veekung
|
|
« ตอบ #625 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2550, 17:24:29 » |
|
ไม่เคยเข้าห้อง common room มาก่อน วันนี้ก็เลยแวะมารายงานตัวค่ะ ติ๊กอยู่รุ่น 82 ค่ะ จากคณะรัฐศาสตร์ รายงานตัวอย่างเดียวไม่พอนะพี่มาเขียนประวัติส่วนตัวทิ้งไว้ด้วย ถ้าไม่รู้เขียนยังไงก็ไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรกก็จะรู้เองอ่ะครับพี่ติ๊ก :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #626 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2550, 17:44:48 » |
|
Nong Tik ja, please let get start with tag of Nong Veevee!!!it should be page 6-7 or you can try with a short version page 1..weiiii.... p.nungning27,37,67(lottery number,herr,herr..)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #627 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2550, 19:41:07 » |
|
ไม่เคยเข้าห้อง common room มาก่อน วันนี้ก็เลยแวะมารายงานตัวค่ะ ติ๊กอยู่รุ่น 82 ค่ะ จากคณะรัฐศาสตร์ อย่าลืมมาลงเรื่องของตัวเองด้วยนะจ้ะพี่ติ๊ก
เป็นนักเขียนอยู่แล้วไม่น่าจะเป็นเรื่องยากใช่ป่าว :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #628 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2550, 01:27:10 » |
|
Oh,another champion of mouthtaek??? fine,I am excited. noo Tik,get start...please. The audience is ready to.... p.nungning 27,37,67
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tiktokthailand
|
|
« ตอบ #629 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2550, 10:17:52 » |
|
เข้ามาอ่านกระทู้นี้ใน forum ของน้องๆรุ่น 81 ซะที อ่านแล้วเพลินดีค่ะ แล้วก็เจอเพื่อนเอ tag มาเลย เมื่อ tag มา ... ก็ได้เรย จัดห้ายยยย ร่ายยาวๆเป็นเพื่อนพี่ประภาศรีเลยละกัน (โห...เทียบรุ่น ^^) อีกอย่างคือเป็นคนไม่ชอบอะไรสั้นๆ อิอิ
1 Be happy with who I am ….
ชื่อจริง อิสยาภรณ์ แสนโท ค่ะ จริงๆชื่อแรกเกิดถึงหกขวบเนี่ย ยาวกว่านี้มาก ... 8 พยางค์ พ่อตั้งมาได้ไงไม่รู้ ที่เปลี่ยนเพราะคุณหมอประจำบ้าน บอกว่าเปลี่ยนเหอะ ... ไอ้ลูกสาวคุณมันป่วยบ๊อยยย บ่อย มาหาผมที ทำเอาพยาบาลของผมอยากจะลาออก กว่าจะแกะโฉนดชื่อออกได้ 5555 เท่านั้นล่ะ...เลยตัดเหลือ 4 พยางค์หลังได้มาเป็นอิสยาภรณ์ ซึ่งก็แปลกอีก เพราะจะ อิสริยาภรณ์ก็ไม่ได้ แต่แบบนี้ล่ะชอบละ ขอบคุณคุณพ่อที่ตั้งชื่อเพราะๆแปลกๆชื่อนี้ให้ ส่วนชื่อเล่น อิ๋ม เนี่ยก็ชอบมากเหมือนกัน เป็นแบบไทยๆก็มาจาก อุ๋มอิ๋ม ที่แปลว่าเล็กๆน่ารักๆ แบบจีนก็แปลว่า soul ฟังดูขลังดี คุณพ่อเป็นอาจารย์สอนศิลปะที่ช่วงท้ายกลายเป็นนักการศึกษา คุณแม่เป็นแม่บ้าน-เกษตรกร-นักบุกเบิก-และตอนนี้ไปลงเอยที่กิจการร้านอาหารที่อเมริกาซะนี่ ^^" อิ๋มเกิดที่อุบลราชธานี รักจังหวัดนี้ค่ะ รู้สึกว่าโชคดีที่ได้เกิดที่นี่ เรียนประถมที่โรงเรียนแถวบ้านแบบเดินไปเรียนทุกวัน ... โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว ข้างหลังติดบึงหนองบัวขนาดใหญ่ อากาศดีมีลมโกรก ด้านหน้าติดวัดหนองบัว เจอทัวร์ฝรั่งแทบทุกวีคเพราะดันเป็น tourist spot มัธยมต้นและปลาย ที่โรงเรียนนารีนุกูล โรงเรียนสตรีประจำจังหวัด แล้วก็มาเป็นสิงห์ดำ รัฐศาสตร์ ภาคความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ณ จุฬาฯ และแน่นอน ... ซีมะโด่ง 79
2 อะไรที่เป็น boy’s stuff ไอ้อิ๋มเหมาหมด ^^
คิดว่าน่าจะเป็นอิทธิพลของพี่ชายสองคน ตอนเด็กๆเลยกลายเป็นลูกชายคนที่สามของแม่ ทะโมนมาก ช่วงเด็กๆโตที่บ้านไร่ของฝั่งแม่ แวดล้อมด้วยต้นไม้ ทีนี้ก็เสร็จไอ้อิ๋ม วันๆใช้ชีวิตอยู่บนต้นมะม่วง ทุเรียน ขนุน (ไม่ใช่ผีขนุนนะยะ) ดีนะ... ต้นกล้วยมันปีนไม่ได้ พอจะเข้าอนุบาล แม่เห็นว่าไม่ได้การ เดี๋ยวลูกชั้นไม่ได้รับการศึกษาแบบเด็กศิวิไลซ์ เลยย้ายครอบครัวมาอยู่บ้านที่เมืองอุบล พอไม่ได้ป่ายปีนต้นไม้แล้ว เลยหันมาเตะบอลกับพี่ชายแทน จากเล่นกันสามพี่น้อง (เด็กใหม่แถวนั้น) มาเป็นทีม (อยู่นานเริ่มเก๋า) ดังนั้นไอ้อิ๋มเลยได้เตะบอลตั้งแต่ 6 ขวบถึง 11 ขวบ ที่เลิกไปไม่ใช่อะไรหรอก ... เพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวในบรรดาหนุ่มน้อยละแวกบ้านร่วมสิบกว่าคน แล้วตอนนั้นมันเริ่มมีทรวดทรงองค์เอวแล้วไง เลยโดนอัปเปหิไปเป็นตำแหน่งกระติกน้ำซ้ายไปโดยปริยาย ถึงแม้สมาชิกในทีมจะเสียดายฝีเท้าก็ตามที ฮืออออ.... พอเล่นไม่ได้ ก็หันมาบ้าบอลแทน (ใช้คำนี้เลยล่ะ บ้าจริงๆ) พี่สองคนมันบ้าหงส์ ส่วนน้องสาวบ้าผีแดง แม่เลยกลุ้มใจทุกครั้งที่มีวันแดงเดือด 555 ส่วนการ์ตูนเนี่ย ... เริ่มอ่านจากการ์ตูนผู้ชายก่อน หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ วีรบุรุษลหุโทษ ดราก้อนบอลล์ Etc. จำได้ว่าอ่านพวกนี้ตั้งแต่อยู่ ป 1 ป 2 เนี่ยล่ะ จนมาติดมากๆก็ สุดเวอร์สึบาสะ ... เจ้าหนูสิงห์นักเตะ แต่ก่อนเล่มละห้าบาทออกทุกวันศุกร์ ดังนั้นช่วง weekday ก็จะเก็บตังค์วันละบาท พอวันศุกร์ก็ซื้ออ่านได้พอดี ^^ ช่วงนั้นการ์ตูนเต็มบ้าน Talent มีทุกเล่ม อันนี้คอการ์ตูนรุ่นเก่าคงจะรู้จักดี แต่ก็คิดว่า ในตัวเราคงจะมีด้านที่เป็นผู้หญิงที่ strong มากๆ เพราะขนาดโตมาแบบนี้ แต่อิ๋มก็ยังมีความเป็น girly girl อยู่เยอะพอดู แบบว่าชอบแฟชั่น ชอบบิวตี้ ชอบทำอาหาร และร้องไห้ง่ายมากกก ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง หมา แมว ม้าเนี่ย ต่อมน้ำตาจะแตกเร็วเป็นพิเศษ
3 นักเรียนร้อยเวที บ้า activity สุดริด
