24 พฤศจิกายน 2567, 13:23:50
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 620 621 [622] 623 624 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3573243 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 37 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15525 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2558, 13:34:16 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

วันนี้ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘
เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ๒๕๕๘ ที่กำลังจะหมดไป
ปีเก่าทุกท่านคงมีแต่สุข-ทุกข์สลับกันไปตามเหตุ-ปัจจัย
อะไรที่มันไม่ถูกใจเรา มันก็ผ่านไปแล้ว อย่าไปร่ำไร รำพันถึงมันเลย จงลืมมันเสีย  มาตั้งต้นชีวิตกันใหม่ ด้วย มรรคมีองค์ ๘ ประการ เถิด

มรรค มีองค์ ๘

- สัมมาทิฏฐิ มีความเห็นชอบตามหลักอริยสัจ ๔ คือทุกข์  สมุทัย  นิโรธ มรรค

- สัมมาสังกัปโป มีความดำริชอบในการที่จะละออกจากกามราคะ ที่เกิดขึ้นทางทวาร ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และอยู่ด้วย ศีล ๕ เป็นอย่างน้อย

- สัมมาวาจา มีวาจาชอบ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่พูดทำให้คนแตกกัน

- สัมมากัมมันโต มีความประพฤติทางกายชอบ ไม่ฆ่าสัตว์-เบียดเบียนสัตว์ ไม่ลักขโมยสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้บอกให้ ไม่ประพฤติผิดในกามแย่งลูก-เมีย-ผัว คนอื่น

- สัมมาอาชีโว มีอาชีพที่ชอบ เป็นอาชีพสุจริต ไม่ค้ากำไรเกินควร ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเพราะอาชีพของเรา

- สัมมาวายาโม มีความเพียรทำกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เพียรละอกุศลที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น เพียรละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้หมดไป เพียรทำกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก

- สัมมาสติ ระลึกชอบ เพียรตั้งสติปัฏฐาน ๔ ระลึกรู้กาย เวทนา จิต ธรรม

- สัมมาสมาธิ เจริญสติจนละนิวรณ์ ๕ ได้ เป็นสมาธิ ทำฌาณที่ ๑, ๒, ๓, ๔ ให้เกิดขึ้น

หรือยึดหลักง่าย ๆ อยู่ด้วย ศีล  สมาธิ  ปัญญา

หรือ อยู่ด้วยธรรม ระวังกาย วาจา ใจตนเอง ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเพราะเรา

สวัสดีปีเก่า ๒๕๕๘ ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15526 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2558, 14:01:41 »



วันส่งท้ายปีเก่า-วันขึ้นปีใหม่
พี่สิงห์  อยู่บ้าน ขอสวดมนต์ ๑๒ ตำนานส่งท้ายปีเก่า และชะยันโต กับปีใหม่ที่บ้าน อยู่กับอัฏฐิพ่อ-แม่ ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15527 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2558, 14:07:30 »



วันขึ้นปีใหม่  จะไปทำบุญเช้าที่วัดพระนอน สิงห์บุรี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15528 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2558, 16:50:23 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15529 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2558, 18:05:08 »



สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๙

ปฐมสังคัยหสูตร

สุขทุกข์ที่เกิดจากผัสสายตนะ

พระพุทธองค์ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า  ผัสสายตนะ ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่บุคคลไม่ฝึกฝน ไม่คุ้มครอง ไม่รักษา ไม่สำรวมระวัง ย่อมนำทุกข์ยิ่งมาให้  ส่วนที่บุคคลฝึกฝน คุ้มครอง รักษา สำรวมระวังดีแล้ว  ย่อมนำสุขยิ่งมาให้ (สุขยิ่ง หมายถึง ฌาน มรรค และผล)

