11 พฤศจิกายน 2567, 04:09:18
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 156 157 [158] 159 160 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3530393 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 13 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3925 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 10:58:30 »


                คลองเปรมประชากร ก็ยังไม่ได้แก้ไข อะไรเลย นี่คือต้นเหตุ หนึ่งที่น้ำท้วมมาถึง วัดหลักสี่ และบ้าน ดร.สุริยา  บางที่ ผู้อำนวยการเขต ท่านอยากให้น้ำท้วม และท่านก็รู้ว่าท้วมไม่มาก ไม่เกิ่น 0.30 -1.00 m. แล้วแต่พื้นที่ลุ่มมากน้อย แต่ท่านจะได้ งบประมาณจำนวนมาก และงบแก้ไขตามมา ครับ

                ส่วนน้ำที่ดอนเมืองฝั่งโรงพยาบาลภูมิพลนั้น มาสี่ทาง คือ เซียร์ คลองเปรมประชากร คลองที่อยู่เหนือสพานใหม่ และทางสายไหมที่รั่ว ถ้าไปแก้ที่ต้นทาง จะแก้ไขได้ แต่ทางเขตอาจอยากได้เงินงบประมาณ น้ำท้วม ครับ

                น้ำทางนี้คือน้ำที่ทำให้ กังวลใจ ซึ่งไม่แก้ไขอะไรเลย ดังนั้นขอให้น้ำที่ปทุมธานี ลดลงเร็ว ๆ ครับ

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3926 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 11:03:02 »


                ปัญหาหลักคื คลองมหาาสวัสดิ์ น้ำล้นคลอง มาสองวัน ใครมีบ้านอยู่แถวนั้น ต้องระวังครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3927 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 11:06:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 10:33:34
เป็นอัน ว่า วันนี้เราสามารถผ่านไปได้แล้ว เราวิกฤติสำหรับประเทศไทยผ่านพ้นไปแล้ว ขอเพียงพวกเราช่วยกันคือ

                    - อย่าให้นักวิชาการ ที่ไม่รู้จริงออก TV คิดไอเดียแปลกๆ มาแก้ไข
                    - หยุดการประโคมข่าวน้ำท้วม ได้แล้ว ไม่ก่อประโยชน์มีแต่ทุกข์
                    - รัฐบาล กทม. ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มทั้งนั้น ตราบใดที่ระดับน้ำยังคงลดลงทุกวัน อย่างต่อเนื่อง
                    - มันจะไม่มีอะไรเลวร้ายมากกว่าที่ผ่านมาอีกแล้ว หมดไปแล้วจริงๆ
                    - ขณะนี้มีนักคิดเกิดขึ้นมากมาย คิดจะผันน้ำผ่านกรุงเทพฯ หยุดเถอะครับ มันไม่ก่อประโยชน์ เพียง
                    - กทม. รักษาคันกั้นน้ำ ไม่ให้ชำรุดเสีย หาย รักษาสมดุลย์นี้เท่านั้น แล้วนั่งรอเวลาให้น้ำไหลลงทะเล
                    - อดทนเพียง หนึ่ง หรือสองอาทิตย์ รักษาสมดุลย์ ช่วยคนที่เดือดร้อน ก็เพียงพอแล้ว
                    - หยุดการอพยพ ไม่ก่อประโยชน์ ยกเว้นน้ำท้วมสูงจริงๆ
                    - พื้นที่ไหนที่มีน้ำท้วมเข้ามา กั้น ซ่อม สูบน้ำออก เหมือนกับฝนตกน้ำท้วม
                    - บอกความจริงให้ประชาชน ทราบความจริง ว่าน้ำกำลังลดลง
                    - ไม่ต้องกังวล น้ำเหนือทั้งสิ้น ตราบใดที่ระดับน้ำ กทม. ปากเกล็ด ปทุมธานี บางไทร ยังลดลง
                    - ที่ไม่สนใจเพราะ มันมีปัจจัย เวลา  ระยะทาง ความเร้วของน้ำมาเกี่ยวข้อง
                    - ท่านจะเห็นพื้นที่กว้างน้ำไหลช้า  พื้นที่แคบน้ำไหลเร็ว
                    - จริงอยู่น้ำเหนือยังมาก แต่มันมาไกลทะยอยมา ตามธรรมชาติของมัน จึงต้องใช้เวลามาก 25 วันเป็นอย่างน้อย จึงจะหมด
                    - ขอเพียงทุกคนคิด อย่างมีสติ ตามความเป็นจริง รักษาสมดุลย์นี้ คือ ปริมาณน้ำไหลผ่าน กทม. มีมากกว่าปริมาณน้ำที่ไหลมาจากปากเกล็ด คือ ทุกจุด บางไทร ปทุมธานี ปากเกล็ด กทม. น้ำลดลงทุกจุดนั่นเอง เท่านี้ครับ

                    - ขอเวลาประชุมครับ
               
                       สวัสดี

                ผมขอฝากให้ช่วยกันครับ สำคัญจริงๆ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3928 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 11:07:03 »

อ่านเรื่องนี้ไว้ จำชื่อบางชื่อที่ปรากฎไว้ เผื่อจะได้เผาพริก เผาเกลือแช่งได้ถูกคนครับ........

ปูแดง-แมลงสาบ-มังกรเตี้ย น้ำท่วม “กรุงเทพฯ”เพราะใคร
29 ตุลาคม 2554 05:24 น.
 
       ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ในที่สุด “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็ยอมรับแล้วว่า ไม่สามารถปกป้อง “กรุงเทพมหานคร” ให้รอดพ้นจากมหาอุทกภัยที่กำลังเคลื่อนทัพประชิดกรุงและรอวันบุกโจมตีได้ โดยประจักษ์พยานที่ชัดเจนคือการที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 27-31 ตุลาคมเป็นวันหยุดราชการ ซึ่งนั่นหมายความว่า ปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้หนักหนาสาหัสเกินกำลังที่จะรับมือได้ จึงจำเป็นที่จะต้องปิดเมืองหลวงเพื่อให้ประชาชนอพยพออกไปจากพื้นที่ก่อนที่สึนามิน้ำจืดจะถาโถมเข้าใส่จนก่อให้เกิดความโกลาหลและยากยิ่งต่อการควบคุม
       
       ที่สำคัญคือ เป็นการยอมรับเพราะจำนนต่อหลักฐาน ภายหลังจากบิดเบือนความจริงและโกหกประชาชนมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 เดือนเต็มๆ ด้วยวลี “เอาอยู่ค่ะ
       
       คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นก็คือ ใครคือต้นสายปลายเหตุที่ทำให้กรุงเทพมหานครต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ครั้งประวัติศาสตร์อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เยี่ยงนี้
       
       และใครคือคนที่จะต้องรับผิดชอบต่อความพินาศฉิบหายของมหานครแห่งนี้
       น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งพรรคเพื่อไทย(พท.)
       ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)

       
       หรือกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มี “นายบรรหาร ศิลปอาชา” ยืนเป็นเงาทะมึนอยู่ด้านหลัง
       
       ใครคือคนที่ทำให้ประชาชนคนไทยต้องตกอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดเช่นนี้
       
       **จำเลยที่ 1 ปูแดงและพรรคเพื่อไทย
       
       12 ตุลาคม 2554เวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออก ณ ห้องประชุม สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เป็นการส่วนพระองค์
       
       เวลา 19.55 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าถวายรายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “พระองค์ทรงรับสั่งเรื่องของน้ำครั้งนี้ก็มากจริงๆ และกระทบความเสียหายเป็นจำนวนมาก และพระองค์ทรงเป็นห่วงพี่น้องประชาชนในช่วงสถานการณ์นี้ พระองค์ท่านก็ได้ให้ความสำคัญในการเร่งระบายในด้านตะวันออก อย่างที่เราได้เร่งระบายน้ำและมีการขุดคลอง ซึ่งต้องเร่งรัดการขุดคลองเพื่อให้เกิดการระบายน้ำให้เต็มที่ ส่วนด้านตะวันตกต้องดูการหาพื้นที่หรือคลองในการระบายน้ำ”
       
       นี่คือเงื่อนปมที่สำคัญยิ่งอันเป็นสาเหตุที่ทำให้กรุงเทพฯ มิอาจหลีกเลี่ยงจากมหาอุทกภัยครั้งนี้
       
