Cmadong Chula

 
ฮอกไกโด เกาะแสนสวยทางตอนเหนือของญี่ปุ่นในยามฤดูใบไม้ผลิ อากาศแสนเย็นสบาย. ใบไม้ดอกไม้เริ่มผลิ หิมะที่ปกคลุมเกาะทั้งเกาะเริ่มละลายเป็นสายน้ำตกที่สวยงาม  ฮิเดโกะและทาเคชิก็เริ่มออกเดินทางจากสยามประเทศสู่เกาะใหญ่  ด้วยหัวใจเริงร่า ....โปรดติดตาม รีวิว ใจเย็นนี้ไปเรื่อยๆนะคะ emo48:)

...รอดูดอกพริมโรสอยู่จ้ะ...อ้อย...

...การโพสท์ยังมีปัญหาเหรอ...

มาปูเสื่อรอครับ....

		อ้างถึง			ข้อความของ Leam เมื่อ 05 กรกฎาคม 2554, 00:17:32
	ขออนุญาตตามชมด้วยคนครับ......พี่อ้อย

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 04 กรกฎาคม 2554, 22:31:50
	มาปูเสื่อรอครับ....

		อ้างถึง			ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 04 กรกฎาคม 2554, 09:08:54
	...รอดูดอกพริมโรสอยู่จ้ะ...อ้อย... ...การโพสท์ยังมีปัญหาเหรอ...

รอ..สะกดว่า รอ......รอ...ไปเหอะ...

รอได้ครับ.....  

เดิมฮอกไกโด ถูกเรียกว่า เอโซะ  ปัจจุบันฮอกไกโดเป็นชื่อจังหวัดและเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศญี่ปุ่น รองจากเกาะฮอนชู แต่มีอุโมงค์ใต้ทะเลเซกังเชื่อมถึงกัน นอกจากนี้ฮอกไกโดยังเป็นเขตการปกครอง ซึ่งประกอบไปด้วยหมู่เกาะ โดยมีเกาะฮอกไกโดเป็นศูนย์กลาง และเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเขต คือซัปโปโร
(http://1.bp.blogspot.com/_W_2q7jnzSOI/TA3aGzS-_vI/AAAAAAAADdc/g32sj1uSyus/s1600/hokkaido.jpg)
ฮอกไกโดเป็นเขตที่มีคนอาศัยอยู่เบาบาง มีประชากรทั้งเกาะประมาณ 5 ล้านคน คนส่วนใหญ่ย้ายมาจากเกาะฮอนชูเมื่อราว 100 กว่าปีก่อน โดยเป็นแหล่งที่ซามูไรแพ้สงครามจึงต้องหนีมาอยู่ที่เกาะนี้ ความจริงแล้วที่เกาะนี้มีชนพื้นเมืองอาศัยอยู่มานานแล้ว คือ ชาวไอนุ แต่โดนกลืนชาติไป ปัจจุบันหลงเหลืออยู่น้อยมากและมีชีวิตเช่นชาวญี่ปุ่นทั่วไป

ฮอกไกโดเป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉลี่ยจะมีหิมะท่วมอยู่ทั่วไปประมาณ 4-6 เดือน ในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิ -20 ถึง 5 องศา ในหน้าร้อนจะมีอุณหภูมิ 15 ถึง 30 องศาเซลเซียส ในด้านภูมิประเทศเป็นภูเขาเป็นส่วนใหญ่ ในบริเวณที่ราบลุ่มก็จะเป็นเมืองที่คนอาศัย โดยจะหนาแน่นในบริเวณเมืองซัปโปโร ซึ่งมีอากาศอุ่นกว่าบริเวณต่าง ๆ ของเกาะ แต่ก็ยังหนาวกว่า เมืองอื่น ๆ ในเกาะฮอนชู
(http://cache.virtualtourist.com/1578311-Rainbow_field-Hokkaido.jpg)

ฮอกไกโดเป็นเกาะที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ชาวญี่ปุ่นจากส่วนอื่น ๆ ของประเทศจึงนิยมมาตากอากาศหรือย้ายมาอยู่อาศัยและทำงานเป็นจำนวนมาก

ฮอกไกโดมีชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีฤดูร้อนที่เย็นสบาย จึงเป็นที่นิยมสำหรับ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจากส่วนอื่น ๆ ของประเทศ ส่วนในฤดูหนาวก็จะมีหิมะมากและหนาวนานอยู่ประมาณครึ่งปี (ปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนเมษายน) แม้อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 22°C (72°F) แต่เดือนมกราคมจะมีช่วงอุณหภูมิต่ำมากประมาณ -12°C ถึง     -4°C (10°F ถึง 25°F)   ในระหว่างฤดูหนาว ทะเล Okhotsk ทางตะวันออกของเกาะจะกลายเป็นน้ำแข็งทำให้การเดินทางทางทะเลแถบน้ำเป็นไปได้ยาก ต้องใช้เรือตัดน้ำแข็ง ส่วนการประมงก็ต้องรอจนกว่าจะสิ้นฤดูหนาว

ฮอกไกโดเป็นเขตเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เป็นแหล่ง ผลิตข้าวญี่ปุ่น อาหารทะเลชั้นดีและผักผลไม้คุณภาพสูง    ฮอกไกโดยังเป็นแหล่งของอุตสาหกรรมเบาบางประเภท เช่น เยื่อกระดาษ เบียร์ซัปโปโร และผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบหลักของรายได้ของเขตนี้ ทั้งฤดูร้อนที่เย็นสบายเป็นที่ชมธรรมชาติ ป่าเขาที่สวยงาม และในฤดูหนาวก็มีเทศกาลหิมะซัปโปโรที่เลื่องชื่อเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นเองและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก และสถานที่เล่นสกีก็มีอยู่มากมายเช่นเดียวกับบ่อน้ำร้อนที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ   ทำรายได้มหาศาลให้แก่ผู้คนในฮอกไกโด

ฮอกไกโด เกาะใหญ่อันดับ 2 ใน 4 เกาะหลักของประเทศญี่ปุ่นรองจากเกาะฮอนชู มีฐานะเป็นถึงหนึ่งจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น คำว่า “โด” หมายถึงจังหวัด  ฮอกไกโดมีอาณาเขตกว้างใหญ่คิดเป็นร้อยละ 22 ของพื้นที่ทั้งหมดของหมู่เกาะญี่ปุ่นเลยทีเดียว แต่จำนวนประชากรนั้นกลับมีเพียงน้อยนิดเ ประมาณ 5.7 ล้านคน ของประชากรญี่ปุ่นทั่วประเทศราว 127 ล้านคน

ดั้งเดิมคือชาวไอนุ  ซึ่งมี วัฒนธรรมและการแต่งกายคล้ายกับชนพื้นเมืองอินเดียนแดงในอเมริกา  ดังนั้นชื่อสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะนี้บางแห่งจึงเป็นคำในภาษาไอนุ เช่น ซัปโปโร ซึ่งมีความหมายว่า เมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่าน
ชาวไอนุโบราณ       ชาวไอนุถูกคนญี่ปุ่นทางใต้กลืนเมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมา หลังการปฏิวัติเมจิ เมื่อรัฐบาลกลางได้ส่งคนมาปกครองแล้วตั้งรัฐบาลฮอกไกโดขึ้นที่เมืองท่าฮาโกดาเตะ เมื่อปี พ.ศ. 2412 พร้อมกับการติดต่อค้าขายและรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา ไม่นานก็ตั้งรัฐบาลท้องถิ่นขึ้นอีกแห่งที่เมืองซัปโปโรในปี พ.ศ. 2414
ปัจจุบันเราจึงพบเห็นขาวไอนุ ที่หมู่บ้านจำลองที่สร้างขึ้นมาเพือให้นักท่องเที่ยว จากต่างถิ่นได้ดูและศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาได้จากพิพิธภัณฑ์และการแสดงโชว์  ชาวไอนุทุกวันนี้มี ชีวิตความเป็นอยู่ใช้ภาษาเช่นดึยวกับชาวญี่ปุ่นทั่วไปแล้ว

 คือว่า ฮิเดโกะต้องขออภัยท่านผู้ชมทุกท่านนะฮ้า  ที่เคลื่อนไหวอย่างช้ามาก  เพราะมัวแต่ลุ้นหุ้นที่ขึ้นอย่างถล่มทลาย มืดฟ้ามัวดินต้อนรับรัฐบาลใหม่    คราวนี้ เป็นอันว่า  ทุกอย่างพร้อม  ที่จะพาทุกท่านเหิรฟ้าไปกะ ทาเคชิ ยังดินแดนที่สวยงาม ดอกไม้แสนสวย  ชมดวงดาวพร้อมกันกับทางช้างเผือก  กินอาหารญี่ปุ่นที่ทั้งสดและหวานอร่อย  ออกไปชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเหนือสุดของเกาะ ที่สวยงามสุดจะพรรณา ได้แล้วค่ะ...

    คราวนี้  ได้เลือกบริษัททัวร์ที่จะพาไปเที่ยว คือ โปรเอเชีย ที่เขามีความเชี่ยวชาญเรื่องฮอกไกโด  และ ได้ทำการติดต่อกับองค์การท่องเที่ยวของเกาะนี้เพื่อจะได้พาลูกทัวร์จากเมืองไทย ไปเจาะลึกเกาะฮอกไกโดในเวลา 6 วัน  ซึ่ง มีความรู้สึกว่า  โชคดีที่ได้เลือกมากับทัวร์นี้ เพราะเวลาของทาเคชิมีน้อยในการลาพักร้อน  ความจริงการเดินทางแบบ ตะวัน ที่ขับรถไปเที่ยวก็เป็นประสพการ์ณที่ดี แต่ต้องมีเวลามาก และทำการบ้านมาให้พร้อม  ดังนั้น  ในทริปนี้จึง ครบเครื่องทั้งเรื่อง สถานที่ท่องเที่ยว  อาหาร  ที่พัก  และไกด์ที่มากด้วยความสามารถ 

ค่ำคืนของวันที่24 บรรดาทีมทั้งหลายก็มาปะกันที่ สุวรรณภูมิแอร์พอร์ต มองหาจุดนัดพบด้วยใจระทึก การดำเนินการเชคอินนานพอสมควร แต่ไม่ช้าเราทั้ง 19ชีวิตก็พร้อมที่จะออกเดินทางด้วยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ มุ่งหน้าสู่ปักกิ่ง เพื่อเปลี่ยนเครื่องจากปักกิ่งสู่เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ครั้งนี้ฮิเดโกะแลกเงินจากดอลล่าอเมริกัน มาเป็น เย็นญี่ปุ่น ในราคา 37.89 ( ซูเปอร์ริช). พอสมควรเพื่อไม่ได้มีปัญหาในการเหยียบอ่างกะปิที่ฮอกไกโด. เอาละ.  

      บรรยากาศบนเครื่องบินก็ SO. AND. SOตาม class. ของสายการบิน. จะเอาอะไรกันนักหนา ไม่ว่า  รถแอร์ ปอ1 หรือ บขส. สีส้ม ก็ไปได้ทั้งนั้นแหล่ะน่า.....แกล้งทำเป็นหลับๆ เดี๋ยวก็ถึงนิ...!!

      ไม่นานเราก็มองเห็นเกาะฮอกไกโด ที่กว้างใหญ่ เขียวครึ้ม รายล้อมด้วยน้ำทะเลสีเขียวสดใส. ทาเคชิตื่นเต้นกับฝูงปลาที่ดำผุดดำว่าย มากมายนอกฝั่ง เต็มไปหมด และไม่ช้า ไชน่าแอร์ก็ร่อนนำเราลงสู่สนามบินชิโตเสะ เข้าสู่เมืองซัปโปโร.  อากาศเวลานั้นเย็นสบายท้องฟ้าแจ่มใส. และโชคดีที่ตลอดทั้งทริปของเรา ไม่เจอฝนเลย.....ทราบมาว่า ไกด์ของเราขนเอาตะไคร้จากมวงไทยไปเป็นกอเลย    

		อ้างถึง			ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 08 กรกฎาคม 2554, 18:43:03
	คราวนี้  ได้เลือกบริษัททัวร์ที่จะพาไปเที่ยว คือ โปรเอเชีย ที่เขามีความเชี่ยวชาญเรื่องฮอกไกโด  และ ได้ทำการติดต่อกับองค์การท่องเที่ยวของเกาะนี้เพื่อจะได้พาลูกทัวร์จากเมืองไทย ไปเจาะลึกเกาะฮอกไกโดในเวลา 6 วัน  ซึ่ง มีความรู้สึกว่า  โชคดีที่ได้เลือกมากับทัวร์นี้ เพราะเวลาของทาเคชิมีน้อยในการลาพักร้อน  ความจริงการเดินทางแบบ ตะวัน ที่ขับรถไปเที่ยวก็เป็นประสพการ์ณที่ดี แต่ต้องมีเวลามาก และทำการบ้านมาให้พร้อม  ดังนั้น  ในทริปนี้จึง ครบเครื่องทั้งเรื่อง สถานที่ท่องเที่ยว  อาหาร  ที่พัก  และไกด์ที่มากด้วยความสามารถ  (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd276383_566356_3138374_1386339photo.jpg)

...รูปแรกนี้น่าจะเป็นเมืองที่ได้รับอารยธรรมมาจากประเทศที่มีอิทธิพลต่อการติดต่อค้าขายกับญี่ปุ่นใช่มั้ย...อ้อย...

