกเพลงนึงนะครับ เพลงนี้ก็ถือเป็นเพลงที่ผมชอบอีกเพลง และก็ถือโอกาสแปลเนื้อเพลงให้ร่วมดื่มด่ำกับความหมายของเพลงไปด้วยนะครับ เพลงนี้บางกระแสก บอกว่าชื่อเพลงสรรเสริญเตียวเสี้ยน บางกระแสก็บอกว่าชื่อเพลงเตียวเสี้ยนล่องหายไปกับสายลม ผมเลยตัดปัญหาดื้อๆสรุปว่าชื่อเพลงเตียวเสี้ยนละกัน อาศัยสูตรเอามาสมาธและตัดทอนน่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=joFXd204fyk


*貂蝉已随清风去*
เพลงเตียวเสี้ยน


说什么郿坞春深,
ไหนบอกว่าเมืองเหมยอูอบอุ่น

全不晓天意人心?
ช่างไม่รู้เลยถึงลิขิตฟ้าและการเข้าถึงใจคน

受禅台反成了断头台,
ลานมอบราชบังลังก์กลายเป็นลานบั่นเศียร

帝王梦何处寻?
ความฝันเป็นจอมจักรพรรดิหาที่ไหนได้ล่ะ

远离了富贵繁嚣地,
เดินห่างไกลไปจากสถานที่รุ่งเรืองศิวิไลซ์

告别了龙争虎斗门,
โบกมือลากลุ่มพวกฟาดฟันช่วงชิงอำนาจกัน

辜负了锦绣年华,
เสียดายนักกับวัยสาวที่สดใส

错过了豆蔻青春,
พลาดแล้วกับวัยแรกแย้ม

为报答司徒大义深恩,
เพื่อตอบแทนพระคุณในน้ำใจของท่านสมุหกลาโหม

拼舍这如花似玉身!
ยอมสละร่างกายราวบุปผาแรกแย้มราวหยกเนื้อดี

从今后,再不见儿的身影,
นับแต่นี้ไป จะไม่เห็นเงา

也再不闻儿的声音!
และก็จะไม่ได้ยินเสียงของหนูอีกแล้ว

貂禅已随着那清风去,
เตียวเสี้ยนได้ล่องลอยไปตามสายลม

化作了一片白云...
กลับกลายเป็นเมฆสีขาวที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า

貂禅已随着那清风去,
เตียวเสี้ยนได้ล่องลอยไปตามสายลม

化作了一片白云...
กลับกลายเป็นเมฆสีขาวที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า



...นางเตียวเสี้ยนในวีดิโอสวยจังเลยค่ะ...

...นางเตียวเสี้ยนใช่มั้ยคะ...ที่ได้สามีทั้งพ่อและลูกค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 18 สิงหาคม 2554, 09:40:49
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 18 สิงหาคม 2554, 00:34:16

เตียวเสี้ยน

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd625015_1333508_7067784_201918photo.jpg)

...รูปนี้เหมือนคนที่แสดงในเรื่องสามก๊กเลยค่ะ...

...ขอบคุณสำหรับรูปวาดทั้งหมดค่ะ...น้องแหลม...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 18 สิงหาคม 2554, 19:19:36
วันก่อนเอาเพลงบรรเลงด้วยพิณโบราณหรือกู่ฉิน อ่านเจอในเว็บไซด์ เห็นเขาบอกว่ากู่ฉินที่ประมูลทำลายสถิติโลก น่าจะราว58ล้านหยวนนะ ก็ไม่มากเท่าไรหรอก ก็ราวๆ 290ล้านบาทเอง

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd676232_2555683_5405737_2162593photo.jpg)


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd827401_4001608_1522123_8650708photo.jpg)



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 23:43:27
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 18 สิงหาคม 2554, 19:19:36
วันก่อนเอาเพลงบรรเลงด้วยพิณโบราณหรือกู่ฉิน อ่านเจอในเว็บไซด์ เห็นเขาบอกว่ากู่ฉินที่ประมูลทำลายสถิติโลก น่าจะราว58ล้านหยวนนะ ก็ไม่มากเท่าไรหรอก ก็ราวๆ 290ล้านบาทเอง

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd676232_2555683_5405737_2162593photo.jpg)


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd827401_4001608_1522123_8650708photo.jpg)



ไม่มีรายละเอียดของกู่ฉินนี้หรือครับ..... ท่านจุ๊ง

อยากรู้จริงๆว่า..... ทำไมราคาถึงสูงขนาดนั้น?

ของพระเจ้าถังไทจง หรือ เฉียนหลงฮ่องเต้ หรือไงกันท่าน....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 18 สิงหาคม 2554, 23:44:44
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 18 สิงหาคม 2554, 09:40:49
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 18 สิงหาคม 2554, 00:34:16

เตียวเสี้ยน

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd625015_1333508_7067784_201918photo.jpg)

...รูปนี้เหมือนคนที่แสดงในเรื่องสามก๊กเลยค่ะ...

...ขอบคุณสำหรับรูปวาดทั้งหมดค่ะ...น้องแหลม...

ครับพี่...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 สิงหาคม 2554, 09:30:56
ท่านแหลมทายถูกไปครึ่งหนึ่งแล้วครับท่าน กู่ฉินรุ่นนี้เรียกว่า"กู่ฉินฉบับใบตอง" เป็นกู่ฉินตกทอดมาจากสมัยราชวงศ์หมิงตอนปลาย จักรพรรดิเฉียงหลงโปรดปรานและเคยใช้ทรงดนตรีเป็นประจำ เหตุประมูลเกิดที่เมืองซูโจว ใกล้ๆเซี่ยงไฮ้ เมือวันที่ 15 พ.ย.2010 นี่เอง

อืม ครั้งก่อนเคยคุยเรื่อง"โศลกเจ็ดก้าว" บังเอิญไปพบในยูทูป เลยเอาเพลงมาฝาก


http://www.youtube.com/watch?v=8CVrWbG83RM


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 19 สิงหาคม 2554, 16:21:59
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 19 สิงหาคม 2554, 09:30:56
ท่านแหลมทายถูกไปครึ่งหนึ่งแล้วครับท่าน กู่ฉินรุ่นนี้เรียกว่า"กู่ฉินฉบับใบตอง" เป็นกู่ฉินตกทอดมาจากสมัยราชวงศ์หมิงตอนปลาย จักรพรรดิเฉียงหลงโปรดปรานและเคยใช้ทรงดนตรีเป็นประจำ เหตุประมูลเกิดที่เมืองซูโจว ใกล้ๆเซี่ยงไฮ้ เมือวันที่ 15 พ.ย.2010 นี่เอง

อืม ครั้งก่อนเคยคุยเรื่อง"โศลกเจ็ดก้าว" บังเอิญไปพบในยูทูป เลยเอาเพลงมาฝาก


http://www.youtube.com/watch?v=8CVrWbG83RM


แปลกใจจัง..... หากกู่ฉินเป็นของจักรพรรดิเฉียงหลงจริง ทำไมรัฐบาลจีนจึงไม่ยึดเก็บไว้เป็นสมบัติชาติ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 สิงหาคม 2554, 18:28:19
ท่านแหลมค่อยๆคิดละกัน ระหว่างนี้ฟังเพลงกู่ฉินไปพลางๆก่อน กู่ฉินนี่มีประวัติมาร่วม3000ปีแล้วนะ ถือเป็นมรดกตกทอดอันล้ำค่าของชาวจีนเลยเชียวหล่ะ เพลงที่สองเห็นว่าเป็นเพลงของชาวเต๋า ลองฟังดูนะ


http://www.youtube.com/watch?v=7C9iMyjlFHk

http://www.youtube.com/watch?v=r8miKsqJaU8


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 19 สิงหาคม 2554, 22:00:20

ท่านจุ๊ง...

เรื่องกู่ฉินจักรพรรดิ...คิดหาเหตุผลไม่ได้เลย

หรือ..... เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือเหตุผล?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 19 สิงหาคม 2554, 22:11:08

อยากให้ทุกท่านได้ชมครับ.....


Erhu Solo " Horse Racing " by 8 years old young lady

http://www.youtube.com/v/lcFfqmGVoLU


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 สิงหาคม 2554, 23:37:33
ท่านแหลมวันนี้อยู่ดึกนะ มาฟังเพลงจากกู่เจิงบ้าง คนไทยมักจะชอบเสียงกู่เจิงนะ

http://www.youtube.com/watch?v=cUHKzNvQe7U
เพลงอีกาหน้าหนาวเล่นน้ำ

http://www.youtube.com/watch?v=PXdxp__J6UY
เพลงชำระใจท่ามกลางหมู่เมฆกับผืนน้ำ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 19 สิงหาคม 2554, 23:43:00

ส่วนใหญ่ก็อยู่ดึกประจำละครับ.....ท่านจุ๊ง

คนไทยมีความคุ้นชินกับเครื่องดนตรีกู่เจิงมาก..... ข่าวในพระราชสำนักก็เห็นบ่อยๆ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 สิงหาคม 2554, 19:24:38
มาฟังเพลงสไตล์แซกโซโฟนบ้าง เอาเพลงดอกมะลิ บรรเลงโดยเคนนี่จี ราชาแซกไปเลย


http://www.youtube.com/watch?v=zkMrquFzTLw

http://www.youtube.com/watch?v=kgEviIgWBxM


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 23 สิงหาคม 2554, 08:52:58
สวัสดีตอนเช้าครับ
วันนี้เอาเพลงของโจวเสวียน(ราชินีเพลงยุคสมัยปี1930)มาฝาก เธอจากโลกนี้ไปเมื่อปี1957 ก่อนผมเกิดอีก เพลงแรกเป็นฉบับremix เพลงนี้เป็นเพลงอมตะอีกเพลงที่มีนักร้องรุ่นหลังเอามาร้องกัน


http://www.youtube.com/watch?v=_uNzeBnU5ms
เพลงนักร้องสาว ณ ขอบฟ้า

http://www.youtube.com/watch?v=hg7dZS74GlE
เพลงจันทร์ดวงกลม ดอกไม้งาม



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 23 สิงหาคม 2554, 12:54:00

สวัสดียามเที่ยงครับ......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

คลิปเพลงดอกมะลิ....... ไหงไม่เห็นมะลิสักดอก.
เพลงนักร้องสาว ณ.ขอบฟ้า...... คุ้นหูจัง

