สัพเพเหระ กับ RCU 15

[seree_60]

คัมภีร์รากผัก



คัมภีร์รากผักได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการบริหารจัดการของญี่ปุ่นถึงขนาดมีคำกล่าวที่ว่า “ตำราบริหารธุรกิจ นั้นยังไม่อ่านก็ได้ แต่ ‘คัมภีร์รากผัก’ นั้นไม่อ่านไม่ได้เลย” เหมาเจ๋อตุงเคยกล่าวว่า “คนที่เคี้ยวกินรากผักได้ ย่อมสามารถทำงานอะไรก็ได้”


โบราณท่านว่า “แท้จริงแล้วรากผักมีรสหอมหวาน ลองปล่อยใจดื่มด่ำย่อมได้รสชาติที่แท้จริง”

“รักษาคุณธรรม ไม่พึ่งอำนาจวาสนา”

คนที่เอาแต่พึ่งอำนาจวาสนาสุดท้ายแล้วจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย เพราะุเหตุด้วยความเสื่อมแห่งอำนาจวาสนานั่นเอง



“ความฉลาดมากเล่ห์ มิสู้ความสัตย์ซื่อตรง”

คนฉลาดแต่มากด้วยเล่ห์ไม่ยั่งยืน เกิดเป็นคนควรมีใจสัตย์ซื่อ โอบอ้อมอารี ตรงไปตรงมา



“จิตใจต้องเปิดเผย ปัญญาความสามารถต้องปิดบัง”

ใช้ปัญญาความสามารถอย่างมีสติ มิเช่นนั้นภัยอาจถึงตัว



“ไม่แปดเปื้อนความโสโครก ไม่ยอมใช้เล่ห์เพทุบาย”

ท่ามกลางการใช่เล่ห์เหลี่ยมกลโกง คนที่ยังคงความดีของตัวเองไว้ไม่ยอมเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมถือว่าเป็นคนที่สูงส่งยิ่ง



“รู้จักฟังคำระรายหู ฝึกตนด้วยเรื่องไม่สบายใจ”

เรื่องไม่สบายใจและคำระคายหูถือเป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจชั้นดี เพื่อยกระดับคุณธรรมในตัวเราให้สูงขึ้น


“ความสงบสุขสันต์ ธรรมชาติกับมนุษย์หมายปอง”

ทะเลไม่เคยหยุดนิ่ง จิตใจคนเราก็เช่นกันมิอาจไร้ความสุขสบายได้แม้แต่วันเดียว




“รสจืดคือรสแท้ มนุษย์ที่แท้คือคนสามัญ”

คนดีที่แท้นั้น คือคนที่ปฏิบัติตนเยี่ยงคนธรรมดาสามัญ





“ยามว่างอย่าเย็นใจ ยามยุ่งอย่าร้อนใจ”

ยามว่างควรกระตือรือร้นขวนขวาย ยามยุ่งควรหัดรู้จักทำความสงบและปล่อยวาง




“นั่งสมาธิดูใจ ปรากฏทั้งความสว่างและความฟุ้งซ่าน”

นั่งสมาธิส่องดูใจของตัวเอง เพื่อความเข้าใจในสัจธรรมชีวิตและขจัดความฟุ้งซ่าน



“เมื่อสมหวังต้องรู้พอ เมื่อผิดหวังต้องไม่ท้อ”

เมื่อได้รับสมหวังตามที่ต้องการแล้วต้องรู้จักพอ แต่เมื่อเจอกับความผิดหวังก็ไม่ควรเลิกล้มความพยายามง่าย ๆ



ใจสูงมาจากความเรียบง่าย แต่สูญสลายเพราะความฟุ้งเฟ้อ

คนที่ทนกินดื่มอาหารชั้นเลวได้ถือว่ามือจิตใจที่สูงส่ง แต่คนที่มุ่งแต่อาหารและเครื่องประดับชั้นดีคือคนที่ยอมตกเป็นทาสรับใช้ของคนอื่นอย่างอัปยศหมดศักดิ์ศรี




จิตโอบอ้อมอารี คุณความดียืนยาว

คนเราควรมีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น และควรสะสมคุณความดีเอาไว้ให้มาก ๆ เพราะตายแล้วก็ยังมีนระลึกถึงมิเสื่อมคลาย



เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักเพียงพอ

แม้ยามมีหรือไม่มีก็ตามต้องรู้จักเผื่อแผ่แบ่งปันให้คนอื่นเสมอ




สำเร็จได้เพราะไม่ใฝ่ต่ำ สู่แดนธรรมเพราะลดกิเลส

คนเรกหากสามารถละทิ้งจิตใจใฝ่ต่ำได้ก็ถือว่าเป็นผู้ประสบความสำเร็จแล้ว และหากสามารถลดละความผูกพันที่มีต่อลภาพยศสรรเสริญได้ก็นับได้ว่าได้เข้าสูแดนธรรมอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว



ใจกว้างคบเพื่อน สุจริตใจคบคน

การคบเพื่อนต้องมีใจนักเลงไม่กลัวเสียเปรียบ คนเราต้องรู้จักคงความบริสุทธิใจไว้บ้าง



เวลาได้รับไม่นำหน้า เวลาเสียสละไม่รั้งหลัง

เวลาได้รับความดีความชอบก็ไม่ควรแย่งแซงหน้าผู้อื่น เมื่อจำเป็นต้องเสียสละก็อย่ามัวช้าอยู่หลังผู้อื่น และเมื่อได้รับผลประโยชน์ตามควรแล้วให้รู้จักพอ




ความอดกลั้นคือศิลปะชั้นสูง ดีต่อเขาคือดีต่อตนเอง

การรู้จักถอยหลีกสักก้าวย่อมนำมาซึ่งจังหวะก้าวหน้าที่ดีกว่า การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่นคือารวางรากฐานอันนำกลับมาซึ่งประโยชน์สู่ตนเอง



คุยโวทำให้ผลงานด้อยค่า สำนึกบาปช่วยลดทอนความผิด

การคุยโวโอ้อวดจะทำให้ผลงานสร้างมาหมดคุณค่าลงอย่างรวดเร็ว การสำนึกบาปกลับเนื้อกลับตัวได้ก็เปรียบเสมือนโจรกลับใจ


เรื่องดีไม่เอาใส่ตัวผู้เดียว เรื่องชั่วไม่ผลักให้ผู้อื่น

เรื่องความดีความชอบนั้นไม่ควรครอบครองเอาไว้แต่ผู้เดียว ควรรู้จักยกย่องคนอื่นบ้าง ส่วนเรื่องอัปยศอดสูก็ไม่ควรผลักให้ผู้อื่นทั้งหมด ควรรู้จักรับเองบ้ง



ความดีความชอบไม่ขอให้ปรี่ล้น เป็นคนต้องรู้จักพอ

กระทำสิ่งใดอย่าหวังเอาแต่ได้ ควรมีใจเอื้อเฟื้อเผือแผ่ต่อผู้อื่น จะได้ไม่นำภัยมาสู่ตนในภายหลัง

[Soponเท่านั้น]

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ครับเพื่อนๆ พี่-น้อง
Now Maria, why do you want a raise ?

The Mexican maid asked for a pay increase. The wife was very upset about this and decided to talk to her about the raise.
She asked, “Now Maria, why do you want a pay increase?”
Maria: “Well, Señora, there are tree reasons why I wanna increaze.                                           

 “The first is that I iron better than you.”
 
