คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Manop Klabdee]

อานิสสงของการฟังเทศน์พระเวสสันดรชาดกครบ ๑๓ กัณฑ์

จะได้ไปเกิดในสมัยพระพุทธเจ้าพระศรีอริยะเมตตรัย

เทศน์มหาชาติครั้งนี้ เณรได้ขนมขบเคี้ยวตามประสาเด็ก ๆ ต้องการมากมาย คงฉันได้เป็นเดือน เป็นที่ชอบใจของเณร และได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องการเทศน์ไปด้วยในตัว  ทำให้สังคมวัด-ชาวบ้าน ดีขึ้นมาก ๆ ครั้งนี้ คือมีความใกล้ชิดกัน

[Manop Klabdee]

สามเณรองค์นี้ เรียนระดับสามัญชั้น ม.๑
เทศน์ได้ไพเราะถูกต้อง เป็นที่ชื่นชอบของญาติโยม เป็นการเทศน์ครั้งแรก แต่สวดนะโม ก่อนการเทศน์ทุกครั้ง เพียงสองจบเพราะตื่นเต้นมากไปหน่อย เลยลืมนับ มันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะท่านจำไม่ได้ชั่วคราว

[Manop Klabdee]

องค์นี้ก็เทศน์ดีมาก ๆ  ม.๑ ถือว่าเป็นอันดับสอง ตัวเล็ก ๆ แต่เสียงดัง จังหวะแน่น และออกเสียงถูกต้องตามอัคระ

ญาติโยมชอบมาก ติดกัณฑ์เทศน์เกินสามพันบาท  มีความหมายสำหรับเณรมาก เณรเหล่านี้มาจากภาคเหนือ เป็นชาวเขา  เป็นชาวชนบทที่อยากไร้ ที่พ่อ-แม่ ไม่สามารถเลี้ยงดูได้  จึงต้องบวชเณร และเรียนหนังสือสายสามัญไปด้วย ทั้งหมดมีประมาณสามสิบองค์ ความประพฤติดี อยู่ในกรอบของศีล

กัณเทศน์ส่วนใหญ่จะเป็นนม  ขนมขบเคี้ยว และขนมต่าง ๆที่เณรชอบ

เงินค่ากัณฑ์เทศน์ที่ได้นั้น  สูงมากที่เณรไม่เคยได้รับมาก่อนเลยในชีวิต

[Manop Klabdee]

ทำอย่างไร? จะให้เณรเหล่านี้บวช-เรียน ศึกษาธรรมไปตลอดชีวิตได้

จะเป็นกำลังของพระศาสนาสืบไป เพราะบวชตั้งแต่เป็นเณรนั้น หาได้น้อยมากในปัจจุบัน หล่ยองค์ มีผบการเรียนที่ดี น่าจะจบ เปรียญ ๙ ประโยคได้ ก่อนบวชพระ ทำอย่างไรดีหนอ?



สามเณร องค์นี้เทศน์ดีมาก ม.๑ อาจจะเป็นอันดับหนึ่ง ในสายตาของพี่สิงห์

สวัสดีครับชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

เป็นครั้งแรกที่พี่สิงห์  ได้มีโอกาสฟังเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก ครบทั้ง ๑๓ กัณฑ์

ในแต่ละกัณฑ์นั้น มีตัวละคร ที่น่าจดจำ และคติธรรมมากมาย มากกว่าที่เราคิด

พี่สิงห์  ดีใจที่ได้สนับสนุนให้ลุล่วงไปด้วยดี ทุกคนได้รับบุญ อานิสสง สุขใจถ้วนหน้า

มีหลายตอนที่เกิดความปีติเกิดขึ้นมาก  จนต้องเตือนตัวเองด้วยการมีสติ เป็นผู้เห็น โดยเฉพาะตอน ฉกษัตริย์ จนฝนโบกกลพัต ตก เป็นครั้งแรก สองปีกว่าแล้วตั้งแต่แม่จากไป ไม่เคยมีปีติเกิดขึ้นแบบครั้งนี้เลย  ทำให้ได้ศึกษาอารมณ์ของปีติ ที่จะให้จิตมันจำได้

