หัวข้อ: กุศโลบายให้เด็กวัยรุ่นใส่หมวกกันน๊อคขี่จักรยานยนต์ เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 11 สิงหาคม 2553, 17:18:13 ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันพุธ ที่ 11 สิงหาคม 2553 ที่สนับสนุนเนื้อหาข่าว http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=420&contentID=84210 ตำรวจเชียงใหม่ผุดแฟชั่นบนท้องถนนเท่มีสาระ!...ประกวดเพนท์สีหมวกกันน็อก (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l6zg2c-e28dd1.jpg) เชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่เป็นหัวเมืองเศรษฐกิจภาคเหนือตอนบน รวมทั้งยังเป็นแหล่งรวมของ สถาบันการศึกษา โรงเรียน มีนักเรียนนักศึกษาจากหลายจังหวัดในแถบภาคเหนือเข้ามาอยู่ และเรียนหนังสือในเมืองแห่งนี้เป็นจำนวนมาก นับวันประชากรของ จังหวัดเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ถนนหนทางหลายสายในตัวจังหวัดจากก่อน เคยว่างโล่งสามารถขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไปมาอย่างสะดวกสบาย แต่นั่นคือภาพในอดีต ปัจจุบันการจราจรในตัวเมืองหนาแน่นขึ้นตามยุคสมัย รถราวิ่งกันขวักไขว่ การจราจรเริ่มติดขัดยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วนการจราจรติดขัดน้อง ๆ กรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ เชียงใหม่ไร้ซึ่งระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ เมื่อ รถติดชาวบ้านนักเรียนนักศึกษา จึงหันมาใช้รถจักรยานยนต์เพื่อพาตัวเองและครอบครัวไปสู่ยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ รถจักรยานยนต์จึงถูกนำมาใช้และเพิ่มปริมาณเป็นจำนวนมากในท้องถนนของเมืองเวียงพิงค์ การใช้รถจักรยานยนต์หากไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดจะเกิดอุบัติเหตุ เช่น การเฉี่ยวชน หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นแต่ละครั้งสร้างความสูญเสียทั้งบาดเจ็บหรือเลวร้ายไปกว่านั้น คือการสูญเสียชีวิต ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดกิจกรรม “จัดประกวดหมวกนิรภัย หวังสร้างค่านิยมใหม่ให้กลุ่มวัยรุ่น” หันมาสวมใส่หมวกนิรภัย ป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าร่วมกิจกรรมกว่า1,000คน พ.ต.อ.อนุ เนินหาด ผกก. กลุ่มงานจราจร เปิดเผยว่า ปัญหาของการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ สำหรับผู้บาดเจ็บมักจะพบเห็นว่า ไม่สวมใส่หมวกนิรภัย และขับรถด้วยความคึกคะนอง ใช้ความเร็ว เมื่อประสบอุบัติเหตุก็จะ ไม่มีอะไรป้องกันศีรษะซึ่งด้านการบังคับใช้กฎหมายกวดขันจับกุม มักจะขับขี่หลบหนีเมื่อ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตั้งจุดตรวจซึ่งทำให้เกิดปัญหากับรถอื่นที่ขับขี่ ดังนั้นการสร้างแรงจูงใจและสร้างค่านิยมให้กลุ่มวัยรุ่นหันมาสวมหมวกนิรภัยเมื่อขับขี่ รถจักรยานยนต์บนท้องถนนจึงเป็นสิ่งที่น่าจะได้ผลมากกว่าการบังคับใช้กฎหมาย จึงได้จัดทำโครงการประกวดระบายสีและตกแต่งหมวกนิรภัยชิงทุนการศึกษาขึ้น โดยเชิญชวนนักเรียนนักศึกษาที่ศึกษาอยู่ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ระบายสีหมวกนิรภัยหรือ ตกแต่งด้วยสติกเกอร์ตามที่ตนเองต้องการและส่งเข้าประกวด ผู้ที่ชนะการประกวดเราได้มอบเงินเป็นทุนการศึกษาให้ ทางเราได้รับความร่วมมือจาก อาจารย์สุรสิทธิ์ เสาร์คง อาจารย์ประจำสาขาจิตรกรรม มหา วิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พร้อมคณะ เป็นคณะกรรมการตัดสินตามเงื่อนไขคือ ผู้ส่งหมวกนิรภัยเข้าประกวดต้องศึกษาอยู่ในเขตจังหวัดเชียงใหม่และหมวกนิรภัยที่ใช้ต้อง ได้รับการรับรองจาก มอก. การเพนท์นั้นต้องเป็นการระบายสีที่คงทนสามารถใช้งานได้จริง ไม่ถูกแดดฝนแล้วลบหรือละลายได้โดยง่าย