24 พฤศจิกายน 2567, 21:00:45
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 ... 44   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: สัพเพเหระ กับ RCU 15  (อ่าน 339448 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #350 เมื่อ: 17 มกราคม 2554, 19:50:42 »

เรื่องที่น่าอ่าน สำหรับคนวันไกล้เกษียน อย่างพวกเราๆ

ขออนุญาตคัดลอกข้อความส่วนหนึ่งในงานเขียนของ
 รศ.ประทุมพร วัชรเสถียร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
นักเขียน คอลัมนิสต์ พิธีกร นักจัดรายการวิทยุ ในสื่อต่าง ๆ และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)  
ที่ได้ล่วงลับไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งถูกบรรจุไว้ในหนังสือ "การตายและงานศพของฉัน"
 บอกเล่าข้อคิด คติเตือนใจ และแนวทางการใช้ชีวิตของตัวท่านเองไว้
 ด้วยถ้อยคำภาษาเรียบง่ายแต่ให้กำลังใจสำหรับคนที่ยังมีชีวิต
ลมหายใจเพื่อสู้ในโลกแห่งความเป็นจริงต่อไป
 และก้าวย่างด้วยอารมณ์เบิกบานโดยไม่ประมาท


 
เมื่อชีวิตของฉันเดินทางมาถึงวันนี้ ฉันไม่มีความกลัวเรื่องความตายของตัวเองอีกต่อไปแล้ว
 ฉันไม่สนใจว่าฉันจะตายเมื่อไร เหตุใดจึงตาย ตายแล้วจะไปไหน ฉันไม่สนใจใคร่รู้ทั้งนั้น
รู้อยู่แต่ว่าฉันอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ (อีกนานเท่าไรไม่ทราบ)
ให้เป็นประโยชน์ที่สุด และอย่างมีความสุขที่สุด


การทำชีวิตให้เป็นประโยชน์ที่สุด และมีความสุขที่สุดในทัศนะของฉัน น่าจะเป็นดังนี้ คือ

 ๑.ปฏิบัติภารกิจในหน้าที่ให้ดีที่สุด สมบูรณ์ครบถ้วนที่สุด อย่างเต็มใจและอย่างสนุกที่สุด
 ภารกิจใดถ้าคิดว่าต้องฝืนใจทำ ทำแล้วไม่สนุก ทำแล้วเกิดความทุกข์ เกิดความกดดัน
ทำให้เคร่งเครียด ฉันจะพยายามหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุด

ฉันมีวิธีเลือกภารกิจของฉันดังนี้คือ

๑.๑ ทำงานชนิดที่ชอบ ทำด้วยใจรัก ทำแล้วสนุก ทำแล้วมีความสุข

๑.๒ ทำงานที่ให้ประโยชน์แก่เพื่อนร่วมโลก

๑.๓ ทำงานที่ให้ค่าตอบแทนเป็นเงินตรา หากฉันยังคงมีความต้องการด้านนี้

๑.๔ ทำงานที่ให้ความสุขแก่ผู้อื่น แม้จะไม่เป็นประโยชน์ใดๆ ก็ตาม (แต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย และผิดศีลธรรม)

 
๒. คบคนที่คบแล้วทำให้จิตใจสบาย ร่าเริง เบิกบาน เปิดสมองและโลกทัศน์
 ฉัน ไม่กลัวว่าจะมีเพื่อนน้อย หากเพื่อนเพียง ๒ – ๓ คน ที่ฉันคบสนิทด้วยทำให้ฉันสบายใจ
 ผู้ใดที่ทำให้ฉันรกตาด้วยภาพ รกหูด้วยคำพูด รกใจด้วยเรื่องร้าย ฉันขออยู่ห่างที่สุด