ทุกกัณฑ์ ที่พระ-เณรให้พร จะอุทิศส่วนกุศลให้พ่อ-แม่ ปู่-ย่า ตา-ยาย พี่-น้อง หลาน-เหลน ครู-อาจารย์ เพื่อฝูง เทวดา ท้าวโลกบาลทั้งสี่ ท้ายยมราช สัตว์นรก ดวงวิญญาณที่ล่องลอย เจ้ากรรม-นายเวร

แต่ภายหลังจากพระเทศน์จบทั้ง ๑๓ กัณฑ์ พระ-เณร ทั้งวัด ให้พรเต็มคณะ ไม่รู้เป็นอะไร จิตมันให้ขอพรให้ตัวเอง ขอให้พ้นทุกข์ในชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย เท่านั้น

สุขใจที่มีส่วนร่วมทำให้วัดพระนอน - ชาวบ้าน ยังรักษาประเพณีเทศน์มหาชาติสืบไปอีกปีหนึ่ง ทุกคนสุขใจ ได้บุญ ช่วยกันคนละไม้ละมือ ร่วมแรงร่วมใจกัน งานจึงสำเร็จด้วยดี

ก็ขอเอาบุญมาส่งให้ทุกท่านครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

กรรม คือการกระทำ ใครทำกรรมชั่วก็ตาม ใครทำความดีก็ตาม ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นเสมอ


ทั้งกรรมดี และกรรมชั่ว  บางครั้งกว่าจะเห็นผลของกรรมได้นั้น ต้องใช้เวลา เปรียบได้กับต้นไม้  กว่าจะโตใช้งานได้ ออกดอก  ออกผล ต้องใช้เวลาในการปลูก ในการดูแลรักษา กรรมก็เช่นเดียวกัน ผลของมันอาจจะไม่รวดเร็วถูกใจเรา เพราะใจของเรามันเต็มไปด้วยความอยาก

เทวดา ปราถนาเมื่อตายลงอยากกลับไปเกิดเป็นมนุษย์

เพราะการเกิดเป็นมนุษย์นั้น สามารถสร้างกรรมดีได้  ซึ่งเทวดาไม่สามารถสร้างได้

มนุษย์สามารถรักษาศีล กระทำความดี ก็สามารถตายไปแล้วไปสู่ภพที่ดีกว่าเดิม หรือ พ้นทุกข์ถาวรได้ นั่นคือความปราถนาของสัตว์โลก

ดังนั้น ท่านยังมีเวลาเร่งเพียรกระทำความดี ทั้งกาย ใจ มีศีล  สมาธิ  ปัญญา หรือดำเนินชีวิตด้วย มรรคมีองค์ ๘ ประการ เมื่อต้องจากโลกนี้ไปก็จะมีสุคติที่ดีแน่นอน

อย่าลืม กรรม ไม่ได้หมายถึงวิบากกรรม ที่เราต้องได้รับผลของกรรมอย่างเดียว  

กรรมนั้นเราสามารถสร้างกรรมดีได้ และจะได้รับผลของกรรมนั้น

วันนี้ทำงานอยู่โรงงานย้านแพ้ว สมุทรสงคราม

สวัสดี

[เหยง 16]

พี่สิงห์ครับ


เณรบวชและเรียนทั้งทางโลกและทางธรรม
หากสามารถไปถึง บาลีเปรียญ ๙ ก็ถือว่าสูงสุด
บวกกับการเรียนชั้นปริญญา ก็จะได้ดี
แม้จะสึกออกไปในช่วงหลังจากนั้น - ก็ไม่น่าจะไปถือสาหาความ ขอเพียงไปเป็นคนดี เป็นแกนนำของสังคม
ยังมีเด็กที่ยากไร้ อีกจำนวนมาก หากใช้ช่องทางนี้ ผมว่าชาวพุทธไม่ว่าแน่นอน
ขอเพียงทำตัวดี ปฎิบัติดี ก็เป็นใช้ได้
ขึ้นกับวาสนาครับ

