22 พฤศจิกายน 2567, 21:59:18
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 312 313 [314] 315 316 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3547445 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7825 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2555, 09:27:31 »

 











สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                          วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับพี่พงษ์  จิระโสภณ  ดีใจที่พี่พงษ์  ปลงได้ ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ 

                          ผมได้แนะนำให้พี่พงษ์  ฝึกหายใจลึก ๆ เข้าช้า ๆ  ออกช้า ๆ ทำให้มาก ๆในแต่ละวัน  อ๊อกซิเจน  จะไปทำลายมะเร็งได้  งดอาหารโปรตีนจากเนื้อสัตว์  งดนม  งดน้ำตาล  ไม่ไปรังเกเขา(มะเร็ง)  อยู่กับเขาเป็นเพื่อนเขา  ไม่โกรธ  ทำจิตให้ขาวรอบ  ทั้งหมดนั้นพี่พงษ์ บอกว่าสามารถกระทำได้

                           พี่พงษ์ยังปกติ  มีสติ  และเข้าใจมะเร็งมากขึ้น 

                           โอกาสที่พี่พงษ์ จะอยู่กับพวกเราชาวซีมะโด่งได้นาน ๆ หลาย ๆ ปี มีมากขึ้น ครับ

                           ขอให้พี่พงษ์  เข้าใจในสิ่งที่ผมบอก และปฏิบัติให้ได้  ความสงบ  ความสุข จะบังเกิดขึ้น

                           ผมบอกว่า ภาระต่าง ๆ ของพี่ หมดแล้ว ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อ-แม่ ครูอาจารย์ และแผ่นดินแล้ว

                           ตอนนี้เหลือแต่เพียงดูแลตนเอง เท่านั้น  ไม่ต้องห่วงสิ่งใดทั้งสิ้น

                            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7826 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2555, 21:13:43 »

ตอนที่ ๘ โรงแรมเจ่าลอง

                            ใครมาซาปา ต้องมาพักที่โรงแรมนี้ครับ เป็นโรงแรมที่ดีมาก

                            เนื่องจากผมไม่ได้ไปรับประทานอาหารเย็นกับคณะ จึงกลับมาพักผ่อนที่ห้องก่อน ในห้องมีฮีตเตอร์  มีห้องอาบน้ำที่มีอุปกรณ์ไฮเทคเพื่ออำนวยความสะดวกในการอาบน้ำมาก มีผ้าห่มที่หนา  อบอุ่น ซึ่งผมได้ไปขอจากไกด์มาเพิ่มเพื่อปูบนพื้นห้องสำหรับนอน  ได้สวดมนต์ทำวัตรเย็า และนอนแต่หัวค่ำ และเป็นคืนที่ผมนอนหลับสนิทมาก  คุณเหยงกลับจากรับประทานอาหารเย็น และนวด  ผมยังหลับอยู่เลย เมื่อตื่นมาเปิดประตูก็หลับสนิทจนถึงตีห้า  จึงลุกขึ้นมาสวดมนต์ทำวัตรเช้า  นังเจริญสติจนหกโมงเช้าจึงเดินลงไปที่ห้องโถง ไปเดินจงกรมออกกำลังกาย และรำชิกง

                             หลังจากนั้นก็ไปรับประทานอาหาร ได้เห็นพี่โอภาส  เดินออกไปข้างนอกเพื่ออกกำลังกายและสำรวจตัวเมือง และตามมาด้วยพี่ ดร.ปิ้ง

                              อาหารเช้าที่โรงแรมก็ดีมาก ๆ ครับ เสียอย่างเดียวมีผักสดน้อยไปหน่อย

                              ถ้าใครมา ซาปา ต้องนอนสองคืนครับ ถึงจะคุ้ม เพราะโรงแรมมีสระน้ำอุ่นให้ว่ายน้ำ

                              มีสปา ให้บริการ และอื่น ๆ อีกมาก

                              เชิญชมภาพครับ




ภาพนี้ถ่ายที่หน้าห้องพักของโรงแรม มีแต่เมฆ



ถ่ายที่หน้าโรงแรมที่พัก





อากาศในตัวเมือง ซาปา ก็ยังปิดมีแต่เมฆ

















ชาวเขามายืนรอถ่ายรูป ขายของตั้งแต่เช้ามืดให้นักท่องเที่ยว
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7827 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 05:52:40 »

ความเกิด เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ และเป็นทุกข์

ความแก่  ก็เป็นทุกข์ เพราะคนแก่ไม่สามารถทำอะไรที่ตัวเองเคยทำได้

ความเจ็บ ก็เป็นทุกข์

ความตายก็เป็นทุกข์  โดยเฉพาะก่อนตาย

ความปราถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์

การประสบกับสิ่งที่ไม่รัก ไม่ชอบ ก็เป็นทุกข์

การพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ โดยเฉพาะมารดา-บิดา

ทั้งหมดนี้เป็นทุกข์ ที่มนุษย์ทุกคนต้องประสบไม่ละเว้น มันจึงเป็นทุกข์ตามธรรมชาติ

เรวควรมีสติ  เราหนีไม่พ้น  เราต้องไม่ตกเป็นทุกข์เสียเอง  แต่เราอยู่กับทุกข์นั้นได้



