สังสรรค์สองสี่-ปาร์ตี้สัญจร 2554-55 ตอน...แข่งโบว์ลิ่ง ฮากลิ้ง พินกระจาย...

[แจง-24]

ุคุณแม่ของพัช ก็มาถือศีลนุ่งขาวห่มขาวอยู่ที่นี่ด้วย เพื่อดูแลพระหลาน
แต่ในกล้องแจงไม่มีภาพโยมคุณยายเลย คงต้องรอกล้องท่านอ๋านะคะ

[แจง-24]

ขอพักเบรคตรงนี้ก่อน... ค่ำๆจะมาเล่าต่อค่ะ

 

[แจง-24]

ต่อค่ะ

หลังจากถวายภัตตาหาร และท่านข้าวก้นบาตรกันแล้ว พวกเราก็ไปเยี่ยมโรงงานแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปของพัชกับอ๋ากัน



ถ่ายภาพมาภาพเดียวเองค่ะ เกรงใจเจ้าของโรงงาน...

[แจง-24]

จากนั้น ทั่นอ๋าก็พาไปเที่ยวศาลเจ้าจี้กง...





ใหญ่โตสวยงาม...อยู่ในอำเภอพานนี่เอง
 

[แจง-24]

บริเวณศาลกว้างขวาง แต่ดูแลรักษาได้ดีมาก
พื้นสะอาดสะอ้าน ไม่มีเศษขยะหรือขี้นกเลย

[แจง-24]

ประวัติพระอรหันต์จี้กง ก็น่าสนใจนะคะ ขอค้นคว้าหน่อย แล้วจะค่อยๆเล่าไปค่ะ

[แจง-24]

คืนนี้ ลากันด้วยภาพนี้นะคะ
พรุ่งนี้พบกันใหม่ค่ะ

 

[Lamai]

งานนี้เราบอกได้คำเดียวว่า ......อิ่ม
อิ่มท้อง อิ่มบุญ อิ่มใจ ได้เจอเพื่อน
มีความสุขมากค่ะ ขอขอบคุณพัชกับอ๋ามากๆ
ดูแลเพื่อนได้ดีจริงๆ
นับถือน้ำใจของเก๊า น้องจิ๋วและแจง
ที่มาไกลจากจันทน์ และชลบุรี

[jum2524]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2555, 20:45:11

มาติดตามดูรูปคณะทัวร์สองสี่สัญจรตอนไป...เชียงราย ต่อค่ะ

เอ่อ..ว่าแต่ป้าแจงหัวร่อชอบใจอะไรเอ่ย??

[Lamai]

พวกเราเจอกันมันก็ฮากันตลอดเวลาแหละ....อยากให้จุ๋มไปด้วยกัน

[แจง-24]

คืนนี้ พาเข้าไปชมข้างในของศาลจี้กงกันค่ะ

ชั้นที่ 1 เป็นห้องทำพิธี ประดิษฐานรูปปั้นพระอรหันต์จี้กงปิดทอง ขนาดเท่าองค์จริง
แต่เวลาไม่มีพิธีเขาห้ามเข้า...



ท่านอ๋าเลยพาเดินชมภาพแกะสลักสีบนกระจก กับภาพวาดพู่กันจีน เป็นประวัติจี้กงแทนค่ะ

[แจง-24]

[แจง-24]

พระอรหันต์จี้กง มีตำนานโลดโผนและการสอนธรรมะที่แปลกประหลาด
จนนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง



ภาพจี้กงที่เห็นเป็นเอกลักษณ์ปรากฎในจากรึกต่างๆ
มักใส่เสื้อผ้าขาดเก่าปุปะ เห็นกระดูกซี่โครงปูดโปน
สวมรองเท้าเก่าขาดหรือไม่สวมเลย ถือพัดขาดรุ่งริ่ง