แล้วตรัสเป็นพระคาถา ความว่า คนที่มีศรัทธาเป็นเพื่อนย่อมไม่ถูกราคะในรูปที่ชอบใจ  และอย่าเคืองใจที่ได้เห็นรูปที่ไม่น่ารัก, เมื่อได้ยินเสียง ให้สงบใจในเสียงที่น่ารัก อย่าเคืองใจในเสียงที่ไม่น่ารัก, เมื่อได้ดมกลิ่น อย่าหงุดหงิดกับกลิ่นที่ไม่พึงใจ อย่าพอใจในกลิ่นที่น่ายินดี, เมื่อลิ้มรสก็ไม่พึงลิ้มรสที่อร่อยด้วยความติดใจ อย่าขัดใจเมื่อได้ลิ้มรสที่ไม่อร่อย, เมื่อถูกสัมผัสที่เป็นสุขหรือทุกข์ ก็อย่าหวั่นไหวไปตาม ควรวางเฉยต่อผัสสะที่เป็นสุขและทุกข์ไม่ควรยินดีและยินร้ายกับผัสสะชนิดใดๆ คนด้อยปัญญามีความสำคัญผิด และยินดีอยู่กับกิเลสอันเป็นเหตุให้เนิ่นช้า จึงเวียนว่าย ตายอยู่ บุคคลที่ไม่ปล่อยใจไปกับกามคุณ ๕ ย่อมรักษาใจให้ปลอดจากกามได้  เมื่อใดที่บุคคลอบรมจิตดีในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธัมมารมณ์  เมื่อนั้น  จิตซึ่งถูกสุขผัสเข้าก็ไม่มีการหวั่นไหวได้  ผู้ที่กำจัดราคะ(ความรัก)และโทสะ(ความชัง)เสียได้  คือผู้ถึงนิพพาน  ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับความเกิดความตาย

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15530 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2558, 18:27:30 »



เมื่อทุกท่านได้รู้ความจริงในธรรม "สุขทุกข์ที่เกิดจากผัสสายตนะ" แล้ว(จริง ๆ ท่านสามารถพบธรรมนี้ได้ด้วยตัวของท่านเองที่เป็นผลมาจากการตั้งสติปัฏฐาน ๔)

ท่านลองถามตัวของท่านเองว่า ท่านจะยังอยากที่จะตาย เกิด อยู่ในวัฏฏะสงสาร หรือท่าน จะถึงซึ่งนิพพาน

พี่สิงห์  ขออวยพรปีใหม่ ๒๕๕๙ นี้แด่ทุกข์ท่าน จงมีดวงตาเห็นธรรมนี้เถิด และอยู่ด้วยความไม่ประมาท ระวังผัสสายตนะ แล้วจะพบนิพพาน ได้ เทอญ

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๙ ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15531 เมื่อ: 01 มกราคม 2559, 18:20:44 »



วันนี้ วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙

- ได้สวดมนต์ข้ามปี อยู่ที่บ้าน สวด ๑๒ ตำนาน และธัมมจักรกัปปวัตนสูตร และให้พรพระ

- ตีสี่ครึ่งออกจากบ้านเดินทางไปทำบุญ ที่วัดพระนอน ไปกราบหลวงพ่อหินในโบสถ์  ไปกราบอนุสาวรีย์ พ่อ-แม่ ฟังธรรม ทอดผ้าป่า และทำบุญให้ทานแก่ผู้สมควรจะได้รับ คือญาติผู้ใหญ่ และเหลน ๆ

- ไปทำบุญกับพระอาจารย์ดวง(น้องชาย) เจ้าอาวาสวัดปลาใหล

- ไปฉลองวันเกิดให้พี่สาว-น้องสาว กินข้าวกับพี่ ๆ น้อง ๆ หลาน-เหลน ที่ร้านริมแม่ลา นับว่าเป็นปีใหม่ที่ดีปีหนึ่งในหมู่พี่-น้อง ที่ได้กินข้าวด้วยกันเกือบครบ

- ไปเยี่ยมปู่ทวี  บรรจง  ที่โรงพยาบาล ได้สอนธรรมให้ปู่ทวี  ปล่อยวางทุกสิ่งลง มีสติให้มากๆ

สวัสดีปีใหม่ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15532 เมื่อ: 01 มกราคม 2559, 18:25:15 »



