20 กันยายน 2567, 20:22:09
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 144 145 [146] 147 148 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3458913 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 15 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #3625 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 23:01:23 »



สำหรับ กทม. ... ถ้า ยื้อไปได้ เลยสิ้นเดือนนี้ ก็ รอดชัวร์ ครับ ... สะใจจัง

ปล.

นำแผนที่แสดงความสูง-ต่ำ ภูมิประเทศ ของ กทม. มาฝากครับ ..

อาจต้อง save แล้วเปิดดู ถ้าตัวเลขเล็กไป ใช้  Zoom ดูนะครับ


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3626 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 08:22:01 »

พี่สิงห์, ดร.มนตรี

ประตูน้ำคลองเชียงรากแตกแล้ว บางบัวทอง-บางกรวย ท่าจะไม่รอด
คลอง 1-4 คลองรพีพัฒน์ น้ำล้นข้ามถนน ทำถนนพังทั้งแถบ เสาไฟฟ้าเอน น้ำท่วมชั้น 1 ทุกบ้านแล้ว
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3627 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 08:34:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 18 ตุลาคม 2554, 19:57:53
น้ำจะไม่ท้วมกรุงเทพมหานครในแนวเขตคันกั้นน้ำ !!!

                          สวัสดีครับ เมื่อตอน 16:30 น. ผมออกไปเดินจงกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้าน เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง พอจิตนิ่งเป็นสมาธิ จิตมันก็คิดเรื่องน้ำรอบๆกรุงเทพมหานครที่ทุกคนกำลังผวาวาดกลัวว่าจะท้วม กทม.  จะอยู่อย่างไร ? นั้น ผมก็ทบทวนดู ได้ข้อสรุปว่า ในพื้นที่แนวคันกั้นน้ำของกรุงเทพมหานครนั้น ผมเชื่อมั่นว่า น้ำจะไม่ท้วม ครับ ด้วยเหตุผล

                        - ขณะผมเดินจงกรมอยู่นั้น อากาศบริสุทธิ์ของลมหนาวพัดมาให้ผมรู้สึกได้ นั่นแสดงว่า ฤดูฝนได้ผ่านพ้นไปจากกรุงเทพมหานครแล้ว  ต่อแต่นี้ไปฝนจะไม่ตกแล้ว พายุจะไม่มี แต่จะไปมีภาคใต้แทน  ผมจึงเชื่อมั่นว่า น้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ

                        - ประชาชนคนกรุงเทพมหานคร ต่างตระหนักถึงภัยที่จะมาถึง  รวมถึงท่านนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ( ยกเว้นคุณเฉลิม  อยู่บำรุง  คนเดียว ไม่ได้สนใจเรื่องน้ำท้วมเลย และอยากให้น้ำท้วม กทม.เสียด้วยซ้ำ จะได้มีเรื่องโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และกำลังจะต้องแต่งตั้งท่านอธิบดีกรมตำรวจคนใหม่ให้ได้ เพราะสำคัญกว่าน้ำท้วม กทม.ตามที่ได้รับคำสั่งมา) มีความตื่นตัว พอที่จะมาช่วย ท่านผู้ว่า กทม. ที่เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ในการรับมือครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะท่านเสียหายมาก ที่ไม่สามารถปกป้องนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ให้รอดพ้นได้  จนขาดความนับถือจากประชาชน  ความเชื่อมั่นต่อท่านไม่มี  คำสัญญา  แถลงการณ์อะไร จากรัฐบาล  จากท่านนายก ไม่มีใครเชื่อ เพราะทุกคนรู้ดีว่าท่านไม่มีความรู้  และท่านทำไม่ได้  ถ้าท่านปล่อยให้น้ำท้วม กทม. โดยที่ท่านไม่ได้ช่วย กทม. ท่านไม่มีที่อยู่แน่นอน  แต่ถ้า กทม. ปลอดภัยจากน้ำท้วม โดยที่ท่านไม่ได้มาเกี่ยวข้อง ท่านก็หมดความหมายเหมือนกัน  ดังนั้น งานนี้ท่านต้องช่วย กทม. อย่างเต็มที่ ผมจึงเชื่อมั่นว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ

                         - ท่านผู้ว่า กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เองก็รู้ดีว่า ถ้าน้ำท้วม กทม. ครั้งนี้ ไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้นของพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนกัน ดังนั้นทุกคนจึงตื่นตัว ทั้ง สส.  สก. สข.ที่ปรึกษา ระดมกำลังเข้าต่อกรกับน้ำทั้งหมด ผู้อำนวยการเขต ข้าราชการ กทม. ทั้งหมด ต่างตื่นตัวช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  ถึงแม้จะทำเป็นบ้าง  ไม่เป็นบ้าง แต่ต่างรู้ว่าต้องทำ  ดังนั้น ผมจึงมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ

                         - จริงอยู่ตามข่าวที่นำเสนอทาง TV นั้นดูหน้ากลัวมาก เจ้าหน้าที่ กทม. วางกระสอบทรายด้านทิศเหนือดูแล้วไม่ปลอดภัยเลยเหมือนวางไม่เป็น และเตี้ยเกินไป  จริงๆ การวางกระสอบทรายด้านทิศเหนือของกทม.นั้น เขาคิดจากระดับเดียวกันกับระดับคันกั้นน้ำคอนกรีตที่แม่น้ำเจ้าพระยา คือสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 2.80 - 3.00 เมตร ซึ่งตอนนี้คันกั้นน้ำสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางอยู่ที่ 70 เซนติเมตร โดยเฉลี่ย ถือว่าปลอดภัย  ผมจึงมั่นใจว่า น้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ

                         - ผู้ว่า กทม. เองก็รู้ดีว่า หนทางที่จะเอาชนะเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมได้นั้น ต้องไม่ปะทะตรงๆ ต้องเบี่ยงเบนทิศทาง บังคับมันให้ไปทางทิศอื่น ไม่ให้ประจัญหน้ากัน ด้วยการพยายามผันน้ำไปทางตะวันออกทาง คลองสามวา มันบุรี ลาดกระบัง และลงทะเลให้มากไว้ และอีกทางคือผันน้ำไปทางคลองทวีวัฒนาทางทิศตะวันตกให้มากไว้  ดังนั้นประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ผันน้ำของ กทม. ต้องยอมรับสภาพ ว่าท่านต้องเจอกับน้ำท้วมสูงแน่นอน เมื่อท่านผู้ว่าคิดได้ดังนี้ ผมจึงมั่นใจว่า กทม. น้ำจะไม่ท้วม ยุทธวิธีกระจายน้ำนี้ผมเรียกว่า ยุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก"

                         - กรมชลประทานเองก็รู้ตัวแล้วว่า มีโอกาศที่ท่านอธิบดีโดนปลดภายหลังน้ำลดแน่ๆ เพราะทำให้แถลงการณ์ต่างๆ ของ ศูนย์ป้องกันภัยน้ำท้วม และรัฐบาลเสียรางวัดไปมาก  จึงขอทำดีชดใช้ และเริ่มรู้แล้วว่า ไม่มีทางต่อกรกับเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมได้ ตรงๆ จึงสั่งให้ระบายน้ำออกไปตามคลองต่างๆ ที่เคยปิดไว้แต่ต้องต่อสู้กับประชาชนที่ไม่ยอมให้เปิด แต่สุดท้าย ท่านนายกคงเข้ามาจัดการให้จนสามารถเปิดได้ ช่วยระบายน้ำไปทางตะวันออก  ตะวันตก เป็นยุทธวิธีทำลายคอขวด ตามที่ผมเรียกคือ "ตีคอขวดให้แตก"  ผมจึงเชื่อว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ

                        - ผมยังมีคลองรังสิตซึ่งเป็นทัพหน้าให้ กทม. ที่จะต่อสู้กับเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม ซึ่งเอาชนะอยาก ต้องใช้เวลาในการสะสมพลังงานศักย์มาก และเวลานี้เองจะทำให้ยุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก" ของผมได้ผล คือมีเวลากระจายน้ำ  ผมจึงเชื่อมั่นว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ

                        - มีหลายท่านออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ให้ระวังน้ำที่ไหลไปทางบางบัวทอง ไทรน้อย ลาดหลุมแก้ว แถวๆ ปทุมธานี จะไหลย้อนกลับตีตลบหลังจะทำให้น้ำท้วม กทม. แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น มันเป็นพื้นที่กว้าง และมีคูคลองลองรับ การไหลย้อนกลับต้องใช้เวลามาก และน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังสูงกว่าน้ำด้านนั้น ดังน้ำน้ำไม่ไหลกลับแน่นอน แต่จะยังกระจายเดินหน้าเป็นวงกว้างต่อไป ยังจะช่วยให้ เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมอ่อนกำลังลง ต้องใช้เวลารวมพลเพิ่มพลังงานศักย์อีกมาก เห็นได้จากปริมาณน้ำที่อยุธยา  บางไทร ลดลง ครับ ดังนั้นผมยังเชื่อมั่นว่า น้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ

                         - สุดท้ายผมยังเชื่อมันทางวิชาการข้อมูลของ บริษัทที่ปรึกษา TEAM ที่นำเสนอมานั้นเชื่อถือได้ คนมีประสพการณ์ทางน้ำ อย่าง ดร.ประเสริฐ  ณ นคร ที่ผมกับ ดร.สุริยา ท่าน ศ. ดร.ปณิธาน และ ท่านอาจารย์ ดร.สุทธิพล  เคยเล่นเทนนิสมาด้วยกันนั้น ทำงานทางด้านน้ำมา ๓๐ ปี เป็นวิศวกรทางน้ำ และตัวเองจะได้รับผลกระทบมหาศาลด้วย คงไม่ทำลายตัวเองหรอกครับ ข้อมูลนั้นเป็นจริง วันนี้ผมเห็นออก TV ด้วย ยังแสดงความเชื่อมั่นในข้อมูลที่นำเสนอไปนั้น เชื่อถือได้  ดังนั้น ผมจึงเชื่อมั่นว่า กทม. น้ำจะไม่ท้วม ครับ

                            ดังนั้น ผมขอความร่วมมือทุกท่าน ที่อยู่ในแนวคันกั้นน้ำ กทม. ท่านสบายใจได้ และขอให้เอากระสอบทรายที่ท่านเตรียมเอาไว้นั้น ไปมอบให้ กทม. เสริมคันกั้นน้ำทางทิศเหนือดีกว่า เพราะผมดูแล้ว กทม. ยังขาดกระสอบทรายจำนวนมากในการเสริมคันกั้นน้ำทางนั้น จึงวางกระสอบทราบเพียงหนาสองลูกเท่านั้น  และสมมุติน้ำผ่านกำแพงคันกั้นน้ำ กทม. มาได้ ท่านคิดหรือว่า กระสอบทราย เครื่องสูบน้ำที่ท่านมีอยู่นั้น มันจะช่วยท่านได้   ท่านก็เห็นภาพแล้วที่นวนคร มีทั้งทหาร  เครื่องมือหนัก กระสอบทราย  ตู้คอนเทนเนอร์ใส่หิน สาระพัด ยังเอาน้ำไม่อยู่เลย  แล้วท่านจะเอาอยู่ได้อย่างไร  ไม่อยู่หรอกครับ เอากระสอบทรายไปให้ กทม. ดีกว่า  ถ้าผมมีรถ ผมจะเอากระสอบทรายบ้านผมไปบริจาคให้ กทม. เลยครับ หรือใครมีจิต ไปบอกเจ้าหน้าที่ กทม. หรือมาขนเอาไปให้ กทม. ผมจะกราบขอบพระคุณมากครับ

                            ผมว่าอาจารย์ถาวร   โชติชื่น  คงคลายกังวลนะครับ ผมรับรอง "น้ำไม่ท้วม กทม." ในพื้นที่แนวป้องกันแน่นอน 100% ครับ

                            ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ ราตรีนี้

 หมายเหตุ
                            ยุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก" คือ ตอนนี้น้ำที่ไหลมาเพื่อลงทะเลนั้นมันมากระจุกตัวรอลงทะเล อยู่ที่กรุงเทพฯ คือจากกว้างมาก มารวมเป็นกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ บริเวณแคบๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยา จะทำให้น้ำล้นเอ่อ มีระดับสูงขึ้น และท้วม กทม.ได้  ดังนั้นถ้าเราสามารถกระจายน้ำบางส่วนไปทางซ้าย ทางขวา และไปตามทางระบายน้ำผ่าน กทม.ไปตามคลอง ไปตามพื้นที่ว่างๆ และลงทะเล ให้มากที่สุด กำลังของน้ำ(ปริมาณ) จะลดลง คือเราตัดกำลังมัน เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมจะขาดกำลังเสริม ต้องใช้เวลาสะสมน้ำจำนวนมาก จึงจะเข่าต่อกรกับคันกั้นน้ำของ กทม.ได้ ยิ่งใช้เวลานานในการสะสม น้ำบางส่วนก็ลงทะเลมากเหมือนกัน คอขวดของน้ำมันจึงแตกกระจาย  หวังว่าคงเข้าใจนะครับ


น้ำไม่ท้วมกรุงเทพมหานครแน่นอน 100% !!!