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 กันยายน 2557, 17:51:33
	พี่สิงห์ครับ เณรบวชและเรียนทั้งทางโลกและทางธรรม หากสามารถไปถึง บาลีเปรียญ ๙ ก็ถือว่าสูงสุด บวกกับการเรียนชั้นปริญญา ก็จะได้ดี แม้จะสึกออกไปในช่วงหลังจากนั้น - ก็ไม่น่าจะไปถือสาหาความ ขอเพียงไปเป็นคนดี เป็นแกนนำของสังคม ยังมีเด็กที่ยากไร้ อีกจำนวนมาก หากใช้ช่องทางนี้ ผมว่าชาวพุทธไม่ว่าแน่นอน ขอเพียงทำตัวดี ปฎิบัติดี ก็เป็นใช้ได้ ขึ้นกับวาสนาครับ

สวัสดีครับ คุณเหยง

ขึ้นอยู่กับวาสนาและความเพียร แต่ต้องมีโอกาส ด้วย

สามเณรวีระพันธุ์ ที่พี่สิงห์ อุปัฏฐาก อยู่นั้น ปีหน้าคงจบ ปริญญาตรี เรียนที่สำนักวัดพิกุลทอง ทั้งทางโลก ทางธรรม  ถ้าสึกน่าเสียดาย เพราะความรู้ดี  พูดใช้ได้ และเทศน์เก่ง ถ้าเป็นพระต้องมีอนาคตแน่นอน ปีหน้า พี่สิงห์ ว่าจะให้บวชพระเสียที เป็นเจ้าอาวาสได้แน่ ๆ เพราะญาติโยมชอบเรื่องเทศน์ ทันคนรู้จักเทศน์

เทศน์มหาชาติที่ผ่านมา สามารถเทศน์คู่กับพระอุปัฏฌา เจ้าคณะตำบลได้ และต้องเทศน์คู่เป็นพี่เลี้ยงให้กับเณรใหม่ ๆ ถึง ๘ กัณฑ์ด้วยกัน เพราะญาติโยมอยากให้ได้เงินกัณฑ์เทศน์เอาไปเรียน รวมทั้งพี่สิงห์ ด้วย น่าจะได้มากกว่าสองหมื่นบาท ถ้าไม่หักเข้ากองกลางของวัดและแบ่งให้เณรที่เหลือที่คอยเป็นผู้ช่วย และเรียนรู้การเทศน์ เพราะถือเป็นพี่ใหญ่ แบบอย่างของเณรในการใฝ่ดารศึกษา พ่อ-แม่เณรตายหมดแล้วเหลือแต่พี่สาวที่มีครอบครัวแล้ว  จึงไม่มีที่ไปทั้งสิ้น ไม่กลับบ้านมาตั้งแต่บวชเณร เพราะไม่มีที่ไป



สวัสดี

[ติ๋ม จันทร์ฉาย]

อนุโมทนา สาธุ

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 กันยายน 2557, 17:51:33
	พี่สิงห์ครับ เณรบวชและเรียนทั้งทางโลกและทางธรรม หากสามารถไปถึง บาลีเปรียญ ๙ ก็ถือว่าสูงสุด บวกกับการเรียนชั้นปริญญา ก็จะได้ดี แม้จะสึกออกไปในช่วงหลังจากนั้น - ก็ไม่น่าจะไปถือสาหาความ ขอเพียงไปเป็นคนดี เป็นแกนนำของสังคม ยังมีเด็กที่ยากไร้ อีกจำนวนมาก หากใช้ช่องทางนี้ ผมว่าชาวพุทธไม่ว่าแน่นอน ขอเพียงทำตัวดี ปฎิบัติดี ก็เป็นใช้ได้ ขึ้นกับวาสนาครับ

[Manop Klabdee]

สวัสดีค่ะ คุณน้องจันทร์ฉาย ที่รัก และ
สวัสดีครับชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

ขอบคุณมาก

อย่าลืม ! คนเรานั้นทุกข์ เพราะอะไร ?

