หัวข้อ: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 04:28:39 เพลงมีหลากหลายแนว
แล้วแต่คนชอบฟังเพลงแนวไหน หลายคนชอบฟังเพลงรัก หลายคนชอบฟังเพลงสบายๆ ส่วนตัวผมชอบฟังเพลงแนวนิวเอจ หรือไม่ก็เพลงไทยเดิมแบบประยุกต์ และอีกหลากหลายแนว เมื่อฟังเพลงเหล่านี้ทำให้เกิดความรู้สึกพิเศษ หลายเพลงไม่มีเนื้อเพลง มีแต่ทำนอง แต่ฟังแล้วรู้สึกทางจิตวิญญาณ กระทู้นี้จะแบ่งปันแนวเพลงที่ตนเองชอบ และมีนัยทางปรัชญาแฟงเข้าไปด้วย เป็นการเรียนรู้ปรัชญาส่วนบุคคล ผ่านเพลงที่ชอบ หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 04:30:24 เพลงแรกที่จะโพสต์คือเพลงที่ผมชอบมานาน
แต่งโดย คุณ 高橋正則 (Takahashi Masanori) หรือที่รู้จักในชื่อ 喜多郎 (Kitaro) ผลงานของเขามีมากมาย แต่ที่ส่วนตัวชอบมากๆ มีสามเพลง เพลงแรก ชื่อเพลง まつり (Matsuri) まつり (Matsuri, มัทซึริ) ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=GGtKxbu7vLI มัทซึริ แปลว่า งานเทศกาล จำพวกงานวัดของญี่ปุ่น เพลงบรรเลงท่ี่เริ่มต้นด้วยการตีกลองไดโกะ บรรเลงไปพร้อมกับเครื่องดนตรีหลากหลาย ให้ความรู้สึกถึงความแตกต่าง แต่สามารถเล่นไปด้วยกัน เช่นเดียวกันกับมนุษย์ที่มีความหลากหลาย แต่ถ้าบรรเลงไปพร้อมกันก็เกิดความไพเราะอย่างน่าพิศวง นอกจากจะใช้เครื่องดนตรีเล่นแล้ว เสียงของมนุษย์ก็เป็นดนตรีชนิดหนึ่ง ในการดำเนินเพลง จะมีเสียงป๊อกๆ แก๊กๆ แทรกตลอดเพลง โดยเฉพาะตอนที่มีเสียงกลอง เสียงมนุษย์ และเสียงแก๊กๆ ในช่วงเวลาที่ 5:00 - 5:30 ในวีดีโอ จะได้ยินชัด ซึ่งทำให้ผมนึกถึงงานวัดของญี่ปุ่น ที่มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เดินนำขบวน และถือไม้เท้าเหล็ก ปลายด้านบนมีกระพรวนแขวนอยู่ เขาจะเดินไปเคาะไปเกิดเป็นเสียง แก๊กๆ คล้ายในเพลง คลอไปกับเสียงของกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงที่ออกเสียงพร้อมกัน ขณะเดินลากองค์พระไปตามทางของหมู่บ้าน เพลงบรรเลง 8 นาที ที่บรรเลงซ้ำๆ แต่เต็มไปด้วยการเคลือนไหว และไม่น่าเบื่อ まつり http://www.youtube.com/watch?v=GGtKxbu7vLI หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 04:32:43 เพลงที่สองจากผู้แต่งคนเดิม
The silk road ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=xabGHy49zDY เพลงนี้ผมเคยได้ยินตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เพราะดูรายการของ NHK ที่นำมาออกอากาศทางช่อง ๑๑ ชื่อรายการว่า "เส้นทางสายไหม" รายการนี้ผมชอบมาก ผมได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนตามเส้นทางสายสำคัญในการซื้อขายของยูเรเซีย ที่เหล่าคาราวานจะออกเดินทางอันแสนทุรกันดารและยาวไกล เราได้เห็นความหลากหลายทางวัฒนธรรม การดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไปตามภูมิประเทศที่แตกต่าง นี่เป็นอีกหนึ่งของความหลากหลายตามธรรมชาติ แต่มนุษย์ก็เชื่อมต่อกัน จากเส้นทางนี้ ชีวิตมนุษย์ต้องเดินทางไกล ผ่านทางทุรกันดารบ้าง ทางสบายบ้างคละเคล้ากัน แต่พวกเราก็ดำเนินชีวิต และยังดำรงชีวิตอยู่ ผ่านเส้นทางที่โบราณและยาวไกลนี้ พวกเราได้เรียนรู้ชีวิต และรู้จักมันมากขึ้น ถึงแม้ว่าการเดินทางของเราจะสิ้นสุดลง แต่เส้นทางนั้นก็ยังคงดำรงอยู่ ตราบนานเท่านาน รายการดีๆ ทางช่อง ๑๑ สมัยนั้นรุ่นผมจะไม่มีใครดู ยกเว้นผม โดยเฉพาะรายการของ NHK เช่นทางสายไหมที่กล่าวไปแล้ว, เส้นสายลายศิลป์, และกำเนิดโลก รายการเหล่านี้จะฉายซ้ำๆๆ ผมก็ดูทุกครั้งจนจำได้ The silk road http://www.youtube.com/watch?v=xabGHy49zDY จากคอนเสิร์ต http://www.youtube.com/watch?v=9ulc51ZOGQk หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 04:33:42 อีกเพลงนึงนะครับ ของ Kitaro ที่ผมชอบนะครับ ก็คือเพลง
Heaven and Earth ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=YO82u7CKj1k เพลงนี้ทำให้ผมสร้างจินตนาการได้กว้างไกลมาก นอกจากเพลงจะมีความไพเราะแล้ว เพลงยังเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์เกิดความสร้างสรรค์ นั่นหมายความว่า การฟังเพลงน่าก็จะมีผลต่อสมองของเรา http://www.youtube.com/watch?v=YO82u7CKj1k หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 04:37:03 ในช่วงต้นกระทู้นี้จะนำเสนอเพลงสายพันธุ์ญี่ปุ่นนะครับ
หลังๆ ค่อยเปลี่ยนเป็นแบบอื่นบ้าง เพลงต่อไปแต่งโดยคุณ 星 吉昭 (Hoshi, Yoshiaki) 神々の詩 (Kamigami no uta) ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=qCaZ7nkp-4k aba naaga Mapo aba akaki koromo bo konomibumu aba, otoga naguribudoe, ibo mundakuribumu * aba naaga Mapo ani nono to aya to ine to ie to oto shibuibumu aba naaga Mapo ani nono to aya to ine to ie to oto shibuibumu aba naaga Mapo aba naaga Mapo (ซ้ำ*) เพลงนี้เป็นภาษาโจมง (縄文) ภาษาโบราณของญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันไม่ใช้แล้ว แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า "เพลงกวีแห่งสรรพเทวา" ชื่อของข้าคือ "มาโป" ข้าชอบกิโมโนสีแดง น้องชายร้องไห้ ข้าจึงอุ้มกอดไว้ ชื่อของข้าคือ มาโป ปู่ย่าตายาย และ พ่อ และ แม่และ พี่ชายพี่สาว และ น้องชายน้องสาว อยู่กับข้า ชื่อของข้าคือ มาโป ชื่อของข้าคือ มาโป (ซ้ำ) อันนี้ผมแปลมาจากภาษาญี่ปุ่นอีกทีนึง ไม่เชี่ยวชาญขนาดฟังโจมงออกอ่ะนะคับ อิๆๆ เพลงนี้ผมได้ยินครั้งแรก จากซีดี The most relaxing feel 1 ตอนนั้นยูทูปว์ยังไม่ดัง ยากที่จะถ่ายทอดให้ใครฟังผ่านทางเน็ต ซึ่งสี่ห้าปีให้หลังยูทูปว์จึงดังขึ้นมา หาเพลงที่ชอบได้ง่ายขึ้นมาก ลองฟังดูนะครับ เพลงกวีแห่งสรรพเทวา http://www.youtube.com/watch?v=qCaZ7nkp-4k อันนี้น่าจะเป็นการแสดงในส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตของคุณ Hoshi ไม่แน่ใจนะครับ http://www.youtube.com/watch?v=WnL4l5rGhlg หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 04:38:41 อีกเพลงหนึ่งของคุณ Hoshi ที่ชอบ
千年の祈り (Sennen no inori) ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=71zZzCf-AsA 千年の祈り แปลว่า การอธิฐานพันปี บทเพลงบรรเลง ช่วงกลาง และช่วงปลายๆ จะเสียงร้องประกอบ http://www.youtube.com/watch?v=71zZzCf-AsA การแสดงในส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ต http://www.youtube.com/watch?v=RiQrXH1uD24 หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 04:42:10 ลองมาฟังแนวตะวันตกดูบ้างนะครับ