                          วันนี้ได้รับข่าวไม่ดีอีกหนึ่งข่าว  แม่ของประเสริฐ  ที่เป็นคนดูแลแม่  ได้จากไปอีกคนหนึ่ง  ทั้งๆ ที่อายุไม่มาก  สาเหตุ เป็นแผลกดทับที่หลัง ที่มีหนอง  เป็นโพรง  อักเสบ  ลึกถึงกระดูก  มีความเจ็บปวดไม่สามารถ ทนพิษบาดแผลได้  ต้องจากไปด้วยความกระวนกระวาย  ดิ้นรนจากอาการบาดเจ็บแผลกดทับ  สุดท้ายก็ต้องจากไป

                           ผมเล่าให้ทุกท่านฟังเพื่อเอาเป็นเหตุ  ว่าเราทุกคนก็มีโอกาสแบบนี้ได้ในบั้นปลายของชีวิต ถ้าเกิดโรคเรื้อรังกับเรา คือ อ้วน  เบาหวาน  หลอดเลือดหัวใจตีบตัน  สาเหตุมาจาก อาหารที่กิน  ไม่ออกกำลังกาย  พักผ่อนไม่เพียงพอ  หลงอยู่แต่ในความคิดไม่ดูแลตัวเอง โดยมีข้ออ้าง "ไม่มีเวลา" ซึ่งเป็นคำตอบของคนที่เป็นทาสของความคิด

                          โรคเรื้อรังเมื่อเป็นแล้ว  ต้องมีคนดูแลใกล้ชิด  ต้องนอนบนเตียงชนิดช่วยตัวเองไม่ได้  ผลที่ตามมาคือ  จะต้องเป็นแผลกดทับที่หลัง จะตายแบบทรมาร  ท่านลองหลับตานึกดูก็แล้วกัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  กินแต่ที่จำเป็นต้องรูป ไม่ดีกว่าหรือเพราะท่านสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องเอาชนะจิตท่านเท่านั้น  

                           ฉะนั้น พึงสำเนียกให้จงหนักว่า เราต้องเป็นแน่ ๆ ในชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์  ป้องกันดีกว่าครับ

                           ผมต้องไปอุทัยธานี  อำเภอบ้านไร่  ใกล้ ๆ กับป่าดึกดำบรรค์ คงไปเป็นเจ้าภาพฟังพระสวดพระอภิธรรมหนึ่งคืน และอยู่เผาศพ  แต่ยังไม่รู้กำหนดการอะไรเลย  ต้องไปทำงานที่นครศรีธรรมราชด้วย  จะมีเรื่องเที่ยวบินเข้ามาเกี่ยวข้อง  ต้องจัดเวลา  วางแผนตัวเอง

                           สวัสดียามเช้าครับ

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7828 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 08:16:45 »

ตอน ๙ ชมทิวทัศน์ - สูดอากาศบริสุทธิ์


                              วันนี้สภาพอากาศเปิด บางจุด ปิดบางจุด ทำให้เห็นธรรมชาติของ ซาปา เป็นอีกแบบหนึ่ง  ซึ่งเมื่อวานมองอะไรไม่เห็น เพราะอยู่ระดับเมฆ

                              จุดนี้เป็นจุดชมวิวจุดหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก  สูออากาศบริสุทธิ์

                              เชิญชมภาพ ครับ




วันนี้ฟ้าเปิดที่ ซาปา แต่น่าเสียดายที่คณะต้องกลับ เลยไม่ได้ถ่ายรูป และเห็น ซาปา ในอีกบาายากาศหนึ่ง



จุดชมวิว อีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องมาชม-ถ่ายภาพ







จุดนี้อากาศ สดชื่อนจริง ๆ เหมาะแก่กายทำชิกง หรือหายใจเข้าปอดลึก ๆ ครับ













คนสวย หรือว่า ผมถ่านภาพได้สวย !

















      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7829 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 08:25:05 »

ตอน ๑๐ ประตู สวรรค์

                            จุดชมวิวทิวทัศน์ จุดนี้เรียกว่าประตูสวรรค์ เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดจุดหนึ่งใน ซาปา

                            แต่วันนี้อากาศปิด มีเมฆลอยขึ้นมาจากหุบเขาตลอกเวลา มองอะไรไม่เห็นเล

                            หนาว เย็น  ลมแรง  หายใจสบายครับ

                            เชิญชมภาพ








ประตูสวรรค์  มีแต่เมฆ มองไม่เห็นอะไรเลย เป็นหน้าผา ที่มีเมฆลอยขึ้นมาจากหุบเขา

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7830 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 09:17:26 »

ตอน ๑๑ น้ำตกซิลเวอร์

                            น้ำตกวิลเวอร์ คงเรียกชื่อให้ไพเราะ เมื่อเห็นสายน้ำเป็นสีเงิน เมื่อแสงแดดส่งกระทบ

                            ทางขึ้นจะเดินขึ้นเขา ชัน สูง แต่มีบันได เป็นรูปตัวยูคว่ำ โดยมีสะพานข้ามน้ำตก เป็นฐานตัวยู ทางขึ้น-ลง เป็นขาทั้งสองข้างของตัวยู และกึ่งกลางทางมีที่พัก เพื่อให้หยุดหายใจ   และชมวิว

                            ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ

                            ลงมาถึงพื้น ได้จิบน้ำชาใบพืชชาวเขา  กินมันเผา ความเหนื่อยก้หายสิ้น

                            เชิญชมภาพ







น้ำตกซิลเวอร์ ที่นักท่องเที่ยวต้องมาชม อีกจุดหนึ่งของ ซาปา















จุดพักกลางทาง ที่จะเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวของน้ำตกซิลเวอร์ (ทางชัน แต่มีบันได)