Wife: “Who said you iron better than me?”
Maria: “Jor huzban he say so.”
Wife: “Oh yeah?”

"The second reason eez that I am a better cook than you.”
 
Wife: “Nonsense, who said you were a better cook than  me?”
Maria: “Jor hozban did”
Wife increasingly agitated: “Oh he did, did he?”

 “The third reason is that I am better at sex than you in the bed.”
Wife, really boiling now and through gritted teeth asks,
“And did my husband say that as well?”

Maria: “No Señora… The gardener did.”
Wife: “So how much do you want?”

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 15 กรกฎาคม 2555, 09:44:33
	สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ครับเพื่อนๆ พี่-น้อง Now Maria, why do you want a raise ? The Mexican maid asked for a pay increase. The wife was very upset about this and decided to talk to her about the raise. She asked, “Now Maria, why do you want a pay increase?” Maria: “Well, Señora, there are tree reasons why I wanna increaze.                                             “The first is that I iron better than you.”   Wife: “Who said you iron better than me?” Maria: “Jor huzban he say so.” Wife: “Oh yeah?” "The second reason eez that I am a better cook than you.”   Wife: “Nonsense, who said you were a better cook than  me?” Maria: “Jor hozban did” Wife increasingly agitated: “Oh he did, did he?”  “The third reason is that I am better at sex than you in the bed.” Wife, really boiling now and through gritted teeth asks, “And did my husband say that as well?” Maria: “No Señora… The gardener did.” Wife: “So how much do you want?”

555555555

[seree_60]

เรื่องดีดีที่อยากให้อ่านจนจบ

"ซัมซุง มหาอำนาจอิเล็กทรอนิกส์"
จนวันก่อนเห็นข่าวยอดขายสมาร์ทโฟนของ "ซัมซุง" ชนะ "ไอโฟน" ของ "แอปเปิล" แล้ว ผมจึงหยิบหนังสือเล่มนี้มาพลิกอ่านอีกครั้ง
คนรุ่นใหม่อาจไม่แปลกใจในปรากฏการณ์นี้มากนัก
แต่คนอายุ 30 ปีขึ้นไปที่ยังจำภาพ "ซัมซุง" ในอดีตได้คงแปลกใจ
เพราะในอดีตภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ซัมซุง คือ สินค้าราคาถูก
เกรดต่ำกว่าสินค้าจากญี่ปุ่น
แต่เพียงชั่วเวลาไม่นาน "ซัมซุง" กลับกลายเป็นสินค้าเกรดเอ
โทรศัพท์มือถือรุ่นแรกเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อนของ "ซัมซุง" โชว์นวัตกรรม "จอสี" และเสียงโทร.เข้าที่ไพเราะกว่าเสียงโมโนโทน
เหนือกว่า "โนเกีย" ซึ่งเป็นเจ้าตลาดในยุคนั้น
คุยกับผู้บริหาร "เอไอเอส" ในยุคนั้น เขายังบ่นเลยว่า "ซัมซุง" กล้าหาญมากที่ตั้งราคาสูงกว่ามือถือทั่วไป
ทั้งที่ใช้แบรนด์ "ซัมซุง"
แต่สุดท้าย "ซัมซุง" รุ่นนั้นก็ประสบความสำเร็จ
จากวันนั้นเป็นต้นมา "ซัมซุง" ก็ไม่ใช่ "ซัมซุง" ที่เราคุ้นเคย
เขาเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ ไม่ผลิตสินค้าเกรดต่ำ ราคาถูกอีกต่อไป
ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ ตู้เย็น หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ
สินค้า "ซัมซุง" กลายเป็นสินค้าคุณภาพ ที่โชว์เหนือเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ
ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดจาก "ลี กอน ฮี" ที่รับสืบทอดกิจการมาจากรุ่นพ่อ "ลี เบียง ชอล"
ผมพลิกหนังสือเล่มนี้แบบอ่านเล่น ไม่ได้อ่านจริงจัง
แต่กลับพบเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ

เป็นคาถา "ซัมซุง
ที่ "พ่อ" มอบให้กับ "ลูก"
วันที่ "ลี เบียง ชอล" ประกาศว่าผู้สืบทอดกิจการ "ซัมซุง" คือ "ลี กอน ฮี" บุตรชายคนที่ 3
เขาเรียกลูกชายมาที่ห้องทำงาน แล้วหยิบพู่กันจุ่มหมึกเขียนข้อความสั้นๆ
"จงรับฟัง"
นี่คือ คาถาข้อแรกของการเป็นผู้บริหารสูงสุดในองค์กรใหญ่ที่ "พ่อ" มอบให้กับ "ลูก"
"ลี เบียง ชอล" รู้ซึ้งถึงสัจธรรมของ "อำนาจ" ว่ายิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งรับฟังน้อยลง
และเมื่อ "พูด" มากกว่า "ฟัง"
"ความรู้ใหม่" ก็ไม่เกิด
"ลาร์ลี่ คิง" นักพูดชื่อดัง เคยบอกว่า "เราไม่เคยฉลาดขึ้นจากการพูด"
มีแต่การฟังเท่านั้นที่จะได้ "ความรู้" จากผู้อื่น
เขาจึงเตือน "ลี กอน ฮี" ตั้งแต่เริ่มต้นการเรียนรู้งานในตำแหน่ง "ประธาน"
ในวันที่ "ลี กวน ฮี" มีอำนาจเต็มใน "ซัมซุง" เขาจึงเป็นคนที่ได้รับคำชมอย่างมากว่าเป็น "ผู้ฟัง" ที่ดี
ทั้งที่ "ลี กวน ฮี" เป็นคนพูดเก่ง เขาสามารถบรรยายติดต่อกัน 3-4 ชั่วโมงได้อย่างสบาย
แต่ "จุดเด่น" ของเขากลับอยู่ที่การรับฟัง
ฟังเพื่อนนักธุรกิจ ฟังนักวิชาการ ฟังผู้บริหาร ฟังพนักงาน ฯลฯ
จากนั้นจึงเริ่มตั้งคำถาม
"ทำไม-ทำไม-ทำไม ฯลฯ"
ว่ากันทุกปัญหา "ลี กวน ฮี" จะตั้งคำถามว่า "ทำไม" อย่างน้อย 6 คำถาม
คาถาเรื่อง "จงรับฟัง" นั้น ผมจำได้ว่า "กานต์ ตระกูลฮุน"
กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ "เอสซีจี" หรือ "ปูนซิเมนต์ไทย" เคยบอกว่าตอนที่จะเปลี่ยนองค์กร "เอสซีจี" สู่นวัตกรรม
เขาต้องเข้าอบรมหลักสูตรหนึ่ง
ชื่อว่า "การฟัง"
สอนให้รู้จักอดทนรับฟังความคิดเห็นของลูกน้องเพราะถ้าไม่มีท่าทีรับฟังก็จะไม่มีลูกน้องคนใดกล้าเสนอความเห็นที่นอกกรอบและองค์กรนั้นก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลง

คาถาบทที่สองที่ "ลี เบียง ชอล" มอบให้กับลูกชายผู้สืบทอดกิจการ ก็คือ "ไก่ไม้"
"ไก่ไม้" คือ ไม้ที่แกะสลักเป็นตัวไก่
ในห้องนอนของเขาจะมี "ไก่ไม้" แขวนอยู่
"ไก่ไม้" นั้นมาจากนิทานเรื่องหนึ่งในหนังสือคำสอนของ "จวงจื่อ" ปราชญ์คนหนึ่งของจีน
คนเลี้ยงไก่ชนชื่อดังคนหนึ่ง ชื่อ "จี้ เซิง จื่อ" เป็นคนเลี้ยงไก่ชนให้กับ "โจว ซวน อ๋อง"
วันหนึ่ง "โจว ซวน อ๋อง" นำไก่ชนตัวหนึ่งมาให้เลี้ยง
ผ่านไป 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ก็ถามเขาว่า "ไก่ชนใช้ได้หรือยัง"
"ยังไม่ได้ เพราะมันยังเดินกร่างอยู่ ทะนงตน ท้าทายไปทั่ว" จี้ เซิง จื่อ ตอบ
ผ่านไปอีก 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ก็ถามด้วยคำถามเดิม
"ไก่ชนใช้ได้แล้วหรือยัง"
คำตอบของ "จี้ เซิง จื่อ" เหมือนเดิม คือ "ยัง"
แต่เหตุผลเปลี่ยนไป
"ยังไม่ได้ ตอนนี้ไม่ท้าทายไก่ตัวอื่นแล้ว แต่มักจะโดดตีถ้าไก่ตัวอื่นเข้าใกล้"
อีก 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ถามอีก "ไก่ชนใช้ได้หรือยัง"
"ยังไม่ได้ ตอนนี้ไม่โดดตีแล้ว และลดความทระนงตนลงแต่สายตายังดุร้าย เหมือนพร้อมจะตีกับไก่ตัวอื่น"
อีก 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ถามด้วยคำถามเดิม
ครั้งนี้คำตอบมีพัฒนาการ
"จี เซิง จื่อ" ตอบว่าพอใช้ได้แล้ว เพราะเมื่อไก่ตัวอื่นขัน ก็ไม่แสดงอาการตอบ เป็นราวกับ "ไก่ไม้"
"เห็นไก่ตัวอื่นก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ ไก่ตัวอื่นเห็นก็ไม่กล้าเข้าใกล้ เดินหนีไปหมด"
ครับ "ไก่ชน" ที่ดีนั้นไม่ใช่ "ไก่" ที่ตีเก่ง ฮึกเหิมห้าวหาญท้าทีท้าต่อยไปทั่ว
แต่ "ไก่ชน" ที่ดีต้อง "นิ่ง" เป็น
สงบสยบเคลื่อนไหว
รู้จักเก็บความรู้สึกของตนเอง แต่สามารถเปล่งประกายจนไก่ชนตัวอื่นย้ำเกรง
ชนะโดยไม่ต้องชน
ผู้บริหารที่ดีในความหมายของ "ลี เบียง ชอล" คือ ต้องใจเย็น สงบนิ่งในสถานการณ์ที่กดดันให้ได้
"นิ่ง" เหมือน "ไก่ไม้"
เขามอบ "ไก่ไม้" ให้ลูกชาย เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้รู้จัก "นิ่ง"
"จงรับฟัง" และ "ไก่ไม้" อาจไม่ใช่คาถาที่นำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ "ซัมซุง"
แต่เป็นคาถาที่ "ลี กวน ฮี" ใช้ในการบริหารงานมาโดยตลอด
และนำพา "ซัมซุง" ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน

[เอมอร 2515]

มาเรื่องมาลงเรื่อย ดีจัง
แต่ขอไล่อ่านก่อนนะ
แล้วค่อยมาคุยด้วย
มีรอมาลงให้เพื่อนอ่านเหมือนกัน

[nok15]

