แดนอาทิตย์อุทัยกับครั้งแรกของผม 5-14 พฤศจิกายน 2553

[am]

กำหนดการไปญี่ปุ่นของผม  วางแผนกันเอง ไม่เกี่ยวกับทัวร์ครับ

ออกเดินทางวันที่ 4 พ.ย. ตอนสี่ทุ่ม
กลับถึงกรุงเทพวันที่ 15 พ.ย. ตอนหกโมง


5 พ.ย. นอน Tokyo
6 พ.ย. นอน Nikko
7 พ.ย. นอน Naruko
8 พ.ย. นอน Kyoto
9 พ.ย. นอน Kyoto
10 พ.ย. นอน Kyoto
11 พ.ย. นอน Kyoto
12 พ.ย. นอน Hakone
13 พ.ย. นอน Tokyo
14 พ.ย. นอนบนเครื่องบิน

[am]

ผมกลับมาถึงบ้านเราตั้งแต่เช้าวันจันทร์ที่ 15 พ.ย. 53 แล้วก็แจ้นไปทำงานเลยครับ ไม่ได้พัก
ภาพรวม ชอบมากๆ สวยงามจริงๆ แต่ไม่ใช่เมืองไทยไม่สวยนะ คนละแบบกัน
เดี๋ยวทยอยลำดับเรื่องราวไว้เป็นข้อมูลสำหรับเพื่อนๆที่จะไปเที่ยวนะครับ

ผมออกเดินทาง คืนวันพฤหัสที่ 4 พ.ย. 53 เวลา 22.30 ถึงสนามบิน Haneda ที่เพิ่งเปิดเป็นอินเตอร์ ตอนหกโมงครึ่ง
ตอนแรก คิดว่าไฟลท์นี้จะทำให้มีเวลาเที่ยวมากขึ้น เพราะไปถึงเช้าแล้วเที่ยวเลย แต่เอาเข้าจริงๆก็มีข้อเสียในเรื่องที่ไม่ได้พักผ่อน
วันแรกเดินขาลากเลย กลางคืนก็ไม่ค่อยได้นอน ก่อนเครื่องจะลงราวๆชั่วโมงครึ่ง ก็ปลุกแจกอาหารเช้าแล้ว มีเวลานอนจริงๆสัก 4 ชั่วโมง
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหลับตลอดเวลา   ถ้าใครจองได้ไฟลท์ที่ออกเดินทางตอนเช้าแล้วไปถึงบ่ายแก่ๆก็ไม่ต้องเสียใจนะครับ เพราะไม่ต้องหักโหมเกินไป

สนามบิน Haneda เป็นสนามบินที่ไม่ใหญ่มาก เล็กกว่านาริตะบานเลย แต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และที่ดีที่สุดคือ ใช้เวลาเดินทางเข้าโตเกียวราวๆ 20 นาที อันนี้เวิร์คมาก  ขอบอก  การเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกที่สุดมี 2 วิธี (ตอนแรกเข้าใจว่ามีแค่ Tokyo Monorail)  คือ Tokyo Monorail ราคา 470 yen  และ subway Kekyu line (ไม่รู้เขียนถูกรึป่าว) แต่บวกลบคูณหาร ราคาไม่ต่างกันเท่าไร  รถ Monorail แพงกว่าเกือบ 200 yen (ประมาณ 70 บาท)

ข้อดีอีกอย่างของสนามบิน Haneda คือ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ไฟลท์ไม่ค่อยเยอะ กราวด์โฮสเตทที่คอยให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวก็ทำหน้าที่ได้ดีมากเลยครับ พร้อมช่วยเหลือทุกอย่าง ยิ้มเก่งไม่แพ้คนไทย

สรุปแล้ว ไม่ผิดหวังที่เลือกมาลงที่ Haneda

เดี๋ยวจบเรื่องสนามบิน ค่อยไปต่อเรื่องเที่ยว วันแรก ชิมลางที่โตเกียวก่อนเลย

[am]

การเดินทางเข้าเมือง จากสนามบินฮาเนดะ มีรถไฟฟ้า 2 สาย คือ รถไฟฟ้ารางเดี่ยว(สุดสายที่สถานี Hamamatsucho) และรถไฟฟ้าใต้ดิน(ไปต่อรถที่สถานี Shinagawa)

[am]

เดินออกมาจาก ตม. แล้วออกประตู ก็เห็นป้ายรถไฟทั้งสองสายเลยครับ อยู่ซ้ายมือกะขวามือ หาง่าย

[am]

วันแรกที่ไปถึง เหมือนคนป่าเข้ากรุงเลยอ่ะ สับสนนิดหน่อย
เริ่มแรกก็บนสถานี Tokyo monorail เลย  แต่ใครบอกว่าคนญี่ปุ่นตัวใครตัวมัน.. ไม่จริงเลย
หนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนสถานี ไอ้เราก็งงว่าขึ้นถูกฝั่งรึเปล่า  พอเข้าไปถามเขา เขาก็บอกด้วยความเต็มใจ แถมตอนรถไฟฟ้ามาถึง ก็หันมาพยักหน้าว่า "ขบวนนี้แหละ ขึ้นได้เลย"
ยังไม่พอ  ตอนลง ลงที่สถานีเดียวกัน  เดินมาถึงบันไดทางลง ก็หันมาหาเราอีก แล้วทำหน้าตาทำนองว่า "เป็นไง จะไปไหนกัน จะให้ช่วยอ๊ะป่าว"  เราก็เลยเข้าไปถาม ..กลัวว่าเขาจะเสียน้ำใจ ..55

จากการทำการบ้าน(หาข้อมูล..:-) ) เขาบอกเอาไว้ว่า ไม่ควรเอากระเป๋าแบบลากไปญี่ปุ่น อีตอนลากก็สบายดี อีตอนที่ต้องขึ้นลงบันไดนี่สิ อ้วกแน่ๆ ผมเลยแบกเป้ไป 3 ใบ (2 คน)  แต่แค่นี้ก็เล่นเอาเหนื่อย นี่ขนาดไปฟิตว่ายน้ำมาแล้วนะ    แต่เหนื่อยแค่วันแรก เพราะผมใช้บริการส่งกระเป๋า ส่งเป้ใบใหญ่ไป Kyoto ล่วงหน้าทันทีที่ผมไปถึงโรงแรมเลย จะได้เที่ยวสบายขึ้น

[seree_60]

ตามมาชมครับ น้อง
พี่จะชอบญี่ปุ่นมากๆเลยครับ
ชอบที่บ้านเมืองเขาสอาด คนมีวินัย และมีน้ำใจช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวอย่างดี
พี่ประทับใจมาก

[am]

ผมไปครั้งแรกก็ประทับใจเลยครับพี่

วันแรก ขึ้นจากรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานี Asakusa เดินหาโรงแรมไม่เจอ เพราะป้ายโรงแรมไม่มีภาษาอังกฤษ ต้องถามลุงร้านขายของชำ
ผมพักที่ Toyoko Inn Asakusa เนื่องจากว่าในวันรุ่งขึ้นจะเดินทางไป Nikko ด้วยรถไฟสาย Tobu Nikko (ยังไม่ใช้ JR Pass)

เครือโรงแรม Toyoko Inn มีโรงแรมทั่วญี่ปุ่น แต่ก็สไตล์โรงแรมญี่ปุ่นทั่วไปที่มีพื้นที่ห้องไม่ใหญ่มาก อุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ออกแบบให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุด รวมอาหารเช้า แต่อย่าวาดภาพบุฟเฟต์ในโรงแรมแบบบ้านเรานะครับ เดี๋ยวจะผิดหวัง ค่าโรงแรม 8,800 yen ต่อคืน (เอา 2.7 หาร จะได้เป็นเงินบาทโดยประมาณ) ที่นี่ผมสมัครเป็นสมาชิกของเครือโรงแรมนี้ด้วย(ค่าสมาชิก 1,500 yen) เพราะมีโปรแกรมจะพักโรงแรมในเครือที่ Kyoto ด้วย ได้ลด 30% คุ้มเกินคุ้ม

เที่ยวในญี่ปุ่น หลังจากลงรถไฟฟ้าแล้ว ส่วนใหญ่ก็มีแต่ "เดิน"  ครับ  ขนาดทำใจไว้แล้ว ไปฟิตไว้แล้ว พอเอาจริงๆ วันแรกเดินแทบตาย ปวดขา ปวดเอวไปหมดเลยครับ

วันแรก เริ่มด้วยวัดที่ Asakusa  (Asakusa Kannon Temple และ Asakusa Shrine และ Gate อะไรสักอย่าง) เป็นแมทช์บังคับ ใครมาแถวนี้ก็ต้องไปที่นี่ คนญี่ปุ่นเองก็มากันเยอะมากครับ

[am]

พรุ่งนี้มาต่อครับ

[หนุน'21]

เข้ามาตามชม
ท่องแดนอาทิตย์อุทัย
ครั้งแรกของน้อง am ด้วยนะครับ
ญี่ปุ่นไปคราวใดก็มีความสุข
ได้ดู ได้รู้ ได้เห็น เป็นประสบการณืที่ดีครับ

 

[ภาณุ ปาตานี]

ตามด้วยคนครับ

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2553, 22:24:33
	ผมไปครั้งแรกก็ประทับใจเลยครับพี่ วันแรก ขึ้นจากรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานี Asakusa เดินหาโรงแรมไม่เจอ เพราะป้ายโรงแรมไม่มีภาษาอังกฤษ ต้องถามลุงร้านขายของชำ ผมพักที่ Toyoko Inn Asakusa เนื่องจากว่าในวันรุ่งขึ้นจะเดินทางไป Nikko ด้วยรถไฟสาย Tobu Nikko (ยังไม่ใช้ JR Pass) เครือโรงแรม Toyoko Inn มีโรงแรมทั่วญี่ปุ่น แต่ก็สไตล์โรงแรมญี่ปุ่นทั่วไปที่มีพื้นที่ห้องไม่ใหญ่มาก อุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ออกแบบให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุด รวมอาหารเช้า แต่อย่าวาดภาพบุฟเฟต์ในโรงแรมแบบบ้านเรานะครับ เดี๋ยวจะผิดหวัง ค่าโรงแรม 8,800 yen ต่อคืน (เอา 2.7 หาร จะได้เป็นเงินบาทโดยประมาณ) ที่นี่ผมสมัครเป็นสมาชิกของเครือโรงแรมนี้ด้วย(ค่าสมาชิก 1,500 yen) เพราะมีโปรแกรมจะพักโรงแรมในเครือที่ Kyoto ด้วย ได้ลด 30% คุ้มเกินคุ้ม เที่ยวในญี่ปุ่น หลังจากลงรถไฟฟ้าแล้ว ส่วนใหญ่ก็มีแต่ "เดิน"  ครับ  ขนาดทำใจไว้แล้ว ไปฟิตไว้แล้ว พอเอาจริงๆ วันแรกเดินแทบตาย ปวดขา ปวดเอวไปหมดเลยครับ วันแรก เริ่มด้วยวัดที่ Asakusa  (Asakusa Kannon Temple และ Asakusa Shrine และ Gate อะไรสักอย่าง) เป็นแมทช์บังคับ ใครมาแถวนี้ก็ต้องไปที่นี่ คนญี่ปุ่นเองก็มากันเยอะมากครับ