จากจุดนี้มองขึ้นไปจะเห็นสะพานข้ามน้ำตก



ผู้กล้าหาญชุดแรก ที่ขึ้นไปชมน้ำตก









อยู่บนสะพาน มองลงไปยังจุดพักครึ่งทาง



อยู่บนสะพาน มองขึ้นไปชมน้ำตก









มองลง จาจุดพักครึ่งทาง ขาลงจากน้ำตก



มองขึนไปชมน้ำตก



ถึงพื้นดิน มองขึ้นอีกครั้งเพื่อลา น้ำตกซิลเวอร์



พี่อ้วน ไม่อยากเดินให้เสียเวลา ขอดื่ม...แก้หนาวและน้ำชา ชาวเขา ขม แต่หวาน



มันเผา  น้ำชาชาวเขาเป็นพืชชนิดหนึ่ง แต่ไม่ใช่ใบชา
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7831 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 09:27:11 »

ยืนมองไปรอบ ๆ 360 องศา ก่อนขึ้นรถไปรับประทานอาหารกลางวัน











      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7832 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 10:32:37 »


                          ดร.สุริยา  

                          เสาร์ - อาทิตย์ นี้ กลับบ้านหรือเปล่า  ถ้ากลับ คืนวันเสาร์อาจจะไปขอค้างคืนที่บ้านด้วย

                          ระยะทางจากป่าดึกดำบรรค์ ถึง ทัพทัน  คงไม่ไกลกันเท่าไร  

                          แต่กลางคืนสงสัย ขับรถหลงทางแน่ ๆ เพราะไม่คุ้นเลย และมืดมาก

                          หรือไม่ ก็คงนอนตามรีสอร์ท แถวนั้น หรือไม่ก็นอนวัด

                          จะไปวันเสาร์ เพื่อ เป็นเจ้าภาพฟังพระสวดพระอภิธรรม และวันอาทิตย์ อยู่เผาศพ

                          ถือโอกาส  พักผ่อนแถวนั้น อุทัยธานี หาอากาศบริสุทธิ์  แต่รู้สึกว่ากลางวันร้อนมาก  กลางคืนหนาว

                          คืนวันอาทิตย์ นอนสิงห์บุรี

                          เช้าวันจันทร์ ถือโอกาส ไปตรวจร่างกายประจำปี  ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี

                          บ่ายวันจันทร์ กลับ กทม. กลางคืนมีงานเลี้ยงส่ง กรรมการผู้จัดการ SIW ที่โรงแรมเซ็นธารา ลาดพร้าว

                          วันอังคารไปสูงเนิน อวยพรวันเกิด และค้างคืน

                          วันพุธ เย็น เดินทางไปนครศรีธรรมราช กลับวันเสาร์เย็น

                          หนักเอาเรื่องเหมือนกัน กิจกรรมก่อนสิ้นปี กรรมจริง ๆ หนอเรา

                          
                          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7833 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 12:45:38 »

ตอน ๑๓ อาหารกลางวันที่อร่อย ซาปา

                           ซาปา เป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนไหล่เขาสูงเหนือเมฆ เพียงแต่ที่ผ่านมาอากาศปิด เราจึงไม่เห็นอะไรที่เกินกว่า ๑๐๐ เมตร ร้านอาหารร้านนี้ นับว่าเป็นมื้อกลางวันที่อร่อยมื้อหนึ่ง  ที่ว่าอร่อยนั้น คือมีผักสดมากนั่นเอง เพราะที่ผ่านมาไม่มีผักเลย หรือมีผัดผักจานเดียวเอง

                           สุกี้ผัก ท่าทางจะอร่อย แต่เสียดายเลยเวลารับประทานแล้ว  ผมจึงไม่ได้ลิ้มลอง จึงเดินถ่ายภาพ มาให้ชมครับ

                           เชิญชม




อาหารกลางวันมื้อนี้ จัดว่าเป็นอาหารกลางวันมื้อที่อร่อยมาก ประจำทัวร์ ครับ

แต่น่าเสียดาย สุกี้นั้น มันเลยเวลารับประทานของผมแล้ว  จึงไม่ได้ลิ้มลอง































ไกด์ และคนขับรถ





เด็ก ๆ เมือง ซาปา



ร้านอาหารร้านนี้ ชั้นบนสำหรับจัดเลี้ยง - ทัวร์  ชั้นล่างรับลูกค้าทั่วไป







มาชมอาคาร รอบๆ ร้านอาหารกันบ้างครับ







ทรงบ้านชาวฝรั่งเศษ ที่เคยอาศัยอยู่



อากาศที่ ซาปา เปิด น่าเสียดายที่คณะไม่มีโอกาส ถ่ายภาพ ได้แต่วิ่งรถผ่าน















      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7834 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 15:07:15 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือนที่รักทุกท่าน

                              พี่สิงห์ อยู่สถานีดอนเมือง รอขึ้น Nok Air ไปนครศรีธรรมราชครับ

                              มาสนามบินดอนเมืองทีไร ครึกครื้น หมายความว่า ผู้โดยสารใช้แยะมากในการเดินทาง ทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศ  สำหรับภายในประเทศนั้น ถ้าราคาค่าโดยสารสองพันต้น ๆ คนใช้บริการมาก และปัจจุบันคนไทยก็นิยมเดินทางด้วยเครื่องบิน  รวดเร็วดี และทำงานต่อได้เลย แบบผมนี้