La Notte Etterna ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=PNIwt1DNTKE Voi cui eternità A posto in braccia Mia vita Voi che d’altro mondo Sognate, d’a-altre fia-amme Ma non so per ch’io sia O mo-orta ripa Del mio stato-infelice L’stato-infelice! Com’ ch’il cie-el non più vede Ha’n te-enebre-il cor’ Come chi tanto guarda La nott-etterna Tramene… Làggiù Di che sai tu ? Di smarrita, febbrila Attesa Dove… Dove sei tu ? Che’l preda, esule T’attende… Ma non so per ch’io sia O mo-orta ripa Del mio stato-infelice L’stato-infelice Com’ ch’il cie-el non più vede Ha’n te-enebre-il cor’ Come chi tanto guarda La nott-etterna Tramene… Com’ ch’il cie-el non più vede Ha’n te-enebre-il cor’ Come chi tanto guarda Tramene… La Notte Etterna http://www.youtube.com/watch?v=PNIwt1DNTKE อันนี้มี Sub อังกฤษ http://www.youtube.com/watch?v=Q3DWFHUWBgw หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 04:45:14 คราวนี้กลับมาในสยามประเทศกันบ้าง
เพลงไทยๆ ของเราก็มีดีไม่น้อย เริ่มด้วย ขับไม้บัณเฑาะว์ ฟังได้จากลิงค์ http://www.ijigg.com/songs/V2BAABAPD (http://www.ijigg.com/songs/V2BAABAPD) เพลงนี้ติดอยู่ในหัวของผมตั้งแต่สมัยที่ผมดูรายการอะไรซักอย่าง ช่อง 11 ที่มีเหล่าคุณหญิงคุณนายใส่ชุดไหมราตรีออกมาร้องเพลงกัน เนื้อเพลงร้องว่า "ไทย วัฒนธรรม ศิลปกรรม อันสูงส่ง" แล้วก็มีทำนองเพลงนี้คลอออกมา เพลงนี้มีหลากหลายเวอร์ชั่นที่ชอบๆ เวอร์ชั่นแรกที่ใส่ไว้ในลิงค์เป็นของไหมไทย มีอีกเวอร์ชั่นหนึ่งของวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ (BSO) ที่จัดเป็นคอนเสิร์ต ไหมไทย http://www.ijigg.com/songs/V2BAABAPD (http://www.ijigg.com/songs/V2BAABAPD) BSO http://www.ijigg.com/songs/V2AE4BF0P0 (http://www.ijigg.com/songs/V2AE4BF0P0) เวอร์ชันนี้ของกรมศิลปากรเรียบเรียงโดยพระเจนดุริยางค์ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=55391 (http://www.oknation.net/blog/print.php?id=55391) ต้นตำรับเพลงไทยเดิม โหมโรง ขับไม้บัณเฑาะว์ http://www.phrapiyaroj.com/homrong/page2.html (http://www.phrapiyaroj.com/homrong/page2.html) หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 04:47:49 อยู่กันที่เพลงอิตาลี เพลงนี้เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ชอบ เพลงนี้ผมเคยฟังเมื่อนานมาแล้ว สิบกว่าปีได้แล้วมังครับ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ได้ยินเป็นเพลงประกอบโฆษณา ชอกโกแลตยี่ห้อหนึ่งที่มีเชฟฝรั่งมาทำชอกโกแลตลูกกลมๆ
Time to say goodbye ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=qtivSTZrezc Quando sono solo Sogno all'orizzonte E mancan le parole Si lo so che non c'?luce In una stanza Quando manca il sole Se non ci sei tu con me, con me. Su le finestre Mostra a tutti il mio cuore Che hai acceso Chiudi dentro me La luce che Hai incontrato per strada Time to say goodbye Paesi che non ho mai Veduto e vissuto con te Adesso si li vivro. Con te partiro Su navi per mari Che io lo so No no non esistono piu It's time to say goodbye. Quando sei lontana Sogno all'orizzonte E mancan le parole E io si lo so Che sei con me con me Tu mia luna tu sei qui con me Mio sole tu sei qui con me Con me con me con me Time to say goodbye Paesi che non ho mai Veduto e vissuto con te Adesso si li vivro. Con te partiro Su navi per mari Che io lo so No no non esistono piu Con te io li rivivro. Con te partiro Su navi per mari Che io lo so No no non esistono piu Con te io li rivivro. Con te partiro Io con te. นักร้องคนโปรดของผม Sarah Brightman กับ Andrea Bocelli ผู้ซึ่งสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่อายุ 12 ขวบ นอกจากในมิวสิควีดีโอในลิงค์ด้านบนแล้ว ผมยังชอบคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นที่ Royal Albert Hall ในปี 1997 โดยมี the English National Orchestra เป็นผู้ขับกล่อมเสียงดนตรีอันไพเราะ มิวสิควีดีโอ http://www.youtube.com/watch?v=qtivSTZrezc คอนเสิร์ตที่ Royal Albert Hall http://www.youtube.com/watch?v=Lp7rZEKClk4 มิวสิควีดีโอ Sarah Brightman ร้องเดี่ยว http://www.youtube.com/watch?v=vl6h7UWo1_Q หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 04:58:18 เอาเพลงญี่ปุ่นมาฝากอีกซักเพลงนะครับ
小さな旅 ( Chiisana tabi) ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=kihG6LDA0eE เพลงนี้เป็นเพลงประกอบรายการช่อง NHK แต่ไม่ได้นำมาฉายที่ไทย ชื่อรายการว่า 小さな旅 ( Chiisana tabi) แปลว่าการท่องเที่ยวเล็กๆ หรือเที่ยวช่วงสั้นๆ เนื้อหาของมันก็จะเป็นเรื่องราววิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น ในแง่มุมต่างๆ จากทั่วประเทศ ทั้งชีวิตชาวประมง, นักศิลปะ, ชาวนา, รถไฟ, โรงงานทอผ้า ฯลฯ ทุกเรื่องนอกจะมีเนื้อหาสาระแล้ว ภาพที่แสดงออกมาในรายการ ยังสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิต และการคิดแบบญี่ปุ่นได้ดีมาก ผมยกตัวอย่างรายการในลิงค์นี้นะครับ ตอนที่ 1 http://www.youtube.com/watch?v=dZlx-R9hOLo ตอนที่ 2 http://www.youtube.com/watch?v=05ufDMYB0as ตอนที่ 3 http://www.youtube.com/watch?v=Oi3ruojrjUY ชื่อตอนว่า のこぎり屋根から降る夢は (NokogiriYane kara kudaruYume wa) แปลว่า ความฝันที่เดินลงมาจากหลังคาฟันเลื่อย (หลังคาโรงงานทอผ้า) เป็นเรื่องราวของโรงงานทอผ้าที่ถูกตั้งขึ้นมาสมัยเมจิ (สมัยรัชกาลที่ ๕) ซึ่งเป็นสมัยที่ญี่ปุ่นปฏิวัติอุตสาหกรรม มีโรงงานทอผ้าเช่นเดียวกันกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษและประเทศตะวันตกอื่นๆ (ซึ่งเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เห็นได้ชัดเจนประเทศเดียวในเอเชีย) เมื่อเวลาผ่านมา โรงงานทอผ้าที่ยังรอดมาได้จากสงครามโลกครั้งที่๒ ก็ต้องประสบกับสงครามทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โรงงานทอผ้าเหล่านั้น ก็ถึงจุดจบลง