หัวข้อ: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 09 สิงหาคม 2552, 21:51:02 (http://img141.imageshack.us/img141/7876/lovergu.jpg) emo43 emo43 emo43 ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ?? ผมนำไปโพสท์ที่บอร์ด ที่ ร.พ. โพสท์ง่ายกว่าที่นี่ เชิญชวนพวกเราเข้าไปอ่าน และ พิจารณาครับ http://forums.212cafe.com/panom/board-7/topic-21.html (http://forums.212cafe.com/panom/board-7/topic-21.html) emo31:bye: emo31:bye: emo31:bye: หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 10 สิงหาคม 2552, 08:06:40 ...ขอบคุณน้องหมอสำเริงมากนะคะ...
...ที่ได้นำความรู้นี้มาบอกต่อกัน... ...พี่ตู่ก็คิดว่าจะลองไปทำดูค่ะ... ...พอดีเมื่อต้นปี...ไปปายมา(ประโยคฮิตเสื้อยืดปายค่ะ)...ได้แวะซื้อน้ำมันงาสินค้าโอท็อปของกลุ่มแม่บ้านมาตั้งขวดนึง... ...ทีแรกว่าจะเอามาทำกับข้าว...เหยาะใส่ผัดผักเค้าว่าทำให้รสชาดดี... ...แต่ด้วยความที่พี่ตู่ไม่ได้ทำกับข้าวเลย...น้ำมันงาขวดนั้นก็เลยไม่ได้เอามาใช้สักทีค่ะ... ...จะลองดูนะคะว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน...อย่างน้อยๆอยากจะให้ฟันแข็งแรงเพราะว่าไม่อยากไปใช้บริการที่โรงพยาบาลค่ะ... ...คนไข้เยอะเหลือเกิน...นี่ก็ไม่ได้ขัดหินปูนมา 2 ปีแล้ว...และอยากให้ฟันขาวขึ้นด้วยค่ะ... ...ได้ผลยังไงแล้ว...จะมาบอกอีกทีค่ะ... หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 สิงหาคม 2552, 09:12:36 น้องหมอสำเริง และตู่ 14 คะ พี่แอ๊ะเลยนำประสบการณ์ที่พี่แอ๊ะใช้ oil pullingโดยบังเอิญ มาแชร์กันค่ะ พี่แอ๊ะได้เขียนคุยกับ อ.เเจ่มใส ใน กระทู้พี่สิงห์ เลยcopy มาบางส่วน ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ผ่านมานะคะ ขณะที่ กำลัง เข้าเวบอยู่นี้พี่แอ๊ะก็ นั่งทำ oil pulling ไปด้วยค่ะ "พี่แอ๊ะแปรงฟันมากครั้งเกินไปในเเต่ละวัน อาจจะทำให้ ผิวฟันบางได้ แต่พี่แอ๊ะก็ยังแปรงฟันวันละเป็น10 กว่าครั้งอยู่ตลอดมา ทีนี้เรื่อง การขัดหินปูน ที่ซอกฟันพี่แอ๊ะ นอกจากพี่แอ๊ะมีเครื่องมือสำหรับฉีดน้ำเข้าไปในซอกฟันทุกวันแล้ว ก็ยังมีหินปูนเกาะอยู่ดี ซึ่ง ปีหนึ่งก็ต้องขูดหินปูน หลายๆครั้ง ซึ่งมีความสุขมากเมื่อได้ขูดหินปูน มีอยู่วันหนึ่ง พี่แอ๊ะเดินไปซื้อสินค้าเกษตรอุตสาหกรรม ที่เขาจัดที่ยโสธร ไม่มีคนไปเดินซื้อเลย พี่แอ๊ะเลยสงสารคนขาย ซึ่งมาจากหลายจังหวัดในภาคอิสาน เลยเดินซื้อเกือบทุกบูท มีอยู่บูทหนึ่งเขาขายน้ำมันงา พี่แอ๊ะตั้งใจจะซื้อมาทานเพราะคิดว่านำมันงาต้องมีประโยชน์อยู่แล้ว แต่คนขายเขาแนะนำว่า ให้อมน้ำมันเพื่อล้างซอกฟัน จะขาวสะอาด คราบหินปูนจะออกหมด พี่แอ๊ะ เลยซื้อแล้วมาจัดการ อมล้างฟันทันที โอ..พระเจ้าจอร์จ อัศจอรอหัน การันย์ ยอ (อัศจรรย์) มากค่ะ ฟันขาวสะอาด ซอกฟัน เกลี้ยงสะอาดมาก หินปูนที่เกาะอยู่หายหมดเลยค่ะ เครื่องล้างฟันซอกฟัน ของพี่แอ๊ะ ราคาเป็นหมื่น แพ้ เรียบ เลยค่ะ พีแอ๊ะอ่านที่อาจารย์แจ่มเขียน แล้วเข้าใจมากขึ้น ต้องสั่ง น้ำมันงา และน้ำมันมะพร้าว มาให้คนไข้พี่แอ๊ะเเล้วค่ะ" หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: manopkd ที่ 10 สิงหาคม 2552, 17:32:44 เรียนคุณหมอสำเริง 17
ตอนนี้ผมทำ OP ทุกวัน และอยากทำตามที่น้องชายคุณหลิว เขาทำแล้วได้ผล แต่ผมยังไม่กล้าครับ คือ ผมจะแพ้อากาศเวลากลางคืนอากาศเย็นรูจมูกจะปิดหนึ่งข้างครับ น้องชายคุณหลิวก็เป็นแบบผม เขาใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นพ้นเข้าไปในรูจมูก ผลคือ ลดอาการบวมของเนื้อเยื้อ รูจมูกไม่อุดตันเพราะแพ้อากาศครับ ผมอยากลองทำบ้าง คุณหมอช่วยบอกวิธีการทำให้ด้วย และขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ ขอบพระคุณมาก ขอบคุณคุณหมอครับ ผมแวะเข้าไปอ่านมาหมดแล้วครับ เรื่อง OP หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 10 สิงหาคม 2552, 18:12:52 ตอนนี้ผมทำ OP ทุกวัน และ อยากทำตามที่น้องชายคุณหลิว เขาทำแล้วได้ผล แต่ผมยังไม่กล้าครับ คือ ผมจะแพ้อากาศเวลากลางคืนอากาศเย็น รูจมูกจะปิดหนึ่งข้างครับ น้องชายคุณหลิวก็เป็นแบบผม เขาใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นพ้นเข้าไปในรูจมูก ผลคือ ลดอาการบวมของเนื้อเยื้อ รูจมูกไม่อุดตันเพราะแพ้อากาศครับ ผมอยากลองทำบ้าง คุณหมอช่วยบอกวิธีการทำให้ด้วย และขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ emo2:) emo2:) emo2:) ตอบพี่สิงห์ ผมก็เพิ่งทราบเรื่อง OP เหมือนกัน ประมาณ สัปดาห์ก่อน จึงลองค้นหาความรู้จาก กูเกิ้ล ได้เวบความรู้ ตามที่ผมโพสท์ ที่ ร.