23 พฤศจิกายน 2567, 08:53:28
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 150 151 [152] 153 154 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3554444 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 36 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3775 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2554, 20:44:57 »

ตรวจสอบเวลา 19:30 น.
             ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานพระราม 8 = 3945ลูกบาศก์เมตร/วินาที
             ปริมาณน้ำไหลผ่านคลองบางกอกน้อย 14.10ลูกบาศก์เมตร/วินาที

ตรวสอบเวลา 20:00 น.
             ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานพระราม 8 = 4063 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
             ปริมาณน้ำไหลผ่านคลองบางกอกน้อย 59.80 ลูกบาศก์เมตร/วินาที


                    ข้อมูลข้างบน นี้มันบอกอะไรเราบ้าง ? แล้วดีหรือไม่ดี

                    ที่มันบอกเราคือปริมาณการไหลของน้ำจากเวลา 19:30 น. ถึง 20:00 น. นั้นนำไหลผ่าน กทม. สู่อ่าวไทยเร็วขึ้น  กระแสน้ำแรง ได้ปริมาณที่มากขึ้น เป็นผลดี เพราะเป็นเวลาน้ำลง ครับ จะทำให้ระดับน้ำที่บางไทร ปทุมธานีลดลง หรือสามารถทำลายกำลังเสริมของเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมไม่สะสมให้มีระดับเพิ่มขึ้นได้เร็ว เพราะมันไหลลงสู่อ่าวไทยไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีกครับ

                    อีกประการหนึ่ง น้ำสามารถระบายน้ำออกไปทางคลองบางกอกน้อยได้เพิ่มขึ้น ไปแล้วจะทำความเสียหายให้ทาง นครปฐม ลงทะเลทางแม่น้ำท่าจีน แต่มันจะทำให้ กทม. น้ำไม่ท้วมครับ

                    นอนหลับฝันดี วันนี้เราผ่านไปด้วยดี  พรุ่งนี้เราก็สามารถผ่านไปด้วยดี ครับ

                    ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3776 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2554, 20:48:51 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

                       พี่สิงห์ เป็นห่วงเธอมาก เพราะรู้ว่าน้ำมันระบายไปทางนั้นมาก เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ เธอต้องระวัง น้ำยังขึ้นอีกวันละ ๘ ซ.ม. สามวันที่ผ่านมา เธอต้องมั่นใจคันกั้นน้ำที่ทำขึ้นว่าสามารถรับแรงดันน้ำได้

                       พี่สิงห์ก็อยากทราบระดับน้ำแต่ละวันบ้านเธอเหมือนกัน ครับ

                       ขอให้เธอและครอบครัว ผ่านวิกฤติน้ำท้วมครั้งนี้ไปด้วยดี โดยน้ำอย่าท้วมบ้านเธอเลย

                       สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3777 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2554, 20:58:23 »

                       คุณเหยง "เวรกรรม" นั้นมันมีจริง เพียงแต่ว่าจะมาช้า หรือมาเร็วเท่านั้น คนกระทำผิด นั้นรู้ตัวดี  ถึงคนอื่นจะไม่รู้ โดยเฉพาะนักการเมืองที่กินบ้านกินเมือง แบบนี้ เราอย่าให้ความสำคัญกับเขาเลย คนเหมือนกัน  ผมถึงไม่ให้เกียรติและรังเกียรติด้วยซ้ำ เพราะ นักการเมืองเหล่านี้หากินบนความทุกข์ยากของประชาชนผู้เดือดร้อนทั้งสิ้น  หากินกับเงินงบประมาณรัฐ ทำดีได้หน้าก็เงินของประชาชนอีกนั่นแหละ

                       อยู่ห่างๆ ไวดีแล้ว
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3778 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2554, 21:07:03 »

รู้ประวัติพุทธสาวก อรหันต์ เอตทัคคะ

ลำดับที่ ๒๙

พระวังคีสเถระ

เอตทัคคะในทางผู้มีปฏิภาณ
   

           พระวังคีสะ เกิดในตระกูลพราหมณ์ นครสาวัตถี ได้รับการศึกษาจบไตรเพท จนมีความชำนาญเป็นที่พอใจของอาจารย์ จึงให้เรียนมนต์พิเศษอีกอย่างหนึ่งชื่อว่า “ฉวสีสมนต์” ซึ่งเป็นมนต์เครื่องพิสูจน์ศีรษะซากศพมนุษย์แม้จะตายไปแล้วถึง ๓๐ ปี โดยใช้นิ้วเคาะหรือดีดที่หัวของศพ หรือกะโหลก ก็จะรู้ว่าเจ้าของศีรษะหรือกะโหลกนั้น ตายแล้วไปเกิดเป็นอะไร เกิดที่ไหน ท่านมีความเชี่ยวชาญในมนต์นี้มาก จึงได้อาศัยมนต์นี้เป็นเครื่องเลี้ยงชีวิตและเริ่มมีชื่อเสียงเลื่องลือมากขึ้น

           • รับจ้างดีดกะโหลก

               ต่อมาเขาได้ตั้งเป็นคณะมีผู้ร่วมงานทำกันเป็นระบบ มีการโฆษณาชักชวนให้คนมาใช้บริการ และตระเวนทั่วไปตามเมืองต่างๆ ด้วยวิธีการอย่างนี้ ประชาชนได้นำหัวกะโหลกของญาติที่ตายไปแล้วมาให้พิสูจน์กันมากมาย ชาวคณะของวังคีสะได้รับสิ่งตอบแทนมากขึ้น ซึ่งมีทั้งสิ่งของ อาหาร และเงินจำนวนมาก ทำให้มีฐานะร่ำรวยขึ้น พวกเขาได้ท่องเที่ยวไปตามเมืองต่าง ๆ แล้วย้อนกลับมายังเมืองสาวัตถี พักอยู่ในที่ไม่ไกลจากประตูพระเชตะวันมหาวิหารมากนัก ได้เห็นประชาชนถือดอกไม้และเครื่องสักการะไปยังวัดพระเชตวัน จึงถามว่า “ท่านทั้งหลาย จะไปไหนกัน ?” “พวกเรา จะไปฟังเทศน์ที่วัดพระเชตวัน” พุทธบริษัทตอบ “ท่านทั้งหลาย มาหาวังคีสะดีกว่า เพราะท่านสามารถรู้ว่าคนที่ตายไปแล้ว ไปเกิดเป็นอะไร ไปเกิดที่ไหน” พวกคณะของวังคีสะชักชวน “ในโลกนี้ ไม่มีผู้ใดจะรู้เท่าเทียมพระพุทธเจ้าของพวกเราได้หรอก” พุทธบริษัทแย้งขึ้นการโต้ตอบกลายเป็นการโต้เถียงเริ่มรุนแรงขึ้น ไม่เป็นที่ยุติ กลุ่มของวังคีสะ จึงตามไปที่พระเชตะวันมหาวิหารเพื่อพิสูจน์ความสามารถว่าใครจะเหนือกว่ากันพระพุทธองค์ทรงทราบวัตถุประสงค์ของกลุ่มวังคีสะได้ดี จึงรับสั่งให้นำกะโหลกคนตายมา ๕ กะโหลก คือ:-
          ๑.   กะโหลกคนที่ตายไปเกิดในนรก
          ๒.   กะโหลกคนที่ตายไปเกิดในสวรรค์
          ๓.   กะโหลกคนที่ตายไปเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน
          ๔.   กะโหลกคนที่ตายไปเกิดเป็นมนุษย์
          ๕.   กะโหลกของพระอรหันต์

              เมื่อได้กะโหลกศีรษะมาครบแล้ว ได้มอบให้วังคีสะตรวจสอบดูว่าเจ้าของกะโหลกเหล่านั้นไปเกิดที่ไหน วังคีสะ เคาะกะโหลกเหล่านั้นมาตามลำดับ และทราบสถานที่ไปเกิดถูกต้องทั้ง ๔ กะโหลก แต่พอมาถึงกะโหลกสุดท้าย ซึ่งเป็นกะโหลกของพระอรหันต์ไม่สามารถจะทราบได้ ไม่มีเสียงตอบจากเจ้าของกะโหลกว่าไปเกิดที่ไหน จึงนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง พระพุทธองค์จึงตรัสถามว่า:- “วังคีสะ เธอไม่รู้หรือ ? ” “ข้าพระพุทธเจ้า ไม่รู้ พระเจ้าข้า” “วังคีสะ ตถาคตรู้” “ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระองค์ทรงทราบด้วยมนต์อะไรพระเจ้าข้า” “ด้วยกำลังมนต์ของตถาคตเอง”

            • บวชเพื่อเรียนมนต์

              ลำดับนั้น วังคีสะ ได้กราบทูลขอเรียนมนต์นั้นจากพระบรมศาสดา ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงรับจะสอนมนต์นั้นให้ แต่มีข้อแม้ว่าผู้เรียนจะต้องบวช จึงจะสอนให้ วังคีสะ คิดว่า ถ้าเรียนมนต์นี้จบก็จะไม่มีผู้เทียมได้เลย จะเป็นประโยชน์แก่อาชีพของตนเป็นอย่างยิ่ง จึงบอกให้พราหมณ์ร่วมคณะเหล่านั้นรอยู่สัก ๒ -๓ วัน เมื่อบวชเรียนมนต์จบแล้วก็จะสึกออกไปร่วมคณะกันต่อไปเมื่อวังคีสะบวชแล้ว พระบรมศาสดาประทานพระกรรมฐาน มีอาการ ๓๒ เป็นอารมณ์ รับสั่งให้สาธยายท่องบริกรรม พร้อมทั้งพิจารณาไปด้วยฝ่ายพราหมณ์ที่คอยอยู่ก็มาถามเป็นระยะๆ ว่าเรียนมนต์จบหรือยัง วังคีสะ ก็ตอบว่ากำลังเรียนอยู่ โดยเวลาล่วงไปไม่นานนัก ท่านก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา พวกพราหมณ์เหล่านั้นเห็นว่าท่านไม่ หวนกลับสึกออกมาประกอบอาชีพฆราวาสเช่นเดิมอีกแล้ว จึงได้แยกย้ายกันไปตามอัธยาศัยของตน ๆ

