Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9925 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2556, 05:41:32 » |
|
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน
วันนี้วันพระขึ้นสิบห้าค่ำ
ทำจิตให้ผ่องใส ไม่ปรุงแต่งมากนัก คิดในทางธรรม
มีสติ-สัมปชัญญะ อยู่กับปัจจุบัน
กระทำในสิ่งที่ก่อประโยชน์ และเป็นไปในทางสร้างกุศลกรรม
พี่สิงห์ต้องออกจากบ้านหกโมงเช้า ไปทำงานที่บ้านแพ้ว สมุทรสงคราม ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9926 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2556, 11:11:39 » |
|
ฝนเพิ่มขึ้นในภาคเหนือ ภาคอีสานเล็กน้อย กทม.และปริมณฑล มีฝนร้อยละ 40 ตกช่วงบ่ายถึงค่ำ
พยากรณ์อากาศ ประจำวันพุธที่ 21 สิงหาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่ หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะ 2-3 วันนี้ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้บริเวณอ่าวไทยตอนบน และทะเลอันดามัน จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “จ่ามี” (TRAMI) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีศูนย์กลางอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน กำลังเคลื่อนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ชม. และมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้บริเวณหัวเกาะไต้หวัน และด้านตะวันออกของประเทศจีน ในช่วงวันที่ 21-22 สิงหาคม 2556 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 40 ส่วนมากในช่วงเย็นถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9927 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2556, 11:14:25 » |
|
วันนี้ วันสาร์ทจีน หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือนเจ็ดตามจันทรคติ
คนจีนมีประเพณีนิยมในการไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ รวมทั้งทำบุญ-ทำทาน อาทิ พิธีเทกระจาด แจกจ่ายข้าวของให้ผู้มีรายได้น้อย-ผู้ยากไร้ ได้อิ่มในวันนี้ ถือเป็นทานอย่างหนึ่งที่สมควรปฎิบัติ หลังตักบาตรทำบุญกับพระสงฆ์ สามเณร ชี ในช่วงเช้าไปแล้ว
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9928 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2556, 20:00:16 » |
|
สวัสดีครับ คุณเหยง
วันนี้วันสารทจีน ที่โรงงานมีการแจกทับทิม ขนมเข่ง ขนมเทียน และขนมเค็ก ให้กับคนงานและพนักงานทุกคน
พี่สิงห์ ก็ได้กินขนมเทียน และได้รับของแจกมาหนึ่งชุด
พรุ่งนี้เลยมีผลไม้ ขนมใส่บาตรพระยามเช้าครับ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9929 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2556, 21:03:27 » |
|
สวัสดีครับ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง และชาวซ๊มะโด่ง ที่รักทุกท่าน
รูปนี้ ถ่ายเมื่อบ่ายวันนี้เอง น้ำหนักอยู่ที่ ๖๗ กิโลกรัม
การได้เดินดูคนงานทำงาน (ชาวพม่า) มีความสุขอย่างหนึ่ง ของผม เพราะไม่ต้องคิดมาก
มีอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร ก็แนะนำ ใช้ภาษาอังกฤษ ปนภาษาใบ้ เพราะพม่าชุดนี้ยังพูดไทย ไม่ได้เลย
ขอตัวไปสวดมนต์ทำวัตรเย็น ก่อนนอน วันนี้วันพระ
ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9931 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2556, 06:24:24 » |
|
สวัสดียามเช้าตรับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน
เช้านี้ได้นั่งภาวนา สวดมนต์ทำวัตรเช้า ได้ทบทวนคำสอนของหลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ ได้หุงข้าวเพื่อใส่บาตรพระ ได้ทำ Detox เรียบร้อยแล้ว กำลังจะไปตลาดลุงเพิ่มเพื่อซื้อกับข้าวใส่บาตรพระ และเอาไว้รับประทาน
ธรรมะ ที่หลวงพ่อเทียนท่านแสดงนั้น เป็นเรื่องจริง ท่านสามารถสัมผัสได้จริงด้วยตัวท่านเอง ลองทำให้จริง ด้วยศรัทธา และมีวิริยะ เอาชนะจิตตนเองให้ได้ ท่านก็จะรู้ด้วยตัวของท่านเอง เช่นกัน อย่างไม่ดีสุด ท่่านจะได้รู้ความคิด แต่ถ้าท่านเห็นความคิด ก็เป็นวาสนาของท่าน
ธรรมะของพระพุทธองค์นั้น เป็น "ปัจจัตตัง" คือผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน และ
เป็น "อกาลิโก" ไม่จำกัดเวลาใด ๆ ทั้งสิ้น
สวัสดี
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9932 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2556, 08:38:21 » |
|
ภาคเหนือ ภาคอีสาน ฝนตกหนักขึ้นรวมร้อยละ 80 ของพื้นที่ ภาคอื่นๆของประเทศ ฝนมากขึ้นจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลอันดามันและอ่าวไทย กทม.และปริมณฑล ฝนร้อยละ 60 ของพื้นที่
พยากรณ์อากาศ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง อนึ่ง พายุโซนร้อน “จ่ามี” (TRAMI) ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลฟูเจี้ยน ประเทศจีนแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย และพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร นครพนม และกาฬสินธุ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากdว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพรและสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 60 อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9933 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2556, 12:50:04 » |
|
สวัสดีครับ คุณเหยง
ขอบคุณมากสำหรับรายงานอากาศ
พี่สิงห์ อยากทราบอุณหภูมิ ที่เกาะฮอกไกโด ช่วงวันที่ 10-15 กันยายน ครับ จะได้จัดเสื้อผ้าได้ถูก
พี่สิงห์ อยู่สนามบินดอนเมือง รอขึ้นเครื่อง Nok Air ไปนครศรีธรรมราช Boarding 14:15 น.