       ยิ่งถ้าหากพิจารณาวันและเวลาที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เองก็ยิ่งเห็นถึงต้นเหตุแห่งความพินาศฉิบหายที่เกิดขึ้น
       
       กล่าวคือ นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม และออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานคำแนะนำให้เร่งระบายในด้านตะวันออก แต่นับจากวันนั้นถึงวันนี้ มีความชัดเจนยิ่งว่า รัฐบาลไม่มีปัญญาที่จะเร่งระบายน้ำลงสู่ด้านตะวันออกได้ตามที่พระราชทานคำแนะนำแต่อย่างใด โดยตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์ยอมรับเองว่า การระบายน้ำฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ไม่เป็นผล เฉกเช่นเดียวกับการระบายลงฝั่งตะวันตก กระทั่งมวลน้ำก้อนมหึมากลายเป็น “สงครามน้ำ 9 ทัพ” ที่บุกเข้าถล่มเมืองหลวงของประเทศไทยในทุกทิศทุกทาง
       
       อย่างไรก็ตาม ถ้าหากย้อนกลับไปถึงรากเหง้าของปัญหาก็จะพบว่า มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นผลมาจากธรรมชาติเพียงฝ่ายเดียว หากแต่เป็นผลพวงมาจากทั้งความผิดพลาดในการบริหารจัดการน้ำตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางที่เต็มไปด้วยความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่เคยนำความล้มเหลวนั้นเป็นบทเรียนในการรับมือ รวมถึงการเล่นเกมการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ที่สุดท้ายก็กลายเป็นเกมร้าย เกมรัก ที่มีประชาชนเป็นผู้รับกรรม
       
       ความผิดพลาดในการบริหารจัดการน้ำเริ่มต้นขึ้นจากนโยบายและยุทธศาสตร์ในการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด ด้วยการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนที่ล้มเหลว ดังจะเห็นได้จากคำรับสารภาพของนายกฯ รัฐมนตรีเองเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า “เราดูแลมา 3-4 เดือนแล้ว บางส่วนเข้ามาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และเจอพายุ 4 ลูกติดต่อกัน โดยปกติแล้วเจอพายุลูกหนึ่งก็จะถูกระบายผ่านเขื่อน และมีช่วงพักในการระบายน้ำ แต่วันนี้ไม่ใช่ เจอลูกหนึ่งก็เก็บไว้ๆ และเจออีกหลายลูกก็ยังเก็บต่ออีกกลายเป็นปริมาณที่สะสมมาถึง 4 ลูก
       
       คำถามที่เกิดขึ้นจากคำตอบของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็คือ เธอรับรู้ข้อมูลข้างต้นนี้มานานมากน้อยแค่ไหน และรู้แล้วทำไมถึงยังปล่อยให้ปัญหาหมักหมมจนยากยิ่งที่จะแก้ไข
 
       ถ้านายกฯ ยิ่งลักษณ์เพิ่งรู้ก็ย่อมแสดงว่า ตลอดระยะเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมา เธอบริหารราชการแผ่นดินอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้ และไม่รู้ข้อมูลใดทั้งสิ้น ไม่เช่นนั้นแล้ว คงไม่ตัดสินใจไปตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย”(ศปภ.) ที่สนามบินดอนเมืองจนต้องถูกน้ำจู่โจมอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวเช่นนี้
       
       แต่ถ้านายกฯ ยิ่งลักษณ์รู้ตั้งแต่เมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว ก็แสดงว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอหายใจทิ้งไปวันๆ โดยมิได้แก้ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย หรือถ้าแก้ปัญหาก็เป็นไปอย่างเอ้อระเหยลอยชาย คือดูเบาปัญหาจนมวลน้ำจากทุกทิศทุกทางมารวมตัวกันเพื่อจู่โจมกรุงเทพฯ เช่นนี้ มิหนำซ้ำยังปล่อยให้บรรดามาเฟียผู้มีอิทธิพลทางการเมืองทั้งในสังกัดพรรคตัวเองและพรรคร่วมรัฐบาลขัดขวางการเปิดปิดประตูระบายน้ำต่างๆ เพื่อคะแนนเสียงทางการเมืองอีกต่างหาก

       
       ในช่วงแรกเริ่มที่น้ำท่วมได้ก่อปัญหาให้กับบ้านเมืองในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนในระดับที่ไม่ได้หนักหนาสาหัสเยี่ยงนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ใช้การตลาดโฆษณาหาเสียงไปวันๆ ด้วยการบัญญัติศัพท์อย่าง “บางระกำโมเดล” ขึ้นมาเพื่อสร้างภาพว่า ได้เตรียมการรับมือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งท้ายที่สุดแล้วโมเดลดังกล่าวก็มิได้เคยปรากฏให้เป็นเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด
       
       จากนั้นเมื่อห่าฝนเริ่มหนาเม็ดขึ้นและบุกเข้าถล่มเมืองหน้าด่านไล่ตั้งแต่นครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง เรื่อยมาจนถึงอยุธยา การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลก็ยังคงเป็นไปในรูปแบบเดิม แถมยังโชว์เหนือ “อวดดี” ด้วยการประกาศศักดาที่จะปกป้องนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีปัญญาที่จะปกป้องนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เอาไว้ได้ พร้อมส่งผลทำให้ภาคเศรษฐกิจของประเทศเสียหายนับเป็นแสนๆ ล้าน และมีแรงงานได้รับผลกระทบ 4-6 แสนคน
       
       กล่าวเฉพาะสำหรับกรุงเทพฯ หากยังจำกันได้ ก่อนหน้าที่กองทัพน้ำจะรวมตัวกันจู่โจม ในราวต้นเดือนตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "เดี๋ยวเราคุยกันดีไหมคะ" จากนั้นเธอก็เดินเฉิดฉายเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปในฉับพลันทันที
       
       และในที่สุดเมื่อไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้ มวลน้ำก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ดาหน้าเข้าถล่มคลองประปา ถล่มศูนย์บัญชาการแก้ปัญหาอุทกภัยที่ชื่อ ศปภ. สนามบินดอนเมือง ก่อนที่จะเปิดฉากโจมตีเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อย่างมิอาจป้องกันได้อีกต่อไป
       
       “พลังของน้ำครั้งนี้มากเกินกว่าที่พนังกั้นน้ำ ประตูน้ำ หรือมาตรการต่างๆ ที่จะป้องกันไว้ได้ และมีโอกาสอย่างสูงยิ่งที่น้ำจะทะลักเข้ามาทั้งในเขตพื้นที่ชั้นนอก ชั้นกลางและชั้นในของ กทม.”
       
       ในที่สุดนายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็เลิกโกหกและยอมรับว่า น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ
       
       **จำเลยที่ 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์-มังกรเตี้ย
       
       ตัดฉากกลับมาที่ฟากของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีตัวละครเอก 2 ตัวคือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
       
       ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์และพรรคประชาธิปัตย์ก็เล่นเกมการเมืองผ่านสงครามน้ำครั้งนี้เช่นกัน เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของ กทม.ย่อมรับรู้ล่วงหน้าเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 เดือนว่า น้ำทั้งหลายทั้งปวงที่ท่วมอยู่สุดท้ายแล้วจะไหลมารวมกันที่กรุงเทพฯ เพื่อออกสู่ทะเล ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในช่วงแรกๆ ผู้ว่าฯ กทม.ยังพูดเสียงดังฟังชัดว่า กทม.สามารถรับมือน้ำท่วมได้ แต่สุดท้ายก็จำต้องยอมรับความจริงพร้อมแถลงว่า ไม่สามารถรับมือกับมวลน้ำก้อนมหาศาลได้
       
       ขณะเดียวกัน ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ก็รู้เช่นกันว่า หลังจากพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ในทุกสงคราม ด่านสุดท้ายที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งก็คือ กรุงเทพฯ ดังนั้น การเปิดฉากเล่นเกมเพื่อช่วงชิงคะแนนทางการเมืองจึงเกิดขึ้น
       
