หัวข้อ: A Brief History of CU เริ่มหัวข้อโดย: (n_n)Cellkrub ที่ 03 พฤศจิกายน 2550, 11:14:02 ได้มาจากเมล์ที่เวิร์ดมาอีกที อ่านแล้วน่ารักดี เลยเอามาแบ่งครับ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย -สีประจำมหาวิทยาลัยคือ สีชมพู -ตราประจำมหาวิทยาลัยคือ ตราพระเกี้ยว (ที่มา : www.chula.ac.th) เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย -สนามกีฬาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียกกันว่า “สนามจุ๊บ” โดยเรียกให้คล้องจองกับ “สนามศุภ” -สามารถนำรถเข้าไปจอดในคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ แม้ไม่ต้องมีสติกเกอร์ ถ้าคนขับหน้าตาดี(ผู้หญิงเท่านั้น)เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะทำการเลื่อนที่กั้นให้อย่างสุภาพเรียบร้อย -คณะอักษรฯ มีภาควิชาการละครด้วยนะ แต่เป็นละครเวที เทอมนึงมีหลายเรื่องเหมือนกัน แต่แต่ละเรื่องก็แนวมั่กๆ น้องปีหนึ่งเข้ามาใหม่ๆ ต้องเริ่มด้วยการดูละครและวิจารณ์ละครเวที(ที่ดูยากมั่กๆ) -เชื่อหรือไม่ คณะอักษรฯมีแสงเสียงเป็นของตัวเองด้วย -โต๊ะหน้าตึกสี่ เรียกว่า โต๊ะไผ่ เป็นแหล่งรวม Arts Men -เวลาแข่งกีฬาเฟรชชี่ หรืออะไรก็ตามที่ต้องใช้มีตัวเล่นเป็นผู้ชาย เช่น ฟุตบอล คณะอักษรฯต้องระดมพล Arts Men ทั้งสี่ชั้นปีเลยทีเดียว -คนนอกจะมองคณะอักษรฯ ว่าเป็นคณะหรูหราไฮโซ แต่เชื่อหรือไม่ ชาวอักษรไม่เคยจัดงานใดๆ ที่โรงแรมเลย ไม่มีการสิ้นเปลืองด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นเฟรชชี่ไนท์ บายเนียร์ ฯลฯ สถานที่ประจำคือห้อง 103 ตึกสี่ กับส้วมหมา (สนามหญ้าเล็กๆหน้าตึกบรมฯ) -เนกไทวิศวะกับครุจะไม่เหมือนชาวบ้าน -คณะวิทยาฯมีการประกวดดนตรีอะคูสติก ชื่อว่า Under Tab (ส่วนใหญ่อ่านกันว่า “อันเดอร์แท๊บ”) จริงๆแล้วมาจากคำว่า “Under Tab” (อันเดอร์(ตึก)แถบ) เพราะสมัยก่อนจัดงานใต้ตึกแถบ ตึกแถบเป็นชื่อตึกหนึ่งของคณะวิทยาศาสตร์ -คณะแพทย์มี sing'n contest ด้วย แรกๆมีแบคเป็น GMM ด้วยนะ -Human Relation คือวิชายอดฮิต ลงกันล้นจนต้องเปิดเซคเพิ่มทุกเทอม -สนามวอลเลย์บอลคณะรัฐศาสตร์ ปัจจุบันเป็นที่จอดรถ -คณะรัฐศาสตร์จุฬามีสนามฟุตบอลเป็นของตัวเอง และ หวงมากด้วย -โรงอาหารอักษรมีข้าวเหนียวไก่เป็นอาหารชูโรง และลูกค้าหลักคือเด็กเตรียม -คณะที่ใกล้ห้างที่สุดคือสหเวชศาสตร์ ใกล้สยามที่สุดคือทันตแพทยศาสตร์ -รองเท้าขาวสำหรับนิสิตหญิงปี1 ฮิตใส่ยี่ห้อ peppermint -ข้างหอประชุมจุฬามักเป็นที่ซ้อมละครของเด็กอักษร -นิเทศ ที่ดูต้องใช้เครื่องมือเยอะๆนั้น มีตึกเรียนเพียงสองตึก คือ ตึกหนึ่งและตึกสอง (มันไม่มีสามสี่ห้าแน่ๆ) ตึกหนึ่งมีห้าชั้น ใช้การได้สี่ชั้น และตึกสอง มีหกชั้น ใช้งานได้จริงๆ สามชั้น...