ซึ่งเป็นรุ่นที่ ๓ (รุ่นหลาน) ของผู้ที่สร้าง แล้วโรงงานเหล่านั้น ผู้คนที่ทำงานในโรงงาน เจ้าของโรงงานในรุ่นนี้จะมีวิถีชีวิตอย่างไร? โรงงานทอผ้าที่เคยรุ่งเรืองในอดีต จะกลายเป็นอย่างไรในยุคนี้ หลังคาที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมเอียงๆ เรียงกันเป็นแถว จึงเรียกว่าหลังคาฟันเลื่อย ที่จังหวัดกุมมะ จะเห็นมีเป็นจำนวนมาก ถึงสองร้อยกว่าหลังคา มีทั้งเก่า และแบบปรับปรุงใหม่ ที่ๆ แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในการทอผ้า ลักษณะแบบฟันเลือยของโรงงานเป็นระบบที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ใช้แสงจากดวงอาทิตย์โดยตรง (สมัยนั้นไฟฟ้ายังไม่มีใช้เหมือนปัจจุบัน) แม้ปัจจุบันจะมีไฟฟ้าใช้แล้ว แต่ผ้าที่ทอได้จากโรงงาน ก็ยังต้องใช้แสงอาทิตย์ในการมองสีและลายผ้าอยู่ดี เพราะทำให้เห็นสีและลายได้ถูกต้องกว่าไฟฟ้า ในรายการได้นำเสนอ บุคคล ๓ ท่าน ท่านแรกเป็นเจ้าของรุ่นที่สี่โรงงานนี้เปิดขึ้นมาสมัยเมจิ หนึ่งในนั้นมีผ้าที่ทอไว้ใช้สำหรับงานวัด คือทอไว้ให้ตุ๊กตาเทพเจ้าขนาดใหญ่ในขบวนแห่ ผ้าที่ใช้ยังคงเหมือนเดิมเป็นร้อยปีแต่ละปีผ้าจะเก่าลง สีซีดจาง จึงต้องทอใหม่ทุกๆ ปี กระบวนการผลิตในโรงงานมีการปรับปรุงขึ้น แต่ผลงานผ้าที่ทอ ยังคงสวย และมีคุณค่าไม่แตกต่างจากเดิม ท่านที่ ๒ เคยทำงานในโรงงานทอผ้า ซึ่งปัจจุบันปิดกิจการลงไป โรงงานนั้นก็ไม่เหลืออีกแล้ว มันกลายเป็นที่จอดรถ แต่เขาเป็นนักทอผ้า ทุกวันนี้ก็ยังทอผ้า แต่ใช้มือทอ ผ้าที่ได้แต่ละผืน ถึงแม้ไม่มีราคา แต่เขาทอให้ภรรยาของเขา ทุกผืนที่่ทอได้มีคุณค่ามากมายสำหรับภรรยาของเขา ท่านสุดท้ายหลานเจ้าของโรงงานหลังจากที่โรงงานได้ปิดตัวลง แทนที่จะปล่องโรงงานให้รกร้างว่างเปล่า พังลงไปโดยไร้คุณค่า เขาได้เปลี่ยนเป็นร้านขนมปัง ร้านอาหารที่มีบรรยากาศแบบยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ยังคงหลังคาและตัวอาคารเดิมไว้ จะเห็นว่าตัวอาคารแม้จะเป็นอาคารเดิมแต่มีโครงสร้างค้ำจุน พวกเขามีวิศวกรในการปรับปรุงอาคารเพื่อให้ค้ำโครงสร้างเก่าเอาไว้ ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแผ่นดินไหว ดังนั้นอาคารเก่าๆ จะเป็นอันตรายมาก แต่ก็มีคุณค่าเช่นกัน วิศวกรรมด้านอาคารจึงมีการพัฒนาการดูแลรักษาอาคารเก่าๆ โรงงานนี้ได้ปิดกิจการตอนที่เจ้าของรุ่นที่ ๓ มีอายุได้ ๓๓ ปี ซึ่งเขาได้ทำงานที่นั่นมา ๑๐ กว่าปี มีคนแนะนำให้ทำร้านขนมปัง เขาจึงเริ่มต้นจากนับ ๑ เขาเล่าประมาณว่า "แน่นอน ร้านนี้มีเอกลักษณ์พิเศษ เขาทำงานที่นี่มา ๑๐ กว่าปี แต่แล้วมันก็ปิดกิจการในรุ่นของเขา ต้องเปลียนให้มันเป็นโอกาส จนกว่าโรงงานจะพังทลายลงไป ก็อยากให้มันสร้างความสุขให้มากที่สุด" สารคดีวิถีชีวิต เป็นสารคดีที่ทำให้เรามองเห็นภาพชีวิตที่หลากหลาย และเข้าใจชีวิตมากยิ่งขึ้นนะครับ ................................. จริงๆ แล้วเพลงนี้ เคยมีเนื้อร้อง ร้องโดย 岩崎宏美 (Iwasaki Hiromi) นักร้องรุ่นนี้ สังเกตทรงผมและชุดที่ใส่ น่าจะตรงกับยุคสาว สาว สาว หรือก่อนหน้านั้นนิดหน่อย ปัจจุบัน(2553) เธอมีอายุ 51 ปี และเป็นนักร้องรุ่นเก๋าระดับแนวหน้าของญี่ปุ่น เนื้อร้องแต่งโดย 山川啓介(Yamakawa Keisuke), แต่งทำนองโดย 大野雄二(Oono Yuuji) แต่ว่าอันที่นำมาแปะไว้ด้านบน เป็นเพลงบรรเลง ที่ถูกปรับใหม่สำหรับรายการทีวี 小さな旅 NHK http://www.youtube.com/watch?v=kihG6LDA0eE ร้องโดย岩崎宏美 http://www.youtube.com/watch?v=NEBAK_efy_E หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 05:05:25 ยังคงอยู่กันที่แดนอาทิตย์อุทัย
เพลงนี้ชื่อเพลงแปลกนิดหน่อย แต่มีที่มาที่ไป แน่นอน Merry Christmas Mr. Lawrence (戦場のメリークリスマス) ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=YwkuS9FlB7M ชื่อเพลงจากภาษาญี่ปุ่นแปลได้ว่า เมอร์รี่คริสมาสแห่งสนามรบ เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์แนวศิลปะ เรื่องราวความรักในสงคราม อันเป็นความรักต้องห้ามในแดนปลาดิบ ดูตัวอย่างภาพยนตร์ในลิงค์นะครับ http://www.youtube.com/watch?v=7JTroFovUXw ทำนองเพลงแต่งโดย 坂本 龍一 (Sakamoto Ryuuichi) ผู้ที่แสดงนำในเรื่อง แล้วยังแต่งเพลงเอง เล่นดนตรีเองอีกต่างหาก ความสามารถครอบจักรวาลจริงๆ ด้วยความสามารถของเขา เขาจึงได้รับรางวัลมากมาย เป็นที่รู้จักกันดีทั้งในญี่ปุ่น และในระดับโลก และเพลงของเขาก็ติดตรึงอยู่ในใจของผมเช่นกัน หนังเรื่องนี้ผมไม่เคยดู เพราะเป็นหนังเก่า สมัยที่หนังฉาย ตอนนั้นผมคงแค่สองขวบ แต่บทเพลงนี้เคยได้ยินในเวอร์ชั่นที่แปลงใหม่ ทำให้หลายๆ คนรู้จักในชื่อเพลงว่า Heart of asia โดย Watergate ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=KGHu5_szC6Y เอเชียเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย และที่สำคัญ วัฒนธรรมเหล่านั้นอยู่ในชั้นแนวหน้าเสียด้วย มาถึงยุคปัจจุบัน ความล้ำสมัยของเทคโนโลยี ผสมผสานกับวัฒนธรรม กลายเป็นการผสมผสานที่ลงตัว และเพิ่มรสชาติของวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น ญี่ปุ่นก็เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีความลงตัวของทั้งวัฒนธรรม และเทคโนโลยี ความเจริญก้าวหน้าไม่ได้หมายความว่าจะละทิ้งอดีต ตรงกันข้าม ความก้าวหน้าจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องยืนอยู่บนรากฐานเดิมที่มั่นคงฝั่งแน่นนั่นก็คือ วัฒนธรรม Merry Christmas Mr. Lawrence http://www.youtube.com/watch?v=YwkuS9FlB7M Heart of asia http://www.youtube.com/watch?v=KGHu5_szC6Y หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 05:11:31 เพลงนี้หลายๆ คนคงเคยได้ยิน เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ 15 ค่ำเดือน 11 ร้องโดย คุณสุภัทรา อินทรภัคดี โกราษฎร์ นักร้องไทยคนโปรดของผม