       เริ่มจากในช่วงแรกๆ ที่ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ไม่เคยปรากฏกายเข้าร่วมประชุมกับ ศปภ. จากนั้นเมื่อสบช่องก็เล่นเกมดิสเครดิต ศปภ.ด้วยการประกาศว่า "ขอย้ำว่าการรับฟังข่าวสาร ทั้งเรื่องการแจ้งเตือนภัย หรือผลประทบในพื้นที่ขอให้ฟังผมคนเดียว "
       
       หรือกรณีที่ทาง ศปภ.ได้จัดถุงใส่ทรายมาให้ 8 แสนใบมาให้ กทม. โดยคุณชายสุขุมพันธุ์เปิดเกมเข้าใส่ด้วยการให้ข่าวว่า เป็นถุงกระดาษไม่สามารถบรรจุทรายกั้นน้ำได้ เล่นเอา ศปภ.ต้องรีบแก้ข่าวว่า วัสดุที่ใช้ทำกระสอบทรายนั้นไม่ใช่กระดาษ แต่เป็นโพลิเอสเตอร์ซึ่งสามารถกันน้ำได้ และได้นำไปใช้ในหลากหลายพื้นที่
       
       รวมถึงประโยคเด็ดที่ยิงเข้าสู่ศปภ.ว่า “เมื่อศปภ.เป็นศูนย์ดำเนินการป้องกันแก้ไขน้ำท่วมทั้งประเทศ ดังนั้น กทม.ต้องดูแลให้ดีที่สุด
       
       เรียกว่าเกทับบลัฟแหลกกันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนทีเดียว ขณะที่ ศปภ.ก็เล่นงานกลับด้วยการประกาศใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 ออกคำสั่งให้ กทม.เปิดประตูระบายน้ำให้หมดทุกแห่ง เพื่อส่งสัญญาณให้สังคมเห็นว่า กทม.ไม่ยอมเปิดประตูเพื่อระบายน้ำลงทะเล
       
       แต่ก็ดูเหมือนว่า ความพยายามในการใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะมิได้มีความหมายมากไปกว่าการเล่นเกมการเมืองของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ปฏิเสธไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินด้วยความอวดดีและดื้อดึงตามที่หลายฝ่ายทั้งภาคธุรกิจและนักวิชาการให้ความเห็น เพราะสุดท้ายรัฐบาลยิ่งลักษณ์และศปภ.ก็ไม่มีปัญญาที่จะดำเนินการระบายน้ำให้พ้นกรุงเทพฯไปได้
       
       ขณะที่บรรดาเบื้องสูงเบื้องต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ก็เล่นเกมการเมืองเตะตัดขาพรรคเพื่อไทยที่กำลังสำลักพิษน้ำท่วมอย่างไม่ยั้งเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่พยายามจะสร้างภาพเก็บคะแนนในทุกเม็ดเมื่อพรรคเพื่อไทยพลาด
       
       เรียกว่า ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ลดราวาศอก
       
       ทว่า ในท้ายที่สุดทุกคนก็มิอาจเล่นเกมการเมืองหรือทำสงครามน้ำเพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงได้อีกต่อไป
       
       และนั่นนำไปสู่ภาพสุดท้ายที่คนกรุงเทพฯ ได้เห็นก็คือ การพบกันระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์และม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์น้ำที่จะเข้าจู่โจมกรุงเทพมหานคร
       
       แต่นั่นก็ไม่วายที่พรรคประชาธิปัตย์จะเล่นเกมการเมืองส่งท้ายด้วยการจัดฉากส่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้เดินทางมาจ๊ะเอ๋กับคณะของนายกฯ ยิ่งลักษณ์และผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ซึ่งแม้จะมีการแก้ตัวว่า เป็นเหตุบังเอิญ แต่เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า นั่นคือความตั้งใจสร้างภาพของนายอภิสิทธิ์และค่ายประชาธิปัตย์มากกว่า
       ขณะที่อีกหนึ่งปมปริศนาซึ่งสำคัญไม่แพ้กันคือ การที่น้ำไม่สามารถระบายออกได้ทั้งทางตะวันออกและตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตะวันออกที่ถูกกำหนดเอาไว้จนเป็นที่รับรู้กันแล้วว่า “เป็นพื้นที่รับน้ำ”
       
       ทั้งนี้ ผู้ที่ให้คำตอบชัดเจนที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ “นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์” รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร( กทม.) ที่ดับเครื่องชนอย่างตรงไปตรงมาว่า “กทม.ขอเรียกร้องให้กรมชลประทานเร่งเปิดประตูระบายน้ำด้านทิศตะวันออกโดยไวเพื่อระบายน้ำจากคลองระพีพัฒน์ลงสู่คลองรังสิต 6-13 ออกคลองหกวา และเรื่อยไปตามระบบจนระบายน้ำออกสู่แม่น้ำบางปะกง พื้นที่เหล่านี้เป็นทางระบายน้ำ ทำไมถึงต้องไปกั้น ถ้าเป็นสมัยโบราณ คนที่ทำอย่างนี้ถูกประหารเจ็ดชั่วโคตรไปแล้ว นายกฯ เป็นคนดี มีความรู้ แต่ท่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้องช้า ผมไม่อยากว่าข้าราชการกรมชลประทาน แต่เบื้องหลังมันเป็นความเห็นแก่ตัวของการเมือง ลองไปถามสิว่า ทำไมพื้นที่บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา หนองจอก ทั้งที่ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นพื้นที่รับน้ำ ทำไมถึงแห้งสนิทเช่นนี้ สุพรรณบุรีก็เช่นกัน ทำไมไม่เปิดประตูระบายน้ำเข้าพื้นที่เหล่านี้บ้าง
       
       ใครคือเจ้านายของกรมชลประทาน
       ใครคือผู้มีบารมีตัวจริงในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
       มังกรเตี้ยจากสุพรรณบุรีมิใช่หรือ

       
       ทว่า นอกจากมังกรเตี้ยจากเมืองสุพรรณแล้ว การที่รัฐบาลแต่งตั้งให้ ส.ส.สมุทรปราการเป็นประธานคณะทำงานการผันน้ำออกทางตะวันออกก็น่าจะไขปริศนาดังกล่าวเป็นอย่างดี เพราะทุกวันนี้ จังหวัดสมุทรปราการยังคงปลอดภัยจากน้ำท่วม 100% ทั้งๆ ที่เป็นเส้นทางน้ำผ่านและมีเครื่องสูบน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่เป็นจำนวนมาก
       
       นอกจากนี้ การที่น้ำไม่ไหลไปทางตะวันออก ก็ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลเป็นห่วงและไม่ต้องการให้กระทบกับนิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในแถบนั้น เช่น นิคมอุตสาหกรรมบางชัน นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ฯลฯ หลังจากถูกก่นด่าจากผลงานสุดห่วยที่ทำให้นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งก่อนหน้านี้ย่อยยับไปกับสายน้ำมาแล้ว
       
       ด้วยเหตุดังกล่าว น้ำทั้งหมดจึงกองรวมกันอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร และเมื่อประวิงเวลาเอาไว้นานเสียจนมาเผชิญกับภาวะน้ำทะเลที่หนุนสูงสุด ก็ส่งผลทำให้คนกรุงเทพฯ ตกอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด ต้องอพยพลี้ภัยกันอย่างโกลาหล
       
       ...และจากข้อมูลทั้งหมดดังที่ไล่เรียงมาตั้งแต่ต้น คนไทยและคนกรุงเทพฯ คงสามารถสรุปได้แล้วว่า ใครที่ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
       
      สิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า “นักการเมือง” ใช่หรือไม่



จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000137697
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3929 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 11:08:11 »

ณ เวลานี้ ศปภ. ย้ายตัวเองจากดอนเมือง ไปอยู่ที่ กระทรวงพลังงาน ตึก ปตท. แล้วครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3930 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 11:18:08 »

วันเสาร์ ที่ 29 ตุลาคม 2554 เวลา 11.09 น.
สถานการณ์น้ำวันนี้
สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2554 (เวลา 08.30 น.)


