25 พฤศจิกายน 2567, 23:15:47
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 175 176 [177] 178 179 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3579562 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4400 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 10:59:17 »


               - ปทุมธานี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง ๑๒ ซม. ดังนั้น พื้นที่ไหน บ้านใครที่ระดับน้ำสูงกว่า ๑๒ ซม. แสดงว่าน้ำไม่มีทางไป ต้องรอสูบทิ้ง ถ้าไม่มีใครสูบทิ้งช่วยตัวเอง ก็ต้องให้ทางรัฐบาล กทม. มาสูบออก ถ้าเขาไม่มาสูบก็ให้ประท้วง ปิดถนน ครับ

                - ปากเกล็ด นนทบุรีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง ๖ ซม. ครับ

                - ตอนนี้มีเพียงจังหวัดปทุมธานี จังหวัดเดียวที่ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง เพียง ๑๒ ซม. เองนะครับ

                - สรุป ภาพรวมทุกพื้นที่เข้าสู่สภาวะปกติ เพราะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาต่ำกว่าตลิ่ง ครับ พื้นที่ไหนที่มีน้ำท้วมแสดงว่าเป็นที่ลุ่ม หรือน้ำไม่มีทางไป ต้องสูบทิ้งสถานเดียวครับ

                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4401 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 11:01:23 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2554, 05:40:07
อรุณสวัสดิ์ครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

               เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณตีสามถึงตีสี่ครึ่ง ที่นครศรีธรรมราช มีลมแรงมาก ผมนอนอยู่ที่โรงแรมชั้นสิบเอ็ด ได้ยินเสียงลมพัดกระทบโรงแรมเป็นเสียงหวีดหวิว ดังมาก และรับรู้ได้เลยถึงการสั่นไหวของโรงแรม และมีฝนตกด้วย ขระนี้ยังมีฝนตกพรำๆ อยุ่เลย

               ดังนั้น เช้านี้ผมคงไม่สามารถ เดินจงกรมออกกำลังกายที่เทอเรสได้ คงต้องออกกำลังกายในห้องฟิตเนส แทนครับ

               เช้านี้ ผมได้นำ วาทะการโต้ตอบระหว่างพระพุทธองค์กับสัจจกนิครนถ์ มาฝากทุกท่าน เป็นปรัชญาของศาสนาพุทธ คือ "อนัตตา" ขอให้ทุกท่านพิจารณาด้วยปัญญาครับ

               สวัสดี


๓๕. จูฬสัจจกสูตร
สูตรว่าด้วยสัจจกนิครนถ์ สูตรเล็ก

   ๑. พระผู้มีพระภาคประทับ ณ ศาลาเรือนยอดในป่าใหญ่ ใกล้กรุงเวสาลี(แคว้นวัชชี) ในสมัยนั้น สัจจกนิครนถ์อยู่ในกรุงเวสาลี เป็นผู้ชอบโต้เถียง ยกตนว่าฉลาด ชนหมู่ใหญ่ยกย่องว่าดี. สัจจกนิครนถ์พูดในที่ประชุมชนกรุงเวสาลีว่า ไม่เห็นใครแม้ที่จะปฏิญญาตนว่าเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง ที่ตนโต้ตอบด้วยแล้วจะไม่หวั่นไหว ไม่มีเหงื่อไหลออกมาจากรักแร้ อย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้ตนจะโต้ตอบกับต้นเสา ต้นเสาก็ยังหวั่นไหว.

   ๒. สัจจกนิครนถ์พบพระอัสสชิเถระ เช้าวันหนึ่ง จึงเข้าไปหาปราศรัยแล้วถามว่า พระสมณโคดมแนะนำสาวกอย่างไร  คำสอนส่วนใหญ่คืออะไร  พระอัสสชิตอบว่า ทรงสอนว่า ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน สังขารทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน. สัจจกนิครนถ์ก็กล่าวว่า ท่านฟังมาไม่ดีแล้ว ที่ได้ฟังพระสมณโคดมผู้มีวาทะอย่างนี้ ตนพบพระสมณโคดมคราวใดคราวหนึ่งก็จะถ่ายถอนจากความเห็นอันชั่วนี้ให้ได้ สัจจกนิครนถ์จึงเข้าไปยังที่ประชุมของเจ้าลิจฉวีประมาณ ๕๐๐ เล่าความที่โต้ตอบกับพระอัสสชิให้ฟัง และอวดอ้างว่าจะฟัดพระสมณโคดมเสียด้วยวาทะเหมือนดึงขนแกะเล่นเป็นต้น.

   ๓. สัจจกนิครนถ์จึงพร้อมด้วยเจ้าลิจฉวี ๕๐๐ ไปยังศาลาเรือนยอดป่ามหาวัน เมื่อพบพระพุทธเจ้าแล้วก็กล่าว ขอโอกาสเพื่อให้ตอบปัญหา พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้ถามได้ ก็ถามว่า ทรงแนะนำสาวกอย่างไร คำสอนส่วนใหญ่คืออะไร ตรัสตอบอย่างที่พระอัสสชิเถระตอบ. สัจจกนิครนถ์แย้งว่า พืชพันธุ์ไม้ และคน สัตว์ อาศัยแผ่นดินฉันใด คนเราก็อาศัยรูปเวทนา เป็นต้น ได้ประสบบุญและมิใช่บุญ (เท่ากับว่า ถ้าปฏิเสธ ขันธ์ ๕ ว่าเป็นอัตตาเสียแล้ว ก็คล้ายกับไม่มีมูลฐาน เหมือนคน สัตว์ ต้นไม้ เมื่อไม่มีดิน ก็ไม่มีที่ตั้ง).

   ๔. ตรัสย้อนถามว่า ถ้าอย่างนั้น ท่านกล่าวว่า ขันธ์ ๕ เป็นตนของท่านใช่ไหม. สัจจกนิครนถ์ตอบว่า ใช่ ประชุมชนใหญ่นี้ก็ว่าอย่างนั้น. ตรัสตอบว่า ประชุมชนใหญ่นี้จะทำอะไร  ท่านจงแก้วาทะของตนเองเถิด สัจจกนิครนถ์จึงยืนยันว่า ข้าพเจ้ากล่าวว่า ขันธ์ ๕ เป็นตนของข้าพเจ้า.