เพลงคาธอลิคไทยจำนวนมากร้องโดยคุณสุภัทรา คุณสุภัทรามีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ และออกเสียงภาษาไทยได้ชัดเจน (ไม่ปรุงแต่งสำเนียงเหมือนนักร้องจำนวนมากในปัจจุบัน) ศรัทธาฤๅเหตุผล ฟังได้จากลิงค์ http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=11753 (http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=11753) กับศรัทธาที่รังสรรค์ กับความจริงน่าชัง ไหนจรรโลงใจมากกว่า ศรัทธา ฤๅว่า เหตุผล ความงดงาม ทะยานขี้นสู่ฟ้า สุดตา สุกสกาวราวกับฝัน อัศจรรย์ จะจริงหรือนิยาย กับความรักเช่นกัน โจนทะยานทุกทุกแห่ง กับความรักเช่นกัน โจนทะยานทุกทุกแห่ง มันคืบคลานเข้าสู่กลางใจ ความรักของผู้คน เหตุผลไม่มี กับศรัทธาที่รังสรรค์ กับความจริงน่าชัง ไหนจรรโลงใจมากกว่า ศรัทธา ฤๅว่า เหตุผล กับความรักเช่นกัน โจนทะยานทุกทุกแห่ง กับความรักเช่นกัน โจนทะยานทุกทุกแห่ง มันคืบคลานเข้าสู่กลางใจ ความรักของผู้คน เหตุผลไม่มี กับศรัทธาที่รังสรรค์ กับความจริงน่าชัง ไหนจรรโลงใจมากกว่า ศรัทธา ฤๅว่า เหตุผล ................................................... สำหรับผมแล้วความมีเหตุผล คือสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม และควรยึดเป็นหลัก ความศรัทธา ก็คือสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม และเป็นแรงผลักดันวิถีชีวิตของผู้คนเช่นกัน ดังนั้นแล้ว ศรัทธาหรือเหตุผล? คำตอบของผมก็คือ "มีเหตุผลที่จะศรัทธา" หมายความว่า เราเห็นคุณค่าของศรัทธา เราจึงหยิบศรัทธามาใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เรียกว่า ใช้ปัญญาควบคู่กับศรัทธา ข้อนี้พุทธศาสนิกชนที่ได้ศึกษาธรรมมาบ้าง คงพอเข้าใจดี ว่าธรรมหมวดหมู่ใดที่มีหลักธรรม"ศรัทธา" จึงต้องมีหลักธรรม"ปัญญา" ควบคู่เสมอ ทั้งนี้ทั้งนั้น ผลของความศรัทธาก็อาจก่อให้เกิดปัญญา ขณะเดียวกัน ถ้ามีปัญญาก็จะรู้จักเลือกใช้ศรัทธา ตรงกันข้ามกับผู้คนสมัยนี้ มักจะ "มีศรัทธาในเหตุผล" คือสังคมแห่งวิทยาศาสตร์ วิทยาการและเทคโนโลยี ทำให้ผู้คนเกิดความ "ศรัทธาในเหตุผล" พูดง่ายๆ คือ มักจะยึดติดในเหตุผล กลายเป็นความงมงายในเหตุผล อันทำให้คุณค่าของหลายๆ สิ่งต้องหมดลงไป ที่สำคัญ ข้อเท็จจริงบางอย่าง ที่สมัยนี้ฟังดูแล้ว "ไร้เหตุผล" แต่ในอนาคต อาจกลายเป็นเหตุผลที่ถูกต้อง ก็มักจะถูกมองข้ามไป เพราะเรามัวแต่ "ศรัทธาในเหตุผล" ปัญญาชนพึงควรเลือกใช้ปัญญา และ ศรัทธา ให้เหมาะสม ที่จะนำความเจริญ มาให้ตนเอง ครอบครัว สังคม และโลก ต่อไป ศรัทธาฤๅเหตุผล http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=11753 (http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=11753) หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 05:16:36 Return To Innocence
ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=-JpJjsHgYHA ร้อง: Enigma Love - Devotion Feeling - Emotion Don't be afraid to be weak Don't be too proud to be strong Just look into your heart my friend That will be the return to yourself The return to innocence The return to innocence If you want, then start to laugh If you must, then start to cry Be yourself don't hide Just believe in destiny Don't care what people say Just follow your own way Don't give up and lose the chance To return to innocence That's not the beginning of the end That's the return to yourself The return to innocence ถ้าใครชอบเพลงแนวนิวเอจ ก็คงต้องรู้จักื Enigma อย่างแน่นอน เพราะเพลงของวงดนตรีสัญชาติเยอรมันวงนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นมาก เพลงหลายๆ ชุดถูกนำไปใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ และโฆษณา เพลงของ Enigma ในชุดแรกๆ ใช้เสียงสวดมนต์ในโบสถ์ เข้ามาประกอบเพลงด้วย ทำให้เพลงมีมนต์ขลัง ให้ความรู้สึกพิเศษ เพลง Return To Innocence เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ผมชอบ MV ก็ทำภาพออกมาสวย และสื่อความหมายได้ดีมาก เห็นภาพชีวิตของคนๆ หนึ่งย้อนกลับไปสู่ต้นกำเนิด ชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไร ตั้งแต่เกิด จนกระทั่งจบชีวิตลงไป ขอให้เราเลือกทางเดินของตัวเองอย่างดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ http://www.youtube.com/watch?v=-JpJjsHgYHA หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 26 มีนาคม 2553, 06:19:08 赤道伝説
ฟังได้จากลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=LtnjG-GdTus 凍る鱈場 泡ごと 雲と見まごう 島群(しまぐり) 海(わた)越し 潜(くぐ)るり、島泣き 日足(ひたら)射す 海(わた)越し 潜るり、島無き 島な去る 綿ぼうし 積み降り、白々 したたる 綿ぼうし 積み降り、白々 したたる 海(わた)越し 住古り(すみふり)、白々 島去る 海(わた)越し 住古り(すみふり)、白々 島去る kooru taraba awa goto kumo to mimagou shimaguri watagoshi kugururi, shimanaki, hitara isu watagoshi kugururi, shimanaki, shimasaru wataboushi tsumifuri, shirashira shitataru wataboushi tsumifuri, shirashira shitataru watagoshi sumifuri,shirashira shimasaru watagoshi sumifuri,shirashira shimasaru ............................................................... อีกผลงานหนึ่งของคุณ Hoshi ชื่อเพลง แปลว่า นิยายปรำปราแห่งศูนย์สูตร ใครติดตามผลงานของคุณ Hoshi ก็คงทราบสไตล์การแต่งเพลงของเขาดี เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่แนะนำ เพลงนี้แปลยากมากๆ เพราะเป็นภาษาโบราณ ถ้าจะให้แปลก็ประมาณว่า (ขอเป็นร้อยกรองนิดนึง จะได้เข้ากับบทเพลง) ปลาคราฟน้ำหนาว ล่องราวฟองคลื่น สายหมอกมืดมึน เห็นภาพลวงตา มองเห็นหมู่เกาะ ว่ายเลาะข้ามมา ข้ามทะเลล้า ดำผุดดำว่าย หมู่เกาะเจ้าเอ๋ย กำลังร้องไห้ โดนแดดแผดไหม้ ร้องไห้น้ำตานอง ดำผุดดำว่าย ดำโผล่มามอง เจ้าปลาคราฟร้อง "หมู่เกาะหายไป" ปุยฝ้ายเจ้าเอ๋ย ปลิวตกปกให้ หมู่เกาะทั้งหลาย พราวขาวน้ำหยาด ข้ามทะเลมา มองหาน่าประหลาด ที่เก่ามิผิดพลาด แต่เกาะขาวๆหายไป!! ลองจินตนาการดูนะครับ ปลาคราฟของเรามองเห็นภูเขาน้ำแข็ง ที่ลอยอยู่ในทะเล เห็นว่าเป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ แต่หมู่เกาะเหล่านั้นกำลังร้องไห้ เพราะโดนแสงแดดแผดเผา ซึ่งก็คือภูเขาน้ำแข็งกำลังละลาย หมู่เกาะเหล่านี้มีปุยฝ้ายปกคลุมทับถมอยู่เต็มไปหมด แล้วก็มีหยดน้ำขาวๆ (ก็คือเกร็ดน้ำแข็งนั่นเอง) ดำผุดดำว่ายโผล่กลับมาที่เก่า ปรากฎว่าเกาะหายไปหมด....(ละลายหมดแล้ว) ทำให้เราจินตนาการถึงชนกลุ่มน้อยที่อพยพจากเขตศูนย์สูตรขึ้นไปยังดินแดนที่หนาวเหน็บเมื่อครั้งโบราณกาล พวกเขายังไม่รู้จักน้ำแข็ง ยังไม่รู้จักภูเขาน้ำแข็ง ที่ลอยอยู่ในทะเล ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นหมู่เกาะที่ร้องไห้ และหายไป เกิดเป็นนิยายปรำปราแห่งศูนย์สูตรเรื่องนี้ขึ้นมา ปล. ทั้งหมดนี่ผมจินตนาการเอาเองนะครับ อาจจะผิดก็ได้นะจะบอกให้ .............................................. http://www.youtube.com/watch?v=LtnjG-GdTus หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 มีนาคม 2553, 07:36:30
