23 พฤศจิกายน 2567, 04:02:27
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 391 392 [393] 394 395 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3550663 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 25 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9800 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2556, 07:29:07 »


พี่สิงห์

ผมไม่กลัวรัฐบาลเปิดน้ำจากเขื่อนทิ้งทะเล ??
ผมกลัวรัฐบาลเปิดน้ำจากเขื่อน เพื่อให้น้ำท่วมพื้นที่ต่างๆ เพื่อบีบให้เงินกู้ 3.5 แสนล้านผ่านสภา!!!
จะเชื่อหรือไม่..ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9801 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2556, 07:37:42 »

พายุโซนร้อน "มังคุด" ขึ้นฝั่งเวียตนามแล้วและจะอ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำ
ฝนจะตกในภาคเหนือ อีสาน กลาง 2-3 วัน โดยอิทธิพลของพายุมีผลต่อภาคอีสานของไทยมากที่สุด
ภาคอื่นๆ ยังได้รับผลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดจากอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เข้าสู่ภาคกลาง ภาคตะวันออก
คลื่นสูง ลมยังแรง ต้องระมัดระวังการออกเรือ หรือท่องทะเล

พยากรณ์อากาศ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2556
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุ “มังคุด” "

ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 08 สิงหาคม 2556

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (8 ส.ค.56) พายุโซนร้อน “มังคุด” (MANGKHUT) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว และ เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ พายุนี้ มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 280 กิโลเมตร ทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อยของจังหวัดนครพนม หรือที่ละติจูด 20.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 104.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 8-9 สิงหาคม 2556 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธุ์ นครพนม และมุกดาหาร ส่วนภาคเหนือ บริเวณจังหวัดเชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าวไว้ด้วย
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ
อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร กับมีลมแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ สระบุรี และลพบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีโอกาสฝนตก ร้อยละ 60 ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9802 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2556, 10:43:09 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 08 สิงหาคม 2556, 07:29:07

พี่สิงห์

ผมไม่กลัวรัฐบาลเปิดน้ำจากเขื่อนทิ้งทะเล ??
ผมกลัวรัฐบาลเปิดน้ำจากเขื่อน เพื่อให้น้ำท่วมพื้นที่ต่างๆ เพื่อบีบให้เงินกู้ 3.5 แสนล้านผ่านสภา!!!
จะเชื่อหรือไม่..ครับ


สวัสดีครับ คุณเหยง

                              ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง  ก็ต้องพึ่งพุทธศาสนา คือ กรรมคือการกระทำ ใครทำกรรมชั่วก็ตาม  ทำกรรมดีก็ตาม  ย่อมได้ผลของกรรมนั้นเสมอ

                               กรณณี งินกู้ ๒ ล้าน ล้านบาท  ไปถามการรถไฟ และ อ.ชัชชาติ  ถ้าไม่โกหกตนเอง  จะได้คำตอบ ไม่มีรถไฟความเร็วสูงทั้งสิ้น เป็นเพียง ทำรถไฟรางคู่  รางก็เท่าเดิม  รถไฟก็รุ่นเดิม  เท่านั้น แต่รัฐบาลโฆษณา แต่รถไฟความเร็วสูง  ระวังกรรมจะตามทัน เพราะรถไฟไม่มีแผนแบบนั้น  มันเป็นการทำให้เงินผ่านสภาเท่านั้น  และต้องโกหก สร้างภาพต่อ  หาเงินใหม่  ตั้งบริษัท  มาทำแทน การรถไฟ  คอยดูก็แล้วกัน

                                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9803 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2556, 11:01:35 »

 
                          เชื่อหรือไม่

                           ศูนย์การแพทย์และคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ประมูลงานตอกเสาเข็ม มาตั้งแต่ปลายสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัติย์  พอเปลี่ยนมาเป็นพรรคเพื่อไทยดูแล  จนบัดนี้เปลี่ยนการประมูล มาสามครั้งแล้ว  ล่าสุดพรรคเพื่อไทยก็ไม่ยอมนำเข้าคณะรัฐมนตรีอนุมัติ เพราะเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว  คงต้องปล่อยให้หมดระยะเวลายืนราคา  แล้วประมูลใหม่ ให้บริษัทของ คนพรรคเพื่อไทยได้  จึงจะนำเข้าเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติได้

                           มันเป็นอย่างนี้  ไม่อยู่ในผลประโยชน์ของชาตื   ต้องรอให้กรรมมีจริง

                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9804 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2556, 13:36:05 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                    พี่สิงห์ อยู่สนามบินดอนเมือง เพื่อเดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช

                    อาทิตย์นี้ เป็น Long Week End หลายท่านคงเดินทางท่องเที่ยวไปต่างจังหวัด

                    พี่สิงห์  ต้องไปทำงานตามปกติ  กลับเย็นวันเสาร์ และวันจันทร์เดินทางไปโคราช  กลับวันอังคาร  ก็พยายามหางานให้ตัวเอง เป็นการฆ่าเวลาไปวันหนึ่ง ๆ เท่านั้น

                     เมื่อวันเย็นวันพุธ  ได้มีเวลาตอบคำถามเจ้านาย ที่ถามเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม  ที่พี่สิงห์ แนะนำให้ใช้แนวทางของหลวงพ่อเทียน   จิตตฺสุโภ   ก้าวหน้าพอสมควร  สามารถแยกตัวสติ และความคิดได้   แต่มีข้อลังเลสงสัยมากมาย  จึงได้สอบถาม เพื่อให้แน่ใจว่าถูกทางหรือไม่  พี่สิงห์  ก็ตอบให้เข้าใจ  และใช้ปัญญาพิจารณา ให้เห็นความจริงในธรรมนั้น  เขาเองก็รู้ว่า พ่อของเขาปฏิบัติไม่ถูก  แต่สอนไม่ได้  ต้องรอจนกว่าจะก้าวหน้ามากกว่านี้ ก็จะบอกกับพ่อให้เริ่มต้นใหม่ เพราะพ่อ ได้แต่ความสงบ  การพัฒนาทางจิตไม่ก้าวหน้า  และเสียเงินไปมาก มีแต่รอคอยสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ไม่ถูกทาง

                    ก็ดีใจ ที่ได้สอนเจ้านายให้เจริญสติภาวนา  เอาิส่งที่พบมาใช้ในการทำงาน อยู่กับครอบครัว และสังคมได้อย่างสันติสุข

                     สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9805 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2556, 14:03:45 »

พี่สิงห์

ที่สะพานเดชาติวงศ์ ชาวบ้านก็สงสัยกันอยู่ว่า มีบริษัทไหนก็ไม่รู้ ไปตอกเสาเข็มเพื่อเตรียมขยายสะพานเอาไว้
เสร็จแล้วทิ้งเลย เสมือนหนึ่ง จองงานไว้ก่อน ??
สอบถามใคร ก็ไม่มีคำตอบให้ แม้แต่แขวงการทางฯ ซึ่งดูแลพื้นผิวการจราจร
ขณะนี้ กำลังจะมีการเรียกแขวงฯ ไปสอบถาม หากหาตัวใครไม่ได้ จะให้ไปแจ้งความฐานสร้างสิ่งกีดขวางการจราจร
ก็ยังไม่ทราบได้ว่า จะยอมไปแจ้งความหรือไม่ ??
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9806 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2556, 16:48:27 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