		อ้างถึง			ข้อความของ seree_60 เมื่อ 17 กรกฎาคม 2555, 09:59:34
	เรื่องดีดีที่อยากให้อ่านจนจบ "ซัมซุง มหาอำนาจอิเล็กทรอนิกส์" จนวันก่อนเห็นข่าวยอดขายสมาร์ทโฟนของ "ซัมซุง" ชนะ "ไอโฟน" ของ "แอปเปิล" แล้ว ผมจึงหยิบหนังสือเล่มนี้มาพลิกอ่านอีกครั้ง คนรุ่นใหม่อาจไม่แปลกใจในปรากฏการณ์นี้มากนัก แต่คนอายุ 30 ปีขึ้นไปที่ยังจำภาพ "ซัมซุง" ในอดีตได้คงแปลกใจ เพราะในอดีตภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ซัมซุง คือ สินค้าราคาถูก เกรดต่ำกว่าสินค้าจากญี่ปุ่น แต่เพียงชั่วเวลาไม่นาน "ซัมซุง" กลับกลายเป็นสินค้าเกรดเอ โทรศัพท์มือถือรุ่นแรกเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อนของ "ซัมซุง" โชว์นวัตกรรม "จอสี" และเสียงโทร.เข้าที่ไพเราะกว่าเสียงโมโนโทน เหนือกว่า "โนเกีย" ซึ่งเป็นเจ้าตลาดในยุคนั้น คุยกับผู้บริหาร "เอไอเอส" ในยุคนั้น เขายังบ่นเลยว่า "ซัมซุง" กล้าหาญมากที่ตั้งราคาสูงกว่ามือถือทั่วไป ทั้งที่ใช้แบรนด์ "ซัมซุง" แต่สุดท้าย "ซัมซุง" รุ่นนั้นก็ประสบความสำเร็จ จากวันนั้นเป็นต้นมา "ซัมซุง" ก็ไม่ใช่ "ซัมซุง" ที่เราคุ้นเคย เขาเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ ไม่ผลิตสินค้าเกรดต่ำ ราคาถูกอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ ตู้เย็น หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ สินค้า "ซัมซุง" กลายเป็นสินค้าคุณภาพ ที่โชว์เหนือเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดจาก "ลี กอน ฮี" ที่รับสืบทอดกิจการมาจากรุ่นพ่อ "ลี เบียง ชอล" ผมพลิกหนังสือเล่มนี้แบบอ่านเล่น ไม่ได้อ่านจริงจัง แต่กลับพบเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นคาถา "ซัมซุง ที่ "พ่อ" มอบให้กับ "ลูก" วันที่ "ลี เบียง ชอล" ประกาศว่าผู้สืบทอดกิจการ "ซัมซุง" คือ "ลี กอน ฮี" บุตรชายคนที่ 3 เขาเรียกลูกชายมาที่ห้องทำงาน แล้วหยิบพู่กันจุ่มหมึกเขียนข้อความสั้นๆ "จงรับฟัง" นี่คือ คาถาข้อแรกของการเป็นผู้บริหารสูงสุดในองค์กรใหญ่ที่ "พ่อ" มอบให้กับ "ลูก" "ลี เบียง ชอล" รู้ซึ้งถึงสัจธรรมของ "อำนาจ" ว่ายิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งรับฟังน้อยลง และเมื่อ "พูด" มากกว่า "ฟัง" "ความรู้ใหม่" ก็ไม่เกิด "ลาร์ลี่ คิง" นักพูดชื่อดัง เคยบอกว่า "เราไม่เคยฉลาดขึ้นจากการพูด" มีแต่การฟังเท่านั้นที่จะได้ "ความรู้" จากผู้อื่น เขาจึงเตือน "ลี กอน ฮี" ตั้งแต่เริ่มต้นการเรียนรู้งานในตำแหน่ง "ประธาน" ในวันที่ "ลี กวน ฮี" มีอำนาจเต็มใน "ซัมซุง" เขาจึงเป็นคนที่ได้รับคำชมอย่างมากว่าเป็น "ผู้ฟัง" ที่ดี ทั้งที่ "ลี กวน ฮี" เป็นคนพูดเก่ง เขาสามารถบรรยายติดต่อกัน 3-4 ชั่วโมงได้อย่างสบาย แต่ "จุดเด่น" ของเขากลับอยู่ที่การรับฟัง ฟังเพื่อนนักธุรกิจ ฟังนักวิชาการ ฟังผู้บริหาร ฟังพนักงาน ฯลฯ จากนั้นจึงเริ่มตั้งคำถาม "ทำไม-ทำไม-ทำไม ฯลฯ" ว่ากันทุกปัญหา "ลี กวน ฮี" จะตั้งคำถามว่า "ทำไม" อย่างน้อย 6 คำถาม คาถาเรื่อง "จงรับฟัง" นั้น ผมจำได้ว่า "กานต์ ตระกูลฮุน" กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ "เอสซีจี" หรือ "ปูนซิเมนต์ไทย" เคยบอกว่าตอนที่จะเปลี่ยนองค์กร "เอสซีจี" สู่นวัตกรรม เขาต้องเข้าอบรมหลักสูตรหนึ่ง ชื่อว่า "การฟัง" สอนให้รู้จักอดทนรับฟังความคิดเห็นของลูกน้องเพราะถ้าไม่มีท่าทีรับฟังก็จะไม่มีลูกน้องคนใดกล้าเสนอความเห็นที่นอกกรอบและองค์กรนั้นก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลง คาถาบทที่สองที่ "ลี เบียง ชอล" มอบให้กับลูกชายผู้สืบทอดกิจการ ก็คือ "ไก่ไม้" "ไก่ไม้" คือ ไม้ที่แกะสลักเป็นตัวไก่ ในห้องนอนของเขาจะมี "ไก่ไม้" แขวนอยู่ "ไก่ไม้" นั้นมาจากนิทานเรื่องหนึ่งในหนังสือคำสอนของ "จวงจื่อ" ปราชญ์คนหนึ่งของจีน คนเลี้ยงไก่ชนชื่อดังคนหนึ่ง ชื่อ "จี้ เซิง จื่อ" เป็นคนเลี้ยงไก่ชนให้กับ "โจว ซวน อ๋อง" วันหนึ่ง "โจว ซวน อ๋อง" นำไก่ชนตัวหนึ่งมาให้เลี้ยง ผ่านไป 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ก็ถามเขาว่า "ไก่ชนใช้ได้หรือยัง" "ยังไม่ได้ เพราะมันยังเดินกร่างอยู่ ทะนงตน ท้าทายไปทั่ว" จี้ เซิง จื่อ ตอบ ผ่านไปอีก 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ก็ถามด้วยคำถามเดิม "ไก่ชนใช้ได้แล้วหรือยัง" คำตอบของ "จี้ เซิง จื่อ" เหมือนเดิม คือ "ยัง" แต่เหตุผลเปลี่ยนไป "ยังไม่ได้ ตอนนี้ไม่ท้าทายไก่ตัวอื่นแล้ว แต่มักจะโดดตีถ้าไก่ตัวอื่นเข้าใกล้" อีก 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ถามอีก "ไก่ชนใช้ได้หรือยัง" "ยังไม่ได้ ตอนนี้ไม่โดดตีแล้ว และลดความทระนงตนลงแต่สายตายังดุร้าย เหมือนพร้อมจะตีกับไก่ตัวอื่น" อีก 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ถามด้วยคำถามเดิม ครั้งนี้คำตอบมีพัฒนาการ "จี เซิง จื่อ" ตอบว่าพอใช้ได้แล้ว เพราะเมื่อไก่ตัวอื่นขัน ก็ไม่แสดงอาการตอบ เป็นราวกับ "ไก่ไม้" "เห็นไก่ตัวอื่นก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ ไก่ตัวอื่นเห็นก็ไม่กล้าเข้าใกล้ เดินหนีไปหมด" ครับ "ไก่ชน" ที่ดีนั้นไม่ใช่ "ไก่" ที่ตีเก่ง ฮึกเหิมห้าวหาญท้าทีท้าต่อยไปทั่ว แต่ "ไก่ชน" ที่ดีต้อง "นิ่ง" เป็น สงบสยบเคลื่อนไหว รู้จักเก็บความรู้สึกของตนเอง แต่สามารถเปล่งประกายจนไก่ชนตัวอื่นย้ำเกรง ชนะโดยไม่ต้องชน ผู้บริหารที่ดีในความหมายของ "ลี เบียง ชอล" คือ ต้องใจเย็น สงบนิ่งในสถานการณ์ที่กดดันให้ได้ "นิ่ง" เหมือน "ไก่ไม้" เขามอบ "ไก่ไม้" ให้ลูกชาย เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้รู้จัก "นิ่ง" "จงรับฟัง" และ "ไก่ไม้" อาจไม่ใช่คาถาที่นำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ "ซัมซุง" แต่เป็นคาถาที่ "ลี กวน ฮี" ใช้ในการบริหารงานมาโดยตลอด และนำพา "ซัมซุง" ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน

สวัสดีตะวัน
     ชอบจังเรื่องที่นำมาเล่า  เราได้เรื่องไปถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ฟังแล้ว
ในวันพรุ่งนี้  หลังจากหยุดมา๑อาทิตย์
      Thank u หลายๆ  สำหรับความรู้ที่นำมาให้เพื่อนๆ
            Nokja