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd576879_3055917_2749379_5690351photo.jpg)

เจ้าหนูน้อยคนนี้น่ารักมาก  เด็กญี่ปุ่นหน้าตา แก้มแดง น่ารัก ทั้งนั้นเลย[/center]

ตู่ที่รัก

                รูปนี้ถ่ายหน้าอาคารรัฐสภาของเมืองซับโปโรจ๊ะ  ในเมืองใหญ่เขามักจะสร้างสิ่งก่อสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป คงเป็นความนิยมของคนในยุคนั้น  แต่ก็โอเค เข้ากับบรรยากาศและภูมิอากาศจ๊ะ

 หลังจากผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง  แล้วพวกเรา 19 ชีวิต  และมีครอบครัว จาก โอซากา มาสมทบอีก 5 คน ก็พากันขึ้นรถบัส  45 ที่นั่ง  ออกเดินทางมุ่งสู่เมืองโจเคซัง   เพื่อเข้าชมฟาร์มสตรอเบอรี่ ของคุณลุงซาซากิกัน  บนรถบัสไกด์ได้แจกฮอดดอกชิ้นเบ้อเริ่มของมอสเบอร์เกอร์ แก่ลูกทัวร์เพื่อบรรเทาความหิวก่อนที่ เราจะมุ่งหน้าไปชิมสตรอเบอร์รี่ กับต้น แบบไม่อั้น  คราวนี้เราจะได้ชิมสตรอเบอรี่ญี่ปุ่นถึงที่กันเลย   ในบางเดือนเขาก็จะมีเชอรี่หวานอร่อยให้กินด้วย

  ทาเคชิกำลังกำลังลุยเข้าไปกินสตรอเบอรี่จากต้นเลยทีเดียว  โดยเขาปลูกเอาไว้ในเรือนเพาะชำ สุกแดงเรี่ยกับพื้นแผ่นพลาสติค  ทางฟาร์มเขามีกรรไกรเล็กๆ และ ถุงพลาสติดให้เอาไว้ใส่ขั้วหลังจากหม่ำแล้ว    คราวนี้ ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตา ตัด หม่ำ  อย่างเอร็ดอร่อย  ได้ยินเสียง ไม่ขาดสายว่า  หวานจริงๆ  อร่อยจริง  ลูกไม่ใหญ่แต่หวานอร่อยมาก...

อิ่มอร่อยกับสตรอเบอรี่บุพเฟ่ต์  แล้วบรรยากาศเริ่มรื่นรมย์  พวกเรา 23 ชีวิต ก็มุ่งหน้าสู่เมืองโอตารุ เมืองชายทะเลที่มีฮวงจุ้ยดีเยี่ยม และมีอดีตเป็นเมืองที่มีความเรจิญรุ่งเรืองในการค้าขายเพราะเป็นท่าจอดเรือที่ดี   เรามุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่มีร้านอาหารชาวประมงที่ มีคุณลุงเป็นคนออกไปหาปลาและคุณป้าเปิดร้านอาหารเล็กๆน่ารัก  ขอบอกเลยว่า  ร้านอาหารร้านนี้  อาหารอร่อยมาก  โดยเฉพาะไข่หอยเม่นที่ทานกับข้าวสวยญี่ปุ่น เคล้าโชยุและวาซาบิเบาๆ  ....อร่อยไร้เทียมทานจริงๆ  ทานกับซุปหอยเชลล์    และแถมด้วยหอยโฮตาเตะ  หรือหอยเชลล์ย่างเตาถ่าน  ตัวเท่าฝ่ามือ..สุโก้ยยยยย

สวัสดี พี่อ้อย14
พี่ทาเคชิ สบายดี บ่ ครับ

สมชาย น้องอ๊อดที่รัก

                                พี่ทาเคชิสบายดี  ตอนนี้อยู่ที่ลาว  อาทิตย์หน้าไป เกาะไหหลำ  อาทิตย์ต่อไปไปตีกอล์ฟที่คุนหมิง  เป็นไง  เดินทางตาหลอด...พี่ทาเคชิชอบทริปฮอกไกโดมาก  เพราะไปเรื่อยๆ สบายๆ ไม่กระหืดกระหอบเหมือน ทัวร์ยุโรป  มีทุกอย่างโดยเฉพาะตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิ  อากาศสบาย  อาหารอร่อย  ไม่ต้องกางแผนที่ ....อิอิ

                                ส่วนฮิเดโกะ นั้น เอนจอยมาก  ตามอ่านต่อไปนะ จะมีตอนออกไปชมดาว  มองเห็นทางช้างเผือกพราวพร่างเต็มท้องฟ้า  ด้วยยยยยยยย....เอาไว้ สักวัน พวกเราเจอกันอีกนะ

เย็นแรกทีเกาะออกไกโด  หลังจากที่อิ่มอร่อยแทบจะเรออกมาเป็นบทกวีไฮกุแล้ว  เราก็มุ่งหน้ากลับสู่เมืองโอตารุ เพื่อเข้าที่พักที่โรงแรม Authent  Otaru  และก่อนที่จะไปพักผ่อนก็ไปชมคลองโอตารุอันเลื่องชื่อ  ในทิวทัศน์ของฤดูใบไม้ผลิ


ส่วนภาพข้างล่างนี้  เอามาให้ชมเวลาทั้งเมืองปกคลุมด้วยหิมะ  สวยไปอีกแบบ เลือกเอา   แต่ขนาดวันที่ไป ยังหนาวพอแรงแล้วค่ะ...

อรุณสวัสดิ์ เช้าแรกที่เมืองโอตารุ  ขอให้ช่วยกันทายหน่อยว่า  สว่างขนาดนี้  แดดออกขนาดนี้ น่าจะเป็นเวลากี่โมง  ติ๊ก ต่อก....ติ๊กต่อก.....ทายว่าไง
เจ้ดโมงเช้า..ไม่ใช่  แปดโมงเช้า  ไม่ช่าย    อ้า....เฉลยค่ะ  เวลานี้ในภาพเป็นเวลา ตีสาม ของเมืองโอตารุ ฮอกไกโดค่ะ   ชาวขอนแก่นเลยงงมาก  น่าจะเป็นเพราะเขาอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือเลยสว่างมากและเร็วกว่ากว่าทางเรา สยามประเทศ...

ต่อไปฝากรูปทุ่งหญ้าพิงค์มอสมาให้ตู่ชม   วันที่ไป  พิงค์มอสโรยราแล้ว ดอกลาเวนเดอร์สีม่วงเริ่มผลิ  คิดว่า กลางเดือนกค.นี้ ทุ่งลาเวนเดอร์คงสะพรั่งเป็นสีม่วงพรึ่บทั้งเนินเขา...

...ดอกไม้สวยมากจ้ะ...อ้อย...

...แล้วตอนที่ไปเจอซากุระมั้ย...

...สงสัยโรยไปแล้วนะ...เพราะซากุระจะออกเดือน...มีนา-เมษา...นี่นา...

...ชุดกิโมโนนั่น...ตอนอาบน้ำแร่รึเปล่า...สวยดีค่ะ...

ตู่ที่รัก

          ไม่มีซากุระแล้วน่อ มีแต่ดอกไม้อย่างอื่น มากมาย  ที่สวมนั่นคือยูกาตะ ที่เขาแจกให้สวมใส่ไปร่วมงานตอนกลางคืน ไม่ใช่ใส่ไปอาบน้ำแร่ หรือออนเซนหรอก. ออนเซนนั่นต้องไม่ใส่อะไรเลยต่างหาก อิอิ.....

              พี่อ้อยขา  ฮิเดโกะเธอชงชากับจัดดอกไม้เก่งไหมค่ะ ตามมาดูแต่รูปคู่กับทาคาชิวิวเมืองทีหลังค่ะ

		อ้างถึง			ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 09 กรกฎาคม 2554, 10:25:29
	(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd576879_3055917_2749379_5690351photo.jpg) เจ้าหนูน้อยคนนี้น่ารักมาก  เด็กญี่ปุ่นหน้าตา แก้มแดง น่ารัก ทั้งนั้นเลย[/center]

สวัสดีีค่ะพี่อ้อย พี่ตู่  พี่สมชาย สวยมากค่ะพี่อ้อย หนูน้อยคนนี้แก้มแดงและแก้มย้ยมากน่าฟัดจังค่ะ
สตรอเบอรี่สดน่าหม่ำค่ะ

		อ้างถึง			ข้อความของ Dtoy16 เมื่อ 09 กรกฎาคม 2554, 21:57:02
	พี่อ้อยขา  ฮิเดโกะเธอชงชากับจัดดอกไม้เก่งไหมค่ะ ตามมาดูแต่รูปคู่กับทาคาชิวิวเมืองทีหลังค่ะ

น้องต้อยขา

             ไม่ได้สิคะ ฮิเดโกะ ต้องจัดดอกไม้แบบอิเคบานะได้สิคะ. ส่วนชงชานั้น กินชาเขียวแบบซองไปก่อนแล้วกัน อิอิ....

 

		อ้างถึง
	อ้างถึง ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 09 กรกฎาคม 2554, 12:20:16 สมชาย น้องอ๊อดที่รัก                                 พี่ทาเคชิสบายดี  ตอนนี้อยู่ที่ลาว  อาทิตย์หน้าไป เกาะไหหลำ  อาทิตย์ต่อไปไปตีกอล์ฟที่คุนหมิง  เป็นไง  เดินทางตาหลอด...พี่ทาเคชิชอบทริปฮอกไกโดมาก  เพราะไปเรื่อยๆ สบายๆ ไม่กระหืดกระหอบเหมือน ทัวร์ยุโรป  มีทุกอย่างโดยเฉพาะตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิ  อากาศสบาย  อาหารอร่อย  ไม่ต้องกางแผนที่ ....อิอิ                                 ส่วนฮิเดโกะ นั้น เอนจอยมาก  ตามอ่านต่อไปนะ จะมีตอนออกไปชมดาว  มองเห็นทางช้างเผือกพราวพร่างเต็มท้องฟ้า  ด้วยยยยยยยย....เอาไว้ สักวัน พวกเราเจอกันอีกนะ (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd690191_8955948_111399_7998084photo.jpg)

โอ้โฮ....วัยใส เหมือนเด็กอายุ สามสิบ emo6::))

เห็นโปรแกรมเดินทางแล้วเหนื่อยแทน พี่ทาเคชิ จริงๆ emo5:(

		อ้างถึง			ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 10 กรกฎาคม 2554, 06:55:24
	อ้างถึง ข้อความของ Dtoy16 เมื่อ 09 กรกฎาคม 2554, 21:57:02               พี่อ้อยขา  ฮิเดโกะเธอชงชากับจัดดอกไม้เก่งไหมค่ะ ตามมาดูแต่รูปคู่กับทาคาชิวิวเมืองทีหลังค่ะ น้องต้อยขา              ไม่ได้สิคะ ฮิเดโกะ ต้องจัดดอกไม้แบบอิเคบานะได้สิคะ. ส่วนชงชานั้น กินชาเขียวแบบซองไปก่อนแล้วกัน อิอิ....

      พี่อ้อย  ยี่ห้อโออิชิหรือระมิงค์ เล่งหงส์ พี่อ้อยทันสมัยจริงค่ะ ต้อยน่ะนึกชื่ออิเคบานะตั้งนานนน
                                    คระนี้ไปชมความงามของฮอกไกโดก่อน ธรรมชาติช่วยให้เที่ยวได้เยอะจริงตีสามสว่างแล้ว
                                 คุณสมชาย น้องอ๊อด คู่เหมือนญี่ปุ่น สบายดีนะคะ

ตามพี่อ้อยมาเที่ยวค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))

สวัสดี วันจันทร์เช้า น้องอ้อย  น้องต้อย  น้องสมชาย  เพื่อนตู่  หนูตุ้ย   น้องตะวัน   และอีกหลายท่านที่หลงเข้ามาอ่าน  วันนี้ขอมอบดอกไม้สวยๆเป้นกำลังใจแก่ทุกคนนะคะ

เช้าของวันที่ 26 มิถุนายน  เรายังทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม  และพร้อมที่จะออกไปชมเมืองโอตารุกันแล้ว  ตามมาค่ะ ...ก็พากันออกมาชมเมืองโอตารุเป็นเมืองท่าที่มีบรรยากาศโรแมนติค การออกแบบบ้านเมืองของเขาออกเป็นสไตล์ตะวันตกเนื่องจากอดีตเมืองโอตารุนี้ได้เป็นเมืองท่าทำการค้าขายกับยุโรปและอเมริกาเหนือ.จนได้ชื่อว่า Wall street of the East  ถนนที่เราจะไปเที่ยวกันนี้ชื่อว่าถนนสายโรแมนติก ที่มีร้านค้ารายเรียงกันไปยาวนับกิโล ขายสินค้าน่ารักสลับกับร้านขนมOtao ทึ่แสนโด่งดังด้วยรดชาดนิ่มนวลอุดมไปด้วยครีมนมเนย กินกะกาแฟอร่อยสุดจะพรรณนา

ที่พลาดไม่ได้น่าจะเป็นไอศกรีมห้าสีสวยงาม. ทาเคชิเลยจัดการเสีย1โคน มีภาพให้ชมทั้งBefore. และAfter ยืนยันถึงความอร่อย ไอติมแสนอร่อยนี้ ไม่หวานมาก แต่หอมกลิ่นผลไม้ผสมกับความนุ่มนวลของครีม  ฮื้อ...

