Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #12850 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2557, 14:06:39 » |
|
สวัสดีครับ คุณสมชาย
อวิชชา สังขาร วิญญาณ รูป-นาม สฬายตนะ สัมผัส เวทนา ล้วนเป็นธรรมชาติทั้งสิ้น มันต้องมี ต้องเป็น ของมันอย่างนั้น
เวลาเจริญสติ จนสามารถละนิวรณร์ ๕ ได้ ลองให้จิตมันพิจารณา ขบวนการเกิดทุกข์ ขบวนการเกิดของสัตว์โลกในวัฏฏะสงสาร จะเห็นว่ามันเป็นจริง อยู่ในปฏิจจสมุปบาท นี้ นี่ละสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ และขยายออกเป็น 84000 พระธรรมขันธ์ พร้อมทั้งวิธีปฏิบัติให้พ้นทุกข์ ให้พ้นวัฏฏะสงสาร มันขยายออกไปจากปฏิจจสมุปบาท ทั้งสิ้น
จงพิจารณาให้เห็นธรรมอันนี้
อย่าลืม ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ จะทรงสอนก็ต่อเมื่อจิตของผู้นั้น เป็นสมาธิจนสามารถละนิวรณ์ ๕ ได้ แล้ว และพระพุทธองค์ ให้ฟังไปพิจารณาธรรมไป เพราะธรรมนั้น มันอยู่ในรูป-นาม ของเรานั่นละ แล้วจะพบความจริงในธรรม คือได้ดวงตาเห็นธรรม คือเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เห็นธรรมได้จากตาภายใน นั่นละทางพ้นทุกข์ละ
อย่าคิดด้วยเหตุ-ผล แต่พิจารณาในตัวตนของเราในธรรมนั้น เพราะมันเกิด-ดับ ตลอดเวลาอยู่แล้ว จงเป็นผู้ดู ผู้รู้ ผู้เบิกบาน อย่าไปเป็นผู้กระทำเสียเอง คือหลงอยู่ในความคิด จงแยก สติ ออกจากความคิด ออกมาเป็นผู้ดู เถิด แล้วจะพบความจริง
สวัสดี
|
|
|
|
|
สมชาย17
|
|
« ตอบ #12852 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2557, 20:20:20 » |
|
สวัสดีครับ พี่สิงห์
ผมอ่านและพยายามเข้าใจตาม หลายเรื่องก็เข้าใจ แต่ปฏิบัติได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
และเป็นผู้เล่น ผู้ลุ่มหลงซะเอง มากกว่าจะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น
สติมีบ้าง ไม่มีบ้าง เพราะหลงไปกับเรื่องที่พบเห็น เรื่องที่มากระทบอยู่ แล้ว in ไปกับเรื่องๆนั้นๆ จนเป็นผู้เล่น ไม่ได้เป็นผู้ดู ผู้รู้. นานๆ จึงจะเป็นทั้งผู้เล่นและผู้รู้ควบคู่กันไป
การได้อ่าน บทความของพี่สิงห์ ทำให้ได้ทบทวน และเป็นเครื่องเตือนสติ ได้เสมอ ครับ
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #12854 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2557, 08:42:08 » |
|
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน
วันนี้ อยู่บ้าน ได้หุงข้าว เดินจงกรมออกกำลัง ฝึกชิกง-โยคะ และใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน
เรื่องความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ที่เกิดจากการเจ็บป่วยนั้น ท่านพึงระวังจงหนัก ไม่ช้า ไม่นาน มันต้องมาเยือนเรา ไม่ละเว้นเพราะปัจจัยต่าง ๆ มันมีอยู่
จงระวังเรื่องการกิน ต้องออกกำลังกาย และมีจิตที่ผ่องใส ด้วยการเจริญสติ
มันไม่สามารถไปหาหมอ กินยา แล้วหายได้ มันเป็นเพียงระงับอาการชั่วคราวเท่านั้น สู้ป้องกันที่สาเหตุ คือการกิน ออกกำลังกาย นอนหัวค่ำ และเจริญสติ ให้เห็นความจริงในธรรม ดีกว่า แล้วเราจะควบคุมตนเองได้ ด้วยใช้ปัญญา ไม่หลงอยู่ในความคิด
การเขียน ปฏิจจสมุปาบาท นั้น มันต้องให้จิตมันเห็นความจริงในธรรมนั้น จึงจะเขียนได้
จะเห็นความจริง มันก็ต้องเจริญสติ และคอยให้จิตมัันระลึกขึ้นมาของมันเอง เราก็พิจารณาในรูป-นาม ของเรานี้แหละ เพราะทุกข์ มันเกิดขึ้นตลอดเวลา เกิด-ตั้งอยู่-ดับไป เช่นเดียวกับสัตว์โลกในวัฏฏะสงสาร เกิด-มีชีวิตอยู่-ตาย มันเป็นเช่นนี้
วันนี้จะหาโอกาสมาเขียนต่อให้จบครับ
สวัสดี
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #12856 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2557, 10:00:14 » |
|
สวัสดีครับพี่สิงห์