            • ได้รับยกย่องในตำแหน่งเอตทัคคะ

               พระวังคีสะ เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์ แล้วได้เป็นกำลังช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเมื่อเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคครั้งใด ก็จะกล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณบทหนึ่งอยู่เสมอด้วยเหตุนี้ พระบรมศาสดาทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ในทางนี้ ผู้มีปฏิภาณ คือ ความสามารถในการผูกบทกวีคาถา ท่านดำรงอายุสังขาร สมควรแก่กาลเวลาแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพาน

      บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #3779 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2554, 21:39:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 23 ตุลาคม 2554, 20:48:51
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

                       พี่สิงห์ เป็นห่วงเธอมาก เพราะรู้ว่าน้ำมันระบายไปทางนั้นมาก เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ เธอต้องระวัง น้ำยังขึ้นอีกวันละ ๘ ซ.ม. สามวันที่ผ่านมา เธอต้องมั่นใจคันกั้นน้ำที่ทำขึ้นว่าสามารถรับแรงดันน้ำได้

                       พี่สิงห์ก็อยากทราบระดับน้ำแต่ละวันบ้านเธอเหมือนกัน ครับ

                       ขอให้เธอและครอบครัว ผ่านวิกฤติน้ำท้วมครั้งนี้ไปด้วยดี โดยน้ำอย่าท้วมบ้านเธอเลย

                       สวัสดีค่ะ


...สวัสดีค่ะพี่สิงห์มาติดตามอ่านที่ห้องพี่แต่ไม่ได้โพสท์ 
...ครั้งนี้พี่ถามถึงอรด้วยความเป็นห่วง ขออนุญาตตอบแทนเพราะคงไม่ได้เข้าเว็บ   
อร.ย้ายจากบ้านบางบัวทองที่น้ำท่วมไปอยู่บ้านเมืองชลตั้งแต่วันพุธที่ 19 ต.ค.
วันนี้โทร.คุยว่าน้ำน่าจะขึ้นถึงชั้นสองแล้วโดยประเมินจากข่าวที่เข้าไปถ่ายแถวหมู่บ้าน 
...ขอบคุณพี่แทนอรด้วยค่ะและจะบอกอร.ว่าพี่เป็นห่วงค่ะ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3780 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 04:40:55 »

พี่สิงห์,
แก้เครียดน้ำท่วม
ดูงานจุฬาฯกันดีกว่าคะ



<a href="http://122.155.18.14/~zp00000612/mediaplayer.swf?file=http://videolink.nationchannel.com/data/1/2011/10/24/b8kgjadkhaidccbacdagd.mp4" target="_blank">http://122.155.18.14/~zp00000612/mediaplayer.swf?file=http://videolink.nationchannel.com/data/1/2011/10/24/b8kgjadkhaidccbacdagd.mp4</a>
      บันทึกการเข้า


swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #3781 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 05:12:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 23 ตุลาคม 2554, 21:39:41
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 23 ตุลาคม 2554, 20:48:51
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

                       พี่สิงห์ เป็นห่วงเธอมาก เพราะรู้ว่าน้ำมันระบายไปทางนั้นมาก เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ เธอต้องระวัง น้ำยังขึ้นอีกวันละ ๘ ซ.ม. สามวันที่ผ่านมา เธอต้องมั่นใจคันกั้นน้ำที่ทำขึ้นว่าสามารถรับแรงดันน้ำได้

                       พี่สิงห์ก็อยากทราบระดับน้ำแต่ละวันบ้านเธอเหมือนกัน ครับ

                       ขอให้เธอและครอบครัว ผ่านวิกฤติน้ำท้วมครั้งนี้ไปด้วยดี โดยน้ำอย่าท้วมบ้านเธอเลย

                       สวัสดีค่ะ


...สวัสดีค่ะพี่สิงห์มาติดตามอ่านที่ห้องพี่แต่ไม่ได้โพสท์  
...ครั้งนี้พี่ถามถึงอรด้วยความเป็นห่วง ขออนุญาตตอบแทนเพราะคงไม่ได้เข้าเว็บ  
อร.ย้ายจากบ้านบางบัวทองที่น้ำท่วมไปอยู่บ้านเมืองชลตั้งแต่วันพุธที่ 19 ต.ค.
วันนี้โทร.คุยว่าน้ำน่าจะขึ้นถึงชั้นสองแล้วโดยประเมินจากข่าวที่เข้าไปถ่ายแถวหมู่บ้าน  
...ขอบคุณพี่แทนอรด้วยค่ะและจะบอกอร.ว่าพี่เป็นห่วงค่ะ


ชั้นสองแล้วเหรอคะ .. โอ๊ะ โอว!!

พี่อร สู้ สู้ ค่ะ

      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3782 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 05:15:10 »

ผู้ว่าฯ กทม.แถลงสถานการณ์น้ำฉบับที่ 4
วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2011 เวลา 00:27 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.
   

                      (23 ต.ค.54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 23.30 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำกรุงเทพมหานคร โดย กทม.ได้ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์กรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 4 เนื่องจากขณะนี้น้ำเหนือบริเวณรังสิตปทุมธานีได้ไหลบ่าเข้ากรุงเทพมหานคร ทำให้ปริมาณน้ำที่ท่วมพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานครมีระดับสูงขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว ซึ่งกทม.ได้ประเมินสถานการณ์จากตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องรอบด้านแล้ว พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบในเบื้องต้น ได้แก่ พื้นที่เขตดอนเมือง หลักสี่ บางเขน จตุจักร บางซื่อ และสายไหม โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินมีค่า รถยนต์ และอื่นๆ ขึ้นที่สูง และผู้อาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินขอให้ย้ายไปยังศูนย์พักพิงที่กทม.เตรียมไว้ โดยเฉพาะผู้ป่วย เด็ก และคนชรา เป็นลำดับแรก พร้อมทั้งขอให้ ประขาชน และหน่วยงานของรัฐในกทม. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และติดตามการแถลงข่าวของกทม.
                       ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและมั่นใจว่า กทม.จะดำเนินการอย่างสุดความสามารถ และจะร่วมกับ ศปภ. แก้ไขสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมงนับจากนี้ โดยกทม.จะระดมสรรพกำลัง หน่วยเคลื่อนที่เร็ว หน่วยฉุกเฉินและการแพทย์ เพื่อช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ กทม.จะประเมินสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง และหากสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตตนเองจะประกาศเป็นคนแรกตามคำมั่นสัญญา
                       นอกจากนี้ กทม.ได้ประสานกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูต ทำเนียบเอกอัครราชทูต และทูตานุทูต ในกรุงเทพฯ และอยู่ในเขตดังกล่าว ให้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยกทม.มีแถลงการณ์และคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษในเว็บไซต์ของกทม. WWW.BANGKOK.GO.TH เพื่อให้ประชาชนและชาวต่างชาติในกรุงเทพมหานครรับทราบข้อมูลด้วย
                       ในส่วนของพื้นที่ที่มีปัญหาบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานรังสิต ซึ่งกทม.ได้เข้าไปทำการเสริมกระสอบทราย รวมถึงแก้ไขปัญหาสถานการณ์ให้ดีขึ้น ปรากฏว่าเมื่อวานนี้มีประชาชนคัดค้านการเข้าไปทำหน้าที่ของกทม. อีกทั้งอาจมีการใช้ความรุนแรงกับผู้ปฏิบัติงาน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ทันที ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่จนถึงอนุสรณ์สถานแล้ว
                                                                         ------------------------------
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3783 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 05:19:59 »

พี่สิงห์คะ,
บริษัทเก่าที่หนิงเคยทำงาน
เค้าป้องกันตัวเองมาเป็นเดือนแล้ว
ก่อนน้ำมาอยุธยาด้วยคะ!
เป็นบริษัทเดียวที่ไม่ท่วม
ชาวมินิแบ-บางปะอิน เก่า-ปัจจุบัน
ยังติดตามข่าวบริษัทกันใกล้ชิด.





