หัวข้อ: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: chaojom ที่ 14 มกราคม 2552, 13:00:35 ว่าจะเขียนเรื่อง ประชานิยมมานานแล้ว
วันนี้เป็นจังหวะดี กับการเปิดตัว พรรคภูมิใจไทย พร้อมสโลแกน "ประชานิยม สังคมเป็นสุข" ตอนที่พรรคไทยรักไทยเริ่มต้นก่อตัว มีการหาข้อมูลต่างๆในเมืองไทยมากมาย ก่อนกำหนดออกมาเป็นนโยบาย และด้วยมีคนมีความสามารถและตั้งใจดีต่อบ้านเมืองจำนวนมาก เข้ามาช่วยคิดช่วยทำ จึงเกิด นโยบายดีๆ และ ส่วนหนึ่งของนโยบายก็คือ การช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้คนในสังคม โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส ซึ่งต่อมาถูกเรียกเป็นคำเฉพาะว่า "ประชานิยม" ผมเชื่อว่า ผู้ร่วมร่างนโยบายในตอนนั้น ไม่ได้คิดบนพื้นฐานที่ว่า จะเอาอะไรให้ประชาชนดี แต่คิดบนพื้นฐาน ที่ว่า หากชีวิตของประชาชนยังอ่อนแอไม่มั่นคง ประเทศก็คงพัฒนาไม่ได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า นโยบายในยุคนั้น สามารถสร้่างคุณค่าในความเป็นคนได้ สามารถต่อยอดการพัฒนาได้ แต่ไทยรักไทยในช่วงปลาย เป็นช่วงที่คนมีความสามารถและตั้งใจดีหลีกหนีออกไปหมด ที่เหลือ ในไทยรักไทย จึงไม่เข้าถึงแก่นรากของที่มา"ประชานิยม"ยุคแรก นโยบายใหม่จึงไม่ได้ต่อยอดจากนโยบายแรก และยังไม่อาจ คิดนโยบายดีๆได้ และไทยรักไทยยุคหลังก็เข้าใจประชานิยม เช่นเดียวกับทุกพรรค พรรคประชาธิปัตย์ก็เช่นกัน ไม่ผิดหรอก หากจะใช้ประชานิยม แต่ ต้องเข้าใจแก่นราก ประชานิยม ไม่ใช่เพียงการให้ของฟรี แต่คือการให้ เพื่อสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืนให้กับชีวิต(สังคม) ปุ๋ย...ไม่ใช่คำตอบการงอกงามของพืช หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: Nat Rattanadilok ที่ 14 มกราคม 2552, 13:36:54 อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจครับพี่
ต้องแปลไทยเป็นไทยว่า อะไรคือปุ๋ย อะไรคือให้แล้วสร้างความมั่นคงในชีวิต แบบว่าเรียนมาน้อย emo47 หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: chaojom ที่ 14 มกราคม 2552, 15:31:33 ขอบคุณคุณณัฐครับ (ถ้าเรียกผิด แจ้งด้วยนะครับ)
ก่อนจะเข้าเรื่อง อะไรคือปุ๋ย ผมขอเรียนว่า ใจผมนั้น ผมไม่อยากเรียก นโยบายพรรคไทยรักไทยยุคแรกว่านโยบายประชานิยม แต่เมื่อเรียกกันจนติดปาก ผมจึงยอมเรียกตามบ้่าง แต่ผมก็อยากสะท้อนวิธีคิด โครงการช่วยเหลือต่างๆที่นักการเมืองในยุคนี้เรียกกันว่า ประชานิยม หากจะให้เกิดผลอย่างที่ พรรคไทยรักไทยทำในยุคแรก ต้องเข้าใจว่า ยุคแรกของนโยบายไทยรักไทยนั้น มาจากแนวคิดทำนองว่า หากคนเรายังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรกิน ก็คงไม่อยากฟังเรื่องกฎจราจร แต่ีวันนี้ นโยบายประชานิยมที่ใส่ลงมา เอาแค่รูปแบบภายนอกของไทยรักไทยยุคแรกมาปรับแต่ง