จันทร์ดวงกลม.... กับ จันทร์เพ็ญ แตกต่างกันไหม?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 23 สิงหาคม 2554, 17:31:04
จันทร์ดวงกลม แปลชื่อเพลงไปตามอารมณ์เพลงน่ะ เพลงเพลงนี้มันเน้นคำว่าดวงจันทร์คืนนี้มันกลมจริงๆ ส่วนจะเพ็ญหรือไม่เพ็ญอันนี้ไม่รู้นะ อย่างภาษาไทยก็เห็นมีพูดกันว่าคืนเพ็ญขึ้น15คำ่ ก็ยังสงสัยมาตลอดว่าวันเพ็ญขึ้น14คำ่มันเป็นไงนะ บางทีเห็นวันเพ็ญ ดวงจันทร์วงเล็กดูไม่ค่อยกลมก็มี

มาฟังเพลงรุ่นอาม่ากันต่อ เพลงนี้เป็นเพลงที่เยี่ยฟง นางเอกหนังเรื่องเพลงรักลมสวาท(คิดว่าน่าจะคุ้นนะ เรื่องนี้ดังมาก)ร้อง แต่เป็นซิงเกิ้ลหรืออัลบั้มส่วนตัวนะ เพราัะนางเอกคนนี้ก็เป็นนักร้องรุ่นเดอะเหมือนกัน


http://www.youtube.com/watch?v=m2YmpqoxLdQ
เพลงบุปผาร่วงลงในธารน้ำไหล

http://www.youtube.com/watch?v=LxoZBsvui28
เพลงความฝันเมื่อคืนนี้


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 สิงหาคม 2554, 17:41:08
นี่ก็รุ่นอาม่าเหมือนกัน ดังสมัยผมเป็นเด็ก เพลงชื่อน้ำตาคนรัก เป็นเพลงประกอบในหนังเก่าของชอว์บราเดอร์ เรื่องนกกระจาบน้อย บรรดาอาเจ๊ทั้งหลายก็แห่กันมารับมรดกร้องต่อเหมือนกัน ส่วนเพลงที่สองเป็นจากทำนองเพลงเบงกาวัน โซโล ของมาเลเซีย จากชื่อเพลงจีน สามารถรู้ภาษาแขกได้ว่าเบงกาวัน โซโล แปลว่าความรักที่แม่น้ำโซโล เพลงที่สามชื่อเพลงเกาะบาหลี

http://www.youtube.com/watch?v=NbxAhkv69r0
เพลงน้ำตาคนรัก

http://www.youtube.com/watch?v=qlEnmt8Vntg
เพลงความรักที่แม่น้ำโซโล

http://www.youtube.com/watch?v=t-M6OQOb0U0
เพลงเกาะบาหลี


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 25 สิงหาคม 2554, 11:01:26

สวัสดียามสายครับ......ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

มีคุ้นอยู่ 2 เพลง คือ น้ำตาคนรัก และ ความรักที่แม่น้ำโซโล อ่ะครับ

เบงกาวัน โซโล ...... เป็นชื่อร้านเบเกอร์รี่และขนมพื้นเมืองชื่อดังของสิงคโปร์ด้วยครับ



(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd495380_4830264_6114308_4240098photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 25 สิงหาคม 2554, 15:22:42
ท่านแหลม ฟอรั่มนี้คงแต่เราสองคนมองตากันปริบๆแล้ว ท่าทางขาประจำกับขาจรทั้งหลายแหล่กลายเป็นขาผ่านไปเรียบแล้ว เฮ่อ ตลาดซบเซา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 25 สิงหาคม 2554, 15:36:01

ทำไงได้.....

ทำไงดี?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 25 สิงหาคม 2554, 19:54:51
ไม่เห็นต้องทำไรเลย ภาษาเพลงเรียกว่าคาราโอเกะ สภากาแฟเรียกว่าชงเองกินเอง ภาษาจีนเรียกว่าบรรเลงเอง มีความสุขแบบส่วนตัวเอง หาเพลงรุ่นอาอึ้มเรียกป๋า อาม่าเรียกเตี่ยกันฟังต่อ เป็นเพลงของโจวเสวียนยุคประมาณ1940


http://www.youtube.com/watch?v=VacdVc_EmJo
เพลงรอคนรัก

http://www.youtube.com/watch?v=hM3zn1aDLB8
เพลงดอกไม้ที่หน้าอกเสื้อ

http://www.youtube.com/watch?v=VUoUfI2tzkk
เพลงเซี่ยงไฮ้ยามราตรี




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 26 สิงหาคม 2554, 09:45:11

...สวัสดีค่ะ...น้องจุ๊ง...น้องแหลม...

...พี่ตู่เข้ามาฟังเพลงแล้วค่ะ...

...เซี่ยงไฮ้ยามราตรี...ให้ความรู้สึกสนุกสนานและสดชื่นค่ะ...

...วีดิโอก็สวยจริงๆค่ะ...คิดถึงตอนไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้จัง...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 26 สิงหาคม 2554, 12:51:00

สวัสดียามเที่ยงครับ...... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

ขอฟังเพลงก่อน....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 31 สิงหาคม 2554, 08:42:31

...น้องจุ๊งหายอีกแร๊ะ...

...รางวัลผู้ติดตามกระทู้ยอดเยี่ยมคือ...น้องแหลม...ค่ะ...

...วันนี้มาเม้นท์ต่อ...ดอกไม้ที่หน้าอกเสื้อ...ก็ให้ความรู้สึกสนุกสนาน...สดชื่น...ค่ะ...

...ส่วนเพลงรอคนรัก...ชื่อเพลงเศร้าๆ...แต่ทำนองไม่เศร้าค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 31 สิงหาคม 2554, 11:08:29
สวัสดีครับพี่ตู่
เพลงรอคนรัก ไม่ใช่เพลงเศร้า เป็นเพลงที่พูดถึงคนร้อง นัดชายคนรักไว้ช่วงใกล้พลบค่ำ รอแล้วรอเล่าไม่มาซักที หรือนัดกันผิดที่ นักไว้เนินเขา หรือว่าจะเข้าใจว่านัดไว้ยอดเขา  หรือว่ารอพระจันทร์ขึ้น ที่น้องอยู่นี่จันทร์ขึ้นเร็ว ที่เธออยู่นั่นจันทร์ขึ้นช้า อะไรทำนองนี้ เป็นเพลงให้ความหมายขำๆ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 31 สิงหาคม 2554, 13:15:41
เอาเพลงดังในหนังจีนยุคทศวรรษ1970มาฝาก

http://www.youtube.com/watch?v=zmgyHTt2Gsg
เพลงความหลังฝากไว้ในอดีต

http://www.youtube.com/watch?v=nYKPdzNYM24
เพลงในสายฝน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 01 กันยายน 2554, 08:51:22
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 31 สิงหาคม 2554, 11:08:29
สวัสดีครับพี่ตู่
เพลงรอคนรัก ไม่ใช่เพลงเศร้า เป็นเพลงที่พูดถึงคนร้อง นัดชายคนรักไว้ช่วงใกล้พลบค่ำ รอแล้วรอเล่าไม่มาซักที หรือนัดกันผิดที่ นักไว้เนินเขา หรือว่าจะเข้าใจว่านัดไว้ยอดเขา  หรือว่ารอพระจันทร์ขึ้น ที่น้องอยู่นี่จันทร์ขึ้นเร็ว ที่เธออยู่นั่นจันทร์ขึ้นช้า อะไรทำนองนี้ เป็นเพลงให้ความหมายขำๆ


...สวัสดีค่ะ...น้องแหลม...น้องจุ๊ง...

...อ่านแล้วขำ...แสดงว่านัดกันไม่ดีค่ะ...

...เคยมีหอชายหอหญิงนัดเจอกันที่สระจุฬา...

...แต่ไปคนละสระ...ผลสุดท้ายทะเลาะกันค่ะ...

...อย่าถามนะคะว่าเป็นใคร...เพราะเคยแซวในเว็บนี้...

...และกระทู้ถูกลบไปค่ะ...แสดงว่าไม่ถูกใจคนบางคนอย่างแรง...

...หรืออาจจะคิดว่าพี่ตู่ดูถูกคนนั้น...แต่ขอบอกว่าไม่มีเจตนาเลย...

...มันเป็นโจ๊กสมัยพี่ตู่เป็นเฟรชชี่ค่ะ...แต่มุมมองคนเราไม่เหมือนกัน...

...เราขำแต่เค้าไม่ขำค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 กันยายน 2554, 11:32:16

สวัสดียามสายใก้ลเที่ยงครับ...... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 01 กันยายน 2554, 11:36:04
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 01 กันยายน 2554, 08:51:22
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 31 สิงหาคม 2554, 11:08:29
สวัสดีครับพี่ตู่
เพลงรอคนรัก ไม่ใช่เพลงเศร้า เป็นเพลงที่พูดถึงคนร้อง นัดชายคนรักไว้ช่วงใกล้พลบค่ำ รอแล้วรอเล่าไม่มาซักที หรือนัดกันผิดที่ นักไว้เนินเขา หรือว่าจะเข้าใจว่านัดไว้ยอดเขา  หรือว่ารอพระจันทร์ขึ้น ที่น้องอยู่นี่จันทร์ขึ้นเร็ว ที่เธออยู่นั่นจันทร์ขึ้นช้า อะไรทำนองนี้ เป็นเพลงให้ความหมายขำๆ


...สวัสดีค่ะ...น้องแหลม...น้องจุ๊ง...

...อ่านแล้วขำ...แสดงว่านัดกันไม่ดีค่ะ...

...เคยมีหอชายหอหญิงนัดเจอกันที่สระจุฬา...