ชอบที่สุดคือ set นี้ค่ะ .. ฟังทุกวันเหมือนกัน มีความสุขทุกครั้ง .. emo6::)) หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 มีนาคม 2553, 07:40:38 ขอนำเสนออีกเพลง .. Somewhere Over the Rainbow .. แนว Acoustic
ร้องประกอบ Ukulele ที่โดดเด่น มีลักษณะเฉพาะตัวอย่างยิ่ง โดยศิลปินผู้ที่แสนจะภูมิใจในการเป็นชาวฮาวายเอี้ยน ทั้งชีวิตและจิตใจ http://www.youtube.com/watch?v=0ltAGuuru7Q หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 26 มีนาคม 2553, 10:02:10 หวัดดีครับน้อง thanitkhom
ยินดีมากเลยครับน้องที่นำเพลงที่สุดแสนจะไพเราะมาให้ฟังกัน พี่เป็นคนประเภทชอบฟัง แต่ไม่ใฝ่รู้เหมือนน้อง ดีมากเลยครับ ได้ฟังเพลงที่ดี และมีที่มาที่ไปให้ได้รับรู้ ทำให้ได้อารมณ์ในการฟังมากขึ้น พี่ก็ชอบเพลงบรรเลงของญี่ปุ่นมาก แต่พี่ประเภทแก่แล้วแก่เลย คือเป็นคน โลว์เทค...จึงไม่อาจนำเพลงที่ชอบมาแปะให้ฟังกันได้ เพลงญี่ปุ่น ที่บรรเลงโดย เครื่องสาย และเป่า จะให้อารมณ์ ที่หดหู ว้าเหว่ แต่แฝงด้วยปรัชญา และความเข้มแข็งในตัว เขากล่าวกันว่า ญี่ปุ่นต้องประสบชะตาที่ลำเค็ญมากมายในเรื่องของธรรมชาติ แต่คนญี่ปุ่นเป็นนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ บทเพลงของญี่ปุ่น จึงมีทั้งเศร้า และเข้มแข็งประกอบกัน อยากฟังเพลง บรรเลง แบบโบราณๆ ช่วยสรรหามาใหฟังด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ แล้วหาเพลงมาให้ฟังบ่อยๆนะครับถ้ามีเวลา ขอให้กำลังใจอย่างเต็มที่นะครับ (พี่แก่แล้ว เข้าหอ ปี2515..เลยโบราณหน่อยนะครับ) หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 27 มีนาคม 2553, 02:07:40
มิวสิคมีเอกลักษณ์ของชาวฮาวายมากๆ (รวมถึงผู้ร้อง และน้ำหนักตัวของเขาด้วย อิๆ) หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 27 มีนาคม 2553, 02:20:03
ง่ะ.............ต่างวัย แต่หัวใจรักฟังเพลงเหมือนกันครับ emo42 หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 27 มีนาคม 2553, 04:04:11 ที่พี่่ seree_60 พูดถึงเพลงที่เล่นด้วยเครื่องดนตรีโบราณของเขา นะครับ
ที่เป็นสัญลักษณ์ของเขา ก็คือ ซากุระ ซากุระ โดยเฉพาะฤดูนี้ซากุระเริ่มออกแล้ว เวอร์ชั่นนี้เล่นด้วยโกโตะ (พิณ) และ ชะคุฮะจิ (ขลุย) ลองฟังดูนะครับ http://www.youtube.com/watch?v=0l9UPGFqKXE 桜 桜 弥生の空は 見渡す限り 霞か雲か 匂いぞ 出づる いざや いざや 見に行かん 桜 桜 野山も里も 見渡す限り 霞か雲か 朝日に匂う 桜 桜 花ざかり sakura sakura yayoi no sora wa miwatasu kagiri kasumi ka kumo ka nioi zo izuru iza ya iza ya mi ni yukan sakura sakura no-yama mo sato mo mi-watasu kagiri kasumi ka kumo ka asahi ni niou sakura sakura hana-zakari เพลงซากุระซากุระ นี้ไม่ใช่เพลงเก่าแก่โบราณเป็นพันปี แต่เป็นเพลงที่เพิ่งเกิดขึ้นสมัยเอโดะ คือช่วงราวๆ อยุธยาปี พ.ศ. 2146 จนถึงรัตนโกสินท์ปี 2411 ที่เพิ่งผลัดแผ่นดิน ร. ๔ เป็น ร. ๕ ได้ปีเดียว (ช่วงเวลากว่าสามร้อยปีที่วัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น และการศึกษาของเขาเจริญรุ่งเรืองมาก) เพลงนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเพลงพื้นฐานสำหรับฝึกเครื่องดนตรีสาย ที่เรียกว่า โกโตะ ให้เด็กๆ ได้เรียนกันนะครับด้านล่างผมจะใส่เพลงนี้ที่ดีดด้วยโกโตะ และมีเสียงร้องที่ใช้ฝึกไว้ด้วยนะครับ ถ้าจะให้ลองแปลเนื้อเพลงดู ก็ประมาณว่า ซากุระ ซากุระ ท้องฟ้ายามใบไม้ผลิเดือนสาม มองไปไกลสุดสายตา ฤาจะมีเมฆหรือหมอกจาง ยังกลิ่นหอมฟุ้งไป รีบเร่งอย่ารอช้า ไปดูซากุระกัน ซากุระ ซากุระ ทั้งภูเขาทุ่งราบทั้งหมู่บ้าน มองไปไกลสุดสายตา ฤาจะมีเมฆหรือหมอกจาง ส่งกลิ่นหอมยามรุ่งอรุณ ซากุระ ซากุระ ดาษดื่นดอกระดะ ปล. วันหลังมีเวลาจะพยายามแต่งเป็นร้อยกรองจะได้เข้ากับเนื้อเพลงนะครับ เพลงบรรเลงด้วยโกโตะ และชะคุฮะจิ http://www.youtube.com/watch?v=0l9UPGFqKXE แต่ส่วนตัวชอบเวอร์ชั่นนี้นะครับ ได้กลิ่นอายญี่ปุ่นมาก ลองสังเกตจังหวะช้าเร็วที่แฝงด้วยอารมณ์นะครับ http://www.youtube.com/watch?v=fnULEwn3njQ เล่นด้วยโกโตะ มีเสียงร้อง http://www.youtube.com/watch?v=tIHnPYwAoaQ นี่ก็อีกเวอร์ชั่นหนึ่ง http://www.youtube.com/watch?v=FpezHYPR164 ส่วนอันนี้อีกเพลงหนึ่ง ที่เกี่ยวกับซากุระนะครับ แต่ไม่ใช่เพลงต้นฉบับซากุระซากุระ ที่ได้โพสต์ไปแล้ว นักดนตรีกลุ่มนี้นำเครื่องดนตรีโบราณ สามชนิด (โกโตะ ชะคุฮะจิ และบีวะ) มาเล่นในเพลงญี่ปุ่นสากลได้อย่างสวยงาม พวกเขาเล่นได้จริงๆ (ไม่ใช่แค่การแสดงมิวสิคเหมือนบ้านเรา ที่แค่เสดงว่าเล่นได้ แต่จริงๆแล้วเล่นไม่ได้) นั่นเป็นเหตุให้พวกเขาก้าวไปไกลสู่ระดับอินเตอร์ ได้ออกคอนเสิร์ตทัวร์ในอเมริกา ซึ่งมีนักดนตรีเอเชียน้อยคนมากจะได้ทำเช่นพวกเขา http://www.youtube.com/watch?v=xPH_HTVwOoQ หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 27 มีนาคม 2553, 06:05:19 เอามาให้อีกเพลงหนึ่งนะครับ
เพลงนี้เป็นเพลงที่มีมีจุดกำเนิดจากภาษาโอกินาวา นาดะโซโซ แปลว่า น้ำตาไหลพรากๆ ภาษาโอกินาวา เป็นภาษาถิ่นในเกาะโอกินาวาประเทศญี่ปุ่น ภาษาเขาแตกต่างจากภาษาหลักมาก จนคนญี่ปุ่นทั่วไปฟังไม่เข้าใจ และกลุ่มชนโอกินาวาเป็นกลุ่มชนในหมู่เกาะ ดังนั้นแล้ววิถีชีวิตคล้ายๆ ฮาวายของญี่ปุ่นนะครับ ผมชอบเวอร์ชั่นที่ร้องโดย 夏川りみ (นัทซึกาวา ริมิ) เล่นประกอบด้วยเครื่องดนตรีที่เรียกว่า Sangen หรือสามสาย (แต่ไม่ใช่ซอ เป็นเครื่องดีด) ฟังเพลงนี้ที่ไร คิดถึงแฟนที่อยู่ญี่ปุ่น ด้วยภาระหน้าที่ ผมเลยต้องจากมา เกือบปีหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้แฟนไปเที่ยวฮ่องกง โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ นอนไม่หลับ เลยมานั่งโพสต์เพลงไว้น่ะครับ เศร้า...