11 พฤศจิกายน 2567, 03:25:32
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 131 132 [133] 134 135 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3530299 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3300 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2554, 21:19:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 03 ตุลาคม 2554, 00:58:40
ถ้าไม่มีสติ ต้องมีสตังค์ ก็รอดได้

เพิ่งอ่านเจอ
แต่สำหรับผม หมดสติ ก็หมดสตางค์ ครับ
ตัวอย่างมีให้เห็น ดังเช่นพวกที่โดนสาวมอมเบียร์ในโรงแรมม่านรูด ไม่เหลือสักราย

 เค้าไม่ยอม  ฮือๆ  เหนื่อย
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3301 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2554, 21:58:34 »

ลงช้าไปนิดหนึ่ง...............

กรมอุตุนิยมวิทยา
ออกประกาศเตือนภัยพายุ “นาลแก”"
ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2554
 
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (5 ต.ค. 54) พายุดีเปรสชัน “นาลแก” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 280 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกจังหวัดนครพนม ประเทศไทย หรือที่ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 6 นอต หรือ 10 กิโลเตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในคืนนี้ และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป

อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 16.30 น.



      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3302 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 08:43:47 »

เขื่อนป่าสักพ้นพิษ
ถนนสายเอเซียบริเวณ อ.นครหลวง อ.บางปะหัน เป็นอำมพาตรถติด ๒๐ กิโลเมตร !!






























สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                        เมื่อเช้าผมออกจากบ้าน 05:20 น. เพื่อเดินทางไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี พอผ่านมาถึงบริเวณ อำเภอบางปะหัน อำเภออุทัย อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปรากฏว่า ผลจากการระบายน้ำ ตามทางน้ำล้นเพื่อป้องกันไม่ให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พัง และการควบคุมปริมาณน้ำไหลออกเจ้าพระยาที่เขื่อนพระรามหก ผลคือ น้ำในลุ่มน้ำป่าสักที่อำเภอเมือง สระบุรี และอำเภอดังกล่าว ส่วนใหญ่บ้านเป็นชั้นเดียวเพราะเป็นบ้านของคนงานอุตสาหกรรม รายได้น้อย จึงถูกน้ำม้วมมิดหลังคาเป็นส่วนใหญ่
                        เมื่อเวลา 06:30 น. ที่ผมผ่านถนนสายเอเซีย น้ำได้ท้วมถนนสายหลักที่เหลือสายเดียวที่เชื่อม กทม. กับภาคเหนือ รถสายขาเข้าช่วง อำเภอนครหลวง -บางปะหะน รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้น้ำท้วมสูง มากกว่า ๐.๓๐  เมตร ต้องเปิดให้รถวิ่งทางฝั่งขาขึ้น ซึ่งก็มีน้ำไหลผ่านถนนจากด้านทิศตะวันออก ไหลผ่านถนนไปยังฝั่งตะวันตก เนื่องจากเป็นเช้ามืด ตำรวจจราจรเห็นเพียงท่านเดียว เจ้าหน้าที่กรมทางไม่มี ผลคือ รถขาลงไปกรุงเทพฯรถติด เกิน ๒๐ กิโลเมตร ติดเป็นชั่วโมง เป็นอำมพาตเลย

                        ดังนั้นถ้าไม่มีธุระจำเป็น อย่าเดินทางเลยครับ ในถนนสายเอเซีย เพราะมันเป็นอำมพาต ผมเองยังไม่รู้เลยว่า เย็นนี้จะกลับกรุงเทพฯ เพื่อเดินทางต่อไปทำงานที่นครศรีธรรมราชได้หรือไม่ เพราะน้ำกำลังเพิ่มท้วมถนนมากขึ้น ต้องขึ้นอยู่กับกรมทางหลวงที่จะมารักษาทำอย่่างไรให้ถนนสายเอเซียยังสัญจรติดต่อได้ครับ เพราะเป็นถนนสายหลักของประเทศ เป็นผลมาจากน้ำที่ล้นเขื่อนป่าสักล้วนๆ เลย ผมสอบถามไปทาง PSTC ซึ่งอยู่ที่ท่าหลวง ปรากฏว่าถนนทุกสายปิดการจราจรเพราะน้ำท้วมจากแม่น้ำป่าสักครับ

                        ผมอยู่สิงห์บุรี เย็นนี้จะกลับกรุงเทพฯ ได้หรือเปล่ายังไม่รู้ครับ

                        สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3303 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 09:00:16 »

                      เช้านี้ผมคุยกับน้องสาวที่โรงพยาบาลสิงหืบุรี ทุกคนที่สิงห์บุรี ยังมองออกเลยว่า การปิดประตูระบายน้ำบางโฉมศรีนั้น คิดผิดอย่างมหันต์ เพราะพื้นที่นั้นมันเป็นแก้มลิงตามธรรมชาติที่ผมได้บอกให้รับทราบไปแล้ว เมื่อไปปิดกั้นมัน น้ำจำนวนมหาศาลก็กลับมาสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ผลคือตอนนี้จังหวัดอยุธยา รับปริมาณน้ำเต็มๆ ผลจึงเป็นอย่างที่เห็น วัดชียรัตนารามที่ว่าป้องกันดี จมมิดทันที่ ประกอบกับเขื่อนป่าสักล้นรับไม่ไหว ซ้ำสอง ดังนั้น อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กทม. ต้องรับศึกน้ำท้วมอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ นี่ละผลของการตัดสินใจที่ผิด แก้ปัญหาจุดหนึ่งได้  ก็มาสร้างปัญาอีกจุดที่หนักเก่าหลายเท่า

                       ที่สิงห์บุรีเอง ปัญหารนี้ถกกันมาก น้ำข้ามถนนไปฝั่งตะวันตก เขาจะไม่ไปปิดกั้นมัน ปล่อยมันไป น้ำจะได้กระจาย บันเทาความเดือดร้อน ทุกคนมีความเห็นแล้วว่า เพราะเราไปทำเขื่อน ทำถนนสูงขึ้น โดยรู้เท่าไม่ถึงการ ระดับน้ำมันไม่มีที่ไป จึงท้วมสูงมากเป็นอย่างนี้ สู้ปล่อยให้มันกระจายตามทุ่งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเดิมไม่ได้ ที่น้ำท้วมระดับไม่สูง คนยังมีบ้านอยู่ สัตว์ยังอยู่บนถนนได้ คนที่อยู่บ้านชั้นเดียวยังอยู่บนถนนได้ แต่เพราะเราไปกักน้ำเอาไว้ผลคือ ชั้นสองก็ไม่มีที่อยู่ บ้านชั้นเดียวมิดหลังคา ถนนก็ไม่มีให้อยูน้ำล้น กระแสน้ำแรงมาก

                        วันนี้ผมขับรถบนถนนสายเอเซียผ่านช่วงที่ถนนน้ำล้นผ่าน รู้สึกเลยว่ารถเสไปตามกระแสน้ำ จนไม่สามารถถ่ายรูปได้ ต้องรีบจับพวงมาลัย ครับ

                        รถยนต์ของชาวอยุธยาตอนนี้ต้องนำมาจอดบนถนนสายเอเซียเต็มไปหมด ถนน U-Turn บนถนนสายเอเซียมีแต่รถจอดเติมไปหมดเพราะไม่รู้จะเอารถไปจอดที่ไหนครับ

                        สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3304 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 09:08:38 »

เช้านี้ คุณสรยุทธ รายงานเอาไว้ (ผมดู TV ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี)

ปริมาณน้ำที่ผ่านสถานีบางไทร อยุธยา ประมาณ 4,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เกิน 3,500 ลุกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ กทม.จะสามารถรับได้
 
นั่นแสดงว่าปริมณฑล ปทุมธานี นนทบุรี อยุธยา น้ำท้วม ครับ

น้ำที่สิงห์บุรีลดลงไปจากเดิมประมาณ 0.50 เมตร อยู่ในระดับ 2.50-3.00 ม. จากระดับพื้นดินเฉลี่ย ครับ

ดังนั้น มวลน้ำปัจจุบันจึงไปกองอยู่ที่อยุธยา และปทุมธานี ครับ

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3305 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 09:40:42 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                       เมื่อเช้าขณะขับรถไปสิงห์บุรี ผมก็เปิดวิทยุฟังรายการ FM 99 ของคุณหมอปัญญา  ท่านพูดถึงเรื่อง การซ่อมแซมตัวมันเองของคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มีความจำเป็นมากเพราะเซลมันเสื่อมโทรมลง มีความจำเป็นต้อง ซ่อมแซมตัวเองขอเพียง ให้เจ้าของร่างกาย ออกกำลังโดยสม่ำเสมอ นอนหลับให้ลึก และทำจิตให้ผ่องใส เพียงเท่านั้น ร่างกายมันจะซ่อมแซมตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเสียสตางค์ไปซื้อยา วิตมีนต่างๆ มากินเลยซึ่งไม่ค่อยได้ผลนัก  ผมจึงขอให้ทุกท่านได้พิจารณา ให้ความสำคัญที่ เราต้องออกกำลังกายโดยสม่ำเสมอ นอนแต่หัวค่ำ ทำจิตให้ผ่องใส และถ้าจะให้ดี รับประทานอาหารให้ถูกหลัก หลีกเลี่ยงของทอด ผัดน้ำมัน อาหารขยะครับ เพียงเท่านี้จริงๆ ผมเชื่อว่าทำได้แน่นอน เพราะผมทดลองกับตัวผมมาแล้ว ว่าสามารถกระทำได้