(สงสัยตัวเองเหมือนกันว่ายัดตัวเองอยู่ที่ไหนของคณะ)เป็นตึกจิ๋วๆที่อยู่ระหว่างครุกับนิติ นี่แหละ ปล.ก็อยู่กันใต้ถุนคณะนั้นแหละ คาดว่าเป็นคณะเดียวที่สามารถเปิดเพลงฟังได้ที่ใต้ถุนคณะ โดยไม่โดนอาจารย์ด่า หิหิ -รถโดยสารภายใน "จุฬาฯ" เรียกกันติดปากว่า "รถป็อป" ซึ่งมีที่มาจาก "รถ ปอ.พ." 30% ของนิสิตจุฬา มารู้เอาตอนปี 3 ว่า "รถป๊อป" มาจากคำว่า "รถ ปอ.พ." -ครุอาร์ท เป็นครุศาสตร์ที่ตึกเรียนอยู่ตรงข้ามกับคณะครุศาสตร์(งงม้าย คือเค้าว่า เค้าเป็นครุอาร์ท.. ไม่ใช่ครุศาสตร์ นะ) -เด็กฝั่งมาบุญครองเรียกฝั่งตรงข้ามว่า "ฝั่งในเมือง"(แปลว่าฝั่งนี้เป็นบ้านนอกหรือ ไม่น้า<= ฝั่งMBK เรียกว่าฝั่งบ้านนอก -เด็กฝั่งสยาม(เภสัช,ทันตะ,สัตวะ)จะเรียกจะเรียกบริเวณอื่นๆว่าจุฬาใหญ่และถูกเรียกว่าบ้านนอก (ถึงบ้านนอกก็มีห้างเป็นของตัวเองจ้า) -โรงอาหารนิติ เป็นโรงอาหารที่มีเด็กสาธิตและเด็กนิเทศนั่งกินมากที่สุด (เปล่านะ เราใช้รวมกันหรอก) -ลุงฟร๊ตตี้ขี่เวสป้ามาขายผลไม้ในจุฬาทุกวันตอนเย็น (จริงๆ ลุงเค้าชื่อประมวล แซ่ลิ้ม (หนังสือเปิดรั้วจามจุรี ปี 49)) -อักษรชอบถาปัด แต่ถาปัดชอบกันเอง -การเดินสยามถือเป็นการเดินช่วยย่อยได้ดี ไม่ต้องซื้อไรหรอก..เพราะมันแพง -แต่ก่อนเข็มพระเกี้ยวรัศมีจะเป็นทรงแหลม เดี๋ยวนี้รัศมีอ้วนๆ -หอยทากมักเดินเล่นบนถนนในหน้าฝน และมันจะไม่หยุดให้เราเดินไปก่อน... -นอกจากหอยทากแล้วเรายังสามารถพบหนูได้ทั่วไปในอาณาเขตจุฬาฯ เวลากลางคืน -ตอนประธานาธิบดีคลินตันมาที่มหาลัยหลายปีก่อนมีหน่วนswat องค์รักษ์ติดมาด้วย1คันรถ ทุกคนถืออาวุธครบมืออยู่ในท่าเตรียมพร้อมตลอดเวลา ไม่รู้จะไปรบกะใคร -ถนนอังรีมีอาชญากรรมบ่อยๆ -ก่อนมีรถป๊อป ไม่เคยมีการใช้มอไซค์หรือจักรยาน เดินจุฬาเท่านั้นพี่น้อง น่องโป่งเรย....... นิสิตบางคนทึกทักเอาเองว่า DotA คือกีฬาประจำมหาลัย (จะสู้พวกเกษตรฯได้เร้อออ) -คณะรัฐศาสตร์ และ เศรษฐศาสตร์ ตั้งอยู่บนถนนเดียวกัน ทำให้ ถนนนั้นชื่อว่า ถนนไฮโซสตรีท เพราะรวมไว้ซึ่งคณะ ไฮโซ ดังๆ ทั้งน้าน -คณะที่ทุกคนใฝ่ฝันเมื่อเห็นการแสดงเชียร์โต้ คือ ศิลปกรรมศาสตร์ และเพลงยอดฮิตติดหู คือ เพลงน้องนางลูบไข่ และเพลงโอ้ทะเล (บัลเล่ย์) -คณะที่มีตึกสูงที่สุด คือ ตึกมหามกุฏ คณะวิทยาศาสตร์ -ถ้ามองจากมุมสูง จะเห็นศาลาพระเกี้ยว