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ nok15 เมื่อ 17 กรกฎาคม 2555, 19:17:12
	อ้างถึง ข้อความของ seree_60 เมื่อ 17 กรกฎาคม 2555, 09:59:34 เรื่องดีดีที่อยากให้อ่านจนจบ "ซัมซุง มหาอำนาจอิเล็กทรอนิกส์" จนวันก่อนเห็นข่าวยอดขายสมาร์ทโฟนของ "ซัมซุง" ชนะ "ไอโฟน" ของ "แอปเปิล" แล้ว ผมจึงหยิบหนังสือเล่มนี้มาพลิกอ่านอีกครั้ง คนรุ่นใหม่อาจไม่แปลกใจในปรากฏการณ์นี้มากนัก แต่คนอายุ 30 ปีขึ้นไปที่ยังจำภาพ "ซัมซุง" ในอดีตได้คงแปลกใจ เพราะในอดีตภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ซัมซุง คือ สินค้าราคาถูก เกรดต่ำกว่าสินค้าจากญี่ปุ่น แต่เพียงชั่วเวลาไม่นาน "ซัมซุง" กลับกลายเป็นสินค้าเกรดเอ โทรศัพท์มือถือรุ่นแรกเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อนของ "ซัมซุง" โชว์นวัตกรรม "จอสี" และเสียงโทร.เข้าที่ไพเราะกว่าเสียงโมโนโทน เหนือกว่า "โนเกีย" ซึ่งเป็นเจ้าตลาดในยุคนั้น คุยกับผู้บริหาร "เอไอเอส" ในยุคนั้น เขายังบ่นเลยว่า "ซัมซุง" กล้าหาญมากที่ตั้งราคาสูงกว่ามือถือทั่วไป ทั้งที่ใช้แบรนด์ "ซัมซุง" แต่สุดท้าย "ซัมซุง" รุ่นนั้นก็ประสบความสำเร็จ จากวันนั้นเป็นต้นมา "ซัมซุง" ก็ไม่ใช่ "ซัมซุง" ที่เราคุ้นเคย เขาเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ ไม่ผลิตสินค้าเกรดต่ำ ราคาถูกอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ ตู้เย็น หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ สินค้า "ซัมซุง" กลายเป็นสินค้าคุณภาพ ที่โชว์เหนือเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดจาก "ลี กอน ฮี" ที่รับสืบทอดกิจการมาจากรุ่นพ่อ "ลี เบียง ชอล" ผมพลิกหนังสือเล่มนี้แบบอ่านเล่น ไม่ได้อ่านจริงจัง แต่กลับพบเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นคาถา "ซัมซุง ที่ "พ่อ" มอบให้กับ "ลูก" วันที่ "ลี เบียง ชอล" ประกาศว่าผู้สืบทอดกิจการ "ซัมซุง" คือ "ลี กอน ฮี" บุตรชายคนที่ 3 เขาเรียกลูกชายมาที่ห้องทำงาน แล้วหยิบพู่กันจุ่มหมึกเขียนข้อความสั้นๆ "จงรับฟัง" นี่คือ คาถาข้อแรกของการเป็นผู้บริหารสูงสุดในองค์กรใหญ่ที่ "พ่อ" มอบให้กับ "ลูก" "ลี เบียง ชอล" รู้ซึ้งถึงสัจธรรมของ "อำนาจ" ว่ายิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งรับฟังน้อยลง และเมื่อ "พูด" มากกว่า "ฟัง" "ความรู้ใหม่" ก็ไม่เกิด "ลาร์ลี่ คิง" นักพูดชื่อดัง เคยบอกว่า "เราไม่เคยฉลาดขึ้นจากการพูด" มีแต่การฟังเท่านั้นที่จะได้ "ความรู้" จากผู้อื่น เขาจึงเตือน "ลี กอน ฮี" ตั้งแต่เริ่มต้นการเรียนรู้งานในตำแหน่ง "ประธาน" ในวันที่ "ลี กวน ฮี" มีอำนาจเต็มใน "ซัมซุง" เขาจึงเป็นคนที่ได้รับคำชมอย่างมากว่าเป็น "ผู้ฟัง" ที่ดี ทั้งที่ "ลี กวน ฮี" เป็นคนพูดเก่ง เขาสามารถบรรยายติดต่อกัน 3-4 ชั่วโมงได้อย่างสบาย แต่ "จุดเด่น" ของเขากลับอยู่ที่การรับฟัง ฟังเพื่อนนักธุรกิจ ฟังนักวิชาการ ฟังผู้บริหาร ฟังพนักงาน ฯลฯ จากนั้นจึงเริ่มตั้งคำถาม "ทำไม-ทำไม-ทำไม ฯลฯ" ว่ากันทุกปัญหา "ลี กวน ฮี" จะตั้งคำถามว่า "ทำไม" อย่างน้อย 6 คำถาม คาถาเรื่อง "จงรับฟัง" นั้น ผมจำได้ว่า "กานต์ ตระกูลฮุน" กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ "เอสซีจี" หรือ "ปูนซิเมนต์ไทย" เคยบอกว่าตอนที่จะเปลี่ยนองค์กร "เอสซีจี" สู่นวัตกรรม เขาต้องเข้าอบรมหลักสูตรหนึ่ง ชื่อว่า "การฟัง" สอนให้รู้จักอดทนรับฟังความคิดเห็นของลูกน้องเพราะถ้าไม่มีท่าทีรับฟังก็จะไม่มีลูกน้องคนใดกล้าเสนอความเห็นที่นอกกรอบและองค์กรนั้นก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลง คาถาบทที่สองที่ "ลี เบียง ชอล" มอบให้กับลูกชายผู้สืบทอดกิจการ ก็คือ "ไก่ไม้" "ไก่ไม้" คือ ไม้ที่แกะสลักเป็นตัวไก่ ในห้องนอนของเขาจะมี "ไก่ไม้" แขวนอยู่ "ไก่ไม้" นั้นมาจากนิทานเรื่องหนึ่งในหนังสือคำสอนของ "จวงจื่อ" ปราชญ์คนหนึ่งของจีน คนเลี้ยงไก่ชนชื่อดังคนหนึ่ง ชื่อ "จี้ เซิง จื่อ" เป็นคนเลี้ยงไก่ชนให้กับ "โจว ซวน อ๋อง" วันหนึ่ง "โจว ซวน อ๋อง" นำไก่ชนตัวหนึ่งมาให้เลี้ยง ผ่านไป 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ก็ถามเขาว่า "ไก่ชนใช้ได้หรือยัง" "ยังไม่ได้ เพราะมันยังเดินกร่างอยู่ ทะนงตน ท้าทายไปทั่ว" จี้ เซิง จื่อ ตอบ ผ่านไปอีก 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ก็ถามด้วยคำถามเดิม "ไก่ชนใช้ได้แล้วหรือยัง" คำตอบของ "จี้ เซิง จื่อ" เหมือนเดิม คือ "ยัง" แต่เหตุผลเปลี่ยนไป "ยังไม่ได้ ตอนนี้ไม่ท้าทายไก่ตัวอื่นแล้ว แต่มักจะโดดตีถ้าไก่ตัวอื่นเข้าใกล้" อีก 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ถามอีก "ไก่ชนใช้ได้หรือยัง" "ยังไม่ได้ ตอนนี้ไม่โดดตีแล้ว และลดความทระนงตนลงแต่สายตายังดุร้าย เหมือนพร้อมจะตีกับไก่ตัวอื่น" อีก 10 วัน "โจว ซวน อ๋อง" ถามด้วยคำถามเดิม ครั้งนี้คำตอบมีพัฒนาการ "จี เซิง จื่อ" ตอบว่าพอใช้ได้แล้ว เพราะเมื่อไก่ตัวอื่นขัน ก็ไม่แสดงอาการตอบ เป็นราวกับ "ไก่ไม้" "เห็นไก่ตัวอื่นก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ ไก่ตัวอื่นเห็นก็ไม่กล้าเข้าใกล้ เดินหนีไปหมด" ครับ "ไก่ชน" ที่ดีนั้นไม่ใช่ "ไก่" ที่ตีเก่ง ฮึกเหิมห้าวหาญท้าทีท้าต่อยไปทั่ว แต่ "ไก่ชน" ที่ดีต้อง "นิ่ง" เป็น สงบสยบเคลื่อนไหว รู้จักเก็บความรู้สึกของตนเอง แต่สามารถเปล่งประกายจนไก่ชนตัวอื่นย้ำเกรง ชนะโดยไม่ต้องชน ผู้บริหารที่ดีในความหมายของ "ลี เบียง ชอล" คือ ต้องใจเย็น สงบนิ่งในสถานการณ์ที่กดดันให้ได้ "นิ่ง" เหมือน "ไก่ไม้" เขามอบ "ไก่ไม้" ให้ลูกชาย เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้รู้จัก "นิ่ง" "จงรับฟัง" และ "ไก่ไม้" อาจไม่ใช่คาถาที่นำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ "ซัมซุง" แต่เป็นคาถาที่ "ลี กวน ฮี" ใช้ในการบริหารงานมาโดยตลอด และนำพา "ซัมซุง" ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน สวัสดีตะวัน      ชอบจังเรื่องที่นำมาเล่า  เราได้เรื่องไปถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ฟังแล้ว ในวันพรุ่งนี้  หลังจากหยุดมา๑อาทิตย์       Thank u หลายๆ  สำหรับความรู้ที่นำมาให้เพื่อนๆ             Nokja