ช่วงนี้พี่สิงห์ ไม่มีกิจกรรมอะไร มีแต่งานและการเดินทาง
สวัสดี
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9935 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2556, 19:33:26 » |
|
สวัสดีครับ คุณเหยง
ผมก็ยังไม่รู้ว่าไปเมืองไหน บ้างมันเป็นโปรแกรมกระทันหัน คือทุกเที่ยวบินของการบินไทยบินไปเกาะฮอกไกโดเต็มหมด ทางทัวร์จองตั๋วอยากมาก ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปสายการบินไหน ทั้งที่เหลือเพียงไม่ถึงสองอาทิตย์แล้ว
เขาเชิญให้ไป ก็ไป และต้องรักษาศีลให้สมบูรณ์ ตามที่ตั้งใจเอาไว้(พระท่านยังเที่ยวได้เลย)
นครศรีธรรมราช ฝนไม่ตก แดดร้อนมาก ห้าโมงเย็นยังเดินออกกำลังกายไม่ได้ เพราะแดดมันร้อนมาก
สวัสดี
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9937 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2556, 05:50:37 » |
|
สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน
เช้านี้ท่านภวนาเจริญสติ หรือยัง?
ท่านสวดมนต์ทำวัตรเช้า หรือยัง
ท่านออกกำลังกายยามเช้า หรือยัง?
ท่านถ่ายอุจจาระ หรือยัง?
ท่านรับประทานอาหารเช้า หรือยัง?
ถ้ายัง ระวังสุขภาพของท่าน มีโอกาสเป็นโรคเรื้อรัง ครับ
ผมต้องไปเดินจงกรม ออกกำลังกาย ฝึกชิกง-โยคะ แล้วครับ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9938 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2556, 08:18:29 » |
|
เขมาเขมสรณทีปิกคาถา พะหุง เว สะระณัง ยันติ ปัพพะตานิ วะนานิ จะ, อารามะรุกขะเจตฺยานิ มะนุสสา ภะยะตัชชิตา, มนุษย์เป็นอันมาก, เมื่อเกิดมีภัยคุกคามแล้ว, ก็ถือเอาภูเขาบ้าง, ป่าไม้บ้าง, อาราม และรุกขเจดีย์บ้าง เป็นสรณะ;
เนตัง โข สะระณัง เขมัง เนตัง สะระณะมุตตะมัง, เนตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ. นั่น มิใช่สรณะอันเกษมเลย, นั่น มิใช่สรณะอันสูงสุด, เขาอาศัยสรณะนั้นแล้ว, ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้.
โย จะ พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สะระณัง คะโต, จัตตาริ อะริยะสัจจานิ สัมมัปปัญญายะ ปัสสะติ, ส่วนผู้ใดถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะแล้ว, เห็นอริยสัจจ์คือ ความจริงอันประเสริฐสี่ ด้วยปัญญาอันชอบ;
ทุกขัง ทุกขะสะมุปปาทัง ทุกขัสสะ จะ อะติกกะมัง, อะริยัญจัฏฐังคิกัง มัคคัง ทุกขูปะสะมะคามินัง, คือเห็นความทุกข์, เหตุให้เกิดทุกข์, ความก้าวล่วงทุกข์เสียได้, และหนทางมีองค์แปดอันประเสริฐ เครื่องถึงความระงับทุกข์;
เอตัง โข สะระณัง เขมัง เอตัง สะระณะมุตตะมัง, เอตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ. นั่นแหละ เป็นสรณะอันเกษม, นั่น เป็นสรณะอันสูงสุด, เขาอาศัยสรณะนั้นแล้ว, ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้.สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน
กรรม คือการกระทำ ใครทำกรรมดีก็ตาม ใคทำรกรรมชั่วก็ตาม ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นเสมอ เราหนีกรรมที่เราก่อเอาไว้ไม่พ้น ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นเสมอไม่ช้า ก็เร็ว
คนเราเมื่อประสบทุกข์(ความเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทกข์ ความเจ็บไข้ก็เป็นทุกข์ ความประสบกับสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบก็เป็นทุกข์ ปราถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์ และความพลัดำรากจากสิ่งที่รักที่ชอบก็เป็นทุกข์)
เมื่อเราประสบทุกข์ สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ การวิตกกังวล ความคับแค้นใจ หรือ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ คือความยึดมั่นถือมั่น เมื่อตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส ได้สัมผัสทางกาย และปล่อยใจนึกคิด ย่อมเกิดการปรงแต่งไปต่าง ๆ นา ๆ ถ้าเป็นไปในทางที่ดี ก็ชอบ ยินดี ปราถนาจะได้อีกไม่มีสิ้นสุด แต่ถ้าไม่รักไม่ชอบ ก็ไม่อยากประสบอีก ทั้งหมดมันเป็นอารมณ์ที่มากระทบทำให้เกิด ความดลภ ความโกรธ และความหลง(เป็นทาสความคิด ทำตามความคิด)
