24 พฤศจิกายน 2567, 07:37:29
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 27 28 [29] 30 31 ... 36  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ++ Blog Tag ++  (อ่าน 336495 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 17 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
air14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 185

« ตอบ #700 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2550, 13:24:00 »

ไม่รู้ว่าโดน tag เมื่อไรนะคะ แต่น้องเอ39ไปเตือนไว้ที่กระทู้บ้านสุรชัย ก็เลยใจอ่อน (ยอมท้องผูก หลังจากที่ท้องเสียมานาน)

1. ประวัติย่อๆ
จบมศ.3จากรร.ธิดานุเคราะห์ อ.หาดใหญ่ เข้ากรุง เรียน รร.เตรียมฯ วิดยาจุฬาฯ  แม่อยากให้เรียนหมอ แต่ดีฉันอยู่ชมรม"ตาขาว"อย่างแน่นแฟ้น เลยจบวิดยาค่ะ :)

2. ไส้อั่วเป็นเหตุ
อ้อย 14 เอาไส้อั่วเชียงใหม่มาฝาก เราเลยเอามาอุ่นที่หอใต้ (หอเจ้าจอม) เรากุลีกุจอวางไส้อั่วบนตะแกรงและวางบนเตาไฟฟ้าแบบขดลวด (สมัยนั้นไมโครเวฟยังไม่เกิดนะคะน้องขา) ระหว่างที่เราเฝ้าดูไส้อั่วร้อน ๆ น้ำมันหยดติ๋ง ๆ ลงบนเตา (ไม่ใช่น้ำลายหยดนะคะ)  ไฟก็ลุก ไหม้น้ำมันพรึบๆ  ทันใดก็มีเสียงกัมปนาททางลำโพง (เป็นเสียงของอจ.อำไพ)ว่า “จารุวรรณ นราพร นั่นเธอจะเผาหอหรือ หา !!”  วุ้ย!! ต๊กกะใจ หมดเลย  รีบดึงปลั๊กไฟฟ้าออก และก็อวสานไส้อั่วร้อน ๆ เลยจ้ะ   Cool

3  พี่แอ๊ะ13 ผู้อารี
ตอนอยู่หอปี 2  พี่แอ๊ะ 13 ยื่นของขวัญวันเกิดให้ และบอกว่า “พี่ไม่รู้จะให้อะไรน้องแอเป็นของขวัญวันเกิด พี่เลยเอาสร้อยคอทอง 1 บาทของพี่ไปแบ่งออกมาเป็นสร้อยให้น้องแอ 1 สลึง  น้องแออย่าบอกใครนะ”  โอ๊ย ซึ้ง...ซะ..... พี่แอ๊ะได้ใจน้องไปครองเลยค่ะ  (ความลับก็ถูกเก็บอย่างดีมาจนบัดนี้)  :shock:

4. ไป USA จ้ะ
ไปเรียนMaster degree ที่ USA จ้ะ (ทุน UNIDO) 2 ปี กลับมาทำงาน 6 ปี แล้วไปเรียน Ph.D. 4 ปีจ้ะ (ครานี้ มี team ไปด้วย คือลูกชายและพ่อของลูกชาย เป็นการเรียนที่หนักมากจ้ะ แต่เรียนจบนะจ๊ะ) ทำงานที่นั่น 4 ปีกลับเมืองไทยดีกว่า คิดถึงพ่อแม่ค่ะ  :)  

5. สิ่งดีๆมาบอกจ้า
สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต คือ ได้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน กับพระธรรมธีรราชมหามุนี วัดมหาธาตุ   หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน  คุณแม่สิริ กรินชัย  และนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้สติดีขึ้น ทำอะไรได้ถูกต้องคล่องตัวมากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนดีพร้อมนะจ๊ะ  แต่เรียกว่ามีความสุขมากขึ้นจ๊ะ (ไม่ลองก็ไม่รู้นะจ๊ะ) Tongue

สุดท้าย กราบขอบพระคุณ จุฬาฯ  หอพักนิสิตจุฬาฯ  อจ.สุพพัดดา และอจ.อำไพมากค่ะ ที่ช่วยทำให้เราเติบโตผ่านช่วงวัยรุ่นมาอย่างงดงาม   กราบขอบพระคุณค่ะ อาจารย์  Cheesy