                      - เช้านี้ผมออกมาเดินจงกรมออกกำลังกายยามเช้าตั่งแต่ 05:50 น.ภายหลังนั่งเจริญสติอยู่บนเตียงนอน อากาศ กทม.สดชื่น มีลมเย็นจากอากาศหนาวมาให้สัมผัสได้แล้วนะครับ แต่รัวังต้องให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้ เพราะอากาศหนาวจะมากับไข้หวัดใหญ่ ครับ

                       - นับแต่นี้ไปฝนจะตกน้อยลง กรุงเทพมหานครปลอดภัยจากน้ำฝนแล้วนะครับ

                       - ตอนนี้ถ้าทุกท่านดุ TV ฟังข่าวทางวิทยุ ท่านจะได้ยินคำว่า "น้ำจากทุ่ง" จากทางศูนย์ของรัฐฐาล นายกรัฐมนตรี คนรัฐบาล โฆษก ผู้สื่อข่าว ต่างๆ ที่ไม่รู้ความจริงแต่เอามากล่าวถึงกัน ณขณะนี้ ซึ่งผมเข้าใจว่ากรมชลประทานบัญญัติขึ้นมา ตอนนี้ "น้ำจากทุ่ง" กลายเป็นตัวร้าย ที่กรมชลประทานใช้เป็นข้ออ้างว่า สาเหตุน้ำท้วมเพิ่มขึ้น กรมชลประทานไม่สามารถควบคุมได้นั้นคือ "น้ำจากทุ่ง" แต่น้ำจากเขื่อนกรมชลประทานคุมได้รักษาสถานการณ์ ได้ กรรมจริงๆ ครับที่คิดอย่างนี้ หาแพะรับบาป เพื่อให้ตัวเองรอด มาดูกันครับ

                       - "น้ำจากทุ่ง" เกิดจาก หนึ่ง น้ำฝนที่ตกหลังเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระรามหก ผมคิดว่ามีประมาณไม่เกิน 10% ของปริมาณมวลน้ำทั้งหมด(ประมาณการไปทางมาก) สอง เกิดจากน้ำที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสัก พระรามหก เป็นหลัก ซึ่งควบคุมโดยกรมชลประทาน
                       - ธรรมชาติของน้ำจะไหลจากที่สูงไปที่ต่ำเสมอ พื้นที่ทุ่งนาเป็นที่ราบลุ่มน้ำจึงไปพักไว้ในทุ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเพราะนั่นคือแก้มลิงธรรมชาติที่จะพักน้ำ ชะลอน้ำไม่ให้ไหลท้วมตัวเมือง เขตอุตสาหกรรม กทม. ทันทีสามารถยืดอายุการท้วมไปได้เป็นเดือน เพราะกรมชลประทานท่านระบายน้ำออกตลอดเวลา ท่านสามารถดูได้เลยตัวเลขการระบายน้ำออกจากเขื่อน คค่อนข้างคงที่ตลอดในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา คือปล่อยเต็มทีตลอดเวลา มาณเวลานี้และในอนาคตอีกหนึ่งเดือนไม่ได้ลดลงเลยจากเขื่อนเจ้าพระยา เป็นการสร้าง "น้ำจากทุ่ง" ให้มีปริมาณมากขึ้นตลอดเวลา ท่านลองหลับตาดู ถ้าไม่มีทุ่งรับน้ำเสียแล้วป่านี้ กทม. บ้านสองชั้นก็มิดหลังคาครับ
                        - ถ้ากรมชลประทานมีปัญญา ต้องหยุดเติมน้ำเข้าไปในทุ่ง คือปิดเขื่อน หรือเปิดเขื่อนให้น้อยลง หรือเบี่ยงเบนทิศทางน้ำ คือระบายไปทางอื่นให้มากก็คือสุพรรณบุรี (ตัวเลขการระบายไปทางนั้นเท่ากันตลอดมาสองเดือนไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตามที่กรมชลประทานบอกระบายไปมากกว่าที่จะรับน้ำได้  แต่ทำไม พื้นที่ส่วนใหญ่ของสุพรรณบุรี  ไม่มีน้ำ ครับ ท่านคิดเอาเอง)
                         - ท่านลองนึกถึงตุ่มน้ำ ที่ท่านเิดจนน้ำเต็มตุ่มแล้ว ถ้าท่านปิดกอกน้ำ หรือตักน้ำไปที่อื่น น้ำมันก็ไม่ล้นตุ่ม แต่ท่านยังเปิดก๊อกน้ำมาตลอดเวลา น้ำมันก็ล้นออกจากตุ่ม นองพื้นสร้างความเสียหาย ฉันใด แม่น้ำเจ้าพระยา ทุ่งนา ก็รับน้ำได้จำกัด เมื่อท่านเติมน้ำเข้ามาตลอเวลาในปริมาณมากกว่าการไหลลงทะเล มันไม่เหมือนตุ่มที่ล้นออกและสร้างความเสียหายให้พื้น แต่เจ้าพระยา ที่ราบลุ่มมันไม่มีที่ล้น ไม่มีที่ไป มีอย่างเดียวคือในอากาศ คือสร้างระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ มันก็เป็นโศกวนาศกรรมน้ำท้วมตามที่ท่านเห็น
                         - ดังนั้น อย่าไปหาแพะ "น้ำจากทุ่ง" ที่ควบคุมไม่ได้เลยครับ ท่านนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี โฆษก กรมชลประทาน และท่านผู้ว่าราชการจังหวัด มันเป็นเพียงสมมุติบัญญัติ เท่านั้น ทางที่จะแก้คือ หยุด หรือทำให้น้อยลงอย่าระบายน้ำมาใส่ทุ่ง เป็น "น้ำจากทุ่ง" อีกเลย ควรที่ท่านจะหาทุ่งเพิ่มขึ้นให้น้ำไปชละอยู่สักพัก ในกรณีที่ท่านต้องปล่อยน้ำจากเขื่อน แต่ท่านก็กระทำตรงกันข้ามตลอดเวลา และท่านต้องปล่อยไปทางสุพรรณบุรีให้มากกว่านี้ น้ำเหนือเขื่อนจึงจะลดลง ถ้าท่านทำสองประการนี้เดี๋ยวนี้ "น้ำจากทุ่ง" มันก้หมดกำลังเพราะไม่มีใครมาเติมให้มัน ครับ
                         - ตอนนี้ท่านจะต้องยึดหลักยุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก" ขอผมย่างมั่นคง คือกระจายน้ำที่จะผ่าน กทม.ในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เป็นคอขวดอยู่ขณะนี้ ทำให้น้ำเออสูง สามารถทำความเสียหายต่างๆให้เกิดขึ้นได้ ให้กระจายไปตามคลองต่างๆ ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๕ ท่านทรงสร้างเอาไว้ แต่ประชาชนรุ่นหลังไม่รักษาเอาไว้ให้ดี ปล่อยให้ตื่นเขิน ต้นไม้ขึ้นรกทึบ ซึ่งหน้าที่ดูแลคือกรมชลประทาน ท่านต้องทำตามที่นายวีระ  แสงนาค ที่ปรึกษากรมชลประทานเสนอ ระบายน้ำออกไปทางตะวันออก ทางตะวันตก ให้มากกว่านี้อย่าไปปิดประตูระบายเอาไว้โดยนักการเมืองท้องถิ่น(สส.พรรคเพื่อไทย) เพื่อกักน้ำ เพราะถ้าทำอย่างนี้น้ำไม่มีที่ไป น้ำจะท้วม กทม.(เหมือนจงใจ) รัฐบาลต้องสามารถระบายน้ำได้เพื่อกระจายน้ำไม่ให้เป็นคอขวดตามยุทธวิธี "ตัคอขวดให้แตก" คือออกพระราชกำหนดฉุกเฉิน ให้อำนาจรัฐ กรมชลประทานสามารถกระทำได้ คือเปิดประตูระบายน้ำออกไปให้น้ำกระจายไปที่อื่น "คอขวดก็จะแตก" ครับ

                         ทำจิตให้ผ่องใส อย่าไปปรุงแต่ง คือคิดมากในสิ่งที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส ได้สัมผัส หรือปล่อยจิตนึกคิด ท่านต้องสร้างความรู้สึกตัวไปกับอิริยาบถ ของท่าน แล้วท่านจะมีจิตเหนืออายตนะ และไม่ทุกข์แบบผมครับ

                         สวัสดีครับ
               
         
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3628 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 08:39:00 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 ตุลาคม 2554, 08:22:01
พี่สิงห์, ดร.มนตรี

ประตูน้ำคลองเชียงรากแตกแล้ว บางบัวทอง-บางกรวย ท่าจะไม่รอด
คลอง 1-4 คลองรพีพัฒน์ น้ำล้นข้ามถนน ทำถนนพังทั้งแถบ เสาไฟฟ้าเอน น้ำท่วมชั้น 1 ทุกบ้านแล้ว

สวัสดี ยามเช้าคุณเหยง

                    - คงโล่งอกแล้วซินะ ตอนนี้ ระดับน้ำเริมลดลงอย่างต่อเนืองที่นครสวรรค์

                    - มันต้องพังแน่นอน เพราะไปปะลองกำลังกับ เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม

                    - ต้องไม่สู้กับมัน ต้องระบายออกไป  กระจายน้ำออกไป อย่าไปกักเอาไว้ ให้คอขวดมันแตกไปมากๆ ให้ละเอียด น้ำจะกระจาย ไม่ท้วมสูง ครับ

                      สวัสดี


อย่าลืม ยุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก" จะทำให้ทุนคนปลอดภัยทั้งหมด ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3629 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 09:12:38 »

สถานการณ์น้ำล่าสุด พื้นที่กรุงเทพมหานคร
วันพุธ ที่ 19 ตุลาคม 2554 เวลา 08.47 น.
ข้อมูลล่าสุด


          08.00 น. กทม.ไม่พบกลุ่มฝน I ระดับน้ำชายแดน กทม. ด้านปทุมธานีและคลองเปรมประชากรอยู่ในระดับปกติ

                         วันนี้กทม.เร่งสร้างแนวกระสอบทราย ตอนคลองหกวาสายล่างเพื่อเป็นแนวกั้นน้ำชั้นที่ 2 คาดว่าจะเสร็จภายในวันนี้ ระดับน้ำในคลองหกวาสายล่างยังเป็นปกติ

                         วันนี้น้ำขึ้นเต็มที่เวลา 13.02 น. ฐานน้ำ 1.00 ม.รทก.

                         ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุด 18 ต.ค.(ม.รทก.) บางนา+1.55 เวลา 10.00 น. ปากคลองตลาด+2.05 เวลา 11.15 น. บางเขนใหม่+2.44. เวลา 11.45 น.
                         
                          ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อเวลา 08:45 น. ระดับ +1.50 ม. คันกั้นน้ำสูง  +2.80 ม. ปลอดภัยครับ

                          ระดับน้ำปัจจุบัน บางนา+0.71 ปากคลองตลาด+1.67 บางเขนใหม่ +2.15

                          ระดับต่างๆ ในทุกคลองของสำนักการระบายน้ำปกติ ครับ สบายใจได้

สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 19 ตุลาคม 2554 (เวลา 06.00 น.)
 
น้ำฝน

                     - ใน 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา ไม่มีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

                     - ปริมาณฝนรวมตั้งแต่ 1 ม.ค.-18 ต.ค. 54 รวม 2,191.0 มม. มากกว่าค่าเฉลี่ย 46.8 %

                     - มวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนลดลง

น้ำเหนือ (ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา)

                     - ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา + พระราม 6 รวม 4,156 ลบ.ม./วินาที (ลดจากเมื่อวาน 30 ลบ.ม./วินาที)

                     - ปริมาณน้ำผ่าน อ. บางไทร 3,677 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 100 ลบ.ม./วินาที)

                     - ระดับน้ำ ที่ อ.บางไทร 4.16 ม.รทก.

ฐานน้ำทะเลหนุนสูง

                     - วันนี้ เวลา 13.02 น. ระดับ +1.00 ม.รทก. และเวลา 20.19 น. ระดับ +0.93 ม.รทก.

                     - วันพรุ่งนี้ เวลา 14.08 น. ระดับ +0.98 ม.รทก. และเวลา 20.33 น. ระดับ +0.87 ม.รทก.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด

                     - วันนี้ 18 ต.ค. 54 ช่วงเช้า สูงสุด เวลา 11.15 น. ระดับ +2.05 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 75 ซม.)

                     - วันนี้ 18 ต.ค. 54 ช่วงเย็น สูงสุด เวลา 20.15 น. ระดับ +2.01 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 79 ซม.)

                     - คาดการณ์ วันนี้ โดยกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เวลา 13.02 น. ระดับ +2.03 ม.รทก.

                        ระดับน้ำคลองต่าง ๆ เขตกรุงเทพมหานคร ภายในคั้นกั้นน้ำ ส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะปกติ

                        ระดับน้ำในคลองด้านตะวันออก คลองแสนแสบ คลองประเวศน์บุรีรมย์ คลอง 13 คลองหลวงแพ่ง ระดับน้ำทรงตัว

                        ระดับในคลองด้านตะวันตก คลองมหาสวัสดิ์ มีระดับสูง +1.97 ม.รทก.

