คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Manop Klabdee]

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

เมื่อสักครู่พยาบาลมาตรวจความดัน ได้ 132-82 ความดันปกติ วัดอุณหภูมิได้ 36.6 องศาปกติไม่มีไข้

วันนี้ เดินจงกรมได้พอสมควร การเจ็บปวดน้อยลงที่บาดแผล  หลอดปัสสาวะที่เจ็บจากการสวนปัสสาวะหายไป การอักเสบลูกอัณฑะขวาหายไป

โดยรวมดีขึ้นมาก คุณหมอให้อยู่โรงพยาบาลต่ออีกสามวัน คงกลับไปพักฟื้นที่บ้านวันศุกร์ ครับ

อยู่นานเกรงใจโรงพยาบาล เพราะมีคนไข้รอคิวอยู่ ที่จะต้องใช้ห้องพัก

เมื่อคืน คถณหมอพีร์  มานอนเป็นเพื่อน

มีเวลาเจริญสติมาก

สวัสดี

[Manop Klabdee]

วันนี้ เป็นวันมาฆะบูชา

เป็นวันที่พระพุทธองค์ ทรงประกาศ หลักการของพระพุทธศาสนา ต่อหน้าพระภิกษุ ๑๒๕๐ ล้วนเป็นเอหิภิกขุ และพระอรหันต์ ได้อภิญญา ๖ ทั้งสิ้น
ประกอบด้วย
ชฎิลสามพี่น้อง ๑๐๐๐ รูป และ กลุ่มของพระสารีบุตร-พระโมคคัลลานะ อีก ๒๕๐ รูป รวมเป็น ๑๒๕๐ รูป ได้มาชุมนุมเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ที่วัดเวฬุวัน สร้างโดยพระเจ้าพิมพิศาล เจ้าแคว้นมคธ  โดยมิได้นัดหมาย

หลักการของพระำทธศาสนานั้นเนียกว่า "โอวาทปาฏิโมก" คือ

- การไม่ทำบาปทั้งปวง
- การทำกุศลให้ถึงพร้อม
- การทำจิตของตนให้ขาวรอบ

หรือ

- ศีล  สมาธิ  ปัญญา  นั่นเอง

ดังนั้น วันนี้เราสาธุชน ควรเข้าวัดทำบุญ หรือ บำเพ็ญ ศีล  สมาธิ  ปัญญา  ก็ได้ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี แล้ว

พี่สิงห์  ไปทำบุญไม่ได้  น้องสาวได้นำข้าว อาหารที่จะไปทำบุญ มาให้อนุโมทนา แล้ว

สวัสดี

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 03 มีนาคม 2558, 22:28:17
	ขอแสดงความยินดีที่สดชื่นเป็นปกติอยู่ครับ ออกจากโรงพยาบาลเร็วๆ จะได้กลับไปทำงาน

ขอบคุณมาก

งานของดสองอาทิตย์ เพราะต้องการให้แผลติดสนิท

แผลภานนอกใช้เวลา หนึ่งอาทิตย์  แผลภายในใช้เวลา สองอาทิตย์

ได้บอกทุกท่านไปแล้ว  งานอันไหนเร่งด่วนก็ให้เอามาปรึกษาที่โรงพยาบาล เช่น วันนี้ทาง พนักงานที่จะต้องทำแท่นผลิต hollow core slab จะเอาแบบมาปรึกษา  นอกนั้นใช้ทำงานทาง line แทน โดยให้ถ่ายภาพประกอบส่งมาให้ดูด้วย

เมื่อวาน ทางพี่พงษ์ศักดิ์ จาก   PSTC มาเยี่ยม

คุณดิเรก  ผู้จัดการ  PSTC มาเยี่ยม และได้มอบเงินค่ารักษาพยาบาล ๓ หมื่นบาท  ขอขอบคุณมาก เงินนี้จะใช้ในการรักษา ที่เหลือทำบุญกับทางโรงพยาบาล เช่นวันพฤหัสบดีเป็นเจ้าภาพ เลี้ยงอาหารเช้า ผู้สูงอายุ ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังต้องมาเจาะเลือดตอนเช้า จะได้มีอาหารเช้ารับประทาน และจะมีการประชุมพยาบาล เลยถือโอกาสเลี้ยงอาหาร พยาบาลไปในตัว และซื้อเสื้อให้คุณหมอสมเจตต์  ศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัด ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้วย ตามคำแนะนำของน้องสาว