วงการนางงามเค้ามี นางงามร้อยมงกุฏ แต่อิ๋มเป็นพวกร้อยเวที เดินสายไปประกวดนั่นนี่ตามที่ต่างๆ จริงๆแล้วอิ๋มเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความพยายามเรื่องเรียนเท่าไหร่ ชอบศึกษาด้วยตัวเองมากกว่า เป็นคนแอนตี้การเรียนพิเศษ ตลอดชีวิตโรงเรียนสอนพิเศษไม่ได้กินตังค์ตูร้อก! ^^ ตอนช่วงประถมปลายเนี่ย มีหน้าที่รับจ้างแข่ง คือแทบไม่ต้องเข้าเรียนคลาสปกติ เวลาที่ใกล้ๆวันแข่ง ที่โรงเรียนจะมีห้องพิเศษสำหรับทีมนักเรียนตัวแทน มีอาจารย์มาติวให้ตัวต่อตัว ตอนเย็นก็ต้องอยู่ติว วันเสาร์อาทิตย์ก็มาโรงเรียน 3 ปีที่อยู่ที่โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว... แทบไม่มีช่วงไหนเลยที่ว่าง ไม่แข่งวิชาการ ก็แข่งสวดมนต์ แข่งวาทะ แข่งนักธรรม แข่งวาดรูป ฯลฯ แล้วที่โชคดีคืออิ๋มจะต้องได้อะไรติดไม้ติดมือมาตลอด เวทีใหญ่สุดก็คือระดับประเทศเชียวนา เป็นการแข่งขันคนเก่งจากตัวแทนทุกจังหวัด ได้ที่สามมาด้วย (ตอนนั้นงงๆได้มายังไงหว่า ..) ตอน ป 6 ก็จับพลัดจับผลูได้เป็นประธานนักเรียน
พอขึ้นมัธยมต้นที่นารีนุกูล ... คราวนี้วิชาการห่วยแตก เพราะเลือกสายผิด โง่เลขมากๆ ดันมาเรียนสายวิทย์ กลายเป็นแกะดำในห้องคิง สามปีที่ ม.ต้น เลยไม่เอาอะไรซักอย่าง จน ม.ปลาย รักนารีฯมาก อยู่ต่อ ในขณะที่เพื่อนกว่า 95% เลือกไปหาปู้จายที่โรงเรียนชาย ... เบญจะมะมหาราชหมด ชิชิ คราวนี้เลือกศิลป์ฝรั่งเศส เข้าทางละ พอเรียนรู้เรื่องเลยมีกะใจทำกิจกรรม ^^ ดังนั้นงานกีฬาสี กีฬาจังหวัด เข้าค่าย เดินรณรงค์ อะไรที่เป็นงานโรงเรียนหนูช่วยหมด! ตอน ม.ปลาย สนุกมาก ใช้ชีวิตคุ้มสุดๆ ทำกิจกรรมอย่างเดียวเลย บางวันก็มีทำกิจกรรมนอกโรงเรียน ... ปีนรั้วโรงเรียนไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าอร่อย แล้วทีมที่ปีนเนี่ย มีทั้งประธานนักเรียนและรองฝ่ายต่างๆ แห่งห้อง ม. 6/10 ทั้งน้านนน พอมาอยู่จุฬาฯ ก็ช่วยกิจกรรมได้ตามกำลัง ทำคอนเสิร์ตหาทุน งานหอสารพัน เป็นเลขาหอพัก เป็นหัวจู เป็นว๊าก เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ เหนื่อยแต่สนุกคุ้ม
4 รักหนัง รักเพลง รักกีฬามากๆๆ
จำได้ว่าตั้งแต่เด็กๆ ก็เอาเทปพีค๊อคที่รวมเพลงสากลฮิตๆมาฟัง ร้องตามเพลงลูกทุ่ง ชอบดูหนังทุกแนว ฟังเพลงทุกแนว ชอบดูกีฬาหลากหลาย ฟุตบอล เทนนิส บาส กอล์ฟ ซึ่งอิ๋มต้องขอบคุณหนัง+เพลง+กีฬา มากๆ เพราะทำให้อิ๋มสนใจใคร่ศึกษาในเรื่องอื่นๆต่อไปด้วย เช่นรู้เรื่องประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ การเมืองของประเทศต่างๆดีขึ้น ได้ภาษา&สำเนียง ได้ความรู้เรื่องแฟชั่น และอื่นๆอีกมากมาย ... คิดว่า ตัวเองโชคดีมากที่ครั้งหนึ่งได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักและที่ตัวเองเป็น 5 ปีในค่ายเพลงสากล ได้เดินทางไปประเทศต่างๆ ได้ทำงานกับศิลปินที่ตัวเองชอบ ได้พาพี่ Mike กะ Chester จาก Linkin Park ไปทานข้าว ได้พา Jay Chou ไปช้อปปิ้ง ไปเจอ Avril Lavigne ไปโดน Kenny G ลวนลาม (อ๊ะ...อันนี้ไม่เกี่ยวนิ!) ประสบการณ์ตรงนี้ อิ๋มคิดว่ามันยิ่งใหญ่มากสำหรับเด็กน้อยที่โตมาจากบ้านไร่ ที่ครั้งหนึ่งยังไม่มีแม้แต่ไฟฟ้าใช้ ^^"
5 ส่งท้าย....
