28 มิถุนายน 2567, 17:48:50
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 102 103 [104] 105 106 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3330724 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2575 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2554, 16:42:47 »

พี่สิงห์,
อ่านคะ..
ข้ามไปอ่านตอนท้ายๆ
อ่านละเอียด เดี๋ยวเกิดติดใจ
หนีไปอยู่วัด ทีนี้เลยอดreplyพี่สิงห์.

เครื่องเจ๊งกะบ๊งบ่อยจังคะ
สงสัยอ่านเวบบอร์ดจน...ร้อน!
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2576 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2554, 17:06:40 »

เอ,พี่สิงห์คะ
อย่าว่าอย่างโง้นอย่างงี้ในความช่างคิด
เพราะการช่างคิดมักทำให้อยากหาคำตอบ
เมื่ออยากหาคำตอบทำให้เกิดปัญญาอย่างแท้จริง.

หนิงว่านะคะ,ที่อ่านช้าเพราะพยายามซ้อนกะภาพ
ในชีวิตประจำวันที่คนเราต้องใช้ชีวิตกันจริงๆ
หากให้ท่องจำ แต่ปรับไปใช้ได้ยาก หรือน้อย
หรือใช้ไม่ได้เพราะสวนกะความเป็น/อยู่/คือที่แท้
เท่ากับยังไม่เข้าถึงอย่างแท้จริง

หนิงกำลังพูดถึงอะไร?
กำลังพูดถึงการที่จะดื่มด่ำ
กับรสพระธรรมให้ได้โดยที่
ยังอยู่ในโลกฆราวาส ที่ยัง
ต้องรับผิดชอบ มีส่วนร่วม
ปฏิสัมพันธ์กับรอบๆตัว
ตรงนี้คะ...ที่ทำให้.........
หนิงตามบทที่พี่ลง.......
ไม่เคยทัน!
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2577 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2554, 20:00:36 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                       เราสามารถน้อมนำธรรมของพระพุทธเจ้ามาใช้ในการดำรงค์ชีวิตของเราได้เป็นอย่างดีเลย ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น เอาง่ายๆ

                       - สติ ขอให้เธอระลึกได้ว่าเธอกำลังทำอะไรแค่นั้น เธอจะทำงานด้วยความสำเร็จ เช่นให้มีสติก่อนที่จะคิด ก่อนที่จะทำ ก่อนที่จะพูด เพราะถ้าเธอมีสติเสียอย่างหนึ่ง เธอจะกระทำภายใต้ความคิด  ด้วยปัญญา

                       - ถ้าเธอมีจิตอยู่กับปัจจุบัน หมายความว่า ไม่คิดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว คือไม่เสียดาย รำพันในอดีต  ไม่กังวลไปในอานาคต  แต่ถ้าจะเป็นการวางแผนในอนาคต นั้นต้องคิด เธอก็จะไม่ทุกข์

                       - ถ้าเธอมีไตรสิกขา คือ ไม่ทำชั่วทั้งปวง  ทำความดีให้ถึงพร้อม  มีจิตที่ผ่องใส  เธอก็จะอยู่กับครอบครัว ทำงาน อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข  ประเทศชาติมีแต่คว่มสงบ

                       - หรือนำมรรค ๘ มาใช้ในการทำงาน เธอก็จะประสพความสำเร็จในการทำงาน ครอบครัวก็เป็นสุข สังคมรอบข้างก็เป็นสุข มรรค ๘ คือมีความเห็นชอบในสิ่งที่เป็นธรรม  มีความคิดชอบ  มีวาจาชอบ  มีความประพฤติทางกายชอบ มีอาชีพการงานชอบ มีความเพียรในการกระทำที่ชอบ  มีสติชอบในการกระทำ และทำด้วยความเป็นสมาธิ คำว่าชอบ หมายความว่า กระทำในทางที่ดี  ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ไม่กระทำให้ใครเดือดร้อนทั้งตัวเอง ผู้อื่น สัตว์เดรฉาน และธรรมชาติสิ่งแวดล้อม

                       พูดง่ายๆ ตำราฝรั่งทางด้านบริหารนั้น ฝรั่งเอาไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น แต่เอาไปเป็นพระสูตร ไม่ครบและไปแต่งใหม่ให้สากลเท่านั้นครับ ดังนั้นเธอสามารถนำไปใช้ในชีวิตเธอได้เสมอ  ทั้งๆที่เธอยังมีภาระทางครอบครัว ยังต้องทำงานอยู่

                       ยกเว้นอย่างเดียว ถ้าเธอต้องการพ้อนทุกข์อย่างถาวร  เธอต้องมีเวลาทั้งวัน และไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว เธอต้องการเวลา ดังนั้นจึงต้องออกบวช เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องที่อยู่ อาหาร และอื่นๆ พูดง่ายๆ พึ่งชาวบ้าน

                       การสวดมนต์ตอนเช้า ตอนเย็น มันไม่เสียเวลาเท่าไร แต่เธอจะมีจิตผ่องใสขึ้น  จึงน่าที่จะทำครับ

                       พระสูตรของพระพุทธเจ้านั้น ท่านต้องการให้ชาวบ้านอยู่เป็นสุข  ยังต้องทำงาน  เลี้ยงครอบครัว  มีความรับผิดชอบทางสังคม  ยังต้องปกครองบ้านเมือง  แต่ถ้าทุกคนออกบวชอย่างท่านหมด ใครจะใส่บาตรพระ  พระก็อดเท่านั้น ดังนั้นพระธรรมของพระองค์นั้นส่วนใหญ่ช่วยชาวบ้านครับ ยกเว้นผู้ต้องการพ้นทุกข์ จึงต้องออกบวช

                       ถ้าสงสัยถามได้ครับ เดี๋ยวนี้เวลาพี่สิงห์ไปสอนให้คนทำงาน จะยึดหลักธรรมะเป็นเกณฑ์ เพราะจะช่วยให้ทำงานประสพความสำเร็จได้  นี่คือความจริงครับ

                        ราตรีสวัสดิ์ ค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2578 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2554, 20:09:43 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร และชาวซีมะโด่งที่รัก ทุกท่าน

                       วันนี้พี่สิงห์ไปทำฟัน รักษารากฟัน เป็นอันว่าจบการรักษาแล้ว คุณหมอผ่องผุด ได้อุดฟันซี่นั้นถาวรแล้ว วันนี้ไม่ปวดเลย อุตส่าห์เตรียมใจไปแล้วว่าคงปวดหนักแน่เตรียมปฏิบัติทางจิตเต็มที่ คุณหมอเลยส่งต่อไปยังแผนกทันตกรรมพิเศษเพื่อทำครอบฟันต่อ ได้ทำแบบพิมพ์ไว้แล้ว เหลือต้องไปเจาะยึดสี่จุดในเดือนหน้า วันพุธที่ 24 สิงหาคม ค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000 บาท

                       ตกลงหมดค่ารักษารากฟันไป 8,000 บาท ครับ

                       ตอนนี้คุณหมอบอกว่าให้ทนเคี้ยวข้างขวาไปก่อน จนกว่าจะทำครอบฟันเสร็จ เพราะกลัวว่าฟันจะแตก  ถ้าแตกสิ่งที่ทำมาทั้งเจ็บ ทั้งเสียเงิน จะเป็นศูนย์ เลยช่วงนี้กินอะไรไม่อร่อย กินไปมื้อหนึ่งๆ เท่านั้นไม่คิดอะไรทั้งสิ้น สงสารฟันทางด้านขวาต้องทำงานหนักทุกวัน

                       เธออย่าลืมสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น ตามที่พี่สิงห์ดพสต์เอาไว้ให้นะครับ

                       ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2579 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2554, 20:25:56 »

สวัสดีคุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                       อย่างตอนนี้ฝรั่งเหอมากเรื่องทิศหก คือหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งสองฝ่ายระหว่าง พ่อ-แม่กับลูก ครูกับศิษย์ ผัวกับเมีย-ลูก มิตรกับมิตร  บุคคลกับสมณะ และนายจ้างกับลูกจ้าง

                       หรือผู้นำที่ดีต้องมีพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา  อุเบกขา  จึงจะปกครองคนได้ดี