สุดทางก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีที่มีคู่กับเมืองนี้มานาน ทำกล่องดนตรีรูปแบบต่าง เสียงเพลงกรุ๋งกริ๋งๆทำเอาหัวใจแทบละลายยากที่จะเดินผ่านไปได้  เขาออกแบบกล่องดนตรีเป็นรูปต่าง เช่นนางฟ้า  แมวคิตตี้  สาระพัน ที่สุดยอดก้เป็นกล่องดนตรีรูปข้าวปั้นหน้าต่างๆ  เหมือนจนไม่คิดว่าเป็นกล่องดนตรี..



นี่ก็แสนสวย และราคาก็ต้องไม่ธรรมดาด้วยค่ะ..

     ได้ชอปปิ้งละลายเงินเย็นพอหายอืดท้องแล้วชาวคณะก็เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน ณ หมู่บ้านราเมงซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์การค้าของเมือง. เขาได้เอาร้านราเมงที่มีชื่อเสียงของเกาะฮอกไกโดถึง 8 ร้านให้เราเข้าไปชิม ทางทัวร์ได้แจกเงินให้สมาชิกคนละ2000เย็น เพื่อเลือกรับประทานตามชอบ.   ทาเคชิก็พุ่งไปเอาคิวจองราเมงข้าวโพดที่โด่งดัง และก็ได้รับประทานสมใจนึก ราเมงข้าวโพดอร่อยนุ่มนวลด้วยน้ำซุปกลมกล่อม หมูหั่นบาง ราเมงเหนียวนุ่ม มีข้าวโพดลวกพอสุกราดเป็นทอปปิ้ง อร่อยจริงๆ และพอมีเงินเหลือ500เย็น เราก็สั่งเกี๊ยวซ่ามากินด้วย แป้งของเขาบาง มีไส้ผักผสมหมูสับ ทอดจนเกรียมกรอบ อร่อยโฮกกก.....

อิ่มอร่อย...จนฝันถึงรายการทีวีแชมเปี้ยนที่มาเชียร์ให้กินราเมงอร่อยๆ  เราก็เคลื่อนทัพผ่านเมืองต่างๆ ดูวิวทิวทัศน์พร้อมกับเล่นเกมส์ซ่อนตาดำกัน  บ้างไม่หลับก็ชมวิวอันสวยงามของฤดูใบไม้ผลิข้างทางอย่างเพลิดเพลิน..ทาเคชิก็ไปเฝ้าพระอินทร์ซะตั้งแต่ล้อหมุนแล้วอ่ะค่ะ

ไม่นานหลังอาหารกลางวัน เราไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เกล็ดหิมะ  หลายท่านคงสงสัยว่า มันเป็นหยังน๊อ..ขอเฉลยว่า  เกาะฮอกไกโดนี้ในฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นหิมะก็โปรยปรายมาครอบคลุมเกาะ  คงจะมีใครบางคนที่ว่างมาก  พินิจพิเคราะห์ว่า ไอ้เจ้าหิมะนี้เอามาส่องกล้องดูแล้วจะเห็นผลึกเป็นรูปทรงต่างๆ หลายร้อยแบบ  ก็เลยมาสร้างปราสาทสูงพอประมาณ ทำเป็นห้องที่มีน้ำแข็งปกคลุม และมีบางส่วนก็เป็นรูปผลึกหิมะแบบต่างๆ  เราชาวไทยหน้าดำก็ได้แต่งงงวย  ว่า  ถ้าหมายความถึงคำว่าพิพิธภัณฑ์ของไทยแลนด์เรา   ก็จะอลังการงานสร้างด้วยบุษบก  เครื่องทองคำ  ม่ายงั้นก็...ของโบราณชนิดที่ว่า  โบราณสุดๆแบบบ้านเชียง   แต่พอมาเห็น พิพิธภัณฑ์เกล็ดหิมะ ก็คิดถึง ขนมน้ำแข็งไอซ์มอนสเตอร์ไปนู่น...

  
    

  ว่าแล้ว  ก็คิดไปเรื่อยเจี้อยว่า อ๊ะ..อย่างนั้น  เราน่าจะทำพิพิธภัณฑ์ส้มตำ  แสดงถึงความเป็นมาของอาหารประจำชาติของเราตั้งตะ  มะละกอสายพันธ์ต่างๆ  ปลาร้าที่ผ่านการหมักแบบธรรมชาติ (มีหนอนเริงร่าพอประมาณ)  และกระบวนท่าพิสดารในการดีไซน์ครกไซด์ต่างๆ  ...หือออ   คงน่าสนุกและหลากหลายด้วยสีสรรมัลติมีเดีย  ยิ่งกว่า  หิมะสีซีดๆขาวๆ  เป็นแน่... emo20:)):)    

     ทางเหนือเราก็มีพิพิธภัณฑ์ขนมจีนน้ำเงี้ยว   แกงฮังเล....  พอๆๆ ฮิเดโกะ...หยุด..หยุด    

อิ่มอร่อยกะราเมงก็เดินทางต่อไปยังเมืองเอซาชิ เพื่อไปพักแรมยังโรงแรมที่อยู่กลางป่าเขาและธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ระหว่างทางเราได้แวะร้านโอทอปของท้องถิ่นที่อยู่กลางทาง เขาทำขนมโมจิไส้ต่างๆสดๆ อร่อยมากมีใส้ฟักทอง ถั่วแดงชีส. สารพัดให้ช่วยกันอุดหนุน. บ่ายคล้อยเราก็มุ่งหน้าสู่หมุ่บ้านเอซาชิซึ่งมีประวัติเก่าแก่จากการขุดพบซากโบราณวัตถุ เป็นเมืองต่อเนื่องมาจากยุคเอโดะปัจจุบันเป็นเมืองเล็กๆริมทะเลโอโควต์ก. ชาวเมืองส่วนใหญ่เป็นชาวประมงมีท่าสำหรับขึ้นอาหารทะเลสดๆ โดยเฉพาะปูขนฮอกไกโดที่ได้ชื่อว่า อร่อยที่สุด จนสามารถรับประทานแบบซาชิมิได้

โรงแรมที่เราเข้าพักมีชื่อว่า Utanobori Green Park เป็นโรงแรมขนาดกลาง แต่ที่ยิ่งใหญ่คือ การออกมาต้อนรับชาวคณะ เป็นแถวยืนไหว้พร้อมกับกล่าวสวัสดีทุกคนน่ารักมาก เหล่าพนักงาน้อยใหญ่กรูออกมาช่วยกันรับกระเป๋า และในพริบตาเดียวทุกอย่างก็เรียบร้อย ดังเนรมิตเขาน่ารักมากแสดงออกด้วยกายและใจที่จะต้อนรับพวกเรา ขนาดป้ายบอกสิ่งต่างๆก็พิมพ์ออกมาเป็นภาษาไทย เล่นเอาได้ใจพวกเราไปเต็มร้อย. ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่เอาชุดยูกาตะมาให้ชาวทัวร์เพื่อแปลงร่างร่วมกิจกรรมในค่ำคืนนี้

ในค่ำคืนของวันที่สองนี้กลับกลายเป็นว่า เป็นอภิอมตะมหากิจกรรมของทริปนี้ที่ไม่มีวันลืมเลย เพราะพอเปลี่ยนชุดมาใส่ยูกาตะกันทั้งกลุ่มพวกเราก็แปลงร่างกลายเป็นชาวญี่ปุ่นไปหมดไม่ว่า น้องพิมพ์ น้องเฟิร์ส  น้องเซน อากง ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานครึกครื้น ไม่นานเราก็เข้าไปนั่งเตรียมทำกิจกรรมทำข้าวปั้น ที่สนุกสนานปั้นจนได้สิน่า. และชมการแล่ปลาแซลมอนโดยพ่อครัวของทางโรงแรมเพื่อจะมาย่างให้เรากินในค่ำคืนนี้ ต่อมามีการเรียนการจัดดอกไม้มินิคอร์สแบบอิเคบานะ โดยมีคุณครูที่เป็นแม่บ้านของหมู่บ้าน....มาสอนโดยใช้ดอกไม้ที่อยู่ตามป่าแถวนั้น ทุกคนสนุกสนานในการจัด โปรดสังเกตุทาเคชิที่มีความมุ่งมั่นเป็นพิเศษ

       การทานซูชิที่วัตถุดิบคือ ปลาที่สดมาก แต่อาจจะเค็มด้วยมือของเรากันบ้างนี่เป็นเพียงออร์เดิร์ฟนะคะ ยัง ยัง สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร เราก็ย้ายไปยังร้านอาหารของรีสอร์ทที่มีลานกว้างมีร้านอาหารแบบบาร์บีคิวข้างใน เขาก็จัดมีการต้อนรับอย่างสนุกสนานเช่นการตีกลองญี่ปุ่น การกินนางาชิโซเมนที่ไหลตามน้ำจากกระบอกไม้ไผ่ แคะทาโกะยากิ ตำโมจิกินเอง ดื่มสาเกบ๊วยผสมโซดา.และเครื่องดื่มอื่น ๆ และไปร่ายรำตามจังหวะเพลงพื้นเมืองของเขาด้วยกัน บรรยากาศอบอุ่นสนุกสนาน โดยเฉพาะฮิเดโกะที่ซัดสาเกบ๊วยผสมโซดาหลายแก้วค่อนข้างจะร่าเริงเป็นพิเศษอ่ะ......รายการอาหารที่เขานำมาปรนเปรอก็ชั้นยอดมี บาร์บิคิวทะเล หอยเชลล์ย่าง เนื้อวากิวชั้นยอด. และปูขนตัวมหึมา ปลาแซลมอนย่าง นอกจากนั้นเขาก็แนมมาด้วยผักหวานกรอบเช่นพริก ข้าวโพดหวานอร่อย ปิ้งบนเตา กินไม่หวาดไม่ไหว. ข้างนอกก็ยังมีซุ้มขนมครกญี่ปุ่น ชานมไข่มุก ผลไม้ปั่น โอย........อะไรกันเนี้ย. พอเขาสาธิตการทำขนมโมจิเสร็จก็มาส่งให้กิน สงสารกระเพาะเป็นที่สุด จนต้องขยับขยายโอบิ(ผ้าคาดเอว). ออกมาอีกหลายนิ้ว ปิดท้ายรายการก็มีเค้กสีสวยมีน้ำตาลทำเหมือนหิมะคลุมน่าทานมา แต่หมดปัญญาลำเลียงเข้าไปทางปากแล้วค่ะ...ท่านผู้อ่าน

              โปรแกรมต่อไปคือการไปส่องสัตว์ในป่า คือว่า หมู่บ้านนี้ยังอุดมสมบูรณ์และเป็นธรรมชาติมาก ในยามค่ำคืนก็ยังจะมีสัตว์เช่นหมาจิ้งจอกฮอกไกโด กวาง. หมี ออกมาวิ่งเล่นกันตามป่าและท้องทุ่ง เราผู้อิ่มในอาหารสุดๆและขอลุยก็ไปส่องสัตว์โดยนั่งไปบนรถบัสมีคนฉายไฟฉายแบบมหึมาไปตามทาง สักพักก็มีกวาง วิ่งไปๆมาๆ หมาจิ้งจอกฮอกไกโดบ้าง    สนุกสนานเกรียวกราว จนไปถึงจุดหนึ่ง ที่เขาบอกให้ลงไปชมดาว โอโฮ....แม่จ้าวท้องฟ้านั้น พราวพร่างด้วยดวงดาวนับแสนนับหมื่นดวง. งดงามสว่างไสว มีดาวต่างๆเช่นดาวหมีใหญ่. ดาวหมวยเล็ก....เอ๊ย ไม่ช่าย.!. แถมในกลุ่มดวงดาวนับแสนนั้นก็เห็นทางช้างเผือกขนาดมหึมาพาดจากขอบฟ้าหนึ่งไปยังขอบฟ้าหนึ่ง สวยงามจนไม่อยากจากไปเลย

    รายการสุดท้ายทางไกด์บอกว่า มีโปรแกรมชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกแต่ ต้องออกไปชมตอนตีสองครึ่ง บรรดาผู้กล้าก็เริ่มลดจำนวนลงจนได้สายเลือดบูชิโดราวแปดคนที่อาสาไปร่วมชมอย่างห้าวหาญ   แน่นอนในกลุ่มนั้นย่อมมีทาเคชิ กะฮิเดโกะจอมพลัง ผู้ไม่ระย่อต่อความง่วงไปด้วยแน่นอนนนนน......


