suriya2513
|
|
« เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 11:05:24 » |
|
มีบุคคล ที่นิยามตัวเองว่าเป็นสิงเว็บฯ (สิงหอยุคไอที) ฝากมาถามพวกเรา (โดยเฉพาะ ดร.มนตรี) ว่า เมื่อเข้ายุค 3G เต็มตัวแล้ว
-สายโทรศัพท์บ้าน และ 56K Modem ยังจะมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ (ถ้าผมไม่มีสายโทรศัพท์บ้านแล้ว เสี่ยบู้เพื่อนโชติรวีรุ่น 9 ของผมจะส่ง Fax ถึงผมได้อย่างไร)
-สาย ADSL ที่เดินมาเป็นกรณีพิเศษอย่างของ 3BB ที่ผมใช้อยู่นั้น ควรเลิกใช้ใช่ไหม
-Air Card นั้น ถ้าจะเลือกซื้อตอนนี้ ต้องสังเกตุอย่างไร จึงจะไม่ต้องขว้างทิ้ง เมื่อ 3G มาจริงๆ
ขอบคุณมากครับ
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 11:39:40 » |
|
เรียนพี่ป๋อง
3G ไม่น่าจะเกียวกับโทรศัพท์บ้าน หรือ อะไรก็ตามที่มีสายครับ เพราะ 3G น่าจะ (น่าจะ) เป็นการสื่อสารแบบไร้สายครับ แต่อาจจะไปกระทบ secment ของตลาดบ้าง หากไร้สายสามารถทำได้ดีกว่าระบบมีสาย
ผมสงสัยเพิ่มเติม เรื่องนึงครับ พี่ป๋อง
ที่บอกว่า ประมูล 3G ที่ผมเข้าใจ โดยทั่วไป คือผู้ชนะจะมี 1 ราย ตอนนี้ประเทศเรามี 3 operator True,Dtac, AIS ใหญ่ๆ 3 เจ้า หากได้เพียงเจ้าเดียวแล้ว ที่เหลือ จะทำยังไงครับ ไม่มี product 3G มาเป็นของตนเอง
หรือว่า คนที่ได้ คือ คนที่เป็นคนวางโครงข่ายให้คนอื่นมาเช่า ครับ รบกวนด้วยครับ
|
RCU80 จงเจริญ
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 11:53:13 » |
|
สวัสดีครับพี่ป๋อง และน้องหน่อ ... ทานหนมด้วยกันก่อนครับ ... ขออนุญาตพิมพ์ แป๊บนึง นะครับ ^_^ ปล. คืนนี้จะเข้ามาโพส นะครับ ...
|
|
|
|
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 14:05:28 » |
|
ขอบคุณมากครับ พี่มนตรี ขนม(คงจะ) อร่อยมากนะครับ
|
RCU80 จงเจริญ
|
|
|
newstar
Cmadong พันธุ์แท้
Normal Man
ออฟไลน์
รุ่น: RCU2532
คณะ: บัญชี'ถิติ
กระทู้: 2,978
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 14:24:48 » |
|
ตอบตรงนี้ให้ครับ ใบอนุญาตที่ กทช. จะประมูลมี 3 ใบครับ ไม่ใช่ประมูลเพียงใบเดียวครับ ณ ตอนนี้ กทช. ได้ประกาศแล้วว่ามีผู้ยื่นซองและผ่านคุณสมบัติครบถ้วน 3 ราย ซึ่งก็คือผู้ประกอบการมือถือ 3 รายเดิมในบ้านเรา (AIS, Dtac และ true move) โดยทั้ง 3 รายได้ยื่นซองประมูลในนามบริษัทลูก ดังนั้นตามกฎระเบียบที่ กทช. ประกาศคือ N-1 ดังนั้น รอบแรกจะมีผู้ได้ใบอนุญาต 2 ใบครับ อีก 1 ใบจะเปิดประมูลใหม่ภายใน 90 วัน โดยที่ราคาเิ่ริ่มต้นประมูลจะใช้ราคาของผู้ชนะการประมูลอันดับที่ 2 เป็นราคาเริ่มต้น และไม่ใช้สูตร N-1 ถ้ารอบนี้มีผู้ยื่นประมูลเพียง 1 ก็จะได้ไปเลย ส่วนเรื่องการให้เช่าโครงข่ายนั้นเป็นข้อกำหนดของ กทช. อยู่แล้ว ผู้ได้ใบอนุญาตต้องเปิดให้เช่าโครงข่าย (MVNO) ครับ
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 16:51:28 » |
|