                       หรือ ถ้าจะทำงานให้ประสพความสำเร็จต้องมี อิทธิบาท ๔ คือ ฉันทะ  วิริยะ  จิตตะ  วิมังสา

                       หรือถ้าอยากให้สังคมเป็นสุข ต้องมีศีล ๕
 
                       หรือบุญกิริยาวัตถุ ๓ คือ ทาน  ศีล  ภาวนา

                       หรือสังคหะวัตถุ ๔ คือ ทาน  ปิยวาจา ให้ความอนุเคราะห์ และกระทำทั้งสามอย่างที่กล่าวด้วยความสม่ำเสมอ

                       หรือตัวอย่างพระเจ้าปะทิโกศล นำอำมาตย์ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ที่วัดเชตวัน กราบทูลว่า พระองค์และเหล่าอำมาตย์ไม่มีเวลาที่จะปฏิบัติธรรมยังต้องปกครองบ้านเมือง และมีหน้าที่การงาน ครอบครัวที่จะต้องดูแล จะทำอย่างไรดีพระเจ้าข้า พระพุทธองค์เลยประทานทรงสอนให้ปฏิบัติตัวตามมงคล ๓๘ ประการ ถ้าปฏิบัติแล้วครอบครัว บ้านเมือง ประชาชน จะอยู่เป็นสุข เช่น ไม่คบคนพาล  คบแต่บัณฑฺตย์ เป็นต้น
 
                       ถ้าไม่อยากมีทุกข์ต้องมีสติ อยู่กับปัจจุบัน หรือคิดในทางที่ดี ทางฝรั่งเอาไปประยุกต์ว่า Positive thinking  เป็นต้น

                       พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เชื่อสิ่งใดอย่างงมงายตามหลัก กาลามสูตร ๑๐ ประการ

                       ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยทั้งสิ้น มันเกิดขึ้นเองไม่ได้

                       เพราะอวิชชา คือความไม่รู้  คนจึงคิดไปต่างๆ นาๆ ดีบ้าง ร้ายบ้าง  ส่วนใหญ่คิดเข้าข้างตนเองเป็นหลัก
 
                       ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าจะแก้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น ต้องหาสาเหตุให้พบแล้วแก้ที่สาเหตุ คือกระทำตรงข้ามกับสาเหตุที่เกิด

                       จะทำอะไรนั้น พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ต้องมีศรัทธาความเชื่อมั่น  ต้องทำด้วยความเพียร  และต้องใช้ปัญญา

                       และ.......อีกมาก ศาสนาพุทธ คำสอนของพระองค์นั้น เป็นความจริงทางธรรมชาติ ว่าด้วยเหตุ และผล สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ครับ  มันขึ้นอยู่กับเราให้รู้จักนำคำสอนนั้นมาใช้ประกอบอาชีพการงาน  ดูแลครอบครัว  คบมิตร  สังคมเป็นสุข ครับ ฯลฯ

                       สวัสดีค่ะ
                      
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #2580 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2554, 20:44:55 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 19 กรกฎาคม 2554, 20:09:43
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร และชาวซีมะโด่งที่รัก ทุกท่าน

                       วันนี้พี่สิงห์ไปทำฟัน รักษารากฟัน เป็นอันว่าจบการรักษาแล้ว คุณหมอผ่องผุด ได้อุดฟันซี่นั้นถาวรแล้ว วันนี้ไม่ปวดเลย อุตส่าห์เตรียมใจไปแล้วว่าคงปวดหนักแน่เตรียมปฏิบัติทางจิตเต็มที่ คุณหมอเลยส่งต่อไปยังแผนกทันตกรรมพิเศษเพื่อทำครอบฟันต่อ ได้ทำแบบพิมพ์ไว้แล้ว เหลือต้องไปเจาะยึดสี่จุดในเดือนหน้า วันพุธที่ 24 สิงหาคม ค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000 บาท

                       ตกลงหมดค่ารักษารากฟันไป 8,000 บาท ครับ

                       ตอนนี้คุณหมอบอกว่าให้ทนเคี้ยวข้างขวาไปก่อน จนกว่าจะทำครอบฟันเสร็จ เพราะกลัวว่าฟันจะแตก  ถ้าแตกสิ่งที่ทำมาทั้งเจ็บ ทั้งเสียเงิน จะเป็นศูนย์ เลยช่วงนี้กินอะไรไม่อร่อย กินไปมื้อหนึ่งๆ เท่านั้นไม่คิดอะไรทั้งสิ้น สงสารฟันทางด้านขวาต้องทำงานหนักทุกวัน

                       เธออย่าลืมสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น ตามที่พี่สิงห์ดพสต์เอาไว้ให้นะครับ

                       ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
ดีจังเลยนะคะที่ทำฟันแล้วไม่เจ็บ
ขอบคุณที่เตือนให้สวดมนต์
สวดทุกวันก่อนนอนค่ะ
ชอบที่พี่สิงห์ตอบน้องหนุงหนิงมากนะคะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2581 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 07:52:42 »

สวัสดียามเช้าค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

                      ขอบคุณมากค่ะ  แต่อย่าลืมนำความหมายของบทสวดมนต์นั้นมาปฏิบัติด้วยนะครับ จะมีอานิสสงฆ์มากตามที่ได้กล่าวไว้นั้น

                      สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2582 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 08:11:28 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง และชาวซีมะโด่งที่รักทุกท่าน

ตัวอย่าง

ถ้าทุกคนในครอบครัวมีศีล ๕ ครอบครัวจะเป็นสุข

                      คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง สมมติเธอและสามี มีศีล ๕ อยู่ในใจ คือ

                      - เว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑  ในที่นี้รวมถึงไม่ทำให้บุคคล สัตว์ ได้รับความเดือนร้อนคือไม่เบียนเบียนนั้นเอง จิตเธอจะมีความรู้สึกเป็นผู้ให้ หรือให้ทานนั่นเอง เป็นผู้ให้จะมีแต่ปีติ สุข แต่ถ้าเป็นผู้รับนั้น จะเป็นคนเห็นแก่ตัว เบียดเบียนผู้อื่นแม่กระทั้งทำลายชีวิตผู้อื่น

                      - เว้นจากการลักฉ้อสิ่งที่เจ้าของเขาไม่ให้ ๑ ในที่นี้รวมหมายถึงกระประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่เอาเปรียบ หรือค้ากำไรเกินควร เพราะจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และไม่เอาเปรียบสังคม

                      - เว้นจากการประพฤติกรรมที่เป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ ๑ ทุกครอบครัวที่ผัว-เมัยทะเลาะ ครอบครัวแตกแยกมาจาก ผัวนอกใจภรรยา  ภรรยานอกใจสามี  ถ้าครอบครัวไหนมีศีลข้อนี้ ครอบครัวจะเป็นสุข คือรักเดียวใจเดียว

                      - เว้นจากการเจรจาคำเท็จล่อลวงผู้อื่น ๑ ในที่นี้รวมถึงคำพูดขอเราที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วย  ทุกวันนี้ที่สังคมวุ่นวาย ประเทสชาติเสียหาย ก็เพราะทุกคนไม่มีศีลข้อนี้ละ โกหก หรือผิดคำพูดแม้กระทั้งตัวเอง

                      - เว้นจากการดื่มสุราเมรัยอันเป็นเหตุที่ตั้งแห่งความประมาท ๑ ในที่นี้รวมถึงยาเสพติดต่างๆ ด้วย สุรา ยาเสพติด เป็นต้นเหตุแห่งความประมาท ครับ

                      ตัวอย่างคนไร้ศีล ๕ เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา ซอยข้างสถานทูตเขมร-ลาว เป็นสามแยกมีป้อมตำรวจตั้งอยู่ด้วย วันรุ่นมากับสาว ขับรถออกจากซอยป้ายแดง ขับตัดหน้ารถทางตรง เลยโดนรถทางตรงชนอย่างจัง ผลคือ วัยรุ่นลงจากรถพร้อมด้วยมีด มาแทงคนขับรถที่ชนสามแผล คือที่อก หลัง และลำคอ ตายคาที่ และขับรถหนีไปทิ้งสาวให้อยู่ที่เกิดเหตุ เกิดรวดเร็วมาก จนตำรวจที่อยู่ในป้อมทำอะไรไม่ทัน นี่ละมนุษย์เลวกว่าสัตว์เดรฉานเสียอีกครับ เพราะขาดศีล ๕ ทุกท่านคงอ่านจากหนังสือพิมพ์ไปแล้วเหตุเกิดก่อนหน้าที่สิงห์ขับรถไปถึงสิบนาที แม่ค้าขายไอศครีมเล่าให้ฟังเพราะเขาอยู่ตรงที่เกิดเหตุพอดี

