Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3600 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 08:45:40 » |
|
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติที่รักทุกท่าน
- เช้านี้ภายหลังนั่งเจริญสติ เปลี่ยนอิริยาบถ มาเดินจงกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้านตอน 05:50 น. อากาศสดชื่นได้รับลมหนาวนิดหน่อยที่รู้สึกได้ ดีใจมากครับ เพราะเป็นสัญญาณที่ดีว่าความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่มาปกคลุมประเทศไทยแล้ว ต่อแต่นี้ไปฝนจะตกน้อยลง พายุ ฝน จะไปเริมที่ภาคใต้แล้วครับ
- ดังนั้น ทุกข์ลาภต่างๆ ที่เกิดจากน้ำท้วมนับแต่นี้จะค่อยๆ ลดลง แต่ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าเดือนครึ่ง ในการระบายน้ำลงทะเล เพราะมันเป็นคอขวด ผ่าน กทม. เพราะเราทำคันกั้นน้ำกว้างมากเพื่อป้องกันเขตเศรษฐกิจ เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำที่ยังอยู่นครสวรรค์ เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทุกท่านต้องอดทน โดยเฉพาะ บ้านที่ถูกน้ำท้วมมาสองเดือนแล้ว ส่วนพื้นที่ที่น้ำไม่ท้วมท่านต้องมีจิตเมตตา ยอมให้รัฐฐาลเข้าไประบายน้ำเข้าบ้าง เพื่อกระจายน้ำไปพื้นที่กว้างๆ ทำให้เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมขาดกำลังส่งบำรุง ท่านต้องรู้จักเสียสละบ้าง อย่าลืมเรากักมันไม่ได้ ต้องยอมให้มันผ่านไป กักมันเมื่อไร มันจะสะสมพลังงานศักย์เพิ่มขึ้นทันที สลายพลังมัน ให้มันผ่านไปครับ
- วันนี้เป็นวันอังคาร เป็นวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ ๕ สีชมพู สิ่งที่พระองค์ได้พระราชทานให้คนสยามในเวลานั้นคือ ทรงให้ขุดคลองต่าง ทางทิศเหนือของกรุงเทพฯจำนวนมาก เพื่อเกษตรในหน้าแล้ง และป้องกันน้ำท้วมในหน้าน้ำหลาก ขณะนี้คลองที่พระองค์ท่านให้ขุดนั้น กำลังทำหน้าที่ของมัน ระบายน้ำออกไปพื้นที่ด้านนอก ไม่ให้ผ่านกรุงเทพฯมหานคร ทำหน้าที่ กองโจร ตัดกำลังเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมอยู่ แต่หน้าเสียดายหลายสิบปีที่ผ่านมา เราคนรุ่นหลัง ไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของมัน ปลูกบ้านเรือน รุกแนวเขต ปล่อยให้หญ้า ผักตบชวา คลองตื่นเขิน ถ้าหากพระองค์ท่านมีชีวิตอยู่ทรงทราบ ท่านคงเสียพระทัยมากครับ ที่ลูกหลานคนสยามละเลยพระราชดำหริของพระองค์ไม่รักษาคลองเหล่านั้นให้อยู่พร้อมใช้งานเสมอ
- อย่าลืมวัน D-day ผ่านไปสองวัน วันนี้เป็นวันที่สาม มวลน้ำยังสะสมพลังงานศักย์อยู่ที่พื้นที่เหนือรังสิต อยู่ขณะนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อเสียคือสร้างความเสียหาย ข้อดีคือเจ้า "ซึนามิเงียบ" โดนกองโจรสร้างกับดักไว้ คือไหลข้ามถนนพหลโยธินไปทางทุ่งรังสิตตะวันออก ซึ่งมันไม่สามารถหวลกลับมาทางตะวันตกได้อีกแล้ว มันอยู่ในหลุมพลางที่กว้างใหญ่ แต่จะสร้างความเสียหายเกิดขึ้น แต่ไม่ต้องกลัวระดับน้ำไม่สูงมาก เพราะมันโดนควบคุมด้วยความสูงของถนนพหลโยธิน ครับ มันจะถูกตัดกำลังอย่างมาก แต่ผมกลัวใจรัฐบาลจริงๆ ที่มองไม่เห็น สั่งให้กรมทางหลวงแผ่นดินที่เพื่อนผมเป็นอธิบดี ให้หาคอนกรีต กระสอบทราย ดิน มาถมถนนเพื่อให้รถสามารถวิ่งผ่านไปได้ จะเป็นการช่วย เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมให้มีกำลังเพิ่มอีกครั้งหนึ่ง ที่จะทำลายสิ่งที่กีดขวางต่อไป คือย่านรังสิตทั้งหมด นิคมอุตสาหกรรมบางกระดี่ และหมู่บ้านจัดสรรค์ ที่อยู่ฝั่งตะวันตกของถนนพหลโยธินทั้งหมด โปรดอย่าไปกั้นมันเลย ถึงอย่างไรเราก็ไม่สามารถผ่านทางพหลโยธินได้อยู่แล้ว ปล่อยให้มันผ่านถนนไป น้ำไม่ถึง 2.00 ม. หรอกครับ เราจะสามารถตัดกำลังได้มาก กรุงเทพฯจะปลอดภัย เป็นการทุบคอขวดของน้ำให้แตกสลาย อีกทางหนึ่ง
- สำหรับคนในเขตคันกั้นน้ำฝั่งกรุงเทพฯ ท่านสบายใจได้ ถ้าน้ำผ่านรังสิตมาได้ จะเจอคลองรังสิต-นครนายก ตัดกำลัง เป็นด่านสุดท้าย ไปสู่คูคลองระบายน้ำของในหลวงรัชกาลที่ ๕ สู่ทุ่งตะวันออก แต่หน้าเสียดายที่ผ่านมา ชาวบ้านกลัวน้ำท้วมเราระบายน้ำออกทางนี้น้อย ไปปิดกั้นมัน มาเป็นเดือน ทั้งที่ขณะนั้น น้ำยังไม่ใช่มวลก้อนใหญ่ มันเป็นอดีตแล้วครับ แต่จำเอาไปใช้ปีหน้า แต่ตอนนี้ต้องช่วยให้มันทำหน้าที่กองโจร ตัดกำลังไปทางวตะวันออกให้มาก อย่าไปกั้น หรือปิดตายครับ เรากำลังต้องการให้คอขวดแตก ครับ
สถานการณ์น้ำล่าสุด พื้นที่กรุงเทพมหานคร วันอังคาร ที่ 18 ตุลาคม 2554 เวลา 07.56 น.