                        เมื่อวันพุธเย็น ผมขับรถจากบ้านแพ้ว สมุทรสาคร กลับบ้านตอนเย็น ฟังรายการกีฬา จัดโดยเฮียน๊อต และหมอเมาทันตแพทย์พิชัย   ปิติวงค์  หมอเมาบอกว่า เวลานี้สมัยนี้  ต้องเป็นพวกเดียวกับพรรเพื่อไทย  เพราะจะสามารถยืนอยู่ได้เชิดหน้า  มีเงินทองไหลมาเทมา สามารถร่ำรวยได้  สำหรับอุดมการณ์นั้นมันไม่มี อยู่ไม่ได้

                        ดร.สุริยา  คนอย่างหมอเมา ยังคิดแบบนั้นเลย เพราะจะมีเงิน  มีงานได้ ต้องเป็นพรรคพวกพรรคเพื่อไทย  สังคมมันเป็นอย่างนี้  เศร้าใจจริง ๆ โดยไม่สนใจคุณธรรม  ไม่มีสัมมาอาชีวะ  ตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน

                        นั่นละสังคมไทย  มันจึงมีแต่ความวุ่นวาย  แบ่งพรรคพวก เหยียบคนที่อยู่ตรงข้าม  ไม่มีคุณธรรม  มีแต่ขอให้กูมีเงิน  จะได้มาอย่างไรก็ได้  จบกันสังคมชาวพุทธศาสนาในประเทศไทย

                         ผมต้องสอนลูกใหม่ เสียแล้ว วิธีที่จะหาเงิน (ลูกหมอเมา ลูกสาวเรียนที่จุฬาฯ)

                        
                         พี่สิงห์  อยู่นครศรีธรรมราชแล้ว  ที่โรงแรมฝนไม่ตก  กำลังจะออกไปเดินจงกรมออกกำลังกาย และฝึกชิกง-โยคะ ที่เทอเรสชั้นสาม ครับ

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #9807 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2556, 18:02:20 »

น้องหมอแกอาจพูดประชดสังคมก็ได้มั๊งครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9808 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2556, 20:37:35 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 08 สิงหาคม 2556, 18:02:20
น้องหมอแกอาจพูดประชดสังคมก็ได้มั๊งครับ

                  ไม่ได้พูดประชดสังคม  แกพูดจริง ๆ  แถมยังบอกว่าแกทำหนังสือฮอตสะกอร์กับเฮียน๊อต ก็จริง แต่ถ้าใครมาซื้อตัวแกด้วยการให้เงินมาก ๆ แกทิ้งเฮียน๊อต ทันทีโดยไม่รังเร  ทำเอาเฮียน๊อต พูดไม่ออกไปเลย  ไม่เชื่อลองฟัง ดูทาง FM 99 ตอนห้าโมงเย็น

                   ตอนทีมเชลซีมาเมืองไทยนั้น หมอเมานั้นเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกับโจเซ่โมริญโญ ในการไปอบรมเป็นโค๊ชฟุตบอล ที่อังกฤษ  นั่งดื่มไวน์กับมูริญโญ และรู้จักดีมาก่อน  แต่แกหยิ่ง ไม่ไปหามูริญโญ  แต่บอกคนของเบียร์สิงห์ว่า มีเพื่อรักอยากจะไปพบ  ปรากฏว่ามูริญโญ จำไม่ได้ และไม่ให้พบ  หมอเมาเลยหน้าแตก  ที่คุยเอาไว้มาก

                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #9809 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2556, 22:38:37 »

น้องหมอแกก็พล๊อตเรื่องตลกมาพูดให้คนฟังขำเล่นไปวันๆ
แต่ที่เขาล้อว่าแกนั่งหลับขณะจัดรายการ ปล่อยให้เฮียน๊อสต์พูดคนเดียวเป็นช่วงๆ ช่วงละหลายนาที
นั้นคนฟังขำโดยไม่ต้องมีพล๊อต (แกหลับทุกวัน ผมยืนยันได้ เพราะผมดูทางเน็ท เห็นผู้จัดด้วย)
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9810 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2556, 05:11:55 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 08 สิงหาคม 2556, 22:38:37
น้องหมอแกก็พล๊อตเรื่องตลกมาพูดให้คนฟังขำเล่นไปวันๆ
แต่ที่เขาล้อว่าแกนั่งหลับขณะจัดรายการ ปล่อยให้เฮียน๊อสต์พูดคนเดียวเป็นช่วงๆ ช่วงละหลายนาที
นั้นคนฟังขำโดยไม่ต้องมีพล๊อต (แกหลับทุกวัน ผมยืนยันได้ เพราะผมดูทางเน็ท เห็นผู้จัดด้วย)


                  แต่ก็หน้าแตก  ด้วยทิฏฐิ  เรื่องโฮเซ่มูริญโญ  สุดท้ายก็แห้ว  เพราะคุยไว้แยะ

                  สวัสดีตอนเช้ามืด
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9811 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2556, 05:40:06 »

                                   ติลักขณาทิคาถา


สัพเพ  สังขารา  อะนิจจาติ        ยะทา  ปัญญายะ  ปัสสะติ,
    เมื่อใด  บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง;

อะถะ  นิพพินทะติ  ทุกเข        เอสะ  มัคโค  วิสุทธิยา,
   เมื่อนั้น  ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์  ที่ตนหลง;  
   นั่นแหละ  เป็นทางแห่งพระนิพพาน  อันเป็นธรรมหมดจด;

สัพเพ  สังขารา  ทุกขาติ        ยะทา  ปัญญายะ  ปัสสะติ,
    เมื่อใด  บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์;

อะถะ  นิพพินทะติ  ทุกเข        เอสะ  มัคโค  วิสุทธิยา,  
    เมื่อนั้น  ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์  ที่ตนหลง;  
   นั่นแหละ  เป็นทางแห่งพระนิพพาน  อันเป็นธรรมหมดจด;

สัพเพ  ธัมมา  อะนัตตาติ        ยะทา  ปัญญายะ  ปัสสะติ,  
   เมื่อใด  บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา;

อะถะ  นิพพินทะติ  ทุกเข        เอสะ  มัคโค  วิสุทธิยา,  
    เมื่อนั้น  ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์  ที่ตนหลง;  
   นั่นแหละ  เป็นทางแห่งพระนิพพาน  อันเป็นธรรมหมดจด;

อัปปะกา  เต  มะนุสเสสุ        เย  ชะนา  ปาระคามิโน,
    ในหมู่มนุษย์ทั้งหลาย, ผู้ที่ถึงฝั่งแห่งพระนิพพานมีน้อยนัก;