การตกแต่งเน้นการติดด้วยสติกเกอร์ เป็นต้น “หลังจากเสร็จสิ้นโครงการครั้งนี้แล้วจะเห็นได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเป็นแรงจูงใจ และเป็นการสร้างค่านิยมใหม่ให้กลุ่มวัยรุ่นหันมาสวมหมวกนิรภัยกันมากขึ้นเพราะ นอกจากมีหมวกนิรภัยที่สวยงาม ทันสมัยตามที่ตนเองชอบแล้วยังป้องกันอันตรายที่ อาจเกิดกับศีรษะและสมองขณะเกิดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับลูกหลานของ คนเชียงใหม่โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาหรือเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติได้อีกด้วย อีกประเด็นหนึ่งที่อยากจะฝากก็คือการเคารพกฎหมายการจราจรอย่างเคร่งครัดยังเป็นสิ่ง จำเป็นสูงสุดในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน” ผกก.กลุ่มงานจราจรกล่าวในที่สุด. สนั่น เข็มราช/อนุศร ศรีวิชัย emo28:win: emo28:win: emo28:win: XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX จังหวัดอื่น ๆ น่านำมาทำด้วย จะได้ส่งเสริมให้ใส่หมวกกันน็อคเป็นแฟชั่น และช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่สมองเมื่อเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย emo26:D emo26:D emo26:D หัวข้อ: ปีแห่งการรณรงค์ทศวรรษความปลอดภัยหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 14 ธันวาคม 2553, 10:46:38 ผลวิจัยเผยคนไทยไม่ยอมใส่กันน็อก ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันอังคาร ที่ 14 ธันวาคม 2553 ที่สนับสนุนเนื้อหาข่าว http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=8&contentID=109763 (http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=8&contentID=109763) (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldefqb-3aa7d5.jpg) นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข แถลงข่าว ว่า ในปี 2554-2563 นี้ องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน และ ประเทศสมาชิกกว่า 150 ประเทศได้ตั้งเป้าลดอัตราผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนลงเหลือ 50% ภายในปี 2563 รัฐบาลไทยเอง ได้ประกาศให้ปี 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน และกำหนดเป้าหมายลดอัตราการตายจากอุบัติเหตุทางถนนของคนไทย ให้ต่ำกว่า 10 คนต่อประชากรแสนคน ภายในปี 2563 มาตรการที่ต้องเร่งผลักดัน คือ การส่งเสริมให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อก 100% และกำหนดให้ปี 2554 เป็น “ปีแห่งการรณรงค์กิจกรรมรณรงค์ทศวรรษความปลอดภัยหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์” นางพรรณสิริ กล่าวต่อว่า ในปี 2552 สำนักระบาดวิทยา รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 11,751 คน เฉลี่ยวันละกว่า 30 คน คิดเป็นอัตราตาย 18 คนต่อประชากรแสนคน ซึ่งสูงกว่าระดับสากล กำหนดไม่เกิน 10 คนต่อประชากรแสนคน โดย 3 ใน 4 เป็น ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือกว่า 6,000 ราย ซึ่งครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตไม่สวมหมวกกันน็อก ขณะเดียวกัน ผลสำรวจพฤติกรรมการสวมหมวกกันน็อกของ มูลนิธิไทยโรดส์ใน 30 จังหวัดทั่วประเทศในเดือน ก.