แต่หน้าตายิ้มแย้มมีเมตตา
แสดงถึงการเข้าถึงแก่นของธรรมะในจิตใจ แต่ไม่ไยดีกับวินัยและความเหมาะสมทางโลก

[แจง-24]

ตำนานเล่าว่า ท่านเดินทางไปทั่วเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากและป่วยไข้

ขณะเดียวกันก็กลั่นแกล้งคนฐานะดีที่มือถือสากปากถือศีล
ตอบโต้ผู้โหดร้ายทารุณ กำหราบผู้มีอิทธิพลและอันธพาล

เป็นการคุ้มครองคนดีที่เดือดร้อนเพราะคนชั่วเหล่านั้น

[แจง-24]

โดยเฉพาะคนยากจนที่ป่วยไข้ไม่มีเงินรักษาตัว
ท่านเมตตารักษาจนหายเป็นที่เลื่องลือในอิทธิฤทธิ์



ในภาพ ท่านกำลังมอบยาที่ปั้นจากขี้ไคลของตนเอง ซึ่งใช้รักษาโรคจนหายได้…
(อึ๋ย…ย ทานยากกว่ายาหม้อของไทยอีกนะคะ ยาขนานนี้…)

[แจง-24]

ตำนานเล่าว่า  เดิมท่านแซ่ “หลี่” ชื่อ “ซิวหยวน”
เกิดในสมัยราชวงค์ซ้อง หรือซ่ง (พ.ศ. 1670 – 1822) หรือราว 700-900 กว่าปีมาแล้ว
ณ มณฑลเจ้อเจียง ในจีน



ท่านเป็นเด็กฉลาดปราชเปรื่อง ศึกษาตำรา “ซื่อซู” และ “อู่จิง” จนแตกฉานลึกซึ้งตั้งแต่อายุ 14 ปี
แต่ไม่ได้เข้าสอบจอหงวน เพราะบิดามารดาป่วยหนักเสียก่อน จึงต้องอยู่ปรนนิบัติ



หลังจากบิดามารดาสิ้นบุญ จึงละทางโลก ยกทรัพย์สินให้อา
แล้วบวชเป็นพระที่วัดหลิงอยิ่นหรือเล่งอุ้ง จังหวัดซีหู มณฑลหงโจว
ได้นามใหม่ว่า “เต้าจี้”

[แจง-24]

หลวงจีนเต้าจี้ ยึดมั่นในพุทธจิต คือสนใจแต่การรักษาศีลทางจิต



ไม่ยึดติดกับพิธีกรรม ไม่สนใจรักษาวินัยสงฆ์ ไม่กินเจเหมือนสงฆ์ทั่วไปในสมัยนั้น
แถมยังดื่มสุราและประพฤติพูดจาไม่สำรวม

ชาวบ้านจึงขนานนามว่า “พระสติเฟื่อง” หรือ “พระบ้า” (จี้เตียง)

[แจง-24]

เช้าวันหนึ่งพระจี้กง มีญาณหยั่งรู้ล่วงหน้า ว่า
ราวเที่ยงวันจะมียอดเขา บินจากมณฑลเสฉวนมาตกทับหมู่บ้านข้างวัดหลิงอยิ่น
และจะทำให้มีผู้คนเสียชีวิตมากมาย

พระจี้กงจึงตัดสินใจวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในหมู่บ้าน
เพื่อเตือนชาวบ้านให้อพยพหนีมหันตภัยดังกล่าว

ด้วยความที่ชาวบ้านมองว่า จี้กง เป็นเพียงพระบ้ารูปหนึ่งซึ่งทำตัวไร้สาระไปวันๆ
ทุกคนจึงส่ายหัว พร้อมกับด่าทอว่า
"พระบ้าเอ้ย! จะหาเรื่องอะไรมาเล่นสนุกอีกละ ภูเขาบินมีที่ไหนกันเล่า!"