วันนี้เป็นวันเกิดของปู่ทวี  บรรจง ครบ ๘๗ ปี

ปู่ทวี  วันนี้มีสติ  ลืมตา  ยักคิ้วตอบรับ และรับรู้ในสิ่งที่บอกได้  จึงสอนให้ปล่อยวางทุกสิ่ง ให้มีสติอยู่กับคำภาวนา "พุทธโธ" ให้มาก ๆ ไม่ต้องห่วงสิ่งใดทั้งสิ้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15533 เมื่อ: 01 มกราคม 2559, 18:26:53 »



เมื่อเช้าคุณมรกต  พี่ชาย ได้ให้แม่ครัวหุงทำข้าวต้มปลาช้อนแม่ลา ถวายพระ-เณร และชาวบางพระนอนที่มาทำบุญ วันปีใหม่
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15534 เมื่อ: 01 มกราคม 2559, 18:27:48 »



วันนี้อากาศที่ร้านริมแม่ลา เย็นสบายดีมากครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15535 เมื่อ: 01 มกราคม 2559, 19:58:22 »



ปีใหม่ ต้องลืมเรื่องในอดีตลงทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้ท่านทุกข์ แต่ท่านนำมันมาเป็นบทเรียนได้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ปีใหม่ เราต้องพัฒนาจิตใจของเรา ให้มีสติ และอยู่ในธรรม

เมื่อมีสติ และมีธรรม เราจะกระทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ สงบสุข ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน มีหิริ โอตัปปะ คือมีความละอาย และเกรงกลัวที่จะกระทำบาปทั้งปวง

เมื่อมีสติ ธรรม เกิดหิริ โอตัปปะในจิต จะเกิดปัญญาในการทำ ไม่หลงกระทำตามความคิดไปในทางที่มิชอบหรือกระทำแต่สิ่งที่ถูกต้องทำนองคลองธรรม

สวัสดีปีใหม่ ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15536 เมื่อ: 01 มกราคม 2559, 20:45:44 »



ส.ค.ส. ๒๕๕๙

ทุติยสังคัยหสูตร

จุดจบของทุกข์อยู่ที่ไม่ปรุงแต่งอารมณ์

วันหนึ่ง พระมาลุงกยบุตรเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ทูลขอให้ประทานพระโอวาทสั้นๆ เพื่อปลีกตนไปปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังให้บรรลุผล  พระพุทธองค์รับสั่งกะท่านว่า  แทนที่เมื่อยังหนุ่มจะมาขอให้บอกสอน กลับมาขอให้บอกสอนเมิ่อตัวเองแก่เฒ่าอย่างนี้  พระมาลุงกยบุตรกราบทูลด้วยความมั่นใจว่า  ถึงตนจะแก่เฒ่าก็คงจะเข้าใจความแห่งพระดำรัสได้  คงจะรับเอาพระโอวาทได้

พระพุทธองค์ : เธอคิดอย่างไร?  รูปทั้งหลายที่พึงรู้ด้วยจักษุอย่างใดๆ ซึ่งเธอยังไม่เห็น  ทั้งมิเคยได้เห็น  ทั้งไม่เห็นอยู่  ทั้งไม่เคยคิดหมายว่าจะได้เห็น  ความพอใจความใคร่หรือความรักในรูปเหล่านั้นจะมีแก่เธอไหม?

พระมาลุงกยบุตร : ไม่มี  พระเจ้าข้า

พระพุทธองค์ : เสียง...กลิ่น...รส...โผฏฐัพพะ...ธัมมารมณ์ทั้งหลายอย่างใดๆ  ที่เธอไม่ได้ทราบ  ไม่เคยทราบ  ไม่ทราบอยู่  และทั้งไม่เคยคิดหมายว่าจะได้ทราบ  ความพอใจความใคร่หรือความรักในเสียง(เป็นต้น) เหล่านั้นจะมีแก่เธอไหม?