หวัดดีครับ นก ยินดีครับ

[seree_60]

Line Marketing" การตลาดผ่านแชท

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ปัจจุบันคุณยังส่งเอสเอ็มเอสอยู่หรือเปล่า..เดี๋ยวนี้เขาหันมาใช้แอพในมือถืออย่าง "ไลน์" (Line) กันแล้ว
 ปัจจุบันคุณยังส่งเอสเอ็มเอสอยู่หรือเปล่า หากใช่ ต๊ายๆๆๆ เชยระเบิดไปเลยครับ เพราะส่งเอสเอ็มเอสนั้นมีค่าใช้จ่าย ส่งได้จำกัด ส่งภาพ และเสียงอะไรไปก็ลำบาก เดี๋ยวนี้เขาหันมาใช้แอพในมือถืออย่าง "ไลน์" (Line) กันแล้ว ตอนนี้ต้องยอมรับว่า ไลน์ ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน โดยตอนนี้เริ่มเบียดกระแสแอพที่ใช้ส่งข้อความเจ้าตลาดอย่างวอทส์แอพไปแล้วตอนนี้

 โดยขณะนี้ คุณสามารถดาวน์โหลดไลน์ได้ในมือถือ ไอโอเอส แอนดรอยด์ และล่าสุด กำลังเปิดตัวบนแบล็คเบอร์รี เร็วๆ นี้ ที่สำคัญแอพนี้โหลดฟรีด้วยนะครับ แหมเห็นคำว่าฟรี ก็อยากได้แล้วล่ะสิ มาดูกันว่าไลน์ใช้ทำอะไรได้บ้าง และสามารถประยุกต์มาใช้กับการตลาด และการทำธุรกิจได้อย่างไร
 ไลน์ เป็นแอพที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ สามารถส่งข้อความ (แทน SMS ได้เลย) และสามารถส่งภาพ ส่งตำแหน่งของตัวเอง ณ ขณะนั้น รวมถึงสามารถคุยกันเป็นกลุ่ม (Group Chat) กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ พ่อแม่ ได้สบาย ที่เล่ามาทั้งหมดก็จะคล้ายกับแอพ วอทส์แอพ ที่ออกมาก่อนหน้านี้
 แต่จุดเด่นของไลน์ที่เหนือกว่า วอทส์แอพ คือ เราสามารถโทรหาเพื่อนผ่านแอพไลน์แบบเสียงได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (แต่คุณต้องเชื่อมต่อกับสัญญาอินเทอร์เน็ตทางมือถือก่อนนะ) และมีแอพที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ทั้ง วินโดว์ส และแมค ทำให้เราอยู่หน้าจอคอมสามารถพูดคุยสื่อสารกับเพื่อนได้
 รวมถึงจุดเด่นที่โดนใจวัยรุ่นจี๊ดจ๊าดวัยโจ๋ คือ สามารถส่ง สติกเกอร์ ภาพการ์ตูนน่ารัก ภาพใหญ่ๆ ไปให้เพื่อนได้แทนคำพูด ซึ่งมีให้โหลดภาพสติกเกอร์ฟรี และเสียเงิน โดยจะมีชุดภาพสติกเกอร์น่ารักออกมาเป็นชุดๆ ให้ซื้อกันได้ผ่านมือถือทันที สนนราคา 1.99 ดอลลาร์หรือประมาณ 60 บาท วัยรุ่นไทยหลายคนเสียเงินกระจายให้สติกเกอร์ลายน่ารักๆ กันมากมาย เพียงเปิดตัวระบบสติกเกอร์ไปแค่ 2 เดือน ก็สามารถสร้างรายได้จากการขายสติกเกอร์ไปถึง 350 ล้านเยน (140 ล้านบาท) ด้วยความสามารถทั้งหมดนี้ ทำให้ไลน์ เริ่มสามารถตีตลาดแอพที่ใช้พูดคุยสื่อสารบนมือถือและเติบโตได้อย่างโดดเด่น
 ปัจจุบัน ไลน์ มีคนใช้ทั่วโลกมากกว่า 45 ล้านคน (เติบโตเร็วกว่า เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์) มีผู้ใช้มากกว่า 230 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่น คนใช้สมาร์ทโฟนใช้ไลน์มากกว่า 44% นอกจากนี้ ไลน์ ยังได้เปิดตัวแอพ ในกลุ่มเดียวกันออกมา ได้แก่ ไลน์ คาเมร่า (Line Camera) โปรแกรมถ่ายภาพ สามารถตกแต่งภาพ รวมถึงนำภาพตัวการ์ตูนน่ารักมาตกแต่งในภาพได้ เรียกว่าโดนใจวัยรุ่นอย่างมาก และไลน์เองกำลังเริ่มกลายพันธุ์จากโปรแกรมพูดคุย (Chat)  เข้าสู่การเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คบนมือถือ (Mobile Social Network) ทำให้หลายแบรนด์ และธุรกิจต่างเริ่มนำไลน์มาใช้กับการทำตลาดให้กับธุรกิจ
 ล่าสุดไลน์เปิดตัว บัญชีอย่างเป็นทางการ (Official Account) ให้กับ นักร้อง ดารา แบรนด์สินค้า สามารถใช้สร้างฐานลูกค้า โดยผู้ชื่นชอบดารา หรือแบรนด์สินค้าสามารถกดเข้าไปเป็นสมาชิกของ Official Account ได้ ตอนนี้มีดารา นักร้องของไทยหลายคนเริ่มสร้าง Official Accont เช่น โอปอล เต๋อ ฉันทวิทย์ หรือค่ายหนังอย่างจีทีเอช หรือค่ายเพลง เลิฟ อีส และใช้เป็นช่องทางให้แบรนด์สินค้า หรือดาราติดต่อสื่อสารกับสมาชิกผ่านมือถือได้ตลอดเวลา แอพไลน์กลายเป็นช่องทางใหม่ที่หลายแบรนด์สินค้า และธุรกิจเริ่มจับตามอง และนำมาใช้สื่อสาร
 ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ไลน์ในการสื่อสาร และทำตลาดในญี่ปุ่น คือ ร้านสะดวกซื้อลอว์ซัน (Lawson) ได้สร้างบัญชีในไลน์ขึ้นมา โดยใน 1 เดือนมีสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว และมีการส่งคูปองลดราคาไก่ทอดคาระเกะผ่าน Official Account ผลที่ได้ คือ อัตราลูกค้าที่มาที่ร้านเพิ่มขึ้น 300% และ 70% ของลูกค้าที่มาที่นี่ยังซื้อสินค้าอื่นๆ ด้วย
 สำหรับในไทย ขณะนี้ ค่ายเอไอเอสได้จับมือกับไลน์ เปิดให้ดาวน์โหลดสติกเกอร์น้องอุ่นใจน่ารักๆ ให้สามารถส่งสติกเกอร์ไปหาเพื่อนได้ฟรี ถือเป็นการสร้างแบรนด์ของเอไอเอสผ่านทางไลน์ได้อีกวิธีหนึ่ง
 จุดเด่นของไลน์ คือ เป็นช่องทางแบรนด์ หรือบริษัทสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง และเพื่อนๆ ในไลน์ส่วนใหญ่ จะเป็นคนที่เรารู้จักอยู่แล้ว (Real Connection) ทำให้ความสนใจกับข้อความ หรือเปิดแอพนี้สูงกว่าแอพอื่น จึงทำให้ตอนนี้หลายแบรนด์เริ่มให้ความสนใจใช้ไลน์เป็นอีกช่องทางทำการตลาด เพิ่มมากขึ้น 
 
แล้วคุณล่ะ ลองใช้ไลน์แล้วหรือยัง หากยังไม่ใช้ ไปลองดาวน์โหลดมาใช้ดูนะครับ ฟรี และลองสร้างกลุ่มคุยกับเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวของคุณ เพื่อเป็นอีกช่องทางการสื่อสาร ทั้งยังสามารถนำมาใช้เป็นช่องทางการตลาดสำหรับแบรนด์และสินค้าได้ด้วย แบบนี้ต้องลองโหลดมาใช้แล้วล่ะครับ

[seree_60]

ครั้งหนึ่งในอเมริกากลาง
ทุก ๆ ปีจะมีการประกวดเมล็ดพันธ์ข้าวโพด
หลังจากการประกวดชายผู้ที่ชนะเลิศที่หนึ่ง
เขาทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง นั่นคือ ...