   ๕. ตรัสถามว่า กษัตริย์ผู้ได้รับมูรธาภิเษก มีอำนาจต่างๆ ในแว่นแคว้นของพระองค์ เช่น การฆ่า การริบทรัพย์ การเนรเทศใช่หรือไม่ ทูลรับว่าใช่.  ตรัสถามว่า ท่านกล่าวว่า รูป (ส่วนหนึ่งใน ๕ ส่วนของขันธ์ ๕) เป็นตัวตนของท่าน ท่านจะมีอำนาจในรูปนั้นว่า จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าเป็นอย่างนั้นเลยได้หรือไม่. สัจจกนิครนถ์นิ่ง ตรัสถามย้ำถึง ๓ ครั้งก็นิ่ง ในที่สุดก็ยอมรับว่าไม่มีอำนาจให้รูปเป็นอย่างนั้นอย่างนี้. จึงตรัสถามไปทีละข้อจนถึงวิญญาณ  ซึ่งสัจจกนิครนถ์ก็ยอมรับว่า ไม่มีอำนาจเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เช่นเดียวกันทุกข้อ

   ๖. ตรัสถามว่า ขันธ์ ๕ เที่ยงหรือไม่เที่ยง. ตอบว่า ไม่เที่ยง. ตรัสถามว่า สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข. ตอบว่า เป็นทุกข์. ตรัสถามว่า สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นตัวตนของเรา ตอบว่า ไม่ควร. ตรัสถามว่า ผู้ใดติดทุกข์ ยึดทุกข์ ตามเห็นว่า ทุกข์นั้นเป็นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นตัวตนของเรา ผู้นั้นจะกำหนดรู้ทุกข์ หรือทำทุกข์ให้สิ้นไปได้หรือไม่. ตอบว่า ไม่ได้. ตรัสถามว่า ท่านติดทุกข์ ยึดทุกข์ ตามเห็นว่าทุกข์นั้นเป็นของเราเป็นตนใช่หรือไม่ สัจจกนิครนถ์ยอมรับว่าเป็นเช่นนั้น.

   ๗. ตรัสเปรียบว่า คนที่ต้องการแก่นไม้  แต่ไปตัดต้นกล้วย จึงไม่ได้แม้แต่กะพี้ไม้ จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงแก่น ตัวท่านที่อวดตนในเรื่องการโต้ตอบว่า ผู้ที่พูดกับท่านจะต้องหวั่นไหว เหงื่อแตก แม้แต่เสาก็หวั่นไหว บัดนี้เหงื่อของท่านไหลเอง ตถาคตไม่มีเหงื่อไหลเลย สัจจกนิครนถ์ก็นั่งนิ่งเก้อเขิน.  บุตรเจ้าลิจฉวีชื่อทุมมุขะ ก็กราบทูลพระผู้มีพระภาคถึงสัจจกนิครนถ์ว่าเหมือนปูถูกหักก้าม  สัจจกนิครนถ์ก็ว่าบุตรเจ้าลิจฉวีว่าเป็นเรื่องของการสนทนาระหว่างพระสมณโคดมกับตน (คนอื่นไม่ควรเกี่ยว)

   ๘. แล้วสัจจกนิครนถ์จึงทูลถามว่า สาวกของพระองค์จะข้ามความสงสัย ไม่ต้องพึ่งผู้อื่น (ในเรื่องความเชื่อ) ด้วยเหตุเพียงเท่าไร. ตรัสตอบว่า สาวกนั้นเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงว่า ขันธ์ ๕ ทุกชนิด ไม่เป็นของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่เป็นตัวตนของเรา. ทูลถามว่า ภิกษุจะเป็นพระอรหันต์ขีณาสพด้วยเหตุเพียงเท่าไร ก็ตรัสตอบอย่างเดียวกับตอนแรก คือไม่ยึดถือขันธ์ ๕ ว่าเป็นของเรา เป็นต้น แล้วตรัสสรุปว่า ภิกษุผู้หลุดพ้นแล้วอย่างนี้ ย่อมประกอบด้วย อนุตตริยะ (สิ่งยอดเยี่ยม) ๓ ประการ คือ ทัสสนานุตตริยะ (ความเห็นอย่างยอดเยี่ยม) ปฏิปทานุตตริยะ (ความปฏิบัติอย่างยอดเยี่ยม) วิมุตตานุตตริยะ (ความหลุดพ้นอย่างยอดเยี่ยม) ย่อมเคารพบูชาตถาคตว่า ตรัสรู้, ฝึกพระองค์, ข้ามพ้น, ดับเย็น, ด้วยพระองค์เองแล้วจึงแสดงธรรมเพื่อให้ผู้อื่นเป็นเช่นนั้น.

   ๙. สัจจกนิครนถ์กราบทูลยอมรับว่าตนผิด และนิมนต์พระผู้มีพระภาค พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ไปฉันภัตตาหาร ซึ่งพระผู้มีพระภาคก็ทรงรับนิมนต์ และเสด็จไปฉัน ณ อารามของนิครนถ์นั้นในวันรุ่งขึ้น.


                   สมัยที่นายชวน  หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งแรก หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายองค์ปัจจุบัน ก็เป็นเช่น สัจจกนิครนถ์ คือ ได้สอนว่า ขันธ์ ๕ ซึ่งประกอบไปด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ นั้น เป็น "อัตตา" ตรงกันข้ามกับพระพุทธองค์ หรือผิดหลักปรัชญาทางศาสนาพุทธ จนพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุต   ปยุตฺโต ) ต้องออกมาชี้แจงตอบโต้เพื่อปกป้องพระศาสนา จนเกือบถูกอิทธิพลของวัดธรรมกายลงโทษ แต่ผลสุดท้าย ท่านก็ทรงปกป้องพระศาสนาเอาไว้ได้ คือท่านได้ชี้แจงปรัชญาของศาสนาพุทธตามที่พระพุทธองค์ทรงสอนเอาไว้ ว่าขันธ์ ๕ เป็นอนัตตา เพราะเราไม่สามารถบังคับให้เป็นอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างนี้ได้ มันเป็นเรื่องของจิต ที่ไม่มีตัวไม่มีตน ครับ

              พุทธศาสนิกชน ทุกท่านควรศึกษาให้เข้าใจ ครับ

               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4402 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 11:08:39 »

วันเสาร์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา 11.05 น.
 สถานการณ์น้ำวันนี้
 สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 (เวลา 08.00 น.)


น้ำเหนือ
 - ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ อ.บางไทร 3.23 ม.รทก. (ลดลงจากเมื่อวาน 5 ซม.)
 
