หัวข้อ: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: paitoonx ที่ 11 มกราคม 2552, 14:19:27 รอชาวบ้านมาตั้งกระทู้ประจำ ปีซะนาน
ใครไม่เอา กรู เอาเอง emo20:)):) ไปฉลองบ้านเพื่อนทีอุดรมา (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019240.jpg) ไปถ่ายดอกไม้บ้านเพื่อนมา (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019256.jpg) ดอกไม้สวยครับ แต่คนถ่ายไม่ได้เรื่อง (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019253.jpg) พวกที่นัดก็บอกให้ไปรอซะนาน กว่าจะมาก็ปาไปซะดึก (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019263.jpg) บรรยากาศ ลูกหลานเพื่อน (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019230.jpg) ขอตัดเข้าตอนเมาๆเลยก็แล้วกัน คู่แรกที่มาในงาน หมอแก้ว และลูกๆทั้ง 2 (คนที่ 2 ต้องรอปลายปีครับ) ซ้ายสุด เณร แอ เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นเจ้าภาพในวันนี้ (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019320.jpg) คูต่อมาคู่รักหวานแหววแห่งปีที่ผ่านมา ขวา สุด เณร แอ เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นเจ้าภาพในวันนี้ (น่ากลัวเน๊าะ ติดมาทุกรูปเลย) (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019319.jpg) น้องไออุ่นก็มาครับ (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019315.jpg) "พี่ขาเมื่อไหร่เราจะมีแบบนี้สักคนค่ะ" (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019310.jpg) "เดี๋ยวพี่ปรึกษาเพื่อนดูก่อนว่า ทำอย่างไร" (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019312.jpg) "มรึงก็ไปปรึกษา ไอ้เป๋สิ แมร่งนัดแล้ว เจือกไม่มา" อันหลังนี้เจ้าของกระทู้ด่าเองนะครับ (http://i280.photobucket.com/albums/kk165/paitoonx/P1019302.jpg) สวัสดีปีใหม่เพื่อนๆทุกคน ขอให้มีความสุข และสุขภาพแข็งแรงทุกคน หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: เจษฎา ที่ 11 มกราคม 2552, 16:04:58 จะให้ครบกระบวนควรมอบวันเดือนปีเกิดให้พี่แจ้วไปเช็คด้วยว่ามีใครรอจะมาเกิดรึยัง emo42
หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 11 มกราคม 2552, 16:52:15 เณรแอน่ะ....
แหมนะ.... ขอหยิกแก้มที! สวีดัด 2552คะน้อง p.nn หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: paitoonx ที่ 12 มกราคม 2552, 00:13:34
เป็นผมคง ไม่ยุ่งหรอก กับเณรแอ กลัวโดน เล่น ของ emo20:)):) หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 14 มกราคม 2552, 12:58:40 มาช้าไปนิดนึงเพราะมัวแต่เล่นของอยู่...ขอสวัสดีปีใหม่กับพี่ๆ 31 ด้วยคนครับ.....และเอาคำคม คนคุกมาฝากครับ
"เพราะเราเจอแต่ความไม่จริงใจ เจอความเห็นแก่ตัวมาเยอะ เราอาจจะมองว่าเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีคอยช่วยเหลือกันแต่ความเป็นจริงที่เราเจอมันต่างกัน มีแต่การใส่หน้ากากเข้าหากันตลอด ต้องอยู่ในสังคมที่ใช้ความหรูหรามาวัดกัน อวดมั่งอวดมีอวดรวย ชอบงานรื่นเริง เป็นสังคมที่พยายามแสดงตัวเองออกมาว่าเป็นคนระดับสูง ไม่ได้คบกันด้วยความจริงใจ เราเลยไม่ค่อยเชื่อใจใคร" เสริม สาครราษฎร์ หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 มกราคม 2552, 22:16:19 เค้าเป็นใครคะคุณที่ขีดเส้นใต้?
p.nn หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: aUa ที่ 14 มกราคม 2552, 22:40:29 emo28:win:แสดงว่าเจ้ เกษร จำคนดังของหอพักไม่ได้ซิครับ เสริม สาครราษฎร์
ประวัติ จบวิศวคอมพิวเตอร์จากหอพักจุฬา แล้วเรียนต่อ หมอ กทม พอถึงปี 3 หรือไรนี่แหละ ก็ปั้นคุณหญิงหมอพรทิพย์ให้ดังกระฉ่อนเมืองไทย เพราะต้องตามหานางสาวเจนจิรา แล้วคุณหญิงหมอก็ดังตลอดมา ส่วนเสริม นี่ก็ออกหนังสือพิมพ์มาถ้าจำไม่ผิดไม่น้อยกว่า 3 เดือน ใครจำได้อีกก็ช่วยใส่ไข่ด้วย สวัสดีปีใหม่ครับ หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 มกราคม 2552, 22:43:55 รุ่นไหนคะน้องAUA?
