คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Pete15]

		อ้างถึง			ข้อความของ KUSON เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2555, 16:23:12
	ชายใด บ๋ เที่ยว เทียวไป ทั่วแคว้นแดนไพร มิอาจประสพพบสุข ชายใดอยู่เหย้าเนาว์ทุกข์.................... บทประพันธ์นี้เรียนมาตอนมัธยมปลาย จำมาจนทุกวันนี้ว่า เกิดเป็นชาย ควรสัญจรไปทุกๆที่ จึงจะพบความสุขที่แท้จริง ยิ่งบรรทัดที่3บอกว่า คนทีไม่ไปใหนเลยอยู่แด่ที่บ้านก็จะมีแต่ความทุกข์ทรมานแสนสาหัส...... โถๆๆ นึกถึงบุรุษบางท่าน  ท่านรู้จักแค่ทัพทัน นครสวรรค์กับกรุงเทพ ใครชวนไปไหนก็ไม่ยอมไป ยิ่งชี้ทางสวรรค์บอกแสวงหาความสุขที่แท้จริงณ. ประเทศอินเดียกันไหม ยิ่งปฎิเสธ  ...ใครเอ่ย

ไอ้กระผมเป็นบุคคลที่ 3  อ่านแล้วก็ไม่ แน่ใจว่า ใครหลงทาง  1  หรือ 2 หรือ ทั้งคู่ ........

[เหยง 16]

 สีหน้า ไม่ได้บอกเลยว่า อมทุกข์ อมโศก อมโรค อมภัยใดๆ แค่ไปศาลาพระเกี๊ยวก็สุขได้แล้ว  

[suriya2513]

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2555, 19:24:52
	สีหน้า ไม่ได้บอกเลยว่า อมทุกข์ อมโศก อมโรค อมภัยใดๆ แค่ไปศาลาพระเกี๊ยวก็สุขได้แล้ว

ขำพี่เหยงค่ะ  .. ยิ่งมองหน้าพี่ป๋องแล้ว เข้ากับคำบรรยายพอดี๊ พอดี   

[swsm]

สวัสดีค่ะ  พี่สิงห์

หยีไม่ได้มาเสียหลายวัน ..
วันนี้ตามอ่าน ตามชมภาพแบบย้อนหลัง ม้วนเดียวจบเลยค่ะ
ขอบคุณที่นำมาฝากให้น้อง ๆ ได้ชม


ดีใจด้วยนะคะที่คุณแม่อาการดีขึ้น   

[ดร.มนตรี]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2555, 13:50:06
	อ้างถึง ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2555, 23:37:27 สวัสดีครับ พี่สิงห์ พี่กุศล และพี่ๆ ทุกท่าน

สวัสดีครับ ดร.มนตรี

                            ขอต้อนรับกลับบ้าน ครับ

                            สวัสดี


 -------------------------------------------------------------

ขอบพระคุณครับ พี่สิงห์ ...  


... มาตามรอยพระศาสดา กับพี่สิงห์ ต่อครับ ...



ปล.



ช่วงที่ ผมอยู่ที่อังกฤษ ...ก็ยังติดตามอ่านอยู่เรื่อยๆ นะครับ





ส่วนภรรยา ไปเทศกาลหิมะ ซับโปโร กับที่ทำงาน ที่ญี่ปุ่น ครับ  

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                               เมื่อวานเป็นวันมหาโหดอีกวันที่มีภาระกิจมาก ทั้งขับรถและทำงาน ผลคือ ร่างกายมันฟ้องทันทีเลย ว่ามันไม่ไหวแล้ว พลาจะเป็นไข้  ไอ  เจ็บคอ เพราะสภาพอากาศที่แปลเปลี่ยน

                              เมื่อคืนผมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ พี่สำราญ   วงษ์ใบแก้ว  ตามที่ได้ตั้งใจไว้ ผมรับรู้ได้ในสิ่งที่ได้กระทำลงไป คือ พอพระเริ่มสวดมนต์ ขึ้น กุศลาธรรม มาเท่านั้น ผใรับรู้ว่าศาลาวัน มันสั่นไหว แล้วก็หายไป จิตผมพิจารณาภาษาบาลีที่พระกำลังสวดอยู่ เป็นสมาธิ สามารถรับรู้ได้ว่ามีอะไรอุ่นๆ อยู่ในอุ้งมือที่พนมอยู่ รับรู้ได้ จิตไม่ได้คิดอะไร อยู่กับความรู้สึกตัวเรา ได้ยินพระสวดพิจารณา ผ่านไป ๆ ไม่ปรุงแต่งทั้งสิ้น