ทันทีที่เขาชนะ

เขาได้นำเมล็ดพันธ์ที่เพิ่งชนะการประกวด
แจกให้กับผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันและกล่าวว่า
เอาเมล็ดพันธ์นี้ไปปลูกน่ะ แล้วปีหน้าเรามาแข่งกันใหม่

ในปีต่อมา ...
เขาก็ชนะการประกวดเมล็ดพันธ์ข้าวโพดอีก
เขาเดินแจกเมล็ดพันธ์ที่เขาเพิ่งชนะให้กับคนอื่น ๆ
แล้วบอกว่า ...
เอาไปปลูกน่ะ แล้วปีหน้าเรามาแข่งกันใหม่

ชายผู้นี้ชนะการประกวดเมล็ดพันธ์ข้าวโพด
ติดต่อกัน 6 ครั้ง และเขาก็แจกเมล็ดพันธ์ที่ชนะ
ให้ผู้แข่งขันคนอื่น ๆ ทุกปี

มีนักข่าวถามเขาว่า ...
ไม่เป็นการง่ายกว่าหรือ ถ้าเขาเก็บเมล็ดพันธ์ที่ดี
โดยไม่แบ่งคนอื่น เขาก็จะได้ชนะง่าย ๆทุกปี

เขาตอบว่า ... แสดงว่า ...
คุณไม่เข้าใจในการปลูกพืช คุณเคยได้ยินคำว่า ...
การกลายพันธ์ไหม ถ้าไร่ของผมมีเมล็ดพันธ์ที่ดี
บังเอิญไร่ของเพื่อนบ้านมีแต่เมล็ดพันธ์ที่แย่ ๆ

วันหนึ่ง ลมก็จะพัดเอาเกสรของเมล็ดพันธ์ที่แย่ ๆ
มาตกในไร่ของผม ทำให้เมล็ดพันธ์ผมแย่ไปด้วย

มันไม่เป็นการดีหรอกหรือ ...
ที่ทุกคนมีเมล็ดพันธ์ที่ดีแล้ว ...
ถึงตอนนั้นมาแข่งกันว่า ...
ใครขยัน รดนำพรวนดินดีกว่ากัน

มีคำกล่าวว่า ...
ถ้าคุณมีเมล็ดพันธ์ความคิดที่ดี คุณเก็บไว้กับตัว
ไม่แบ่งปันใคร ถึงวันหนึ่งเมล็ดพันธ์แห่งความคิดนั้น
ก็จะตายไปพร้อมคุณ

เป็นสิ่งสำคัญในชีวิต ที่ความคิดและความรู้
ยิ่งให้ออกไป เรายิ่งได้รับกลับมา
และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คน ๆ นั้น

ประสบความสำเร็จที่มากขึ้นไปพร้อม ๆ กับ

การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าในสังคม

ขอขอบคุณ ข้อความจาก คุณ promin ....Thaigold.info

[seree_60]

 สูตรแห่งความสุขในชีวิตประจำวัน

 
ที่มา http://www.oknation.net/blog/black/2009/06/17/entry-1  สุทธิชัย หยุ่น

 พรรคพวกส่งจดหมายเวียนผ่านอีเมลมาให้...

บอกว่าเป็น “สูตรแห่งชีวิตประจำวัน” ที่ควรจะส่งต่อไปให้คนที่เรารัก ห่วงใยและต้องการให้เขาหรือเธอมีความสุขทั้งกายและใจ...

ทำนองเดียวกันที่ชาวชีวจิตมีความห่วงหาอาทรต่อกันอย่างไม่ลดละ เพื่อนเรียกสูตรนี้ว่าเป็น Lifebook หรือเป็น “ตำราแห่งชีวิต” ซึ่งผมคิดว่าเหมาะเจาะกับเนื้อหาและคำแนะนำที่น่าสนใจยิ่ง ทั้งง่ายและตรงไปตรงมา, ใครจะทำก็ได้, ไม่ทำก็ได้, เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล, ไม่บังคับยัดเยียดกัน, ไม่ต่อว่าต่อขานกัน,

แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นจะทำอะไรให้กับชีวิตของตนเอง ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าส่งเสริมสนับสนุน สมควรที่จะให้กำลังใจแก่กันและกันอย่างยิ่ง

สูตรที่ว่านี้มีง่าย ๆ อย่างนี้

1.   ดื่มน้ำให้มาก

2.   กินอาหารเช้าเหมือนราชา รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า และกลาง ๆ ตอนเที่ยงและตกเย็นแล้ว ทำตัวเป็นยาจก ไม่มีอะไรจะกิน ...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)

3.  กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน

4.  ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E...นั่นคือ energy หรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือตือร้น และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ

5.  หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ

6.  เล่นเกมสนุกๆ เสียบ้าง  อย่าเครียดกันนักเลย

7.  อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา

8.  นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้

9.  นอนวันละ 7 ชั่วโมง

10. เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที แล้วแต่จะสะดวก

11. ระหว่างเดิน อย่าลืมยิ้ม


สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรจะคู่กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้ครับ

1.  อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง

2.  อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย

3.  อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน

4.  อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก

5.  อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง

6.  จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ

7.  ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว

8.  ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ

9.  ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น

10. ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ

11. ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง

12. จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต

13. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น

14. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร

 

แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้าง?

1.    อย่าลืมโทรศัพท์หาครอบครัวบ่อย ๆ

2.    จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน

3.    จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง

4.    จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ

5.    พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน

6.    คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย

7.  งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด

 

เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุขเสมอ...
ดังนั้น ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?