                       อีกเรื่อง ผมกำลังสังเกตดูจิตผมอยู่ครับ หลายวันที่ผ่านมานี้ เวลาผมนอน ผมจะสร้างจังหวะที่มือทั้งสอง คือเคาะพื้นช้าๆ นำความรู้สึกตัวนี้ไปอยู่ที่กระหม่อม นิ่งเป็นสติ สมาธิ นานเท่าใดไม่ทราบ แต่รู้ตัวเสมอ ปรากฏว่า ตัวเราเบาหวิวมากๆ บางครั้งแทบจะลอยขึ้นเลย และสามารถทำได้ บ่อยขึ้นๆ จนลืมเวลา  บางครั้งรู้สึกว่าเราไม่ได้หลับ เพราะมีความรู้สึกในการยกมือตลอด แต่เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ไม่รู้สึกเพลียทั้งสิ้น หรือแม้กระทั่งเวลาเดินจงกรมก็ลืมเวลาไปเลย  และผลที่ตามมาที่สังเกตได้คือ จิตเรามันให้อภัยกับทุกท่าน ไม่เคยเห็นว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามเลย ทั้งที่ความคิดต่างจากเรา บางครั้งพยายามจะให้มีอารมณ์ไม่ชอบก็ทำไม่ได้ครับ  สังเกตจากการเขียนเรื่องน้ำท้วมหลายท่านอาจจะคิดว่าผมอยู่ตรงข้ามกับท่านนายก อธิบดีกรมชลประทาน คุณบรรหาร แต่จิตผมมันตรงข้ามเลย ไม่โกรธ ไม่เดือดดาล ต่อท่านเหล่านั้นทั้งสิ้น หรือ เวลาเรารับข่าวสาร เห็น ได้ฟัง ในสิ่งที่เราไม่รัก ไม่ชอบ มันก็ไม่มีอาการเดือดดาลใจพลุ่งให้เรารู้สึกเหมือนเมื่อก่อนเลย ให้อภัย  ไม่โกรธ ไม่โลภ เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ครับ ยังไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร เพราะไม่รู้จะไปถามใคร  ได้แต่สังเกต จิตตนเองไปเรื่อยๆ เท่านั้น และช่วงเลยตีสองไปแล้วจะไม่ค่อยหลับ หรือหลับ ตื่น แต่เวลาตื่นก็มีสติสร้างความรู้สึกตัวตลอดถึงแม้จะอยู่ในท่านอนหลับตา แต่รู้ว่าไม่ได้หลับ และเวลามันก็ผ่านไปของมันเอง สติเป็นสมาธิอยู่อย่างนั้น จนแจ้ง หรือได้เวลาตื่นมานั่งเจริญสติ หรือไปเล่นกอล์ฟ ครับ

                        สวัสดี  
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3306 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 10:15:38 »

 
อาจารย์ถาวร  ส่งวิธีวางกระสอบทรายมาให้ผม จึงได้เอามาบอกกันไว้ ป้องกันน้ำท้วมที่ถูกวิธี ครับ                  


วิธีวางกระสอบทรายให้ถูกต้องป้องกันแนวกั้นพังระหว่างน้ำท่วม  


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   16 กันยายน 2554 20:20 น.


                       แนวกระสอบทรายซึ่งวางก่อเป็นรูปสามเหลี่ยมปิรามิด ให้่ฐานกว้างกว่าความสูง 3 เท่า และในขั้นสุดท้ายให้วางแผ่นพลาสติกทับโดยไม่ให้ตึงเกินไป แล้ววางกระสอบทรายทับปลายแผ่นพลาสติกทั้ง 2 ด้าน

                       พี่น้องชาวไทยในหลายพื้นที่กำลังเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม และเมื่อเกิดภัยธรรมชาติเช่นนี้เราจะได้เห็นการระดมกำลังสร้างแนวกระสอบทรายขึ้นมาเป็นคันน้ำ แต่หลายครั้งที่ปราการป้องน้ำท่วมที่สร้างขึ้นมานั้นพังทลายลงและทำให้กระแสน้ำไหลบ่าสร้างความเสียหายอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้อ่านที่ห่วงใยปัญหาของเพื่อนร่วมชาติขณะนี้ได้สอบถามมายังทีมข่าววิทยาศาตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า มีวิธีวางกระสอบทรายที่ถูกต้องเพื่อป้องกันคันกั้นน้ำถล่มหรือไม่
      
                        ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้สืบค้นและพบข้อมูลแนะนำวิธีการวางกระสอบทรายของมหาวิทยาลัยนอร์ธ ดาโกตา สเตท (North Dakota State University) สหรัฐฯ ซึ่งระบุไว้ว่าการวางกระสอบทรายที่ไม่ถูกวิธีจะทำให้คันกั้นน้ำพังทรายลงได้ โดยกระสอบทรายที่นำมาใช้นั้นควรเติมทรายให้มีปริมาตรครึ่งหนึ่งของขนาดกระสอบทรายและให้มีน้ำหนักอยู่ระหว่าง 15-18 กิโลกรัม เพื่อสะดวกต่อการขนย้าย
      
                        ส่วนทำเลสำหรับวางกระสอบทรายควรเป็นทำเลที่ช่วยให้เราวางแนวกั้นได้สั้นและเตี้ยที่สุด ซึ่งช่วยประหยัดการใช้กระสอบทรายได้ และต้องระวังสิ่งกีดขวางที่จะทำลายคันกั้นน้ำ อีกทั้งอย่าทำแนวกั้นพิงผนังสิ่งกอ่สร้าง เพราะจะเกิดแรงจากแนวกระสอบทรายกระทำต่อผนังสิ่งก่อสร้างได้ และควรทิ้งระยะห่างระหว่างคั้นกั้นน้ำกับสิ่งก่อสร้างประมาณ 2.5 เมตร เพื่อให้เราสังเกตเห็นการรั่วซึมของคันกั้นน้ำ และยังเป็นพื้นที่ให้เราวิดน้ำที่รั่วซึมออกมาหรือใช้เพื่อกิจกรรมอื่นๆ
      
                         เนื่องจากการเสียดสีระหว่างกระสอบทรายช่วยป้องกันการลื่นไถลของคันกั้นน้ำ ดังนั้น เราต้องทำให้เกิดการยึดกันอย่างดีระหว่างพื้นดินและคันกั้นน้ำ ระวังอย่าให้มีการไหลของน้ำใต้แนวคันกั้นน้ำ เคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ ที่จะทำให้เกิดการลื่นไถล ถ้าคันกั้นน้ำสูงกว่า 1 เมตร ให้ขุดคูตรงแนววางกระสอบทราบเพื่อให้เกิดความมั่นคงระหว่างแนวกระสอบทรายและพื้นดิน โดยคูดังกล่าวนั้นควรลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 45- 60 เซนติเมตร หรือเป็นความลึกประมาณความหนาของกระสอบทราย 1 กระสอบ และกว้างเท่ากระสอบทราย 2 กระสอบ
      
                         ความสูงของแนวกระสอบทรายควรสูงกว่าระดับน้ำประมาณ 1 ฟุต โดยความกว้างของฐานคันกั้นน้ำนั้นควรมากกว่าความสูงของคันกั้นน้ำ 3 เท่า เช่น คันกั้นน้ำสูง 1 เมตร ฐานควรกว้าง 3 เมตร เป็นต้น ทั้งนี้ จากการคำนวณเมื่อใช้กระสอบทรายที่หนา 10 เซนติเมตร กว้าง 25 เซนติเมตร และยาว 35 เซนติเมตรนั้น ทุกความยาว 30 เซนติเมตรของแนวกั้นจะใช้กระสอบทราย 1 กระสอบ และทุกๆ ความสูงของแนวกั้น 30 เซนติเมตรต้องใช้กระสอบทราย 3 กระสอบ และทุกๆ ความกว้างของแนวกั้น 80 เซนติเมตรต้องใช้กระสอบทราย 3 กระสอบ
      
         หรือใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อคำนวณหาจำนวนกระสอบทรายที่ต้องใช้ทุกๆ ความยาว 1 ฟุต (เมื่อวัดความสูงเป็นหน่วยฟุต)
       ดังนี้
      
         จำนวนกระสอบทราย = {(3 x ความสูงคันกั้นน้ำ) + (9 x ความสูงคันกั้นน้ำx ความสูงคันกั้นน้ำ)} / 2
      
       ตัวอย่างเช่น
      
              เมื่อใช้กระสอบทรายหนา 10 เซนติเมตร กว้าง 25 เซนติเมตร และยาว 35 เซนติเมตร สร้างคันกั้นน้ำสูง 3 ฟุต (ทุกๆ ความยาว 1 ฟุต ฐานกว้าง 3 ฟุต)
                          ต้องใช้กระสอบทราย = {(3X3) + (9X3X3)} /2 = 45 กระสอบ
                          หรือ ตัวอย่างที่ได้คำนวณแล้วทุกความยาวแนวคันกั้นน้ำ 100 ฟุต จะใช้จำนวนกระสอบทราย ดังนี้
                                คันกั้นน้ำสูง 1 ฟุต ใช้กระสอบทราย 600 กระสอบ
                                คันกั้นน้ำสูง 2 ฟุต ใช้กระสอบทราย 2,100 กระสอบ
                                คันกั้นน้ำสูง 3 ฟุต ใช้กระสอบทราย 4,500 กระสอบ
                                คันกั้นน้ำสูง 4 ฟุต ใช้กระสอบทราย 7,800 กระสอบ
      
                          เมื่อทราบจำนวนกระสอบทรายที่ต้องใช้แล้วก็มาถึงการวางกระสอบทราย ทั้งนี้ ต้องให้คันกั้นน้ำขนานไปกับทิศทางการไหลของน้ำ และวิธีวางกระสอบทรายคือวางกระสอบทรายทับบริเวณที่ไม่ได้เติมทรายของอีกกระสอบทรายให้สนิทเป็นแนวเช่นนี้ไปเรื่อยๆ และให้ปากกระสอบหันในทิศทางตรงข้ามกับกระแสน้ำ แล้วขึ้นไปเดินบนกระสอบทรายในชั้นที่วางเสร็จเพื่อให้แนวกั้นน้ำหนาแน่นและมั่นคง ส่วนชั้นต่อมาให้วางกระสอบทับรอยต่อของกระสอบชั้นล่างและให้ชั้นล่างเหลือพื้นที่โผล่ออกมาประมาณครึ่งกระสอบ
      
                        หลังจากเรียงกระสอบสอบทรายจนได้เป็นคันกั้นน้ำแล้ว ให้หาแผ่นพลาสติกมาวางทับแนวกั้นน้ำแล้วใช้กระสอบทรายวางทับที่ปลายแผ่นพลาสติกทั้งสองด้าน และอย่าให้แผ่นพลาสติกตึงเกินไป เพราะแรงกระแทกของน้ำจะทำลายแนวกั้นได้ นอกจากนี้ยังต้องระวังไม่ให้พลาสติกเป็นรูหรือถูกเจาะจากของมีคมด้วย
 
                        ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมชาติที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ และขอให้ทุกคนปลอดภัยจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3307 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 13:06:11 »

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 6 ตุลาคม 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจาพายุดีเปรชัน นาลแก บรใณเวียดนามตอนบน ยังคงทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนกระจาย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครราชศรีมาและจังหวัดชัยภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง อยุธยา นครปฐม และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัด พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3308 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 13:24:38 »

ณ เวลา 13.20 น.

พี่สิงห์โทรไปแจ้งให้ผมทราบและบอกว่า ถนนสายเอเชีย ระหว่างสิงห์บุรี-พระนครศรีอยุธยาติดขัดมาก
รถติดยาวหลายสิบ ก.ม. วิ่งไม่ได้เลย เพราะต่างคน-ต่างจะวิ่ง เลยขยับไม่ออก
ตำรวจปัดรถให้ไปใช้เส้นทางสุพรรณบุรี-บางบัวทอง เพื่อเข้า กทม.

ชาวหอที่มีกิจธุระโปรดใช้เส้นทางกทม.-บางบัวทอง-สุพรรณบุรี-ชัยนาท-นครสวรรค์ ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3309 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 13:43:32 »

ทิศทางของ นวลแก เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งสหรัฐฯจะไม่ติดตามภาพของพายุตัวนี้ต่อไปอีกแล้ว

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3310 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 15:17:06 »

ฉบับใหม่่ เมื่อเวลา 12.00 น.ครับ

อุตุนิยมวิทยา ออกรายงานประจำวันที่ 6 ตุลาคม 2554 ณ เวลา 12.00 น.

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครราชสีมา สุรินทร์ และบุรีรัมย์ อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง อยุธยา นครปฐม และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัด พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 



      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3311 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 15:20:16 »

ณ เวลา 15.15 น. รับทราบว่า พี่สิงห์ ถึงบ้านที่ลาดพร้าวแล้ว และเตรียมไปนครศรีธรรมราช เพื่อทำงานต่อ
โดยขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3312 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 15:57:42 »

ข่าวจาก เดลี่นิวส์ ออนไลน์ เมื่อเวลา 13.36 น.

คุก“อยุธยา”จมสนิท-สาย”เอเชีย”อัมพาต
วันพฤหัสบดี ที่ 06 ตุลาคม 2554 เวลา 13:36 น

ฝนถล่มซ้ำอยุธยาจมสนิท ท่วมคุกลอยคอย้ายนักโทษโกลาหล ถนนสายเอเชียอัมพาต ทั้งฝั่งขาเข้า-ออก

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเมื่อคืนวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมาพายุฝนได้เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักชนิดไม่ลืมหูลืมตาเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น หลายอำเภอ ทำให้ในช่วงเช้าถนนสายเอเชีย ขาออก ที่จะมุ่งหน้าขึ้นสู่ภาคเหนือ แน่นขนัดไปด้วยรถยนต์นานาชนิด เนื่องจากถนนบางช่วงถูกน้ำท่วมเป็นระยะ ๆ จนต้องเหลือถนนแค่ 2 เลน จาก 3 เลน

ประกอบกับถนนสายเอเชียฝั่งตรงข้าม ขาเข้า ซึ่งถนนเลนซ้ายสุดจะวิ่งไม่ได้เพราะโดนน้ำท่วม เลยทำให้เหลือแค่ 2 เลน รถยนต์ที่จะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ พอเจอข้างหน้าถูกน้ำท่วมสูง คนขับเลยเปลี่ยนใจเลี้ยวหันรถกลับ เลยยิ่งทำให้รถทั้งฝั่งขาเข้ากับขาออกติดขัดยาวหลายกิโล  กลายเป็นอัมพาตในทันที

ขณะเดียวกันที่เรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระดับน้ำได้สูงถึง 1 เมตรหรือเท่ากับเอว เจ้าหน้าที่เลยได้เร่งขนย้ายนักโทษจำนวน 1700 คน โดยใช้วิธีใส่กุญแจมือลอยคอออกมาจากเรือนจำทีละ 2 คน เพื่อนำไปส่งยังเรือนจำจังหวัดต่าง ๆ 7 แห่ง โดยมีเจ้าหน้าที่เล็งปืนยาวเพื่อป้องกันไม่ให้นักโทษดำน้ำหนี ซึ่งกว่าจะขนย้ายนักโทษหมดเป็นไปด้วยความทุลักทุเล.

ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้ดูแลพื้นที่น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา วิกฤติหนัก โดยมีบางพื้นที่ที่เป็นของภาคเอกชนหลายจุดที่ค่อนข้างจะไม่ปฏิบัติตามคำเตือนของทางราชการ ดังนั้นจะต้องเร่งรัดให้มีการเสริมแนวป้องกันให้สูงขึ้น เพราะอีก 50 เซนติเมตรก็ไม่ปลอดภัยแล้วต้องเสริมเป็นเมตร อาทิ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค บางปะอิน และโรจนะ รวมทั้งนวนครด้วย เพื่อจะได้ไม่เกินปัญหาเหมือนนิคมอุตสาหกรรมสหนวนคร ซึ่งตอนนี้ได้มีการเตือนภัยไปแล้ว
               
รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมมาตรการอพยพ ขณะเดียวกันทางภาคเอกชน คือ นายชาตรี พูนคุปวาณิชย์ ซึ่งเป็นเพื่อนของตนได้จัดอาคารพาณิชย์จำนวน 100 คูหาจะคนได้ประมาณ 1,000 ครอบครัว บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนได้อาศัย ขณะเดียวกันได้ให้ใช้พื้นที่ตลาดบริเวณสี่แยกวัดพยาธิ เป็นจุดดูแลอาหารสดเพื่อปรุงอาหารให้ประชาชนรับประทาน
               