พระมาลุงกยบุตร : ไม่มี พระเจ้าข้า

พระพุทธองค์ : บรรดาสิ่งที่ได้เห็น ได้ยิน ได้รู้ ได้ทราบเหล่านี้  ในสิ่งที่เห็น เธอจักมีแค่เห็น, ในสิ่งที่ได้ยิน จักมีแค่ได้ยิน, ในสิ่งที่ลิ้ม ดมแตะต้อง จักมีแค่รู้(รสกลิ่นแตะต้อง), ในสิ่งที่ทราบ  จักมีแค่ทราบ  เมื่อใดเธอมีแค่เห็น  แค่ได้ยิน  แค่ได้รู้  แค่ได้ทราบ  เมื่อนั้นเธอก็ไม่มีด้วย(อารมณ์) นั่น(ไม่ถูกราคะ โทสะ โมหะครอบงำ) เมื่อไม่มีด้วย(อารมณ์) นั่นก็ไม่มีที่(อารมณ์) นั่น(ไม่ติดพันอยู่กับสิ่งที่ได้เห็น ได้ยิน เป็นต้น) เมื่อไม่มีที่(อารมณ์) นั่น เธอก็ไม่มีที่นี่  ไม่มีที่โน่น  ไม่มีระหว่างที่นี่ที่โน้น(ไม่มีภพนี้  ไม่มีภพโน้น  ไม่มีระหว่างภพทั้งสอง) นั่นคือจุดจบของทุกข์

พระมาลุงกยบุตรได้ฟังพระดำรัสนี้ ก็กราบทูลตามที่ตนเข้าใจว่า  พอเห็นรูปสติก็หลงหลุด ด้วยมัวใส่ใจแต่นิมิตหมายที่น่ารัก แล้วก็มีจิตกำหนัดติดใจ เสวยอารมณ์แล้วก็สยบอยู่กับอารมณ์นั้นเอง  เวทนาหลากหลายอันก่อกำเนิดขึ้นจากรูปขยายตัวเพิ่มขึ้น  จิตก็คอยถูกกระทบกระทั่งทั้งกับความอยากและความยุ่งยากใจ  เมื่อสั่งสมทุกข์อยู่อย่างนี้  ก็เรียกว่าไกลนิพพาน  พอได้ยินเสียง...พอได้กลิ่น...พอได้ลิ้ม...พอถูกต้องโผฏฐัพพะ...พอรู้ธัมมารมณ์  สติก็หลุด ฯลฯ  ก็เรียกว่าไกลนิพพาน  เห็นรูปก็ไม่ติดในรูป  ด้วยมีสติมั่นอยู่  ไม่ติดใจ  เสวยเวทนาไปก็ไม่สยบกับอารมณ์นั้น  เขามีสติดำเนินชีวิตที่ว่า  เมื่อเห็นรูปและถึงจะเสพเวทนา  ทุกข์ก็มีแต่สิ้น  ไม่สั่งสม  เมื่อไม่สั่งสมทุกข์อยู่อย่างนี้  ก็เรียกว่าใกล้นิพพาน,  ได้ยินเสียง...ได้กลิ่น...ลิ้มรส...ถูกต้องโผฏฐัพพะ...รู้ธัมมารมณ์  ก็ไม่ติดในเสียง (เป็นต้น)  ด้วยมีสติมั่นอยู่ ฯลฯ ก็เรียกว่าใกล้นิพพาน

พระพุทธองค์ตรัสอนุโมทนาว่า  ความเข้าใจของพระมาลุงกยบุตรอย่างนั้น ถูกต้องแล้ว

คราวนั้น  เมื่อพระมาลุงกยบุตรปลีกตนบำเพ็ญเพียรอยู่เพียงลำพังผู้เดียว  ไม่นานก็ได้บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง

(ชื่อ มาลุงกยบุตร ในฉบับบาลีเป็น มาลุกยบุตร แต่ในอรรถกถาก็เป็นมาลุงกยบุตร อรรถกถากล่าวว่า  มาลุงกยบุตรเป็นบุตรของมาลุงกยพราหมณี  จึงได้ชื่ออย่างนั้น และว่า ท่านเป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งในจำนวนพระมหาสาวก ๘๐ รูป(อสีติมหาสาวก))
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15537 เมื่อ: 02 มกราคม 2559, 13:14:44 »