คุณเชาวลิต  ผู้จัดการโรงงานบ้านแพ้ว มาเยี่ยม

คุณชรินทร์  ผู้จัดการโรงงานมหาชัย มาเยี่ยม

สวัสดี

[Manop Klabdee]

วัดเวฬุวัน สมัยพุทธกาล เป็นเขตอภัยทาน เป็นสวนป่าไผ่ ที่พระเจ้าพิมพิศาล เลี้ยงกระแต

ประวัติคือ คืนหนึ่งพระเจ้าพิมพิศาล ทรงบรรทมหลับ ได้มีงูพิษ มาแผ่แม่เบี้ยจะทำร้ายพระองค์ แต่มีกระแต ไปไล่งูพิษนั้นเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายพระองค์  พระเจ้าพิมพิศาลเห็นคุณของกระแตที่ช่วยชีวิต พระองค์  จึงได้จัดสวนป่าไผ่เป็นเขตอภัยทาน ห้ามคนมาทำร้ายกระแตในอุทยาน

เมื่อพระองค์ได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ สำเร็จเป็นพระโสดาบันแล้ว  จึงหาสถานที่ ที่ไม่ไกลจากพระราชวัง เพื่อสร้างวัด  จึงเห็นสถานที่สวนไผ่นี้เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง  จึงสรัางวัดถวายพระพุทธองค์ เป็นวัดแห่งแรกชื่อว่า วัดเวฬุวัน

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ตอนที่พระเจ้าพิมพิศาล  ทรงถวายวัดพระเวฬุวันนั้น พระองค์ไม่ได้แผ่นส่วนกุศล ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ญาติมิตร ที่เสียชีวิตลงไปแล้วต้องทนทุกทรมารอยู่ในนรกอเวจี


คืนนั้น พระเจ้าพิมพิศาล  ได้ฝันเห็นเปรตจำนวนมากมาร้องขอส่วนบุญจากพระองค์

รุ่งขึ้นจึงเข้าไปกราบทูลให้พระพุทธองค์ทรงทราบ

พระพุทธองค์ จึงให้พระเจ้าพิมพิศาล แผ่ส่วนกุศล กรวดน้ำไปให้บรรดาเจ้ากรรมนายเวร ญาติมิตร เหล่าเปรตก็ไม่ได้มารบกวนพระองค์อีกเลย

จึงเป็นประเพณีสืบต่อกันมาว่า ทุกครั้งที่ทำบุญ ควรกรวดน้ำแผ่ส่วนกุศลไปให้เจ้ากรรมนายเวร ญาติมิตร โดยถ้วนทั่ว

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ท่านอุปติสสะ เมื่อได้ฟังธรรมจากพระอัสสชิ บรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว  ก็ได้นำธรรมนั้นไปบอกกับสหายคือท่านโกลิตะ

หลังจากนั้นก็พาบริวาร ๒๕๐ คนไปลาท่านอาจารย์สัญชัย  เพื่อไปขอบวชอยู่กับพระพุทธองค์ ท่านอาจารย์สัญชัยถามว่าในโลกนี้ คนฉลาดกับคนโง่ อย่างไหนมากกว่ากัน ท่านอุปติสสะ ตอบว่า คนโง่มีมาก กว่า อาจารย์สัญชัยตอบว่า จงอยู่กับเราสอนคนโง่เถิดจะได้ลาภสักการะมาก คนฉลาดจึงจะไปอยู่กับ พระโคดม

อุปติสสะ  โกลิตะและสหาย ขอไปอยู่กับพระพุทธองค์ ไปพบพระพุทธองค์ ขอบวชที่วัดเวฬุวัน แห่งนี่