เมื่อมีทุกข์เกิดขึ้น เราหนีไม่พ้น เพราะมันอยู่ที่ใจ มันเกาะติดที่ใจ สลัดอย่างไรก็ไม่ออก
แต่ถ้าเราวางจิตของเราให้ถูก หรือมีสติ มีความรู้สึกตัว ทุกข์นั้นก็หายไปสิ้น
เพราะเรารู้สาเหตุแห่งทุกข์ วิธีละทุกข์ ทางดำเนินในชีวิตประจำวันเพื่อพ้นทุกข์ (มรรค ๘)
เราใช้ปัญญา เราก็จะพ้นทุกข์ เพราะเรามีสติ รู้สึกตัว ความทุกข์มันก็หายไปแล้ว
ความทุกข์ไม่มีตัวตน เป็นเพียงอารมณ์ที่จรมากระทบด้วยเหตุ-ปัจจัย ที่ประสบเท่านั้น
ขอให้พิจารณาธรรมที่ยกมานั้น ให้เห็นความจริงนี้ ท่านจะพ้นทุกข์ได้
สวัสดี
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9939 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2556, 08:54:50 » |
|
ฝนยังตกมากและหนัก อีก 1-2 วันในภาคเหนือ ภาคอีสาน รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล โดยมีฝนร้อยละ 80 พยากรณ์อากาศ ประจำวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในระยะ 1-2 วันนี้ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “จ่ามี” (TRAMI) บริเวณมณฑลฟูเจี้ยน ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 80 อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9940 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2556, 13:57:57 » |
|
สวัสดีครับ คุณเหยง
ขอบคุณมากสำหรับรายงานอากาศประจำวัน
นครศรีธรรมราช เมื่อเช้าฝนทำท่าจะตก แต่แล้วก็ไม่ตก กลางวันก็ไม่ตก ถือเป็นช่วงไม่ใช่หน้าฝน
ช่วงนี้มีคนมาเที่ยวนครศรีธรรมราชมาก โดยเฉพาะสัมมนา โรงแรมทิวินโลตัวเฉลี่ย 80% ทั้งปี วันนี้โรงแรมเต็ม
ก็ดีมีคนมาเที่ยว อย่างน้อยอุตสาหกรรมภาคบริการ จะอยู่ได้สบาย รวมทั้งสิ้นค้า Otop ด้วย
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9941 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2556, 21:03:23 » |
|
สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน
วันนี้ได้เปิดสอน โยคะเพื่อสุขภาพเป็นวันแรก ปรากฏว่า มีคนมาฝึกหนึ่งท่าน เป็นสุภาพสตรีวัยกลางคน ที่เป็นสาวสำนักงาน คือเป็นโรคออฟฟิตซินโดรม ปวดตามแขน ไหล่ หลัง และสุขภาพไม่สู้ดี นอกนั้นมาสังเกตการณ์อีกหลายท่าน ยังไม่แน่ใจ เพราะเพิ่งปิดประกาศให้ทราบเมื่อวานเอง เตรียมตัวไม่ทัน ครั้งหน้าคงมีคนมาเรียนสิบท่านขึ้นไป
ก่อนสอนผมได้อธิบายการฝึกโยคะ ของผมเป็นการฟื้นฟูข้อต่อไม่ให้ติด ยึดคลายกล้ามเนื้อ และจัดทรวดทรงร่างกาย โดยใช้ท่าของคุณหมออุดม จากโรงพยาบาลจอมทองในการยึดกล้ามเนื้อ-ข้อต่อ และใช้ท่าของ ดร. สวามี ซานโตส อนัน ในการบริหารช่องท้อง ปอด หัวใจ หลอดลม และใบหน้า
เมื่อจบทุกท่าแล้วใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ผมได้สอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เธอตอบว่า รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากเลย ครั้งหน้าจะชวนเพื่อน ๆ มาอีกหลายคน
พี่สิงห์ ก็สุขที่ได้ช่วยให้คนพ้นทุกข์ทางกาย และทางใจ ครับ
ราตรีสวัสดิ์ครับ
|
|
|
|
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์
รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692
|
|
« ตอบ #9942 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2556, 21:28:25 » |
|
สวัสดีค่ะพี่สิงห์ หายไปนาน เลยไม่ได้ทำโยคะ เข้ามาห้องพี่สิงห์ก็ได้คำเตือนให้ทำโยคะพอดี ระลึกถึงพี่เสมอค่ะ
|
ติ๋ม จันทร์ฉาย
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9943 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2556, 05:34:13 » |
|
สวัสดียามเช้า ค่ะคุณน้องจันทร์ฉาย ที่รัก
อย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ชีวิตของเรานี่ละ อย่างอื่นไม่สำคัญเลย
เพราะไม่รู้ว่า เมื่อตายไปแล้วจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกหรือไม่ หรือไปเกิดในภพไหน !