น้ำฝน
     - 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนตก ปริมาณฝนสูงสุด เขตดุสิต 47.0 มม.
     - ปริมาณฝนรวมตั้งแต่ 1 ม.ค.- 28 ต.ค. 54 รวม 2,245 มม. มากกว่าค่าเฉลี่ย 42.3%
     - มวลอากาศเย็นเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนลดน้อยลง

น้ำเหนือ (ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา)
     - ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา + พระราม 6 รวม 3,281 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 28 ลบ.ม./วินาที)
     - ปริมาณน้ำผ่าน อ.บางไทร **ตรวจวัดไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำสูงเกินค่าตลิ่ง**
     - ระดับน้ำที่ อ.บางไทร 4.14 ม.รทก. (ลดลงจากเมื่อวาน 2 ซ.ม.)

น้ำทะเลหนุนสูง
     - วันนี้ เวลา 09.09 น. ระดับ +1.31 ม.รทก. และเวลา 18.30 น. ระดับ +1.19 ม.รทก.
     - พรุ่งนี้ เวลา 10.21 น. ระดับ +1.30 ม.รทก. และเวลา 19.10 น. ระดับ +1.16 ม.รทก.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
     - เมื่อวานนี้ สูงสุด ช่วงเช้า เวลา 07.30 น. ระดับ +2.47 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 33 ซม.)
     - วันนี้สูงสุด ช่วงเช้า เวลา 08.15 น. ระดับ +2.48 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 32 ซม. ระดับน้ำทำลายสถิติ สูงสุดในประวัติศาสตร์)
     - คาดการณระดับน้ำสูงสุด วันนี้ โดยกรมอุทกศาสตร์ เวลา 09.09 น. ระดับ + 2.53 ม.รทก.

น้ำทุ่ง
     - คลองหกวาสายล่าง ระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองสอง เขตสายไหม 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 2 ซม.
     - ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำทวีวัฒนา (คลองมหาสวัสดิ์ ศาลายา) 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 9 ซม.

ระดับน้ำในคลองต่าง ๆ (เปรียบเทียบกับ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา)
     - ระดับน้ำคลองเปรมประชากร ช่วงสน.ดอนเมือง (ตรงข้ามทางเข้าฐานทัพอากาศ) ระดับสูงล้นตลิ่ง ระดับน้ำทรงตัว
     - ระดับน้ำคลองเปรมประชากร ช่วงวัดเทวสุนทร ระดับเตือนภัย (ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 14 ซม.)
     - ระดับน้ำคลองบางพรหม ช่วงถนนกาญจนาภิเษก ระดับเตือนภัย (ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5 ซม.)
     - ระดับน้ำคลองบางพรหม ช่วงถนนพุทธมณฑล สาย 3 ระดับวิกฤติ (ระดับน้ำเท่ากับตลิ่ง)
     - ระดับน้ำคลองบางแวก ช่วงพุทธมณฑล สาย 1 เขตบางแค ระดับเตือนภัย (ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 20 ซม.)
     - ระดับน้ำคลองลาดพร้าว ช่วงวัดลาดพร้าว เขตลาดพร้าว ระดับวิกฤติ (ระดับน้ำเท่ากับตลิ่ง)
     - ระดับน้ำคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ช่วงคลองสาม สูงขึ้น 5.2 ซม.
     - ส่วนคลองอื่น ๆ ปกติ

ภาพรวมสถานการณ์น้ำในกทม.
     - แจ้งเตือนอพยพ พื้นที่น้ำท่วมขัง เขตดอนเมือง เขตบางพลัด เขตสายไหม และเขตทวีวัฒนา
     - น้ำท่วมขัง ในพื้นที่เขตดอนเมือง เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่คลองเปรมประชากร ทำให้ระดับน้ำในคลองเปรมประชากรสูงจนล้นตลิ่ง และมีน้ำล้นแนวคันกั้นน้ำจากคลองรังสิตด้านถนนพหลโยธิน
     - น้ำท่วมขัง ในพื้นที่เขตสายไหม เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่คลองสอง (คลองถนน) และคลองพระยาสุเรนทร์ ทำให้ระดับน้ำในคลองสูงจนล้นตลิ่ง
     - น้ำท่วมขัง ในพื้นที่เขตบางพลัด เนื่องจากมีน้ำล้นจาก อ.บางกรวย จ.นนทบุรี และมีปัญหาแนวคันกั้นน้ำของเอกชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชำรุดเสียหาย (ดำเนินการแก้ไขแล้ว)
     - น้ำท่วมขัง ในพื้นที่เขตทวีวัฒนา เนื่องจากแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว (กระสอบทราย) บริเวณวัดปุรณวาส และคันกั้นน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ช่วงคลองขุนศรีบุรีรักษ์ ซึ่งเป็นของเอกชนชำรุดเสียหาย อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข
     - เฝ้าระวัง พื้นที่เขตหลักสี่ บางเขน ลาดพร้าว วังทองหลาง คันนายาว คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง และทวีวัฒนา
     - น้ำท่วมขัง ถ.พหลโยธิน ตั้งแต่อนุสรณ์สถาน-สะพานใหม่ ทั้งสองฝั่ง
     - น้ำท่วมขัง ถ.วิภาวดี ช่วงรังสิต-แยกหลักสี่ ทั้งสองฝั่ง
     - น้ำท่วมขัง ถ.สรงประภา ตลอดสาย ทั้งสองฝั่ง
     - น้ำท่วมขัง ถ.กำแพงเพชร 6 (โลคัลโรด) ตั้งแต่แฟลตทุ่งสองห้อง - เมืองเอก ทั้งสองฝั่ง
     - น้ำท่วมขัง ถ.สายไหม ตั้งแต่วัดหนองใหญ่ ถึง ซ.เพิ่มสิน
     - น้ำท่วมขัง ถ.สุขาภิบาล 5 เขตสายไหม ตลอดสาย
     - น้ำท่วมขัง ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นช่วง ๆ ใกล้คลองประปา
     - น้ำท่วมขัง ถ.สิรินธร ช่วงหน้าหน่วยงานกรมทางหลวง - ปากซอยรุ่งประชา เต็มผิวจราจร
     - น้ำท่วมขัง เชิงสะพานปิ่นเกล้า - หน้าห้างพาต้า เต็มผิวจราจร
     - น้ำท่วมขัง ถ.อรุณอัมรินทร์ จากแยกอรุณอัมรินทร์-แยกศิริราช
     - น้ำท่วมขัง ถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงซอยจรัญสนิทวงศ์ 41 - 45 เต็มผิวจราจร
     - น้ำท่วมขัง ถ.บรมราชชนนี แยกพุทธมณฑลสาย 3 ถึงตลาดพุทธมณฑล สูง 10 ซม.
     - น้ำท่วมขัง ถ.บรมราชชนนี แยกพุทธมณฑลสาย 2 ถึงแยกพุทธมณฑลสาย 3 สูง 50 ซม.
     - น้ำท่วมขัง ถ.ศาลาธรรมสพน์ หมู่บ้านอมรชัย ถึงแยกพุทธมณฑลสาย 3 สูง 50 ซม.
     - น้ำท่วมขัง อุโมงค์บางพลัด ปิดการจราจรแล้ว
     - น้ำท่วมขัง ถ.ทรงวาด ตลอดสาย
     - กรณีแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในซ.จรัญสนิทวงศ์ 80 ของเอกชนที่ชำรุด เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ ดำเนินการซ่อมแก้ไขแนวป้องกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
     - กรณีแนวกำแพงบ้านเรือนประชาชนริมคลองพระโขนงบริเวณสมาคมหิมะทองคำ เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ ดำเนินการซ่อมแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว
     - กรณีแนวป้องกันน้ำท่วมริมคลองมหาสวัสดิ์ชำรุดเสียหาย อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3931 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 11:47:14 »


                 สถิติ สูงสุด 2.48 m.รทก. น้ำทะเลหนุน 1.31 m. ความสูงน้ำ = 2.48 - 1.31 = 1.17 m.

                 มี ๒ กรณี คือ
                         - ระดับน้ำ กทม. เพิมขึ้น จาก 1.13 m. เป็น 1.17 m. ถ้าถือว่าน้ำทะเลหนุนถูกต้อง
                         - ระดับน้ำทะเลหนุน สูงกว่าปกติ คือหนุน 1.37 m. เพราะ น้ำเจ้าพระยากำลังลดลง

                 พรุ่งนี้ น้ำทะเลหนุน 1.30 m. ความสูงน้ำ 1.17 m. ดังนั้น ระดับน้ำสูงสุด = 1.30 + 1.17 = 2.47 m. รทก.
                 กรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ และ กทม. คาดการณ์ไว้ที่ 2.53 m. รทก.