ทรงจำพรรษาที่ ๒ และ ๓ ที่วัดเวฬุวัน เพื่อทรงประกาศพระศาสนาให้มั่นคงในแคว้นมคธ แห่งนี้

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สระน้ำดื่ม น้ำใช้ ที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่วัดเวฬุวัน

กิจที่พึงกระทำในวันมาฆะบูชา คือ

เข้าวัดฟังธรรม สวดพระสูตร โอวาทปาฏิโมก เวียนเทียนระลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งพุทธกาล และ เจริญธรรมอยู่ใน ศีล  สมาธิ  ปัญญา

ก็ได้ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชน ทั้งกาย วาจา ใจ  แล้วครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

การไอ - จาม แรง ๆ มีผลกับแผลทันที

ต้องใช้วิธี จิบน้ำ เพราะดื่มปกติจะสำลัก ไอ ได้

วันนี้คุณหมอเปิดแผลดู  ปกติ ติดกันดี จึงให้ทำแผลใหม่ด้วยดารใช้พลาสติกปิดแผล เพื่อให้สามารถอาบน้ำได้

ไม่ได้อาบน้ำมาสามวัน ได้แต่เช็ดตัวเอง นิด ๆ หน่อย ๆ เท่าที่สามารถจะทำได้ ด้วยตนเอง

การมีคู้คริง จำเป็นตอนเจ็บป่วย สามารถดูแลกันได้

วันนี้นอยได้หลับลึกทั่งช่วงเช้า-บ่าย  ถ่ายได้ปกติแล้ว ทำให้โล่งแผลไม่ตึง

ถ้าเป็น รพ.กทม. เขาคงให้กลีบบ้สนได้แล้ว แต่คุณหมอฝห้ยู่ต่ออีกสามวัน ตอนนี้งดน้ำเกลือ  งดยาฉีด  รีบประทานยาเม็ดแก้อักเสบ แก้ปวดแทน และมียาก่อนอน แก้ต่อมลูกหมากโต

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ร่างกายนี้ ไม่ว่าจะปรนเปรออย่างไร  ดีขนาดไหน ก็ตาม
เมื่อถึงเวลา ก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องเสื่อม
แต่ใจนี้น่ะ ขณะที่ร่างกายเสื่อม
แต่ใจนี้ สามารถจะเจริญงอกงาม
สวนทางกับร่างกายได้

พระไพศาล   วิสาโล
วัดป่าสุคะโต

[Manop Klabdee]

จิตมนุษย์นั้น  คิด วิตก กังวล ไปในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ทั้ง ๆ ที่เหตุมันยังไม่เกิด

จิตมนุษย์นั้น ร่ำไรรำพัน คร่ำครวญ เสียดาย ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เป็นอดีตที่หวลคืนมาไม่ได้อีกแล้ว

จิตมนุษย์นั้น ไม่อยู ณ ปัจจุบัน เลย เพราะหลงอยู่กับความคิด

แต่จิตมนุษย์นั้นฝึกได้  ขอให้มีศรัทธา  มีวิริยะ  อยู่ในมรรคมีองค์ ๘ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเอง ในการเจริญสติปัฏฐาน ๔  เปรียบด้วยแม่ไก่ฟักไข่ เมื่อระยะวลาเหมาะสม ลูกไก่  จะสามารถเจาะเปลือกไก่ออกมาเอง ฉันใดฉันนั้น ในการเจริญสติปัฏฐาน ๔

พี่สิงห์  สบายดี

สวัสดี

[Manop Klabdee]

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

เช้านี้ได้นั่งเจริญสติ และเดินจงกรมได้มาก

การเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเกิดขึ้นกับรูป-นาม ที่คิดว่าเป็นเรา เป็นของเรา ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เมื่ออายุมากขึ้น จะป่วยมาก ป่วยน้อยก็ต้องบังเกิดขึ้น