น้องแอม
พี่แก่แล้ว เดินไม่ค่อยเก่ง พี่ไปโตเกียวนานหลายปีแล้ว แต่ไปกับทัวร์
ปีที่แล้วไปเอง ที่ฮอกไกโดเกาะเดียว เช่ารถขับ สบายเยอะเลยครับ
คราวหน้าลองไปดู ดีมากๆเลยครับ
รถเช่าเขามี GPS ให้ด้วยแต่เป็นภาษาญี่ปุ่น ต้องหาคนญี่ปุ่นมาตั้งให้
(ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลย นอกจาก อริกาโตะ)
แต่มีคนยินดีช่วยเหลือตลอด จึงประทับใจมาก
นี่ก็กำลังหาโอกาส อยู่ว่า อยากไปญี่ปุ่นอีก
คราวนี้ว่าจะไปแถว นิกโก้ เซนได ตระเวณไปทั่วตอนเหนือของโตเกียว
เพราะไม่ชอบเมืองใหญ่

[am]

ถ่ายรูปที่นารุโกะ กับ นิกโกะ มาเยอะเลยครับ
เดี๋ยวค่อยๆไล่ลงให้ชมครับ สวยสุดๆ

วันนี้มีธุระมาต่างจังหวัด เลยไม่สะดวกในการโหลดรูปครับผม

เดี๋ยวคราวหน้า ถ้ามีแผนจะไปฮอกไกโด ต้องขอคำแนะนำจากพี่ด้วยครับ

[am]

ทางเข้าวัด จะเจอคนเต็มไปหมด คนญี่ปุ่นก็เยอะ คนไทยก็หลายคน
ไฮไลท์ก็คือ Kaminarimon Gate หรือ ประตูสายฟ้าฟาด (ตามข้อมูลทั่วไปเขาเรียกว่า "ประตูสายฟ้า" แต่ผมว่ามันห้วนไปหน่อย เลยเรียกเองแบบนี้)  หามุมถ่ายรูปยากมาก เพราะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว

[am]

ภายในก็คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว คนญี่ปุ่นเขาก็จะมีวิธีไหว้คล้ายๆกับบ้านเรา เพียงแต่ไม่ได้ก้มลงไปกราบ
อ้อ..ที่วัดนี้ไม่เสียค่าเข้าครับ (ต่างจากวัดที่เมืองอื่นที่ส่วนใหญ่จะเสียค่าเข้าประมาณคนละ 500 yen)
ภายในวัดก็มีที่ให้เดินดูชมนิดหน่อยครับ แต่ไม่ได้มีไฮไลท์อะไรมาก

[am]

เสร็จาก Asakusa ผมเดินออกมาข้างนอกเพื่อหามื้อกลางวันถูกๆกิน แต่ความอร่อยนี่ไม่ได้คาดหวังเลย
หารสชาดแบบบ้านเราคงเป็นเรืองยากส์....  มองไปฝั่งตรงข้าม เห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ แต่หน้าร้านมีเลขตัวเบ้อเร่อ "260"
ก็เลยไม่รอเช้าที่จะเดินเข้าไปลองชิมดู ราคาก็มีตั้งแต่ 260 - 1000 yen  เราก็เลือกเอาเมนูที่น่าจะพอกินได้ แต่ไม่แพงมาก 400 yen ก็พอรับไหว  ปรากฎว่าได้ก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่มากๆๆๆๆ ใครกินไม่จุ รับรองกินไม่หมด
แต่เอาเถอะ ..กินเพื่อมีแรงเที่ยว

[am]

อันนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวหน้ามันเทศ รสชาดจืดๆหน่อย มีพริกป่นมาช่วยเพิ่มให้มีรสชาดขึ้นมาหน่อย

[am]

จาก Asakusa ผมนั่งรถไฟใต้ดินสาย Ginza Line มาลงที่สถานี Ueno ค่าโดยสาร 1 สถานี 150 yen
แล้วเดินตรงไปที่ Ueno Park  เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มาก ข้างในมีที่ให้เที่ยวหลายแห่ง ทั้ง Tokyo Museum สวนสัตว์ Western Are Museum และอีกหลายแห่ง  แต่ผมชั่งน้ำหนักดูแล้ว หากเที่ยวหมดสงสัยจะใช้เวลาสัก 2 วัน และไม่ได้คลั่งไคล้ Museum ขนาดที่จะต้องเที่ยวให้ได้ ดังนั้น จึงพยายามทำใจมองผ่านๆไป เพราะมีที่ที่จะต้องเที่ยวอีกเยอะ ที่วางแผนมาจากบ้าน ต้องปรับใหม่ตลอด เพราะมักจะใช้ระยะเวลามากกว่าแผนทุกที

ปัญหาอย่างหนึ่งที่ลืมไปก็คือ หน้าหนาว ที่โตเกียวก็มืดเร็ว  ราวๆสี่โมงกว่าก็เริ่มมืดแล้วครับ  พอราวๆห้าโมงเย็นก็มืดตี๊ดตื๋อเลย ทำให้เวลาสำหรับเที่ยวน้อยลงไปเยอะ

ใน Ueno มีวัดและศาลเจ้า 2-3 แห่ง  ที่สำคัญไม่เสียเงินค่าเข้า ผมเลยเลือกไปเที่ยววัดดีกว่า

ในรูปเป็นทางเข้า Toshogu Shrine  แต่น่าเสียดายที่ตัววิหารอยู่ในระหว่างการบูรณะ เลยไม่ได้รูปสวยๆมาฝากกัน

[am]

ใช้เวลาอยู่ใน Ueno Park นานพอสมควร  เลย่ต้องกระหืดกระหอบไปที่ Imperial Palace เนื่องจากเปิดถึงแค่สี่โมงเย็น
ไฮไลท์อยู่ที่ สะพาน Nijubashi  จากสถานี Tokyo เดินไปอีกนานพอสมควรกว่าจะถึง  เกือบ 20 นาทีแน่ะ  ถึงตอนนี้ผมเริ่มขาลากแล้วครับ  ในขณะที่ยังเหลือหนทางอีกยาวไกล

ไปถึงสะพานราวๆสามโมงครึ่ง  รปภ.เขาตรงเวลามาก พอใกล้ๆสี่โมงเย็น ก็เริ่มมาไล่นักท่องเที่ยวให้ออกจากบริเวณใกล้ๆสะพาน แต่ก็ไล่ด้วยรอยยิ้มนะ ไม่ค่อยโหด

[am]

ลานด้านหน้าพระราชวังไม่มีเวลาปิดครับ เขาจัดเป็นสวนสนสไตล์ญี่ปุ่น สามารถนั่งพักผ่อน ออกกำลังกาย และเดินเที่ยวได้ตลอด  ใครชอบต้นสนเหมือนผม รับรองไม่ผิดหวัง

[am]

นี่ก็สวย

[seree_60]

รอชมไปเรื่อยๆ..ครับ

[am]

อันนี้ก็งาม สวยๆงามๆเต็มไปหมดเลย

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2553, 22:24:04
	อันนี้ก็งาม สวยๆงามๆเต็มไปหมดเลย

สวยจริงๆครับน้อง...ชอบๆๆ
ขอเสนอหน่อยนะครับ..พี่ว่าภาพมันเล็กไปหน่อย
เลยชมความสวยงามได้ไม่เต็มที่
หากจะตัดภาพให้ใหญ่ขึ้นอีกนิด ก็จะสมบูรณ์แบบมากเลยครับ

[am]

ผมมีแผนที่จะเดินทางไป Nikko ในวันรุ่งขึ้น แต่ยังไม่ใช้ตั๋ว JR Pass (7 days) เนื่องจากคำนวณดูแล้วเอาไว้ใช้วันหลังๆดีกว่า
แต่ต้องทำการ activate ตั๋วไว้ก่อนครับที่สถานีโตเกียว (จริงๆสามารถทำได้เกือบทุกสถานีแหละครับ) เพราะจะเริ่มใช้ตอนอยู่ต่างจังหวัด  แต่กว่าจะหา office เจอ ก็เล่นเอาเหนื่อย เพราะสถานีโตเกียวมันใหญ่มาก คนญี่ปุ่นเองก็ยังรู้ไม่หมดเลยครับ ดังนั้น ไม่มีเหตุผลที่จะเขินอายหากต้องถามทาง  ผมว่าขนาดใหญ่ไม่แพ้สนามบินเลย แล้วผมยังดันไปเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนด้วยอีก เลยวุ่นวายหนักเข้าไปใหญ่

[am]

ที่ที่ผมขาลากมากๆๆๆๆอีกแห่งคือ ที่ถนนแห่งนี้ครับ ถนน Ameyayoko ใครเป็นนักช็อปก็เชิญได้ที่นี่เลยครับ
มีทั้งของใช้ ของสด เช่น ผลไม้ ผัก และอาหารทะเล รวมทั้งเป็นแหล่งอาหารเย็น มือเย็นของผมในวันนี้คือ ข้าว+ไก่ย่าง ราคา 600 yen

อ้อ มีคำแนะนำอีกอย่าง ผมว่า "ส้ม" ของญี่ปุ่นอร่อยมาก ไม่มีเม็ดด้วย  ผมได้กินครั้งแรกก็ในอีก 4 วันข้างหน้า ที่โตเกียวไม่ได้ลอง

[am]

ขอบคุณครับพี่ ทำไงจะลงรูปใหญ่ได้อ่ะครับ  ผมลงได้ไม่เกิน 128 k มันเลยได้ขนาดเท่าที่เห็น

		อ้างถึง			ข้อความของ seree_60 เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2553, 22:29:53
	อ้างถึง ข้อความของ am เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2553, 22:24:04 อันนี้ก็งาม สวยๆงามๆเต็มไปหมดเลย สวยจริงๆครับน้อง...ชอบๆๆ ขอเสนอหน่อยนะครับ..พี่ว่าภาพมันเล็กไปหน่อย เลยชมความสวยงามได้ไม่เต็มที่ หากจะตัดภาพให้ใหญ่ขึ้นอีกนิด ก็จะสมบูรณ์แบบมากเลยครับ

[am]

Test  สนหน้าพระราชวังหลวง

[am]

เดี๋ยวพรุ่งนี้ขึ้นเหนือไปนิกโก้ Nikko is Nippon

[หนุน'21]

ภาพต้นสนที่น้องแอมถ่ายมา สวยงามมากครับ
รอชมต่อไป  รูสึกชื่นชมฝีมือการถ่ายรูปของน้องแอมครับ

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2553, 22:56:35
	Test  สนหน้าพระราชวังหลวง

ขอบคุณครับ น้องแอม สวยงาม เต็มตาแล้วครับ...ไปโลด

[am]