อะถายัง  อิตะรา  ปะชา        ตีระเมวานุธาวะติ,
   หมู่มนุษย์นอกนั้นย่อมวิ่งเลาะอยู่ตามฝั่งในนี่เอง;

เย  จะ  โข  สัมมะทักขาเต        ธัมเม  ธัมมานุวัตติโน,
    ก็ชนเหล่าใดประพฤติสมควรแก่ธรรม  ในธรรมที่ตรัสไว้ชอบแล้ว;

เต  ชะนา  ปาระเมสสันติ         มัจจุเธยยัง  สุทุตตะรัง,
    ชนเหล่านั้นจักถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน,  ข้ามพ้นบ่วงแห่งมัจจุที่ข้ามได้ยากนัก;

กัณฺหัง  ธัมมัง  วิปปะหายะ       สุกกัง  ภาเวถะ  ปัณฑิโต,
   จงเป็นบัณฑิตละธรรมดำเสีย,  แล้วเจริญธรรมขาว;

โอกา  อะโนกะมาคัมมะ        วิเวเก  ยัตถะ  ทูระมัง,
ตัตฺราภิระติมิจเฉยยะ           หิตฺวา  กาเม   อะกิญจะโน.  

   จงมาถึงที่ไม่มีน้ำ, จากที่มีน้ำ, จงละกามเสีย, เป็นผู้ไม่มีความกังวล,  จงยินดีเฉพาะต่อพระนิพพาน,  อันเป็นที่สงัด ซึ่งสัตว์ยินดีได้โดยยาก.




สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                        เช้านี้ นั่งภาวนาแล้ว

                        สวดมนต์ทำวัตรเช้า และแผ่เมตตาแล้ว

                        ได้เวลาสอนธรรมะ  เพราะยังมีวิญญาณที่ร่องลอย มีผีสาง สัตว์เดรฉาร หมู่เทวดา และมนุษย์ คอยฟังธรรมอยู่

                         ขอให้ทุกท่านพิจารณาดูร่างกาย จิต และสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวท่านเถิด ล้วนเป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ทั้งสิ้น ไม่ช้าก็เร็ว ย่อมสลายลง ไม่ผิดเพี้ยนไปจากนี้ทั้งสิ้น

                         ความคิดของคน เมื่อมันคิดขึ้นมาจะด้วยสาเหตุจากสิ่งที่ประสบอยู่ในปัจจุบัน หรือในอดีตที่ผ่านมาแล้ว หรือการคำนึงในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง  ซึ่งล้วนก่อความวิตกกังวล หรือทุกข์ทั้งสิ้น เมื่อคนหลงอยู่ในความคิด  ย่อมมีแต่ทางเสียหาย คือตกอยู่ในความทุกข์ คือทุกข์ใจเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อทุกกข์ใจมากขึ้น ๆ กายก็ทุกข์ไปด้วย  ย่อมเป็นเช่นนี้ไม่ละเว้น

                          แต่ถ้าผู้ใดเมื่อประสบแก่สิ่งเหล่านี้ มีความรู้สึกตัว คือมีสติ หรือรู้ แยกออกมาจากความคิดได้  จะพบว่าสิ่ที่คิดนั้นมันก็หายไป สิ่งที่เป็นทุกข์ที่ตนเองหลงอยู่ในความคิดนั้นก็ดับไป รู้สึกโล่งโปรงเบา สบายนั่นละ คือทางเอกอันประเสริฐ อยู่ในโลกของการมีสติ รู้สึกตัวแล้ว เพราะสิ่งที่คิดนั้นมันเป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ มันไม่เที่ยง อะไรไม่เที่ยงมีแต่ทุกข์  อะไรที่เป็นทุกข์ เราต้องเข้าใจว่ามันไม่มีตัวตนที่แท้จริงเลย มีเพียงรูป-นาม แต่เราหลงคิดไปเองทั้งสิ้น  แม้กระทั่งวัตถุ รอบ ๆ ตัวเราก็ไม่ยั่งยืน โดยสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมนานเข้า ๆ มันก็บุบสลาย พังลงในที่สุด  

                          ดังนั้นเราอย่าไปยึดมั่นถือมั่นในทรัพย์สมบัติ หรืออะไร ๆ เลยทั้งสิ้น เอาเฉพาะ สิ่งที่พอมีพอกิน ไม่ทำให้ตนเอง และคนรอบข้างเดือดร้อนเป็นพอ  อยู่ในมรรค ๘ รักษากาย วาจา ใจ ของเราให้เป็นปกติ คือศีล นี่ละ ความสงบแห่งจิตที่ไม่ปรุงแต่งย่อมเกิดขึ้นแก่เราได้ นั่นละทางสายเอกอันอุดม

                           อย่าลืมคุณสมบัติของผู้บรรลุธรรมคือ สัมมาวายามะ และการสำรวมกาย  วาจา  ใจ  นั่นแหละสำคัญที่สุด

                           เราอย่าไปยินดี เพลินเพลิน หลงติด อยู่กับ เมื่อตาเห็นรูป  หูได้ยินเสียง  จมูกได้ดมกลิ่น  ลิ้นได้ลิ้มรส  ได้สัมผัสทางกาย และได้ปล่อยใจให้นึกคิดตามปราถนา  จงใช้ปัญญาพิจารณา เห็นสักแต่ว่าเห็น  ได้กลิ่นสักแต่ว่าได้กลิ่น ได้ลิ้มลองสักแต่ว่าได้ลิ้มลอง ได้สัมผัสทางกายก็แต่ว่าได้สัมผัส และให้คิดในทางธรรมะของพระพุทธองค์ที่ไม่มีทุกข์ทั้งสิ้น คือไม่ยินดี  ยินร้าย ไม่หลงใด ๆ ทั้งสิ้น

                           หรือพูดง่าย ๆ ให้มีสติ หรือรู้สึกตัวนั่นเอง เพราะถ้ารู้ตัว  มันจะไม่คิด  เมื่อไม่คิด ก็ไม่ทุกข์

                          ความสุขที่ปราณีต คือความสุขที่เกิดจากการไม่คิดหรือไม่ปรุงแต่ง นั่นเอง

                          ได้เวลาเตรียมตัวไปเดินจงกรม  ออกกำลังกายยามเช้าแล้ว เพราะนกเอี้ยงส่งเสียงร้องเต็มไปหมดเตือนว่าได้เวลาแล้วเพราะจะแจ้งแล้ว

                          ขอผู้ที่เดินทาง ต้องการทางสายเอก ได้พิจารณาธรรมที่ยกมานี้ให้เห็นจริงด้วยปัญญาของท่านเองเถิด

                          สวัสดียามเช้าครับทุกท่าน
                    
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9812 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2556, 08:01:04 »