                              เสร็จจากการฟังพระสวดผมได้ไปเคาะที่ฝาโลงศพ บอกลาท่านกลับกรุงเทพฯ และลาญาติโยมบนศาลา ออกจากวัดพระนอน 19:45 น. มาถึงบ่าน 09:30 น. ก็อาบน้ำสวนมนต์นอนทันที

                               เมื่อตอนเย็นหลังจากประชุมเสร็จที่ PSTC ก็ขับรถกลับมาสิงห์บุรี ตรงไปที่วัดเลย รับประทานอาหารเย็นที่วัดที่เขาทำให้รับประทาน ผมบอกว่าขอเพียง ผักสดต้ม มีบวบ มะเขือ ถั่วฝักยาว น้ำพริกกะปิ และปลาทูทอด เท่านั้น อย่างอื่นผมบอกว่าไม่ขอรับทั้งสิ้น เผลอใจตนเองรับประทานไปสองชาม ครับ

                               ตอนกลับก็ได้บอกลุก ๆ ของพี่สำราญว่า เผาแม่แทนพี่ให้ด้วยนะ !

                               วันนี้ทั้งวันจนถึงค่ำ ผมต้องไปช่วยงาน SIW ครับ ต้องขอให้ ดร.กุศล  แสดงไปก่อน

                               วันนี้เป็นวันที่พ่อ จากไป คือ ๑ มีนาคม เมื่อเช้าผมได้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้านอุทิศส่วนกุศลให้ท่านตามธรรมเนียมประเพณี และวันอาทิตย์ที่ ๔ มีนาคม จะไปทำบุญเลี้ยงพระเพล ให้ท่านที่วัดพระนอน ได้สั่งการเอาไว้แล้ว

                              เช้าวันศุกร์ ผมเดินทางไปนครศรีธรรมราช กลับเสาร์ค่ำ

                              วันอาทิตย์ไปสิงห์บุรี ทำบุญเพลให้พ่อ

                              จันทร์-อังคาร ไปสุรินทร์ มีคนจะจ้างให้ออกแบบโรงงาน คงได้มีโอกาศไปซื้อหนังสือหลวงปู่ดุลย์  อตุโล  ที่ให้คุณน้องจันทร์ฉายไปแล้วนั้น  กลับมาเอาไว้ที่บ้านคืนครับ และคราวนี้ตั้งใจจะไปกราบรูปหล่อท่านด้วย

                              วันพุธ ไปทำบุญมาฆบูชา ที่วัดพระนอน สิงห์บุรี

                              วันพฤหัสบดี ไปจัดแข่งกอล์ฟการกุศล ของ วศ. ๑๓

                              วันศุกร์ - เสาร์ ไปทำงานที่นครศรีธรรมราช

                              ดังนั้น อาทิตย์หน้า ผมไม่ว่างเลยครับ

                              สวัสดี

[Manop Klabdee]

มองเห็นใบหน้า ดร.สุริยา แล้วค่อยโล่งใจหน่อย !!!

                           

[Manop Klabdee]

สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก

                              ขอบคุณมากที่ยังเข้ามาทักทาย พี่สิงห์ครับ

                              รูปเธอ ดูดี ในสายตาพี่สิงห์ ครับ

                              สวัสดี

[Manop Klabdee]

วัดเวฬุวนาราม

                              วัดเวฬุวนาราม เป็นวันแห่งแรกในโลก ของพุทธศาสนา ที่พระเจ้าพิมพิสาร ทรงสร้างถวายให้พระพุทธองค์ อยู่ในสวนป่าไผ่อันร่มรื่น งดงาม ในอุทยานกรุงราชคฤห์  ความสำคัญคือ เป็นสถานที่พระสงฆ์จำนวน ๑๒๕๐ รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย(๑๐๐๐ องค์พระภิษุสงฆ์ ชฎิลสามพี่น้อง อุรุเวลกสปะ นทีกสปะ คยากสปะ และสาวก และ ๒๕๐ รูป คือพระสารีบุตร พระโมคคลานะ และเหล่าสาวก) ภิกษุ ๑๒๕๐ รูป มาประชุมกันในวันเพ็ญเดือนสามวันมาฆปุณมี  พระภิกษุ ๑๒๕๐ รูป เป็นเอหิภิกขุ เป็นอรหันต์ และสำเร็จอภิญญา๖ และพระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ประกาศหัวใจของพุทธศาสนา คือ "การไม่ทำบาปทั้งปวง   การทำกุศลให้ถึงพร้อม  การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ"