ค. 2553 พบว่า ผู้ขับขี่ใส่หมวกกันน็อกเพียง 60% ส่วนผู้โดยสารใส่เพียง 30% โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนจะสวมหมวกกันน็อกน้อยกว่าผู้ใหญ่ประมาณ 3 เท่าตัว ช่วงกลางคืนจะสวมน้อยกว่ากลางวัน. emo28:win: emo28:win: emo28:win: หัวข้อ: ใช้ด้านที่ 3 ของสามเหลี่ยมฯ บังคับให้สวมหมวกฯเพื่อเสริมให้เกิดการปฏิบัติ 100% เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 03 มกราคม 2554, 21:28:29 โดยเวบไทยรีเซ็นต์ดอทคอม วันจันทร์ ที่ 03/01/2554 http://thairecent.com/Politic/2011/778830/ (http://thairecent.com/Politic/2011/778830/) (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leg9w4-41f49d.jpg) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะรองประธานกรรมการและรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน คนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ แทนประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ขอให้นำมติที่ประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 53 เสนอในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาให้ความเห็นชอบ วันที่ 4 ม.ค. ให้ประกาศให้ ปี2554เป็นปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย100% โดยให้หน่วยงานภาคราชการ องค์กรมหาชน รัฐวิสหากิจ และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีมาตรการเพื่อรณรงค์ส่งเริมการสวมหมวกนิรภัย ดังนี้ 1.ให้หน่วยงานภาครัฐทุกแห่งกำหนดให้บริเวณสถานที่ราชการเป็นพื้นที่สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ในการขับขี่รถจักรยานยนต์ 2.ให้หน่วยงานภาครัฐ องค์กรมหาชน รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ถือปฏิบัติตามติ ครม. วันที่ 28 เม.ย. 2546 ซึ่งกำหนดมาตรการปฏิบัติตามกฎหมาย นโยบายความปลอดภัยทางถนนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้แล้ว โดยให้ ทุกหน่วยงานแจ้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีในการปฏิบิตามกฎหมาย เรื่อง การขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง หากไม่ปฏิบัติถือว่าฝ่าฝืนกฎหมายให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาลงโทษทางวินัยต่อไป 3.เพื่อเป็นการลดความสูญเสียในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บและเสีย ชีวิตจากรถจักรยานยนต์ ให้กระทรวงแรงงาน ขอความร่วมมือจากสถานประกอบการในการส่งเสริมให้พนักงานสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ให้กระทรวงศึกษาธิการส่งเสริมให้สถานศึกษาทั้งของภาครัฐและเอกชนจัดให้มี มาตรการในการส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยของบุคลากรในสังกัด นักเรียน นักศึกษา ให้กระทรวงมหาดไทย แจ้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ( อปท.) ให้ความร่วมมือรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยในสถานศึกษาในสังกัด อปท. ให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทบทวนมาตรฐานหมวกนิรภัย ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของไทย ให้กระทรวงสาธารณสุข จัดเก็บสถิติการบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุทางถนนที่เกี่ยวข้องกับการไม่สวมหมวกนิรภัย และ ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนจัดให้มีกิจกรรมสนับสนุดครงการปีแห่งการณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ emo28:win: emo28:win: emo28:win: XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX ให้ความรู้เรื่องหมวกกันน็อค ลดการบาดเจ็บ และ เสียชีวิตจากอันตรายต่อสมองเป็นด้านที่ 1 ผู้ได้รับความรู้จึงปฏิบัติเป็น วัฒนธรรม เป็นด้านที่ 2 แต่ก็จะยังมี ผู้ไม่ปฏิบัติ เพราะ ไม่มีบทลงโทษ ต้องใช้ด้านที่ 3 ของสามเหลี่ยมฯ มีบทลงโทษบังคับให้ปฏิบัติ เพื่อเสริมให้เกิดการปฏิบัติ 100% emo29:P: emo29:P: emo29:P: หัวข้อ: Re: กุศโลบายให้เด็กวัยรุ่นใส่หมวกกันน๊อคขี่จักรยานยนต์ เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 03 มกราคม 2554, 22:45:26 เห็นที่เมืองนอกเค้าให้ประชันไอเดียกันบนหมวกกันน็อคมานานแล้วคับ
ผมเห็นแล้วชอบมากๆๆ |