เป็นรูปพระเกี้ยวจริงๆ และ ตึกจุลฯจะเป็นฐานพระเกี้ยว ไฮโซเวอร์ -สายรถป๊อบที่ฮิตที่สุด คือ สาย 1 ศาลาพระเกี้ยว-สยาม และสาย 2 สำนักวิทย์กีฬา-ศาลาพระเกี้ยว -ห้องสมุดอักษรเป็นห้องสมุดที่เงียบมาก เพราะเด็กอักษรไม่นิยมอ่านกันที่นี่ -หอใน จุฬาฯ ชื่อว่า ซีมะโด่ง และมีงานรับน้องเป็นของตัวเอง ว่ากันว่า ช่วงเดือนมิถุนาทั้งเดือน แถวๆมาบุญครอง จะได้ยินเสียงโวยวาย เสียงเพลง ตอนดึกๆ -หอกลาง เคยมีคดี ชกกัน เนื่องจากแย่งที่นั่งอ่านหนังสือกัน -นิสิตจุฬาฯ กว่าครึ่ง สามารถ บูม บาก้า ได้ก่อน เอนท์ ติดจุฬาฯ เชื่อหรือไม่? -ห้องสังสรรค์ เอ้ย!!ห้องสมุด คณะเศรษฐศาสตร์ มีบรรณารักษ์ที่ดุที่สุดในโลก -กีฬาเฟรชชี่ครั้งล่าสุด มวยหญิงตัวแทนบัญชีต่อยตัวเองจนเข้าโรงพยาบาล -รุ่นพี่หลายคนชอบหลอกน้องให้ลงวิชาเลือกยากๆ เพราะแค้นที่ตัวเองโดนหลอกมาก่อน (เช่นผม เจอ C+ มาหมาดๆเทอมที่แล้ว - -*) -ปัจจุบันรถป๊อปกลายสภาพเป็นรถไฟฟ้าแล้วนะ สีชมพูแหววเหมือนเดิม รถกระชากแรงมาก ควรจับราวให้ดี อาจารย์ท่านหนึ่งของวิชา REC CAMP เคยบอกไว้ว่าเวลาขับรถต้องระวังข้างหลังดีๆเพราะรถไฟฟ้าขับมาเงียบมาก เกือบชน -ห้องสมุดรัฐศาสตร์สามารถคุยได้ แต่ถ้าเสียงดังเข้าขั้นตลาดสดเมื่อไหร่จะมีกริ่งเตือน นิสิตจะเงียบไปประมาณสองนาที แล้วก็คุยกันเหมือนเดิม -บะหมี่อดทนรัฐศาสตร์ อดทนจริงๆ (เพราะป้าทำช้ามั่ก) และแพงจริงๆ (ใครกินฟูลออพชั่น เหยียบ 40) -ปูนปั้นรูปตุ๊กแกที่แปะอยู่หน้าตึกศิลกัมหายไป...ไปไหน....ลึกลับจริงๆ จริงๆแล้วต๊กแกตรงมุมตึงศิลปกรรม ไม่ใช่ปูนปั้น แต่มันเป็นโฟม แปะด้วยกาวสองหน้า อยู่ทนทานมานานจนผุกร่อน เลยดูคล้ายปูนปั้น และที่หายไปก็ไม่ลึกลับหลอก จารย์บั๊ค(คณบดี)สั่งให้ทาสีตึกใหม่ แล้วคงเห็นว่าไร้สาระมั๊ง เลยแกะออก แต่ว่าล่าสุด ตุ๊กแก กลับมาแล้ว เป็นไฟเบอร์ทำสีอย่างดี อยู่ในตำแหน่งเดิมเป๊ะ (พวกเราไร้สาระ แต่ทำจริงวะ 555) -นกพิราบชอบบินใส่กระจกรถที่วิ่งมา...ตายประจำ ไม่รู้ทำไม -หมาของศิล'กัมถ้าเป็นสีขาวจะโดนbody paint -นิสิตหญิงที่ใส่เสื้อฟิดติ้วตีเกล็ดจะถูกประนามหยามเหยียด -จุฬามีหมูปิ้งเดลิเวอรี่ด้วยนะ โทรสั่งได้ไว้จะเอามาแปะไว้ -พนักงานหน้าห้องคอมที่วิศวะจุฬาเป็นเกย์ ชอบแอบจับมือผู้ชายตอนขอดูบัตรนิสิต และถ้าหน้าตาถูกตาถูกใจพนักงานหน้าห้องคอมที่วิศวะจุฬาละก้ออาจได้ยินประโยคต่อท้ายว่า "ช่วยหันหลังให้ดูด้วยคับ" รวมทั้งถ้าไม่ยอมมองสบตาตรงๆก้ออาจโดนว่าด้วยว่า "ช่วยมองหน้าตรงๆด้วยคับ" แล้วถ้าเขาชอบใครเป็นพิเศษ จะถูกกล่าวหาว่าแต่งกายผิดะเบียบ เพืื่อตรวจสอบต่อไป -หมาที่วิศวะ นาม"หมาอ้วน" เข้าเรียนมากกว่านิสิตหลายๆคนในคณะด้วยซ้ำ เช่น แคล เคมี แมททีเรียล ดรออิ้ง -งานรับน้องก้าวใหม่ เคยมีบ้านที่มีชื่อเป็นคำผวน เช่น บ้านเพชรกันยา แต่ต่อมาอาจารย์เริ่มผวนคำเป็น เลยไม่มีชื่อบ้านแบบนี้ให้เห็กอีก ธรรมเนียมประเพณี -นิสิตใหม่ตอนเข้ามาต้องถวายบังคมพระรูปสองรัชกาล ตอนเรียนจบรับปริญญาก็ต้องถวายบังคมลา เช่นเดียวกัน -คืนวันคริสมาสและวันวาเลนไทน์ ที่หอในจะมีการตะโกนบอกรักกันข้ามหอ อิอิ (จริงๆมันเป็นช่วงสอบแหละ เครียดๆกันเลยหาเรื่องตะโกน) -“รับน้องก้าวใหม่” คือการรับน้องรวมของมหาลัย เป็นการรับน้องขำๆ ไม่มีว้าก ไม่มีโหด พี่ๆเอาใจน้องๆราวกับพระเจ้า มีพี่บ้าน มีน้องบ้าน ส่วนใหญ่แต่ละบ้านสังกัดชมรม เช่น บ้านโซ้ยตี๋หลีหมวย คือชมรมสลัม บ้านโรงเรียนก็มี เช่น บ้านยิ้ม บ้านแรง ความเชื่อ -เวลาต้องการพึ่งบารมีของเสด็จพ่อร.๕ ให้ขอ ไม่ให้บน (มีรุ่นพี่บอกมาอีกที)คอนเฟิร์มว่าขลังจริง อิฉันเคยขอเรื่องเรียนมาแล้ว (แต่ไม่ได้แก้ด้วยการวิ่งนะ แก้ด้วยการถวายดอกไม้แทน)แต่ห้ามขอหวยนะ(นิสิตคนไหนจะเล่นหวยฟะน่ะ) เคยมีเคยขอเสด็จพ่อว่า หากได้เกรดเกิน 2.5 จะวิ่งรอบสนามหน้าพระรูปสิบรอบ สรุปปลายภาคมา ได้เกรด 2.51 -คณะวิศวะฯ มีลานเรียกว่าลานเกียร์ หากใครสะดุดลานเกียร์จะมีแฟนเป็นเด็กวิศวะฯ (สาวบัญชีบางกลุ่มชอบไปเดินสะดุด)ส่วนอักษรมีความเชื่อว่า หากสาวคนไหนสะดุดพรมแดง (ตึกเทวาลัย) จะได้แฟนเป็น artsmen -นิสิตป.ตรีที่กำลังศึกษาอยู่ห้ามถ่ายรูปเดี่ียวคู่กับพญานาค ที่หัวบันได ตึกมหาจุฬาฯ(ตึกที่สวยๆ ตรงข้ามหอประชุมจุฬาฯ) ไม่งั้นจะโดนรีไทร์ (แต่ถ้ารูปหมู่ก็ไม่เป็นไรนะ) -รัฐศาสตร์จุฬา ถ้าเข้าตึกหนึ่งหน้าคณะ ห้ามเดินเข้าประตูกลาง ไม่งั้นจะเรียนไม่จบ -ห้ามลงบันไดกลางคณะครุศาสตร์(ฝั่งที่ตรงข้ามกับสาธิตและนิเทศ)ไม่งั้นไม่จบ -มีความเชื่อว่า หากได้ลอยกระทงกับคนที่ชอบที่สระน้ำ "จุฬาฯ" หน้าหอประชุม จะได้เป็นแฟนกัน แต่ถ้าเป็นแฟนกันอยู่แล้ว ดันมาลอย... ก็จะเลิกกัน -ห้ามมองเต่าตรงบ่อน้ำที่อยู่แถวๆ โรงอาหารตึกจุล ไม่งั้นเอนท์ไม่ติด (เจอทุกวันที่ข้ามไปฝั่งนู้นเลยแหะ) -ถ้าเห็นเต่าที่บ่อน้ำตรงหน้าตึก physics จะไม่ตกmean วิชา physics.. แต่ถ้าตะพาบก็... ห้ามเหยียบคำว่า สถ. ที่ประตูกลางถาปัด ไม่งั้นเรียนไม่จบ (แล้วไปไว้ที่พื้นทำไมหล่ะพ่อคุณ) เรื่องลึกลับ -ตึกอักษรเก่าจัดเลยเรื่องผีเยอะ ส่งผลให้ต้องทุบทิ้งไปแล้ว -สมัยยังใช้การตึก 2 นิเทศได้เต็มที่นั้น