ขอ Tag ต่อนะคะ
1 อจ.สุพพัดดา
2 พี่ปิ้ง07
3 พี่มานพ kd 13
4 อ๋อย สุดใจ 16
5 Toomy 20
บันทึกการเข้า
MahDee
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,081

« ตอบ #701 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2550, 16:04:39 »

Blog tag คืนชีพแล้ว จะรออ่านต่อนะคร้าบบบบบ  :wink:  :wink:
บันทึกการเข้า

RCU 2541>> ปะกาโด่ง 81
----------------------------
http://www.facebook.com/MrMahD
toomy
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,031

« ตอบ #702 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2550, 16:30:11 »

ตามพี่แอ 14 .. เข้ามา อ่าน จนจบ  ตกกะใจ !! โดนแล้ว เรา

ขออนุญาต แปะไว้ก่อน ตามลำดับอาวุโส
จาก อจ.สุพพัดดา - พี่ปิ้ง07 - พี่มานพ 13 - พี่อ๋อย 16 ตามมาติด ๆ ด้วย Toomy 20 นะนะค่ะ

อ่านแล้ว ยิ่งเห็น น้ำใจ ความน่ารักของพี่แอ๊ะ ผู้อารี ช่างมากมายมหาสมุทร  

คิดถึง อจ.สุพพัดดา อจ.อำไพ หวังว่าทั้งสองท่าน ..มีสุขภาพแข็งแรง

ดีใจ ที่ได้อ่านสิ่งดี ๆ ที่มาบอก ..ชอบตรง  "ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนดีพร้อมนะจ๊ะ แต่เรียกว่ามีความสุขมากขึ้น"
บันทึกการเข้า
Nupu
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 266

« ตอบ #703 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2550, 16:34:52 »

เหมือนเล่นแชร์ลูกโซ่เลยค่ะ  เฮ้อแค่อ่านก็เหนื่อยแล้วจ้า
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #704 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2550, 16:39:23 »

P.Air ka,
are you from Songkhla????weii.never know before.The grilling experience make me really happy cause I could even smell it by web.
nn

p.Toomy,don't disappear!I will trace you and P.Somchai everyday,herr,herr
บันทึกการเข้า


air14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 185

« ตอบ #705 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2550, 17:47:07 »

อ้างจาก: "toomy"
ตามพี่แอ 14 .. เข้ามา อ่าน จนจบ  ตกกะใจ !! โดนแล้ว เรา

ขออนุญาต แปะไว้ก่อน ตามลำดับอาวุโส
จาก อจ.สุพพัดดา - พี่ปิ้ง07 - พี่มานพ 13 - พี่อ๋อย 16 ตามมาติด ๆ ด้วย Toomy 20 นะนะค่ะ

อ่านแล้ว ยิ่งเห็น น้ำใจ ความน่ารักของพี่แอ๊ะ ผู้อารี ช่างมากมายมหาสมุทร  

คิดถึง อจ.สุพพัดดา อจ.อำไพ หวังว่าทั้งสองท่าน ..มีสุขภาพแข็งแรง

ดีใจ ที่ได้อ่านสิ่งดี ๆ ที่มาบอก ..ชอบตรง  "ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนดีพร้อมนะจ๊ะ แต่เรียกว่ามีความสุขมากขึ้น"


Dear Toomy,
Thank you for your kind comment. You are thoughtful.
Please Post มาไวๆ ไม่ต้องรีรอ เกี่ยงรุ่นพี่  
ที่พี่ tagไปน่ะ  หิน (ตอบยากๆทั้งนั้น ยกเว้นน้อง Toomy) แต่พี่ก็อยากอ่าน เพราะแต่ละท่านก็มีประสบการณ์ที่น่าทึ่ง น่าแบ่งปันค่ะ
พี่แอ14
บันทึกการเข้า
air14
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 185

« ตอบ #706 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2550, 17:50:30 »

อ้างจาก: "Nupu"
เหมือนเล่นแชร์ลูกโซ่เลยค่ะ  เฮ้อแค่อ่านก็เหนื่อยแล้วจ้า

เจ้าปู
คนพิมพ์เหนื่อยกว่าเยอะ ยิ่งประเภทหาตัวอักษรกว่าจะเจอและนานๆจิ้มแป้นได้ทีอย่างพี่นี่นะ  :twisted:
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #707 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2550, 23:04:15 »