ระดับน้ำในคลองด้านเหนือ
 
                         - คลองสอง น้ำเพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร จาก 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

                         - คลองพระยาสุเรนทร์ น้ำเพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร จาก 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพรวมสถานการณ์ในกรุงเทพมหานคร

                         - ในพื้นที่คันกั้นน้ำ สถานการณ์ ปกติ

                         - เฝ้าระวังน้ำทุ่ง ด้านเหนือและด้านตะวันออก
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #3630 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 09:22:50 »

มาอ่านเรื่องคลายเครียดกันนะครับ คงไม่ว่ากัน

สงสาร 'ยิ่งลักษณ์' เถอะ!..อย่าทรมานเธออีกเลย

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


"11 วันของการเปิด ศปภ. ที่ตามมาด้วยฉายาใหม่ๆ มีหลากหลายเหตุผลที่ ไม่ชอบชื่อเดิม "ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย"

  แต่ที่เห็นตรงกันเป็นส่วนใหญ่ คือ ที่ผ่านมาการบริหารหนักไปทางล้มเหลว ซึ่งสะท้อนและพอสรุปได้ว่ามีช่องโหว่ในการบริหาร และหากยังปล่อยแบบนี้ไม่เฉพาะประเทศเท่านั้นที่น่าสงสาร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็น่าจะร้องไห้ ทรมาน เช่นเดียวกัน"


  8 ต.ค. 2554 เกิดองค์กรใหม่ขึ้นมา ศปภ. มาพร้อมกับความหวังว่าจะสามารถบูรณาการวิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพ...แม้ว่าจะจัดตั้งช้ากว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำ...

 เพราะว่าการรวมศูนย์เพื่อบริหารวิกฤตินั้น เป็นสิ่งที่ทั่วโลกหรือสากลทำกัน!

 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เดินตามนั้น หลังจากที่วนเวียนกับการวีดิโอคอนเฟอเรนซ์" ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ กับ นโยบาย 2P2R ( Preparation : Prevention : Response : Recovery) มาสักระยะหนึ่ง !

 คำถามจึงอยู่ที่ว่าเมื่อหันมาเน้นบริหารแบบรวมศูนย์ผ่าน ศปภ. ทำไมจึงไม่เกิดประสิทธิภาพ อย่างที่ควรจะเป็น?

 แน่นอนว่า อาจจะไม่ได้เกิดจากปัจจัยใด...ปัจจัยหนึ่ง หลากปัญหาเข้ามารุมเร้า ที่สำคัญมาจากต้นตอการประเมินผิดคาดตั้งแต่ต้น เพราะว่าหลายองค์กรและศปภ.ก็ยอมรับเองว่า ปริมาณน้ำฝนมากกว่าที่ประเมินไว้มาก ทำให้เกือบทุกเขื่อนไม่สามารถรองรับได้ตามที่ควรจะเป็น

 เพราะปริมาณฝนที่ตกเกินกว่าปกติ 40% นั้น หากไม่เตรียมเขื่อนให้ว่างที่มากพอ ก็ไม่อาจรองรับได้ สุดท้ายก็ต้องระบายไปตามพื้นที่ต่างๆ เพราะตัวเลขมวลน้ำที่สูงถึง 1.6 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร ไม่น้อยเลย และเกือบ8 พันล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำค้างทุ่ง ซึ่งนั้นหมายความว่าไม่ได้ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

 มวลน้ำเกือบ 8 พันล้านลูกบาศก์เมตร จึงกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ...ตั้งแต่ ชัยนาท>ลพบุรี>นครสวรรค์>พระนครศรีอยุธยา>ปทุมธานี ลงเรื่อยมายัง กรุงเทพฯ ที่กำลังตระหนกอยู่ในวันนี้

 ตัวแปรที่เหนือความคาดหมายเช่นนี้  ใครเข้ามาบริหารประเทศช่วงนี้ก็เหนื่อยทั้งนั้น เพียงแต่สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วน่าจะหนักหนากว่าคนอื่นๆ เพราะมีความพิเศษที่ นายกรัฐมนตรีในอดีตไม่มี

 - ขาดทีมงานที่มีคุณภาพ...รัฐมนตรีหลายคนทำงานไม่เป็น แต่งตั้งเข้ามาตามโควต้าฐานคะแนนและกลุ่มเคลื่อนไหว...ยามวิกฤติเช่นนี้ หลายคนหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 -  บารมี และความเป็นผู้นำ ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีให้เห็น โอกาสที่ประชาชนมอบให้ถดถอยลงเรื่อยๆ ทำให้การตัดสินใจในยามวิกฤติ จึงไม่เกิดผล

 - โครงสร้างข้าราชการ กองทัพ กับ รัฐบาล น่าจะมีราบเรียบนัก แม้ว่าระยะหลังดูจะทำงานร่วมกันมาก แต่ก็ไม่ได้แนบเนียน เมื่อเทียบกับรัฐบาลก่อนหน้า

 - การเมืองท้องถิ่นกับรัฐบาลกลาง มีช่องโหว่ ช่องว่างในหลายจุดไม่เฉพาะ กทม.เท่านั้น เพราะตัวแทนท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องเน้นดูแลประชาชน ของตัวเองในท้องที่มากกว่าจะมองการแก้ปัญหาในภาพรวม หรือนำไปสู่บูรณาการอย่างที่มุ่งหวัง

  เชื่อว่านายกรัฐมนตรี "คิดดีและตั้งใจดี"...แต่ด้วยโครงสร้างที่บิดเบือน ...สถานะ"เป็นแค่ตัวแทน" (อย่างซื่อสัตย์)...จึงเป็นเรื่องยากที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะทำหน้าที่"นายกรัฐมนตรี"ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะพยายามเต็มกำลัง หรือคิดดี แค่ไหน

 เพราะหัวใจอยู่ที่ปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริง!

 ศูนย์เปลืองภาษี...ศูนย์ปราศจากภูมิปัญญา หรือจะเรียกว่าอะไรก็ได้...แต่อย่างน้อย ศปภ. ได้สะท้อนแล้วว่ายามวิกฤติ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"...ไม่อาจบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พรรคเพื่อไทยควรคิดล่วงหน้าได้แล้ว (หรือคิดไว้แล้ว) ว่า บุคคลที่เหมาะสมคนต่อไปควรเป็นใคร?

 สงสารเถอะ! อย่าทรมานเธออีกเลย!
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3631 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 10:42:43 »


สรุป สถานการณ์น้ำประจำวัน วันอังคารที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๔

      - เขื่อมภูมิพล ปริมาณน้ำในอ่าง 100% ไหลเข้า 90.30 ไหลเข้าเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 16.02 ระบายออก 60 ระบายออกมากกว่าเมื่อวาน 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  สัญญาณอันตรายแล้วครับ ดังนั้น มีโอกาสที่ระดับน้ำที่นครสวรรค์ที่ลดลงนั้น จะกลับมามีระดับทรงตัว และเพิ่มขึ้นอีก ขอให้จับตาการรับายน้ำออกจากเขื่อน แสดงว่าฝนยังตกเพิ่มมากขึ้นในบริเวณนั้น

      - เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำในอ่าง 99% ไหลเข้า 28.89 ไหลเข้าเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 2.85 ระบายออก 10.01 ระบายออกลดลงจากเมื่อวาน 10.02 ล้านลูกบาศก์เมตร  สาเหตุที่ระบายออกลดลงมากนั้น เพื่อช่วยให้ยอดรวมระบายออกเท่าเดิม เพราะเขื่อนภูมิพลระบายออก เพิ่มขึ้นมาก เป็นสัญญาณที่ไม่ดี เพราะยังมีฝนตกมากในบริเวณนั้น

      - เขื่อนแควน้อย ปริมาณน้ำในอ่าง 100% ไหลเข้า 8.47 ไหลเข้าลดลงจากเมือ่วาน 1.43 ระบายออก 8.64 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออกเท่ากับเมื่อวาน   แสดงว่าบริเวณนั้นมีฝนตกน้อยลง เป็นสัญญาณที่ดี ครับ

      - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำในอ่าง 138% ไหลเข้า 45.16 ไหลเข้าเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.64 ระบายออก 34.58 ระบายออกเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 8.64 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นสัญญาณไม่ดี ที่ยังมีฝนตกมากในบริเวณนั้น และอนาคตต้องปล่อยน้ำออกเพิ่มมากขึ้น

      - เขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำหน้าเขื่อน 17.71 m. ระดับน้ำเหนือเขื่อนเท่ากับเมื่อวาน ปริมาณน้ำระบายออก 3,610 ระบายออกเท่าเมื่อวาน แสดงว่าน้ำยังคงมีกำลังหนุนต่อเนื่อง ส่งมาให้ เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม อยู่ตลอดเวลา กำลังสะสมพลังงานศักย์ อยู่นะครับ

      - เขื่อนพระรามหก ระดับน้ำหน้าเขื่อน 9.32 m. ลดลงจากเมื่อวาน 0.12 m. ปริมาณน้ำระบายออก 546 ลดลงจากเมื่อวาน 30.0 ล้านลูกบาศก์เมตร
ต่อวินาที  เป็นสัญญาณที่ดี แต่อนาคตต้องระบายออกเพิ่มขึ้น เพราะ เขื่อนป่าสักมีความจุ 138%

        - นครสวรรค์    วันนี้  4,452   เมื่อวาน   4,524  ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน

        - อุทัยธานี      วันนี้    697    เมื่อวาน     703   ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน

        - สิงห์บุรี        วันนี้  2,910    เมื่อวาน   2,895  ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน

        - อ่างทอง      วันนี้  2,656    เมื่อวาน   2,652  ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมือ่วาน

        - อยุธยา        วันนี้  1,471    เมื่อวาน   1,477  ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน

        - บางไทร      วันนี้  3,755     เมื่อวาน   3,776  ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน

        - ระดับน้ำ ที่จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี ไม่มีการวัด แสดงว่าน้ำท้วมสูงเกินระดับที่สามารถวัดได้


            สรุปโดยภาพรวม  

                    - ปริมาณน้ำใหลเข้าเขื่อนต่างๆ รวมกันเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน เป็นสิ่งที่ไม่ดี  เพราะเขื่อนอาจจะระบายน้ำออกเพิ่มขึ้นในอนาคต

                    - การระบายน้ำออกจากเขือนต่างๆ โดยรวมเท่าเดิมจากเมื่อวานนี้ เป็นสิ่งที่สมควรกระทำอย่างยิ่ง ทำให้มีผลกระทบท้ายเขื่อนลดลง

                    - ปริมาณน้ำที่ผ่านนครสวรรค์ เริ่มลดลง  ระดับเริมลดลง เป็นสัญาณที่ดี ระดับน้ำจะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ ครับแต่ใช้เวลาสักหนึ่งเดือนครึ่ง แต่อย่าลืมเขื่อนภูมิพลปล่อยน้ำเพิ่มขึ้น

                    - ปริมาณน้ำที่ผ่านจากสิงห์บุรี  อ่างทอง  เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณที่ไม่ดี ต้องเฝ้าระวังคันกั้นน้ำเดิมให้ดี แสดงว่าน้ำหยุดไหลลงแก้มลิงฝั่งตะวันตก คงมาจากกการปิดไม่ให้น้ำไหลลงทุ่ง  เป็นความคิดที่ผิด เราต้องปล่อยให้น้ำที่สิงห์บุรี -อ่างทอง ลงทุ่งตะวันตก เพราะเมื่องลงทุ่งไปแล้ว มันจะไปโผล่ที่สุพรรณบุรี แต่ระดับจะไม่สูง และมันจะไปลงทะเล ไม่กลับมาลงในแม่น้ำเจ้าพระยาอีก เป็นการตัดกำลังเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม ครับ  แต่จากการสอบถามน้องสาวในพื้นที่ ระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิม แสดงว่ามีการปล่อยน้ำจากเขื่อนชัยนาทเพิ่มขึ้น แต่ไม่แสดงทางกรมชลประทาน

                    - ปริมาณน้ำที่ผ่านอยุธยา บางไทร ตามตัวเลขลดลง เป็นผลมาจากน้ำได้กระจายไปยังฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก กระจายไปตามทุ่งเป็นการดี เพราะน้ำเหล่านี้ไปแล้วไปเลยไม่หวลกลับ ดังนั้นอย่าไปปิดกั้นมัน ปล่อยให้มันไป ระดับน้ำไม่สูงมากหรอกครับ ไม่ต้องกลัว

                    - ขณะนี้เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม อยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางกระดี่  บางบัวทอง นนทบุรีครับ ผมขอย้ำเตือน อย่าไปยันมัน ปล่อยให้มันผ่านไป จะท้วมถนนก็ต้องยอม เพราะถ้ามันกระจายไปตามพื้นที่กว้างๆ ระดับน้ำจะไม่สูง  แต่ถ้าไปกัก ไปกั้นมัน ท่านสู้ไม่ไหว และระดับน้ำมันจะสูง มีความเสียหายมากกว่า ครับ