พ.และ นำมาโพสท์ที่เวบซีมะโด่งบอกพวกเรา ครับ ถ้าพี่สิงห์จะลองทำตามที่น้องชายคุณหลิวทำแล้วได้ผลดี ไม่มีผลเสีย ก็น่าลองทำดู พี่สิงห์ทำแล้วได้ผลเป็นอย่างไรก็จะได้เป็นความรู้มาบอกต่อไป emo31:bye: emo31:bye: emo31:bye: หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 สิงหาคม 2552, 20:13:56 น้องหมอสำเริง และน้องสิงหะ- มานพ คะ วันนี้คุณหมอนิวัฒน์ แพทย์ จุฬารุ่น23 ท่านเป็นเจ้าของ โครงการร้าน หมอมวลชน ที่มีเฟรนไชน์ อยู่ทั่วประเทศไทย ท่านแวะมาหา พี่หาญกับพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะเล่าเรื่อง oil pulling ท่านตื่นเต้นมาก รีบเอาน้ำมันมะพร้าวในรถท่าน ทำ ออยพูลลิ่ง ทันที แน๊ะ.... ได้ประโยชน์ระดับประเทศแล้ว พรุ่งนี้ จะโทรไปถามพี่ท่านว่า ดีหรือไม่ เพราะท่านบอกว่าถ้าดี ท่านจะหาทางผลิต oil นี้ และลงสู่ร้านหมอมวลชน พี่แอ๊ะว่าดีนะคะ ประชาชนทั่วไป จะเข้าถึง oil pulling นี้มากขึ้น ท่านบอกว่า ถ้าท่านผลิต เองจะตั้งชื่อ oil นี้ให้เป็นเกียรติกับพี่แอ๊ะ หุๆๆๆๆๆ พี่แอ๊ะว่า ชื่อ " oil แจ่มใส" จะดีกว่า 55555555555555555555 หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: roong15 ที่ 10 สิงหาคม 2552, 22:12:14 ขอบคุณคุณหมอสำเริงครับ ได้เข้าไปดูแล้วครับ น่าสนใจมาก และขอบคุณพี่แอ๊ะ และพี่สิงห์ ที่เอาประสพการณ์ มาเล่าด้วยครับ emo42 emo42 emo42 หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: manopkd ที่ 11 สิงหาคม 2552, 14:33:51 สวัสดีครับ คุณหมอสำเริง
ขอบคุณมากครับคุรหมอ ผมจะลองฉีดใส่รูจมูกดูครับ แบบน้องคุณหลิว สวัสดีครับ คุณประภาศรี คนสวย ขอบคุณที่แนะนำต่อๆไปครับ ถ้าได้ผลดีจริงสุขภาพคนไทยก็จะดีขึ้น แต่ต้องลดราคาลงให้ถูกๆ นะครับ ขณะนี้ยังแพงอยู่ครับ หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 15 สิงหาคม 2552, 12:35:53 ...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์, พี่แอ๊ะ, น้องหมอสำเริง และชาวหอทุกท่าน...
...วันนี้ก็เป็นวันที่ 5 แล้วค่ะ...ที่ได้ทดลองทำออยพูลลิ่ง... ...ยังไม่สามารถบอกได้แน่ชัดค่ะว่าได้ผลดีมากน้อยแค่ไหน... ...แต่รู้สึกว่า...ฟันสะอาดขึ้น...ไม่มีคราบเกาะ...และต่อไปก็คงจะไม่มีหินปูนเกาะด้วย... ...แต่ฟันยังไม่ขาวค่ะ...ส่วนอาการอื่นๆจะค่อยๆสังเกตุต่อไปค่ะ... ...ใครทำแล้วหายป่วยจากโรคอะไรบ้าง...ก็เข้ามาบอกกันบ้างนะคะ...เผื่อเหมือนกันค่ะ... หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 20 สิงหาคม 2552, 12:15:11 สวัสดีค่ะ ทุกท่าน
1. ขอบคุณพี่แอ๊ะค่ะ ที่จะยกชื่อนำมันให้น้องป้าแจ่ม แต่ฟังแล้วไม่น่าติดตลาด ไม่รื่น หาชื่อใหม่ดีกว่า ถ้า ออยล์พูลลิ่ง ดังเพราะชาวซีมะโด่ง ช่วยกันเป็นหนูทดลอง แล้วได้ ผล ก็ตั้งชื่อเป็น นำมันซีมะโด่ง ซะเลยดีมั้ยคะ 2. จะรายงานผลการทดลองเหมือน ตู่14 คือลองมาเป็นเดือน ฟันสะอาด ไม่มีคราบดูขาวนะ เหงือกบวมก็ดีขึ้นมากกกกก และแผลร้อนในก็ดูเหมือนหายไป ซึ่งปกติเป็นบ่อยมาก แต่ 2-3 วันที่ผ่านมาเป็นแผลร้อนในขึ้นมาอีกจากความเครียดและนอนน้อย แต่น่าอัศจรรย์ ปกติจะปวดแสบปวดร้อนแผลมากในวันที่ 2 หรือ 3 แต่อมน้ำมันแล้วปวดแสบร้อนน้อยมาก เพียงแค่รู้สึกแม้แผลจะมีขนาดเท่าเดิม และอีกอย่าง คือหายเร็วขึ้น จากที่เคยเจ็บ 6-7 วัน ตอนนี้แค่ 4วัน ก็เหมือนจะหายแล้ว ใครได้ผลอย่างไรก็มาบอกเล่ากันนะคะ หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: manopkd ที่ 21 สิงหาคม 2552, 16:34:30 สวัสดีครับป้าแจ่ม
ผมทดลองไปเกือบหมดขวดแล้วครับ แต่ยังหาคำตอบไม่ได้ ขอทำไปเรื่อยๆ ก่อนครับ หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 22 สิงหาคม 2552, 18:00:10 ...รายงานผลการปฎิบัติค่ะ...ไม่น่าเชื่อ...แต่เหลือเชื่อ...