อ้างจาก: "Nupu"
เหมือนเล่นแชร์ลูกโซ่เลยค่ะ  เฮ้อแค่อ่านก็เหนื่อยแล้วจ้า

NUPU,
imagine...I am from page 1..herr,herr เล่นแชร์..will never can collect the interest.
p.nn
บันทึกการเข้า


A79
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #708 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2550, 03:01:20 »

สงสัยต้องหาทีมมาเรียนแบบพี่แอ บ้างจะได้จบเร็วๆๆ  :lol:  :lol:  :lol:
บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #709 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2550, 14:18:13 »

น้องA39  อย่างพี่แอ14นี่ เขาเรียกว่า ชาติก่อนทำบุญมามาก  
กรรมดีเลยส่งผล ให้ เวลาเรียนมีคนให้กำลังใจแบบนี้แหละ เลยจบสบาย
บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #710 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2550, 14:44:03 »

น้องหนิง ขอส่งประวัติ ตอนที่1
วัยเด็ก
ผมเกิดที่ ต.ลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์  ช่วงนั้น ต.ลาดยาวยังไม่มีประปา ไฟฟ้า อย่างทุกวันนี้  กลางคืนต้องใช้ เทียนไข และตะเกียงน้ำมันก๊าด ทุกวัน(ทีวง ทีวี ไม่รู้จัก) ถ้าคนมีกะตัง เขาใช้ตะเกียงเจ้าพายุ สว่างจ้าไปเลย
บ้านผมเป็นครอบครัว ค้าขายของชำ ร้านเล็กๆ ขายกะปิ นำปลา น้ำตาล ข้าวสาร ฯลฯ จัดว่าฐานะค่อนข้างยากจน(แต่ยังดีที่ไม่มีหนี้สิน) ที่บ้าน พี่น้องมาก( พ่อแม่มีลูก9คน) รวยพี่ รวยน้อง แต่ไม่รวยเงินทอง (สมัยก่อนเขาว่า มีลูกคน จนไป 7 ปี  บ้านผมมี9คน ต้องจนกีปี ไปคูณ กันเอาเอง)
ลูกทุกคนต้องช่วยกันทำงานจึงประคับประคองกันให้อยู่รอด ทุกคนมีงานรับผิดชอบหมดทุกตน
ผมเองเริ่มตอนอายุ7ขวบ ตอนนั้นอยู่ ป2 แล้ว ต้องไปขายของที่ตลาดเช้า แม่ขอให้ขายไข่เค็ม ไข่พะโล้ ผม บวก ลบ คูณ หาร เป็นแล้ว (เพราะผ่าน ป1 สอนบวก ลบ แล้ว) ท่านก็ให้ผมบินเดี่ยวขายของคนเดียว ผมต้องตื่นตี4 เพราะต้องถึงตลาดเช้าตี4.5 (เป็นช่วงที่ลำบาก เพราะตี4 ต้องถูกฉุดจากที่นอน ทุกวัน เพราะมันตื่นเองไม่ไหว) อยู่ขายของจนถึง7โมงเช้า เพราะตลาดเช้าจะวายประมาณ 7-7.5 โมงเช้า ถ้าของผมหมดเร็ว ผมก็กลับก่อน 7 โมงเช้า  ถ้า7โมงของไม่หมด ผมก็เลิกขายแล้วหิ้วกลับบ้าน (ส่วนใหญ่ของหมด เพราะผมขี้เกียจ หิ้วของเหลือกลับบ้าน ใกล้ๆ 7โมง ผมจะลด แถม เพื่อให้ขายหมด ไข่ท้ายกระจาดใบจะเล็กลง เพราะใบใหญ่คนแรกๆเลือกไปหมดแล้ว
กลับ บ้าน ผมก็กินข้าว อาบน้ำ ไปโรงเรียนประจำตำบล(อำเภอด้วย) ซึ่งเริ่มสอน 8 โมงเช้า ก็เรียนทันทุกวัน
บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #711 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2550, 15:08:37 »