                       ศีล ๕ นั้นถ้าทุกครอบครัวมีอยู่ประจำผลคือ ครอบครัวมีความสุข สังคมสงบ ประเทศชาติสงบครับ

                       สวัสดี(32860)
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2583 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 08:29:16 »

รู้ธรรมวันละนิด  จิตผ่องใส

ตอน
 




                       มงคล คือเหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติ นำมาจากบทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญหรือมี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ๓๘ ประการได้แก่

                                                ๑. การไม่คบคนพาล
                                                ๒. การคบบัญฑิต
                                                ๓. การบูชาบุคคลที่ควรบูชา
                                                ๔. การอยู่ในถิ่นอันสมควร
                                                ๕. เคยทำบุญมาก่อน
                                                ๖. การตั้งตนชอบ
                                                ๗. ความเป็นพหูสูต
                                                ๘. การรอบรู้ในศิลปะ
                                                ๙. มีวินัยที่ดี
                                               ๑๐. กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต
                                               ๑๑. การบำรุงบิดามารดา
                                               ๑๒. การสงเคราะห์บุตร
                                               ๑๓. การสงเคราะห์ภรรยา
                                               ๑๔. ทำงานไม่ให้คั่งค้าง
                                               ๑๕. การให้ทาน
                                               ๑๖. การประพฤติธรรม
                                               ๑๗. การสงเคราะห์ญาติ
                                               ๑๘. ทำงานที่ไม่มีโทษ
                                               ๑๙. ละเว้นจากบาป
                                               ๒๐. สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
                                               ๒๑. ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย
                                               ๒๒. มีความเคารพ
                                               ๒๓. มีความถ่อมตน
                                               ๒๔. มีความสันโดษ
                                               ๒๕. มีความกตัญญู
                                               ๒๖. การฟังธรรมตามกาล
                                               ๒๗. มีความอดทน
                                               ๒๘. เป็นผู้ว่าง่าย
                                               ๒๙. การได้เห็นสมณะ
                                               ๓๐. การสนทนาธรรมตามกาล
                                               ๓๑. การบำเพ็ญตบะ
                                               ๓๒. การประพฤติพรหมจรรย์
                                               ๓๓. การเห็นอริยสัจ
                                               ๓๔. การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
                                               ๓๕. มีจิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
                                               ๓๖. มีจิตไม่เศร้าโศก
                                               ๓๗. มีจิตปราศจากกิเลส
                                               ๓๘. มีจิตเกษม

      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #2584 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 08:47:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2554, 08:11:28
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง และชาวซีมะโด่งที่รักทุกท่าน

ตัวอย่าง

ถ้าทุกคนในครอบครัวมีศีล ๕ ครอบครัวจะเป็นสุข

                      คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง สมมติเธอและสามี มีศีล ๕ อยู่ในใจ คือ

                      - เว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑  ในที่นี้รวมถึงไม่ทำให้บุคคล สัตว์ ได้รับความเดือนร้อนคือไม่เบียนเบียนนั้นเอง จิตเธอจะมีความรู้สึกเป็นผู้ให้ หรือให้ทานนั่นเอง เป็นผู้ให้จะมีแต่ปีติ สุข แต่ถ้าเป็นผู้รับนั้น จะเป็นคนเห็นแก่ตัว เบียดเบียนผู้อื่นแม่กระทั้งทำลายชีวิตผู้อื่น

                      - เว้นจากการลักฉ้อสิ่งที่เจ้าของเขาไม่ให้ ๑ ในที่นี้รวมหมายถึงกระประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่เอาเปรียบ หรือค้ากำไรเกินควร เพราะจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และไม่เอาเปรียบสังคม

                      - เว้นจากการประพฤติกรรมที่เป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ ๑ ทุกครอบครัวที่ผัว-เมัยทะเลาะ ครอบครัวแตกแยกมาจาก ผัวนอกใจภรรยา  ภรรยานอกใจสามี  ถ้าครอบครัวไหนมีศีลข้อนี้ ครอบครัวจะเป็นสุข คือรักเดียวใจเดียว

                      - เว้นจากการเจรจาคำเท็จล่อลวงผู้อื่น ๑ ในที่นี้รวมถึงคำพูดขอเราที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วย  ทุกวันนี้ที่สังคมวุ่นวาย ประเทสชาติเสียหาย ก็เพราะทุกคนไม่มีศีลข้อนี้ละ โกหก หรือผิดคำพูดแม้กระทั้งตัวเอง

                      - เว้นจากการดื่มสุราเมรัยอันเป็นเหตุที่ตั้งแห่งความประมาท ๑ ในที่นี้รวมถึงยาเสพติดต่างๆ ด้วย สุรา ยาเสพติด เป็นต้นเหตุแห่งความประมาท ครับ

                      ตัวอย่างคนไร้ศีล ๕ เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา ซอยข้างสถานทูตเขมร-ลาว เป็นสามแยกมีป้อมตำรวจตั้งอยู่ด้วย วันรุ่นมากับสาว ขับรถออกจากซอยป้ายแดง ขับตัดหน้ารถทางตรง เลยโดนรถทางตรงชนอย่างจัง ผลคือ วัยรุ่นลงจากรถพร้อมด้วยมีด มาแทงคนขับรถที่ชนสามแผล คือที่อก หลัง และลำคอ ตายคาที่ และขับรถหนีไปทิ้งสาวให้อยู่ที่เกิดเหตุ เกิดรวดเร็วมาก จนตำรวจที่อยู่ในป้อมทำอะไรไม่ทัน นี่ละมนุษย์เลวกว่าสัตว์เดรฉานเสียอีกครับ เพราะขาดศีล ๕ ทุกท่านคงอ่านจากหนังสือพิมพ์ไปแล้วเหตุเกิดก่อนหน้าที่สิงห์ขับรถไปถึงสิบนาที แม่ค้าขายไอศครีมเล่าให้ฟังเพราะเขาอยู่ตรงที่เกิดเหตุพอดี

                       ศีล ๕ นั้นถ้าทุกครอบครัวมีอยู่ประจำผลคือ ครอบครัวมีความสุข สังคมสงบ ประเทศชาติสงบครับ

                       สวัสดี(32860)

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...และสมาชิกทุกท่านค่ะ...

...เอาแค่ศีล 5 อย่างเดียว...ก็มีความสุขล้นเหลือแล้วค่ะ...

...ทุกวันนี้โลกยุ่งเหยิง...เพราะคนขาดศีล 5...หรือข้อใดข้อหนึ่ง...

...พอขาดศีลข้อนึง...ก็ลามไปขาดข้ออื่นๆอีกค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2585 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 11:15:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2554, 08:11:28
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง และชาวซีมะโด่งที่รักทุกท่าน

ตัวอย่าง

ถ้าทุกคนในครอบครัวมีศีล ๕ ครอบครัวจะเป็นสุข

                      คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง สมมติเธอและสามี มีศีล ๕ อยู่ในใจ คือ

                      - เว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑  ในที่นี้รวมถึงไม่ทำให้บุคคล สัตว์ ได้รับความเดือนร้อนคือไม่เบียนเบียนนั้นเอง จิตเธอจะมีความรู้สึกเป็นผู้ให้ หรือให้ทานนั่นเอง เป็นผู้ให้จะมีแต่ปีติ สุข แต่ถ้าเป็นผู้รับนั้น จะเป็นคนเห็นแก่ตัว เบียดเบียนผู้อื่นแม่กระทั้งทำลายชีวิตผู้อื่น

                      - เว้นจากการลักฉ้อสิ่งที่เจ้าของเขาไม่ให้ ๑ ในที่นี้รวมหมายถึงกระประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่เอาเปรียบ หรือค้ากำไรเกินควร เพราะจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และไม่เอาเปรียบสังคม

