อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ
อริยะมรรค มีองค์ ๘ ประกอบด้วย
- สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ
- สัมมาสังกัปโป ความดำริชอบ
- สัมมาวาจา การพูดจาชอบ
- สัมมากัมมันโต การทำการงานชอบ
- สัมมาอาชีโว การเลี้ยงชีวิตชอบ
- สัมมาวายาโม ความพากเพียรชอบ
- สัมมาสติ ความระลึกชอบ
- สัมมาสมาธิ ความตั้งใจมั่นชอบ
สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ
คือความเห็นชอบในธรรม อริยสัจ ๔ เห็นจริงตามนั้นแน่วแน่
เห็นจริงอย่างไร? หรือ
ทุกข์ เห็นจริงว่า ความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์ ให้รู้จักทุกข์ ทุกข์คือความไม่สบายใจ ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ความร่ำไรรำพัน ความโศก การเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ การประสพกับสิ่งไม่รักไม่ชอบก็เป็นทุกข์ ความปราถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นนั่นก็เป็นทุกข์ การพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์
เมื่อเรารู้จักทุกข์แล้ว เวลาเราประสพทุกข์ คือมีอารมณ์ปรุงแต่งเกิดขึ้นในจิตจากการผัสสะทางทวารทั้งหก อันได้แก่ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส กายได้สัมผัสทางกายเกิดโผฏทัพพะ ได้สัมผัสทางใจเกิดธัมมารมภ์ เมื่อเรารู้สึกตัว ก็จะสามารถวางอุเบกขาได้ เพราะรู้ว่านี้คือทุกข์ เป็นธรรมชาติที่ต้องประสพ ก็จะยังประคองจิตตนเองเอาไว้ได้ไม่ให้หลง ไม่ให้ไหล ไปกับทุกข์นั้นได้
สมุทัย เห็นจริงในความรู้ที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ อันได้แก่ตัณหา ความทะยานอยาก ที่เกิดขึ้นในจิต จากการผัสสะในทวารทั้งหก ซึ่งประกอบไปด้วย
กามตัณหา ความทะยานอยากในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏทัพพะ
ภวตัณหา ความทะยานอยากแห่งจิตที่อยากมี อยากเป็น
วิภวตัณหา ความทะยานอยากแห่งจิตที่ไม่อยากหลุดพ้น ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น
ทุกขะนิโรธ คือเห็นจริงในความรู้ในความดับทุกข์ คือต้องดับที่เหตุ-ปัจจัยในการเกิดทุกข์ เหตุ-ปัจจัยในการเกิดทุกข์ คือตัณหา และเหตุ-ปัจจัยในการเกิดตัณหา คือ อุปาทาน
อุปาทาน คือการเข้าไปยึดถือว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นตัวเรา ดังนั้น ต้องละความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา สิ่งของ ให้จงได้ ไม่มีตัว ไม่มีตน มันเป็นเพียงรูป-นาม หรือขันธ์ ๕ ตามธรรมชาติ
ทุกขะนิโรธะคามินิยา คือเห็นจริงในความรู้ในทางดำเนินชีวิตตาม มรรคมีองค์ ๘ ประการ จนสามารถดำเนินชีวิตให้ถึงความดับแห่งทุกข์ หรือให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ การดำรงชีวิต ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเพราะเรานั่นเอง ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ-ปัจจัย และทุกสิ่งดับเมื่อเหตุ-ปัจจัยไม่มี ดังนั้น เราต้องเดินตามมรรคมีองค์ ๘ และมีวิธีทำงานที่ถูกต้อง
ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ นี้เกิดขึ้นในจิตของผู้ใด คนนั้นจะประสพความสำเร็จในการอยู่อย่างสุข สงบ ทำงานแก้ไขปัญหาได้ทุกชนิด จนถึงพระนิพพาน
เพราะรู้ว่า
นี่คือทุกข์ นี่คืองานที่ต้องทำ นี่คือการดำรงชีวิตในสังคม
นี่คือต้นเหตุแห่งการเกิดทุกข์ นี่คือต้นเหตุแห่งการเกิดอุปสรรคในการทำงาน นี่คือต้นเหตุแห่งการเกิดอุปสรรคการดำรงค์ชีวิต
นี่คือการแก้ปัญหาในการเกิดทุกข์ นี่คือการแก้ปัญหาในการทำงาน นี่คือการแก้ปัญหาในการดำรงชีวิตในสังคม คือแก้ที่ต้นเหตุ ต้องหาต้นเหตุแห่งการเกิดปัญหานั้นให้พบ
นี่คือหนทางการดำรงชีวิต นี่คือวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในการทำงาน นี่คือวิธีการดำรงค์ชีวิต หรือให้เข้าใจง่ายคือ วิธีการกระทำในทางตรงกันข้ามกับต้นเหตุ-ปัจจัยในการเกิดทุกข์ ปัญหา การดำเนินชีวิต นั่นเอง
จงเห็นจริงตามนี้แล จากการภาวนา ไม่ใช่จากการเข้าใจ ท่อง บ่น พิจารณาตรึกตรอง
สวัสดีครับ