คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Manop Klabdee]

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

วันนี่ อาการโดยรวม รู้สึกว่าตัวเองปกติ

วันนี้ จะเอาพลาสเตอรร์ปิดแผลออก ตามที่พยาบาลสั่งเอาไว้ เพราะครบ ๑๕ วัน
แต่หลานสาวที่เป็นพยาบาล ดมยาห้องผ่าตัด บอกว่า ต้องใช้เวลา ๒ เดือน หลังผ่าตัด ในการระวังตนเอง ไม่เกร็งกล้ามเนื้อท้อง  ยกของหนัก มันก็รวมการขับรถด้วย ก็ต้องยอมรับ ในสิ่งที่เตือน

แต่การขับรถ คงขอ ๑ เดือน เพราะมันเป็นขาของเรา ที่ยังต้องทำงาน

ก็ขอฟื้นฟูร่างกายด้วยการเดินจงกรมให้มากขึ้น และคงจะยืดกล้ามเนื้อข้อต่อด้วยท่าโยคะในส่วนที่ไม่ทำให้กล้ามเนื้อท้องเกร็ง มันน่าจะได้
ตอนนี้ร่างกายของเรายังแข็งแรงอยู่ ต้องรักษาเอาไว้ไม่ให้กล้ามเนื้อรีบ หมดสภาพ มันจะยิ่งแย่ลง

บ่าย ๆ มันร้อน  ไม่เหมาะกับการเจริญสติภาวนา  คงต้องนั่งอยู่หน้าจอ computer ทบทวนการออกแบบแผ่นพื้น hollow core slab แล้วละ จะได้ทำให้เวลาหมดไปวันหนึ่ง ๆ

ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง

สบายดีครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

พระนพ  ธีรวโร

จุดบอร์ดของพุทธศาสนาฝ่ายเถระวาร(หินยาน)
(แบบไทย  ศรีลังกา พม่า ลาว เขมร และในมาเลเซียตอนเหนือที่เคยเป็นของกรุงธนบุรี สยามประเทศ)

จุดบอดของนิกายเถระวาท คือให้เอาธรรมนั้นมาปฏิบัติต่อตนเอง บำเพ็ญ จนบรรลุธรรม  ดังนั้น พระที่ท่านเคร่ง จึงอยู่ป่า ปรีกวิเวก  ไม่สอนชาวบ้าน

ส่วนพระที่อยู่ตามตัวเมือง ท่านก็หย่อนยานในพระวินัย และปรับวิธีให้กลมกลืนกับชาวบ้าน ถ้าชาวบ้านชอบบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านก็หาสิ่งศักดิ์สิทธ์มาให้กราบไหว้ โดยไม่คำนึงถึงคำสอน  

ดังนั้น การสร้างพระ  การสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงเกิดขึ้นมากในปัจจุบัน พระก็ชอบ  ชาวบ้านก็ชอบ พุทธศาสนาฝ่ายเถระวาท มันจึงแปรเปลี่ยนไป เป็นมหายานเข้าทุกที แบบมหายานตันตระ ก่อนสิ้นไปจากอินเดีย

แต่ดีที่พุทธศาสนานิกายเถระวาท ในพม่า ศรีลังกา ไม่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์  คงจะอยู่ได้ ไม่สิ้นไปตามแบบอย่างในไทย

เราเองทำอะไรไม่ได้  ก็ได้แต่ระวังตนเอง เอาพุทธศาสนามาปฏิบัติ ในการดำรงชีวิต ให้ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธองค์  

ถ้าทุกคนที่ยังมีสติอยู่ ระวังตนเอง ทำตามคำสอน มากขึ้น ๆ (ซึ่งเป็นไปยาก เพราะมันต้องประกอบไปด้วยศรัทธา-ความวิริยะ ยิ่ง) มันก็จะทอดอายุของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ให้ยาวขึ้น

สวัสดี

[Manop Klabdee]

เช้านี้ คุณวีรยา น้องสาวมาดูแผล ปิดสนิท ปกติ ดีมาก

คงเหลือแต่แผลภายใน ต้องรอเวลาให้ปราสาทเชื่อมติด ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

ไม่มีอาการคันที่แผล บวม แต่ประการใด  แต่นั่งรถกระเทือนมากไม่ได้เท่านั้น

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ธรรม
ธรรมชาติ
พระธรรม
ธรรมารมณ์
ปรมัตถธรรม
สภาวะธรรมในรูป-นาม  มันคือ อะไร?