                              ผมสำรวจดูประการเดินทางของผม ปีหนึ่ง ๆ สามปีที่ผ่านมา นั่งเครื่องบินปีละประมาณ ๑๐๐ - ๑๒๐ กว่าเที่ยว  ค่าเครื่องบินมากอยู่เหมือนกัน  รู้สึกเสียดาย ซื้อบ้านอยู่ยังจะดีกว่า  แต่ก็อีกนั่นแหละ ซื้อบ้านก็เป็นภาระเปล่า ๆ

                              นี่ก็จะปีใหม่แล้ว  ยังไม่ได้วางแผนชีวิตให้กับตัวเองเลย ว่าจะไปทางไหน  ได้แต่กระทำเฉพาะสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่วันต่อวัน  อาทิตย์ต่ออาทิตย์  ได้เรียนรู้จิตคนเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะเอามาใช้ในชีวิตประจำวันของเรา

                              วันที่ ๒๑ - ๒๓ มกราคม  ต้องไปบรรยายให้กับลูกค้าของ SIW กลุ่มลูกค้าภาคเหนือ ที่เชียงใหม่

                              ไม่เกิน ๑๔  กุมภาพันธ์  ต้องไปบรรยายให้กับลูกค้าของ SIW กลุ่มลูกค้าภาคอิสาน ที่ขอนแก่น

                              กลางเดือน มีนาคม  ต้องไปบรรยายให้กับลูกค้าของ SIW กลุ่มลูกค้าภาคใต้ ที่สุราษฎร์ธานี หรือนครศรีธรรมราช

                              นอกนั้นก็เป็นงานที่จะต้องไปนครศรีธรรมราช โคราช  สระบุรี  และสุรินทร์

                              ชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้   ไม่มีจุดหมายในการทำงาน  ทำไปอย่างนั้นเอง  เพราะดีกว่าอยู่เฉย ๆ ในเมื่อต้องอยู่อย่างปุถุชนม์คนธรรมดาแบบนี้  เพลง  หนัง  ละคร  ทีวี  หนังสือพิมพ์  ........ งดหมด

                              อิจฉา ดร.สุริยา  ดร.กุศล  ที่ยังมีความสุข ในสิ่งที่ตนเองปราถนา

                              สำหรับผม มีแต่ไปหาทุกข์   อยู่กับทุกข์  เพื่อให้รู้ทุกข์

                              มีแต่สิ่งตรงหน้าเท่านั้น

                              นี่ก็ใกล้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว  ขอยุติครับ

                              Nok wifi มันช้า  ติดบ้าง  หลุดบ้าง  แต่ยังดีกว่าไม่มีใช้ ครับ

                              สวัสดี 

                         
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7835 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 21:01:01 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                                  พี่สิงห์ อยู่นครศรีธรรมราช

                                  วันนี้ขณะนั่งบนเครื่องบิน ได้มีนักการเมือง หรือเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ประจำจังหวัดใส่สูตร ได้คุยด้วย มีคุณวิทยา  แก้วภาระได  นั่งตรงกลางแถวหน้า คนใส่สูตรได้รายงานให้คุณวิทยา ทราบ ถึงความก้าวหน้าในการประชุมอาเซี่ยนที่อินโดนิเซีย โดยได้เสนอให้ พระธาตุเป็นศูนย์กลางทางศาสนาพุทธและเป็นมรดกโลก  คุยกันไปคุยกันมา ผมได้โอกาสก็เรียนให้ทราบว่า

                                  ผมเคยเสนอต่อผู้ว่าภาณุ มาครั้งหนึ่งแล้ว ท่านผู้ว่าให้ทางผู้ว่า ททท. นครศรีธรรมราชมาคุยกับผมแทน  ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือผมเสนอให้พระบิณฑบาตร ยามเช้า โดยบิณฑบาตรหลายองค์ เป็นแถว  ตรงเวลา บนถนนผ่านหน้าพระธาตุ เหมือนกับการใส่บาตรพระที่หลวงพระบาง  นครศรีธรรมราชมีวัตถุดิบที่ดีกว่า แต่ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ แล้วจะยกเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาได้อย่างไร  ในเมื่อพระท่านก็ไม่อยากเป็น

                                  คุณวิทยา เห็นด้วยในสิ่งที่ผมเสนอ และรับว่าจะไปคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้จัดการเรื่องนี้ให้  ผมเน้นไปว่า  ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครใส่บาตร  ผมเชื่อว่ามีแน่นอน และอะไร ๆ ที่เขาหาว่านครศรีธรรมราชมีแต่ฆ่าแกงกัน  มันจะหายไปเอง และเยาว์ชนม์จะมีความประพฤติที่ดีขึ้น  ขอให้ทำจริงๆ เถอะมีแต่ผลดีทั้งนั้นทั้งด้านการท่องเที่ยวและจิตใจ ให้สมกับที่ชาวนครศรีธรรมราชอ้างว่าเป็นเมืองพุทธ  แต่ยังห่างไกลพุทธศาสนามาก

                                  สิ่งที่กลัวคือ พระท่านไม่เอาด้วย  เพราะเจ้าคณะจังหวัดท่าน ไม่บิณฑบาตร ท่านเคยปฏิเสธมาแล้ว ว่าไม่ก่อประโยชน์ใด ๆ ท่านปล่อยให้พระไปยืนอยู่แถว ๆ แม่ค้าขายข้าวแกงที่ตลาดท่าชี  ท่าม้า  ตามสะดวกดีกว่า

                                  มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ

                                  กรรมอีกแล้วหนอเราไปตำหนิพระ !

