22 พฤศจิกายน 2567, 23:55:53
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 661 662 [663] 664 665 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3548771 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 16 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16550 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2560, 08:01:19 »



ทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นด้วยเหตุ-ปัจจัย และดับไปเมื่อเหตุ-ปัจจัยไม่มี
การอ้อนวอนให้สิ่งศักดิสิทธิ์ช่วย ไม่ใช้หลักการในพระพุทธศาสนา  

ทุกท่านเมื่อภาวนาถึงจุด ๆ หนึ่ง จิตท่านจะเข้าใจได้เองในหลักการเบื้องต้นของพุทธศาสนา

ท่านจะรู้ว่า

- ท่านต้องมีศีล อย่างน้อยศีล ๕ เป็นเการะป้องกันกาย วาจา ของท่านให้เป็นปกติ
- มีศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
- ไม่เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ-ปัจจัย
- ไม่มีความลังเลสงสัยในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์
- มีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง เบื่อหน่ายในกามคุณ รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ และธัมมารมภ์
- มีสติให้มาก เห็นพฤติกรรมของจิต ไม่หลงอยู่ในความคิด อยู่กับความเป็นจริง เห็นความคิดที่เกิดขึ้น ดับไป ตามเหตุ-ปัจจัย
- มีอริยสัจ ๔ อยู่ในจิต ในการดำรงชีวิต
- มีความเพียรในการสร้างกุศล และอกุศล
- มีปัญญาในการพิจารณาสิ่งที่มากระทบทางอายาตนะ ที่จะปล่อยวางได้

- ฯลฯ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16551 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2560, 08:03:26 »




สวัสดี ทุกท่านครับ

พี่สิงห์ จะไปร่วมงานฌาปนกิจศพ คุณแม่ของสมเดช   รุ่งเรืองวุฒิไกร  ซีมะโด่ง 2515 ที่ชลบุรี จะไปตั้งแต่ทำบุญเพล ไปทำบุญเพล ฟังพระสวดมาติกา เวียนศพรอบเมรุ และอยู่เผา

วันธรรมดา ไม่สะดวกในการไปฟังพระสวดพระอภิธรรม ที่สวด 20:00 น. ต่างจังหวัด เพราะขับรถกลางคืนไม่ดีสำหรับผู้สูงวัยย์ และดึกไป ครับ

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16552 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2560, 05:18:08 »



พฤติกรรมขิงจิตมนุษย์

- ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ
- ไม่หยุดนิ่งอยู่ในกรรมฐาน
- วิตกกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
- ร่ำไรรำพัน คร่ำคนวญ เสียดายในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
- ชอบสอน ชอบบอก ชอบเตือนคนอื่น แต่ตนเองไม่ทำให้เป็นตัวอย่างก่อน(ไม่ทดลอง)
- ชอบคิด ทำตามความคิด คิดเข้าข้างตนเอง ตนเองคิดถูกเสมอ
- ไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่น(เป็นคนน้ำเต็มแก้ว ใครสอนไม่ได้)
- โกรธ  ผูกโกรธ เมื่อคนอื่นคิดต่างจากตน
- มีความอยาก ตระหนี่ ขี้เหนี๋ยว เป็นที่ตั้ง
- มีความอิจฉา ไม่ยากให้ใครดี รวย มั่งมี มากกว่าตน
- ชอบดูถูก ถากถาง คนอื่น
- ตอบโต้ทันที เมื่อคนอื่นมาด่า มาว่า มาทำร้าย มาใช้สิ่งของของตน
- ฯลฯ

ท่านจะเห็น จะทราบ รู้ได้เองเมื่อท่านภาวนา ถึงจุดแยกรูป แยกนาม แยกอารมณ์ มีสติเป็นผู้ดู  เมื่อถึงสภาวะนี้ ความโลภ ความโกรธ ความหลงอยู่ในความคิด จะลดลงมาก เพราะรู้ความจริงในพฤติกรรมของจิต จะใช้สติเป็นตัวถ่วงให้เกิดการปล่อยวาง(อุเบกขา) ให้ผ่านไปเพราะไม่หลงกระทำในสิ่งที่ผิด เมื่อรูสึกตัว ความคิดก็ดับไป

ทุกท่านสามารถกระทำได้ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16553 เมื่อ: 10 มิถุนายน 2560, 06:58:38 »