 ๓. สิ่งใดที่ฉันคิดว่าเป็นสิ่งดีที่ควรทำ ฉันจะไม่ผลัดวันประกันพรุ่งอีกต่อไป เช่น
๓.๑ เขียนจดหมายถึงเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมานาน หรือติดต่อนัดพบกับเขา หากทำได้
๓.๒ ไปเยี่ยมผู้ใหญ่อันเป็นที่รักและเคารพ ซึ่งมิได้เยี่ยมเยือนมานาน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีใครเหลียวแล
๓.๓ อ่านหนังสือที่เคยคิดอยากอ่าน หรือหยิบมาเตรียมไว้ แต่ยังไม่เคยมีเวลาเปิดอ่าน
๓.๔ ตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อออกไปเดินเล่นท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ในสถานที่เหมาะสม
เช่น สวนสาธารณะ หรือเดินชมกรุงเทพฯ ย่านที่ฉันเคยรู้จักและอยากกลับไปฟื้นความหลังอีก
 หรือย่านที่ไม่รู้จัก แต่อยากทำความรู้จัก ในฐานะที่ฉันเป็นชาวกรุงเทพฯ มาตั้งแต่เกิด
๓.๕ ส่งเงินหรือสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลน โดยผ่านตัวแทนที่เชื่อใจได้
ว่าจะนำความช่วยเหลือของฉันไปถึงตัวบุคคลที่ต้อง การ (หากให้โดยตรงไม่ได้)
๓.๖ อ่านหนังสือธรรมะ หรือฟังข้อคิดทางธรรมะเป็นประจำ และปฏิบัติตามนั้น
 จะเป็นธรรมะของศาสนาใดก็ได้ ธรรมะที่ช่วยแก้ปัญหา อ่าน/ฟัง แล้วใจสบายนั้น
คือธรรมะที่ถูกต้อง ธรรมะใดที่อ่าน/ฟังแล้วหนักใจ
ทำให้เป็นคนเห็นแก่ตัว เต็มไปด้วยโมหะ สร้างความแตกแยก นั่นมิใช่ธรรมะ

 ๔. หากร่างกายและจิตใจของฉันอำนวย ฉันอยากมีอาชีพเป็นนักเขียน
จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตของฉัน ฉันอยากเขียนเรื่องทุกชนิดที่มีสื่อเผยแพร่
ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย บทความ เรื่องท่องเที่ยวจากประสบการณ์ คอลัมน์ประจำ
 บทวิจารณ์ หรือการตอบจดหมายแนะแนวทางแก้ไขปัญหาชีวิต
รวมทั้งเรื่องธรรมะและการอบรมกล่อมเกลาจิตใจ และพฤติกรรมของมนุษย์

 ๕. ฉันจะรู้จักมี “มุมชีวิต” ของตัวเอง หมายความว่า
 ฉันจะต้องรู้ข้อจำกัดของบทบาทของฉันว่าควรยุ่งเกี่ยวกับชีวิตคนอื่นมากน้อย เพียงใด
และควรพอใจบทบาทความเป็น “คนนอก”ของตัวเองเพียงใด ฉันจะต้องรู้ว่า
ไม่ว่าฉันจะเป็นภรรยา หรือแม่ หรือพี่ หรือย่า หรือยายของผู้ใด
 ฉันย่อมไม่มีสิทธิ์เข้าไปเกี่ยวข้องในการตัดสินใจเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต ของคนเหล่านั้น
หากฉัน ถูกขอคำปรึกษาหารือ ฉันจะให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น
 แต่ฉันจะไม่โกรธเคือง หรือเก็บเอามาเป็นอารมณ์ หากบุคคลเหล่านั้นไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำของฉัน
ฉันจะมีแค่ หูเปิด ตายิ้ม ปากปิด ต่อพวกเขาเหล่านั้น

 ๖. ฉันจะไม่ “แบกโลก” ฉันจะไม่เป็นคนเจ้าทุกข์ ฉันจะไม่ทุกข์เกินขนาดที่ควรทุกข์
ฉันจะต้องเตือนใจตัวเองว่า
- ฉันจะไม่ทุกข์ต่อเรื่องที่แก้ไขได้ เพราะหากฉันสามารถแก้ไขได้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องมีความทุกข์
- ฉันจะไม่ทุกข์ต่อเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ เพราะต่อให้ฉันทุกข์จนหน้าไหม้ใจขมไปหมด ฉันก็ยังแก้ปัญหานั้นไม่ได้
แล้วฉันจะปล่อยให้ความทุกข์มาครองใจฉันจนถึงวันสุดท้ายแห่งชีวิตของฉันด้วย ประโยชน์อันใด