                            ดังนั้น ความสาหัสของประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลดลง นิดหน่อย ครับ แต่ของจริง ดูไม่ออก จะยังมีน้ำล้นมาก อย่างเดิม ครับ ขอดูช่วงเย็นว่า น้ำเจ้าพระยาสูงเท่าไร ขึ้นหรือลง จึงจะบอกได้

                            สวัสดี


               
วิเคราะห์ผลที่เกิดขึ้นกระทบที่เกิดขึ้น

                 ปรากฏว่า ระยะเลาที่น้ำทะเลหนุนสูงกินเวลานานคือ ช่วงเช้า ๓ ชั่วโมง ช่วงเย็น ๔ ชั่วโมง ผลที่ตามมา คือ ปริมาณน้ำไหลลงทะเล น้อยกว่าปริมาณน้ำที่ไหลมา กทม. เมื่อวานนี้ จึงมีผลทำให้ความสูงของระดับน้ำ กทม.สูงขึ้น คือน้ำลดลงน้อย แต่ยังคงลดลงอยู่ดี

                 ในทำนองเดียวกัน ผลจากเวลาน้ำทะเลหนุนสูงนาน ก็เป็นผลทำให้ ปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน ปากเกล็ด มีน้อยกว่า ปริมาณน้ำที่ไหลมาปากเกล็ด เพราะอยู่ใกล้ กทม. จึงได้รับอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนนาน  ทำให้ระดับน้ำที่ปากเกล็ดเพิ่มขึ้น

                 สรุป คือเมื่อวาน       กทม.     ระดับน้ำสูงขึ้น ผลยอดรวม ระดับน้ำยังคงลดลงต่อเนื่อง
                                      ปากเกล็ด      ระดับน้ำสูงขึ้น ผลยอดรวม ระดับน้ำทรงตัว
                                       ปทุมธานี      ระดับน้ำยังลดลงต่อเนื่อง
                                        บางไทร      ระดับน้ำยังลดลงต่อเนื่อง
                                         อยุธยา      ระดับน้ำยังลดลงต่อเนื่อง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3932 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 13:49:57 »

                อ้างถึง ดร.สุริยา บอกว่า คันกั้นน้ำ กทม. อ่อนยวบ โดยเฉพาะฝั่งธนบุรี นั้น

                เป็นเรื่องจริง มีแต่ราคาคุยแยะ ขาดการเตรียมการที่ดี คือ ไม่คิดว่าน้ำจะมาก  จึงไม่ได้เตรียมจัดหากระสอบทรายไว้จำนวนมาก พอน้ำมาจริงๆ จึงไม่มีกระสอบทรายเพียงพอ เสริมได้เพียงความสูง  แต่ความหนากระสอบทรายเพียงสองลูก ซึ่งไม่แข็งแรงแน่นอน เจอน้ำทีเดียวจึงพัง ชำรุด เพราะต้องใช้จำนวนมาก จริงๆ ต้องเสริมตลอดแนวคันกั้นน้ำ

                ตอนนี้ กทม. ก็ยังต้องการกระสอบทรายเพิ่มจำนวนมาก แต่ไม่มีทราย  ไม่มีคน  ไม่มีเวลาพอ ไม่มีใครจัดการ ครับ

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3933 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 14:00:39 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 11:08:11
ณ เวลานี้ ศปภ. ย้ายตัวเองจากดอนเมือง ไปอยู่ที่ กระทรวงพลังงาน ตึก ปตท. แล้วครับ

            มีแต่ปาก เป็นอาวุธ ทำงานบริหารไม่เป็น ดีแต่พูดอย่างเดียว  อาวุธ(ความรู้)ไม่มีเลย ต้องพึ่งคนอื่นหมด จึงจบข่าว แม้แต่บ้านตัวเอง ก็ไม่คิดป้องกัน เพราะมีแต่มือ หนีไปวันหนึ่งๆ ผู้นำเป็นอย่างนี้ เอาแต่หนี  ผมไม่แปลกใจเลยทำไม่สั่งอพยพแต่คน เพราะตัวเองกลัว  จึงคิดว่าคนอื่นต้องเป็นด้วย สู้คุณเหยง  ยังไม่ได้เลยครับ
             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3934 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 14:31:22 »

เตือนประชาชนลาดพร้าว จตุจักร วังทองหลางติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2011 เวลา 13:01 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.

  
                (29 ต.ค. 54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 11.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ภายหลังจากหารือและประเมินสถานการณ์สภาพพื้นที่โดยรวม โดยวานนี้ (28 ต.ค.) เวลาประมาณ 21.00 น. กทม. ได้ประกาศให้เขตทวีวัฒนาทั้งหมด เป็นพื้นที่ประสบภัยที่ต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หลังจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังต้องเฝ้าระวังเขตบางเขน หลักสี่ ลาดพร้าว วังทองหลาง ลาดกระบัง คันนายาว มีนบุรี คลองสามวา หนองจอก


                 ดร. สุริยา  ท่านผู้ว่าจะมาสั่งให้ผม อพยพแล้ว 

                               ผมไม่ไปตามที่สั่งหรอกครับ ท่านผู้ว่า

                               บ้านผมน้ำไม่ท้วม

                               แต่ตัวซวย คือ ศูนย์ฯ รัฐบาล ที่มาอยู่ใกล้บ้านผม

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3935 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 14:45:31 »


                กทม. ปล่อยให้น้ำท้วม เขตลาดพร้าว  สงสัย เป็นนโยบาย ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย อพยพ แน่ๆ

                ไม่ทำอะไรกันเลยหรือ ท่านผู้ว่า กทม.

                (นครศรีธรรมราช ฝนตกทั้งวันวันนี้ และตกแบบนี้มาสองวันติดต่อกันแล้ว)
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3936 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 15:39:24 »


                 น้ำท้วมวัดหลักสี่ ๕๐ ซ.ม. แต่มันอยู่คนละฝั่งกับบ้านผม


                ยังอยู่ที่พหลโยธิน ๕๐
      บันทึกการเข้า
supapon
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90

« ตอบ #3937 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 15:44:41 »

ถูกของพี่ป้อมค่ะ ดอกพุดตาล

น้ำมาแล้วค่ะ พี่น้อง บ้านชินเขต งามวงศ์วาน มาตอนเที่ยงคืนทางท่อระบาย
เต็มหมู่บ้าน อีกคืบก็จะเข้าบ้านแล้วค่ะ ยกของขึ้นรอนานมาแล้ว
เสบียงหาซื้อเพิมยากค่ะพี่ป้อม

บ้านน้องที่คลองหลวง ตรงข้าม รพ.มธ. มาเต็มพื้นที่ตั่้งแต่วันที่ 12
น้ำขึ้นวัีนละ 5 ซม. ณวันนีเอีกคืบก็เข้าบ้าน ตอนสร้างนึกเคืองบริษัท
รับจ้าง(ซีคอน) ที่ให้ถมและสร้่างสูงจากถนน 1.6 เมตร

น้ำไม่ลดค่ะพี่สิงห์
miew 18
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3938 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 16:16:11 »




                      ระดับน้ำที่อยุธยา บางไทร ปทุมธานี ระดับน้ำลดลง

                      ปากเกล็ดขึ้นมา ๕ ซ.ม. ไม่ดีเลย เพราะระดับน้ำทะเลหนุนเมื่อวานนี้ เลยทำให้ระดับน้ำไม่ลง กลับมาทรงตัว ต้องเฝ้าระวัง

                      สิงห์บุรี  อ่างทอง  น้ำไม่ลดลง เนื่องจากมีน้ำจากแม่น้ำลพบุรีมาเต็ม และจากแม่น้ำน้อย ทำให้น้ำท้วมบางระจัน

                      สำหรับที่นนทบุรีนั้น เป็นไปได้สองทาง คือ น้ำทะเลหนุน และน้ำที่กระจายไปนั้น เจอทางตัน แต่คงไม่มาก สาเหตุหลัก คงมาจากน้ำทะเลหนุนแน่ๆ วันนี้ พรุ่งนี้ คงเป็นเช่นนี้อีก ครับ

                     สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3939 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 17:39:28 »