แต่ไม่เข้าใจแก่นแท้ว่า ทำไมนักคิดของไทยรักไทยยุคแรก จึงกำหนดนโยบายออกมาเช่นนั้น ยิ่งมาเลียนแบบนโยบายไทยรักไทยยุคหลังหรือเลียนแบบพรรคพลังประชาชน ยิ่งไปกันใหญ่ มาเข้าอุปมาอุปไมยเรื่อง "ปุ๋ย" นะครับ คนที่ไม่มีความรู้้เรื่องเพาะปลูก หรือถูกหลอกจากโฆษณาจนหลงเชื่อ มักคิดว่า การใส่ปุ๋ยจะเป็นผลดีต่อพืช จึงใส่อย่างไม่พอดี มากเกินบ้าง น้อยเกินบ้่าง ไม่ถูกสูตรบ้่าง แต่ขอให้เป็นปุ๋ย ก็จะใส่ๆๆ ไม่ได้ดูอายุพืช อากาศ น้ำ แดด ไม่คำนึงชนิดของพืช แต่ก็คิดว่า ใส่เข้าไปเถอะ ก็เหมือนกับการใช้ประชานิยมของนักการเมืองยุคนี้ คิดเพียงว่า ให้ของฟรีกับประชาชนเถอะ ทุกอย่างก็จะดีเอง มาถึงคำถาม อะไรคือให้แล้วสร้างความมั่นคงในชีวิต การให้แล้วสร้างความมั่นคงในชีวิต ก็คือการให้อย่างใช้ปัญญาครับ ยกตัวอย่าง จะให้เด็กหัดเดินนะครับ จากเด็กที่นอนแบเบาะ ก็ต้องดูแลให้อาหาร จนนั่งทรงตัวได้ ค่อยหัดให้ยืน ยืนได้ค่อยหัดให้เดิน หากประชานิยม ทำแบบรู้ว่าให้ของฟรีกับประชาชนเพื่ออะไร พอได้ขั้นนี้จะทำอะไรต่อไป จนไปสู่เป้าหมาย อย่างนี้เรียกว่า ใช้ปัญญาครับ ซึ่งจะสร้างความมั่นคงในชีวิต เอาตัวอย่างของจริงมามาคิดกันเล่นนะครับ ว่าประชานิยมที่ควรเป็นคืออะไร ไม่เอาเรื่องซับซ้อน อย่างรักษาฟรี อย่างกองทุนหมู่บ้าน (ซึ่งจริงๆทั้งสองเรื่อง หากให้นักคิดของไทยรักไทยยุคแรกมาต่อยอด คงไปไกลโขมากกว่านี้) ขอเอาเรื่องรถเมล์ฟรีในกรุงเทพนี่แหละ ถ้าจะคิดอย่างประชานิยมที่ใช้ปัญญาซึ่งจะก่อเกิดความมั่นคงนะครับ ต้องวางเป้าหมายอย่างนี้ครับ 1.ต้องทำให้คนใช้รถส่วนตัวให้น้อยลงๆ 2.ประหยัดพลังงานช่วยชาติ วางเป้าหมายแล้ว กำหนดวิธีการ 1.หาวิธีการให้คนใช้รถเมล์ฟรีมีความภูมิใจ 2.ทำรถให้สะดวก สะอาด น่าใช้บริการ 3.พนักงานบริการให้เกียรติ์อย่างยิ่งกับผู้โดยสาร .....อะไรทำนองนี้ครับ....เป็นตัวอย่างนะครับ..... ถ้าจะทำประชานิยม(....ไม่ค่อยชอบคำนี้จริงๆ)แบบไทยรักไทยยุคแรกให้ได้ผล ต้องใช้ปัญญามากๆครับ ไม่ใช่ โยน...โยน...โยน คุณณัฐครับ คุณเล่นตั้งคำถามแบบนี้แล้วบอกว่าเรียนมาน้อย..ทำเอาผมมึน ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: chaojom ที่ 05 เมษายน 2552, 08:22:39 เนื่องจากข้อมูลระบบขาดหาย ผมจึงได้นำบางส่วนที่พอหาได้มาต่อไว้ดังนี้
กระทู้ ต่อเนื่่องถึง 13 กพ 52 ครับ ti2521 รุ่น: rcu2521 คณะ: ครุศาสตร์ « ตอบ #3 เมื่อ: วันจันทร์ 19 มกราคม 2552, 20.49 » ..... ผมอยู่ หอเจ้าจอม 2 ปี หอ 1 ห้อง 1126 2 ปี ให้บังเอิญงานปีใหม่ จุฬา ลำปาง รู้จักน้องหอ 27 หรือ 29 สัตวแพทย์ เปรมปรีย์ .....พักห้อง 1126 เหมือนกัน.......... .....