ธรรม คือ สิ่งที่เป็นจริง มีอยู่จริง เที่ยงแท้เสมอ เป็นนาม

ธรรมชาติ คือ สิ่งที่มีอยู่จริง เป็นจริง เป็นได้ทั้ง รูป และนาม เช่น สัตว์ บุคคล ตัวตน สิ่งของ เรา เขา ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม(อากาศ และสูญญากาศ) ธาตุไฟ เป็นสมมติิบัญัติ

ส่วนอารมณ์ต่าง ๆ อาการต่าง ๆ มันเป็นสภาวะของธรรม ที่ไปปรุงแต่งสัตว์ มันก็เป็นธรรมชาติิ เป็นนาม  เพื่อให้เข้าใจ จึงแยกออกเป็น ปรมัตถธรรม

พระธรรม คือคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และก็เป็นจริงเสมอ เป็นนาม แต่เข้าใจได้

ธรรมารมณ์ เป็นนาม เป็นอารมณ์ที่จิตสัมผัสได้

ปรมัตถธรรม เป็นนาม เป็นสภาวะธรรมที่ประกอบไปด้วย รูป  จิต  เจตสิก และนิพพาน

สภาวะธรรมในรูป-นาม คือาการ อารมณ์ที่เกิดขึ้นกับรูป-นาม เป็นปรมัตถ์

เวลาเราเจริญจิตภาวนา เราจะพิจารณา สภาวะธรรม ที่เกิดขึ้นกับรูป-นาม ณ ปัจจุบัน และทั้งไม่ยินดี ไม่เพลินเพลิน ไม่ยินร้าย ไม่ชอบ ไม่ชัง ไปกับมัน แบบให้รู้ในสภาวะธรรมนั้น ซื่อ ๆ ตรง ๆ ไม่เอาผิด ไม่เอาถูก ไม่เอาเหตุ ไม่เอาผล ใด ๆ

และอย่าหลงไปพิจารณา ไปเพ่ง ในสมมติบัญญัติ แทน มันไม่ใช่่

สมมติบัติญัติิ มันเป็นชื่อเรียกของ สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา  เขา  สิ่งของ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุน้ำ ธาตุไฟ เพราะสมมตบัญญัติไม่มีอาการ ไม่มีอารมณ์เกิดขึ้น

ก็พอจะจำแนกตามภูมิตนเองที่มีอยู่

ไม่ต้องเชื่อใคร ในธรรม

ทุกท่านก็พิจารณาเอาเองด้วยหลัก กามาลสูตร เถิด

แต่อย่าลืมว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา  อย่าไปยึดติดกับมัน จนเกิดวิจิกิจฉา ขึ้นในจิต เลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของวิญญูชนม์ นักปราชญ์ เถิด

สวัสดี

[KUSON]

ดีใจที่พี่ป๋องไปเยี่ยม  เขากังวลใจมากถ้าไม่เจอพี่สิงห์
ดูแล้วยังงง  พระนพคือองค์เดินนำใช่ไหม
พี่สิงห์รู้จักท่านได้อย่างไร
ท่านธุดงค์อยู่ที่อินเดียเดียหรือที่ไหนครับ

[KUSON]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 13 มีนาคม 2558, 09:21:33
	เช้าท่านก็ออกเดินทางต่อ

พระนพองค์แรกใช่ไหมที่เดินจนเท้าแตก

[KUSON]

ส่วนองค์ที่สองเหมือนพระทางใต้

[Manop Klabdee]