คลองเปรมประชากร ทำให้น้ำท้วมตามแผนที่นี้ครับ


ดร.สุริยา  กทม. ปล่อยให้น้ำล้นคลองเปรมประชากร สองช่วงแล้ว ทำอย่างไรดี ครับ

ปัญหาของ กทม. คือมีแต่ราคาคุย  แต่กระสอบทรายมีไม่เพียงพอ ครับ

ผมอยู่ที่สนามบิน นครศรีธรรมราช กำลังนั่งรอเครื่องบินกลับ กทม. boarding 18:55 น. ครับ

วันนี้ดีใจ ที่นายก รัฐมนตรี รู้แล้วว่า น้ำกำลังลดลง หวังว่าคงไม่ทำอะไรพิเรนๆ ครับ

เพียงรักษาสมดุลย์นี้เอาไว้เท่านั้นครับ  ปลอดภัยแน่นอน
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #3940 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 18:05:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 08:46:57


นางแย้มมันเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือคะพี่ป๋อง
พุตตาลจะเป็นดอกเดี่ยวใหญ่เปลี่ยนสีได้
ป้อมรู้แค่นี้ค่ะ
ขอบคุณมากครับ ใช่แล้วครับน้องป้อม บ้านพี่ป๋องเคยปลูกแต่ลืมไปครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3941 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 18:50:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 14:00:39
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 11:08:11
ณ เวลานี้ ศปภ. ย้ายตัวเองจากดอนเมือง ไปอยู่ที่ กระทรวงพลังงาน ตึก ปตท. แล้วครับ

            มีแต่ปาก เป็นอาวุธ ทำงานบริหารไม่เป็น ดีแต่พูดอย่างเดียว  อาวุธ(ความรู้)ไม่มีเลย ต้องพึ่งคนอื่นหมด จึงจบข่าว แม้แต่บ้านตัวเอง ก็ไม่คิดป้องกัน เพราะมีแต่มือ หนีไปวันหนึ่งๆ ผู้นำเป็นอย่างนี้ เอาแต่หนี  ผมไม่แปลกใจเลยทำไม่สั่งอพยพแต่คน เพราะตัวเองกลัว  จึงคิดว่าคนอื่นต้องเป็นด้วย สู้คุณเหยง  ยังไม่ได้เลยครับ
             สวัสดี


พี่สิงห์

สส. เขาเอาแต่"ปาก"เข้าไปใช้ในสภา แต่เดี่ยวนี้เพิ่มอีกอย่างหนึ่งแล้ว
คือเพิ่ม "ตีน" เอาไว้ถีบ สส.ด้วยกัน อย่าง เก่ง-การุญ ถีบ สมเกียรติ
แถมใช้ทำอย่างอื่นได้ด้วย คือ "เอาตีนราน้ำ" ??  !!!

 เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3942 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 18:56:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 28 ตุลาคม 2554, 19:15:52


ไม่ทราบจริงๆ ครับว่าดอกอะไร วานเฉลย

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 28 ตุลาคม 2554, 23:13:47
อ้างถึง
ข้อความของ supapon เมื่อ 28 ตุลาคม 2554, 19:30:57
เหมือนดอกนางแย้มค่ะ มีกลิ่นหอมกลางคืนค่ะ พี่ป๋อง
พี่สิงห์ บ้านหนูอยู่ชินเขต งามวงศ์วาน
รอน้ำ ไม่มาสักที กินเสบียงที่ซิ้อไว้เกือบหมดแล้วค่ะ
miew.18

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 28 ตุลาคม 2554, 23:23:26
ขอตอบแทนค่ะพี่ป๋อง
ดอกพุตตาล(ไม่ทราบสะกดถูกหรือเปล่า)
ที่บ้านเคยปลูก แต่เพลี้ยชอบกิน
เราไม่ชอบยาฆ่าแมลง เลยตัดทิ้งค่ะ
เสียดายเหมือนกัน
แล้วตกลงเป็น นางแย้ม หรือ พุดตาล ก็ไม่ทราบครับน้องเหมียว
เจ้าของกระทู้ดูกำกวมอยู่


สรุปชื่อได้แล้วหรือยังว่าเป็นดอกอะไรกันแน่ ??
ถ้ายัง....ผมตั้งชื่อให้ใหม่เลยน่ะ..ชื่อ นางตาล พุดแย้ม ก็แล้วกัน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3943 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 19:21:21 »

วันเสาร์ ที่ 29 ตุลาคม 2554 เวลา 19.16 น.
 ข้อมูลล่าสุด

 
[ 19.15น.กทม.กลุ่มฝนเบาบางเขตจตุจักร |ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 1.73ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.77 ม.ปากคลองตลาด +2.37 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.43 ม.บางเขนใหม่+2.77 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.23 ม.ระดับน้ำทรงตัวlระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดระดับน้ำสูงสุดวันนี้ เวลา 08.15 น. +2.48 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.32 ม 29 ต.ค. 2554 ] ...

[ 19.00น.กทม.กลุ่มฝนอ่อนสลับปานกลางเขตดอนเมือง สายไหม |ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 1.86ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.74 ม.ปากคลองตลาด +2.39 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.41 ม.บางเขนใหม่+2.77 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.23 ม.ระดับน้ำทรงตัวlระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดระดับน้ำสูงสุดวันนี้ เวลา 08.15 น. +2.48 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.32 ม 29 ต.ค. 2554 ] ...

[ 18.45น.กทม.กลุ่มฝนอ่อนสลับปานกลางที่อ.ลำลูกกาเคลื่อนเข้าเขตดอนเมือง สายไหม คลองสามวา |ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 1.80ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.70 ม.ปากคลองตลาด +2.39 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.41 ม.บางเขนใหม่+2.77 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.23 ม.ระดับน้ำเพิ่มขึ้นlระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดระดับน้ำสูงสุดวันนี้ เวลา 08.15 น. +2.48 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.32 ม 29 ต.ค. 2554 ] ...

[ 18.30น.กทม.กลุ่มฝนอ่อนสลับปานกลางที่อ.ลำลูกกาเคลื่อนเข้าเขตดอนเมืองสายไหม คลองสามวา |ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 1.82ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.68 ม.ปากคลองตลาด +2.38 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.42 ม.บางเขนใหม่+2.75 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.25 ม.ระดับน้ำเพิ่มขึ้นlระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดระดับน้ำสูงสุดวันนี้ เวลา 08.15 น. +2.48 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.32 ม 29 ต.ค. 2554 ] ...
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #3944 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 21:42:04 »

http://bit.ly/t9nGQC

ลองตามไปดู URL ข้างบน ปตร.จุฬาฯ อยู่เหนือดอนเมือง

พอรูปขึ้นมา click ขวา แล้วเลือก save image as
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3945 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 21:42:21 »

เพียงแค่ลาออกคนเดียว เพื่อรับผิดชอบ...เพียงพอแล้วหรือ ??
แล้ว "เตี้ย" จะประกาศเลิกเล่นการเมืองชั่วชีวิตหรือไม่ ??~~!!


“อธิบดีกรมชลประทาน” เตรียมไขก๊อก
วันเสาร์ ที่ 29 ตุลาคม 2554 เวลา 16:56 น
 
 
แก้ไขน้ำท่วมล้มเหลว แถมยังมีการเมืองมากดดัน “ชลิต ดำรงศักดิ์” ขอลาออกเพื่อรับชอบผิดคนเดียว แต่นายกปูเบรกขอให้ช่วยน้ำถล่มกรุงก่อน

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการหารือ ถึงแนวทางการลดปริมาณน้ำเหนือจำนวน 1.5 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร ที่ปริมาณน้ำเหนือทัพหน้ากว่า 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้เข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในแล้ว และทัพหลวงมีปริมาณอีก 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตรที่มาจากพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท จะมาสมทบสิ้นเดือนนี้  ส่วนทัพหลังได้เดินทางไหลผ่านจาก จ.พิษณุโลกมาแล้วปริมาณ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จะส่งผลทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯนานนับเดือน โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฝั่งตะวันออกและฝั่งธนบุรีจะท่วมสูงเกิน 2 เมตรและกรุงเทพชั้นในสูง 1 เมตร ส่วนกรุงเทพพื้นที่พระนครจะสูง 50-100 เซนติเมตร