...แต่ไปคนละสระ...ผลสุดท้ายทะเลาะกันค่ะ...

...อย่าถามนะคะว่าเป็นใคร...เพราะเคยแซวในเว็บนี้...

...และกระทู้ถูกลบไปค่ะ...แสดงว่าไม่ถูกใจคนบางคนอย่างแรง...

...หรืออาจจะคิดว่าพี่ตู่ดูถูกคนนั้น...แต่ขอบอกว่าไม่มีเจตนาเลย...

...มันเป็นโจ๊กสมัยพี่ตู่เป็นเฟรชชี่ค่ะ...แต่มุมมองคนเราไม่เหมือนกัน...

...เราขำแต่เค้าไม่ขำค่ะ...

ถ้าผมเป็นคนนัด.... ผมก็ไม่ขำเหมือนกันครับ พี่ตู่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 01 กันยายน 2554, 17:29:49
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 01 กันยายน 2554, 11:36:04
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 01 กันยายน 2554, 08:51:22
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 31 สิงหาคม 2554, 11:08:29
สวัสดีครับพี่ตู่
เพลงรอคนรัก ไม่ใช่เพลงเศร้า เป็นเพลงที่พูดถึงคนร้อง นัดชายคนรักไว้ช่วงใกล้พลบค่ำ รอแล้วรอเล่าไม่มาซักที หรือนัดกันผิดที่ นักไว้เนินเขา หรือว่าจะเข้าใจว่านัดไว้ยอดเขา  หรือว่ารอพระจันทร์ขึ้น ที่น้องอยู่นี่จันทร์ขึ้นเร็ว ที่เธออยู่นั่นจันทร์ขึ้นช้า อะไรทำนองนี้ เป็นเพลงให้ความหมายขำๆ


...สวัสดีค่ะ...น้องแหลม...น้องจุ๊ง...

...อ่านแล้วขำ...แสดงว่านัดกันไม่ดีค่ะ...

...เคยมีหอชายหอหญิงนัดเจอกันที่สระจุฬา...

...แต่ไปคนละสระ...ผลสุดท้ายทะเลาะกันค่ะ...

...อย่าถามนะคะว่าเป็นใคร...เพราะเคยแซวในเว็บนี้...

...และกระทู้ถูกลบไปค่ะ...แสดงว่าไม่ถูกใจคนบางคนอย่างแรง...

...หรืออาจจะคิดว่าพี่ตู่ดูถูกคนนั้น...แต่ขอบอกว่าไม่มีเจตนาเลย...

...มันเป็นโจ๊กสมัยพี่ตู่เป็นเฟรชชี่ค่ะ...แต่มุมมองคนเราไม่เหมือนกัน...

...เราขำแต่เค้าไม่ขำค่ะ...

ถ้าผมเป็นคนนัด.... ผมก็ไม่ขำเหมือนกันครับ พี่ตู่

...เราเป็นคนนอก...แต่เผอิญได้รับรู้...

...คนที่มีส่วนได้เสียคือเค้าสองคนที่นัดกัน...

...เป็นอุทาหรณ์เท่านั้นเองค่ะ...เพราะสมัยก่อนไม่มีมือถือ...

...และไม่ได้มีแค่เคสเดียวค่ะ...อีกคู่นัดกันคนละวัน...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 02 กันยายน 2554, 00:31:58
.....สวัสดีครับ น้องจุ๊ง เพลงเพาะ ครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 กันยายน 2554, 00:50:49
สวัสดีครับพี่ตี๋

หาเพลงเก่าๆให้ฟัง นี่เป็นเพลงของนักร้องมาเลเซีย ดังสมัย30ปีก่อน เคยไปเปิดแสดงคอนเสิร์ตที่เบตงบ้านผม


http://www.youtube.com/watch?v=5Qy3ye4NN8M
เพลงดอกไม้จะร่วงซักกี่ครั้งนะ

http://www.youtube.com/watch?v=v0Uju9KicUk
เพลงความในใจจากคราบน้ำตา

http://www.youtube.com/watch?v=lka9ClMC6L4
เพลงผู้ทรยศรัก



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 กันยายน 2554, 01:25:36
จางเสียวอิง นี่ก็นักร้องดังสมัย30กว่าปีก่อนเหมือนกัน


http://www.youtube.com/watch?v=-Nmx2K1wlJ8
เพลงเปาเปียว(ผู้คุ้มกันสินค้า)

http://www.youtube.com/watch?v=2EJWZ2wo9S4
เพลงเปาบุ้นจิ้น(ผงซักฟอกยี่ห้อนึง)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 03 กันยายน 2554, 09:41:37
ในภาษาจีนมีคำพูดอยู่คำหนึ่งว่าสายน้ำไหลไปทางทิศตะวันออก เข้าใจว่าประเทศจีนแม่น้ำทุกสายจะต้องไหลลงทะเลทางทิศตะวันออก เลยกลายมาเป็ยชื่อของเพลงแรก เพลงนี้น่าจะเกิดราวปีทศวรรษที่1930 ส่วนเพลงที่สองน่าจะเอําะกว่า ทศวรรษ1940 ส่วนชื่อเพลงไม่ต้องบอกท่านๆก็น่าจะรู้นะ ความหมายก็ไม่น่าจะต้องแปล แถมเพลงหรั่งจากเสียงของป้ามาริลีน มอนโร มาให้ด้วยเลย

http://www.youtube.com/watch?v=FVOOVEZrXWg

http://www.youtube.com/watch?v=eYvlqNLXA90

http://www.youtube.com/watch?v=SMPzo-vGkoc


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 06 กันยายน 2554, 07:52:19

...เข้ามาฟังเพลงเพราะๆค่ะ...

...เพลงแรกกับเพลงที่ 3 ทำนองเหมือนกันเลยค่ะ...

...ส่วนเพลงที่ 2 คุ้นหูมาก...ได้ฟังบ่อยๆตอนเป็นเด็กค่ะ...

...มาจากเพลงฝรั่งนะคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 กันยายน 2554, 11:28:54
ความจริงคำว่า"สายน้ำไหลไปทางตะวันออก" นี่มีเกร็ดมาจากกลอนของซูตงพอ สุนทรภู่จีนอีกท่านหนึ่ง เป็นบทกวีที่ซูตงพอไปยืนรำพึงถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของ"ยุทธการผาแดง"ในสมัยสามก๊ก  เมื่อเดินทางไปที่ผาแดง อัน"ยุทธการผาแดง" หรือผาแดงนี่ คนไทยอาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าท้าวความถึงเหตุการณ์ตอนโจโฉแตกทัพเรือ หลายคนคงร้องอ๋อทันที นี่แหละ"ยุทธการผาแดง" อันลือลั่น ผมเลยไปหาบทเพลง"สายน้ำไหลไปทางตะวันออก" ในหนังเรื่องสามก๊กที่เข้าฉายในโรง รู้สึกจะมีดาราดังหลายคนแสดง แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าใคร รู้สึกว่าหลิวเตีอะหัวจะแสดงเป็นจิวยี่นะ

ส่วน"สายน้ำไหลไปทางตะวันออก" ซึ่งแปลเป็นเพลงหรั่งว่า "River of No Return" อันนี้ ผมกำลังหาประวัติอยู่ว่าใครเป็นต้นแบบกันแน่ แต่ดูจากอายุของเพลง สำนวนของภาษา และธรรมเนียมวิธีคิด ผมค่อนข้างเชื่อว่า ต้นแบบมาจากจีนนะ


http://www.youtube.com/watch?v=wtuiBOnwiQ0



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 กันยายน 2554, 12:31:41

สวัสดียามเที่ยงครับ..... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 กันยายน 2554, 08:35:06
สวัสดีตอนเช้าครับ
หายหน้าไป2วัน วันนี้เอาเพลงมาฝากครับ เพลงนี้ชื่อเพลง "ให้เธอดินหนึ่งกำมือ" เป็นเพลงที่ใช้ในการเลี้ยงส่งเพื่อนฝูงผู้ใกล้ชิดไปต่างแดน เอาดินในถิ่นเกิดหนึ่งกำมือส่งให้เป็นที่ระลึก ให้รู้ว่าดินนี้มีความหมาย เป็นดินที่เคยอยู่ บรรพบุรุษเคยต่อสู้เพื่อปกป้องรักษาดินกองหน้านี้ เมื่อก้าวหน้าอย่าลืมถิ่นเกิดนะ อะไรทำนองนี้ เป็นเพลงที่ผมนึกถึงเมื่ออ่านจินตนิยายประเภทกึ่งเซียน กล่าวถึงราวปี2060 เมื่อชาวโลกเปิดหน้าต่างจักรวาลแล้วพบว่าในจักรวาลประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวตชั้นสูง หน้าเหมือนคนหลากหลาย และโลกมนุษย์ยังเป็นประเภทตกสำรวจอยู่ และพบว่าในจักรวาลในมนุษย์โลกหลายประเภท มีพวกที่พยายามหาทางครอบครองดาวเพื่อค้าทาส พระเอกเลยต้องเสริมสร้างขีดความสามารถเพื่อแข่งขันกับดาวอื่น กำลังจะเดินทางไกลเพื่อไปรับการอบรมจากองค์กรระดับยักษ์ของจักรวาลเพื่อเสริมฐานะตัวเอง บรรยากาศคล้ายๆเพลงนี้ เลยเอามาเผื่อ


http://www.youtube.com/watch?v=wi6iB48DCC0






หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 09 กันยายน 2554, 15:03:22
พอดีดูCCTV ของจีน มีถ่ายทอดเทปคอนเสิร์ท มีเพลง"ห้วงแห่งประวัติศาสตร์"ด้วย เพลงนี้เสนอไปแล้ว เลยเสนออีกเพลง เพลงนี้น่าจะคุ้นหูนะ พี่เบิร์ดก็เอามาร้อง ไม่รู้ใครเป็นต้นแบบ เพลงนี้ชื่อเพลง"พันธมิตรชาวผู้อกหัก" เป็นเพลงเอกในซีรี่ย์จีนเรื่อง"บ้านมีเมียเทพ"


http://www.youtube.com/watch?v=dpTc0nOT9-g



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 17 กันยายน 2554, 22:48:41

สวัสดียามดึกครับ..... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

ท่านจุ๊ง.... ไหงเงียบไปเลย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 17 กันยายน 2554, 22:50:27
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 09 กันยายน 2554, 15:03:22
พอดีดูCCTV ของจีน มีถ่ายทอดเทปคอนเสิร์ท มีเพลง"ห้วงแห่งประวัติศาสตร์"ด้วย เพลงนี้เสนอไปแล้ว เลยเสนออีกเพลง เพลงนี้น่าจะคุ้นหูนะ พี่เบิร์ดก็เอามาร้อง ไม่รู้ใครเป็นต้นแบบ เพลงนี้ชื่อเพลง"พันธมิตรชาวผู้อกหัก" เป็นเพลงเอกในซีรี่ย์จีนเรื่อง"บ้านมีเมียเทพ"


http://www.youtube.com/watch?v=dpTc0nOT9-g



เพลงนี้ก็อปพี่เบิร์ด...ชัวร์ครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 19 กันยายน 2554, 10:08:24
ก็เหมือนโรงหนังนั่นแหละ ผู้ชมหายไป วิกหนังก็เปลี่ยนเป็นร้านสะดวกซื้อไป อันนี้เป็นไปตามกฏอนิจจังวัตตะสังขารา