ข้อมูลล่าสุด
07.00 น. กทม.และปริมณฑลไม่พบกลุ่มฝน
ระดับน้ำชายแดน กทม. ด้านปทุมธานีและคลองเปรมประชากรอยู่ในระดับปกติ
วันนี้กทม.เร่งสร้างแนวกระสอบทราย ตอนคลองหกวาสายล่างเพื่อเป็นแนวกั้นน้ำชั้นที่ 2 คาดว่าจะเสร็จภายในวันพรุ่งนี้ ระดับน้ำในคลองหกวาสายล่างยังเป็นปกติ
วันนี้ขึ้นเต็มที่เวลา 11.35 น. ฐานน้ำ 1.03 ม.รทก. 18 ต.ค. 2554
สำหรับข้อมูลกรมชลประทานนั้น ต้องรอให้ท่านอธิบดีกรมชลประทานมาทำงานก่อนครับ
สำหรับน้ำที่ท่านเห็นที่สุพรรณบุรี ท้วมบ้านคุณขวัญจิต ที่ศรีประจัน นั้น มันเป็นเขตติดต่อกับจังหวัดอ่างทอง ที่ชาวบ้านรื้อคันดินบนถนนสายอ่างทอง - สิงห์บุรี และประตูน้ำบรมธาตุ คอสะพายขาดมานานเพราะ ระดับน้ำสูง ล้นข้ามถนนไป เป็นการดี เพราะน้ำจะไปพักอยู่ในแก้มลิงธรรมชาติฝั่งตะวันตกตอนล่าง และไม่ไหลกลับมาลงแม่น้ำเจ้าพระยาจะไปทางสุพรรณบุรี ทำให้กำลังของ เจ้า "ซึนามิเงียบ" ในเจ้าพระยา มีกำลังลดลง ครับ ท่านไม่ต้องไปกังวล ระดับน้ำไม่สูงหรอก เพราะมีความสูงของถนนอ่างทอง - สิงห์บุรี เป็นตัวบังคับ พูดให้เข้าใจง่าย คือ เป็นทางน้ำล้นตามเขื่อนต่างๆ นั่นเอง มันจะหยุดของมันเองเมื่อระดับลดลง
สวัสดีครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3601 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 09:03:47 » |
|
ผมขอความช่วยเหลือ ขอให้ทุกท่านช่วยกัน นะครับ
ผมเห็นภาพการเสริมกระสอบทรายของเจ้าหน้าที่ กทม. ทางด้านทิศเหนือ และที่ต่างๆ นั้น ผมไม่สบายใจเลย ใครก็ได้ที่สามารถติดต่อโฆษกตาม TV วิทยุ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือ ผู้ว่า กทม. ทุกคนขาดความรู้ในการวางกระสอบทรายแม้กระทั่ง "วิศวกรของสำนักระบายน้ำ" โปรดนำภาพนี้ไปบอกเขาและแนะนำเขาไปว่า "การเสริมความสูง ด้วยกระสอบทรายนั้น ท่านวางสูงเท่าไร ท่านต้องมีความกว้างของฐานกระสอบทรายให้มากกว่าความสูง อย่างน้อย 2.5 เท่า นะครับ ตามที่เห็นทาง TV เป็นการวางกระสอบทรายที่ยังผิดหลักการรับแรงดันของน้ำ ช่วยๆ กันครับ อย่าให้กระสอบทรายนั้นต้องพังไปแบบ นิคมอุตสาหกรรม ต่างๆ นั้นเลยที่เตรียมการณ์ไว้อย่างดี แต่ต้องพังลง เพราะความไม่รู้ครับ"
ผมขอร้อง นะครับ ช่วยกัน ขอบคุณมาก
มานพ กลับดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3602 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 09:41:54 » |
|
สรุป สถานการณ์น้ำประจำวัน วันอังคารที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๔
- เขื่อมภูมิพล ปริมาณน้ำในอ่าง 99% ไหลเข้า 74.28 ไหลเข้าเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 6.90 ระบายออก 50 ระบายออกเท่าเมื่อวาน 0 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ความจริงสามารถหยุดการระบายน้ำได้ทันที โดยไม่มีผลกระทบใดๆทั้งสิ้น แต่ กฟผ.ต้องการใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า อยู่ที่ 50 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตอนนี้น้ำกำลังสะสมเพิ่มอยู่เรื่อยๆ อาจต้องระบายออกมากกว่านี้ ในอนาคต ครับ
- เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำในอ่าง 99% ไหลเข้า 26.04 ไหลเข้าลดลงจากเมื่อวาน 2.54 ระบายออก 20.03 ระบายออกเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03 ล้านลูกบาศก์เมตร จริงๆสามารถหยุดการระบายออกได้ทันที โดยไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น แต่ กฟผ.ต้องการใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า เพราะน้ำไหลเข้าอ่างลดลง ครับ
- เขื่อนแควน้อย ปริมาณน้ำในอ่าง 100% ไหลเข้า 10.17 ไหลเข้าเพิ่มขึ้นจากเมือ่วาน 0.03 ระบายออก 8.64 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออกเท่ากับเมื่อวาน จริงๆสามารถหยุดระบายได้ทันที หรือลดลง 50% แสดงว่าบริเวณนั้นยังมีฝนตกมาก ครับ
- เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำในอ่าง 137% ไหลเข้า 44.52 ไหลเข้าลดลงจากเมื่อวาน 0.95 ระบายออก 25.94 ระบายออกน้อยลงจากเมื่อวาน 0.05 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นสัญญาณที่ดี แต่สัญญาณที่ไม่ดีคือ ความจุอยู่ที่ 137% อนาคตอาจจะปล่อยมาอีกครับ เพราะระดับน้ำในอ่างเพิ่มขึ้นเกินความจุ
- เขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำหน้าเขื่อน 17.71 m. ระดับน้ำเหนือเขื่อนลดลงจากเมื่อวาน 0.01m. ปริมาณน้ำระบายออก 3,610 ระบายออกเท่าเมื่อวาน แสดงว่าน้ำยังคงมีกำลังหนุนต่อเนื่อง ส่งมาให้ เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม อยู่ตลอดเวลา กำลังสะสมพลังงานศักย์ อยู่นะครับ
- เขื่อนพระรามหก ระดับน้ำหน้าเขื่อน 9.44 m. ลดลงจากเมื่อวาน 0.15 m. ปริมาณน้ำระบายออก 576 ลดลงจากเมื่อวาน 52.5 ล้านลูกบาศก์เมตร
ต่อวินาที เป็นสัญญาณที่ดี แต่ทำไม? จากข่าวทาง TV ระดับน้ำจากแม่น้ำป่าสักสูงขึ้นจากเดิม ผมสงสัยจริงๆ ครับ ว่าของจริงปล่อยออกมากกว่าลดแน่นอน เพราะ ความจุ 137% เป็นผม ผมก็ต้องปล่อยออก ตรงข้ามกับตัวเลขที่แสดง ครับ เพราะมันเคยปรากฏมาแล้ว