จัง emo:( 涙そうそう (Nada sou sou) http://www.youtube.com/watch?v=76cBt4-1c8A 古いアルバムめくり ありがとうってつぶやいた いつもいつも胸の中 励ましてくれる人よ 晴れ渡る日も 雨の日も 浮かぶあの笑顔 想い出遠くあせても おもかげ探して よみがえる日は 涙(ナダ)そうそう 一番星に祈る それが私のくせになり 夕暮れに見上げる空 心いっぱいあなた探す 悲しみにも 喜びにも 想うあの笑顔 あなたの場所から私が 見えたら きっといつか 会えると信じ 生きてゆく 晴れ渡る日も 雨の日も 浮かぶあの笑顔 想い出遠くあせても さみしくて 恋しくて 君への想い 涙そうそう 会いたくて 会いたくて 君への想い 涙そうそう furui arubamu meguri 'arigatou'tte tsubuyaita itsumo itsumo mune no naka hagemashite kureru hito yo harewataru hi mo ame no hi mo ukabu ano egao omoide tooku asete mo omokage sagashite yomigaeru hi wa nada sou sou ichiban hoshi ni inoru sore ga watashi no kuse ni nari yugure no miageru sora kokoro ippai anata sagasu kanashimi ni mo yorokobi ni mo omou ano egao anata no bashoo kara watashi ga mietara kitto itsuka aeru to shinji ikite yuku harewataru hi mo ame no hi mo ukabu ano egao omoide tooku asete mo samishii kutte koishii kutte kimi e no omoi nada sou sou Aitakute aitakute kimi e mo omoi nada sou sou... แปลเป็นไทยก็ประมาณว่า...(ทุกครั้งจะใช้คำว่า "ก็ประมาณว่า" คือแบบว่าเอาประมาณๆ ไว้ก่อน ไม่เปะๆ น่ะครับ) เมื่อคราเปิดอัลบัมรูปเก่าๆ พลางพึมพำกับตัวเองว่า "ขอบคุณนะ" ตลอดเวลาตื้นตันอยู่ในอก กับคนที่คอยใส่ใจให้กำลังใจดูแลอยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านวันฟ้าใส หรือวันมีฝนตกก็ตาม รอยยิ้มนั้นก็ปรากฎขึ้นมา ไม่ว่าความทรงจำจะไกลหรือจางเพียงไหน จะตามหาภาพเงาในอดีตนั้นให้กลับคืนมา...น้ำตาก็ไหลพรั่งพรู อธิฐานกับดาวประจำเมือง สิ่งนี้ได้กลายเป็นกิจวัตรนิสัยของฉันไปเสียแล้ว มองขึ้นไปบนท้องฟ้าในยามสนธยา หัวใจก็เต็มเปี่ยม...จะตามหาเธอ ไม่ว่าจะยามเศร้า หรือยามสุข ก็นึกถึงรอยยิ้มนั้น จากจุดที่เธอได้ยืนอยู่ หากเธอ... ได้มองเห็นฉัน สัญญาว่าซักวันเราจะได้เจอกัน ฉันเชื่อเช่นนั้นและจะมีชีวิตก้าวเดินต่อไป ไม่ว่าจะผ่านวันฟ้าใส หรือวันมีฝนตกก็ตาม รอยยิ้มนั้นก็ปรากฎขึ้นมา ไม่ว่าความทรงจำจะไกลหรือจางเพียงไหน เหงาเหลือเกิน คิดถึงเหลือเกิน ความคิดถึงส่งไปถึงเธอ...น้ำตาก็ไหลพรั่งพรู อยากเจอเหลือเกิน อยากพบเธอเหลือเกิน ความคิดถึงส่งไปถึงเธอ...น้ำตาก็ไหลพรั่งพรู ............................. เจ..ผมคิดถึงคุณนะ emo43 นัทซึกาวา ริมิ http://www.youtube.com/watch?v=76cBt4-1c8A อีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ของโมริยามาซึ่งเป็นคนแต่งเพลงนี้ ก็เลยร้องเองด้วยเลย http://www.youtube.com/watch?v=bXho3NK2CDw หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 27 มีนาคม 2553, 06:37:16 ฟังเพลง Somewhere Over the Rainbow ที่คุณพี่ swsm โพสต์ไว้ให้
ทำให้ผมนึกถึงต้นกำเนิดของเพลงขึ้นมา....พ่อมดแห่งออส emo4:)) หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 27 มีนาคม 2553, 21:03:26
ศิลปินชื่อ Israel Kamakawiwo'Ole .. เรียกยาก .. ในวงการเรียกสั้น ๆ ว่า IZ (อีซ) เป็นคนฮาวายเอี้ยน เป็นหลักในการส่งเสริมและผลักดันให้คนท้องถิ่นรักษา และคงไว้ซึ่งความเป็นฮาวายเอี้ยน โดยไม่ถูกกลืนโดยวัฒนธรรมตามแบบอเมริกันในเมือง IZ เสียชีวิตแล้วเมื่อหลายปีก่อน ด้วยโรครุมเร้าอันเนื่องมาจากน้ำหนักตัวด้วยส่วนหนึ่ง ใน clip เพลงนี้ ช่วงเวลาประมาณ 2.42 นาที จะเห็นพิธีโรยเถ้ากระดูกของเขา คืนสู่ท้องทะเล IZ เป็นศิลปินที่โด่งดังที่สุด และเป็นที่รักที่สุดของชาวฮาวายเอี้ยน มาแนะนำให้รู้จักค่ะ .. emo4:)) น้องธนิคมท่าทางจะใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นไม่น้อย เพราะเข้าถึงวัฒธรรมและภาษาของเขาได้อย่างลึกซึ้งทีเดียว ในเว็บนี้ มีหลายคนที่ชอบคุยเรื่องเพลง เมื่อแลกเปลี่ยนกัน เราก็จะได้ความรู้เพิ่มตลอดเวลา หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 มีนาคม 2553, 08:36:09
เรียกพี่ว่า .. หยี .. ค่ะ นิเทศศาสตร์ รหัส 23 ส่วนพี่ seree_60 ชื่อ พี่ตะวัน นิเทศศาสตร์เช่นกัน แต่รุ่นอาวุโสกว่าพี่นิดส์นึงค่ะ .. หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 28 มีนาคม 2553, 22:52:06
รับทราบครับผม ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ "โยโรชิคุ โอเนะไง อิตะชิมัส" emo30:sorry: ผม ธนิต ครับ วิด'ยา43 ครับ ชื่อเล่น โก้ นะครับ มีอะไรให้รับใช้ บอกได้นะครับ emo28:win: หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 มีนาคม 2553, 22:53:10 วาการาไน ?? emo48:)
หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 28 มีนาคม 2553, 23:00:37 อ่ะ พี่หยีก็ได้ภาษาญี่ปุ่นเหรอครับ
หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 28 มีนาคม 2553, 23:02:32 งั้นวันไหน จะเปิดกระทู้ภาษาญี่ปุ่น ในวิชาการบ้างดีกว่านะครับ
เผื่อน้องๆ พี่ๆ เข้ามาอยากจะให้ช่วยเหลือด้านภาษาญี่ปุ่น ผมอาจพอช่วยได้บ้างนะครับ ยินดีเป็นอย่างยิ่ง..... หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 มีนาคม 2553, 23:27:45
อิอิอิ .. แอบจำเขามาค่ะ .. พูดไม่ได้หรอก หากอยู่ที่ห้องเมียงู (ที่มักคุยกันเรื่องไร้สาระ) รับรองว่า .. พรรคพวกในนั้นจะบอกว่า พี่หยีพูดได้คำเดียวคือ .. อิไต อิไต .. ฮา emo20:)):) หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 28 มีนาคม 2553, 23:50:36 วันนี้เปลี่ยนมาฟังเพลงหวานๆ จากนักร้องรุ่นเก๋าของจีนท่านนี้ที่ทั่วโลกต้องรู้จักเธอ
邓丽君 (Dèng Lìjūn) หรือ Teresa Teng ชื่อเป็นภาษาไทยก็คือ เติ้ง ลี่จวิน หรือ เทเรซา เตง. บทเพลงของเธอยังเป็นอมตะ แม้ว่าเธอจะไร้ซึ่งลมหายใจไปแล้วก็ตาม emo6::)) http://www.youtube.com/watch?v=bv_cEeDlop0 月亮代表我的心 The Moon Represents My Heart 你问我爱你有多深, 我爱你有几分 我的情也真, 我的爱也真, 月亮 代表我的心 你问我爱你有多深, 我爱你有几分 我的情不移, 我的爱不变, 月亮代表我的心 轻轻的一个吻 , 已经打动我的心 深深的一个段 情, 叫我思念到如今 你问我爱你有多深, 我爱你有几分 你去想一想,你去看一看,月亮代表我的心 ni wen wo ai ni you duo shen wo ai ni you ji fen wo de qing ye zhen wo de ai ye zhen yue liang dai biao wo de xin ni wen wo ai ni you duo shen wo ai ni you ji fen wo de qing bu yi wo de ai bu bian yue liang dai biao wo de xin qing qing de yi ge wen yi jin da dong wo de xin shen shen de yi duan qing jiao wo si nian dao ru jin ni wen wo ai ni you duo shen wo ai ni you ji fen ni qu xiang yi xiang ni qu kan yi kan yue liang dai biao wo de xin จันทร์แทนใจ เธอถามว่าฉันรัก ผูกใจปักรักแค่ไหน? ฉันตอบให้เธอได้ อย่างมั่นใจรักเธอจริง จิตใจของฉันนั้น รักคงมั่นไม่ไหวติง ความรักของฉันจริง รักเธอจริงจากดวงใจ ไกลห่างฟากฝั่งฟ้า พสุธาห่างแค่ไหน พระจันทร์แทนฉันได้ แทนดวงใจทางดวงจันทร์ เธอถามว่าฉันรัก ผูกสมัครไม่แปรผัน? ฉันตอบจะรักกัน ชั่วนิรันดร์ตลอดไป จิตใจของฉันนั้น รักคงมั่นไม่หวั่นไหว พระจันทร์แทนฉันได้ แทนดวงใจทางดวงจันทร์ เธอจุมพิศเบาเบา ใจรัวเร้าน้าวใจฝัน รักซึ้งในวันนั้น ไม่มีวันจะลืมเลือน รักแท้ยังตราตรึก ยังฝังลึกนึกเสมือน ผ่านแรมวันผ่านเดือน ก็ยังเหมือนเมื่อวันวาน เธอถามว่าฉันรัก ผูกใจปักยังรักหวาน? รักเธอตลอดกาล รักเธอนานตราบดินฟ้า เธอลองคิดพิศดู เธอจะรู้ใจฉันว่า รักเธอทุกเวลา ฝากรักมาทางดวงจันทร์ ธนิต,2009. จันทร์แทนใจ. ปล. แปลเป็นกาพย์แบบไม่มั่นใจเลยนะครับ เพราะไม่ได้ภาษาจีนง่ะ http://www.youtube.com/watch?v=bv_cEeDlop0 หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 29 มีนาคม 2553, 00:30:03