...ขอสนับสนุนผลการปฏิบัติของ อ.แจ่มใส ค่ะ...เรื่องร้อนใน... ...ปกติตู่เป็นคนทานน้ำน้อย...และจะเป็นร้อนในทุกเดือน...เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง... ...แต่ตอนนี้ไม่เป็นเลย... ...แต่ต้องดูอีกทีค่ะ...เพราะว่ายังไม่ครบเดือน... ...และวันนี้มีคนถามว่าไปกินอะไรมาหรือเปล่า...ทำไมถึงดูสดใส...อิอิ... ...เกือบบอกไปแล้วว่ากำลังทำออยล์พูลลิ่งอยู่...แต่เดี๋ยวกลัวเค้าหาว่าเว่อร์ค่ะ... ...อีกอย่างยังไม่แน่ใจ...อาจจะเป็นเพราะเราเมคอัพอยู่ก็ได้... ...ก็เลยเฉยๆไว้ก่อนค่ะ... หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: มีนา ที่ 22 สิงหาคม 2552, 18:34:22 ...สวัสดีค่ะพี่ตู่ กำลังจะโทรไปถามพี่เรื่องออยพูลลิ่ง มาเห็นในเว็บก่อน
พี่ใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันงา และซื้อที่ไหนคะ ...เคยคิดโทรให้เพื่อนที่อยู่กรมการแพทย์ ไปซื้อที่แพทย์แผนไทยฯ (น่าจะมี) แต่จัดส่งลำบาก หาซื้อแถวเมืองชลเหมาะกว่า รอเดินหาในงานมนต์เสน่ห์แหลมแท่น ปลายเดือนนี้ค่ะ หัวข้อ: น้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์ช่วยต่อต้านป้องกันมะเร็ง เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 23 สิงหาคม 2552, 09:09:13 (http://img252.imageshack.us/img252/5577/coconuttree2.jpg) สรรพคุณที่วิเศษสุดของน้ำมันมะพร้าว คือ ช่วยต่อต้านป้องกันโรคมะเร็ง น้ำมันมะพร้าว เป็นน้ำมันอิ่มตัว จึงไม่เกิดการเติมไฮโดรเจนเมื่อถูกกับอุณหภูมิสูง จึงไม่เปลี่ยนป็น trans fats และ อนุมูลอิสระ ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ดังนั้นน้ำมันมะพร้าว จึงไม่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง นอกจากนั้น น้ำมันมะพร้าวยังมีวิตามินอี ในรูป trocotrienol ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า trocopherol ที่มีอยู่ใน วิตามินอี ทั่วไป 30-60 เท่า ทำหน้าที่ต่อต้านการเติมออกซิเจน จึงต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ น้ำมันมะพร้าวมีภูมิคุ้มกัน และ สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ มีสมมุติฐานที่ว่าคนเราทุกคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย แต่เราไม่เป็นมะเร็ง เพราะเรามีภูมิคุ้มกัน และ เราจะเป็นมะเร็งก็ต่อเมื่อระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลาย จนไม่สามารถต่อสู้กับเซลมะเร็งทุกชนิดได้ ดังนั้นภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง จึงเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้โรคมะเร็ง นักวิจัยบางคนเชื่อว่า เพราะกรดไขมันขนาดกลางของน้ำมันมะพร้าว ไปส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ตัวโมโนโลริน ซึ่งเป็น โมโนกลีเซอไรด์ของกรดลอริค ไปกระตุ้นการผลิตเซล เม็ดเลือดขาว โดยเฉพาะ T เซล และ T เซลนี้เอง ไปโจมตี และ ทำลายทุกสิ่ง ที่แปลกปลอม รวมทั้งเซลมะเร็ง นอกจากนี้ยังสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ โดยเฉพาะ เชื้อไวรัส เป็นสาเหตุของ โรคมะเร็ง เช่น Human Papiloma Virus (HPV)ซึ่งพบในคนไข้ที่เป็นมะเร็งปากมดลูกเกือบทุกคน ยังมีไวรัสอื่นๆที่เป็นสาเหตุของมะเร็ง เช่น Epstein-Barr Virus, Cytomegalovirus และ Adeno Virus เชื้อจุลินทรีย์อื่นๆ คือ แบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ และ โปรโดซัว เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อของมนุษย์แล้ว บางครั้งสร้างผลผลิตพลอยได้ เป็นพิษ หรือ สารก่อมะเร็ง เชื้อโรคเหล่านี้ จะถูกทำลายโดยน้ำมันมะพร้าว สรุปได้ว่า น้ำมันมะพร้าว ทำหน้าที่เป็น antioxidant คอยปกป้องเซลจากการถูกทำลาย รวมทั้งการก่อมะเร็ง เพิ่มพูนระบบภูมิคุ้มกัน ทำหน้าที่ต่อต้านเซลมะเร็ง ป้องกันการเจริญเติบโตของเซลมะเร็ง ป้องกันเซลจากผลของการก่อสารมะเร็งที่เกิดกลายพันธุ์ น้ำมันมะพร้าวใช้ได้ทั้งบริโภคเข้าไปภายในจะไปช่วยเพิ่มอัตราเมตาบอลิสซึม ทำให้ร่างกายเพิ่มกลไกธรรมชาติในการล้างพิษ (detoxification) ซ่อมแซมส่วนสึกหรอ กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เกิดการทำงาน เพื่อต่อต้านมะเร็ง และ ใช้ภายนอกเพื่อบำรุงผิวพรรณ เพราะน้ำมันมะพร้าวมี โมเลกุล ขนาดเล็ก จึงถูกดูดซึมเข้าไปโดยง่าย สร้างความแข็งแรง ให้กับเซลผิวหนัง ทั้งด้านนอก และ ด้านใน สามารถป้องกัน และ ต่อต้านการเป็นมะเร็ง ผิวหนังได้ดี เพราะมีวิตามินอี ในรูปแบบของ โทโคไทรอีนอล ทำหน้าที่ antioxidant ต่อต้านการเติมออกซิเจน สาเหตุหนึ่งของการมีโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราบริโภคน้ำมันไม่อิ่มตัว ซึ่งได้รับการโฆษณาชวนเชื่อว่า เป็นน้ำมันพืชที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ ชนชาติที่บริโภคน้ำมันมะพร้าว ที่อาศัยอยู่ตามเกาะที่ห่างไกลความเจริญแถบมหาสมุทร์แปซิฟิค มีสุขภาพดี ไม่มีผู่ใดเป็นโรคมะร็งแต่อย่างใด ดร.