ชมาวดีชวนชม 2554-2556

[แจง-24]

		อ้างถึง			ข้อความของ Lamai เมื่อ 11 กรกฎาคม 2556, 14:16:07
	อ้างถึง ข้อความของ Pete15 เมื่อ 10 กรกฎาคม 2556, 21:51:09 ตามมาติดๆ.....น้องไม จัด Tourซิ..... พี่ปี๊ดอยากไปด้วย....... ก็คงไม่ไหวอย่างตี้กับแจงบอกล่ะค่ะพี่ปี๊ด มาจนปูนนี้แล้ว ไปกับทัวร์จะดีที่สุด เหนื่อยน้อยที่สุดและได้ไปทุกที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญค่ะ

		อ้างถึง			ข้อความของ Lamai เมื่อ 11 กรกฎาคม 2556, 14:18:15
	อ้างถึง ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 10 กรกฎาคม 2556, 21:54:51 นั่นไง ได้พี่ปิ๊ดเป็นลูกทัวร์ 1 คนแล้วไม จัดเลยๆ ตัวเราเองก็แทบจะไม่รอดแล้วค่ะแจง ถ้าจัดทัวร์ น่าจะชื่อ หลงหลงทัวร์

ซื้อทัวร์ไปดีแล้วค่ะ ป้าไม
จะได้ไม่ใจหายใจคว่ำแบบทริปนอร์เวย์
ไม่งั้นเพื่อนจะพาลนั่งไม่ติดเพราะความเป็นห่วง

[แจง-24]

ขอบคุณพี่ปิ๊ด ลุงตี้ และป้าไม ที่ติดตามนะคะ

คืนนี้ พาเลียบชายฝั่งเมืองนีอุม (Neum) ประเทศบอสเนียเฮอร์เซโกวินา กันค่ะ



ออกจากโครเอเชีย เข้าประเทศบอสเนียฯ
ก็ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองกันก่อน ตามธรรมเนียม



เมืองนีอุม เป็นเมืองชายทะเลเพียงเมืองเดียว
และเป็นทางออกทะเลทางเดียวของ บอสเนียเฮอร์เซโกวีน่า
เป็นเมืองต่างประเทศ ที่คั่นแบ่งแคว้นดัลเมเชียออกเป็น 2 ส่วน

นีอุมมีความยาวชายฝั่งประมาณ 24.5 กิโลเมตร
เราจะนั่งรถเลียบชายฝั่งนี้ไปจนสุดพรมแดนบอสเนีย
แล้วจึงจะผ่านพรมแดนเข้าสู่โครเอเชียตอนใต้ค่ะ

[แจง-24]

สาเหตุที่มีการลากเส้นแบ่งเขตแดนกันแปลกๆ
โดยให้เมืองนีอุม ตัดเข้ามาในพื้นที่ของโครเอเชีย ทำให้โครเอเชียต้องแยกเป็น 2 ส่วนนั้น
เป็นผลมาจากสนธิสัญญาแบ่งดินแดน Karlowitz ของมหาอำนาจในปี 1699
โดยชาวเวนิสที่ตอนนั้นครองเมืองดูบรอฟนิกทางใต้อยู่
ได้ยกเมืองนีอุมให้อาณาจักรออตโตมาน (เติร์ก หรือตุรกี ในปัจจุบัน)
ให้ออตโตมาน ซึ่งครองบอสเนียอยู่ มีทางออกทะเลซะ
จะได้ไม่มารุกรานหรือขัดขวางการแผ่ขยายอำนาจของเวเนเชี่ยน



นีอุมเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียง แม้จะมีขนาดเล็ก
โดยมีประชากร เพียง 4,605 คนในปี 2009

ด้วยค่าครองชีพที่ต่ำกว่าโครเอเชีย
ทำให้เมืองนีอุมเป็นแหล่งชอปปิ้งที่นิยมของชาวโครแอท
(แอปริคอตอบแห้งอร่อยโฮก... ขอบอก)



แม้การท่องเที่ยวของเมืองนีอุมคึกคักเฉพาะแนวชายฝั่ง
แต่ในเขตลึกเข้าไปในแผ่นดินใหญ่ ก็ยังมีโบราณสถานและผืนป่าอุดมสมบูรณ์

[แจง-24]

ที่เห็นเป็นจุดดำๆ เรียงกันในทะเลนั้น คือทุ่นเลี้ยงหอยนางรมค่ะ

น้ำทะเลแถบนี้ใสสะอาดและนิ่งมาก
และยังมีโขดหินและเกาะเล็กเกาะน้อย ที่หอยนางรมชอบ
การเลี้ยงหอยนางรมจึงเป็นอาชีพยอดฮิต
เริ่มตั้งแต่เมืองนีอุม ยาวลงไปถึงเมือง Ston เลยค่ะ

[แจง-24]

กระเหรี่ยงไทยที่พลัดหลงเข้ามาในประเทศบอสเนีย
ตม. จะออกประกาศจับก็ไม่ทัน
เพราะโดดขึ้นรถทัวร์หนีออกไปทางโครเอเชียเสียก่อน... 555

พักเบรคกันตรงนี้ก่อนนะคะ
พรุ่งนี้ไปเมือง Ston กันต่อค่ะ


 

[Pete15]

  ตามมาติดๆ ไม่ให้ใครแย่งที่

[แจง-24]

ขอบคุณค่ะ พี่ปิ๊ด...