พอดีในวันนั้นมีการจัดงานมงคลสมรส จึงมีเสียงของงานรื่นเริงดังขึ้นที่มุมหนึ่งของหมู่บ้าน

เมื่อจี้กงเห็นว่าไม่มีใครยอมเชื่อสิ่งที่ตนเองกล่าวเตือน
จึงตัดสินใจแอบเข้าไปในงาน แล้วอุ้มเจ้าสาวหนีออกจากงาน

ชาวบ้านที่มาร่วมงานต่างก็วิ่งไล่จับ พร้อมกับตะโกนป่าวร้อง
ให้ทุกคนช่วยกันคว้าตัว 'พระบ้าขโมยเจ้าสาว'

[แจง-24]

ด้วยอิทธิฤทธิ์ จี้กงก็สามารถวิ่งหนีออกมาไกลสิบกว่าลี้
จนกระทั่งเลยรัศมีของยอดภูเขามหันตภัย แล้วจึงวางเจ้าสาวลง

เมื่อหยิบพัดใบลานขึ้นมาโบกคลายร้อน ก็บังเกิดเสียงดังลั่นสนั่นพสุธา!!! ....
ยอดเขาตกลงมาทับหมู่บ้านอย่างที่คาดไว้

ชาวบ้านที่วิ่งตามมา เมื่อหันกลับไปมองสภาพภูเขายักษ์หล่นมาทับหมู่บ้านของตนเสียแบน
ก็ทราบว่า สิ่งที่จี้กงกล่าวเตือนนั้นเป็นความจริง
และเข้าใจได้ว่า การที่จี้กงอุ้มเจ้าสาวหนีออกมาจากงานมงคลนั้น ก็เพื่อช่วยชีวิตพวกตนนั่นเอง

หลังจากเห็นบ้านช่องทรัพย์สมบัติถูกทับแบนอยู่ใต้ภูเขา
ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยก็เกิดความเสียดายและเศร้าโศกเสียใจ ร้องไห้ ตีอกชกหัวกันเป็นพัลวัน

จี้กงเห็นดังนั้นจึงหันไปกล่าวกับชาวบ้านว่า
"ร้องไห้ไปทำไม พวกเจ้าที่ดินที่มัวแต่เสียดายสมบัติต่างก็ถูกทับจมอยู่ใต้ภูเขาไปแล้ว
จากนี้ต่อไปทุกคนก็กลับไปทำไรทำนาของตัวเอง
ทำเท่าไหร่ได้เท่านั้น ชีวิตก็ยังมี จะยังกลัวสร้างเรือนใหม่ไม่ได้ไปใย"

[แจง-24]

ตำนานปาฎิหารย์อีกเรื่องของจี้กง ซึ่งเป็นที่เลื่องลือ ก็คือ

ตอนที่วัดเจ็งชื้อ วัดหนึ่งที่จี้กงเคยจำพรรษาอยู่เกิดไฟไหม้
จำเป็นต้องได้รับการปลูกสร้างใหม่ ซึ่งต้องการได้ไม้จากเขาเงี้ยมเล้ง

ท่านแสดงอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์โดยใช้จีวรกางออกไปคลุมเขาเงี้ยมเล้ง และถอนไม้จากเขาทั้งหมด
แล้วนำไม้ล่องแม่น้ำสู่เมืองหางโจว



จากนั้น ท่านก็มาบอกชาวบ้านว่า ไม้ที่จะใช้ก่อสร้างบัดนี้อยู่ในบ่อธูปที่ใช้สำหรับเทขี้ธูปและก้านธูป
พระและชาวบ้านต่างไปดูที่บ่อธูป ก็ปรากฏเป็นเช่นนั้นจริง

[แจง-24]

ในบั้นปลายชีวิต หลวงจีนจี้กงนั่งสมาธิบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์

ขอบคุณข้อมูลตำนานพระอรหันต์จี้กงจากเว็บไซต์เหล่านี้ค่ะ

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Palungjit.com, Mindcyber.com,  และ phracenter.com

http://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=206

http://www.phracenter.com/index.php?mo=3&art=555789

[แจง-24]

แถมโอวาทจากท่านจี้กงอีกหน่อยนะคะ...