อันที่จริงเห็นเค้าบอกว่าเป็น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ มีงานวิจัยของนักวิชาเกินทั้ง อเมริกา ยุโรป ออกมาได้ผลสามารถหาข้อมูลได้ ปัญหาว่าพวกตกงาน พวกไม่มีประกันสังคม น่าจะมีมากพอควร ผมคิดถึง อดีต นายก ที่ผมเรียก ท่านนายกได้เต็มปาก นโยบายเงินฝัน สร้างงานในชนบท เงินแจกแต่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกาย อย่างน้อยมีผลงาน น่าจะกระจายรายได้ครอบคลุม (ความเห็นส่วนตัวครับ)..... chaojom « ตอบ #4 เมื่อ: วันพุธ 28 มกราคม 2552, 09.23 » เมื่อ วานมีโอกาสเข้าไปร่วมงานที่ กรอ.(คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน) ซึ่งจัดที่เซ็นทรัลเวิร์ลหาทุนขายบัตรเก้าอี้ละ 2,600 บาท(เผอิญผมได้สปอนเซอร์ฟรี) ฟังนายกอภิสิทธิ์แสดงวิสัยทัศน์ เนื้อหาเหมือนที่เคยฟังผ่านสื่อมาแล้ว (เข้าใจว่าออกจากความคิดที่อยู่ในสมองของท่านเอง) หลักโดยรวมก็น่ามีความหวัง สังหรณ์ใจเพียงว่า เรื่องคำพูดนั้น พรรคประชาธิปัตย์จัดว่ายอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่หากวิเคราะห์จากอดีต สมัยหนึ่งที่ท่านอภิสิทธิ์เคยแสดงความคิดขัดแย้งกับท่านชวน(จนท่านชวนขัดเคือง) ก็น่าจะเชื่ีอว่า นายกท่านนี้ น่าจะทำคำพูดให้เป็นจริงได้ ขอส่งกำลังใจช่วยครับ เพื่อประเทศไทยและลูกหลานไทยของเรา ขอบคุณ พ่อเลี้ยงตี๋ แห่งลำปางครับ ที่เข้ามาเสริมสีสันให้กระทู้นี้ แวะเข้ามาบ่อยๆนะครับ chaojom Jr. Member ** ออฟไลน์ ออฟไลน์ กระทู้: 77 Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? « ตอบ #5 เมื่อ: วันพุธ 28 มกราคม 2552, 12.35 » สืบเนื่องจากคำถามของคุณ Nat Rattanadilok ที่ว่า ประชานิยมอย่างไรให้ชีวิตมั่นคง ผมคิดอยู่หลายวัน เกี่ยวกับ การแจกเงินฟรี 2,000 บาท เมื่อ วันจันทร์ที่ 26นี้ ขับรถพาเตี่ยเที่ยว ขับไป คุยไป เตี่ยพูดว่า แจกเงินให้คนจน แทนที่จะแนะนำให้ออม กลับแนะนำให้ใช้ (เพราะความจริง คนจะมั่นคงได้ ต้องมีเงินออม)...ประโยคเด็ดๆของเตี่ย ปิ๊๊งในสมองของผมเลยครับ เรามาคิดเล่นๆ เรื่อง เงินแจกฟรี 2,000 บาท แบบใช้ปัญญานะครับ สมมติว่า รัฐแจกมาให้แล้ว มีกฎว่า 1.เงินนี้ห้ามใช้ แต่ให้แต่ละคนฝากธนาคารไว้ จะมีเงินกองทุนจำนวน 19,000 ล้านบาท 2.ให้ดอกเบี้ยเงินฝากแต่ละคน สูงพิเศษกว่าปกติ สูงมากยิ่งดี ถอนดอกเบี้ยได้ทุกเดือน 3.นำเงินนั้นปล่อยกู้ด้วยเงื่อนไขพิเศษ ดอกเบี้ยต้องสูงกว่าการปล่อยกู้ปกติของธนาคารพอควร 4.ขอความร่วมมือธนาคารอย่าคิดค่าบริหารจัดการจากเงินก้อนนี้ หรือคิดในราคาต่ำพิเศษ 5.วางระยะเวลาให้ผู้ฝากถอนเงินคืนได้หลังจาก 3 หรือ 5 ปี หรือ...... 6.รัฐช่วยดูแลเรื่องความเสี่ยงจากการปล่อยกู้ 7.