เฮ้อ...ใครเคยรู้สึกหมดไฟกับงานที่ทำมั่งคับ?แบบว่าเริ่มไร้พวกพ้อง เริ่มไร้จุดหมาย... :?
รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ และมีแนวโน้มสาหัสขึ้น
พอดี เมื่อปีที่แล้วผมเครียดมากเพราะงานมันหนัก..แต่ตอนนี้ผ่อนคลายลงบ้าง เพราะคนที่ลาคลอด ลาบวช กลับมาทำงานครบแล้ว
แต่...งานก็เริ่มมีแนวโน้มโหดขึ้นเช่นเดิม เพราะไอ้นโยบายเชิงรุก ส่งเสริมสุขภาพ อะไรนั่นล่ะครับ!
นโยบายที่ปฏิบัติกันอยู่ก็คือ...แต่เดิมนะครับ โรคเรื้อรังบางอย่าง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
เราจะให้คนที่สงสัยว่าเค้าจะเป็น สมัครใจมาตรวจเอง แล้วรับยาตามแพทย์สั่ง
แต่โรคนี้โดยมากอาการไม่แสดงชัด ดังนั้นจึงมีคนหลงสำรวจอยู่มาก
คนหลงสำรวจเหล่านี้ เดิมทีไม่มีใครรู้ว่าเค้าจะดำรงชีพเป็นปกติ?หรือทรุดลงจนย่ำแย่ในภายหลัง?หรือเสียชีวิตด้วยสาเหตุอื่น?
แต่ตอนนี้ เมื่อมีนโยบายรัฐออกมาให้ทาง รพ.เปิดเกมบุก…ให้ไปบังคับตรวจชาวบ้าน ผลก็คือ เจ้าหน้าที่รพ.ต้องไปไล่ตรวจผู้สูงอายุหลายๆคน แล้วก็เจอผู้ป่วยอีกเพียบจริงๆครับ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคพวกนี้!?!
แล้วงัยต่อเหรอ? พอเป็นงี้ก็ต้องจับมาเข้าโครงการ รับยา ตรวจความเป็นไปของโรคทุกๆเดือน…
มองในแง่ตื้นๆมันก็เหมือนดี..เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน จนผู้ป่วยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
แต่มองในแง่อื่นๆด้วยล่ะ? ผู้ป่วยต้องเสียเวลามาหาหมอทุกเดือน(บางคนบ่นว่าเซ็งมาก.จริงๆนะครับ)
เจ้าหน้าที่รพ.ก็เหนื่อยขึ้นอีกหลายเท่า เพราะจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 3-4 เท่า! จากเมื่อก่อน!
(สู้ให้ผู้ป่วยเลือกเองว่าจะตรวจหรือไม่ แบบเก่ายังจะเข้าท่ากว่า…อย่าหาว่าผมและเพื่อนร่วมวิชาชีพขี้เกียจเลย แต่มันเริ่มมากเกินพิกัดแล้ว)
แล้วที่สำคัญ! ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนสมัยนี้ดูแลสุขภาพตัวเองไม่ค่อยเป็นเลย?
ผมเคยแนะนำคนไข้บางรายให้พักผ่อนจะดีกว่าการใช้ยา..เค้าบอกว่าไม่ค่อยมีเวลาพัก ต้องหาเงินไปเลี้ยงลูกบ้าง.ใช้หนี้บ้าง!?!(ผมเป็นฝ่ายเภสัชฯครับ)
หรือว่าสังคมมันบีบคั้นให้คน(บางกลุ่ม)ต้องทำงานหนักขึ้น พอทำหนักขึ้นก็ป่วยง่ายขึ้น >ป่วยง่ายขึ้น ภาระของพวกกระผมก็เพิ่มขึ้น >เผลอๆทำให้พวกผมป่วยเป็นโรคสุขภาพจิต(เช่นนอนไม่หลับ)เพราะความเครียดซ้ำอีกด้วย(ทุกวันนี้บางวันต้องพึ่งยากล่อมประสาท)
(ผู้ป่วยก็เครียด ผู้ให้บริการก็เครียด ความกดดันเพิ่มขึ้นทั้งสองฝ่าย!)
แต่.เชื่อมั้ยครับ เพื่อนผมที่เปิดร้านยา หรือหมอที่เปิดคลินิกเอกชน ผมทราบมาว่าเค้าฟันกำไรไปเยอะเอาการเลยทีเดียว!เพราะคนสมัยนี้ต้องพึ่งพาเวชภัณฑ์บ่อยขึ้น…พวกบริษัทยาและเครื่องมือแพทย์ก็ฟันกำไรไปไม่ใช่เล่น!(เคยอ่านเจอเหตุการณ์ทำนองนี้จากหนังสือหมอประเวศสมัยก่อน ไม่นึกว่าจะได้เจอกับตัวเอง)
…แต่เนื่องจากผมไม่ค่อยมีหัวเชิงพานิชย์เท่าไหร่ เลยไม่ได้ไปเปิดร้านอย่างว่าเลย
:?
อ้อ คุณ Imm ผมได้รับข้อความแล้ว ขอบคุณ