ผมไปประชุมร่วมกับ UNDP เรื่องปลูกข้าวโพดที่เพชรบูรณ์มา รวม 3 วัน ผ่านโรงเรียน บ้าน กม. 30 อ.หล่มสัก ซึ่งพี่เจษฎา นาคะบุตร มีบ้านอยู่ตรงนั้น แต่ไม่ได้แวะครับ เนื่องจากขับผ่านเลยจนกลับรถไม่ทัน ต้องหาโอกาสในครั้งหน้าแวะเยี่ยมสักครั้งหนึ่งครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #12857 เมื่อ: 04 สิงหาคม 2557, 10:38:25 » |
|
สวัสดีครับ คุณเหยง
ขอบคุณมาก ที่ยังระลึกถึงกันและกันอยู่
ความสุขของมนุษย์ มันก็อยู่ตรงนี้ละ
สวัสดี
|
|
|
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #12862 เมื่อ: 05 สิงหาคม 2557, 07:14:08 » |
|
ขอขอบคุณ คุณสมชาย ที่ได้ขอให้พี่สิงห์ อธิบาย ปฏิจจสมุปาบาท
เพราะทำให้พี่สิงห์ ได้ทบทวนธรรมนี้ เขียนตามที่ตนเองพิจารณาเห็นในธรรม ตามนั้น
ปฏิจจสมุปาบาท นั้นลึกซึ้งยิ่งนัก เพราะตรัสรู้ใน ปฏิจจสมุปาบาท นี้เอง จึงมีคำสอนตามมาในการประกาศพระศาสนาถึง 84,000 พระธัมขันธ์ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเข้าใจ
ท่านต้องพิจารณาตามเวทนาที่เกิดขึ้น กับรูป-นามของท่าน หรือพิจารณาเห็นความคิดของท่าน ท่านจะเข้าใจได้โดยง่าย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกต้องพุทธตรัสรู้หรือไม่
พี่สิงห์ มีเวลาก็จะเอาธรรมที่เกี่ยวข้องมาอธิบายเพิ่มเติมให้
วันนี้เช้าได้หุงข้าว เดินจงกรมออกกำลังกาย ใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน
วันนี้ต้องเดินทางไปทำงานที่ PSTC สระบุรี
สวัสดี
|
|
|
|
สมชาย17
|
|
« ตอบ #12863 เมื่อ: 05 สิงหาคม 2557, 11:43:26 » |
|
ขอบคุณครับ พี่สิงห์
ผมได้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นอีก. แต่ก็เป็นแบบพี่สิงห์กล่าวไว้ ต้องปฏิบัติสม่ำเสมอและพิจารณาตามความเป็นจริง
ไม่ตัองปรุงแต่ง ซึ่งไม่ง่ายเพราะความคิดดั้งเดิมที่ติดมาจะเป็นตัวเข้ามาปรุ่งแต่ง
ทุกสรรพสิ่ง จะเกิดขึ้นได้ ต้องมาจากเหตุและปัจจัย. ถ้าไม่มีเหตุและปัจจัยก็จะไม่เกิด
ขอบคุณพี่สิงห์ อีกครั้งครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #12864 เมื่อ: 05 สิงหาคม 2557, 20:59:18 » |
|
ขอบคุณมากครับ คุณสมชาย
ถูกต้องแล้วธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้น ล้วนมีเหตุ-ปัจจัย ทั้งสิ้นมันเกิดขึ้นเองไม่ได้
ถ้าเหตุ-ปัจจัยดับ ผลจึงไม่มี เป็น ธรรม ที่เรียกว่า "อิทัปปัจจยตา"
พระพุทธองค์ทรงค้นพบในคืนแรกหลังจากการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ ที่ทรงนั่งครั้งเดียวโดยที่ไม่ได้ทรงลุกเลยที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่ทรงตรัสรู้นั้น เป็นเวลา ๗ วันเพื่อพิจารณา ทบทวนธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้ ทรงมนสิการปฏิจจสมุปาบาท เป็นทั้งโดยอนุโลมและปฏิโลมดังนี้
ในปฐมยาม ทรงพิจารณาโดยอนุโลม เพราะ อวิชชา เป็นปัจจัย สังขารทั้งหลายจึงมี เพราะ สังขาร เป็นปัจจัย วิญญษณจึงมี เพราะ วิญญาณ เป็นปัจจัย นามรูปจึงมี เพราะ นามรูป เป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี เพราะ สฬายตนะ เป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี เพราะ ผัสสะ เป็นปัจจัย เวทนาจึงมี เพราะ เวทนา เป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี เพราะ ตัณหา เป็นปัจจัย อุปาทานจึงมี เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัย ภพจึงมี เพราะภพ เป็นปัจจัย ชาติจึงมี เพราะชาติ เป็นปัจจัย ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาสจึงมี
ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการฉะนี้