๗. ฉันจะไม่โกรธ ฉันจะไม่โมโห เพราะความโกรธคือความโง่ ความโมโหคือความบ้า
ฉันจะไม่เตรียมตัวตายอย่างคนโง่และคนบ้า
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #351 เมื่อ: 18 มกราคม 2554, 13:20:39 »

ขอบคุณค่ะ น้องแหลม
พี่คงต้องใช้บริการgoogle เพื่อนเก่าต่อไป
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #352 เมื่อ: 18 มกราคม 2554, 13:41:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 17 มกราคม 2554, 19:50:42
เรื่องที่น่าอ่าน สำหรับคนวันไกล้เกษียน อย่างพวกเราๆ

 
 
ขอบคุณตะวัน
เป็นข้อเขียนที่ดีมาก
เตือนใจคนรุ่นเราๆ  ให้เตรียมการได้อย่างดี 
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #353 เมื่อ: 28 มกราคม 2554, 19:32:54 »

มีของดีมาให้อ่านอีกแล้วครับ

3 x 8 = Huh???

เอี๋ยนหุยใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขงจื้อ  มีอยู่วันหนึ่ง เอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด
เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขายผ้า

จึงเข้าไปสอบถามดู จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้า
ได้ยินลุกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า “3x8ได้ 23 ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่าย24เหรียญล่ะ!”
เอี๋ยนหุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า “พี่ชาย 3x8 ได้ 24 จะเป็น 23 ได้ยังไง?
พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก”
คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน!
จะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น ผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ
ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน ”
เอี่ยนหุยกล่าวว่า “ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร?”
คนซื้อผ้ากล่าวว่า“หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ?”
เอี๋ยนหุยกล่าวว่า “หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง)”
ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น
เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “3x8ได้ 23 ถูกต้องแล้วเอี๋ยนหุย
เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสีย”

เอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น
ชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป
ต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น
เอี๋ยนหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลอะเลือน จึงไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป
พอรุ่งขึ้น เอี๋ยนหุยจึงเข้าไปขอลาอาจารย์กลับบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าที่บ้านเกิดเรื่องราว ต้องรีบกลับไปจัดการ
ขงจื้อรู้ว่าเอี๋ยนหุยคิดอะไรอยู่ ก็ไม่ได้สอบถามมากความ อนุญาตให้เอี๋ยนหุยกลับบ้านได้
ก่อนที่เอี๋ยนหุยจะออกเดินทาง ได้เข้าไปกราบลาขงจื้อ ขงจื้อกล่าวอวยพรและให้รีบกลับมาหากเสร็จกิจธุระแล้ว
พร้อมกันนั้นก็ได้กำชับว่า “อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”
เอี๋ยนหุยคำนับพร้อมกล่าวว่า “ศิษย์จะจำใส่ใจ” แล้วลาอาจารย์ออกเดินทาง
เมื่อออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เกิดพายุลมแรงสายฟ้าแลบแปลบ เอี๋ยนหุยคิดว่าต้องเกิดพายุลมฝนเป็นแน่
จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะเข้าไปอาศัยอยู่ไต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ฉุกคิดถึงคำกำชับของท่านอาจารย์ที่ว่า
“อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”
เราเองก็ติดตามท่านอาจารย์มาเป็นเวลานาน ลองเชื่ออาจารย์ดูอีกสักครั้ง คิดได้ดังนั้น จึงเดินออกจากต้นไม้ใหญ่
ในขณะที่เอี๋ยนหุยเดินไปได้ไม่ไกลนัก บัดดล สายฟ้าก็ผ่าต้นไม้ใหญ่นั้นล้มลงมาให้เห็นต่อหน้าต่อตา เอี๋ยนหุยตะลึงพรึงเพริด
คำกล่าวของพระอาจารย์ประโยคแรกเป็นจริงแล้ว หรือตัวเราจะฆ่าใครโดยไม่รู้สาเหตุ?
 