รายละเอียดเพิ่มเติมอื่น.... อ่านแล้ว รบกวนแลกเปลี่ยนกันหน่อยครับ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านครับ Nat Rattanadilok Hero Member « ตอบ #6 เมื่อ: วันพฤหัสบดี 29 มกราคม 2552, 17.58 » ตอบแบบงูๆ ปลาๆ นะครับ การออมก็เป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าลืมว่าออมเกินไปจะเกิดภาวะเงินฝืด ตอนเรียนจำได้ว่ามีเรื่อง multiple effect ของการใช้จ่าย ก็คือว่า ถ้าเราได้เงินมา 100 บาท ออมไว้ ยี่สิบ ใช้ 80. ผลที่เกิดตามมา ถ้าทุกคนใช้ pattern การใช้เงินแบบเดียวกันคือ effect = 100 หารด้วย (100 - 80) = 5 total effect = 100 x 5 = 500 ตัวอย่างคือ ผมได้เงินมา 100 เอาเงินไปซื้อกล้วยเชื่อม 80 บาท ออมไว้ 20 บาท แม่ค้าได้รับเงิน 80 บาท แล้วเขาก็เก็บไว้ 16 บาท นำไปซื้อวัตถุดิบ 64 บาท แล้วคนที่รับเงินต่อๆไปจากแม่ค้า ก็ใช้จ่ายแบบเดียวกัน ในที่สุดตลาดก็จะมีเงินออมเท่ากับ 20 + 16 +12.8 + 10.24 + ...... (take limit ก็จะได้เท่ากับ 100 บาทเหมือนกัน) แต่เงินที่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นในตลาดจะมากกว่า 100 ตามสูตรเงินหมุนเวียนจะได้เท่ากับ 500 ใช้เถอะครับ ถ้าไม่เดือดร้อน กันบางส่วนไว้ออม พอเพียงครับกระผม มันจะทำให้แม่ค้าแม่ขายมีรายได้ ผู้ผลิตก็จะมีรายได้ แต่ถ้าซื้อของนำเข้า ผลของมันก็จะน้อย ดังนั้น ควรอุดหนุนสินค้าไทยด้วยนะจ๊ะ บันทึกการเข้า Nat Rattanadilok « ตอบ #7 เมื่อ: วันศุกร์ 30 มกราคม 2552, 10.19 » จะเห็นได้ว่าคุณอภิสิทธ์ ใช้นโยบายของสำนัก John Maynard Keynes (Keynesian school) มาใช้อย่างเต็มตัว สะท้อนทฤษฎีที่บอกว่ารัฐบาลจะต้องใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่างจากคุณสมัคร และคุณสมชายที่ใช้ทฤษฎี Classic ที่บอกว่ารัฐบาลไม่ต้องทำอะไร เศรษฐกิจจะมีกลไกเติบโตของตนเอง (หรือแกไม่มีไอเดียจะทำอะไรก็ไม่รู้) เหอๆๆ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่เห็นนักเศรษฐศาสตร์อย่างอาจารย์อัมมาร (ท่านเก่งมากจริงๆครับ เคยสอนที่ ฮาร์วาร์ดหลายปี) จะได้รับการเยี่ยมเยียนจากนายกบ่อยๆ ตามประสาอาจารย์- ลูกศิษย์ chaojom Jr. Member ** Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม?Huh?Huh? « ตอบ #7 เมื่อ: วันนี้ เวลา 10:19 » ตอบโดยอ้างถึงข้อความอ้างถึง จะเห็นได้ว่าคุณอภิสิทธ์ ใช้นโยบายของสำนัก John Maynard Keynes (Keynesian school) มาใช้อย่างเต็มตัว สะท้อนทฤษฎีที่บอกว่ารัฐบาลจะต้องใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามหลักการวิทยาศาสตร์ สมมติฐาน ได้จากการการสังเกต สมติฐานใดได้รับการยอมรับ จึงพัฒนาเป็นทฤษฎี ทฤษฎี ที่ใช้จนยอมรับว่าจริงแท้แน่นอนไม่แปรเปลี่ยน จะได้รับการแต่งตั้งเป็น กฏ ปัญหาอยู่ตรง ทฤษฎีนี่แหละครับ...โดยเฉพาะทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่ต้องนำมาใช้ในยุคทุนนิยมภิวัฒน์เช่นนี้ การใช้ทฤษฎี ก็อุปมาได้กับการเล่นเครื่องดนตรี บางคนเอาหม้อกาละมังมาเคาะมาตีก็เป็นเพลงเพราะเสนาะหู แต่ถ้าให้ผม เล่นเปียโน ไวโอลีน ระนาด หรือเครื่องดนตรีชั้นยอดใดๆ รับประกันได้ ถูกโห่ฮาอย่างแน่แท้...