 

 

[Lamai]

ไมก็มาค่ะพี่ปี๊ด

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 11 กรกฎาคม 2556, 20:17:53
	กระเหรี่ยงไทยที่พลัดหลงเข้ามาในประเทศบอสเนีย ตม. จะออกประกาศจับก็ไม่ทัน เพราะโดดขึ้นรถทัวร์หนีออกไปทางโครเอเชียเสียก่อน... 555 พักเบรคกันตรงนี้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้ไปเมือง Ston กันต่อค่ะ

หารู้ไม่ว่า...ไทยดำ(รำพัน)...แอบตามมาติดๆ
มองตามร่องรอยของชัตเตอร์ ที่กดแชะๆ แบบตาไม่กระพริบ เหอ เหอ

ขอบคุณทั้งน้องแจงและน้องตี้คร้าบบบบ

 

[ตี้ถาปัด]

ก่อนที่ป้าแจงจะพาออกไปไกลกว่านี้ ขออนุญาตเสริมภาพระหว่างที่เดินทางจาก Neretva Delta
ผ่านเมือง Duboka, Klek ของ Croatia ก่อนมาข้ามเขตแดนมาที่ Neum ของ Bosnia สักเล็กน้อย
เผื่อจะเห็นภาพโดยรวมมากขึ้น

[ตี้ถาปัด]

[ตี้ถาปัด]

ภาพของที่เมือง Neum จะไม่มีรายละเอียดเหมือนของป้าแจงเพราะถ่ายจากระยะไกลครับ
ถ่ายจากร้าน Duty Free ของ Neum เห็นแต่วิวในระยะไกล และมัวแต่ไปถ่ายรูปร้านขายดอกไม้หน้า Duty Free

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 12 กรกฎาคม 2556, 08:22:05
	อ้างถึง ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 11 กรกฎาคม 2556, 20:17:53 กระเหรี่ยงไทยที่พลัดหลงเข้ามาในประเทศบอสเนีย ตม. จะออกประกาศจับก็ไม่ทัน เพราะโดดขึ้นรถทัวร์หนีออกไปทางโครเอเชียเสียก่อน... 555 พักเบรคกันตรงนี้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้ไปเมือง Ston กันต่อค่ะ   หารู้ไม่ว่า...ไทยดำ(รำพัน)...แอบตามมาติดๆ มองตามร่องรอยของชัตเตอร์ ที่กดแชะๆ แบบตาไม่กระพริบ เหอ เหอ ขอบคุณทั้งน้องแจงและน้องตี้คร้าบบบบ

ขอบคุณครับพี่หนุน แล้วไทยดำ (รำพัน) เรื่องอะไรครับ อิ อิ

[Lamai]

รูปสวยสดงดงามทั้งของแจงและตี้

[แจง-24]

ขอบคุณพี่ปิ๊ด พี่หนุน-ไทดำ และป้าไม ที่ติดตามกะเหรี่ยงทัวร์ค่ะ

และขอบคุณลุงตี้ ที่ช่วยมาเสริมด้วยภาพสีสันสดใส
ช่วงออกจากสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ มาถึงด่าน ตม. ที่นีอุม แจงถ่ายรูปไม่ได้เลย
ฝนตกหนักมาก กระจกมีแต่เม็ดฝน โฟกัสวิวไม่ได้เลยค่ะ
ลุงตี้โชคดีจังเจอแดดออก ดอกไม้ก็ออกด้วย ภาพสวยสดชื่นดีจัง

ช่วงจากนีอุมไปเมือง Ston แจงก็เจอฝนกระหน่ำอีกชุด ไม่มีภาพเลย
พาเข้าเมือง ston กันเลยก็แล้วกันนะคะ

[แจง-24]

Ston  เป็นเมืองป้อมปราการขนาดเล็กบนคาบสมุทรเพลจีแซค (Peljesac Peninsula)
มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในเรื่องโบราณสถานกำแพงเมืองยุคกลางที่ล้อมรอบตัวเมือง
หอยนางรมสดจากช่องแคบสตอน
และเกลือทะเล ซึ่งเป็นสินค้าท้องถิ่นที่ผลิตมานานหลายศตวรรษแล้ว



มองจากแผ่นดินใหญ่ข้ามช่องแคบไปยังคาบสมุทร
มองเห็นกำแพงเมือง Ston เด่นชัดแต่ไกลค่ะ



น้ำทะเลนิ่งใส เพราะเป็นช่องแคบอยู่ระหว่างแผ่นดินใหญ่กับคาบสมุทร
แถมมีเกาะเล็กเกาะน้อยและโขดหินกระจายอยู่ทั่ว
ทำเลทองของฟาร์มหอยนางรมเขาละ...