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย Seub2010

          คงทราบกันแล้วว่า ขณะนี้มีนิคมอุตสาหกรรมถึง 7 แห่งที่จมน้ำเสียหายระดับหมื่นล้าน โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในจังหวัดพระนครอยุธยาที่จมน้ำเสียหายทั้งหมด แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เสริมคันกั้นน้ำหลายชั้นไว้อย่างแน่นหนา แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานพลังน้ำมหาศาลไว้ได้

          แต่ใช่ว่าโรงงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะจมบาดาลเสียทั้งหมด เพราะจากการตรวจสอบพบว่า ยังมีโรงงานเอ็น เอ็ม บี มินิแบ อีก 1 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากนิคมอุตสาหกรรมนวนครที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม แม้ว่าภายนอกรอบ ๆ จะถูกปกคลุมไปผืนน้ำทั้งหมดแล้ว

          และสาเหตุที่ทำให้โรงงานเอ็น เอ็ม บี มินิแบไทย จำกัด ยังคงรอดพ้นจากน้ำท่วม เป็นเพราะทางโรงงานได้สร้างแนวป้องกันน้ำของตัวเองมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่น้ำจะมาถึง โดยคันกั้นน้ำของโรงงานนั้นถูกสร้างขึ้นรอบโรงงานทั้งหมด ให้เป็นเขื่อน 2 ชั้น พร้อมกับนำดินมาถมทับกระสอบทราย จากนั้นจึงคลุมด้วยผ้าใบพลาสติกขนาดใหญ่อีกชั้นหนึ่ง เพื่อไม่ให้น้ำไหลซึมเข้าไปได้ จึงสามารถป้องกันมวลน้ำมหาศาลได้จนถึงทุกวันนี้

          ทั้งนี้ วิธีป้องกันโรงงานมินิแบร์นั้น สอดคล้องกับสูตรดันน้ำ ของคุณอภิชาติ สุทธิศิลธรรม ที่ได้เสนอแนวทางป้องกัน และจัดการน้ำท่วมกรุงเทพมหานครไว้ในคลิปที่ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูปเรื่อง "แนวทางป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ" รวมทั้งใน เฟซบุ๊ก mtaneewong ซึ่งอธิบายวิธีการป้องกันไม่ให้กรุงเทพมหานครจมน้ำมิดทั้งเมืองไว้ได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก





โดยคุณอภิชาติ อธิบายถึงกรณีที่ 1 สาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมนั้น เป็นเพราะเรามีความพยายามจะทำให้น้ำภายในนิคมอุตสาหกรรม ภายในโรงงานแห้ง ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะเขื่อนที่สร้างขึ้นมา เป็นเพียงแค่คันกั้นน้ำชั่วคราว ต่างจากเขื่อนคอนกรีต ยิ่งน้ำสูง เราก็ยิ่งต่อคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็นเหตุให้แรงดันน้ำจากภายนอกที่สูงกว่าจะค่อย ๆ ดันน้ำซึมเข้ามาภายในซึ่งไม่มีน้ำเรื่อย ๆ และในที่สุด แรงดันน้ำมหาศาลก็จะดันจนคันกั้นน้ำแตก น้ำไหลทะลักเข้ามาในโรงงานอย่างรวดเร็ว นี่คือจุดอ่อนที่ทำให้นิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ถูกน้ำท่วมสูงเสียหายหนัก

          คุณอภิชาติ ระบุว่า วิธีที่จะช่วยป้องกันสภาวะนี้ได้ก็คือ การสร้าง "เขื่อน 2 ชั้น" คือ ยอมนำน้ำบางส่วนเข้ามาอยู่ในเขื่อนเลย แล้วกั้นน้ำข้างนอกที่มีระดับสูงกว่าไว้ เพื่อให้น้ำภายในเขื่อนกับภายนอกเขื่อนดันกันเอง ทีนี้แรงดันภายนอกจะลดลง น้ำภายนอกจะซึมเข้ามาน้อยลง และคันกั้นน้ำก็จะไม่พัง ส่วนน้ำที่อยู่ในเขื่อนตรงกลางอาจจะมีซึมเข้ามาถึงเขื่อนชั้นในสุดบ้าง แต่ตรงนี้เราสามารถสูบน้ำกลับออกไปได้ จึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด และเขื่อนก็จะไม่พังแน่นอน

          "หัวใจคือทำอย่างไรไม่ให้เขื่อนพัง เพราะถ้าเขื่อนพังแล้ว มวลน้ำข้างนอกจำนวนมหาศาลจะไหลเข้าท่วมข้างในระดับเดียวกันทั้งหมด ดังนั้นต้องใช้น้ำดันน้ำกันเอง น้ำจะซึมได้น้อยลง อย่างน้ำที่ไหลท่วมนิคมนวนคร นครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง อยุธยา เพราะมีเขื่อนชั้นเดียวที่เอาน้ำระดับ 2-3 เมตรไม่อยู่" นักวิชาการ กล่าว




 มาดูกรณีที่ 2 กันบ้าง ซึ่งเป็นกรณีที่กำลังเกิดขึ้นกับโรงงาน และมหาวิทยาลัยที่อยู่นอกเมือง เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยคุณอภิชาติ อธิบายว่า หากอยากจะสามารถต้านทานน้ำไว้ได้ ต้องสร้างเป็น "เขื่อน 2 ชั้น" เหมือนกับกรณีที่ 1 คือ สร้างคันกั้นน้ำขนาดใหญ่ไว้หน้าประตูทางเข้าอาคาร เพื่อกั้นน้ำภายนอก แต่ต้องปล่อยให้น้ำส่วนหนึ่ง (ประมาณครึ่งหนึ่งของความสูงของน้ำภายนอก) เข้ามาอยู่ระหว่างหลังคันกั้นน้ำขนาดใหญ่กับประตูทางเข้าด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เขื่อนพังเช่นกัน และที่บริเวณประตูทางเข้าอาคารควรก่ออิฐขึ้นมากั้น พร้อมกับเสริมกระสอบทรายไว้อีกชั้นด้วย เพื่อป้องกันน้ำที่จะไหลซึมเข้ามา วิธีนี้จะช่วยรักษาภายในตัวอาคารไว้ได้ เพราะแรงดันของน้ำจะลดลงมาก ส่วนเขื่อนตรงกลางที่เรายอมปล่อยให้น้ำท่วมบ้างก็จะเสียหายไม่มากเมื่อเทียบกับเขื่อนพังแล้วน้ำทะลักเข้าตัวอาคารทั้งหมด

          "เราอย่าไปเอาชนะน้ำ ต้องยอมแพ้มัน ให้น้ำไหลเข้ามาครึ่งเดียว เพื่อมารักษากำแพงกั้นน้ำภายนอกไว้" นักวิชาการ กล่าว




 มาถึงกรณีที่ 3 ที่จะช่วยป้องกันกรุงเทพมหานครไว้ได้ ด้วยการสร้าง "เขื่อน 2 ชั้น" เช่นกัน โดยคุณอภิชาติ ได้อธิบายว่า ตอนนี้ กทม.สร้างเขื่อนกั้นไว้ที่คลองหกวา ซึ่งในที่สุดน้ำจะเซาะใต้เขื่อนจนเขื่อนพังเช่นกัน และระดับน้ำในกรุงเทพมหานครจะสูงเป็น 2-3 เมตร เช่นเดียวกับระดับน้ำภายนอกที่จะไหลมา

          ดังนั้นต้องรีบแก้ไขจุดอ่อนนี้ โดยสร้างเขื่อนไว้รอบ ๆ กรุงเทพมหานครชั้นนอก ไม่ว่าจะเป็นเขตสายไหม ดอนเมือง ฯลฯ แล้วยอมปล่อยให้น้ำนอกคันกั้นน้ำบางส่วนเข้ามาภายในเขื่อนที่บริเวณกรุงเทพมหานครชั้นนอก เพื่อรักษากรุงเทพมหานครชั้นในเอาไว้ เพราะแรงดันน้ำภายนอกกับในกรุงเทพมหานครชั้นในจะช่วยดันกันไว้ ไม่ให้กรุงเทพมหานครชั้นกลางกับชั้นในได้รับผลกระทบมากนัก



 ทั้งนี้ ก่อนที่จะปล่อยน้ำเข้ามาในกรุงเทพมหานครชั้นนอก ต้องรีบแจ้งให้ประชาชนรับทราบจะได้มีเวลาเตรียมการขนย้าย และป้องกันตัวเอง โดยน้ำอาจจะขังอยู่นานหลายวัน หรือเป็นเดือน และในพื้นที่ชั้นนอกอาจจะท่วม 1.50-2 เมตร เพราะมวลน้ำจากภาคกลางมหาศาลมาก ส่วนพื้นที่สูงหน่อยอาจจะท่วมแค่ 50 เซนติเมตร หากซึมเข้ามามากก็ปั๊มออกได้

          "มันต้องมีคนยอมเสีย มันต้องมีคนกล้าถูกด่า ผมยอมถูกด่า ต้องปล่อยให้น้ำเข้ามา ต้องทำให้ประชาชนเชื่อว่าคันกั้นน้ำมันพังแน่ มันท่วมแน่ เพราะที่ผ่านมามันพังมาหมดแล้ว และไม่สามารถอุดได้ด้วย กว่าจะอุดได้ น้ำก็ไหลเข้ามาหมดแล้ว ต้องรีบตัดสินใจทำภายในวันสองวันนี้เลย ถ้าบอกว่าไม่อยากให้ท่วมเลยสักคน มันก็จะท่วมทุกคนแน่นอน แล้วใครจะมาช่วยเรา..."

          คุณอภิชาติ ยังเสนอแนวคิดด้วยว่า หากกรุงเทพมหานครทำตามวิธีการเขื่อน 2 ชั้น รัฐบาล หรือผู้ว่าฯ กทม. ต้องประกาศเก็บภาษีคนชั้นในที่ถูกไม่น้ำท่วมเพิ่มขึ้น เพื่อมาช่วยคนกรุงเทพมหานครชั้นนอกที่ยอมถูกน้ำท่วม เพราะคนชั้นนอกได้รับความเสียหาย ต้องได้รับการชดเชยจากคนชั้นในอย่างน้อย 70-80% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอให้รัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจโดยเร็ว

          ทั้งนี้ คุณอภิชาติ ยังได้ยกตัวอย่างโรงงานมินิแบร์ ซึ่งเป็นโรงงานเดียวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ยังไม่ถูกน้ำท่วมด้วยว่า เป็นเพราะทางโรงงานทำคันกั้นน้ำไว้ 2 ชั้นเช่นกัน แม้ว่าจะหมดเงินกับการป้องกันครั้งนี้ไปถึง 100 ล้านบาท แต่ก็สามารถป้องกันกิจการภายในไม่ให้ต้องสูญเสียไปกว่า 50,000 ล้านบาทได้สำเร็จ และที่อื่น ๆ ควรนำแนวคิดนี้ไปทำเป็นตัวอย่าง

          สำหรับใครที่สนใจติดตามการวิเคราะห์เรื่องอุทกภัยของ คุณอภิชาติ สุทธิศิลธรรม สามารถเข้าไปติดตามได้ใน  เฟซบุ๊ก mtaneewong ซึ่งคุณอภิชาติได้เขียนบทความวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจหลายเรื่องเลยทีเดียวค่ะ เพื่อจะได้ช่วยกันรับมืออุทกภัยครั้งนี้ได้ทันท่วงที


http://hilight.kapook.com/view/63954
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3784 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 05:26:06 »

ฟิล์มนี้เมื่อ 20 ตุลา
ชัดสุดๆแล้วคะ
ว่าเค้าไม่รอใครมาช่วย
เค้าช่วยตัวเอง!


<a href="http://www.youtube.com/v/xI1m60BmoGc?version=3&amp;amp;hl=en_GB" target="_blank">http://www.youtube.com/v/xI1m60BmoGc?version=3&amp;amp;hl=en_GB</a>
http://www.youtube.com/watch?v=xI1m60BmoGc&feature=player_embedded
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3785 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 05:49:30 »

สัญญาณ อันตราย!!!

                      สัญญาณอันตรายมาแล้วสำหรับชาวกรุงเทพมหานคร เป็นเพราะขาดความสามัคคีระหว่าง กทม.และศูนย์ฯรัฐบาลดอนเมือง ที่เกี่ยงกันในพื้นที่ปทุมธานีด้านทิศเหนือ ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

                       กทม. อ้างว่าเป็นพื้นที่นอกเขต มันก็จริง แต่มีผลโดยตรงกับ กทม. จึงไปวางกระสอบทรายใต้จุดกลับรถเอาไว้

                       แต่ประชาชนชาวรังสิต ใช้กฏหมู่ดึงกระสอบทรายออกให้น้ำเข้าถนนวิภาวดี-รังสิตมาท้วม ตำรวจ รัฐบาล ทหาร ไม่ได้เข้าไปห้ามแต่อย่างใดทั้งสิ้น เพราะเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย กลัวเสียคะแนนเสียง หรืออาจจจะได้รับการหนุนหลังจาก สส. อย่าลืมเขตนี้ อริสมัน เคยเป็นอดีตสส. ย่อมมีความแค้นอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์  จึงอยากให้น้ำท้วม กทม. เหมือนกัน

                       นี่ละผลจากการขาดความสามัคคี นายกเองควรจะรีบมาแก้ไขก็ไม่ทำ  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ท่านก็ไม่สั่งการให้ตำรวจมาป้องกัน ทางศูนย์ฯรัฐบาลที่ดอนเมืองเอง ก็เป็นเสือกระดาษทำงานไม่เป็น ไม่เป็นระบบ มีแต่จะเสนอหน้าออก TV

                       ผลจากการละเลยของรัฐบาล คุณยิ่งลักษณ์  ไม่ใส่ใจครั้งนี้ ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาสองวัน อยู่นอกพื้นที่แนวคันกั้นน้ำของ กทม. คุณวันชัย  เพื่อนผม จริงๆ ต้องรับผิดชอบเรื่องน้ำบนถนนวิภาวดี-รังสิต ก็ไม่ทำอะไรเลย  ทุกคนปล่อยให้น้ำเข้ามา  ปล่อยให้ชาวบ้านฐานคะแนนเสียงพรรคเพื่อไทย ใช้กฏหมู่ คงเป็นพวกเสื้อแดงแน่ๆ ครับเขตนี้

                       นำสิ่งที่ผมกล่าวไว้นี้ แป๊ะข้างฝาเอาไว้ครับ สาเหตุที่ทำให้น้ำท้วม กทม. ครั้งนี้ คือขาดความสามัคคีในหมู่คนไทย และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย พวกเสื้อแดง  ต้องการให้น้ำท้วม กทม. เหมือนกับที่อื่นในภาคกลาง คะแนนเสียงจะได้ไม่มีใครดีกว่าใคร เพราะน้ำท้วมเหมือนกัน

                       นี่คือความคิดของคน ครับ (อิจฉา มาก่อน) เรามีพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน  ขาดความรับผิดชอบทั้งสิ้น แต่อย่าลืมประชาชนส่วนใหญ่เลือกเข้ามาเอง โทษใครไม่ได้ทั้งนั้น  ต้องโทษคนลงคะแนนเสียงเลือกพรรคเพื่อไทย 

                       ผิดที่ท่านนายก  ผู้บัญชาการตำรวจคนใหม่  ที่ปล่อยปะละเลยการทำหน้าที่ ไม่ส่งกำลังตำรวจไปดูแลเจ้าหน้าที่ กทม. และจับกุมผู้ที่รื้อกระสอบทรายทิ้ง  จนเป็นเหตุให้น้ำเข้าทางถนนวิภาวดี-รังสิตใต้ทางกลับรถรังสิต เข้ามาทางเซียร์ อนุสรณ์สถานกองทัพอากาศ  จนอยากแก่การแก้ไขเสียแล้ว ครับ จำเอาไว้

                       จริงๆ การแก้ไขทำง่ายมาก แต่ไม่มีใครทำ สั่งการณ์ คือปิดถนนวิภาวดี - รังสิต สูบน้ำออกใช้เวลา สี่-ห้าวัน ก็หมด ครับ

                       ไม่ใช่แก้ไม่ได้ แต่รัฐบาลก็ไม่ทำ ไม่สั่งการณ์ เพราะพรรคเพื่อไทย ต้องการให้น้ำท้วมกรุงเทพมหานคร ครับ

                       ขอตัวไปเดินจงกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้าน เพื่อให้จิตผ่องใส

                       ปลาตายน้ำตื่น จริงๆ ครับน้ำท้วมกรุงเทพฯ ครั้งนี้ คิดหาวิธีแทบตายให้ผ่านพ้นวิกฤติ

                       แต่พรรคเพื่อไทยต้องการให้มันท้วม  ผมไม่เชื่อว่าท่านนายกไม่รู้ รัฐมนตรีไม่รู้  รู้ทั้งนั้น เรื่องการรื้อกระสอบทราย แต่กลัว เพราะการส่งตำรวจ ทหาร ไปควบคุมไม่ให้ชาวบ้านรื้อกระสอบทราย ไม่ใช่เรื่องอยาก เพราะชาวบ้านที่รื้อนั้น พวกประชาชนคนเสื้อแดง ที่อาจจะได้รับคำสั่งโดยตรง  ถึงกล้าทำแบบนั้น เพราะน้ำเหนือรังสิต มีคลองรังสิตเป็นตัวรับตัดหน้าก่อนที่จะมาถึงแนวคันกั้นน้ำ กทม. ระดับสะสมมันขึ้นน้อย จึงใช้เวลานานและอาจแพ้ด้วยซ้ำตามที่ผมคาดการณ์ แต่การกระทำของประชาชนคนเสื้อแดง นั้น ร้ายนัก จึงเป็นเหตุให้น้ำท้วม กรุงเทพฯ ครับ

                       อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ เป็นข่าวที่ไม่ดี สำหรับเช้านี้
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3786 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 08:31:54 »

ด้วยหลัก ทุกสิ่งเกิดล้วนมีเหตุ เป็นปัจจัยทั้งสิ้น ถ้าเหตุดับ ผลจึงไม่เกิด ครับ

                     ผมไม่ใช่เสื้อเหลือง ผมไม่ใช่เสื้อแดง ผมนับถือพุทธศาสนา ปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ โดยยึดหลักคำสอนของพระพุทธองค์โดยเคร่งครัด ด้วยหลักปรัชญา "ทุกสิ่งเกิดขึ้นล้วนมีเหตุ เป็นปัจจัยทั้งสิ้น เมื่อเหตุดับ ปัจจัยต่างๆที่ตามมาก็ไม่มี"

                       หยุดการรักษาคะแนนเสียงกันเถอะครับ ปัญญาชนม์มีปัญญาแยกแยะดี-ชั่วได้

                       คนคิดชั่วนั้น อย่างไรมันก็คิดชั่วตลอดเวลา ไม่เป็นไปอย่างอื่น เพราะจิตคนนั่นอยากแท้หยั่งถือ จริงๆ โดยเฉพาะ ความแค้น อิจฉาริษยา ความปราถนา นั้น มันรุนแรงยิ่งกว่าชีวิตตนเอง  ทุกท่านคิดดูเอาเอง มันยิ่งใหญ่มหาศาล รอคอยเป็นสิบๆ ปี จนตัวตาย ก็สามารถที่จะรอได้

                       ทุกท่านต้องการให้น้ำท้วม กทม. จริงหรือ ?

                       ผมไม่ต้องการครับ เพราะผมไม่ปราถนาให้คนอื่นได้รับทุกข์

                       ทำเถอะครับ ท่านผู้ว่า กทม. เชื่อผม ทำเพื่อในหลวง ทำเพื่อฉลองสิริพระชนม์อายุ ๘๔ ปี ให้กับพระองค์ท่าน  ใครก็ได้ที่สามารถบอกท่านผู้ว่าได้  ขอความกรุณาเถอะครับ ผมกราบวิงวอน ผมเชื่อว่าท่านผู้ว่าจะกระทำ

                       แก้ปัญหาไม่ได้อยากเลย กั้นตรงต้นเหตุ ที่น้ำเข้ามา เอาในพื้นที่ กทม. นี่ละ ยังมีเวลาเพียงพอ กั้นได้แล้ว ค่อยระบายสูบออกทางคลองของ กทม. อาจใช้เวลา แต่สามารถชนะได้ เพราะสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด พื้นที่ในแนวคันกั้นน้ำของ กทม. ไม่ได้พัง ครับ มันเป็นเพียงอุบัติเหตุ ทางการเมืองระหว่างสองพรรค แต่เขตเศรษฐกิจของประเทศไทย จะฉิบหาย

                       บรรพบุรุษมหากษัตริย์ไทย ท่านคงตำหนิลูกหลานที่ ที่ไม่เอาใจใส่ดูแล เหมือนท่าน  ม.ร.ว. สุขุมพันธิ์  บริพัตร์ เป็นลูกหลาน เพียงแต่เศษผงมันเข้าตาด้วยความสะใจอยาก..ไปชั่ววูบ ไปเตือนท่าน ให้กลับมารักษา กทม. บ้านของ ปู่-ย่า ตา-ยาย  พ่อ-แม่ ของท่านทีเถอะ แก้ไขได้ครับ

                       เมื่อเช้าผมเดินจงกรมออกกำลังกายยามเช้า ไปซื้อข้าวแต่ไม่มี เลยซื้อขนมไทยมาสามห่อ เอามาใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน เณรองค์น้อยให้พรพระ ผมอุทิศส่วนกุศลให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รัชกาลที่ ๕ ขอให้ท่านช่วยปกป้อง กทม.ให้พ้นวิกฤติ น้ำท้วมครั้งนี้ไปให้ได้ ครับ

                       สวัสดี


ข้อมูลล่าสุด  พื้นที่ กทม.