- นครสวรรค์ วันนี้ 4,526 เมื่อวาน 4,560 ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน
- อุทัยธานี วันนี้ 703 เมื่อวาน 707 ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน
- สิงห์บุรี วันนี้ 2,895 เมื่อวาน 2,875 ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน
- อ่างทอง วันนี้ 2,652 เมื่อวาน 2,652 ระดับน้ำเท่าเมือ่วาน
- อยุธยา วันนี้ 1,477 เมื่อวาน 1,479 ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน
- บางไทร วันนี้ 3,776 เมื่อวาน 3,783 ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน
- ระดับน้ำ ที่จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี ไม่มีการวัด แสดงว่าน้ำท้วมสูงเกินระดับที่สามารถวัดได้
สรุปโดยภาพรวม - ปริมาณน้ำใหลเข้าเขื่อนต่างๆ รวมกันเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน เป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะเขื่อนอาจจะระบายน้ำออกเพิ่มขึ้นในอนาคต
- การระบายน้ำออกจากเขือนต่างๆ ลดลงมาก จากเมื่อวานนี้ เป็นสิ่งที่สมควรกระทำอย่างยิ่ง ทำให้มีผลกระทบท้ายเขื่อนลดลง
- ปริมาณน้ำที่ผ่านนครสวรรค์ เริ่มลดลง ระดับเริมลดลง เป็นสัญาณที่ดี ระดับน้ำจะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ ครับแต่ใช้เวลาสักหนึ่งเดือนครึ่ง
- ปริมาณน้ำที่ผ่านจากสิงห์บุรี อ่างทอง เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณที่ไม่ดี ต้องเฝ้าระวังคันกั้นน้ำเดิมให้ดี แสดงว่าน้ำหยุดไหลลงแก้มลิงฝั่งตะวันตก คงมาจากกการปิดไม่ให้น้ำไหลลงทุ่ง เป็นความคิดที่ผิด เราต้องปล่อยให้น้ำที่สิงห์บุรี -อ่างทอง ลงทุ่งตะวันตก เพราะเมื่องลงทุ่งไปแล้ว มันจะไปโผล่ที่สุพรรณบุรี แต่ระดับจะไม่สูง และมันจะไปลงทพเล ไม่กลับมาลงในแม่น้ำเจ้าพระยาอีก เป็นการตัดกำลังเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม ครับ แต่จากการสอบถามน้องสาวในพื้นที่ ระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิม แสดงว่ามีการปล่อยน้ำจากเขื่อนชัยนาทเพิ่มขึ้น แต่ไม่แสดงทางกรมชลประทาน
- ปริมาณน้ำที่ผ่านอยุธยา บางไทร ตามตัวเลขลดลง เป็นผลมาจากน้ำได้กระจายไปยังฝั่งตะวันออกเข้าไปท้วมประตูน้ำพระอินทร์และไหลลงทุ่งรังสิตฝั่งตะวันออก อย่าลืมน้ำกำลังสะสมตัวเองอยู่ขณะนี้ ท่านจะเห็นเองอีกสามวันระดับน้ำที่อยุธยาจะเพิ่มขึ้น และขณะเขียนอยู่นี้ ได้มีการสัมภาษย์ เจ้าหน้าที่ที่อยุธยา ว่าระดับน้ำที่แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำป่าสักมีระดับสูงขึ้น มีผลให้อีกสองสามวันระดับน้ำที่อยุธยาจะสูงขึ้นกว่าเดิม เป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อชาว กทม. เพราะจะทำให้ เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมมีกำลังสะสมเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ตัวเลขมันค้านกับตัวเลขของกรมชลประทานที่ปล่อยน้ำลดลง แต่จริงๆ ปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิม เพราะน้ำมาจากไหน ฝนไม่ตกแต่ระดับน้ำเพิ่มแสดงว่ามาจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนเพิ่มขึ้น
- ขณะนี้เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม อยู่ที่รังสิตและนนทบุรีครับ ผมขอย้ำเตือน อย่าไปยันมัน ปล่อยให้มันผ่านไป จะท้วมถนนก็ต้องยอม เพราะถ้ามันกระจายไปตามพื้นที่กว้างๆ ระดับน้ำจะไม่สูง แต่ถ้าไปกัก ไปกั้นมัน ท่านสู้ไม่ไหว และระดับน้ำมันจะสูง มีความเสียหายมากกว่า ครับ
นี่คือ ภาพรวมวันนี้ ต้องแก้ปัญหาที่เหตุ
- น้ำท้วมนครสวรรค์มาจาก การปล่อยน้ำจากเขื่อน ต้องยุติทันที และระบายออกทางสุพรรณบุรีด้วยประตูระบายน้ำทั้งสองแห่งอีกสอง สามเท่าตัวจากปัจจุบัน น้ำไม่ท้วมสุพรรณบุรี สูงจนคนอยู่ไม่ได้หรอกครับ อย่างเก่งเพียงเอว ซึ่งผิดกับที่อื่น 3.5-4.00 ม. ไม่มีบ้านอยู่ ถนนหลวงก็ไม่มีที่อยู่ ทำตามนี้ ผมรับรองน้ำนครสวรรค์ลดลงทันทีทันใดเห็นๆ
- เปิดน้ำเข้าทุ่งตะวันตก ซึ่งมีพื้นที่ 2-4 ล้านไร่ ซึ่งเป็นแก้มลิงธรรมชาติ ที่กรมชลประทานระบายไปเก็บไว้ชั่วคราวทุกปี กำลังรอน้ำจากกรมชลประทาน เพราะเกี่ยวข้าวหมดแล้ว น้ำโคลนจะเพิ่มปุ๋ยตามธรรมชาติ น้ำจะไหลลงอยุธยา ปทุมธานี กทม. ลดลงขาดกำหลังหนุน จะสามารถกู้เขตเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรม กลับมาได้ ถ้าท่านไม่ปล่อยน้ำลงไป ประชาชน อดทนมาสองเดือนจะทนไม่ไหว ที่เห็นความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น จะใช้กฏหมู่ค่อยๆ พังคันกั้นน้ำบนถนน เขื่อนชัยนาท-สิงห์บุรี-อ่างทอง ลงไปเรื่อยๆ ไม่เชื่อคอยดูครับ
- น้ำท้วมสุพรรณบุรี ที่ท่านเห็น นั้นมาจากน้ำที่ล้นจากถนนสาย อ่างทอง-สิงห์บุรี เข้าไปทุ่งตะวันตกตอนล่าง ครับ ระดับน้ำไม่สูง เพราะโดนบังคับโดยความสูงของถนนอ่างทอง-สิงห์บุรี เป็นทางน้ำล้น ไม่อันตรายใดๆทั้งสิ้น ข้อดี น้ำที่ไปอยู่ในแก้มลิงนี้จะไม่ไหลกลับมาลงเจ้าพระยาอีก
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3603 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 10:55:07 » |
|
ผมนั่งคำนวณ เพื่อตรวจสอบตัวเลข ได้ข้อสรุป คือ ท่านวางกระสอบทรายสูงเท่าไร ?