                      นี่คือ ภาพรวมวันนี้
 
                       
ต้องแก้ปัญหาที่เหตุ

                     - น้ำท้วมนครสวรรค์มาจาก การปล่อยน้ำจากเขื่อน ต้องยุติทันที และระบายออกทางสุพรรณบุรีด้วยประตูระบายน้ำทั้งสองแห่งอีกสอง สามเท่าตัวจากปัจจุบัน น้ำไม่ท้วมสุพรรณบุรี สูงจนคนอยู่ไม่ได้หรอกครับ อย่างเก่งเพียงเอว ซึ่งผิดกับที่อื่น 3.5-4.00 ม. ไม่มีบ้านอยู่ ถนนหลวงก็ไม่มีที่อยู่  ทำตามนี้ ผมรับรองน้ำนครสวรรค์ลดลงทันทีทันใดเห็นๆ

                     - เปิดน้ำเข้าทุ่งตะวันตก ซึ่งมีพื้นที่ 2-4 ล้านไร่ ซึ่งเป็นแก้มลิงธรรมชาติ ที่กรมชลประทานระบายไปเก็บไว้ชั่วคราวทุกปี กำลังรอน้ำจากกรมชลประทาน เพราะเกี่ยวข้าวหมดแล้ว น้ำโคลนจะเพิ่มปุ๋ยตามธรรมชาติ น้ำจะไหลลงอยุธยา ปทุมธานี กทม. ลดลงขาดกำหลังหนุน จะสามารถกู้เขตเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรม กลับมาได้  ถ้าท่านไม่ปล่อยน้ำลงไป ประชาชน อดทนมาสองเดือนจะทนไม่ไหว ที่เห็นความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น จะใช้กฏหมู่ค่อยๆ พังคันกั้นน้ำบนถนน เขื่อนชัยนาท-สิงห์บุรี-อ่างทอง ลงไปเรื่อยๆ ไม่เชื่อคอยดูครับ

                     - น้ำท้วมสุพรรณบุรี ที่ท่านเห็น นั้นมาจากน้ำที่ล้นจากถนนสาย อ่างทอง-สิงห์บุรี เข้าไปทุ่งตะวันตกตอนล่าง ครับ ระดับน้ำไม่สูง เพราะโดนบังคับโดยความสูงของถนนอ่างทอง-สิงห์บุรี เป็นทางน้ำล้น ไม่อันตรายใดๆทั้งสิ้น ข้อดี น้ำที่ไปอยู่ในแก้มลิงนี้จะไม่ไหลกลับมาลงเจ้าพระยา
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3632 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 11:53:39 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 18 ตุลาคม 2554, 20:14:32
พี่สิงห์

ณ นาทีนี้ ผมเริ่มไม่มั่นใจมากกว่าร้อยละ 55 แล้วน่ะครับว่า กทม.ไม่รอดแน่ ??!!


ผู้ว่ากทม.พ้อรัฐบาลส่งถูกกระดาษ8แสนใบมาให้บรรจุทราย
วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2011 เวลา 19:14 น. ณัฐญา เนตรหิน

ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม. เปิดเผยว่า  รัฐบาลได้จัดถุงใส่ทรายมาให้ 8 แสนใบมาให้ แต่อาจเกิดความเข้าใจผิดเพราะที่มอบให้เป็นถุงกระดาษไม่สามารถบรรจุทรายกั้นน้ำได้ แต่ก็ไม่อยากคิดว่ารัฐบาลตั้งใจวางยา ขณะนี้การบรรจุทรายได้รับความร่วมมือจากประชาชนและใช้ถุงของกทม. ซึ่งตนยืนยันมาตลอดว่าพร้อมที่จะช่วยตัวเองหากไม่มีใครช่วย ขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากกองทัพอากาศในเรื่องกองกำลังช่วยสร้างคันกั้นน้ำในคลองหกวา ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญและยังเชื่อมั่นในคำสัญญาของรัฐบาลว่า หากมีการระบายน้ำในส่วนรอยต่อที่มีผลกระทบต่อเมืองหลวงจะประสานงานมายังกทม. เช่น กรณีที่จะเปิดประตูน้ำ 5 บาน เพื่อระบายน้ำจากนวนคร รัฐบาลก็แจ้งมาว่าจะไม่เปิดพร้อมกัน โดยจะทยอยระบายและให้กทม. สร้างพนังกั้นน้ำให้เสร็จก่อน อีกทั้งยืนยันตลอดว่าจะรักษาพื้นที่เมืองหลวงเอาไว้ คิดว่ารัฐบาลจะรักษาสัญญานี้
         
 “ขอย้ำว่าการรับฟังข่าวสาร ทั้งเรื่องการแจ้งเตือนภัย หรือผลประทบในพื้นที่ขอให้ฟังผมคนเดียว แม้จะมีหลายฝ่ายพูดเรื่องความปลอดภัยในกทม .แต่ขอให้เชื่อผมคนเดียว โดยยังมั่นใจว่าจะสามารถแจ้งประชาชนได้ล่วงหน้า หากน้ำไหลเข้าพื้นที่และถึงวันนี้มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะสถานการณ์ดีขึ้น จากเมื่อวานที่แจ้งว่ารัฐบาลควบคุมน้ำได้ ทำให้เรามีเวลา 48 ชั่วโมง ในการสร้างคันกั้นน้ำ แต่ขณะนี้คันกั้นน้ำหลายจุดก็ใกล้เสร็จแล้ว ไม่อยากให้รัฐบาลเซอร์ไพรซ์แบบนี้บ่อยนัก ผมไม่อยากตื่นเต้นมากเกินไป”ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว


http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=88924:8&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524

อ่านเอาเองครับ นี่แหละสามัคคีเภท...........

รัฐโต้ไม่ได้วางยา กทม. ให้ถุงกระสอบทรายไม่ได้

http://www.thairath.co.th/content/pol/210419
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3633 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 12:27:57 »

สวัสดีตอนเที่ยง ครับชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติที่รักทุกท่าน

                        ท่านอย่าแตกตื่นเกินเหตุ ครับ ณ เวลานี้ ผมก็ยังเชื่อมั่นว่า พื้นที่ในแนวคันกั้นน้ำของ กทม. นั้นน้ำไม่ท้วมแน่นอน ครับ

                        ก่อนหน้านี้ผมได้สอบถามไปทางคุณราเมศวร์  ศิลปพรหม ว่าเป็นอย่างไร คุณราเมศวร์ บอกว่า ระดับน้ำในคลองรังสิตยังต่ำกว่าคันกั้นน้ำ ประมาณ 0.60 ม. ยังปลอดภัย ครับ

                        ผมตรวจสอบระดับน้ำที่คลองเปรมประชากร น้ำในคลองยังปกติ

                         สำหรับน้ำที่เข้าท้วม Furture Park รังสิตนั้น เป็นผลมาจากน้ำล้นถนนพหลโยธิน กับน้ำที่ไหลลงมาจากประตูน้ำพระอินทร์ ดีแล้วครับปล่อยให้มันระบายไป เพราะถ้าไหลข้ามถนนพหลโยธินไปแล้ว มันจะไม่ไหลกลับมาแม่น้ำเจ้าพระยา อย่าไปกั้นมัน ถนนพหลโยธิน มันใช้การไม่ได้อยู่แล้ว กรมทางหลวงอย่าไปกู้คืนมาตอนนี้ มันจะไปทุ่งรังสิตตะวันออก ออกไปทางนครนายก เราจะเห็นว่าขณะนี้มีปัญหาเรื่องการเปิดประตูระบายน้ำตามคลอง ๑-๖ ที่ท่านนายกสั่งให้เปิด แต่ชาวบ้านไม่ยอมอยู่นั้น เป็นเหตุให้น้ำท้วม Furture Park และถ้ายังไม่เปิดประตูระบายน้ำ ประตูก็จะพังตามมาเพราะทนแรงดันน้ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ไมไหว ทางที่ดีพบกันครึ่งทางก็ได้ ค่อยๆ เปิด ประตูจะไม่พังครับ  น้ำออกไปทางนี้จะตัดกำลังเจ้า "ซึนามิเงียบ" ได้มากครับ

                         แต่ระวังคำสั่งลับ เพราะน้ำที่ไปนั้นจะไปท้วมสนามกอล์ฟของผู้ที่มีอำนาจที่แท้จริงของประเทศไทย คือ "สนามกอล์ฟอัลไพน์" ครับ

                         ทุกท่านที่ไม่มีอะไรสำคัญ อย่าไปรังสิตครับ การจราจรติดขัดมากเพราะมีน้ำที่ไหลมาตามท่อระบายน้ำท้วมถนนพหลโยธิน แถวๆ หน้าเมืองเอก ครับ

                         เราเคยประสพแบบนี้มาแล้วครับ อยู่ในช่วงยื้อกันของน้ำ คือการระบายไหลลงทะเล กับน้ำเหนือที่ไหลลงมา เพราะมันเป็นคอขวดแล้วตอนนี้ เราต้องยื้อเอาไว้ให้นานที่สุด จะได้มีเวลาระบายลงทะเล กระจายน้ำออกไปพื้นที่รอบข้าง เป็นการทำลายคอขวด และตัดกำลังเสริม ครับ

                         ข้อสังเกตุ จะเห็นว่าตอนนี้พลังเจ้า "ซึนามิเงียบ" นั้นใช้เวลาสะสมมากขึ้น จะเห็นว่ามันเดินทางจากนวนครมาเหนือรังสิต ใช้เวลาถึงสองวัน กว่าจะเข้าโจมตีได้ และตอนนี้มันกำลังสะสมเพื่อจะเข่าโจมตีนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี่ ซึงไม่ไกลเลยแต่ใช้เวลาสองวัน ยังรวมพลไม่ได้เลย ขอให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แสดงว่าน้ำได้กระจายออกไปมาก ยุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก" เริ่มได้ผลครับ

                        ผมเห็นการเร่งระบายน้ำออกไปตามที่ต่างๆ มากขึ้น อย่างนี้ผมยิ่งมั่นใจมากว่า น้ำจะไม่ท้วมกรุงเทพมหานคร ครับ

                        สำหรับข้อมูลของ ดร.เสรี และของ USA นั้น ก็เป็นข้อมูลที่ดี แต่ท่านมีเวลาวิเคราะห์น้อย ตัวเลขใช้ประมาณการณ์เอา  ผมยังเชื่อข้อมูลของ บริษัทที่ปรึกษา TEAM อยู่ครับเพราะเป็นอาชีพของเขา มีจรรยาบรรณ และทำมานานมากกว่า ๓๐ ปี จึงน่าเชื่อถือที่สุดครับ

                        สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3634 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 12:42:01 »

                      เหยง นักการเมืองไทยมันเป็นอย่างนี้ ผมถึงบอกและปฏิบัติด้วย คือ ไม่ไหว้นักการเมือง  ไม่ให้เกียรติ  เป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ผมดีกว่าที่ไม่คอรัปชั่นงบประมาณแผ่นดิน ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม ครับ

                       สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3635 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 13:14:10 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                        ท่านคงได้ยิน รัฐบาลจะออกพระราชกำหนดกู้ยืม เงิน 2-4 ล้านล้านบาท เอามาซ่อมแซม บูรณะสาธารณูปโภค และจัดทำเขื่อนกันน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจ ทั้งหมด เป็นเงินก้อนโตมหาศาล ประชาชนคนไทยต้องเป็นหนีผูกพันธ์ไปอีกมากกว่าสิบปีทุกคน และหนี้สาธารณะจะเกิด กำลังความสามารถของประเทศไทย  มีโอกาสที่จะ๔ุกโจมตีทางการเงินจากนักค้าเงินเก็งกำไร และจะเป็นเหมือนประเทศกรีก ในอนาคต ครับ

                        ข้อสำคัญท่านจะเชื่อแน่อย่างไรว่า เงินที่จะลงทุนไปมหาศาลนั้น ใช้ถูกทางสามารถแก้ปัญหาน้ำท้วมได้จริง  อย่าลืมทำเขื่อนนั้น ประชาชน  ไร่นา ในพื้นที่ราบลุ่ม ยังต้องผจญกับน้ำท้วมทุกปีและจะเพิ่มมากขึ้นเพราะน้ำไม่มีที่ไป ระดับน้ำจะท้วมสูงขึ้นอีก ประชาชนจะไม่มีที่อยู่ครับ ถนนจะท้วมหมด  ไม่ใช่หาทางที่ถูกต้อง

                        ในฐานะที่พวกเราเป็นประชาชน เราต้องพิจารณาร่วมกัน  ถ้าโครงการไหนไม่ดี ท่านต้องกล้าที่จะมาคัดค้าน นะครับ เงินก้อนโตแบบนี้ ค่าต๋ง 10% มันจะมีทุนซื้อเสียงได้เป็นสิบปี ครับ สส.หนึ่งคนใช้เงิน ๔๐ ล้านบาท ในการซื้อเสียง อย่าลืม

                        ผมจึงขอเสนอโครงการแบบย่อๆ แก้ปัญหาได้ยั่งยืน  ทำได้จริง ใช้เงินลงทุนไม่มากได้เมืองใหม่ ตามที่ผลเคยเสนอไปแล้ว น้ำปัจจุบันอยู่ที่ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลลงทะเล 3,500 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  เจ้าพระยาสายใหม่ ป่าสักสายใหม่ จะแบ่งเบาได้มากกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หมดปัญหาน้ำท้วมภาคกลางทันที ครับ