ม่าย พยายามนึกอยู่เนี่ย ในรัศมี 2527-2531ยังพอได้คะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ! p.nn หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 มกราคม 2552, 22:47:02 แต่ตอนพี่ไปเยอรมันแล้วมีกรณีฆ่าหั่นอะไรนี่แหละ..
เค้าเหรอ?? โอ,,, p.nn หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: aUa ที่ 14 มกราคม 2552, 22:49:22 น่าจะรุ่น ปี 33 หรือไรนี่แหละครับ
ใช่แล้วข่าวนั้นนะแหละ ฆ่าหั่น -- สุดท้ายมาจำนน กับงูเจ้าที่ ในอีก 1 ปีถัดมา หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 มกราคม 2552, 22:52:42 ทำไมถึงเป็นรักต้องฆ่าคะ??
น่าเศร้าจัง...เสียอนาคตหมด p.nn หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: aUa ที่ 14 มกราคม 2552, 23:01:10 เอาพระจันทร์เมื่อวานมาฝากครับ
สงสัยจะเห็นพระจันทร์มั้งครับ เลยต้องสังหารคนรัก หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: aUa ที่ 14 มกราคม 2552, 23:02:29 เอ๋ ภาพไม่ขึ้น ลองใหม่
(http://www.cmadong.com/imageupload/dec08/data/image/kdgxvt-05996b.jpg) หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 มกราคม 2552, 23:05:29 Bravo!
เก่งมาก... ต่อแต่นี้โหลดภาพเยอะๆ เห็นพระจันทน์ทำไมอยากฆ่าคนรัก? ถ้ารักก็ไม่ฆ่าสิ p.nn หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: paitoonx ที่ 14 มกราคม 2552, 23:22:32
จะได้กลาย ร่างเป็นหมา แก่ๆ emo25:((( หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 มกราคม 2552, 23:26:48 ฟันฟางหักด้วยนะ!
ได้เป็นwerwolf...versionหงำเหงือก! p.nn(lovers moon) หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: paitoonx ที่ 14 มกราคม 2552, 23:30:56
หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 มกราคม 2552, 23:36:47 ประเภท....หญ้าอุยป่าว??
ก็ต้องเคี้ยวอยู่ดีแหละ! กินspinatดิ...เละๆดีคะ p.nn หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 15 มกราคม 2552, 08:56:30 ให้ป้าหนิงอ่านเล่นๆ
ชำแหละหัวใจ...เสริม สาครราษฎร์ เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2541 หากเรายังจำเรื่องราวของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทย์ศาสตร์ วชิระพยาบาล ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.เจนจิรา พลอยองุ่นศรี แฟนสาว นักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ชั้นปีที่ 5 มหาวิทยาลัยมหิดลได้ก็คงจะทราบว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นคดีสะเทือนขวัญเขย่าวงการเสื้อกาวน์เป็นอย่างยิ่ง และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ในชีวิตของคนสองคน คนหนึ่งคือ แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันทน์ รองผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการจากคดีดังกล่าว และอีกหนึ่งค