คนเราทุกข์ เพราะความคิด
คนเราทุกข์ เพราะไม่เห็นความคิด
คนเราทุกข์ เพราะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความคิด
คนเราทุกข์ เพราะกระทำตามที่ความคิดมันสั่งให้ทำตามที่มันคิด

นี่คือต้นเหตุ แห่งการเกิดความทุกข์ ทั้งทุกกาย และทุกใจ เพราะหลงว่า เป็นตัวกู ของกู หรือ หลงว่าเป็นตัวเรา เป็นตัวตนของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นของเรา

แต่ถ้าเมื่อไรเรามีความรู้สึกตัวที่กาย หรือมีสติ ความทุกข์มันก็หาย(ดับ)ไปแล้ว นี่คือความจริง หรือ

เพียงเปลี่ยนทัศนคติทางความคิดจาก เปลี่ยน"หลง"(หลงอยู่ในความคิด หรือโมหะ) มาเป็น"รู้" คือรู้สึกตัว ความทุกข์มันก็ไม่มีแล้ว

แต่จะ "รู้" หรือรู้สึกตัวได้อย่างรวดเร็ว เร็วกว่าความคิด หรือเห็นความคิดได้อย่างไรนั้น มันก็ต้องสร้างความรู้สึกตัวให้เกิดขึ้นให้ได้ ด้วยการฝึกเจริญสติปัฏฐาน ๔ ให้มาก ๆ ด้วยความเพียรยิ่ง จนเหมือนกับเราหลงอยู่ในความคิด เช่นเดียวกัน จนความรู้สึกตัวเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรานั่นเอง

อย่าลืม สติ มันมีความเร็ว มากกว่า ความคิด เร็วยิ่งกว่าหนูเห็นแมวต้องตะปบทันที

ดังนั้น ต้องสร้างควาามรู้สึกตัวให้สามารถแยก ความรู้สึกตัว(สติ) ความคิด และการเคลื่อนไหวออกจากกัน เป็น ๓ ส่วน คือ

เห็น(รู้สึก)กายเคลื่อนไหว
มีความรู้สึกตัว(สติ) เป็นผู้ดู
เห็นความคิด และอารมณ์หรือปรมัตถ์ธรรม ที่เกิดขึ้นกับจิต

เพียรสร้างความรู้สึกตัว "รู้ซื่อ ๆ" เป็นกลาง นี่แหละ คือทางอันเป็นเอกสายเดียวที่จะนำพาไปพบพระนิพพานได้

หลวงพ่อคำเขียน  ท่านย้ำหนักหนา ก่อนที่จะละสังขารจากโลกนี้ไป ทางนี้ไม่หลงทาง สามารถพ้นทุกข์ถาวร พบพระนิพพานได้จริง "ท่านทำให้ดู อยู่ให้เห็น  และเย็นได้สัมผัส"

พี่สิงห์ อยู่สนามบินดอนเมือง กำลังจะเดินทางไปทำงานที่เชียงราย บ่ายนี้

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

พี่สิงห์ อยู่เชียงราย พักที่ Laluna hotel and resort

วันนี้ได้สอนเรื่องการทำงานเสาเข็ม และการทำคอนกรีตผสมเสร็จ รวมทั้งสอนธรรม การปฏิบัติธรรม เเพราะทั้งเจ้าของ และลูกน้อง ใฝ่ปฏิบัติธรรม แต่ยังแยกความรู้สึกตัวไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าความรู้สึกตัวคืออะไร ? ได้แต่ความสงบเมื่อไปปฏิบัติธรรม อยู่วัด

ยังไม่ได้เห็นอะไรเลย เพราะอยู่แต่โรงงานจนค่ำ

วัสดี

[เหยง 16]