เอี๋ยนหุยจึงรีบเดินทางกลับ กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่ไม่กล้าปลุกคนในบ้าน
เลยใช้ดาบที่นำติดตัวมาค่อยๆเดาะดาลประตูห้องของภรรยา
เมื่อเอี๋ยนหุยคลำไปที่เตียงนอน ก็ต้องตกใจ ทำไมมีคนนอนอยู่บนเตียงสองคน!
เอี๋ยนหุยโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงหยิบดาบขึ้นมาหมายปลิดชีพผู้ที่นอนอยู่บนเตียง
เสียงกำชับของอาจารย์ก็ดังขึ้นมา “อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”
 
เมื่อเขาจุดตะเกียง จึงได้เห็นว่า คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของเขาเอง
พอฟ้าส่าง เอี๋ยนหุยก็รีบกลับสำนัก
เมื่อพบหน้าขงจื้อจึงรีบคุกเข่ากราบอาจารย์และกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ คำกำชับของท่านได้ช่วยชีวิตของศิษย์ ภรรยาและน้องสาวไว้
ทำไมท่านจึงรู้เหมือนตาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์บ้าง?”
ขงจื้อพยุงเอี๋ยนหุยให้ลุกขึ้น และกล่าวว่า “เมื่อวานอากาศไม่ค่อยสู้ดีนัก น่าจะมีฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแน่
จึงเตือนเธอว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่
และเมื่อวาน เธอจากไปด้วยโทสะ แถมยังพกดาบติดตัวไปด้วย
อาจารย์จึ้งเตือนเธอว่า อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”
เอี๋ยนหุยโค้งคำนับ “ท่านอาจารย์คาดการดังเทวดา ศิษย์รู้สึกเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน”
ขงจื้อจึงตักเดือนเอี๋ยนหุยว่า “อาจารย์ว่าที่เธอขอลากลับบ้านนั้นเป็นการโกหก
 ที่จริงแล้วเธอคิดว่าอาจารย์แก่แล้ว ความคิดเลอะเลือน
ไม่อยากศึกษากับอาจารย์อีกแล้ว เธอลองคิดดูสิ อาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 23 เธอแพ้ ก็เพียงแค่ถอดหมวก
หากอาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 24 เขาแพ้ นั่นหมายถึงชีวิตของคนๆหนึ่ง เธอคิดว่าหมวกหรือชีวิตสำคัญล่ะ? ”


เอี๋ยนหุยกระจ่างในฉับพลัน คุกเข่าต่อหน้าขงจื้อ แล้วกล่าวว่า
“ท่านอาจารย์เห็นคุณธรรมเป็นสำคัญ โดยไม่เห็นแก่เรื่องถูกผิดเล็กๆน้อยๆ
ศิษย์คิดว่าอาจารย์แก่ชราจึงเลอะเลือน ศิษย์เสียใจเป็นที่สุด”
 

จากนั้นเป็นต้นไป ไม่ว่าขงจื้อจะเดินทางไปยังแห่งหนตำบลใด เอี๋ยนหุยติดตามไม่เคยห่างกาย

จากตำนานเรื่องเล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเพลงๆหนึ่งของอิวเค่อหลี่หลิน(นักร้องดูโอของไต้หวัน)
ที่ร้องว่า “หากสูญเสียเธอไป ต่อให้เอาชนะทั้งโลกได้แล้วจะยังไง? เช่นกัน

บางครั้งคุณอาจเอาชนะคนอื่นด้วยเหตุผลของคุณ แต่อาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป”
เรื่องราวต่างๆ แบ่งเป็นหนักเบารีบช้า อย่าเป็นเพราะต้องการเอาชนะให้ได้ แล้วทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต
เรื่องราวมากมายที่ไม่ควรทะเลาะกัน ถอยหนึ่งก้าวทะเลกว้างฟ้างาม
ทะเลาะกับลูกค้า ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณก็จะรู้สึก)
ทะเลาะกับเถ้าแก่ ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ตรวจผลงานปลายปีมาถึง คุณก็จะรู้สึก)
ทะเลาะกับภรรยา ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เธอไม่สนใจคุณ คุณก็หากับข้าวกินเองละกัน)
ทะเลาะกับเพื่อน ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เคลียร์ไม่ได้ คุณอาจจะเสียเพื่อนไปลย)
ใบชา เกิดสีสวยและกลิ่นหอมน่าลิ้มลองได้ ก็เพราะโดนน้ำร้อนลวก
ชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน เพราะเผชิญกับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า
จึงเหลือไว้ซึ่งเรื่องราวเป็นตำนานให้ได้เล่าขานน่าตามติด
ผู้ที่รู้สำนึกคุณอยู่เสมอ จึงเป็นผู้มีวาสนามากที่สุด