เมื่อใดที่ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส ได้สัมผัสทางกาย ได้สัมผัสทางใจ  แล้วไม่เกิดการปรุงแต่งอารมณ์ ใด ๆ นั่นละจุดสิ้นสุดแห่งทุกข์ ท่านจะทราบได้ด้วยตนเอง

แต่เมื่อใดยังปรุงแต่งอารมณ์อยู่  เมื่อนั้นยังต้องได้รับความทุกข์ ท่านจะรู้ได้ด้วยตัวของท่านเอง

การที่จะไม่ให้ปรุงแต่งได้นั้น ท่านต้องอยู่ด้วยสติตลอดเวลา จนคลายควายความยึดมั่นถือมั่นในรูป-นาม ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา สิ่งของ ไม่มีเรา ไม่มีตัวตนของเรา ไม่มีเราเข้าไปเป็น ไม่มีของของเรา

ทั้งหมดจะเกิดจากการตั้งสติปัฏฐาน ๔ เท่านั้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15538 เมื่อ: 02 มกราคม 2559, 16:04:59 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15539 เมื่อ: 02 มกราคม 2559, 16:05:51 »


พระนพ  ธีรวโร
ธุดงค์ ๔ สังเวชนีย์ ตามลอยบาทพระศาสดา
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15540 เมื่อ: 02 มกราคม 2559, 16:08:01 »



ปรมัตถ์ธรรม - สภาวะธรรม

ทุกสิ่งล้วนเป็นธรรมชาติ

ทุกสิ่งเป็นธรรมะ
 
แต่ทุกสิ่งที่ล้วนเป็นธรรมชาติ จะมาเป็นธรรมะ ได้นั้น ต่อเมื่อท่านสามารถรู้แจ้งได้ทางอารมณ์เมื่อปรากฏทางทวารตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เท่านั้น

และเมื่อท่านรู้อารมณ์นั้นแล้ว ท่านเสวยอารมณ์ แสดงว่าท่านโดนเจตสิกเล่นงานเอาแล้ว 

สภาวะอารมณ์รู้แจ้งนั้น คือสภาวะธรรมที่ปรากฏ นั่นเอง

สภาวะนี้ ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่ใช่สัตว์ บุคคล เรา เขา สิ่งของ เป็นนาม จึงเรียกว่าสภาวะธรรม หรืออารมณ์ปรมัตถ์ หรือปรมัตถ์ธรรม

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15541 เมื่อ: 02 มกราคม 2559, 16:21:37 »



วันนี้เช้าไปออกกำลังกายเดินตีกอล์ฟ ที่สนามกอล์ฟ President country club เพราะอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะสนามกอล์ฟ จะปิดตั้งแต่วันที่ ๘ มกราคม ยังไม่รู้ชตากรรมว่า ทางธนาคารกรุงเทพฯ  จะเข้ามาดำเนินการยึดสนาม แล้วจะเอาอย่างไรกับสมาชิก จะเปิดให้เล่นต่อไปหรือไม่ เมื่อไร? ไม่มีคำตอบจากทางสนามกอล์ฟ เลย

หรือจะมีผู้มาซื้อไป แล้วจะดำเนินการกับสมาชิกอย่างไร? ก็ไม่มีคำตอบเช่นกัน

มันจึงดำมืดสำหรับสมาชิก พนักงาน และแคดดี้ ที่ยังไม่รู้อนาคต

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15542 เมื่อ: 02 มกราคม 2559, 17:07:55 »



วันนี้ พี่หมอกิตติศักดิ์  ไปเยี่ยมพี่สาว
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15543 เมื่อ: 02 มกราคม 2559, 17:08:30 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15544 เมื่อ: 02 มกราคม 2559, 17:10:49 »



และแวะไปเยี่ยมปู่ทวี  บรรจง  ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี
มีคุณหมิวิฑิต-คุณวีรยา   บรรจง  คอยต้อนรับ
ดี  มันจะมีผลดีกับปู่ทวี

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15545 เมื่อ: 02 มกราคม 2559, 18:08:05 »



เห็นภาพนี้ แล้วสุขใจ ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15546 เมื่อ: 02 มกราคม 2559, 18:15:57 »