3G คำผวนคือ สีจาม (จุรี) แต่ไม่มีความเกี่ยวข้อง กับสีชมพู ของเราแต่อย่างใด ^_^ 3G คือ … 3 rd Generation หรือ โทรศัพท์ยุคที่ 3 เป็นการใช้ ระบบเครือข่ายรูปแบบใหม่ ด้วยจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความเร็วในการ รับ-ส่งข้อมูลให้มากขึ้นสำหรับการใช้งาน อินเทอร์เน็ต ข้อมูลด้านภาพ หรือธุรกรรมต่างๆ ซึ่งประเทศไทยของเรากำลังเดินเข้าสู่โทรศัพท์มือถือยุคนี้ นะครับ เมื่อปี 2542 สหพันธ์การสื่อสารสากล (International Telecommunication Union : ITU) ได้ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับเครือข่ายการสื่อสารไร้สาย 3G มาตรฐานดังกล่าวได้ชื่อว่า IMT-2000 ข้อกำหนดความต้อง การในมาตรฐาน IMT-2000 สำหรับโทรศัพท์มือถือ 3G ระบุไว้ว่า โทรศัพท์มือถือในยุคที่สามนั้นจะต้อง พัฒนาความจุของระบบ(รองรับจำนวนผู้ใช้จำนวนมาก), ต้องเข้ากันได้กับระบบของ 2G, รองรับระบบมัลติมีเดีย และต้องให้บริการสื่อสารข้อมูลด้วยความเร็วสูง คือระหว่าง 144 กิโลบิตต่อวินาที(ภายในอาคาร) จนถึง 2 เมกะบิตต่อวินาที(เมื่ออยู่ในที่โล่ง) โทรศัพท์ในยุคที่สามนี้จะ ทำให้มี การเปิดบริการสื่อสารข้อมูลที่ไม่ใช่ เสียงมากขึ้น (Non Voice หรือ Data) โดยที่ผู้ใช้สามารถรับส่งอีเมล ทำงานเกี่ยวกับฐานข้อมูล ทำธุรกรรมและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถติดตามข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ สามารถรับส่งไฟล์รูปภาพและเสียง สนทนาแบบเห็นหน้ากัน และรวมไปถึงการประชุมแบบเห็นหน้าด้วย ก่อนที่เครือข่ายโทรศัพท์ มือถือจะ เข้าสู่ยุคที่สามนั้น เครือข่ายแบบจีเอสเอ็มสามารถนำร่องบริการในรูปแบบคล้าย 3G (บ้างก็เรียกว่า 2.5G - 2.75G) ผ่านเทคโนโลยี EDGE (Enhance Data rates for Global Evolution) นอกจากนั้น เทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้ผู้ให้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเครือข่ายแบบ 3G สามารถให้บริการในรูปแบบเดียวกันได้ด้วย โดยเริ่มต้นแล้ว เทคโนโลยี EDGE นั้นพัฒนาขึ้นมาเพื่อเครือข่าย GSM ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเครือข่าย UMTS ซึ่งเป็นมาตรฐานของเครือข่าย 3G เครือข่าย GSM ที่มีเทคโนโลยี EDGE จึงสามารถให้บริการข้อมูลด้วยความเร็วสูงเหมือนเครือข่าย UMTS ได้ นอกจากนั้น เทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้พัฒนาระบบจาก GPRS ไปสู่เครือข่าย 3G ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ EDGE เพียงชุดเดียวต่อหนึ่งเซลล์ของเครือข่าย และสามารถปรับปรุงซอฟต์แวร์ ได้จากระยะไกล เทคโนโลยี EDGE ช่วยเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูล และช่วยให้ระบบรองรับผู้ใช้บริการในจำนวนที่มากขึ้น เครือข่าย GSM สามารถให้บริการมัลติมีเดียได้ เทคโนโลยี EDGE ช่วยให้สามารถจัดการอีเมล ดูเว็บ รับส่งไฟล์ทั้งภาพและเสียง ติดตามข่าว และสามารถดูภาพคู่สนทนา ซึ่งเป็นการให้บริการที่มีลูกเล่นมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อหน่วยข้อมูลลดลง สถานะของ 3G – Thailand ล่าสุด วานนี้ (30 ส.ค. 53) ได้มีผู้เข้ายื่นซองประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHz ซึ่งจะเป็นคลื่นความถี่สำหรับให้บริการ 3G จำนวนทั้งสิ้น 4 ราย แต่ผ่านคุณสมบัติเพียง 3 ราย โดยเป็นบริษัทในเครือ AIS, DTAC และ True ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือ 20 ก.