อิ๋มจะย้ำกับตัวเองเสมอว่าอิ๋มเป็นคนโชคดีในหลายๆเรื่อง (ชาติก่อนคงทำบุญมาดี) มีพ่อที่เจ๋งที่ทำให้เรากล้าคิดกล้าแสดงออก มีแม่ที่ทันสมัย แม่อิ๋มเป็นได้ทุกอย่าง ตั้งแต่นักธรรมจนถึงนักการฑูต (แม่บ้านจากอุบลฯคนนี้นี่ล่ะที่สอนภาษาอังกฤษให้อิ๋มตั้งแต่อยู่ ป 1) ได้รับอิทธิพลคูลๆจากพี่ชาย ได้โอกาสดีๆหลายอย่าง มีงานที่ดี เพื่อนส่วนใหญ่ที่เจอก็เป็นคนดี มีบ้านหลังน่ารักที่นี่ มีรถคันเก่งที่ไม่เคยงอแง แต่เคยมีช่วงนึง...ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนไม่มีโชคดวงเรื่องคู่อย่างถึงที่สุด เพราะชอบคน (แบบจริงๆจังๆ) ยากมากกก นานๆทีอุตส่าห์ไปชอบใครก็มักจะผิดที่ผิดจังหวะตลอด แต่ตอนนี้ภูมิใจแฮะ...คิดว่าเป็นโชคดีของเราที่สถิติยังเป็นศูนย์อยู่ และน่าจะเป็นยังงี้ไปอีกนาน ^^
อันนี้ท้ายจริงๆ ... อิ๋มว่าตอนยังเด็กกว่านี้ เราทำอะไรโง่ๆกับคนอื่นและตัวเองมามาก พอเริ่มมีอายุ หลายคนกลัวความแก่ กลัวการเปลี่ยนแปลง แต่อิ๋มไม่กลัวแฮะ older ก็คือ wiser อิอิ ... อายุมาก สติก็มา ปัญญาจึงเกิด พอมองย้อนกลับไป ปาวารณาตัวเองได้ ก็เก็บเอาตรงนั้นมาสอนตัวเรา และท่องเอาไว้ ทำดี ได้ดี ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้าล่ะ ^^
Well, ยาววววววววววว .... สมใจอยากมะคะ งั้น tag ต่อ ทิ้งภาระให้รายชื่อเหล่านี้
1 พี่ตี๋เล็ก 78 2 เพื่อน Max 79 3 อาจารย์ O 79 (คนนี้ยาวแน่ๆ อิอิอิ) 4 น้องตุ๊กตา 80 -- น้องโรงเรียน และตามมาเป็นน้องคณะอีก 5 น้อง Mek เมฆ 80 ส่วนคนนี้ขอเพิ่มเป็นพิเศษนะคะ ... 6 พี่เป็ก pexchula 77 -- พี่จังหวัดของหนูเอง เพิ่งเห็นว่าพี่เป็กเข้าบอร์ดนี้ คิดถึงๆ
ดังนั้น 6 ท่านนี้ รีบๆมาร่ายเรื่องซะดีๆ ^^
อ๊ะ ... ตามกติกา เค้าให้โพสท์รูปด้วยนิ จัดห้ายยยย ... เพิ่งได้อ่านเรื่องราวของพี่คณะ พี่อิ๋มเก่งมากกกกกกกกกกกก ค่ะ ภูมิใจจังที่ได้เป็นน้องคณะ ตอนนี้ ติ๊กมีความใฝ่ฝันว่าอยากร่วมงาน (และถ้าได้แต่งงานก็คงดี) กับเจค จิลเลนฮาล มาก กำลังพยายามในหนทางของตัวเองอยู่ (เอ่อ... ติ๊กเป็นคนจริงจังนะคะ ดังนั้น ที่พูดมานี่ พูดจริงค่ะ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เน๊ะ เภสัช 40
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 362
|
|
« ตอบ #630 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2550, 15:58:05 » |
|
[b]ฮารุกิ มุราคามิบอกว่า "ความตายดำรงอยู่, มิใช่ภาคตรงข้าม, หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต"[/b][/color]
น้องติ๊ก ดีใจจังที่มีคนอ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนพี่ แล้วพี่ก็ชอบประโยคนี้อย่างแรงเหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ust keep trying and trying It\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\'s just a matter of timing Though the grinding is tiring Don\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\'t let \\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\'em stop you from smiling
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #631 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2550, 16:05:26 » |
|
I still don't want to die now..keep away from me ,death! p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เน๊ะ เภสัช 40
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 362
|
|
« ตอบ #632 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2550, 16:11:48 » |
|
คนมีความสุข มีครอบครัวน่ารักๆอย่างพี่หนุงหนิง ก็ต้องยังไม่อยากตายเป็นธรรมดาแหละจ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ust keep trying and trying It\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\'s just a matter of timing Though the grinding is tiring Don\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\'t let \\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\'em stop you from smiling
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #633 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2550, 16:18:07 » |
|
Nong Nae, if Nong Jojo still not continues his Tag..we chat in this room till dawn naka?? Have you finished you Tag??? p. :twisted: :twisted:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jviruch-78
|
|
« ตอบ #634 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2550, 18:46:07 » |
|
แหะๆ ช้าไปวันนีงครับ let go to part 3!!!