emo22:( ฮ่าๆๆ พี่หยี เรียนจากวีซีดีสอนภาษา นั่นเองครับ ผมก็เรียนเหมือนกัน จากวีซีดีสอนภาษา อิๆๆ emo22:( อิคึ อิคึ emo20:)):) หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 29 มีนาคม 2553, 01:03:00 ต่อกันด้วยเพลงในโบสถ์กันบ้างนะครับ พอดีผมเป็นคาธอลิค เลยคุ้นเคยกับเพลงในโบสถ์ค่อนข้างมาก และเพลงในโบสถ์แทบทั้งหมด เป็นเพลงที่ผมโปรดปราน
นอกจากทำนองจะมีเอกลักษณ์และมีมนตร์ขลังแล้ว เนื้อเพลงยังอ้างอิงไบเบิล ยังผลให้เรานำถ้อยคำในไบเบิลให้ฝังแน่นอยู่ในจิตวิญญาณของเราด้วยบทเพลงได้อย่างแยบยล วันนี้เอาเพลงที่รู้สึกหนักๆ มาให้ฟังกันนะครับ วันหลังจะเอาเพลงเบาๆ มาประกอบด้วย ปล. จะพยายามนำเสนอเพลงที่ตนเองคิดว่า "พิเศษ" ให้ลองฟังกันนะครับ Sanctus http://www.youtube.com/watch?v=Z8VlZOg9iv4 ประพันธ์: Karl William Jenkins OBE D.Mus., อัลบัม: The Armed Man: A Mass for Peace Sanctus, Sanctus, Sanctus Dominus Sanctus, Sanctus, Sanctus Dominus Deus Sabaoth, Deus Sabaoth Deus Sabaoth, Deus Sabaoth. Pleni sunt caeli et terra, et terra gloria Pleni sunt caeli et terra, et terra gloria Pleni sunt caeli et terra, et terra gloria Pleni sunt caeli et terra gloria tua. Pleni sunt caeli et terra, et terra gloria Pleni sunt caeli et terra, et terra gloria Pleni sunt caeli et terra, Pleni sunt caeli et terra gloria tua. gloria gloria gloria gloria gloria tua. Hosanna in excelsis Hosanna in excelsis Pleni sunt caeli et terra, et terra gloria Pleni sunt caeli et terra, et terra gloria Pleni sunt caeli et terra, Pleni sunt caeli et terra gloria tua. gloria gloria gloria gloria gloria tua. Hosanna in excelsis Hosanna in excelsis เพลงแบบเก่า Sanctus, Sanctus, Sanctus Dominus Deus Sabaoth. Pleni sunt caeli et terra gloria tua. Hosanna in excelsis. Benedictus qui venit in nomine Domini. Hosanna in excelsis ภาษาอังกฤษ Holy, holy, holy, Lord God of Hosts: Heaven and earth are full of thy glory. Hosanna in the highest. Blessed is he that cometh in the name of the Lord. Hosanna in the highest. เพลงนี้ถูกประพันธ์ใหม่โดย Karl Jenkins นักดนตรีและนักแต่งเพลงชาวเวลส์ ในมิซซาที่เรียกว่า “มิซซาเพื่อสันติภาพ (A Mass for Peace)” ผลงานบางส่วนยังถูกนำไปใช้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ the Royal Armouries เมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ ในช่วงเริ่มต้นเทศกาลเฉลิมฉลองสหัสวรรษใหม่ เพื่อรำลึกถึงเหยื่อผู้เสียชีวิตที่โคโซโว เนื้อเพลงในช่วงแรกนำมาจาก Isaiah 6:3 And one cried unto another, and said, Holy, holy, holy, is the LORD of hosts: the whole earth is full of his glory. อิสยาห์ 6:3 ต่างก็ร้องต่อกันและกันว่า "บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระเยโฮวาห์จอมโยธา แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเต็มด้วยสง่าราศีของพระองค์" Revelation 4:8 And the four beasts had each of them six wings about him; and they were full of eyes within: and they rest not day and night, saying, Holy, holy, holy, Lord God Almighty, which was, and is, and is to come. วิวรณ์ 4:8 สัตว์ทั้งสี่นั้นแต่ละตัวมีปีกหกปีกอยู่รอบตัว และมีตาเต็มข้างใน และสัตว์เหล่านั้นร้องตลอดวันตลอดคืนไม่ได้หยุดเลยว่า "บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้า ผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ผู้ได้ทรงสภาพอยู่ในกาลก่อน ผู้ทรงสภาพอยู่ในปัจจุบัน และผู้ซึ่งจะเสด็จมา" ส่วนประโยคที่ว่า “Benedictus qui venit in nomine Domini. Hosanna in excelsis (Blessed is he that cometh in the name of the Lord. Hosanna in the highest.)” ก็พบใน Matthew 21:9 And the multitudes that went before, and that followed, cried, saying, Hosanna to the Son of David: Blessed is he that cometh in the name of the Lord; Hosanna in the highest. มัทธิว 21:9 ฝ่ายฝูงชนซึ่งเดินไปข้างหน้ากับผู้ที่ตามมาข้างหลังก็พร้อมกันโห่ร้องว่า "โฮซันนาแก่ราชโอรสของดาวิด `ขอให้พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ โฮซันนา' ในที่สูงสุด" ผลงานเพลงในอัลบัมนี้มีความโดดเด่น และน่าสนใจมาก เป็นบทเพลงที่ปลุกเร้าให้เราเข้าสู่สันติภาพในใจ ยอมพ่ายแพ้ต่อความยิ่งใหญ่ในพระเจ้า มากกว่าพยายามที่จะยกมนุษย์ให้ยิ่งใหญ่ดุจพระเจ้า ยิ่งใหญ่เกินมนุษย์ด้วยกันเอง อันจะเป็นความล้มเหลวของสังคม เช่นยุคนาซี http://www.youtube.com/watch?v=Z8VlZOg9iv4 หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 29 มีนาคม 2553, 09:46:50 น้อง ธนิต ครับ
พี่ยังติดตาม มาฟังเพลง อยู่ตลอดนะครับ แม้ว่าไม่ได้แสดงตัว เพราะไม่ค่อยมีภูมิ เกี่ยวกับเพลง รู้แต่ว่าชอบทุกเพลงที่น้องนำมาเสนอ ขอบคุณจริงๆครับ คุยกับน้องหยี คนสวยแล้วสบายใจนะครับ น้องหยี เธอเป็นสาวยุคใหม่ โดยแท้ เก่ง สวย ตลก เข้าใจโลก มีจุดยืน มีความรอบรู้ รับผิดชอบ และมีน้ำใจฯลฯ เธอ เป็น คน เพอร์เฟค จริงๆ น้องธนิต หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 29 มีนาคม 2553, 10:24:54
ขอบคุณค่ะพี่ตะวันที่มองหยีในแง่ดีที่สุดในโลก แต่สงสัยนิดนึงค่ะว่า คนแบบนี้ มีด้วยหรือคะ .. ?? emo30:sorry: หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 29 มีนาคม 2553, 20:36:12
อยากเจอมั้ยครับ ยืนหน้ากระจก แล้วจะมองเห็นครับ หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 29 มีนาคม 2553, 22:07:09