ขออนุญาตแนะนำตัวนะครับ ชื่อผม "อำ" ครับ 555  เข้ารหัส 35 ครับ

[am]

หลังจากที่วันแรกทั้งวันเดินจนขาลาก  แผนที่วางไว้ในวันรุ่งขึ้นต้องปรับกระบวนทัพใหม่ทั้งหมด
ไม่งั้นได้หมดแรงเที่ยวในวันต่อๆไปเป็นแน่แท้ ดังนั้น จึงเลือกที่จะพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนดีกว่า ตื่นซะสายโด่ง เกือบแปดโมงครึ่ง ทั้งที่ตามแผนจะต้องตื่นหกโมงครึ่ง

อาหารเช้าของโรงแรม Toyoko Inn ไม่ค่อยเวิร์คครับ  หลักๆก็มีข้าวปั้น มิโสซุป ขนมปัง สลัดผัก กาแฟ  แค่นี้ครับ แต่ผมยึดถือหลัก กินเพื่อเที่ยว กินเอาแรงไม่ได้กินเอาอร่อย ก็เลยกินให้อิ่มๆไปก็พอ

อ้อ..ลืมบอกข้อมูลสำคัญไป บริการส่งกระเป๋าเป็นบริการที่ทำให้ผมสะดวกสบายขึ้นมาก ผมส่งเป้ใบใหญ่ไปเกียวโตหลายวันเลย ค่าบริการขึ้นอยู่กับน้ำหนัก กระเป๋าผมหนักประมาณสิบโลต้นๆ ค่าบริการ 1,070 yen (ตกประมาณ 400 บาท) แลกกับความสบายแล้วคุ้มครับ

[am]

การเดินทางไปเที่ยวที่ Nikko สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟ Shinkansen แล้วไปต่อรถที่สถานี Utsunomiya
หรือ อาจจะเดินทางด้วยรถไฟสาย Tobu Nikko ก็ได้ครับ ต่อเดียวถึงเลย แต่เป็นรถไฟประเภทรถเร็ว เลยใช้ระยะเวลาเยอะหน่อย เกือบ 2.5 ชม.

ผมเลือกไปด้วยวิธีหลัง โดยซื้อบัตร World Herritage Pass  (รวมค่ารถไฟไป-กลับ ค่าบัตรเข้าชมวัดและศาลเจ้าที่เป็นมรดกโลก 3 แห่ง) และค่ารถบัสจากสถานีรถไฟไปวัดทั้ง 3 แห่ง ราคา 3,600 yen (ตกประมาณ 1,300 บาท)

จริงๆเขามีตั๋วให้เลือกหลายประเภท สามารถหาข้อมูลในเวบของเขาได้โดยตรงเลยครับ
http://www.tobu.co.jp/foreign/pass/all_pass.html

ที่ Nikko มีสถานีรถไฟ 2 แห่ง แห่งแรก คือ JR Nikko  แห่งที่ 2 คือ Tobu Nikko  อยู่ใกล้ๆกันครับ
ลงรถไฟแล้ว สิ่งแรกที่ควรมองหา คือ ตารางเวลารถไฟ สำหรับวางแผนการเดินทางกลับ
ส่วนบริการอีกอย่างก็คือ Coin Locker มีอยู่ตามสถานีรถไฟทุกแห่ง ราคาเป็นมาตรฐานเท่ากับทั้งประเทศ(ผมเดาเอาว่าทั้งประเทศ เพราะหลายเมืองๆที่ผมไปเที่ยว ราคาเท่ากันหมด 500 yen  400 yen และ 300 yen ลดหลั่นตามขนาดล็อคเกอร์)

[am]

ผมมาถึง Nikko บ่ายแล้วครับ เลยไปเที่ยวไม่ทัน
เลยต้องเดินไปที่พัก ราวๆ 2 กม.
ที่พักผมคืนนี้ ชื่อ Narusawa Lodge  ถูกกว่าที่พักประเภท Ryokan ลงมาหน่อยนึงครับ คืนละ 3,600 yen/คน ไม่มีอาหารสักมื้อ  ห้องน้ำรวม แต่ห้องพักค่อนข้างกว้าง ก็คล้ายๆ Ryokan นั่นแหละครับ จริงๆเจ้าของเขาก็น่ารักดีครับ (ผมเรียกเจ๊มินิ เพราะแกขับรถ มินิสีแดง) แต่ข้อเสียของที่นี่ก็คือ แกทำงานคนเดียว แถมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ พูดกันจนเมื่อยมือก็ยังไม่รู้เรื่อง หากมีที่อื่น ผมว่าลองเลือกที่อื่นดีกว่าครับ

[am]

วันหยุดที่ Nikko จะเห็นรถติดเป็นปกติครับ
เสาร์-อาทิตย์คนเยอะ เพราะอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวเท่าไร คนญี่ปุ่นเองก็ไปเที่ยวกันเยอะ
เลยมีสภาพอย่างที่เห็น

[am]

ได้เดินไปที่พักก็ได้เห็นวิวข้างทางอีกแบบ  หากนั่งรถคงไม่ได้สนใจวิวแบบนี้มาก

[am]

เพิ่งห้าโมงเย็นเอง มืดซะแล้ว
เวลาเที่ยวหายไปเยอะเลยครับ

[am]

วันรุ่งขึ้น ออกแต่เช้า เพราะต้องชดเชยเวลาที่หายไป แผนต้องปรับใหม่
แต่ยังสามารถใช้ตั๋วเหมาสำหรับเที่ยวได้อีกหนึ่งวัน  แค่ world herritage 3 แห่ง ก็หมดไปครึ่งวันแล้วครับ นี่ขนาดรีบนะเนี่ย
ถ้ามีเวลาเยอะกว่านี้ก็เที่ยวได้ทั้งวัน  โปรแกรมในช่วงบ่ายต้องรีบไปอีกเมืองหนึ่ง คือ Naruko เลยพลาดทะเลสาบชูเซนจิ

แต่แค่ 3 แห่ง ผมก็ว่าคุ้มแล้วครับสำหรับ Nikko

แห่งแรก คือ วัด Rinnouji Temple ครับ

[am]

ยังแดงเหลืองไม่เต็มที่ครับ แต่ก็สวยติดตาตรึงใจ

[am]

จุดเด่นของวัดในญี่ปุ่นอย่างหนึ่ง ผมว่าคือการจัดผังบริเวณ
สวยสดงดงามเกือบทุกวัด นอกจากเป็นสถานที่สักการะบูชา ยังเป็นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามมากด้วยครับ
คนไม่ชอบวัด แต่ชอบความสวยงามของธรรมชาติก็เที่ยวได้ไม่เบื่อ

[am]

แบบนี้ใครจะเบื่อลง

[am]

ต้นไม้เดิม แต่มุมมองใหม่ครับ

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2553, 22:05:37
	ยังแดงเหลืองไม่เต็มที่ครับ แต่ก็สวยติดตาตรึงใจ

สวยครับ...Like Like

[am]

อันนี้เป็นทางเดินหลักของวัด คนยังไม่ค่อยมี
ผมมาถึงวัดแต่เช้า เพราะมาแท็กซี่(1200 yen) ไม่งั้นต้องรอรถบัสอีกตั้งชั่วโมง
มาถึง วัดเพิ่งเปิดเองครับ

[am]

ตอนผมไป หลวงพ่อหลวงพี่ทั้งหลายกำลังสวดมนต์(น่าจะทำวัตรเช้า) และในวัดก็ห้ามถ่ายรูปครับ
เลยไม่มีรูปมาฝาก ได้แต่รูปหลวงพ่อปั้นมา

[am]

แห่งที่ 2 คือ Toshogu Shrine หรือ ศาลเจ้าบ้านเรานี่เองครับ  แต่ศาลเจ้าบ้านเขาใหญ่โต มโหฬาร ตระการตา มหาศาล บานตะไท ...พอก่อน  เดี๋ยวจะโกโซบิ๊ก

[am]

ที่มีชื่อเสียงของศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือ ภาพแกะสลักรูปลิง 3 ตัว
คนไม่ค่อยมีศิลปะแบบผม ดูไม่รู้คุณค่าเท่าไร

[am]

พอสายหน่อย คนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ  เริ่มหามุมถ่ายภาพได้ยากขึ้นครับ
ดังนั้น แนะนำว่า ควรไปแต่เช้าเลยครับ

[am]

แห่งที่ 3 เริ่มเข้าเขต Futarasan Srine แล้วครับ

[am]

ในศาลเจ้าแห่งนี้ มีบ้านที่เป็นที่อยู่อาศัยของโชกุนอยู่ด้วยครับ จัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นได้งดงาม และสงบตามแบบเซน (เดาเอาตามความรู้สึกครับ แหะแหะ)

[am]

สิ้นสุดทางเดินชมมรดกโลกทั้ง 3 แห่ง กลับมาเจอป้ายวัด Rinnouji ก่อนจะเลยไปเที่ยววัดอีกแห่งที่อยู่ติดกันครับ

[am]

วัดที่อยู่ติดกันอีกวัด คือ วัดไท่หยวน  ทิวทัศน์สวยงามมากเช่นกัน หากไม่มีธุระเร่งด่วนก็ควรเข้าไปนะครับ
ตั๋วเหมาที่ซื้อมาสามารถเข้าไปได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

[am]

พรุ่งนี้มาต่อครับ

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2553, 22:17:11
	แบบนี้ใครจะเบื่อลง

ใช่ครับใครจะเบื่อลง
สวยงามซะขนาดนี้
ผมไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
เดือนตุลา ใบไม้สียังไม่จัดเท่านี้เลยครับ

[Leam]

ตามพี่ตะวัน กะ พี่หนุน มาชมด้วยครับ....น้องอำ

[อ้อย17]

      ตามพี่ตะวัน หนุน  และแหลม มาชมด้วยค่ะ....น้องอำ  ชอบมากๆเลย...รูปสวย วิวสวย เอามาลงเยอะๆนะ....