พี่สิงห์ พี่ป๋อง และสมาชิกทุกท่าน


สังคมไทยขณะนี้ก็มีอยู่ 4 พรรค 4 พวกคือ
พวกมึง, พวกกู, พวกมัน และไม่ใช่พวกของเรา
ถ้าเป็น "พวกมึง" ก็หนักหน่อย, "พวกมัน" ก็เบาลงเล็กน้อย, ถ้า"ไม่ใช่พวกของเรา" ปล่อยวางอย่าใส่ใจ
แต่ถ้าเป็น"พวกของเรา" ต้องช่วยกันดูแล เอาใจใส่ครับ ตามธรรมเนียมของคนไทย
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9813 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2556, 08:07:55 »

ขณะนี้พายุโซนร้อน"มังคุด" แปรสภาพเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำอยู่ใกล้ๆกับกรุงฮานอย ของเวียตนาม
อิทธิพลของฝนยังคงมีมาถึงประเทศไทย โดยเฉพาะกับภาคเหนือและภาคอีสานของไทย
ไม่รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลอันดามันและอ่าวไทยที่พัดเข้าสู้ภาคกลางและภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศ ประจำวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ หนองคาย บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ยังคงต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน
เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ
จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆมากกับมีโอกาสฝนตก ร้อยละ 70
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9814 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2556, 08:34:18 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                       เช้านี้อากาศที่ นครศรีธรรมราชท้องฟ้าแจ่มใส  ลมพัดแรง เย็นสบาย สามารถออกกำลังกายเดินจงกรม ชิกง-โยคะ ได้ดีทีเดียว  ที่โรงแรมเมื่อคืนมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย (คนจีน) มาพักจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ดี ครับ

                       เดี๋ยวนี้ เมื่อเห็นหรือได้รับรู้เรื่องราว พระ เณร  แม่ชี อุบาสก  อุบาสิกา ที่ปฏิบัตินอกคำสอนของพระพุทธองค์  ก็ได้แต่ปลง  ไม่อยากไปทับถม หรือแสดงความคิดเห็น เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเรา  ยกเว้นมีผู้อยากทราบความจริงตามทัศนของอาจารย์มานพ  ก็จะอธิบายให้ฟัง  โดยเปรียบเทียบกับคำสอนที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกเป็นหลัก ให้ผู้ฟังตัดสินใจเอาเอง

                        พระพุทธองค์ท่านสอนให้ระวังตนเอง เพราะเราสามารถกระทำได้  เราไม่สามารถไประวังผู้อื่น หรือตักเตือนผู้อื่นได้  เพราะจะนำซึ่งทุกข์มาให้ตนเอง เพราะคนคิดไม่เหมือนกัน แต่มีพฤติกรรมของจิตเหมือนกัน แต่คิดต่างกันเพราะความยึดมั่นถือมั่นที่ไปเกาะติดที่จิตนั่นเอง

                        เมื่อเช้าภายหลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ได้สอนให้หัวหนักพนักงานห้องอาหารเช้า รับศีลห้า หรือเลิกดิ่มเหล้า-เบียร์ โดยเด็ดขาด  สอนให้หักดิบเอาชนะใจตนเองให้ได้ เพราะอายุมาถึงกึ่งหนึ่งแล้ว มีแต่ปัญหาครอบครัว เงินไม่พอใช้ เพราะหลงอยู่แต่ในความคิดตนเอง ดื่มเบียร์ทุกวัน เดือนหนึ่งหมดเงินไปมากกว่า 4000 บาท แล้วมันจะมีเงินเหลือได้อย่างไร  ลูก-เมีย เดือดร้อน   นี่ละคนหลงตัวเอง   รู้ แต่ทำไม่ได้  ต้องเริ่มต้นทันที เดี๋ยวนี้ ยังไม่สาย  ถ้าไม่ทำ ย่อมรับผลตามที่ประสบอยู่ทุกวัน  ใช้ปัญญาคิดไตร่ตรองดู

                        สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9815 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2556, 11:40:31 »


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                               ขณะความฝันของพี่สิงห์  กำลังก้าวหน้าไปด้วยดีเหลืออีกเพียงนิดเดียว คือ ทำอย่างไร ? จะเทคอนกรีตเสาเข็มใช้คนไม่เกินสามคนเท่านั้น นั่นคือหัวข้อที่จะต้องเอาชนะให้ได้

                                พี่สิงห์ ได้ทำเครื่องมือทดลอง เพื่อเขย่าคอนกรีตให้แน่น และสามารถแต่งหน้าปูน และทำบัวเสาให้ด้วย

                                ตอนนี้ยังขาดตัวทำบัวเท่านั้น  ซึ่งช่างยังไม่ได้ทำให้ (รอติดตั้ง)

                                ถ้าเต็มรูปแบบ จะยกเอา กระบะเทปูนอยู่บนเครื่อง ด้วย ไม่ต้องใช้เครน ไม่ต้องใช้คน

                                อีกไม่เกินหนึ่งอาทิตย์  ความฝันจะเป็นจริงได้เหมือนกับการหล่อแผ่นพื้น ตามรูปข้างล่าง

                                 ก็เรียนให้ทราบ เพื่อว่าใครทำมาหากินทางเสาเข็ม  จะสามารถเอาไปใช้ได้

                                 สวัสดี




การเทแผ่นพื้นแบบง่าย ๆ ไม่ต้องใช้คนมาก  เสาเข็มก็สามารถทำได้เช่นกัน



ถ้าหล่อแผ่นพื้นแบบเดิมๆ ที่ทำกันอยู่ทั่วไป ณ ปัจจุบัน







ปัจจุบัน เราเทกันแบบนี้ คนงานสู้ไม่ไหว และใช้คนงานมาก
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9816 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2556, 12:14:07 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 09 สิงหาคม 2556, 08:01:04
พี่สิงห์ พี่ป๋อง และสมาชิกทุกท่าน


สังคมไทยขณะนี้ก็มีอยู่ 4 พรรค 4 พวกคือ
พวกมึง, พวกกู, พวกมัน และไม่ใช่พวกของเรา
ถ้าเป็น "พวกมึง" ก็หนักหน่อย, "พวกมัน" ก็เบาลงเล็กน้อย, ถ้า"ไม่ใช่พวกของเรา" ปล่อยวางอย่าใส่ใจ
แต่ถ้าเป็น"พวกของเรา" ต้องช่วยกันดูแล เอาใจใส่ครับ ตามธรรมเนียมของคนไทย


สวัสดีครับ คุณเหยง

                      การมีพรรคพวก ในการทำงานมันก็ดี  เพราะจะมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

                      แต่มันต้องเป็นไปตามสัมมาอาชีวะ และสัมมาวายามะ(เป็นไปในทางกุศล)

                      ประกอบไปด้วยประโยชน์ สุจริต ไม่เบียดเบียนคนอื่น ๆ และมีคุณธรรม

                      แต่คงหาไม่ได้เลย ใช่ไหม คุณเหยง ในพรรคเพื่อไทย

                      อาจารย์ชัชชาติ   น่าจะเป็นคนดี  ตามที่ อ.เผ่า ว่า  แต่ก็เปลี่ยนไป เพราะอำนาจ  ชื่อเสียง และคำว่ารัญมนตรี