ือ เสริม สาครราษฎร์ ตัวการที่ลงมือชำแหละแฟนสาวทิ้งชักโครก ซึ่งวันนี้อิสรภาพของเขาได้สิ้นสุดลง แต่เราไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังกำแพงสูงของเรือนจำบางขวางนั้น เขามีชีวิตอยู่อย่างไร HI-CLASS พาคุณเดินผ่านประตูคุกเพื่อเปิดเปลือยเรื่องราวของนักโทษเด็ดขาดอย่าง เสริม สาครราษฎร์ เข้าไปนั่งรับรู้ตัวตนที่แม้จริง เข้าไปฟังวินาทีสังหารชนิดคำต่อคำ และสัมผัสความรู้สึกหลังความผิดบาปที่ได้ก่อขึ้น ไฮ-คลาส ครอบครัวเสริม สาครราษฎร์ ตั้งแต่เด็กมาก็เป็นเหมือนคนอื่นทั่วไป พ่อแม่ก็อยู่ด้วยกันครอบครัวก็สมบูรณ์คุณพ่อก็ไม่ได้มีภรรยาน้อยอะไรมีอาชีพค้าขาย มีพี่น้องสองค นผมเป็นคนโตแล้วก็มีน้องสาวอีกคนหนึ่ง สมัยประถมผมเรียนที่โรงเรียนศรีราชา เป็นโรงเรียนคริสต์ที่มีแต่ผู้ชายล้วน เรียนอยู่ที่ชลบุรีจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็เข้ามาที่กรุงเทพฯเป็นโรงเรียนคริสต์อีกเช่นกัน ไฮ-คลาส ทำไมถึงตัดสินใจเรียนวิศวะ ตอนนั้นเป็นคนที่สนใจเรื่องเหล่านี้เป็นคนชอบคอมพิวเตอร์ เลยตัดสินใจเรียนวิศวคอมพิวเตอร์ ไฮ-คลาส แสดงว่าสมัยมัธยมเป็นเด็กเรียนเก่งพอสมควร ตอนมัธยมต้นก็เรียนดีพอสมควร ผมสอบเทียบตั้งแต่มัธยม 4 ช่วงม.ปลายคะแนนอาจจะตกลงไปบ้างเพราะต้องทุ่มเวลาอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเอ็นทราน พอสอบจริงก็ติดคณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยทางภาคใต้แต่ก็ไม่เอา เราตั้งเป้าแล้วว่าเราจะเข้าวิศวจุฬ า เลยตั้งใจอ่านหนังสืออย่างหนักแล้วก็สอบเข้าได้ ไฮ-คลาส ได้ยินมาว่าคุณพ่อเป็นคนที่ดุมากใช่หรือเปล่า ก็เป็นคนค่อนข้างเจ้าระเบียบมากกว่า ไม่ค่อยถูกตามใจเรียกว่าไม่เคยตามใจเลยดีกว่า เขาเลี้ยงลูกให้อยู่ในกรอบ คงเป็นเพราะเขามองอะไรแบบผู้ใหญ่ ผมเลยได้เรื่องความระเบียบอะไรอย่างนี้มาจากคุณพ่อมาก แต่โดยส่วนตัวไม่ใช่คนที่มีนิสัยดุอะไรอย่างที่เข้าใจนะ เป็นคนเงียบๆ และเก็บอารมณ์ได้มากกว่า ไฮ-คลาส ระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ คุณเสริม สนิทหรือรักใครมากกว่ากัน ถ้าถามตอนนี้ก็ต้องบอกว่ารักแม่มากกว่าเพราะคุณพ่อเสียแล้ว แต่ถามว่าทั้งคู่รักใครมากกว่ากันนั้นมันตอบลำบาก เพราะเราไม่ได้อยู่กับครอบครัวตลอด เรามาอยู่โรงเรียนประจำมากกว่าพอจบจากโรงเรียนประจ ำเราก็มาอยู่กรุงเทพฯตั้งแต่ยังเด็ พอมหาวิทยาลัยก็อยู่กรุงเทพฯเลยไม่ค่อยสนิทกับครอบครัวมากทเท่ที่ควรเลยไม่รู้ว่ารักหรือสนริทกับพ่อหรือแม่คนไหนมากกว่ากัน ไฮ-คลาส คุณพ่อมีส่วนตัดสินใจบ้างหรือเปล่าเพราะได้ยินข่าวว่าพ่ออยากให้คุณเสริมเป็นหมอ ข่าวก็เป็นข่าวลงกันเรื่อย ความจริงคุณพ่อไม่ได้อยากให้เราเรียนหมอมาตั้งแต่ช่วงแรกอยู่แล้ว การตัดสินใจเรียนวิศวก็เป็นการตัดสินใจของผมเอง เราตั้งเป้าว่าจะเรียนทางนี้ แต่พอเรียนจริงมันยากพอสมควร เราต้องเรียนหนัก ความจริงแล้วเราก็ไม่ได้เป็นคนที่เรียนเก่งอะไรมากมาย เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 2 กว่ายังไม่ถึง 2.5 เลยด้วย ซ้ำ ข่าวเอาไปเขียนว่าเรียนเก่งเป็นเด็กอัจฉริยะ ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่เราก็เรียนมาจนจบวิศว เราเข้าเรียนปี 2535 มาจบเอาปี 2539 ก็ 4 ปีพอดีช่วงที่เราเรียน อยู่ปี 4 เป็นปีที่คุณพ่อเสียชีวิตพอดี ไฮ-คลาส มารู้จักกับ ' เจนจิรา ' ได้อย่างไร ความจริงก่อนที่เราจะมารู้จักกับ ' เจนจิรา ' ผมเคยมีแฟนมาก่อนแล้วคนหนึ่งแต่พอตอนหลังเขาขอเลิกไปเพราะเรียนหนัก ก็แยกกันด้วยดี จากนั้นเราก็มารู้จักกับ ' เจนจิรา ' ประมาณปี 3 เข้าปี 4 ก็รู้จักด้วยการเป็นเพื่อนกันก่อนตอนนั้นยังไม่ไ ? ้เป็นแฟนกัน เขาเรียนมหิดลเราเรียนจุฬาฯแต่ไปเจอกันในโบถส์เพราะเขาก็นับถือศาสนาคริสต์เหมือนกัน คือไปเจอกันก็เลยมีโอกาสพูดคุยกัน เขาเป็นคนเรียบร้อย ส่วนผมเป็นคนเรียบๆเฉยไม่ค่อยคบหากับใครมากนักชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวจึงไม่ค่อยมีเพื่อนอะไรเท่าไหร่ ไฮ-คลาส ทำไมมีนิสัยเก็บตัวอยู่คนเดียว ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อใจใครง่ายๆโดยเฉพาะผู้ชาย ถึงแม้เราจะเคยเรียนโรงเรียนที่มีแต่ผู้ชายล้วนๆ ก็ตาม เพราะเราเจอแต่ความไม่จริงใจเจอความเห็นแก่ตัวมาเยอะ เราอาจจะมองว่าเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีคอยช่วยเหลือกันแต่ความเป็นจริงที่เราเจอมันต่างกัน มีแต่การใส่หน้ากากเข้าหากันตลอด ต้องอยู่ในสังคมที่ใช้ความหรูหรามาวัดกัน อวดมั่งอวดมีอวดรวย ชอบงานรื่นเริง เป็นสังคมที่พยายามแสดงตัวเองออกมาว่าเป็นคนระดับสูง ไม่ได้คบกันด้วยความจริงใจ เราเลยไม่ค่อยเชื่อใจใคร เมื่อมาอยู่มหาวิทยาลัยจึงไม่ค่อยมีเพื่อจะมีก็แต่เพื่อผู้หญิง ไฮ-คลาส ทำไมถึงคิดมาเรียนหมอ ตอนนั้นผมเริ่มอยู่ปี 4 ใกล้จบแล้วเราเริ่มสนิทกันมากขึ้นเราเริ่มแคร์เขามากขึ้น เขาเคยพูดถึงเรื่อง อนาคตของเขากับเราว่า หากเรียนจบแล้วอยากจะไปอยู่เมืองนอกและอยากมีแฟนเป็นหมอเหมือนเขา คือตอนนั้นเราคบกันแบบเพื่อนะยังไม่ได้บอกว่าเราชอบเขา และจากตรงนั้นมั้งทำให้เราตัดสินใจเรียนหมอ ไม่ได้บอกอะไรตรงๆ มันเป็นเรื่องที่รู้กันเองเริ่มจากการเป็นเพื่อนกันธรรมดามีเวลาให้กันมากขึ้น เข้าอกเข้าใจกันมากขึ้นมันก็พัฒนาไปเองโดยที่เราก็รู้กันว่าระหว่างเรามันมากกว่าการเป็นเพื่อนแล้ว เริ่มมีการหึงหวงบ้างอะไรแบบนี้ ช่วงวันสำคัญเราก็มีอะไรพิเศษให้กันบ้างอย่างวาเลนไทน์ก็ให้ดอกไม้กัน มันเข้าใจกันโดยไม่ได้บอกออกมาเป็นคำพูด ไฮ-คลาส บอกได้มั้ยว่าเรามีอะไรดีที่ทำให้ผู้หญิงมาชอบเรา คงเป็นเพราะผมเป็นคนที่พูดอะไรตรงๆ มั้ง แต่ก็ไม่เคยถามเขานะว่าเขาชอบผมตรงไหน ส่วนเขาค่อนข้างจะเป็นคนจริงจังกับชีวิตพอสมควร ลักษณะนิสัยเรากับเขาคงคล้ายๆ กันคุยกันได้ก็เลยคบกัน คือหลายอย่าง ครอบครัวเขาเองก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แยกทางกันตั้งแต่เขายังเด็ก แม่ก็ไปเปิดร้านอาหารอยู่อเมริกา