                               สิ่งที่หลงเหลือ คือ จุดที่แสดงโอวาทปาติโมกข์ และซากพระคันธกุฎี  ที่มีหลุมฝังศพของนายทหารมุสลิมมาฝังอยู่ใกล้ๆ  คณะได้สวดมนต์ทำวัตรเย็น สวดโอวาทปาติโมกข์ นั่งเจริญสติ-สมาธิ และเวียนเทียน  เสร็จแล้วไปชมซากกุฏิพระพุทธองค์

                               ผมอยู่นครศรีธรรมราช ครับ  เชิญชมภาพ

[ทราย 16]

พี่สิงห์ค่ะ
ลูกทัวร์มีทั้งหมดกี่ท่านค่ะ ดูเยอะจังค่ะ

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 02 มีนาคม 2555, 13:13:11
	พี่สิงห์ค่ะ ลูกทัวร์มีทั้งหมดกี่ท่านค่ะ ดูเยอะจังค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณน้องทราย ที่รัก

                      คณะทัวร์ชุดนี้มี ๗๘ คน ๗๔ คนมาจากคณะของคุณสมศักดิ์ ประกอบด้วย อดีตครูจากพิษณุโลก ซึ่ง ดร.กุศล  รู้จัก  พนักงานยาสูบ  กลุ่มนครปฐม และกลุ่มพ่อค้าจาก กทม. ใช้รถบัสจำนวน ๒ คัน

                      ที่มากับหลวงพ่อคือ พี่สิงห์-ดร.กุศล และสองคน ภรรยาทำงานที่การบินไทย สามีเคยทำงานกรุงไทย อายุมากสุดประมาณ ๗๘ ปี  คนอ้วนมาก ๆ น้ำหนักเกิน ๑๐๐ กิโลกรัม และสองอีกคนสุขภาพไม่ดี สามีเดินไม่ค่อยไหว  ภรรยาก็หนักเกิน ๙๐ กิโลกรัม ข้อเข่าผ่าตัดมา เวลานั่งแล้วลุกไม่ขึ้น พี่สิงห์ต้องช่วยยกขึ้นอยู่สามหน หนักมาก ๆ แต่ไปด้วยแรงศรัทธา ครับ

                      ไม่มีใครในคณะ เป็นภาระ กับหลวงพ่อ ทั้งสิ้น เพราะ ต่างก็รู้หน้าที่ดี และหลวงพ่อใช้วิธีเดินเร็วๆ เพื่อเร่งญาติโยม ใครเดินช้า จะสวดมนต์ ฟังบรรยาย ปฏิบัติธรรม เวียนเทียน ไม่ทัน เพราะหลวงพ่อต้องควบคุมเวลา

                       รู้สึกว่าในคณะ มีคนท้องเสียเล็กน้อย อยู่ท่านหนึ่ง ไม่ต้องถึงกับแวะข้างทางแต่ประการใด ยังควบคุมได้

                       สวัสดี                  

[KUSON]

กุศลพูดถึงคนถูกชวนไปเที่ยวที่ไกลๆยากเหลือเกิน
ไม่ทันได้เอ่ยชื่อ ก็มีองครักษ์พิทักษ์......เรียงหน้าโต้เต็มไปหมด  (คิกๆๆได้ผล)
เอ้า พี่สิงห์จัดไปอินเดียซะเลย  ก่อนกลับวันสุดท้ายอย่าลืม รำวงรอบเสาหินพระเจ้าอโศกจำลองสักสามเที่ยว
ไปแน่ๆ หุยฮา

[KUSON]