             07.00 น. กทม.ไม่พบกลุ่มฝน
                          ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาวัดที่ปากคลองตลาดสูงสุด(23ต.ค.54)เวลา 15.45 น. ระดับ +2.25 ม.รทก.
                          มีประชาชนรื้อแนวกระสอบทรายบริเวณกลับรถใต้สะพานรังสิต เป็นเหตุให้น้ำเข้าท่วม ถ.พหลโยธิน 24 ต.ค. 2554

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
              -  วันที่ 23 ต.ค. 54 สูงสุด เวลา 15.45 น. ระดับ +2.25 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 55 ซม. สูงสุดในรอบ 15 ปี)
              -  วันที่ 24 ต.ค. 24 คาดการณ์  โดยกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เวลา 16.36 น. ระดับ +2.22 ม.รทก.

              ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานพระราม 8 = 4177ลูกบาศก์เมตร/วินาที
              ปริมาณน้ำไหลผ่านคลองบางกอกน้อย 80.40ลูกบาศก์เมตร/วินาที

น้ำทุ่ง

              - ระดับน้ำในคลองหกวาสายล่าง เขตสายไหม ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ประมาณ 10 เซนติเมตร ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (มวลน้ำส่วนหน้าเคลื่อนเข้ามาพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว)

ระดับน้ำในคลองต่างๆ (เมื่อเปรียบเทียบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา)

              - ระดับน้ำคลองเปรมประชากร  ระดับล้นสูงตลิ่ง 45 เซนติเมตร
              - ระดับน้ำคลองทวีวัฒนาด้านนอก(ฝั่งนนทบุรี) เพิ่มขึ้น ๗ ซ.ม.
              - ส่วนลองอื่นๆ ปกติ

ภาพรวมสถานการณ์น้ำใน กทม.
              - น้ำท้วมขังถนนสิรินธร
              - น้ำท้วมขังถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี-รังสิต ช่วงดอนเมือง
              - น้ำท้วมขังถนนสายไหม ตั้งแต่วัดหนองใหญ่ ถึง ซอยเพิ่มสิน
              - น้ำท้วมขังถนนแจ้งวัฒนะ เป็นช่วงๆ ตลอดจากคลองประปา ถึงคลองเปรม


                 - จะเห็นว่าทุกอย่าง สถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้เลวร้าย เพราะ คันกั้นน้ำ กทม. มันยังทำหน้าที่ของมัน ไม่ได้เสียหาย

                  - คลองประปาซ่อมแล้ว คันกั้นน้ำที่เสียหาย ซ่อมแล้ว เหลือเพียงจุดเดียวรังสิต

                  - ผมหวังว่าวันนี้ กทม. และ ทหารช่าง  คงไม่ใจดำ ปล่อยให้ กทม. จมน้ำ ตามความปราถนาของคนบางพวก คงส่งกำลังมาแก้ไข และผมเชื่อมั่นว่าสามารถแก้ไขได้ 100% แน่นอน ไม่เหลือบ่า ความสามารถเลยครับ  ใครๆ ก็คิดออกเหมือนผม

                   - ผมขอเพียงเวลาอีกสอง - สามวัน เท่านั้น และ วันนี้ผมหวังว่าจะได้รับข่าวดีจาก บางไทร ปทุมธานี ครับ

                   - ผม กับ ดร.สุริยา คิดเหมือนกัน เวลานี้ น้ำที่ท้วมดอนเมือง ถนนวิภาวดี-รังสิต นั้น มีระดับเสมอกันกับ น้ำในคลองรังสิต เท่านั้น จึงไหลเข้ามา ไม่ได้รุนแรง  เร็วแต่ประการใด ใช้เวลาตั้งสองวันเต็ม จึงมีระดับเท่ากัน เป็นสิ่งที่จริง  ไม่ได้รุนแรงอะไรเลย ผมบอกแล้วมันเป็นที่ดอน ไม่ใช่ที่ลุ่มอย่างนนทบุรี ครับ

                   - น้ำจำนวนนี้สามารถไหลไปทางสายไหม สามวา มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบังได้  ผมขอให้ กทม.ระบายไปลาดกระบังให้ได้ อะไรที่ขวงทางน้ำเอาออกให้หมด  ระดับน้ำที่ประจัญหน้าที่ซอยแอนเน็กซ์จะไม่สูง ไม่เชื่อคอยดู

                   - อย่าลืมลาดกระบังไม่มีน้ำ เพราะน้ำผ่านถนนสุวินทวงค์ที่ขวางกั้นอยู่ไปไม่ได้ ได้แต่ไปตามคลองเท่านั้น จึงระบายไปลาดกระบังได้น้อยมาก นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังจึงไม่มีน้ำเลย รอดแน่นอน 100%

                   - ผมไม่เชื่อว่า ทหารอากศ จะปล่อยให้น้ำท้วมตัวเอง ครับ

                   - ผมไม่เชื่อว่า ท่านผู้ว่า กทม. จะปล่อยให้น้ำท้วมกรุงเทพฯ ครับ

                   - ผมไม่เชื่อว่า กองทัพบก ผู้บัญชาการทหารบก จะปล่อยให้น้ำท้วมกรุงเทพฯ ครับ

                   - ผมไม่เชื่อว่านายกรัฐมนตรี คุณยิ่งลักษณ์ จะปล่อยให้น้ำท้วมกรุงเทพฯ ครับ เพียงแต่ท่านไม่มีปัญญาใช้คน และ "ไม่รู้"

                   - สุดท้าย ผมยังเชื่อว่าสถานการณ์ไม่ร้ายแรง กว่านี้ บ่ายนี้คงได้รับข่าวดี สามารถแก้ไขได้ครับ

                     สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3787 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 09:17:20 »


สรุป สถานการณ์

น้ำประจำวัน วันจันทร์ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๖:๐๐ น.


      - เขื่อมภูมิพล(100%)  เขื่อนสิริกิติ์(100%)  เขื่อนแควน้อย(99%) รวมกันระบายน้ำออกจากเขื่อนเจ้าพระยา 73.7 ยังไม่เกิน 80 ล้านลูบาศก์เมตร ลดลงจากเมื่อวาน

      - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์(131%) ระบายน้ำออกจากเขื่อน 21.53 ไม่ให้เกิน 35 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลงจากเมื่อวาน

      
      - เขื่อนเจ้าพระยา
                    ระดับน้ำหน้าเขื่อน 17.53 m. ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน 0.05 m.รทก.
                    ระดับน้ำท้ายเขื่อน 17.36 m. ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน 0.06 m.รทก.
                    ปริมาณน้ำระบายออก 3,458 ลูกบาศก์เมตร ระบายออกลดลงจากเมื่อวาน 24 ล้านลูกบาศก์เมตร
                    ฝั่งตะวันตก ระบายออก 688 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระบายออกลดลงจากเมื่อวาน
                    ฝั่งตะวันออก ระบายออก 28 +480 = 508 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระบายออกลดลงจากเมื่อวาน

      - เขื่อนพระรามหก
                    ระดับน้ำหน้าเขื่อน 8.98 m. ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน 0.05 m.
                    ระดับน้ำท้ายเขื่อน 8.97 m. ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน 0.05 m.
                    ปริมาณน้ำระบายออก 436 ลูกบาศก์เมตร ระบายออกลดลงจากเมื่อวาน 8.45 ล้านลูกบาศก์เมตร

       - รวมเขื่อนเจ้าพระยา + พระรามหก ระบายน้ำออกรวมกัน 3,894 ลดลงจากเมื่อวาน 56.45  ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที                  
         กรมชลประทาน ควบคุมการระบายน้ำออกจากเขื่องทั้งสองแห่งนี้ ไม่ให้เกิน 4,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

        - นครสวรรค์
                       ระบายน้ำออก วันนี้  4,100   เมื่อวาน   4,128 ลดลงจากเมื่อวาน 72 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
                       ระดับน้ำ วันนี้ 26.56 m. เมื่อวาน 26.60 m. ระดับน้ำลดลง 0.04 m.
                    
        - อุทัยธานี
                       ระบายน้ำออก วันนี้  645   เมื่อวาน  660 เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
                       ระดับน้ำ วันนี้ 21.44 m. เมื่อวาน 21.49 m. ระดับน้ำลดลง 0.05 m.

        - สิงห์บุรี        
                       ระบายน้ำออก วันนี้  2,890   เมื่อวาน   2,895 ลดลงจากเมื่อวาน 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
                       ระดับน้ำ วันนี้ 12.92 m. เมื่อวาน 12.93 m. ระดับน้ำลดลง 0.01 m. รทก.