พ่อก็อยู่อีกทางหนึ่ง เขาต้องมาอยู่กับญาติ คงทำให้ขาดความอบอุ่น พอมาเจอกับเราคุยกันได้ก็สนิทกันจนพัฒนามาเป็นแฟนกัน ไฮ-คลาส ข้ามไปเร็วหน่อยหลังจากคบกันมาระยะหนึ่งรู้ได้อย่างไรว่าเขาเริ่มถอยห่างจากเรา เราคบกันมากระทั่งจุดหนึ่งก็เริ่มมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองคน คือผมเช่าหออยู่เขาก็มาอยู่ด้วยกับเราเหมือนแฟนทั่วไปที่ผู้หญิงผู้ชายใช้ชีวิตร่วมกันก่อนแต่งงาน อันที่จริงเขาก็มีบ้านนะบางทีเขาก็กลับบ้านบ้าง นอนหอตัวเองบ้าง อยู่กับเราบ้าง อาทิตย์หนึ่งอยู่กับเราประมาณ 3-4 วัน อะไรแบบนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แต่ระยะหลังเราเริ่มสังเกตว่าเขาเปลี่ยนไปจากเดิม เริ่มมีธุระมากขึ้นเริ่มไม่ค่อยว่าง คือโดยสัญชาติญาณเรารับรู้ได้ว่ามันไม่เหมือนเดิม เขาเคยพูดขึ้นมาครั้งหนึ่งว่าไปรู้จักกับพี่ชายของเพื่อนคนหนึ่งเป็นคนที่ให้คำปรึกษาในหลายๆ เรื่อง และเคยมีครั้งหนึ่งเขามาเล่าให้ฟังว่า มีเพื่อนผู้หญิงซึ่งมีแฟนอยู่แล้วมาปรึกษาเขา บอกว่าเขาไปชอบผู้ชายอีกคนหนึ่งจะทำอย่างไรดี ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรก็ให้คำปรึกษาไปว่าแล้วแต่ผู้หญิงคนนั้นว่าจะคิดอย่างไรทำนองนี้ แต่พอกลับมานั่งนึกก็เลยเข้าใจว่าอาจเป็นตัวเขาเองที่ไปชอบผู้ชายคนอื่น เราเริ่มสังเกตพฤติกรรมเขามากขึ้นช่วงที่อยู่กับเรา มีครั้งหนึ่งที่เรานัดกันไปไหนสักแห่งแต่ปรากฏว่าเขาไม่ยอมมาตามนัด ผมเลยจะโทรไปฝากข้อความทางเพจเจอร์ของเขา แต่ก่อนจะฝากข้อความผมก็เช็คข้อความของเขาก่อนว่าฝากอะไรถึงเราหรือเปล่าเพราะเราใช้เพจร่วมกัน โดยที่ผมเองก็มีรหัสผ่าน พอเข้าไปเช็คก็เจอข้อความที่ถูกส่งมาจากรุ่นพี่คนนั้น เป็นคำพูดโรแมนติคมากที่หยิบมาจากภาพยนต์เรื่องหนึ่งแต่ผมจำไม่ได้ว ่าเรื่องอะไร และในข้อความนั้นเขาก็นัดไปดูหนังกัน เราเลยรู้ว่าที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เองถึงไม่ว่างและไม่มาตามนัด พอรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งเราก็ถามว่าเมื่อวานไปไหนมา เขาตอบว่าไปดูหนังแล้วก็กินข้าวก ? บน้องซึ่งไม่ได้เจอกันนาน เราก็รู้แล้วว่าเขาโกหกไม่บอกความจริงกับเรา ความจริงแล้วมันมีอะไรมากกว่าการไปดูหนังกันธรรมดา มันมีหลักฐานซึ่งผมรู้มานานแล้วไม่ใช่แค่ครั้งนี้ผมไม่อยากพูดถึงเอาเป็นว่าผมพูดกว้างๆ ดีกว่าว่าเขาไปมีอะไรกับคนอื่นด้วยนอกเหนือจากเรา พอดีวันนั้นเป็นวันที่ผมระเบิดออกมาจึงเกิดการทะเลาะกัน หากวันนั้นเขายอมรับออกมาเรื่องก็อาจไม่บานปลายถึงขนาดนี้ ผมมานั่งคิดดูเราอาจจะต่างคนต่างเลิกรากันไป แต่วันนั้นเขาไม่ยอมรับผมเลยโกรธมาก ไฮ-คลาส เหตุการณ์โศกนาฎกรรมวันนั้นเป็นอย่างไรอยากได้ยินจากปากคุณโดยตรง วันนั้นเราโกรธมาก มันหน้ามืดไปหมดอาจเป็นเพราะเราควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่ได้ด้วย ตอนนั้นผมเองเพิ่งอายุ 22 ปี ความคิดอะไรมันก็ยังควบคุมไม่อยู่ อารมณ์ตอนนั้นมันโกรธจัด