[แจง-24]

จากถนนเลียบชายฝั่งบนแผ่นดินใหญ่
เราต้องขับรถตีวงไปยังคาบสมุทรที่เมือง Ston ตั้งอยู่



ภาพนี้อ้อมมายังคาบสมุทรแล้ว แผ่นดินอยู่ทางขวาแล้วค่ะ
มองออกตรงไปกลางภาพ คือทางออกทะเลที่อยู่ระหว่างคาบสมุทรและแผ่นดินใหญ่นะคะ
แต่ทั้งสองฝั่ง เต็มไปด้วยอ่าวและแหลมหยักไปมา แถมมีภูเขาใหญ่น้อยซ้อนๆกันเต็มไปหมด
เลยดูหลอกตาเหมือนเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ถูกล้อมด้วยภูเขาไม่มีทางออกทะเล

[แจง-24]

ตอนนี้เรามาอยู่ฝั่งเมือง Ston แล้วค่ะ
ฝั่งตรงข้ามนั้น คือถนนบนแผ่นดินใหญ่ที่เราเพิ่งผ่านมา



ถึงแล้วค่ะ เมือง Ston
เมืองเล็กจิ๋ว ที่มีประชากรเพียง 2,445 คน ในปี 2011
(น้อยกว่าประชากรหอซีมะโด่งปีนี้เลยนิ... ฮิ ฮิ)

ส่วนหมู่บ้านเลี้ยงหอยนางรมที่เราไปทานกันนั้น
อยู่ในอ่าวหนึ่งของเมืองสตอน
เป็นหมู่บ้านที่มีประชากรไม่ถึง 150 คน
ชาวโครแอทเลยเรียกกันด้วยความเอ็นดู ว่า Mali Ston
Mali เป็นภาษาโครแอท แปลว่า Little ค่ะ

[แจง-24]

เมืองเล็กจิ๋ว แต่กำแพงใหญ่โต
เพราะมีฐานะเป็นเมืองป้อมปราการหน้าด่านของเมืองดูบรอฟนิก เมืองใหญ่ที่อยู่ทางใต้ค่ะ

ตัวเมือง Ston เอง ก็มีทำเลทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ อีกทั้งยังร่ำรวยจากการค้าเกลือ
เป็นที่หมายปองของมหาอำนาจยุคกลางอย่างเวเนเชี่ยนและออสเตรีย
ไหนยังจะพวกโจรสลัด ที่ชอบมาจอดเรือหลบลมอยู่แถวสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอีก

ขายเกลือได้ตังค์มา จึงต้องทุ่มสร้างกำแพงล้อมภูเขาเพื่อป้องกันตัวเอง
และเพื่อไว้สกัดข้าศึกไม่ให้รุกเข้าไปยังดูบรอฟนิก ซี่งเป็นเมืองแม่ได้

[แจง-24]

กำแพงเมือง Ston นี้ ยาวกว่า 980 เมตร มีรูปทรง 8 เหลี่ยมที่ดูแปลกตา



มีหอคอยระวังภัยขนาดใหญ่อยู่ตามมุมของกำแพง ทั้ง 8 ทิศ

ใช้เวลาสร้างถึง 200 ปี เป็นหนึ่งในกำแพงป้อมปราการที่ยาวที่สุดในยุโรป

[แจง-24]

และแน่นอน มาเมืองสตอนทั้งที ก็ต้องแวะทานหอยนางรมกันค่ะ
ไม่งั้นมาไม่ถึงเมืองสตอน



คำขวัญประจำร้านอาหาร



ปลาไม้แต่งร้าน บอกให้รู้ว่ามีปลาให้ทาน สำหรับคนที่ไม่ทานหอยดิบอย่างแจงนะคะ

[แจง-24]

ทิวทัศน์สวยงาม มองจากร้านอาหารที่เราไปทานกันค่ะ...
สงบเงียบน่าอยู่จริงๆ

[แจง-24]

ภาพชุดนี้ถ่ายช่วงเที่ยง แสงแข็งไปนิด
ถ้าเป็นเช้าๆ หรือเย็นๆ คงดูร่มรื่นน่าอยู่กว่านี้มาก

ถ่ายมาหลายมุมหน่อย เผื่อครูตี๋ดูแล้วอยากวาดรูปค่ะ

[แจง-24]

คืนนี้ ลา Mali Ston กันด้วยดอกไฮยาซินธ์ยามเที่ยงนะคะ



ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ทุกคน

 

[Lamai]

มีดอกไม้สวยๆมาฝากด้วย ^__^