ท่านต้องวางกระสอบทรายให้มีฐานกว้าง เท่ากับ 2.5 เท่าของความสูง จะมีสัดส่วนความปลอดภัย 3.00
ตัวอย่าง
ระดับน้ำสูง 1.00 เมตร ท่านต้องมีฐานกระสอบทรายวางตามรูป 2.5 เมตร ครับ
จึงจะเพียงพอกับแรงดันน้ำ และแรงกระแทก (Impact load)
นำเอาสิ่งนี้ไปแนะนำ ผู้ว่า กทม. และวิศวกร ผู้อำนวยการเขต กทม. ครับ
ขอบคุณมาก
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #3604 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 11:56:11 » |
|
พี่สิงห์
แม้จะ้เป็นความจริง และน่าจะปกป้องภัยน้ำท่วมที่บ่าเข้าไปได้ แต่พวกเขายอมรับไม่ได้ เพราะสิ้นเปลืองกระสอบทรายอีกเป็นจำนวนมหาศาล อีกทั้งต้องเรียงกระสอบทรายลงไปบนพื้นผิวถนน ทำให้การจราจรติดขัด ยิ่งไม่ทำใหญ่ นี่เป็นข้อผิดพลาดอย่างมหันต์
การเรียงกระสอบทรายแบบที่ กทม. ทำกันนั้น เหมือนกับที่ผมทำการเรียงที่โกดังครับ แต่สถานการณืต่างกัยคือ ที่นั่น น้ำค่อยๆ ท่วม เราจึงค่อยๆ เรียง : แรงดันน้ำค่อยๆ เพิ่ม ผลกระทบจึงไม่เกิด แต่เมื่อระดับน้ำสูงจนไม่น่าไว้ใจ ผมจึงนำหินคลุกเทอัดหลังกองกระสอบทรายเพื่อเป็นตัวช่วย จึงแข็งแรงขึ้นและก็เป็นไปตามทฤษฎีพอดี แถมผมยังรื้อกองกระสอบทรายไปใช้ที่อื่นด้วย ปล่อยให้กองหินคลุกต้านน้ำไว้ตามลำพัง
น้ำที่ไหลมาปะทะกับพนังกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรม 5+1 แห่งและจุดต่างๆ มันไม่ได้เป็นแบบค่อยๆ มา มวลน้ำมันไหล (หรือวิ่ง) ด้วยความเร็วสูง แรงประทะสูง กองกระสอบทรายที่ไหนก็เอาไม่อยู่ ดังที่บอกว่า กระสอบทรายหนา 3 เมตร สูง 4 เมตร ไม่มีทางสะกัดอยู่แลย แต่ถ้าหนาสัก 7-8 เมตร-พอทน หากหลังกองกระสอบทราย มีกองหินคลุกช่วยยันไว้ จะไม่พังทลายง่ายๆ ดังที่เห็นกันทุกนิคมฯ เลย
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3606 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 12:09:12 » |
|
- วันนี้ 12:45 น. ผมได้ตรวจสอบระดับน้ำที่สิงห์บุรี กับทางโรงพยาบาลสิงห์บุรี กับน้องสาว ปรากฏว่าระดับน้ำที่สิงห์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งที่ลพบุรี ด้วยครับ ทำไม? ระดับน้ำจึงเพิ่มขึ้น ผลจากระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น คือ สัญญาณที่ไม่ดีสำหรับ อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร ที่จะทำให้ เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมมีกำลังสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมที่จะสะสมพลังงานศักย์ให้มากยิ่งขึ้น ในการเข้าโจมตีคันกั้นน้ำต่างๆ ที่ขวางทางน้ำไหล ครับ
- ระดับน้ำที่สิงห์บุรีเพิ่มขึ้นมาจากไหน ? มีสามสาเหตุคือ หนึ่งจากปริมาณน้ำฝน(แต่ฝนตกน้อยลง) สองมาจากการระบายน้ำออกจากเขื่อนเจ้าพระยา (ตามตัวเลขเท่าเดิมมาสองเดือนแล้ว) สามเป็นผลมาจาก กรมชลประทานได้ทำการซ่อมคันกั้นน้ำบนถนน เขื่อนชัยนาท - สิงห์บุรี - อ่างทอง ที่ชาวบ้านพังบางจุด ตลอดเส้นทางให้กลับคืนมา ไม่ให้น้ำล้นถนนเข้าทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ที่ไม่มีน้ำ นาข้าวส่วนใหญ่เกี่ยวหมดแล้ว ต้องการปุ๋ยจากน้ำโคลน แต่ทางกรมชลประทานไม่ปล่อยลงไป เพราะน้ำมวลนี้ถ้าปล่อยลงไป จะไม่กลับมาทางเจ้าพระยาอีก จะไหลลงทุ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี และไหลลงทะเลไปทางนั้น จริงๆ ไม่ควรไปซ่อมมัน ควรปล่อยมันไป เป็นคันระบายน้ำล้นตามเดิมของมัน จะดีที่สุด กทม.จะได้รอด ครับ
- และกรมทางได้มีการทำคันกั้นน้ำบนถนนสายเอเซีย ไม่ให้ล้นถนนข้ามเข้าไปทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นแก้มลิงธรรมชาติ พักน้ำ เพื่อให้รถสามารถวิ่งได้ แต่จริงๆ รถก็วิ่งไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ควรไปทำอะไรมัน ปล่อยให้น้ำผ่านดีที่สุด กรุงเทพฯ จะได้รอด ครับ
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3608 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 12:32:56 » |
|
"ซึนามิเงียบ" บางท่านอาจจะสงสัย เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม มันคืออะไร อย่างที่อธิบายไปแล้ว ผมตั้งชื่อมันขึ้นมาเองจากผลเสียหายที่เกิดขึ้นของมัน เมื่อเทียบกับ "ซึนามิทางทะเล"
บางท่านอาจจะสงสัย มวลน้ำมวลใหญ่มันอยู่ที่ไหน ? ท่านอธิบดีกรมชลประทานบอกว่า ลงทะเลไปแล้ว ผู้สื่อข่าว ต่างๆ ก็บอกว่าไหลไปนั่น ไหลไปนี่ แล้วมันอยู่ไหน ? กันล่ะ
เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม มันเหมือนความคิดคน คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่เพื่อทำลาย ดับไป และเกิดขึ้นใหม่อีกตลอดเวลา เมื่อมนุษย์ไปกั้นมันด้วยคันกั้นน้ำ ถนน อาคาร พื้นที่ว่าง ต่างๆ นาๆ มันจะสะสมเพิ่มขึ้นตลอด ตราบใดที่เรายังไม่ได้ตัดกำลังบำรุงของมัน คือหยุดปล่อยน้ำ เบี่ยงเบนน้ำที่จะมาเสริมให้ไปที่อื่น ไปฝากไว้ในแก้มลิงธรรมชาติ ลงทะเลทางอื่น
กรมชลประทานไม่กระทำตามที่ผมเสนอ ปล่อยให้ผมบ้าไปคนเดียว ท่านทำตรงข้ามหมด คือ ยังคงปล่อยน้ำออกจากเขื่อนต่างๆ คันกั้นน้ำอันไหน ถนนคันกั้นน้ำอันไหน ชำรุดเสียหาย ท่านก็ไปอุดเสียหมด นำน้ำให้กลับมาอยู่ในลุ่มเจ้าพระยาตามเดิม ไม่ให้กระจายไปพักตามทุ่งนา
ดังนั้น เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม จึงเกิดขึ้น ทำลายสิ่งที่ขวางหน้า สลายตัวไป เกิดขึ้นใหม่ เป็นวัฏจักร ดังนี้ตลอดเวลา
ความคิดคนนั้น เกิดขึ้นตลอดเวลา ตั้งอยู่พักหนึ่งถ้าเราไม่คิดต่อ มันก็ดับไป แต่ถ้าคิดต่อ ก็ก่อทุกข์-สุข ดับไป และคิดขึ้นมาใหม่ ตลอดเวลาเป็นวัฏจักรอย่างนี้ครับ
ดังนั้น เจ้า "ซึนามิเงียบ" หรือมวลน้ำขนาดใหญ่ มันจึงมีอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้หายไปไหน? ยังคงอาระวาดตลอดเวลา ทุกที่ ที่กักมันไว้ด้วยคันกั้นน้ำ เพราะกำลังสนับสนุน ยังมีมหาศาล มันจึงไม่ได้จากไปเลย อย่ามาโกหก ว่ามันไปแล้วเด็ดขาด มันไม่จริง มันรวมพลเกิดขึ้นตลอดเวลา ครับ
ขอให้คิดด้วยปัญญา ครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3609 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 14:25:28 » |
|
ดร.มนตรี โดยปกติการออกแบบทางวิศวกรรมโครงสร้างนั้น จะคิดแบบ Static Load เป็นหลัก ไม่นิยมเอาค่าโมเมนตั้มมาคิด แต่ค่าโมเมนตั้มนั้นจะอยู่ในรูปของ Impact Load (แรงกระแทก) โดยทั่วไปใช้ค่ามาตรฐาน คือ 25% ของแรงที่ออกแบบรับน้ำหนัก และยังอยู่ในรูปของ Factor of Safety (สัดส่วนของความปลอดภัย) ปกติต้องมีค่ามากกว่า 2.00 ขึ้นไป หรือขึ้นอยู่กับมาตรฐานความปลอดภัยของโครงสร้าง นั้นๆ ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #3610 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 14:34:42 » |
|
ขอบพระคุณ สำหรับความรู้ครับ พี่สิงห์ ...