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 30 กันยายน 2554, 22:01:53

สวัสดียามดึกครับ..... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

กลางดึกคืนที่ผ่านมามีข่าว..... จีน ส่งห้องทดลองอวกาศ ‘เทียนกง-1’ ขึ้นสู่วงโคจรที่ระดับ 350 กม.เหนือพื้นโลก 


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2554, 08:14:32
ท่านแหลมก็ติดตามข่าวจีนนี่ แล้วท่านรู้ไหมว่าทำไมจีนเขาเลือกวันนี้ เพราะวันที่1ตุลาคมของทุกปีถือเป็นวันชาติจีนไง ปีนี้ถือเป็นครบรอบสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนครบรอบ62ปี ส่วนวันชาติไต้หวันจะตรงกับวันที่10ตุลาคมของทุกปี น่าจะตรงกับวันที่ล้มระบบจักรพรรดิจีนในปี1909 สถาปนาสาธารณรัฐจีนโดยดร.ซุนยัดเซ็น ผู้ถือเป็นบิดาชาวจีนร่วมกันทั้งแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน ปีนี้น่าจะครบ102ปีนะ ในนิยายรักของนักเขียนอมตะชาวไต้หวันฉงเหยา(หนังเก่าๆที่ฉายในไทย เขาจะบอกว่าชื่อฉวนเหยา) อย่างเรื่องนางนวลรวนรัก ที่เคยอ่านในอดีต เวลาอ้างก็ยังยืดสาธารณรัฐศกอยู่นะ เดี๋ยวนี้ไม่ได้อ่านพวกนี้แล้ว ไม่รู้ที่ไต้หวันยังยึดสาธารณรัฐศกอยู่หรือป่าว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 02 ตุลาคม 2554, 09:25:21

ปกติข่าวต่างประเทศก็ดูเป็นประจำอยู่แล้ว.... ท่านจุ๊ง

1 ต.ค. เป็นวันชาติจีน
การส่งห้องทดลอง เทียนกง-1 สู่ห้วงอวกาศ ก็ถือเป็นหนึ่งในการเฉลิมฉลองวันชาติปีนี้

เรื่องสาธารณรัฐศกไต้หวันไม่ค่อยคุ้นเลยครับ
เคยเห็นเพื่อนร่วมงานชาวไต้หวันเขียนวันเดือนปีที่ไม่คุ้นสมัยเกือบ 20 ปีก่อน
แต่ทุกวันนี้... เมลล์จากไต้หวันก็ลงปีเป็นปี คศ. หมดแล้ว
ที่ต่างจากไทยอย่างหนึ่งคือ.... ส่วนใหญ่ลงเป็น เดือน/วัน/ปี ในขณะที่เราลง  วัน/เดือน/ปี


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 02 ตุลาคม 2554, 14:35:59
อันนี้เกี่ยวกับอารยธรรมและแนวคิดของคนจีน ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะตัว ห้ามเลียนแบบนะ อันตราย

คือแนวติดของจีนจะแบ่งลำดับชั้นอย่างเคร่งครัดตามจารีตประเพณี อย่างในโต๊ะรับแขก ทั้งสองฝ่ายจะรู้เลยว่าต้องนั่งตรงไหน เจ้าบ้านจะนั่งไปทางไหน แขกจะนั่งไปทางไหน หรืออย่างในงานเลี้ยงก็เช่นกัน ในโต๊ะเลี้ยงสมัยโบราณจะกำหนกเลยว่าใคร สำคัญยังไงจะนั่งตรงไหน เวลาไปถึงหน้างาน จะมีคนต้อนรับและพาไปนั่งยังที่ๆจัดไว้ ใครนั่งผิดที่ คนอื่นจะมองด้วยสายตาแปลกๆและคิดในใจว่าเจ้าคนนี้ไม่มีวัฒนธรรม ถ้าใครคิดจะมั่วไปนั่งกินฟรี ก็ไปกินได้ แถวโรงครัว สมัยนี้ไม่ได้ถือละเอียดแบบนี้แล้ว แต่ในงานเลี้ยง ตำแหน่งนั่งที่โต๊ะของเจ้าภาพก็ยังมีไว้อย่างเตร่งครัด

อย่างถ้าถ่ายรูปในที่ประชุมระดับประเทศ หรืออย่างวันฉลองตรบรอบครองราชย์60ปี ของในหลวงถ้าสังเกตุดู จะใช้ระบบนี้นะ ไปดูได้เลย

คราวนี้มาเรื่องวันเดือนปีก็ใช้แบบเดียวกัน คือจะเรียงจากใหญ่ไปหาเล็ก ถ้าเขียนแบบจีน จะระบุเป็นปีเดือนวัน ถือถ้าจ่าหน้าซองในจดหมาย จะระบุประเทศ มณฑล เมือง ถนน เลขที่บ้าน เดี๋ยวนี้ก็ยังใช้อย่างเคร่งครัด

อย่างไทยนี้ถือว่ามือขวาเป็นใหญ่ คนสำคัญก็บอกว่ามือขวา ของจีนจะถือซ้ายเป็นใหญ่ ในตำแหน่งขุนนางจะมีตำแหน่งขวาซ้าย ให้รู้เถอะว่าตำแหน่งซ้ายใหญ่กว่าตำแหน่งขวา

อย่างเรื่องศักราช สมัยต้นรัตนโกสินทร์ เราจะมีรัตนโกสินทร์ศก(ร.ศ.) ของจีนสมัยโบราณจะเป็นฮ.ศ.(ฮ่องเต้ศก) แต่ละฮ่องเต้เวลาขึ้นก็ก็นับศกกันใหม่ ฮ่องเต้บางองค์ก็มีหลายฮ.ศ.ให้นับ ทั้งนี้แล้วแต่โหรในพระราชสำนักจะคิดมั้ง แต่พอเปลี่ยนมาเป็นระบบสาธารณรัฐเลยนับเป็นส.ศ.(สาธารณรัฐศก)ไป เข้าใจว่าในจดหมายอย่างเป็นทางการภายในของไต้หวันน่าจะยังคงมีอยู่นะ แต่อาจจะมีค.ศ.กำกับไว้ด้วย เพราะคนไต้หวันที่เคยรู้จักค่อนข้างหัวโบราณกว่าคนจีนแผ่นดินใหญ่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 02 ตุลาคม 2554, 15:13:48

ขอบคุณสำหรับคำอธิบาย.... ท่านจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 05 ตุลาคม 2554, 08:47:08
...ตามอ่านด้วยค่ะ...น้องจุ๊ง...น้องแหลม...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 ตุลาคม 2554, 14:01:03

สวัสดียามบ่ายครับ.... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

รอชมเรื่องจีนๆจากจุ๊งเหมือนกันครับ พี่ตู่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 07 ตุลาคม 2554, 00:30:05
...เข้ามาติดตามเรื่องจีนๆจากน้องจุ๊งเหมือนกันค่ะ...น้องแหลม...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 07 ตุลาคม 2554, 08:50:03
สวัสดีครับพี่ตู่ ท่านแหลม
หาเพลงฟอร์มยักษ์ชื่อเพลงวันฤกษ์ดี ร้องโดยซ่งจู่อิง ราชินีเพลงสไตล์โอเปร่าชาวจีนเชื้อสายแม้วให้ฟังครับ


http://www.youtube.com/watch?v=8ufh8iU33dA


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 08 ตุลาคม 2554, 10:12:53
...พลังเสียงเค้าดีมากเลยค่ะ...

...เหมาะกับเพลงอย่างนี้จริงๆ...

...วีดิโองานยิ่งใหญ่อลังการ...ดูเพลินเลยค่ะ..

...ขอบคุณนะคะ...น้องจุ๊ง....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 08 ตุลาคม 2554, 11:21:06

สวัสดียามสายครับ... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

ฟังคล้ายเพลงปลุกใจนะครับ...
เป็นคลิปส่วนหนึ่งของงานฉลองครบรอบ 60 ปี จีนยุคใหม่... ยิ่งใหญ่ครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 09 ตุลาคม 2554, 08:39:48
...ค่ะ...น้องแหลม...

...ฟังแล้วฮึกเหิมจริงๆ...

...งานอะไรที่ใช้คนเยอะๆ...จีนทำได้พร้อมเพรียงกันมากๆค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 ตุลาคม 2554, 16:26:42
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 09 ตุลาคม 2554, 08:39:48
...ค่ะ...น้องแหลม...

...ฟังแล้วฮึกเหิมจริงๆ...

...งานอะไรที่ใช้คนเยอะๆ...จีนทำได้พร้อมเพรียงกันมากๆค่ะ...