3) “เหลียวมอง”
ผมเกิดที่สงขลา แต่มาโตที่ภูเก็ต ตั่งแต่อายุยังไม่ครบ เจ็ดวัน ผมอยู่กะย่า จริงๆความทรงจำหรือเรื่องราวตอนยังเด็ก นี้จำไม่ค่อยได้ รู้ตัวอีกที ที่จำได้คือ พ่อแม่แยกทางกัน พ่อทำงานหลายที่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เลยสนิทกะย่าและเป็นหลานรักด้วยนะ
ย่าผมเป็นครู ดุซะด้วย ผมว่าตอนเด็ก ผมเป็นคนเงียบๆน่ะ เรียนก็ปานกลาง ไม่ค่อยมีโอกาสออกไปเที่ยวนอกบ้าน แบบว่า ย่าต้องเลี้ยง อาๆ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลา แล้วก็ไม่อยากให้ออกไปใหน เด็กๆผมเลยติดการ์ตูน กะปั้นดินน้ำมัน (ใครเคยเล่นปั้นดินน้ำมัน บ้างครับ) ติดปั้นดินน้ำมันจนจบ ม.ต้นแหนะ (ตอนนี้อายมากๆ) ปั้นเก่งมากเลยน่ะ ผมจะเล่นเป็นแบบการ์ตูน ต่างๆต่อสู้กัน ประมาณว่าไม่ได้ออกนอกบ้านเลยใช้จินตนาการกะตัวเอง ไม่ยุ่งกะใครเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวซึ่งผมคิดว่า อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเป็นคนช่างคิด และช่างจินตนาการมาจนถึงปัจจุบันก็ได้
สมัยเด็กผมเล่นกีฬาไม่เก่งเอาซะเลย วิชากีฬานี้ เกรด สอง ตลอด เด็กตัวเล็กผอมๆ ก็เลยไม่ค่อยอยากเล่น อ้อ มีวิชา กีฬาวิชาหนึ่ง คือ วิชาเต้นๆอะไรซะอย่างนี้แหละ ผมได้เกรดสี่ เพราะชอบเต้น แร็ปเริป นี้หัดน่ะคราบพี่น้อง ผมเต้นถ้าหนอน ที่นอนราบกะพื้นแล้วกระดึบกระดึบแบบหนอนได้ด้วยแหละ ถ้ามูนวอร์คนี้ไม่ต้องพูดถึง เบรดเด้นต์นี้สบาย ตอนนี้ก็พอได้อยู๋น่ะเจอกันได้ตามสถานบันเทิงทั่วไป
อย่างที่เกรินไว้คือ ครอบครัวแรกๆจริงๆผมว่าค่อนข้างลำบาก ผมจึงไม่กินพวกขนมขบเคี้ยว ผมไม่เล่นของเล่น (แต่ย่าผมพยายามทำให้ผมรู้สึกว่า ไม่ลำบาก เพื่อไม่ให้น้อยใจหรือเป็นปมด้อยอะไรทำนองนี้ โดยยอมลำบากเพื่อลูกหลาน ) ผมรู้และพยายามเสงี่ยมเจียมตน ไม่ฟุ่มเฟือย ในสมัยเด็ก แต่ผมก็คิดว่าถ้าโตขึ้น ผมคงทำงานไม่ทำให้ย่าลำบากอีก ทำให้ผมพยายามเรียนหนังสือ และ อยากเรียนสูงๆ จะได้ทำงานดีๆ อันนี้ผมคิดว่าดีน่ะ กะว่ามีลูกจะสอนให้ลำบาก ไม่ตามใจอะไรง่ายๆ แล้วก็สอนให้รู้จักคิด (โชคดีอาจได้คิดแบบเดียวกะเรา)
อ้อ ผมหัดเล่นฟุตบอลตอน ม 4 นี้เอง ตอนนั้นมีแข่งกันเล่นๆระหว่างห้อง ไอ้เพื่อนที่มันเป็นโกล์ ตัวจริงมันย้ายไปเรียนที่ใหนก็ไม่รู้ ผมเลยได้เป็นผู้รักษาประตูอันดับหนึ่งของห้อง เอางี้แยกเรื่อง ฟุตบอลต่างหากแล้วกัน โม้ได้เรื่องหนึงเลยน่ะเนี้ย นี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้เขียนหรือเล่าเรื่องในวัยเด็กที่ผมไม่ค่อยได้เหลียวมองสักเท่าไร ถ้ามีประโยชน์กับใครบ้างก็คงดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #635 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2550, 19:35:39 » |
|
Nong jojo, oh,yes,too much.Much more than you can realize..it make you to be "touchable"for us here.We can see you not only"dark,tall and handsome" but the soft side,the tough side of your childhood.Money is not the decision from your back to judge your future.I am really proud of you.Songkhla and Phuket is and will be my future home too.I would like to get know your grandmom.I would like to tell her how excellent she is to grow you up with a today result. what can I write more?? p.nungning
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
MahDee
|
|
« ตอบ #636 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2550, 16:51:34 » |
|
ความลำบากสร้างคนจริงครับ
ความสบาย บางที ก็ทำให้คนเราอ่อนแอ รับความทุกข์หนัก ๆ ไม่ค่อยได้ แค่โดนพ่อแม่ด่า หรือแฟนทิ้ง ก็ฆ่าตัวตายแล้ว...(น่าเศร้า :? )
นึก ๆ ไป ก็โชคดีที่เกิดมาลำบาก มันทำให้เราต้องสู้ แกร่งขึ้นทุกครั้งที่ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ อดทน และปรับตัวอยู่ในสังคมได้....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
wannee
Global Moderator
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: จุฬาฯรุ่นประวัติศาสตร์ 2516
คณะ: ทันตแพทยศาสตร์
กระทู้: 4,806
|
|
« ตอบ #637 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2550, 19:53:14 » |
|