ทั้งนี้แผนการระบายน้ำออกทะเลฝั่งตะวันออก โดยการสูบออกด้านแม่น้ำบางปะกง ลงคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ซึ่งมีเครื่องสูบน้ำจำนวนมากกลับไม่มีปริมาณน้ำไปให้เพียงพอต่อการสูบ ทำให้เครื่องสูบน้ำบางเครื่องไม่ได้ทำงานเลย ขณะนี้ได้มีการเลาะขอบถนนวงแหวนด้านตะวันออกทั้งหมด เพื่อให้น้ำข้ามไปออกที่ และ จ.นครนายก กับ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกับได้ตัดคันประตูน้ำคลอง 13 เพื่อตัดน้ำให้ออกไปจากทุ่งรังสิต ไประบายออก อ.บางบ่อ  อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ อีกทาง ส่วนการเสนอให้ตัดถนน 5 สายนั้น ในที่ประชุมเห็นว่าไม่มีประโยชน์และไม่ทันการณ์ เพราะการตัดถนนจะทำให้ไหลย้อนกลับน้ำเข้าพื้นที่กรุงเทพได้มากขึ้น เพราะปริมาณน้ำรอบกรุงเทพ ยังมีระดับที่สูงกว่า แม้ว่าจะมีน้ำทะเลหนุนสูงก็ตาม น้ำที่ผ่านกรุงเทพ ยังมีระดับต่ำกว่าน้ำที่ล้อมรอบกรุงเทพ และกำลังจะทยอยเข้ามาถล่มเมืองหลวงอีก 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

รายงานข่าวระบุอีกว่าในส่วนของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะสมาชิกบ้าน 111 และ ศปภ.ต่างโยนความผิดให้กรมชลประทาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นต้นสังกัด ควรจะออกมารับผิดชอบเหตุการณ์ความผิดพลาดในการแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยไม่ยอมผันน้ำไปทางฝั่งตะวันตกตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมหนัก จ.พระนครศรีอยุธยา โดยกลัวว่าจะท่วม จ.สุพรรณบุรี จนสร้างความเดือดร้อนให้คนทั่วประเทศ แต่ตัวแทนกรมชลฯได้ชี้แจงว่าเป็นเพราะปริมาณน้ำฝนที่ตกมากผิดปกติ ทำให้ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้และได้มีการเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้ พ.ร.ก ฉุกเฉินเพื่อให้ทุกหน่วยงานเข้าแก้ไขอย่างตรงจุด ก่อนที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะจะแตก เพราะที่ผ่านมาสำนักงานชลประทานในแต่ละพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ได้ถูกต่อต้านจากชาวบ้านในพื้นที่ไม่ให้เข้าทำการเปิดประตูระบายน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ของแกนนำพรรคเพื่อไทยในโซนสีแดง มีการออกมาระดมชาวบ้านมาต่อต้านและถึงกับไล่ยิงเจ้าหน้าที่

ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนเป็นเสื้อสีแดงถึงเข้าพื้นที่ได้ ได้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ทั้งพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ย่านประตูระบายน้ำคลองรังสิต ฉะเชิงเทรา นครนายก ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ส.ส.ในพื้นที่ทราบดีแต่ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ และไม่ช่วยแก้ไขสถานการณ์ซึ่งมีเรื่องการเมืองเข้ามา ทำให้การบริหารงานแก้ไขและป้องกันไม่ได้มาโดยตลอด โดยเฉพาะในส่วนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก  ส.ส.ในพื้นที่ยังมีการระดมชาวบ้านต่อต้านการเปิดประตูระบายน้ำตลอด ตอนนี้ได้ยอมให้เข้าเปิดก็ไม่มีประโยชน์ เพราะน้ำสูงทั้ง 2 ฝั่งคลอง แต่ในที่ประชุมยังต้องการให้มีผู้รับผิดชอบ ต่อความผิดพลาดกับมหาภัยพิบัติครั้งนี้ โดยได้มีการกดดันผ่าน น.ส.ยิ่งลักษณ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้กล่าวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ขอลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบเพียงคนเดียว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยับยั้งไว้ก่อน และขอให้ช่วยกันแก้ไขสถานการณ์น้ำจนกว่าน้ำจะลด.


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=172823
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #3946 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 22:20:00 »

http://bit.ly/vjDyxA

ลองตาม URL ข้างบนไปอ่านดู จะรู้ว่า ถ้า หลัง 6 พย. ไปแล้ว ปตร.จุฬาฯ ไม่แตก อาจารย์มานพ ประกาศชัยชนะได้
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #3947 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2554, 22:31:31 »

มีข้อเขียนที่น่าสนใจ ลองอ่าน และวิเคราะห์กันดูนะครับ

ขอให้ผมเป็นฝ่ายคิดไปเองเถิดนะครับ

 
ผมตั้งข้อสังเกตว่าน้ำท่วมคราวนี้มีส่วนคล้ายเหตุการณเผาเมืองปีที่แล้ว
เริ่มจากการบริหารน้ำในเขื่อน เหมือน รื้อ รั้วบ้านออกไป เวลาเกิด ภัยจึงเดือดร้อน

การบริหารจัดการที่พยายามทำเรื่องให้ยุ่งยากล่าช้าขึ้น
ศปภตั้งมา 1 เดือนแล้วนอกจากทำงานเหมือนตลกเชิญยิ้มแล้วยังกีดกันไม่ให้คนอื่นมาทำงานด้วยเช่นthaiflood  ทนไม่ไหวถึงกับถอนตัว

·      การทำงานเริ่ม จาก ทองไม่รู้ร้อน ไม่ อีนังขังขอบกับ ภัยของประชาชน

·      จากนั้น โกหก เพื่อ ป้องกันความตื่นตระหนก เช่น กรณี นวนคร

·      ต่อมา แจ้งข่าวว่า จะเกิดอะไรขึ้น (หลังจากที่ประชาชนทราบข่าวเรียบร้อยแล้ว จากสื่อ อื่นๆ)


ทิศทางน้ำเดินวนไปเวียนมา กว่าจะออกทะเลอีกเป็นเดือน
กีดกันกั๊กของบริจาคเพือเอาหน้า
ครอบงำสื่อสารพัดยังดีว่าไม่สามารถครอบโซเชี่ยลมีเดี่ยได้
ตำรวจหายสาบสูญปล่อยคนปล้นจี้กันตามสบายเช่นแถวปทุมบางบัวทองรถจอดหนีน้ำกันตามสบายทุกสะพานทางด่วน ปีก่อนห้างที่ไฟไหม้จนวอดแค่ข้ามถนนไปก็เจอกรมตำรวจแล้ว


ไม่มีการบอกว่ารัฐบาลจะทำอะไรมีแต่บอกว่าจะทำให้ดีที่สุด
ความขัดแย้งเกิดขึ้นโดยทั่วไปตั้งแระหว่างฝ่ายการเมืองกับข้าราชการแบบว่าสั่งให้เขาไปขุดดินมือเปล่าสั่งให้ไปเปิดประตูน้ำแต่ปล่อยชาวบ้านแถวนั้นมารุมอัดเจ้าหน้าที่
แม้รมตก็ทะเลาะกันเองแย่งกันแสดงความคิดเห็นแย่งกันแจกของบริจาค
แม้ต่างชาติจะยื่นมือมาช่วยก็ทำเป็นเฉยๆไม่ตื่นเต้น
คราวก่อนใครจะออกไปดับไฟไหม้จะโดนลอบยิง   อาคารหลายแห่งเลยโดนไฟไหม้จนวอด


 ทีแรก ผมคิดว่า ผู้นำ และ ทีมงานโง่  แต่ เมื่อ วาน ผมได้ ข้อ สังเกต และ ข้อ สรุปว่า ไม่ใช้เช่นนั้น ผมคิด(ไปเองว่า)

·      มีการวางแผนทำลายประเทศอย่างบูรณาการ

·      ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก

·      คนขอเข้ามาช่วย ก็เพิกเฉย ไม่สนใจ

·      กีดกันความช่วยเหลือ เท่าที่ทำได้ที่ดังคือ Thai Flood ถอนตัว  อเมริกา ถอนตัว