                      สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9817 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2556, 12:26:55 »



                         เนื่องจากคนรอบข้าง ทางนครศรีธรรมราช  ท้องผูกกันมาก

                         วันนี้ ตอนเย็น ผมจึง จับทำ Detox ที่ห้องผมที่โรงแรมทวินโลตัส

                         ได้ซื้อน้ำด่าง และน้ำแร่ มาเรียบร้อยแล้ว
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9818 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2556, 19:39:03 »

สวัสดียามเย็นครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                        วันนี้ดีใจที่ได้ให้อาจารย์อ๊อด ทำ Detox ลำไส้ใหญ่ สำเร็จ ด้วยความเต็มใจ เป็นการทำความสะอาดลำไส้ใหญ่

                         อาจารย์อ๊อด เป็นตับอักเสบไวรัสบี  รักษามา ห้าปี แล้วยังไม่หาย ปัจจุบันใช้วิธีธรรมชาติบำบัด คือ ผมได้แนะนำให้ดูแลเรื่องอาหาร  นอนหัวค่ำ และให้งดมื้อเย็น และคุณหมอที่รักษา ที ม.สงขลา  ก็เห็นดีด้วย  อาจารย์อ๊อด จะว่ายน้ำประมาณหนึ่งกิโลเมตร ทุกวัน

                         ปัจจุบันอาจารย์อ๊อดเห็นคุณค่าของธรมชาติบำบัด เพราะรักษาทางแผนปัจจุบันมันไม่หาย ทั้ง ๆ กินยาวันละสามพันบาท  เคยเห็นโลงศพ มาจ่อแล้ว  สามารถเปลี่ยนนิสัยได้ คือเมื่อก่อนนอนดึกเที่ยวกลางคืนทุกวัน ไม่ตีหนึ่งไม่กลับบ้าน  แต่ปัจจุบันดีขึ้นมาก  ก็ยังต้องให้กำลังใจกันต่อไป

                         วันนี้ผมบอกอาจารย์อ๊อดไปสองเรื่อง คือ อาจารย์อ๊อดต้องฝึกชิกงทุกวัน และให้ไปถามคุณหมอที่รักษาว่า จะขอไปทำ "ล้างพิษตับ" ได้ไหม  เพราะคนที่เป็นไวรัสอักเสบบี  ล้างพิษตับแล้วมันดีขึ้นทุกราย และหายได้ในที่สุด

                         นอกจากนี้อาจารย์อ๊อดก็ฝึกภาวนาเจริญสติ  มันเลยดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ในทุกด้าน  น่าชื่นชมในการเปลี่ยนสันดานใหม่ ของอาจารย์อ๊อด

                          ผมก็คอยแนะนำ และเป็นกำลังใจ ให้เอาชนะโรคนี้ให้ได้  จริง ๆ มันควรจะหายไปนานแล้ว ถ้าเชื่อผมแต่ต้น

                          ค่ำนี้ ก็รายงานให้ทราบเพียงเท่านี้  ได้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็น และเจริญสติก่อนนอนแล้วครับ นครศรีธรรมราชฝนไม่ตกทั้งวันเลยวันนี้

                           ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9819 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2556, 05:54:17 »

                                             สังเวคปริกิตตนปาฐะ


อิธะ  ตะถาคะโต  โลเก  อุปปันโน,    
      พระตถาคตเจ้าเกิดขึ้นแล้ว ในโลกนี้;

อะระหัง  สัมมาสัมพุทโธ,    
      เป็นผู้ไกลจากกิเลส, ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง;
 
ธัมโม  จะ  เทสิโต  นิยยานิโก,       
      และพระธรรมที่ทรงแสดง  เป็นธรรมเครื่องออกจากทุกข์;
 
อุปะสะมิโก  ปะรินิพพานิโก,
      เป็นเครื่องสงบกิเลส, เป็นไปเพื่อปรินิพพาน;
 
สัมโพธะคามี  สุคะตัปปะเวทิโต ;
      เป็นไปเพื่อความรู้พร้อม, เป็นธรรมที่พระสุคตประกาศ;
 
มะยันตัง  ธัมมัง  สุตฺวา  เอวัง  ชานามะ : -  
       พวกเราเมื่อได้ฟังธรรมนั้นแล้ว, จึงได้รู้อย่างนี้ว่า : -

ชาติปิ  ทุกขา,       แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์;

ชะราปิ  ทุกขา,       แม้ความแก่ก็เป็นทุกข์;

มะระณัมปิ  ทุกขัง,    แม้ความตายก็เป็นทุกข์;

โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ  ทุกขา,
   แม้ความโศก  ความร่ำไรรำพัน  ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ก็เป็นทุกข์;

อัปปิเยหิ  สัมปะโยโค  ทุกโข,    
   ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์;
 
ปิเยหิ  วิปปะโยโค  ทุกโข,
   ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์;
 
ยัมปิจฉัง  นะ ละภะติ ตัมปิ  ทุกขัง,
   มีความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์;
 
สังขิตเตนะ  ปัญจุปาทานักขันธา  ทุกขา,    
   ว่าโดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นตัวทุกข์;
 
เสยยะถีทัง,          ได้แก่สิ่งเหล่านี้ คือ :-

รูปูปาทานักขันโธ,       ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือรูป;
 
เวทะนูปาทานักขันโธ,    ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือเวทนา;
 
สัญญูปาทานักขันโธ,    ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือสัญญา;

สังขารูปาทานักขันโธ,    ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือสังขาร;
 
วิญญาณูปาทานักขันโธ,    ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือวิญญาณ;
 
เยสัง  ปะริญญายะ,    เพื่อให้สาวกกำหนดรอบรู้อุปาทานขันธ์เหล่านี้เอง,
 
ธะระมาโน  โส  ภะคะวา,       จึงพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เมื่อยังทรงพระชนม์อยู่,
 
เอวัง  พะหุลัง  สาวะเก  วิเนติ,    ย่อมทรงแนะนำสาวกทั้งหลาย เช่นนี้เป็นส่วนมาก;

เอวัง  ภาคา  จะ  ปะนัสสะ  ภะคะวะโต  สาวะเกสุ  อะนุสาสะนี  พะหุลา  ปะวัตตะติ,  
อนึ่ง คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น, ย่อมเป็นไปในสาวกทั้งหลาย, ส่วนมาก, มีส่วนคือการจำแนกอย่างนี้ว่า :-

รูปัง  อะนิจจัง,       รูปไม่เที่ยง;

เวทะนา  อะนิจจา,       เวทนาไม่เที่ยง;

สัญญา    อะนิจจา,       สัญญาไม่เที่ยง;

สังขารา  อะนิจจา,       สังขารไม่เที่ยง;

วิญญาณัง  อะนิจจัง,       วิญญาณไม่เที่ยง;
 
รูปัง  อะนัตตา,          รูปไม่ใช่ตัวตน;

เวทะนา  อะนัตตา,       เวทนาไม่ใช่ตัวตน;
 
สัญญา    อะนัตตา,                     สัญญาไม่ใช่ตัวตน;

สังขารา  อะนัตตา,       สังขารไม่ใช่ตัวตน;

วิญญาณัง  อะนัตตา,       วิญญาณไม่ใช่ตัวตน;
 
สัพเพ  สังขารา  อะนิจจา,                   สังขารทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยง;

สัพเพ  ธัมมา  อะนัตตาติ.                 ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน    ดังนี้.
 