                         ลองพิจารณาด้วยปัญญา ครับ

                         สวัสดี



โครงการ ขุดแม่น้ำเจ้าพระสาย ๒

สิงห์บุรี – ชายทะเลบางขุนเทียน หรือ สมุทรสาคร


                      การขุดแม่น้ำเจ้าพระยาสาย ๒ เพื่อการระบายน้ำเขตภาคกลางมีพื้นที่หน้าตัด  1,000 ตารางเมตร สามารถระบายน้ำได้มากกว่า 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อขยายเขตเมือง เศรษฐกิจ สร้างงาน เพื่ม GDP ให้ประเทศ แต่ใช้เงินจำนวนน้อย เพราะเราจะนำดินที่ขุดขึ้นมาถมพัฒนาเป็นคันกั้นน้ำ (ไม่สูงมากนัก) ถนน เขตเมือง ศูนย์ราชการ เขตที่อยู่อาศัย เขตนิคมอุตสาหกรรม สองฝั่งแม่น้ำ โดยมีเขื่อนควบคุมน้ำทั้งต้นทางและปลายทาง โดยเอาที่ดินขายกลับคืนให้ผู้ที่สนใจมาลงทุนพัฒนาที่ดิน มันจะใช้เงินไม่มากได้กำไรกลับมาภายหลัง



ทำไม !!! จึงขุดเจ้าพระยา ๒ เพื่อระบายน้ำลงทะเลให้มากขึ้น

                      - ผมไม่สามารถหยุดการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท้วม ตามเขตเศรษฐกิจต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตตัวเมือง และนิคมอุตสาหกรรม ได้

                      - ผมไม่สามารถหยุดกรมชลประทาน ที่จะต้องเสริมคันกั้นน้ำ(ถนน) ตั้งแต่ชัยนาท ถึงอ่างทอง และเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ให้สูงกว่าเดิมขึ้นไปอีกเพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่ง ได้
 
                      - ผมไม่สามารถหยุดกรมทางหลวงแผ่นดิน กรมทางหลวงชนบท ที่จะต้องเสริมความสูงของถนนให้เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม เพื่อป้องกันน้ำท้วม
 
                      - ผมไม่สามารถออกกฏหมาย ให้บริษัทต่างๆ ที่จะพัฒนาหมู่บ้านจัดสรรค์ เขตอุตสาหกรรม ให้จัดหาพื้นที่ในโครงการของตน ต้องมีพื้นที่รับน้ำเสีย น้ำฝน น้ำท้วม เป็นแก้มลิงธรรมชาติอยู่ในเขตพื้นที่พัฒนา 20% ได้

                      - ผมไม่สามารถหยุด อบต. ประชาชน บริษัทต่างๆ ที่จะถมดินป้องกันน้ำท้วมของตนเอง ได้

                      - ผมไม่สามารถให้ชาวนากลับไปปลูกข้าวเมล็ดสั้น ข้าวนาปี หนีน้ำท้วม ตามที่บรรพบุรุษเคยกระทำมาในอดีต ได้

                      - ผมไม่สามารถให้กรมชลประทาน กรมทางหลวงแผ่นดิน กรมทางหลวงชนบท ทำสะพานในถนนต่างๆ ให้มาก ให้เกิดเป็นแก้มลิงตามธรรมชาติ  ดังเดิมเหมือนในสมัยที่บรรพบุรุษเคยได้รับ คือน้ำจะกระจายไปได้อิสสระตามลักษณะความราบลุ่มของแต่ละพื้นที่ ได้อย่างอิสสละ ไม่มีอะไรมาขวางมากัก(ถนน)ผลก็คือระดับน้ำจะท้วมไม่สูง เพราะกระจายเต็มพื้นที่ ไม่มีที่ใดกักเอาไว้ น้ำอยู่ในแก้มลิงธรรมชาติ เพื่อรอระบาลงทะเลอีกครั้ง ได้

                      รัฐบาล แก้ไขไม่ตรงจุด ไปแก้ที่ปลายเหตุ คือ ป้องกัน เราจะต้องแก้ไขที่ต้นเหตุ คือหาทางให้น้ำมีที่ระบายลงทะเลเพิ่มขึ้น มากกว่าที่เป็นอยู่

                      ด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ผมจึงเป็นห่วงประชากรส่วนใหญ่ที่อยู่ริมแม่น้ำภาคกลาง ที่อยู๋นอกคันกั้นน้ำ อยากจนจำนวนมหาศาล และชาวกรุงเทพมหานครที่จะได้ผลกระทบจากน้ำท้วมสูงมากขึ้นๆ ทุกปี ครับ

                       มันเป็นหนทางเดียวจริงๆ สามารถกระทำได้ ทุกท่านแต่งตั้งให้ผมเป็นหัวหน้าโครงการซิครับ รับรองโปร่งใส มีจิตอยู่เหนือนักการเมือง ทำเพื่อประชาชนจริงๆ ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ในชาตินี้ผมพอแล้วครับ ขออยู่อย่างพอเพียง มีจิตที่สงบ เป็นสุขมากกว่า เกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง ของนอกกายเสียอีกครับ


                       สวัสดี



โครงการ ขุดแม่น้ำป่าสักสาย ๒

สระบุรี – ออกแม่น้ำบางปะกง หรือ ออกทะเล ฝั่งตะวันออกของถนนพหลโยธิน



วัตถุประสงค์

                        -   เพื่อตัดตอนแม่น้ำป่าสัก ไม่ให้ระบายน้ำไปสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยา

                        -   เพิ่มน้ำสำหรับพื้นที่เกษตรกรรม ที่แม่น้ำไหลผ่าน

                        -   ได้ถนนไปอิสานเพิ่มอีกหนึ่งสาย แบ่งเบาจำนวนรถจากถนนพหลโยธิน

                        -   มีพื้นที่ระบายน้ำ 80 ตารางเมตร หรือระบายน้ำได้มากกว่า 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที




โครงการพัฒนาเป็นแก้มลิงธรรมชาติ

วัตถุประสงค์

                       -   เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านได้เต็มพื้นที่ตามสภาพความเป็นจริง น้ำมีอิสสละในการไหล ไม่มีการกัก หรือเป็นคันกั้นน้ำเอาไว้ โดยเพ่งเล็งไปที่พื้นที่ราบลุ่มเป็นพิเศษเพื่อพัฒนาเป็นที่กักเก็บน้ำในหน้าน้ำหลาก(แก้มลิงธรรมชาติ)

                       -   เพื่อให้ทุกพื้นที่ในแต่ละจังหวัดมีที่พักน้ำเป็นแก้มลิงทางธรรมชาติ ที่เคยมีมาในสมัยโบราณ และพัฒนาให้เป็นบึงน้ำจืดเพาะพันธ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ประจำจังหวัด และมีน้ำใช้ในหน้าแล้ง

                       -   หน้าน้ำหลาก น้ำจะได้เข้าไปเก็บอยู่ในบึง หรือเข้าไปเก็บในแก้มลิงธรรมชาติ น้ำจะได้ไหลกระจายเต็มพื้นที่ ระดับน้ำจะไม่สูง เป็นการเฉลี่ยน้ำ และเฉลี่ยความเดือดร้อน

หลักการ

                       ปัจจุบันน้ำไม่สามารถไหลไปไหนได้โดยอิสสละเลย เพราะมีถนน คันกั้นน้ำที่สร้างโดยกรมชลประทาน การพัฒนาเป็นเมือง ที่อยู่อาสัย เขตอุตสาหกรรม เป็นคันกั้นน้ำ และแย่งพื้นที่น้ำ เลยทำให้พื้นที่รับน้ำน้อยลง น้ำไม่มีที่ไป น้ำถูกกักอยู่แต่ในริมแม่น้ำและพื้นที่ริมสองฝั่งของแม่เจ้าพระยา   ดังนั้น เราจึงต้องทำลายกฏเกณฑ์นี้  ให้น้ำสามารถไหลได้อย่างอิสสละตามเดิม

                       จัดพื้นที่ราบลุ่ม คือทุ่งนาข้าวแต่ละจังหวัด ให้เป็นพื้นที่รับน้ำ เป็นแก้มลิงธรรมชาติ โดยได้รับคำยินยอมจากประชาชน แต่ทางรัฐบาลต้องจัดระเบียบใหม่ เรื่อง กำหนดการปลูกข้าว และการชดเชยค่าเสียหายอย่างยุติธรรมต่อชาวนา ผู้เสียสละ

                       จัดหาพื้นที่อยู่อย่างถาวร จำนวนหนึ่งพัฒนาให้เป็นบึงน้ำจืด และเป็นที่เพาะพันธ์สัตว์น้ำ จะได้มีน้ำใช้ในหน้าแล้ง และสามารถเก็บน้ำ พักน้ำในหน้าน้ำหลาก

วิธีทำ

                       -   ถนนสายหลักที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กรมทางหลวงแผ่นดิน จะต้องสร้างสะพาน ให้น้ำสามารถผ่านได้จำนวนมาก ทุกระยะ 5 - 10 กิโลเมตร  หรือตามความเหมาะสมของแต่ละจังหวัดที่ถนนตัดผ่าน

                       -   ถนนสายรองที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กรมทางหลวงท้องถิ่น จะต้องสร้างสะพาน หรือท่อน้ำรอด ทุกระยะ 1-2 กิโลเมตร และต้องกำหนดความสูงไม่ให้เกิน ความสูงของคันนาข้าว บวกความสูงอีก 0.50 - 1.00 เมตร เพื่อให้เวลาหน้าน้ำมาก สามารถไหลข้ามถนน กระจายเต็มพื้นที่ได้ ไม่ถูกกักเป็นฝายน้ำล้น ดังเช่นปัจจุบัน

                       -   ถนนภายในหมู่บ้านที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ต้องมีท่อระบายน้ำ ทุกๆ 500 เมตร และต้องกำหนดความสูง ให้อยู่ในระดับความสูงไม่เกินความสูงของคันนาข้าว

                       -   พื้นที่ลุ่มมากๆ ต้องกำหนดให้ประชาชนปลูกข้าวเม็ดสั้น หนีน้ำ โดยรัฐบาลต้องจ่ายค่าชดเชยค่าข้าวให้ในราคาเท่ากับข้าวเม็ดยาว

                       -   พื้นที่ลุ่มปานกลาง พื้นที่ดอน กำหนดให้ปลูกข้าว และให้สามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้ก่อนฤดูน้ำหลาก ที่จะท้วมพื้นที่นั้นให้เสร็จ

                       -   ทุกบ้านต้องสร้างบ้านหลังใหม่ ให้ใต้ถุนโล่ง ชั้นสองสูงมากกว่า 4.00 ม. หรือตามสภาพพื้นที่

                       -   ทุกบ้านต้องมีโคกดินสูงเกิน 4.00 ม. เพื่อเอาไว้เก็นรถ สัตว์เลี้ยง และสิ่งของ หรือปลูกบ้านในที่ถมสูง

                       -   ทุกบ้านต้องมีเรือ เอาไว้ใช้ในหน้าน้ำ

                       -   รัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชย นาข้าว บ้าน ที่เป็นแก้มลิงธรรมชาติให้คุ้ม กับการเสียสละเอาน้ำไปเก็บไว้แทนที่พื้นที่เศรษฐกิจ

                       -   ...... เป็นต้น


                       คงกระทำได้อยาก !!!




โครงการ แก้กฏหมายให้มีแก้มลิงขนาดเล็ก


วัตถุประสงค์
                        -   เพื่อให้โครงการพัฒนาหมู่บ้านจัดสรรค์ต่างๆ นั้น ต้องมีพื้นที่รับน้ำ พักน้ำ เก็บน้ำอย่างน้อย 20% ของพื้นที่ทั้งหมดที่พัฒนาขึ้นในแต่ละโครงการ

                        -   เพื่อให้โครงการเขตนิคมอุตสาหกรรม หรือโรงงานอุสาหกรมนั้น ต้องมีพื้นที่รับน้ำ พักน้ำ เก็บน้ำอย่างน้อย 20% ของพื้นที่ทั้งหมดที่พัฒนาขึ้นในแต่ละโครงการ

หลักการ

                        ปัจจุบัน โครงการพัฒนาหมู่บ้านจัดสรรค์ เขตนิคมอุตสาหกรรม นั้น ได้ไปแย่งพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่รองรับน้ำฝน ให้น้อยลงไป และระบายน้ำออกไปสร้างความเดือดร้อนให้พื้นที่อื่น จึงต้องกำหนดให้มีพื้นที่อย่างน้อย 20% เอาไว้รับน้ำฝน รับน้ำเสีย มากักเก็บไว้เอง ไม่ให้ระบายไปที่อื่นทันที และยังเป็นการจัดเตรียมแก้มลิงธรรมชาติประจำโครงการ เพื่อป้องกันน้ำท้วมได้ระดับหนึ่ง ในหน้าน้ำหลาก และเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน

วิธีทำ

                       -   ออกเป็นกฏหมายบังคับ ควบคุม โครงการพัฒนาหมู่บ้านจัดสรรค์ เขตอุตสาหกรรมและโรงงานอุตสาหกรรม ที่จะเกิดขึ้นใหม่

                       -   เชิญชวนให้เจ้าของโครงการเดิม ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญนี้  ต้องรับผิดชอบส่วนรวมด้วย ที่จำเป็นจะต้องมีพื้นที่รับน้ำภายในโครงการ เอาไว้เป็นที่พักน้ำ เก็บน้ำ แล้วยังเป็นปอดให้กับโครงการ

                       คงกระทำได้อยาก !!!