มีเงินทองมากมาย ประสบความสำเร็จมากมายในการทำงาน
มีชื่อเสียงโด่งดัง มีคนสรรเสริญ
แต่ต้องเจ็บป่วย ด้วยโรคเรื้อรัง หรือโรคประจำตัว นอนอยู่บ้านบนเตียง และตาย
ตัวอย่างมีให้เห็นมากมาย ณ ขณะนี้
เงิน งาน ชื่อเสียง สรรเสริญ จะมีประโยชน์อะไร!
สู้ดูแลร่างกาย กินอาหารให้เป็นยา ถ่ายสม่ำเสมอ ออกกำลังกาย นอนหัวค่ำ
และภาวนาเจริญสติ ให้มีสติ-สัมปชัญญะ ณ ปัจจุบัน
นั่นละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของเรา ณ ขณะนี้
คือการดูแลชีวิตของเรา ได้แก่ รูป-นาม (กาย-จิต)
อย่าลืม ถ้าเป็นนักบริหารจริง อะไรที่สำคัญที่สุด ต้องกระทำก่อนเสมอ
สวัสดีค่ะ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9944 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2556, 08:29:07 » |
|
ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย และบึงกาฬ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 60 ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9945 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2556, 10:03:41 » |
|
สวัสดีครับ คุณเหยง ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน
เช้านี้เวลาหกโมงเช้าที่นครศรีธรรมราช เห็นพระจันทร์สว่างโล่บนท้องฟ้า เห็นแสงเงินแสงทองแตะที่ขอบฟ้าตะวันออก มีเสียงนกเอี้ยงร้องเซ็งแซ่ มีลมเย็นพัดผ่านอ่อน ๆ และพอแสงแดดอ่อน ๆ ส่อง เห็นพระอาทิตย์ยามเช้าเต็มดวง เป็นบรรยากาศที่เหมาะกับการเดินจงกรม ฝึกชิกง-โยคะ เป็นอย่างยิ่ง เพราะได้วิตามีน D จากแสงแดด
เมื่อรับประทานอาหารเช้าแล้ว มีเวลาได้เดินจงกรม เพื่อให้อาหารย่อย พอสมควร จนรู้สึกโล่งกระเพาะ ไม้ค้างอยู่ในหลอดอาหาร
เมื่อวาน รศ.ประกายแก้ว ได้โทรศัพท์ มาเชิญชวนเป็นกรรมการสมาคม บอกว่า จะให้พี่ปรีดาเป็นนายกสมาคม มีคุณทรงเกียรติและคุณราเมศวร์ เป็นรองนายก สมาคม
กรรมการชุดนี้ พี่ปรีดา บอกว่า ไม่จำเป็นต้องมีกรรมการที่ปรึกษา มีเพียงนายก รองนายก และกรรมการที่จะทำงาน เท่านั้น
ได้สอบถามพี่สิงห์ ว่า จะเป็นกรรมการไหม?