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2553, 22:34:42
	ที่มีชื่อเสียงของศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือ ภาพแกะสลักรูปลิง 3 ตัว คนไม่ค่อยมีศิลปะแบบผม ดูไม่รู้คุณค่าเท่าไร

ขอแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องลิง 3 ตัวหน่อยนะครับ
ท่าในเรื่องของศาสนา ปิดปาก คือไม่พูด ในเรื่องที่ไม่ดี
ปิดหู คือไม่ฟังในเรื่องที่ไม่ดี ปิดตา คือไม้ดูในเรื่องที่ไม่ดี

แต่ในทางการเมือง กคือ การปิดกั้นในเรื่องของเสรีภาพ
คือห้ามพูด ห้ามวิจารณ์ หรือว่ารัฐบาล(เผด็จการ)
ห้ามอ่านหนังสือ หรือบทความที่วิพากษ์วิจารณ์ รัฐบาล ในแง่ที่รัฐไม่ชอบ
ห้ามฟัง เรื่องราว ที่โวยรัฐบาล
เป็นการต่อสู้ เพื่อสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ในประเทศต่างๆที่ผ่านมา

คงไม่ทำเสียบรรยากาศการท่องเที่ยวนะครับ

[am]

ขอบคุณพี่เสรีที่ช่วยเติมเต็มข้อมูลคร้าบ
และขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับผม

		อ้างถึง			ข้อความของ seree_60 เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2553, 09:19:01
	อ้างถึง ข้อความของ am เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2553, 22:34:42 ที่มีชื่อเสียงของศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือ ภาพแกะสลักรูปลิง 3 ตัว คนไม่ค่อยมีศิลปะแบบผม ดูไม่รู้คุณค่าเท่าไร ขอแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องลิง 3 ตัวหน่อยนะครับ ท่าในเรื่องของศาสนา ปิดปาก คือไม่พูด ในเรื่องที่ไม่ดี ปิดหู คือไม่ฟังในเรื่องที่ไม่ดี ปิดตา คือไม้ดูในเรื่องที่ไม่ดี แต่ในทางการเมือง กคือ การปิดกั้นในเรื่องของเสรีภาพ คือห้ามพูด ห้ามวิจารณ์ หรือว่ารัฐบาล(เผด็จการ) ห้ามอ่านหนังสือ หรือบทความที่วิพากษ์วิจารณ์ รัฐบาล ในแง่ที่รัฐไม่ชอบ ห้ามฟัง เรื่องราว ที่โวยรัฐบาล เป็นการต่อสู้ เพื่อสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ในประเทศต่างๆที่ผ่านมา คงไม่ทำเสียบรรยากาศการท่องเที่ยวนะครับ

[am]

หลังจากเที่ยววัดไท่หยวน(หรือไท่หยุน) ก็รอขึ้นรถบัสกลับเข้าเมือง
กลางทางจะผ่านไฮไลท์อีกแห่งหนึ่ง คือ สะพาน "ชินเคียว" (Shinkyo Bridge) เป็นสะพานสีแดงสะดุดตา หากจะไปเดินบนสะพานต้องเสียตังค์อีก 500 yen  ผมเลยขอดูอยู่ห่างๆ ..

[am]

รูปนี้ เพื่อยืนยันอีกครั้งว่าที่นิกโก้รถติดในวันหยุด หากจะไปเที่ยววันเสาร์อาทิตย์ อย่าลืมเผื่อเวลาไว้ด้วยครับ เดี๋ยวตกรถไฟ

[am]

หลังจากนั้น ผมต้องรีบกลับมาสถานีนิกโก้ เพื่อเดินทางต่อไปอีกเมืองหนึ่งทางเหนือ "Naruko"
อยู่เหนือ Sendai ขึ้นไปทางเหนืออีกครั้ง แต่ไม่ใช่เมืองใหญ่โตอะไรนัก ชื่อเสียงที่ทำให้ผมต้องเดินทางมาก็คือ "Onsen"
ออกจากสถานีนิกโก้ประมาณเที่ยงครึ่ง ต้องไปต่อรถอีก 2 รอบ เพราะเมือง Naruko ค่อนข้างจะอยู่นอกเมืองออกไปอีกครับ
ถ้าใครมีแผนจะไปเที่ยวแถวนั้น ผมแนะนำว่าอย่าพลาดเมืองนี้ รวมทั้งที่พักที่ผมเลือกก็น่าประทับใจมากครับ

[am]

ผมไปต่อรถไฟชินคันเซนที่สถานี Utsunomiya  หากอ่านหนังสือหรือข้อมูลแนะนำหลายๆเล่มจะได้รับข้อมูลว่าที่สถานีนี้มีเกี๊ยวซ่าที่หลากหลายและรสชาดไม่เลว

ผมได้ลองแล้ว เดินหาได้ไม่ยากนัก ราคาประมาณ 600 yen  ผมว่ารสชาดคล้ายๆกับบ้านเราแหละครับ แต่ที่ผมไม่ชอบก็คือ น้ำมันเยอะมาก

[am]

หลังจากรถไฟชินคันเซน ผมไปต่อรถไฟท้องถิ่นที่สถานี Furukawa
รถไฟเป็นรถไฟแบบ Local  วิ่งไม่เร็วมาก ใช้เวลาเกือบชั่วโมงแน่ะครับ กับระยะทางประมาณ 35.5 กม. ใช้ตั๋ว JR Pass ได้

[am]

อย่างที่บอกครับ เมืองนี้เขาดังเรื่อง Onsen แม้กระทั่งหน้าสถานีรถไฟ Naruko-onsen เขายังมีบ่อออนเซนสำหรับแช่เท้าเลยครับ ที่สำคัญ "ฟรี"  

[am]

คืนนี้ผมพักที่ Ryokan Bentenkaku   เป็นที่ที่ผมอยากจะแนะนำครับ เวบไซต์นี้เลย http://www.bentenkaku.jp/eng/index.html
พอไปถึงสถานี ก็โทรไปบอกให้เจ้าของมารับ น้าแกน่ารักมากครับ ทั้งอัธยาศรัยใจคอ การพูดการจา และน้ำใจ
แต่ราคาก็ใช้ได้ครับ คนละ 7,710 yen รวมอาหารเย็นที่อลังการงานสร้าง
และเป็นปกติของที่พักประเภทเรียวกัง ที่จะจัดชุดยูคาตะสำหรับเป็นชุดนอนให้แขก

สิ่งที่ผมประทับใจอีกอย่างก็คือ Private open-air hot spring bath สามารถจองใช้ได้โดยไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม
ซึ่งจะต่างจาก onsen ทั่วไป ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ public (แยกชาย-หญิง)

[หนุน'21]

เข้ามาตามชมเป็นระยะๆ ก่อนนอนนะครับน้อง
สวยงามครับ

[am]

สัญลักษณ์ของเมืองนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ตุ๊กตาไม้โคเคชิ (Kokeshi Doll)  
ถึงกับมีพิพิธภัณฑ์ Kokeshi Doll เลยครับ  เสียค่าเข้าคนละ 320 yen
ข้างในก็มีแต่ตุ๊กตาไม้ครับ ละลานตาไปหมด แต่ก็ไม่มีอะรมากกว่านั้น
อ้อ มีตุ๊กตาให้เลือกซื้อด้วย แต่ราคาก็ไม่ธรรมดา มาซื้อข้างนอกถูกกว่า อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยมครับ

[am]

พรุ่งนี้ว่ากันต่อ  ราตรีสวัสดิ์พี่หนุนด้วยนะครับ

[Pae]

ขอตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2553, 23:44:54
	คืนนี้ผมพักที่ Ryokan Bentenkaku   เป็นที่ที่ผมอยากจะแนะนำครับ เวบไซต์นี้เลย http://www.bentenkaku.jp/eng/index.html พอไปถึงสถานี ก็โทรไปบอกให้เจ้าของมารับ น้าแกน่ารักมากครับ ทั้งอัธยาศรัยใจคอ การพูดการจา และน้ำใจ แต่ราคาก็ใช้ได้ครับ คนละ 7,710 yen รวมอาหารเย็นที่อลังการงานสร้าง และเป็นปกติของที่พักประเภทเรียวกัง ที่จะจัดชุดยูคาตะสำหรับเป็นชุดนอนให้แขก สิ่งที่ผมประทับใจอีกอย่างก็คือ Private open-air hot spring bath สามารถจองใช้ได้โดยไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม ซึ่งจะต่างจาก onsen ทั่วไป ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ public (แยกชาย-หญิง)

ข้อมูลนี้เจ๋งมากน้องอำ..พี่จะต้องไปพักที่นี่ให้ได้..ขอบคุณมากครับ
ติดตามชมอย่าง ไกล้ชิดครับ

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ seree_60 เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2553, 10:12:20
	อ้างถึง ข้อความของ am เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2553, 23:44:54 คืนนี้ผมพักที่ Ryokan Bentenkaku   เป็นที่ที่ผมอยากจะแนะนำครับ เวบไซต์นี้เลย http://www.bentenkaku.jp/eng/index.html พอไปถึงสถานี ก็โทรไปบอกให้เจ้าของมารับ น้าแกน่ารักมากครับ ทั้งอัธยาศรัยใจคอ การพูดการจา และน้ำใจ แต่ราคาก็ใช้ได้ครับ คนละ 7,710 yen รวมอาหารเย็นที่อลังการงานสร้าง และเป็นปกติของที่พักประเภทเรียวกัง ที่จะจัดชุดยูคาตะสำหรับเป็นชุดนอนให้แขก สิ่งที่ผมประทับใจอีกอย่างก็คือ Private open-air hot spring bath สามารถจองใช้ได้โดยไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม ซึ่งจะต่างจาก onsen ทั่วไป ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ public (แยกชาย-หญิง) ข้อมูลนี้เจ๋งมากน้องอำ..พี่จะต้องไปพักที่นี่ให้ได้..ขอบคุณมากครับ ติดตามชมอย่าง ไกล้ชิดครับ

อย่าลืมชวนด้วยนะครับพี่
เผื่อว่ามีโอกาสว่าง ...จะได้บอกที่บ้านว่า
ไปประชุม เหอ เหอ เหอ

 

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2553, 08:14:54
	อ้างถึง ข้อความของ seree_60 เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2553, 10:12:20 อ้างถึง ข้อความของ am เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2553, 23:44:54 คืนนี้ผมพักที่ Ryokan Bentenkaku   เป็นที่ที่ผมอยากจะแนะนำครับ เวบไซต์นี้เลย http://www.bentenkaku.jp/eng/index.html พอไปถึงสถานี ก็โทรไปบอกให้เจ้าของมารับ น้าแกน่ารักมากครับ ทั้งอัธยาศรัยใจคอ การพูดการจา และน้ำใจ แต่ราคาก็ใช้ได้ครับ คนละ 7,710 yen รวมอาหารเย็นที่อลังการงานสร้าง และเป็นปกติของที่พักประเภทเรียวกัง ที่จะจัดชุดยูคาตะสำหรับเป็นชุดนอนให้แขก สิ่งที่ผมประทับใจอีกอย่างก็คือ Private open-air hot spring bath สามารถจองใช้ได้โดยไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม ซึ่งจะต่างจาก onsen ทั่วไป ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ public (แยกชาย-หญิง) ข้อมูลนี้เจ๋งมากน้องอำ..พี่จะต้องไปพักที่นี่ให้ได้..ขอบคุณมากครับ ติดตามชมอย่าง ไกล้ชิดครับ อย่าลืมชวนด้วยนะครับพี่ เผื่อว่ามีโอกาสว่าง ...จะได้บอกที่บ้านว่า ไปประชุม เหอ เหอ เหอ

เมื่อไหร่ดีล่ะ..ญี่ปุ่นจะสวยมากๆ และไม่แพงมาก
ก็ต้องช่วง เมษา(ซากุระบาน)
และ ตุลา-พย (ใบไม้เปลี่ยนสี)
ไปกัน 6 คน รถเช่า 1 คัน พอดีเลย
ตลุย จากโตเกียว นิกโก้ เซนได และเมืองที่น้องอำ พาเที่ยวอยู่นีแหละ
สนุกสุดๆไปเลย..เว่อร์ไปเปล่าเนี่ย