ทะเลาะกันรุนแรงมาก ผมเองไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องโกหกเรา มาหลอกเราทำไม คิดอะไรไม่ออกโมโหมากเดินเข้าไปหยิบปืนแล้วก็เขายิงทันที ไฮ-คลาส ไปเอาปืนมาจากไหน กระแสข่าวออกมาว่ามีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ผมเก็บปืนไว้ที่ห้องนานแล้วเขาก็รู้ เพราะแถวที่ผมอยู่นั้นมันเปลี่ยวชาวต่างชาติพวกไนจีเรียอยู่กันเยอะ ผมเองรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยไปเอาปืนจากที่บ้านมาเก็บไว้เผื่อป้องกันตัว ไฮ-คลาส ตอนที่ยิงเขาคิดหรือเปล่าว่าจะต้องยิงให้ตายหรือแค่ให้เจ็บ ตอนนั้นก็คิดเลยว่ายิงให้ตายเพราะมันโกรธจัด คือผมจ่อยิงที่หัวเลย เป็นเรื่อ งของอารมณ์มากกว่า ไม่ใช่เราฆ่าเขาแล้วเราจะรู้สึกดีนะ ไม่ใช่เราฆ่าเพราะอยากให้เขาตายให้สมกับความแค้นที่เขาได้หักหลังเรานะ มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ไฮ-คลาส สังคมมองว่าคุณเป็นฆาตกรโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ที่ฆ่าแฟนตัวเองแล้วยังแล่ศพด้วยความใจเย็น ตอนนั้นผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี ยิงเขาไปแล้วมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ พอตั้งสติได้ก็ร้องไห้เสียใจสงสาร ไม่น่าทำแบบนี้เลย จากนั้นก็อุ้มศพเขาเข้าไปในห้องน้ำนั่งมองศพอยู่นานไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ตอนนั้นเริ่มกลัวแล้วไม่อยากถูกจับ เลยจัดการแร่เป็นชิ้นๆ เพื่อทิ้งลงน้ำโดยใช้มีดทำครัวธรรมดานี่แหละไม่ใช่มีดผ่าศพของหมออย่างที่เข้าใจ แล่เป็นชิ้นแล้วทิ้งลงชักโครก แต่พอทิ้งไปได้สักพักมันกดน้ำไม่ลงคือท่อมันตัน ผมเลยทิ้งศพไว้ในห้องแล้วออกมาซื้อถุงดำ ซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ ซื้อไม้ที่ปั้มท่อ พอกลับมาน้ำมันเพิ่งลดลงไปหน่อยเดียวเองเลยต้องใช้ที่ปั้มนั้นปั้มท่อไปด้วย ส่วนกระดูกที่เหลือก็เอาไปทิ้งที่แม่ น้ำบางปะกง ไฮ-คลาส เป็นไปได้หรือไม่ว่า เพราะการที่คุณเรียนหมอต้องเคยเรียนผ่าศพด้วยและต้องเห็นศพบ่อยๆ ทำให้ไม่รู้สึกกลัวและสามารถแล่ศพได้อย่างใจเย็น คือเป็นเรื่องชาชินธรรมดา ความจริงรู้สึกนะไม่ใช่ไม่รู้สึกอะไร เพราะศพที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นแฟนเราเป็นคนที่เรารัก ต่างจากการเรียนผ่าศพที่เรียกว่าอาจารย์ใหญ่นั่นเราจะไม่ค่อยรู้สึกอะไรเพราะเราไม่รู้จักเขา การที่ต้องแล่ศพเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรเราทำลายหลักฐานไม่ได้ เราเอาลงมาจากข้างบนหอไม่ได้มันใหญ่เกินไปคนจะสงสัย เลยต้องแล่ศพ หากเป็นที่อื่นก็อาจเผาทำลายหลักฐานได้หรืออย่างอื่น แต่นี่เป็นห้องที่เราอยู่จึงต้องใช้วิธีนี้ เรื่องเรียนหมอหรือไม่ได้เรียนหมอมันไม่เกี่ยวแต่มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำวิธีนี้ คุณพ่อค้าขายหมูก็อาจใช้วิธีนี้ก็ได้ ไฮ-คลาส ตอนที่คุ ณชำแหละศพช่วงที่ต้องตัดคอคุณไม่เห็นหน้าเขาหรือคุณมองหน้าเขาอยู่หรือเปล่า เปล่าผมตัดจากทางด้านหลัง ผมจับเขาหันหลัง คืออย่าเข้าใจว่าเป็นความรู้สึกที่ดีนะ มันแย่มากตอนนั้น เราเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนไม่คิดว่าจะมาจบลงตรงนี้ ผมยังพูดกับศพเลยไม่ได้อยากจะทำอย่างนี้ ขอโทษเขาตลอด แต่ก็ไม่อยากถูกจับมันจำเป็นต้องทำ ไฮ-คลาส หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปแล้วคุณรู้สึกกลัวหรือเปล่า เพราะได้ยินว่าคุณก็ยังอยู่ที่ห้องที่เกิดเหตุ ไม่ได้กลัวอะไร ผมเองก็ยังอยู่ที่นั่นเป็นเดือนไม่ได้หนีไปไหน แต่ก็เหงาบ้างเวลาที่เราขาดเขาไปเพราะเคยอยู่ด้วยกัน ไฮ-คลาส เหตุการณ์วันที่คุณถูกจับกุมเป็นอย่างไร เรื่องมันผ่านมาได้เกือบเดือนหนึ่งแล้วหลังจากที่ผมฆ่าเจนจิรา ผมก็ยังอยู่ที่ห้องนั้นปกติต่อมา วันนั้นผมเดินๆ อยู่ริมถนนก็มีคนมาอุ้มผมขึ้นรถตู้ ปิดตาผม จากนั้นก็ใส่กุญแจมือแล้วก็ซ้อมด้วย พอเปิดตามาก็รู้ว่าเป็นตำรวจ หลังจากนั้นเขาก็พามาส่งที่สน.สอบสวนผมเสร็จแล้วก็ให้เราเซ็นชื่อรับสารภาพ ว่าฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฆ่าด้วยความทารุณโหดร้าย เขาบอกว่าเซ็นไปก่อนแล้วค่อยไปสู้กันที่ศาล ไฮ-คลาส ทำไมถึงต้องซ้อมด้วย ผมก็ไม่รู้แต่ได้ยินว่าทางญาติจะให้เงินรางวัลหากใครเจอศพลูกสาวเขา ผมก็ไม่รู้เป็นอย่างไร แต่พอหลังจากจับผมได้แล้วดูเหมือนตำรวจคนนั้นจากที่เคยใช้โทรศัพท์ธรรมดาก็เปลี่ยนมาใช้รุ่นใหม่ การซ้อมก็อาจเป็นการคาดคั้นเอาหลักฐานก็เป็นได้ อันนี้ผมไม่รู้เหมือนกันอาจจะเป็นเพราะแบบนี้ก็ได้ ไฮ-คลาส รู้สึกอย่างไ รบ้างกับคุณหญิง แพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่เข้ามาทำคดีนี้ ถึงแม้เขาไม่เข้ามาทำคดีนี้ ผมรู้ว่าผมก็คงต้องติดคุกอยู่ดี เพราะเรารับสารภาพไม่ใช่เพราะคุณหมอพรทิพย์เข้ามาพิสูจน์ แต่สังคมมองว่าเพราะคุณหมอเข้ามาทำคดีถึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ แต่ความจริงนั้นมันไม่ใช่ ผมคิดว่าโดยทางรูปคดีสามารถสาวมาถึงตัวผมได้อย่างแน่นอนผมเลยรับสารภาพ โดยส่วนตัวผมไม่เคยรู้สึกอะไรกับคุณหมอ ไม่มีความโกรธแค้นเขาแต่อย่างใด ไฮ-คลาส ตอนที่ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตตอนนั้นรู้สึกอย่างไร ผมทำใจไว้แล้วไม่มีอะไร แต่ก็ต่อสู้จนถึงศาลฎีกา ในชั้นฎีกาผมต่อสู้ในประเด็นที่ว่า ผมไม่ได้โดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ทุกชั้นศาลก็ไม่ได้เชื่อเราอย่างนั้นเพราะเขามองเห็นว่าเรามีปืนอยู่เขามองว่าเราเตรียมการ แต่ผมยืนยันว่าไม่ได้ไตร่ตรองเป็นอารมณ์ชั่ววูบ แต่เราก็ทำใจไว ้แล้ว ไฮ-คลาส คำว่า ' โหด ' ในพจนานุกรรมของเสริม สาครราษฎร์ หมายถึงอะไร การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายอย่างนี้สิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปีอย่างนี้ผมถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น