22 พฤศจิกายน 2567, 22:12:00
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: บุคคลแห่งปีกับ ไทยรัฐออนไลน์ ด้านการศึึกษา วัฒนธรรม และ สาธารณสุข  (อ่าน 3659 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 21 ธันวาคม 2553, 11:17:43 »


                       โดยเวบสารคามไลฟ์ดอทคอม วันอังคาร 21 ธ.ค.2553
                            http://sarakhamlive.com/home/?p=22342

         บุคคลแห่งปีกับไทยรัฐออนไลน์ด้านการศึึกษา วัฒนธรรม และสาธารณสุข สำหรับปีแรกนี้ไม่ได้เป็นบุคคลโด่งดังอะไร แต่เป็นกลุ่มคนหลายๆ คนของของ “แพทย์ชนบท” ที่ต่างทุ่มเททำงานด้วยใจอยู่ในพื้นที่ที่ขาดแคลนความศิวิไลซ์ ซึ่งต่างจากเมืองหลวงอย่างกรุงเทพโดยสิ้นเชิง…

         ด้วยความเสียสละ ทุ่มเทและตั้งใจของพวกเขาเหล่านั้น ที่จะให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ไม่เพียงแต่มีความรู้ความสามารถเท่านั้นที่พึงจะมี แต่แพทย์ผู้อดทนยังจะต้องมีจริยธรรม มนุษยสัมพันธ์ และความเป็นผู้นำ รวมถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในการดำรงชีวิตอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่บุคคลกลุ่มจะได้รับเกียรติให้เป็นบุคคลแห่งปี เพราะหากไม่ให้บุคคลเหล่านี้ ไทยรัฐออนไลน์ก็มองไม่เห็นว่าจะมีใครเหมาะสมเลย

        เมื่อแพทย์ผู้สำเร็จการศึกษามาใหม่ๆ เหตุผลอะไรที่เลือกไปประกอบอาชีพในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ หลายคนก็เลือกโรงพยาบาลเอกชน เพียงเพราะรายได้ที่กำลังจะเข้ามา

        ขณะแพทย์อีกจำนวนไม่น้อยก็เลือกที่จะไปทำประโยชน์เพื่อสังคมไกลปืนเที่ยง ลองไปฟังความเห็นของแพทย์ดีเด่นในชนบทคนล่าสุดดูว่าแท้จริงเขาทำไปเพื่ออะไร???

                                    

               นพ.กิติภูมิ จุฑาสมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ

         หมอแฟนพันธุ์แท้ เดอะบีตเทิลส์ ผู้ได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่นในชนบท ประจำปี 2552 กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า

        ตนทำงานต่อเนื่องในพื้นที่ทุรกันดารของภาคอีสานมาแล้ว 23 ปี ที่ผ่านมาได้ทุ่มเทในการบริการที่ดีกับประชาชน ที่ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ เพราะ

        พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศกัมพูชาโดยก่อนหน้าเคยมีผู้อพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ แต่ตนก็ให้การรักษาแบบไม่แบ่งแยก และก่อนที่จะมีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โรงพยาบาลมีทั้งคนจนและคนรวยเข้ามารับการรักษา ซึ่งก็ไม่ได้รักษาแตกต่างกันอย่างไร โดยเราจะรักษาโดยคำนึงถึงโรคที่ผู้่ป่วยเป็น หากผู่ป่วยเป็นโรคเหมือนกัน ก็รักษาเช่นเดียวกัน

                                     หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><