                      - เว้นจากการประพฤติกรรมที่เป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ ๑ ทุกครอบครัวที่ผัว-เมัยทะเลาะ ครอบครัวแตกแยกมาจาก ผัวนอกใจภรรยา  ภรรยานอกใจสามี  ถ้าครอบครัวไหนมีศีลข้อนี้ ครอบครัวจะเป็นสุข คือรักเดียวใจเดียว

                      - เว้นจากการเจรจาคำเท็จล่อลวงผู้อื่น ๑ ในที่นี้รวมถึงคำพูดขอเราที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วย  ทุกวันนี้ที่สังคมวุ่นวาย ประเทสชาติเสียหาย ก็เพราะทุกคนไม่มีศีลข้อนี้ละ โกหก หรือผิดคำพูดแม้กระทั้งตัวเอง

                      - เว้นจากการดื่มสุราเมรัยอันเป็นเหตุที่ตั้งแห่งความประมาท ๑ ในที่นี้รวมถึงยาเสพติดต่างๆ ด้วย สุรา ยาเสพติด เป็นต้นเหตุแห่งความประมาท ครับ

                      ตัวอย่างคนไร้ศีล ๕ เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา ซอยข้างสถานทูตเขมร-ลาว เป็นสามแยกมีป้อมตำรวจตั้งอยู่ด้วย วันรุ่นมากับสาว ขับรถออกจากซอยป้ายแดง ขับตัดหน้ารถทางตรง เลยโดนรถทางตรงชนอย่างจัง ผลคือ วัยรุ่นลงจากรถพร้อมด้วยมีด มาแทงคนขับรถที่ชนสามแผล คือที่อก หลัง และลำคอ ตายคาที่ และขับรถหนีไปทิ้งสาวให้อยู่ที่เกิดเหตุ เกิดรวดเร็วมาก จนตำรวจที่อยู่ในป้อมทำอะไรไม่ทัน นี่ละมนุษย์เลวกว่าสัตว์เดรฉานเสียอีกครับ เพราะขาดศีล ๕ ทุกท่านคงอ่านจากหนังสือพิมพ์ไปแล้วเหตุเกิดก่อนหน้าที่สิงห์ขับรถไปถึงสิบนาที แม่ค้าขายไอศครีมเล่าให้ฟังเพราะเขาอยู่ตรงที่เกิดเหตุพอดี

                       ศีล ๕ นั้นถ้าทุกครอบครัวมีอยู่ประจำผลคือ ครอบครัวมีความสุข สังคมสงบ ประเทศชาติสงบครับ

                       สวัสดี(32860)

                     สัตว์เดรฉานเวลามันต่อสู้กันนั้น ตัวที่แข็งแรงกว่าเป็นผู้ชนะ เมื่อมันชนะแล้วมันก็ไม่ได้ฆ่าทิ้ง ส่วนผู้แพ้เมื่อรู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้ก็จะวิ่งหนีรอดชีวิตเพราะผู้ชนะจะไม่ไล่ตาม  ยกเว้นสัตว์เดรฉานที่กินเนื้อเท่านั้นที่จะต้องฆ่าเพื่อดำรงค์ชีวิตอยู่คือหาอาหาร

                      แต่มนุษย์เป็นสัตว์ผู้ประเสริฐเวลาโมโห  ขาดสติ  ไม่ชอบคนนั้นไมชอบคนนี้  สามารถฆ่าทิ้งได้ทันที  โดยไม่ยั้งคิด  ดังนั้น มนุษย์ที่ขาดสตินั้น  เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรฉาน  สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ทันที หรืออย่างน้อยก็ไม่เผาผีกัน ไม่พูดกันจนตายไปข้างหนึ่ง นี่ละมนุษย์ที่หลงตัวเองว่าเป็นสัตว์ผู้ประเสริฐ  สัตว์เดรฉานยังดีเสียกว่ามนุษย์ที่ขาดสติ

                      ช่วยกันสนับสนุนให้มนุษย์มี ศีล ๕ ด้วยครับ ช่วยกันสนับสนุนหน่อย ความสุขจะบังเกิดขึ้นกับคนไทยอย่างแท้จริงและยั่งยืน มีแต่สังคมที่สงบ สุข ครับ

                      สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #2586 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 15:13:40 »

ขออนุญาตพี่สิงห์  ฝากบทสวดมนต์ มงคลสูตร  ครับ

พะหู  เทวา  มะนุสสา  จะ   หมู่เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก
มังคะลานิ  อะจินตะยุง  อากังขะมานา  โสตถานัง       ผู้หวังความสวัสดี ได้คิดหามงคลทั้งหลาย
พฺรูหิ  มังคะละมุตตะมัง      ขอพระองค์จงเทศนา มงคลอันสูงสุด

อะเสวะนา  จะ  พาลานัง,    การไม่คบคนพาล,  
ปัณฑิตานัญจะ  เสวะนา,    การคบบัณฑิต,  
ปูชา  จะ  ปูชะนียานัง,       การบูชาต่อบุคคลควรบูชา,  
เอตัมมังคะละมุตตะมัง,     กิจสามอย่างนี้เป็นมงคลอันสูงสุด.
ปะฏิรูปะเทสะวาโส   จะ,     การอยู่ในประเทศอันสมควร,  
ปุพเพ  จะ  กะตะปุญญะตา,    การเป็นผู้มีบุญได้ทำไว้ก่อน,  
อัตตะสัมมาปะณิธิ  จะ,     การตั้งตนไว้ชอบ,
เอตัมมังคะละมุตตะมัง,    กิจสามอย่างนี้เป็นมงคลอันสูงสุด.
พาหุสัจจัญจะ,           การเป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก,  
สิปปัญจะ,              การมีศิลปวิทยา,  
วินะโย  จะ  สุสิกขิโต,        วินัยที่ศึกษาดีแล้ว,
สุภาสิตา  จะ  ยา  วาจา,      วาจาที่เป็นสุภาษิต,
เอตัมมังคะละมุตตะมัง,     กิจสี่อย่างนี้เป็นมงคลอันสูงสุด.
มาตาปิตุอุปัฏฐานัง,       การบำรุงเลี้ยงมารดาบิดา,  
ปุตตะทารัสสะ  สังคะโห,     การสงเคราะห์บุตรและภรรยา,  
อะนากุลา  จะ  กัมมันตา,     การงานที่ไม่ยุ่งเหยิงสับสน,
เอตัมมังคะละมุตตะมัง,     กิจสี่อย่างนี้เป็นมงคลอันสูงสุด.
ทานัญจะ,              การบำเพ็ญทาน,  
ธัมมะจะริยา  จะ,           การประพฤติธรรม,  
ญาตะกานัญจะ  สังคะโห,     การสงเคราะห์หมู่ญาติ,  
อะนะวัชชานิ  กัมมานิ,       การงานอันปราศจากโทษ,  
เอตัมมังคะละมุตตะมัง,    กิจสี่อย่างนี้เป็นมงคลอันสูงสุด.
อาระตี  วิระตี  ปาปา,        การงดเว้นจากบาปกรรม,  
มัชชะปานา  จะ  สัญญะโม,    การเหนี่ยวรั้งใจไว้ได้จากการดื่มน้ำเมา,    
อัปปะมาโท  จะ  ธัมเมสุ,    การไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย,  
เอตัมมังคะละมุตตะมัง,     กิจสามอย่างนี้เป็นมงคลอันสูงสุด.
คาระโว  จะ,             ความเคารพ,    
นิวาโต  จะ,             ความถ่อมตัว,    
สันตุฏฐี  จะ,              ความสันโดษ,    
กะตัญญุตา,             ความกตัญญู,  
กาเลนะ  ธัมมัสสะวะนัง,     การฟังธรรมตามกาล,  
เอตัมมังคะละมุตตะมัง,     กิจห้าอย่างนี้เป็นมงคลอันสูงสุด.
ขันตี  จะ,                ความอดทน,  
โสวะจัสสะตา,           ความเป็นคนว่าง่าย,  
สะมะณานัญจะทัสสะนัง,     การพบเห็นผู้สงบจากกิเลส,  
กาเลนะ  ธัมมะสากัจฉา,    การสนทนาธรรมตามกาล,    
เอตัมมังคะละมุตตะมัง,    กิจสี่อย่างนี้เป็นมงคลอันสูงสุด.
ตะโป จะ,             ความเพียรเผากิเลส,
พฺรัหฺมะจะริยัญ  จะ,       การประพฤติพรหมจรรย์,
อะริยะสัจจานะ  ทัสสะนัง,    การเห็นของจริงของพระอริยเจ้า,  
นิพพานะสัจฉิกิริยา  จะ,      การทำพระนิพพานให้แจ้ง,  
เอตัมมังคะละมุตตะมัง,     กิจสี่อย่างนี้เป็นมงคลอันสูงสุด.
ผุฏฐัสสะ  โลกะธัมเมหิ  จิตตัง  ยัสสะ  นะ  กัมปะติ,      จิตของผู้ใดอันโลกธรรมทั้งหลายถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว,
อะโสกัง,                เป็นจิตไม่เศร้าโศก,  
วิระชัง,                เป็นจิตไร้ธุลีกิเลส,  
เขมัง,               เป็นจิตเกษมสานติ์,
เอตัมมังคะละมุตตะมัง,       กิจสี่อย่างนี้เป็นมงคลอันสูงสุด.
เอตาทิสานิ  กัตฺวานะ  สัพพัตถะมะปะราชิตา,    สัพพัตถะโสตถิง  คัจฉันติ  ตันเตสัง  มังคะละมุตตะมันติ.  
   เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย  ได้กระทำมงคลเช่นมงคลเหล่านี้   ให้มีในตนได้แล้ว  จึงเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง ย่อมถึงซึ่ง   ความสวัสดีในทุกสถาน ข้อนั้นเป็นมงคลอันสูงสุด  ของเทวดา   และมนุษย์ทั้งหลาย   เหล่านั้นโดยแท้.  
อิติ.                ด้วยประการฉะนี้แล ฯ.  