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมขณะนี้ได้รับรายงานว่า ที่ อ.บางปะหัน น้ำท่วมสูงจากพื้น 30-40 เซนติเมตร และเพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร ไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยได้ จึงจำเป็นต้องปิดให้บริการผู้ป่วยนอก ฉุกเฉิน และผู้ป่วยในชั่วครว โดยได้มีการย้ายผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวอยู่ใน รพ. 17 รายไปรักษาต่อที่ รพ.อื่น อย่างไรก็ตามได้ระดมหน่วยแพทย์จาก รพ.วชิระภูเก็ตจำนวน 2 ทีมไปตั้ง รพ.สนาม 2 แห่ง ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. ระหว่าง รพ.บางประหันกับทางเข้าที่ว่าการอำเภอบางปะหันและจุดที่ 2 ต.บางขวาง อ.มหาราช

ขณะที่นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กนอ. ได้แจ้งเตือนผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และนิคมฯ บ้านหว้า (ไฮเทค)  จ.พระนครศรีอยุธยา ให้เตรียมความพร้อมรับมือกับภัยน้ำท่วมตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากทั้งสองนิคมฯ ที่มีโรงงาน 233 ราย มูลค่าลงทุนรวม 125,312 ล้านบาท จ้างงานรวม 111,186 คน อยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง เพราะระดับน้ำขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว แต่น้ำยังไม่สามารถเข้าในพื้นที่นิคมฯหลังจากผู้เกี่ยวข้องมีการป้องกันอย่างเต็มที่                 

สำหรับนิคมฯ บางปะอิน เป็นนิคมฯ ร่วมดำเนินงานระหว่าง กนอ. กับบริษัทที่ดินบางปะอิน จำกัด เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2532 ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บางปะอิน พื้นที่โครงการรวม 1,962 ไร่ ซึ่งมีโรงงานทั้งสิ้น 90 ราย จำนวนแรงงานทั้งหมด 60,000 คน มูลค่าลงทุน 60,000 ล้านบาท ประเภทอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์,อุตสาหกรรมยาง พลาสติก เป็นต้น 

ส่วนนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค)  เป็นนิคมฯ ร่วมดำเนินงานระหว่าง กนอ. กับบริษัท ไทยอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2532 ตั้งอยู่บริเวณถนนสายเอเซีย-นครสวรรค์ อ.บางปะอิน พื้นที่โครงการรวม 2,379 ไร่ มีโรงงานทั้งหมด 143 ราย มีแรงงานทั้งสิ้น 51,186 คน มูลค่าลงทุน 65,312 ล้านบาท  ประเภทอุตสาหกรรมประเภทอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์, อุตสาหกรรมยาง พลาสติก เป็นต้น 

“สถานการณ์น้ำท่วมเฉียบพลันในพื้นที่นิคมฯ สหรัตนนคร ซึ่งน้ำเริ่มเข้าท่วมภายในนิคมฯ ตั้งแต่วันที่ 4  ต.ค. ที่ผ่านมา  ปริมาณน้ำท่วมสูงในพื้นที่ 2-3 เมตร โรงงานในพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด  43 ราย ประมาณการณ์มูลค่าความเสียหายในพื้นที่กว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ผู้ประกอบการต้องปิดโรงงานก่อน 5 วัน หรือจนกว่าปริมาณน้ำจะลดลง” นางมณฑา กล่าว

ทั้งนี้นิคมฯ สหรัตนนคร เป็นนิคมฯ ร่วมดำเนินงานระหว่าง กนอ. กับบริษัท สหรัตตนนคร จำกัด เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 37 ตั้งอยู่อำเภอนครหลวง พื้นที่โครงการรวม 2,050 ไร่ พัฒนาในระยะแรก 1,441 ไร่  ซึ่งมีโรงงานทั้งสิ้น  43 ราย    จำนวนแรงงานทั้งสิ้น 14,696  คน  มูลค่าการลงทุน 9,472  ล้านบาท ส่วนใหญ่เป้นประเภทอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์, อุตสาหกรรมยาง พลาสติก เครื่องหนัง เครื่องแต่งกาย เป็นต้น  สัดส่วนการลงทุน ญี่ปุ่น 70% ไทย 20% และอื่น ๆ 10%.
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3313 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 16:00:14 »

รับแจ้งเพิ่มเติมมาจากพนักงานขับรถของที่บ้านว่า ขณะนี้ที่อำเภอวังน้อยการจราจรติดขัดอย่างหนัก
ตำรวจระบายรถที่จะขึ้นเหนือให้วิ่งผ่านจังหวัดสระบุรี เพื่อออกอำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์
ส่วนเส้ยทางภาคกลางที่จะลงใต้โดยผ่านจังหวัดสุพรรณบุรีนั้น รถติดยาวขึ้นเรื่อยๆ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3314 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 17:25:25 »

ข้อมูลน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ในวันนี้

มวลน้ำไหลผ่านนครสวรรค์เพิ่มเป็น 4,578 ลบ.เมตร/วินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 36 ลบ.เมตร/วินาที
ในขณะที่ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้ 3 ซ.ม. โดยระดับน้ำสูงขึ้นจากสันเขื่อน 64 ซ.ม. หรือ 2.14 เมตรจากพื้นถนน 


 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3315 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 18:11:45 »

ข่าวจาก เดลี่นิวส์ ออนไลน์ ณ เวลา 15.44 น.

"คมนาคม"แนะทางเลี่ยงหลบน้ำท่วม
วันพฤหัสบดี ที่ 06 ตุลาคม 2554 เวลา 15:44 น.

กระทรวงคมนาคม แนะนำผู้ใช้รถเลี่ยงหลบน้ำท่วม 44 สาย 14 จังหวัด

วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กระทรวงคมนาคม ได้สรุปผลความเสียหายของถนนที่ถูกน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถใช้การได้ทั้งหมด 44 เส้นทาง ใน 14 จังหวัด พร้อมแนะเส้นทางเลี่ยง ดังนี้

จ.พิจิตร 8 สายทาง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 111 สากเหล็ก-พิจิตร ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม.9-16 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 30 ซม. ควรใช้สาย 115 เลี่ยงเมืองพิจิตร แทน ทางหลวงสายบางมูลนาก-พิจิตร ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม.14-25 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 40 ซม. ควรเลี่ยงใช้ทางทางหลวงชนบท (ทช.) แทน ทางหลวงหมายเลข 1067 บางมูลนาก-โพทะเล ท้องที่อำเภอบางมูลนากและโพทะเล ที่ กม.0-20 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 30-60 ซม. ใช้สาย 1070 ตะพานหิน-ดงเสือเหลือง แทน ทางหลวงหมายเลข 1118 ตะพานหิน-บางมูลนาก ท้องที่อำเภอตะพานหิน ที่ กม. 0-23 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 15-50 ซม. แนะใช้สาย 11 ทับคล้อ-สากเหล็ก แทน
   
ทางหลวงหมายเลข 1221 พิจิตร-พิษณุโลก ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 7-8 ระดับน้ำสูง 30 ซม. แนะใช้สาย 11 สากเหล็ก-วังทอง แทน ทางหลวงหมายเลข 1289 วังสำโรง-บางลาย ท้องที่อำเภอบึงนาราง ที่ กม. 9-10 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ควรเลี่ยงใช้สาย 1070 ตะพานหิน-ดงเสือเหลือง แทน ทางหลวงหมายเลข 1304 หัวดง-ยางสามต้น ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 2-7 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้สาย 111 สากเหล็ก-พิจิตร แทน ทางหลวงหมายเลข 1313 บางมูลนาก-ตะพานหิน ท้องที่อำเภอบางมูลนาก ที่ กม. 0-7 ระดับน้ำสูง 30-40 ซม. แนะเลี่ยงใช้สาย 1118 ตะพานหิน-สากเหล็ก แทน

จ.พิษณุโลก 2 สายทาง ทางหลวงหมายเลข 1293 สุโขทัย-บางระกำ ท้องที่อำเภอบางระกำ ที่ กม. 31-55 เป็นแห่ง ๆ  ระดับน้ำสูง 10-30 ซม. แนะใช้สาย 1065 บางระกำ-บ้านหนองอ้อ แทน ทางหลวงหมายเลข 1310 ทับยายเชียง-พรหมพิราม ท้องที่อำเภอพรหมพิราม ที่ กม. 8-14 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 50 ซม. ควรเลี่ยงใช้สาย 1086 พิษณุโลก-วัดโบสถ์ แทน

จ.ลำพูน 1 สายทาง ทางหลวงหมายเลข 1010 เวียงเหนือ-บ้านโฮ่ง ท้องที่อำเภอป่าซาง ที่ กม. 12-13 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ควรใช้สาย 106 บ้านโฮ่ง-ป่าซาง แทน