องค์แรก ไม่ใช้พระนพ

องค์แรกที่เดินนำ ไม่รู้จัก แต่ท่านสำรวมมาก

พระนพ  ธีรวโร  ท่านอยู่วัดป่าสุคะโต

พระนพ ท่านไปร่วมเดินธุดงค์กับพระอื่น ๆ อีกประมาณ ๒๕๐ รูป ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๒ ของพระธรรมฑูตอินเดีย-เนปาล ออกค่าใช้จ่ายให้พระนักปฏิบัติได้เดินธุดงค์ย้อนรอยพระพุทธองค์ ในอดีต ในการธุดงค์ ตามทางเดินของพระพุทธองค์ ๔ สังเวชนีย์  

ท่านเดินจนเท้าชำรุด ส้นเท้าแตก รองเท้าพัง ต้องให้แขกซ่อม ตามทาง

ขณะนี้กำลังเดินธุดงค์ จากลุมพิณี ไป พาราณสี  ใช้เวลาทั้งหมดเกินหนึ่งเดือน

พระนพ  ธีรวโร  เป็นเพื่อทางใจใน Facebook เช่นเดียวกับ พระสุรินทร์ ก่อนการคิด ใน Facebook ของวัดป่าสุคะโต

สวัสดี



แวะซ่อมรองเท้า ข้างทาง ตรงด่านเนปาล
ขณะรอหนังสือเดินทาง

[Manop Klabdee]

พระนพ  ท่านบอก ศรัทธา และยาล้วน ๆ  เลยโยม
เพราะเจอทั้งฝน  หนาว  ลมหนาว  อากาศร้อนมาก  ไม่สบายกันเป็นส่วนมาก  จึงต้องพึ่งยารักษาโรค



ธุดงค์ ข้ามแม่น้ำคงคา สะพานคานธีร์ เมืองปัตตานะ
เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในอินเดย ๑๐ กว่ากิโลเมตร

[Manop Klabdee]

บริเวณภายใน วัดไทยบุมพินนีวัน

กินข้างเพล เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องสอนธรรม

เราจะระวังตนเอง หรืออยู่อย่างไม่ประมาท อย่างไร? ในฐานะพุทธศาสนิกชนม์ ที่ดีี

คือ ดำงรงชีวิต ที่ประกอบ ด้วย
- มีศีล ๕ เป็นอย่างน้อย
- อยู่ด้วยปัจจัย ๔ ที่พอเพียง
- เชื่อเรื่องกรรม ไม่เชื่อสิ่งศักดิ์จะบันดาลให้เกิดขึ้นได้
- นำอริยะสัจ ๔ มาใช้ในการดำรงชีวิต (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค)
- มีคุณธรรม คือมีเมตตา กรุณา มุุฑิตา และอุเบกขา

เพียงแค่นี้ ท่านก็ได้ชื่อว่า เป็นผู้อยู่อย่าง ไม่ประมาท แล้วครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

คณะพระธุดงค์ จาริก ๔ สังเวชนีย์

พระนพ  ธีรวโร  ท่านแจ้งมาว่า คณะเดินทางถึง เมืองสาวัตถี เรียบร้อยแล้ว
ไปถึงก็เจอฝนตก  พักตั้งแค้มที่วัดไทยเชตวันมหาวิหาร ใกล้กับพระเชตวัน พัก ๒ คืน เพื่ออาบน้ำ ซักจีวร และ สวดมนต์ เจริญสติภาวนา ภายในวัดพระเชตวัน และ านันทโพธิ์

หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อไป ป่าอิสิปัตตนมฤคทายวัน  สารนาถ เมืองพาราณสี เป็นเมืองสุดท้าย เป็นอันเสร็จสิ้นโครงการ  นับว่าธุดงค์ทรหด จริง ๆ

ท่านเดินจากลุมพินี ไปสาวัตถี เร็วมาก ๔ วันเอง

เรานั่งรถ พักโรงแรม  พักวัด ยังทรหด ๑๑ วัน ท่านเดินด้วยเท้า พักเต้น คิดเอาเองก็แล้วกัน