น้ำทะเลหนุนสูง
 - วันนี้เวลา 08.59 น. ระดับ +1.31 ม.รทก. และเวลา 17.16 น. ระดับ +1.17 ม.
 - วันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. ระดับ +1.35 ม.รทก. และเวลา 18.03 น. ระดับ +1.15 ม.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
 - ระดับน้ำสูงสุด เช้าวานนี้ เวลา 07.00-08.00 น. ระดับ +2.07 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 73 ซม.)
 - ระดับน้ำสูงสุด เย็นวานนี้ เวลา 16.00-17.00 น. ระดับ +1.90 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 90 ซม. )
 - ระดับน้ำ เช้าวันนี้ เวลา 08.00 น. ระดับ +2.18 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 62 ซม. น้ำกำลังขึ้น )
 - คาดการณ์จากกรมอุทกศาสตร์ วันนี้ เวลา 08.59 น. ระดับ +2.12 ม.รทก.

น้ำทุ่ง
 - พื้นที่ดอนเมือง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 5 ซม.
 - ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง ( 24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
 - ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ( 24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
 
ภาพรวมสถานการณ์ใน กทม. (24 ชั่วโมงที่ผ่านมา)
 - คลองเปรมประชากร ระดับน้ำลดลง 2-5 ซม.
 - คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 2-4 ซม.
 - คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 1-4 ซม.
 - คลองบางซื่อ ระดับน้ำลดลง 1-4 ซม.
 - คลองแสนแสบ ระดับน้ำลดลง 1-3 ซม.
 - คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 2-3 ซม.
 - คลองสายหลักพื้นที่ฝั่งธนบุรีตอนบน แนวคลองมหาสวัสดิ์ที่มีการเปิดประตูเพิ่มเติม ระดับน้ำทรงตัว บางแห่งลดลง 1 ซม.

                 คลองเปรมประชากร ช่วง สน.ดอนเมือง น้ำยังล้นตลิ่ง คือน้ำยังคงท้วมอยู่  เป็นคลองเดียวใน กทม. ฝั่งพระนตร
             
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4403 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 13:14:51 »

พยากรณ์อากาศ เมื่อเวลา 12.00 น.

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554
        ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ยังคงทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป มีฝนตกอยู่ในเกณฑ์กระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้
        บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง กับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบริเวณยอดดอยของภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 26-27 พ.ย. นี้ 

  พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-17 องศา ทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร ห่างฝั่ง 1-2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  จังหวัดชุมพรขึ้นมา มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่ง 1-2 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.  [/size]
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4404 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 13:29:02 »

               
สวัสดีครับคุณเหยง

                เวลาตั้งแต่ 09:00 -13:30 น. อำเภอท่าศาลา นครศรีธรรมราช อากาศแจ่มใส มีแสงแดด ไม่มีฝนตกเลย สามารถทำงานเทคอนกรีตได้มาตั้งแต่เช้าแล้ว และถ้าเป็นอย่างนี้ เครื่องบิน คงลงได้สบาย ครับ

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4405 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 16:54:45 »

พี่สิงห์,
ไปนครฯวันเดียวเองเหรอคะ?
วันนี้ก็กลับแล้ว?
โห,ฟังแล้วเหนื่อยแทนค่ะพี่.

หน้าที่แล้ว แว๊บๆว่าพี่สิงห์รับทาน
กระเทียม 1 ถ้วยเล็ก?
โอยโย๋พี่ขา,กระเทียมสดจะดียังไง
เลิศสะแมนแตนยังไงก็ตามแต่...
แต่กระเทียมสดระเหิดกลิ่นตัว กลิ่นปาก
ทีนี้ล่ะพี่สิงห์...เนื้อหอมจริงแล้ว!
สาวๆเปิดหมดพี่....อ๊ากกกก


ถึงกรุงเทพปลอดภัยพี่
อย่าลืมสเต๊กโคราช..
ของเค้า...ดีจริงคะ
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4406 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 16:58:10 »

"เปิด"เป็นภาษาชาวบ้าน
ที่อาจไม่ไช่ภาษาใต้
แต่แปลว่า "วิ่งหนี เดินหนี"

ถ้าจะให้หรอยจริงในภาษา
ต้องบอกว่า "สาวๆแล่นนนน หมด"
ค่ะ




ลงชื่อ
หนุงหนิง ศิษย์น้ำท้วม
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4407 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 17:20:09 »

สวัสดีค่ะ คุณหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                พี่สิงห์อยู่สนามบิน นครศรีธรรมราชรอขึ้นเครื่อง อากาศเปิด คงไม่มีปัญหาเรื่องการขึ้น-ลงของเครื่องบินครับ

                เวลาพี่สิงห์รับประทานอาหารที่โรงแรม จะเป็นที่รู้กัน พนักงานจะเอากระเทียมสดมาหนึ่งถ้วยเล็ก กินเพื่อความคุมไขมันในเส้นเลือด พี่สิงห์กินได้ทั้งนั้น เพราะไม่ได้สนใจกลิ่นมันเลย และพี่สิงห์ก็ไม่มีสาวๆ อยู่แล้วจะไปกลัวอะไรมัน รู้ว่ามันมีประโยชน์ ครับ

                วันนี้พี่สิงห์ซื้อซาลาเปาทอด (อร่อยมาก) จากโรงแรมทวินโลตัส เลยซื้อเผื่อพนักงาน Nok Air ที่เป็นกราวด์อยู่ที่นครศรีธรรมราช ที่คอย อำนวยความสะดวก check in ให้โดยที่ไม่ต้องขอร้องอะไรเลย รู้ว่าพี่สิงห์จะนั่งเก้าอี้ตัวไหนบนเครื่องบิน พนักงานเปลี่ยนตั๋วของ Nok Air ที่คอยจัดการทุกอย่างให้เสมอ และนอกจากนี้ยังเอาไปเผื่อพนักงาน Nok Air บนเครื่อง เพราะคงไม่ได้กินข้าวเย็นเหมือนกัน  ส่วนนักบินนั้นไม่กล้าเดี๋ยวหาว่าวางยาสลบ ครับ

                 วันหลังเธอมากรุงเทพฯ จะสั่งเอาไปให้รับประทาน พี่สิงห์เคยเจอที่ร้านสุราษฎร์ เหมือนกัน เป็นอาหารเช้า ครับ

                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4408 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 17:26:20 »

รับสมัคร ไปเข้าคอสดูแลสุขภาพที่โรงพยาบาลจอมทอง

              เดือนมกราคม ๒๕๕๕ นี้ผมตั้งใจว่าจะให้รางวัลชีวิต ไปรับลมหนาวที่โรงพยาบาลจอมทอง ไปเข้าคอสดูแลสุขภาพ ชาวซีมะโด่งท่านใดสนใจ จะไปด้วย กรุณาโทรศัพท์หาผมที่ 0817000760 หรือแจ้งไว้ที่นี่เลยครับ และจะพาเที่ยวงานพืชสวนเชียงใหม่ ด้วยครับ รับจำนวนจำกัดเพียง ๑๒ ท่านครับ สำหรับวันที่นั้นประมาณกลางเดือนมกราคม ตอนนี้ก็มีอาจารย์ถาวร-ญาณิศา  โชติชื่น ครับ

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4409 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 17:28:27 »

พี่สิงห์,
ซาละเปาทอดเหรอคะ?
เกิดมาไม่เคยได้ยินทีคะ
อย่าพักพูดเรื่องเคยลอง..