เป็นไปได้ว่า เขื่อนดิน ที่พัง ไปของนิคม แต่ละแห่ง ... ลืม Factor ของ Momentum/ Impact Load ว่า ไม่ได้อยู่ในภาวะปกติหรือเปล่าครับ ?
ถ้า Static Load น่าจะรองรับได้เพียงแรงดัน สำหรับน้ำนิ่ง ... และหากเผื่อ Impact Load ไว้เพียง 25% ก็ไม่เพียงพอสำหรับการรับแรงกระทำจาก น้ำที่ไหล ด้วยความเร็ว และลักษณะการชน แบบนี้ ...
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #3611 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 14:47:08 » |
|
ภาพดาวเทียมครับ ณ เวลา 03.00 น.(กรีนิช) พายุใหญ่ยังไม่มีวี่แวว
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3612 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 14:48:19 » |
|
ตอนนี้ทุกคนเขา เร่งด่วน เอาตัวรอด มีแต่ "วัศวกะ" ไม่ใช่ "วิศวกร" ทั้งที่เป็นวิศวกร เลยลืม static load (เพราะคิดไม่เป็น ลืมแล้ว) impact load ก็ไม่ได้เผื่อเพราะไม่รู้ Factor of safety ก็ไม่ได้ใส่เอาไว้เพราะเป็น "วิศวกะ" และตามที่คุณเหยงว่า ไม่มีเวลาแล้ว ไม่มีพื้นที่ ไม่มีกระสอบทราย หาอะไรได้เอาทั้งนั้น ครับ
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #3613 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 14:52:01 » |
|
ครับพี่ ....
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3614 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 14:56:06 » |
|
สถานการณ์น้ำพื้นที่กรุงเทพฯ
วันอังคาร ที่ 18 ตุลาคม 2554 เวลา 14.38 น. สถานการณ์น้ำวันนี้ สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2554 (เวลา 07.00 น.)
น้ำฝน
- ปริมาณฝน (24 ชั่วโมงที่ผ่านมา) สูงสุดที่ ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ เขตมีนบุรี 30.0 มม. - ปริมาณฝนรวมตั้งแต่ 1 ม.ค.-17 ต.ค. 54 รวม 2,190.5 มม. มากกว่าค่าเฉลี่ย 47.6 %
- มวลอากาศเย็นเริ่มปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนลดลง
น้ำเหนือ (ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา)
- ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา + พระราม 6 รวม 4,186 ลบ.ม./วินาที (ลดจากเมื่อวาน 52 ลบ.ม./วินาที)
- ปริมาณน้ำผ่าน อ. บางไทร 3,777 ลบ.ม./วินาที (เพิ่มจากเมื่อวาน 2 ลบ.ม./วินาที)
ฐานน้ำทะเลหนุนสูง
- วันนี้ เวลา 11.35 น. ระดับ +1.03 ม.รทก. และเวลา 19.59 น. ระดับ +0.95 ม.รทก.
- วันพรุ่งนี้ เวลา 13.02 น. ระดับ +1.00 ม.รทก. และเวลา 20.19 น. ระดับ +0.93 ม.รทก.
ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
- วันนี้ 17 ต.ค. 54 ช่วงเช้า สูงสุด เวลา 10.00 น. ระดับ +2.08 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 72 ซม.)
- คาดการณ์โดยกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เวลา 11.30 น. ระดับ +2.06 ม.รทก.
สถานการณ์น้ำเหนือ+น้ำทะเลหนุน
แนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานคร ยังสามารถป้องกันได้ไม่มีผลกระทบกับพื้นที่ในแนวป้องกันของกรุงเทพมหานคร (ซึ่งป้องกันได้ที่ระดับเฉลี่ย 2.50 ม.- 3.00 ม.)
ระดับน้ำคลองต่าง ๆ เขตกรุงเทพมหานคร ภายในคั้นกั้นน้ำ ส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะปกติ
ระดับน้ำในคลองด้านตะวันออก คลองแสนแสบ คลองประเวศน์บุรีรมย์ คลอง 13 คลองหลวงแพ่ง ระดับน้ำทรงตัว
ระดับในคลองด้านตะวันตก คลองมหาสวัสดิ์ มีระดับสูง +1.95 ม.รทก. ลดลง 1 ซม.ระดับน้ำในคลองด้านเหนือ คลองรังสิต คลองหกวาสายล่าง คลองสอง คลองพระยาสุเรนทร์ ระดับน้ำทรงตัว
ข้อมูลล่าสุด
14.30 น. พบกลุ่มฝนอ่อนถึงปานกลางอำเภอเมืองสมุทรสาคร แนวโน้มลดลง
ระดับน้ำชายแดน กทม. ด้านปทุมธานีและคลองเปรมประชากรอยู่ในระดับปกติ
วันนี้กทม.เร่งสร้างแนวกระสอบทราย ตอนคลองหกวาสายล่างเพื่อเป็นแนวกั้นน้ำชั้นที่ 2 คาดว่าจะเสร็จภายในวันพรุ่งนี้ ระดับน้ำในคลองหกวาสายล่างยังเป็นปกติ
วันนี้ขึ้นเต็มที่เวลา 11.35 น. ฐานน้ำ 1.03 ม.รทก.
ระดับน้ำที่ส.บางนา 1.17 ม.รทก. ปากคลองตลาด 1.91 ม.รทก. บางเขนใหม่ 2.39 ม.รทก.