เห็นด้วยกับน้องมัฮดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เสียด" ภาษาจีนฮากกา แปลว่า หิมะ
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #638 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2550, 20:04:11 » |
|
Nong Jviruch, Jojo,handsome boy...fan fan are waitting for you..don't cheat...next part jaaa.P.Wannee,Nong Mahdee are you ready? you both need a handkerchip...next part...so sad... p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
wannee
Global Moderator
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: จุฬาฯรุ่นประวัติศาสตร์ 2516
คณะ: ทันตแพทยศาสตร์
กระทู้: 4,806
|
|
« ตอบ #639 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2550, 20:12:05 » |
|
:cry: :cry: :cry: :cry: :cry:
Please change to
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เสียด" ภาษาจีนฮากกา แปลว่า หิมะ
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #640 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2550, 20:22:28 » |
|
P.Wannee ka, It is sad for another cute girl ka...because Nong Jojo said he doesn't know how to flirt the beautiful girls ka..so sao,sao..are sooooo sad. nn.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dto80
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 471
|
|
« ตอบ #641 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2550, 20:31:15 » |
|
ความลำบากสร้างคนจริงครับ
ใช่ครับ คน จะสร้างคน ก็ลำบากครับ ต้องผ่านหลายขั้นตอน เรื่องเดียวกันเป่าเนี้ยะ ?? :oops:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #642 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2550, 20:38:01 » |
|
Dto, sure.the same nearly topic ja. p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #643 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2550, 00:18:31 » |
|
ความลำบากสร้างคนจริงครับ
ความสบาย บางที ก็ทำให้คนเราอ่อนแอ รับความทุกข์หนัก ๆ ไม่ค่อยได้ แค่โดนพ่อแม่ด่า หรือแฟนทิ้ง ก็ฆ่าตัวตายแล้ว...(น่าเศร้า :? )
นึก ๆ ไป ก็โชคดีที่เกิดมาลำบาก มันทำให้เราต้องสู้ แกร่งขึ้นทุกครั้งที่ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ อดทน และปรับตัวอยู่ในสังคมได้.... คิดเหมือนกันเลยค่ะ
ต้องขอบคุณพ่อแม่ ที่ทำให้เราได้เจอกับความยากลำบาก ได้รู้ได้เห็นว่าท่านลำบาก ขอบคุณประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ที่ทำให้เราแกร่งขึ้น....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #644 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2550, 00:30:06 » |
|
Nong Plaa, I would say we have to definite the word"ความลำบาก"please don't mix it with"poor" as it is a two different part of shoes.sometimes we as a child never have an eyes of ความลำบาก as a trouble but as a fun and joyful.If we look back then we could realize to devide it ....now I as a parent..try to grow up my child with a bright side of life like my parent used to do.I try my best to give them this happy childhood..as I myself used to have from them.To be a stable population for the 20-century..herr,herr...p.Ning Yee-gae again... good night. p.yeegae
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
iamfrommoon
|
|
« ตอบ #645 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2550, 08:09:49 » |
|
แหะๆ ช้าไปวันนีงครับ let go to part 3!!!
3) “เหลียวมอง”
ผมเกิดที่สงขลา แต่มาโตที่ภูเก็ต ตั่งแต่อายุยังไม่ครบ เจ็ดวัน ผมอยู่กะย่า จริงๆความทรงจำหรือเรื่องราวตอนยังเด็ก นี้จำไม่ค่อยได้ รู้ตัวอีกที ที่จำได้คือ พ่อแม่แยกทางกัน พ่อทำงานหลายที่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เลยสนิทกะย่าและเป็นหลานรักด้วยนะ