·      ไม่มีการร่วมแรงแข็งขันว่าจากนี้ จะทำอย่างไร แบบรูปธรรม จัดต้องได้ มีแต่ สั่งให้คนอื่นไปทำ
       แบบ สั่งให้ คนไปขุดดินมือเปล่า เช่น ให้ กรมชลไปบริหารน้ำโดยลำพัง

·      ผู้นำ และ ทีมงานสามารถทนได้ กับความเดือดร้อนตั้งแต่ อยุธยา อ่างทอง จะ 2เดือนแล้วครับ
 ส่วนบางบัวทอง ปทุม ปล่อยให้อยู่กันตามยะถากรรม โจร  ขโมย ปล้น กันตามสบาย

·      จังหวัดที่ติดกรุงเทพ ล้วนเดือดร้อน คนกรุง ไป แย่งกิน แย่งใช้ ที่พักเต็มหมด

 คนที่โดนน้ำท่วมเดือดร้อนอย่างที่เห็นกันใน ทีวี

แต่ คนที่น้ำยังมาไม่ถึง กำลัง ประสาทกิน อีกเป็น ล้านครอบครัว ตอนนี้ทุกอย่างหยุดชะงักหมด

ดังนั้น น้ำ จะ ค่อยๆ ระ บาย อย่างช้าๆ ผม คาดว่า เรา จะ อยู่อย่างงี้ไปอีก 3-4 สัปดาห์  จนอ่วม  จนอ่อนล้า  คนอ่อนแอ สิ้นหวัง ปกครองง่ายนะครับ

พอน้ำลด จะมี เทพ มาจากต่างแดน บอกว่าจะ กลับมาเนรมิต ให้ทุกอย่างกลับมาดังเดิม  วันที่กลับมา จะมี การปะทะกันอีก แบบ เหลืองแดง เพราะคราวนี้ คนเดือดร้อน คับแค้น ร่วม 10 ล้านครัวเรือน ส่วนทางโน้น มี ลิ่วล้อ แดงไว้ คอย รับมืออยู่แล้ว


ผมใช้เวลานานมาก ใน การ ตัดสินใจว่า จะ แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้หรือไม่
แต่ ตกลง ทำไป เพราะ เชื่อ ว่า ผลดี มากกว่าผลเสีย
การรู้ก่อนว่าจะมี พายุใหญ่ ย่อมดีกว่า ไม่รู้ไม่คาดคิด

 

ขอให้ ดูแล ตัวเองและครอบครัวให้ดีนะครับ ไว้น้ำก็ลด   ตามข่าวก็ พอสม พอควรอย่าเกาะติด เดี๋ยวจะบ้าเสียก่อน
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #3948 เมื่อ: 30 ตุลาคม 2554, 07:31:39 »

 
อ้างถึง   
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 18:50:11
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 14:00:39
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 11:08:11
ณ เวลานี้ ศปภ. ย้ายตัวเองจากดอนเมือง ไปอยู่ที่ กระทรวงพลังงาน ตึก ปตท. แล้วครับ

            มีแต่ปาก เป็นอาวุธ ทำงานบริหารไม่เป็น ดีแต่พูดอย่างเดียว  อาวุธ(ความรู้)ไม่มีเลย ต้องพึ่งคนอื่นหมด จึงจบข่าว แม้แต่บ้านตัวเอง ก็ไม่คิดป้องกัน เพราะมีแต่มือ หนีไปวันหนึ่งๆ ผู้นำเป็นอย่างนี้ เอาแต่หนี  ผมไม่แปลกใจเลยทำไม่สั่งอพยพแต่คน เพราะตัวเองกลัว  จึงคิดว่าคนอื่นต้องเป็นด้วย สู้คุณเหยง  ยังไม่ได้เลยครับ
             สวัสดี


พี่สิงห์

สส. เขาเอาแต่"ปาก"เข้าไปใช้ในสภา แต่เดี่ยวนี้เพิ่มอีกอย่างหนึ่งแล้ว
คือเพิ่ม "ตีน" เอาไว้ถีบ สส.ด้วยกัน อย่าง เก่ง-การุญ ถีบ สมเกียรติ
แถมใช้ทำอย่างอื่นได้ด้วย คือ "เอาตีนราน้ำ" ??  !!!

 เหอๆๆ

อันธพาลคนนี้ ไม่ใช่แค่ตีนราน้ำ  แต่เอาพวกมาระรานคนอื่นอีก
มาพังคันกั้นน้ำ คลองประปา ฝั่งเมืองทองธานี-ปากเกร็ด 
เพราะฝั่งพรรคพวกตัวเองน้ำท่วม ฝั่งคนอื่น จะแห้งอยู่ได้ยังไง
ต้องท่วมด้วยกัน (ทำไปแล้วครั้งหนึ่ง  และฮึ่มๆว่า จะทำอีกครั้งหนึ่ง)

ประเทศเรามีอันธพาลอย่างนี้เป็น สส.อยู่ในสภา  คุณภาพ สภาไทยเป็นอย่าง
ก็ไปคิดดูเอาเอง เหนื่อย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3949 เมื่อ: 30 ตุลาคม 2554, 08:00:43 »

อ้างถึง
ข้อความของ สมชาย17 เมื่อ 30 ตุลาคม 2554, 07:31:39
 
อ้างถึง   
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 18:50:11
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 14:00:39
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 29 ตุลาคม 2554, 11:08:11
ณ เวลานี้ ศปภ. ย้ายตัวเองจากดอนเมือง ไปอยู่ที่ กระทรวงพลังงาน ตึก ปตท. แล้วครับ

             มีแต่ปาก เป็นอาวุธ ทำงานบริหารไม่เป็น ดีแต่พูดอย่างเดียว  อาวุธ(ความรู้)ไม่มีเลย ต้องพึ่งคนอื่นหมด จึงจบข่าว แม้แต่บ้านตัวเอง ก็ไม่คิดป้องกัน เพราะมีแต่มือ หนีไปวันหนึ่งๆ ผู้นำเป็นอย่างนี้ เอาแต่หนี  ผมไม่แปลกใจเลยทำไม่สั่งอพยพแต่คน เพราะตัวเองกลัว  จึงคิดว่าคนอื่นต้องเป็นด้วย สู้คุณเหยง  ยังไม่ได้เลยครับ
             สวัสดี


พี่สิงห์

สส. เขาเอาแต่"ปาก"เข้าไปใช้ในสภา แต่เดี่ยวนี้เพิ่มอีกอย่างหนึ่งแล้ว
คือเพิ่ม "ตีน" เอาไว้ถีบ สส.ด้วยกัน อย่าง เก่ง-การุญ ถีบ สมเกียรติ
แถมใช้ทำอย่างอื่นได้ด้วย คือ "เอาตีนราน้ำ" ??  !!!

 เหอๆๆ

อันธพาลคนนี้ ไม่ใช่แค่ตีนราน้ำ  แต่เอาพวกมาระรานคนอื่นอีก
มาพังคันกั้นน้ำ คลองประปา ฝั่งเมืองทองธานี-ปากเกร็ด  
เพราะฝั่งพรรคพวกตัวเองน้ำท่วม ฝั่งคนอื่น จะแห้งอยู่ได้ยังไง
ต้องท่วมด้วยกัน (ทำไปแล้วครั้งหนึ่ง  และฮึ่มๆว่า จะทำอีกครั้งหนึ่ง)

ประเทศเรามีอันธพาลอย่างนี้เป็น สส.อยู่ในสภา  คุณภาพ สภาไทยเป็นอย่าง
ก็ไปคิดดูเอาเอง เหนื่อย

สวัสดีครับ คุณสมชาย

                   ผททราบข่าวนี้ แล้วทำให้ปลงสังเวช ยิ่งนัก คนเรานั้น
 
                   ความหลงผิด(โมหะ เป็นทาษของความคิด) เป็นเอก
                   ความอิจฉา เป็นโท                  
                   ขอให้ได้กระทำ(แสดงออกซึ่งอำนาจ) เป็นตรี                  
                   ความสะใจ(ที่ได้กระทำ เห็นคนอื่นได้รับทุกข์) เป็นจัตวา
                  
                   ยิ่งเป็น สส. ด้วยแล้ว เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรฉาร เราต้องให้ประชาชน รับทราบ นี่ละ สส.ที่เขาเลือก

                   สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 156 157 [158] 159 160 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><