จ.อุตรดิตถ์ 1 สายทาง ทางหลวงหมายเลข 1123 ห้วยน้อยกา-บ่อเบี้ย ท้องที่อำเภอบ้านโคก คอสะพานขาด ที่ กม. 5 ใช้สาย 1047 ห้วยหูด-ม่วงเจ็ดต้น แทน

จ.นครสวรรค์ 8 สายทาง เริ่มจากทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิจิตร ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 4-16 ระดับน้ำสูง 70 ซม. แนะเลี่ยงใช้ทางหลวงชนบท แทนทางหลวงหมายเลข 122 ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันตก ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 0-7 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 100-130 ซม. แนะใช้สาย 1 พยุหะคีรี-นครสวรรค์ แทน 
    - ทางหลวงหมายเลข ๒๒๕ ปากน้ำโพ-นครสวรรค์ ท้องที่อำเภอเมืองและชุมแสง ที่ กม. ๑-๓๖         เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง ๑๔๐ ซม. ใช้สาย ๓๐๐๔ นครสวรรค์-ท่าตะโก แทน ทางหลวงหมายเลข 1084 ป่าแดง-บรรพตพิสัย ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 49-52 ระดับน้ำสูง 125 ซม. แนะเลี่ยงให้ไปใช้สาย 1 กำแพงเพชร-นครสวรรค์ แทน ทางหลวงหมายเลข 1182 นครสวรรค์-บรรพตพิสัย ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 1-4 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ควรเลี่ยงไปใช้สาย 1 นครสวรรค์-กำแพงเพชร แทน

ทางหลวงหมายเลข 3319 โกรกพระ-อุทัยธานี ท้องที่อำเภอโกรกพระ ที่ กม. 0-3 ระดับน้ำสูง 80 ซม. เลี่ยงใช้สาย 3221 อุทัยธานี-ทัพทัน แทน ทางหลวงหมายเลข 3522 ทางแยกเข้าพยุหะคีรี ท้องที่อำเภอพยุหะคีรี ที่ กม. 2-4 ระดับน้ำสูง 90 ซม. ควรไปใช้สาย 1 พยุหะคีรี-นครสวรรค์ แทน ทางหลวงหมายเลข 3475 ทับกฤช-พนมรอก ท้องที่อำเภอชุมแสง ที่ กม. 0-25 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 40-85 ซม. ควรไปใช้ทางหลวงชนบทแทน

จ.พระนครศรีอยุธยา 1 สายทาง ในทางหลวงสายบางบาล-ผักไห่ ท้องที่อำเภอบางบาล ที่ กม. 8-15 ระดับน้ำสูง 100 ซม. ควรเลี่ยงไปใช้สาย 3501 อ่างทอง-บางบาล แทน

จ.สิงห์บุรี 5 สาย ทางหลวงหมายเลข 11 อินทร์บุรี-ตากฟ้า ท้องที่อำเภออินทร์บุรี ที่ กม. 0-15 เป็นแห่ง ๆ และคอสะพานขาด ที่ กม. 5 ควรใช้สาย 32 เอเซีย แทน
ทางหลวงหมายเลข 311 สิงห์บุรี-ชัยนาท ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 6-9 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 35 ซม. ควรไปใช้สาย 3030 บางระจัน-สิงห์บุรี แทน ทางหลวงหมายเลข 3030 สิงห์บุรี-บางระจัน ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 0-1 ระดับน้ำสูง 50 ซม. แนะเลี่ยงใช้สาย 32 เอเซีย แทน ทางหลวงหมายเลข 3028 บางงา-บ้านหมี่ ท้องที่อำเภอท่าวุ้งและบ้านหมี่ ที่ กม. 1-24 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้สาย 3196 บ้านหมี่-ลพบุรี แทน ทางหลวงหมายเลข 3030 บางา-พรหมบุรี ท้องที่อำเภอพรหมบุรี ที่ กม. 1-10 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 35 ซม. เลี่ยงใช้สาย 32 เอเซีย แทน

จ.ลพบุรี 4 สายทาง ทางหลวงหมายเลข 311 เลี่ยงเมืองลพบุรี ท้องที่อำเภอเมืองและท่าวุ้ง ที่ กม. 8-19 เป็นแห่ง ๆ  ระดับน้ำสูง 32-150 ซม. แนะให้ไปใช้สาย 32 เอเซีย แทน ทางหลวงสายลพบุรี-สิงห์บุรี ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 159-166 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 35-75 ซม. แนะให้ไปใช้สาย 32 เอเซีย แทน ทางหลวงหมายเลข 3196 ลพบุรี-โพธิ์เก้าต้น ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 76-94 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 45 ซม. ควรไปใช้สาย 32 เอเซีย แทน ทางหลวงหมายเลข 2275 ชัยบาดาล-บึงสามพัน ท้องที่อำเภอชัยบาดาล ที่ กม. 0-4 เป็นแห่ง ๆ  ระดับน้ำสูง 20-65 ซม. ควรใช้สาย 21 ชัยบาดาล-ศรีเทพ แทน

จ.ชัยนาท 4 สาย ทางหลวงหมายเลข 1 แยกเข้าชัยนาท-บ้านกล้วย  ท้องที่อำเภอเมือง ผนังกั้นน้ำด้านซ้ายทางชำรุดที่ กม. 290+500 ควรใช้สาย 32 เอเซีย แทน ทางหลวงหมายเลข 3183 ชัยนาท-วัดสิงห์ ท้องที่อำเภอวัดสิงห์ ที่ กม. 25-28 ระดับน้ำสูง 85 ซม. แนะเลี่ยงไปใช้ทาง อบต.แทน ทางหลวงหมายเลข 3213 วัดสิงห์-หนองมะโมง ท้องที่อำเภอวัดสิงห์ ที่ กม. 0-1 ระดับน้ำสูง 85 ซม. ควรใช้ทาง อบต.แทน ทางหลวงหมายเลข 3244 ชัยนาท-ท่าหาด ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 0-2 ระดับน้ำสูง 95 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน

จ.อุทัยธานี 3 สาย ทางหลวงหมายเลข 33 อุทัยธานี-นครสวรรค์ ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 1-14 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 50-100 ซม. ใช้ทาง ทช. แทน ทางหลวงหมายเลข 3265 ทางเลี่ยงเมืองอุทัยธานี ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 0-2 ระดับน้ำสูง 45 ซม. ใช้ทางเทศบาลเมืองแทน ทางหลวงสายอุทัยธานี-มโนรมย์ ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 1-7 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 50-70 ซม. ควรใช้ทางเทศบาลเมืองแทน

จ.สระบุรี 1 สาย ทางหลวงหมายเลข 3034 หน้าพระลาน-โรงปูนซีเมนต์ ท้องที่อำเภอบ้านหมอ ที่ กม. 14-16 ระดับน้ำสูง 35 ซม. ควรใช้สาย 3022 พระพุทธบาท – บ้านหมอ แทน

จ.สุพรรณบุรี 1 สายทาง ทางหลวงสายกาญจนบุรี-สุพรรณบุรี (น้ำท่วมทางขนานด้านซ้าย) ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 83 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ให้เลี่ยงไปใช้สาย 304 สุพรรณบุรี-ตลิ่งชัน แทน

จ.ปราจีนบุรี 4 สาย ทางหลวงหมายเลข 33 ปราจีนบุรี-แยกไปนครราชสีมา (ใหม่) ท้องที่อำเภอเมืองและประจันตคามที่ กม. 175-178 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้ทางของ อบต.แทน ทางหลวงหมายเลข 3076 บ้านสร้าง-นครนายก ท้องที่อำเภอบ้านสร้าง ที่ กม. 0-5 ระดับน้ำสูง 45 ซม. ควรไปใช้สาย 33 นครานายก-ปราจีนบุรี  แทน ทางหลวงหมายเลข 3293 ปราจีนบุรี-บ้านสร้าง ท้องที่อำเภอบ้านสร้าง ที่ กม. 0-10 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 40 ซม. ควรใช้สาย 314 ปราจีนบุรี-พนมสารคาม แทน ทางหลวงหมายเลข 3481 บางขนาก-บ้านสร้าง ท้องที่อำเภอบ้านสร้าง ที่ กม.26-28 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ควรไปใช้สาย 3293 บ้านสร้าง-ปราจีนบุรี แทน

จ.ขอนแก่น 1 สาย ทางหลวงหมายเลข 2361 หนองเขียด-ภูผาม่าน ท้องที่อำเภอภูผาม่าน ที่ กม. 7-8 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน

ทั้งนี้บนถนนสายเอเชีย เส้นทาง กรุงเทพฯ-อยุธยา-อ่างทอง-สิงห์บุรี มีน้ำท่วมเป็นแห่ง ๆ แขวงการทางฯ กรมทางหลวง กำลังดำเนินการนำแบริเออ กั้นน้ำเพื่อให้สามารถเปิดเส้นทางการจราจรได้ต่อไป.