[seree_60]

เจ้าของห้องหายไปไหน..สงสัยงานรัดตัว
แฟนคลับ มารอ กระจองอแงกันอยู่

[am]

ผมจอง private hot spring bath ไว้ราวๆห้าโมงครึ่ง  มืดตึ๊ดตื๋อแล้ว
บรรยากาศดี เป็นส่วนตัว และ open air จริงๆครับ

หลังจากแช่ onsen นัดอาหารเย็นไว้ตอนหกโมงครึ่ง พออาหารเย็นเสร็จ โทรบอกให้เขามาปูที่นอนครับ เป็นสไตล์ของเรียวกัง ที่กินที่นอนก็ที่เดียวกันแหละครับ

[am]

เช้าวันรุ่งขึ้น นัดแนะให้คุณน้าขับรถไปส่งที่ Naruko Kyo Gorge ตั้งแต่เช้า
วันนี้ต้องเร่งทำเวลา เพราะในโปรแกรมที่วางกันไว้ ต้องเดินทางล่องใต้ไป Kyoto รวมๆแล้วประมาณ 800 กว่ากิโลเมตร
ไม่งั้นถึงที่หมายดึกแน่ๆเลยครับ

ข้างล่างเป็นรูปเรียวกังและเจ้าของ Bentenkaku ครับ

[am]

ที่เที่ยวใน Naruko มีไม่กี่แห่งครับ หากดูรวมๆจะมีอยู่ 3 ที่
1. Naruko Kyo Gorge
2. Kokeshi Doll Museum
3. Katanuma Swamp

ที่น่าสนใจก็เรียงตามลำดับได้เลยครับ ถ้ามีเวลาก็ไปเที่ยวให้ครบ

[am]

ที่แรก Naruko Kyo Gorge มีจุดใหญ่ 2 จุด คือ Naruko Sightseeing Deck และ Ofukazawa Promenade

เราเริ่มจาก Deck กันก่อนนะครับ เป็นจุดเริ่มต้นของการชม Naruko Kyo Gorge  ในช่วงที่ผมไปเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีค่อนข้างเยอะครับ เป็นโชคดีของผม

[am]

ที่ Naruko รูปวิวค่อนข้างเยอะนะครับ เพราะมีมุมให้ถ่ายรูปหลากหลายจริง กลัวจะเบื่อวิวกันซะก่อน

[am]

Naruko Deck อีกชุดหนึ่ง เป็นบริเวณที่จอดรถและทางเข้าออกครับ

[พธู ๒๕๒๔]

ขออนุญาตมาเรียนรู้ คราวก่อนไปกับทัวร์ไม่ต้องเตรียมอะไร คราวนี้ไปทำงาน 2 วัน เที่ยว 8 วัน จะใช้เป็นแนวท่องเที่ยวบ้าง

[am]

ยินดีครับพี่ เดินทางญี่ปุ่นสนุกดีครับ เมื่อตะกี๊นั่งนึกถึงตอนเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็น ยังประทับใจไม่รู้ลืมเลยครับ
แต่ถ้าจะเดินทางด้วย Shinkansen ใช้ตั๋ว JR Pass คุ้มกว่าครับ เพราะค่าโดยสารแพงหูฉี่

[am]

ต่อจาก Naruko Dect แค่เดินข้ามถนนก็จะถึงเส้นทางเดินชมป่าเปลี่ยนสีในหุบเขา ระยะทางประมาณ 1.5 กม.
ระหว่างทางเจอคนอายุเยอะๆก็มาเดินเที่ยวครับ ไม่มีอุปสรรคด้านอายุ
ตอนแปดโมง อุณหภูมิประมาณ 5 เซลเซียส   ในรูปเพิ่มเป็น 8 เซลเซียสตอนเก้าโมง

[am]

ในเส้นทางมีมุมให้เลือกถ่ายรูปเยอะมากครับ ใช้เวลาเดินประมาณเกือบชั่วโมง แต่ถ้าเที่ยวแบบไม่เสียดายเวลาก็อาจจะเดินเที่ยวได้ถึงชั่วโมงครึ่ง

[am]

สวยมากครับ ยิ่งได้ไปเดินด้วยตัวเอง จะยิ่งเข้าใจ

[am]

อีกชุดหนึ่งครับ

[หนุน'21]

ฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสี  งดงามเช่นนี้นี่เอง
ถ่ายทอดออกมาได้ยอดเยี่ยมครับน้องอำ
รับรองคนที่เข้ามาดูมาชม ไม่มีเบื่อหรอกครับ
กลุ่มนี้ชอบเที่ยวกันทุกคน ไม่ได้ไปเอง มีคนมาเล่า
มาลงรูปให้ชมนี่ก็เพลิดเพลินแล้ว
เป็นกำลังใจและขอบคุณครับ

 

[seree_60]

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ญี่ปุ่นนี้งามประทับใจ จริงๆครับน้องอำ
ส่วนตัวพี่ที่เห็นมาเยอะ
พี่ว่า ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ญี่ปุ่น นี้ สวยที่สุดในโลก

[am]

ใบไม้เปลี่ยนสี แต่ฟ้ายังคงฟ้า

[am]

หลังจาก Naruko Kyo Gorge  ผมเดินมายัง Kokeshi Doll Museum ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
อากาศแบบนี้ วิวข้างทางสวยๆแบบนี้ เดินสบายครับ หากมีเวลา ก็แวะถ่ายรูปได้ตลอดทาง

หน้ามิวเซี่ยม มีตุ๊กตาไม้ตัวโตซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมือง Naruko อยู่ด้วย
ในมิวเซี่ยมมีตุ๊กตาไม้เป็นหมื่นตัว และส่วนหนึ่งก็มีไว้สำหรับจำหน่ายด้วยครับ แต่แพงน่าดู
อ้อ..ค่าเข้าชม คนละ 600 yen  ไม่เบาเลยเช่นกันครับ

[am]

ที่นี่ ผมเจอปัญหาหนึ่ง ก็คือ เรื่องการเดินทาง
โดยปกติจะมีรถเมล์วิ่งเข้ามา ที่ป้ายรถเมล์มีตารางเวลารถเมล์เรียบร้อย แต่เอาเข้าจริงๆ กลับไม่มีรถเมล์วิ่งเข้ามา งงเลย
ผมก็เลยต้องให้เจ้าหน้าที่เรียกรถแท็กซี่มาให้ เพื่อเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่ง คือ Lake Katanuma

แต่ก็โชคดีอย่างหนึ่ง ในระหว่างที่รอรถแท็กซี่ ได้มีโอกาสไปเดินชมวิวรอบๆมิวเซี่ยม  จึงได้พบว่า ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็สวยไม่เบา

[am]

ผมนั่งแท็กซี่จากมิวเซี่ยมไป Lake Katanuma แล้วย้อนกลับมาส่งที่สถานีรถไฟ ระยะทางน่าจะประมาณสิบกิโล
ในชีวิตหนึ่งมีไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้จ่ายค่าแท็กซี่ 3,000 yen  ใครจะลองดูบ้างก็ได้นะครับ..อิอิ

หากเวลาไม่เหลือเฟือจนกระทั่งไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี (ในช่วงที่ผมไป) ตามความเห็นผม ไม่ต้องมาที่ทะเลสาบนี้ก็ได้ครับ ไม่ได้มีอะไรตื่นตาตื่นใจมากนัก

[am]

จากนั้นก็ต้องบ๊ายบาย Naruko แล้วครับ ด้วยความอาลัยปนกับความประทับใจ
รถไฟ JR Local ใช้เวลาเกือบชั่วโมงพาผมมาต่อรถไฟชินคันเซนที่สถานี Furukawa เพื่อเดินทางต่อไปยัง Tokyo และต่อรถชินคันเซนอีกทีไป Kyoto

[am]

ถึงสถานี Furukawa แล้วครับ  สถานีนี้ไม่ใช่สถานีใหญ่มาก รถไฟชินคันเซนที่จอดที่นี่ไม่เยอะมากนะครับ เท่าที่จำได้น่าจะประมาณชั่วโมงละขบวน  ส่วนใหญ่จะจอดที่สถานี Sendai แล้วก็เลยสถานีนี้ไปเลย

ดังนั้น จึงต้องวางแผนให้ดีนะครับ ไม่งั้นได้รอรถไฟเป็นชั่วโมงแน่เลย

[am]

ที่สถานีรถไฟของญี่ปุ่นมีฟาสต์ฟู้ดของจริง  ขนาดจะนั่งกินยังไม่มีเวลาเลย
ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างล่างเป็นร้านยืนกิน ไม่มีที่นั่ง ราคาก็อยู่ราวๆ 3-400 yen พบเห็นได้ทั่วไปบนสถานีรถไฟครับ

[หนุน'21]

like like like

 

[seree_60]

ยอดเยี่ยมสวยงาม มากๆๆๆๆเลยน้องอำ
แ้ล้วน้องอำ ไปกัน 2 ชิวิต ใช่ไหมครับ
เห็นมดเดินตามเป็นพรวน เลยครับ.....555555555555

[am]

ใช่ครับ ไปกัน 2 คน   เลยไม่ค่อยเห็นรูปคู่
ภาพนั้น คนขับแท็กซี่แกลงมาถ่ายให้ผมครับ

[Leam]

สวัสดียามสายใก้ลเที่ยงครับ.............น้องอำ..พี่ตะวัน..พี่หนุน..น้องทู และพี่น้องทุกท่าน

สวย...สวยมากครับ

อยากหาโอกาสไปเที่ยวจัง.

[ti2521]

.....ตามมา ชื่นชม ครับ ดูบ้านเมืองเค้า สะอาด เป็นระเบียบ สวย   ขอบคุณน้องอำ  สำหรับภาพสวยๆ ครับ.....