มีเรื่องเล่าว่า หลังสามทุ่มไปถ้าเดินลงบันไดเวียนจะลงมาเจอชั้นสามประมาณสี่ครั้ง (บรื๋อออ) แล้วตึกนิเทศก็โดนทุบอีกเช่นกัน ของกิน -ที่จุฬาฯก็มี KFC เหมือนกันนะ ย่อมาจาก Karusart Food Center ของคณะครุศาสตร์ มีอาหารให้เลือกมากมาย แต่จุดเด่นไม่ได้อยู่ที่โรงอาหารแต่เป็นซุ้มโค้กแถวนั้นมากกว่า มีน้ำปั่นเลื่องชื่อ อิอิ -โรงอาหารวิดวะมีก๊วยเตี๊ยวอร่อยทั้งสองร้าน -โรงอาหารอักษรย้ายมาติดกับโรงอาหารวิดวะแล้ว ส่งผลให้โรงอาหารวิดวะโล่งขึ้นทันตาเห็น -อาหารตามสั่งร้านเจ๊กุ้งที่โรงอาหารวิศวะอร่อยมาก (อะไรก็ได้แต่ขอให้ใส่ปลาทอด) โรงอาหารคณะทันตะหรูมาก คุณภาพสยามแต่ราคาเป็นกันเอง โรงอาหารคณะวิศวะเป็นโรงอาหารที่เล็กมากเมื่อเทียบกับขนาดคณะและจำนวนคน จะทำให้นิสิตต้องไปกินโรงอาหารข้างเคียง เช่น อักษร หรือไม่ก็ รัฐศาสตร์ แต่บางทีก็ไปด้วยสาเหตุอื่น เช่น ส่องสาว(See-food) โรงอาหารวิศวะสมัยก่อนเปิดโล่ง ปัจจุบันมีกรงล้อม เนื่องจากเหตุการณ์นกพิราบบุกกินอาหารที่คนวางไว้บนโต้ะ(ในช่วงไปซื้อน้ำ)และที่เก็บจาน คาดว่าเหตุการณ์เกิดจากนักศึกษาวางจัดไม่มีอะไรทำซื้อถั่วเลี้ยงนก เลี้ยงจนบินมากินถั่วในมือได้ จนมันไม่กลัวคนเริ่มบุกโรงอาหารในกาลต่อมา -อาหารที่อร่อยที่สุดของโรงอาหาร ตึกจุลฯ คือ "น้ำเปล่า"--> แล้วอาหารโรงอื่นมันอร่อยนักหรือไง -หาก"ตัน"เรื่องของกินจริงๆ นิสิตจุฬาสามารถ ใช้บริการร้าน"จีฉ่อย"ได้ เพราะจีฉ่อยมีทุกอย่างจริงๆ งะ -จีฉ่อยกะร้านโจ๊กสามย่านไม่ถูกกัน ฉะนั้น อย่าเอ่ยชื่อจีฉ่อย ให้เจ๊ร้านโจ๊กได้ยิน ไม่เชื่อลองดูดิ่ ร้านโจ๊กจะปิดร้านตอน 7.30 ตอนเช้า เปิด5โมงเย็น อร่อยด้วย... บทความที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้จีฉ่อยลงหนังสือพิมพ์ไทยโพสแทบลอยด์แล้ว ดังใหญ่ละ (X-cite ไทยโพสต์ฉบับ22-23กันยายน หิหิ) แต่คุณยังสามารถหาซื้อทุกอย่างจริงๆ ย้ำว่าทุกอย่าง อยากได้ตั๋วเครื่องบิน จีฉ่อยก็ขายให้ได้ เปียโนยังมีขายเลย (ไม่รู้แกไปเอามาจากไหนงะ!)รถยนต์แกเอามาขายให้ได้ ถ้าเราสั่ง --" ฮาร์ดดิสยังขายเลย ฮ่วย! เคยอ่านเจอในนิตยสารสายใย ของนิเทศฯ บอกว่าเคยมีคนอุตริไปสั่งซื้อกิโมโน วันรุ่งขึ้นแกเอามาขายให้ได้! จีฉ่อยขายทุกอย่างจริงๆ หัวข้อ: A Brief History of CU เริ่มหัวข้อโดย: alayas ที่ 03 พฤศจิกายน 2550, 14:37:47 (n_n) Cellkrub,