        - อ่างทอง
                       ระบายน้ำออก วันนี้  2,630 เมื่อวาน   2,643 ลดลงจากเมื่อวาน 13 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
                       ระดับน้ำ วันนี้ 9.20 m. เมื่อวาน 9.23 m. ระดับน้ำลดลง 0.03 m.

        - อยุธยา      
                      ระบายน้ำออก วันนี้  1,450   เมื่อวาน 1,456 ลดลงจากเมื่อวาน 6 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
                      ระดับน้ำ วันนี้ 5.76 m. เมื่อวาน 5.78 m. ระดับน้ำลดลง 0.02 m.

        - บางไทร    
                      ระบายน้ำออก วันนี้  3,587   เมื่อวาน 3,630 ลดลงจากเมื่อวาน 43 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
                      ระดับน้ำ วันนี้ 4.21 m. เมื่อวาน 4.21 m.รทก. ระดับน้ำทรงตก เป็นสัญญาณที่ดี

        - ปทุมธานี
                      ระดับน้ำ วันนี้ 3.88 m. เมื่อวาน 3.87 m.รทก. ระดับน้ำสูงขึ้น 0.01 m. เพิ่มขึ้นน้อยลง

        - ปากเกล็ด
                      ระดับน้ำ วันนี้ 3.12 m. เมื่อวาน 3.05 m.รทก. ระดับน้ำสูงขึ้น 0.08 m. เท่าเดิม



        


สรุปโดยภาพรวม  

                    - ปริมาณน้ำใหลเข้าเขื่อนต่างๆ รวมกันลดลงจากเมื่อวานมาก เป็นสิ่งที่ดี  เพราะเขื่อนอาจจะระบายน้ำลดลงในอนาคต

                    - การระบายน้ำออกจากเขือนต่างๆ โดยรวมลดลงจากเมื่อวาน เป็นสิ่งที่ดีมาก

                    - ปริมาณน้ำที่ผ่านนครสวรรค์  ระดับลดลงมาก เป็นสิ่งที่ดี

                    - ปริมาณน้ำที่ผ่านจากสิงห์บุรี  อ่างทอง  ลดลง เป็นสิ่งที่ดี

                    - ปริมาณน้ำ และระดับน้ำ ที่ผ่านอยุธยา  ลดลง เป็นสิ่งที่ดี

                    - บางไทร ระดับน้ำทรงตัว เป็นสิ่งที่ดี

                    - ปทุมธานี ระดับน้ำสูงขึ้นเพียง ๑ ซ.ม. เป็นสิ่งที่ดี

                    - ปากเกล็ด ระดับน้ำสูงขึ้นเท่าเดิม  เป็นสิ่งที่ดี

          - สะพานพระราม ๘
                          ปริมาณน้ำไหลผ่าน 4,177 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
                          ปากคลองตลาด ระดับสูงสุด คาดการณ์วันนี้ 2.22 m. รทก. ต่ำกว่าปากเกล็ด 0.90 m.
                          ระดับคันกั้นน้ำสูงกว่าระดับน้ำ 0.58 m.
                          เช้านี้กระแสน้ำไหลแรงมากครับในแม่น้ำเจ้าพระยา
                          

                    ผมขอตั้งต้น ณ จุดตรงนี้ ๒๒ ตุลาคม
                    ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะเมื่อวานเราก็ผ่านได้
                    เรากำลังประจัญกับน้ำมวลก้อนใหญ่ วันนี้ถ้าเราสามารถผ่านได้
                    เราพ้นวิกฤติ ครับ
                    แล้วเรามาดูวันพรุ่งนี้ กันครับ

                           สวัสดี


ผมมีข่าวดีมาบอก ประชาชนคนไทย และ กทม.

มีความสามัคคี ร่วมมือกันต่อไป หาทางแก้ไข ที่ดอนเมืองเสีย

ตามตัวเลข แนวโน้มดีหมด จริงๆ ตามที่ผมคากการณ์

ท้ายขบวน น้ำก้อนใหญ่ อยู่ที่ปทุมธานี นี้เอง ครับ

ระดับน้ำที่ปทุมธานี ค่อนข้างจะคงที่แล้ว ขึ้นมาเพียง ๑ ซ.ม.เองวันนี้ จากเมื่อวาน ๔ ซ.ม.

ระดับน้ำ ที่นนทบุรี เพิ่มขึ้นคงที่ ๘ ซ.ม. ไม่น่ากลัวเลยครับ

ขอเวลาผมอีก สองวัน  ผมเชื่อว่า มวลน้ำก้อนใหญ่สุด จะผ่าน กทม.ไป ครับ

รักษาสมดุลย์นี้เอาไว้ให้ได้ ท่านผู้ว่า กทม. เราจะผ่านพ้นไปได้

ผมขอให้วิศวกร กทม. คุณปราโมทย์  ไม้กลัด กรมชลประทาน

(ท่านต้องเอาตัวเลข ระดับน้ำ มาวิเคราะห์ย้อนหลังอาทิตย์เดียวเท่านั้น)

รู้แบบผมเท่านั้น และคิดด้วยปัญญา จะสามารถพบความจริงนี้ได้

รอเพียงเวลาสองวันเท่านั้น เราจะพ้นวิกฤติ น้ำท้วมไปได้

หลังจากนั้น รักษาสมดุลย์เอาไว้จนน้ำเริ่มลดระดับ

การลดระดับของน้ำใช้เวลา ๑ เดือน ครับ มันจะค่อยๆ ลด ไปเรื่อย ๆ

หยุดทีครับ พวกโหร ทางวิชาการ ทั้งหลาย อย่าสร้างภาพให้หน้ากลัว เลย

มันไม่ก่อประโยชน์ให้ใครทั้งสิ้น มีแต่ทุกข์ เพราะวิตกกังวล อนาคต ยังไม่เกิด

เรากำลังจะชนะแล้ว ครับ

อย่ายอมแพ้  สู้ให้ถึงที่สุด  ถึงตัวจะตาย  แต่ลูกหลานยังอยู่

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3788 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 09:26:07 »

                      ผมขอความช่วยเหลือ

                       ส่งข่าวนี้ให้ทุกคนทราบ โดยเฉพาะ ท่านผู้ว่า กทม. และ ทหาร  จะได้มีกำลังใจ ช่วยกันรักษา สมดุลย์ ณ ตรงนี้เอาไว้ เราชนะแน่นอนครับ

                       สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3789 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 09:46:16 »


      - กทม.จะประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชม. และหากสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตผู้ว่าฯ กทม.จะประกาศเป็นคนแรกตามคำมั่นสัญญา
 

      - กทม.ขอให้ประขาชน และหน่วยงานของรัฐในกทม. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และมั่นใจว่า กทม.ดำเนินการอย่างสุดความสามารถ และร่วมกับ ศปภ. แก้ไขสถานการณ์เพื่อช่วยเหลือประชาชน และตลอด 24 ชม.
 

       - 23.30 น. /ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศเตือนภัยฉบับ 4 ในพื้นที่กรุงเทพตอนเหนือ 6 เขต ได้แก่ ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน จตุจักร บางซื่อ และสายไหม ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เด็ก และคนชรา เป็นลำดับแรก
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #3790 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 09:57:07 »



อันนี้ผมคัดลอกมาจาก "โพสต์ทูเดย์" เป็นคำแถลงของท่านผู้ว่า กทม. เพื่อบันทึกจดจำเป็นปูมไว้วิเคราะห์กันต่อไปว่า
1-ภาระกิจที่กล่าวอ้างเป็นภาระกิจวิกฤติ ยิ่งยวดจริงหรือ เป็นความเป็นความตายที่ทำให้น้ำื่ท่วมกทม.จริงหรือ
2-ที่ท่านกล่าวอ้างว่ามีประชาชนขัดขวาง นั้นจริงหรือ ถ้าจริง ท่านไม่มีความสามารถที่จะทำการนี้ให้สำเร็จเชียวหรือ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3791 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 10:17:31 »

พี่สิงห์

อย่าเพิ่งมองว่า เพื่อไทย ต้องการให้น้ำเข้าท่วม กทม. เนื่องจากเขตดอนเมือง สายไหม เป็นของ เก่่ง-การุณ
เขาคงไม่ยอมให้น้ำท่วมเป็นแน่ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ ศปภ. หากต้องย้าย ศปภ. รัฐบาลเสียหน้ามากกว่า
หลายเขต เช่นที่มีนบุรี หนองจอก ฯลฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ทีี่จะจมน้ำอันดับแรก ก็เป็นของเพื่อไทย
การที่ ผู้ว่า กทม. ไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยปทุมธานี นนทบุรี ซึ่งเป็นเขตติดต่อและจุดที่น้ำเข้าท่วมก่อน
ตรงนี้เป็นจุดอ่อนอย่างมาก ทิฐิและมองไม่เห็นคนนอกเขต จะเป็นตัวแปรสำคัญด้วย
ที่ก่อให้เกิดอุปสรรค์ ความไม่ร่วมมือ ปัญหาต่างๆ ตามมา
สรุปคือ แพ้ภัยที่เกิดจากตัวเอง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3792 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 10:57:41 »

มันเลวร้ายจริงหรือ ?