ณรงค์ โฉมเฉลาขอร้องให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง หันมาบริโภคน้ำมันมะพร้าวกันเถอะ เป็นเวลา 30 กว่าปีมาแล้ว ที่เราถูกชักชวน ให้เลิกบริโภคน้ำมันมะพร้าว รวมทั้งกะทิ แต่ผลการศึกษา และ วิจัย ก็ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่า น้ำมันมะพร้าวไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่กลับเป็นน้ำมันที่เป็นประโยชน์ ต่อสุขภาพมากที่สุดในบรรดาน้ำมันบริโภคทั้งหลาย สรุปได้ว่า เราถูกเขาหลอกมานานแล้ว แต่น่าแปลกใจ ที่หน่วยงานทางการแพทย์ของเรายังคงปรักปรำน้ำมันมะพร้าว ถึงกับห้าม บริโภคน้ำมันมะพร้าว และ กะทิเพราะจะทำให้เกิดโรคหัวใจ ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ผู้ค้นคว้าคุณประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว จึงใคร่ขอวิงวอนให้ช่วยกันเปลี่ยนทัศนคติ และหันมาบริโภค น้ำมันมะพร้าว และกะทิ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย ค้นหาทางกูเกิ้ลได้เวบนี้มาอ่านเพิ่มเติมได้ข้างล่าง http://www.sereechai.com/demo/news.php?no=5019 .......................... (http://img149.imageshack.us/img149/4521/coconut01.jpg) ใช้กินได้เลย วันละ 3- 4 ช้อนโต๊ะใส่ในกาแฟ น้ำชา หรือ เทใส่ช้อนเข้าปาก แล้วดื่มน้ำอุ่นๆ ตามได้เลย ไม่ยากลองดูสักเดือนสองเดือน ก็จะเห็นผลว่าดีหนือไม่ โดย www.the-arokaya.com (http://www.the-arokaya.com) ค้นหาทางกูเกิ้ลได้เวบนี้มาอ่านเพิ่มเติมได้ข้างล่าง http://www.the-arokaya.com/web/index.php?option=com_content&task=view&id=114&Itemid=35 (http://www.the-arokaya.com/web/index.php?option=com_content&task=view&id=114&Itemid=35) emo43 emo43 emo43 หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 05 กันยายน 2552, 12:36:19 ...น้องหมอสำเริงคะ...น้ำมันมะพร้าวหาซื้อได้ที่ไหนคะ...
...พี่ตู่ไปเดินตามห้างแล้ว...เห็นมีแต่น้ำมันงาสีดำๆกับน้ำมันมะกอกมีเยอะมากๆค่ะ... ...น้ำมันงาสีเหลืองๆก็หาซื้อยากค่ะ... ...ส่วนน้ำมันทานตะวันค่อยหาง่ายหน่อย...แต่บางห้างก็ไม่มีขายค่ะ... ...วันก่อนบังเอิญไปเดินที่คาร์ฟูชลบุรี...ก็มีน้ำมันทานตะวันขาย... ...นี้-มีนา...ไปหาซื้อได้ค่ะ... หัวข้อ: "จีพีโอ โคโค้ ดีไลท์ มีขายที่ร้านขายยาขององค์การเภสัช หน้า ร.พ.รามาฯก็มีครับ" เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 06 กันยายน 2552, 06:49:06 ...น้องหมอสำเริงคะ...น้ำมันมะพร้าวหาซื้อได้ที่ไหนคะ... ...พี่ตู่ไปเดินตามห้างแล้ว...เห็นมีแต่น้ำมันงาสีดำๆกับน้ำมันมะกอกมีเยอะมากๆค่ะ... ...น้ำมันงาสีเหลืองๆก็หาซื้อยากค่ะ... ...ส่วนน้ำมันทานตะวันค่อยหาง่ายหน่อย...แต่บางห้างก็ไม่มีขายค่ะ... ...วันก่อนบังเอิญไปเดินที่คาร์ฟูชลบุรี...ก็มีน้ำมันทานตะวันขาย... ...นี้-มีนา...ไปหาซื้อได้ค่ะ... ...................................... (http://img136.imageshack.us/img136/4794/43718290.jpg) จีพีโอ โคโค้ ดีไลท์ มีขายที่ร้านขายยาขององค์การเภสัชกรรม ผมเคยเห็นหน้า ร.พ.รามาฯ ก็มีร้านขายยาองค์การเภสัชกรรม ราคา 200 ซีซี ติดราคา 200 บาท พี่ตู่ ลองไปหาดูได้ ครับ emo4:)) emo4:)) emo4:)) หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 06 กันยายน 2552, 07:21:56 เมื่อวาน(5/9) ผมไปงานสมุนไพรไทยที่ เมื่องทอง เห็นมีขายอยู่นะครับ 1000 CC 550 บาทและมีหลายขนาด
เป็นของบริษัท Tropicana oil ครับ www.tropicanaoil.com หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: มีนา ที่ 06 กันยายน 2552, 18:05:00 ...วันนี้ไปงาน Commart ที่ ม.บูรพา บางแสน มีร้านขายน้ำมันมะพร้าวสกัด
เข้าไปดูเป็นน้ำมันสำหรับนวดผม ประมาณ 100 มล. 60 บาท ...ขอบคุณค่ะพี่ตู่ ไว้ซื้อเป็นน้ำมันมะพร้าวดีกว่าน้ำมันอื่นๆค่ะ จะมีงานวิขาการ สพฐ. ที่สนามหน้าศาลากลาง 10-12 ก.ย.52 คงมีขาย หรือซื้อที่องค์การเภสัชกรรม ตามน้องหมอสำเริงบอกก็สะดวกดี พี่หมอประสิทธิ์ไปกระทรวง ซื้อได้ที่ร้านองค์การเภสัช ตึก สป.สธ.หรือตึกกรมการแพทย์ (ไม่แน่ใจ) สมัยอยู่กรมวิทย์ เคยไปซื้อยาค่ะ หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 12 กันยายน 2552, 18:12:38 ...ขอบคุณน้องหมอสำเริง,น้องKhun28,และน้องมีนาที่เข้ามาตอบค่ะ...