สงสัยวิปัสสนู  มันคงเล่นงานผมอย่างหนัก  จึงคิดบ้า ๆ แบบนี้
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3636 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 13:18:39 »

น่าจะระบุออกมาเลย  ว่าใครเป็นคนเล่มเกมส์ กลัวแต่ว่าจะเป็นคนของรัฐบาลน่ะซี ??

นายกฯ วอนทุกฝ่าย รวมพลังฝ่าวิกฤติชาติ อย่าเล่นเกมส์การเมือง

นายกฯ น้อมรับปรับปรุงข่าว ศปภ. ยันรัฐบาลพูดความจริง ไม่ได้ปิดบังข้อมูลประชาชน เร่งทำทุกวิถีทางฝ่าวิกฤติของประเทศ รวมพลังทุกภาคส้วนร่วมแก้ไข วอนทุกฝ่ายรวมพลังอย่าเล่มเกมการเมือง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่ศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายปลอดประสบ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ ในฐานะผู้ช่วย ผอ.ศปภ. ระบุว่า น้ำจะท่วมพื้นที่ดอนเมืองฝั่งสนามบินสูงถึง 2 เมตร...............

อ่านข่าวเต็มฉบับได้ที่...........
http://www.thairath.co.th/content/pol/210469
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3637 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 13:22:05 »

พี่สิงห์ พี่ป๋อง

เตรียมการด่วน ปลอดประสพ บอก "ดอนเมือง" มีสิทธิน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร
ขาย "รถยนต์" ซื้อ "เรือ" ด่วน !!!
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3638 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 14:35:49 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 ตุลาคม 2554, 13:22:05
พี่สิงห์ พี่ป๋อง

เตรียมการด่วน ปลอดประสพ บอก "ดอนเมือง" มีสิทธิน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร
ขาย "รถยนต์" ซื้อ "เรือ" ด่วน !!!

                      บุคคลที่น่าปลดออกมากที่สุด คือ นายปลอดประสพ   สุรัสวดี ครับ

                     กระต่ายตื่นตูม เป็นแบบนี้มาหลายครั้ง ไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นรัฐมนตรี เลย

                     ณ ปัจจุบัน น้ำมันน้ำยังมาไม่ถึงเลย  มันยังรวมพลไม่ติดเลย ยังอยู่บางพูน  ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ตราบใดที่ กทม. ยังควบคุมระดับน้ำในคลองได้  ยังมั่นใจว่า น้ำไม่ท้วมครับ

                      นายปลอดประสพ   คิดตามความคิดของตนเองเป็นหลัก และชอบให้เกิดโกลาหลแบบนี้ ตัวเองไม่เคยเจอ  จึงเกิดความกลัว  จิตจึงสั่งให้พูดแบบนั้น เพื่อว่า ตัวเองจะได้หนีด้วย  ถ้าท่านหนีท่านก็ไม่มีที่อยู่แล้ว

                     จนประชาชนสับสน  เขาไม่เชื่อคำแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี และ ศูนย์ฯ แล้ว เป็นผู้นำ หรือแม่ทัพ มันต้องหนี้เป็นคนสุดท้าย นี่คือ ปรัชญา การเป็นผู้นำ

                     ผมยังมั่นใจ กทม. น้ำจะไม่ท้วม ผมตรวจสอบ ระดับน้ำในคลอง ปกติ ทุกคลอง ครับ

                     สวัสดี


                      อาจารย์ถาวรบอกว่า ผมผิดที่บอกว่า วันนี้สามารถไปเที่ยวได้ น้ำได้ขึ้นมาทางท่อระบายน้ำของหมู่บ้าน  ยังไม่ผิดครับ จะผิด ต่อเมื่อทัพหลวงมันยกทัพมา  ตอนนี้เพียงพวกลาดตระเวนครับ มันต้องใช้เวลาสะสม จึงจะโจมตีได้ ผมว่าอย่างเร็วพรุ่งนี้ หรือวันศุกร์ไม่ใช่หรือ?

                        วันนี้สามารถออกไปข้างนอก  ยังกลับบ้านได้ ครับ รับรองแน่นอน !!!

                         คราวนี้จะได้รู้จิตตัวเอง ครับอาจารย์ถาวร  โชติชื่น  ว่ามันจะหวั่นไหวตื่นกลัว ในสิ่งที่เห็น  ได้ยิน  ได้สัมผัส ละครับ จะรู้ว่า โดยแท้จริงแล้ว เราหนีมันไม่พ้น มันเป็นธรรมชาติที่ต้อง สัมผัส ที่ต้องได้เห็น  ได้ยิน  แต่เราสามารถฝึกจิตเราให้อยู่เหนือมัน ในสิ่งที่เห็น  ในสิ่งที่ได้ยินได้  ไม่ให้หลงติดอยู่ในความคิดของตัวเอง  ที่เต็มไปด้วยความอยาก  ความปราถนาในสิ่งที่เคยได้รับ นี่ละของจริง ที่น่าเรียนรู้  น่าศึกษา ครับ

                        อย่างไรก็ดี อุดท่อระบายน้ำ  แนวกั้นน้ำที่ได้ทำไว้  จะได้ใช้งาน ไม่เสียเที่ยวที่เสียเวลา  เสียเงิน  เรียนรู้ในการทำ เก็บของขึ้นที่สูง เตรียมการ ของใช้ตามที่คุณเหยงได้แนะนำเอาไว้ ครับ  บ้านอาจารย์ถาวร อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำของ กทม. ครับ

                        ส่วนผมนั่งเจริญสติ  ไม่กังวล

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3639 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 15:04:56 »


ว่าฯ กทม.เตือนครั้งแรก 7 เขต ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด ยกของขึ้นสูง แต่ยังไม่ถึงขั้นอพยพ
 
วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2011 เวลา 12:00 น. กองประชาสัมพันธ์กทม.
   

                       ผู้ว่าฯ กทม.แจ้งเตือนครั้งแรก 7 เขต บางเขน สายไหม หนองจอก มีนบุรี คลองสามวา ลาดกระบัง และคันนายาว เสี่ยงน้ำท่วม หลังประเมินสถานการณ์ทุ่งรังสิตรับมวลน้ำที่จะไหลมาไม่ได้ทั้งหมด ด้านกทม.ปรับแผนประเมินสถานการณ์เป็นทุก 3 ชั่วโมง พร้อมแจ้งประชาชนยกของขึ้นที่สูง หากไม่สามารถรับมือได้จะแจ้งล่วงหน้า 24 ชั่วโมง

                       (19 ต.ค.54) ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม. : เวลา 10.30 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม.ได้รับแจ้งจาก ศปภ. ว่า จะมีน้ำปริมาณกว่า 1,200 ล้าน ลบ.ม. จากตอนบนเหนือพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไหลผ่านมายังทุ่งรังสิต ซึ่งกทม.ประเมินสถานการณ์แล้วว่าทุ่งรังสิตสามารถรับน้ำได้เพียง 400 ล้าน ลบ.ม. อาจส่งผลกระทบต่อคันกั้นน้ำตะวันออก ทำให้น้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ และส่งผลกระทบต่อไปยังบางพื้นที่ชองกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 เขต ได้แก่ สายไหม บางเขน คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง และคันนายาว ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท ขอให้ประชาชนในพื้นที่ 7 เขตดังกล่าว เตรียมยกสิ่งของ รวมทั้งปลั๊กไฟขึ้นที่สูง และเตรียมศึกษาแผนอพยพของกรุงเทพมหานคร ซึ่งแต่ละสำนักงานเขตได้เตรียมแผนในการอพยพและศูนย์อพยพเพื่อรองรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจากนี้ไปแต่ละสำนักงานเขตจะได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ของตนเองได้รับทราบรายละเอียดแผนอพยพดังกล่าว

                       ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การแจ้งเตือนครั้งนี้ถือเป็นการเตือนครั้งแรกของกทม. แม้จะยังไม่รุนแรงถึงขั้นอพยพ แต่ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ผ่านทาง www.bangkok.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกทม.จะประชุมประเมินสถานการณ์และแถลงข่าวให้แก่สื่อมวลชนเพื่อแจ้งประชาชนทราบทุก 3 ชม. ถึงแม้จะไม่มีความเปลี่ยนแปลงก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก และรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องจากกทม.โดยตรง อย่างไรก็ตามขณะนี้ กทม.ยังมีวิธีการบริหารจัดการน้ำ แต่หากคาดการณ์แล้วสถานการณ์ไม่ดีขึ้น กทม.จะประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง


-------------------
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3640 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 15:26:19 »

                       ได้รับรู้จากข่าวนี้ ทำจิตให้อยู่กับปัจจุบัน ครับ มันเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น มันยังไม่ได้เกิดขึ้น เป็นคำเตือนมาจากศูนย์ของรัฐบาล ที่ดอนเมือง  ที่มีแต่คนเขลา  เบาปัญญา  ที่ไม่หน้าเชื่อถือทั้งสิ้น ในความเห็นของผม และรวมทั้งประชาชนทั่วไป หมดความน่าเชื่อถือครับ ศูนย์นี้  เพราะทำอะไรไม่ได้เลย  สั่งอพยพแบบคำสั่งทหารหนีทัพอย่างเดียวครับ  ราศรีไม่มีเลยศูนย์ฯนี้ เศร้าจริงๆ

                       พื้นที่รังสิต ทุ่งรังสิตกว้าง มหาศาล ถึงนครนายก รับน้ำได้มากครับ น้ำจะต้องข้ามผ่านคลองรังสิต ซึ่งน้ำในคลองรังสิต ยังปกติ ตามที่คุณราเมศวร์ รายงานให้ทราบ ถ้าน้ำข้ามคลองรังสิตได้ต้องใช้เวลา และปริมาณมาก อย่าลืมไปทางนั้นแล้วมันกลับมาเจ้าพระยาไม่ได้  ไปแล้วไปเลย ยังมีพื้นที่องค์รักษ์ให้รับน้ำได้อีกจำนวนมหาศาลครับ ผมถึงบอกว่าต้องใช้เวลาสะสมน้ำก่อน ซึ่งมันก็มีบางส่วนที่ไหลลงทะเลทุกวินาทีเหมือนกัน

                       ผมได้โทรศัพท์ไปถามคุณราเมศวร์ ให้ดูน้ำในคลองรังสิตให้ด้วย ปรากฏว่า ระดับน้ำในคลองรังสิต มันก็ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 50 เซนติเมตร ของมันมาห้าวันแบบนี้อยู่แล้ว น้ำมันไม่ได้ไหลข้ามมาสักหน่อย  จะอพยพไปทำไม

                       ผู้ว่า กทม. ครับ อย่าไปเชื่อข้อมูลทางศูนย์ฯ ของรัฐบาล ท่านต้องเชื่อมั่นข้อมูลในสิ่งที่ท่านมีอยู่ บอกประชาชนตามจริง  ประชาชนสามารถ จัดการกับตัวเองได้ ครับ ยึดหลัก กาลามสูตร ครับ

                        ศูนย์ฯ ดอนเมือง ฆ่าตัวเองชัดๆ

                       อย่างไร ผมก็ยังมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3641 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 17:25:59 »

บทบรรณาธิการ ไทยโพสต์ออนไลน์ เฉพาะที่น่ารู้.............