                                  แต่จริง ๆ มันเป็นเรื่องของการทำให้ส่วนรวมมันดีขึ้น และปฏิบัติตามพุทธศาสนา ที่พระต้องมีหน้าที่โปรดสัตว์ แผ่เมตตา  ออกบิณฑบาตร ตอนเช้า ด้วยกิริยาที่สำรวม มันจะเป็นภาพสวยงาม  ช่วยให้คนที่พบเห็น เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีขึ้นครับ

                                  ได้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็นแล้ว

                                  ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7836 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 22:57:55 »

พี่สิงห์

ติเพื่อก่อ (ซึ่งจำเป็นต้องทำ พระไม่บิณฑบาตรแล้วจะเอาอะไรฉัน ??)
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7837 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2555, 07:56:36 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 ธันวาคม 2555, 22:57:55
พี่สิงห์

ติเพื่อก่อ (ซึ่งจำเป็นต้องทำ พระไม่บิณฑบาตรแล้วจะเอาอะไรฉัน ??)

สวัสดีครับ คุณเหยง

                          พระระดับเจ้าอาวาส เดี๋ยวนี้ท่านมีเงินเดือนประจำ จากสำนักพุทธศาสนา

                          พระระดับเจ้าอาวาสที่นครศรีธรรมราช  ท่านมีเงินจากการสร้างจตุคาม-รามเทพ ก็มากอยู่ ท่านไม่เดือดร้อนเรื่องของการบิณฑบาตรหรือไม่  แต่พระลูกวัดที่ปฏิอบัติดี  ปฏิบัติชอบยังมีมาก  ท่านต้องบิณฑบาตร คนก็ศรัทธาน้อยลง ท่านจะลำบาก

                           แต่ถ้ามีการฟื้นฟู  สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการบิณฑบาตร  ประชาสัมพันธ์ให้ทราบ กิจกรรมนี้มีแต่ประโยชน์  พระท่านก็มีอาหารฉันท์  ได้สอนธรรมะโดยตรง และทางอ้อมให้กับพุทธศาสนิกชน  เยาว์ชนม์จะอยู่ในศีลธรรมมากขึ้น เพราะผู้มีอายุกระทำสิ่งที่ดี ๆ ให้เป็นตัวอย่าง ครับ

                           ไม่ใช่มีความคิดเพียงแค่ยกให้เป็นมรดกโลก แลดูโก้  แต่จิตใจคนต่ำทรามลงดูได้จากตัวชี้วัดคือ อาชยากรรม อบายมุขที่เต็มเมือง การทะเลาะวิวาท คดีความ ที่เพิ่มขึ้น แล้วจะว่านครศรีธรรมราชเป็นเมืองพุทธได้อย่างไร  มีแต่คอรับชั่นเต็มเมืองในทุกองค์กรของภาคราชการ !

                            ที่ผ่านมาใครบอกว่านครศรีธรรมราช เป็นเมืองพุทธศาสนา  ผมค้านมาตลอดว่า นครฯเป็นเมืองพุทธศาสนาจริง  แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว  ปัจจุบันนครศรีธรรมราชมีแต่อบายมุข  วัดล้างจำนวนมาก  คนนครฯ บวชน้อยมากในแต่ละปี มีแต่พระภาคอื่นที่สำนักพุทธศาสนาส่งมาประจำวัด เพื่อไม่ให้วัดล้าง .........อีกมาก

                            เราต้องมารณรงค์ให้นครศรีธรรมราชเป็นเมืองพุทธที่แท้จริง โดยเริ่มต้นที่พระ นี่ละ เพราะคนเสื่อมศรัทธา พระท่านมีจำนวนไม่น้อยที่ ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ไม่เป็นตัวอย่างที่ดี  ไม่สอนในสิ่งที่ถูกต้อง  สังคมมันจึงเป็นเช่นนั้น

                             ถ้าเป็นมรดกโลกแต่วัตถุ  มันไม่มีประโยชน์เลย  ถ้ามีแต่อาชยกรรมและแหล่งอบายมุขเต็มเมือง  คนทั่วไปเขาจะดูถูกเอาได้

                             วันนี้จิตเราไม่เป็นมหากุศลแต่เช้าเลย  แต่ด้วยความหวังดีอยากเห็นสังคมที่สงบ อยู่กันด้วยมิตร ครับ

                             สวัสดี


                                                     
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7838 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2555, 08:15:09 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง แขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                                 วันนี้วันศุกร์ที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ที่มนุษย์ในประเทศที่พัฒนาแล้วเขาบอกว่าเป็นวัน "โลกแตก"

                                 มันก็เป็นจริงตามนั้น คือโลกแตกด้วยปัญญา-ความคิดของมนุษย์ ที่เจริญเพียงแต่วัตถุ แต่สติ-ปัญญา ทรามลง  ไม่มีอะไรจะกระทำก็ออกอุบายว่า "โลกแตก" เพื่อให้มนุษย์ ที่มีปัญญาน้อย คิดตามว่าโลกจะแตกเป็นจริง ก็เกิดโกลาหล  ถ้ามนุษย์ตนนั้นขาดสติ หรือไม่ได้ยึดหลัก "กาลามสูตร" ของพระพุทธองค์ให้มั่นด้วยความเป็นจริง