ผู้ใดไม่มีโรค  จึงเป็นลาภอันประเสริฐจริง ๆ

เมื่อ เจ็บป่วยแล้ว ขอให้ป่วยแต่กาย  ใจอย่าป่วย

แต่อย่าลืมเราบังคับไม่ได้เพราะรูป-นาม เป็อนัตตา

แต่เราสร้างเหตุ-ปัจจัยในการเกิดได้(ไม่ให้จิตป่วย)

การที่จะไม่ให้ใจป่วยนั้น มีทางเดียวที่เป็นทางสายเอกสู่พระนิพพาน คือ การตั้งสติปัฏฐาน ๔

อย่างน้อยเมื่อท่านฝึกเจริญสติ จนท่านสามารถแยกสติ หรือความรู้สึกตัว ออกมาได้จากความคิด หรือออกมาจากจิตท่านได้  ท่านจะเห็น(ด้วยวิปัสสนาปัญญาจากภายใน)พฤติกรรมของจิต

เมื่อเป็นดังนี้ เวลาท่านป่วย ท่านเพียงรักษาจิต ให้มีสติ มีธรรม  มีวิริยะ  จิตท่านจะไม่ป่วย ไปตามเวทนาที่เกิดขึ้น ได้ คนรอบข้างที่ดูแล และตัวของเราก็จะสบาย การรักษาก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณหมอ-พยาบาลไป เพราะเราไม่ได้ป่วยใจ  ทุกคนจึงไม่เดือดร้อนเพราะเรา

การเจ็บป่วยนั้น  จิตมันไม่ชอบ  เพราะมันทำอะไรไม่ได้ ยิ่งป่วยโรคเรื้อรังมาก ๆ ช่วยตัวเองไม่ได้  จิตมันจะป่วยเพราะความอยากมันเกิดในจิต จิตมันทนทุกข์เวทนา ไม่ได้ มีนไม่ชอบ

แต่ถ้าเรามีสติ มีความรู้สึกตัว ไม่เข้าไปเป็น(ผู้ป่วย) เสีย เราก็ไม่ป่วยได้

คนเจ็บส่วนมากนั้น ป่วยกายไม่เท่าไร  มันป่วยจิตเป็นส่วนมาก ความไม่สบายจึงตามมามากทั้งผู้ป่วย คนดูแล คุณหมอ - พยาบาล

จงอย่าป่วยใจเลย ด้วยการเจริญสติเข้าไว้ให้มาก เอาไว้มาใช้ตอนที่เราต้องนอนโรงพยาบาล ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ให้มันป่วยแต่กาย  ใจไม่ป่วย ครับ

สวัสดีครับ

[Manop Klabdee]

แก้ไขตนเองก่อนดีกว่า !

"คนเราที่ชอบเรียกร้องผู้อื่นให้ ปล่อยวาง นั้น
ตนเอง มักทำใจให้ปล่อยวาง ด้วยไม่ค่อยได้
จะว่าไปแล้ว สาเหตุที่ผู้คนชอบเรียกร้องผู้อื่นนั้น
มักเป็นเพราะ ลืมเรียกร้อง ตนเอง
ใคร ๆ ก็อยากเห็นคนอื่น เปลี่ยนแปลง
 (มันง่ายดี กว่าตนเองเปลี่ยนแปลง)
แต่ละเลยที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองก่อน
 บ่อยครั้งเรามักมองว่า คนอื่นเป็นปัญหา
 แต่ไม่เฉลียวใจว่า ตนเองก็เป็นปัญหา
 หรือมีส่วนทำให้เกิดปัญหานั้น เช่นกัน"

เสียงธรรมจาก
พระไพศาล   วิสาโล
วัดป่าสุคะโต


 

[Manop Klabdee]

"บุคคลใด กาลก่อนเคย ผิดพลาด
 ครั้นภายหลัง เขากลับตัวได้ ไม่ประมาท
 บุคคลนั้น ย่อมทำให้โลก แจ่มใส
 เหมือนดั่ง ดวงจันทร์ อันพ้นเมฆหมอก"