การเมืองเรื่องน้ำท่วม วิกฤติปัญหาที่พึงแก้ไข
บทบรรณาธิการ 17 ตุลาคม 2554 - 00:00

...........................ฯลฯ.............................
คนที่ย่างก้าวเข้าไปใน ศปภ. สามารถสัมผัสกระแสแห่งการจับจองพื้นที่เพื่อโหนวิกฤตการณ์น้ำท่วมเป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยปราศจากความสำนึกละอายใจ จนเป็นเหตุให้เกิดการตั้งคำถามมากมายในสังคมไทยวันนี้ว่า  ใจคอนักการเมืองจะไม่เว้นช่องว่างรับใช้ประชาชนด้วยความจริงใจเลยหรืออย่างไร  เพราะภาพของนักการเมืองในพรรคเพื่อไทย ทั้งที่เป็น ส.ส.สอบได้และสอบตก เรียงแถวต่อคิวกันเพื่อออกโทรทัศน์ โดยมีสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์เป็นเครือข่าย แจ้งสถานการณ์น้ำท่วม และร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชนทั้งประเทศนั้น ดูไม่ออกเลยว่า มาเพื่อความเสียสละ ห่วงใยชาวบ้าน แต่เห็นชัดเจนว่า อยากใช้โอกาสและเครื่องมือรัฐสร้างภาพให้กับตัวเองเท่านั้น
        ทั้งๆ ที่รู้ว่า ความเสียหายจากอุทกภัยในครั้งนี้มีผลต่อเศรษฐกิจไทยไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท กระทบต่อ GDP ประมาณ 1.3-1.5% แบ่งเป็น ผลกระทบต่อบ้านเรือน 3,400 ล้านบาท, สาธารณสมบัติ 11,000 ล้านบาท, ด้านการเกษตร 68,000 ล้านบาท, อุตสาหกรรม 50,000 ล้านบาท, ท่องเที่ยว 8,200 ล้านบาท, การค้า 12,347 ล้านบาท, และอื่นๆ 2,500 ล้านบาท ทั้งนี้จากรายงานของหอการค้าไทย แต่นักการเมืองก็พึงพอใจที่จะอาศัยความเดือดร้อนแสนสาหัสนี้เล่นเกมการเมือง สร้างภาพ หาคะแนนเสียงโดยไม่ใส่ใจเลยว่า บรรดาข้าราชการประจำ อาสาสมัครอิสระ และองค์กรเอกชน สัมผัสภาพและบรรยากาศชิงพื้นที่การเสนอหน้าจอทีวีหรือสื่อต่างๆ แล้วรู้สึกเบื่อหน่าย สังเวชใจเพียงใด
        เราเชื่อว่า หากผู้นำทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ระดับประเทศ เป็นผู้แทนราษฎร หรือเป็นแค่ทีมงานร่วมด้วยช่วยกันหาเสียง แห่กันเข้าไปในรัฐสภา รู้จักปล่อยวางการสร้างภาพ แล้วสวมหัวใจของเพื่อนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ และมีความเมตตา อยากเห็นคนอื่นมีความสุข คลายความทุกข์อย่างแท้จริง ไม่มีการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง จะทำให้งานการบริหารจัดการปัญหาวิกฤตการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไปได้รวดเร็ว เต็มประสิทธิภาพ ที่สำคัญได้บุญได้กุศลอย่างเต็มเปี่ยม 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน เพราะการทำงานด้วยใจ กับทำงานด้วยปากนั้น ผลลัพธ์มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง.


http://www.thaipost.net/news/171011/46701

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3642 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 18:13:31 »

พี่สิงห์ครับ

Tropical Cyclone ลูกใหม่ ยังไม่ได้ตั้งชื่อ ก่อตัวในมหาสมุทรอินเดีย จะเข้าตี"เมืองท่าจิตตากอง" ของพม่า
ในเย็นวันนี้เป็นต้นไปครับ และจะพัดเข้าสู่ใจกลางของประเทศในวันพรุ่งนี้

TC 02B เป็นชื่อทางอุตุนิยม ส่วนจะแปลชื่อให้เพราะพริ้งอย่างไร ต้องรอ




ภาพจากดาวเทียมครับ ส่วนจะกระทบต่อประเทศไทยหรือไม่ มองฟ้าทางทิศตะวันตกไว้ก้แล้วกัน



      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3643 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 20:11:02 »

สรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในกรุงเทพฯ 19 ต.ค.54
 
วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2011 เวลา 08:41 น. ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ กทม.

  
                        เวลา 20.00 น. ผู้ว่าฯ กทม.และคณะผู้บริหาร จะประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ ห้องอัมรินทร์ และจะแถลงข่าวเวลา 21.00 น. ณ ห้องเจ้าพระยา

วันพุธ ที่ 19 ตุลาคม 2554 เวลา 19.35 น.

ข้อมูลล่าสุด


               19.30 น. กทม.ไม่พบกลุ่มฝน สมุทรปราการกลุ่มฝนอ่อนที่ อ.บางพลี บางเสาธงแนวโน้มลดลง

                            ระดับน้ำชายแดน กทม.ด้านปทุมธานีและคลองเปรมประชากรอยู่ในระดับปกติ

                            วันนี้กทม.เร่งสร้างแนวกระสอบทราย ตอนคลองหกวาสายล่างเพื่อเป็นแนวกั้นน้ำชั้นที่ 2 คาดว่าจะเสร็จภายในวันนี้ ระดับน้ำในคลองหกวาสายล่างยังเป็นปกติ

                            วันนี้น้ำขึ้นเต็มที่เวลา 13.02 น. ฐานน้ำ 1.00 ม.รทก.
                    
                            ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุด 18 ต.ค.(ม.รทก.) บางนา+1.55 เวลา 10.00 น. ปากคลองตลาด+2.05 เวลา 11.15 น.บางเขนใหม่+2.44. เวลา 11.45 น.

                            ระดับน้ำปัจจุบัน บางนา+1.44 ปากคลองตลาด+2.05บางเขนใหม่ +2.50.(ม.รทก.)

                            แม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงวันนี้ เนื่องจากระดับน้ำทะเลหนุนผิดปกติ 19 ต.ค. 2554


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่านครับ

                            ณ เวลานี้พื้นที่ในแนวคันกั้นน้ำของ กทม. ยังไม่มีน้ำท้วมนะครับ มีแต่ข่าวตื่นตูมจาก ศูนย์ฯ ของรัฐบาลที่ดอนเมือง ที่ต้องการจะให้มันเป็นข่าว เพราะท่านคิดกันได้เพียงนั้น ครับ

                            ท่านผู้ว่า กทม. ก็เสียศูนย์ ทำให้มันเป็นจริง  ออกประกาศทันทีให้อพยพเหมือนกัน

                            เราต้องอยู่กับความจริง  ต้องมีความเชื่อมั่น  ว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ในพื้นที่แนวคันกั้นน้ำ ผมเองยังเชื่อมั่นอย่างนั้น ไม่เปลี่ยนแปลง  ผมยังเชื่อมั่นข้อมูลของ บริษัท TEAM อยู่ครับ

                            และยังเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมวิเคราะห์  ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นด้วยก็ตาม คันกั้นน้ำด้านนอก(ยกเว้นของ กทม.) ประตูระบายน้ำตามคลองต่างๆ พังพินาศ มันเป็นสิ่งดีสำหรับผมทั้งนั้น เพราะนั่นละน้ำจะกระจายไปในที่ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น บางพื้นที่ส่วนใหญ่ไปแล้วไม่กลับมาทั้งนั้น

                            ผมยังเชื่อมั่นยุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก" ของผม จะใช้ได้ครับ คือน้ำกระจายไปในพื้นที่รอบนอกให้มากเข้าไว้ เช่น ไปทางองค์รักษ์ ทุ่งรังสิตฝั่งตะวันออกตั้งแต่คลอง ๑-๑๔  และไปทางบางบัวทอง บางเลน ไทรน้อย  นนทบุรี ให้มากเข้าไว้

                            ตอนนี้น้ำในคลองรังสิตยังต่ำ ผมเองอยากจะปล่อยน้ำในคลองรังสิตให้เต็ม เพื่อไปยันน้ำที่จะล้นเข้าคลองรังสิต ไม่ให้ไหลย้อนมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องดันให้มันไปทางนครนายกเข้าไว้ และเปิดทางให้น้ำลงทุ่งองค์รักษ์ เลย มศว.ไป (ใครก็ได้ช่วยสั่งการให้ด้วย  จักขอบพระคุณยิ่ง)

                             ระดับคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยายังเหลืออีก 75 เซนติเมตร สามารถรับน้ำได้สบายในลำแม่น้ำเจ้าพระยา

                             คลองต่างๆ ใน กทม. ระดับยังเป็นปกติ

                             แต่ทำไม ผู้ว่า กทม. ผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ เกิดความไม่มั่นใจ  ผมไม่เข้าใจเลยครับ

                             อย่าไปเชื่อข้อมูล ของศูนย์ฯ ที่ดอนเมือง มีแต่ตัวเลขที่น่ากลัว เกินเหตุ  จากผู้ไม่รู้ทั้งนั้น  บ้านไม่เคยถูกน้ำท้วม  เลยกลัวยกใหญ่  ในเมื่อตัวเองกลัวแล้ว อย่าไปบังคับประชาชนให้กลัวด้วยเลย

                             ถ้าน้ำท้วมจริง มันไม่ไหลอย่างที่เห็นตาม TV ที่เขาไปถ่าย ช่องแคบๆ จึงเห็นน้ำไหลแรง มันไม่น่ากลัวแบบนั้น  น้ำมันจะค่อยๆเอ่อ เหมือนเปิดก๊อกน้ำที่มีน้ำเต็มโอ่ง ครับ

                             ท่านไม่ต้องเป็นกระต่ายตื่นตูมแบบรัฐมนตรี ที่ศูนย์ฯ ดอนเมืองของรัฐบาล มันไม่น่ากลัว หรอก

                             ถ้ามันหน้ากลัว ผมคงตายคนแรกครับ เพราะผมไม่ได้ไปซื้อน้ำดื่มมาตุนไว้  ข้าวสารมีเพียง ๑ ถุง อาหารแห้งมีเพียงสามวัน มาม่าผมไม่กินเด็ดขาด  จึงไม่ซื้อไว้เลย  ปกติผมต้มน้ำดื่ม วันต่อวัน และไปหาซื้อตอนนี้ก็ไม่มีตามห้างหมดเกลี้ยง  ผมไม่ได้เก็บของอะไรเลย  เพราะผมเชื่อว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ในพื้นที่คันกั้นน้ำครับ (ตอนเช้าภายหลังเดินจงกรมเสร็จ ผมจะเด็นไปซื้อข้าวแกง  กลางวันก็เดินไปซื้อข้าวแกง  ตอนเย็นรับประทานผลไม้ หรือสลัดผักของการบินไทยที่ซื้อเอาไว้ตอนเช้า  ไม่มีอะไรตุนทั้งสิน)

                            ดร.สุริยา  ก็หนีผมไปอยู่ทัพทัน  อุทัยธานี เสียแล้ว ไม่สมกับเป็นเพื่อนผมเลย

                            ต่อแต่นี้ไปผมจะนั่งปฏิบัติธรรมเจริญสติให้มากไว้  ทำจิตให้ผ่องใส  ต่อสู้กับเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม เป็นกำลังให้เจ้ายุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก" สัมฤทธิ์ผลให้จงได้
 
                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3644 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 20:35:38 »

                      คุณเหยงเหลือแต่คุณ กับผม สองคนเท่านั้น นอกนั้น คงอพยพไปตามศูนย์กันหมดแล้วครับ

                       ราตรีนี้ ผมขอตัวไปปฏิบัติธรรม นั่งเจริญสติ  ทำจิตให้ผ่องใส ดีกว่า ตื่นเช้าขึ้นมาจะได้มีปัญญา มาเขียนต่อครับ

                        ราตรีสวัสดิ์ ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3645 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 20:47:43 »

พี่สิงห์

20.35 น. ฝนตกหนักในพื้นที่เขตบ้านผมครับ มีฟ้าคะนองด้วย !!

      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #3646 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 21:54:12 »

น้ำขึ้น ให้รีบบอก (ผมลอกมาจาก Face Book)
ประสบการณ์คนเคยโดนน้ำท่วม เอามาให้ลองอ่านกัน