                                  สังคมโลกทุกวันนี้เสื่อมทรามลงทางด้ายคุณธรรม  จิตใจ  เพราะมนุษย์ไม่ยึดหลักคำสอนของศาสนาที่สอนให้เป็นคนดี  อยู่กันอย่างสันติ

                                  มนุษญย์ส่วนใหญ่ ติดอยู่ในวัตถุนิยม  สร้างความร่ำรวยให้กับตนเองทางเศรษฐกิจ  ไม่ว่าจะร่ำรวยด้วยวิธีใด  ถือว่าถูกต้องหมด  มนุษย์ติดอยู่ในการมีชื่อเสียง  เกียรติศักดิ์  เงินทอง  สังคมจึงมีความเลื่อมล่ำ มาก ขาดความอบอุ่น  ชิงดี ชิงเด่น  เยียบได้ก็เยียบ หาความสุขที่แท้จริงไม่  นี่ละโลกมันถึงแตก  แตกทางปัญญา ความคิดนี่เอง

                                  พวกเราเกิดในประเทศไทย  ประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา ควรที่จน้อมนำคำสอนของ "พระสมณโคดม" ที่แท้จริงเอามาใช้ในการดำรงชีวิต มีสติ  ใช้ปัญญา  อยู่กับหลัก "กาลามสูตร" และคำสอนของพระองค์ ความสงบสุข  สันติ  ก็จะบังเกิดขึ้น

                                  วันนี้ที่นครศรีธรรมราช ฝนตกแต่เช้า ผมเลยเดินจงกรมได้เพียง 15 รอบ หรือประมาณ 30 นาที จึงต้องอยู่ในร่ม ได้รำชิกง  โยคะ ต่อ จนครบ เกินหนึ่งชั่วโมง  จึงไปรับประทานอาหารเช้า

                                  วันนี้มีหลวงพ่อวัดไหนไม่รู้ มากับผมบนเครื่องบิน คงเป็นหลวงพ่อที่มีชื่อเสียง เห็นคนแต่งขาวมารอรับจำนวนมากที่สนามบิน นำสุภาพสตรีที่เขาว่าบวชเป็นภิกษุณี สิบกว่าองค์ มาพักที่โรงแรม  คงไปกระทำพิธีอะไรสักอย่าง หรือปลุกเสกพระที่วัดพระมหาธาตุ เพราะระยะหลังที่ผ่านมาเห็นมีการสร้างพระ มาปลุกเสกกันมากขึ้นเกือบทุกอาทิตย์

                                  พระสมณโคดม  ไม่ได้สอนอย่างนี้เลย

                                  ประชาชนก็โง่เขลา ตาม  ส่งเสริมกันใหญ่  เศร้าจริง ๆ

                                  วันนี้เป็นวันโลกแตกทางความคิด  ปัญญา ของมนุษย์ผู้โง่เขลา  งมงาย  ครับ

                                   สวัสดี                            
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7839 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2555, 13:23:52 »

ตอน ๑๔ จุดชมวิวจุดที่ ๓ ของเมืองซาปา

                              ภายหลังจากการรับประทานอาหารที่ร้านเย้าแดง คณะก็เดินทางไปชมทิวทัศน์ของเมือง ซาปา อีกจุดหนึ่ง ที่เป็นจุดที่น่าชม จะเห็นการปลูกพืชขั้นบันไดที่ กว้างขวางมาก แต่น่าเสียดายที่คณะไปนั้น ชาวเขาได้เก็บเกี่ยวข้าวไปหมดแล้ว ครับ

                              ชาวเขาพวกนี้อพยพมาจากเมืองจีนกระจายอยู่ที่เวียตนาม  ลาว  พม่า และไทย  โดยอยู่ตามที่ราบสูง

                              เชิญชมภาพ ครับ


โบสถ์คริศต์ ที่ฝรั่งเศษ สร้างเอาไว้ สัญญลักษณ์ของ ซาปา ฟ้าเปิดแต่ไม่ได้แวะ





คนมา ซาปา ก็จะมาดูควาย หมู และไก่ ที่ชาวเขาเขาเลี้ยงแบบปล่อยตามยถากรรมหากินเอาเอง



































      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7840 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2555, 13:58:55 »

ตอนที่ ๑๕ หมู่บ้านชาวเขาที่ไม่มีใครสนใจชม


                          หมู่บ้านชาวเขาหมู่บ้านนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทัวร์จะพามาชม  ต้องเสียเงินค่าชม  ถ้าใครไม่รักธรรมชาติจริง ๆ คงไม่สบอารมณ์ครับ เพราะชาวเขา เขาจะพาไปชมบ้านของเขา  ว่าเขาอยู่กันอย่างไร  

                         ในบ้านที่ไปดู ผู้ชายกำลังฉลองภายหลังกลับมาจากการล่าสัตว์ คือตั้งวงกินเหล้านั่นเอง

                         ในบ้านไม่มีเตียง  ไม่มีตะเกียงแสงสว่าง  ไม่มีโต๊ะ มีเพียงจุดนอน  เตาประกอบอาหาร และม้านั่งยอง ๆ เหลารับประทานอาหาร ที่เก็บอาหารและเสื้อผ้า  มืดมองไม่เห็นจึงไม่ถ่ายภาพ

                          คณะของเราไม่มีใครสนใจเข้าชม  ครึ่งหนึ่งที่เดินไปชมนั้นหยุดกลางทางเพราะไม่น่าสนใจ  เดินไม่ไหว ถนนลื่น  แฉะ