พระโอวาทของท่านอรหันต์จี้กง
 
1.   ชีวิตย่อมเป็นไปตามลิขิต (ละชั่วทำดี)      วอนขออะไร
2.   วันนี้ไม่รู้เหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้      กลุ้มเรื่องอะไร
3.   ไม่เคารพพ่อแม่แต่เคารพพระพุทธองค์      เคารพทำไม
4.   พี่น้องคือผู้ที่เกิดตามกันมา      ทะเลาะกันทำไม
5.   ลูกหลานทุกคนล้วนมีบุญตามลิขิต       ห่วงใยทำไม
6.   ชีวิตย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จ      ร้อนใจทำไม
7.   ชีวิตใช่จะพบเห็นรอยยิ้มกันได้ง่าย       ทุกข์ใจทำไม
8.   ผ้าขาดปะแล้วกันหนาวได้       อวดโก้ทำไม
9.   อาหารผ่านลิ้นแล้วกลายเป็นอะไร      อร่อยไปใย
10.   ตายแล้วบาทเดียวก็เอาไปไม่ได้      ขี้เหนียวทำไม
11.   ที่ดินคือสิ่งที่สืบทอดแก่คนรุ่นหลัง       โกงกันทำไม
12.   โอกาสจะได้กลายเป็นเสีย       โลภมากทำไม
13.   สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือศีรษะเพียง 3 ฟุต       ข่มเหงกันทำไม
14.   ลาภยศเหมือนดอกไม้ที่บานอยู่ไม่นาน       หยิ่งผยองทำไม
15.   ทุกคนย่อมมีลาภยศตามวาสนาที่ลิขิต      อิจฉากันทำไม
16.   ชีวิตลำเค็ญเพราะชาติก่อนไม่บำเพ็ญ       แค้นใจทำไม (บำเพ็ญไวไว)
17.   นักเล่นการพนันล้วนตกต่ำ      เล่นการพนันทำไม
18.   ครองเรือนด้วยความประหยัดดีกว่าไปขอพึ่งผู้อื่น      สุรุ่ยสุร่ายทำไม
19.   จองเวรจองกรรมเมื่อไรจะจบสิ้น      อาฆาตทำไม
20.   ชีวิตเหมือนเกมหมากรุก       คิดลึกทำไม
21.   ฉลาดมากเกินจึงเสียรู้       รู้มากทำไม
22.   พูดเท็จทอนบุญจนบุญหมด       โกหกทำไม
23.   ดีชั่วย่อมรู้กันทั่วไปในที่สุด       โต้เถียงกันทำไม
24.   ใครจะป้องกันมิให้มีเรื่องเกิดขึ้นได้ตลอด       หัวเราะเยาะกันทำไม
25.   ฮวงซุ้ยที่ดีอยู่ในจิตไม่ใช่อยู่ที่ภูเขา       แสวงหาทำไม
26.   ข่มเหงผู้อื่นคือทุกข์ รู้ให้อภัยคือบุญ       ถามโหรเรื่องอะไร
27.   ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย       วุ่นวายทำไม

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.84000.org/pray/orrahan_jeekong.shtml

[แจง-24]

  คืนนี้ต้องขอตัวก่อน พรุ่งนี้มาเล่าต่อค่ะ

 

[พัช 24]

เคยอ่านเจอที่ไหนสักที่ ว่าแท้จริง"พระอรหันต์จี้กง''ท่านเป็นพระรูปงาม  แต่ต้องแสร้งทำแบบนี้เหมือนเป็นพระบ้า เพราะต้องการอำพรางตัวจากปัญหาอะไรสักอย่างในยุคนั้นค่ะ

[แจง-24]

ขอบคุณค่ะแม่เลี้ยง... ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติม เชิญเลยนะคะ