สวัสดียามเย็นครับ.... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

จีน... ชนชาติมหัศจรรย์ครับ พี่ตู่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 12 ตุลาคม 2554, 09:54:06
...คนจีนที่อพยพมาจากเมืองจีน...

...ถ้าหันกลับไปดูเมืองจีนตอนนี้...

...จะรู้สึกเสียดายบ้างมั้ยคะ...

...เพราะตอนนี้จีนเจริญมาก...

...ประชาชนก็มั่งคั่งขึ้น...ฐานะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 ตุลาคม 2554, 17:04:35

สวัสดียามเย็นครับ.... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 ตุลาคม 2554, 17:08:08


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 12 ตุลาคม 2554, 09:54:06
...คนจีนที่อพยพมาจากเมืองจีน...

...ถ้าหันกลับไปดูเมืองจีนตอนนี้...

...จะรู้สึกเสียดายบ้างมั้ยคะ...

...เพราะตอนนี้จีนเจริญมาก...

...ประชาชนก็มั่งคั่งขึ้น...ฐานะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆค่ะ...

ได้เวลาที่ญาติพี่น้องที่จีนต้องช่วยเหลือญาติพี่น้องในเมืองไทยแล้วครับ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 13 ตุลาคม 2554, 17:27:05

จีนเป็น 1ใน3 ชาติแรก ที่ให้ความช่วยเหลือไทยในกรณีน้ำท่วมครั้งนี้...

  
'สหรัฐ-จีน-นิวซีแลนด์' บริจาคเงิน-ของช่วยน้ำท่วม เล็งขอ'ฮ.-ทีมกู้ภัย'เพิ่ม  

"สุรพงษ์" ชง ครม. สรุปขอความช่วยเหลือ
เฮลิคอปเตอร์-เสื้อชูชีพ-เรือท้องแบน-ทีมกู้ภัย จากประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน เผย
สหรัฐอเมริกา-จีน-นิวซีแลนด์ บริจาคเงิน-ของช่วยน้ำท่วมแล้ว...

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากต่างประเทศ
ว่า ตอนนี้มีการให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการมา 3 ประเทศ
โดยรัฐบาลจีนได้บริจาคเงินสด 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 30 ล้านบาท
และให้เป็นสิ่งของอีกประมาณ 10 ล้านหยวน หรือประมาณ 50 ล้านบาท
นิวซีแลนด์ให้ 1 แสนเหรียญนิวซีแลนด์ผ่านสภากาชาดไทย
เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา ที่ช่วยเหลือมา 1 แสนเหรียญสหรัฐฯ ผ่านสภากาชาดไทย

ทั้งนี้ ประเทศไทยยังไม่ได้ประกาศขอรับการช่วยเหลือจากต่างประเทศ แต่เมื่อวันที่ 10 ต.ค.
ทางนายเคริ์ธ แคมเบลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาพบตน
ก็ได้แสดงเจตจำนงว่า ถ้าทางการไทย ต้องการเฮลิคอปเตอร์ เครื่องปั่นไฟ
และเครื่องช่วยชีวิตต่างๆ ทางสหรัฐฯ ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ ก็ขอให้บอก
ตนจะรายงานนายกฯ ใน ครม.

เมื่อถามว่า จะขอความช่วยเหลือทีมกู้ภัยจากต่างประเทศหรือไม่
เพราะไทยไม่มีประสบการณ์การกู้ภัยขนาดใหญ่ และการอพยพคน นายสุรพงษ์กล่าวว่า
เมื่อวานได้คุยกับอเมริกาซึ่งมีประสบการณ์ และทางการจีนก็เช่นเดียวกัน
ตนได้คุยกับเอกอัครราชทูตจีนด้วย ได้แจ้งกับทั้งสองประเทศไปว่า
เราต้องการความช่วยเหลือพวกนี้ โดยเฉพาะเสื้อชูชีพที่ขาดแคลนในตลาด
ตอนนี้ตนกำลังติดต่อการประสานงานระหว่างสำนักนายกฯ กับทางการจีนอยู่ว่า
เราจะเอาอะไรบ้าง จีนจะได้รีบส่งมา เพราะสัปดาห์ที่จะถึงนี้
จะเป็นช่วงวิกฤติมากต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้า ซึ่งตนจะเสนอต่อที่ประชุม ครม.ว่า
ไทยต้องการการช่วยเหลือ ทั้งเฮลิคอปเตอร์ เสื้อชูชีพ รวมทั้งทีมกู้ภัย
ตลอดจนเรือท้องแบนจากประเทศจีนด้วย เพราะนายกฯ ได้บอกไปเบื้องต้นแล้วว่า
เราต้องการเรือที่จะขนย้ายคน ไปจนถึงเรือยางด้วย
จึงต้องรอให้ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)
สรุปตัวเลขความต้องการความช่วยเหลือ

ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวนั้น ได้สั่งการกระทรวงการต่างประเทศ
ติดตามว่ามีนักท่องเที่ยวติดค้างต้องการความช่วยเหลืออย่างไร เราประสานให้
และให้ชี้แจงผ่านสถานทูตไทย ว่าจะมีผลกระทบเฉพาะพื้นที่ จ.อยุธยาเท่านั้น แต่
จ.ภูเก็ต หรือเกาะสมุยไม่มีปัญหา และในภาพรวม การท่องเที่ยวก็ยังไม่มีผลกระทบ


ขอบคุณ ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์  11 ตุลาคม 2554


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 15 ตุลาคม 2554, 12:11:29
สวัสดีครับพี่ตู่,ท่านแหลม และท่านผู้ชม
พูดถึงจีน ผมว่าอย่าไปมองความก้าวหน้าของเขาในตอนนี้เลยนะครับ ไม่ว่าเป็นเฉพาะบุคคลหรือว่าเป็นประเทศ กว่าจะมาถึงจุดหนึ่งได้ล้วนต้องมีช่วงเวลายากลำบากมาด้วยกันทั้งนั้น เหมือนเราดูหนังแหละครับ จูราสสิกพาร์คเราดูมันสนุกดี แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังกว่าจะสร้างหนังมาให้เราดูต้องยากลำบากขนาดไหน เจอปัญหาอะไรมาบ้าง หรืออย่างวินโดว์ที่เราใช้กันในปัจจุบัน เราเริ่มรู้จักกันตั้งแต่วินโดว์3.1 เคยคิดสงสัยไหมว่าทำไมไม่มีวินโดว์1.0,2.0 หรือ3.0 เช่นเดียวกันแหละ กว่าจีนมาลืมตาอ้าปากได้ก็ล้มลุกคลุกคลานมาพอสมควร นึกถึงช่วงเวลาสงครามต่ิอต้านญี่ปุ่น สงครามกลางเมือง สงครามเกาหลี เรียกว่าเดินผิดไปก้าวเดียวมีโอกาสสิ้นชาติกันทันที เสร็จศึกสงครามก็ถึงช่วงรัสเซียทวงหนี้อาวุธที่ช่วยรบในสงครามเกาหลีและสามารถเฉือนเนื้อจีนโดยแยกมองโกเลียออกจากการปกครองของจีน ยุคนั้นยากลำบากมาก ต้องใช้สินค้าเกษตรใช้หนี้รัสเซีย ชาวบ้านต้องใช้บัตรคิวในการแบ่งอาหาร ปลูกข้าวเองต้องส่งรัฐหมด ในช่วงเวลา3ปี(ช่วงปี1956) จีนอดตายกันเป็นเบือ หลานชายผมก็ต้องอดๆอยากๆ จนเป็นโรคกระเพาะเรื้อรังต้องเกษียณก่อนอายุ ที่บ้านบัตรคิวหายทีแทบร้องไห้ ทุกครั้งที่ผมฟังเรื่องนี้จากพี่สาว ต้องอดหลั่งน้ำตาด้วยความสะเทือนใจ ฉะนั้น อย่าไปอิจฉาจีนเลย
มาฟังเป็นจาก Felicia นักร้องสาวยุค70s ชาวฮ่องกงดีกว่า


http://www.youtube.com/watch?v=jvbxpgYF66Q

http://www.youtube.com/watch?v=nAExv5OZkl0


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 15 ตุลาคม 2554, 12:40:42
เห็นท่านแหลมบอกข่าวเรื่องจีนให้ความช่วยเหลือไทยในภาวะน้ำท่วม อันนี้ผมไม่แปลกใจเลย เพราะจีนจะมีหน่วยงานด้านนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นกรณีแผ่นดินไหวที่ประเทศไฮติ หรือเหตุการณ์ที่นิวซีแลนด์ จีนจะถือเป็นเรื่องสำคัญและการข่าวจะรายงานเป็นข่าวใหญ่มาตลอด อันนี้อาจจะเป็นนโยบายหนึ่งในการก้าวเข้าสู่ประเทศมหาอำนาจ เช่นเดียวกับการจัดโอลิมปิคหรือโครงการด้านอวกาศ พูดง่ายๆว่าจีนมีเวลาคืดเรื่องพวกนี้แล้ว ในขณะที่บางประเทศมีประวัติศาสตร700ปี ยังอยู่กับประธิปไตย4ปี4นาทีทองกับโครงการประชานิยม
มาฟังเพลงต่ิอ


http://www.youtube.com/watch?v=AUY2c214DWk

http://www.youtube.com/watch?v=5K9JL_rw7ls

http://www.youtube.com/watch?v=inudjNQJtsQ

http://www.youtube.com/watch?v=7Sv5X8c_nMk

http://www.youtube.com/watch?v=yf3-wgKH1Ec


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 15 ตุลาคม 2554, 19:17:58
...น้องจุ๊งคะ...เพลงโนบอดี้ไชด์...ฮิตมากๆสมัยพี่ตู่เป็นวัยรุ่นค่ะ...

...เด็กๆสมัยนั้นฟีเว่อร์แอ๊กเนสชานกันแทบทุกคน...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 ตุลาคม 2554, 19:18:09

สวัสดียามค่ำครับ.... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน

ฟัง Felicia และ Agnes Chan แล้ว คิดถึงสมัยมัธยม,ประถม เลย...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 15 ตุลาคม 2554, 20:16:42
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2554, 17:08:08


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 12 ตุลาคม 2554, 09:54:06
...คนจีนที่อพยพมาจากเมืองจีน...