...แล้วพี่ตู่จะลองหาซื้อดูค่ะ... ...น้องหมอสำเริงคะ...แล้วถ้าพี่มีปัญหาคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง...จะยังทานได้ไหมคะ... ...น้องมีนาคะ... ...เป็นน้ำมันนวดผมก็น่าจะใช้ได้นะ... ...เคยมีพยาบาลที่นี่เค้าไปเรียนแพทย์แผนโบราณที่ สธ.มา... ...เค้าก็เคยเอามาให้พี่ค่ะ...แต่ตอนนั้นพี่ไม่ได้สนใจ...น้ำมันมันหมดอายุและพี่ก็ทิ้งไปตั้งนานแล้ว... ...พี่จะบอกว่าเมื่อวานนี้พี่ได้รับการผ่าตัดมา...เป็นการผ่าตัดซีสต์ที่บริเวณหนึ่ง... ...หลังจากที่พี่ได้ทำออยล์พูลลิ่งมาได้ยังไม่ถึงเดือน... ...ไม่ทราบว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือเพราะออยล์พูลลิ่งค่ะ... ...ถ้าเป็นเพราะออยล์พูลลิ่งก็น่าอัศจรรย์มากๆ... ...ซึ่งความจริงมันน่าจะหายจากโรค...แต่นี้กลับพบโรค...อื่ย.... หัวข้อ: "ไขมันในเลือดสูงทานน้ำมันมะพร้าวได้หรือไม่" เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 14 กันยายน 2552, 15:47:31 ...น้องหมอสำเริงคะ...แล้วถ้าพี่มีปัญหาคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง...จะยังทานได้ไหมคะ... (http://img171.imageshack.us/img171/9672/24348933.jpg) ผมคิดว่า ต้องทดลองดู หรือ ศึกษาจากผู้เคยใช้มาก่อน ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ทดลอง โดย พี่ตู่ เจาะเลือดตรวจไขมันก่อนทาน แล้วทานน้ำมันมะพร้าว ดู อีก 1 -3 เดือนตรวจไขมันซ้ำ ถ้าขึ้นแสดงว่า ไม่ควรทาน ถ้าไม่ขึ้นแสดงว่า ทานได้ emo47 emo47 emo47 หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 26 กันยายน 2552, 14:05:38 ...ขอบคุณน้องหมอสำเริงมากๆค่ะ...
...ให้ร่างกายพี่เป็นปกติดีแล้ว...พี่ก็จะทดลองทำดูค่ะ... หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 30 กันยายน 2552, 19:59:58 ได้รับ forwardmail มา คิดว่าผู้เขียนน่าจะเป็นหมอ และง่ายๆแต่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับพวกเรา
ลองพิจารณาดูนะคะ ดื่มน้ำอย่างไรให้ถูกต้อง เพื่อนๆคิดว่าสุดยอดของการเป็นหมออยู่ที่ไหนครับ.......รักษาโรคยากๆได้ยื้อชีวิตของคนที่จะจากเราไปให้อยู่แม้เพียงเฮือกหนึ่งถวายตัวอยู่กับคนไข้ตลอด 24 ชม. เคยอ่านนิยายกำลังภายในกันไหมครับ เป็นหนึ่งในงานวรรณกรรมที่ผมชอบมากเลยครับ โดยเฉพาะเวลา ฉากที่กำลังจะต่อสู้กัน ถ้าสนใจจะเริ่มอ่านขอแนะนำฤทธิ์มีดสั้นของโกวเล้งครับ "มีดสั้นในมือของลี้คิมฮวงนั้นหากปล่อยออกจากมือไม่เคยพลาดเป้ามาก่อน" เพียงแค่คำเล่าลือนี้ก็สามารถสะกดศิษย์วัดเสี้ยวลิ่มยี้แปดร้อยคนที่โอบล้อมเขาไว้ให้ไม่กล้าแม้กระทั่ง ผ่อนลมหายใจ ลี้คิมฮวงเพียงแค่ถือมีดไว้ในมือเล่มเดียวทว่าชนะตั้งแต่ยังไม่ทันได้ออกกระบวนท่าเสียด้วยซ้ำครับ ที่ร่ายมานี้เพียงเพื่อที่จะบอกว่ายอดฝีมือสามารถช่วงชิงชัยได้โดยไม่แม้แต่ออกกระบวนท่าเป็นชัยชนะที่ ไม่ต้องเปลืองแรงเลยสักนิด แต่กว่าจะมีความสำเร็จถึงขั้นนี้ได้ต้องมีการฝึกฝนมาอย่างยาวนาน ใช่เพียงหัดเล่นๆ ชั่วค่ำคืน นี่แหละครับที่ทำให้ผมคิดว่าสุดยอดของการเป็นหมอคือการไม่ต้องรักษาคนไข้ครับ ไม่จำเป็นต้องใช้ มีดผ่าตัด จับชีพจร ฝังเข็มหรือว่าจ่ายยารักษาโรคโดยไม่ต้องออกกระบวนท่าใดๆ ก็คือ การป้องกันก่อนเกิดโรคนั่นเองที่จะเน้นให้เห็นก็คือ การรักษาโรคที่เกิดขึ้นโดยไม่เปลี่ยนพฤติกรรมของคนไข้ เป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ต่อให้เป็น หมอจีนที่พยายามปรับร่างกายแบบองค์รวมก็เถอะ เพราะเมื่อเรารักษาคนไข้จนหายโดยไม่เปลี่ยนพฤติกรรมของค นไข้นั้น เชื่อได้เลยครับว่าเดี๋ยวเราก็จะได้เจอกันอีก..................... หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 30 กันยายน 2552, 20:01:07 .....