[am]

ถึง Kyoto แล้วครับ นับรวมระยะทางจาก Naruko ก็ประมาณ 944.1 กิโลเมตร ออกจาก Naruko เที่ยงกว่าๆ ถึง Kyoto หกโมงครึ่ง (รอรถ 1 ชม. เดินทางจริง 5 ชม.ครึ่ง)

เมื่อมาถึง Kyoto  สถานที่แรกที่ผมตรงไปก็คือ Kyoto Tourist Information เป็นจุดที่ให้ข้อมูลสำหรับการเดินทางและท่องเที่ยว คนญี่ปุ่นก็ยังต้องมาที่นี่เหมือนกัน   และการเดินทางที่สะดวกสำหรับการท่องเที่ยวใน Kyoto ที่สุดก็คือ รถเมล์ ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นก็คือ แผนที่รถเมล์

แผนที่รถเมล์ของเขาเวิร์คมากครับ ดูง่าย และแสดงให้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญครบทุกแห่ง หากไม่มีแผนที่รถเมล์ ผมก็คงขาดใจเลยล่ะครับ

[am]

นี่ครับ Kyoto Tourist Information Center  เมื่อเดินทางถึงสถานี Kyoto ให้ออกประตู Central Gate เดินไปอีกหน่อยก็ถึงครับ อยู่ซ้ายมือ

[am]

วันนี้ ส่วนใหญ่หมดเวลาไปกับการเดินทาง เวลากินข้าวยังไม่มีเลยครับ (ตอนเช้ากินซาลาเปา ตอนบ่ายกินขนมปังกับถั่ว อดๆอยากๆ)
มื้อเย็นเลยหาอะไรกินง่าย ก็อาหารกล่องเบนโตะไงล่ะครับ..:-)  ราคาโดยเฉลี่ยก็อยู่แถว 1000 yen แพ็คเก็จสวยงาม(แต่กินไม่ได้) ซื้อไปนั่งกินที่ป้ายรถเมล์

[am]

กว่าจะได้ขึ้นรถเมล์ก็ปาเข้าไปทุ่มครึ่งครับ รอเกือบชั่วโมง  เป็นรถเมล์ JR สามารถใช้ JR Pass ได้

ที่พักของผมคืนนี้ คือ Ryokan Yamazaki จำมาจากหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่ง พอได้มาพักจริงๆ สร้างความประทับใจได้ไม่เบาครับ

แต่ทำเลค่อนข้างจะอยู่นอกเมืองออกมาหน่อย ขึ้นรถเมล์จากสถานี Kyoto ประมาณห้าสิบนาที

ผมมีโปรแกรมที่จะต้องค้างคืนที่ Kyoto 4 คืน ก็เลยมาพักที่นี่ 2 คืน แล้วพักในเมืองอีก 2 คืน

ผมไปถึงเรียวกังตอนมืดแล้ว พอไปเจอเจ้าของ รู้สึกเหมือนได้เจอญาติผู้ใหญ่เลยครับ อบอุ่น...

ขนาดห้องใหญ่มาก ใหญ่กว่า Ryokan Bentenkaku อีกครับ  ราคาตกคนละ 5,250 yen  ค่าอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นอีกคนละ 1,050 yen รวมแล้วก็ตกประมาณคนละ 6,300 yenต่อคืน

[am]

มาดูภายนอกภายในของ Ryokan Yamazaki กันครับ
ผมประทับใจที่นี่เช่นกันครับ ถึงแม้จะอยู่นอกเมืองไปสักหน่อย แต่ก็อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวตามโปรแกรมของผม

[am]

อาหารเช้าสไตล์เจแปน ราคา 1,050 yen แต่ถ้าเป็นเวสเทิร์นสไตล์ก็จะอยู่ราวๆ 500 yen
ผมเลือกแบบแรก ไม่อลังการเหมือนมื้อเย็นของ Ryokan Bentenkaku แต่ก็หลากหลายใช้ได้ครับ

[am]

จากหน้าที่พัก ผมนั่งรถเมล์ไป 4-5 ป้ายก็ถึงที่เที่ยวแห่งแรกแล้วครับ คือ วัด Ninnaji Temple (ซื้อตั๋ววัน 500 yen ขึ้นรถเมล์ได้ทุกสาย คุ้มครับ เพราะขึ้นครั้งหนึ่งก็ 220 yen แล้ว)

วัดนี้มีสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตมโหฬาร คือ ซุ้มประตูทางเข้า และเจดีย์ห้าชั้น (สำหรับเจดีย์ห้าชั้น ผมเจอเกือบทุกวัด) และมีที่พักสำหรับพระ ก็คล้ายๆกุฏิบ้านเรา แต่จะมีท่านอื่นอาศัยอยู่ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ

ค่าเข้าชมวัดนี้ 500 yen แต่หากต้องการเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ก็จ่ายเพิ่มอีก 300 yen รวมเป็น 800 yen
สำหรับผม เลือกแบบ 500 yen  เวลาไม่ค่อยมีครับ แต่ขนาดเลือกแบบห้าร้อย ก็ยังใช้เวลาเดินเที่ยวเกือบชั่วโมงครึ่ง เกินเวลาที่วางไว้แค่หนึ่งชั่วโมง เลยกระทบกับแผนท่องเที่ยวอื่นๆไปด้วย

[am]

วัดนี้ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา(เล็กๆ) ด้านในของวัดจะมีเจดีย์ห้าชั้นที่ว่า และเต็มไปด้วยต้นไม้ (ซึ่งต่อมาภายหลัง ผมก็ได้เห็นว่า วัดเกือบทุกวัดเต็มไปด้วยต้นไม้ และหลายวัดก็จะตั้งอยู่เนินเขา)  แต่ที่นี่ลมแรงมากครับ ผมทนหนาวไม่ได้ ถึงกับต้องควักที่ปิดหูมาใช้ กลัวหูหลุด

[am]

จากวัด Ninnaji  ผมใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาทีก็ถึงวัด Ryoanji ซึ่งเป็นวัดในนิกายเซน
ตามความรู้สึกของผม วัดแรกได้ชื่อในความใหญ่โตอลังการ  วัดนี้ได้ใจผมเรื่องของความรู้สึกและอารมฌ์ สงบและสดชื่น

ค่าเข้า 500 yen ต่อคน

[am]

เดินตามกันมาให้ดีนะครับ ระวังหลง

ตลอดข้างทางจะเต็มไปด้วยความสดชื่นและให้ความรู้สึกที่สงบครับ

[am]

สิ่งที่มีชื่อเสียงของวัดนี้ก็คือ Rock Garden ครับ
ไปถึง มีแต่คนนั่งเรียงแถวมองลานหินเต็มไปหมด

ถ้าให้เดา ก็คล้ายๆกับการทำสมาธิของบ้านเราแหละครับ ผิดกันแต่เพียงวิธีการ ของเรานั่งตามลมหายใจ ของเขานั่งเพ่งหิน

[seree_60]

เกาะกระดาน..ติดตามชมอย่างไกล้ชิด ชั้นริงไซด์
สวยงามมากน้องอำ

[อ้อย17]

สวยงามน่าไป อยากเห็นของจริง ...เฮ้อ.....ความอยาก...อยากแต่จะเที่ยว..
น้องอำถ่ายรูปสวยมากค่ะ..

[หนุน'21]

เกาะติดขอบสนามเหมือนกันครับ
รายงานเรื่องเล่าพร้อมรูปภาพที่งดงาม
ยอดเยี่ยมครับ
ชื่นชม

 

[seree_60]

เจ้าของห้อง ไปไหนเอ่ย...คงอยู่ในเทศกาล ต้อนรับปีใหม่

[am]

แหะ แหะ แหะ....

ช่วงวันหยุดรัฐธรรมนูญ
หนีไปไหว้พระที่เชียงใหม่มาครับ ขึ้นยอดดอยอินทนนท์ครั้งที่เท่าไรก็ชักจะเลือนๆแล้วครับ แต่คราวนี้ ชุ่มชื่นไปด้วยสายหมอก และละอองฝน  อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ราวๆ 7 องศาเซลเซียส 

ส่วนที่ดอยสุเทพ เจอฝนจริงๆจังๆมาก ไม่ใช่แค่ละอองฝน

[seree_60]

หายหนาว และหายเหนื่อยแล้วยังน้องอัม....

[am]

ขาไป พ่อตาขับรถ
ขากลับ ผมกับแฟนต้องกลับก่อน  เดินทางทรหดเหมือนสมัยยังละอ่อน
ขึ้นรถทัวร์ทุ่มครึ่ง ถึงกรุงเทพฯตีสี่ครึ่ง นอนต่ออีกหน่อยก็ต้องตื่นขึ้นมาทำงานครับ

[am]

ถึงไหนแล้วหว่า.....

ต่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ไม่งั้นลืมหมดแน่ๆ

[am]

ผมชมวัด Ryoanji Temple เสร็จราวๆ 10.15 น. แล้วก็แจ้นไปวัดที่อยู่ใกล้ๆกัน เพราะเลยกำหนดการตามแผนที่วางไว้ค่อนข้างมาก (ผมกะไว้ราวๆแค่ 1 ชม. แต่เอาเข้าจริงๆก็ตกประมาณชั่วโมงครึ่ง)

จากหน้าวัด มีรถเมล์สาย 12 ห้วยขวาง-ปากคลองฯ  เอ๊ย...ม่ายช่าย.อิอิ
ผมนั่งรถเมล์สาย 12 โดยใช้ตั๋ววัน 500 yen ที่ซื้อไว้แต่เช้า (ขอซื้อได้จากพนักงานขับรถได้เลย) นั่งได้สิบกว่านาทีก็ถึงวัดในตำนานแล้วครับ คือ วัดทอง หรือ Kinkakuji Temple เป็นวัดในการ์ตูนอิกคิวซัง  ผมเลยเหมาเอาว่าเป็นวัดในตำนาน

ก่อนถึงตัววัด มีซุ้มและทางเดินเข้าวัดยาวพอสมควรครับ นักเรียนมาเที่ยววัดกันเยอะมาก ทั้งที่ไม่ใช่วันหยุด ผมก็แปลกใจว่าเขาไม่เรียนกันหรือไง จนบัดนี้ก็ยังไม่เจอคำตอบ    แต่เท่าที่สังเกตดูทุกวัดที่ไป นักเรียนญี่ปุ่นเข้าไปเที่ยววัดเยอะมากเลยนะครับ น่าจะอยู่ในระดับมัธยม ต่างจากบ้านเราที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กประถมที่ถูกบังคับเข้าวัด

[am]

บอกแล้วครับว่า ทางเดินเข้าวัดค่อนข้างยาว รูปเลยเยอะตามไปด้วย

เสียดายครับที่ช่วงที่ผมไป ต้นไม้ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสี ไม่งั้นจะได้เห็นสีแดงเต็มไปทั้งวัด (จริงๆก็เหมือนกันกับวัดอื่นแหละครับ)

[am]

ซุ้มประตูเข้าวัดครับ จ่ายตังค์คนละ 400 yen (ถูกกว่า 2 วัดแรกอีกนะ)

[am]

เดินอีกแป๊บนึงก็จะได้ยลไฮไลท์แล้วครับ "วัดทอง"

[am]

เดินมาตรงทางออก เจออาหารกลางวันเข้าอย่างจัง
อร่อยสุดๆๆๆๆ  มาม่ารสทะเล  รสชาดใช้ได้ครับ ไม่จืด
กดได้จากตู้

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 14 ธันวาคม 2553, 22:53:05
	เดินอีกแป๊บนึงก็จะได้ยลไฮไลท์แล้วครับ "วัดทอง"

วัดทองสวยบาดใจเลยน้องอัม

[am]

ช่วงนี้งานหนัก ไม่มีเวลามาอัพเดตเลยครับ

[am]

จากวัด Kinkakuji Temple ผมใช้ตั๋วรถเมล์ใบเดิมนั่งรถเมล์สาย 59 แล้วต่อรถเมล์สาย 102   ก็ถึงทางเข้าวัด ใช้เวลาเดินทางราวๆครึ่งชั่วโมง  