พี่สิงห์


หากเณรยังเรียนต่อไปได้ทั้งทางบาลีและต่อปริญญาโท
ก็น่าส่งเสริมต่อไป ยิ่งเรียนสูง ต่อไปอาจไปเป็นครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยสงฆ์ก้ได้
ที่นครสวรรค์มีอดีตพระที่เคยบวชเรียน จบเปรียญ 5 ขึ้นไปและเรียนมหาวิทยาลัยนเรศวร
เรียนจนจบดอกเตอร์และสึกแล้ว ไปเป็นอาจารย์สอน มจร. จนได้เป็น ผศ.ก็มีหลายคนแล้วครับ
ส่วนที่ยังไม่สึก ก็ได้เป็นพระครูชั้นพิเศษ (เปรียญ 5 + ป.โท) ก็เป็นอาจารย์ที่ มจร.ด้วยเช่นกัน
ยังไม่นับรวมตำแหน่งเจ้าอาวาสล รองเจ้าอาวาส และผู้ช่วยเจ้าอาวาส ก็มีอีกหลายรูป

[เหยง 16]

หากเทศน์ดี แหล่ดี อาจจะเป็นแบบทศพร หิมพานต์ ก็ได้ครับ
ทศพร หิมพานต์ ก็ไปจากพระ ซึ่งบวชเรียนที่นครสวรรค์นี่เองครับ

[เหยง 16]

ตามติดชีวิตลูกทุ่ง : 'ทศพล หิมพานต์' จากนักบวชสู่นักแหล่ 19 ก.ค. 57 (1/4) .

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=YcK_ppoHHVo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=YcK_ppoHHVo</a>

[เหยง 16]

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=85iHz--ZZPA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=85iHz--ZZPA</a>

[เหยง 16]

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=gh4W1OOikw4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=gh4W1OOikw4</a>

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ คุณเหยง

ขอบคุณมาก ที่เอาประวัติของ ทศพล  หิมพาน มาบอกให้ทราบ

พี่สิงห์  คงทำอะไรไม่ได้ แล้วแต่เณร  เพราะชีวิตของเณร เณรต้องเลือกทางเดินเอาเอง  เราเป็นเพียงตัวช่วย เท่านั้น

สวัสดี

[Manop Klabdee]

รำลึกภาพในอดีต อาหารเช้าของชาวค่ายโรงเรียนบ้านหนองหว้า อำเภอกุมภวาปี  จังหวัดอุดรธานี

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน
 
วันนี้วันอาทิตย์  วันครอบครัว

เช้าวันนี้ พี่สิงห์  ไปออกกำลังกายตีกอล์ฟ วันนี้ตีกับสองผัว-เมีย ชาวญี่ปุ่น ที่อยู่เมืองไทยมามากกกว่า ๒๐ ปี นิสัยดี และเล่นกอล์ฟดีด้วย เล่นด้วยกันมาหลายครั้งจนคุ้นกันดี จะรู้จักพูดคุยกันสบาย เพราะเขาชอบตีกับพี่สิงห์  ต้องการเรียนรู้และเล่นกับคนที่เก่งกว่าเขา  จึงสนุกตั้งใจเล่นมาก

กลางวัน วันนี้ฝนตกที่บ้านหนักเอาการแต่ตอนนี้แสงแดดจ้าเลย

พี่สิงห์ พักผ่อนอยู่บ้าน

สวัสดี

[Manop Klabdee]

คนเราเกิดมานั้น ไม่ใช่มาชดใช้กรรมเก่าอย่างเดียว!

คนเราเกิดมานั้น พระพุทธองค์ท่านให้กระทำความดี กระทำกุศล เพิ่มเช่น ทานบารมี ศีลบารมี วิริยบารมี ปัญญาบารมี...เพิ่มขึ้นเพื่อว่าเมื่อตายไปแล้วจะได้ไปเกิดในภพที่ดีกว่าเดิม หรือเกิดมาเป็นมนุษย์อีกเพื่อสร้างบารมีให้สูงยิ่ง ๆขึ้น ไป จนสามารถบรรลุธรรม ได้ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารอีก

อย่าลืมเทวดา  พรหม พระโพธิสัตว์  ก็ยังต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกเพื่อสร้างบารมีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนสามารถบรรลุธรรม

ดังนั้น ทุกท่านยังไม่ตาย ยังมีโอกาสในการสร้างบารมี ๑๐ ทัศน์เพิ่ม

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ผู้ใดเห็นทุกข์  ผู้นั้นเห็นธรรม !