เต (หญิงว่า : ตา) มะยัง  โอติณณามะหะ,    พวกเราทั้งหลาย เป็นผู้ถูกครอบงำแล้ว ;

ชาติยา,             โดยความเกิด;
 
ชะรามะระเณนะ,       โดยความแก่ และความตาย;

โสเกหิ  ปะริเทเวหิ  ทุกเขหิ  โทมะนัสเสหิ  อุปายาเสหิ,  
โดยความโศก ความร่ำไรรำพัน, ความไม่สบายกาย,ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ทั้งหลาย ;

ทุกโขติณณา,            เป็นผู้ถูกความทุกข์ หยั่งเอาแล้ว;
 
ทุกขะปะเรตา,          เป็นผู้มีความทุกข์ เป็นเบื้องหน้าแล้ว;

อัปเปวะนามิมัสสะ  เกวะลัสสะ  ทุกขักขันธัสสะ  อันตะกิริยา  ปัญญาเยถาติ.   
ทำไฉน การทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้, จะพึงปรากฎชัด แก่เราได้.



สวัสดียามเช้าตรู่ครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือนที่รักทุกท่าน

                           เช้ามืดนี้ ได้นั่งภาวนาเจริญสติแล้ว ได้สวดมนต์ทำวัตรเช้าแล้ว ถึงเวลาที่จะสอนธรรม ให้กับบรรดาผีสาง วิญญาณที่ร่องลอย สัตว์เดรฉาร หมู่เทวดา และมนุษย์ แล้ว  ขอทุกท่านจงมีสติ-สัมปชัญญะ ตั้งใจฟังธรรมเถิด

                           มนุษย์เรานั้นพระพุทธองค์ ทรงสอนว่า ประกอบด้วย "รูป - นาม"

                           รูปนั้น คือร่างกายตามที่เราเห็นเราเข้าใจกันดีนั่นแหละ และรูปนั้นประกอบไปด้วยธาตุทั้ง ๔ คือธาตุดิน  ธาตุลม  ธาตุน้ำ และธาตุไฟ  มาประชุมกันด้วยเหตุ-ปัจจัย  จึงเกิดเป็นรูปขึ้น

                           ธาตุดิน คือส่วนที่รวมตัวกันเป็นก้อน หรือของแข็ง

                           ธาตุน้ำ คือส่วนที่เป็นของเหลว

                           ธาตุลม คือส่วนที่เป็นอากาศธาตุ

                           ธาตุไฟ คือส่วนที่เป็นไออุ่น หรืออุณหภูมิร้อน-เย็น

                           ท่านจงพิจารณาด้วยปัญญาเองเถิด โลกใบนี้ และทุกดวงดาวในสุริยะจักรวาร  ล้วนประกอบด้วยธาตุที่ง ๔ นี้สิ้น เมื่อเราตายไป ธาตุทั้งสี่ก็แตกสะลายกลับไปดังเดิม

                            นาม คือส่วนที่เรียกว่าจิต ไม่มีตัวไม่มีตน ไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน เป็นเพียง "ธรรมชาติของการรู้อารมณ์" เมื่อเราระลึกขึ้นมาได้ที่ส่วนไหนในร่างกาย จิตก็อยู่ตรงนั้น เช่น ระลึกอยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก ผ่านรู้จมูก จิตของเราก็อยู่ตรงนั้น ระลึกอยู่ที่การนั่ง จิตของเราก็อยู่ในท่าเคลื่อนไหวกิริยานั่ง ระลึกได้อยู่ในท่าเดิน จิตของเราก็อยู่ที่การเคลื่อเท้า หยุดเท้า ระลึกได้อยู่ในท่านอน จิตของเราก็อยู่ที่หลังหรือส่วนของร่างกายสัมผัสกับที่นอน  ระลึกได้กับความสุข ความทุกข์ ไม่สุข ไม่ทุกข์ จิตของเราก็อยู่ที่หัวใจหรือทรวงอก  ระลึกได้ว่าจิตของเรากำลังคิด  จิตก็อยู่ที่สมอง สรุป ก็คือ ขึ้นอยู่กับว่าเราระลึกได้ที่ไหน  จิตก็อยู่ที่นั้น ของให้ระลึกได้เท่านั้น และระลึกให้บ่อย ๆ จนติดเป็นนิสัย ท่านก็จะอยู่กับปัจจุบันได้เองโดยอัตโนมัติ

                            นามหรือจิต ยังแยกออกได้ ตามอารมณ์ คือ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ

                            เวทนา คือ ธรรมชาติของอารมณ์ที่สัมผัสได้ และสมมติมีชื่อว่าอารมณือย่างนี้คือความสุข  อารมณ์อย่างนี้คือความทุกข์ อารมณือย่างนี้คือความไม่สุข ไม่ทุกข์ เป็นที่เข้าใจได้ มนุษย์นั้น อารมณือันไหนที่สุข ก็โสมนัส  ร่าเริง ชอบ และอยากได้ อยากประสบอีกเสมอ ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะจิตชอบ จิตเพลิดเพลิน จิตหลง  แต่อารมณ์ใดที่ประสบแล้วมีแต่ทุกข์ ไม่ชอบ เกิดโสมนัส ย่อมไม่อยากประสบอีก  ส่วนอารมณืไม่สุข ไม่ทุกข์นั้น มักเกิดจากจิตที่เห็นด้วยปัญญาในความจริงแห่งธรรมนั้น ไม่ยึดมั่นถือมั่น จึงปล่อยวางได้ ด้วยปัญญาเป็นแบบอัตโนมัติ เแพาะผู้ที่พิจารณาธรรมและเห็นความเป็นจริง

                            สัญญา คือ อารมณ์ที่เคยสัมผัสมาก่อน มีการสมมุติชื่อเรียก และเก็บเอาไว้ในหน่าวยความจำคือสมอง เมื่อประสบอีก หรือนึกขึ้นมาได้ ก็จำได้ขึ้นมา เป็นธรรมชาติของอารมณ์ในการจำได้หมายรู้