พี่ใจดีจังเลย!
งี้สาวๆนกแอร์ได้อ้วนกันมั่ง!
แอร์โฮสเตสเค้ายิ่งรักษาหุ่นเคร่งครัดคะ.

ถ้าหนิงมา,อยากกินปลาช่อนแดดเดียวคะ
หรือขนมที่ไปเคาะบ้านให้เค้าทำให้น่ะพี่
ขนมปังสังขยาที่นุ่มละมุนบนลิ้น..ต้องดื่มด่ำ
หลายนาทีก่อนเคี้ยว...hmmmmm...อยาก!
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4410 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 17:33:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2554, 17:28:27
พี่สิงห์,
ซาละเปาทอดเหรอคะ?
เกิดมาไม่เคยได้ยินทีคะ
อย่าพักพูดเรื่องเคยลอง..

พี่ใจดีจังเลย!
งี้สาวๆนกแอร์ได้อ้วนกันมั่ง!
แอร์โฮสเตสเค้ายิ่งรักษาหุ่นเคร่งครัดคะ.

ถ้าหนิงมา,อยากกินปลาช่อนแดดเดียวคะ
หรือขนมที่ไปเคาะบ้านให้เค้าทำให้น่ะพี่
ขนมปังสังขยาที่นุ่มละมุนบนลิ้น..ต้องดื่มด่ำ
หลายนาทีก่อนเคี้ยว...hmmmmm...อยาก!

              ปลาช่อนแดดเดียว ขนมปังสังขยา ของสิงห์บุรีไม่มีปัญหา ครับ จะพาไปเที่ยวให้ถึงที่เลยครับ

               แอร์พวกนี้กินเก่ง ทุกคน ครับเพราะว่าเห็นบ่อย ยิ่งเย็นๆ ต้องสั่งซื้อข้าวกล่องจากนครศรีธรรมราช เป็นประจำครับ

               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4411 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 17:35:31 »

คาดพรุ่งนี้เย็นสามารถระบายน้ำใน ม.เกษตร ได้หมด

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2011 เวลา 17:05 น.


             (26 พ.ย. 54) เวลา 14.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร โดยมีนายวุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนายอิศราเมศร์ คชานุกูลย์ ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังเต็มพื้นที่ทั้งหมด 846 ไร่ และมีมวลน้ำเหลืออยู่ในพื้นที่ราว 80,000 ลบ.ม. ระดับความสูงประมาณ  10–20 ซม. ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพิ่มให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำนวน 5 เครื่อง จากเดิมที่มหาวิทยาลัยฯ มีอยู่แล้ว 7 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลงสู่คลองวิภาวดีและคลองบางเขนต่อไป ทั้งนี้ หากไม่มีน้ำใหม่เข้ามาเพิ่มคาดว่าช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้ (27 พ.ย.) น้ำบนถนนในมหาวิทยาลัยฯ จะแห้งสนินอย่างแน่นอน จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงเรือจากวัดเทวสุนทรไปยังวัดเสมียนนารี เขตจตุจักร ตรวจระดับน้ำในคลองเปรมประชากรพร้อมทั้งให้กำลังใจประชาชนริมคลองเปรมประชากรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
              ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ในภาพรวมถือว่าระดับน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครลดลงเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังมีประชาชนในหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมขังตั้งแต่ระดับ 30-60 ซม. โดยกรุงเทพมหานครยังคงดำเนินการระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มที่ต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อให้น้ำแห้งเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังมีภารกิจสำคัญในการสนับสนุนการระบายน้ำในหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับเข้าสู่บ้านเรือนของตนได้เร็วที่ที่สุด และจากการตรวจพื้นที่เขตทวีวัฒนาเมื่อวานนี้ ในหลายหมู่บ้านยังมีน้ำท่วมขัง อาทิ หมู่บ้านสกุลทิพย์ หมู่บ้านเปรมวดี ที่ยังมีน้ำท่วมขังสูงระดับเข่าและสูงกว่าเข่าเล็กน้อย และกรุงเทพมหานครขอขอบคุณ ศปภ. ที่ช่วยเร่งระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆ ด้วย ซึ่งในอนาคตจะมีการหารือกับรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการระบายน้ำในคลองเปรมเพื่อให้การระบายน้ำในคลองเปรมเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
              สำหรับกรณีที่ทาง ศปภ. มีคำสั่งให้กรุงเทพมหานครเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ ช่วงวัดหนองใหญ่ที่ระดับ 1.50 ม. จากเดิมที่เปิดอยู่ระดับ 1 ม. นั้น ตนได้ทำหนังสือชี้แจงไปยัง ศปภ. แล้วว่าไม่สามารถดำเนินการได้ จำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำที่ระดับ 1 ม. เท่าเดิม เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เขตสายไหม
                                                                     ----------------------
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4412 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 19:36:17 »

 
พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554
     ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16:00 น.  มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย
มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจาย ส่วนอ่าวไทยยังคงมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้
     บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง กับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบริเวณยอดดอยของภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 26-27 พ.ย. นี้
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-17 องศา ทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร ห่างฝั่ง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  จังหวัดชุมพรขึ้นมา มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่ง 1-2 เมตร

 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


ออกประกาศ : 26 พฤศจิกายน 2554 17:00
 
 
 
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4413 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 20:14:54 »

เร่งสูบน้ำออกจากเขตเทศบาลเมืองปัตตานี หวั่นท่วมย่านเศรษฐกิจ
26 พฤศจิกายน 2554 15:50 น.

 
      ปัตตานี - น้ำในแม่น้ำปัตตานีล้นสูงเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองปัตตานีแล้ว หวั่นท่วมเข้าย่านธุรกิจ นายกฯเมืองปัตตานี เร่งใช้เครื่องสูบน้ำ 3 ตัว ระบาย ขณะที่พื้นที่บ้านเรือนริมแม่น้ำปัตตานียังอ่วมระดับน้ำสูงต่อเนื่อง
       
       วันนี้ (26 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดปัตตานี ซึ่งยังคงมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา น้ำจากแม่น้ำปัตตานี ซึ่งไหลเชี่ยวและแรง ได้ทะลักล้นเข้าท่วมบริเวณ ต.จะบังติกอ ต.สะบารัง ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี และยังไหลเข้าท่วมถนนในเขตย่านธุรกิจ ส่งผลให้รถยนต์สัญจรไปมาลำบาก ส่วนบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี ตั้งแต่ถนนหน้าวัง ถนนโรงอ่าง ถูกน้ำเข้าท่วมสูงกว่า 50 ซม.
       
       จากเหตุการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีเพิ่มสูงขึ้นนี้ ทำให้พื้นที่น้ำท่วมที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี ไม่ว่าจะเป็น ต.ปะกาฮารัง ต.บาราเฮาะ และ ต.ตะลุโบ๊ะ ซึ่งท่วมอยู่ก่อนแล้ว มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
       
       ด้านนายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี เป็นผลมาจากระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีสูงกว่าระดับถนนในเขตเทศบาล เนื่องจากน้ำเหนือจากจังหวัดยะลาได้ไหลมารวมกับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีปริมาณมากอยู่แล้ว จึงทำให้น้ำได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี ซึ่งทางเทศบาลได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 3 ตัว พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำอย่างรวดเร็วแล้ว ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมในย่านเศรษฐกิจของจังหวัดปัตตานี


 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000150883
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4414 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 11:18:42 »

สวนดุสิตโพลล์ ซึ่งมีสื่ออื่นตำหนิเรื่องการตั้งหัวข้อในทำนองเชีบร์นายกรัฐมนตรีจนออกนอกหน้า
มาดูเนื้อหาเอาไว้ ด้วยใจเป็นธรรมว่า มีประเด็นที่ตรงใจเราบ้างหรือไม่ ??


สวนดุสิตโพลเผยปชช.ประทับใจ"ยิ่งลักษณ์"ช่วยน้ำท่วมมากสุด แต่ผิดหวังรัฐบาล-ศปภ.
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 09:22:05 น.
 
"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นจากประชาชน ทั่วประเทศ เรื่อง “ที่สุด” ของ“น้ำท่วมใหญ่” กับ “การเมืองไทย” เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 2,506 คน ระหว่างวันที่ 22-26 พฤศจิกายน 2554  สรุปผลได้ดังนี้


1. จากเหตุการณ์ “น้ำท่วมใหญ่” มีผลดี – ผลเสีย ต่อการเมืองไทยอย่างไร?


(1.1) “น้ำท่วมใหญ่”  มี (ผลดี) ต่อการเมืองไทย คือ

อันดับ 1 ทำให้เกิดความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันในการช่วยเหลือและแก้ปัญหาน้ำท่วม 53.49%
อันดับ 2 ได้เห็นถึงความตั้งใจและบทบาทหน้าที่ในการทำงานจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง /
เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป 32.82%
อันดับ 3 เป็นการกระตุ้นให้ภาครัฐเร่งหาแนวทางป้องกัน แก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างจริงจัง 13.69%
 

(1.2) “น้ำท่วมใหญ่”  มี (ผลเสีย) ต่อการเมืองไทย คือ

อันดับ 1 ภาพลักษณ์ทางการเมืองในสายตาของชาวต่างชาติและนักลงทุนแย่ลง  47.88%
อันดับ 2 แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งที่มาจากความคิดเห็นในการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ไม่ตรงกัน 29.64%
อันดับ 3 การทำงานของรัฐบาลยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร /ประชาชนขาดความเชื่อมั่น 22.48%


2. “นักการเมืองไทย” ที่ประชาชนประทับใจในการช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาน้ำท่วมมากที่สุด

อันดับ 1 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 39.20%
อันดับ 2 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 25.87%
อันดับ 3 สุขุมพันธุ์ บริพัตร 21.33%
อันดับ 4 ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ 13.60%


3.  ประชาชนคิดว่า “การเมืองไทย” หลังน้ำลด จะเป็นอย่างไร?

อันดับ 1 ยังคงเห็นภาพการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านเหมือนเดิม 58.59%
อันดับ 2 รัฐบาลต้องเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูประเทศอย่างเต็มที่  21.64%
อันดับ 3 อาจมีการเคลื่อนไหว/ชุมนุมของผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ยังไม่พอใจกับการช่วยเหลือของรัฐบาล 19.77%


4.  สิ่งที่ประชาชนอยากให้ “นักการเมืองไทย” ทำ หลังน้ำลด

อันดับ 1 เร่งให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเยียวยาให้มากขึ้น 48.62%
อันดับ 2 การร่วมมือร่วมใจกันทำงานอย่างเต็มที่ /การติดต่อ สื่อสาร และการประสานงานที่ดี 31.85%
อันดับ 3 การหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว/เชิญผู้ที่มีความรู้และเชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำ 19.53%
 

ที่สุดของน้ำท่วมไทย


เรื่องที่ดีใจมากที่สุด

ความมีน้ำใจของคนไทย /การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  79.04
คนในชุมชนมีความสามัคคี ห่วงใย ดูแลกันมากขึ้น 12.50
การได้รับถุงยังชีพจากสื่อมวลชน เอกชน และภาครัฐ 8.46


เรื่องที่เสียใจมากที่สุด

บ้านเรือน ทรัพย์สิน ที่ดินทำกินเสียหาย 48.07
ไม่มีที่อยู่อาศัย /ครอบครัวไปคนละทิศคนละทาง 29.80
การทะเลาะกันของประชาชนและประชาชนกับเจ้าหน้าที่ 22.13


เรื่องที่สมหวังมากที่สุด

คนไทยมีน้ำใจช่วยเหลือกัน ไม่ทอดทิ้งกันในยามยาก 77.45
ระดับน้ำลดลง / ได้กลับเข้าบ้าน 12.74
ที่บ้านไม่ถูกน้ำท่วม  9.81
 

เรื่องที่ผิดหวังมากที่สุด

การช่วยเหลือและการให้ข้อมูลจากภาครัฐ /ศปภ. 53.09
การพังแนวคันกั้นน้ำ /รื้อกระสอบทราย 24.22
ของบริจาคไม่ทั่วถึง 22.69


เรื่องที่ประทับใจมากที่สุด

ความมีน้ำใจ /การช่วยเหลือของคนไทย 67.82
การช่วยเหลือประชาชนของทหาร 19.39
การรายงานข่าวและการลงพื้นที่ของสื่อมวลชน 12.79


เรื่องที่ท้อถอย/ท้อแท้มากที่สุด

น้ำท่วมขังเป็นเวลานานเกินไป ไม่รู้ว่าจะลดเมื่อใด 38.61
ต้องหยุดงาน / ตกงาน /ขาดรายได้  31.68
ไม่มีเงินซ่อมแซมบ้าน รถ และทรัพย์สินที่เสียหาย 29.71
 