ทุกข์ ในที่นี้ เป็นทุกข์ใจ นะครับอย่าลืม ?

เมื่อมีทุกข์เกิดขึ้น ขอให้มีสติ หรือมีความรู้สึกตัว อย่าหลง ไหลไปกับความคิด หรือทุกข์ที่ประสพนั้น เพราะมันจะจมปรักอยู่ในกองทุกข์ จะถอนออกมาลำบากหรือไม่ได้ สุดท้ายก็หาทางออกไปในทางอกุศล จนได้ มีให้เห็นเสมอ

ทุกข์ ความคิด เมื่อเกิดขึ้น มันจะคงอยู่ ถ้าเราไม่หลงคิด ไหลไปกับความคิด หรือกระทำตามความคิด ความคิด ทุกข์ นั้นมันจะดับด้วยตัวของมันเอง ธรรมชาติของกิเลสที่มาเกาะจิตมันเป็นอย่างนี้ และทุกข์นั้น ไม่มีใครทุกข์ตลอดไป ชีวิตคนจะมีทุกข์ สุข เฉย ๆ สลับกันอย่างนี้ตลอดเวลาตามเหตุ-ปัจจัย ไม่มีใครทุกข์ตลอดไป ไม่มีใครสุขตลอดไป เมื่อใดท่านประสพทุกข์ ให้คิดว่าเป็นผู้เห็นความทุกข์แทน ความทุกข์มันก็จะดับไปเอง เปลี่ยนจากผู้เป็น มาเป็นผู้เห็น

เมื่อเป็นผู้เห็น ก็จะรู้จักตัวทุกข์ที่เกิดขึ้น รู้จักเหตุแห่งทุกข์นั้น และจะรู้วิธีดับทุกข์นั้น เรียกว่าเห็นธรรมได้

เมื่อใดมีทุกข์  ถ้าท่านสามารถทำให้สติให้เกิดขึ้น คือรู้สึกตัว เป็นผู้เห็นทุกข์ได้ ด้วยสติ ท่านจะเห็นสาเหตุแห่งการเกิดทุกข์ ด้วยเหตุ-ปัจจัยอะไร เมื่อเห็นสาเหตุ ท่านก็จะแก้ที่ต้นเหตุ-ปัจจัยนั้นลงได้  ความทุกข์ก็จะหมดไปเพราะจิตของท่านเห็นความจริงในทุกข์นั้น  จิตท่านยอมรับในเหตุ-ปัจจัยในสาเหตุนั้น

แต่คนส่วนใหญ่ พอมีทุกข์เกิดขึ้นก็หลงไปกับมัน ไหลไปกับมัน ต่อต้านมัน กลายเป็นเพิ่มความทุกข์ให้กับตนเองเข้าไปอีก  สลัดก็ไม่หลุด จึงมีแต่ทุกข์ แล้วก็หลงอยู่อย่างนั้น

แต่ถ้าบุคคลใดมีสติ เมื่อทุกข์เกิดขึ้น ยอมรับมัน รู้จันมัน ว่าทุกข์นั้นเกิดจากอะไร  จะแก้ไขอย่างไร ความทุกข์มันก็เบาบางลง หรือหมดไปได้ เพราะเห็นเหตุ-ปัจจัยในการเกิดทุกข์ และวิธีดับทุกข์

ดังนั้น เมื่อมีทุกข์  ก็จะเห็นธรรม ถ้าท่านมีสติ หรือรู้สึกตัว

วันนี้ต้องไปทำงานที่โรงงานบ้านแพ้ว

สวัสดี

[เหยง 16]