ซึ่งผมไม่อาจทึกทักว่า เครื่องดนตรีดังกล่า่วใช้ไม่ได้ วันนี้ ดูเหมือนว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังพยายามทำงาน...แต่ผมค่อนข้างสังหรณ์ใจว่า จะเหมือนผมเล่นดนตรีไหม? ขอบคุณคุณNat Rattanadilokครับที่นำความรู้มาแบ่งกัน ผมชอบเรื่องวิธีคิดการออมที่คุณแสดงไว้ครับ บันทึกการเข้า ti2521 ขาประจำ **** ออฟไลน์ ออฟไลน์ รุ่น: rcu2521 คณะ: ครุศาสตร์ กระทู้: 247 ดูรายละเอียด Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? « ตอบ #9 เมื่อ: วันศุกร์ 30 มกราคม 2552, 21.40 » .....ได้แนวคิดเป็นระบบ ของนักคิดนักวิเคราะห์อ้างอิงเชิงวิชาการดีมากครับ แต่แนวทางการทำงาน พื้นฐานคนประเทศเรา เทียบกับเขามาตราฐานต่างกันมาก ผมค่อนข้างเครียดว่าเราจะเล่นเครื่องดนตรีชนิดใดจะเล่นตามเขาหรือ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง อดทน อดกลั้น อดออม เชิงตะวันออก วิถีเกษตร ความอุดมของแผ่นดินไทย ศักยภาพดีที่สุดนี้ สามารถดึงมาใช้สูงสุด? แต่โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นด้วยกับแนวทางประหยัด+ออม ออม และ ออม ครับ ผมติดตามคุณ nut rattanadilok อ่านแล้วได้แนวคิดดีมาก แล้วรู้สึก สบายใจ ด้วยครับ ขอบคุณ+ดีใจที่ได้รู้จักครับ พี่ตี๋..... บันทึกการเข้า chaojom Jr. Member ** ออฟไลน์ ออฟไลน์ กระทู้: 77 ดูรายละเอียด Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? « ตอบ #10 เมื่อ: วันจันทร์ 02 กุมภาพันธ์ 2552, 13.18 » ขอบคุณพ่อเลี้ยงตี๋ ผู้ช่วยให้เกษตรกรบางส่วนของลำปางมีเงินใช้ครับ แวะเข้ามาทักทายแลกเปลี่ยนบ่อยๆนะครับ การใช้ประชานิยมนั้น รัฐต้องเข้าใจตัวตนของรัฐด้วยครับ ต้องเข้าใจว่า หากจะให้ประเทศยืนอยู่บนโลกทุนนิยมอย่างผงาด กำลังการผลิตจะต้องอยู่กับภาคประชาชนเป็นหลัก รายได้หลักของรัฐได้จากการเก็บภาษี เก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ หากรัฐ ยังหลงว่า ต้องเป็น "ผู้ให้ ทรัพย์สิน และบริการสาธารณะ กับประชาชน" ก็เท่ากับ รัฐกำลังขุดดินบริเวณเสาบ้านไปถมบ่อน้ำขังที่สนามหญ้า เพราะ เมื่อรัฐใช้เงินมาก ก็ต้องเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น เท่ากับเป็นการเพิ่มภาระที่มีผลกระทบสูงสุดเข้าไปในระบบ และผลกระทบดังกล่าว คือภาระที่จะผูกพันกับภาคเอกชน ประเทศก็จะเป็นดั่งบริษัทที่มีค่าใช้จ่ายคงที่ในการดำเนินกิจการสูงๆ อันที่จริงแล้ว ประชานิยมที่ถูกต้อง คือ "การให้โอกาส กับประชาชนทุกคน โดยคำนึงถึงศักยภาพพื้นฐานที่ไม่เท่ากัน" จะใช้ประชานิยม ต้องใช้สมองให้มากๆครับ...