ไกลโพ้นสุดขอบฟ้าข้างหน้ามองเห็นที่ทะเลOkhostsk ซึ่งถ้าอากาศดีจะเห็นเกาะซัคคาริน ของประเทศรัสเซียแต่ไกลในบางวัน  เช้านั้นช่างเงียบสงบ     เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งชนหินผาเบาๆ     กุหลาบฮอกไกโด และดอกไม้ป่าสีสวยสดใสผลิดอกงดงาม อากาศหนาวเย็น แต่พวกเราเหล่าผู้กล้าทั้ง  8  ก็จับตามองผ่านเลนส์กล้องนิ่งเงียบรอพระอาทิตย์อุทัยในเช้าตีสามของวันที่ 26 มิย.ไม่นานทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป

 

		อ้างถึง
	[quote              ไม่ได้สิคะ ฮิเดโกะ ต้องจัดดอกไม้แบบอิเคบานะได้สิคะ. ส่วนชงชานั้น กินชาเขียวแบบซองไปก่อนแล้วกัน อิอิ....

      พี่อ้อย  ยี่ห้อโออิชิหรือระมิงค์ เล่งหงส์ พี่อ้อยทันสมัยจริงค่ะ ต้อยน่ะนึกชื่ออิเคบานะตั้งนานนน
                                    คระนี้ไปชมความงามของฮอกไกโดก่อน ธรรมชาติช่วยให้เที่ยวได้เยอะจริงตีสามสว่างแล้ว
                                 คุณสมชาย น้องอ๊อด คู่เหมือนญี่ปุ่น สบายดีนะคะ
[/quote][/quote]


สบายดีครับ พี่ต้อย
บอกคุณธวัช หลายหนแล้ว ว่าจะไปเยี่ยมที่ กระบี่ ยังไม่ได้ไปสักที
พี่ต้อยและคุณธวัช สบายดีนะครับ

                ยินดีจ้า  ถ้ามาตอน(อีก12เดือนข้างหน้า)จะเป็นsoft 0peningตึกหลังใหม่คุณธวัชเค้า
                พี่อ้อยที่รัก  มาทีเดียวเป็นชุดเลย คนตามเที่ยว พูดได้คำเดียวว่า Wow!
                                เหมือนจากินของอร่อย ต้องกินแบบละเลียด
                                อ่านก็เหมือนกันค่ะ  ช้าช้า ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าค่ะ

...อ้อย...ดอกไม้และพระอาทิตย์สวยมากจ้ะ...

...ตามดูรูปต่อนะจ๊ะ...

อรุณสวัสดิ์  ทุกท่าน ตั้งแต่น้องแหลม  เพื่อนตู่  น้องน้ำอ้อย   น้องต้อย  น้องสมชาย  หนูจ๋า  หมอหนูจิ๊บ  ไกด์ตุ้ย  และผู้อ่านทุกท่านวันนี้อากาศสดใสมาก เพราะฝนตกเมื่อวานนี้   วันนี้เอารูปดอกไม้ที่ทาเคชิ ถ่ายมาให้ชมกัน  เป็นการสวัสดีตอนเช้าจ๊ะ...

Ohiyo Kosaimase. อรุณสวัสดิ์ในยามเช้า ที่ 27 มิถุนายน  2554   อาหารเช้าที่โรงแรมนี้ก็เหมือนทุกที่        แต่ที่ไม่เหมือนคือ มีไข่ปลาแซลมอน ตัวเมื่อวานที่เขาแล่ให้ชมแต่มีไข่เต็มท้องพ่อครัวจึงนำมาเก็บไว้และนำมาเสริฟตอนเช้า         เล่นเอาฮิเดโกะซัดเอาซัดเอาอย่างอร่อยกะข้าวสวยญี่ปุ่นเหยาะโชยุ สังเกตุว่า ไม่มีใครในกรุ๊ปทัวร์เขาสนใจ มีแต่ฮิเดโกะกะไืกด์คนเก่งเท่านั้นที่กินอย่างเอาจริงเอาจัง เล่นเอาทาเคชิทำหน้ากลัดกลุ้มในความตะกละของฮิเดโกะ.....

ไม่ช้าเราก็อำลาจากโรงแรมที่น่ารักออกมามุ่งหน้าไปชม  Ice Pavillion. ซึ่งอยุ่บริเวณเดียวกับร้านอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ ไปที่นี่แล้วอดชื่นชมกับชาวญี่ปุ่นที่พยายามสร้างสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆคอยสำหรับคนของเขาและต่างชาติ. ไอซ์พาวิลเลียนเป็นสถานที่สร้างให้เหมือนกับเราไปเข้าถ้ำน้ำแข็งที่อุณหภูมิถึง-20 องศา. เวลาเข้าไปเขาก็มีชุดโค้ทกันหนาวไห้ใส่ เดินเข้าไปก็หนาวเหมือนอยู่ขั้วโลกจริงๆ


พอออกมา  เขาก็มีร้านเครื่องดื่มเล็กๆน่ารัก  เสริฟ์ชาร้อนๆหอมอร่อย ควันกรุ่น ทันที ...เรื่องอย่างนี้  Service Mind  อย่างนี้ต้องขอคารวะญี่ปุ่นเขา...

หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยังยังอุทยานแห่งชาติไดเซทซึซัง หุบผาเทนนินเคียว เมืองเทนนินเคียว     คำว่า  เทนนินเคียวนี้แปลว่า  ทางผ่านของนางฟ้า(เพราะจังเลย)    ซึ่งมีอุทยานที่กว้างใหญ่สวยงามและใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น อยู่ในพื้นที่ตอนกลางของเกาะฮอกไกโดครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด2,309ตารางกิโลเมตรตั้งอยู่ใจกลางขุนเขาซึ่งเขียวครึ้มเต็มไปด้วยต้นไม้  ระหว่างทางมีลำธารไหลจากน้ำตกตลอดข้างทาง บรรยากาศสดชื่นจริงๆ

 คณะทัวร์ก็เดินชมป่าเขาลำเนาไพรกันเรื่อยๆอย่างมีความสุขจุดมุ่งหมายของเราอยู่ที่ น้ำตกHagoromoอยู่ห่างออกไปราว500เมตร น้ำตกนี้มีชื่อแปลเป็นภาษาไทยอย่างไพเราะเพราะพริ้งว่า น้ำตกอาภรณ์นางฟ้า  ซึ่งน้ำตกนี้ได้ถูกจัดให้อยู่หนึ่งในร้อยน้ำตกสวยของโลกเนื่องจากกระแสน้ำยามตกกระทบหน้าผาด้วยความสูงกว่า 270 เมตร แล้วแตกกระจายแยกสายออกไปประดุจดังปีกของนางฟ้า

               emo42 ภาพนี้ไม่มีคำบรรยาย  ไม่มีเหตุผล  ไม่มีกาลเวลา .......โปรด เตรียมน้ำไว้ดับดวงตาที่ร้อนผ่าวของท่าน   emo42


                           อิอิ...

...ยินดีด้วยจ้ะ...ที่เห็นเพื่อนมีความสุข...อิอิ...

                พี่ฮิเดโกะขา  ว่าทุกรูปที่ผ่านมา ดูดาว พระอาทิตย์ น้ำตกสวยซึ้งแล้วยังสู้รูปคู่ที่ต่อจากภาพน้ำตก  สวีทจังค่ะ

       พี่อ้อยค่ะ ต้อยว่าแนวคิดการจัดกิจกรรมของโรงแรมที่เมืองเอซากิ ชื่อUtanobori Green Parkเค้าออกแบบกิจกรรมให้ผู้มาพักได้สัมผัสตั้งแต่การทานdinner สาธิตทำอาหาร ขนม จัดดอกไม้อะไรต่างๆมันสอดคล้องกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น พนักงานของเค้าเทรนมาดีแล้วแบ่งเป็นแผนก  พี่อ้อยค่ะทัวร์เมืองไทยชื่ออะไรค่ะ ชอบโปรแกรมเค้าเผื่อวันหน้ามีโอกาสจะได้ติดต่อไป       

อรุณสวัสดิ์  ทุกท่าน  ที่ติดตามชม  วันนี้นำเสนอด้วยดอกไม้สีสวยเพื่อต้อนรับเช้าวันพฤหัส ที่  14  กค.  วันนี้วันชาติฝรั่งเศส  เลยมอบดอกไม้แก่ทุกท่าน   จาก ฮอกไกโด

                             
จัดหนักต่อไปเลยค่ะ  ขอให้ทุกท่าน  มีชีวิตเหมือนดังเพลงที่มีชื่อว่า  La  vie  en  rose.นะคะ

ต้อยจ๊ะ

                ลองเข้าไปดูเวบไซด์นี้นะ  www.proasiatravel.com นะจ๊ะ 

จากอุทยานแห่งชาติไดเซทซึซัง หุบผาเทนนินเคียว   ที่เขียวขจีด้วยพรรณไม้  เราก็เดินทางไปยังเชิงเขาอาซาฮีดาเกะเพื่อขึ้นเคเบิ้ลคาร์ชมยอดเขาที่ยังมีหิมะปกคลุมสวยงาม   ใครหนอจะเชื่อว่า  เมื่อตอนบ่ายเรายังเดินชมนกชมไม้  ป่าไม้ น้ำตกลำธาร  สวีทวิ๊ดวิ่วอยู๋  ไม่ถึงชั่วโมงเราจะได้ขึ้นไปอยู่เชิงเขา  ที่มีชื่อว่า Asahidake ที่มียอดเขาที่สูงจากเชิงเขาถึง    1700 เมตร   และ มีRopeway หรือ เคเบิลค่าร์  นำเราขึ้นไปชมความงดงามของเทอกเขาที่บางส่วนยังปกคลุมด้วยหิมะ กว้างใหญ่ไพศาล คงจะมีเพียงเกาะนี้เกาะเดียวละมัง.....


วิวที่เห็นเรามองลงไปจากโรบเวย์ มองลงไปข้างล่างหิมะบางส่วนเริ่มละลาย เป็นสายน้ำ ไกด์บอกว่าในยามฤดูใบไม้เปลี่ยนสี คือราวเดือน พฤศจิกา วิวเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นสีสรรหลากหลายของบรรดาต้นไม้งดงามเหมือนภาพวาด หวังว่า สักวันคงจะได้มาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่อีกสักครั้ง.....ว่าแล้ว ทาเคชิก็เริ่มค้อน...

		อ้างถึง			ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 14 กรกฎาคม 2554, 08:07:24
	อรุณสวัสดิ์  ทุกท่าน  ที่ติดตามชม  วันนี้นำเสนอด้วยดอกไม้สีสวยเพื่อต้อนรับเช้าวันพฤหัส ที่  14  กค.  วันนี้วันชาติฝรั่งเศส  เลยมอบดอกไม้แก่ทุกท่าน   จาก ฮอกไกโด                               (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd673856_7260382_8114416_5578040photo.jpg) จัดหนักต่อไปเลยค่ะ  ขอให้ทุกท่าน  มีชีวิตเหมือนดังเพลงที่มีชื่อว่า  La  vie  en  rose.นะคะ (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd496852_9889505_1819482_8176458photo.jpg)

...ดอกไม้หน้าร้อนของฮ๊อกไคโด...สวยมากๆจ้ะ...ชอบ...

  อรุณสวัสดิ์ทุกท่าน  วันนี้วันสำคัญของทางศาสนาพุทธ  โปรดกลับไปคลิกกระทู้ของพี่สิงห์และไปทำบุญที่วัดเสียดีๆ....เช้าวันนี้อากาศดีมากที่ขอนแก่น  ฝนตกปรอยๆ  ต้นไม้ชุ่มชื่นด้วยน้ำฝน  ฮิเดโกะออกไปขี่จักรยานรอบบึงแก่นนครด้วยหวังว่าจะขจัดไขมันส่วนเกิน ที่ได้มาจากทริปฮอกไกโดที่ผ่านมา   แต่ก็พยายามอยู่น่ะค่ะ  ยากจริ๊ง....  วันนี้เลยนำดอกไม้สวยๆมาให้แก่ทุกท่าน

ราชรถเลื่อน Ropeway ก็พาเราขึ้นไปถึงยอดเขา Asahidake  พวกเราพากันออกไปท่องหิมะโดยต้องเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าเดินหิมะ  ไม่งั้นจะลื่นอันตราย  เราเดินมาจนถึงจุดชมวิวที่เรียกว่า  จุดชมวิวพันล้าน  มองไปรอบๆสวยงามมาก   และมองไปทางสุดขอบฟ้านู้น  อาทิตย์กำลังอัสดงท้องฟ้ากลับกลายเป็นสีส้มอ่อนๆ  ตัดกับภูผาที่ซับซ้อนมีหิมะยาวเป็นเส้นราวกับลำธารสีขาว  สวยมากค่ะ...