พี่สิงห์ และชาวค่ายหอจุฬาฯ

เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่งดงาม จากการได้ไปบำเพ็ญประโยชน์ ต่อโอกาสให้เยาวชนรุ่นหลังๆ ได้มีโอกาสศึกษาหาควมรู้
มีโรงเรียนที่สภาพดีขึ้น โอกาสก็ไปหาพวกเขา ศึกษาธิการก็จัดงบ-จัดครู-อุปกรณ์การเรียนการสอน ลงไปให้
เด็กๆ ได้รับโอกาส ก็มีความรู้ และไปศึกษาต่อเมื่อจบชั้นสูงสุด
เสียดายว่า ปัจจุบัน การทำแบบนี้ (สร้าง-ซ่อม โรงเรียนหลังใหม่) ไม่สามารถทำได้อีก
เพราะราชการพยายามจัดงบลงไปให้ เพื่อแบ่งเปอร์เซ็นต์จากการก่อสร้าง

อย่างไรก็ตาม ต้องของชื่นชม เพราะนับแต่นั้นมา โรงเรียนแห่งนี้คือที่สร้างเด็กของชาติ
น่าจะมีเด็กๆ จากที่แห่งนี้ไปเติบโตในหลายๆด้าน หลังจบการศึกษาไป

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ คุณเหยง

ขอบคุณมาก

เพราะการสร้างโรงเรียนบ้านหนองหว้า หลังนี้ เป็นเหตุให้พี่สิงห์ มีกัลยาณมิตร จากชาวค่ายทุกคน

อานิสสง คือทำให้พี่สิงห์  ทำงานเป็น มีคนค้ำชูอุปถัมภ์ให้งานทำมาจนถึงปัจจุบัน

ยังระลึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ดี เพราะเป็นเหตุการที่งดงาม คุ้มค่าที่ระลึกถึง  มันคือความทรงจำดี ๆ นั่นเอง  แต่ก็ไม่ได้ยึดติดกับมัน เพราะมันเป็นอดีตไปแล้ว

เป็นสิ่งหนึ่งที่ภูมิใจ  ที่ได้ทำ และทำได้ ในฐานะนิสิต จุฬาฯ คนหนึ่ง พึงกระทำ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้ อยู่บ้านได้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน ฝนตกตั้งแต่เช้าเลย แต่พระท่านก็มาบิณฑบาตร เพราะเป็นกิจของท่าน

วันนี้ วันที่ ๓๐ กันยายน เป็นวันสุดท้ายสำหรับพวกข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจ  ที่จะได้ทำงานเป็นวันสุดท้าย เป็นวันเกษียรอายุข้าราชการที่ทำงานมาครบอายุ ๖๐ ปี เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจของหล่ยคน

สอ่งที่แบกอยู่บนบ่า คือของกู  กูเป็นนั่น  นั่นเป็นของกู  จะได้ปลดลงออกจากบ่าแล้ว  บ่าจะว่าง แต่อย้าไปหาอะไรมาแบกต่อก็แล้วกัน

ขอต้อนรับผู้สูงอายุทุกท่าน  ท่านจะได้รับเบี้ยยังชีพจากรัฐบาล!

สำหรับผู้สูงอายุ ท่านมีเวลา ควรจะศึกษา-ปฏิบัติธรรม ให้มากอยู่ด้วยความไม่ประมาททั้งกาย-ใจ

ระวังสุขภาพให้มาก ด้วยการรู้จักกิน  ออกกำลังกาย  พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นหมอดูแลตนเอง

และระวังใจตนเอง อย่าหลงไปกับความคิด อดีตที่ผ่านมา ให้อยู่กับปัจจุบัน ทำคุณประโยชน์ให้ส่วนรวมเท่าที่เราสามารถทำได้ และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน รวมทั้งตัวของเราด้วย

ผู้สูงอายุ  ถ้าไม่อยู่กับธรรม  จะมีแต่ทุกข์ โปรดจงจำให้แม่น

สวัสดี

[too_ploenpit]

...พี่สิงห์คะ...

...ตอนตู่ไปค่ายก็ไม่ได้หวังอะไรมากค่ะ...