บางคนแก่หง่อมทำอะไรไม่ได้แล้วยังต้องติดคุกอยู่อีก ไฮ-คลาส แสดงว่าวันที่ศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตวันนั้น หากเลือกได้คุณอยากถูกประหารชีวิตมากกว่า ผมว่าประหารยังดีเสียกว่าเพราะการติดคุกมันทรมาน แต่ถามว่าอยากตายมั้ยต้องตอบว่าไม่อยากเพราะผมยังมีแม่อีกคนที่รอ อยู่ผมยังอยากเจอแม่ แต่สิ่งที่ผมกำลังบอกก๋คือการขังใครในระยะเวลานานขนาดนั้นมันไม่มีประโยชน์ ออกไปเขาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ซึ่งอาจจะกลับไปกระทำผิดอีกเพราะไม่รู้จะทำอะไร ไฮ-คลาส คุณเชื่อว่าการกักขังอิสระภาพไม่ใช่วิธีลงโทษที่ถูกต้อง มันเป็นวิธีลงโทษที่ช่วยได้ในระยะหนึ่งเท่านั้น แต่นานเกินไปไม่มีประโยชน์ การที่คนติดคุก 20 ในนี้กับข้างนอกมันต่างกันโดยสินเชิง ข้างนอกอาจมองว่าแป๊บเดียวแต่สำหรับคนที่นี่มันนานแสนนาน ไฮ-คลาส วันแรกที่เดินเข้าเรือนจำรู้สึกอย่างไร ความรู้สึกแรกเลยเราคิดว่ามันต้องน่ากลัวโหดร้าย มีมาเฟียร์เหมือนอย่างในหนังที่เราเคยดูมา แต่พอเข้ามามันไม่ใช่อย่างนั้นเป็นการอยู่ร่วมกันแบบเพื่อนมากกว่า เ จ้าหน้าที่ให้การดูแลเราดี ไม่ใช่ว่าจะมาทำร้ายอะไรเรา เรื่องร้ายๆ ก็มีบ้างเป็นธรรมดาแต่ไม่ใช่ทั้งหมดมีเพียงส่วนหนึ่ง แต่เอาเป็นว่าไม่พูดถึงดีกว่าครับพูดแล้วไม่ดีผมอาจไม่มีโอกาสมานั่งคุยแบบนี้ได้อีกเอาก้วางก็พอ อย่างเรื่อพี่ใหญ่ก็มีบ้าง เช่นเราไปช่วยงานเขา ไปซักผ้าให้เขาทำงานให้เขาบ้าง แล้วเขาก็ให้สิ่งของตอบแทนเป็นการพึ่งพากันมากกว่า อย่างผู้ต้องขังบางคนไม่มีญาติมาเยี่ยมเลย คนที่มีญาติมาเยี่ยมก็จะมีของกินข้าวใช้ก็แบ่งกัน คือให้สิ่งตอบแทนเป็นข้าวของ ไฮ-คลาส มีคนมาเยี่ยมคุณเสริมบ่อยหรือเปล่า หลังจากเกิดเรื่องก็ไม่มีแล้ว ไม่มีใครมาเยี่ยมเลย เพราะข่าวสร้างให้เราดูน่ากลัว วันนี้เพื่อนเก่าๆ กับเรามันเหมือนกับอยู่กันคนละโลกแล้ว ตอนนี้เราจะมีเพียงเพื่อนใหม่ที่เข้าใจเรา เพื่อนที่อยู่ในคุกเหมือนกับเรา เรารู้สึกว่าทุกอย่างข้างนอกจบสิ้นแล้วเรามีเพียงโลกของเราในนี้เพื่อนก็มีเท่าที่นี้เท่าที ่อยู่ร่วมกัน เพื่อข้างนอกหายหน้าไปหมดแล้ว แม่ก็ไม่ค่อยมานานๆ จะมาสักครั้งคงเพราะเราทำให้เขาเสียชื่อเสียง ผมเองเคยเขียนกลอน หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 มกราคม 2552, 09:06:38 คุณเสริมเป็นน้องหอซีมะโด่งด้วยจริงๆเหรอครับ เจตน์...พี่ป๋องไม่ทราบมาก่อน
หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: kdecha ที่ 15 มกราคม 2552, 10:39:44
คำคม คนดัง โอ๊ยย...แม่งเอ๊ย...... เสียวฉิบ.... พี่อ้น คลิปหลุด หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 15 มกราคม 2552, 11:09:21
ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ท่านใดรู้แจ้ง โปรดแถลงไข ครับ
คลิปหลุด ยัง พอไหวนะพี่ แต่ฟันหลุด นี่สิแย่ emo20:)):) หัวข้อ: Re: สวัสดีปีใหม่ 2009 ครับพี่น้อง เริ่มหัวข้อโดย: บักหมอ ที่ 15 มกราคม 2552, 15:12:18
|