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #354 เมื่อ: 28 มกราคม 2554, 19:45:53 »

ชอบ ชอบ คะ
ไปหามาจากไหน  ดีมาก
 ทยอยเก็บ ตามกระทู้ต่างๆ copy เก็บไว้เครื่อง ในfolder ข้อคิดดีๆ
ชาวหอ มีสิ่งดีๆมาฝากกัน ทุกกระทู้เลย
 
      บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #355 เมื่อ: 30 มกราคม 2554, 11:55:07 »

อ่านแล้ว..ทบทวน เคยนิ่ง เคยถอย หลายครั้งเมือนกัน  เอิ่มม แต่อยากเอาชนะก็ยังมีเน้อ  sing
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #356 เมื่อ: 30 มกราคม 2554, 18:19:09 »

ก็เรายังตัดกิเลส ได้เพียงอย่างบางเบานี่นะนี้
บางทีตัดได้ บางทีตัดไม่ได้
ก็เป็นอย่างนี้แหละ  นี้
อย่าท้อก็แล้วกัน
พยายามต่อไป
      บันทึกการเข้า
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #357 เมื่อ: 30 มกราคม 2554, 19:44:19 »

อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 30 มกราคม 2554, 11:55:07
อ่านแล้ว..ทบทวน เคยนิ่ง เคยถอย หลายครั้งเมือนกัน  เอิ่มม แต่อยากเอาชนะก็ยังมีเน้อ  sing
สวัสดีครับคุณนา คุณอร    แอบอ่านของเพื่อนๆอยู่บ่อยๆ อดไม่ได้ ขออนุญาตแบ่งประสบการณ์
      การตัดเป็นการ อด/ กด ไว้ชั่วคราว เสมือนหญ้าที่ถูกหินทับ มันแค่เปลียนสีแต่ไม่ตาย เมือยกหินออก มันก็จะค่อยๆกลับ                             
      ไปเป็นสีเดิมอีก  ต้องปล่อยให้เป็นธรรมชาติ แต่เมื่อรู้ สึกอยาก ให้เตือนตัวเองในใจว่า อยาก อย่าปล่อยให้ความรู้สึกต่อ
      เนื่อง /" อยาก " มันจะสะดุด จิตจะเริ่มเรียนรู้คำนี้ เราต้องให้เวลา ทำบ่อยๆ ช่วง ( Gap)  ของการ  Break จะ  กว้างขึ้นๆ ๆ
      Degree ของความเร่าร้อนจะลดลงไปตามธรรมชาติ การฝึกแบบนี้  จะเป็นการลดความอยากแบบธรรมชาติ   และ ถาวร
      เรียกว่า  รู้ปัจจุบัน   ระหว่างนั้นเราช่วยด้วยการใช้เหตุผล มาลดความ "อยาก" ด้วยได้ สักวันหนึ่ง (แต่ละคนเวลาไม่เท่า
      กัน ) จิตเขารู้จัก และจำได้ เขาก็จะปล่อยว่างเอง( นํ้าลายก็จะไม่ออกมาท่วมปากแล้วเมื่อเห็นนํ้าปลาหวาน ) ความอยาก
     ยังอยู่ แต่ใจจะไม่่เร่าร้อน  ซึ่งเรียกว่า" การปล่อยวาง" โดยไม่มีคำว่า" ตัด" ที่เข้ามา comment เพราะ คำนี้ คือ   ตัวการ
     สำคัญที่ เกิดการสร้าง ภพ สร้างชาติ อยู่ตลอดเวลา  ถ้าว่างคำนี้ได้นั้นคือ  เรากำลังก้าวเข้าสู่ถนนสายธรรมะภาคปฏิบัติแล้ว

   
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #358 เมื่อ: 30 มกราคม 2554, 19:59:11 »