      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #2587 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 20:16:48 »

ขอบคุณค่ะ
ปรกติพี่ไม่ได้สวดบทนี้ค่ะ
แต่หากสวดเป็นภาษาไทย ตามที่เขียนมาก็ไม่ยากนะคะ
ปกติจะสวดชินบัญชรประจำ สวดได้คล่องค่ะ แม้เป็นบาลี
เพราะตอนสวดแล้วนึกตามก็จะไม่หลงหรือวน เพราะเห็นภาพว่าเชิญใครมาที่ไหนบ้างแล้ว
มงคลสุตรที่มีภาษาไทยกำกับเช่นนี้ ก็จะสะดวกแก่การสวดเช่นกัน
เพราะจะนึกตามได้ว่า ต้องเป็นอย่างไรบ้าง
หากจำเป็นบาลีอย่างเดียว แล้วไม่รู้ความหมายหรือไม่มีภาษาไทยกำกับ จะจำได้ยากกว่าค่ะ
ขอบคุณ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2588 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 20:52:12 »

สวัสดีครับ ท่านขุน๒๘
                       ตอนนี้พี่สิงห์พยายามรวบรวมบทสวดมนต์เป็นของตัวเอง พิมพ์ใหม่ครับ พยายามสวดให้ได้เผื่อเอาไว้เมื่อตัดสินใจบวชแล้ว จะได้สวดได้เลย จะบวชเมื่อหมดห่วงทุกอย่างแล้ว หมดภาระแล้ว เหลือแต่ตัวคนเดียวก็ไม่รู้จะอยู่เพศฆาราวาสทำไมครับ บวชยังทำคุณให้พระศาสนาได้มาก
 อยากได้บทสวดมนต์ ๗ และ ๑๒ ตำนานครับ
                       สวัสดี                   
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2589 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 20:56:53 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                       เธอหายไปไหน? อ่านหมดหรือยัง และยังข้องใจอะไรอีกเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา สำหรับฆาราวาส  พี่สิงห์ยินดีตอบ เท่าที่จะพอมีความรู้อยู่บ้าง  ขอให้เธอใช้ปัญญา และเหตุปัจจัยเป็นหลักนั่นละศาสนาพุทธที่แท้จริง ครับ

                       พรุ่งนี้เช้าพี่สิงห์เดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช ครับ Boarding 08:00 น.

                       ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #2590 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 20:59:44 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2554, 20:52:12
สวัสดีครับ ท่านขุน๒๘
                       ตอนนี้พี่สิงห์พยายามรวบรวมบทสวดมนต์เป็นของตัวเอง พิมพ์ใหม่ครับ พยายามสวดให้ได้เผื่อเอาไว้เมื่อตัดสินใจบวชแล้ว จะได้สวดได้เลย จะบวชเมื่อหมดห่วงทุกอย่างแล้ว หมดภาระแล้ว เหลือแต่ตัวคนเดียวก็ไม่รู้จะอยู่เพศฆาราวาสทำไมครับ บวชยังทำคุณให้พระศาสนาได้มาก
 อยากได้บทสวดมนต์ ๗ และ ๑๒ ตำนานครับ
                       สวัสดี                   

ผมมีต้นฉบับ  หนังสือสวดมนต์เล่มที่ให้พี่สิงห์ครับ ถ้าสนใจ ผมสามารถส่งให้พี่ได้ทางเมล์ครับ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2591 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 23:24:15 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 19 กรกฎาคม 2554, 20:00:36
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                       เราสามารถน้อมนำธรรมของพระพุทธเจ้ามาใช้ในการดำรงค์ชีวิตของเราได้เป็นอย่างดีเลย ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น เอาง่ายๆ

                       - สติ ขอให้เธอระลึกได้ว่าเธอกำลังทำอะไรแค่นั้น เธอจะทำงานด้วยความสำเร็จ เช่นให้มีสติก่อนที่จะคิด ก่อนที่จะทำ ก่อนที่จะพูด เพราะถ้าเธอมีสติเสียอย่างหนึ่ง เธอจะกระทำภายใต้ความคิด  ด้วยปัญญา

                       - ถ้าเธอมีจิตอยู่กับปัจจุบัน หมายความว่า ไม่คิดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว คือไม่เสียดาย รำพันในอดีต  ไม่กังวลไปในอานาคต  แต่ถ้าจะเป็นการวางแผนในอนาคต นั้นต้องคิด เธอก็จะไม่ทุกข์

                       - ถ้าเธอมีไตรสิกขา คือ ไม่ทำชั่วทั้งปวง  ทำความดีให้ถึงพร้อม  มีจิตที่ผ่องใส  เธอก็จะอยู่กับครอบครัว ทำงาน อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข  ประเทศชาติมีแต่คว่มสงบ

                       ราตรีสวัสดิ์ ค่ะ

พี่สิงห์ขา,
บางทีหลายเรื่อง หลายการกระทำ
ล้วนปรุงแต่งจากอะไรหลายอย่าง
ที่เป็นส่วนประกอบ..มาจากพื้นภูมิ
มาจากการอบรมบ่มนิสัย พื้นฐาน
การศึกษา การเรียนรู้ตามวันเวลา
การได้แตะต้อง สัมผัส การได้เห็น
ได้ยิน ได้ฟัง เพิ่มเติมในแบบที่แตกต่าง
ล้วนหลอมรวมให้คนแต่ละคนน่าสนใจ
ในแบบฉบับของตัวบุคคลที่ไม่มีทางที่
จะเหมือนกันได้เลย เพราะสภาพแวดล้อม
ที่เค้าเข้าไปข้องแวะ มีอิทธิพล ล้วนปรุงให้
เค้าต้องเป็น/อยู่/คือ ตามๆกัน แปลกแยกได้ยาก
กระนั้นในความเหมือนๆก็ยังมีความแตกต่าง.


