หัวข้อ: เรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ... เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 23 ธันวาคม 2552, 08:23:50 ซี. เจ. ฮวง และบริษัท ซัมมิท กรุ๊ฟ ... emo4:))
ซี.เจ เป็นนักเรียนจาก MIT สหรัฐอเมริกา มีเพื่อนๆ ที่จบมาด้วยกัน และเป็นเพื่อนรักกันมาก จำนวน 3 คน และนั่นคือที่มาของคำว่า “SUM" ซึ่งแปลว่า สาม และ MIT เลยรวมกันเป็น SUMMIT Group ซี. เจ. หลังจากจบจาก MIT แล้ว ก็มุ่งหน้าเดินทางเข้าสู่เมืองไทย เพื่อนรักอีกท่านหนึ่งเดินทางไปสู่ไต้หวัน โดยมีเพื่อนอีกหนึ่งคนยังคงปักหลักอยู่ที่อเมริกา เพื่อเป็น Connection หาสินค้าต่างๆ และติดต่อธุรกิจต่างๆให้ ซี.เจ. เดินทางมาเมืองไทยด้วยเงินเพียง US$ 1,000.- เท่านั้น พร้อมด้วยการเป็นเอเย่นต์ยาของบริษัทไฟเซอร์ ต่อมาได้มาเห็นลู่ทางทำมาหากินในเมืองไทย โดยการเข้าติดต่อกับนักการเมืองที่มีอำนาจมากในสมัยนั้น จึงได้เช่าโรงกลั่นน้ำมันของกรมการพลังงานทหารบก ซึ่งมีโรงกลั่นอยู่ที่บางจาก เพื่อกลั่นน้ำมันให้แก่รัฐในยามสงคราม หรือที่เรียกว่า ยุทโธปกรณ์ ก็คือ “น้ำมันตราสามทหาร” ในสมัยนั้น ในเวลาต่อมา ก็ทำการเช่าปั๊มจำหน่ายน้ำมันของสามทหารทั้งหมด เพื่อดำเนินการหากำไรในยามไม่มีสงครามและในที่สุด ก็ได้สัมปทานโรงกลั่นน้ำมัน “สามทหาร” มีปั๊มน้ำมันทั่วประเทศไทย ทำการกลั่นน้ำมันมีรายได้ปีละหลายหมื่นล้านบาท และรับเหมาส่งน้ำมันดีเซลให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และขยายกิจการออกไปสู่กิจการปิโตรเคมีหลายแห่ง มีบริษัทในเครือหลายบริษัท จนเป็นธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยในขณะนั้น ซี.เจ. …..เป็นคนไต้หวัน ที่พูดได้แต่ภาษาอังกฤษ ตลอดจนการใช้งานต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษทั้งสิ้น แต่เขาคงพูดไทยได้พอสมควร เพราะเขาอยู่ในเมืองไทยมากว่า 10 ปีแล้ว จนร่ำรวยเป็นเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองไทย (http://img136.imageshack.us/img136/3929/b636659634.png) หัวข้อ: Re: เรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ... เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 23 ธันวาคม 2552, 08:42:20 ประมาณปี 2512
ธนาคารกรุงเทพทำ ระบบ On Line แห่งแรกในประเทศไทย โดยให้ลูกค้าทำรายการฝากถอนข้ามสาขาได้เป็นรายแรก การที่ธนาคารกรุงเทพเปิดบริการได้อย่างนั้น เป็นการตีขนดหางของพญานาคตัวที่สองคือ ธนาคารของชาวนาไทย (ธนาคารกสิกรไทย) ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญอยู่อย่างรุนแรง ธนาคารกสิกรไทย เลยวางโครงการที่จะใช้คอมพิวเตอร์บ้าง โดยจ้าง ดร. จากสำนักงานสถิติแห่งชาติเข้ามาเป็นที่ปรึกษา ศึกการแข่งขันระหว่างสองธนาคารนี้ก็ประหลาด ทางธนาคารกรุงเทพเอง มีนโยบายที่จะให้บริการด้านลูกค้าก่อน คืองานอะไรที่ทำความสำคัญ หรือให้ความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ธนาคารกรุงเทพจะจับตรงนั้นก่อน โดยทำระบบ On Line ไปยังสาขาถึง 7 สาขาในขณะนั้น แต่ดวงธนาคารกรุงเทพไม่ค่อยดี ที่ต้องไปเล่นกับระบบ On Line ซึ่งยังใหม่มากในประเทศไทย ในขณะเดียวกัน ก็เกี่ยวกับสายโทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์ซึ่งยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ บางครั้งคอมพิวเตอร์ส่งสัญญาณไปยังเครื่องเทอมินัลก็มีเพลงจีนประกอบไปด้วย ทำให้การ ON Line ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ระบบล่มบ่อย ทำให้ลูกค้าต้องรอนาน และเอือมระอากับบริการของธนาคารกรุงเทพไปตามกัน ธนาคารกสิกรไทยก็เฝ้าตามตามความเคลื่อนไหวของธนาคารกรุงเทพอย่างใกล้ชิด เห็นธนาคารกรุงเทพมีข้อผิดพลาดตรงเอาระบบบริการลูกค้าออกไปให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ก่อน ในขณะเดียวกันกับความไม่พร้อมของระบบและหน่วยงานทั้งหลาย อันทำให้ลูกค้าเกิดความไม่เชื่อมั่น ธนาคารกสิกรไทยเลยเอาใหม่ หันมาวางระบบคอมพิวเตอร์โดยเน้นไปที่ข้อมูลของลูกค้า หรือ Customer Information System หรือ CIS ก่อน และเมื่อสำเร็จใช้ได้ผลดีแล้ว จึงให้บริการออกไปยังส่วนที่เกี่ยวกับการบริการลูกค้าต่อไป |