อาหารเช้าที่ โรงแรมทวินโลตัส นครศรีธรรมราช

ทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้เป็นธรรมชาติ เกิดขึ้น ดับไป ด้วยเหตุ-ไปใจในการเกิด และดับเมื่อเหตุ-ปัจจัย ไม่มี

ธรรมะ คือธรรมชาตินั้น จัดให้เป็นหมวดหมู่ใหม่เรียกว่าอายตนะายนอก(ประกอบไปด้วย รูปหรือวัตถุ รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ และธัมมารมภ์) มาผัสสะ(กระทบ)กับ อายตนะภายใน(ประตูแห่งการรับรู้ รู้แจ้งของมนุษย์ อันประกอบด้วยทวารทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)

ผลจากการผัสสะทำให้เกิดวิญญาณ คือการรู้แจ้งทางอารมภ์ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่เรียกเสียใหม่ว่า จักษุวิญญาณ โสตะวิญญาณ ฆานะวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายะวิญญาณ และมโนวิญญาณ

ประกอบสัญญา คือการจำได้หมายรู้ ที่ได้เคยผัสสะมาก่อนหน้านั้น ได้สะสมมาตั้งแต่เกิด จึงเกิดการเข้าไปเสวยอารมภ์ของจิตว่า สุข ทุกข์ ไม่ทุกข์ไม่สุข สิ่งไหนสุข ก็เกิดความชอบติดใจ อยากได้อีกเสมอ หรือตลอดไป สิ่งไหนไม่ชอบก็ไม่ปราถนาให้ประสพอีก เกิดการปรุงแต่ง หรือคิด เกิดขึ้น หลงกระทำตามความคิดเรื่องไป ผู้ใดมีธรรม ก็จะทำไปในทางกุศล ผู้ใดไม่มีธรรมก็หลงกระทำไปทางอกุศล ซึ่งคนส่วนใหญ่ กรือทั้งหมดหลงไปกับความคิด กระทำตามความคิด

กลายเป็นการเข้าไปยึดมั่น ถือมั่น เป็นเรา ของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นของเรา เป็นตัวตนของเรา ไปสิ้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16554 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2560, 14:20:13 »



น้องนาง !
เธอมาจากไหน?   ไม่ทราบ
เธอจะไปไหน?      ไม่ทราบ
เธอจะไปเมื่อไร?   ไม่ทราบ
เธอทราบหรือไม่    ทราบ

เธอมาจากไหน?  หมายความว่า เมื่อชาติก่อนเธออยู่ที่ไหน ไม่ทราบ
เมื่อเธอตายลง เธอจะไปไหน? ก็ไม่ทราบเช่นกัน
เธอจะไปเมื่อไร? ไม่ทราบว่าจะตายเมื่อไร? เช่นกัน
เธอทราบว่าทุกคนต้องตาย ไม่ช้าไม่นานในอนาคต

เมื่อทราบดังนี้ เราจงมีชีวิตอยู่ ด้วยทาน ศีล ภาวนา หรือ อยู่ด้วย ศีล  สมาธิ  ปัญญา เถิด

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16555 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2560, 20:27:25 »

#การเจริญสติต้องวางใจอย่างไร?

การเจริญสติต้องวางใจให้ถูก ดังนี้

1. ปฏิบัติด้วยความผ่อนคลายสบาย ๆ
ไม่เอาจิตไปเกาะติดกับกายเกินไป

2. ไม่ไหลเข้าไปในความคิดนานเกินไป
การเห็นรูปแบบเคลื่อนตัวสบาย ๆ
จะเห็นเป็นแต่เพียงอาการ
ไม่มีเราอยู่ในนั้น

ฝึกให้คุ้นเคยกับสภาพการรู้แบบนี้
ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลาหลับ
ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดๆให้รู้สึกตัว
"กายเคลื่อนไหว ให้ใจรู้ด้วย"

ตามย้ำตามซ้ำ
ให้เกิดความคุ้นชินอันนี้ก่อน
เผลอไปไม่เป็นไร
กลับมารู้สึกตัวใหม่

ให้รู้น้อยๆ ทีละขณะ
รู้ทิ้ง รู้ทิ้ง รู้เบาๆ ผ่อนคลายๆ

เวลาความคิดเกิดขึ้น
ให้รู้ปล่อย รู้ปล่อย

สภาวะใดเกิดขึ้น
อย่าไปเค้นว่ามันคืออะไร
ไม่ต้องเอาเหตุเอาผลอะไร
นั่งก็เพียงเพื่อจะนั่ง