สิ้นสุดของโปรแกรมวันนี้เราก็เข้าที่พักชื่อว่า  Daisetsu Grand Hotel       ซึ่งเป็นโรงแรมที่แต่งแบบสไตล์ญี่ปุ่น  เขามาจัดที่นอนเป็นฟูกนุ่มสบายนอนกับเสื่อและในค่ำคืนนี้แหละ   ฮิเดโกะ จะไปออนเซน  ได้ยินไหม....ออนเซน ...ออนเซน ทาเคชิก็จะไปด้วย....สู้เขานะ ทาเคชิ !!!

		อ้างถึง			ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 15 กรกฎาคม 2554, 07:05:28
	ราชรถเลื่อน Ropeway ก็พาเราขึ้นไปถึงยอดเขา Asahidake  พวกเราพากันออกไปท่องหิมะโดยต้องเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าเดินหิมะ  ไม่งั้นจะลื่นอันตราย  เราเดินมาจนถึงจุดชมวิวที่เรียกว่า  จุดชมวิวพันล้าน  มองไปรอบๆสวยงามมาก   และมองไปทางสุดขอบฟ้านู้น  อาทิตย์กำลังอัสดงท้องฟ้ากลับกลายเป็นสีส้มอ่อนๆ  ตัดกับภูผาที่ซับซ้อนมีหิมะยาวเป็นเส้นราวกับลำธารสีขาว  สวยมากค่ะ... (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd417342_2879570_870900_6592727photo.jpg) (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd679264_1922344_6226893_6642144photo.jpg) ล่างนี้ เป็นการถ่ายแบบพาโนรามา  ฝีมือทาเคชิค่ะ  (กล้องดีด้วยแหล่ะ)ลองคลิกดูนะคะ !!!! (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd272439_1549779_6534952_8773583photo.jpg)

...หิมะสวยมากค่ะ...

...ญี่ปุ่นตอนไปมีฝนตกด้วยเหรอ...เห็นพื้นเปียกที่หน้าโรงแรม...

ออนเซน  คำนี้ ถ้าให้อธิบายคือ สถานที่ที่เขาจัดแต่งให้มีการอาบน้ำแร่ที่อุณหภูมิร้อนจัด  โดยแยกชายหญิง  และต้องนุ่งลมห่มฟ้าลงไปแช่ในบ่อนรกนั่นพร้อมกับเพื่อนร่วมห้องออนเซน      โดยมีผ้าเช็ดตัวผืนน้อย เอาไว้ขัดถูตัวก่อนจะลงไปอาบน้ำ  ทางไกด์ก็ได้พรีเซนต์ด้วยความภาคภูมิใจว่า. ทุกโรงแรมในทริปของเราครั้งมี ทุกแห่งขอเชิญทุกท่านไปใช้บริการได้เลยทั้งคืน ร่างกายจะสดชื่นผิวพรรณเปล่งปลั่ง

                    emo29:P:แต่ ท่านผู้อ่านที่รัก ฮิเดโกะนั้นมาญี่ปุ่นได้สามครั้งสามคราแล้ว ได้มีความเพียรพยายามรวบรวมความใจกล้าหน้าทนที่จะไปออนเซนกี่ครั้งก็ไม่สำเร็จ คราวนี้ถึงคราต้องเผด็จศึกเพื่อประกาศนามหญิงไทยใจสู้ให้โลกรู้สักครา....สู้ว๊อยยยยยย...!
....มาอ่านที่เขาโพสต์ไว้เรื่องวิธีไปออนเซนแล้วขำดี เลย เอามาให้อ่าน

1) เดินใส่เสื้อผ้าเข้าไปมองหาตู้ล็อกเกอร์ของตัวเอง
2) หันซ้ายหันขวา (มีคนก็ได้ไม่มีคนก็ดี) ลงมือแก้ผ้าตัวเอง ไม่เหลือแม้แต่ชุดชั้นใน
3) เอาเสื้อผ้าของเราใส่ในล็อกเกอร์นั่น แล้วล็อคกุญแจ เอาลูกกุญแจคล้องมือไว้ อย่าให้หาย
4) ท่องพุทโธ พุทโธ...แล้วเดินไปอย่างมั่นใจ
5) เปิดประตูเข้าไปด่านแรก มองหาเก้าอี้อาบน้ำอันเล็กๆของตัวเอง แล้วไปนั่งแหมะที่หน้ากระจก
6) แชมพูซากุระ ครีมนวดผมชาเขียว ครีมอาบน้ำเถ้าภูเขาไฟ โฟมล้างหน้าแม่ไก่ ใช้ไปไม่ต้องยั้ง (ของฟรี ที่จริงรวมไปกับค่าโรงแรมแล้ว ก๊ากกกก)
7) อาบน้ำจนมั่นใจว่าเนื้อตัวสะอาดสะอ้านแล้วก็..ให้ลืมไปเลยว่าเราเป็นใคร มาจากไหน ฮ่าๆๆๆๆ แล้วเดินโทงๆไปลงกระทะทองแดง เอ๊ย!!ลงบ่อน้ำแร่ แต่ละบ่อสรรพคุณต่างกัน ถ้าอ่านตัวคันจิไม่ออกแนะนำให้ลงทุกบ่อ ฮ่าๆๆ
8) แช่แต่ละบ่อก็อย่าให้นานมาก เดี๋ยวจะเป็นลม ขึ้นมาเดินโฉบๆบ้าง นั่งข้างๆบ่อบ้าง โชว์ว่าสาวไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก ฮ่าๆๆๆๆๆ

สรุปผลจากการไปออนเซนครั้งแรกของฮิเดโกะ มีผลดังนี้
1. ร่างกายถูกต้มด้วยน้ำแร่เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ไขมันน่าจะละลายลงบ้างและที่หนาขึ้นคือใบหน้า ที่สามารถเดินไปๆมาๆในห้องออนเซน ในชุดนุ่งลมห่มฟ้าอย่างสบายอารมณ์ แถมยังคุยกับเพื่อนร่วมทัวร์อย่างสบายใจราวกับเป็นสวนสาธารณะ
 
2. สบายตัวขึ้น ความเหนื่อยจากการเดินฝ่าหิมะบนยอดเขาอาซาฮีดาเกะ มลายหายไปสิ้นในเวลาเช้า และหลับสนิทจนไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้ฝนตก
 
3.ต่อไปการออนเซนครั้งหน้า หลังจากได้มีการเริ่มต้นแล้ว ก็จะมีโครงการเข้าสู่อินเตอร์. โดยจะประกาศศักดาของหญิงไทย ให้รู้ว่า หญิงไทยวัยแรกรุ่นแรกแย้ม(ฝาโลง) สู้ตายยยยย…… emo28:win:
 

วันนี้น่าจะเป็นโปรแกรมไฮไลท์ของทริปฮอกไกโดนี้คือ การไปชมทุ่ง Patch work ที่เมืองเอบิและชื่นชมกับความงดงามของทุ่งดอกไม้ที่เมืองฟูราโน. ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฟาร์มโทมิตะที่คนที่รักในดอกไม้ สายลม ธรรมชาติ เมื่อได้ดูภาพที่เขามาอ่อยเหยื่อก็ตกลงใจมาฮอกไดโดเร็วพลัน....

อันว่าทุ่งPatch Work ของเมืองเอบินั้น เขาคงคิดถึงศิลปการเอาผ้าสวยๆมาเย็บต่อเข้าด้วยกัน เมื่อสำเร็จแล้วคลี่ออกมาก็จะได้ผ้าผืนใหม่ที่งดงาม แต่ในเบื้องหน้าของเรานี้คือทุ่งสวยๆที่เขามาต่อกันกว้างใหญ่ไพศาล สุดลูกลูกตาสลับสีสลับพืชพรรณงอกงามเพราะดินอันอุดมสมบูรณ์ด้วยลาวาของภูเขาไฟที่ทับถมมาหลายสร้อยหลายพันปีของเกาะแห่งนี้
 
ว่ากันว่า หนึ่งภาพแทนร้อยพันอักษร ดังนั้น ขอเชิญท่านชมความงดงามของมวลดอกไม้ของเกาะฮอกไกโดที่เอามาให้ชมกันอย่างเต็มที่เลยค่ะ......

นำเสนอด้วยภาพสุดท้ายของท้องทุ่งเอบิ. ก็นำเสนอด้วยภาพสำหรับ    Violet Lover เป็นพิเศษ. ภาพนี้ ฮิเดโกะกะทาเคชิกำลังฉลองงานแต่งงานเมือหลายสิบปีมาแล้วท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ อะโน...ตอนนั้นทั้งสองเรายังเป็นหนุ่มสาว ทาเคชิปลูกมันฝรั่งและข้าวโพดอยู่ที่เมืองนี้ และฮิเดโกะก็เป็นลูกจ้างอยู่ในร้านราเมง...หลังจากแต่งงานแล้ว หลายปีเราก็พากันย้ายมาที่เมืองไทย ปักหลักทำไร่อ้อยที่ขอนแก่นจนทุกวันนี้แหล่ะค่ะ. การไปครั้งนี้ของเราเหมือนการกลับไปดูรักเก่าที่บ้านเกิดอีกครั้งนึง.... emo6::))  เหมือนหนังเกาหลีไหมคะ....
 

สวัสดีน้องๆ  น้องแหลม  ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ   น้องป้อม  น้องน้ำอ้อย  น้องam  น้องต้อย    น้องป้อม 17 หนูจ๋า   หนูหมอจิ๊บ   เพื่อนตู่   และอีกหลายท่านที่พลัดหลงเข้ามาในกระทู้นี้  .....วันนี้  วันจันทร์  อากาศสดใสมาก  หลายท่านคงยังหยุดต่อ อีก 1 วัน  แต่บางท่านคงไปทำงานแล้ว  วันนี้เราจะไปเที่ยวโทมิตะฟาร์ม กันที่เมืองฟูราโนต่อ ค่ะ  เช้านี้ก็มีความสุขกะมวลดอกไม้ นานาพรรณ ด้วยกันนะคะ... emo49:)) 

จากท้องทุ่งPatch Work เราก็มุ่งหน้าไปสู่เมืองฟูราโน ที่มีโทบิตะฟาร์ม อันลือเลื่องที่ว่ากันว่า     คุณลุงโทมิตะท่านนี้ได้ไปเที่ยวที่ในฝรั่งเศสได้เห็นการปลูกดอกลาเวนเดอร์เพื่อนำมาทำเป็นเครื่องหอม ท่านจึงได้นำเมล็ดพันธ์มาลองปลูกในท้องทุ่งของเมืองฟูราโนปรากฎว่า งอกงามดีกว่า ที่ฝรั่งเศสเจ้าเก่าเสียอีก จากนั้นท่านเลยพัฒนาเป็นเป็นฟาร์มใหญ่โต ปลูกดอกไม้ตามฤดูกาล


               ฤดูกาล   ที่ผ่านมาคือดอกพิงค์มอส. แต่ตอนที่ฮิเดโกะไปนั้นลาเวนเดอร์เพิ่งเริ่มผลิ คาดว่า ปัจจุบันนี้คงม่วงเต็มท้องทุ่งไปหมดแล้ว มองเห็นหุ่นฟางน่ารัก ชื่อ GRASS ROLL CHAN เด่นเป็นสง่าท่ามกลางมวลดอกไม้

 

 emo43ขอเชิญเข้ามาชมดอกไม้กันได้แล้วค่ะ emo43

 emo26:Dหลังจากอิ่มอกอิ่มใจเที่ยวถ่ายรูปไปตามดงดอกไม้ สมมุติตัวเองเป็นนางเอกหนังมิวสิควีดิโอหรือนางเอกหนังแขกสักเรื่อง.  ดอกไม้แต่ละแปลงเขาก็มีชื่อเสียงเรียงนามไว้ให้รู้จัก     นอกจากนั้นทางฟาร์มได้มีการจัดห้องดอกไม้อบแห้งนานาชนิดสวยมากค่ะ      ฮิเดโกะก็เข้า แวะชมร้านผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากดอกลาเวนเดอร์ตั้งแต่  สบู่ สเปรย์น้ำหอม ดอกไม้แห้งอบร่ำ สารพัด      ก็เลยได้ไอติมลาเวนเดอร์มาลิ้มลอง อร่อยนุ่มหอมมากค่ะ  สีม่วงอ่อน  และที่สำคัญอย่าลืมโคโรเกะ  หรือมันฝรั่งบดปั้นเป็นแท่งพอคำ  ทอดร้อนๆ  อร่อยสุดๆเลยค่ะ

 emo6::))  มาเลยหนูหะยี...มาช้ายังดีกว่าไม่มานะ...อากาศที่ยุโรปสดใสดีไหม  ฝากบอกว่า  เศรษฐกิจอย่าเพิ่งล้มกันเน้อ..แมงเม่าที่ไทยแลนด์จะแย่เอา.....