และหนึ่งในพฤติกรรมที่ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่ทำผิดมากที่สุดคือ เรื่องของการดื่มน้ำนี่แหละครับ ลองทำแบบทดสอบกันสักนิดก่อนอ่านต่อดีไหมครับ 1. คุณมีความเชื่อที่ว่าน้ำยิ่งดื่มเยอะยิ่งดีหรือไม่ 2. คุณดื่มน้ำวันละกี่แก้ว 3. น้ำที่ดื่มเป็นน้ำเย็น, น้ำธรรมดา หรือว่าน้ำอุ่น 4. ดื่มน้ำช่วงเวลาไหนเป็นพิเศษไหม เช่น ดื่มตอนเช้า ดื่มระหว่างทานข้าว ดื่มก่อนนอน เป็นต้น 5. ปกติดื่มอะไร เช่น น้ำเปล่า น้ำอัดลม ชา กาแฟ เป็นต้น หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 30 กันยายน 2552, 20:03:27 เราเฉลยกันไปทีละข้อๆพร้อมอธิบายละกันครับ พร้อมที่จะรู้ความผิดของตัวเองหรือยังครับ.......
1. คุณมีความเชื่อที่ว่าน้ำยิ่งดื่มเยอะยิ่งดีหรือไม่ ข้อหนึ่งนั้น เป็นความเชื่อที่ผิดครับ ท ุกอย่างต่างมีทั้งคุณและโทษ ต้องหาจุดสมดุลของมันครับ น้ำดื่มมากเกินไปกลับไม่ดีเสียอีกครับ เดี๋ยวผมจะมีสูตรให้คำนวณว่าวันหนึ่งเพื่อนๆควรดื่มน้ำแค่ไหน หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 30 กันยายน 2552, 20:07:12 ......
2. คุณดื่มน้ำวันละกี่แก้ว ข้อสอง คิดว่าทุกคนคงเคยเรียนกันมาอยู่แล้วว่าคนเราวันหนึ่งควรทานน้ำวันละ 8-10 แก้ว ว่าแต่ ทำได้อย่างที่เรียนมาหรือเปล่าครับ ผมจะอธิบายให้ฟังว่า น้ำในร่างกายของเรามีที่มาที่ไปอย่างไรก่อน น้ำที่เข้าสู่ร่างกายเรามาจากน้ำและอาหารที่ทานเข้าไปเป็นหลัก ส่วนน้ำจะออกจากร่างกายทางปัสสาวะ อุจจาระ เหงื่อ และทางลมหายใจ แต่ปัสสาวะเป็นเส้นทางหลักครับ คนเราจำเป็นต้องปัสสาวะออกจากร่างกายอย่างน้อย 500 มิลลิลิตรต่อวัน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้หมด นอกจากนี้อีกสามทางที่เหลือโดยเฉลี่ยก็จำเป็นต้องใช้น้ำอีกราว 1000 มิลลิลิตร หรือ 1 ลิตร ต่อวัน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว คนเราจึงต้องดื่มน้ำเพื่อชดเชยส่วนที่ออกจากร่างกายทุกวันราว 1500 มล. หรือ 7-8 แก้ว (แก้วละ 200 มล.) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวเลขนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคนครับ ผมเลยมีสูตรมาให้คิดกันคร่าวๆว่าวันหนึ่งเราต้องทานน้ำปริมาณเท่าไรจึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สูตรคือ (น้ำหนักตัว(กก.) x 2.2 x 30) / 2 หน่วยที่ได้ออกมาเป็นมิลลิลิตรครับ เช่น หนัก 60 กก. เอาเข้าแทนค่าก็จะได้ ควรดื่มน้ำ (60 x 2.2 x 30) / 2 = 1980 มล. หรือประมาณ 10 แก้วต่อวันครับ ถ้าเราดื่มน้ำน้อยกว่านี้ เลือดซึ่ง 90% ทำมาจากน้ำก็จะไหลเวียนไม่สะดวก ร่างกายก็จะขับของเสียได้ยาก ขณะเดียวกันสารอาหารในเลือดก็ส่งไปถึงร่างกายช้า ทางแพทย์จีนถ้าเกิดเลือดลมเดินไม่สะดวกนี่เป็นบ่อเกิดสารพัดโรคเลย บางคนบอกว่าประจำเดือนมาน้อยหรือไม่มา มาเป็นลิ่มเลือด สีเข้ม หนืด ปวดประจำเดือนก็แหงละครับ น้ำไม่กินจะเอาที่ไหนไปสร้างเลือดละครับ แต่ถ้าทานน้ำมากกว่านี้ก็เป็นผลเสียต่อร่างกายอีกเหมือนกัน ทำอะไรก็ต้องพอดีๆครับ หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 30 กันยายน 2552, 20:08:58 3. น้ำที่ดื่มเป็นน้ำเย็น, น้ำธรรมดา หรือว่าน้ำอุ่น