                     - ผมได้อธิบายไปแต่ต้น มันเป็นเกมส์การเมืองระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคเพื่อไทย

                      - แต่คนรับทุกข์  คือ คนกรุงเทพมหานคร และประชาชน ที่เป็นคนเลือกคนเหล่านี้มาเป็นนาย


                       ผมเชื่อว่า ดร.สุริยา คิดเหมือนผม ขณะนี้ระดับน้ำที่ไหลมาจากดอนเมืองนั้น ระดับน้ำต่ำกว่าระดับน้ำที่คลองรังสิตเพียงไม่เกิน ๑๐ เซนติเมตร อย่าลืม คลองสามวา สายไหม ๒๔ ชั่วโมงน้ำขึ้นเพียง ๑๐ ซ.ม. ที่เป็นระดับเดียวกับน้ำในคลองรังสิต ที่ท้วมล้นเออออกมา เป็นน้ำมวลเดียวกัน แต่มีพื้นที่รับน้ำกว้าง ยกเว้นที่ลุ่ม ตามเขตต่างๆที่จะท้วมนั้น

                       - ระดับไม่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับระดับที่แม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นระดับใกล้เคียงกัน

                       - ระดับน้ำ ปากคลองตลาด ต่ำกว่าบางไทร 0.90 ม. วันนี้เวลา 16:40 น. แสดงว่าบ้านผม สูงกว่าปากคลองตลาด ประมาณมากกว่า 0.90 ม. เพราะน้ำยังไม่ท้วม

                        - สถานะนี้ มันเป็นแบบนี้มาหนึ่งอาทิตย์ เป็นเดือน ผมถึงบอกว่าอย่าไปสนใจน้ำทุ่ง น้ำเหนือ ที่ดูแลมันมาก  ถ้ามันเป็นอย่างนั้น อย่างนักวิชาการทั้งหลายคาดการณ์ ป่านี้ กทม. มิดน้ำไปตั้งนานแล้งครับ เราอยู่ของเราอย่างนี้ มาเป็นอาทิตย มาเป็นเดือนแล้ว น้ำไม่ท้วม เราจะทนอยู่ไปอีกสองวัน เพื่อให้ชัดเจนตามที่ผมคาดการณ์ไว้ว่า มวลน้ำก้อนใหญ่ได้ผ่าน พื้นที่ กทม. ไปเล่นน้ำ หัวเราะ ต่อกระซิกกัน อยู่ที่บริเวณอ่าวไทยโน้นแล้วครับ

                        - ไม่ต้องกังวล  ไม่ต้องกลัวทั้งสิ้น  ผมไม่ได้มองโลกในแง่ดี หรือเพื่อชักจูงให้ท่านสบายใจ

                        - ผมเชื่อการวิเคราะห์ของ TEAM ผมเชื่อตัวเลขที่ผมวิเคราะห์ ระดับน้ำที่ผ่านแต่ละสถานี ทุกวัน มันเป็นอย่างนี้ครับ มันอยู่ใน Excel ที่ผมไม่สามารถ copy มาไว้ได้ ยกเว้น พิมพ์ใหม่ ซึ่งไม่จำเป็น ครับ

                        - ไม่ต้องกลัว ผมว่าบ่ายนี้มีข่าวดี คือ ทั้ง กทม. และรัฐบาล โดยความร่วมมือของ ทหาร จะต้องเข้าไปแก้ไขสถานการณ์แน่นอน เพราะจุดอื่นๆ หมดปัญหาแล้ว ได้แต่เฝ้าระวัง

                        - ยกเว้นผู้ไม่หวังดี  รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเมาขาดสติ หรือรับจ้างมา รื้อกระสอบทรายคันกั้นน้ำ ของ กทม.ครับ

                        - ถ้ามีคนมารื้อแล้ว ท่านนายกรัฐมนตรี  รัฐมนตรีมหาดไทย  ท่านผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ ไม่เข้าไปยุติ จับคนรื้อนั้น

                        - ดร.สุริยา  บันทึกไว้ด้วย เพราะท่าเหล่านั้น ก็จะเป็นผู้ไม่หวังดีไปด้วย ครับ

                          สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3793 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 10:59:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 24 ตุลาคม 2554, 10:17:31
พี่สิงห์

อย่าเพิ่งมองว่า เพื่อไทย ต้องการให้น้ำเข้าท่วม กทม. เนื่องจากเขตดอนเมือง สายไหม เป็นของ เก่่ง-การุณ
เขาคงไม่ยอมให้น้ำท่วมเป็นแน่ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ ศปภ. หากต้องย้าย ศปภ. รัฐบาลเสียหน้ามากกว่า
หลายเขต เช่นที่มีนบุรี หนองจอก ฯลฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ทีี่จะจมน้ำอันดับแรก ก็เป็นของเพื่อไทย
การที่ ผู้ว่า กทม. ไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยปทุมธานี นนทบุรี ซึ่งเป็นเขตติดต่อและจุดที่น้ำเข้าท่วมก่อน
ตรงนี้เป็นจุดอ่อนอย่างมาก ทิฐิและมองไม่เห็นคนนอกเขต จะเป็นตัวแปรสำคัญด้วย
ที่ก่อให้เกิดอุปสรรค์ ความไม่ร่วมมือ ปัญหาต่างๆ ตามมา
สรุปคือ แพ้ภัยที่เกิดจากตัวเอง

              ยกเว้น ดร.ทักษิณ และ อริสมัน  ที่มีอำนาจเหนือ สส. และนายก ครับ

                   เขาไม่ได้เรียกว่า "แพ้ภัยตัวเอง"

                   หลวงพ่อเทียน ท่านว่า หลงอยู่ในโมหะ

                   หรือเป็นทาษความคิดตัวเอง ที่มีทิฏฐิ ไม่ใช่สัมมาทิฏฐิ ลืมความรับผิดชอบตามหน้าที่  มีทิฏฐิมาบังตา ปิดปัญญา กระทำตามความอยากของจิต ที่อยากให้กระทำเพื่อความสะใจ เผลอไปชั่ววูบ  เมื่อนึกได้ ท่านจะเสียใจในการกระทำของตัวเองนั้น ที่ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้แล้ว เพราะเป็นอดีตที่ผิดไปแล้ว ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3794 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 11:19:09 »

                    วันนี้ ณ เวลา 11:15 น.
                     
                      ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานพระราม 8 = 4149 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
                      ปริมาณน้ำไหลผ่านคลองบางกอกน้อย 116.80 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

                      วันนี้พี่น้องทางฝั่งธนบุรีนอกแนวคันกั้นน้ำ พุทธมณฑล ศาลายา นครชัยศรี นครปฐม  น้ำท้วมสูงเพิ่มมากขึ้นครับ

                      ใครที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ หรือบริเวณที่ผมบอก ช่วยจดบันทึกระดับน้ำบอกผมด้วย จักขอบคุณมาก เพราะถ้าตัวเลขขึ้นวันละมากกว่า ๑๕ - ๒๐ ซ.ม. นั้น น่ากลัวครับ  ท่านต้องรู้นะ ว่าจะทำอย่างไร ?
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3795 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 11:26:33 »

พี่สิงห์ครับ..

พี่น้องในจังหวัดนครปฐมบอกมาว่า
อำเถอเมือง มีน้ำเอ่อล้นขึ้นตามลำคลองเจดีย์บูชา คลองส่งน้ำประปาจากอำเภอกำแพงแสน และถนนรอบข้าง แต่ไม่มาก
อำเภออื่น เช่น กำแพงแสน บางเลน ดอนตูม พุทธมณฑล สามพราน น้ำท่วมริมแม่น้ำท่าจีนและล้นสู่ถนนแล้ว
อำเภอนครชัยศรี ซึ่งมีแม่น้ำท่าจีนผ่านเป็นหลักจมน้ำมาหลายสัปดาห์แล้ว และน่าจะหนักที่สุดกว่าทุกอำเภอ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3796 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 12:29:03 »

ที่สุด ปัดไปไม่พ้นตัว..............

สุพรรณบุรีอ่วม เอ่อมาลัยแมน จระเข้า 2 ม.โผล่


สถานการณ์น้ำท่วมที่สุพรรณบุรียังวิกฤติ น่้ำทะลักเข้าทั่วทุกพื้นที่ จนเกือบท่วมถนนมาลัยแมน สุพรรณบุรี-นครปฐม ถนนหลักสายเดียวที่ยังใช้เดินทางจากเหนือสู่ใต้ได้ ล่าสุดชาวบ้านผวา! ไม่กล้าลุยน้ำไปเก็บข้าวของ หลังเจอจระเข้ยาว 2 เมตร


อ่านรายละเอียดที่..........
http://www.thairath.co.th/content/region/211540
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3797 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 13:18:45 »

สรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขกรุงเทพฯ 24 ต.ค.54
วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2011 เวลา 13:00 น. ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ กทม.


           •   วันพรุ่งนี้ 25 ต.ค.54 กทม.ต้องการอาสาสมัครร่วมบรรจุทราย ณ ถ.กรุงเทพกรีฑา ช่วงตัดถ.เจ้าคุณทหารและถ.ร่มเกล้า เพื่อป้องกันพื้นที่ด้านตะวันออก และขอขอบคุณอาสาสมัครทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจกันบรรจุทรายเพื่อป้องกันพื้นที่บริเวณคลองหกวา
           •   12.00น.ผู้ว่ากทม.เดินทางไปพบนายกฯที่ศปภ. เพื่อหารือมาตรการป้องกันพื้นที่กรุงเทพฯ จากนั้นจะตรวจพื้นที่สนามบินดอนเมืองและอนุสรณ์สถาน
           •   ผว.กทม.กล่าวว่า ถ้าพื้นที่กทม.เกิดอะไรขึ้นจะกระทบต่อทั้งประเทศ และตนเองไม่ได้ดูแลเมืองหลวงกทม.เพื่อคนกทม.เท่านั้น แต่เพื่อดูแลประเทศชาติให้ปลอดภัยด้วย
           •   ให้กทม.ประสานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังและนิคมบางชัน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญด้านเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันน้ำท่วมรวมถึงป้องกันสารเคมีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง โดยผู้ว่าฯ กทม.จะเดินทางไปพบผู้บริหารนิคมเพื่อวางแผนการทำงานร่วมกัน
           •   เร่งป้องกันสนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งศปภ.-ศูนย์พักพิง อย่างดีที่สุด ให้สามารถเข้าออกพื้นที่สนามบินได้ เพราะศปภ.เป็นหัวใจสำคัญในการแก้ไขน้ำท่วมทั้งประเทศ
           •   ผู้ว่าฯ กทม.สั่งทบทวนมาตรการป้องกันเขตพระราชฐานชั้นในและที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่อเนื่อง 6 เขตเสี่ยง รวมถึงดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
           •   ผู้ว่าฯ กทม.เผย 3 มาตรการป้องกันพื้นที่สำคัญ ในเขตพระราชฐาน สนามบินดอนเมือง และนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
           •   สถานการณ์น้ำวันนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุด 2.25 เมตร ขอให้ประชาชนนอกแนวป้องกันน้ำท่วมที่ยังไม่ได้ย้ายไปยังศูนย์พักพิง ขอให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ และขอให้ผู้ขับขี่เรือทุกประเภทลดความเร็วเรือขณะขับผ่านชุมชนด้วย
           •   10.30น. ผู้ว่าฯ กทม.แถลงสถานการณ์น้ำวันนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูง 2.25เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ขอให้ปชช.นอกแนวป้องกันที่ยังไม่ย้ายไปศูนย์พักพิงให้ระวังเป็นพิเศษ