 

เปิดโลกทัศน์ เปิดใจ เปิดความคิดสู่สิ่งใหม่ เพื่อหัวใจที่สุขกว่า

[เอมอร 2515]

สวัสดี ตะวัน และทุกคน
 กำลังกระจายเมล็ดข้าวโพด ให้เพื่อนๆใช่ไหม
สงสัยต้องขยัน รดน้ำพรวนดิน ให้ปุ๋ยแล้ว

[nok15]

สวัสดีชาวRCU15
     ใครเกิดวันศุกร์บ้าง

                 
             
     ตรงบ้างไหมเอ่ย

       
     และคิดอย่างนี้บ้างไหมเอ่ย


                                           
   
      และสุดท้าย
     

                                             

                                               Nokja 
 
 
 

[Pete15]

		อ้างถึง			ข้อความของ nok15 เมื่อ 27 กรกฎาคม 2555, 10:43:25
	สวัสดีชาวRCU15      ใครเกิดวันศุกร์บ้าง                                      ตรงบ้างไหมเอ่ย              และคิดอย่างนี้บ้างไหมเอ่ย                                                       และสุดท้าย                                                                                                    Nokja

สวัสดี ครับ นก  ชอบจังเลย มีบ้างไหม? แถวๆ นี้ พวกสับสน โลเล...... roommate คนแรกก็อาการประมาณเนี้ย ยังเป็นถึง
          ด๊อก.....กุศล     

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ nok15 เมื่อ 27 กรกฎาคม 2555, 10:43:25
	สวัสดีชาวRCU15      ใครเกิดวันศุกร์บ้าง                                        ตรงบ้างไหมเอ่ย               และคิดอย่างนี้บ้างไหมเอ่ย                                                       และสุดท้าย                                                                                                   Nokja

		อ้างถึง			ข้อความของ nok15 เมื่อ 27 กรกฎาคม 2555, 10:43:25
	สวัสดีชาวRCU15      ใครเกิดวันศุกร์บ้าง                                        ตรงบ้างไหมเอ่ย               และคิดอย่างนี้บ้างไหมเอ่ย                                                       และสุดท้าย                                                                                                   Nokja

เราเกิดวันอาทิตย์ ดูให้หน่อย..
น่าจะเป็น..รักเดียวใจเดียว..รักความเป็นธรรม
เกลียดปูเน่า อยากกะทืบคางคก อยากชก ฆ้อนปลอม
 ไม่ชอบใส่เสื้อสีแดง   เป็นคนใต้ แต่เกลียด คนชื่อ ทักษิณ
เป็นคนหน้ากลมๆ แต่เกลียดคนหน้าเหลี่ยม..ฯลฯ
แม่นไหมๆๆ...555

[เอมอร 2515]

แล้วคนเกิดวันอื่นหละจ้ะ นก

[nok15]

                  สวัสดีค่ะชาวRCU
   
                         วันนี้ขอให้ชาวRCUโชคดีนะคะ

                           
     
                          สำหรับตะวันที่ถามมา  ตกลง...จัดให้  ไม่ทราบว่าเฉียดบ้างไหม
 
                           

                         อรอยากให้บอกวันไหนล่ะ  ขอได้ เดี๋ยวจัดให้
       
                                                               สุดท้าย
         
                           
 
                                                                  Nokja
     
                         

[Pete15]

 วันเสาร์ ละ นก  แล้ว ดอกกุหลาบ สีม่วง นะ ของจริงไปหาได้ที่ไหน? สวยมาก  อยากหาไปฟาก แวมไพร์ ท่าทางจะ match กันดี ฮิฮิ

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ nok15 เมื่อ 01 สิงหาคม 2555, 13:25:10
	สวัสดีค่ะชาวRCU                              วันนี้ขอให้ชาวRCUโชคดีนะคะ                                                             สำหรับตะวันที่ถามมา  ตกลง...จัดให้  ไม่ทราบว่าเฉียดบ้างไหม                                                        อรอยากให้บอกวันไหนล่ะ  ขอได้ เดี๋ยวจัดให้                                                                        สุดท้าย                                                                                                           Nokja

กุหลาบสีส้อมนี่ หาที่ไหนได้ครับ
แม่นๆๆ ชอบสีส้ม

[nok15]

  สวัสดีค่ะชาวRCU
         เพิ่งกลับจากไปเที่ยวบางแสน ไปถวายหลอดไฟพรรษาที่วัดตาลล้อม
   ชาวหอเมืองชลเคยไปไหมคะ  เขาลือว่าพระที่นี่ดูหมอแม่น  แต่เราไม่ทราบว่า
   พระองค์ไหน  นอกจากนี้ยังได้แวะไปรับประทานข้าวแกงที่ร้านชื่อคุณยาย
   เป็นร้านอาหารใต้มีรายการอาหารให้เลือกเกือบ50ชนิด  ขอบอกว่า"หรอยจังฮู้"
          อยากทำหน้าที่เชลล์ไม่ได้เชิญไปชิมให้เพื่อนๆชาวหอลองไปชิม เราและ
   เพื่อนอาจารย์ที่สาธิตเกษตรไปแวะรับประทานซะ๒วันติด ประหยัดตังค์ไปโข
   เพราะเราเป็นมนุษย์เงินเดือน  จากนั้นก็ซื้อกับข้าวกลับมารับประทานที่กรุงเทพฯ
   ด้วยหลายอย่าง
         วันนี้เป็นวันเสาร์จึงขอสนองคำร้องขอของเพื่อนปี๊ด2515  ดีใจจังที่มีคนสนใจ
    จึงรีบจัดให้เลยแต่จะตรงหรือเปล่าไม่รู้นะคะ
         แหม..ถ้าบอกเดือนเกิดมาด้วยก็ดีจะได้แถมคำทายเดือนเกิดให้


               
         

                      และสุดท้ายนี้เป็นความคิดของชาวRCUคนไหนบ้างยกมือขึ้น

               
               
                     
                             

                               สุขสันต์ในวันหยุดยาวนี้ทุกคนนะคะ
                                             Nokja 

 
 

[มีนา]

สวัสดีนก และสมาชิก ยินดีที่ไปชลแล้วประทับใจโดยเฉพาะเรื่องอาหาร หรอยท้างน้าน
เราก็ได้ลาภ(ปาก)จากนก หร่อยเหมือนกัน ขอบคุณหลายๆนะนกแสนสวยน้ำใจงาม

[nok15]

 สวัสดีจ้ะนี้
                       เขินจ้ะ..เขิน
                       แต่ก็ขอบคุณจากใจด้วยภาพข้างล่างละกันนะ
                             
                               
                     
                       และขอบอกเพื่อนว่า

                               

                                                             Nokja

[Soponเท่านั้น]

สวัสดีครับนก15
หายไปนานนะครับ เจอแต่นก20ที่บ้านทุกวันทุกคืน

เพื่อนตะวันอย่าหมั่นไส้นะเฟ้ย

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 13 สิงหาคม 2555, 21:15:37
	สวัสดีครับนก15 หายไปนานนะครับ เจอแต่นก20ที่บ้านทุกวันทุกคืน เพื่อนตะวันอย่าหมั่นไส้นะเฟ้ย

_{ยังมีเวลาเจอนกหรือ...คิดว่าเจอแต่ เตรียม ตอ...ระวังหูยานนะเฟ้ย..แถมถูกไล่ให้ไปนอนที่เตรียม...55555}

[Pete15]

		อ้างถึง			ข้อความของ มีนา เมื่อ 05 สิงหาคม 2555, 12:05:05
	สวัสดีนก และสมาชิก ยินดีที่ไปชลแล้วประทับใจโดยเฉพาะเรื่องอาหาร หรอยท้างน้าน เราก็ได้ลาภ(ปาก)จากนก หร่อยเหมือนกัน ขอบคุณหลายๆนะนกแสนสวยน้ำใจงาม

นกอะไร (วะ)......แต่งตัวเก่งจัง

[Pete15]

		อ้างถึง			ข้อความของ nok15 เมื่อ 13 สิงหาคม 2555, 20:14:42
	สวัสดีจ้ะนี้                        เขินจ้ะ..เขิน                        แต่ก็ขอบคุณจากใจด้วยภาพข้างล่างละกันนะ                                                                                                            และขอบอกเพื่อนว่า                                                                                              Nokja

 ชอบจัง.....ทั้งสองรูป