ยิ่งสร้อยทองคำ3-4เส้นที่เห็นนั่นนะครับ
ตอนกลางวันแขกมาเดินขายเส้นละ2-300รูปีเป็นอย่างต่ำ
พอถึงวันสุดท้ายหลวงพ่อเมตตาอุส่าพาไปแหล่งขายส่ง
พวกธรรมมะ ธรรมโม้ผู้หญิงบางคนทำเป็นใจแข็งไม่ยอมลงไป
ผมเดินส่องไปเรื่อยๆเข้าไปด้านในคูหา
แม่เจ้าโว้ยร้านขายส่งเต็มไปหมด
เหมือนเยาวราชและพาหุรัดรวมกัน(เสียดายลืมถ่ายรูป)
อย่างร้านสร้อยก็มีสร้อยกองเป็นภูเขาเลากา
รับรองของทุกอย่างต่างจากบ้านเราเพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตเองค่าแรงถูกมาก
ผมตรงเข้าไปเลือกสร้อยโดยเร็วกลัวผิดหวังเหมือนตอนเลือกวันก่อนหน้านี้
นายครัย..โหม๋ยดำ โม๋ยลอก รับรอง จำนำโหม๋ยด้าย (ไม่ดำ ไม่ลอก รับรองจำนำไม่ได๋...แขกหนุ่มวัย15โมษณา
คิก ๆแขกพูดไทยเก่งนิ ใหนว่าใหม่ช้าๆ....กุศลแกล้งเชียร์
โหม่ยดำ โหม่ยลอก.........แขกหนุ่มบ้ายอว่าช้ำแล้วซ้ำอีกหลายเที่ยวท่าทางภูมใจ
ตอจากนั้น กลุ่มคนไทยพอเห็นผมเลือกก็แห่กันเลือกตามแน่นขนัด
น้องๆ ซ่วยเลือกเผื่อพี่สัก10เส้นนะพ่อคุณ พี่เบียดคนไม่ไหว.....คุณป้าวัย70กว่าสกิดบอกอยู่ข้างหลัง
คนก็แน่น ของก็มาก ทั้งเบียดทั้งแย่งกันซื้อตามประสาไทยมุง
ช่วยหยืบทองอร่าม3เส้นแบบนี้ให้ป้าที.....คุณป้าเจ้าเดิมมาขอให้ผมช่วยเลือกต่อ
พอผมจะดึง3เส้นขึ้นมาก็รู้สึกเหมือนมีคนมาดึงทั้งช่อออกไป
ปึด......เสียงสร้อยขาดคามือ3เส้นรุ่งริ่งคามือกุศลต่อหน้าคนขายที่อยู่ตรงหน้า
โหม๋ยดำ โหม๋ยลอก รับปากาน......แขกหนุ่มยังลอยหน้าลอยตาโม้คำไทยไม่หยุด สายตาจ้องหน้าโอ้อวดไม่สนใจขาย
กู๊ดๆๆ....เก่งมาก..ผมชูหัวแม่มือขวาแสดงว่าเก่ง ส่วนมือซ้ายที่มีสร้อยขาดคามือรีบยัดคืนกลับเข้าไปในกอง
คุณป้าครับคนบางแล้ว ช่วยเลือกเองเถอะครับ เดียวผมต้องรีบไปร้านเครื่องสำอางค์ต่อ........ว่าแล้วกุศลรีบเผ่นออกจากร้านทันที
ปล.ปกติสร้อยเส้นละไม้เกินร้อยรูปี แต่ถ้าตกเป็นจำเลยราคาอาจสูงขึ้นอึก4-5เท่าผมรู้จักแขกดี