ย. จะเริ่มเคาะราคาประมูลโดยมีราคาเริ่มต้นของใบอนุญาต ที่ 12,800 ล้านบาท คาดว่าจะสิ้นสุดการประมูลภายใน 28 ก.ย. 53 และเนื่องจากมีผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมการประมูลเพียง 3 ราย จำนวนใบอนุญาตที่มีจำนวนทั้งสิ้น 3 ใบ จะถูกนำออกมาประมูลในครั้งนี้เพียง 2 ใบ ตามสูตร N-1 เมื่อ N คือจำนวนของผู้เข้าร่วมการประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างแท้จริง ... http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4444.100.html
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 16:52:59 » |
|
คอนเฟิร์ม น้องพอล ... ครับ
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 16:58:46 » |
|
2 Reply แล้ว แต่ัยังไม่ได้ตอบคำถาม พี่ป๋อง เลย ... ขอ อนุญาต โม้ เอ๊ย เล่าให้ฟังพอเห็นภาพอนาคต ก่อนนะครับ
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 17:20:09 » |
|
ครับน้องหน่อ ... ขนมคงจะอร่อย เพราะมันมาตอนที่พี่อิ่มอาหารแล้ว เลยได้แต่นั่งมองความสวยงามของขนม ^_^
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 22:13:43 » |
|
จากที่เกริ่นไว้ในเบื้องต้นว่า 3G เป็นเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานมาตั้งแต่ปี 2542 นั่นหมายความว่าเทคโนโลยีนี้เกิดมา ประมาณ 10 ปี แล้วเพียงแต่ประเทศไทยของเรา เริ่มช้ากว่าชาวบ้าน ของเก่า บ้านเพื่อน เลยกลายเป็นของใหม่บ้านเรา ... ปีหน้ามาตรฐาน 4G จะประกาศใช้ !! คราวนี้มาถึงประเด็นคำถาม ครับ: - สายโทรศัพท์บ้าน และ 56K Modem ยังจะมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ (ถ้าผมไม่มีสายโทรศัพท์บ้านแล้ว เสี่ยบู้เพื่อนโชติรวีรุ่น 9 ของผมจะส่ง Fax ถึงผมได้อย่างไร)3G >> จะทำให้โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ อื่นๆ เช่นเน็ตบุ๊ค โน๊ตบุ๊ค ฯลฯ สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้แบบไร้สาย ดังนั้น 1. มือถือ ก็สามารถทำฟังก์ชั่นการโทรได้เช่นเดียวกับโทรศัพท์บ้าน 2. อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้เร็วกว่า 56K มือถือ3G จึงสามารถทดแทนตลาดส่วนหนึ่งของผู้ใช้โทรศํพท์บ้าน + 56K ได้ครับ แต่ไม่ทั้งหมด เนื่องจากถึงตอนนั้น โทรศัพท์บ้านก็ต้องปรับตัว เช่น ในสมัยก่อนเมื่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ บรอดแบนด์ เกิดขึ้น ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตส่วนหนึ่งก็หันไปใช้บรอดแบนด์ แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ยังคงใช้ 56K อยู่ โดย 56K ปรับตัวมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ที่มีพฤติกรรมการใช้งานที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องจ่ายแพงกว่า เพื่อใช้บริการบรอดแบนด์ ครับ เช่นกันเมื่อ 3G เกิด ผู้ให้บริการโทรศัพท์บ้านก็สามารถพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้เช่นกัน .. (ตรงนี้รายละเอียดยาว ครับ รอ 3G เกิด เราก็จะทราบว่า กลยุทธ์ของ โทรฯบ้าน จะปรับตัวอย่างไร) ^_^ ยกตัวอย่าง นะครับ เช่น การส่งแฟกซ์ของพี่ป๋อง หาพี่เสี่ยบู้ ... พี่ป๋องสามารถส่งแฟกซ์จากเครื่องแฟกซ์ เข้ามือถือ 3G ของเสี่ยบู้ คราวนี้ เสี่ยบู้อยู่ไหนก็สามารถเปิด แฟกซ์ของพี่ป๋องได้ทุกที่ทุกเวลา บนมือถือ เป็นต้นครับ แต่แน่นอน ... ผลกระทบรายได้ ของผู้ให้บริการ จะต้องลดลงอย่างแน่นอน ... ทั้งลูกค้าลดลงและรายได้ต่อหน่วย(ของลูกค้าที่เหลือ) ก็ลดลง ผู้ให้บริการโทรบ้าน เช่น TT&T, TOT หรือ แม้แต่ True ... ก็ต้องเตรียมการพัฒนาธุรกิจ หรือ บริการใหม่ๆ ขึ้นมารองรับการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี โดยหลักการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้ ... ถ้าตอบสนองไม่ได้ หรือ ตอบสนองได้แต่ไม่ดีกว่า ... บริการนั้นๆ ก็จะหายไปในที่สุด ... ^_^
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 22:24:13 » |
|
-สาย ADSL ที่เดินมาเป็นกรณีพิเศษอย่างของ 3BB ที่ผมใช้อยู่นั้น ควรเลิกใช้ใช่ไหมคล้ายๆกับที่ผมเคยเรียน พี่ิสิงห์ไว้ ครับพี่ป๋อง.... สำหรับกรณีนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะ หรือ ไลฟ์สไตล์ เช่นถ้าไลฟ์ไสตล์แบบพี่สิงห์คือไม่ค่อยอยู่บ้าน เดินทางบ่อยๆ ใช้เน็ตไม่เยอะ ก็เหมาะที่จะใช้ 3G มากกว่า ADSL แต่ถ้าต้องการใช้เน็ตในความเร็วที่สูงกว่า 3G ปัจจุบันความเร็วขั้นต่ำที่ ADSL ให้บริการ เริ่มที่ 5Mbps แต่ 3G น่าจะเริ่มที่ประมาณ 512Kbps นั่นคือ ADSL จะมีความเร็วเริ่มต้นที่สูงกว่า 3G ถึง 10 เท่า เช่นกลุ่มผู้ใช้งานประเภท Home User หรือ Corporate User ในขณะที่ ราคาค่าใช้บริการจะประหยัดกว่า 3G ไม่แน่นะครับ อนาคตเราอาจได้เห็น แพคเกจ 3G + ADSL เอามา Bundle ขายคู่กัน เพื่อเติมเต็ม ข้อดี/ข้อจำกัด ซึ่งกันและกัน อยู่บ้านก็ใช้ ADSL ออกนอกบ้านก็ใช้ 3G
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 22:26:30 » |
|
-Air Card นั้น ถ้าจะเลือกซื้อตอนนี้ ต้องสังเกตุอย่างไร จึงจะไม่ต้องขว้างทิ้ง เมื่อ 3G มาจริงๆ
เลือกชนิดที่ รองรับ 3G (HSDPA/HSDPA+) ครับ
|
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 22:33:52 » |
|
คลิปนี้ตอนที่ผมไปบรรยายที่ สิงคโปร์เมื่อปี 2009 ...
ก่อนวันบรรยาย ...เราทำ Work Shop ทดสอบ ไวแมกซ์กันครับ รถบัส 3 คัน วิ่งจาก สิงคโปร์ ไป มาเลย์ ประชุมผ่าน VDO Conf. แจ๋ว กว่า 3G ^_^
|
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 22:42:58 » |
|
พ.ย. นี้ ... เรา FOCUS กันใน SEA เพื่อเตรียมรองรับ ภาคีอาเซียน ในปี 2015 ครับSpeaker @KL.
WiMAX Forum Southeast Asia Regional Focus 2010 will be held on 22-25 November at Ritz-Carlton, Kuala Lumpur, Malaysia, under the theme of “WiMAX Innovation and Evolution to Accelerate the Growth of Wireless Broadband in Emerging Markets”. Endorsed by WiMAX Forum and fully supported by Malaysian government authorities – MCMC and MOSTI.