ผมได้ตอบไปว่า เมื่อไม่มีที่ปรึกษา ก็ไม่ขอเป็นกรรมการสมาคม เพราะไม่มีเวลาให้
ถ้าจะเป็นกรรมการ หมายความว่าพี่สิงห์ ต้องมีเวลาทำงานให้กับสมาคม
เมื่อมีเวลา ทำไม? พี่สิงห์ ไม่รับเป็นนายกสมาคมเสียเลย ยังมีแนวทางในการทำงานที่จะสามารถ ทำให้สมาคมแข็งแกร่ง ขึ้นได้
แต่เนื่องจาก พี่สิงห์ พอแล้ว ปล่อยวางแล้ว ไม่อยากรบกวนใครอีกแล้ว ขอไม่รับเป็นอะไรทั้งสิ้น มีอะไรที่จะทำให้ได้ ยินดีทำไห้เสมอ ขอให้บอกมา มีเวลาก็จะไปร่วมกิจกรรม อย่าให้ต้องไปเป็นกรรมการเลย พอแล้ว มันเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่แล้ว อย่าไปยึดติดเลย
พี่สิงห์ อยู่อย่างปัจจุบัน ก็ช่วยสมาคม ช่วยสังคมได้ สุขกว่าแยะ มีเวลาให้กับตนเองในการฝึกฝนจิต และดูแลร่างกาย นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับ พี่สิงห์ ณ เวลานี้ ที่จะต้องกระทำเพื่อตนเองในชีวิตที่เหลือก่อนตายจากไป
ก็เรียนให้ทราบ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9946 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2556, 11:02:16 » |
|
๘. โกสัมพิยสูตร
ทรงโปรดภิกษุชาวเมืองโกสัมพี [๕๔๐] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารโฆสิตารามเขตพระนครโกสัมพี. สมัยนั้น พวกภิกษุในเมืองโกสัมพี เกิดขัดใจ ทะเลาะ วิวาท ทิ่มแทงกันและกัน ด้วยหอกคือปากอยู่ ไม่ยังกันและกันให้เข้าใจ ไม่ปรารถนาความเข้าใจกัน ไม่ยังกันและกันให้ ปรองดอง ไม่ปรารถนาความปรองดองกัน. ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายอภิวาทแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วน ข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส พวกภิกษุในเมืองโกสัมพี เกิดขัดใจ ทะเลาะ วิวาท ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปากอยู่ ไม่ยังกันและกันให้เข้าใจ ไม่ปรารถนาความเข้าใจกัน ไม่ยังกันและกันให้ปรองดอง ไม่ปรารถนาความปรองดองกัน. ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุรูปหนึ่งมาแล้วรับสั่งว่า ดูกรภิกษุ เธอจงมา เธอจงเรียกภิกษุเหล่านั้นมาตามคำของเราว่า พระศาสดาของพวกเรารับสั่งให้หาพวกท่านผู้มีอายุ. ภิกษุรูปนั้นทูลรับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคว่า อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า ดังนี้แล้ว เข้าไปหาภิกษุเหล่านั้นแล้ว บอกว่า พระศาสดารับสั่งให้หาท่านผู้มีอายุทั้งหลาย. ภิกษุเหล่านั้นรับคำภิกษุนั้นว่า อย่างนั้น ท่านผู้มีอายุ ดังนี้ แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มี พระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[๕๔๑] พระผู้มีพระภาคตรัสถามภิกษุเหล่านั้นว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายได้ยินว่า พวกเธอ เกิดขัดใจ ทะเลาะ วิวาท ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปากอยู่ ไม่ยังกันและกันให้เข้าใจ ไม่ปรารถนาความเข้าใจกัน ไม่ยังกันและกันให้ปรองดอง ไม่ปรารถนาความปรองดองกัน จริงหรือ? ภิกษุเหล่านั้นทูลว่า เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า. พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน สมัยใด พวกเธอ เกิดขัดใจ ทะเลาะ วิวาท ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปากอยู่ สมัยนั้น พวกเธอ เข้าไปตั้งเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม และเมตตามโนกรรม ในเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งต่อหน้าและลับหลัง บ้างหรือหนอ? ภิกษุเหล่านั้นทูลว่า ข้อนั้นไม่มีเลย พระพุทธเจ้าข้า. พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เช่นนี้ก็เป็นอันว่า สมัยใด พวกเธอ เกิด ขัดใจ ทะเลาะ วิวาท ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปากอยู่ สมัยนั้นพวกเธอมิได้เข้าไปตั้ง เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม และเมตตามโนกรรมในเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งต่อหน้า และลับหลัง ดูกรโมฆบุรุษทั้งหลาย เมื่อเป็นดังนั้น พวกเธอรู้อะไร เห็นอะไร จึงเกิดขัดใจ ทะเลาะ วิวาท ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปากอยู่ ไม่ยังกันและกันให้เข้าใจ ไม่ ปรารถนาความเข้าใจกัน ไม่ยังกันและกันให้ปรองดอง ไม่ปรารถนาความปรองดองกัน ดูกรโมฆ- *บุรุษทั้งหลาย ข้อนั้นนั่นแหละ จักมีเพื่อไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์ แก่เธอทั้งหลายตลอดกาลนาน.