ใคร? ที่ทำงานช่วยเหลือดีที่สุด

ทหาร 56.17
สื่อมวลชน 26.29
คนไทยทุกคน 17.54
 

ใคร? ที่ทำงาน/ช่วยเหลือบกพร่องที่สุด

ศปภ. 51.03
หน่วยงานภาครัฐ 25.27
ส.ส. /นักการเมืองท้องถิ่น 23.70
 

“น้ำท่วมใหญ่” ครั้งนี้ ควรโทษใคร? มากที่สุด

มนุษย์ /การตัดไม้ทำลายป่า 38.13
เป็นเรื่องของภัยธรรมชาติที่ยากแก่การควบคุม 31.25
หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำและการให้ข้อมูล 30.62


บทเรียนที่ดีที่สุดที่ได้รับจาก “น้ำท่วมใหญ่”

ควรมีการเตรียมพร้อมและการวางแผนรองรับที่ดี 49.58
เมื่อเกิดภาวะวิกฤตคนไทยจะไม่ทอดทิ้งกัน 30.04
คนไทยควรให้ความสำคัญ ดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม 20.38

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322360670&grpid=01&catid=&subcatid=
 
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4415 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 16:19:28 »

สวัสดีครับ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              - เมื่อเย็นวันเสาร์ผมเดินทางจากนครศรีธรรมราช มาสุวรรณภูมิ Boarding 18:10 น. คาดว่าจะมาถึง ได้ในเวลา 19:10 น. ปรากฏว่า Traffic Jam ไม่สามารถหาเวลาลงได้เครื่องบินต้องบินวนอยู่ที่ประจวบคิรีขันธ์ เสียเวลาไปครึ่งชั่วโมง ในการผลาญน้ำมันทิ้ง ครับ ทำให้กลับถึงบ้านก็สามทุ่มแล้ว จึงไม่ได้เข้าเวบ และเที่ยวบินเดียวกันชุมนุมไปด้วย สส.นครศรีธรรมราช ผมก็นั่งอยู่ในกลุ่มพอดี ผมไม่รู้ว่าเขามาทำไมพร้อมกัน มารู้เอาภายหลังว่ามีการอถิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรี ครับ

              - เช้านี้ผมออกจากบ้านไปตีกอล์ฟที่สนาม President Country Club หลังจากไม่ได้ตีที่สนามนี้มาเดือนครึ่ง ช่วงน้ำท้วม และวันนี้ถนนสุวินทวงศ์ รถเล็กสามารถวิ่งได้แล้วครับขาไปยังมีน้ำท้วมขังและทางขรุขระมากช่วงหน้าการไฟฟ้านครหลวงมีนบุรี ขอกลับเข้าเมืองน้ำแห้งแล้ว แต่เนื่องจากน้ำท้วมมานาน และถนนกำลังก่อสร้างสะพานลอย รถติดและทางไม่ดี ครับ

              - สภาพทั่วไปพื้นที่ กทม. พ้นวิกฤติน้ำท้วมแล้ว น้ำแห้งเกือบหมดแล้ว ยกเว้นดอนเมือง และบางบอน ครับ มันบุรี หนองจอก ลาดกระบังไม่มีน้ำแล้วครับ สัญจรไปมากันได้เกือบปกติแล้ว ในความรู้สึกของผมที่ขับรถกลับจากสนามกอล์ฟ president ครับ



ผมอยากให้ทุกท่านโบกมือลาวิกฤติมหาน้ำท้วมครั้งนี้ เป็นที่ระลึกด้วยครับ สำหรับวันนี้

ระดับน้ำที่ปทุมธานี อยู่สูงกว่าตลิ่ง ๑ ซม. เมื่อเวลา 06:00 น.

ขณะนี้เป็นช่วงเย็น แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านทุกจังหวัด ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง หมดแล้วครับ

เราผ่านพ้นวิกฤติมหาน้ำท้วมเด็ดขาดไปเสียทีหนึ่ง

ส่วนบ้านใคร พื้นที่ไหน ที่ยังมีน้ำท้วมขัง ท่านต้องรอให้มันไหลกลับมาลงเจ้าพระยา หรือสูบออกครับ

สำหรับน้ำที่ดอนเมือง เมืองเอก คงไหลย้อนกลับลงคลองรังสิต และลงเจ้าพระยาได้แล้ว วันนี้

ยังเหลือน้ำทุ่งอีกหนึ่งในสี่ที่กำลังรอเปิดประตูระบายน้ำ หรือสูบลงแม่น้ำเจ้าพระยา

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4416 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 16:23:35 »

กทม.เร่งเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยย่านตลิ่งชัน

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2011 เวลา 11:32 น.


              (27 พ.ย.54) เวลา 10.00 น. : นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฟื้นฟูกรุงเทพ รวมกันเราทำได้ เขตตลิ่งชัน และปล่อยขบวนรถฟื้นฟู โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกลุ่มเขตกรุงธนเหนือ คณะผู้บริหารสำนักงานเขตตลิ่งชัน ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ผู้แทนชุมชน ประชาชนในพื้นที่เขตตลิ่งชัน เครือข่ายจิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน ณ หน้ามณฑลมาร์เก็ต สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สายใต้) ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน

               กรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาสังคม ร่วมกับสำนักงานเขตตลิ่งชัน ได้จัดกิจกรรมโครงการฟื้นฟูกรุงเทพ รวมกันเราทำได้ เขตตลิ่งชัน ระหว่างวันที่ 27 พ.ย.-1 ธ.ค.54 เวลา 10.00-18.00 น. บริเวณหน้ามณฑลมาร์เก็ต สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สายใต้) ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในภาวะหลังน้ำลด ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการเข้ารับบริการต่างๆอย่างครบวงจร โดยกิจกรรมในงานประกอบด้วย การเปิดบริการลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย 5,000 บาท บริการเขตเคลื่อนที่ ทำบัตรประจำตัวประชาชน การตรวจสุขภาพและให้คำปรึกษาด้านจิตใจ บริการให้คำปรึกษาด้านการเงิน บริการซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า ซ่อมรถจักรยานยนต์ บริการตัดแต่งทรงผมบุรุษ-สตรี บริการเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตขับรถยนต์ บริการห้องสมุดเคลื่อนที่ การฝึกอาชีพระยะสั้น การรับสมัครงาน แจกถุงขยะ ลูกอีเอ็มบอล อุปกรณ์ทำความสะอาด การจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคในราคาประหยัด รวมถึงกิจกรรมทำความสะอาดวัด โรงเรียนและสิ่งสาธารณประโยชน์ เช่น ถนน บาทวิถี เกาะกลางถนน ป้าย และศาลาที่พักผู้โดยสาร เก็บขยะมูลฝอย การบำบัดน้ำเสียโดยจุลินทรีย์ชีวภาพในพื้นที่ที่มีน้ำท่วม ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและเชื้อโรค

                                                               ------------------------------
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4417 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 16:26:54 »

วันอาทิตย์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2554 เวลา 16.24 น.
 สถานการณ์น้ำวันนี้
 สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2554 (เวลา 08.00 น.)