ไม่ต้องคิดว่าเมื่อไหร่จะสงบ
เมื่อไรจะหยุดฟุ้งซ่าน
เมื่อไรจะหายง่วง

ในการฝึก ให้ “รู้สึก” ลงไป
ไม่ใช่แค่ “รู้ว่า”

“รู้ว่า” กับ “รู้สึก” คนละเรื่องกัน
ล้างชามให้รู้ว่าล้างชาม
กระพริบตาให้รู้ว่ากระพริบตา
อันนี้ไม่ใช่ ต้องรู้สึกลงไปด้วย

ขณะกระทบสัมผัสนี่
เวลานั่งตะโพกกระทบพื้นรู้สึกไหม

ถ้าวางใจถูก ไม่นานจิตจะรู้จัก
กับสภาพเปล่าๆ ล้วนๆ ที่อยู่ตรงหน้า

เรื่องง่าย ๆ อย่าทำให้มันยาก
มันยากเพราะเราพยายามเกินไป
หรือไม่พยายามเลย

การเจริญสติคือการซ้อมสร้างความตื่นรู้
ถ้ามันยังไม่พอ มันจะยังไม่แสดงตน

อย่าอยาก ยิ่งอยากรู้ ยิ่งไม่รู้
ถ้าวางใจถูก กายกับใจจะสัมพันธ์กัน
ไม่นานจะเกิดความตื่นโพลงขึ้น
จะมีอาการโปร่งเบา เป็นอิสระ จิตจะคลี่คลาย
ดวงตาเห็นธรรมจะเปิดออก

Direk Saksith
www.buddhayanando.com
f: พระพุทธยานันทภิกขุ, พลิกใจให้ตื่นรู้,
หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท, เซนสยาม,
Dynamic Meditation (นวัตกรรมแห่งสติ)
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16556 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2560, 10:57:55 »



ขอแสดงความยินดีกับ โปร.เมย์  เอริยา  จุฑานุการ  ที่สามารถก้าวเป็นมือ ๑ ของ LPGA เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๑ มิถุนายน ชนะที่แคนนาดา

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16557 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2560, 11:01:00 »



เมื่อวานไปร่วมงานฌาปนกิจศพคุณแม่บุญเต็ม   รุ่งเรืองวุฒิไกร
คุณแม่ของสมเดช  ที่อำเภอพนัสนิคม  ชลบุรี

- นามรูปัง   อนิจจัง
- นามรูปัง   ทุกขัง
- นามรูปัง   อนัตตา


สิ่งที่น่ารู้คือ
- คำสวดที่พระสวดธัมมะนิยาม นั้น เป็นคำสอนของพระพุทธองค์ทรงโปรดพระบิดาพระเจ้าสุทโธธนะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ก่อนนิพพาน และพระพุทธองค์ใช้สอนพระญาติที่มาร่วมงานถวายพระเพลิงพระเจ้าสุทโธธนะ
- คำสวดมาติกา พระอภิธรรม ๗ คำภีร์ คือคำสอนของพระพุทธองค์ ที่โปรดพระมารดาที่สวรรค์ชั้นดางดึงส์
- ส่วนคำพิจารณาผ้าบังสุกุล พิจารณาศพ พิจารณากระดูกนั้น เป็นคำสอนของพระอนุรุธ ที่สอนภิกษุ ที่กำลังโศก สลดจากการจากไปของพระพุทธองค์ ที่เสด็จปรินิพพาน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16558 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2560, 12:27:01 »



วันนี้ อาสาพา ดร.กุศล  มาพบคุณหมอศิลา
นายแพทย์ผู้ผ่าตัดตา ดร.กุศล  เมื่อวันพุธ ที่ศูนย์แพทย์พัฒนา พระรามเก้า

ได้รู้จักแล้ว วันหลังจะได้มาใช้บริการรักษาตาตนเองบ้าง และ
ได้รู้จักวัดพระรามเก้า  แล้ว

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16559 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2560, 07:58:47 »



วิธีสอนที่จะให้คนเปลี่ยนความคิดตนเอง ก็คือ การพามาดูของจริง ให้เห็นด้วยตา จับด้วยมือตนเอง

เจ้านายที่ บ.เอเซียคอนกรีต พาพนักงานผลิต Hollow core slab มาดูการรีดที่นครศรีธรรมราช