สวัสดีค่ะ ปี๊ด
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ เพื่อนๆช่วยแนะนำกันคนละไม้ คนละมืออย่างนี้
ก็น่าจะปล่อยวางได้มากขึ้น ใช่การตัดยากกว่าจริงๆ ค่อยเป็นค่อยไปอย่างนั้น น่าจะมั่นคงมากว่า
เข้าใจเปรียบกับน้ำปลาหวานนะปี๊ด เข้าสมัยกับมะม่วงตอนนี้ด้วย
เราแอบไปอ่านที่ปี๊ดสอนเรื่องศิลป การวาดภาพ ที่ให้คำแนะนำน้องสนในการวาดภาพหนู และอื่นๆแล้ว
เราไม่รุ้เรื่องศิลป์เลย มองตามที่ว่า จุดมองอยุ่ที่ไหล่ มองเท่าไรก็ไปที่หางหนูทุกที
สงสัยตาคงไม่ถึง
วันหลังอย่าอ่านอยางเดียวเข้ามาคุยกันบ้าง
      บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #359 เมื่อ: 30 มกราคม 2554, 21:28:15 »

สวัสดีอร..ไปดูรูปน้องหนูของน้องสนเหมือนกัน แต่ไม่ยอมโฟกัสที่ไหล่ตามที่ อ.ปิ๊ด บอกซักที(ดูไปทั่ว)
แต่อ่านข้อความ อ.ปิ๊ด ข้างบน เกิดโฟกัสที่ "มะม่วงน้ำปลาหวาน" แหละ  เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #360 เมื่อ: 30 มกราคม 2554, 21:54:03 »

อ้างถึง
ข้อความของ Pete15 เมื่อ 30 มกราคม 2554, 19:44:19
อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 30 มกราคม 2554, 11:55:07
อ่านแล้ว..ทบทวน เคยนิ่ง เคยถอย หลายครั้งเมือนกัน  เอิ่มม แต่อยากเอาชนะก็ยังมีเน้อ  sing
สวัสดีครับคุณนา คุณอร    แอบอ่านของเพื่อนๆอยู่บ่อยๆ อดไม่ได้ ขออนุญาตแบ่งประสบการณ์
      การตัดเป็นการ อด/ กด ไว้ชั่วคราว เสมือนหญ้าที่ถูกหินทับ มันแค่เปลียนสีแต่ไม่ตาย เมือยกหินออก มันก็จะค่อยๆกลับ                             
      ไปเป็นสีเดิมอีก  ต้องปล่อยให้เป็นธรรมชาติ แต่เมื่อรู้ สึกอยาก ให้เตือนตัวเองในใจว่า อยาก อย่าปล่อยให้ความรู้สึกต่อ
      เนื่อง /" อยาก " มันจะสะดุด จิตจะเริ่มเรียนรู้คำนี้ เราต้องให้เวลา ทำบ่อยๆ  ช่วง ( Gap)  ของการ  Break จะ  กว้างขึ้นๆ ๆ
      Degree ของความเร่าร้อนจะลดลงไปตามธรรมชาติ การฝึกแบบนี้  จะเป็นการลดความอยากแบบธรรมชาติ   และ ถาวร
      เรียกว่า  รู้ปัจจุบัน  ระหว่างนั้นเราช่วยด้วยการใช้เหตุผล มาลดความ "อยาก" ด้วยได้ สักวันหนึ่ง (แต่ละคนเวลาไม่เท่า
      กัน ) จิตเขารู้จัก และจำได้ เขาก็จะปล่อยว่างเอง( นํ้าลายก็จะไม่ออกมาท่วมปากแล้วเมื่อเห็นนํ้าปลาหวาน ) ความอยาก
     ยังอยู่ แต่ใจจะไม่่เร่าร้อน  ซึ่งเรียกว่า" การปล่อยวาง" โดยไม่มีคำว่า" ตัด" ที่เข้ามา comment เพราะ คำนี้ คือ   ตัวการ
     สำคัญที่ เกิดการสร้าง ภพ สร้างชาติ อยู่ตลอดเวลา  ถ้าว่างคำนี้ได้นั้นคือ  เรากำลังก้าวเข้าสู่ถนนสายธรรมะภาคปฏิบัติแล้ว