สวัสดี


ต้องจารึกเอาไว้

[Manop Klabdee]

วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๘

ได้มีการบรรจุอัฏฐิธาตุ ของหลวงพ่อคำเขียน  สุวัณโณ

ใกล้ ต้นจาน หน้าศาลาน้ำใส  วัดภูเขาทอง ตามที่หลวงพ่อได้สั่งเอาไว้ 

โดยบรรจุอัฏฐิธาตุ ใต้เสาอโศก สลักคำสอนของท่าน

[Manop Klabdee]

สงสัยมีพรายไปกระซิบบอกท่านอาจารย์สุพพัดดา  ปวนฤทธิ์

คงเป็นนิสิตหอหญิง 14 (คุณตุ๊(อรสา) หรือคุณสุภาณี หรือคุณแอร์) หรือไม่ก็เป็น ดร.สุริยา



สวัสดียามเย็นทุกท่านครับ

เมื่อสักครู่ ท่านอาจารย์สึพพัดดา  ปวนฤทธิ์
ได้โทรศัพท์มาหา
ทราบข่าวว่าป่วย ท่านอาจารย์ได้ให้พร ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บันดาลให้หายป่วย ด้วย

เสียงท่านอาจารย์ ชราลงมาก

ศิิษย์ ต้องกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ ยิ่ง ที่ยังระลึกถึง และโทรศัพท์มาอวยพรให้หายป่วย

ท่านอาจารย์บอกว่า ตอนนี้มองไม่ค่อยเห็น มองได้ด้วยตาข้างเดียว อีกข้างไม่เห็น อาจารย์ชรามากแล้ว อยู่ตามอัตภาพของชีวิต

ก็ได้ขอให้ท่านอาจารย์ มีสุขถาพแข็งแรง ระวังตนเองได้ ไม่เจ็บป่วย

พี่สิงห์  แย่มาก ไม่ค่อยไปหาท่านอาจารย์เลย  มัวแต่ทำงาน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ท่านคิดถึงเสมอ กลับกรุงเทพฯ ขับรถได้ ต้องไปกราบท่าน

ท่านอาจารย์ชอบ มะม่วง  ขนมเปี๊ย สิงห์บุรี

สวัสดีทุกท่านครับ

[Manop Klabdee]

สวัสดีทุกท่านครับ

แผลภายนอกของพี่สิงห์ ปิดสนิทเป็นปกติิ เหลือเพียงแผลภายใน ที่ยังมีความรู้สึกอยู่บ้าง

พี่สิงห์ โชดคี ไม่ปวดแผลเลย คุณหมอให้พารา ก็ไม่ได้ใช้

อาจจะเป็นเพราะสามารถนั่งขัดสมาธิได้  เลยช่วยยืดผังผืดในช่องท้อง แผลมันก็เลย ไม่มีปัญหา ผังผึดยึดแต่ประการใด การนั่งขัดตะหมาดทำสมาธิ มันยืดกล้ามเนื้อท้อง แต่มันก็มีผลดี เพราะนั่งแล้วมันไม่ปวดแผล

ตอนนี้ พยายามเดินจงกรมให้มากเป็นการออกกำลังกาย จนฝ่าเท้าด้านหน้ารู้สึกเจ็บ เลยต้องใช้วิธีเดินให้เต็มฝ่าเท้าเข้าไว้ สลับกับการนั่งขัดตะหมาดสมาธิ

วันอาทิตย์  ต้องไปเป็นโยมบวชเณรที่วัดพระนอน ๑ องค์ ได้ถวายเงินท่านเป็นค่าใช้จ่ายมนการบวชไปแล้ว แต่คงสะพายบาตรเดินรอบโบถย์ไม่ได้ เพราะบาตรมันหนัก ขนาด computer เครื่องบาง ยังยกไม่ไหวเลย  ต้องยอมแพ้