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16560 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2560, 18:43:23 »



การออกกำลังกาย ฝึกชิกง-โยคะ ตอนเช้ามีประโยชน์มาก เพราะอากาศสดชื่น และได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าด้วย

อาหารเช้ามีความสำคัญต่อร่างกาย ต้องกินอย่างราชา

แต่มือกลางวัน กินพอประมาณ เจ็ดสิบเปอร์เซ็นไม่ให้อิ่ม แล้วดื่มน้ำตาม ก็อิ่มแล้วตามที่พระสารีบุตร ท่านปฏิบัติเวลาฉันอาหาร

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16561 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2560, 19:26:48 »

“การทำงานคือการปฏิบัติธรรม”

ท่านอาจารย์พุทธทาสย้ำเสมอว่า “การทำงานคือการปฏิบัติธรรม” ไม่ว่าจะทำอาชีพการงาน หรือทำกิจวัตรประจำวัน ก็สามารถเป็นโอกาสปฏิบัติธรรมหรือฝึกฝนจิตใจได้เสมอ เช่น ฝึกให้มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ หรือลดละความเห็นแก่ตัว บ่มเพาะเมตตากรุณา รวมทั้งเสริมสร้างมโนธรรมให้เข้มแข็ง อันจะนำไปสู่การปล่อยวางจากความยึดติดถือมั่นในตัวตน หากปล่อยวางสิ่งติดยึดได้มากและลึกเท่าใด โพธิจิตซึ่งอยู่แกนกลางของใจก็จะงอกงามและเปล่งประกายสุกสว่างมากเท่านั้น ทำให้ชีวิตปลอดโปร่งสงบเย็นอย่างยิ่ง

พระไพศาล วิสาโล
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16562 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2560, 18:24:30 »



อย่าเปรียบเทียบ!

คนเราทุกข์ เพราะยึดว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา และมักชอบเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ  จึงมัแต่อยาก ไม่จบไม่สิ้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16563 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2560, 05:17:34 »

การปฏิบัตินี้เราต้องเรียนด้วยตัวของเราเอง
เราต้องสอนตัวเราเอง
เราต้องเห็นด้วยตัวของเราเอง
เราต้องรู้ด้วยตัวของเราเอง
เราต้องเข้าใจด้วยตัวของเราเอง
เราต้องทำด้วยตัวของเราเอง
#ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องสนใจในบุคคลอื่น

Direk Saksith
www.buddhayanando.com
f: พระพุทธยานันทภิกขุ, พลิกใจให้ตื่นรู้,
หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท, เซนสยาม,
Dynamic Meditation (นวัตกรรมแห่งสติ)

มันก็เป็นความจริง ครับ
สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16564 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2560, 13:04:46 »



"ทุกสิ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และดับไปเป็นธรรมดา" ด้วยเหตุ-ปัจจัย  ถ้าเราไม่หลงไปยึดว่า "เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นของเรา" (เมื่อท่านสามารถแยกรูป แยกนาม ไม่หลงอยู่ในความคิด ท่านก็จะทราบได้เอง แต่ไม่ได้หมายความว่า "บรรลุธรรม" นะครับ เพราะไม่เคยมีใครมาบอก ว่าบนรลุธรรมเป็นอย่างไร? เราไม่ต้องไปสนใจมัน การไม่ทุกข์ต่างหาก ไม่หลงในความคิด มีจิตเป็นกุศล มีแต่สุขกาย สุขใจ พอแล้วครับ)

ความจริงธรรมชาติมันเป็นอย่างนี้  โดยเฉพาะความคิด ดังนั้นต้องมีสติให้เร็ว เท่ากับความคิด รู้ทันมัน ก็จะไม่หลงไปกับมันได้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16565 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2560, 06:24:55 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

ทุกครั้งที่อยู่บ้าน พี่สิงห์  จะหุงข้าวใส่บาตรพระเสมอ เพื่อชำระจิตใจตนเองเป็นผู้ให้ เพื่อลดการตระหนี่ อันเป็นบ่อเกิดแห่งความโลภ ความโกรธ และหลงอยู่ในความคิดตนเอง