ทางเดินเข้าวัดน่าจะเกือบๆกิโล  สองข้างทางมีร้านขายของเต็มไปหมด ใครชอบช็อปปิ้งก็ต้องเผื่อเวลาไว้อีกอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงสำหรับการเดินเข้าวัด

[am]

จุดเด่นของวัดเงินไม่ได้อยู่ที่ตัววิหารเหมือนกับวัดทอง แต่เด่นในเรื่องของการจัดสวน
ด้านหน้าเป็นสวน ทั้งสวนหินและสวนต้นไม้(ที่เด่นคือต้นสน) ส่วนด้านหลังอิงกับภูเขาเป็นทางเดินชมวัดจาดมุมบน
หากมาในช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมๆกัน จะอลังการกว่าในช่วงที่ผมไป
อ้อ...ทางเดินบนช่วงเขา ลมแรง อากาศหนาวมากครับ เสื้อผ้าต้องเตรียมไปให้พร้อม

ภาพชุดนี้เป็นสวนบริเวณด้านหน้าวัด

[am]

เดินต่อเข้าไปข้างในจะถึงช่วงภูเขา  
วัดส่วนใหญ่ในโตเกียวจะอิงกับภูเขาซะเยอะครับ

ภาพชุดนี้เป็นช่วงทางเดินบนภูเขา

[am]

ตอนเดินออก ผมเห็นขนมน่ากินดี หน้าตาคล้ายขนมปังสังขยาบ้านเรา
แต่ตอนกิน ค่อนข้างทุกลักทุเล เพราะไส้ทะลักออกมาเลย  น่าจะตั้งชื่อว่า "ทะลักไส้แตก"

[am]

จริงๆแล้ว ตามแผนที่วางไว้ จะไปอีกวัดหนึ่ง เพราะกะไว้ว่าจะชมวัดถึงห้าโมงเย็น
แต่พอสามโมงกว่าก็เริ่มจะมืด เลยต้องเปลี่ยนแผน ไปชมศาลเจ้า Heian Shrine ซึ่งไม่มีเวลาปิด
นั่งรถเมล์สาย 100 กว่าจะถึงก็สี่โมงกว่าๆ เกือบมืด

[am]

อาหารเย็นผมวันนี้ นี่เลยครับ McDonald
แต่บ้านเขาไม่มีส้อมกับมีด และไม่มีซ้อส
ต้องใช้มือ

[am]

รุ่งเช้าวันต่อมา ถึงเวลาต้องอำลา Ryokan Yamazaki แล้ว
มือเช้า ผมยังกินแบบญี่ปุ่น 1,050 yen ส่วนแฟนผมกินแบบตะวันตก 525 yen ไม่มีอะไรมากครับ ก็แค่ขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก น้ำส้ม

[am]

ภายในรถเมล์ จะมีเครื่องแลกเหรียญ เครื่องหยอดเหรียญจ่ายค่าโดยสาร และเครื่องสอดบัตรโดยสารให้เสร็จสรรพ
ใครไม่มีเหรียญ ก็ไปแลกบนรถได้ครับ

[am]

จาก Ryokan Yamazaki ผมนั่งรถเมล์ 2 ต่อ เพื่อมา check in ที่โรงแรมในเครือ Toyoko Inn
ที่นี่ผมได้ลดราคา 30% (ราคาเต็ม 8,820 yen) จากการสมัครเป็นสมาชิกในการพักคืนแรก

Toyoko Inn  Gojo-Omiya ตั้งอยู่ในเมือง เดินสัก 500 เมตรก็ถึงสถานีรถไฟ
ผมนั่งรถไฟสาย Sagano Line 1 สถานี จากสถานี Tanbajuchi มาลงที่สถานี Kyoto เพื่อต่อรถไปเมือง Nara

ภาพนี้ ขณะนั่งรอรถไฟบนสถานี Tanbaguchi

[am]

ตามแผนที่วางไว้ กะว่าจะแวะวัด Tofukuji Temple กับ Fushimi Inari Shrine ก่อน  
แต่ดันไปนั่งรถไฟ Express   มันไม่จอดที่สถานีที่ผมจะลง ก็เลยต้องเลยตามเลย ไปเมืองนาระกันเลยครับ

เมื่อไปถึงสถานีนาระ เขามี Information Center ให้สอบถามข้อมูล  เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลดีมากครับ แนะนำให้แวะถามก่อน

ด้านหน้าสถานีเป็นป้ายรถเมล์ รถเมล์ทุกสายจอดที่นี่ครับ รวมถึงรถเมล์ที่เราจะเดินทางไปเที่ยวกันด้วย(รูปล่างสุด)

[am]

ไฮไลท์ของเมือง Nara มีหลายแห่ง ที่เด่นๆ ก็ Daikoji Temple, สวนสาธารณะเมือง Nara และวัดอีกหลายวัดครับ ผมไปได้ไม่ครบ  จำกัดเรื่องเวลา

ลงจากสถานี ผมก็มุ่งหน้าไปวัด Daikoji Temple พระใหญ่แห่งเมือง Nara โดยนั่งรถเมล์สาย 2 ค่ารถ 200 yen (เขาแนะนำให้ซื้อแบบขาเดียว เพราะขากลับ สามารถเดินเที่ยวแล้วกลับมาถึงสถานีได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเหมา)

[am]

พักยกก่อนครับ

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 19 ธันวาคม 2553, 10:56:25
	จุดเด่นของวัดเงินไม่ได้อยู่ที่ตัววิหารเหมือนกับวัดทอง แต่เด่นในเรื่องของการจัดสวน ด้านหน้าเป็นสวน ทั้งสวนหินและสวนต้นไม้(ที่เด่นคือต้นสน) ส่วนด้านหลังอิงกับภูเขาเป็นทางเดินชมวัดจาดมุมบน หากมาในช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมๆกัน จะอลังการกว่าในช่วงที่ผมไป อ้อ...ทางเดินบนช่วงเขา ลมแรง อากาศหนาวมากครับ เสื้อผ้าต้องเตรียมไปให้พร้อม ภาพชุดนี้เป็นสวนบริเวณด้านหน้าวัด

มาชมต่อครับ
สวยงามมากจริงๆ น้องอำ
ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กัน
ค่อยๆลง ตอนมีเวลาว่างๆก็ได้ครับ
มีผู้ชมคอยตามเที่ยวด้วยหลายคน

สวยงามน่าสนใจมากครับวัดนี้
สงสัยต้องให้พี่ตะวัน
จัดทัวร์ชาวหอสักครั้งครับ


 

[seree_60]

ตามชมอยู่เสมอ น้องอัม
อย่างว่าตอนนี้เทศกาล เฉลิมฉลองความสุข
เลยไม่ค่อยได้มาคุยกัน
โพสต์ไปเรื่อยๆนะครับ
ว่างๆก็เข้ามา ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวจบเร็ว ทำให้เงียบเหงา

[seree_60]

สวัสดีปีใหม่2554..น้องอัมและคอบครัว

[am]

ยกคำอวยพรที่เขียนไว้อีกเวบมาอวยพรพี่ๆเพื่อนๆทั้งหลาย
หากไม่เพราะหรือไม่เสนาะโสต ก็ขออภัยด้วยคร้าบบบบบบ..

ถึงปีใหม่ ทำอะไร ขอให้หมู
หมดศัตรู คู่อาฆาต พินาศสูญ
สุขภาพ สดใส ใจสมบูรณ์
เรื่องอาดูร อย่าได้พบ บรรจบกัน

แต่ขอให้ พึงตระหนัก ว่าศักดิ์ศรี
เป็นตัวที่ พาให้หลง ว่าคงหวาน
เป็นตัวยึด พาให้ล่ม ให้จมนาน
ให้ยึดมั่น ฉันและกู คู่โลกีย์

อย่าทะลึ่ง ไปหลง ตรงลาภยศ
ไม่สวยสด ไม่เริ่ดหรู ดูสดสี
ไม่คงทน ไม่อยู่นาน บานบุรี
ไมนานปี ก็เหี่ยวลง ปลงหัวใจ

และขอให้ อยู่ใต้ คุณพระศรี-
รัตนตรี ปกเกล้า เราทั้งหลาย
ไม่ว่าเกิด ชาติหน้า หรือชาติใด
ได้รับใช้ เบื้องบาท ศาสน์พุทธา

[หนุน'21]

สวัสดีครับพี่ตะวัน น้องอัม
กลอนเพราะดี
ได้ข้อคิดด้วย
ปีใหม่นี้
ขอให้มีความสุข
อย่างที่ต้องการครับ

[seree_60]

ปี กระต่าย..คงสดใส กว่าทุกๆปีที่ผ่านมา..หวังไว้อย่างนี้แหละ

[Pete15]

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ ครับ น้องอัม ขอพรปีใหม่ ( ดัง post ) ให้บังเกิดกับ น้องและครอบครัวเช่นกัน

[am]

สวัสดีปีใหม่และขอบคุณพี่ๆทุกท่านคร้าบ..

และโดยเฉพาะพี่เสรี ปีหน้าขอให้ได้เที่ยวเยอะๆเหมือนเดิม..

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 29 ธันวาคม 2553, 17:05:21
	สวัสดีปีใหม่และขอบคุณพี่ๆทุกท่านคร้าบ.. และโดยเฉพาะพี่เสรี ปีหน้าขอให้ได้เที่ยวเยอะๆเหมือนเดิม..

คิดว่า คำอวยพรของน้องอัมต้องเป็นจริงแน่ๆเลยครับ
เพราะตอนนี้จัดคิวไม่ลงตัว มันทับกันอยู่ครับ
ไม่อยากบอกตอนนี้เดี๋ยวมีคนอิจฉาเยอะ

ราคาคุย นะครับ..
แต่ที่แน่ๆ คือ กลางเดือน กพ.54 จะไปเดินเล่นที่ฮ่องกงซักหน่อยครับ

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 29 ธันวาคม 2553, 17:05:21
	สวัสดีปีใหม่และขอบคุณพี่ๆทุกท่านคร้าบ.. และโดยเฉพาะพี่เสรี ปีหน้าขอให้ได้เที่ยวเยอะๆเหมือนเดิม..