		อ้างถึง			ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 19 กรกฎาคม 2554, 09:02:14
	emo6::))  มาเลยหนูหะยี...มาช้ายังดีกว่าไม่มานะ...อากาศที่ยุโรปสดใสดีไหม  ฝากบอกว่า  เศรษฐกิจอย่าเพิ่งล้มกันเน้อ..แมงเม่าที่ไทยแลนด์จะแย่เอา.....

ตอนนี้อากาศ superb เลยค่ะ .. กลางวันแดดดี มีลมแรงตลอด
หากไม่ออกไปให้แดดเผา ความเย็นที่สัมผัสผิวกายจะอยู่ระหว่าง 20-22 องศา
แต่หากออกไปโดนแดด จะขยับปรับมาเป็น 26-28 เกือบจะทันที

กลางคืนสบายมาก  ไม่ต้องเปิดแอร์ .. ก็หลับปุ๋ย     emo38

		อ้างถึง			ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 19 กรกฎาคม 2554, 07:55:52
	emo43ขอเชิญเข้ามาชมดอกไม้กันได้แล้วค่ะ emo43 (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd587927_9313404_2636978_4303217photo.jpg) (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd109916_4224969_6667412_7038892photo.jpg) (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd230234_9946734_4808564_3727403photo.jpg) (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd630608_2050592_345667_4394778photo.jpg) (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd659548_7421122_1824766_5034977photo.jpg) (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd793273_7078251_4686299_4890284photo.jpg) (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd414079_6559208_4193039_8834236photo.jpg)

...ดอกไม้เยอะดีจังเลย...อ้อย...ชอบมากๆจ้ะ...

...อยากไปเที่ยวบ้างจัง...

...แต่ออนเซ็นน่ะ...ตู่ไปครั้งแรกก็ลองเลยจ้ะ...

...แต่มารยาทดีค่ะ...ไม่ยอมมองใครเลย...

                  พี่อ้อยขา    ได้ออนเซนสมบรูณ์แบบแล้ว มาออนเซนที่กระบี่เค้าแจกผ้าถุงลายบาติกจะลงกี่สระก็ได้
                                  แต่ของแท้แบบสำนวนพี่อ้อย  หัวเราะจนคนข้างๆหันมาค้อน จริงน่ะพี่อ้อยpublishเลยค่ะ

อรุณสวัสดิ์  เช้าวันจันทร์ที่ 25 กค. สำหรับทุกท่าน   ขออภัยที่หายไปหลายวัน  เพราะไปเชียงใหม่ไปเที่ยวสวนสัตว์  ชมหมีแพนด้า  และวัดพระธาตุดอยสุเทพ   สำหรับวัดนี้มีความผูกพันมากในอดีต เพราะเคยไปพักกับคุณยายตลอดเวลาปิดเทอมเมื่อยามเด็ก การกลับไปก็เหมือนกันย้อนอดีตที่แสนสุข   วันนี้เลยขอเสนอภาพสวยๆให้เป็นการรับสัปดาห์แห่งความสดชื่นด้วยสายฝน

ใกล้เที่ยง  ชาวคณะเริ่มจะหิวเราจึงมุ่งหน้าออกจากโทมิตะฟาร์ม     ก็มุ่งหน้าไปทานอาหารกลางวันที่ตัวเมืองฟูราโน่ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆดูหงอยๆชอบกล แต่เมนูอาหารกลางวันนี้ไม่หงอยเลย. เป็นร้านเล็กๆ สองชั้น ไม่เห็นมีลูกค้าเลยสงสัยเพราะเลยเที่ยงวันไปเแล้วนานพอสมควร. กลุ่มทัวร์โปรเอเชียของเราก็กรูกันขึ้นไปเตรียมรับประทานอาหารอย่างเรียบร้อย เมนูวันนี้ทางไกด์ได้สอบถามว่า. ใครจะเลือกระหว่างข้าวหน้าปลาไหล. หรือข้าวหน้าเทมปุระ ตั้งแต่เช้าแล้ว

เริ่มรายการก็เป็นสลัดผักสีสรรน่ารับประทานมีสาหร่ายกรุบกรอบวางข้างบน อร่อยดีค่ะ. สักพักก็ตามด้วยข้าวหน้าปลาไหล. อร่อยที่สุดในจักรวาลทีเดียว ปลาไหลตัวอ้วนแล่เอาก้างออกหมักด้วยซอส นำไปย่างบนเตาด้วยไฟอ่อนๆ วางลงบนข้าวญี่ปุ่นเหนียวนุ่ม. .......OISHI DESUNE…..YUMMY….มาซอบซอโย…… Glas….Verre….อร่อยมั่กๆๆๆ

ตู่เพื่อนรัก

                    emo47 เวลาเพื่อนไปออนเซนแล้วไม่มองใครนั่น  เพื่อนจะเดินไปมาอย่างไร  มิชนเขาไปหมดหรือ..แต่ว่า  ในนั้นหมอกไอแห่งความร้อนมันก็น่าจะบดบังภาพต่างๆได้พอแรงแล้วนะ....

น้องต้อยขา

                     แน่นอนเลย  ตอนนี้ ไม่ว่าจะออนเซนที่ไหนในพิภพ จักรวาลนี้  พี่ฮิเดโกะก็พร้อมที่จะลุยไปได้แล้วววววว emo28:win:
น้องหะยีจ๋า

                   ดีใจที่เรื่องออนเซนทำให้หัวเราะออกมาได้....เรื่องนั้นน่ะ เกิดมาจากชัยชนะของความใจกล้าหน้าทนจริงๆน่ะ  เฮ้อ... emo29:P:

		อ้างถึง			ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 25 กรกฎาคม 2554, 08:28:39
	ตู่เพื่อนรัก                     emo47 เวลาเพื่อนไปออนเซนแล้วไม่มองใครนั่น  เพื่อนจะเดินไปมาอย่างไร  มิชนเขาไปหมดหรือ..แต่ว่า  ในนั้นหมอกไอแห่งความร้อนมันก็น่าจะบดบังภาพต่างๆได้พอแรงแล้วนะ.... น้องต้อยขา                      แน่นอนเลย  ตอนนี้ ไม่ว่าจะออนเซนที่ไหนในพิภพ จักรวาลนี้  พี่ฮิเดโกะก็พร้อมที่จะลุยไปได้แล้วววววว emo28:win: น้องหะยีจ๋า                    ดีใจที่เรื่องออนเซนทำให้หัวเราะออกมาได้....เรื่องนั้นน่ะ เกิดมาจากชัยชนะของความใจกล้าหน้าทนจริงๆน่ะ  เฮ้อ... emo29:P:

...ต้องมองแต่ทางเดิน...เพราะกลัวมันลื่นน่ะ...อ้อย...

...และถ้าตู่เกิดลื่นขึ้นมา...มิเป็นจุดสนใจแย่เลยเหรอ...

...อีกอย่างที่ไม่กล้ามองคนอื่น...เพราะเกิดสบตากันจริงๆ...กลัวเค้าจะค้อนตอบกลับมาค่ะ...

...ใจอยากให้มันมัวเยอะๆ...แต่มันใสเกิ๊น...

...อ้อย...ทำยังไงตู่และหมอประสิทธิ์ก็ทานปลาไหลและปลาซาบะไม่ได้จ้ะ...

...ให้รักญี่ปุ่นยังไงก็กินไม่ลง...หมอชอบทานสเต๊กปลากะพง...ส่วนตู่ทานปลาแซลมอนยัดไส้ครีมทอดพอได้ค่ะ...

บ่ายของวันที่ 28มิถุนายน หลังจากที่หนังท้องตึงประดุจกลองญี่ปุ่น คุณคุโรคาว่า ยอดสารถีของเราก็นำพวกเราทั้งหมด เดินทางห่างออกไปจากกลิ่นอายของชนบท ท้องทุ่ง ป่าเขาลำเนาไพร ข้ามสะพาน เลียบแม่น้ำสายยาว เมืองเล็กเมืองน้อยที่แสนน่ารักสงบเงียบ ของฮอกไกโด มุ่งหน้าสู่เมืองซับโปโร อันเป็นเมืองหลวงของเกาะนี้ ไกด์ตุ้ยคนเก่งของเราก็เล่าเรื่องต่างๆนานๆ. สาระความรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่น สร้างความสนุกสนานหัวเราะท้องคัดท้องแข็งกันทั้งคันรถ ทั้งเรื่องที่ทำทัวร์นำชาวญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวเมืองไทย. และเรื่องชวนสนุกสนานของชาวญี่ปุ่น สนุกมากจนแม้แต่ทาเคชิที่ทำท่าหลับยังอมยิ้มได้เลยก็แล้วกัน.....ซีน่า   ส่วนฮิเดโกะไม่ต้องพูดถึง หัวร่ออย่างสนุกสนาน  ทำให้การเดินทางที่ยาวนานสั้นลงทีเดียว

สนธยาเย็นย่ำ ความศิวิไลซ์ก็เริ่มปรากฏ ก่อนอื่นนั้นเราไปเที่ยวโรงงานชอคโกแลตที่หมู่บ้านอิชิยะ    ซึ่งเป็นแหล่งผลิตชอคโกแลตที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น    ชอตโกแลตที่ขึ้นชื่อที่สุด  คือ ชอคโกแลตสีขาวแด่คนรัก  (Shiroi  Koibito)    แต่ ฮิเดโกะทาเคชิ   เลยวัยหวานไปนานแสนนานแล้วเลยไม่ได้เข้าไปชม   ได้แต่เดินชื่นชมดอกกุหลาบนานาชนิด   สวยงามมาก  ที่เขาปลูกด้านนอกของโรงงาน

เรามีโปรแกรมหลายอย่างต้องทำ เช่นการไปกินบุฟเฟ่ต์ปูสามชนิด.การเข้าเชคอืนที่โรงแรม การไปชอปปิ้งในค่ำคืนนี้ เพราะดูเหมือนว่า พวกเราชาวไทยที่มีเลือดของนักชอปปิ้งพลุ่งพล่านในสายเลือด ไม่มีโอกาสได้รูดปึ้ดๆ หรือใช้เงินสกุลเยนหลายปึกที่เอามาจากแบงค่อกสักที เลยพาลรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวต้องออกไปชอปปิ้งละลายทรัพย์   เสียหน่อยไม่งั้น. เสียชื่อของชาวเราว่า เมื่อมาต่างประะทศต้อง. มีสามประการคือ ฉี่ ช็อป แชะ  ........นี่คือ  วิวของเมืองซับโปโร


เราตัดสินใจเข้าที่พักก่อน โรงแรมนี้ชื่อว่า  Mitsui Garden  Hotel  เป็นโรงแรมที่อยู่ใจกลางของเมืองรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อ และหลังจากนั้นไกด์ปล่อยให้เพวกราไปเดินเที่ยวสักชั่วโมงครึ่งและกลับมาจุดนัดพบที่ลอบบี้เพื่อเดินไปกินอาหารเย็นกัน       ฮิเดโกะมองดูร้านสรรพสินค้านานาชนิดที่รายล้อมแล้ว ต้องตัดใจเข้าไปที่ห้างไดมารู ที่ใกล้ที่สุดเพื่อเดินเที่ยวในเวลาอันน้อยนิด และได้แวะร้านคิโนะคูนิยะที่อยู่ถัดจากโรงแรมแค่สองสามช่วงตึก


สิ่งที่น่าเสียดายคือ  เวลาที่มีเพียงน้อยนิด  ในร้านหนังสือคิโนะคูนิยะ  ร้านใหญ่โตมาก มีผู้คนชาวญี่ปุ่นโดนเฉพาะหนุ่มสาวคนทำงาน เข้าไปอ่านหนังสือและซื้อมากมาย ราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับค่าครองชีพของเขา  และมีหลากหลายมากมายหลายชั้น  มีที่นั่งให้นั่งอ่านได้ตามอัธยาศัย  ฮิเดโกะ  ใช้เวลาอย่างรวดเร็ววิ่งไปหาหนังสือแต่งบ้านของชอบ ได้สามสี่เล่ม   แล้วก็วิ่งกลับมาให้ทันนัดที่โรงแรม  เอ้อ..เสียดาย

l

สวัสดีทุกท่าน  น้องแหลม  เพื่อนตู่  น้องต้อย  และอีกหลายท่านที่เข้ามาอ่าน 

ตู่ที่รัก
             ปลาไหลญี่ปุ่นนั้น  คิดว่า เราไปคิดถึงปลาไหลไทยที่ตัวเล็กๆยาวๆ  เหมือนงูนะ  แต่ว่าที่นี่เขาเลี้ยงกันเป็นฟาร์ม ปลาไหลก็อุดมสมบูรณ์เหมือนปลาดุกปลาช่อน  เนื้อหนานุ่ม  อร่อยดี  วันหน้าอย่าลืมลองสักหน่อยนะ... emo43

...ทำใจไม่ได้...อ้อย...จนกว่าจะเปลี่ยนชื่อ...จากปลาไหล...เป็นปลาสวรรค์...