   
...ขอบคุณค่ะ อ.ปิ๊ด ที่แนะนำ
...เพิ่งไปฟัง ดร.อาจอง มา ท่านแนะการฝึกสมาธิว่าควรทำเวลาเดิมและทำทุกวัน
เพื่อให้เป็นนิสัย เกิดความเคยชินก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ทำเวลาอื่นๆเพิ่มเติมได้อีก
เหมือนที่ อ.ปิ๊ด บอกว่าให้จิตเรียนรู้ ต้องให้เวลา ทำบ่อยๆ
...เรื่องใช้เหตุผลก็ใช้เหมือนกันแต่มักใช้ภายหลังเกิดเหตุไปแล้ว ไม่ได้ใช้ในระหว่างนั้น
(โมโหเดือดไปก่อนแล้ว)
...พอมีแววนิสัยดีขึ้นบ้างน่า ตอนนี้ขยันฟัง/อ่านหนังสือธรรมะ ลองทำตามบ้างแระ
      บันทึกการเข้า
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #361 เมื่อ: 30 มกราคม 2554, 23:32:17 »

อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 30 มกราคม 2554, 21:28:15
สวัสดีอร..ไปดูรูปน้องหนูของน้องสนเหมือนกัน แต่ไม่ยอมโฟกัสที่ไหล่ตามที่ อ.ปิ๊ด บอกซักที(ดูไปทั่ว)
แต่อ่านข้อความ อ.ปิ๊ด ข้างบน เกิดโฟกัสที่ "มะม่วงน้ำปลาหวาน" แหละ  เหอๆๆ


     ถูกแล้ว ที่ดูไปทั่วตามันจะไหลไปเรื่่อยแต่มันจะกลับมาที่ว่างๆใต้หู แล้วจะเกิดเร็วมาก แล้วก็ไปที่อื่นอีก แล้วก็จะกลับมาที่เดิม
     ถ้าเห็นได้อย่างนี้ก็ได้คะแนนแล้วละครับ คุณนา

       เหนื่อย เหนื่อย
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #362 เมื่อ: 31 มกราคม 2554, 11:12:53 »

พอเห็นครูตามมาบอก
เลยต้องรีบกลับไปดูรูปหนูใหม่
สงสัยครูคงต้องให้ตกเสียแล้ว
เพราะดูไปทั่วๆแล้ว
มันก็ไม่ไปที่ว่างที่ว่า
แต่คราวนี้มันเปลี่ยนที่ ไปที่นิ้วมือหนู
ที่จีบกันอยู่ มองไปสงสัยไปว่า
หนูมันถืออะไรอยุ่หรือเปล่า
 ครูจะปราณีให้ผ่านใหม่คะ
      บันทึกการเข้า
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #363 เมื่อ: 31 มกราคม 2554, 11:57:27 »

ใช้ได้ จิตเริ่มไม่ยึดติดกับความคิด นี่แหละมันเป็น แก๊บเล็กๆที่เกิดขึ้นแว๊บหนึ่ง ความคิดคือกระบวนการทางสมอง แต่ศิลปะ
         เป็นการเสพแบบนามธรรม ฝึกบ่อยๆ แก๊บ ตรงความคิด กับความรู้สึกจะ กว้าง ยิ่งขึ้นๆ ตอนนี้พูดได้ว่า เห็น  แต่
         ตำแหน่งจะย้า้ย ไปตาม เส้น + สี นะทีความสนใจ แต่ละจุดๆ  มนุษย์ (ฉลาด) เมื่อเห็นอะไร เมื่อสนใจ ก็จะกระโดด
         เข้าไปหา Details มันก็จะ เกิด Focus เป็นจุดๆ แต่ถ้าจิต ละ Details ได้ ก็จะเหลือเพียงจุดเดียว สำหรับภาพนี้ ต้อง
         ไม่จ้อง ต้องไม่เพ่ง ต้องไม่อยาก และต้องไม่พยายาม ......ดีใจครับ อย่างน้อย คุณอร ก็สามารถ บอกได้
 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ เหนื่อย
  