ย่าผมเป็นครู ดุซะด้วย ผมว่าตอนเด็ก ผมเป็นคนเงียบๆน่ะ เรียนก็ปานกลาง ไม่ค่อยมีโอกาสออกไปเที่ยวนอกบ้าน แบบว่า ย่าต้องเลี้ยง อาๆ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลา แล้วก็ไม่อยากให้ออกไปใหน เด็กๆผมเลยติดการ์ตูน กะปั้นดินน้ำมัน (ใครเคยเล่นปั้นดินน้ำมัน บ้างครับ) ติดปั้นดินน้ำมันจนจบ ม.ต้นแหนะ (ตอนนี้อายมากๆ) ปั้นเก่งมากเลยน่ะ ผมจะเล่นเป็นแบบการ์ตูน ต่างๆต่อสู้กัน ประมาณว่าไม่ได้ออกนอกบ้านเลยใช้จินตนาการกะตัวเอง ไม่ยุ่งกะใครเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวซึ่งผมคิดว่า อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเป็นคนช่างคิด และช่างจินตนาการมาจนถึงปัจจุบันก็ได้
สมัยเด็กผมเล่นกีฬาไม่เก่งเอาซะเลย วิชากีฬานี้ เกรด สอง ตลอด เด็กตัวเล็กผอมๆ ก็เลยไม่ค่อยอยากเล่น อ้อ มีวิชา กีฬาวิชาหนึ่ง คือ วิชาเต้นๆอะไรซะอย่างนี้แหละ ผมได้เกรดสี่ เพราะชอบเต้น แร็ปเริป นี้หัดน่ะคราบพี่น้อง ผมเต้นถ้าหนอน ที่นอนราบกะพื้นแล้วกระดึบกระดึบแบบหนอนได้ด้วยแหละ ถ้ามูนวอร์คนี้ไม่ต้องพูดถึง เบรดเด้นต์นี้สบาย ตอนนี้ก็พอได้อยู๋น่ะเจอกันได้ตามสถานบันเทิงทั่วไป
อย่างที่เกรินไว้คือ ครอบครัวแรกๆจริงๆผมว่าค่อนข้างลำบาก ผมจึงไม่กินพวกขนมขบเคี้ยว ผมไม่เล่นของเล่น (แต่ย่าผมพยายามทำให้ผมรู้สึกว่า ไม่ลำบาก เพื่อไม่ให้น้อยใจหรือเป็นปมด้อยอะไรทำนองนี้ โดยยอมลำบากเพื่อลูกหลาน ) ผมรู้และพยายามเสงี่ยมเจียมตน ไม่ฟุ่มเฟือย ในสมัยเด็ก แต่ผมก็คิดว่าถ้าโตขึ้น ผมคงทำงานไม่ทำให้ย่าลำบากอีก ทำให้ผมพยายามเรียนหนังสือ และ อยากเรียนสูงๆ จะได้ทำงานดีๆ อันนี้ผมคิดว่าดีน่ะ กะว่ามีลูกจะสอนให้ลำบาก ไม่ตามใจอะไรง่ายๆ แล้วก็สอนให้รู้จักคิด (โชคดีอาจได้คิดแบบเดียวกะเรา)
อ้อ ผมหัดเล่นฟุตบอลตอน ม 4 นี้เอง ตอนนั้นมีแข่งกันเล่นๆระหว่างห้อง ไอ้เพื่อนที่มันเป็นโกล์ ตัวจริงมันย้ายไปเรียนที่ใหนก็ไม่รู้ ผมเลยได้เป็นผู้รักษาประตูอันดับหนึ่งของห้อง เอางี้แยกเรื่อง ฟุตบอลต่างหากแล้วกัน โม้ได้เรื่องหนึงเลยน่ะเนี้ย นี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้เขียนหรือเล่าเรื่องในวัยเด็กที่ผมไม่ค่อยได้เหลียวมองสักเท่าไร ถ้ามีประโยชน์กับใครบ้างก็คงดี น้องโจ้เลีย... ต้อง thank u มั่กมาก...ที่นำ "ครั้งแรกในชีวิต" มาแบ่งปันให้ชาวซีมะโด่งได้รู้จักน้องโจ้มากขึ้น...ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา "หากมองชีวิตแบบเข้าใจและคิดแบบ positive thinking" ถึงลำบาก แต่ก็ไม่ยากที่จะผ่านมันไปได้ อ่านของโจ้แล้วทราบซึ้งใจมากค่ะ...
รออีก 2 parts ja or more ก็ได้นะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #646 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2550, 15:35:33 » |
|
Nong Plaa, I would say we have to definite the word"ความลำบาก"please don't mix it with"poor" as it is a two different part of shoes.sometimes we as a child never have an eyes of ความลำบาก as a trouble but as a fun and joyful.If we look back then we could realize to devide it ....now I as a parent..try to grow up my child with a bright side of life like my parent used to do.I try my best to give them this happy childhood..as I myself used to have from them.To be a stable population for the 20-century..herr,herr...p.Ning Yee-gae again... good night. p.yeegae สำหรับป.ปลา ความจน หรือความลำบาก แตกต่างจากความทุกข์ค่ะ ชีวิตของป.ปลา ถึงจะจน ลำบากลำบนแค่ไหน พวกเราก็มีความสุขกับมันค่ะ
พ่อแม่ เลี้ยงเรามา ถึงท่านจะลำบาก แต่ท่านก็มีความสุข ที่ได้เห็นเราเติบโต ป.ปลา มีความสุข และภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกท่าน ให้ท่านได้อบรมสั่งสอน มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน แค่นี้ ก็เพียงพอแล้วค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #647 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2550, 16:48:03 » |
|
Noo Plaa, and I am glad to have a chance to know you!!
Nong Jojo, I count down an hour to read another part.....please, p.nn(nuannien!!!)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #648 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2550, 17:13:26 » |
|
แหะๆ ช้าไปวันนีงครับ let go to part 3!!!