อย่างง่ายๆเรื่องไม่ทำชั่วทั้งปวงนี่...หนิงก็บาปตั้งกะ
ลืมตาแล้วหากออกไปทำสวน ตรวจต้นไม้!ก็เอ๋าพี่สิงห์
ตัวทากมากัดกินผักหญ้าที่ปลูกไว้กิน จาให้หนิงไม่ฆ่าทาก?
allright...งั้นหยิบโยนไปเพื่อนบ้าน?แค่คิดเบียดเบียนเพื่อนบ้าน
หนิงก็ผิดแล้ว! งั้นเอางี้เรากำจัดทากอย่างละมุนละม่อม?
โรยยาฆ่าทากชีวภาพสีฟ้าแป๊น...เขามาเบียดเบียนผักสลัด
หญ้ากินได้เราเขาก็รับกรรม??
จิตตรงนี้เราจะ"ผลัก/ดัน"ความรู้สึกผิดว่าบาปออกไปด้วย
เหตุผลของปัญญาที่ว่าทำแค่นี้ไม่บาป ทำแค่ไหนบาป?
การต้องฝึกให้คิดหาเหตุ หาผลก็ไม่เกินการเข้าข้างตัวเอง
ไปได้...ในโลกที่คน-สัตว์-พืช ต้องอยู่ร่วมกัน ไม่มากก็น้อย
ที่จะต้องคัดง้างกันในผลประโยชน์ของการอยู่ให้ได้ให้รอด

จริงๆนะคะ หนิงเชื่อว่าคนที่มีความสุขในชีวิตไม่ได้หมาย
ความว่าเค้าไร้บาป!ไม่เคยทำบาปหรือปลอดบาปไปได้กี่
มากน้อย เพราะสุดท้ายก็คงไม่พ้นปฏิกิริยาลูกโซ่ผลัก
ภาระหน้าที่ ผลักการทำบาปไปให้ผู้อื่นหรือไม่ก็อยู่ในภาวะ
ของการทำไม่รู้ไม่เห็น....เป็นแรงตีกลับกันและกันที่น่ากลัว
คะพี่...น่ากลัวเพราะคนเราจะเริ่มกระบวนการคิดของแต่ละคน
ที่จะไม่รับ ไม่รู้ ไม่มีส่วน ในการรับผิดชอบร่วมกันในอะไร
ก็ตาม...
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2592 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 00:03:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 19 กรกฎาคม 2554, 20:00:36
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก
                       
                       ยกเว้นอย่างเดียว ถ้าเธอต้องการพ้นทุกข์อย่างถาวร  เธอต้องมีเวลาทั้งวัน และไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว เธอต้องการเวลา ดังนั้นจึงต้องออกบวช เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องที่อยู่ อาหาร และอื่นๆ พูดง่ายๆ พึ่งชาวบ้าน

                       การสวดมนต์ตอนเช้า ตอนเย็น มันไม่เสียเวลาเท่าไร แต่เธอจะมีจิตผ่องใสขึ้น  จึงน่าที่จะทำครับ

                       พระสูตรของพระพุทธเจ้านั้น ท่านต้องการให้ชาวบ้านอยู่เป็นสุข  ยังต้องทำงาน  เลี้ยงครอบครัว  มีความรับผิดชอบทางสังคม  ยังต้องปกครองบ้านเมือง  แต่ถ้าทุกคนออกบวชอย่างท่านหมด ใครจะใส่บาตรพระ  พระก็อดเท่านั้น ดังนั้นพระธรรมของพระองค์นั้นส่วนใหญ่ช่วยชาวบ้านครับ ยกเว้นผู้ต้องการพ้นทุกข์ จึงต้องออกบวช

                       ถ้าสงสัยถามได้ครับ เดี๋ยวนี้เวลาพี่สิงห์ไปสอนให้คนทำงาน จะยึดหลักธรรมะเป็นเกณฑ์ เพราะจะช่วยให้ทำงานประสพความสำเร็จได้  นี่คือความจริงครับ

                        ราตรีสวัสดิ์ ค่ะ

พี่สิงห์คะ,
ย่อหน้าสุดท้ายที่คัดพี่มานี้...หนิงอ่านแล้วสุขใจ
เหมือนได้ไปสวรรค์ชั่วขณะ....ว๊าย,ดูพูดเข้า!
คือรู้สึกว่าพี่พูดความจริง!หนิงคิดมาตั้งแต่อยู่
เมืองไทยแล้วเมื่อตามครอบครัวไปวัด...ทำไม
เค้าถึงถือกันมากๆว่าห้ามผู้หญิงยังงี้ ยังงั้น
เสนียดงี้ อัปมงคลงี้ มองไปรอบๆไม่ไช่อุบาสิกา
ญาติโยมพูญิ๋งหรือไงในสัดส่วนหลายเท่า
ที่มากันมืดฟ้า?ปรุงแต่งสุดรสมือมาบำรุง
ให้ทุกองค์ ทุกคนในวัดได้มีกำลังหาทางหลุดพ้น
จากความทุกข์ทั้งมวล?เราถูกสอนให้เชื่อ
ก่อนแล้วค่อยคิดตาม...ต้องทุกข์ถึงจะไปวัด
เพื่อสุขกลับออกมา?สุขแล้วจำเป็นต้องไปวัดมั้ย?
หรือทุกสิ่งในโลกนี้เกื้อกูลช่วยเหลือกันและกัน?
ศาสนะ/วัดเป็นสถานที่ที่จิตวิญญาณมนุษย์
ได้ชำระจากภาวะอีกสภาวะนึง?ได้ไคร่ครวญว่า
ทุกอย่างที่เป็น/อยู่/คือ จะดีขึ้น หรือเปลี่ยนแปลงได้?
หรือทำให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก?เพื่อจะกลับไปปฏิบัติหน้าที่
ของตนเองได้ถูกต้องสมบูรณ์?

หากพ้นทุกข์ พ้นได้แค่ไหน นานมั้ย หรือทุกข์-สุข
เป็น2ขั้วที่สลับกระแสไปมา ทำยังไงให้ขั้วสุขที่ผ่านมา
นั้นเดินไปขั้วทุกข์ให้ช้าที่สุด...ทำยังไงให้ทุกข์ที่ว่านั้น
ได้รับการขจัดปัดเป่าให้มากที่สุดด้วยกำลังทั้งมวล.....
ก่อนไปเพิ่มทุกข์แก่ผู้อื่น?หลุดได้เหรอคะ?หนิงไม่ค่อย
แน่ใจ ...ก็ nobody is perfect นี่พี่.

แต่บทสวดใหม่ที่น้องขุนเค้านำมาเพิ่ม
หนิงจะลองสลักเข้าสมองค่ะพี่สิงห์
ดูว่าง่ายไม่ซับซ้อน....ถ้าซับซ้อน....
เดี๋ยวขมุบขมิบไม่มีเสียงเป็นลิปซิ๊งก์
ไม่รู้ด้วย!


      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2593 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 00:18:29 »

 
อ้างถึง   
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร และชาวซีมะโด่งที่รัก ทุกท่าน

                       วันนี้พี่สิงห์ไปทำฟัน รักษารากฟัน เป็นอันว่าจบการรักษาแล้ว คุณหมอผ่องผุด ได้อุดฟันซี่นั้นถาวรแล้ว วันนี้ไม่ปวดเลย อุตส่าห์เตรียมใจไปแล้วว่าคงปวดหนักแน่เตรียมปฏิบัติทางจิตเต็มที่ คุณหมอเลยส่งต่อไปยังแผนกทันตกรรมพิเศษเพื่อทำครอบฟันต่อ ได้ทำแบบพิมพ์ไว้แล้ว เหลือต้องไปเจาะยึดสี่จุดในเดือนหน้า วันพุธที่ 24 สิงหาคม ค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000 บาท

                       ตกลงหมดค่ารักษารากฟันไป 8,000 บาท ครับ

                       ตอนนี้คุณหมอบอกว่าให้ทนเคี้ยวข้างขวาไปก่อน จนกว่าจะทำครอบฟันเสร็จ เพราะกลัวว่าฟันจะแตก  ถ้าแตกสิ่งที่ทำมาทั้งเจ็บ ทั้งเสียเงิน จะเป็นศูนย์ เลยช่วงนี้กินอะไรไม่อร่อย กินไปมื้อหนึ่งๆ เท่านั้นไม่คิดอะไรทั้งสิ้น สงสารฟันทางด้านขวาต้องทำงานหนักทุกวัน

                                            ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

ได้ทราบเท่านี้...
ก็ดีใจสุดๆแล้วคะพี่สิงห์
การต้องเจ็บปวดเป็นสิ่งที่
ทำร้ายห้วงคิดของคนเราคะ
ปวดจนอยาก....kill someone!
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2594 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 00:35:30 »

 
อ้างถึง   
สวัสดีคุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                       อย่างตอนนี้ฝรั่งเหอมากเรื่องทิศหก คือหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งสองฝ่ายระหว่าง พ่อ-แม่กับลูก ครูกับศิษย์ ผัวกับเมีย-ลูก มิตรกับมิตร  บุคคลกับสมณะ และนายจ้างกับลูกจ้าง

