26 พฤศจิกายน 2567, 05:20:08
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 [2]  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คำไทยๆใครรู้บ้างคร้าบบบบบบบบบบบ....  (อ่าน 20889 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
maeying
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42

เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2550, 10:34:16 »

ทำไปได้น่ะปอนด์ ในฐานะที่เราเป้นครูภาษาไทยขอบอกดังๆ ว่า "รับบ่ได้อย่างแรง" แต่แถได้เนียนจริงเพื่อน เดี๋ยวจะฝากยาแดงมาให้นะ(อิอิ)
บันทึกการเข้า
dnopista
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 329

เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 12 มกราคม 2551, 11:40:36 »

ที่มาของการใส่ผักบุ้ง..ในเย็นตาโฟนั้นนะครับ
เริ่มมาจากว่า...
แต่เดิมแล้ว เย็นตาโฟเนี่ยมันเป็นอาหารเฉพาะของชาวประมงแถบภาคใต้ของเรานี่เอง  ที่ออกเรือไปนานแล้วดันไปติดเกาะ เพราะใบเรือเสียเลยจำต้องอยู่ที่เกาะนั้นจนกว่าจะซ่อมใบเรือเสร็จ
นานเข้าเสบียงก็เริ่มร่อยหรอลงทุกที ชาวประมงจึงต้องหาอาหารเพิ่มเพื่อประทังชีวิต แต่ทำไงล่ะครับ เรือไม่มีแน่นอนว่าก็ต้องหาอาหารแถวนั้น ซึ่งสิ่งที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดก็คือแมงกระพรุนที่โดนน้ำซัดมาเกยตื้น กับผักบุ้งทะเล สาเหตุที่ต้องใส่ผักบุ้งทะเลนั้น ก็มาจากความเชื่อที่ว่าในตัวผักบุ้งทะเลจะมีสารยับยั้งพิษของแมงกระพรุนอยู่(อันนี้ถามชาวประมงดูได้) ก็เลยใส่ป้องกันไว้เผื่อว่าเอาพิษออกไม่หมด เดี๋ยวจะตายกันทั้งเรือ ส่วนองค์ประกอบอื่นๆในชามก็หาจากใต้ท้องเรืออ่ะครับ พวกปลาหมึกแห้งๆที่ตกหล่นตอนเอาไปขาย หรือจะเป็นพวกเนื้อปลาสับที่รวนไว้กินตอนเสบียงหมด(นี่คือที่มาของลูกชิ้นและก็ปลาเส้นยังไงล่ะครับ) ส่วนเส้นนั้น แต่ก่อนไม่มีเส้นครับ(จะไปเอามาจากไหน)แต่ที่ภายหลัง เย็นตาโฟมีเส้นก็เพราะว่า ด้วยรูปร่างหน้าตาแล้วน่าจะถูกจัดเข้าในกลุ่มอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวจึงถูกเอามาดัดแปลงให้กินกับเส้นได้หลายชนิด ส่วนเครื่องปรุงสุดท้ายที่แปลกแยกที่สุด นั่นก็คือ"เต้าหู้ยี๊" ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมถึงเอาไอ้เต้าหู้สีแดงนี่มาใส่ ดูไม่เข้ากันเลย...ทีแรกผมเองก็คิดงั้นครับ แต่พอทราบถึงที่มาของมันแล้วถึงกับอึ้ง
เพราะไอ้ที่เค้าใส่กันที่แรก มันไม่ใช่เต้าหู้ยี๊ครับแต่มันเป็นเต้าหู้ขาวธรรมดาๆนี่แหละ ของใต้ก๋งเรือที่แกเอาไว้กินกะข้าวต้ม ส่วนสีแดงก็คือเลือดของชาวประมงกว่าสิบชีวิตที่สาบานว่าจะช่วยกันจนกว่าจะได้กลับบ้าน คล้ายๆกับน้ำร่วมสาบานอะไรทำนองนั้นอ่ะครับ พอเททุกอย่างลงชามทุกคนก็กินร่วมกัน และที่น่าแปลกกว่านั้นก็คือในที่สุดใบเรือก็ซ่อมเสร็จและพวกเค้าก็ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย ตั้งแต่นั้นมาเลยมีการผสมสีแดงในเต้าหู้ยี๊เอาไว้ให้ระลึกถึง คำสัตย์ที่ผู้กล้าเหล่านั้นได้ให้ไว้ต่อกันครับ
ประทับใจกันใช่มั้ยครับ...ใครจะรู้ว่าไอ้แค่เย็นตาโฟที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ จะมีที่มาน่าอัศจรรย์ใจถึงเพียงนี้ ถึงขนาดฮอลลีวู๊ดได้แรงบรรดาลใจ เอาไปสร้างเป็นหนังโจรสลัดชื่อดัง ที่มีสามภาค ทำรายได้ถล่มทลายกันเลยที่เดียว
...นี่แหละครับ..."
พลังเย็นตาโฟ...พลังชาวประมง"
บันทึกการเข้า
dnopista
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 329

เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 12 มกราคม 2551, 11:47:41 »

เอ่อ...ลืมบอกไปครับว่า..แล้วไอ้ที่มาของชื่อ"เย็นตาโฟ"มันได้มายัง...
ไม่มีอะไรมากครับ...
จากตำนานของอาหารถ้วยนั้น...ทำให้ในอีกหลายๆสาขาอาชีพที่ได้รู้เรื่องราว
เอาไปใช้เพื่อปลุกระดม ให้ร่วมแรงร่วมใจกันทำอะไรให้สำเร็จให้ได้ แม้ตายก็ยอม
เลยมีคนกลุ่มหนึ่งเรียกมันว่า...ยอม ตาย ฟอร์(FOR).................
(พอดีมีฝรั่งอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย)เพื่อเป็นเหมือนอาหารร่วมสาบาน
ที่เราจะกินร่วมกันเพื่อ(FOR).........................(เติมงานนั้นๆในช่องว่าง)
นานเข้า...ยอมตายฟอร์..ก็เลยค่อยๆเพี้ยน...เพี้ยน..
และก็เพี้ยนมาจนเป็น"เย็นตาโฟ"ในที่สุดนี่แหละครับ
บันทึกการเข้า
dnopista
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 329

เว็บไซต์
« ตอบ #28 เมื่อ: 31 มกราคม 2551, 14:57:57 »

ฮาสาดดด..........
ฮาจริ๊งงงงงงงงงงงง


ไม่มีใครเข้ามา  เราฮาเองก็ด๊ายยยยยยยยยยยยยยย
บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 [2]  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><