ทรงพิจารณาปฏิจจสมุปาบาทโดยปฏิโลม เพราะการดับอวิชชาโดยไม่เหลือด้วยวิราคะ การดับสังขารจึงมี เพราะการดับสังขาร การดับวิญญาณจึงมี เพราะการดับวิญญาณ การดับนามรูปจึงมี เพราะการดับนามรูป การดับสฬายตนะจึงมี เพราะการดับสฬายตนะ การดับผัสสะจึงมี เพราะการดับผัสสะ การดับเวทนาจึงมี เพราะการดับเวทนา การดับตัณหาจึงมี เพราะการดับตัณหา การดับอุปาทานจึงมี เพราะการดับอุปาทาน การดับภพจึงมี เพราะการดับภพ การดับชาติจึงมี เพราะการดับชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาสจึงมี
การดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการฉะนี้
ลำดับนั้น พระพุทธผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงทรงเปล่งพระอุทานนี้ในเวลานั้นว่า "เมื่อใด ธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีความเพียรเพ่งพิจารณาอยู่ เมื่อนั้น ความสงสัยทั้งปวงของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไปเพราะรู้ว่าธรรมมีเหตุ" เป็นพุทธอุทานคาถาที่ ๑
สรุปคือ ธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุ-ปัจจัย ทั้งสิ้น มันเกิดขึ้นเองไม่ได้ มันเป็นความจริงครับ
สวัสดี
|
|
|
|
|
supichaya
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2524
คณะ: เศรษฐศาสตร์
กระทู้: 213
|
|
« ตอบ #12866 เมื่อ: 06 สิงหาคม 2557, 09:34:35 » |
|
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะพี่สิงห์ พี่สิงห์มีบุญนะค่ะที่ได้มีโอกาสไปถึงสถานที่สำคัญของศาสนาพุทธ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #12867 เมื่อ: 06 สิงหาคม 2557, 12:08:13 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องก้อย ที่รัก
พี่สิงห์ ไปจาริกแสวงบุญที่ ๔ สังเวชนีย์ ๔ ครั้ง และไปร่วมสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติมาแล้ว ๑ ครั้ง ก็พยายามไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่ปัจจัยต่าง ๆ จะอำนวย การไปสถานที่ ๔ สังเวชนีย์ จิตมันสงบดี และร่างกายก็รู้สึกสบาย ได้มีเวลาในการปฏิบัติธรรม ห่างไกลสิ่งที่วุ่นวาย ทางใจ จึงมีสมาธิดี
อีกไม่กี่ปีคงไปไม่ได้แล้ว เพราะราคาทัวร์ของหลวงพ่อ แพงขึ้นทุกปี
ขอบคุณค่ะที่ยังระลึกถึงกัน
สวัสดี
|
|
|
|
supichaya
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2524
คณะ: เศรษฐศาสตร์
กระทู้: 213
|
|
« ตอบ #12868 เมื่อ: 06 สิงหาคม 2557, 14:19:20 » |
|
ถ้ามีโอกาสอยากไปสักครั้ง ทัวร์แพงไหมค่ะ
|
|
|
|
|
supichaya
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2524
คณะ: เศรษฐศาสตร์
กระทู้: 213
|
|
« ตอบ #12870 เมื่อ: 07 สิงหาคม 2557, 09:58:52 » |
|
ขอบคุณค่ะพี่สิงห์
|
|
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #12874 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2557, 05:06:54 » |
|
สวัสดียามเช้า ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่านครับ
เพราะความเป็นเรา ความเป็นตัวตนของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นของเรา หรือ
ตัวกู ตัวตนของกู กูเป็นนั่น นั่นของกู
มนุษย์ จึงหลงอยู่ในความคิดหรือโมหะ จึงมีแต่ความอยาก(ตัณหา)ตลอดเวลา จึงวนเวียนอยู่ในวัฏฏะสงสารไม่รู้จบ
ผู้ใดตัดความอยากในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสกาย และสัมผัสใจ ลงได้ หรือไม่กล่าวถึง ไม่ยินดี ไม่หลง ไม่เพลินเพลิน ย่อมพ้นทุกข์
วันนี้ ต้องไปทำงานที่โรงงาน มหาชัย บ้านแพ้ว สมุทรสงคราม
อย่าลืม เจริญสติ แยกตัวตนออกมาจากความคิด ด้วยสติ เป็นผู้ดู ดูอารมณ์ปรมัตถ์ต่าง ๆ ที่มากระทบจิต เมื่อเป็นผู้ดู จะรู้สึกตัว อารมณ์ต่าง ๆ ก็ดับไปแล้ว
การรู้สึกตัวหรือสติ นั้น รู้เฉย ๆ ไม่ยึดมั่นในสิ่งที่รู้ หรือไม่คิดต่อ เราจะรู้สึกตัวได้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เมื่อมีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสกาย สัมผัสใจ มาสัมผัส
สวัสดี
|
|
|
|
|