เสียงธรรมจาก
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ประยุตโต)

[Manop Klabdee]

พระท่าน เดินข้ามแม่น้ำเนรัญชรา
จากจุดที่ทรงลอยถาด ไปยังต้นพระศรีมหาโพธิ์  พุทธคยา

"การอยู่อย่างไม่ประมาท นั้น
คือการดำเนินชีวิตตาม มรรคมีองค์ ๘ ประการ
หรือ อยู่ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง"

สาธุ

[Manop Klabdee]

"ดวงจันทร์ ยังมีข้างขึ้น ข้างแรม
พระอาทิตย์ ยังมีมืด(กลางคืน) สว่าง(กลางวัน)
น้ำยังมีขึ้น  มีลง(น้ำทะเล)
ฝนยังมีตก  ฝนไม่ตก
ลมยัง พัดบ้าง  ไม่พัดบ้าง
นกยังบินสูงบ้าง  บินต่ำบ้าง
ฉันใด
(มันเป็นธรรมชาติ)
คนก็ต้องเจ็บ ต้องป่วยบ้าง
คนก็ต้องทุกข์บ้าง สุขบ้าง สลับกันไป
ฉันนั้น เช่นกัน
ปัญหาคือ เมื่อเราเจ็บป่วย ประสพทุกข์
เรายังรักษาใจของเรา ไม่ให้ป่วย ไม่ให้ทุกข์ ได้หรือไม่ !"

[Manop Klabdee]

สอบผ่านไหม !

"ถ้าเกิดมีอารมณ์ต่าง ๆ มากระทบ
หรือมาทำให้ "รัก" หรือทำให้ "เกลียด"
นี่แหละ เขามาให้เราได้ "ศึกษา" แล้ว
จะจับเอามาเป็น "ฐานที่ตั้งของสติ"
มาเป็นอารมณ์ให้เราได้ "เจริญสติ"
มาให้ประสบการณ์ มาสอนธรรมให้
หรือ "มาแจกปัญญา" ให้เรานั่นเอง
เราก็มีหน้าที่ศึกษาและตรวจสอบว่า "เป็นอย่างไร"
เมื่อกระทบแล้ว จิตของเราก็ยังเป็นปกติอยู่ "ก็สอบผ่าน"
แต่ถ้าจิตของเรายังหวั่นไหว
 คือไปรัก หรือไปเกลียด ต่อสิ่งนั้น ก็แสดงว่า "ยังสอบไม่ผ่าน"
ต่อสิ่งนั่น เป็นการวัดผล ของตนเอง"

อาจารย์กำพล  ทองบุญนุ่ม
ชมรมเพื่อนคุณธรนม

หมายเหตุ

อารมณ์ที่มากระทบนั้น เรียกว่าเจตสิก หรือสิ่งประกอบจิต ปรุงแต่งจิตให้เป็นไปตามอารมณ์นั้น (จะเกิดขึ้นกับผู้หลงอยู่ในความคิด)

เจตสิกนั้น มีทั้งฝ่ายกุศล  ฝ่ายอกุศล และฝ่ายกลาง ๆ

เมื่อใดมีเจตสิกมากระทบ ซึ่งจะผ่านมาทางทวารทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เมื่อกระทบแล้วเกิดผัสสะ เกิดวิญญาณ(ความรู้แจ้งในอารมณ์นั่น) ท่านมีสติ หรือรู้สึกตัว ไม่หลง ไม่ไหล ไม่รัก ไม่เกลียด หรือกลาง ๆ ไปตามอารมณ์นั้น  ถือว่า"ท่านสอบผ่าน"

แต่ถ้าท่านหลงคิด ไหลไปกับความคิด เกิดความรัก ชัง ชอบ ไม่ชอบ คือไม่มีสติ หรือไม่รู้สึกตัว แสดงว่า "สอบไม่ผ่าน"