เด็กวัยนี้ จัดว่าเป็นวัยซน จริงๆ วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เช้ามืด ไปขายของตามปกติ
แต่กลางวันจะว่าง เด็กรุ่นใกล้ๆกันมีมาก ก็ชวนกันไปเล่นซน  
หน้าร้อน หน้ามะม่วง ก็ไป ขโมย มะม่วงในสวนเขา ถ้าสวนไหนใจดี เจ้าของมาเห็นเขาก็จะไล่ ไม่ให้ขโมย และมะม่วงก็ยังไม่แก่จัด บางสวนเจ้าของไม่ใจดีและมีลูกเป็นวัยรุ่น ก็จะยิงหนังสติกไล่เรา เหล่าหัวขโมย มะม่วงที่ได้เป็นมะม่วงเปรี้ยว(สมัยนั้นมี 2 พันธ์หลัก คือมะม่วงแก้ว และมะม่วงอกร่อง) ถึงมะม่วงจะเปรี้ยว พวกเราก็กินกันอย่างเอร็ด อร่อย
หน้าน้ำหลาก ฝนแรกๆ ปลาจะเริ่มออกมาเล่นน้ำ (หมดฤดูมะม่วง) ปลาเริ่มชุกชุมตามลำคลอง พวกเราวัยซน(7-10ขวบ)วันหยุดก็เริ่มตกปลาหาปลา ได้ปลาหมอ ปลาแขยง(ตระกูล ปลากด) ปลาช่อน 3ชนิดนี้เป็นส่วนใหญ่  ได้มาก็เอามาเผากินกัน (เผาโดยโยนเข้ากองไฟ ถ้าหาไม้ไผ่ได้จะเสียบไม้แล้วโยนเข้ากองไฟ) ถ้าได้แยะ ก็ไม่ต้องกับไปบ้านไปกินตอนกลางวัน  ถ้าได้น้อย ก็แยกย้ายกลับไปกินข้าวกลาววันที่บ้าน
ตอนเย็นก็มาเตะบอลที่สนามโรงเรียน ถ้าฝนตก เตะบอลไม่ได้ เราก็เปลี่ยนมา เล่นไพ่(ส่วนใหญ่ ก็เป็นไพ่คู่ หรือไพ่ผสมสิบ) บริเวณ ชานระเบียงโรงเรียน บางครั้ง ครู(เฝ้าเวร)จับได้ จำหน้าได้ว่าเป็นลูกศิษย์ ก็โดนตีคนละ 3ที บ้าง 5ทีบ้าง เป็นรสชาต ของชีวิตจริงๆ
พอเริ่มอยู่ ป.ปลาย(ป5-ป7) ผมก็เรื่มหารายได้เป็นของตัวเอง โดยโรงเรียนขออาสาสมัคร ขาย ไอติม ให้โรงเรียน แต่ไม่มีอาสาสมัคร เพราะอาย กลัวเพื่อนล้อ  ผมจึงเป็นผู้รับอาสา ขายไอติม ช่วงพักเที่ยง ที่โรงเรียน ไอติม แท่งละ 1 สลึง
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #712 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2550, 15:26:11 »

A rich experience...you have a really happy childhood ka p.Somchai.This is surely formed you to be you today.How was your teenager period??
nn.
บันทึกการเข้า


สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #713 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2550, 15:35:44 »