                       หรือผู้นำที่ดีต้องมีพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา  อุเบกขา  จึงจะปกครองคนได้ดี

                       หรือ ถ้าจะทำงานให้ประสพความสำเร็จต้องมี อิทธิบาท ๔ คือ ฉันทะ  วิริยะ  จิตตะ  วิมังสา

                       หรือถ้าอยากให้สังคมเป็นสุข ต้องมีศีล ๕
 
                       หรือบุญกิริยาวัตถุ ๓ คือ ทาน  ศีล  ภาวนา

                       หรือสังคหะวัตถุ ๔ คือ ทาน  ปิยวาจา ให้ความอนุเคราะห์ และกระทำทั้งสามอย่างที่กล่าวด้วยความสม่ำเสมอ

                       หรือตัวอย่างพระเจ้าปะทิโกศล นำอำมาตย์ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ที่วัดเชตวัน กราบทูลว่า พระองค์และเหล่าอำมาตย์ไม่มีเวลาที่จะปฏิบัติธรรมยังต้องปกครองบ้านเมือง และมีหน้าที่การงาน ครอบครัวที่จะต้องดูแล จะทำอย่างไรดีพระเจ้าข้า พระพุทธองค์เลยประทานทรงสอนให้ปฏิบัติตัวตามมงคล ๓๘ ประการ ถ้าปฏิบัติแล้วครอบครัว บ้านเมือง ประชาชน จะอยู่เป็นสุข เช่น ไม่คบคนพาล  คบแต่บัณฑฺตย์ เป็นต้น
 
                       ถ้าไม่อยากมีทุกข์ต้องมีสติ อยู่กับปัจจุบัน หรือคิดในทางที่ดี ทางฝรั่งเอาไปประยุกต์ว่า Positive thinking  เป็นต้น

                       พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เชื่อสิ่งใดอย่างงมงายตามหลัก กาลามสูตร ๑๐ ประการ

                       ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยทั้งสิ้น มันเกิดขึ้นเองไม่ได้

                       เพราะอวิชชา คือความไม่รู้  คนจึงคิดไปต่างๆ นาๆ ดีบ้าง ร้ายบ้าง  ส่วนใหญ่คิดเข้าข้างตนเองเป็นหลัก
 
                       ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าจะแก้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น ต้องหาสาเหตุให้พบแล้วแก้ที่สาเหตุ คือกระทำตรงข้ามกับสาเหตุที่เกิด

                       จะทำอะไรนั้น พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ต้องมีศรัทธาความเชื่อมั่น  ต้องทำด้วยความเพียร  และต้องใช้ปัญญา

                       และ.......อีกมาก ศาสนาพุทธ คำสอนของพระองค์นั้น เป็นความจริงทางธรรมชาติ ว่าด้วยเหตุ และผล สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ครับ  มันขึ้นอยู่กับเราให้รู้จักนำคำสอนนั้นมาใช้ประกอบอาชีพการงาน  ดูแลครอบครัว  คบมิตร  สังคมเป็นสุข ครับ ฯลฯ

                       สวัสดีค่ะ


ถ้าพี่สิงห์เป็นพระ (if,นะคะ)
แล้วเทศน์ได้ติดดินอย่างนี้
ไม่พ้นสีกาหนุงหนิงได้อบเค้ก
ไปถวาย...เพื่อหาเหตุฟังเทศน์
แหงๆ.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2595 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 00:44:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 19 กรกฎาคม 2554, 20:44:55
สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
ดีจังเลยนะคะที่ทำฟันแล้วไม่เจ็บ
ขอบคุณที่เตือนให้สวดมนต์
สวดทุกวันก่อนนอนค่ะ
ชอบที่พี่สิงห์ตอบน้องหนุงหนิงมากนะคะ

ป้องปาก: พี่่เอมอร,หนิงไม่ได้สวดมนต์ก่อนนอน
นานมากๆแล้วคะ...มหัศจรรย์ที่หนิงนอนง่าย หลับดี
ฝันสนุก ขนาดฝันยังเข้าข้างตัวเอง!!
ว่าบินได้มั่ง ข้ามน้ำข้ามทะเลไม่จมมั่ง

แต่แปลกคะพี่มานึกย้อน...หนิงสวดมนต์
ก่อนนอนเพื่อให้หลับ รวมทั้งกรวดน้ำ
ช่วงเดียวสั้นๆคะ...คือช่วงที่หนิงเลิกกะ
แฟนคนไทย!!
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2596 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 01:15:30 »

 
อ้างถึง   
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง และชาวซีมะโด่งที่รักทุกท่าน
ตัวอย่าง
ถ้าทุกคนในครอบครัวมีศีล ๕ ครอบครัวจะเป็นสุข
                      คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง สมมติเธอและสามี มีศีล ๕ อยู่ในใจ คือ

                      - เว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑
                     - เว้นจากการลักฉ้อสิ่งที่เจ้าของเขาไม่ให้ ๑
                     - เว้นจากการประพฤติกรรมที่เป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ ๑
                      - เว้นจากการเจรจาคำเท็จล่อลวงผู้อื่น ๑                      
                     - เว้นจากการดื่มสุราเมรัยอันเป็นเหตุที่ตั้งแห่งความประมาท ๑                      

 ศีล ๕ นั้นถ้าทุกครอบครัวมีอยู่ประจำผลคือ ครอบครัวมีความสุข สังคมสงบ ประเทศชาติสงบครับ

                       สวัสดี(32860)

พี่สิงห์ขา,
หลายข้อ...ยังไม่absolute!

ตัวอย่าง:
- ข้อ 1 ไม่ฆ่าเรื่องนึง ไม่เบียดเบียน..อีกเรื่อง
ล้วน minimalคะ (เริ่มคิดเข้าข้างแผ่วๆว่า..ถัวๆไปถือว่าไม่บาป!)

-ข้อ 2 นี้ เกือบแล้ว เกือบบริสุทธิ์แล้ว..ถ้าไม่ไปคิดว่า
ชีวิตหนิง 18 ปีนี้เป็นหนี้บุคคลบุคคลเดียว ที่เอื้ออำนวย
อุปถัมภ์ทำนุบำรุงให้ไม่ต้องข้องแวะกับการผิดข้อนี้!

-ข้อ 3 ข้อนี้แหละคะ...main causeของชีวิตที่ผ่านมาหนิงล่ะ!
ในเมื่อพลังงานทั้งปวงเกือบครึ่งไม่ต้องไปconcentrateข้อ2
แต่มาลงที่ข้อ 3 คะ....ใครคิดว่าการครองคู่-->ง่าย...

การใช้ชีวิตกะฝรั่ง-->ง่าย การกำกับดูแล ช่วยเหลือให้สถาบันนี้
สร้างคนมีคุณภาพออกไปข้างนอก--> ง่าย....เค้าก็คงอยู่ใน
วิถีของการ50:50? 30:30:30:10?สวมหมวกบทบาทหลายใบ!
emancipationเป็นสิ่งดีคะ แต่เอาตัวให้รอด..ยากมากๆ.

-ข้อ 4 โกหก กะmanipulate มีระดับต่างกันกี่ขั้นคะ?
โกหกหนูไม่เค้ยไม่เคย ....แต่manipulateน่ะ ศิลปะ
ส่วนตั๊วส่วนตัว ลอกเลียนแบบบ่ดั้ย!

-ข้อ 5 สุรา กะ ไวน์ ....เบียร์ กะ ซ้อฟดริ๊งก์ ต่างกัน
ที่ % alcohol...% สูง-->บาปมาก?  %ต่ำ-->บาปน้อย?
ตราบเท่าที่หนิง 60:40 หรือ 70:30 ระหว่าง4% x 30/100
หรือ 3.5 % x 40/100....บาปนิดเดียวได้มั้ยคะ?
เอื๊อก!