...แค่หาประสบการณ์...และพูดตรงๆว่าตอนนั้นไม่มีที่ไป...

...จะหยุดอยู่บ้านเฉยๆก็คิดว่าคงไม่ได้ประโยชน์อะไร...

...คุณพ่อก็ห้ามค่ะว่าอย่าไปเลยลำบากเปล่าๆ...

...แต่ตู่บอกพ่อว่าไม่ต้องห่วงหนู...ให้หนูไปเถอะ...สุดท้ายท่านก็ยอมค่ะ...

...ประสบการณ์จากค่าย...ถึงแม้ตู่จะทำได้ไม่ดีที่สุดอย่างที่ควรจะเป็น...

...แต่ก็ให้สิ่งดีๆในชีวิตกลับมามากมายอย่างคาดไม่ถึงค่ะ...

...ตู่ภูมิใจมากกับการเป็นชาวค่ายค่ะ...

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 30 กันยายน 2557, 10:17:47
	...พี่สิงห์คะ... ...ตอนตู่ไปค่ายก็ไม่ได้หวังอะไรมากค่ะ... ...แค่หาประสบการณ์...และพูดตรงๆว่าตอนนั้นไม่มีที่ไป... ...จะหยุดอยู่บ้านเฉยๆก็คิดว่าคงไม่ได้ประโยชน์อะไร... ...คุณพ่อก็ห้ามค่ะว่าอย่าไปเลยลำบากเปล่าๆ... ...แต่ตู่บอกพ่อว่าไม่ต้องห่วงหนู...ให้หนูไปเถอะ...สุดท้ายท่านก็ยอมค่ะ... ...ประสบการณ์จากค่าย...ถึงแม้ตู่จะทำได้ไม่ดีที่สุดอย่างที่ควรจะเป็น... ...แต่ก็ให้สิ่งดีๆในชีวิตกลับมามากมายอย่างคาดไม่ถึงค่ะ... ...ตู่ภูมิใจมากกับการเป็นชาวค่ายค่ะ...

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

สิ่งที่เราได้คือ กัลยาณมิตร ของพวกเราชาวค่ายไง !

มันตีค่าเป็นเงิน เป็นสิ่งของไม่ได้  แต่มันมีค่าทางจิตใจ ให้เราได้ระลึกถึง

เพราะเวลาระลึกขึ้นมา มันมีแต่สุข  สุขที่ได้ทำงาน และได้บทเรียนอันล้ำค่า ที่หาไม่ได้มากมายนักในชีวิตคน ที่เป็นผู้ให้ ด้วยใจซื่อ ๆ

สวัสดีค่ะ

[Manop Klabdee]

พรุ่งนี้วันพระ เป็นวันพระก่อนที่จะออกพรรษา ประจำปีนี้

ความตั้งใจใกล้จะเป็นจริง คือไปทำบุญอยู่วัดทุกวันพระ เป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย ต้องตั้งใจจริง ๆ เพราะมันก็มีมารมาผจญมาก ต้องกระทำตามที่ตั้งใจให้ได้ ไม่ให้แพ้ใจตนเอง

วันนี้มีงานเลี้ยงเกษียรคุณหมอวิฑิต-คุณวีรยา  น้องสาวที่ขอรีไทร์ตัวเองด้วย จากโรงพยาบาลสิงห์บุรี คลีนิคผู้ป่วยเรื้อรัง และแผนกปฐมภูมิ ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน ก่อนที่จะมาเป็นคนไข้ของโรงพยาบาล คือถ้าไม่เป็นมากก็ดูแลอยู่ที่บ้าน มีหมอ-พยาบาล -จิตแพทย์ไปดูแลที่บ้าน

มันเป็นเรื่องจิตใจ  ก็เลยต้องไป นอนค้างคืนที่สิงห์บุรี จะได้สะดวกในการไปทำบุญ ไม่ต่องตื่นตีสี่ขับรถไป  ชักรู้ตัวเองว่า การขับรถแย่ลง ๆ คือแก่นั่นเอง

สวัสดี