 emo5:( ฮึ่ม.....!! น้องแหลม เลือกนายแบบอุ้มปลาไหลได้ดีนะ emo5:(

		อ้างถึง			ข้อความของ Leam เมื่อ 26 กรกฎาคม 2554, 16:42:49
	อ้างถึง ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 26 กรกฎาคม 2554, 07:01:54 สวัสดีทุกท่าน  น้องแหลม  เพื่อนตู่  น้องต้อย  และอีกหลายท่านที่เข้ามาอ่าน  ตู่ที่รัก              ปลาไหลญี่ปุ่นนั้น  คิดว่า เราไปคิดถึงปลาไหลไทยที่ตัวเล็กๆยาวๆ  เหมือนงูนะ  แต่ว่าที่นี่เขาเลี้ยงกันเป็นฟาร์ม ปลาไหลก็อุดมสมบูรณ์เหมือนปลาดุกปลาช่อน  เนื้อหนานุ่ม  อร่อยดี  วันหน้าอย่าลืมลองสักหน่อยนะ... emo43     " ปลาไหลญี่ปุ่น หรือปลาไหลหู อร่อยครับ....ผมรับประกัน " (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd431519_1673401_6977292_8900583photo.jpg)

emo5:

                          emo19:((: เบรคอารมณ์ดังเอี๊ยดเลย..คุณน้องแหลม    แต่ก็ขำดีค่ะ  ขออนุญาตใช้พื้นตรงนี้ชมเรื่องที่พี่อ้อยเขียนบ้างนะคะ  เรื่องสนุกชวนอ่านมากภาพสวยสุดใจ   คอยตามอ่านอยู่ตลอดเลยค่ะ     emo31:bye:

                                                    nok15

		อ้างถึง			ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 17 กรกฎาคม 2554, 09:37:14
	(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd679001_3958727_5981774_8645281photo.jpg) 1) เดินใส่เสื้อผ้าเข้าไปมองหาตู้ล็อกเกอร์ของตัวเอง 2) หันซ้ายหันขวา (มีคนก็ได้ไม่มีคนก็ดี) ลงมือแก้ผ้าตัวเอง ไม่เหลือแม้แต่ชุดชั้นใน 3) เอาเสื้อผ้าของเราใส่ในล็อกเกอร์นั่น แล้วล็อคกุญแจ เอาลูกกุญแจคล้องมือไว้ อย่าให้หาย 4) ท่องพุทโธ พุทโธ...แล้วเดินไปอย่างมั่นใจ 5) เปิดประตูเข้าไปด่านแรก มองหาเก้าอี้อาบน้ำอันเล็กๆของตัวเอง แล้วไปนั่งแหมะที่หน้ากระจก 6) แชมพูซากุระ ครีมนวดผมชาเขียว ครีมอาบน้ำเถ้าภูเขาไฟ โฟมล้างหน้าแม่ไก่ ใช้ไปไม่ต้องยั้ง (ของฟรี ที่จริงรวมไปกับค่าโรงแรมแล้ว ก๊ากกกก) 7) อาบน้ำจนมั่นใจว่าเนื้อตัวสะอาดสะอ้านแล้วก็..ให้ลืมไปเลยว่าเราเป็นใคร มาจากไหน ฮ่าๆๆๆๆ แล้วเดินโทงๆไปลงกระทะทองแดง เอ๊ย!!ลงบ่อน้ำแร่ แต่ละบ่อสรรพคุณต่างกัน ถ้าอ่านตัวคันจิไม่ออกแนะนำให้ลงทุกบ่อ ฮ่าๆๆ 8) แช่แต่ละบ่อก็อย่าให้นานมาก เดี๋ยวจะเป็นลม ขึ้นมาเดินโฉบๆบ้าง นั่งข้างๆบ่อบ้าง โชว์ว่าสาวไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก ฮ่าๆๆๆๆๆ สรุปผลจากการไปออนเซนครั้งแรกของฮิเดโกะ มีผลดังนี้ 1. ร่างกายถูกต้มด้วยน้ำแร่เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ไขมันน่าจะละลายลงบ้างและที่หนาขึ้นคือใบหน้า ที่สามารถเดินไปๆมาๆในห้องออนเซน ในชุดนุ่งลมห่มฟ้าอย่างสบายอารมณ์ แถมยังคุยกับเพื่อนร่วมทัวร์อย่างสบายใจราวกับเป็นสวนสาธารณะ   2. สบายตัวขึ้น ความเหนื่อยจากการเดินฝ่าหิมะบนยอดเขาอาซาฮีดาเกะ มลายหายไปสิ้นในเวลาเช้า และหลับสนิทจนไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้ฝนตก   3.ต่อไปการออนเซนครั้งหน้า หลังจากได้มีการเริ่มต้นแล้ว ก็จะมีโครงการเข้าสู่อินเตอร์. โดยจะประกาศศักดาของหญิงไทย ให้รู้ว่า หญิงไทยวัยแรกรุ่นแรกแย้ม(ฝาโลง) สู้ตายยยยย…… emo28:win:

สวัสดีค่ะพี่อ้อย   ตามมาเที่ยวค่ะสนุกจังเลยค่ะ  ...

ค่ำคืนนี้ เป็นมื้อเย็นนำเสนอด้วยเมนูบุฟเฟ่ต์ปูยักษ์ ของฮอกไกโด ประกอบไปด้วยปูสามชนิด. (ไม่ใช่ไก่สามอย่าง). คือ ปูขน. ปูทาราบะ และปูซูไว. อันว่าปูนั้น ใครๆก็ชอบยากมากที่จะเจอใครแพ้ปู. มีแต่แพ้กุ้ง บ้านเราเองก็มีตั้งแต่ปูนา ปูม้า ปูทะเล ปูกะตอย ปูแป้น ปูสาระพัด แถมด้วยปูเค็มอีก   เอ๊า...เวลาไปทะเลเราก็จะไปเลือกสรรเอาปูเป็นๆเช่นปูม้า มาออนเซนจนมันสุกและมาแกะเปลือกจิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด กินได้กินดี ไม่เชื่อถามตะวัน ได้เพราะเคยเห็นพี่แกนั่งบรรเลงปูม้าต้มเป็นกาละมังร่วมสามกิโล   มาแล้วที่ชะอำคนเดียว....(หลังจากพรรคพวกเขาอิ่มกันหมดแล้ว)
 
ดังนั้น. รายการนี้จึงเป็นรายการที่รอคอย ก่อนอื่นขอนำเสนอสาระคดีว่าด้วยปูฮอกไกโดให้ท่านผู้อ่านได้เห็นภาพพร้อมกันก่อนเพื่อจะได้ไปทานอาหารเย็นมื้อนี้ด้วยกันให้แซบอีหลีอีหลอกระด้อกระเดี้ย.....กะฮิเดโกะนะคะ
 

ไปเที่ยวญี่ปุ่นไปดูอะไร ไปกินอะไร ไปเที่ยวที่ไหน ใครๆ ก็สามารถค้นหาข้อมูลทั่วไปในอินเตอร์เนทได้โดยแบบสบายๆ ฤดูหนาวที่ประเทศญี่ปุ่นอากาศหนาวจัดเลยทีเดียว ยิ่งทางตอนเหนือของประเทศยิ่งหนาวมาก แต่ในความหนาวจัดก็มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย อากาศหนาวก็หาอะไรอร่อยๆ ใส่ท้องกันดีกว่า เวลาไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นหลายคนอยากไปสัมผัสรสชาติของขาปูยักษ์ฮอกไกโด เจ้าปูยักษ์ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมทานกันในมื้อสุดหรูหราในช่วงปีใหม่ เรามาทำความรู้จักกับเจ้าปูยักษ์กันดีกว่า

King Crab มีสามสายพันธุ์ สามารถจับได้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมกราคม เจ้าปูยักษ์พวกนี้จะถูกพบในพื้นที่ต่างๆ ในแถบอลาสก้า สามสายพันธุ์ที่ว่าก็คือ Red King Crab , Blue King Crab และ Brown King Crab (Golden King Crab) นั่นเอง แต่ที่ญี่ปุ่นจะนิยมแค่สองสายพันธุ์ คือ Red King Crab タラバガニ (ทะระบะกานิ) และ Blue King Crab アブラガニ (อะบุระกานิ)โดยที่ ทะระบะกานิ จะเป็นที่นิยมเป็นอันดับหนึ่งและรองลงมาคือ อะบุระกานิ  สองสายพันธุ์นี้มีลักษณะภายนอกคล้ายกันมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะไม่รู้เลย สาเหตุที่จำเป็นต้องสังเกตนั้น ก็เพราะว่าด้วยราคาของเจ้าทะระบะกานิ นั้นมันแพงกว่าอะบุระกานินั่นเอง ไม่อย่างนั้นจะโดนหลอกขายเอาง่ายๆ มาดูกันว่าเราควรจะสังเกตความแตกต่างตรงไหนของเจ้าปูยักษ์กันบ้าง

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd273335_8611288_5632808_5582901photo.jpg)

อย่างแรกเลยเวลายังไม่ได้นำมาประกอบอาหาร ทะระบะกานิ ตัวของปูจะมีสีออกน้ำตาลเข้มๆ เกือบดำ ส่วนอะบุระกานิจะมีกระดองและขาสีออกสีน้ำทะเล ก็เลยได้รับฉายา Blue King Crab
จุดที่สองเวลาต้มแล้วสีของ ทะระบะกานิ จะมีสีแดงชัดเจน ก็เลยได้ฉายาว่า Red King Crab ส่วน อะบุระกานิ จะมีสีออกส้มๆ แดงอ่อนๆ ช่วงหน้าของปูก็สั้นยาวไม่เท่ากัน แต่อันนี้ดูยากนะ และจุดที่สังเกตได้ง่ายที่สุด คือ บนส่วนกลางกระดองของเจ้าปูยักษ์มีจุดไม่เหมือนกัน ทะระบะกานิ มี 6 จุด ส่วนอะบุระกานิ มีเพียง 4 จุดเท่านั้น
สุดท้ายก็สังเกตที่ปลายขาปู ทะระบะกานิ จะมีสีแดง ส่วน อะบุระกานิจะมี สีขาว  แบบนี้สังเกตได้ง่ายเลยล่ะ

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd443686_900406_1913996_5893000photo.jpg)

ส่วนนี้สำคัญเลย ราคาของทะระบะกานิ จะแพงกว่าถ้ายังไม่ลดราคา ก็ประมาณตัวละ เจ็ดพันเยนขึ้นไป ส่วนอะบุระกานิ ก็ราคาประมาณ สามพันเยนขึ้นไป ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลย  ทางด้านรสชาติเนื้อปูนั้นถ้าสดมากๆ จะมีรสหวานกลมกล่อม ที่นิยมกันก็จะเป็นส่วนของขาปูจะนำไปทำเมนูย่างบ้าง ทำหม้อไฟบ้าง ทำซูชิ ทำซาชิมิ ทำซุปมิโสะราคาจะถูกจะแพงก็ขึ้นอยู่กับร้านอาหารว่าเค้าใช้ ทะระบะกานิ หรือ อะบุระกานิ มาเป็นส่วนประกอบ  ถ้าอยากทานปูฮอกไกโดสดๆ ต้องไปที่ เมือง Kushiro ไปหาซื้อที่ตลาดหรือกับชาวประมงที่เมืองนั้นได้ มาดูกันดีกว่าเมื่อนำเจ้าปูยักษ์มาประกอบอาหารแล้วหน้าตาจะน่ารับประทานกันขนาดไหน


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd436501_5828446_33062_6646808photo.jpg)



ทีนี้ได้ทราบกันแล้ว ก็เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยของเจ้าปูยักษ์ที่ไม่ควรมองข้าม จะได้แยกออกว่าเรากำลังกินเจ้าตัวไหนอยู่ ไม่ต้องมานั่งผิดหวังว่ามาถึงที่แล้วแต่กินผิดตัว  น่าเสียดายแย่เลย !!

 emo29:P:เอ้อ...แน่นอนเลยค่ะท่านผู้มีอุปการะคุณทั้งหลาย  พอเข้าเรื่องปูแล้ว  สักกระเดี๋ยวก็จะมี  น้องๆ ทั้งหลายเข้ามาแสดงความเห็นเกี่ยวกะปูมากมายหลายชนิด  แน่นอนย่อมเป็นปูที่กินไม่ได้  เอาเลยค่ะ อย่ารีรอ...เอาให้เวบล่มไปเล้ยยยยย.... emo22:(

		อ้างถึง			ข้อความของ Leam เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554, 13:53:28
	พี่อ้อยเล่นชูใบเหลืองขู่...... จะเล่นแรงๆก็ไม่ได้ซิครับ ปูที่จะทำให้เวบล่มได้มีอยู่ 2 ปู เท่านั้นแหละครับ... 1. ปู-ไปรยา 2. ปู-ยิ่งลักษณ์ แต่เหตุต่างกัน..... ถูกใจปู1......เว็ปล่ม ไม่ถูกใจปู2......เว็ปล่ม ผมคิดอย่านี้นะ......คนอื่นคิดยังไงไม่ว่ากัน ......ha.....ha.

...น้องแหลมคะ...นี่ขนาดไม่ถูกใจ...ยังมีคะแนนเสียงท่วมท้น...