		อ้างถึง			ข้อความของ seree_60 เมื่อ 29 ธันวาคม 2553, 22:02:31
	คิดว่า คำอวยพรของน้องอัมต้องเป็นจริงแน่ๆเลยครับ เพราะตอนนี้จัดคิวไม่ลงตัว มันทับกันอยู่ครับ ไม่อยากบอกตอนนี้เดี๋ยวมีคนอิจฉาเยอะ ราคาคุย นะครับ.. แต่ที่แน่ๆ คือ กลางเดือน กพ.54 จะไปเดินเล่นที่ฮ่องกงซักหน่อยครับ

ไปตอนเมษาไม่ได้เหรอครับพี่
ผมกัลูกชายจะขอติดสอยห้อยตามไปด้วย
อิ อิ

 

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 05 มกราคม 2554, 13:57:14
	อ้างถึง ข้อความของ am เมื่อ 29 ธันวาคม 2553, 17:05:21 สวัสดีปีใหม่และขอบคุณพี่ๆทุกท่านคร้าบ.. และโดยเฉพาะพี่เสรี ปีหน้าขอให้ได้เที่ยวเยอะๆเหมือนเดิม.. อ้างถึง ข้อความของ seree_60 เมื่อ 29 ธันวาคม 2553, 22:02:31 คิดว่า คำอวยพรของน้องอัมต้องเป็นจริงแน่ๆเลยครับ เพราะตอนนี้จัดคิวไม่ลงตัว มันทับกันอยู่ครับ ไม่อยากบอกตอนนี้เดี๋ยวมีคนอิจฉาเยอะ ราคาคุย นะครับ.. แต่ที่แน่ๆ คือ กลางเดือน กพ.54 จะไปเดินเล่นที่ฮ่องกงซักหน่อยครับ ไปตอนเมษาไม่ได้เหรอครับพี่ ผมกัลูกชายจะขอติดสอยห้อยตามไปด้วย อิ อิ

ไปออสเตรีย มั้ยล่ะ ปลายเดือนเมษา-ต้นพค. มีคนมาชวนอยู่ 2-3 คนแล้ว

[หนุน'21]

ออสเตรียเพิ่งไปมายังไม่ครบ 2 ปีเลยครับ
คนเบี้ยน้อยหอยน้อย ต้องไปที่ที่ยังไม่เคยไป
หรือไม่ก็ใกล้ๆอ่ะครับพี่  อิ อิ

 

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 07 มกราคม 2554, 21:44:21
	ออสเตรียเพิ่งไปมายังไม่ครบ 2 ปีเลยครับ คนเบี้ยน้อยหอยน้อย ต้องไปที่ที่ยังไม่เคยไป หรือไม่ก็ใกล้ๆอ่ะครับพี่  อิ อิ

แกล้งชวนไปงั้นๆแหละ...พี่ก็เพิ่งไปมา 2 รอบแล้ว ไปที่ใหม่ๆดีกว่าเนอะ..
แต่พี่ก็เลื่อนไม่ได้ ผบทบ.กำหนดมา เพราะเมษาเขามีโปรแกรมพิเศษอีก..ขัดไม่ได้

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ seree_60 เมื่อ 07 มกราคม 2554, 22:23:23
	อ้างถึง ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 07 มกราคม 2554, 21:44:21 ออสเตรียเพิ่งไปมายังไม่ครบ 2 ปีเลยครับ คนเบี้ยน้อยหอยน้อย ต้องไปที่ที่ยังไม่เคยไป หรือไม่ก็ใกล้ๆอ่ะครับพี่  อิ อิ   แกล้งชวนไปงั้นๆแหละ...พี่ก็เพิ่งไปมา 2 รอบแล้ว ไปที่ใหม่ๆดีกว่าเนอะ.. แต่พี่ก็เลื่อนไม่ได้ ผบทบ.กำหนดมา เพราะเมษาเขามีโปรแกรมพิเศษอีก..ขัดไม่ได้

รับทราบครับพี่ตะวัน
ว่าแต่เรามาคุยกันในนี้
ไม่รู้ว่าเมื่อไรน้องอัมจะมาเล่าเรื่อง ลงรูปต่อ

[seree_60]

ฮัลโหลๆๆ


น้องอัม...ฉลองปีใหม่เสร็จแล้วยัง แฟนคลับมานั่งรอนานแล้วครับ

[am]

ลืมบ้านไปเลย..อิอิ

[หนุน'21]

อย่างนี้ไม่เรียกว่าลืมน้องอัม
เพราะเข้าบ้านถูก...ไม่ต้องนอนรอหน้าบ้าน
ให้แม่บ้านออกมาลากเข้าไปเพราะ มาววววววว....
เหอ เหอ

[เอมอร 2515]

สวัสดีค่ะ น้องอำ  เข้ามาติชมคะ ชมก่อนทั้งรูปก็สวยมาก และเรื่องราวก็เขียนชวนให้ติดตาม ละเอียดสนุกสนานจนเหมือนได้ไปเที่ยวเอง พี่ชอบรูปต้นสน และวัดทองค่ะ  ขอบคุณค่ะ ต่อมาตามด้วยติค่ะ ด้วยยังไม่อิ่มเลย

[ดร.มนตรี]

พี่เพิ่งกลับจากญี่ปุ่น ... ถึงเมืองไทย วันนี้

ปกติถ้าไปญี่ปุ่น จะอยู่แค่ โตเกียว ... ก่อนไปญี่ปุ่น Trip นี้บังเอิญผ่านตามาอ่านกระทู้นี้ของน้อง

Trip นี้เลยวางแผนลงมาตะลุยเที่ยวแถบ คันไซ หลังจากเสร็จงานที่โตเกียว ...

----

ถ้าจะเที่ยวให้มันส์ ต้อง แบคแพ็ค ใช่มั้ย ...  




เก็บภาพวัดทอง ... กับหิมะ ในหน้าหนาว มาฝาก ครับ  










เพื่อนใหม่ ... Friendly มากๆ ... สาวลูกครึ่ง เกาหลี + ญี่ปุ่น  

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 14 ธันวาคม 2553, 22:53:05
	เดินอีกแป๊บนึงก็จะได้ยลไฮไลท์แล้วครับ "วัดทอง"

[BU_KA]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 10 มกราคม 2554, 21:10:57
	ลืมบ้านไปเลย..อิอิ

น้องอัม พี่หมีอยากคุยกับน้องจิ๋ม บุษกร ค่ะ

[am]

		อ้างถึง			ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 24 มกราคม 2554, 22:42:12
	พี่เพิ่งกลับจากญี่ปุ่น ... ถึงเมืองไทย วันนี้ ปกติถ้าไปญี่ปุ่น จะอยู่แค่ โตเกียว ... ก่อนไปญี่ปุ่น Trip นี้บังเอิญผ่านตามาอ่านกระทู้นี้ของน้อง Trip นี้เลยวางแผนลงมาตะลุยเที่ยวแถบ คันไซ หลังจากเสร็จงานที่โตเกียว ... ---- ถ้าจะเที่ยวให้มันส์ ต้อง แบคแพ็ค ใช่มั้ย ...   เก็บภาพวัดทอง ... กับหิมะ ในหน้าหนาว มาฝาก ครับ   เพื่อนใหม่ ... Friendly มากๆ ... สาวลูกครึ่ง เกาหลี + ญี่ปุ่น   อ้างถึง ข้อความของ am เมื่อ 14 ธันวาคม 2553, 22:53:05 เดินอีกแป๊บนึงก็จะได้ยลไฮไลท์แล้วครับ "วัดทอง"

พอเปลี่ยนฤดู วิวก็เปลี่ยนไป
เดี๋ยวคราวหน้า ว่าจะลองไปเที่ยวตอนฤดูหิมะบ้างครับ

[am]

เอ....เขียนถึงไหนแล้วหว่า....

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 19 ธันวาคม 2553, 12:19:36
	ไฮไลท์ของเมือง Nara มีหลายแห่ง ที่เด่นๆ ก็ Daikoji Temple, สวนสาธารณะเมือง Nara และวัดอีกหลายวัดครับ ผมไปได้ไม่ครบ  จำกัดเรื่องเวลา ลงจากสถานี ผมก็มุ่งหน้าไปวัด Daikoji Temple พระใหญ่แห่งเมือง Nara โดยนั่งรถเมล์สาย 2 ค่ารถ 200 yen (เขาแนะนำให้ซื้อแบบขาเดียว เพราะขากลับ สามารถเดินเที่ยวแล้วกลับมาถึงสถานีได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเหมา)

ล่าสุด...ถึงตรงนี้ครับ
นอกนั้นอีก 2 - 3 ครั้ง เป็นการคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ อวยกันไป-มา
ค่อยๆลำดับ เดี๋ยวพี่ๆ น้องๆ ก็ตามเองแหละน้องอำ
รอครับ
 

[am]

แหม...พอจะกลับมาเล่าต่อ...
ต้องนึกกันยาวเลย..
ความทรงจำชักเลือนๆ

[am]

นั่งรถเมล์ซักแป๊บนึง ตดยังไม่ทันหายหอม ก็ถึงวัด Daikoji Temple แล้ว
ที่วัดนี้มีจุดน่าสนใจหลายอย่างครับ

เริ่มตั้งแต่ทางเข้าวัด นอกจากจะคราคร่ำไปด้วยแขกผู้มาเยือนแล้ว เจ้าภาพขาประจำก็รอต้อนรับแขกเต็มไปหมด
ถ้าเป็นบ้านเรา อาจจะเอามาผัดเผ็ดไปแล้วครับ

อ้อ...ทางเดินเข้าวัด มีร้านให้ช็อปด้วยครับ ยาวเกือบๆ 500 เมตร

[am]

วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยนะครับ
ในญี่ปุ่นมีมรดกโลกเต็มไปหมด เป็นจุดขายของเขาเลย

ในภาพ ได้รับขึ้นทะเบียนเฉพาะวัดนี้นะครับ ส่วนคนในภาพยังไม่ถือเป็นมรดกโลก

[am]

ซุ้มทางเข้าวัดใหญ่โตมโหระทึกมากครับ
รู้สึกเลยว่าตัวเรานี่เล็กนิดเดียวเอง

ค่าเข้า 500 yen  ส่วนเวลาเปิดปิดนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราไปเดือนไหนครับ
ผมเอาข้อมูลเวลาเปิดปิดมาฝากด้วย เผื่อจะนำไปใช้ในการวางแผนเที่ยว

[am]

ที่วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน "พระใหญ่แห่งเมืองนารา" หรือ "พระไวยโรจนะ"
องค์พระใหญ่สมชื่อ

มีคำถามว่า "อะไรใหญ่กว่าพระใหญ่"........ คำตอบคือ "วิหารพระใหญ่" :-)









หลวงพ่อหน้าวิหารองค์นี้ เขาก็ว่าศักดิ์สิทธิ์มากครับ

[Kaimook]

 สวัสดีค่ะ  ตามมาเที่ยวค่ะ...

[seree_60]

ตามมาเที่ยวเหมียนกัน....

[am]

อ้าว...ทำไมรูปเรากลายเป็นกบไปได้หว่า

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ am เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2554, 22:46:15
	อ้าว...ทำไมรูปเรากลายเป็นกบไปได้หว่า

เกิดปัญหานี้ กับหลายๆคนแล้วครับ..รอว่าใครจะมาแก้ไข??

[ภาณุ ปาตานี]

		อ้างถึง			ข้อความของ seree_60 เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2554, 09:51:13
	อ้างถึง ข้อความของ am เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2554, 22:46:15 อ้าว...ทำไมรูปเรากลายเป็นกบไปได้หว่า เกิดปัญหานี้ กับหลายๆคนแล้วครับ..รอว่าใครจะมาแก้ไข??

วิธีการแก้ไข..คงไม่ต้องถึงขั้นให้เจ้าหญิงมาจุมพิตนะครับ