สำนักการระบายน้ำ ขออาสาสมัครช่วยกรอกทรายที่โรงเรียนสายไหม ปลายซอยสาย
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #3615 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 15:05:27 » |
|
พี่สิงห์
ประตูน้ำ คลองพระยาบันลือ แตกแล้วครับ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย จมน้ำไปแล้ว ส่งผลให้อำเภอบางบัวทองจมน้ำไปทั้งหมดแล้ว
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3616 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 15:06:58 » |
|
- สำหรับทุกท่านที่อยู่นอกพื้นที่แนวป้องกันของ กทม. เช่นทางรังสิต ขึ้นไปทั้งฝั่งซ้ายและขวาของถนนพหลโยธิน ตอนนี้ท่านกำลังเผชิญกับน้ำ ท่านต้องรู้ว่าท่านสู้ไม่ได้ ขวางไม่ได้ เก็บของหนีขึ้นชั้นสอง นำรถไปไว้ในที่ปลอดภัย ตุนอาหาร น้ำ และต้องหน้าด้านสามารถถ่ายอุจจาระแบบชาวอินเดียได้
- สำหรับฝั่งสายไหม สามวา มันบุรี หนองจอก ลาดกระบัง ท่านคงลำบากมากตอนนี้เพราะเป็นเขตรับน้ำจากการระบายน้ำของ กทม. ผันน้ำไปทางทิศทางนั้นเพื่อออกทะเลอีกทางหนึ่ง อดทนหน่อย ถือว่าท่านเสียสละอันยิ่งใหญ่ครับ
- เช่นเดียวกันท่านที่อยู่พุทธมณฑล ศาลายา เขตทวีวัฒนา กทม.ก็ระบายน้ำไปทางแม่น้ำท่าจีน เพื่อลงทะเล อดทนครับ ท่านกำลังเสียสละเพื่อรักษาเขตเศรษฐกิจหลักของชาติ นำรถไว้ที่สูง เก็บของขึ้นชั้นสอง อย่าไปขวางน้ำมันเลยครับ ช่วยๆ กัน
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3617 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 15:15:36 » |
|
สวัสดีครับ คุณเหยง
ก็อย่างที่ผมบอก ประตูระบายน้ำส่วนใหญ่ สร้างมาเกิน ๒๐ ปี ทั้งนั้น และออกแบบไว้ที่ระดับต่ำกว่านี้ พอเจอน้ำสูงแบบนี้ และยิ่งไปปิดมันเอาไว้อีก ความต่างระดับมันสูงมาก เกินที่ออกแบบไว้ มันก็พังเท่านั้นครับ
ทางที่ดี กรมชลประทานก็ดี ชาวบ้านใต้ประตูระบายน้ำก็ดี ท่านต้องยอมรับความจริง ต้องยินยอมให้เปิดประตูระบายน้ำออกไปบางส่วนบ้าง ให้ประตูคันกั้นน้ำ สามารถระบายน้ำออกไป ลดแรงดันของน้ำ ถ้าไปปิด ไปกั้นมาก อย่าลืม ท่านสู้ เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมไม่ได้หรอก ไม่ช้าก็เร็ว
คุณเหยง ระวังประตูระบายน้ำต่างๆ ที่ยังเหลืออยู่ ที่ชาวบ้านไม่ยอมให้กรมชลประทานเปิด มีการเอาปืน มวลชน มากดดัน ระวังประตูระบายน้ำมันรับแรงดันน้ำไม่ไหว มันจะค่อยๆ ทะยอยพังลงที่ละประตู ๆ ไม่เชื่อคอยดูต่อไปครับ
สวัสดี
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #3618 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 15:32:32 » |
|
หากอำเภอบางบัวทองจมน้ำ....
การเดินทางไปอยุธยา โดยเส้นวงแหวนตะวันตก จะมีอุปสรรค รวมไปถึงการเดินทางไปอำเภอลาดหลุมแก้ว เพื่อต่อไปยังปทุมธานี หรือออกอำเภอบางเลน เพื่อเข้าจังหวัดนครปฐม หรือไปอำเภอกำแพงแสน ใช้เส้นมาลัยแมนไปสุพรรณบุรี หรือการใช้เส้นทาง บางบัวทอง-สุพรรณบุรี ก็จะมีอุปสรรคทั้งสิ้น ไม่รวมไปถึงการเดินทางจากบางบัวทองเข้า กทม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #3619 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 15:36:54 » |
|
พี่สิงห์
ชาวบ้านไม่ได้คิดโดยใช้ปัญญา ว่าน้ำมามากและมาแรง ไม่เหมือนปีก่อนๆ ประตูน้ำเป็นถาวรวัตถุมาแต่โบราณ ไม่สามารถรับกับสภาพน้ำในปีนี้ แต่เพราะเป็นชาวบ้าน เชื่อว่ากั้นได้ นี่คือความคิดของเขา ที่สุดก็พังราบเป็นหน้ากลอง ไม่เหลืออะไร แม้แต่ทรัพย์สินของตัวเอง
ณ นาทีนี้ ผมไม่เชื่อว่า กทม.จะรอดครับ นี่ไงครับ มวลน้ำก้อนใหญ่ ยังไม่ได้ลงอ่าวไทย มันแวะไล่รายทางตลอดเลย ถึงไหน พังถึงนั่น......ศปภ. ต้องตอบคำถามให้ได้ ?? ??
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3620 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 16:12:46 » |
|
คุณเหยง
- เขาลืมหมดแล้ว ว่าสาเหตุมาอย่างไร ?
- เพราะตอนเป็นรัฐบาลใหม่ ไม่ได้สนใจ และพอรู้ว่าน้ำท้วมก็ไม่สนใจ มีผมออกมาเตือนคนเดียวเท่านั้น
- ยิ่งตอนนี้ ไม่มีใครเอ่ยถึงสาเหตุที่แท้จริง ผมยังยืนยัน นอนยัน ในปรัชญาของพระพุทธองค์ "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมี เหตุ ปัจจัย ทั้งสิ้น เกิดขึ้นเองไม่ได้ ถ้าเหตุดับ ปัจจัยจึงดับ"
- ทุกวันนี้เราแก้ปลายเหตุ และแก้ก็ไม่เป็น เพียงแต่สั่งการ แต่ไม่มีวิธีการทำ ปล่อยให้ทุกคนไปคิดอำเอง กระสุนก็จำกัด วัสดุ อุปกรณ์ แรงงาน ก็จำกัด
- เป็นผม จะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน เช่น บริษัท TEAM หรือคนอย่างผม หรือขอรับฟังความเห็นจากผู้รู้ทั้งหลายที่มีประสพการณ์ได้มีโอกาสแสดงความเห็น แล้วเอาความคิดเห็นและวิธีการนั้นที่ดีที่สุดเอาไปกระทำ
- ที่ศูนย์ของรัฐบาล มีแต่ผู้ไม่รู้ แต่พูดเก่ง มีอำนาจสั่งการ กระต่ายตื่นตูม ทั้งนั้น จึงต้องพึ่งข้อมูลข้าราชการประจำที่อยู่ภายใต้กำกับของนักการเมือง หรือสือทาง TV
มันเป็นกรรมของประชาชนคนไทยครับ ได้เวลาไปเดินจงกรม ออกกำลังกายตอนเย็นแล้ว ครับ ขอตัวก่อน
สวัสดี
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #3621 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 16:49:20 » |
|
อัพเดท.......