ข้อสาม อย่างที่เคยบอกไปตั้งแต่อาการขี้หนาวนะครับว่าน้ำเย็นเป็นของต้องห้ามสำหรับร่างกาย กระเพาะเมื่อเจอของเย็นเข้าไปการทำงานจะด้อยลงทันที เกิดเป็นอาหารไม่ย่อย อาหารบูดเน่า หมักหมมอยู่ในกระเพาะและลำไส้ลำไส้ก็ดูดซึมของเสียจากกากอาหารพวกนี้กลับเข้าสู่เส้นเลือดต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะถ่ายอุจจาระออกจากร่างกายของเรา เพราะฉะนั้นเราไม่ควรจะทานของเย็นๆครับ ทานน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่นก็ได้ แต่ก่อนผมไม่รู้จุดนี้ก็ทานกันไป โดยเฉพาะไทยเป็นเมืองร้อน ทุกที่ต้องเสริฟน้ำเย็น เสริฟน้ำแข็งกันเป็นกระติกๆ กินกันจนเป็นเรื่องธรรมชาติ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ก็เฉยๆ แต่พอตอนนี้ เห็นแล้วกลัวไปเลยครับ บ้านผมตอนนี้ไม่ทานน้ำแข็งกันแล้ว หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 30 กันยายน 2552, 20:17:48 4. ดื่มน้ำช่วงเวลาไหนเป็นพิเศษไหม เช่น ดื่มตอนเช้า ดื่มระหว่างทานข้าว ดื่มก่อนนอน เป็นต้น
ข้อสี่ ดื่มน้ำช่วงเวลาไหนกัน ที่บอกให้ดื่มวันละ 8- 10 แก้วเนี่ยจะแบ่งกินช่วงไหนระหว่างวันบ้างละ ใครที่ชอบทานข้าวไปจิบน้ำไปประมาณว่ากินข้าวเสร็จหมดน้ำไปสองแก้ว ข้อนี้ผมจัดเป็นหายนะอย่างใหญ่หลวงที่สุดเลยครับ เป็นการกินน้ำที่ผิดที่สุดครับ คนเรามักทำอะไรเพลินเสียจนลืมทานน้ำ พอถึงเวลาว่างซึ่งมักจะเป็นเวลาทานข้าว เขาบอกว่าให้ทานน้ำเยอะก็ทานรวดเดียวไปเลย ผิด ผิด ผิด ผิดแบบไม่น่าให้อภัยเลยครับ เพราะช่วงเวลาที่ทานข้าวนั้น ร่างกายจำเป็น ต้องอาศัยน้ำย่อยในการย่อยอาหาร เมื่อคุณกินน้ำเข้าไปเยอะๆแล้ว น้ำย่อยก็จะเจือจาง ก็เข้าสู่ระบบเดียวกับการกินของเย็นคืออาหารไม่ย่อย หมักหมม พิษถูกดูดเข้าเส้นเลือด เพราะฉะนั้นที่คุณควรทำคือ ........................ตอนเช้าตื่นมาดื่มน้ำก่อนเลยครับ 2-5 แก้ว เพื่อขับพิษออกจากร่างกายทางอุจจาระ ปัสสาวะ ที่ให้ดื่มทันทีเพื่อให้มีระยะเวลาห่างจากอาหารเช้าพอสมควร ก่อนอาหาร 15 นาที ระหว่างทานอาหาร และหลังอาหาร 40 นาที ทานน้ำได้ไม่เกินครึ่งแก้วครับ ในที่นี้หมายรวมถึงซุป น้ำแกง และของเหลวทุกประเภทนะครับ และอย่าดื่มน้ำครั้งละมากๆ ให้จิบครั้งละ 2-3 อึก แต่จิบถี่ๆ หาขวดน้ำแก้วน้ำมาวางไว้ข้างตัว จิบไปทั้งวันครับ ถ้ากินน้ำครั้งละมากๆผลก็คือ ร่างกายยังไม่ทันได้ดูดซึมก็ไหลรวดเดียวปัสสาวะออกไปหมดแล้ว อย่างนี้ดื่มน้ำมากแค่ไหนก็ยังหิวน้ำครับ เหมือนน้ำป่ามาครั้งเดียว ทะลักล้นเขื่อนออกไปหมด แล้วจะเอาอะไร กักเก็บไว้ในเขื่อนละครับ เหมือนทำยาก แต่จริงๆแล้วพอเริ่มทำมันก็ไม่ยากอะไรครับ ผมแต่ก่อนทานน้ำ 2-3 แก้วพร้อมทานข้าว ด้วยเหตุผลสารพัดที่เข้าใจผิด เช่น ควรกินข้าวพออิ่มและทานน้ำ เพื่อให้อิ่มจริง หรือกินล้างปากสักหน่อย (กินกันเป็นแก้วล้างปากเนี่ยนะ) หรือต้องสั่งชอคโกแลตปั่นใส่วิปครีมมากิน กินแล้วหวานมันเย็นอร่อยแต่ส่งผลเสียต่อกระเพาะโดยไม่รู้ตัว เบียร์ก็อีกตัวครับ สังสรรค์กันทีกินเข้าไปสิกี่ขวดว่ากันไป ทุกวันนี้เลิกครับ ได้ข้อดีอีกอย่างคือไม่รู้จะเอาเวลาที่ไหนไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมันควรกินแกล้มอาหาร เลยได้เลิกเหล้า เลิกเบียร์กันไป แต่ก่อนหลังทานข้าวเสร็จผมจะเรอตลอด ท้องอืดมาก ก็งง หรือว่าเรากินเยอะไป แต่บางทีกินไม่เยอะก็เรอตลอด เสียบุคลิกมาก พอมารู้ตรงนี้ถึงได้ถึงบางอ้อ กินน้ำเยอะอย่างนี้แล้วอาหารจะย่อยยังไงมันก็เลยเกิดลมเกิดแก๊สซิ พอเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำใหม่ อาการเหล่านี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆครับ หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 30 กันยายน 2552, 20:19:00 ....นอกจากนี้หลังอาหารยังไม่ควรทานผลไม้ล้างปากทันทีอีกด้วยครับ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นทั้งหลาย เช่น