                          คณะจึงขอกลับก่อน ไม่ไปต่อ  ชาวเขาพยายามขายของเพื่อตัวเอง  พวกเราก็หาของที่ถูกใจไม่ได้ ก็พยายามที่จะซื้อ ครับ

                          เชิญชมภาพ





ของฝาก ดร.สุริยา การก่อสร้างบ้านของชาวเขา ใช้ไม่ไผ่รวกเสริมแทนเหล็ก





ชาวเขา นำชมหมู่บ้าน และขายสินค้า







เดินทางมาไกล  มาดูเพียงเป็ดชาวเขา เมฆก็มีแต่แฉะ เดินลำบาก หลายคนจึงหยุดกลางทางคิดถูกแล้ว





ชาวเขาพยายามขายสินค้าให้ได้



ชมไผ่ ของชาวเขาที่มีตามธรรมชาติบ้างครับ



ชมหมูชาวเขาบ้าง ก็เหมือนกับหมูชาวเขาบ้านเรา ปล่อยตามธรรมชาติ หากินเอาเอง



คนขี้สงสาร ก็พยายามจะซื้อของ คนขายก็พยายามขาย แต่ไม่มีของถูกใจ

สำหรับผม เอาเงินให้ ดีกว่าต้องขนของมาทิ้งที่บ้านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7841 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2555, 14:49:16 »

ตอน ๑๖ เมืองลาวไก

                                เมืองลาวไก เป็นเมืองที่สำคัญติดชายแดนจีน  ขามา มาถึงกลางคืน  จึงไม่เห็นอะไรเลย  แต่ขากลับได้ชมตัวเมือง ก็เหมือนเมืองเวียตนามทั่วไป คือสกปรก  เต็มไปด้วยรถเครื่อง  ฝุ่น  กลิ่นควันของน้ำมันรถ

                                ตลาดที่ลาวไก  ไม่น่าสนใจทั้งสิ้น  เป็นสินค้าจีน  ไม่มีคุณภาพ

                                ที่นี่เป็นตลาดส่งออก นำเข้าสิ้นค้าทั้งจีน เวียตนามที่สำคัญ

                                คณะได้แวะไปถ่ายภาพที่จุดหลักแดนจีน - เวียตนาม

                                 หลังจากนั้นก็มารับประทานอาหารที่โรงแรมหน้าสถานีรถไฟ  ขณะที่ทุกท่านกำลังรับประทานอาหารเย็น  ผมเลยได้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ให้สดชื่น  อาศัยที่เป็นคนแก่  จึงได้รับความเมตตาจากทัวร์คนไทยอีกคณะหนึ่ง คือได้อาบน้ำฟรี

                                 รถไฟเวียตนามนั้น  ผมว่าดีกว่ารถไฟไทย  คือวิ่งตรงเวลา และผมสามารถนอนหลับสนิท

                                  ได้มีโอกาสสวดมนต์ทำวัตรเช้า - เย็น นั่งปฏิบัติธรรม บนรถไฟ

                                  เชิญชมภาพ ครับ





ด่าเชื่อมพรหมแดดเวียตนาม - จีน  ที่เมืองลาวไก  ของเวียตนาม  สมรภูมิสงครามสั่งสอนเวียตนามของจีน



ตลาดที่เมืองลาวไก ที่คณะไปแวะใช้ห้องน้ำ ไม่มีของสิ่งใดที่น่าสนใจซื้อเลย เป็นสินค้าจากจีน คุณภาพไม่มี

คณะส่วนใหญ่เดินเล่น ฆ่าเวลา และซื้อผลไม่รับประทานแก้หิว  ดีกว่ายืนอยู่เฉย ๆ
 


ที่เห็นนั้น คือฝั่งประเทศจีน  สำหรับสะพานนั้น จีนสร้างให้ใหม่  ภายหลังจากถล่มสะพานเก่าพังหมด

คุณสมชายบอกว่า สงครามสั่งสอนครั้งนั้นก็ดีเหมือนกัน  เพราะได้ขจัดคนบางคนในรัฐบาลที่มีความคิดไม่ดีออกไป



ชาวฝรั่งเศษ กลุ่มนี้ก็เหมือนพวกเรา  ชอบถ่ายรูป



ป้ายฝั่งจีน  อ่านไม่ออก



หลักเขตแดน เวียตนาม - จีน แต่จริง ๆ คือแม่น้ำเป็นเขตแดน  ฝั่งนี้จีน



ป้ายเขตแดนฝั่งเวียตนาม



ช่างขัดลองเท้ารายนี้ รายได้ดี  ทำงานไม่มีหยุดเลย



กิเลส  ยังหนา ก็ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเอามาฝากครับ



กองทัพมด  ก็รับจ้างขนสินค้ากันไป เป็นเหมือนกันหมด ครับ



















วัดเวียตนาม ตรงเขตแดน เป็นวัดเก่าแก่  กำลังมีการรำส่งวิญญาณ









เต้าทึงเวียตนามเย็น ๆ ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7842 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2555, 20:18:00 »

กลับมาถึง กทม. แล้วครับ

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7843 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 07:43:57 »

สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                        เช้านี้อยู่บ้าน เลยได้หุงข้าว ใส่บาตรพระ ที่หน้าบ้าน แทนการไปตีกอล์ฟ

