ปัจจวัคคีย์ บรรลุเป็นพระอรหันต์ เพราะคลายความยึดมั่นถือมั่นใน "รูป-นาม"
ภายหลังจากพระพุทธองค์ ทรงประการจักรธรรม คือทรงสอนปัจจวัคคีย์ ให้ดำเนินชีวิตด้วยทางสายกลาง ปฏิบัติตาม มรรคมีองค์ ๘ จนปัญจวัคคีย์ ทั้ง ๕ บรรลุเป็นพระโสดาบัน และขอบวชครบทั้ง ๕ องค์แล้
ค่ำวันหนึ่ง พระพุทธองค์ได้เรียกภิกษุปัญจวัคคีย์ ทั้ง ๕ มาสอนเรื่องพระไตรลักษณ์ ขณะนั้นปัญจวัคคีย์ก็ได้เจริญสติ จนเป็นสมาธิ ควรแก่งานที่จะบรรลุธรรม พระพุทธองค์ ทรางสอนว่า
ร่างกาย-จิตใจที่เราเข้าใจว่ามันเป็นตัวตนเรานั้น แท้ที่จริงมันไม่ควรจะเข้าใจอย่างนั้น สิ่งที่เราเห็นเราเข้าใจนั้นมันประกอบไปด้วย รูป และนาม
รูปคือ ร่างกายที่ประกอบไปด้วย ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ มาประชุมกันด้วยเหตุ-ปัจจัย เป็นร่างกายที่เห็นได้ ส่วนนามนั้น ไม่มีตัวตนเป็นเพียงธรรมชาติของการรู้อารมณ์ ที่เรียกว่า จิต ที่ประกอบไปด้วย เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
ทั้งรูปทั้งนาม นั้น มันไม่จิรัง คือไม่สามารถที่จะคงสภาพเดิมได้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุ-ปัจจัย
อะไรก็ตาม ในที่นี้ คือรูป-นามนั้นเมื่อมันไม่คงอยู่ในสภาพเดิม มันย่อมเป็นทุกข์
อะไรที่มันเป็นทุกข์โดยเฉพาะรูป-นามนั่น เราไม่สามารถที่จะบังคับให้เป็นไปในสิ่งที่เราต้องการได้เลย เมื่อเราไม่สามารถบังคับบัญชามันได้คือรูป-นาม เราต้องถือว่า รูป-นามนั้น ไม่ใช่ตัวตนของเรา
ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป โดยเฉพาะความคิด หรือทุกข์ สุข ที่เกิดกับจิตของเรานั้น มันเกิดขึ้น ดับไป เป็นธรรมดาของมันอย่างนั้น ถ้าเรา ไม่ไปปรุงแต่งตาม
หลังจากนั้นพระพุทธองค์ทรงถามภิกษุปัญจวัคคีย์ว่า
รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง ภิกษุปัญจวัคคีย์ตอบว่า ไม่เที่ยง
รูปที่ไม่เที่ยงนั้น เป็นสุข หรือทุกข์ ภิกษุปัญจวัคคีย์ตอบว่า เป็นทุกข์
รูปที่เป็นทุกนั้น ควรหรือที่เราจะยึดว่าเป็นตัวตนของเราหรือไม่ ภิกษุปัญจวัคคีย์ตอบว่า รูปนั้นไม่ควรยึดถือว่าเป็นตัวตนของเรา
และในทำนองเดียวกัน พระพุทธองค์ทรงถาม เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็ได้คำตอบเช่นเดียวกันคือ
รูป-นาม ไม่เที่ยง
รูป-นาม เป็นทุกข์
รูป-นาม เป็นอนัตตา
ในขณะที่พระพุทธองค์ทรงถามนั้น จิตของพระภิกษุปัญจวัคคีย์ ได้เห็นความจริงในธรรมนั้น สามารถคลายความยึดมั่นถือมั่นในรูป-นาม ลงได้ บรรลุเป็นพระอรหันต์ ทั้ง ๕ องค์
จะเห็นว่า ผู้ที่จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้นั่น จิตต้องตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียวเป็นเอกคตา คือบรรลุญาณที่ ๔ เมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ จิตพิจารณาเห็นจริงตามนั้น ก็บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์