ลูกฟักข้าว หรือลูกขี้พร้า



วันนี้ ทดลองทำน้ำปานะ เพื่อสุขภาพ
ใช้ลูกฟักข้าว ๑ ผล ลูกกีวี่ ๑ ผล น้ำผึ้งป่า ๑ ช้อน น้ำสุกครึ่งแก้ว ผสมกันแล้วปั่น

ดื่มได้ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15547 เมื่อ: 03 มกราคม 2559, 05:23:57 »



เสื่อมจากกุศลธรรม คืออย่างไร

อปริหานธรรม(ธรรมฝ่ายไม่เสื่อม) ปริหานธรรม(ธรรมฝ่ายเสื่อม) และอภิภายตนะ(อายตนะที่อบรมยิ่งแล้ว) อย่างละ ๖ ประการ ตามจำนวนผัสสะ ๖ พระพุทธองค์ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้

อกุศลธรรมอันเป็นบาปทั้งหลายมีความดำริแส่ซ่านไป เป็นฝ่ายสังข์โยชน์ ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้เมื่อเห็นรูปด้วยจักษุ  ถ้าภิกษุนั้นปล่อยให้กิเลสครอบงำ  ไม่ละ  ไม่บรรเทา  ไม่ขจัดให้หมดสิ้นไป  ก็พึงทราบว่าตนเสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลาย...(กับการได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะ รู้ธัมมารมณ์ ก็เหมือนกัน) นี้คือปริหานธรรม  ถ้าภิกษุไม่ให้กิเลสครอบงำได้... ขจัดให้หมดสิ้นไป  ก็พึงทราบว่าตนไม่เสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลาย  นี้คืออปริหานธรรม

ตรัสต่อไปว่าอกุศลธรรมอันเป็นบาปทั้งหลายมีความ ความดำริแส่ซ่านไป  เป็นฝ่ายสังโยชน์  เมื่อไม่เกิดขึ้นเพราะได้เห็นรูปด้วยจักษุ...เพราะได้ยิน...เพราะได้กลิ่น...เพราะลิ้มรส...เพราะถูกต้องโผฏฐัพพะ...เพราะรู้ธัมมารมณ์ด้วยใจ  ก็พึงทราบว่า อายตนะ(นั้น ๆ)ตนครอบงำได้แล้ว  อายตนะเช่นนี้เรียกว่า อภิภายตนะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15548 เมื่อ: 03 มกราคม 2559, 13:48:38 »







วันนี้ อาจารย์ถาวร-คุณญาณิศา  โชติชื่น
ขอรับเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเพล ที่ห้องอาหารเพลิน วิภาวดี-รังสิต มีท่านอาจารย์พินิจ-พี่ติ๋ว  ส่วน ดร.สุริยา ท่านไม่ว่างนอนตื่นสาย มาไม่ทัน ก็ไม่เป็นไร  ส่วน ดร.กุศล  ที่พี่สิงห์ เชิญเป็นพิเศษเพิ่ม มีลูกศิษย์  มาขอพบที่บ้าน ก็มาไม่ได้

ต้องขอขอบคุณเจ้าภาพ  เป็นอย่างยิ่งครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #15549 เมื่อ: 03 มกราคม 2559, 18:57:18 »







พระนพ  ธีรวโร
ท่านกำลังธุดงค์ ๔ สังเวชนีย์ ตามบาทพระศาสนา
ท่านบอกว่า
"เดินมาถึงวันนี้...
ฉันคิดว่า อะไร ๆ ก็ไม่มีอยู่จริง
ล้วนสมมติขึ้นมาทั้งนั้น"

พี่สิงห์  ก็ตอบท่านไปว่า
"สาธุ

เพราะเราไปยึดถือมัน มันก็มี
แต่ถ้าเราไม่ไปยึดถือมันเอาไว้ มันก็ไม่มี
มันก็เป็นของมันอย่างนี้ในธรรมทั้งหลายที่สัมผัสได้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ"

ธรรมะวันนี้ครับ วันนี้เป็นวันสิ้นสุดเทศกาลปีใหม่

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 620 621 [622] 623 624 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><