อย่าลืม กระทบปุ๊ป รู้สึกตัวปั๊ป เร็วพอ ๆ กัน นั้นยิ่งดี
แสดงว่า จิตท่านตื่นอยู่สามารถรู้สึกตัวได้เร็ว เป็นผลมาจากการเจริญสตินั่นเอง

สวัสดี

[Manop Klabdee]

หลักการของพุทธศาสนา หรือ โอวาทปาฏิโมกข์
- ละการทำบาปทั้งปวง
- ทำกุศลให้ถึงพร้อม
- ทำจิตของตนให้ขาวรอบ

ใคร ๆ ก็เกื้อกูล ต่อเรา ดีต่อเรา เขาหวังอะไร? จากเรา
เขาหวัง "อานิสสง"  จากเรา
เรามีคุณสมบัติ ทำให้เขาได้รับอานิสสง(สุขใจ) ได้หรือยัง !

เราเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพียงพอ ดีแล้วหรือยัง ! (สุปะฏิปัณโณ)

ถ้ายัง เราก็ต้องมีความเพียรในอินทรีย์ ๕ มีความเพียรในพละ ๕ มีความเพียรในโพชฌงค์ ๗ และมีความเพียรในมรรคมีองค์ ๘ ประการ ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป


ถึงป่วยต้องรับประทานอาหารมื้อเย็น
แต่ พี่สิงห์ ก็ดื่อแพ่ง ขอถือศีล ๘ ต่อไป
ดื่มน้ำปานะแทนข้าวมื้อเย็น เพราะมียาก่อนอาหาร

วันนี้เขียนธรรมมากมาย
เพื่อบอกทุกท่านว่า พี่สิงห์ ปกติดีครับ
จะออกจากโรงพยาบาล ก่อนเที่ยงวันอาทิตย์
ไปพักฝื้นที่บ้านโรงเรียนอินทร์โมลีประทาน

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดีทุกท่านครับ

วันนี้บ่าย คุณหมอเวรมาตรวจตามปกติ บอกว่าถ้าอยากกลับบ้านวันไหน ก็กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ เชิญตาม สะดวกเลย ได้บอกไปว่าจะกลับวันอาทิตย์

พยาบาลโรงพยาบาลรามาธิบดี โทรศัพท์มาแจ่งว่า  ผลการตรวจร่างกาย
- พบเลือด และพยาติในอุจจาระ เมื่ออยู่โรงพยาบาลอยู่แล้ว ขอให้ตรวจซ้ำอีกครั้ง และรักษาไปเลย (สงสัยมาจากผักสดที่รับประทาน)
- ผล อัลตร้าซาวด์พบก้อนเนื้อในถุงน้ำดี ขนาดไม่โตมากนัก อีกสามเดือนให้มาตรวจใหม่  ถ้ามันโตขึ้น คงจะต้องผ่าตัด (ต้องเฝ้าระวังตรงนี้แล้ว)
- เลือดปกติ
- หัวใจผิดปกติเล็กน้อย ให้ระวังว่ามีแน่นหน้าอกหรือไม่
- ไขมันสูงนิดหน่อย ให้คุมเรื่องอาหาร
- กรดยูลิคสูง เป็นตั้งแต่หนุ่มแล้ว แต่ก็ไม่ได้ปวดตามข้อแต่ประการใด

เป็นอันว่ามีการบ้านที่จะต้องปฏิบัติเพิ่มมากขึ้น ควบคุมการกิน  ออกกำลังกาย และก้อนเนื้อในถุงน้ำดี

ต้องเก็บเงินส่วนหนึางเป็นค่ารักษาพยาบาล ในอนาคตแล้วละเรา หลีกหนีไม่พ้น

จะให้ทางโรงพยาบาลสิงห์บุรีตรวจซ้ำ พยาติในอุจจาระ และก้อนเนื้อในถุงน้ำดี

ชีวิตนี้ เหลือเวลาไม่มากแล้ว  ต้องอยู่อย่างไม่ประมาท เพราะโอกาสที่จะเกิดเป็นมนุษย์นั้น ยากมาก  ต้องเร่งความเพียร  ดูแลร่างกาย งดเว้นเนื้อสัตว์ กินเท่าที่จำเป็นต่อร่างกาย  ผักสดคงต้อง เรียนวิธีล้าง ให้สะอาดใหม่ แล้ว