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 22:46:35 » |
|
พรุ่งนี้ถ้าพอมีเวลา ... จะมาแชร์เรื่อง 3G ...ผลกระทบ และโอกาส ต่อนะครับ เืผื่อท่านใด มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ รวยแล้ว อย่าลืมซื้อหนมมาแบ่ง นะครับ ^_^
|
|
|
|
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 01 กันยายน 2553, 23:33:06 » |
|
ขอบคุณมากคับพี่มนตรี น้องเข้ามาอัพเดทความรู้เข้าสมองครับ อิอิ พี่มนตรีครับ แล้วเมื่อไหร่เราจะได้ใช้ wimax กันละครับ
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 02 กันยายน 2553, 12:36:15 » |
|
แต่ไม่ต้องห่วงว่า ... ทรัพยากรอาหาร ของโลก จะสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ นะครับ ... เพราะ พี่มีหน่วยเก็บกู้ วัตถุอาหารติดตามไปด้วย แทบทุกครั้ง ... ดังนั้น ... วัตถุอาหาร จะถูกเก็บกู้ จนเกลี้ยงโต๊ะ ไม่เหลือไว้เป็นหลักฐาน ... ^_^
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 02 กันยายน 2553, 12:47:33 » |
|
สวัสดีครับ น้องสน ... Time Line ของ WiMAX ตามนี้เลย ^_^
|
|
|
|
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 03 กันยายน 2553, 16:10:39 » |
|
ขอบคุณมากครับ พี่มนตรี ชัดแจ้งแดงแจ๋ ผมก็อุตส่าห์ซื้อ มือถือ HSDPA/HSDPA+ 2.1 GHz มาแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่ เดินเข้าไปหา boot TOT3G อะเฮ้ย ทำไม package มันแพงจังเลย
ถามครับถาม 1. TOT ทำไมทำ 3G ได้ก่อนชาวบ้านครับ 2. คาดว่า N-1 ของที่ประมูลได้ 2 เจ้าแรก จะเปิดบริการให้เราใช้ทั่วกรุงเทพ (และปริมนฑล) เมื่อไหร่ครับ (บ้านอยู่ปริมนฑล ฮิฮิ )
ความคิดผม WI-max น่าจะ work กว่า 3G แล้วเมื่อไหร่ WI-max เห็นผู้สมัคร ผู้ว่า กทม. แข่งกันหาเสียง มันจะเกิดได้ภายใน 4 ปีหรือเปล่าครับ
|
RCU80 จงเจริญ
|
|
|
mek
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: RCU2540
คณะ: Vet 61
กระทู้: 627
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 07 กันยายน 2553, 17:57:17 » |
|
จากข้อมูลนี้ของ พี่ newstar โดยที่ราคาเิ่ริ่มต้นประมูลจะใช้ราคาของผู้ชนะการประมูลอันดับที่ 2 เป็นราคาเริ่มต้น และไม่ใช้สูตร N-1 ถ้ารอบนี้มีผู้ยื่นประมูลเพียง 1 ก็จะได้ไปเลย ที่ผมเข้าใจแปลว่าจะใช้ราคาประมูลที่สูงเป็นอันดับ 2 ของรอบแรกเป็นตัวเริ่มใช่มั้ยครับ งั้นดูจากรูปการแล้วคนที่ให้ราคาสูงสุดในรอบแรกมีโอกาสซวยที่สุดเลยที่จะมีต้นทุนสูงสุดเลยใช่มั้ยครับ เพราะรอบสอง ดีไม่ดีอาจมีบริษัทเข้าประมูลแค่รายเดียว อย่างนี้เวลาประมูลก็ต้องพยายามให้ตัวเองได้ราคาอันดับ 2 ผมว่าจริง ๆ แล้วมันดูแปลก ๆ ขัดกับหลักการประมูลที่จะให้ได้ราคาสูงสุดยังไงไม่รู้นะครับ น่าจะมี option พิเศษอะไรให้คนประมูลได้อันดับ 1 อีก คนได้ที่ 1 จะได้ไม่เสียใจ
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 08 กันยายน 2553, 08:39:09 » |
|