วันนี้ได้บอกพนักงานที่โรงงานไปว่า  ให้บอกพี่พงษ์ศักดิ์ด้วยวันอาทิตย์ถ้าว่าง ให้พี่พงศักดิ์ มาสะพายบาตรบวชเณร  ให้ด้วย ที่วัดพระนอน เวลาประมาณ แปดโมงเช้า

ดร.กุศล  จะมาสะพายบาตรแทนก็ได้ (คงไม่ได้เพราะต้องไปงานแต่งลูกชายพี่ปิ้ง  พี่สิงห์  ไปไม่ได้แน่นอน)

ขอบคุณทุกท่านครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

เมื่อคืนนี้ คุณน้องกนกวรรณ(นก) ได้โทรศัพท์ มาไต่ถามอากการเจ็บป่วย และจะมาเยี่ยมพี่สิงห์

ได้บอกไปแล้วว่าไม่เป็นอะไรแล้วตอนนี้  พักให้ได้ระยะเวลาตามที่คุณหมอ บอกเท่านั้น วันที่ ๒๔ มีนาคม ไปพบคุณหมอ  ศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัด  ทำอัลตร้าซาวด์  แล้วคงกลับ บ้าน กทม. คงจะช่วยตัวเองในเรื่องการกิน คือหุงข้าวเองได้แล้ว

ขอบคุณมาก  ไม่ต้องมาเยี่ยม มันไกล ลำบากเปล่า ๆ

คุณน้องนก บอกว่า วันที่ ๒๖ มีนาคม วันสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียนเชิญใส่บาตร หน้าเสาธง ตอนเจ็ดโมงเช้า  และมีงานคืนสู่เหย้า จุฬาฯ ตอนกลางคืน

ตอนเช้าดูก่อน  ถ้ามีคนมารับคงไปใส่บาตรได้  แต่ขอไม่ไปดีกว่า เกรงใจคนมารับ-ส่ง ขอใส่บาตรพระที่หน้าบ้านแทน

งานกลางคืน คงไม่ไปแน่ ๆ ไม่ใช่กิจของเราแล้ว

ขอให้ ทางสมาคมฯ ไปร่วมกิจกรรมกับเขาเถิด

ขอบคุณมาก

สวัสดี

[Manop Klabdee]

งานสถาปนา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒๖ มีนาคม

ตามปกติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ท่านเสด็จมาเวลา 7:00 น. ทรงใส่บาตรหน้าเสาธงจุฬาฯ และข้าราชการจุฬาฯ ทุกหน่วยงาน คอยต้อนรับ และใส่บาตรร่วมกัน

จากนั้น  สมเด็จพระเทพฯ ท่านจะเดินรอบ ๆ เสาธง และใกล้เคียง เพื่อเยี่ยมทักทายทุกหน่วยงานของ จุฬาฯ

ปกติของหอพัก สมาคม จะอยู่หลังเสาธง ด้านซ้ายหลังพระบรมรูปสองรัชกาล เป็นหน่วยงานสุดท้าย

เสร็จแล้ว ท่านก็ขึ้นหอประชุม ทรงเสวยพระกระยาหารเช้า

มีอาคารไหนที่จะให้ท่านทรงทำพิธีเปิด ท่านก็ไปเปิดให้

ประมาณเก้าโมง คงมีงานทรงดนตรีไทย ที่หอประชุม จนถึงห้าโมงเช้าแล้วเสด็จกลับ

งานกลางคืน เป็นงานออกร้านอาหารทางปีกซ้าย ขวา ของพระบรมรูป ๒ รัชกาล  มีเวทีใหญ่อยู่ตรงกลางสนาม ริมสระน้ำ

พวกซีมะโด่ง นิยมมารวมกลุ่มกันที่มุมด้านทิศเหนือ  แดดร่มลมตก ก็ไปได้แล้ว

เรียนเชิญทุกท่าน ที่ว่าง

พี่สิงห์  ขอพักอยู่บ้านครับ

เรื่องของใส่บาตรพระ ทางสำนักงานหอพัก อาจารย์เผ่า-อาจารย์เพ็ญพรรณ  ท่านคงจัดการเตรียมเอาไว้ให้ดังเช่นทุกปี  เพียงแจ้งจำนวนคนที่จะไปเท่านั้น