                            สังขาร คือ อารมณ์ที่เกิดการคิด หรือภาษาพระท่านว่าการปรุงแต่ง เป็นธรรมชาติของจิต ที่จิตมันชอบคิด ไม่จบสิ้นจนกว่าร่างกายจะดับ คิดจากอะไร คิดจากในสิ่งที่ได้สัมผัส หรือประสบ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต นั่นเอง โดยเฉพาะการคิดที่เกิดจากจิต และเมื่อคิดแล้วก็หลงอยู่ในความคิด เป็นความเคยชินตั้งแต่เกิด  จนไม่สามารถแยกออกได้ หรือไม่เห็นความคิดตนเองเลย เมื่อคิดแล้วก็กระทำตาม ย่อมมีผลตามมาทั้งดีและไม่ดี

                            ขอเวลานอกไป เดินจงกรมออกกำลังกายยามเช้า ฝึกชิกง-โยคะ ฝูงนกเอี้ยงร้องเตือนแล้ว ครับ

                            สวัสดี

            


สวัสดียามสายครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                        ออกกำลังกายเรียบร้อยแล้ว รับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว มาสอนธรรมะกันต่อดีกว่า

                        สังขาร คือความคิดปรุงแต่ง

                        คนเรานั้น มีทั้งทุกกาย และทุกใจ
 
                        แต่ตัวที่เป็นปัจจัยหลักที่นำทุกข์มาให้คือ ความคิดปรุงแต่งนี่ละ คือ สังขาร จึงสรุปได้ว่า เมื่อคิด ก็ประสบทุกข์ เมื่อไม่คิด ก็ไม่ทุกข์ จะไม่ให้คิดได้ ก็ต้องมีความรู้สึกตัว หรือมีสติ หรือระลึกได้ แต่ถ้าจะคิดต้องคิดในทางพิจารณาธรรมะของพระพุทธองค์ เพราะมันไม่มีทุกข์ทั้งสิ้น

                        วิญญาณ คือธรรมชาติของอารมณ์ที่รู้แจ้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เมื่อตาได้เห็น(สัมผัส)รูป ก็รู้แจ้ง เป็นมโนวิญญาณ เมื่อหูได้ยิน(สัมผัส)เสียง ก็รู้แจ้งเป็นโสตวิญญาณ เมื่อจมูกได้ดม(สัมผัส)กลิ่น ก็ได้รู้แจ้งเป็นฆานะวิญญาณ เมื่อลิ้นได้ลิ้ม(สัมผัส)รส ก็ได้รู้แจ้งเป็นชิวหาวิญญาณ เมื่อกายได้สัมผัส ก็ได้รู้แจ้งเป็นผัสสะวิญญาณ และเมื่อใจได้นึกคิด(สัมผัส) ก็ได้รู้แจ้งเป็นมโนวิญญาณ

                         ดัง พระพุทธองค์ท่านทรงสอนว่า อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นตัวทุกข์

                         ผู้ใดที่ยังยึดมั่นถือมั่นอยู่ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ผู้นั้นย่อมประสบในทุกข์เสมอ และเมื่อตายไปย่อมไปสู่อีกภพหนึ่งเสมอ

                         นอกจากนี้พระสารีบุตร ได้สอนท่านอาณาบิณฑิกคฤหบดีก่อนตายว่า อย่ายึดมั่นใน ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ และวิญญาณธาตุ  เมื่อไม่ยึดมั่นใด ๆ แล้วก็จะจากโลกมนุษย์ไปแบบไม่มีอะไรติดค้าง ที่จะต้องมาเกิดอีก

                          วิญญาณธาตุ ที่เพิ่มเติมมานั้น เป็นธรรมชาติของอารมณ์ที่รู้แจ้ง ไม่มีตัวตน ถือเป็นธาตุหนึ่งที่เมื่อยังยึดมั่นอยู่  ย่อมไปจุติในภพหน้าเสมอ โดยมีกรรมตามไปด้วยเป็นเงาตามตัว ที่จะต้องชดใช้กันต่อไป  จนกว่าจะหมด และไม่สร้างกรรมอีก

                           วิญญาณธาตุ เป็น นาม คือไม่มีตัวไม่มีตน

                           ก็สมควรแก่เวลา สำหรับธรรมะ ประจำวันนี้  สอนมากกว่านี้ ท่านก็จะไม่อ่าน  มันก็จะไม่ก่อประโยชน์

                           ขอทุกท่านจงพิจารณาด้วยปัญญา เห็นตามนี้

                           สวัสดี


      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9820 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2556, 12:30:57 »


ทำไมการแกว่งแขน กับการว่ายน้ำ จึงป้องกันโรคร้ายได้มากมาย

เราเคยนำเสนอเรื่องการแกว่งแขนรักษาโรคภัยได้มาแล้ว เพราะอะไร วันนี้มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์จาก Dr. Kimberly Kaye มาบอกเล่าให้เข้าใจพร้อมกับประโยชน์ของการว่ายน้ำ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลกับการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองในร่างกาย ส่งผลให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายมีสมดุล ป้องกันโรคร้ายได้อย่างคาดไม่ถึง

บทความของ Dr. Kimberly Kaye แปลโดย Wellness 2012

คำว่าระบบน้ำเหลืองนั้นหมายรวมถึง ม้าม ต่อมทอนซิล ต่อมไธมัส ต่อมน้ำเหลืองต่างๆ น้ำเหลือง ท่อน้ำเหลือง นับเป็นระบบที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อทำความสะอาด ชำระล้างของร่างกาย อันจำเป็นต่อ การรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เยียวยาความเจ็บป่วย

เพราะระบบน้ำเหลืองมีหน้าที่ขนถ่ายของเสีย พิษที่สะสมในร่างกาย เศษของเซลล์ที่ตายแล้ว ออกไปกำจัดยังอวัยวะที่รับผิดชอบและขับออกไปจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีหน้าที่สร้างเม็ดเลือดขาว แอนตี้บอดี้ ของระบบภูมคุ้มกัน ตลอดระยะทางของท่อน้ำเหลืองจะมีต่อมน้ำเหลืองอยู่เป็นระยะๆเพื่อช่วยกรองสารเเปลกปลอม เชื้อโรคที่มีอันตราย

ตับเป็นอวัยวะที่ทำงานควบคู่ไปกับระบบน้ำเหลือง โดยตับมีหน้าที่สร้างน้ำเหลืองเป็นส่วนมาก และตับก็อาศัยน้ำเหลืองนี่เองขนส่งสารอาหารที่ย่อยแล้วจากตับและลำไส้เล็กไปส่งต่อให้กับเซลล์และอวัยวะต่างๆ ม้ามเป็นอวัยวะขนาดใหญ่ที่สุดของระบบน้ำเหลือง มีหน้าที่กรองและกำจัดเซลล์เม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ และเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ใครก็ตามที่ผ่าตัดเอาม้าม ต่อมทอนซิล ต่อมไธมัสออกไป จะติดเชื้อได้ง่ายขาดภูมิต้านทาน