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ดร.สุริยา

พนักงานที่  PSTC จะส่งไปให้จะเอาอะไรอีกก็ว่ามา

สวัสดี

[Manop Klabdee]

พระพุทธองค์ ผู้เป็นศาสดา ยังต้องเสด็จปรินิพพาน เลย

เราเป็นพุทธบริษัท ก็ต้องตาย ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น หนีไม่พ้น

ต้งยอมรับความจริง เกิด แก่ เจ๋บ ตาย มีนเป็นเรื่องธรนมดา หนีไม่พ้น ทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ต้องประสบ

เรามายอมรับความจรืง  ยอมรับความตาย ที่จะมาถึงในอนาคต แต่ต้องไม่ไปกังวลกับมัน

ร่างกาย เจ็บป่วยก็ดูแล รักษามันไปตามความจริง

เรารักษาใจเราได้  เพราะไม่จำเป็นต้องพึ่งหมอ หรือพึงใคร

เราพึ่งตัวของเราเอง  อยู่ที่จะทำหรือไม่  ไม่ให้ป่วยใจ

สวัสดี

[suriya2513]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 05 มีนาคม 2558, 16:27:47
	ดร.สุริยา พนักงานที่  PSTC จะส่งไปให้จะเอาอะไรอีกก็ว่ามา สวัสดี

ขอบคุณมากครับ

[Manop Klabdee]

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

อาการป่วยโดยรวม ดีขึ้นมาก ตั้งแต่ผ่าวันจันทร์มา ไม่มีไข้ ความดันปกติ และไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากนัก  ยกเว้นแพ้ยาตอนแรกหลังผ่าตัดเท่านั้น

งดยาฉีดตั้งแต่เมื่อวาน กินแต่ยาแก้อักเสบก่อนกินข้าว และกินยาก่อนนอนแก้ต่อมลูกหมากโต เท่านั้น  ยาแก้ปวดไม่ได้กิน

วันนี้ คงตรวจอุจจาระ เพื่อหาพยาธิ ตามคำแนะนำของโรงพยาบาลรามาธิบดี

และสำหรับการตรวจอัลตร้าซาวด์ถุงน้ำดีใหม่ คงต้องรอให้แผลหายดีก่อน เพราะมันคงอยู่บริเวณใกล้กับช่องท้องที่ผ่า

ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง

ร่างกายคนเรามันก็เป็นอย่างนี้ เราใช้งานมันมานาน  ไม่เคยสนใจมัน หรือสนใจมัน แต่ไม่ทำตามที่มันต้องการ กลับทำตามความคิดตนเอง ด้วยความไม่รู้ เมื่ออายุมากขึ้น มันจึงมีแต่โรค

ทุกท่านขอให้ตรวจร่างกายประจำปีบ้าง  อย่าอวดเก่งเลย

พี่สิงห์  ดูแลร่างกายอย่างดีมาหลายปี  ตรวจร่างกายทุกปี  ยังหนีไม่พ้นเลย

สวัสดีครับ

[Manop Klabdee]

น่ายกมือสาธุ!

ตอนนี้มีคณะพระสงฆ์ไทย จำนวน ๒๐๐ กว่ารูป ท่านเดินธุดงค์ ๔ สังเวชนีย์ ตอนนี้ก็ถึงเมืองกุสินาราแล้ว เจอทั้งฝนที่ตกหนัก อากาศร้อน และอากาศหนาวมาก มีเวทนายิ่งนัก

[Manop Klabdee]

วันมาฆะบูชา ท่านอยู่วัดเวฬุวัน

ตอนนี้อยู่เมืองกุสินาราสถานที่พระพุทธองค์ทรงปรินิพพาน

[Manop Klabdee]

พระนพ  แห่งวัดป่าสุคะโต  ท่านรายงานทาง Facebook