 
น้ำเหนือ
 - ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ อ.บางไทร 3.17 ม.รทก. (ลดลงจากเมื่อวาน 6 ซม.)
 
น้ำทะเลหนุนสูง
 - วันนี้เวลา 10.00 น. ระดับ +1.35 ม.รทก. และเวลา 18.03 น. ระดับ +1.15 ม.
 - วันพรุ่งนี้เวลา 10.52 น. ระดับ +1.35 ม.รทก. และเวลา 18.51 น. ระดับ +1.10 ม.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
 - ระดับน้ำสูงสุด เช้าวานนี้ เวลา 07.00-08.00 น. ระดับ +2.18 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 62 ซม.)
 - ระดับน้ำสูงสุด เย็นวานนี้ เวลา 17.00-17.30 น. ระดับ +1.89 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 91 ซม. )
 - ระดับน้ำ เช้าวันนี้ เวลา 08.15 น. ระดับ +2.15 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 65 ซม. น้ำกำลังขึ้น )
 - คาดการณ์จากกรมอุทกศาสตร์ วันนี้ เวลา 10.00 น. ระดับ +2.20 ม.รทก.
 
น้ำทุ่ง
 - พื้นที่ดอนเมือง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
 - ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง ( 24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 2 ซม.
 - ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ( 24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
 
ภาพรวมสถานการณ์ใน กทม. (24 ชั่วโมงที่ผ่านมา)
 - คลองเปรมประชากร ระดับน้ำลดลง 2-7 ซม.
 - คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 4-7 ซม.
 - คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 4-7 ซม.
 - คลองบางซื่อ ระดับน้ำลดลง 5-7 ซม.
 - คลองแสนแสบ ระดับน้ำลดลง 1-4 ซม.
 - คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 2-4 ซม.
 - คลองสายหลักพื้นที่ฝั่งธนบุรีตอนบน คลองควาย ระดับน้ำทรงตัว ส่วนคลองอื่น ๆ ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม.
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4418 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 16:32:08 »

บทเรียนจากมหาน้ำท้วมครั้งนี้ ที่ต้องจดจำให้ขึ้นใจ

๑. นายบรรหาร
 
๒. นายชลิต

๓. นางสาวยิ่งลักษณ์

บุคคลทั้งสาม รู้เท่าไม่ถึงการณ์ทั้งสิ้น ประเมินน้ำผิดพลาด จึงสั่งการผิดๆออกไป

ผลคือเกิดมหาน้ำท้วมร้ายแรงในรอบ ๕๐ ปี

ปริมาณน้ำปีนี้ ทุกฝ่ายยอมรับ ไม่ได้มากกว่าปี ๒๕๓๘

อย่าลืมง่ายๆ ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4419 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 18:40:41 »

พี่สิงห์คะ,
หนิงไม่ค่อยสบาย.
เบื่อชีวิตคะ!


ปวดเหงือกคะ เหงือกบวมฉึ่ง
บริเวณเดิมที่เกิดคราวที่แล้ว.

มาปวดตอนวันศุกร์กันเถอะเรา
ถึงเสาร์ไปทำไมเนี่ยพี่.

เคี้ยวไม่ได้ เคี้ยวแล้วปวด ต้องค่อยๆระวังเคี้ยว
ถาม,หนิงจาม่องเท่ง/เท่งทึงมั้ยคะพี่?
      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4420 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 18:46:57 »

ไม่ทราบว่า โครงการนี้เป็นชนวนปัญหา การไม่ผันน้ำไปจังหวัดสุพรรณบุรี จนเป็นเหตุให้น้ำท่วมทั้งประเทศหรือเปล่า ??

กิตติรัตน์"เข้มอย่าโทษน้ำท่วม สวน"แม็กซอน-มินิแบ"ย้ายฐาน มีแผนอยู่เดิมแล้วจะไปกัมพูชา
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 10:32:22 น.
   

"กิตติรัตน์"สวน"แม็กซอน-มินิแบ"มีแผนอยู่แล้ว อย่าอ้างไปเขมรเพราะเจอน้ำท่วม บอร์ดบีโอไอหนุน 16 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3.2 หมื่นล้าน เร่งส่งเสริมผลิตชิ้นส่วนป้อนอุตฯรถยนต์-พลังงาน

กรณีบริษัท แม็กซอน ซิสเต็ม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากเกาหลี และบริษัท มินิแบ จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หนึ่งในนิคมฯที่ถูกน้ำท่วมหนัก เตรียมย้ายฐานการลงทุนบางส่วนจากไทยไปกัมพูชาแล้ว หลังจากไทยเจอปัญหาน้ำท่วมใหญ่รวมทั้งกัมพูชามีความได้เปรียบเรื่องของค่าแรงต่ำ เพียงวันละ 80 บาท

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า "เท่าที่ผมทราบ บริษัทเหล่านี้ประกาศที่จะตั้งโรงงานที่นั่น ตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะเกิดปัญหาน้ำท่วมในประเทศไทยแล้ว แต่ที่ต้องพิจารณาก็คือ ประเทศเพื่อนบ้านไทยประสบปัญหาน้ำท่วม และท่วมมากกว่าไทยอีก"

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) วันเดียวกันว่า ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการต่างๆ จำนวน 16 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 32,580 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจยานยนต์ เช่น บริษัท หลิงหลง ยางรถยนต์ (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตยางเรเดียล (Radial Tires) สำหรับรถยนต์นั่ง รถปิกอัพ กำลังผลิตปีละประมาณ 2,000,000 เส้น เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,803 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.ระยอง บริษัท จาโตโค (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตชุดเกียร์อัตโนมัติแบบปรับเปลี่ยนอัตราทดต่อเนื่อง หรือซีวีที เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติล่าสุดที่ยังไม่มีการผลิตในไทย กำลังผลิตปีละประมาณ 515,000 ชุด เงินลงทุน 9,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี บริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัด ผลิตเครื่องยนต์เบนซินสำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) ให้กับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กำลังผลิต ปีละประมาณ 149,600 เครื่อง เงินลงทุน 2,302 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