หากการไหลเวียนของน้ำเหลืองติดขัด จะทำให้ต่อมน้ำเหลืองบวม อักเสบ บริเวณที่น้ำเหลืองไหลเวียนและสังเกตได้ชัดเจนได้แก่ ลำคอ หลังใบหู ท้ายทอย หน้าอก รักแร้ใต้หัวไหล่ ท้องแขน หน้าท้องกึ่งกลางระหว่างหน้าอกกับสะดือ บริเวณขาหนีบ

เนื่องจากน้ำเหลืองไม่มีปั๊มเหมือนระบบเลือดที่มีหัวใจเป็นปั๊ม ดังนั้นการกระตุ้นให้น้ำเหลืองไหลเวียนดีขึ้นจึงต้องพึ่งพิงการออกกำลังกาย และการหายใจให้ลึกๆ เป็นหลัก เพื่อเขย่ากระตุ้นการไหลเวียนน้ำเหลืองด้วยการขยับกล้ามเนื้อ และกระบังลม

การเต้นกระโดดบน trampoline ดูจะเป็นวิธีการที่กระตุ้นน้ำเหลืองได้่ทั่วร่างกาย หากเต้นไม่ได้ก็อาจใช้วิธีกัวซา (Gua Sha) การนวดด้วยน้ำมัน การนวดแผนไทย

ใครก็ตามที่มักมีอาการ ผิวซีด ซูบซีด หลงๆลืมๆ ติดเชื้อบ่อยๆ เป็นหวัดเจ็บคอเสมอๆ เริ่มมีเซลลูไลท์เพิ่มมากขึ้น ให้สงสัยระบบน้ำเหลืองติดขัด ไหลเวียนไม่ดี ทั้งนี้็็ก็เข้าใจได้ไม่ยากนักเพราะของเสีย ขยะมีพิษตกค้างสะสมนั่นเอง

อย่าละเลยอาการน้ำเหลืองติดขัด โดยไม่ได้รักษาเพราะ นานวันเข้าพิษร้ายอาจทำให้ล้มหมอนนอนเสื่อด้วยโรคมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง

ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมารณรงค์ให้ออกกำลังกายด้วยการแกว่งแขนโดยอ้างว่าลดพุงได้อีกด้วย หลายคนแปลกใจว่าเกี่ยวกันตรงไหน? ทั้งที่การแกว่งแขน (แบบตำราแพทย์แผนจีนที่ใช้กันมานับพันปี) บางคนถึงกับหัวเราะเยาะว่าเว่อร์เกิ้น

ใต้หัวไหล่ที่เรียกว่ารักแร้นั้นคือชุมทางของต่อมน้ำเหลืองเบ้อเริ่ม
บริเวณขาหนีบนั่นก็ชุมทางของต่อมน้ำเหลืองขนาดใหญ่

การขยับหัวไหล่และรักแร้ของการแกว่งแขนก็ดี
การว่ายน้ำที่ขยับทั้งหัวไหล่และขาหนีบก็ดี

ล้วนแล้วแต่เป็นการออกกำลังให้ต่อมน้ำเหลืองขยับเพิ่มการไหลเวียนน้ำเหลืองจึงไม่ใช่ของเล่นๆธรรมดาๆ


สวัสดีตอนบ่ายครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                         ท่านเคยสังเกตุตัวเองไหม ท่านที่เป็นไข้หวัด  ท่านที่เป็นโรคเรื้อรัง ความดัน เบาหวาน หลอดเลือด หัวใจ หรือทุกท่าน ตื่นเช้าขึ้นมา ท่านรู้สึกว่า ขมในปาก หรือ เปี้ยวปาก นั่นแสดงว่าร่างกายท่านมีกรดมากเกินไป แสดงว่าท่านเป็นโรค เพราะสภาวะคนเจ็บป่วย ของเหลวในร่างกายจะเป็นกรด

                         แต่ถ้าท่านใดตื่นเช้าขึ้นมา น้ำลายเฝื่อน ๆ แสดงว่าสภาวะของเหลวเป็นด่าง แสดงว่าท่านไม่เจ็บ ไม่ป่วย

                        ลองสังเกตุ น้ำลายของท่านเองตอนตื่นนอน ว่าเป็นกรด หรือด่าง  ถ้าเป็นด่างแสดงว่าสุขภาพท่านดี

                         ท่านลองไปหาน้ำด่าง มาชิมดู  แล้วท่านจะ  รู้ด้วยตัวเองว่า น้ำลายท่านเป็นกรด หรือด่าง

                         ของพี่สิงห์ เป็นด่าง ครับ

                         วันนี้ ม.วลัยลักษณ์ รับปริญญา  มีแนวโน้ม ความไม่แน่นอนของพี่สิงห์ กลับ กทม.  ต้องจำยอม

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9821 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2556, 17:56:04 »

แดดดีขึ้นตั้งแต่เช้านี้ และน่าจะอีก 2 วันข้างหน้าด้วย

พยากรณ์อากาศ ประจำวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16:00 น.    ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตก
เฉียงใต้กำลังปานกลาง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร
นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่ง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 60
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9822 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2556, 18:19:33 »

เพิ่งอ่านข่าว สมเด็จเกี่ยว วัดสระเกศ มรณะภาพเมื่อเช้านี้

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000099207
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9823 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2556, 18:57:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 10 สิงหาคม 2556, 18:19:33
เพิ่งอ่านข่าว สมเด็จเกี่ยว วัดสระเกศ มรณะภาพเมื่อเช้านี้

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000099207

สวัสดีครับ คุณเหยง

                             ขอบคุณมากที่แจ้งให้ทราบ

                              สมเด็จเกียว ท่าน ได้รับนิมนต์มาทำบุญที่หอพักประจำ  สมัยที่ท่านยังเป็นพระพรหมคุณรภรณ์ สมัยที่เรายังเป็นนิสิตหอพัก และ ดร.มนูญ  เป็นผู้ไปนิมนต์   ท่านเป็นพระที่ไม่มีวาสนา  แต่เป็นพระที่ดีองค์หนึ่ง เป็นคนสมุย

                                ต้องหาเวลาไปกราบท่าน

                                พี่สิงห์ อยู่ กทม. เรียบร้อยแล้ว

                                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9824 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2556, 19:43:54 »

                        เมื่อสักครู่ คุณมิ้งค์  ได้โทรศัพท์มาบอกว่า คุณแม่ ของคุณสมเกียรติ   จอนโคกกรวด  ได้เสียชีวิตลง ที่จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันพฤหัสบดี

                        จะฌาปนกิจศพ  วันอาทิตย์ สี่โมงเย็น  พี่สิงห์  ก็ขอแสดงความเสียใจกับคุณกวางดำ  ด้วย ที่ต้องสูญเสียคุณแม่ไป

                         และไม่สามารถจะไปร่วมงานได้ด้วย  ต้องกราบขออภัย คุณกวางดำด้วย  รู้ช้าไปหน่อย   คงต้อองใช้โทรศัพท์ แสดงความเสียใจแทน

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 391 392 [393] 394 395 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><