น้องหนุงหนิง สนธยาทำ!
(สนทนาธรรม)
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2597 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 04:49:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2554, 08:29:16
รู้ธรรมวันละนิด  จิตผ่องใส
ตอน
 


                       มงคล คือเหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติ นำมาจากบทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญหรือมี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ๓๘ ประการได้แก่

                                                ๑. การไม่คบคนพาล
                                                ๒. การคบบัญฑิต
                                                ๓. การบูชาบุคคลที่ควรบูชา
                                                ๔. การอยู่ในถิ่นอันสมควร
                                                ๕. เคยทำบุญมาก่อน
                                                ๖. การตั้งตนชอบ
                                                ๗. ความเป็นพหูสูต
                                                ๘. การรอบรู้ในศิลปะ
                                                ๙. มีวินัยที่ดี
                                               ๑๐. กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต
                                               ๑๑. การบำรุงบิดามารดา
                                               ๑๒. การสงเคราะห์บุตร
                                               ๑๓. การสงเคราะห์ภรรยา
                                               ๑๔. ทำงานไม่ให้คั่งค้าง
                                               ๑๕. การให้ทาน
                                               ๑๖. การประพฤติธรรม
                                               ๑๗. การสงเคราะห์ญาติ
                                               ๑๘. ทำงานที่ไม่มีโทษ
                                               ๑๙. ละเว้นจากบาป
                                               ๒๐. สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
                                               ๒๑. ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย
                                               ๒๒. มีความเคารพ
                                               ๒๓. มีความถ่อมตน
                                               ๒๔. มีความสันโดษ
                                               ๒๕. มีความกตัญญู
                                               ๒๖. การฟังธรรมตามกาล
                                               ๒๗. มีความอดทน
                                               ๒๘. เป็นผู้ว่าง่าย
                                               ๒๙. การได้เห็นสมณะ
                                               ๓๐. การสนทนาธรรมตามกาล
                                               ๓๑. การบำเพ็ญตบะ
                                               ๓๒. การประพฤติพรหมจรรย์
                                               ๓๓. การเห็นอริยสัจ
                                               ๓๔. การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
                                               ๓๕. มีจิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
                                               ๓๖. มีจิตไม่เศร้าโศก
                                               ๓๗. มีจิตปราศจากกิเลส
                                               ๓๘. มีจิตเกษม



โอ้โหพี่สิงห์ขา
มงคล 38ข้อนี่
มัดมือมัดเท้ากันชัดๆ
ยังงี้สุขนิยมอย่างหนู
ไม่เหี่ยวแห้งแย่!


แล้วอีกกี่ปีจะบรรลุทุกประการล่ะคะนี่?
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2598 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 05:06:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2554, 11:15:52
                       ตัวอย่างคนไร้ศีล ๕ เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา ซอยข้างสถานทูตเขมร-ลาว เป็นสามแยกมีป้อมตำรวจตั้งอยู่ด้วย วันรุ่นมากับสาว ขับรถออกจากซอยป้ายแดง ขับตัดหน้ารถทางตรง เลยโดนรถทางตรงชนอย่างจัง ผลคือ วัยรุ่นลงจากรถพร้อมด้วยมีด มาแทงคนขับรถที่ชนสามแผล คือที่อก หลัง และลำคอ ตายคาที่ และขับรถหนีไปทิ้งสาวให้อยู่ที่เกิดเหตุ เกิดรวดเร็วมาก จนตำรวจที่อยู่ในป้อมทำอะไรไม่ทัน นี่ละมนุษย์เลวกว่าสัตว์เดรฉานเสียอีกครับ เพราะขาดศีล ๕ ทุกท่านคงอ่านจากหนังสือพิมพ์ไปแล้วเหตุเกิดก่อนหน้าที่สิงห์ขับรถไปถึงสิบนาที แม่ค้าขายไอศครีมเล่าให้ฟังเพราะเขาอยู่ตรงที่เกิดเหตุพอดี

...
...
                     สัตว์เดรฉานเวลามันต่อสู้กันนั้น ตัวที่แข็งแรงกว่าเป็นผู้ชนะ เมื่อมันชนะแล้วมันก็ไม่ได้ฆ่าทิ้ง ส่วนผู้แพ้เมื่อรู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้ก็จะวิ่งหนีรอดชีวิตเพราะผู้ชนะจะไม่ไล่ตาม  ยกเว้นสัตว์เดรฉานที่กินเนื้อเท่านั้นที่จะต้องฆ่าเพื่อดำรงค์ชีวิตอยู่คือหาอาหาร

                      แต่มนุษย์เป็นสัตว์ผู้ประเสริฐเวลาโมโห  ขาดสติ  ไม่ชอบคนนั้นไมชอบคนนี้  สามารถฆ่าทิ้งได้ทันที  โดยไม่ยั้งคิด  ดังนั้น มนุษย์ที่ขาดสตินั้น  เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรฉาน  สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ทันที หรืออย่างน้อยก็ไม่เผาผีกัน ไม่พูดกันจนตายไปข้างหนึ่ง นี่ละมนุษย์ที่หลงตัวเองว่าเป็นสัตว์ผู้ประเสริฐ  สัตว์เดรฉานยังดีเสียกว่ามนุษย์ที่ขาดสติ

                      ช่วยกันสนับสนุนให้มนุษย์มี ศีล ๕ ด้วยครับ ช่วยกันสนับสนุนหน่อย ความสุขจะบังเกิดขึ้นกับคนไทยอย่างแท้จริงและยั่งยืน มีแต่สังคมที่สงบ สุข ครับ

                      สวัสดี


พี่สิงห์,

บ้านเรา เมืองเรา มีแต่ข่าวฆ่ากัน
ข่าวนี้ยิ่งมาก นสพ.ยิ่งขายได้
การกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น
ล่วงละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นจนไร้ขอบเขต
ภาพผู้เสียชีวิตนี่ ใครมีสิทธิ์ไปถ่ายเค้ามาลง
มาแพร่?ขอญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตรึยัง?
ฟ้องร้องได้มั้ย?คนอ่านไม่รู้ว่าจะชอบดู
ชอบอ่านรายละเอียดไปทำไม?รู้เพื่อ information?
รู้เพื่อสะใจ?รู้เพื่อให้สมองว่างๆโล่งๆนั้นมีอะไรว่าได้รู้?
..
..
พูดแล้วไม่อยากว่าเค้าคะ
เมืองพุทธแท้ๆ..

      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2599 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 07:22:04 »

อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 20 กรกฎาคม 2554, 20:59:44
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2554, 20:52:12
สวัสดีครับ ท่านขุน๒๘
                       ตอนนี้พี่สิงห์พยายามรวบรวมบทสวดมนต์เป็นของตัวเอง พิมพ์ใหม่ครับ พยายามสวดให้ได้เผื่อเอาไว้เมื่อตัดสินใจบวชแล้ว จะได้สวดได้เลย จะบวชเมื่อหมดห่วงทุกอย่างแล้ว หมดภาระแล้ว เหลือแต่ตัวคนเดียวก็ไม่รู้จะอยู่เพศฆาราวาสทำไมครับ บวชยังทำคุณให้พระศาสนาได้มาก
 อยากได้บทสวดมนต์ ๗ และ ๑๒ ตำนานครับ
                       สวัสดี                   

ผมมีต้นฉบับ  หนังสือสวดมนต์เล่มที่ให้พี่สิงห์ครับ ถ้าสนใจ ผมสามารถส่งให้พี่ได้ทางเมล์ครับ

สวัสดีครับ ท่านขุน ๒๘
              จักขอบพระคุณมากครับ เพราะพี่สิงห์จะได้ไม่ต้องพิมพ์ใหม่ เพราะพี่สิงห์ตั้งใจจะทำหนังสือสวดมนต์แจก อุบาสก-อุบาสิกา ที่มาอยู่วัดถือศีล ๘ ที่วัดพระนอนบ้านพี่สิงห์ แต่ไม่ได้พิมพ์ตามโรงพิมพ์ จะใช้วิธีพิมพ์ชุดเดียวที่เหลือซีร๊อกสักห้าสิบเล่ม ครับเพราะหนังสือที่มีอยู่ไม่ครบ หน้าไม่ตรง ลำบากญาติโยม  ของท่านขุนนั้นดีมาก แต่กว่าพี่สิงห์จะพิมพ์ได้ครบคงเลยพรรษาไปแล้ว  แต่ถ้าได้จากท่านขุน มาจักขอบพระคุณมากๆ ครับ
               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 102 103 [104] 105 106 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><