...ถ้าหันกลับไปดูเมืองจีนตอนนี้...

...จะรู้สึกเสียดายบ้างมั้ยคะ...

...เพราะตอนนี้จีนเจริญมาก...

...ประชาชนก็มั่งคั่งขึ้น...ฐานะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆค่ะ...

ได้เวลาที่ญาติพี่น้องที่จีนต้องช่วยเหลือญาติพี่น้องในเมืองไทยแล้วครับ...

...พี่ตู่อ่านหนังสือเกี่ยวกับเสฉวน...เมืองที่พี่ตู่จะไปพรุ่งนี้คือเฉินตูซึ่งอยู่ในมณฑลเสฉวน...

...และจิวจ่ายโกวซึ่งมีชนชาติทิเบตอาศัยอยู่กันมาก...

...ตอนนี้ชาวทิเบตในจิวจ่ายโกวบางคนมีฐานะร่ำรวยถึงขนาดซื้อรถเบนซ์นั่งกันได้แล้วค่ะ...

...คงเป็นเพราะว่าคนไปเที่ยวกันมาก...เลยทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีฐานะดีไปตามๆกัน...

...ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 15 ตุลาคม 2554, 20:25:07
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 15 ตุลาคม 2554, 20:16:42
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2554, 17:08:08


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 12 ตุลาคม 2554, 09:54:06
...คนจีนที่อพยพมาจากเมืองจีน...

...ถ้าหันกลับไปดูเมืองจีนตอนนี้...

...จะรู้สึกเสียดายบ้างมั้ยคะ...

...เพราะตอนนี้จีนเจริญมาก...

...ประชาชนก็มั่งคั่งขึ้น...ฐานะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆค่ะ...

ได้เวลาที่ญาติพี่น้องที่จีนต้องช่วยเหลือญาติพี่น้องในเมืองไทยแล้วครับ...

...พี่ตู่อ่านหนังสือเกี่ยวกับเสฉวน...เมืองที่พี่ตู่จะไปพรุ่งนี้คือเฉินตูซึ่งอยู่ในมณฑลเสฉวน...

...และจิวจ่ายโกวซึ่งมีชนชาติทิเบตอาศัยอยู่กันมาก...

...ตอนนี้ชาวทิเบตในจิวจ่ายโกวบางคนมีฐานะร่ำรวยถึงขนาดซื้อรถเบนซ์นั่งกันได้แล้วค่ะ...

...คงเป็นเพราะว่าคนไปเที่ยวกันมาก...เลยทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีฐานะดีไปตามๆกัน...

...ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ...

ว่ากันว่า...หลายปีมานี้ ที่จีนมีเศรษฐีระดับร้อยล้านเกิดขึ้นทุกวันครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 15 ตุลาคม 2554, 20:25:32
มาตามข่าวการท่องเที่ยวของพี่ตู่ค่ะ
หาข้อมูลก่อนไปทำให้ไปเที่ยวได้สนุกค่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 16 ตุลาคม 2554, 12:51:33
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 15 ตุลาคม 2554, 20:25:07
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 15 ตุลาคม 2554, 20:16:42
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 ตุลาคม 2554, 17:08:08


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 12 ตุลาคม 2554, 09:54:06
...คนจีนที่อพยพมาจากเมืองจีน...

...ถ้าหันกลับไปดูเมืองจีนตอนนี้...

...จะรู้สึกเสียดายบ้างมั้ยคะ...

...เพราะตอนนี้จีนเจริญมาก...

...ประชาชนก็มั่งคั่งขึ้น...ฐานะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆค่ะ...

ได้เวลาที่ญาติพี่น้องที่จีนต้องช่วยเหลือญาติพี่น้องในเมืองไทยแล้วครับ...

...พี่ตู่อ่านหนังสือเกี่ยวกับเสฉวน...เมืองที่พี่ตู่จะไปพรุ่งนี้คือเฉินตูซึ่งอยู่ในมณฑลเสฉวน...

...และจิวจ่ายโกวซึ่งมีชนชาติทิเบตอาศัยอยู่กันมาก...

...ตอนนี้ชาวทิเบตในจิวจ่ายโกวบางคนมีฐานะร่ำรวยถึงขนาดซื้อรถเบนซ์นั่งกันได้แล้วค่ะ...

...คงเป็นเพราะว่าคนไปเที่ยวกันมาก...เลยทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีฐานะดีไปตามๆกัน...

...ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ...

ว่ากันว่า...หลายปีมานี้ ที่จีนมีเศรษฐีระดับร้อยล้านเกิดขึ้นทุกวันครับ
อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 15 ตุลาคม 2554, 20:25:32
มาตามข่าวการท่องเที่ยวของพี่ตู่ค่ะ
หาข้อมูลก่อนไปทำให้ไปเที่ยวได้สนุกค่ะ


...สิ่งหนึ่งที่จริงแท้แน่นอนคือ...คนจีนขยันค่ะ...

...ญาติทางหมอยืนยันถึงข้อนี้ได้...

...ขอให้พี่ตู่เที่ยวสนุกอย่างที่อรว่าค่ะ...

...ครั้งนี้ไปรอบสองแล้วนะ...ยังพอมองเห็นอะไรลางๆค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 16 ตุลาคม 2554, 17:37:07
หวัดดีครับพี่ตู่ พี่อรและท่านแหลม
พี่ตู่ยังไม่ไปหรือเนี่ย ผมนึกว่าไปเที่ยวซะแล้ว
พูดถึงมณฑลเสฉวน ก็มีสถานที่น่าสนใจหลายที่นะครับ นอกจากจิ่วจ้ายโกวแล้ว เสฉวนยังถือเป็นแหล่งกำเนิดของไดโนเสาร์จีนด้วย อันนี้ต้องพูดถึงเมืองจื้อก้ง มีโรงงานวาล์วอยู่ในเมืองนี้ ผมเลยถือโอกาสได้ไปเที่ยวด้วย นอกจากนี้ภูเขาง่อไบ๊ ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญในศาสนาพุทธในจีนก็อยู่ในมณฑลนี้ด้วย นิยายกำัลังภายในยุคบุกเบิกเทพยุทธซูซัน ก็อาศัยฉากในมณฑลเสฉวนนี่แหละ บรรยายทัศนียภาพจนผมหลงทิวทัศน์ของเสฉวนไปเลย พูดถึงเรื่องเทพยุทธซูซันเนี่ยถึงเป็นต้นแบบของนิยายกำลังภายในที่นักเขียนดังๆยุคหลังๆใช้เป็นแบบต้นฉบับในการขยายจินตนาการ แต่ถ้าจะคลาสสิกจริงๆก็ต้องต้นฉบับ อ่านนิยายเรื่องนี้เหมือนดูหนังสตาร์วอร์ผสมกับกำลังภายในไปด้วย มันพิลึก
อ้อ เมืองเฉิงตูเนี่ยก็ถือเป็นเมืองหลวงของก๊กเล่าปี่ในยุคสามก๊กนะครับ ในสมัยโบราณคนจีนทุกคนยกนิ้วเป็นฝักถั่วว่าการเดินทางไปเสฉวนนั้นเส้นทางแสนลำบาก จนกวีเอกราชวงศ์ถังหลี่ไป๋พรรณนาเป็นกลอนให้เด็กมัธยมจีนท่องอยู่ทุกวันนี้
ขอให้พี่ตู่ไปเที่ยวให้สนุกนะครับ
ฝากวิวจิ่วจ้ายโกวมาให้ด้วยเลยครับ


http://www.youtube.com/watch?v=paAU5gGrbms


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 17 ตุลาคม 2554, 18:12:59

สวัสดียามเย็นครับ.... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อร และพี่น้องทุกท่าน

ป่านนี้พี่ตู่คงกำลังเพลินอยู่ที่เมืองจีนแล้ว...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 23 ตุลาคม 2554, 10:21:31
...สวัสดีค่ะ...น้องแหลม...น้องจุ๊ง...น้องอร...และสมาชิกทุกท่านค่ะ...

...พี่ตู่กลับมาถึงเมื่อวานนี้ค่ะ...22 ตุลา...ตอนเช้า...

...ตามเวลาเครื่องจะออกจากสนามบินที่เฉินตู 00.15 น....แต่ดีเลย์ไปประมาณครึ่งชั่วโมง...เป็น 00.45 น.

...ถึงสุวรรณภูมิประมาณ 03.45 น...เป็นเวลาเมืองไทย 02.45 น.ค่ะ...

...กลับมาถึงบ้านก็ประมาณ 6 โมงเช้าค่ะ...โดยสวัสดิภาพ...

...พร้อมกับไข้หวัดใหญ่กลับมาด้วยค่ะ...

...อาการเริ่มเป็นตอนพักที่เฉินตูคืนสุดท้ายค่ะ...มีอาการคันคอนิดๆ...

...พี่ตู่พยายามดื่มน้ำเข้าไป...ก็รู้สึกค่อยยังชั่วค่ะ...

...แต่อาการแพ้อากาศเป็นตั้งแต่วันแรกที่ไปพักที่ตีนเขาจิ่วจ่ายโกวค่ะ...

...ก็ทานยามาทุกวันค่ะ...ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด...ใช้ยาช่วยตลอดค่ะ...

...พอกลับมาถึงบ้าน...ถึงได้ทานยาเต็มโดสครบเครื่องเลยค่ะ...

...ทั้งยาแก้อักเสบ...ยาแก้แพ้อากาศ...ยาแก้ไอ...ก่อนที่จะมีอาการไอค่ะ...

...พี่ตู่ถือว่าโชคดีมากที่ขึ้นจิวจ่ายโกวและหวงหลงได้ค่ะ...

...แม้จะไม่ได้พิชิตยอดสูงสุด...ไปได้แค่ครึ่งทางค่ะ...