จ๋าขอ... บันทึกการเข้า สมชาย17 Sr. Member * ออฟไลน์ ออฟไลน์ กระทู้: 258 ดูรายละเอียด Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? « ตอบ #11 เมื่อ: วันจันทร์ 02 กุมภาพันธ์ 2552, 22.05 » ผมหายไปหลายวัน กระทู้นี้ของ น้องเจ้าจอม ได้เพื่อน พี่ น้อง มาช่วยแสดงความคิดเห็นหลากหลาย เป็นประโยชน์จริงๆ ประชานิยม ตอนนี้ รู้สึกว่าจะ ฮิด ไปทั่วโลกแล้ว เศรษฐกิจ มีปัญหา ถือว่าแรงมากๆ ตอนนี้ ประชานิยม เหมือน อามิสทาน ทางพุทธศาสนา ต้องมี ถือเป็นทานที่ดี ถ้าใช้ให้ถูก โอกาสและจังหวะการใช้ ปัจจุบัน เงินฝืด การส่งออกลดลง เพราะประเทศใหญ่มือเติบ จนลง ก็ซื้อของน้อยลง โรงงานและผู้ประกอบการในเมืองไทย ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย รัฐ ต้อง อัดเงินลงแบบ ประชานิยม คือแจกเงินเลย เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ เพื่อให้ทุกอุตสาหกรรม อยู่ได้ (ต้องแจก เพื่อไปจับจ่ายใช้สอยด้วย และต้องใช้ให้หมด ใน 3-6 เดือน เพื่อให้ เงินหมุนเวียนโดยเร็ว) ทำให้อุตสาหกรรม ไม่ล้ม คนไม่ตกงาน เพราะถ้าคนตกงานมาก เงินจะฝืดกว่านี้ และปัญหาสังคมจะตาม มา มากมาย จนรับกันไม่ไหว เรียกว่า แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ว่า งั้นเถอะ เหมือน อามิสทาน ช่วย โดยให้ อาหาร หรือของที่จำเป็น เพื่อไม่ให้ เขาตาย(ถ้าเขาไม่มีจะกิน หรือหนาวตาย ถ้าไม่มีเสื้อผ้า) ต้องมี บันทึกการเข้า สมชาย17 Sr. Member * ออฟไลน์ ออฟไลน์ กระทู้: 258 ดูรายละเอียด Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? « ตอบ #12 เมื่อ: วันจันทร์ 02 กุมภาพันธ์ 2552, 22.18 » ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว เหมือนธรรมทาน ทางศาสนาพุทธ คือ การสอน ให้ความรู้ ให้วิธีการทำมาหากิน ถ้าเป็น เรื่องของรัฐ ก็ต้องให้เพิมอีก นอกจากความรู้ ความสามารถ ในการทำมาหากินแล้ว ยังต้องสร้างโอกาส ให้คน เข้าถึงแหล่งงาน แหล่งทำมาหากิน และการเข้าถึงและวิธีแสวงหาทรัพยากรด้วย ถ้าเขาต้องการทำงาน ที่เป็นเจ้าของเอง ไม่ว่าจะเป็น เกษตร ค้าขาย งานบริการ งานประดิษฐ์ ค้นคิดต่างๆ ให้หลากหลายกว่าในปัจจุบัน ปัจจุบัน สอนเพื่อป้อนให้ กับงานที่มีอยู่แล้ว ยังไม่หลากหลาย ซ้ำ ยังสอนแบบไม่ค่อยได้เรื่องอีก ทั้งๆที่ สอนเพื่อป้อนให้กับงานซ้ำซากที่มีอยู่แล้ว รัฐคงต้องใช้ทั้ง 2 รูปแบบ แก้ปัญหา ทั้งระยะสั้นและระยะยาว การออมเป็นเรื่องที่ดี และต้องทำให้เป็นนิสัย แต่ช่วงนี้ ต้องจ่ายเพื่อให้มีเงินหมุนเวียน ในทุกธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจประคองตัวอยู่ได้ เพื่อไม่ให้คนตกงาน และประเทศไม่ล้มละลาย(คนต้องไม่ล้มละลายด้วย) วันหลัง มาคุยกันใหม่อีกที บันทึกการเข้า Nat Rattanadilok Hero Member * ออฟไลน์ ออฟไลน์ กระทู้: 619 ดูรายละเอียด เว็บไซต์ Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? « ตอบ #13 เมื่อ: วันพฤหัสบดี 05 กุมภาพันธ์ 2552, 15.52 » ยินดีรู้จักครับพี่ TI2521, หวังว่าเราคงเจอกันสักครั้งนะครับพี่ ถ้าเจอไอ้จูน ปี 32 ช่วยดูนะครับว่ามีลูกกี่คนแล้ว อดีตขวัญใจหอหนึ่งเชียวนะนั่น เขินน๊า!! ยินดีรู้จักกับพี่ สมชาย17 ด้วยครับ บันทึกการเข้า chaojom Jr. Member ** ออฟไลน์ ออฟไลน์ กระทู้: 77 ดูรายละเอียด Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? « ตอบ #14 เมื่อ: วันอังคาร 10 กุมภาพันธ์ 2552, 10.02 » ขอบคุณพี่สมชาย และน้องณัฐที่เข้ามาแลกเปลี่ยน อยากให้อ่าน สกูปหน้า1 ของไทยรัฐวันนี้ "หมอ ไม่ใช่แค่รักษา ต้องเยียวยาด้วยใจ" http://www.thairath.co.th/news.php?section=hotnews02&content=122783 ผมอยากเรียนว่า ประชานิยม คือการให้ระยะสั้น เพื่อหวังผลระยะยาว แน่นอนต้องใช้สมองมากๆครับ และทำได้แน่ๆถ้า ระดมสมอง และคิดๆๆด้วยใจที่ไร้ความเห็นแก่ตัว ผมใช้น้ำฟรีมาหลายเดือนแล้ว ครอบครัว 3 คนพ่อแม่ลูก จึงได้ใช้น้ำฟรี ก็ดีที่ไม่ต้องเสียเงินเดือนละร้อยสองร้อย แต่ไม่ได้ยินดีปรีดานะครับ เพราะมีคนที่เงิืนจำนวนดังกล่าวมีค่าพอควร เขากลับไม่ได้ใช้น้ำฟรีเลย ตัวอย่างจากบทความไทยรัฐนั้น ผมใคร่เรียนว่า นั่นคือ ส่วนหนึ่งของรากเหง้า ที่ถูกปรับแต่งเป็นโครงการ สามสิบบาทรักษาทุกโรค เพียงแต่ว่า กลุ่มคนเริ่มคิด ไม่มีโอกาสต่อยอด(เพราะหนีออกจากพรรคไทยรักไทยไปหมด) คนทำตามก็ไม่เข้าใจ กลายเป็นรักษาไม่เก็บเงินไปนั่น... เป้าหมายเดิมของโครงการรักษาโรคนี้ คือ ทำให้คนมาโรงพยาบาลให้น้อยที่สุด โดย ทำให้คนแข็งแรงไม่เจ็บป่วย บันทึกการเข้า naiamphureak ขาประจำ **** ออฟไลน์ ออฟไลน์ กระทู้: 192 ดูรายละเอียด Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? « ตอบ #15 เมื่อ: วันอังคาร 10 กุมภาพันธ์ 2552, 15.19 » ยังสงสัยอยู่ว่าประชานิยมกับเศรฐกิจพอเพียงจะไปด้วยกันได้หรือเปล่าในภาวะปัจจุบัน อ่านความเห็นและข้อมูลของพี่พี่ข้างบนแล้ว น่าจะได้รับความคิดเห็นดีดีครับ บันทึกการเข้า Nat Rattanadilok Hero Member * ออฟไลน์ ออฟไลน์ กระทู้: 619 ดูรายละเอียด เว็บไซต์ Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? « ตอบ #16 เมื่อ: วันศุกร์ 13 กุมภาพันธ์ 2552, 14.26 » โดยรวมแล้วประเทศไทยมีการออมเงินโดยเฉลี่ย ประมาณ 30% ของรายได้ครับ ไม่ใช่อี้อี้ ถ้าจำไม่ผิด % มากกว่าสิงคโปร์ซะอีก ผลของ 18000 ล้านก็น่าจะทำให้เงินเพิ่มในระบบเฉียดๆ 60000ล้าน รอดูผลครับ คงต่อลมหายใจให้กับหลายๆ ธุรกิจได้ ว่างๆจะมาโม้เรื่อง "มือที่มองไม่เห็น" หรือ Invisible Hand เรื่องนี้เป็นทฤษฎี classic ครับ (ในทางเศรษฐศาตร์กระแสหลักมีสองสำนักคือ Classic & Keynes) แต่ในเมืองไทยเอามาแปลผิดๆ เอ้อ บรึ๋ยยย ลองหาอ่านดูนะครับ น่าจะเจอ Adam Smith, Wealth of the Nations. ต้นตำหรับมือที่มองไม่เห็นอันแสนจะโด่งดัง