ความตระหนี่  นำมาซึ่งการทุกข์กาย ทุกข์ใจ  เปรียบเทียบกับผู้อื่น

แต่ถ้ามีความตระหนี่เพื่อครอบครัว ยังใส่บาตร ยังช่วยเหลือผู้อื่น เขาเรียกว่าความมัธยัต เป็นสิ่งที่ดี พอเพียงรู้จักคุณค่าของทรัพย์


สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16566 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2560, 07:22:43 »

จริงๆแล้ว #พระโสดาบัน นี้ ไม่ได้วิเศษกว่าปุถุชนคนธรรมดาเท่าไรเลย

อย่าตีค่าท่านสูงอย่างนั้น

ท่านเองก็ไม่ยกตัวเองว่าสูงอย่างนั้นอย่างนี้เลย

เหมือนคนธรรมดา เหมือนกันหมด ไม่มีอะไรผิดเพี้ยนสักนิด

กินเหมือนคนทั่วไป ถ่ายก็ยังเหม็นเหมือนเดิม

#จะดีกว่าก็ตรงที่ภพชาติจะน้อยลงสั้นลงเท่านั้น

...

จริง ๆ แล้ว

#การปฏิบัติไม่ใช่ของยากมันเป็นของง่ายๆเอง

#แต่บางครั้งเราตีค่ามันสูงเกินไป

ว่าเราไม่มีปัญญาหรอก เราไม่มีวาสนาบารมีที่จะไปถึงตรงนั้นได้

เราไม่สามารถจะปิดอบายภูมิได้ ..  ก็ว่ากันไป

#ให้ความคิดหลอกอยู่อย่างนั้นจริงๆ

...

#อย่ามองว่าการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงมรรคผลนั้นเป็นสิ่งที่สูงเกินไป

ไม่เช่นนั้นมันจะบั่นทอนเราหมด ว่าเราไม่มีวาสนาบารมี ที่จะไปถึงตรงนั้น

#ความคิดมันก็หลอกเราไปเรื่อยๆ

การปิดอบายภูมิมิใช่เรื่องยาก เพียงแต่เรามีสติปัญญา

#ให้รู้จักหาผู้รู้ให้เจอแล้วอยู่กับผู้รู้

ให้ได ้๒๐ - ๓๐ % ในแต่ล่ะวัน .. แค่นี้ก็ปิดอบายภูมิได้แล้ว

..

ลุงหวีด บัวเผื่อน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16567 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2560, 05:57:59 »

#ล้างบาปด้วยสติสัมปชัญญะ

กำลังของปัญญาญาณเท่านั้น
ที่จะต้านทานต่อรอง
กับความคิดปรุงแต่งได้

การสังเกต และเฝ้าดูการเคลื่อนไหว
เป็นเพียงเครื่องมือ
ทำให้เกิดสติสัมปชัญญะ
และปัญญาเบื้องต้นเท่านั้น

ถามว่า ก่อนหน้านั้น
คนเราไม่มีสติสัมปชัญญะหรือ ?
มีเหมือนกันทุกคน
แต่มันเป็นสติที่ไม่มีกำลัง

เพราะกำลังของสติสัมปชัญญะ
ถูกตัวคิด ตัวสังขาร
ดูดไปใช้เกือบหมดในแต่ละวัน

เราจึงต้องมากระตุ้นความรู้สึกตัว
ทุกรูปแบบ
เพื่อให้เกิดพลังสติสัปชัญญะมากพอ
จนสามารถสร้างพลัง
ต่อรองกับความคิดได้

โดยรู้จักขัดขืนต่อแรงดึงดูด
ของความคิดได้บ้าง
ด้วยการปรารภความเพียรบ่อยๆ
ด้วยการเดินจงกรมนานๆ
นั่งทำจังหวะนานๆ เรียกว่า ตบะ

และตัวความเพียรนี้เอง
ที่จะทำให้เกิดปัญญารู้เท่าทัน
ความคิดปรุงแต่งได้อย่างทันเวลา

แต่ถ้าไม่ใช้ปัญญาที่เกิดจากความเพียร
ก็ยากที่จะเท่าทันกันได้
เพราะในองค์ประกอบ
ของสติปัฎฐานที่สำคัญ
ที่ท่านสรุปไว้ท้ายบทสวดทุกครั้งว่า

"อาตาปี สัมปชาโน สติมา" แปลว่า
ต้องมีความเพียรเครื่องเผาบาป
มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ

สรุปว่า สติปัญญาที่เกิดจาก
การปรารภความเพียรเท่านั้น
ที่จะจัดการกับความคิดได้

เพราะความคิดปรุงแต่ง
เป็นต้นตอของบาปตัวจริง
ถ้าคิดจะล้างบาป
ก็ล้างความคิดปรุงแต่งเท่านั้นแหละ
ไม่ยากอะไรเลย

Direk Saksith
www.buddhayanando.com
f: พระพุทธยานันทภิกขุ, พลิกใจให้ตื่นรู้,
หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท, เซนสยาม,
Dynamic Meditation (นวัตกรรมแห่งสติ)
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16568 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2560, 07:52:08 »



"ทุกสิ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และดับไปเป็นธรรมดาของโลก"
ทุกสิ่งเกิดขึ้น ด้วยมีเหตุ-ปัจจัยในการเกิด และ
ทุกสิ่งดับไปเมื่อเหตุ-ปัจจัยไม่มี
เราต้องมีสติ ไม่หลง ไม่ไหลไปกับความคิดว่า "เป็นเรา เป็นตัวตนขอวเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นเรา"


กำลังจะเดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #16569 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2560, 16:27:07 »

พี่สิงห์ แนะนำได้ถูกต้อง การใส่บาตรเป็นการบริจาคส่วนเกินและทำให้เราลดการสะสมทรัพย์ และเราไม่ควรถวายเงินเป็นปัจจัย เพราะแม้แต่สมเด็จพระสังฆราช องค์ปัจจุบัน ก็ทรงขอพุทธบริษัทอย่าถวายเงินให้พระไปสะสม
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16570 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2560, 20:15:19 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

สบายดีนะครับ
พี่สิงห์  ก็พยายามเอาสิ่งที่ตนเองกระทำมาบอก เท่านั่นเอง ไม่ใก้กระทู้มันเหงา ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #16571 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2560, 08:42:19 »

สวัสดีครับ พี่สิงห์

พยายามเข้ามาในเว็ป เพื่อให้เว็ปเดินต่อ รักษาเอาไว้เผื่อจะใช้ประโยชน็ในอนาคตได้อีก หลังจากแอพพิเคชั่น-ไลน์ มาแย่งที่ในโซเชียลมีเดียไปมาก จนเว็ปหอเงียบสนิท
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16572 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2560, 06:43:28 »



สวัสดี ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16573 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2560, 18:52:55 »




พรุ่งนี้
พี่สิงห์  ต้องไปเป็นประธานงานครบรอบปีที่ท่านเจ้าคุณพระเทพโมลี(ผึ่ง  โรจโณ)  ละสังขาร
ที่วัดโบสถ์ อินทร์บุรี  สิงห์บุรี ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16574 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2560, 08:25:45 »



อาทิตย์ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ ดูแลศพ ในการฌาปนกิจ ๒ ศพ ด้วยกัน เป็นการฝึกความเคยชิน กับความตาย ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ เมื่อมีเกิด ก็ต้องมีแก่ มีเจ็บ มีตาย

อยู่ที่ท่านจะเลือกตายแบบไหน?  
ท่านกำหนดการตาย วันตายไม่ได้  
แต่ท่านสามารถทำเหตุ-ปัจจัยในการตายให้ดีได้ คือ ดูแลร่างกายด้วย อาหาร ออกกำลังกาย นอนหัวค่ำ และดูแลจิต ด้วยการภาวนา มรนานุสสติ อยู่เป็นนิจ ได้
ท่านก็จะไม่กลัวความตาย เมื่อเวลานั้นมาถึง

๒ ศพ สอนอะไร?เรา ท่านเป็นมะเร็งทั้งคู่ สภาพศพไม่งามเลย มันสอนให้เราระวังเรื่องการดำรงค์ชีวิต อย่าหลงอยู่ในความคิด ต้องระวังตนเองให้ห่างไกลโรค ด้วย
- อาหาร กินให้เป็นยา
- ออกกำลังกาย สม่ำเสมอ
- นอนหัวค่ำ
- มีศีล เพียรในการทำกุศล ละชั่ว
- สวดมนต์ทำวัตรเช้า เย็น
- ภาวนา ตลอดเวลา ไม่หลงไปกับความคิด
- ทำสติให้เป็นสมาธิ อยู่ในฌาณทั้ง ๔

ทำได้ดังนี้ เราก็ตายด้วยจิตที่เป็นปกติ ไม่หลงตาย

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 661 662 [663] 664 665 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><