สวัสดี

[Manop Klabdee]

โรงพยาบาลรามาธิบดี  บอกว่าพี่สิงห์ เป็นโรคอ้วน แล้วคุณรองรัตน์  ล่ะอ้วนไหม? พี่สิงห์ หนักเพียง ๖๘ กิโลกรัม  คงต้องให้ลดเหลือ ๖๖ กิโลกรัม  จึงจะไม่อ้วน (เขาลืมไปว่าเราโครงสร้างใหญ่ และตอนนี้ความสูงลดลง  ๖๖ กิโลกรัมผอมแน่นอน โดนพี่ติ๋ว ว่าแน่ ๆ)

อาจารเพ็ญพรรณ  ยังคง

อนุสาสกหอพักนิสิตหญิง จุฬาฯ

[Manop Klabdee]

อาจารย์เผ่า  สุวรรณศักดิ์ศรี
อนุสาสก หอพักนิสิตชาย จฬาฯ

สมาคมจะไปใส่บาตร แจ้งอาจารย์เผ่า   จะได้จัดอาหารแห้งเอาไว้ให้ได้

[Manop Klabdee]

คุณน้อง  Tooky เพิ่งกลับจากไปเที่ยวจีน
Line มาถามอาการเจ็บป่วย

[Manop Klabdee]

คุณน้อง Tippy เพิ่งกลับจากไปเที่ยวจีน
ได้ Line มาถามเช่นเดียวกัน

[Manop Klabdee]

กลับไป บ้าน กทม. ต้องไปกินข้าวบ้านอาจารย์พินิจ-พี่ติ๋ว เป็นอันดับแรก

[เริง2520]

สวัสดีครับ

[Manop Klabdee]

เมื่อคืน ตอนสองทุ่ม ท่านอาจารย์สุพพัดดา  โทรศัพท์ ไปหา ดร.สุริยา ถามเรื่องการป่วยของพี่สิงห์

วันนี้ ได้โทรศัพท์ ไปคุยกับ คุณสุภาณี(คุณอี๊ด) ก็ไม่ได้ไปหาอาจารย์

คงเป็นคุณอรสา โทรศัพท์ ไปบอกท่านอาจารย์ หรือไม่ก็คุณแอร์ เพราะคนอื่นไม่รู้ว่าพี่สิงห์ ป่วย  สองคนนี้ไปพบอาจารย์ หรือโทรศัพท์ ไปหาอาจารย์บ่อย เป็นศิษย์ ที่ท่านอาจารย์เมตตา (ท่านเล่าให้ฟัง)

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ คุณน้องเริง ๒๐

พี่สิงห์  สบายดี  แผลภายนอกหายแล้ว  แต่เป็นแผลเป็นชัดเจน

แผลเป็น ยาวสี่นิ้ว ด้านขวาของท้องน้อยเหนือโคนขาขวา 5555! จำง่ายเลยตอนนี้ กับแผลเป็นใต้คาง รวมเป็นสองที่ด้วยกัน

วันอาทิตย์  จะลองขับรถ ไปทำบุญที่วัดพระนอน ไปบวชพระ ที่เป็นโยมอุปัฏฐาก ตอนเป็นเณร

วันหนึ่ง ๆ ก็นั่งเจริญสติ เดินจงกรม  เขียนธรรม อยู่ข้างโรงเรียน ไม่พูดกับใครเลย พูดน้อยมาก มีลมพัด และสงบ เพราะโรงเรียนปิดเทอม มีแต่นก  แมว(มันติดสัตว์ ร้อง วิ่งทั้งวันทั้งคืน) เป็นเพื่อน

ระวังสุขภาพด้วยครับ

สวัสดี

[KUSON]

จะไปบ้านพี่ติ๋ววันไหนครับ