พี่เป็นอีก1 ที่ชอบซากุระ ฟูจิ มากๆค่ะแต่พี่ก็อีก1 ที่โลเทคค่ะอิอิอิน่าอายจัง เป็นว่าขอบใจคุณน้องมากๆค่ะ ที่แบ่งปันความสุขค่ะ จะเข้ามาฟังเพลงบ่อยๆนะคะ หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 29 มีนาคม 2553, 22:22:26 เมื่อ 20 ปีก่อน (1990) เข้าโครงการแลกเปลี่ยนกับญี่ปุ่น
ต้องไปพักกับครอบครัวชาวนาที่เมืองเกียวโต อยู่หลายวัน นั่งฟังเพลงนี้ จนจำขึ้นใจ .. อุตส่าห์แอบเขียนเนื้อเป็นภาษาไทย แล้วหัดจนร้องได้ .. ขอบคุณน้องธนิต .. you bring back my good old memories in the land of Sakura .. http://www.youtube.com/watch?v=tIHnPYwAoaQ หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 29 มีนาคม 2553, 22:27:54
รุ่นพี่รุ่นน้องชมกันไปมา เรื่อล่มในหนอง ทองจะไปไหนครับพี่ๆ ช่วงนี้การเมื่องสองสีต่างสาดโคลนใส่กันไปมา แต่สีชมพูของเรานี่มีแต่จะราดรินด้วยมธุรสวาจาอันส่งกลิ่นหวานหอม.... จนเกือบเลี่ยนน่ะครับ อิๆๆ (ล้อเล่นนะครับ emo26:D) หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 29 มีนาคม 2553, 22:52:00
สองปีที่แล้วฤดูร้อน ผมกับเพื่อนๆ ตั้งใจว่าจะพิชิตยอดเขาฟูจิให้ได้... ด้วยความพยายามพวกเราไปถึงปล่องภูเขาไฟที่สง่างามที่สุดแห่งหนึ่งในโลกนี้ได้สำเร็จ... ไม่เคยเหนื่อยและทรมานอะไรขนาดนั้นมาก่อน เพราะมีฝนตกระหว่างการเดินขึ้นไปแต่ละชั้นๆๆ emo29:P: ภูเขาไฟฟูจิที่ดูงดงามเมือมองจากฮาโกเนะบ้าง จากมุมต่างๆของญี่ปุ่นบ้าง ทว่าเมื่อเราขึ้นไปบนภูเขา กลับกลายเป็นความน่าพิศวง เหมือนภาพถ่ายบนดาวอังคารยังไงหยั่งงั้น พี่ไข่มุกครับ ผมก็ชอบซากุระเช่นกันครับ ตอนช่วงที่ซากุระบานเต็มต้น เป็นความงามที่พิเศษมากๆ บนพื้นเหมือนถูกปูด้วยพรมสีชมพูเพราะดอกที่ร่วงหล่นลงมาจากต้นจนปูเต็มพื้น ส่วนต้นไม้สีน้ำตาลเข้ม ตัดกันกับดอกสีชมพูอ่อนบ้าง ชมพูสดบ้าง บ้างก็สีขาว เหมือนไม่ใช่ต้นไม้จริงเลยนะครับ สมัยนี้นะครับ "ฮานามิ" เทศกาลดูดอกไม้ (ไม่ใช่ข้าวเกรียรวยเพื่อนนะครับ) กลายเป็นเทศกาลชุมนุมกันดื่มเหล้า และสังสรรค์กันมากกว่าจะดูดอกไม้กันอย่างจริงๆ จังๆ แล้วนะครับ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ทุกคนก็มีความสุข และสนุกกับเพื่อนๆ (และการดื่ม) ครับ emo21:):): หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 31 มีนาคม 2553, 11:51:10 พี่เป็นคนชอบเพลงญี่ปุ่น คนญี่ปุ่น(มีระเบียบ วินัย) เมืองที่สะอาด
อยากไปเที่ยวอีก (ปีที่แล้วไปตะลอน เกาะฮอกไกโด) อยากให้น้องช่วยแนะนำหน่อยว่า ควรไปเมืองไดบ้าง พี่ไม่ชอบเที่ยวเมืองใหญ่ ( โตเกียว โอซากา อะไรเทือกนี้ไม่ชอบ) ชอบเมืองเล็กๆ อย่างเช่น โอตารุ เบอิ ฯลฯ พวกเมืองเซนได นี้น่าไปไหม มีชนบท ทุ่งนา หรือ อะไรที่มันธรรมชาติ แบบสงบๆ นะครับ ถ้ามีไอเดีย ช่วยแนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณมาล่วงหน้าครับ หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 02 เมษายน 2553, 00:27:35 พี่ตะวันครับ ตรงกันข้ามกับผม อาจเป็นเพราะช่วงวัยหรือเปล่าครับ
ผมชอบเที่ยวเมื่องใหญ่ๆ ผู้คนเยอะๆ ผมว่ามันมีสีสรรดีนะครับ แต่ที่ชอบมากๆ ก็คือ ชอบอองเซน แช่น้ำร้อนๆ ท่ามกลางธรรมชาติ มีความสุขมากมายครับ เดี๋ยวจะลองถามเพื่อนญี่ปุ่นดูนะครับ ว่าแถวไหนที่มีธรรมชาติสวยงาม สงบ น่าไปเที่ยว คนญี่ปุ่นที่เที่ยวในประเทศนะครับ ที่เห็นที่เป็นผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ก็จะไปเที่ยวอองเซน กินอาหารในรีสอร์ทสไตล์ญี่ปุ่น นั่งรถไฟชมวิวทิวทัศน์ เดินชมโน่นชมนี่ ชมงานศิลปะ ชมวิถีชีวิตทั่วๆ ไป หรือไปฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ แม้แต่เวลาไปเที่ยว พวกเขาก็ดูเป็นผู้มีการศึกษามากเลยทีเดียว สำหรับวัยรุ่น ถ้าชอบเที่ยวแบบผจญภัยก็มักจะต้องมาต่างประเทศ เช่นมาไทย ไปยุโรป หรืออเมริกาโดยลำพัง จะออกแนวนั้นเสียมากกว่า เพราะในประเทศที่ท่องเที่ยวแบบผจญภัยแทบจะไม่มี หรือเรียกว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ เพราะทุกที่ถูกกำหนด ถูกสำรวจอย่างพิถีพิถันจนหมดแล้ว หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ อยู่ในญี่ปุ่นไปเที่ยวที่ไหนๆ ก็คล้ายๆ กัน วิวทิวทัศน์ต่างกันนิดหน่อย ของฝากแตกต่างกันนิดหน่อย แต่โดยภาพรวมก็คล้ายกัน แต่ที่จะมีสีสรรหน่อยก็คงจะเป็นอาหาร ที่ขึ้นชื่อในแต่ละจังหวัด และทิวทัศของอองเซนที่แตกต่างกัน emo38 หัวข้อ: Re: บรรเลงเพลงไป จิตใจเข้าสู่ปรัชญา เริ่มหัวข้อโดย: thanitkhom ที่ 02 เมษายน 2553, 00:44:11 ปีที่แล้วช่วงวันเกิดครบรอบ 10,000 วันของผม
ผมไปเที่ยวเกาะ เอะโนชิมะ กันกับแฟน ขับรถไปกันเองจากโตเกียวซึ่งก็ไม่ไกลมาก ห่อโอะเบนโตะ (ปิ่นโต) ไปกินกัน ผ่านคามะกุระ ที่มีหลวงพ่อไดบุทสึ แล้วเลยไปอีกไม่ไกล ที่นี่ก็เป็นอีกทีหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชอบไปกันเพราะไม่ไกลจากโตเกียวนัก สามารถไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆ แถมบรรยากาศยังดี ไปที่นี่แล้วยังมีเวลาได้แวะคามะกุระ เขาว่ากันว่า คามะกุระ มีสถานที่สำคัญมาก โดยเฉพาะโบราณสถาน ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่สหรัฐฯ เลือกที่จะไม่ทิ้งระเบิดใส่บริเวณนี้ เพราะเสียดายโบราณสถาน เช่นเดียวกับเกียวโต ถ้าเป็นไปได้สหรัฐฯ ก็จะเลียงไม่ทิ้งระเบิด โบราณสถานเป็นพันปี น่าเสียดายจะตายนะครับ ที่เอะโนชิมะ นะครับ จะมีที่อธิฐานของหนุ่มสาว โดยเอากุญแจเขียนชื่อของทั้งคู่แล้วไปแขวนไว้ในบริเวณที่ทำไว้ แล้วให้ทั้งคู่เก็บกุญแจไว้คนละดอก ผมกะแฟนก็ไปอธิฐานรักกันมาครับ อิๆๆ พอดีมีลูกกุญแจอยู่สามดอก ผมเก็บไว้ดอกนึง แฟนดอกนึง เหลือดอกนึงเลยแขวนคอน้องแมวเหมียวที่เดินเล่นไปมาอยู่แถวนั้น ซักวันหนึ่ง พวกเราจะพากันไปที่แห่งนั้น อีกครั้งแล้วจะดูว่าแม่กุญแจของเรายังอยู่หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ลูกกุญแจของผมเก็บไว้กับตัวตลอดเวลา เคยดูหนังเรื่องทวิภพ (เวอร์ชั่นใหม่น่ะครับ) ที่บอกว่ามีทฤษฎีที่ว่าคนจะงามที่สุดก็ช่วง 10,000 วัน กับอีกทฏษฎีหนึ่งที่บอกว่า จะงามที่สุดตอนมีความรัก แต่ของผมโชคดี คือช่วง 10,000 วัน กับช่วงมีความรักตรงกันพอดี เลยกลายเป็นช่วงที่ดูดีมากมาย ฮ่าๆๆๆ คือดูดีที่สุดได้แค่นี้น่ะครับ ฮ่าๆๆๆ อยู่ญี่ปุ่นผมตัดผมเองนะครับ พอกลับมาอยู่ไทย ก็เลยติดการตัดผมเองจนทุกวันนี้ ที่เห็นในรูปที่ชึ้นในโปรไฟล์ คือการลองตัดผมเองครั้งแรกในชีวิต ก็ออกมาไม่เลวร้ายอะไรนัก พอไปได้ครับ |