Oh... what an introduction you have given us!!!! THank you for the information. I agree with most of your intro BUT only 1 thing I am hesitating to 100 %accept it. That is the โรงอาหารนิติ ซึ่งเด็กนิติอย่างพี่นะ ยินดีรับว่าเป็นของนิติ แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากเพราะเกรงใจนิเทศเค้า พี่จบมา 10 กว่าปีแล้ว ..... หรือเค้าตกลงกันได้แล้วว่าเป็นของนิติอย่างเป็นทางการ งั้นพี่จะได้อ้างสิทธิตามประมวลกฏหมายแพ่งและพานิชซะเลยดีมั้ย P Yas Law 2526 หัวข้อ: A Brief History of CU เริ่มหัวข้อโดย: โจ้2543 ที่ 03 พฤศจิกายน 2550, 18:00:52 จีฉ่อยมีใน วิกิพีเดีย แล้วนะครับ
ลองเข้าไปดูดิ อิอิ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%89%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2 หัวข้อ: A Brief History of CU เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 03 พฤศจิกายน 2550, 18:03:53 Nong Cell,
thank you very much for this lovely text...it is quite long and I have to get out of the house untill evening..let me work it out when I come back. p.nn หัวข้อ: A Brief History of CU เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 พฤศจิกายน 2550, 22:04:48 :lol: น้อง cell คะ
น่ารักมากเลยค่ะ พี่แอ๊ะรีบ copy ไว้เลยค่ะ :D ขอบคุณมากค่ะ :D หัวข้อ: A Brief History of CU เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 04 พฤศจิกายน 2550, 02:22:30 Nong Cell,
after come back home I still can not finish!!let me continue it tomorrow..the question is...will I finish it before I get into the airplane to Reunion party?? hmm... I need to dream about your text. p.nn หัวข้อ: A Brief History of CU เริ่มหัวข้อโดย: webmaster ที่ 05 พฤศจิกายน 2550, 09:14:41 Oh....เพิ่งได้อ่าน
แม๊ อักษรชอบถาปัตย์ แต่ถ้าปัตย์ชอบกันเอง ฮือๆ ไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงง ฟังแล้ว ดูอักษรจะรันทดชอบกล รักเข้าข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่ง โฮๆๆๆๆๆ แต่บันไดแดงตึก 1 อักษร นี่ก็เป็นที่วิตกของสาวอักษรนะจะบอกให้ เวลาเดินเราจะกระมิดกระเมี้ยนเต็มที่ เพื่อมิให้ตก เพราะก็รู้ๆ กันอยู่ โต๊ะ ArtsMen มีคนนับจำนวนนิ้วในมือยังครบเลยอ่ะ...แฮ่.... หัวข้อ: A Brief History of CU เริ่มหัวข้อโดย: Junphen Juntana ที่ 07 พฤศจิกายน 2550, 18:24:44 บางอย่าง ใกล้ตัว แต่บางที ก็ไม่รู้
หนุกดีๆ ชอบๆ ขอบคุณมากๆ ค่า ที่มาแบ่งปัน เย้ๆ :D (http://www.li.mahidol.ac.th/library/thainatis/imgs/chula.png) |