ผมเล่าไปแค่วันที่สอง แต่พี่สิงห์เขารวดเร็วดีเล่าด้วยภาพสู่วันที่สามเรียบร้อยแล้วเข่นเขาคิชกูฎ วัดเวลุวัน มหาวิทยาลัยนาลันทา
ผมเล่าต่อเรื่องหลวงพ่อดำก็แล้วกัน


ไปกราบหลวงพ่อดำต้องนั่งรถม้าไป2คนต่อคันวิ่งไปตามถนนโดยมีเด็กวิ่งตามเพื่อขายของ





และจุดหมายปลายทางที่ต้องการมาสักการะคือหลวงพ่อคำนี่เอง

[KUSON]

หลวงพ่อดำพระพุทธองค์ดำแห่งนาลันทา
เป็นพระพุทธรูปจากแกะสลักจากหินสีดำ หน้าตักกว้าง60นิ้ว
ชาวอินเดียนับถอศรัทธาความศักด์สิทธิ์ของท่านมาก คนในครอบครัวเจ็บปว่ย ก็พากันเอาน้ำมัน นมหรือเนยทาองค์ท่านแล้วเอาไปลูบทาตัวก็หายเจ็บป่วยชื่อภาษาอินเดียคือเคลียบาบา
ประวัติ
สร้างในสมัยพระเจ้าเทวาปาลเมื่อพศ1353-1393
พศ1766พวกมุสลิมได้ทำลายด้วยการใช้กำลังห้ำหั่น ฆ่าฟันญ่ำยีชาวพุทธโดยมีมูฮัมหมัด อิกเทีย ซิลจิเป็นหัวหน้า เข้าไปทำลายพระพุทธรูปและศิลปกรรมในมหาวิทยาลัยนาลันทาและจุดไฟเผาคัมภีร์ทางพุทธศาสนาราบคาบ
หลวงพ่อดำเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวที่เหลือรอดจากการถูกทำลาย และไม่ถูกอังกฤษยึดไป

[KUSON]

สองภาพนี้คือมหาวิทยาลัยนาลันทาที่เก่าแก่และมีชื่อเสียง พระถังซำจั๋งเคยเดินทางมาศึกษาที่นี่ถึง14ปี

[KUSON]

[ตกเย็นพาไปชมสถานที่อาบน้ำตามวรรณะขอชาวอินเดีย
สังเกตลำคลองก่อนถึงมีธารน้ำเล็กๆที่ไหลมาจากบริเวณที่อาบน้ำด้านบน


ถัดมามีศาลสำหรับชาวฮินดูไหว้พระแม่กาลี

[KUSON]

สองภาพนี้เป็นสถานที่อาบน้ำชนชั้นต่ำ(จันทาล) เราไปถึงค่ำแล้ว ภาพถัดไปต้องใช้แฟรตเราจึงถูกขอร้องไม่ให้ถ่ายรูปแต่ชมเฉยๆได้
ถัดขึ้นไปเป็นที่อาบน้ำชนชั้นกลาง
และบนสุดเป็นที่อาบน้ำชนชั้นสูง

[KUSON]

หนุ่มคนนี้เป็นชนชั้นสูง(วรรณะ)
ขึ้นมาจากที่อาบน้ำ ยอมให้ผมถ่ายรูปคนเดียวและกระซิบบอกว่า
นายจ๋า ช่วยบอกสาวไทยด้วยว่า
 "ใครอยากเป็นมหารานี ช่วยหาสินสอดไปขอมหาราชาแต่งงานด้วย ค่าตัวฉันไม่แพงจะนายจ๋า"

[KUSON]

เช้าวันรุ่งขึ้น เราเดินทางต่อไปอีก240กม.ไปยังเมืองไวสาลี
สังเกตบ้านเมืองเจริญขึ้น แต่ชั้นบนยังสร้างไม่ยอมเสร็จ แต่ละห้องเปิดประตูดู อู้ฮูคนนอนเจ็ดแปดสิบ)เจอกันสัปดเหน้านะครับ