นอกจากนี้ โครงการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากความร้อนแสงอาทิตย์มีการขอลงทุนมากเช่นกัน เช่น บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี จำกัด ผลิตไฟฟ้าจากความร้อนแสงอาทิตย์ กำลังผลิต 9 เมกะวัตต์ไฟฟ้า เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,392 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี บริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ลงทุนในกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รวม 4 โครงการ เงินลงทุน 3,600 ล้านบาท เพื่อจำหน่ายแก่ กฟภ. กำลังการผลิตรวม 32 เมกะวัตต์ โครงการที่ 1 และ 2 ตั้งอยู่ที่ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ โครงการที่ 3 และ 4 ตั้งอยู่ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงส่งเสริมโครงการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล (ชานอ้อย) อีก 2 โครงการ ของบริษัท ด่านช้าง ไบโอ-เอ็นเนอร์ยี จำกัด กำลังการผลิตไฟฟ้า 32 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 170 ตัน/ชั่วโมง ใช้ชานอ้อยสำหรับเป็นเชื้อเพลิงจำนวน 560,000 ตัน/ปี เงินลงทุน 1,682 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี และบริษัท เกษตรไทยไบโอเพาเวอร์ จำกัด กำลังการผลิตไฟฟ้า 60 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 160 ตัน/ชั่วโมง ใช้ชานอ้อยสำหรับเป็นเชื้อเพลิงจำนวน 576,000 ตัน/ปี เงินลงทุน 1,240 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ เป็นต้น


 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322277579&grpid=01&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4421 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 19:34:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2554, 18:40:41
พี่สิงห์คะ,
หนิงไม่ค่อยสบาย.
เบื่อชีวิตคะ!


ปวดเหงือกคะ เหงือกบวมฉึ่ง
บริเวณเดิมที่เกิดคราวที่แล้ว.

มาปวดตอนวันศุกร์กันเถอะเรา
ถึงเสาร์ไปทำไมเนี่ยพี่.

เคี้ยวไม่ได้ เคี้ยวแล้วปวด ต้องค่อยๆระวังเคี้ยว
ถาม,หนิงจาม่องเท่ง/เท่งทึงมั้ยคะพี่?

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

           พยายามอมน้ำเกลือทุกวันก่อนนอนจะสามารถแก้โรคเหงือกบวมได้ ครับ

           อีกสาเหตุของการเหงือกบวมคือมีเศษอาหารมาเกาะโคนฟันและร่องเหงือก จึงอักเสบขึ้นมา ทางที่ดีเวลาแปรงฟันควรใช้ไหมขัดฟันก่อนแล้วจึงแปรงฟันอีกครั้ง จะไม่มีเสษอาหารและแบคทีเรียตกค้าง อาการเหงือกบวมก็จะไม่เกิดขึ้นครับ

            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4422 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 19:38:09 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

               ก็คงมีส่วนครับ เพราะว่า ดร.สุริยา  บอกผมว่า เขาโพสต์เรื่องการผลิตโซล่าเซลในเฟสบุคกันนี่ละครับที่ไม่ยอมผันน้ำไปสุพรรณบุรี ถึงผันไปก้เพียงนิดหน่อย ไม่ให้ท้วมสุพรรณบุรี  ต้องถาม ดร.สุริยา ในเรื่องนี้ครับ

               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4423 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 19:45:24 »

                ผมต้องเรียนให้ทุกท่านทราบ ผมเองนั้น ค่อนข้างที่จะเห็นแก่ตัว คือ ไม่ดู TV ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ เพราะสิ่งเหล่านี้มันก็คือกิเลส อย่างหนึ่ง ที่ผมพยายามห่างไกลมัน อยากจะอยู่แบบพอเพียงจริงๆ ไม่ไปไหนนอกจากไปทำงาน มีความรู้สึกตัว มีสติ ไม่ปล่อยใจให้ร่องลอยไปตามความคิดปรุงแต่ง อยู่กับความรู้สึกที่อิริยาบถ ให้มากเข้าไว้ มันไม่คิดมาก ดีครับ จะผิดหรือจะถูก เป็นเรื่องของเวลาที่จะพิสูจน์ และผมก็เป็นสุขดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนทั้งสิ้น

                  ดังนั้น ผมจะไม่รู้ความเป็นไปของสังคม การเมือง เรื่องทั่วๆไปมากนัก ใครมีเรื่องอะไรบอกให้ทราบก็จะขอบพระคุณมาก ครับ

                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4424 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554, 19:58:03 »

              - พรุ่งนี้ ภายหลังจากใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน ผมจะเดินทางไปเยี่ยมแม่ที่สิงห์บุรี นำมังคุดนครศรีธรรมราช ที่สวนของลูกน้อง เอาไปให้แม่ เพราะแม่สามารถรับประทานได้ครับ

                - หลังจากนั้น จะเลยไปเยี่ยมพี่สาวที่วัดพระนอน ตำบลทับยา อินทร์บุรี เพราะไม่ได้ไปตั่งแต่น้ำท้วม สามเดือนแล้วครับ ตอนนี้ระดับน้ำลดลงเป็นปกติแล้ว ตั้งใจไปซื้อปลาช่อนแม่ลา มาทอดกินด้วยครับ

                - หลังจากนั้นไปที่โรงงาน PSTC สรุบุรี มีงานที่จะต้องทำ เนื่องจากทางโรงงานไปรับงาน ของการเคหะ รับจ้างผลิตคาน ผนังสำเร็จรูป ให้ผู้รับเหมาในการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร ที่อยุธยา ที่น้ำไม่ท้วมแล้ว ผมต้อง ออกแบบใหม่เป็น Precast Prestressed Concrete ทั้งหมดเพื่อให้ผลิตง่าย ครับ เพราะเขาจะเอาวันละสิบหลังเป็นอย่างต่ำ

                 - เย็นเดินทางไป ST Group ที่สูงเนิน ไปให้คำแนะนำในการผลิต เพราะไปรับเสาเข็มมามาก จึงต้องวางแผนในการผลิต ใหม่ ตอนนี้บริษัท อุตสาหกรรมต่างๆ ย้ายไปที่โคราช-ขอยแก่น มากครับ คงไปนอนค้างคืนที่ฉัตรทิพย์รีสอร์ท หนึ่งคืน วันอังคารกลับ กทม. เพราะนัดลูกน้องคุณทรงเกียรติ เอาไว้ว่าจะล้างแอร์ที่บ้าน ครับ

                   สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 175 176 [177] 178 179 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><