ว่าด้วยสาราณิยธรรม ๖
[๕๔๒] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสบอกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการนี้ เป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน ทำความรักกัน ทำความเคารพกัน เป็นไปเพื่อความ สงเคราะห์กัน เพื่อความไม่วิวาทกัน เพื่อความพร้อมเพรียงกัน เพื่อความเป็นพวกเดียวกัน ๖ ประการเป็นไฉน? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เข้าไปตั้งกายกรรมอันประกอบด้วย เมตตา ในเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ ธรรมแม้นี้ เป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน ทำความรักกัน ทำความเคารพกัน เป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กัน เพื่อความไม่วิวาทกัน เพื่อ ความพร้อมเพรียงกัน เพื่อความเป็นพวกเดียวกัน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุเข้าไปตั้งวจีกรรมอันประกอบด้วยเมตตา ในเพื่อน สพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งในที่แจ้งและในที่ลับ ธรรมแม้นี้ เป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน ทำความรัก กัน ทำความเคารพกัน เป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กัน เพื่อความไม่วิวาทกัน เพื่อความพร้อม เพรียงกัน เพื่อความเป็นพวกเดียวกัน ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุเข้าไปตั้งมโนกรรมอันประกอบด้วยเมตตา ในเพื่อน สพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ ธรรมแม้นี้เป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน ทำความรักกัน ทำความเคารพกัน เป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กัน เพื่อความไม่วิวาทกัน เพื่อความพร้อมเพรียง กัน เพื่อความเป็นพวกเดียวกัน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุมีลาภเกิดขึ้นโดยธรรม ได้มาโดยธรรม ที่สุดเป็น ลาภสักว่าอาหารที่เนื่องในบาตร ก็บริโภคโดยไม่เกียดกันไว้เพื่อตน บริโภคเป็นสาธารณะกับ เพื่อนสพรหมจารีผู้มีศีล ธรรมแม้นี้ เป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน ทำความรักกัน ทำความเคารพกัน เป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กัน เพื่อความไม่วิวาทกัน เพื่อความพร้อมเพรียงกัน เพื่อความเป็น พวกเดียวกัน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุมีศีลไม่ขาด ไม่เป็นช่อง ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็น ไท อันท่านผู้รู้สรรเสริญ อันตัณหาทิธรรมไม่ครอบงำ เป็นไปเพื่อสมาธิ ถึงความเป็นผู้มีศีล เสมอกันในศีลเช่นนั้นกับเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งในที่แจ้งและในที่ลับอยู่ ธรรมแม้นี้ เป็น เหตุให้ระลึกถึงกัน ทำความรักกัน ทำความเคารพกัน เป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กัน เพื่อ ความไม่วิวาทกัน เพื่อความพร้อมเพรียงกัน เพื่อความเป็นพวกเดียวกัน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุมีทิฏฐิอันไกลจากข้าศึก เป็นนิยยานิกธรรม อันนำ ออกซึ่งบุคคลผู้ทำตามนั้น เพื่อความสิ้นทุกข์โดยชอบ ถึงความเป็นผู้เสมอกันด้วยทิฏฐิในทิฏฐิเช่น นั้นกับเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งในที่แจ้งและในที่ลับอยู่ ธรรมแม้นี้ เป็นเหตุให้ระลึกถึง กัน ทำความรักกัน ทำความเคารพกัน เป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กันเพื่อความไม่วิวาทกัน เพื่อความพร้อมเพรียงกัน เพื่อความเป็นพวกเดียวกัน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการนี้แล เป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน ทำความรักกัน ทำ ความเคารพกัน เป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กัน เพื่อความไม่วิวาทกัน เพื่อความพร้อมเพรียงกัน เพื่อความเป็นพวกเดียวกัน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทิฏฐิอันไกลจากกิเลสเป็นข้าศึก เป็นนิยยานิก- *ธรรม นำออกซึ่งบุคคลผู้ทำตามนั้น เพื่อความสิ้นทุกข์โดยชอบนี้ เป็นยอดยึดคุมธรรม ๖ ประการนี้ ที่เป็นเหตุให้ระลึกถึงกันไว้. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนยอดเป็นที่สูงสุด เป็นที่ยึดคุมของเรือนยอด ฉันใด ทิฏฐิอันไกลจากกิเลสเป็นข้าศึก เป็นนิยยานิกธรรม นำออก ซึ่งบุคคลผู้ทำตามนั้น เพื่อความสิ้นทุกข์โดยชอบนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เป็นยอดยึดคุมธรรม ๖ ประการนี้ ที่เป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน.
ทิฏฐิที่เป็นนิยยานิกธรรม
[๕๔๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทิฏฐิอันไกลจากกิเลสเป็นข้าศึก เป็นนิยยานิกธรรม นำ ออกซึ่งบุคคลผู้ทำตามนั้น เพื่อความสิ้นทุกข์โดยชอบ เป็นไฉน? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใน ธรรมวินัยนี้ ไปสู่ป่าก็ดี ไปสู่โคนต้นไม้ก็ดี ไปสู่เรือนว่างเปล่าก็ดี ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า เรา มีจิตอันปริยุฏฐานกิเลสใดกลุ้มรุมแล้ว ไม่พึงรู้เห็นตามความเป็นจริง ปริยุฏฐานกิเลสในภายใน นั้นที่เรายังละไม่ได้ มีอยู่หรือหนอ? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุมีจิตอันกามราคะกลุ้มรุม ก็ชื่อว่ามีจิตอันปริยุฏฐานกิเลสกลุ้มรุมแล้วเทียว มีจิตอันพยาบาทกลุ้มรุม ก็ชื่อว่ามีจิตอัน ปริยุฏฐานกิเลสกลุ้มรุมแล้วเทียว มีจิตอันถีนมิทธะกลุ้มรุม ก็ชื่อว่ามีจิตอันปริยุฏฐาน กิเลสกลุ้มรุมแล้วเทียว มีจิตอันอุทธัจจกุกกุจจะกลุ้มรุม ก็ชื่อว่ามีจิตอันปริยุฏฐานกิเลสกลุ้มรุม แล้วเทียว มีจิตอันวิจิกิจฉากลุ้มรุม ก็ชื่อว่ามีจิตอันปริยุฏฐานกิเลสกลุ้มรุมแล้วเทียว เป็น ผู้ขวนขวายในการคิดเรื่องโลกนี้ ก็ชื่อว่ามีจิตอันปริยุฏฐานกิเลสกลุ้มรุมแล้วเทียว เป็นผู้ขวน ขวายในการคิดเรื่องโลกหน้า ก็ชื่อว่ามีจิตอันปริยุฏฐานกิเลสกลุ้มรุมแล้วเทียว และเกิด ขัดใจ ทะเลาะ วิวาท ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปากอยู่ ก็ชื่อว่ามีจิตอันปริยุฏฐานกิเลส กลุ้มรุมแล้วเทียว ภิกษุนั้น ย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า เรามีจิตอันปริยุฏฐานกิเลสใดกลุ้มรุมแล้ว ไม่ พึงรู้เห็นตามความเป็นจริง ปริยุฏฐานกิเลสในภายในนั้นที่เรายังละไม่ได้แล้ว มิได้มีเลย จิตเรา ตั้งไว้ดีแล้ว เพื่อตรัสรู้สัจจะทั้งหลาย. นี้ญาณที่ ๑ เป็นอริยะ เป็นโลกุตระ ไม่ทั่วไปกับพวก ปุถุชน อันภิกษุนั้นบรรลุแล้ว.