อาหาร ขนม มีหลายอย่างพ่อค้า แม่ค้านำมาขาย แต่ ไอติมโรงเรียนผูกขาดขายเอง
เมื่อผมอาสา ผมก็ชวนเพื่อนอีกคนที่มีความกล้ามาช่วยกันขาย(เพื่อนคนนั้น ปัจจุบันเป็น อัยการจังหวัด จบธรรมศาสตร์) ไอติม 300แท่ง ใช้เวลาขาย 30-40นาที เท่านั้นเอง และครู(โรงเรียน) ก็ให้ค่าจ้างขาย ผมและเพื่อนคนละ 5 สลึงต่อวัน(เยาะมาก ค่าแรงงานก่อสร้าง คนงานได้วันละ 6 บาท ในเวลานั้น) ผมเองได้ค่าขนม จากทางบ้าน วันละ 2 สลึงเท่านั้น   ผมรวยจริงๆในช่วงเวลานั้น(ประมาณ10ขวบ)
ปกติแล้ว ต.ลาดยาว สงบเงียบ จะมีงานรื่นเริง ก็งานวัด งานประจำปีของโรงเรียน งานปีใหม่(อำเภอและโรงเรียนจัดร่วมกัน) รวมแล้วปีละ 3-4ครั้ง มีงานทีหนึ่งเราก็มีความสุขมาก รอวันดังกล่าวเมื่อไหร่จะมาถึงอีกสักที
แต่ที่มาโดยไม่รู้ตัว ได้แก่หนังขายยาและหนังโอวัลติน  เรารียกว่า หนังกลางแปลง เป็นอะไรที่สนุกแลมีรสชาต เติมเต็มให้กลับชีวิตจริงๆ
บางครั้ง พี่ชายกลับผมต้องไปปากน้ำโพ(ตัวเมืองนครสวรรค์)เพื่ทำธุระในเรื่องต่างๆ ซึ่งนานๆ จะไปสักครั้ง   อ.ลาดยาว ห่างจากปากน้ำโพ 40 กม แต่เป็นถนนดิน และถนนลูกรัง  เราเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ใช้เวลา 2 ชม.(เดี๋ยวนี้ใช้เวลา30 นาทีเท่านั้น)
เมื่อทำธุระเสร็จ ผมจะชวนพี่ชายดูหนัง(ภาพยนต์) ซึ่งโรงหนังที่ปากน้ำโพ เป็นโรงหนังชั้นหนึ่ง ติดแอร์ด้วย(เพราะมีไฟฟ้าใช้ ในตัวจังหวัดนครสวรรค์) พี่ชายผมก็อยากดู แต่ไม่มี กะตัง จะดู  ผมอยากดู ผมเลี้ยงเอง ค่าดูหนัง3บาท 2คนก็6บาท (อยู่ 4-5 แถวหน้าสุด  แถวหลังๆจะแพง เป็น5บาทและมากขึ้นเรื่อยๆ) ผมรวย ผมมีเงินเก็บจากค่าจ้างการขายไอติมให้โรงเรียนอยู่แยะ
ผมเรียนโรงเรียนลาดยาวจนจบ ประถม  เมื่อขึ้นมัธยม ผมก็มาเรียนที่ ปากน้ำโพ  โรงเรียนนครสวรรค์(เมื่อปี 2512)
จบตอนแรก  ( รอตอนสองเป็นตอนเรียนมัธยม เด็กโตแล้ว อาจรอนานหน่อย)
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #714 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2550, 15:56:50 »

Doesn't matter ka pee...a good creative work needs time!let me repeat reading it one more time...weiii,2512...and I was 3 years old!!!it is like back to my own experience and my childhood in Songkhla too.
We will patiently wait for the next chapter.
thank you so much and...
Have a nice relaxing Saturday
nungning
บันทึกการเข้า


prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #715 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2550, 20:28:44 »

Shocked น้องสมชาย17 คะ ชีวิตน้องน่าสนใจจริงๆ คล้ายชีวิตพี่แอ๊ะตอนเด็กๆเลยค่ะ

เล่าต่อนะคะ จะเข้ามาอ่านๆ แฟนๆ รอคอยค่ะ Cheesy
บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
A79
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #716 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2550, 22:39:11 »

ในที่สุดพี่สมชาย 17 ก็มานะคะพี่หนิง  Cheesy
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #717 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2550, 02:33:06 »

Next mission...nong A79...Nong Jojo for his last chapter,he can write really "livelyness" I can not believe it was written from an engineer...his chain tagged to nong Teelek...would be also interesting...let force them!
p. :twisted:
บันทึกการเข้า


ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« ตอบ #718 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2550, 03:30:52 »

คอยติดตามผลงานของ ทุกคนเสมอครับ ..

รออ่านตอต่อไปของ พี่สมชายอยู่นะครับ .

 Shocked
บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #719 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2550, 10:23:33 »

ดีใจจังที่มีคนอ่าน
ขอบคุณพี่แอ๊ะ น้องหนิง น้องA39 น้องชาร์ป และท่านอื่นๆที่ติดตาม
วันนี้ผมอยู่บ้าน และปลุกตัวเองให้เขียนตอนต่อไปด้วยความมันส์ :lol:
บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #720 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2550, 10:45:55 »