                        "วันโลกแตก" ทางปัญญา - ความคิด ของคนที่ไม่มีอะไรจะทำ ที่เรียกว่าผู้เจริญ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว(ทางวัตถุ แต่จิตใจเสื่อมลงทุกวัน) ก็มาหลอกล่อให้คนที่ยังโง่งมอยู่ โดยเฉพาะพวกสื่อต่างๆ ก็ใส่ไฟใหญ่ และผู้มีอาชีพหลอกลวงคน  มาทำให้คนปัญญาน้อยหลงปรุงแต่งตาม  จนเกิดโกลาหล เป็นกระต่ายตื่นตูม ไปก็ไม่น้อย  มีแต่ทุกข์  เศร้าจริง ๆ

                         นี่ละคือคนที่ "ไม่อยู่กับร่องกับลอย" ไม่มีความเชื่อมั่นในหลักการ "กาลามสูตร" ที่พระพุทธองค์ทรงสอนไม่ให้เชื่อ ๑๐ ประการ

                         มันผ่านไปแล้ว เป็นอดีต  ก็ขอให้ทุกท่านที่หลงตัว ลืมตน ไปวิตกกังวลตาม ได้สำนึกเอาเป็นบทเรียน

                         วันนี้ช่วงบ่าย ต้องเดินทางไปอำเภอลานสัก  จังหวัดอุทัยธานี  ไปฟังพระสวดพระอภิธรรมในเวลา ๒ ทุ่ม

                         คงหาที่พัก แถว ๆ วัดนั่นละ คงมีรีสอร์ทให้พักค้างคืน และไปหาร่มไม้ที่เย็น ๆ ตามป่า สงบ ปฏิบัติธรรม พักจิตตนเอง ก่อนที่จะไปร่วมฌาปนากิจในเวลา สามโมงเย็นวันอาทิตย์

                         หลังจากนั้น คงกลับมานอนที่สิงห์บุรี  หรือถ้ายังมีเวลาก็กลับ กทม. เลย

                         คงเป็นอีกวันหนึ่งที่ต้องขับรถไกล นาน คงต้องอาศัยข้างทางพักผ่อนเป็นระยะ ๆ ไป

                         เช้าวันใหม่  ทำจิตให้ขาวรอบ ครับ

                         สวัสดี



      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7844 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 18:05:23 »

 สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                         กว่าจะเขียนได้ต้องเรียนรู้อีกมาก  ลำบากมาก  ผมทดลองโดยใช้  samsung galaxy note 10.1  ส่งข้อความ ช้ามากในการพิมพ์กว่าจะเข้าใจได้  พอดีเขาลดราคา 3000 บาท จึงซื้อ หมดเขตพรุ่งนี้

                         ต้องใช้เวลาในการศึกษาครับ

                         ผมอยู่อำเภอลานสัก อุทัยธานี  อากาศเย็น และคงหนาวตอนดึก

                          สู้ computer ไม่ได้เลยคิดผิดจริงๆ

                          คงเอาไว้อ่านหนังสืออย่างเดียวครับ

                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7845 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 19:32:11 »

                               ผมอยู๋ที่วัดประดุ่ยืน  พระสวดสองทุ่มตรง

                               สังคมบ้านนอกเป้นสังคมที่เกือกูล  คนจนก็มีสิทธิเท่ากันสำหรับงานศพ

                                ชาวบ้านจะมาช่วยกัน  ไม่เหมือนสังคมเมือง  ที่นี่เป็นคนลาว  ยังคงยึดประเพณีเดิมเอาไว้ได้

                                ผมพักที่บ้านสนธยา ราคา 500 บาท เป็นหลังใหญ่  แต่นอนพื้น แบบง่ายๆ

                                อยู่หน้าฝายน้ำล้น  ฟังเสียงน้ำไหล  อากาศดี เหมาะแก่การออกกำลังกายยามเช้า

                                 ชักรู้วิธีพิมพ์มากขึ้น  ต้องเรียนรู้จากการทำนี่ละ  ผิด  ช้าเป็นครูทั้งสิ้น  ดีกว่าไม่มี

                                 สวัสดี
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7846 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 23:27:24 »

สวัสดีครับ พี่สิงห์

ใกล้จะห้าทุ่มครึ่งแล้วเช่นกัน

ผมกำลังคิดจะหาซื้อไว้อ่านข่าวครับ
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #7847 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2555, 07:41:14 »


...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์และสมาชิกทุกท่าน...

...แล้วระหว่างไอแพดกับแกแล็คซี่...ใช้อันไหนดีกว่ากันคะ...

...ช่วยประเมินผลหน่อยค่ะ...

...ตู่กะว่าจะขายไอแพดมินิ...เพราะของเก่าใช้จำกัดที่ wifi...

...ซึ่งบางแห่งเราจะเล่นไม่ได้...บางทีรู้สึกหงุดหงิด...

...เลยจะเปลี่ยนใหม่เป็นแบบเล่นได้ทุกที่ค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7848 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2555, 09:27:19 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                            คนส่วนใหญ่บอกว่า Ipad 4  ดีกว่า Samsung Galaxy Note10.1

                             พี่สิงห์ เลยไม่ซื้อ Ipad 4

                              จุดประสงค์หลักคือ เอามาใช้งาน ในการประชุม ติดต่อคน อ่านหนังสือ

                               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7849 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2555, 09:34:14 »

สวัสดีครับ  คุณเหยง

                           ถ้าอ่านข่าว  เล่น net อยู่บ้าน  computer  ดีที่สุด

                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 312 313 [314] 315 316 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><