3) “เหลียวมอง”
ผมเกิดที่สงขลา แต่มาโตที่ภูเก็ต ตั่งแต่อายุยังไม่ครบ เจ็ดวัน ผมอยู่กะย่า จริงๆความทรงจำหรือเรื่องราวตอนยังเด็ก นี้จำไม่ค่อยได้ รู้ตัวอีกที ที่จำได้คือ พ่อแม่แยกทางกัน พ่อทำงานหลายที่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เลยสนิทกะย่าและเป็นหลานรักด้วยนะ
ย่าผมเป็นครู ดุซะด้วย ผมว่าตอนเด็ก ผมเป็นคนเงียบๆน่ะ เรียนก็ปานกลาง ไม่ค่อยมีโอกาสออกไปเที่ยวนอกบ้าน แบบว่า ย่าต้องเลี้ยง อาๆ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลา แล้วก็ไม่อยากให้ออกไปใหน เด็กๆผมเลยติดการ์ตูน กะปั้นดินน้ำมัน (ใครเคยเล่นปั้นดินน้ำมัน บ้างครับ) ติดปั้นดินน้ำมันจนจบ ม.ต้นแหนะ (ตอนนี้อายมากๆ) ปั้นเก่งมากเลยน่ะ ผมจะเล่นเป็นแบบการ์ตูน ต่างๆต่อสู้กัน ประมาณว่าไม่ได้ออกนอกบ้านเลยใช้จินตนาการกะตัวเอง ไม่ยุ่งกะใครเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวซึ่งผมคิดว่า อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเป็นคนช่างคิด และช่างจินตนาการมาจนถึงปัจจุบันก็ได้
สมัยเด็กผมเล่นกีฬาไม่เก่งเอาซะเลย วิชากีฬานี้ เกรด สอง ตลอด เด็กตัวเล็กผอมๆ ก็เลยไม่ค่อยอยากเล่น อ้อ มีวิชา กีฬาวิชาหนึ่ง คือ วิชาเต้นๆอะไรซะอย่างนี้แหละ ผมได้เกรดสี่ เพราะชอบเต้น แร็ปเริป นี้หัดน่ะคราบพี่น้อง ผมเต้นถ้าหนอน ที่นอนราบกะพื้นแล้วกระดึบกระดึบแบบหนอนได้ด้วยแหละ ถ้ามูนวอร์คนี้ไม่ต้องพูดถึง เบรดเด้นต์นี้สบาย ตอนนี้ก็พอได้อยู๋น่ะเจอกันได้ตามสถานบันเทิงทั่วไป
อย่างที่เกรินไว้คือ ครอบครัวแรกๆจริงๆผมว่าค่อนข้างลำบาก ผมจึงไม่กินพวกขนมขบเคี้ยว ผมไม่เล่นของเล่น (แต่ย่าผมพยายามทำให้ผมรู้สึกว่า ไม่ลำบาก เพื่อไม่ให้น้อยใจหรือเป็นปมด้อยอะไรทำนองนี้ โดยยอมลำบากเพื่อลูกหลาน ) ผมรู้และพยายามเสงี่ยมเจียมตน ไม่ฟุ่มเฟือย ในสมัยเด็ก แต่ผมก็คิดว่าถ้าโตขึ้น ผมคงทำงานไม่ทำให้ย่าลำบากอีก ทำให้ผมพยายามเรียนหนังสือ และ อยากเรียนสูงๆ จะได้ทำงานดีๆ อันนี้ผมคิดว่าดีน่ะ กะว่ามีลูกจะสอนให้ลำบาก ไม่ตามใจอะไรง่ายๆ แล้วก็สอนให้รู้จักคิด (โชคดีอาจได้คิดแบบเดียวกะเรา)
อ้อ ผมหัดเล่นฟุตบอลตอน ม 4 นี้เอง ตอนนั้นมีแข่งกันเล่นๆระหว่างห้อง ไอ้เพื่อนที่มันเป็นโกล์ ตัวจริงมันย้ายไปเรียนที่ใหนก็ไม่รู้ ผมเลยได้เป็นผู้รักษาประตูอันดับหนึ่งของห้อง เอางี้แยกเรื่อง ฟุตบอลต่างหากแล้วกัน โม้ได้เรื่องหนึงเลยน่ะเนี้ย นี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้เขียนหรือเล่าเรื่องในวัยเด็กที่ผมไม่ค่อยได้เหลียวมองสักเท่าไร ถ้ามีประโยชน์กับใครบ้างก็คงดี ดีใจที่มีพี่เก่ง ๆ เด็ก ๆ ผมก็เคยลำบากเหมือนกัน... :)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #649 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2550, 23:36:25 » |
|
Nong Lim, have I ever read your story???hmm,for 21 pages..can not remember any more...please repeat it..I am sure it is not the same..and please not cheat copy the last one...we need a deviate story haaa. p.deviation
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|