 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3316 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 18:15:45 »

กรมทางหลวงและลำคลอง









      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3317 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 18:21:20 »

พื้นที่ประสบภัยเพิ่มขึ้น ครอบครัวผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้น ถุงยังชีพลดน้อยลง จนหายหมด
ไม่มีการแจกถุงยังชีพในรอบ 4-5 วันที่ผ่านมา
ชีวิตต้ิองกลับมาอยู่ แบบยอมรับความจริงกัน
ครอบครัวถูกน้ำท่วมได้รับเงินชดเชยครอบครัวละ 5,000 บาทนั้น คุ้มหรือไม่ คนรับย่อมรู้อยู่แก่ใจ ?? !!


ขณะนี้หลายอำเภอของพระนครศรีอยุธยาถูกน้ำท่วมแบบฉับพลัน
ตามด้วยปทุมธานี นนทบุรี และ กทม. รอบนอก บวกกับจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร
โอกาสที่พื้นที่เดิมจะได้รับถุงยังชีพเพิ่มนั้น ค่อนข้างจะริบหรี่
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3318 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 18:25:53 »

อาชีพใหม่ ขนคนและสิ่งของฝ่าน้ำท่วม



สิ่งของ ผักหญ้า และที่สำคัญคือ "สุราหรือเหล้า" ถูกขนเข้าหมู่บ้านที่น้ำท่วม ด้วยรถอีแต๊กที่ประยุกต์ขึ้นมา
การช่วยเหลือตัวเอง คือสิ่งที่เป็นความจริง




      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3319 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 18:44:52 »

ข่าวล่าสุด..........

เตือนชาวกรุงฝนตกหนักคืนนี้ - มีนบุรีน่าห่วงสุด
6 ตุลาคม 2554 17:31 น.
 
       กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยผลเรดาร์ตรวจฝน เมื่อเวลา 16.00 น. ณ สถานีตรวจดอนเมือง และสุวรรณภูมิ พบกลุ่มฝนขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวมาจาก จ.ราชบุรี และ จ.เพชรบุรี โดยจะเข้าถึงกรุงเทพมหานคร ฝั่งธนบุรี ในเวลาประมาณ 19.00 - 21.00 น. ทั้งนี้ แม้ปริมาณฝนตกจะน้อยกว่าเมื่อวาน แต่อาจทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตธนบุรี จอมทอง บางแค และสีลม โดยเฉพาะที่เขตมีนบุรี ซึ่งกำลังประสบปัญหาน้ำท่วมกว่า 50 เซนติเมตร น่าเป็นห่วงมากที่สุด

 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000127466
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3320 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 18:46:46 »

บขส.เปิดเดินรถสายเหนือ ใช้เส้นทางบางบัวทอง-สุพรรณบุรี
6 ตุลาคม 2554 17:07 น.

 
       นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า ล่าสุด บขส.เปิดเดินรถโดยสารเฉพาะรถ 99 เส้นทางไปสู่จังหวัดในภาคเหนือ ตามปกติ แต่ไม่ใช้เส้นทางสายเอเชีย เนื่องจากมีปัญหาน้ำท่วมสูง โดยเลี่ยงเดินรถในเส้นทางบางบัวทอง-สุพรรณบุรี-อ่างทอง ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องการเดินทางระยะนี้
        หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 1490 เรียก บขส.ตลอด 24 ชั่วโมง


 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000127440
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3321 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 19:19:49 »

ข้อมูลในข่าวนี้คือ
1.น้ำท่วมภาคกลาง อาจยาวนานถึงเดือนธันวาคม !!!
2.ไม่มีใครรับประกันว่า กทม. น้ำท่วมหรือไม่ ??

“ปลอด” ฟุ้งแจกน้ำมันเรือดันน้ำไม่อั้น ฟันธง กทม.ไม่จมบาดาล
6 ตุลาคม 2554 18:50 น.

       รมว.วิทย์ โอ่ รบ.พร้อมแจกน้ำมันเรือ ดันน้ำ ปชช.ไม่อั้น โว มีเรือร่วมโครงการแล้วเกือบ 200 ลำ ฟุ้งขอพิกัดจะจัดส่งถึงที่ เชื่อ “กทม.” ไม่จมบาดาล ฟันธง น้ำท่วมภาคกลางไม่เกินเดือน ธ.ค.ด้านอธิบดีกรมชลฯ ตอบไม่ได้ กทม.น้ำลดหรือไม่ อ้างแล้วแต่ปริมาณฝน เผย เปิดคันดินให้น้ำเข้าแล้ว ค่อยดึงน้ำออกทางอุโมงค์ภายหลัง
       
       วันนี้ (6 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยใช้เรือผลักดันน้ำ ว่า ขณะนี้ประชาชนสามารถเริ่มดำเนินการผลักดันน้ำได้เลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้านประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำตรงจุดใดก็ได้ จากนั้นก็แจ้งมาที่เบอร์โทรศัพท์หมายเลข 1313 พร้อม ระบุชื่อ นามสกุล สถานที่ และชนิดเรือ เพื่อให้ทราบในแผนที่ และการนำน้ำมันไปมอบให้ถูกจุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้ประสานขอน้ำมันไปยังบริษัทพลังงานสองแห่ง เช่น ปตท.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่จำกัดปริมาณ รวมทั้งประชาชนเองก็สามารถขอได้ตลอด หากใช้น้ำมันผลักดันน้ำจนหมด โดยเรามีให้ไม่ได้อั้น
       
       “ประชาชนที่กำลังดำเนินการผลักดันน้ำอยู่ หากเรือของราชการ ที่เป็นของกองทัพเรือผ่านไปบริเวณนั้น ก็สามารถตะโกนบอกจะแจ้งหรือขอความช่วยเหลือก็ได้ โดยจะมีธงประชาอาสาเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งเรายังต้องการความช่วยเหลืออีกมาก” นายปลอดประสพ กล่าว
       
       รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ขณะนี้มีเรือที่เข้าร่วมโครงการแล้ว เรือเจ็ตสกี 100 ลำ เรือธรรมดา 50 ลำ ขณะที่ภาครัฐมีอยู่อีกกว่า 30 ลำ ซึ่ง เป็นเรือใหญ่ โดยคาดการณ์ว่า น่าจะยังมีเพิ่มเข้ามาอีก ส่วนการดำเนินการผลักดันน้ำให้ลงทะเลจะทันการณ์ก่อนที่น้ำทะเลนจะหนุนสูง หรือไม่นั้นคงจะต้องทำเท่าที่จะทำได้ เพราะขณะนี้มีรายงานว่าจะมีพายุอีกหนึ่งลูกกำลังก่อตัว แต่ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าในส่วนของ กทม.น้ำจะไม่ท่วม ถึงท่วมก็ท่วมไม่มาก เพราะ กทม.จะแย่หรือไม่ อยู่ที่การหนุนของน้ำทะเล แต่คิดว่าป้องกันได้
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินการท่วมขังในส่วนของภาคกลางจะมีไปอีกนานหรือไม่ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ให้ตนเดาคิดว่าน่าจะเป็นเดือนธันวาคม เพราะฝนนั้นตกไม่หยุด
       
       นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้ต้องดูสถานการณ์ก่อน เพราะน้ำจะลดหรือไม่ขึ้นอยู่กับฝน ถ้าฝนตกก็จะใช้เวลาเป็นเดือน แต่ต้องยอมรับว่าขณะนี้อยู่ในฤดูฝนและมรสุมเข้าดังนั้นจึงยังไม่มีใครตอบได้ว่าฝนจะหนักขนาดไหน และนานเท่าไหร่
       
       เมื่อถามว่า กรุงเทพฯฝั่งตะวันออก มีน้ำท่วมขังมานานแล้วจะดำเนินการอย่างไร นายชลิต กล่าวว่า ได้ประสานไปยังกทม.แล้วและมีความเห็นใจคนที่อยู่ด้านนอก และขณะนี้ได้เปิดคันดินต่างๆเพื่อให้น้ำเข้า กทม.จากนั้นจะดึงน้ำออกทางอุโมงค์ ในกรณีที่ด้านใน กทม.ไม่มีฝนตกจะสามารถดึงน้ำออกไปได้ 10 ล้าน ลบ.ม.และก็จะทำแบบนี้ไปทุกวัน



จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000127509
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3322 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 20:28:43 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                       ผมต้องขอบพระคุณ คุณเหยงเป็นอย่างมาก ที่นำข่าวสารมาบอกกล่าวกันจะได้มีสติเตรียมรับมือกันได้ครับ




ผมถ่ายไว่เวลา 06:45 น. วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุล่คม