...วันที่ไปมีหิมะลงค่ะ...น้ำที่เอาไปเย็นเจี๊ยบโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็นค่ะ...

...คนที่ไปชุดหลังพี่ตู่จะต้องผจญกับหิมะที่มากกว่านี้ค่ะ...

...พี่ตู่ว่ามันเป็นความสุขที่ปนกับความทรมาน...

...ซึ่งคิดว่าทัวร์หน้าคงจะเปลี่ยนไปตอนหน้าร้อนจะดีกว่าค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 26 ตุลาคม 2554, 12:27:59

สวัสดียามเที่ยงครับ.... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อร และพี่น้องทุกท่าน

รอชมรูปทริปจิ่วจ่ายโกวของพี่ตู่อยู่นะครับ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 29 ตุลาคม 2554, 11:09:53
...สวัสดีค่ะ...น้องแหลม...น้องจุ๊ง...น้องอร...

...พี่ตู่เพิ่งหายป่วยค่ะ...

...แล้วจะค่อยๆลงรูปที่กระทู้นะคะ...

...ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 29 ตุลาคม 2554, 13:18:35

สวัสดียามบ่ายครับ....... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่อร และพี่น้องทุกท่าน

เดี๋ยวจะตามไปชมรูปทริปจิ่วจ้ายโกครับ พี่ตู่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 03 พฤศจิกายน 2554, 10:44:26
...น้องแหลม...ไม่ลงรูปทัวร์ศรีลังกาแล้วเหรอคะ...

...มีแต่ข่าวน้ำท่วมอ่ะค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 03 พฤศจิกายน 2554, 16:49:29

สวัสดียามเย็นครับ....... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่ และพี่น้องทุกท่าน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 03 พฤศจิกายน 2554, 16:55:16


อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2554, 10:44:26
...น้องแหลม...ไม่ลงรูปทัวร์ศรีลังกาแล้วเหรอคะ...

...มีแต่ข่าวน้ำท่วมอ่ะค่ะ...

ศรีลังกา... ลงพรีวิวไปแล้ว

แบบเป็นเรื่องเป็นราวคงต้องรอสักพักครับ.. พี่ตู่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 25 ธันวาคม 2554, 22:54:22
.....สุขสันต์คริสมาสครับ น้องจุ๊ง ๕๕๕.....

http://www.youtube.com/watch?v=2QUhf8u88o8


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 02 มกราคม 2555, 09:50:54

สวัสดีปีใหม่ครับ... ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน

ขอให้ประสบแต่ความสุข,สมหวัง ตลอดไปครับ...



(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd721750_2010347_4156081_2926803photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 04 มกราคม 2555, 08:37:29
สวัสดีครับพี่ตี๋ ท่านแหลมและพี่น้องทุกท่าน
คริสต์มาสก็แล้ว ปีใหม่(ฝรั่ง)ก็แล้ว ปีใหม่จีนกำลังจะมา ถ้าจำไม่ผิดก็วันที่18 มกราคมนี้ เลยเปิดเพลงอวยพรปีใหม่ ตรุษจีน พร้อมต้อนรับวสันตฤดูที่กำลังจะมา


http://www.youtube.com/watch?v=UxmdXEEkj8k

http://www.youtube.com/watch?v=ay47B8q7daQ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 04 มกราคม 2555, 17:39:27
Happy New Year ค่ะ  พี่จุ๊ง ..

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd256320_6232599_9491931_7014007photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 05 มกราคม 2555, 09:07:10

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๕ครับจุ๊ง
ขอให้มีความสุขตามปราถนาตลอดไปครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 05 มกราคม 2555, 11:38:20
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 04 มกราคม 2555, 08:37:29
สวัสดีครับพี่ตี๋ ท่านแหลมและพี่น้องทุกท่าน
คริสต์มาสก็แล้ว ปีใหม่(ฝรั่ง)ก็แล้ว ปีใหม่จีนกำลังจะมา ถ้าจำไม่ผิดก็วันที่18 มกราคมนี้ เลยเปิดเพลงอวยพรปีใหม่ ตรุษจีน พร้อมต้อนรับวสันตฤดูที่กำลังจะมา


http://www.youtube.com/watch?v=UxmdXEEkj8k

http://www.youtube.com/watch?v=ay47B8q7daQ

สวัสดีครับ... ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน

ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นท่านจุ๊งเข้าเว็ปหอฯเท่าไร...

อุตส่าห์เข้ามาสวัสดีปีใหม่พี่ๆน้องๆ ก็ต้อง..... ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 06 มกราคม 2555, 10:09:43
สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน
วาระขึ้นปีใหม่นี้ ก็ขออำนวยพรให้ทุกท่านเบิกบานสุขีกันถ้วนหน้านะครับ ว่าแล้วก็เป็นดีเจเปิดเพลงที่เข้ากับบรรยากาศซะหน่อย


http://www.youtube.com/watch?v=ij_n2L_PN2s

http://www.youtube.com/watch?v=DeQs8-exVLM


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 06 มกราคม 2555, 10:28:27

สวัสดียามสายครับ... ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน

สบายตี?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pete15 ที่ 06 มกราคม 2555, 21:03:47
สวัสดี ปีใหม่ ครับ น้องจุ๊ง  ( จาก เด็ก หน้าโรงหนัง )


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 มกราคม 2555, 17:49:02

Gong Xi Fa Cai ค่ะพี่จุ๊ง


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd788044_6035860_1141171_1020394photo.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 มกราคม 2555, 18:35:25
ไหนๆน้องยาหยีมาอวยพรตรุษจีนแล้ว เลยหาคลิปล่าสุดอวยพรตรุษจีนมาให้


http://www.youtube.com/watch?v=3cQ_zXtWOW8

http://www.youtube.com/watch?v=3DOk1kTIBb0

http://www.youtube.com/watch?v=GA2Pv3GawKY



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 20 มกราคม 2555, 18:53:43
เห็นประทัดในคลิปแล้ว นึกถึงตอนไปจีนช่วงตรุษจีนเมื่อราว5ปีก่อน ตอนนั้นที่จีนเขากลัวเรื่องไฟไหม้ป่าและการเกิดอัคคีภัยกันมาก จำได้ว่าปีนั้นวันตรุษจีนเขาห้ามจุดประทัด และงานเช็งเม้งไม่สนับสนุนให้เผากระดาษเงินกระดาษทอง สนับสนุนให้ใช้ดอกไม้แทน เสีบบรรยากาศชะมัด แต่พวกเด็กๆก้แอบจุดประทัดกันในชนบท ต้องทำแบบลับๆล่อๆ ปรากฏว่านโยบายออกมาได้แค่ปีเดียวต้องโยนทิ้งไป คงจะได้รับเสียงสะท้อนมามั้ง
ตอนนั้นคืนก่อนวันตรุษจีน ทุกคนจะคอยเวลา ช่วงใกล้เทียงคืน จะเปิดประตูหน้าต่างทุกบานออกโล่งแจ้ง นัยว่าต้อนรับเทพเจ้าสมบัติ งานวันตรุษจีน ทุกคนที่จะพร้อมหน้ากันในบ้าน ไม่ไปไหน จนถึงรุ่งขึ้นวันที่2 ก็จะถึงเทศกาลสะใภ้พร้อมทั้งลูกเขยและหลานกลับไปเยี่ยมบ้านแม่ พร้อมทั้งเปิดวงรำไพ่นกกระจอกตามประเพณี ผมเองเล่นนกกระจอกไม่เป็น หลานก็คอยสอนวิธีเล่นให้ เล่นยากน่าดูนะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2555, 10:59:19
...ตอนตรุษจีนพี่ตู่งานยุ่งมาก...

...เลยไม่ทันได้เข้าห้องนี้ค่ะ...

...แต่มาฟังน้องจุ๊งเล่าถึงวันตรุษจีนในอดีต...

...ก็นึกภาพเห็นเลยค่ะ...แถวบ้านพี่ตู่เค้าก็จุดปะทัดกันดังเปรี้ยงปร้างเลยค่ะ...

...พี่ตู่ไม่ได้จุดค่ะ...กลัวค่ะ...แต่ก็ไหว้แบบไทยๆคือผลไม้ 5 อย่าง...ไหว้เจ้าที่ค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 24 มีนาคม 2555, 07:13:20
.....สวัสดีครับ น้องจุ๊ง คิดถึงมากครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 28 มีนาคม 2555, 06:16:31

.....สวัสดีครับ น้องจุ๊ง.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 28 มีนาคม 2555, 10:59:13

...สวัสดีค่ะ...น้องตี๋...

...น้องจุ๊งคงยุ่งมากค่ะ...

...ดูสิบ้านเปื้อนฝุ่นหมดเลย...

...คงต้องมาช่วยเช็ดถูให้แล้วล่ะค่ะ...


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 28 มีนาคม 2555, 12:28:49

สวัสดียามเที่ยงครับ.... ท่านจุ๊ง..พี่ตู่..พี่ตี๋..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

เห็นจุ๊งบอกว่า.. ช่วงนี้ไม่สะดวกที่จะเข้าเว็บนะครับ




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 01 เมษายน 2555, 06:57:33
สวัสดีพี่น้องทุกท่านครับ
ขอบคุณที่คิดถึงครับ ผมคงจะเข้ามาได้บ้างเป็นช่วงๆนะครับ จะเฝ้าเว็บแบบเก่าคงไม่ได้แล้ว


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pete15 ที่ 01 เมษายน 2555, 07:13:40
สวัสดี ครับ น้องจุ๊ง  หายไปเลย มี อะไรตื่นเต้นในชีวิต ก็มาเล่าสู่กัน ฟังบ้าง......... คิดถึง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 02 มกราคม 2556, 00:18:05
.....สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๖ ครับ น้องจุ๊ง  เดือนหน้าตรุษจีนมาเยือนอีกแล้วครับ.....