คำถามที่ 1. TOT ทำไมทำ 3G ได้ก่อนชาวบ้านครับ? TOT และ CAT ใช้คลื่นความถี่ 3G ที่ครอบครองอยู่เดิม (มานานแล้ว) โดย สภาพตลาด 3G ปัจจุบันมี TOT และ CAT (Hutch) เป็นผู้ให้บริการ โดยเป็นการให้บริการในย่าน 1900 และ 800 MHz (ตามลำดับ) ซึ่งก่อนหน้านั้น TOT เคยใช้คลื่นความถี่ 1900 MHz นี้ ให้บริการบนโครงข่าย 2G ในนามบริษัท Thai Mobile แต่มีจำนวนฐานลูกค้าอยู่เพียง 60,000 กว่าราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนได้ประมาณร้อยละ 0.1 ของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ (2G) ส่วน CAT (Hutch) ที่เคยให้บริการ 2G และปรับปรุงโครงข่ายและคุณภาพการให้บริการมาเป็น 3G ก็เป็นผู้ประกอบการรายเล็กในตลาด 2G เดิมเช่นกัน โดยการให้บริการในช่วงที่ผ่านมา ของทั้ง TOT และ CAT(Hutch) เป็นการให้บริการในลักษณะ 2G (บริการเสียงและ GPRS) ในพื้นที่ครอบคลุมที่จำกัดกรุงเทพฯและปริมณฑล และเส้นทางสายหลักบางเส้นทางเท่านั้น และการเติบโตหรือการขยายตัวของการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ ของทั้งสองบริษัทอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ตอนหลัง TOT ได้มีการปรับปรุงโครงข่ายและการให้บริการมาเป็นการให้บริการแบบ 3G โดยวางกลยุทธ์ที่จะเน้นการให้บริการในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายแก่ Mobile Virtual Network Operators (MVNO)เป็นหลัก แต่ก็ให้บริการในตลาดค้าปลีกด้วยเช่นกัน โดยกลยุทธ์เช่นนี้ ย่อมส่งผลให้เกิดผู้ประกอบการรายเล็กในตลาด และเพิ่มการแข่งขัน ได้ในระดับหนึ่ง ... แต่จำนวนผู้ใช้บริการก็ยังไม่มากตามคาดการณ์เดิมของแผนการดำเนินงาน ครับ คำถามที่ 2. คาดว่า N-1 ของที่ประมูลได้ 2 เจ้าแรก จะเปิดบริการให้เราใช้ทั่วกรุงเทพ (และปริมนฑล) เมื่อไหร่ครับ ? ประชากรกว่าร้อยละ 80 ของประเทศจะได้รับบริการของโครงข่าย 3G ภายในเวลา 4 ปี ตามข้อกำหนดของการออกใบอนุญาต โดยมี ระยะเวลาอนุญาต 15 ปี ครับ ... น้องหน่ออยู่ปริมณฑล น่าจะเป็นประชากรในจำนวน ร้อยละ 80 นี้ นะ พี่ว่า ^_^
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 08 กันยายน 2553, 08:46:52 » |
|
ความแตกต่างของ 3 ใบอนุญาต นี้อยู่ที่ ช่วงของคลื่นความถี่ ครับ เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อนนิดนึง หากมีโอกาส ว่างๆ สบายๆตัวแล้ว พี่จะมาเขียนเล่ารายละเอียดนะครับ ตอนนี้งานแยะนิดนึง... เตรียมตัวให้บริการ 3G กับเค้าเหมือนกัน (ในรูปแบบ Full MVNO คือ มีโครงข่ายเป็นของตนเอง เหมือน ผู้ได้รับใบอนุญาต แต่แตกต่างคือ ไม่มีคลื่นความถี่เป็นของตนเอง ต้องเป็น Partner กับผู้ได้รับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 1 ใน 3 ราย) ^_^
|
|
|
|
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 08 กันยายน 2553, 10:06:28 » |
|
เรื่องนี้ถกเถียงมานานครับ ในทัศนะพี่มนตรีคิดอย่างไรครับ
เมื่อมีการประมูลเกิดขึ้น แน่นอนรัฐต้องหาเงินทางการประมูลให้ให้ได้มากที่สุด และทาง Operator ก็ต้องการที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาเพื่อเป็นฐานกำลังในการผลักดันธุรกิจของตนจึงต้องใช้เงินเพื่อให้ชนะการประมูล เงินมหาศาลเหล่านั้น แน่นอนตอนประมูลก็เข้ารัฐ และการที่ Operator จ่ายเงินมหาศาลแล้วเขาย่อมต้องการเอาคืน แล้วจะเอาคืนที่ใคร หากไม่ใช่ผู้บริโภคที่ใช้บริการอย่างเราๆท่าน
1. หากผมจะใช้ 3G ผมต้องจ่ายแพงใช่ไหมครับ เพื่อชดเชยที่ Operator จ่ายให้แก่รัฐ... 2. การแข่งขันอย่างเสรีในตลาดตอนท้ายที่สุด มี 3 เจ้า อาจจะแข่งขันกันเองด้านราคา แน่นอนก็ต้องไปอิงกับต้นทุนที่จ่ายค่าประมูลอยู่ดี ใช่ไหมครับ
|
RCU80 จงเจริญ
|
|
|
|