ช่วงมัธยม
ผมเข้ามาเรียนมัธยม1(เขาเรียกว่า มศ.1-มศ.3และถ้าใครจะเรียนต่อ ก็ต่อ มศ.4-5ได้) ที่โรงเรียนประจำจังหวัดนครสวรรค์(โรงเรียนชาย เด็กชายล้วน)ที่ปากน้ำโพ โรงเรียนเดียวกับพี่Pete15(RCU15)ของเรานี่แหละ พี่ป๋อง13ผมไม่ทันไม่รู้ว่าท่านเรียนที่โรงเรียนนครสวรรค์หรือเปล่า
การเรียนในตัวจังหวัดทำให้ภาระทางบ้านที่ผมต้องช่วย ลดลงจนเป็นศูนย์เลย น้องๆ ผมต้องมารับภาระแทน ถือว่าเป็นการฝึกน้องๆก็แล้วกัน (เพราะผมมาพักบ้านพักครู ข้างโรงเรียนนี่แหละ)
ผมอยู่ มศ.1ห้อง1(มีทั้งหมด8ห้อง)
จะถือว่าเป็น คราว เคราะห์ ของผมก็ว่าได้ ที่ได้อยู่ห้อง1
(ทำให้ผมมีเพื่อนเป็นเด็ก เกเร แยะมาก) ห้อง1 โรงเรียนจะให้ ครูฝรั่ง(อาสาสมัครแลกเปลี่ยน)มาเป็นผู้สอนภาษาอังกฤษ เพราะถือเป็นห้องเด็กเก่งจึงให้ครูฝรั่งสอนภาษาอังกฤษ
ที่ผมว่าเป็น คราวเคราะห์ ของผม คือสมัยนั้น ครูไทย จะเช็คชือนักเรียนเข้าเรียน ถ้าขาดโดยไม่มีใบลาป่วย จะถูกลงโทษถูกตี หน้าชั้นเรียน ถ้าขาดมากจะไม่ให้เข้าสอบปลายเทอม  แต่ครูฝรั่งจะไม่เช็คชื่อ ปล่อยฟรี ใครจะเรียนไม่เรียนไม่ว่า ผมเรียนได้2-3สัปดาห์เท่านั้น ผมฟังครูฝรั่งไม่รู้เรื่อง(ผมเรียนภาษาอังกฤษ จากบ้านนอก แค่ป5-ป7เท่านั้น ไม่ได้ปูฐานตั้งแต่ป1เหมือนทุกวันนี้) และผมก็ไม่ได้ไฝ่ดี เหมือนเพื่อนๆคนอื่น ที่พยายามฝึกฝน และภูมิใจที่ได้เรียนกับครูฝรั่ง เมื่อไม่มีการเช็คชื่อ ผมก็เริ่มโดดเรียน ไม่เข้าเรียนวิชาภาษาอังกฤษแล้ว
บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #721 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2550, 11:18:33 »

เมื่อโดดเรียน สถานที่ที่เด็ก โดดเรียนจะไปเจอกัน คือบริเวณห้องส้วมของโรงเรียน เพราะเป็นที่ที่หลบหนีได้ง่ายที่สุด ถ้าครูมาตรวจก็เข้าห้องส้วมล็อคกลอนประตู เสมือนมาเข้าห้องสุขาจริงๆ บริเวณห้องส้วมจึงเป็นแหล่งรวมของเด็กหนีเรียน(สมัยนั้นจะไม่หนีออกนอกโรงเรียน เหมือนสมัยนี้) ทำให้ผมรู้จัก เพื่อนห้องอื่นที่ เกเร แยะมาก รวมถึงรุ่นพี่ มศ2-3 หลายคนที่โดดเรียน(ไม่ยักกะเจอ พี่Pete15 แฮะ)  ซึ่งสมัยนั้นถ้ามาจากต่างโรงเรียน ต่างอำเภอ ไม่รู้จักกันมาก่อน เด็กเรียนหนังสือจะไปทางหนึ่ง เด็กเกเรไม่เรียนหนังสือจะไปอีกทางหนึ่ง จะไม่คบค้าสมาคมกัน (ยกเว้น ตอนเรียนประถม อยู่โรงเรียนเดียวกันรู้จักกันมาก่อน)
ผมไม่รู้จักใครมาก่อน ทุกคนคือเพื่อนใหม่ ผมจึงมีเพื่อนทั้งกลุ่มเกเร และกลุ่มเรียน
เพื่อนกลุ่มเกเร สอนผมหลายอย่าง เริ่มด้วยการ สูบบุหรี  เด็กสมัยนั้นถ้าใครสูบบุหรีเป็น จะเท่ห์มาก แสดงว่าเป็นผู้ใหญ่และเป็น ลูกผู้ชาย  ผมก็สูบกับเขาด้วย (ถือว่าเป็นโชคดีของผม ผมยังเล็กเกินไปที่จะดูดบุหรี ผมดูดและจะไอและสำลักควัน ตลอดเวลา จนเพื่อนเด็กเกเรทั้งหลาย บอกไม่ต้องดูดแล้ว เดี๋ยวจะตายซะก่อน)  ผมจึงมีเพื่อนทั้งกลุ่มเกเร และกลุ่มเรียน เพราะวิชาอื่นๆผมก็ยังเรียนอยู่
การมีเพื่อนเกเร ก็ เป็นคุณ กับผมไม่น้อยทีเดียว กลุ่มเกเรจะรักพวกพ้องเดียวกัน
เพราะโรงเรียนมีกีฬาระหว่างห้อง(เด็กเกเรส่วนใหญ่อยู่คนละห้องกับผม) การแข่งขันบางทีมีกระทบกระทั่ง ก็ต่อยกัน  เพื่อนเกเรถ้าเห็นผมจะไม่ต่อยผมแต่เพื่อนผมที่เป็นเด็กเรียนจะโดนต่อยแทน หลายครั้งผมต้องเป็นฝ่ายห้ามทั้ง 2 ฝ่ายเพราะ ล้วนเป็นเพื่อนผมทั้งสิ้น  
รวมถึงถ้าไปตลาดในเมืองไปกินอาหารเย็น ถ้ามีเด็กโรงเรียนอื่นที่เกเรมา เพื่อนเกเรจะเป็นฝ่ายออกหน้าและคุ้มครองผมโดยปริยาย
เพื่อนที่เกเรกลุ่มผมนี้ที่ทราบ ก็มี ตายไป3คน ทะเลาะกับนักเลงด้วยกัน ถูกยิงตายไป2คน เป็นตชดตายไป1คน  ถูกไล่ออกจากธนาคารที่นครสวรรค์นี่แหละ ฐานทุจริต เป็นตำรวจยศ พ.ต.ท 1คน  เป็นทหารบก ยศ พล.ต 1คน(คนนี้แบบผม มีทั้งเพื่อนกลุ่มเกเรและกลุ่มเรียน) และเป็นนักการเมื่องท้องถิ่น2-3คน มี1คนเคยได้เป็น ส.ส นครสวรรค์ 2 สมัย

ชีวิตผมไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษ อีกเลย เพราะผมอยู่ห้อง1 ตลอดทั้ง3ปี เจอครูฝรั่งตลอด เลยโดดเรียนตลอด  รวม มศ.4-5ด้วยผมเรียนต่อที่นครสวรรค์(ไม่ได้เข้า เตรียมอุดม เหมือนเพื่อนๆคนอื่น) อยู่ห้อง1อีก เจอครูฝรั่งอีก  ทำให้ชีวิตการเรียนผม ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษอีกเลย
บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #722 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2550, 11:43:18 »

ผมมีเหตุการณ์ ที่เกือบโดนโรงเรียนไล่ออกจากโรงเรียน ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้น มศ.5แล้ว เรียกว่าเป็นพี่เบิ้ม ของโรงเรียนแล้ว  กีฬาเป็นเหตุ  เป็นกีฬาภายในโรงเรียน ห้องผมแข่ง บาสเก็ตบอล กับ มศ.4(ห้องอะไรจำไม่ได้) กรรมการตัดสินเป็นครูสอนพละ
พวกห้องผมรู้สึกว่ากรรมการตัดสินเข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่ง(จริงๆแล้วคงไม่ใช่ คงตัดสินเที่ยงธรรม) เราเข้าใจว่าอย่างนั้น เวลากรรมการตัดสินไม่ถูกใจเราก็โห่  พอเราโห่มากเข้ากรรมการเลยมีน้ำโหจริงๆแล้ว ที่นี้เป่าใหข้างเราเสีย ฟาล์ว ตลอดเวลา แต่ไม่เป่า ฟาล์วอีกฝั่งหนี่ง  
พวกผมเลย วอล์คเอาท์ ออกนอกสนามไม่แข่งต่อแล้ว(พวกผมนี่วัยรุ่นจริงๆ) ซึ่งกรรมการ(ครูพละ)เสียหน้ามาก   ถ้าพวกผมหยุดอยู่แค่นี้ พวกผมชนะขาดลอย ชนะใจคนดูนักเรียนทั้งหมด ชนะใจครูท่านอื่นๆที่นั่งชมอยู่
ด้วยความเป็นวัยสะรุ่น ของพวกผมนี่เองทำให้เกือบถูกไล่ออกจากโรงเรียน  
เมื่อวอล์คเอาท์ ออกจากโรงยิมแล้ว (บาสเก็ตบอล คู่ต่อไปก็แข่งต่อ มีการแข่งหลายคู่ต่อวัน) พวกผมทั้งหมดก็หาทาง ตอบโต้ ระบายความอัดอั้นตันใจ จึงเข้าห้อง lab เคมี(ตอนนั้อยู่ มศ.5 มีการเรียน Lab เคมี Labชีวะ แล้ว) จัดเตรียม แก็ส อเซทติลีน สูตรทางเคมี(C2H2) ใส่ถุง พลาสติก 10 ถุง เพื่อนำไปจุดระเบิดรอบๆโรงยิม
เรากระจายกำลัง 10 จุด รอบนอกโรงยิม แล้วจุดไฟเผาถุง พลาสติกแค่นี้  แก็ส ก็ระเบิดแล้ว จะมีแต่เสียงดัง ไม่ได้ทำลายใครๆทั้งสิ้น มีแต่เสียงดังเท่านั้น
บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #723 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2550, 14:21:44 »