ผู้ว่าการนิคมอุตฯ ลาดกระบัง ขอให้ 224 โรงงานหยุดการทำงาน เตรียมพร้อมอพยพคน เนื่องจากกระแสน้ำไหลไปหาอย่างรวดเร็วและมีความแรง
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3622 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 19:57:53 » |
|
น้ำจะไม่ท้วมกรุงเทพมหานครในแนวเขตคันกั้นน้ำ !!! สวัสดีครับ เมื่อตอน 16:30 น. ผมออกไปเดินจงกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้าน เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง พอจิตนิ่งเป็นสมาธิ จิตมันก็คิดเรื่องน้ำรอบๆกรุงเทพมหานครที่ทุกคนกำลังผวาวาดกลัวว่าจะท้วม กทม. จะอยู่อย่างไร ? นั้น ผมก็ทบทวนดู ได้ข้อสรุปว่า ในพื้นที่แนวคันกั้นน้ำของกรุงเทพมหานครนั้น ผมเชื่อมั่นว่า น้ำจะไม่ท้วม ครับ ด้วยเหตุผล
- ขณะผมเดินจงกรมอยู่นั้น อากาศบริสุทธิ์ของลมหนาวพัดมาให้ผมรู้สึกได้ นั่นแสดงว่า ฤดูฝนได้ผ่านพ้นไปจากกรุงเทพมหานครแล้ว ต่อแต่นี้ไปฝนจะไม่ตกแล้ว พายุจะไม่มี แต่จะไปมีภาคใต้แทน ผมจึงเชื่อมั่นว่า น้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ
- ประชาชนคนกรุงเทพมหานคร ต่างตระหนักถึงภัยที่จะมาถึง รวมถึงท่านนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ( ยกเว้นคุณเฉลิม อยู่บำรุง คนเดียว ไม่ได้สนใจเรื่องน้ำท้วมเลย และอยากให้น้ำท้วม กทม.เสียด้วยซ้ำ จะได้มีเรื่องโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และกำลังจะต้องแต่งตั้งท่านอธิบดีกรมตำรวจคนใหม่ให้ได้ เพราะสำคัญกว่าน้ำท้วม กทม.ตามที่ได้รับคำสั่งมา) มีความตื่นตัว พอที่จะมาช่วย ท่านผู้ว่า กทม. ที่เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ในการรับมือครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะท่านเสียหายมาก ที่ไม่สามารถปกป้องนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ให้รอดพ้นได้ จนขาดความนับถือจากประชาชน ความเชื่อมั่นต่อท่านไม่มี คำสัญญา แถลงการณ์อะไร จากรัฐบาล จากท่านนายก ไม่มีใครเชื่อ เพราะทุกคนรู้ดีว่าท่านไม่มีความรู้ และท่านทำไม่ได้ ถ้าท่านปล่อยให้น้ำท้วม กทม. โดยที่ท่านไม่ได้ช่วย กทม. ท่านไม่มีที่อยู่แน่นอน แต่ถ้า กทม. ปลอดภัยจากน้ำท้วม โดยที่ท่านไม่ได้มาเกี่ยวข้อง ท่านก็หมดความหมายเหมือนกัน ดังนั้น งานนี้ท่านต้องช่วย กทม. อย่างเต็มที่ ผมจึงเชื่อมั่นว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ
- ท่านผู้ว่า กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เองก็รู้ดีว่า ถ้าน้ำท้วม กทม. ครั้งนี้ ไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้นของพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนกัน ดังนั้นทุกคนจึงตื่นตัว ทั้ง สส. สก. สข.ที่ปรึกษา ระดมกำลังเข้าต่อกรกับน้ำทั้งหมด ผู้อำนวยการเขต ข้าราชการ กทม. ทั้งหมด ต่างตื่นตัวช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถึงแม้จะทำเป็นบ้าง ไม่เป็นบ้าง แต่ต่างรู้ว่าต้องทำ ดังนั้น ผมจึงมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ
- จริงอยู่ตามข่าวที่นำเสนอทาง TV นั้นดูหน้ากลัวมาก เจ้าหน้าที่ กทม. วางกระสอบทรายด้านทิศเหนือดูแล้วไม่ปลอดภัยเลยเหมือนวางไม่เป็น และเตี้ยเกินไป จริงๆ การวางกระสอบทรายด้านทิศเหนือของกทม.นั้น เขาคิดจากระดับเดียวกันกับระดับคันกั้นน้ำคอนกรีตที่แม่น้ำเจ้าพระยา คือสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 2.80 - 3.00 เมตร ซึ่งตอนนี้คันกั้นน้ำสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางอยู่ที่ 70 เซนติเมตร โดยเฉลี่ย ถือว่าปลอดภัย ผมจึงมั่นใจว่า น้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ
- ผู้ว่า กทม. เองก็รู้ดีว่า หนทางที่จะเอาชนะเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมได้นั้น ต้องไม่ปะทะตรงๆ ต้องเบี่ยงเบนทิศทาง บังคับมันให้ไปทางทิศอื่น ไม่ให้ประจัญหน้ากัน ด้วยการพยายามผันน้ำไปทางตะวันออกทาง คลองสามวา มันบุรี ลาดกระบัง และลงทะเลให้มากไว้ และอีกทางคือผันน้ำไปทางคลองทวีวัฒนาทางทิศตะวันตกให้มากไว้ ดังนั้นประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ผันน้ำของ กทม. ต้องยอมรับสภาพ ว่าท่านต้องเจอกับน้ำท้วมสูงแน่นอน เมื่อท่านผู้ว่าคิดได้ดังนี้ ผมจึงมั่นใจว่า กทม. น้ำจะไม่ท้วม ยุทธวิธีกระจายน้ำนี้ผมเรียกว่า ยุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก"
- กรมชลประทานเองก็รู้ตัวแล้วว่า มีโอกาศที่ท่านอธิบดีโดนปลดภายหลังน้ำลดแน่ๆ เพราะทำให้แถลงการณ์ต่างๆ ของ ศูนย์ป้องกันภัยน้ำท้วม และรัฐบาลเสียรางวัดไปมาก จึงขอทำดีชดใช้ และเริ่มรู้แล้วว่า ไม่มีทางต่อกรกับเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมได้ ตรงๆ จึงสั่งให้ระบายน้ำออกไปตามคลองต่างๆ ที่เคยปิดไว้แต่ต้องต่อสู้กับประชาชนที่ไม่ยอมให้เปิด แต่สุดท้าย ท่านนายกคงเข้ามาจัดการให้จนสามารถเปิดได้ ช่วยระบายน้ำไปทางตะวันออก ตะวันตก เป็นยุทธวิธีทำลายคอขวด ตามที่ผมเรียกคือ "ตีคอขวดให้แตก" ผมจึงเชื่อว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ
- ผมยังมีคลองรังสิตซึ่งเป็นทัพหน้าให้ กทม. ที่จะต่อสู้กับเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม ซึ่งเอาชนะอยาก ต้องใช้เวลาในการสะสมพลังงานศักย์มาก และเวลานี้เองจะทำให้ยุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก" ของผมได้ผล คือมีเวลากระจายน้ำ ผมจึงเชื่อมั่นว่าน้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ
- มีหลายท่านออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ให้ระวังน้ำที่ไหลไปทางบางบัวทอง ไทรน้อย ลาดหลุมแก้ว แถวๆ ปทุมธานี จะไหลย้อนกลับตีตลบหลังจะทำให้น้ำท้วม กทม. แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น มันเป็นพื้นที่กว้าง และมีคูคลองลองรับ การไหลย้อนกลับต้องใช้เวลามาก และน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังสูงกว่าน้ำด้านนั้น ดังน้ำน้ำไม่ไหลกลับแน่นอน แต่จะยังกระจายเดินหน้าเป็นวงกว้างต่อไป ยังจะช่วยให้ เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมอ่อนกำลังลง ต้องใช้เวลารวมพลเพิ่มพลังงานศักย์อีกมาก เห็นได้จากปริมาณน้ำที่อยุธยา บางไทร ลดลง ครับ ดังนั้นผมยังเชื่อมั่นว่า น้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ
- สุดท้ายผมยังเชื่อมันทางวิชาการข้อมูลของ บริษัทที่ปรึกษา TEAM ที่นำเสนอมานั้นเชื่อถือได้ คนมีประสพการณ์ทางน้ำ อย่าง ดร.ประเสริฐ ณ นคร ที่ผมกับ ดร.สุริยา ท่าน ศ. ดร.ปณิธาน และ ท่านอาจารย์ ดร.สุทธิพล เคยเล่นเทนนิสมาด้วยกันนั้น ทำงานทางด้านน้ำมา ๓๐ ปี เป็นวิศวกรทางน้ำ และตัวเองจะได้รับผลกระทบมหาศาลด้วย คงไม่ทำลายตัวเองหรอกครับ ข้อมูลนั้นเป็นจริง วันนี้ผมเห็นออก TV ด้วย ยังแสดงความเชื่อมั่นในข้อมูลที่นำเสนอไปนั้น เชื่อถือได้ ดังนั้น ผมจึงเชื่อมั่นว่า กทม. น้ำจะไม่ท้วม ครับ
ดังนั้น ผมขอความร่วมมือทุกท่าน ที่อยู่ในแนวคันกั้นน้ำ กทม. ท่านสบายใจได้ และขอให้เอากระสอบทรายที่ท่านเตรียมเอาไว้นั้น ไปมอบให้ กทม. เสริมคันกั้นน้ำทางทิศเหนือดีกว่า เพราะผมดูแล้ว กทม. ยังขาดกระสอบทรายจำนวนมากในการเสริมคันกั้นน้ำทางนั้น จึงวางกระสอบทราบเพียงหนาสองลูกเท่านั้น และสมมุติน้ำผ่านกำแพงคันกั้นน้ำ กทม. มาได้ ท่านคิดหรือว่า กระสอบทราย เครื่องสูบน้ำที่ท่านมีอยู่นั้น มันจะช่วยท่านได้ ท่านก็เห็นภาพแล้วที่นวนคร มีทั้งทหาร เครื่องมือหนัก กระสอบทราย ตู้คอนเทนเนอร์ใส่หิน สาระพัด ยังเอาน้ำไม่อยู่เลย แล้วท่านจะเอาอยู่ได้อย่างไร ไม่อยู่หรอกครับ เอากระสอบทรายไปให้ กทม. ดีกว่า ถ้าผมมีรถ ผมจะเอากระสอบทรายบ้านผมไปบริจาคให้ กทม. เลยครับ หรือใครมีจิต ไปบอกเจ้าหน้าที่ กทม. หรือมาขนเอาไปให้ กทม. ผมจะกราบขอบพระคุณมากครับ
ผมว่าอาจารย์ถาวร โชติชื่น คงคลายกังวลนะครับ ผมรับรอง "น้ำไม่ท้วม กทม." ในพื้นที่แนวป้องกันแน่นอน 100% ครับ
ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ ราตรีนี้
หมายเหตุ ยุทธวิธี "ตีคอขวดให้แตก" คือ ตอนนี้น้ำที่ไหลมาเพื่อลงทะเลนั้นมันมากระจุกตัวรอลงทะเล อยู่ที่กรุงเทพฯ คือจากกว้างมาก มารวมเป็นกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ บริเวณแคบๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยา จะทำให้น้ำล้นเอ่อ มีระดับสูงขึ้น และท้วม กทม.ได้ ดังนั้นถ้าเราสามารถกระจายน้ำบางส่วนไปทางซ้าย ทางขวา และไปตามทางระบายน้ำผ่าน กทม.ไปตามคลอง ไปตามพื้นที่ว่างๆ และลงทะเล ให้มากที่สุด กำลังของน้ำ(ปริมาณ) จะลดลง คือเราตัดกำลังมัน เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมจะขาดกำลังเสริม ต้องใช้เวลาสะสมน้ำจำนวนมาก จึงจะเข่าต่อกรกับคันกั้นน้ำของ กทม.ได้ ยิ่งใช้เวลานานในการสะสม น้ำบางส่วนก็ลงทะเลมากเหมือนกัน คอขวดของน้ำมันจึงแตกกระจาย หวังว่าคงเข้าใจนะครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #3623 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 20:14:32 » |
|
พี่สิงห์
ณ นาทีนี้ ผมเริ่มไม่มั่นใจมากกว่าร้อยละ 55 แล้วน่ะครับว่า กทม.ไม่รอดแน่ ??!!ผู้ว่ากทม.พ้อรัฐบาลส่งถูกกระดาษ8แสนใบมาให้บรรจุทราย วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2011 เวลา 19:14 น. ณัฐญา เนตรหิน ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม. เปิดเผยว่า รัฐบาลได้จัดถุงใส่ทรายมาให้ 8 แสนใบมาให้ แต่อาจเกิดความเข้าใจผิดเพราะที่มอบให้เป็นถุงกระดาษไม่สามารถบรรจุทรายกั้นน้ำได้ แต่ก็ไม่อยากคิดว่ารัฐบาลตั้งใจวางยา ขณะนี้การบรรจุทรายได้รับความร่วมมือจากประชาชนและใช้ถุงของกทม. ซึ่งตนยืนยันมาตลอดว่าพร้อมที่จะช่วยตัวเองหากไม่มีใครช่วย ขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากกองทัพอากาศในเรื่องกองกำลังช่วยสร้างคันกั้นน้ำในคลองหกวา ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญและยังเชื่อมั่นในคำสัญญาของรัฐบาลว่า หากมีการระบายน้ำในส่วนรอยต่อที่มีผลกระทบต่อเมืองหลวงจะประสานงานมายังกทม. เช่น กรณีที่จะเปิดประตูน้ำ 5 บาน เพื่อระบายน้ำจากนวนคร รัฐบาลก็แจ้งมาว่าจะไม่เปิดพร้อมกัน โดยจะทยอยระบายและให้กทม. สร้างพนังกั้นน้ำให้เสร็จก่อน อีกทั้งยืนยันตลอดว่าจะรักษาพื้นที่เมืองหลวงเอาไว้ คิดว่ารัฐบาลจะรักษาสัญญานี้ “ขอย้ำว่าการรับฟังข่าวสาร ทั้งเรื่องการแจ้งเตือนภัย หรือผลประทบในพื้นที่ขอให้ฟังผมคนเดียว แม้จะมีหลายฝ่ายพูดเรื่องความปลอดภัยในกทม .แต่ขอให้เชื่อผมคนเดียว โดยยังมั่นใจว่าจะสามารถแจ้งประชาชนได้ล่วงหน้า หากน้ำไหลเข้าพื้นที่และถึงวันนี้มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะสถานการณ์ดีขึ้น จากเมื่อวานที่แจ้งว่ารัฐบาลควบคุมน้ำได้ ทำให้เรามีเวลา 48 ชั่วโมง ในการสร้างคันกั้นน้ำ แต่ขณะนี้คันกั้นน้ำหลายจุดก็ใกล้เสร็จแล้ว ไม่อยากให้รัฐบาลเซอร์ไพรซ์แบบนี้บ่อยนัก ผมไม่อยากตื่นเต้นมากเกินไป”ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=88924:8&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3624 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554, 20:23:48 » |
|
สวัสดีตอนค่ำ คุณเหยง
ผมยังมีความเชื่อมั่นว่า น้ำจะไม่ท้วม กทม. ครับ
ราตรีสวัสดิ์
|
|
|
|
|