วันจันทร์ ที่ 24 ตุลาคม 2554 เวลา 13.00 น.
สถานการณ์น้ำวันนี้


น้ำฝน
      - ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมาณฝนสูงสุด ที่เขตทุ่งครุ 26.5 ม.ม.
      - ปริมาณฝนรวมตั้งแต่ 1 ม.ค.-23 ต.ค. 54 รวม 2,193 มม. มากกว่าค่าเฉลี่ย 42.8 %
      - มวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ในกรุงเทพมหานครอาจมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ 30 % ของพื้นที่

น้ำเหนือ (ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา)
      - ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา + พระราม 6 รวม 3,893 ลบ.ม./วินาที (ลดจากเมื่อวาน 57 ลบ.ม./วินาที)
      - ปริมาณน้ำผ่าน อ. บางไทร 3,417 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 89 ลบ.ม./วินาที)
      - ระดับน้ำ ที่ อ.บางไทร 4.21 ม.รทก. (เท่ากับเมื่อวาน)

ฐานน้ำทะเลหนุนสูง
      - วันนี้ เวลา 02.59 น. ระดับ +0.97 ม.รทก. และเวลา 16.36 น. ระดับ +1.01 ม.รทก.
      - วันพรุ่งนี้ เวลา 05.13 น. ระดับ +0.73 ม.รทก. และเวลา 16.40 น. ระดับ +1.05 ม.รทก.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
      - วันที่ 23 ต.ค. 54 สูงสุด เวลา 15.45 น. ระดับ +2.25 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 55 ซม. สูงสุดในรอบ 15 ปี)
      - วันนี้ สูงสุด ช่วงเช้า เวลา 04.00 น. ระดับ +1.99 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 81 ซม.)
      - คาดการณ์ วันนี้ โดยกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เวลา 16.36 น. ระดับ +2.22 ม.รทก.

น้ำทุ่ง
      - ระดับน้ำในคลองหกวาสายล่าง เขตสายไหม ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ประมาณ 10 เซนติเมตร ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (มวลน้ำส่วนหน้าเคลื่อนเข้ามาพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว)
      - ระดับน้ำในคลองมหาสวัสดิ์ เพิ่มสูงขึ้น ประมาณ 7 เซนติเมตร

สภาพรวมสถานการณ์ในกรุงเทพมหานคร
      - เฝ้าระวังน้ำทุ่งจากคลองรังสิต คลองหกวาสายล่าง ให้ติดตามข้อมูลเป็นระยะ
      - คลองเปรมประชากร หน้าสน.ดอนเมือง ระดับน้ำสูงขึ้นล้นตลิ่ง
      - พื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันออก เฝ้าระวังพื้นที่เขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางเขน จตุจักร ลาดพร้าว คันนายาว คลองสามวา มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง บางพื้นที่อาจมีระดับน้ำที่เพิ่มมากขึ้น
      - คลองสายหลักอื่น ๆ อยู่ในระดับปกติ
      - มีการยกระดับบานประตูระบายน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำเข้ามาในพื้นที่คันกั้นน้ำ ทำให้ระดับน้ำในคลองมีระดับที่เพิ่มมากขึ้น สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เร่งสูบน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อควบคุมระดับน้ำในคลองให้อยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากนัก
      - ให้ประชาชนเฝ้าระวัง ตรวจสอบข้อมูล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

สภาพน้ำท่วมขังในถนนสายหลัก
      - ถนนสิรินธร ช่วงตั้งฮั่วเส็ง
      - ถนนวิภาวดี และถนนพหลโยธิน ช่วงดอนเมือง
      - ถนนสายไหม ช่วงวัดหนองใหญ่-ซอยเพิ่มสิน
      - ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงคลองประปา-คลองเปรมประชากร

ข้อมูลเพื่อความเข้าใจ
      - การเปิดประตูน้ำให้ไหลเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะทำให้ระดับน้ำในคลองสูงเพิ่มขึ้น แต่ในปลายคลองอีกฝั่งจะมีสถานีสูบน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตลอดเวลา
      - ระดับน้ำที่สูงขึ้น อาจส่งผลกระทบกับบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่ใกล้ๆ ประตูน้ำหรือคลองตอนบน แต่พื้นที่ด้านล่างใกล้ ๆ สถานีสูบน้ำจะมีระดับน้ำต่ำ เนื่องจากธรรมชาติ พื้นที่กรุงเทพมหานครค่อนข้างราบเรียบ ทำให้น้ำไหลลงมาได้ช้า
      - สภาพพื้นที่น้ำท่วม จะคล้าย ๆ กรณีมีฝนตกหนัก ๆ และส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ ๆ คลองสายหลักที่เปิดประตูระบายน้ำลงมา

           ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานพระราม 8 = 4025ลูกบาศก์เมตร/วินาที
           ปริมาณน้ำไหลผ่านคลองบางกอกน้อย 72.40ลูกบาศก์เมตร/วินาที

                      ผมยังไม่มีข้อมูลความก้าวหน้าการแก้ปัญหา น้ำที่เข้ามาทางจากคลองรังสิต เข้าสู่ดอนเมือง ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3798 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 13:47:30 »



ด้วยข้อจำกัด ทางความรู้ Computer ผมเลยเอาข้อมูลที่ผมได้ลองวิเคราะห์มาให้ดู ครับ

ท่านจะเห็นว่า ระดับน้ำที่ อยุธยา ลดลงแล้ว อย่างต่อเนื่อง

ท่านจะเห็นว่า ระดับน้ำที่ บางไทร คงที่กำลังทรงตัว หมายความว่าไม่มีน้ำสะสมเพิ่มขึ้นแล้วระดับเริ่มลดลง

ท่านจะเห็นว่า ระดับน้ำที่ ปทุมธานี สูงขึ้นน้อยลง  ๔ - ๑ ซ.ม. แสดงว่ามีน้ำสะสมเพิ่มขึ้นน้อยลงมาก

ท่านจะเห็นว่า ระดับน้ำที่ ปากเกล้ด สูงขึ้นน้อยลงจาก ๘ - ๘ - ๗ ซ.ม. แสดงว่ามีน้ำสะสมเพิ่มน้อยลง

ผมเชื่อมั่นว่า อีกสองวัน มวลน้ำก้อนใหญ่จะผ่านลงสู่อ่าวไทย ครับ

อดทนเอาไว้ครับ พี่น้องคนไทยทุกท่าน

เพื่อให้ทุกท่านนึกภาพออก  ลองพิจารณา ครับ

ระดับน้ำ ปากเกล็ด VS กทม.ปากคลองตลาด ต่างกัน เฉลี่ย = 3.20  - 1.50  = 1.70 m. (ประมาณการ)

น้ำลดลงเฉลี่ยวันละ 5 ซ.ม. ใช้เวลา = 1.70/0.05 = 34 วัน นับแต่นี้ไป เป็นอย่างเร็วครับ

(ช่วงแรกๆ จะลดลงอย่างช้าๆ แต่หลังจากนั้น 15 วันจะลดลงเร็วมาก ครับ)

ที่มั่นใจเพราะตัวเลขมันสอดคล้องกับการระบายน้ำลดลงจากเขื่อนเจ้าพระยา + พระราม ๖ ด้วย ครับ

ผมไม่ใช่โหรทำนาย  แต่ใช้การวิเคราะห์จากตัวเลข ระดับน้ำของกรมชลประทานเป็นหลัก

ใครมีความสามารถ ส่งข้อมูลนี้ไป ให้ประชาชนคนไทยทราบ จะได้สบายใจ

ว่าน้ำกังลังมาถึงจุดวิกฤติแล้ว  และจะสามารถรู้ว่า จะเป็นปกติเมื่อไร

ขอบคุณมากครับ

มานพ  กลับดี

๒๔ ต.ค. ๒๕๕๔
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3799 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2554, 16:27:31 »

                       ขณะนี้เวลา 16:25 น. ระดับน้ำขึ้นสูงสุดที่ปากคลองตลาด ระดับ 2.30 m.

                       พี่น้องที่อยู่ริมฝั่งเจ้าพระยากำลังเดือดร้อนหนัก บางแห่งที่เหนือขึ้นไป ระดับน้ำอาจจะเสมอหรือล้นคันกั้นน้ำ กทม.

                       อดทนเอาไว้ครับ อีกครึ่งชั่วโมง น้ำก็ลดลง แล้ว บ่างแห่งคันกั้นน้ำอาจจะพังได้ครับ

                       สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 150 151 [152] 153 154 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><