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #364 เมื่อ: 31 มกราคม 2554, 12:12:16 »

แง้ๆ มองไม่ออกคับพี่ จะต้องฝึกอีกเยอะเลยคับ
      บันทึกการเข้า
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #365 เมื่อ: 31 มกราคม 2554, 12:24:22 »

   ไม่เป็นไรครับ น้องสน เพราะน้องสนสามารถสร้างผลงานได้อยู่แล้ว ทฤษฏี มันเกิดขึ้นที่หลัง ศิลปะเราเสพกันได้ด้วย
   ความรู้สึก ไม่มีผิด ไม่มีถูก ชอบไม่ชอบ ใช่ไม่ใช่    ขึ้นอยู่ที่แต่ละบุคคล เรามุ่งสร้างผลงานต่อไป ไม่ต้องกังวล
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #366 เมื่อ: 31 มกราคม 2554, 15:03:37 »

ครับพี่ปิ้ด วันนี้จะแวะไปศุนยหนังสือจุฬาฯ และจะไปดูเค้าโปรโมตงานบอลทีพารากอนด้วย
พี่ปิ้ดจะมาร่วมเชียร์บอล ในงานฟุตบอลด้วยหรือเปล่าคับ?
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #367 เมื่อ: 31 มกราคม 2554, 15:26:37 »

ถึงพี่ตะวันครับ เรื่องของ 3*8 นี่ชอบมากเลยครับ เจ๋งจริงๆ
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #368 เมื่อ: 31 มกราคม 2554, 18:21:02 »

อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 31 มกราคม 2554, 15:26:37
ถึงพี่ตะวันครับ เรื่องของ 3*8 นี่ชอบมากเลยครับ เจ๋งจริงๆ
ดีครับ น้องสน อะไรที่มีประโยขน์ต่อพี่ น้องของเราก็ยินดีครับ
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #369 เมื่อ: 31 มกราคม 2554, 18:35:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 31 มกราคม 2554, 15:03:37
ครับพี่ปิ้ด วันนี้จะแวะไปศุนยหนังสือจุฬาฯ และจะไปดูเค้าโปรโมตงานบอลทีพารากอนด้วย
พี่ปิ้ดจะมาร่วมเชียร์บอล ในงานฟุตบอลด้วยหรือเปล่าคับ?

     จะพยายามไปครับน้องสน ตอนนี้คลืนลม ชีวิตมันแรง ต้องชักใบให้ดี เรืออาจล่มได้ครับ
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #370 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2554, 16:46:52 »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=nAsR-3NXRxk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=nAsR-3NXRxk</a>

พี่ๆครับ MV โปรโมทงานบอลปีนี้
มีผมแสดงด้วยครับ ^__^
      บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #371 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2554, 19:02:08 »

ขอบคุณค่ะนัองสน จ้องรอดูน้องสนเป็นพิเศษ สูงเด่นค่ะ  เลือกโลเคชั่นพิเศษด้วยนา... หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #372 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2554, 19:40:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 01 กุมภาพันธ์ 2554, 19:02:08
ขอบคุณค่ะนัองสน จ้องรอดูน้องสนเป็นพิเศษ สูงเด่นค่ะ  เลือกโลเคชั่นพิเศษด้วยนา... หลั่นล้า

โลเคชั่นแหวกแนวมากคับ ฮ่าๆ
      บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #373 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2554, 22:02:40 »

รูปเสื้อน้องสนใน Avatar สีสวย ไม่ใช่เสื้อเชียร์ปีนี้มั้ง เห็นของจริงพี่ว่าสีซีด(อ่อน)เกินไป
เห็นเสื้อธรรมศาสตร์แล้วแอบชอบ สดใส เท่ห์ตรงด้านหลังมีรูปผู้ประศาสน์การด้วย
แต่ยังไงก็ต้องชมพูแหละ  หึหึ
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #374 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2554, 22:12:01 »

ครับของจริงปีนี้สีซีดไป แต่คนอื่นชอบกันนะครับ
เพื่อนผมไม่ได้อยู่จุฬาฯ ฝากซื้อกันเยอะเลย

ใน avatar เป็นเสื้องานบอลปีก่อนๆครับผม
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 ... 44   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><