ส้ม แก้วมังกร สาลี่ แตงโม เป็นต้นมีสองเหตุผลครับ หนึ่ง เพราะว่าผลไม้จะย่อยเร็วกว่าอาหาร อาหารยังย่อยไม่เสร็จ ผลไม้ก็ค้างเติ่งอยู่ในกระเพาะ ร่างกายก็ดูดซึม สารอาหารจากผลไม้เหล่านี้ไม่ได้ พอไปถึงลำไส้ถึงคิวที่มันจะได้ดูดซึมมันก็เน่าเสียไปหมดแล้วครับ เพราะฉะนั้นถ้าจะทานผลไม้ควรทานก่อนหรือหลังอาหารสัก 1-2 ชม. ขณะท้องว่างเพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมวิตามิน สารอาหารและไม่รบกวนระบบการย่อยอาหารด้วย เหตุผลที่สอง คือ น้ำย่อยในกระเพาะถือว่าเป็นธาตุไฟครับ ถ้าทานผลไม้ฤทธิ์เย็นเข้าไปก็จะส่งผลให้อาหารย่อยไม่ดี เกิดวงจรอุบาทว์ดังเช่นข้างบนอีกเหมือนกัน หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 30 กันยายน 2552, 20:24:48 5. ปกติดื่มอะไร เช่น น้ำเปล่า น้ำอัดลม ชา กาแฟ เป็นต้น
มาถึงข้อสุดท้ายแล้ว เป็นไงบ้างครับ คอตกรับผิดกันเป็นแถวเชียว ยังครับมารับรู้ความผิดของตัวเองกันในข้อนี้ต่อ...... ทานน้ำอะไรกันครับ บางคนชอบทานน้ำอัดลมมาก ดื่มทุกวัน ไตก็ต้องทำงานกรองน้ำให้สะอาดหนักกว่าเดิม เครื่องกรองน้ำยี่ห้อแอมเวย์สามารถกรองโค้กให้กลายเป็นน้ำเปล่าได้อายุการใช้งานไม่ถึงปีก็ต้องเปลี่ยนหัวกรอง ทว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนไตได้ครับ ถ้ายังอยากให้ไตอยู่คู่กับเรานานๆแล้ว คุณคงรู้ว่าต้องทำอย่างไร อีกอย่างน้ำอัดลมเป็นน้ำที่ผ่านกรรมวิธีทางเคมี ใส่น้ำตาลจำนวนมาก กินเข้าไปมีแต่ผลเสีย ครับ ยิ่งอัดแก๊สอีก กินเข้าไปท้องก็อืด การย่อยอาหารก็ไม่ดี เสียเงินไปทำร้ายร่างกายตัวเองเปล่าๆ พวกชาพร้อมดื่มบรรจุขวดก็เหมือนกันไม่มีอะไรนอกจากน้ำตาลและคาเฟอีนปริมาณมากผสมน้ำนำมาขาย แต่ถ้าเป็นชาจีนร้อนๆชงจากกาก็ควรจะเว้นระยะหลังอาหารสักครึ่ง ชม.ครับ เพราะชามีฤทธิ์เย็น ทำให้อาหารไม่ย่อย รวมทั้งยังส่งผลต่อร่างกายในการดูดซึมธาตุเหล็กและโปรตีนอีกด้วย กาแฟก็ไม่ควรทานอย่างที่เคยพูดไว้ บางคนเถียงข้างๆคูๆ "กาแฟหอมนะหมอ"หอมครับผมไม่เถียง แต่มันไม่ดีครับ เดี๋ยวไอเดียบรรเจิดไม่เป็นหมอแล้ว ผลิตยาดมรสกาแฟดีกว่า ท่าจะรุ่ง อีกอย่างขอแถมนิดนึง คนไทยชอบกินก๋วยเตี๋ยวเติมเครื่องเยอะๆ อร่อยลิ้นแต่ไตทำงานหนักนะครับ ....ครบห้าข้อแล้ว โอย ... อ่านเหนื่อยมั้ยคะ.... ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณคุรหมอท่านนี้ เพราะป้าแจ่มก็ทำผิดมันทุกข้อเลยค่ะ ต้องปรับปรุงตัวใหม่แล้ว.... หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 30 กันยายน 2552, 20:29:00 คุณตู่ 14 คะ ตอนนี้ลองคำนวนใหม่นะคะว่าจะทานน้ำวันละเท่าไรดี
(รวมของเหลวอย่างอื่นด้วยนะคะ กะๆเอาว่าน่าจะมีน้ำอยู่เท่าไร) หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: too_ploenpit ที่ 03 ตุลาคม 2552, 13:23:08 ...ที่ผ่านมา...ตู่ก็ทำผิดหมดล่ะค่ะ...อาจารย์แจ่มใสคะ...
...และต้องขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะ...ที่นำความรู้มาบอกต่อกัน...อยากพิมพ์แจกคนอื่นบ้างจังเลย... ...แต่ก่อนที่ตู่จะมาอ่านเนี่ย...ตู่ดื่มน้ำเปล่าแทนโค๊กไปแล้วค่ะ... ...พยายามที่จะดื่มโค๊กวันละแค่กระป๋อง...อิอิ... หัวข้อ: Re: ออยพูลลิ่ง การบำบัดรักษาโรคได้ด้วยวิธีง่ายๆ ??? เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 กรกฎาคม 2553, 16:19:47 ของดีๆ ทำไม่ถึงปล่อยให้ผ่านไปได้ล่ะ ?? emo47
|