พอกระจายกำลังรอบนอกโรงยิม ครบ10จุด  พวกเราก็จุดระเบิด เสียงดัง บึ้มๆ หลายจุด
อาจารย์หลายคนก็ออกจากโรงยิม มาดู(รวมถึง นักเรียนที่เชียร์กีฬาอยู่ในโรงยิมก็กรูกันออกมา)
ผมและเพื่อนรวม 4 คน โชคร้าย อาจารย์หลายคนออกมาด้านฝังที่พวกผม 4 คน จุดระเบิดอยู่พอดี(เพื่อนอีก 6 คน รอดตัวไป หนีทัน ไม่มีอาจารย์เห็น
เหตุการณ์นี้ อาจารย์ใหญ่ อาจารย์ปกครอง โกรธมาก(รวมถึงครูพละด้วยก็โกรธ)
เพราะถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรง ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ ในรงเรียนมาก่อน
ผมและเพื่อนรวม 4 คน มีโอกาส ถูกไล่ออกสูงมาก
บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #724 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2550, 14:37:28 »

แต่อยางไรก็ตาม เมือเวลาผ่านไป 1 วัน อาจารย์ทั้งหลายก็อารมณ์เย็นลง
ประกอบกับอาจารย์ทุกท่านมีความ เมตตา ปราณี ต่อลูกศิษย์เป็นทุนอยู่แล้ว ก็ทำร้าย ลูกศิษย์ ไม่ลง แต่ผมและเพื่อนก็โดนลงโทษ  -ถูก ไม้เรียว หน้าเสาธงตอนเช้า ต่อหน้านักเรียนทุกคน
- ถือดอกไม้ธูป เทียน ขอขมา ครูพละคู่กรณี ที่เราได้ล่วงเกิน อย่างที่ไม่บังควรทำ
-ถูกโรงเรียน ภาคทัณฑ์ ถ้าผิด อีก หรือก่อเรื่องอีก จะถูกไล่ออก
นี่เพราะความเป็น วัยสะรุ่น เลือดร้อนจริงๆ (ต้อง ตอบโต้ โดยพลัน และไม่มีสติว่า เป็นเรื่องที่ควรกระทำหรือไม่)
ยังโชคดี อยู่อย่างหนึ่ง ว่าการภาคทัณฑ์ ไม่ต้องให้ผู้ปกครองมาเซ็นรับทราบ
ถ้าพ่อ หรือแม่ ผมต้องมารับทราบ ผมจะโดนไม้เรียว ตามกฏของครอบครัว อีก รอบ
เพื่อนทั้ง 4 คน(รวมผม) ก็ยังติดต่อกันอยู่ในปัจจุบันนี้ -เพื่อนคนหนี่ง เรียน รัฐศาสตร์ มช. ปัจจุบันอยู่ การบินไทย -เพื่อนอีกคนเรียน บัญชี ม.เกษตร ปัจจุบัน อยู่ ธ.ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่  -เพื่อนอีกคนเรียน วิศวจุฬา รุ่นหลังผม 1ปี (เข้าปี 18) เพราะปีแรกเอ็นทร้านส์ ไม่ติด ปัจจุบัน ทำงานเป็นที่ปรึกษา ด้านพัฒนาแหล่งน้ำ
ตอนต่อไป เป็นตอนอยู่หอจุฬาแล้วแหละ
บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 27 28 [29] 30 31 ... 36  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><