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 02 มกราคม 2556, 13:30:37



(http://www.cmadong.com/picup/201212/5758313571067784929503290.jpg)


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pete15 ที่ 02 มกราคม 2556, 23:56:55
สวัสดี ปีใหม่ ครับ น้องจุ๊ง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 05 มกราคม 2556, 23:53:43


.....สวัสดีครับ น้องจุ๊ง คิดถึงจัง จะตรุษจีนอีกแล้ว ตามชมเรื่องจีนๆครับ๕๕.....


http://www.youtube.com/watch?v=HkHPxaT2Scs



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 06 มกราคม 2556, 18:17:26
.....สวัสดีครับ น้องจุ๊ง.....

http://www.youtube.com/watch?v=pf4VXQMvGcM



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 08 มกราคม 2556, 00:50:18
.....สวัสดีครับ น้องจุ๊ง   

     นักร้อง “Xu Qian Ya 徐千雅” นามสกุลเดียวกับพี่เลย ต้องตามไปดูว่าอยู่ชั้นไหนของสายครับ๕๕๕.....




http://www.youtube.com/watch?v=TSSo9VVRCHc





หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 08 มกราคม 2556, 07:29:28
อยากเรียนภาษาจีน วันละคำค่ะน้องจุ๊ง
 emo43


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 08 มกราคม 2556, 12:53:02

สวัสดียามเที่ยงครับ.... ท่านจุ๊ง..พี่ปี๊ด..พี่ทราย..พี่ตี๋..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 08 มกราคม 2556, 12:55:27
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 07:29:28
อยากเรียนภาษาจีน วันละคำค่ะน้องจุ๊ง
 emo43

เห็นด้วย.. อยากด้วย ครับ

ตอนนี้.. คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..

..5 ..5


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 08 มกราคม 2556, 13:35:19
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 มกราคม 2556, 12:55:27
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 07:29:28
อยากเรียนภาษาจีน วันละคำค่ะน้องจุ๊ง
 emo43

เห็นด้วย.. อยากด้วย ครับ

ตอนนี้.. คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..

..5 ..5


   ด้วย....ด้วย...ภาษาจีน วันละคำ..


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 08 มกราคม 2556, 13:48:33
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 13:35:19
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 มกราคม 2556, 12:55:27
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 07:29:28
อยากเรียนภาษาจีน วันละคำค่ะน้องจุ๊ง
 emo43

เห็นด้วย.. อยากด้วย ครับ

ตอนนี้.. คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..

..5 ..5


   ด้วย....ด้วย...ภาษาจีน วันละคำ..

ท่านจุ๊ง อยู่ไหน?

ลูกศิษย์รอเต็มห้องแล้ว...  


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 08 มกราคม 2556, 13:50:19
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 00:50:18
.....สวัสดีครับ น้องจุ๊ง   

     นักร้อง “Xu Qian Ya 徐千雅” นามสกุลเดียวกับพี่เลย ต้องตามไปดูว่าอยู่ชั้นไหนของสายครับ๕๕๕.....




http://www.youtube.com/watch?v=TSSo9VVRCHc





พี่ตี๋เจอหรือยังครับว่า.. อยู่ชั้นไหน?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 08 มกราคม 2556, 20:51:19
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 มกราคม 2556, 12:55:27
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 07:29:28
อยากเรียนภาษาจีน วันละคำค่ะน้องจุ๊ง
 emo43

เห็นด้วย.. อยากด้วย ครับ

ตอนนี้.. คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..

..5 ..5
คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..
แปลว่าอะไรค่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 09 มกราคม 2556, 18:08:30
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 20:51:19
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 มกราคม 2556, 12:55:27
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 07:29:28
อยากเรียนภาษาจีน วันละคำค่ะน้องจุ๊ง
 emo43

เห็นด้วย.. อยากด้วย ครับ

ตอนนี้.. คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..

..5 ..5
คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..
แปลว่าอะไรค่ะ

ประมาณว่า... อ่านไม่ออก ฟังไม่รู้เรื่อง อ่ะครับพี่


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 09 มกราคม 2556, 19:47:05
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 มกราคม 2556, 18:08:30
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 20:51:19
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 มกราคม 2556, 12:55:27
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 07:29:28
อยากเรียนภาษาจีน วันละคำค่ะน้องจุ๊ง
 emo43

เห็นด้วย.. อยากด้วย ครับ

ตอนนี้.. คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..

..5 ..5
คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..
แปลว่าอะไรค่ะ

ประมาณว่า... อ่านไม่ออก ฟังไม่รู้เรื่อง อ่ะครับพี่
เอ๊า! เริ่มเรียนคำที่ 1 ล่ะ
รอครูจุ๊งมาสอนคำที่ 2 ค่ะ
รึครูแหลมจะสอนต่อก็ได้ค่ะ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 10 มกราคม 2556, 17:03:03
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 09 มกราคม 2556, 19:47:05
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 09 มกราคม 2556, 18:08:30
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 20:51:19
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 08 มกราคม 2556, 12:55:27
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 08 มกราคม 2556, 07:29:28
อยากเรียนภาษาจีน วันละคำค่ะน้องจุ๊ง
 emo43

เห็นด้วย.. อยากด้วย ครับ

ตอนนี้.. คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..

..5 ..5
คั่นปู้ต่ง.. ทิงปู้ต่ง..
แปลว่าอะไรค่ะ

ประมาณว่า... อ่านไม่ออก ฟังไม่รู้เรื่อง อ่ะครับพี่
เอ๊า! เริ่มเรียนคำที่ 1 ล่ะ
รอครูจุ๊งมาสอนคำที่ 2 ค่ะ
รึครูแหลมจะสอนต่อก็ได้ค่ะ


เกินความสามารถจริงๆครับพี่..


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 15 มกราคม 2556, 09:05:18
อาจารย์จุ๊ง ห่างหายไปนานเลย
สุขภาพไม่รู้เป็นยังไงบ้าง


 emo6::)) emo42


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556, 22:00:04
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2554, 21:14:53

ท่านจุ๊ง......

ปีใหม่ผ่านไปแล้ว...... ตรุษจีนก็ผ่านไปแล้ว..... วันวาเลนไทน์ก็จะมาถึงพรุ่งนี้แล้ว......

จะกบดานไปถึงไหน?......... ระวังจะกลายเป็นฟอสซิลนะท่าน.


.....ซินเซียอยู่อี๋ ซิงนี้เพ่งอังคิงเกี่ย ครับน้องจุ๊ง วันนี้ขึ้นปีใหม่จีน อีกไม่กี่วันก็วาเลนไทน์

     เอาเพลงตรุษจีนมาฟังก่อนนะครับ.....


http://www.youtube.com/watch?v=ZWXnWGOVR7g




หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 31 ตุลาคม 2556, 20:12:28

ท่านจุ๊ง... สบายดี?

จะไปจีนเมื่อไร?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 16 มกราคม 2557, 14:41:43
สวัสดีพ่อแม่พี่น้อง
ไม่ได้แวะมาเยี่ยมห้องตั้งนาน ขออภัยมณีด้วย


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 มกราคม 2557, 11:39:37
สวัสดีครับ


หายไปเกิน 1 ปี ทำให้ขาดข้อมูลดีๆของประเทศจีนที่มีมาตลอด
รวมทั้งเพลงเพราะๆไปถึงปีเศษ
ยินดีต้อนรับกลับสู่เว็ปครับ



หมายเหตุ: ปกติพี่เหยงจะติดตามอ่าน และเปิดเพลงจาก youtube ที่โพสต์เอาไว้ครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 20 มกราคม 2557, 20:02:52

สวัสดีครับ... ท่านจุ๊ง..พี่เหยง และพี่น้องทุกท่าน

เจ้าของห้องหายไปนานเลยจริงๆ...

กลับเข้าเว็ปมา น่าจะมีอะไรๆมาเล่าสู่กันฟังบ้างอ่ะ..


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊ง2522 ที่ 24 มกราคม 2557, 16:45:16
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง
ตอนนี้ผมกลับมาเลียแผลอยู่ที่เบตง บ้านเก่า กะว่าพักเหนื่อยแล้ว เดือนหน้าจะไปทำงานที่คุนหมิง ประมาณวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถ้ามีอะไรสนุกๆ น่าสนใจจะเอามาเล่าสู่กันฟัง


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557, 21:34:03

สวัสดีครับ... ท่านจุ๊ง และพี่น้องทุกท่าน

รอชมภาพและเรื่องจาก..คุนหมิง อยู่อ่ะครับ

อย่าลืมเคลียร์พื้นที่ไว้รอพี่น้องเพื่อนฝูงที่จะแวะไปเยี่ยมเยียนด้วยนะครับ

...5 ...5 ...5



หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557, 18:55:57

เห็นเจ้าของห้องออนไลน์... ไหงไม่ยอมโพสท์อะไรเลย?


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: satirap ที่ 16 เมษายน 2557, 12:26:19
สวัสดีครับ พอดีวันอาทิตย์นี้ต้องไปไหว้ขอพรเทพมาจู่หรือหมาโจ้ว (ศาลเจ้าหลินโม่เหนียง) คิดว่าน่าจะคนละองค์กับศาลเจ้าแม่ทับทิมที่มีอยู่ทั่วไปใน กทม. ไม่ทราบว่าถ้าต้องการจะไหว้ขอพรจากองค์หมาโจ้วผมสามารถไปที่ไหนได้บ้างครับ ภายในเขต กทม. หรือใกล้เคียง ขอบพระคุณครับ


หัวข้อ: Re: คุยกันเรื่องจีนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 เมษายน 2557, 20:19:55
อ้างถึง
ข้อความของ จุ๊ง2522 เมื่อ 24 มกราคม 2557, 16:45:16
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง
ตอนนี้ผมกลับมาเลียแผลอยู่ที่เบตง บ้านเก่า กะว่าพักเหนื่อยแล้ว เดือนหน้าจะไปทำงานที่คุนหมิง ประมาณวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถ้ามีอะไรสนุกๆ น่าสนใจจะเอามาเล่าสู่กันฟัง


พี่เหยง ตลอดจนสมาชิกห้องนี้รออยู่ครับ ??