แปลเป็นไทยหลายๆสำนักมากทั้งจุฬา ธรรมศาสตร์ ฯลฯ ขอแตะการเมืองนิดนึง อาจารย์ใจ (ลูกชายของอาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ คนที่ผมเคารพ พี่ชายของอาจารย์จอน อึ้งภากรณ์ ผู้ที่ตอนนี้ไปเป็นผู้ช่วยของดร. ศุภชัย พาณิชภักดิ์ ที่ UN) ทำไมในหัวแกยังเอียงซ้ายได้ตลอด ตั้งแต่หนุ่มยันแก่ สิ่งที่พูด เขียน อ่าน ก็ยังเดิมๆ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทั้งที่คนที่ทำร้ายอาจารย์ป๋วย คือจอมพล..... บันทึกการเข้า chaojom Jr. Member ** ออฟไลน์ ออฟไลน์ หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: chaojom ที่ 05 เมษายน 2552, 08:27:59 กระทู้ต่อเนื่อง ถึง 5 มีนาคม 52
หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: chaojom ที่ 05 เมษายน 2552, 08:33:22 กระทู้ขาดช่วง วันที่ 18 มีนาคม
หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 27 พฤษภาคม 2552, 21:51:28 .....จากวันนั้น ถึงวันนี้ พรก.กู้เงินเร่งด่วน กำลังตามมา ผมไม่ชอบคำนี้เลยครับ..... หนี้..... หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: super ที่ 28 พฤษภาคม 2552, 10:28:13 ไม่เจอกันหลายวันเลยนะ คุณวันชัย
หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: chaojom ที่ 14 พฤศจิกายน 2552, 18:06:15 ใกล้ครบปีแล้วครับที่โพสกระทู้นี้
ขอนำขึ้นมาเพื่อการสนทนาอีกครั้ง.. เพราะเวลาล่วงเลยมาพอควร สำหรับการดำเนินนโยบายใช้เงิน "แบบประชานิยม" ถ้าเป็นทารก ก็ควรคลานได้คล่องและอาจยืนได้แล้ว แต่สิ่งที่ได้ดำเนินไป..เป็นเช่นไร บอกแล้วว่า... ถ้ายังคิดนามธรรมไม่ออก อย่าคิดใช้ประชานิยม.... (เพื่อความเข้าใจ "คิดนามธรรมไม่ออก อย่าคิดใช้ประชานิยม" รบกวน อ่านต้นๆของกระทู้นี้ครับ) หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: Aj.O ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 20:45:03 มีสาระมากครับ (แต่เนื้อหาเยอะ อ่านไม่ค่อยไหว) emo29:P:
เอาเป็นว่า ผมชอบโฆษณา โฆษณา ผู้ใหญ่ลี กับ ไม้จิ้มฟัน ครับ เป็นตัวอย่างที่ดี ในการเลือกป้อนทรัพยากรณ์ของผู้ให้ ให้สอดคล้องกับความสามารถในการบริหารทรัพยากรณ์ของผู้รับ ครับ หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: chaojom ที่ 18 ธันวาคม 2552, 19:49:56 ขอบคุณครับ อาจารย์โอ
ผมก็ชอบโฆษณาชุดนั้นเช่นกันครับ ว่างๆ แสดงความคิดเห็นร่วมกันอีกนะครับ หัวข้อ: Re: ประชานิยมของนักการเมืองไทยในวันนี้...ใส่ปุ๋ยเยอะๆเถอะ แล้วต้นไม้จะงอกงาม??????? เริ่มหัวข้อโดย: Nat Rattanadilok ที่ 21 ธันวาคม 2552, 20:52:33 ช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาดูซะนาน
อาชีพการงานกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม จะโดนปลดหรือไม่ก็รู้กันละ emo4:)) |