"ประสบการณ์จากน้ำท่วม ผมรวบรวมสิ่งที่เรียนรู้ จากน้ำท่วมครั้งนี้ มาบอกกล่าวครับ
1. อย่าเสียเวลากับการป้องกัน หากบริเวณบ้านของท่านอยู่ในพื้นที่เสี่ยง แต่ทางการประกาศว่าระดับน้ำอาจสูงถึง 1.5 เมตร อย่าได้เสียเวลากับการป้องกันเลยครับ ระดับน้ำที่มาถึงบ้านท่าน รับรองว่าจะต่ำกว่าหรืออาจจะสูงกว่าที่ทางการประเมิน
2. กระสอบทราบเป็นแค่เครื่องมือชะลอ กระสอบทรายมิใช้แก้วสารพัดนึกครับ มันไม่สามารถกั้นน้ำได้ 100 % แค่ทำให้น้ำรั่ว หรือซึมเข้ามาได้บ้าง ท่านต้องมีการดูดออกด้วย
3. การวางกระสอบทราย เรามิใช่มืออาชีย การจัดเรียงกระสอบทราย ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญจริงๆๆ ผมกับเพื่อบ้าน หมดค่ากระสอบทรายไป 50,000 บาท สุดท้าย ก้อ ละลายน้ำ
4. อย่าได้เชื่อโครงการ อันนี้มิได้ต่อว่าโครงการนะครับ เพียงแค่ว่าเขาประเมินสถานการณ์ต่ำไป โครงการผมลงทุนน่าจะเป็นล้าน ตั้งคันดิน กระสอบทรายน่าจะกว่า 30,000 ใบ คันสูง 1.5 เมตร เครื่องสูบน้ำออกแบบตัวใหญ่ๆๆกว่า 3 ตัว
5. สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ สิ่งที่ใช่ อาจไม่เห็น น้ำมิได้โจมตีจะภาคพื้นดินหรอกครับ มันมาจากใต้ดิน มันมุดกำแพงเข้ามา บางครั้งมันโพร่งให้เห็น แต่หากมันไม่โพร่งให้เห็น มันจะซึมลงท่อน้ำทิ้งของโครงการ เนื่องจากท่อน้ำทิ้งที่วางแนวไว้ นานเข้าจะเกิดการทรุดตัว แครก แตก ทำให้น้ำซึมเข้ามา จนกระทั้งเต็มท่อ โครงการมัวแต่อุดท่อที่ต่อกับภายนอก และ ไม่เห็นว่าท่อข้างในมีการรั่วซึม
6. การอุดท่อระบายน้ำเข้าบ้าน มิใช่การป้องกัน ทุกสำนักจะบอกว่า ต้องอุดท่อระบายน้ำ ลองอ่านจากข้อสองครับ เราอาจจะรู้สึกว่าแน่นดี เอาอยู่ น้ำไม่ผ่าน แต่ที่จริง กระสอบทรายแค่ชะลอ ทำให้น้ำผ่านยากขึ้น และที่สำคัญ พวกบ้านเดียว มีพื้นที่สวน ใต้บ้านของท่านล้วนแล้วแต่เป็นโพรง น้ำจะแทรกตัวลงไปจนแน่นโพรงใต้พื้น แล้วจะผุดออกมาตามรอยแตกของบ้าน บางครั้งอาจจะดันกระเบื้องเข้าบ้านได้ แต่เหตุกาาณืนี้เกิดได้ค่อนข้างยาก
7. ห้องน้ำคือจุดอ่อนที่สุด เมื่อน้ำเต็มท่อระบาย จะหาทางออกมาทั้งน้ำทิ้งทางพื้นที่เรียกว่า Floor Drain รวมถึงชักโครก ซึ่งท่านไม่สามารถจะอุดได้ หากจะอุดจริง ๆ ต้องถอดหัวชักโครกแล้วโบกปูน
8. อย่ามัวสาระวนกันการป้องกัน เมื่อน้ำบุกเข้ามาได้ ท่านจะพยายามลากกระสอบทรายมาปิด มาอุด ซึ่งไร้ประโยชน์ เอาเวลาไปตรวจสอบว่า เรามีอะไรยังไม่ได้ยกขึ้นที่สูงอีกบ้าง
9. ไม่ต้องสะสมเสบียง เพราะหากปริมาณน้ำขนาดนี้ ท่านถูกตัดไฟแน่นอน แล้วจะอยู่อย่างๆไร ผมสะสมเสบียงอยู่ได้เกือบ 3 เดือน จบข่าวตั้งแต่วันแรกแล้ว
10. ก่อปูนเป็นทางออกที่เกือบใช่ แต่.... ไปดูข้อเจ็ดครับ หากท่านมั่นใจว่าสามารถสร้างระบบปิดในตัวบ้านท่านได้ ก็จงทำเถิด แต่หากไม่ใช่ อย่าเสียเวลา
11. ระดับความสูง หากท่านเห็นน้ำขนาดนี้มาอีก ของที่ยกได้ ขอให้ระดับไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร หากจะเทินของก็ให้มั่นใจว่ากว่า บ้านผมสูงจากถนน 30 เซ็น ก่อปูนอีก ประมาณ 70 เซน สุดท้าย ไม่รอด
12. เก็บของสำคัญพร้อมหนี อย่ามั่วเสียเวลาในการป้องกัน จัดกระเป๋าสำรองอีกใบ เพราะเวลาคับขันแน่นมาก ท่านจะเก็บไม่ทัน ลืมโน่นลืมนี่
13. หากท่านผ่อนบ้าน จะถูกบังคับทำประกัน จงกลับไปอ่านอนุสัญญา บางบริษัทจะครอบคลุมน้ำท่วม หรือภัยที่มาจากน้ำ ท่านอาจจะได้เงินคมาจากการซ่อมบ้าน
14. บทสรุปครับ มีมากเจ็บมาก มีน้อย เจ็บน้อย เท่าที่คิดได้ครับ ใครมีอะไร สนับสนับสนุนได้ครับ ฝากไว้สำหรับคนที่กำลังจะวางแผน แต่ย้ำว่า สำหรับคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ระดับน้ำสูงมากๆๆ หากท่านท่วมแค่ 30 - 50 เซน ก้อป้องกันเถอะครับ CR :
 สุเทพ เตมานุวัตร์"

ผมขอขอบคุณคุณสุเทพ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
สำหรับผมอ่านแล้วขอสรุปว่า ไงๆ ก็ควรป้องกันไว้ก่อน เผื่อน้ำท่วมสูงแค่ 50 ซม. ก็รอดไงครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #3647 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 21:59:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 19 ตุลาคม 2554, 20:11:02
สรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในกรุงเทพฯ 19 ต.ค.54
...
                            ดร.สุริยา  ก็หนีผมไปอยู่ทัพทัน  อุทัยธานี เสียแล้ว ไม่สมกับเป็นเพื่อนผมเลย
...
                             สวัสดี

ผมไม่ได้หนี แค่ถอยไปตั้งหลัก อีกสองวันก็ต้องกลับไปรับกรรมต่อที่กทม.
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
jeam
สมาชิกวิสามัญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574

« ตอบ #3648 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2554, 22:46:13 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 ตุลาคม 2554, 18:13:31
พี่สิงห์ครับ

Tropical Cyclone ลูกใหม่ ยังไม่ได้ตั้งชื่อ ก่อตัวในมหาสมุทรอินเดีย จะเข้าตี"เมืองท่าจิตตากอง" ของพม่า
ในเย็นวันนี้เป็นต้นไปครับ และจะพัดเข้าสู่ใจกลางของประเทศในวันพรุ่งนี้

TC 02B เป็นชื่อทางอุตุนิยม ส่วนจะแปลชื่อให้เพราะพริ้งอย่างไร ต้องรอ




ภาพจากดาวเทียมครับ ส่วนจะกระทบต่อประเทศไทยหรือไม่ มองฟ้าทางทิศตะวันตกไว้ก้แล้วกัน




สำหรับผม ชอบดูภาพถ่ายดาวเทียมที่นี่ครับ...
มีภาพเคลื่อนไหวให้ดูด้วย มองเห็นของจริง ภาพเคลื่อนไหวต้องบวกเวลาไป 7 ชม. ครับ

http://www.songkhla.tmd.go.th/satellite/satellite.html

และคลิกที่ ภาพชนิด IR แบบเคลื่่อนไหว จะเป็นแบบนี้ครับ
http://www.songkhla.tmd.go.th/satellite/kochi-loop.html

      บันทึกการเข้า

I think, therefore I am.
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3649 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2554, 06:00:56 »

สรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในกรุงเทพฯ 19 ต.ค.54
วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2011


                        เวลา 08:41 น. ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ กทม.
                        หลังกทม.แจ้งให้ปชช.นอกแนวป้องกันคลอง2 และคลองหกวา ย้ายไปศูนย์พักพิง เขตสายไหม ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนรวม 74 คน และเข้าพักแล้ว 24 คน

                        ผู้ว่าฯกทม.ขอให้รัฐบาลดูแล 3 จุดอ่อนนอกเขตกทม.ด้วย ได้แก่ หลักหก   ถ.พหลโยธินตัดกับคลองรังสิต

                        การประปาเชื่อมแนวกั้นน้ำที่กทม.ทำร่วมกับกองทัพ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการป้องกันน้ำเข้าท่วมกรุงเทพฯ

                        เพิ่มจุดบรรจุทรายเป็น 5 จุดเร่งทำงานให้เร็วขึ้น ได้แก่ รร.ฤทธิยะวรรณาลัย 2 ซ.สายไหม43  คลองลำหม้อแตก   ถ.หทัยราษฎร์  ศูนย์ก่อสร้างฯ 1 ซ.นวมินทร์82  ศูนย์ก่อสร้างฯ 3 ข้างสวนหลวงร.9

                        กทม.จะเสริมกระสอบทรายเลียบคลองหกวา และให้แล้วเสร็จวันพรุ่งนี้ โดยมีอาสาสมัคร กองทัพภาคที่ 1 และจนท. 43 เขตที่ไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงภัยระดมทำงาน ตลอด 24 ชั่วโมง

                        21.00 น. ผู้ว่าฯ กทม.แถลงสถานการณ์น้ำกรุงเทพฯ คาดน้ำมวลใหญ่ลูกแรกถึงรังสิตวันพรุ่งนี้ ถึงคลอง 2 และคลองหกวาในวันศุกร์

ข้อมูลล่าสุด

                        05.00 น. ขณะนี้น้ำล้นเข้าคลองประปาช่วงรังสิต ทำให้คลองประปามีน้ำล้นมาบางช่วง เพื่อความไม่ประมาทขอให้ ประชาชนขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง ผลจากน้ำในคลองประปาสูงทำให้น้ำล้นเข้าถนนพระราม 6 อาจมีปัญหาการจราจร โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทาง สำนักการระบายน้ำ เร่งสูบน้ำจากคลองสามเสนเพื่อช่วยลดระดับน้ำในคลองประปา 20 ต.ค. 2554


กรุงเทพมหานคร ผมยังมั่นใจน้ำไม่ท้วมครับ !!!

                        อรุณสวัสดิ์ครับ ขณะเวลา 05:30 น. ของวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ ครับ น้ำยังไม่ท้วม กทม. ในพื้นที่แนวคันกั้นน้ำ

                         ผมนั่งเจริญสติ พอเป็นสมาธิแล้ว ได้เวลาสมควร ครึ่งชั่วโมง จึงอยากทราบข่าวว่า เมื่อคืนผู้ว่า กทม. แถลงการณ์ว่าอย่างไรเมื่องเวลา 21:00 น. ผมตรวจสอบระดับน้ำตามคลองต่างๆ ตรวจสอบระดับน้ำบนถนน พื้นที่ในแนวคันกั้นน้ำของกทม. ยังปกติดี

                         ผมไม่เข้าใจท่านผู้ว่า กทม. สำนักการระบายน้ำเลย เพียงท่านได้รับแจ้งจาก ศูนย์ฯ(มีแต่สร้างข่าว เอาหน้า สร้างความวุ่นวาย) ของรัฐบาลที่ดอนเมือง ให้อพยพประชาชน เพราะศูนย์ฯเอาไม่อยู่แล้ว เท่านั้น ท่านเพียงแต่เห็นข้าศึกอยู่แนวชาวป่าไกลลิบ ท่านสั่งอพยพเสียแล้ว ยังไม่ได้ยิงธนู  ยังไม่ได้ยิงปืนไฟ  มีดดาบยังเก็บอยู่ในฝัก  แม่ทัพก็สั่งถอยทัพ เสียแล้ว เศร้าชะมัด บรรดาแม่ทัพไทยขณะนี้

                         สำนักระบายน้ำลงทุมไปมหามหาศาลในกองทัพเพื่อรบกับน้ำ มันต้องต่อสู้จริงๆ ผลแพ้ชนะค่อยว่ากัน  ท่านอย่าใจเสียเพียงเห็นข้าศึกอยู่แนวชายป่า ท่านยังไม่เห็นจำนวนที่แท้จริง  ยังไม่ได้ปะทะ และสู้กัน เพื่ยงได้รับข่าวลวงที่ใส่ศึกส่งข่าวมาทางศูนย์ฯรัฐบาลที่ดอนเมืองที่มีแต่พวกขลาดเขลา เบาปัญญา ท่านก็จะหนีเสียแล้ว   ท่านต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่กระทำลงไปแล้ว  ใช้ปัญญาไตร่ตรอง ทบทวน เรายังบกพร่องจุดไหน ก็เสริมมันให้แน่นหนา สำรวจนักรบของเรา  สร้างใจให้หึกเหิม (แนวคันกั้นน้ำให้มั่นคง ยิ่งขึ้น) จัดคนคอยตรวจตรา อาจจะมีมือดีมาทำลาย เหมือนอย่างนครสวรรค์เพราะศัตรู(ความอิจฉาของคนมีมาก) อาจมาทำลายได้

                         จุดอ่อนที่ผมเห็นจาก TV คือ ลักษณะการเรียงกระสอบทราย ฐานไม่มั่นคง  การทำแนวดินของทหาร มีแต่ดินเหนี๋ยวปนน้ำ และความหนาน้อยเกินไป เมื่อปะทะน้ำนานๆ อาจสู้ไม่ได้ ต้องเสริมความหนาอีกเท่าตัว  ใครที่สามารถติดต่อได้ ผมขอร้องให้ไปบอกทหารด้วยครับ จักขอบพระคุณมาก เรายังมีเวลา  อย่างที่ผมบอกไว้  การที่เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมจะฝ่าคลองรังสิตมาได้  ไม่ใช่ง่าย ต้องใช้เวลาสะสมมาก และขณะเดียวกันบางส่วนมันก็กระจายไปเรื่อยๆ และลงทะเล ใช้เาลาสะสมมาก

                         จุดอ่อนที่สุดเวลานี้ คือโจมตีผ่านคลองประปา เจาะเข้ามาตรงกลาง เป็นสิ่งที่ กทม. ลืมคิดครับ

                         ผมต้องออกไปเดินจงกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้านต่อแล้วครับ ผมยังมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม.ในพื้นที่คันกั้นน้ำครับ

                         สวัสดี
     
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 144 145 [146] 147 148 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><