[๕๔๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า เราเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งทิฏฐินี้ ย่อมได้ความระงับเฉพาะตน ย่อมได้ความดับกิเลสเฉพาะตนหรือหนอ? อริยสาวกนั้นย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า เราเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งทิฏฐินี้ ย่อมได้ความระงับเฉพาะตน ย่อมได้ความดับกิเลสเฉพาะตน. นี้ญาณที่ ๒ เป็นอริยะ เป็นโลกุตระ ไม่ทั่วไปกับพวกปุถุชน อันอริยสาวกนั้นบรรลุแล้ว.
[๕๔๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า เราประกอบ ด้วยทิฏฐิเช่นใด สมณะหรือพราหมณ์อื่นนอกธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยทิฏฐิเช่นนั้น มีอยู่หรือ หนอ? อริยสาวกนั้นย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า เราประกอบด้วยทิฏฐิเช่นใด สมณะหรือพราหมณ์อื่น นอกธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยทิฏฐิเช่นนั้น มิได้มี. นี้ญาณที่ ๓ เป็นอริยะ เป็นโลกุตระ ไม่ ทั่วไปกับพวกปุถุชน อันอริยสาวกนั้นบรรลุแล้ว.
[๕๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า บุคคลผู้ถึง พร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยธรรมดาเช่นใด ถึงเราก็ประกอบด้วยธรรมดาเช่นนั้น. ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยธรรมดาอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมดา นี้ของบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ คือ ความออกจากอาบัติเช่นใด ย่อมปรากฏ อริยสาวกย่อม ต้องอาบัติเช่นนั้นบ้างโดยแท้ ถึงอย่างนั้น อริยสาวกนั้นรีบแสดง เปิดเผย ทำให้ตื้น ซึ่งอาบัติ นั้น ในสำนักพระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีที่เป็นวิญญูชนทั้งหลาย ครั้นแสดงเปิดเผย ทำให้ ตื้นแล้ว ก็ถึงความสำรวมต่อไป. เปรียบเหมือนกุมารที่อ่อนนอนหงาย ถูกถ่านไฟ ด้วยมือหรือ ด้วยเท้าเข้าแล้ว ก็ชักหนีเร็วพลัน ฉะนั้น. อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า บุคคลผู้ถึงพร้อม ด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยธรรมดา เช่นใด ถึงเราก็ประกอบด้วยธรรมดาเช่นนั้น. นี้ญาณที่ ๔ เป็น อริยะ เป็นโลกุตระ ไม่ทั่วไปกับพวกปุถุชน อันอริยสาวกนั้นบรรลุแล้ว.
[๕๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า บุคคลผู้ถึง พร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยธรรมดาเช่นใด ถึงเราก็ประกอบด้วยธรรมดาเช่นนั้น. ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยธรรมดาอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมดา นี้ของบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ คือ อริยสาวกถึงความขวนขวายในกิจใหญ่น้อยที่ควรทำอย่างไร ของเพื่อนสพรหมจารีโดยแท้ ถึงอย่างนั้น ความเพ่งเล็งกล้าในอธิศีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และ อธิปัญญาสิกขา ของอริยสาวกนั้นก็มีอยู่ เปรียบเหมือนแม่โคลูกอ่อน ย่อมเล็มหญ้ากินด้วย ชำเลืองดูลูกด้วยฉะนั้น. อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดอยู่อย่างนี้ว่า บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบ ด้วยธรรมดาเช่นใด ถึงเราก็ประกอบด้วยธรรมดาเช่นนั้น. นี้ญาณที่ ๕ เป็นอริยะ เป็นโลกุตระ ไม่ทั่วไปกับพวกปุถุชน อันอริยสาวกนั้นบรรลุแล้ว.