                       ไม่น่าเชื่อครับ เมื่อเช้าผมสามารถวิ่งรถไปสิงห์บุรีได้ แต่มีรถติดยาวถึง ๑๐ กว่ากิโลเมตรทั้งไปและกลับ แต่พอเวลาผ่านไป หกชั่วโมงที่ผมจะกลับกรุงเทพฯ ระดับน้ำสูง ๑ เมตร รถผ่านไม่ได้

                        คือผมสังหรใจอะไรบางอย่าง จึงรี่บกลับกรุงเทพฯ ออกจากโรงพยาบาลสิงห์บุรีเที่ยงครึ่ง พอขับรถมาถึงทางแยกอ่างทอง เห็นเจ้าหน้าที่กำลังปิดถนนสายเอเซียที่จะไปกรุงเทพฯพอดี บอกว่าถนนปิดแล้วรถไม่สามารถไปได้ขอให้ไปสายเรียบเมือง ทางปทุมธานีแทน ผมก็จำใจไปและไม่เคยไปด้วย คิดเสียว่าดีกว่าไปรถติดที่อยุธยาจึงวกเข้าตัวเมืองอ่างทาง เห็นเขาเขียนว่าถนนเลี่ยงเมือง ปรากฏว่าต้องไปสุพรรณบุรี ไปก็ไป ขณะเดียวกันเพื่อความไม่ประมาท จริงๆก่อนออกจากสิงห์บุรี น้องสาว-น้องเขยคุณหมอวิทิตโทรศัพท์มาบอกว่าอย่าไปอยุธยาข่าวรายงานทางอากาศทางสกายทีวีรถติด ๒๐ กิโลเมตร ผมจึงแวะปั้มเติมน้ำมันเต็มถัง ซื้อน้ำดื่ม กล้วยปิ้งเตรียมเอาไว้พร้อม

                        มาทางสายสุพรรณบุรีก็ถาม ดร.สุริยา และพนักงานขายของ SIW ซึ่งเขารู้เส้นทางดี จนกระทั่งวิ่งอยู่บนถนนสายสุพรรณ-บางบัวทองได้ แต่ก็ไม่รู้จึงแวะปั้มเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถเพราะขับรถมานานแล้ว สอบถามว่าถนนสายนี้ชื่ออะไร จึงรู้ว่าเรามาถูกทางแล้ว จึงตรงดิ่งเข้ากรุงเทพฯเลยไม่ผิดทางแน่

                        แต่จุดที่ผมผ่านเมื่อเช้านั้นทาง จส ๑๐๐ ท่านสารวัตรทางหลวงรายงานว่าห้ามรถทุกชนิดผ่านเพราะระดับน้ำสูงเกินหนึ่งเมตร แสดงว่าหกชั่วโมงระดับน้ำขึ้นมาสูงถึง ๑ เมตร น้ำที่ไหนมันถึงขึ้นขนาดนั้น ซึ่งมันก็คือน้ำที่ระบายมาจากเขื่อนป่าสักครับ

                        เห็นภาพจาก TV นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จมน้ำหมด หมู่บ้านจัดสรรค์ของพนักงานที่ส่วนใหญ่รายได้น้อยซื้อบ้านราคาถูกชั้นเดียว จมน้ำหมด บ้านก็ไม่มีอยู๋ โรงงานก็ปิดอย่างน้อยอีกสองเดือน ทำอย่างไรดีล่ะชีวิต นี่น้ำมันท้วมเขตเศรษฐกิจของประเทศชัดๆ ตอนนี้นิคมอุตสาหกรรมฌรจนะ ปิดแล้ว นิคมอุตสาหกรรมนวนคร น้ำมาจ่อคอหอยแล้ว ล้วนเป็นเขตเศรษฐกิจของประเทสเลยทั้งนั้น

                         ผมนึกภาพได้เลยว่าปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ครับ

                         ตกลงผมต้องไปนครศรีธรรมราชหกโมงเช้าวันศุกร์ครับ เพราะวันนี้เปลี่ยนตั๋วไม่ทัน ครับ

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3323 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 20:52:22 »

ข่าวดีที่กล้าแสดงออก !

                       - นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ได้พูดผ่านออก TV ของ NBT ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้ทหารปิดประตูระบานน้ำที่ไทรงาม และบางโฉมศรี ให้ได้และกำลังจะปิดได้ ว่า เมื่อปิดประตูระบายน้ำทั้งสองได้แล้ว น้ำจะไม่สามารถระบายไปทางทุ่งฝั่งตะวันออกได้ น้ำจะกลับเข้ามาอยู่ในลำแม่น้ำเจ้าพระยา ท้วมที่สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา และคิดว่าเขตเศรษฐกิจของสิงห์บุรี  อ่างทอง  อยุธยา คงไม่สามารถป้องกันเอาไว้ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ? .....มันก็เป็นความจริงแฮะ!!

                         - ช่อง อสมท. ได้ไปสัมภาษย์ชาวนากำแพงเพชร จำชื่อไม่ได้ เป็นสุภาพสตรีอายุปานกลางพูดได้ดีมากว่า เมื่อวานที่นานั้นมีข้าวเหลืองแก่กำลังจะเกี่ยวอยู่แล้ว เพียงชั่วเวลาคืนเดียว น้ำจากเขื่อนภูมิพลที่ปล่อยออกมา เอาเงินสองแสนกว่าบาทของฉันหายไปทันที ฉันจะเอาอะไรกิน จะเอาอะไรไปใช้หนี้  ขอวอนท่านนายก และรัฐบาล อย่ามัวไปหามาตรการณ์ช่วยคนมีเงิน พวกเศรษฐ๊ที่จะช่วยให้ได้ซื้อรถคันแรก และบ้าน อยู่เลย ให้เอาเงินนั้นมาช่วยชาวนาอย่างอิฉันที่หมดตัวภายในคืนเดียว ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ? ดีกว่าขอวิงวอน .....มันก็เป็นความจริงแฮะ!!

                          - ไม่แปลกที่ทุกท่านคงเห็นภาพทาง TV ที่น้ำท้วมอยุธยา โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรมถุกน้ำท้วมราบเป็นหน้ากลอง อย่างที่ผมบอกเอาไว้ เราไปกักน้ำให้อยู่ในลำแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ปล่อยลงทุ่งสองฝั่งเจ้าพระยา ไม่ระบายลงทะเลไปทางสุพรรณบุรี  ผลคือน้ำถูกบังคับเหมือนท่อน้ำ ฉีดน้ำเข้าใส่อยุธยา ปทุมธานี กทม. ขณะนี้ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าน้ำจะไม่ท้วมกรุงเทพฯ แม้แต่ตัวผมครับ

                          - เราเสียเขตอุตสาหกรรมไปแล้ว  อย่าให้เสียเขตเศรษฐกิจหัวใจ คือ กทม. เลยครับ เท่ากับเราเสียเอกราชไม่สามารถป้องกันได้ โปรดเปิดประตูน้ำบางโฉมศรี ไทรงานให้น้ำท้วมทุ่งตะวันออก โปรดเปิดน้ำให้เข้าทุ่งตะวันตก และโปรดเปิดน้ำไปสุพรรณบุรี  ถ้ากระจายน้ำไปได้สามทางพร้อมๆกัน  ระดับน้ำจะลดลงมากเพราะเป็นพื้นที่ใหญ่มาก ระดับน้ำจะไม่ท้วมสูง  ทุกคนอยู่ได้หมดครับ แต่อนิจจาสายเกินแก้เสียแล้ว น่าเสียดายจริงๆๆ ประเทศไทย

                             ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3324 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2554, 20:57:36 »

ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมเส้นทางหลวง ประจำวันที่ 6 ตุลาคม ข้อมูลจากกองบังคับการตำรวจทางหลวงวั
นที่ 06 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 17:00:28 น.

กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ตร.ทล.) ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ทราบสถานการณ์เร่งด่วนเส้นทางหลวง (ทล.) หมายเลข 1-3 หลักที่ถูกน้ำท่วม ดังนี้

เขต จว.พระนครศรีอยุธยา
1.ทล.32 (เอเชีย) ขาออก กม.ที่ 21-23 หน้าตลาดกลางการเกษตร ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูง 20-30 ซม.ระยะทางประมาณ 1 กม. รถผ่านได้ทางช่องทางขวา 1 ช่องทาง

2.ทล.347 (ปทุมธานี-บางปะหัน) ขาเข้า กม.36-39 ต.บ้านลี่, ต.บ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูง 30-60 ซม.ระยะทางประมาณ 3 กม. เปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่งสวนทาง
 

เขต จว.สระบุรี
1.ทล.2 (มิตรภาพ) ขาเข้า กม.ที่ 14-15 เขต ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จว.สระบุรี ระดับน้ำสูง 1 เมตร ระยะทาง 500 เมตร ตร.ทล.ร่วมกับแขวงการทางปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่งสวนทาง
 

เขต จว.ลพบุรี
1.ทล.205 (โคกสำโรง-ชัยภูมิ) กม.229-240 เขต อ.ชัยบาดาล จว.ลพบุรี ระดับน้ำ 30-40 ซม. รถเล็กผ่านไม่ได้ ใช้เส้นทาง ทล. 21 (พุแค-เพชรบูรณ์) กม. 52-72 เป็นเส้นทางเลี่ยง

2.ทล.311 (ทางเลี่ยงเมือง) กม.8-17 เขต ต.ต้นโพธิ์ อ.เมืองลพบุรี ระดับน้ำ 40 ซม.รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ใช้เส้นทาง ทล.32 (เอเชีย) แทน

3.ทล.311 (ลพบุรี-สิงห์บุรี) กม.157-170 เขต ต.บางตาย่อง อ.ท่าวุ้ง จว.ลพบุรี ระดับน้ำ 20-30 ซม.รถเล็กผ่านไม่ได้ ใช้เส้นทาง ทล.32 (เอเชีย) แทน
 

เขต จว.นครสวรรค์
1.ทล.122 (ทางเลี่ยงเมืองด้านตะวันตก) กม.0-3 เขต ต.กลางแดด อ.เมืองนครสวรรค์ ระดับน้ำ 40-50 ซม.รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ใช้เส้นทางเทศบาลผ่านตัวเมืองนครสวรรค์

2.ทล.225 (ปากน้ำโพ-นครสวรรค์) กม.2-24 เขต ต.นครสวรรค์ออก อ.ชุมแสง ระดับน้ำ 40-50 ซม.รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ใช้ ทล.3004(ท่าตะโก-นครสวรรค์) แทน

3.ทล.333 (อ.พยุหะคีรี -อุทัยธานี) กม.2-12 เขต ต.น้ำทรง อ.พยุหะคีรี, ต.อุทัยใหม่ อ.เมืองอุทัยธานี ระดับน้ำ 40-50 ซม.รถทุกชนิดผ่านไม่ได้

4.ทล.117 (นครสวรรค์-พิจิตร) กม.7-19 เขต ต.บางม่วง, ต.หนองเต่า อ.เมืองนครสวรรค์ ระดับน้ำ 40-50 ซม.รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ใช้เส้นทาง ทล.1182 (นครสวรรค์-เก้าเลี้ยว) แทน
 

เขต จว.สิงห์บุรี
1.ทล.1 (พหลโยธิน) กม.290-293 เขต ต.บ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท,อ.มโนรมย์ ระดับน้ำ 60-70 ซม.รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ใช้ ทล.32(เอเชีย) เข้าที่ กม.151 สามแยกท่าน้ำอ้อยแทน

2.ทล.11(ตากฟ้า-พิษณุโลก) กม.4-5 เขต ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี จว.สิงห์บุรี คอสะพานขาด รถสามารถผ่านได้ เนื่องจากใช้สะพานเหล็กชั่วคราว(สะพานแบริ่ง)

3.ทล.311(ลพบุรี-สิงห์บุรี) กม.0-32 เขต อ.เมือง,อ.อินทร์บุรี จว.สิงห์บุรี และ อ.สรรพยา จว.ชัยนาท ระดับน้ำ 25 ซม.รถเล็กผ่านไม่สะดวกใช้เส้นทาง ทล.32(เอเชีย) แทน

4.ทล.309(อยุธยา-ชัยนาท) กม.79-82 เขต ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จว.สิงห์บุรี ระดับน้ำ 30-40 ซม.รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ใช้เส้นทาง ทล.32(เอเชีย) แทน
 

เขต จว.เพชรบูรณ์,พิจิตร
1.ทล.111(อ.สากเหล็ก-พิจิตร) กม.15 เขต อ.เมืองพิจิตร ระดับน้ำ 60-70 ซม.รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ใช้ทางเลี่ยงเมืองแทน

2.ทล.113(อ.ตะพานหิน-อ.เขาทราย) กม.0-5 และ กม.13-22(ตะพานหิน-พิจิตร) ระดับน้ำ 60-70 ซม.รถทุกชนิดผ่านไม่ได้
 

เขต จว.ชียงใหม่
1.ทล.108(เชียงใหม่-อ.ฮอด) กม.87-88 และช่วง อ.ฮอด-แม่สะเรียง กม.4-9 เขต ต.หางดง อ.ฮอด จว.เชียงใหม่ ระดับน้ำสูง 1.50 เมตร รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ใช้เส้นทาง ทล.11 (เชียงใหม่-ลำพูน)แทน

2.ทล.1103(อ.ฮอด-อ.ดอยเต่า) กม.2-3 เขต อ.หางดง จว.เชียงใหม่ ระดับน้ำ 80 ซม.รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ใช้ทางเลี่ยงเมือง และ ทล.11 แทน
 

เขต จว.ลำปาง,ลำพูน -เหตุการณ์ปกติ       


เขต จว.ชัยภูมิ
1.ทล.201(สีคิ้ว-ชัยภูมิ) กม.451-452 ต.คอนสาร อ.คอนสาร จว.ชัยภูมิ ระดับน้ำ ลดเป็นปกติ
 

ส่วนปัญหาน้ำท่วมในเขต จว.พระนครศรีอยุธยา


1.ทล.32(เอเชีย)ขาออก
   1.1 กม.21-23 ตลาดกลางการเกษตร ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำ 50 ซม.ระยะทางประมาณ 1 กม.

   1.2 กม.24-26 และ กม.36-39 น้ำท่วมสูง 50 ซม.รถเล็กผ่านไม่ได้
   
การแก้ไขปัญหาการจราจรในเขต จว.พระนครศรีอยุธยา
1.ปิดการจราจร ทล.32(เอเชีย)ขาออกที่ กม.0 ต่างระดับบางปะอินไม่ให้รถจากกรุงเทพฯผ่าน ให้ใช้เส้นทางหลวง 340(บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) และทางหลวง 1(พหลโยธิน) แทน

2.ปิดการจราจร ทล.32(เอเชีย) ขาเข้าที่ กม.51 ต่างระดับเข้า จว.อ่างทอง ใช้เส้นทาง ทล.329 เข้า กรุงเทพฯไปทาง อ.วิเศษชัยชาญ-สุพรรณบุรี แล้วใช้ ทล.340 แทน

3.ประสานแขวงการทาง ทำคันกั้นน้ำริมทาง ทล.32 ช่วงที่มีน้ำท่วม
   
2.ทล.347(ปทุมธานี-บางปะหัน)ขาออก กม.36-39 เขต ต.บ้านลี่ ,ต.บ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูง 30-60 ซม.
   
การแก้ไขปัญหาการจราจร เพื่อหลีกเลี่ยงจุดน้ำท่วม
1.ปิดการจราจรขาออก ที่สี่แยกมะขามหย่อง อ.พระนครศรีอยุธยา ให้กลับไปใช้เส้นทาง ทล.340(บางบัวทอง-สุพรรณบุรี)แทน

2.ปิดการจราจรที่ต่างระดับบางปะหัน (ถนนเอเชีย ทล.32)เพื่อไม่ให้รถขาเข้าผ่านจุดน้ำท่วม
 

การอำนวยความสะดวกและการช่วยเหลือ
1.จัดรถวิทยุ,รถกู้ภัย,รถยก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ออกตรวจ ดูแลความปลอดภัย รวมถึงคอยให้ความช่วยเหลือผู้ใช้รถ ใช้ถนนในการจราจร และดูแลความปลอดภัยเกี่ยวกับชีวิต,ทรัพย์สินของประชาชนที่อพยพมาอาศัยอยู่บนทางหลวง

2.ติดป้ายประชาสัมพันธ์เตือนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ถูกน้ำท่วม รวมทั้งให้บริการสอบถามเส้นทางทางโทร.1193 ตลอด 24 ชม. แนะนำผู้ใช้โทรศัพท์ ไอโฟน สมาร์ทโฟน เปิดแอปปลิเคชั่นตำรวจทางหลวง

3.กรณีมีน้ำท่วมทางหลวง ที่มีช่องทางการจราจรสี่ช่องทางขาเข้า-ขาออก จะเปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่งสวนทางเป็นช่วงๆ

4.ประสานภาคเอกชนรับบริจาคสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็น นำไปมอบให้กับผู้ประสบภัย
 

ขณะนี้ยังมีฝนตกทั่วพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากอิทธิพลของพายุ นาลแก สถานการณ์น้ำท่วมยังคงอยู่ในสภาพทรงตัวและเพิ่มระดับขึ้นในห้วง 1-3 วันนี้

 

กองบังคับการตำรวจทางหลวง

 
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 131 132 [133] 134 135 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><