[Khun28]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 02 มีนาคม 2555, 13:10:07
	วัดเวฬุวนาราม                               วัดเวฬุวนาราม เป็นวันแห่งแรกในโลก ของพุทธศาสนา ที่พระเจ้าพิมพิสาร ทรงสร้างถวายให้พระพุทธองค์ อยู่ในสวนป่าไผ่อันร่มรื่น งดงาม ในอุทยานกรุงราชคฤห์  ความสำคัญคือ เป็นสถานที่พระสงฆ์จำนวน ๑๒๕๐ รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย(๑๐๐๐ องค์พระภิษุสงฆ์ ชฎิลสามพี่น้อง อุรุเวลกสปะ นทีกสปะ คยากสปะ และสาวก และ ๒๕๐ รูป คือพระสารีบุตร พระโมคคลานะ และเหล่าสาวก) ภิกษุ ๑๒๕๐ รูป มาประชุมกันในวันเพ็ญเดือนสามวันมาฆปุณมี  พระภิกษุ ๑๒๕๐ รูป เป็นเอหิภิกขุ เป็นอรหันต์ และสำเร็จอภิญญา๖ และพระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ประกาศหัวใจของพุทธศาสนา คือ "การไม่ทำบาปทั้งปวง   การทำกุศลให้ถึงพร้อม  การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ"                                สิ่งที่หลงเหลือ คือ จุดที่แสดงโอวาทปาติโมกข์ และซากพระคันธกุฎี  ที่มีหลุมฝังศพของนายทหารมุสลิมมาฝังอยู่ใกล้ๆ  คณะได้สวดมนต์ทำวัตรเย็น สวดโอวาทปาติโมกข์ นั่งเจริญสติ-สมาธิ และเวียนเทียน  เสร็จแล้วไปชมซากกุฏิพระพุทธองค์                                ผมอยู่นครศรีธรรมราช ครับ  เชิญชมภาพ

อาสนะของฆราวาสนี้ ทางทัวร์จัดเตรียมไว้ให้เหรอครับ สวยดี

[Khun28]

		อ้างถึง			ข้อความของ KUSON เมื่อ 02 มีนาคม 2555, 14:17:10
	ผมเล่าไปแค่วันที่สอง แต่พี่สิงห์เขารวดเร็วดีเล่าด้วยภาพสู่วันที่สามเรียบร้อยแล้วเข่นเขาคิชกูฎ วัดเวลุวัน มหาวิทยาลัยนาลันทา ผมเล่าต่อเรื่องหลวงพ่อดำก็แล้วกัน ไปกราบหลวงพ่อดำต้องนั่งรถม้าไป2คนต่อคันวิ่งไปตามถนนโดยมีเด็กวิ่งตามเพื่อขายของ และจุดหมายปลายทางที่ต้องการมาสักการะคือหลวงพ่อคำนี่เอง

ตอนผมไป ต้องเดินบนคันนาข้าวสาลี ฝ่ากับระเบิดของชาวบ้าน เพื่อไปนมัสการหลวงพ่อดำ
ไม่ได้นั่งรถม้าสบายๆอย่างนี้

[KUSON]

เพราะบารมีของหลวงพ่อที่พาพวกเราไป
พวกที่ไปส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และท่านชำนาญเส้นทาง คนที่นั่นเคารพท่านทุกคน
การเดินทางจึงราบรื่นสุขสบายไปทุกแห่งครับ

สำหรับอาสนะ ต่างคนต่างนำไปเอง
แต่เที่ยวนี้คณะทัวร์ที่สมัครมากับหลวงพ่อเขาซื้อมาถวาย
เมื่อใช้เสร็จแล้วเขามอบให้กับทางวัดไทยพุทธวิปัสนาครับ เราจึงได้ร่วมอาศัยใบบุญครั้งนี้

[เหยง 16]

ศุกร์ที่ 2 มีนาคม 2555 (วันนี้) เริ่มงานตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป หน้าตึก 3 คณะวิศวะกรรมศาสตร์ จุฬาฯ

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 01 มีนาคม 2555, 09:07:21
	สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก                               ขอบคุณมากที่ยังเข้ามาทักทาย พี่สิงห์ครับ                               รูปเธอ ดูดี ในสายตาพี่สิงห์ ครับ                               สวัสดี

ขอบคุณค่ะ  พี่สิงห์

รูปที่ใช้เป็นรูป Avatar มาจากภาพเต็ม ภาพนี้ค่ะ   




พระราชทานพระวโรกาสให้เข้าเฝ้าและได้กราบพระบาทอย่างใกล้ชิด ..
เป็นมงคลของชีวิตค่ะ