[๕๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า บุคคลผู้ถึง พร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยพละเช่นใด ถึงเราก็ประกอบด้วยพละเช่นนั้น. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยพละอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย พละนี้ของบุคคลผู้ถึง พร้อมด้วยทิฏฐิ คือ อริยสาวกนั้น เมื่อธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว อันบัณฑิตแสดงอยู่ ทำให้มีประโยชน์ทำไว้ในใจ กำหนดด้วยจิตทั้งปวง เงี่ยโสตฟังธรรม. อริยสาวกนั้นรู้ชัดอย่างนี้ ว่าบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยพละเช่นใด ถึงเราก็ประกอบด้วยพละเช่นนั้น. นี้ญาณ ที่ ๖ เป็นอริยะ เป็นโลกุตระ ไม่ทั่วไปกับพวกปุถุชน อันอริยสาวกนั้นบรรลุแล้ว.
[๕๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็น ดังนี้ว่า บุคคล ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยพละเช่นใด ถึงเราก็ประกอบด้วยพละเช่นนั้น. ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยพละอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย พละนี้ของ บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ คือ อริยสาวกนั้น เมื่อธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว อันบัณฑิต แสดงอยู่ ย่อมได้ความรู้อรรถ ย่อมได้ความรู้ธรรม ย่อมได้ปราโมทย์อันประกอบด้วยธรรม. อริยสาวกนั้นรู้ชัดอย่างนี้ว่า บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ประกอบด้วยพละเช่นใด ถึงเราก็ประกอบ ด้วยพละเช่นนั้น. นี้ญาณที่ ๗ เป็นอริยะ เป็นโลกุตระ ไม่ทั่วไปกับพวกปุถุชน อันอริยสาวกนั้น บรรลุแล้ว.
[๕๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาอันอริยสาวกผู้ประกอบด้วยองค์ ๗ ประการอย่างนี้ ตรวจดูดีแล้ว ด้วยการทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ประกอบด้วย องค์ ๗ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้เพรียบพร้อมด้วยโสดาปัตติผล ฉะนี้แล. พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้น ชื่นชมยินดี พระภาษิต ของพระผู้มีพระภาค ฉะนี้แล.จบ โกสัมพิยสูตรที่ ๘ -----------------------------------------------------
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #9947 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2556, 11:32:18 » |
|
หวังว่าผู้มีปัญญา อย่าง ดร.สุริยา
คงจะเกิดปัญญา จากข้อความในโกสัมพิยสูตร
เข้าใจได้ ได้เห็นธรรม จะได้เอาไปเป็นประโยชน์กับตนเอง
อย่าลืม มันเป็น ปัจจัตตัง
สวัสดี
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9948 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2556, 18:00:06 » |
|
พี่สิงห์
สมาคมจะเปลี่ยนแปลงตราสารให้ "อุปนายก เป็นรองนายกสมาคม" แล้วหรือ ?? หรือจะเอาแบบ เทศบาล อบจ. และ อบต. ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน!! ปกติผู้ดำรงตำแหน่ง "นายกสมาคม" แล้ว จะไม่ลดชั้นกลับไปเป็น"อุปนายก หรือรองนายก" อีกแล้ว และที่ผ่านมา ประธานชมรมฯ หรือ นายกสมาคม จะเลือก RCU ในวัยประมาณ 50 กลางๆ เพื่อความกระฉับกระเฉง หรือ การเลือก"พี่ปรีดา รวมเมฆ" เป็น "นายกสมาคม" ก็ด้วยภาระกิจ 100 ล้านบาทในการช่วยสร้างหอหลังใหม่ ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9949 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2556, 18:08:30 » |
|
ตามที่ผมติดตามการบริจาคเงินให้จุฬาฯ ในโครงการรินน้ำใจฯ หากสามารถติดตาม RCU ได้รุ่นละเพียง 50 คน ก็จะได้เครือข่ายในรุ่นนั้นเพิ่มขึ้น และน่าจะได้เงินบริจาคมากขึ้น รุ่นที่แข็งแกร่ง อาทิ 2521, 2524 แสดงพลังให้ดูแล้ว รุ่นของผม 2516 ดูอ่อนด้อยไปเลย รวมตัวได้ยังไม่ถึง 30 คนเลยครับ (Update ล่าสุด 22 คน) จากที่เคยรวมตัวได้เกือบ 50 คนในคราวที่"วัฒนา-หมอเสียด" จะขึ้นเป็นประธานชมรมฯ รุ่นสุดท้าย
กรณีนี้ขอวิพากษ์ด้วยความเคารพต่อพี่ปรีดา รวมเมฆ วศ. 2506 พี่ที่สารพัดดีของชาวหอและชาวนครปฐม เพียงแต่มองว่า ชุดหาทุนในโครงการรินน้ำใจฯ ไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร ??
|
|
|
|
|