...จนได้รับตำแหน่งนายกหญิงคนแรกที่(สวย)อายุน้อยที่สุดของโลก...

...ถ้าถูกใจจะซักขนาดไหน...

                    สวัสดีค่ะน้องแหลม พี่ตู่ พี่อ้อยและทุกท่านที่กำลังออนทัวร์ญี่ปุ่น
                    น้องแหลม รูปปลาไหลน้่นฝีมือช่างภาพไช่ไหมค่ะ เอามาแต่งให้

อรุณสวัสดิ์ค่ะ ทุกท่านทั้งน้องชาวหอซีมะโด่ง   เพื่อนร่วมทริป   เพื่อนๆ  พี่ๆ น้องๆ อากาศเช้าวันนี้สดใสนะคะ  เรามาชมดอกไม้จากฮอกไกโดกันดีกว่า  เรื่องปูเรื่องปลานั้น  ปล่อยไปตามกระแสน้ำกันเถอะค่ะ ....วันนี้ ทาเคชิ กะ ฮิเดโกะ รอสวัสดีทุกท่านแล้ว...

ทุกอย่างผ่านไปอย่างดุดัน ในการต่อสู้ระหว่างคนกะปู พนักงานก็นำเอาหม้อไฟและผักมาเสริฟ์และเอาจานแปลที่เต็มไปด้วยปูสามชนิดต้มแดง ให้ชาวคณะกินกันอย่างเมามัน เขาก็เอาใจนักกินด้วยการเฉือนก้ามปูออกบ้างเพื่อมนุษย์ทั้งหลายจะได้แกะออกโดยง่าย. ถามว่า อร่อยใหม รสชาดเป็นไง อร่อยกว่าปูไทยไหม


ขอแจ้งให้ทราบเลยว่า. ใม่มีที่ใดสู้ปูไทยในเมนูสุดแซบ เช่นปูม้านึ่ง  ปูดอง   ส้มตำปูม้า  เท่าเมืองไทยแลนด์เลยยิ่งไปนั่งริมทะเลบนเก้าอี้ผ้าใบสีแป๋นๆของตาลุง ใต้ร่มผ้าสีสรรสุดๆ. มีน้ำจิ้มรสเด็ดแบบไทยๆ ลมทะเลพัดมามีไอเค็มๆประกอบ แกะปูไปไล่หมาที่มาจ้องหน้าไป อร่อยที่สุดแล้วค่ะ...

จริงอ่ะ...น้องแหลม ที่เชอราตันแกรนด์สุขุมวิท มีบุฟเฟ่ต์ปูอลาสกาเรอะ. ค่าเสียหายเท่าไรน่ะ สงสัยต้องไปชิมแล้ว. เอาตอนตาทาเคชิไปตีกอล์ฟที่คุนหมิงเนี้ยล่ะ... emo48:)

สวัสดีค่ะพี่อ้อย   ปูน่าหม่ำจังค่ะ  ....

 emo2:)อิทธิพลของนกเตนน่ะน้องแหลม....เดี๋ยวๆๆ รอน้ำลดก่อน บุ๋ง..บุ๋ง... emo2:)

นานแระ....  

เอ้อ...น้องๆขา น้ำเริ่มลด แต่เจ้าหมุยฟ้ามาอีกระลอกนึง ข้าวในนาก็จะแย่เอา ทั้งแพร่ลำปางสุโขทัย ไปหมด ปูในนาก็หนีน้ำกันยั้วเยี้ย น่าจับมาทำปูดองส่งไปขายดูไบซะนี่ดีไหม....แถมดัชนีดาวโจรก็พุ่งลงตามพี่ๆกัน พี่กรีซ พี่โปรตุเกส ว่ากันว่า เสปนอีก. โฮ้ย....แต่รับรองว่า.  ภายในอาทิตย์นี้ พี่ฮิเดโกะกะพี่ทาเคชิ มาแว้ววววว มาแน่....... emo6::))

 อิ่มจริงๆขนาดบ่นว่าปูเขาชืดบ้างไม่อร่อยบ้าง ไม่รู้ล่ะต้องเตรียมพลังให้พร้อมเพราะจากนี้ไปเป็นช่วงPrime time ของการชอปปิ้งที่รอคอย รายการของตัวเองยาวเหยียด รายการของฝากของลูกผู้มีพระคุณอีกเป็นหางว่าว เอ๊า..ของตาทาเคชิอีก พวกเรารีบเดินออกไปขึ้นรถบัสโดยมาตุลีคุโรคาวาซังเจ้าเก่า มุ่งหน้าไปสู่ย่ายทานุโคจิโคจิ ที่ทางไกด์อธิบายว่า เป็นแหล่งชอปปิ้งใหญ่ มีบางร้านขายทั้งคืนทีเดียวและไม่ไกลจากโรงแรม เดินกลับก็ได้ หรือนั่งแท๊กซี่ไม่เกิน700ถึง800เยน

TANUKI KOJI เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีประวัติมายาวนาน และมีร้านค้าไม่ต่ำกว่า 200 ร้าน
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า รวมไปถึงอุปกรณ์อิเลคทรอนิคและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เปิดให้ผู้คนช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ
นอกจากนั้นยังมีหลังคาคลุมยาวตลอดทั้ง 7 บล็อกถนน ตั้งขวางในแนวตะวันออก-ตะวันตกอยู่ระหว่างสถานี Subway Odori และ Susukino
ทำให้สามารถเดินช้อปปิ้งกันได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวแดดและฝนจะมาเป็นปัญหากวนใจอีกด้วย ขบวนชาวไทยลงไปที่ย่านนัั้นแล้ว ต่างก็เพลิดเพลินกับการซื้อของ ทำท่าใบ้ประกอบคำอธิบาย เป็นที่เวียนหัวทั้งคนชายและคนซื้อ. ที่คิดว่าเป็นวิตามินดันกลายเป็นอาหารเสริมบำรุงผิวพรรณ โชคดีหน่อยบางทีเห็นไกด์อยู่แถวนั้น ก็เลยได้ทีซักถามให้ช่วย ตัวไกด์เองก็ซื้อของพะรุงพะรงไม่แพ้ลูกทัวร์

ผู้คนก็ออกมาซื้อของกันคลาคล่ำทั้งเจ้าบ้านด้วย อากาศเย็นสบาย. ราคาของก็พอซื้อได้ มีรานขายของมือสองอยู่1ร้าน ที่ฮิเดโกะชอบมาก และกวาดเอามาหลายอย่างตั้งแต่กระเป๋าถือ สาระพัด  ราคาถูกมาก บางชิ้นเจ้าของคงซื้อมาใหม่ๆเลย. แล้วไม่ชอบก็เอามาฝากขายเลย เสร็จเรา... ไม่รู้ล่ะ เจ้าของเขาอยู่ฮอกไกโด เราอยู่ขอนแก่น ไม่เจอกันร๊อก....



เวลาผ่านไปไวดังโกหก ได้ของมากมาย วิตามินอาหารเสริมของทาเคชิ ขนม ของใช้สาระพัด. ทาเคชิเริ่มเมื่อยสุดๆ จึงพากันเรียกแทกซี่กลับโรงแรมโดยสวัสดิภาพ ห้องพักของที่นี่ซึ่งเดิมก็คับแคบแทบจะหาทางเดินไม่ได้แล้ว พอมีชองมาเพิ่มเติมยิ่งหนักเข้าไปอีก แทบจะเต้นบัลเล่ย์เขย่งเก็งกอยเวลาจะเก็บของเตรียมกลับบบ้าน มิหนำซ้ำสองคนยังมีกระเป๋าใบเดียวอีกต่างหากด้วยความประมาทว่า ไม่ซื้ออะไรหรอกมาญี่ปุ่นน่ะ ดังนั้นโปรดจำไว้เป็นอุธาหรณ์นะคะท่านผู้อ่าน เอากระเป๋ามาสำรองเอาไว้เหอะเชื่อฮิเดโกะ. ใครมาญี่ปุ่นแล้วไม่ซื้ออะไรเลยนั้น กลับเมืองไทยไปลงจากเครื่องแล้วคงเข้าวัดไปปฏิบัติธรรมเลยอ่ะค่ะ...


แต่ด้วยความสามารถพิเศษของทาเคชิ พี่ท่านก็สามารถยัดของทุกชนิดลงในกระเป๋าแดงแรงฤทธิ์ใบมหึมาที่ตอนนี้ขยายทุกซิบจนอ้วนเป่งแทบระเบิดได้สำเร็จ เฮ้อ.......จากนั้นก็สลบ เท้าทุกคู่ของทั้งสองก็บวมเป่งจากย่านทานุโคจินั่นเอง....

		อ้างถึง			ข้อความของ Leam เมื่อ 21 สิงหาคม 2554, 00:33:58
	พี่อ้อย...

ทำไม..เรียกทำไม   มีธุระอะไร  ฝนตกน้ำท่วมไปทั้งประเทศแล้วไม่รู้หรือฮะ...ตาแหลมมมมมมม emo5:(

อรุณสวัสดิ์ยามเช้า  ซัปโปโรที่รัก  วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ ฮิเดโกะ กะทาเคชิ จะทำซ่าอยู่ต่างประเทศ  ทำเป็นลืมท้องทุ่งบ้านนา  แผงส้มตำปูปลาร้า  ป่านฉะนี้ ลูกค้าน้อยใหญ่ทั่วทั้งหมู่บ้านคงเผาพริกเผาเกลือสาบแช่งฮิเดโกะที่ร้างราจากครกใบมหึมาที่เลี้ยงชาวบ้านด้วยส้มตำรสเลิศ  มามัวหลงระเริงกับซูชิ  ซาซิมิ  อยู่ได้เป็นหลายวัน   แล้วไร่อ้อยที่เราเช่าเขามาปลูกอ้อยสองสามไร่อีกเล่า  ทาเคชิ รำพัน...ว่าแล้ว  ฮิเดโกะก็หยุดปากทาเคชิด้วย  อาหารเช้าแบบประหยัดคือ ขนมปังกะนมเปรี้ยวจากห้างไดมารูเมื่อวานนี้มากินด้วยกันนะคะ   หลังอาหารมื้อนี้เราจะไปเที่ยวที่อาคารรัฐสภาเก่า  กะตลาดอาหารทะเล เพื่อไปทานมื้อกลางวันที่นั่นกัน....


ที่ตลกมาก คือ  อีตอนใช้ความเร็วสุดสปีดในการหาซื้ออาหารเช้าจากร้านไดมารู  เพราะโรงแรมเขาไม่มีอาหารเช้าให้  เราต้องเตรียมเอง  ฮิเดโกะก็รีบลงไปชั้นล่างสุด เพื่อหาซื้อขนมปังใส้อะไรก้ได้ชั่ง แม่ง.. แต่พอมาถึงชั้นนมสดน่ะสิ....ก็พยายามดูรูปว่า  มันเป็นรูปวัวแน่ๆ  ข้างในมันต้องเป็นนมสดฮอกไกโดอันเลื่องชื่อว่ามีรสชาดดี  และวิ่งไปซื้อแอปเปิ้ลมาเป็นผลไม้คนละลูกกะทาเคชิ  แล้ว รีบหอบสมบัติกลับไปตามเวลานัดที่โรงแรม

      พอตอนเช้ากะจะกินนมสดกะขนมปังใส้กรอก   ดันกลายเป็นนมเปรี้ยวเสียได้  เอาวะ ...คิดแบบ Positive  ก็ดีไปอย่าง   มาคิดตอนนี้  แล้วเราจะถามพนักงานว่า  เป็นนมสดหรือนมเปรี้ยว  อย่างไร  พูดญี่ปุ่นก็แบบงูๆปลาๆ  จะทำท่าอย่างไรดีถึงจะได้นมสดมาน้ออออออ.....

ติดตามอ่านด้วยความสนุกสนาน
อ้อยเขียนนิยายได้สบายๆนะนี่
รับรองแฟนตรึม

แต่ก็ทำเอาเพื่อน อิจฉา ตาร้อนวูบวาบ
เพราะมีทาเคชิคอยเอาใจไปด้วย น่ะซี......

ชีวิตจริงก็เหมือนนิยายอยู่แล้วเพื่อนเอ๋ย...แต่มันเป็นตอนที่สังขารของนางเอกร่วงโรย ต้องไปขอเคล็ดลับจากพี่แอ๊ะผู้งามตลอดชาติ มั่งแล้ววววว... emo24:(

น้องแหลมนี่น่ารักจริงๆ ช่างสะกิดต่อมขี้เกียจของพี่ได้ทุกเมื่อ เดี๋ยวจัดหนักเลย พรุ่งนี้มันต้องจบ...สู้เขานะ ฮิเดโกะ.. emo6::))

จุ๊...จุ๊...จุ๊... พี่อ้อย

 emo7:(:เออ...ได้ยินแล้ววววว emo18:brae:

สวัสดีค่ะพี่อ้อย   รอชมนะคะ

 emo4:))

  พี่อ้อยหายไปไหนคะ...